WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

ระวัง!!!โรคที่มาหน้าร้อน

สงกรานต์ใกล้จะมาถึง หลายคนตั้งตารอนับถอยหลังเพื่อไปสนุกในวันสงกรานต์ แต่ถ้าดูแลตัวเองไม่ดี ก็อาจป่วยได้ เพราะโรคนานาชนิด ที่จ่อคิวต้อนรับคนที่ไม่ใส่ใจสุขภาพเท่าไรนัก

สาเหตุส่วนใหญ่ของอาการป่วยมักมาจากน้ำดื่มและอาหารที่ไม่สะอาด และอาหารเสียง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร

มาดูกันว่า หน้าร้อนนี้ มีโรคอะไรที่ต้องระวังกันบ้าง

และโรคระบบทางเดินหายใจ


1.โรคอุจาระร่วง เกิดจาดเชื้อโรคต่าง ๆ ทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส โปรโตซัว และพยาธิ ติดต่อได้ทางอาหารหรือน้ำดื่มที่มีเชื้อเหล่านี้ปน ต้องระวังให้ดีหากร่างกายสูญเสียน้ำและเกลือแร่มาก จะทำให้ช็อค หมดสติ หากรักษาไม่ทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้




2.โรคอาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่พบได้บ่อยมาก และมักจะเกิดอย่างรวดเร็วหลังทานหรือดื่มเข้าไป มักพบในอาหารที่ปรุงสุก ๆ ดิบ ๆจากเนื้อสัตว์ที่ปนเปื้อนเชื้อ อาการส่วนมากจะคลื่นไส้อาเจียน บางรายมีอาการถ่ายเหลว ไม่มีไข้ หายเองได้ หากเป็นมากต้องได้รับเกลือแร่เสริม

3.โรคบิด เกิดจากเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อนในอาหารเช่นเดียวกัน ผู้ป่วยจะถ่ายเป็นมูกปนเลือดบ่อยครั้ง และรู้สึกเหมือนถ่ายไม่สุด



4.ไทฟอยด์ หรือที่รู้จักกันว่า ไข้รากสาดน้อย เชื้อปนเปื้อนมาเหมือนกับโรคอื่น ๆ อาหารส่วนใหญ่ที่มักพบว่าทำให้เกิดโรค ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม หอย ไข่ เนื้อสัตว์ น้ำ ผู้ป่วยโรคนี้ สัปดาห์แรกไข้มักไม่สูง อาจมีอาการปวดศีรษะ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามตัว อาจมีหนาวสั่นได้ คนไข้ซึมลง มีอาการเพ้อ

5.อหิวาตกโรค เป็นโรคติดต่อที่มีสาเหตุมาจากเชื้อแบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายโดยทางอาหารและน้ำที่มีเชื้อโรคปน เชื้อจะสร้างพิษออกมาทำปฏิกิริยากับเยื้อปุผนังลำไส้เล็กทำให้เกิดอาการท้องร่วงอย่างรุนแรง อุจจาระเป็นสีน้ำซาวข้าว ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจทำให้เสียชีวิตได้

6.โรคผิวหนัง ผด ผื่นคันต่าง ๆ กลาก เกลื้อน ก็มักจะเกิดในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วยเช่นกัน เราสามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาดอยู่เสมอ ด้วยการอาบน้ำ และในการเล่นน้ำสงกรานต์ก็ต้องระวังเช่นกัน เพราะอาจเจอน้ำที่ไม่สะอาด อาจทำให้เกิดผื่นคันได้

7.โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม ตัวร้อน จามไอ เนื่องจากอากาศเปลี่ยนทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน และเจ็บป่วยง่าย
อีกโรคหนึ่งที่ต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน คือโรคลมแดด หรือฮีทสโตรก แม้จะไม่มีการรายงานผู้เสียชีวิต และก็ประมาทไม่ได้เพราะประเทศมีอุณหภูมิในหน้าร้อนเฉลี่ยสูงขึ้นทุกปี ๆ เป็นอาการที่ร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้ มักจะเกิดกับเด็กและผู้สูงอายุ

8.โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ เป็นอีกโรคติดต่ออันตรายร้ายแรงที่มีสุนัขเป็นพาหะ สามารถติดเชื้อได้โดยการข่วน กัด หรือเลียผิวหนังที่มีแผล ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้านี้เมื่อมีอาการของโรคจะเสียชีวิตทุกราย และสามารถป้องกันได้โดยฉีดวัคซีน หากมีสัตว์เลี้ยงบ้านให้นำไปฉีดทุกปี เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกคน

9.โรคเครียด ไม่ว่าหน้าไหน ฤดูไหน ก็เครียดกันได้ตลอด แต่ในอาการร้อน มักจะทำให้ปวดหัวง่าย หงุดหงิดง่าย และคนที่เครียดอยู่แล้ว อาจมีอาการมากขึ้น เราสามารถคลายเครียดได้ด้วยการหลบไปอยู่ในที่อากาศเย็นสบาย หรือหางานอดิเรกทำ ก็คลายเครียดได้



แค่นี้คุณนี้จะมีหน้าร้อนที่สดใส หากดูแลสุขภาพตัวเอง

เพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง ไปดูวิธี กินอย่างไร ให้ปลอดภัย ในหน้าร้อน




Credit : สาระน่ารู้ เรื่องสุขภาพ Health and Knowledge

 

เตือนชาวพิจิตรรับมือพายุฤดูร้อน

นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 5-8 เม.ย.2555 จังหวัดพิจิตร ได้รับอิทธิพลจากพายุฝนที่เข้าปกคลุม พื้นที่ในเขตภาคเหนือตอนล่างและภาคเหนือตอนบน จะเกิดพายุฤดูร้อนที่อาจจะส่งผลให้เกิดฝนตก ฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลมพัดกระโชกแรง ซึ่งอาจส่งผลกระทบให้บ้านเรือนราษฎรรวมถึงไม้ยืนต้นล้มทับบ้านเรือนพังเสียหายได้

ดังนั้นในช่วงดังกล่าวจึงขอประกาศเตือนให้ชาวบ้านและเกษตรกร เตรียมความพร้อมหากเกิดพายุฤดูร้อน พร้อมได้สั่งการให้นักวิชาการที่มีความรู้เกี่ยวกับโครงสร้างของบ้าน อย่างนายช่างวิศวกรของสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง เร่งออกเตือนประชาชน ให้เร่งสำรวจความแข็งแรงของอาคารบ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะในส่วนของหลังคาบ้าน ที่ต้องมีสภาพที่แข็งแรง ทนทานต่อกระแสลม

นายสุวิชย์ กล่าวอีกว่า พื้นที่จังหวัดพิจิตร เป็นพื้นที่ๆเกิดพายุฤดูร้อน สร้างความเสียหายแบบซ้ำซาก โดยจากสถิติ พบว่ามีบ้านเรือนประชาชน อำเภอทับคล้อ อำเภอตะพานหิน อำเภอเมือง ตำบลหนองโสน อำเภอโพธิ์ประทับช้าง เป็นพื้นที่ๆเกิด พายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนจนเสียหายแบบซ้ำซาก เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี

สำหรับการป้องกันลมพายุฤดูแล้ง พัดบ้านเรือนประชาชนเสียหาย วิธีป้องกันอีกวิธีหนึ่งก็คือ การปลูกต้นไม้ บังลม ก็จะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมานั้น มีการเปลี่ยนผืนป่า มาเป็นนาข้าวจำนวนมาก ทำให้บ้านเรือนประชาชนไม่มีกำแพงธรรมชาติมาช่วย พร้อมทั้งสั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชน เตรียมรับมือกับพายุดังกล่าวแล้ว

 

พายุฝนถล่ม3หมู่บ้านบุรีรัมย์บ้านพังกว่า180หลัง

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 เม.ย. 2555 นายคณิต เอี่ยมระหงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนางกิ่งกาญจน์ เอี่ยมระหงษ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัด และนายนิวัฒน์ เรืองเดช นายอำเภอเมืองได้ลงพื้นที่สำรวจสภาพบ้านเรือนราษฎร ที่ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง หลังได้รับรายงานว่ามีพายุฝนพัดกระหน่ำโดยจากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนราษฎร 3 หมู่บ้าน มีหมู่ 1 บ้านเสม็ด หมู่ 2 บ้านโคกเพชร และหมู่ 8 บ้านหนองข่า ถูกพายุพัดพังเสียหายกว่า 180 หลังคาเรือนในจำนวนนี้มีบ้านที่ถูกพายุพัดได้รับความเสียหายทั้งหลังจำนวน 5 หลังคาเรือน ทำให้ชาวบ้านต้องไร้ที่อยู่อาศัยและช่วงนี้ต้องไปอาศัยบ้านญาติและเพื่อนบ้านเป็นที่หลับนอนชั่วคราวนอกจากนี้พายุยังได้พัดต้นไม้หักโค่นล้มหลายต้น ส่วนมูลค่าความเสียหายกำลังอยู่ระหว่างการสำรวจพร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายกเหล่ากาชาดจังหวัด และนายอำเภอยังได้นำถุงยังชีพทั้งข้าวสารอาหารแห้งไปมอบช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ประสบวาตภัยดังกล่าวด้วย

นายคณิต กล่าวว่า การให้ความช่วยเหลือนั้น ก็ได้กำชับให้ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และอบต. เร่งสำรวจความเสียหายจริงอีกครั้งแล้วรายงานไปยังทางอำเภอและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเพื่อที่จะได้เร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือ

โดยในเบื้องต้นจะใช้เงินทดรองราชการจ่ายชดเชยช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์ของทางราชการโดยหากเสียหายทั้งหลังจะได้รับเงินชดเชยช่วยเหลือรายละไม่เกินรายละ 30,000 บาท หากเสียหายบางส่วนจะได้รับเงินชดเชยรายละไม่เกิน 20,000 บาทหรือตามความเสียหายจริง
นอกจากนั้นยังจะได้ระดมช่างเข้าไปช่วยในการก่อสร้างที่เสียหายด้วย

นอกจากนี้ทางเหล่ากาชาดมอบถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัยในเบื้องต้นแล้ว และมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาให้กับผู้ประสบภัยรายละ 2,000 - 3,000 บาท ทั้งนี้จากการสำรวจยังพบว่าในจำนวนผู้ประสบวาตภัยยังมีบ้านเรือนของผู้พิการ และคนชราด้วยซึ่งในกรณีดังกล่าวก็จะได้ประสานไปยังทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อให้ช่วยเหลือเพิ่มเติมในอีกทางหนึ่งด้วย

 

หรือเป็นสัญญาณเตือนว่าน้ำในทะเลจะขึ้นสูงถึงระดับปลายตึกอย่างที่เห็นใช่หรือไม่......หรือไม่ใช่.....หรือไม่เกี่ยวกัน
แต่ถ้าคิดแบบก๊วนโลกแตกก็น่าจะเป็นสัญญาณในทางลบมากกว่าทางบวก

 

ทั่วไทยยังมีฝนกระจาย กทม.มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่

วันที่ 06/04/2555 07:30



กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง มตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปโดยมีฝนตกหนักบางแห่ง ...

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 6 เมษายน 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. คลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือประกอบกับลมตะวันออกเฉียง ใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย ลมตะวันออกพัดปกคลุมภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไปโดยมีฝนตกหนักบางแห่ง

B5 - War Room Falkman

 

ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุด



B5 - War Room Falkman

 

แผนที่คาดการณ์ฝน



B5 - War Room Falkman

 

ไฟไหม้ ห้องการเงินคณะมนุษยศาสตร์ ม.นเรศวร

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2555


เผาอุปกรณ์ เอกสารสำคัญวอด

เมื่อเวลา 20.40 น. วานนี้ (5 เม.ย.) พ.ต.ท.อนันต์ ธรรมอัน สารวัตรเวร สภ.ย่อยมหาวิทยาลัยนเรศวร ต.ท่าโพธิ์ อ.เมืองพิษณุโลก ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมหาวิทยาลัยนเรศวร เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารคณะมนุษยศาสตร์ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ รุดไปทำการสอบสวน พร้อมประสานรถดับเพลิง อบต.ท่าโพธิ์ อบต.อรัญญิก และเทศบาลนครพิษณุโลก มาร่วมระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารคณะมนุษยศาสตร์ เป็นตึกสองชั้นใต้ถุนสูง โดยเพลิงลุกไหม้ที่ชั้น 2 ภายในห้องการเงิน ซึ่งติดอยู่กับห้องสำนักงานเลขานุการ และติดห้องคณบดีคณะมนุษยศาสตร์ เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ได้ระดมเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงเอาไว้ได้ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที เพลิงจึงสงบลง ปรากฏว่าภายในห้องถูกเพลิงเผาผลาญเสียหายทั้งหมดทั้งอุปกรณ์เครื่องมือและเอกสาร ตลอดทั้งตู้เก็บเอกสารถูกไฟไหม้ไม่เหลือ
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ภายในห้อง เพราะเลิกทำงานตั้งแต่ช่วงเย็นแล้ว โดยใส่กุญแจปิดล็อกประตูเอาไว้อย่างดี แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งประเด็นเอาไว้ ว่าอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร หรือไม่อาจจะเกิดจากการวางเพลิง เนื่องจากเป็นที่น่าสงสัย ว่าทำไมไฟจึงลุกไฟในห้องการเงิน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่การเงิน ทราบว่าภายในห้องมีอุปกรณ์ไฟฟ้าเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครื่องปริ้นเตอร์เท่านั้น นอกจากนั้นเป็นเอกสารทางการเงินทางราชการ ซึ่งต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง





B5 - War Room Falkman

 

เพลิงไหม้โรงงานโฟมวอดนับ10ล้าน คนงานรอดตายหวุดหวิด

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>





เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 6 เม.ย. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รานยงานว่า พ.ต.ท.ไชยยันต์ ดาวเรือง สารวัตรเวร สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงานสยามอุตสาหกรรมโฟม เลขที่ 72/5 หมู่ 7 ซอยเทศบาล 1 ต.บางเตย อ.สามโคก จึงรีบไปตรวจสอบพบเพลิงกำลังลุกโหมไหม้ตัวโรงงานซึ่งตั้งอยู่บนเนื้อที่ 3 ไร่ ตัวอาคารทำด้วยโครงเหล็ก ใกล้กันยังเป็นบ้านพักพนักงานสูง 1 ชั้น กั้นเป็นห้อง 9 ห้อง เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงที่โหมกระหน่ำลุกไหม้อย่างรุนแรง ไม่ให้ลุกลามไปบ้านพักคนงาน เนื่องจากภายในเป็นโฟม และถังน้ำยาเคมีจึงกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เพลิงเริ่มลุกลามเข้าไหม้บริเวณสถานที่ผลิตภายใน และสต๊อกโฟมที่เตรียมส่งทำที่นอน นอกจากนี้ยังมีรถกระบะถูกเพลิงไหม้ทั้งคันได้รับความเสียหาย 1 คัน เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามในการสกัดเพลิง โดยฉีดน้ำกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยไม่ลุกลามไหม้อาคารบ้านพักคนงาน จากการตรวจสอบเบื้องต้นความเสียหาย คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท

นายชาลี นิยม อายุ 37 ปี พนักงานโรงงานสยามอุตสาหกรรมโฟม ให้การว่า โรงงานแห่งนี้ผลิตที่นอนทำจากโฟม ขณะเกิดเหตุไม่มีคนทำงานอยู่ แต่มีพนักงานพักอาศัยอยู่ภายในโรงงานประมาณ 10 คน เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ขณะตนกำลังนอนพักอยู่ภายในบ้านพักด้านข้าง ได้ยินเสียงสุนัขเห่า จึงเดินออกมาดู จึงพบว่ามีเพลิงไหม้ภายในโรงงาน ซึ่งเป็นสถานที่ผลิตโฟมทำที่นอน และมีเครื่องจักรอยู่ภายในด้วย รวมถึงมีสต๊อกโฟมที่เตรียมส่งทำที่นอนจำนวนมาก จึงตะโกนร้องบอกเพื่อนร่วมงานที่พักอยู่ในโรงงาน และรีบใช้ถังดับเพลิงมาดับ แต่เพลิงก็ไม่เบาลง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้ามาช่วยเหลือ

จากการสอบสวนทราบว่า เจ้าของโรงงาน คือ นายเจริญ แซ่ลี้ อายุ 66 ปี ผู้จัดการบริษัทและเจ้าของโรงงานไปทำธุระที่จ.นครพนม โดยโรงงานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 1 ก.ค.54 อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ให้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน เขต 1(ศพฐ.1), เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งถึงต้นเพลิงและสาเหตุที่แน่ชัดอย่างละเอียดต่อไป

B5 - War Room Falkman

 

รายงานข่าว พายุฤดูร้อน เข้าที่อินทนนท์ มีลูกเห็บ



ที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เกิดพายุฤดูร้อน มีลูกเห็บตกด้วย ลูกประมาณ ๒ เชนติเมตรครับ แต่ มันตกไม่นาน แล้วก็หายไป รูปดูได้ที่ เฟสบุค อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ครับ



ขอบคุณข่าวจาก อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

B5 - War Room Falkman

 

พลุระเบิดบ้าน6หลังพังเรียบโชคดีไม่มีตาย

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2555 เวลา 11:23 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.slide-container -->
<!-- /.slide-wrapper -->
<!-- /.more-img -->

<!-- /.featured-img -->
พลุระเบิดดังสนั่นไกลกว่า 20 กิโลเมตร รัศมีทำลายระยะ 100 เมตร บ้าน 6 หลังพังเรียบ เหตุเกิดจากบ้านทำพลุ 10 นัดเกิดปฎิกิริยากับความร้อนจนบิ้ม โชคดีแค่บาดเจ็บไม่ถึงชีวิต
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->เมื่อกลางดึกวันนี้ (6 เม.ย.) พ.ต.ท.นิรันดร์ ไชยวงค์ผาบ พงส.สภ.เหมืองจี้ จ.ลำพูน รับแจ้งเหตุพลุดอกไม้ไฟระเบิดบ้านพังทั้งหลัง และเกิดไฟไหม้หญ้าลุกลามบริเวณกว้าง เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่ ซอย 1 ชุมชนบ้านขว้าง หมู่ 2 ต.หนองหนาม อ.เมือง จ.ลำพูน จึงประสานขอรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบ้านแป้น, อบต.หนองหนาม และ อบต.ท่าเชียงทอง ช่วยดับไฟ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ดรณภพ ศิริชัย รอง ผกก.ป. สภ.เหมืองจี้

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว ก่อด้วยอิฐบล็อกหลังคามุงกระเบื้องลอน มีนายจำเนียร นันตากาศ อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ถูกเพลิงไหม้เหลือแต่เสาและโครงเหล็ก ส่วนหลังคาบ้านและฝาผนัง พร้อมสิ่งของเครื่องใช้ภายในบ้านทั้งหมดถูกแรงระเบิดพังเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยโล่งหายทั้งหมด นอกจากนี้แรงระเบิดยังทำให้รถจยย.และรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน ผข 6407 เชียงใหม่ ของนายจำเนียร ได้รับความเสียหาย อีกทั้งในรัศมี 100 เมตรมีบ้านอีก 5 หลังยังได้รับผลกระทบจากแรงระเบิดในครั้งนี้ คือบ้านนายจำลอง นันตากาศ อายุ 60 ปี บ้านนางรัตนาภรณ์ เนตรนิลพฤกษ์ อายุ 58 ปี บ้านนายบุญเย็น ปันสุพฤกษ์อายุ 67 ปี บ้านนายประเสริฐ วิจิตร อายุ 75 ปี และบ้านนายเฉลิมพงษ์ วิจิตร โดยบานกระจก หน้าต่าง บานประตู กระจกตู้ และหลังคาบ้านบางส่วนแตก ได้รับความเสียหาย

โดยเฉพาะบ้านนางรัตนาภรณ์ ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามแรงระเบิดของพลุทำให้บานประตูและบานหน้าต่าง ซึ่งเป็นบานไม้ทึบ พังแตกกระเด็นหลุดออกไปทั้งหมดเหลือแต่โครงประตูและโครงหน้าต่างเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีกระจกและหลังคาบางส่วนได้รับความเสียหายเช่นกัน ประมาณค่าเสียหายกว่า 500,000 บาท
สอบสวนนายจำเนียร เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่าตนเองอาศัยอยู่กับภรรยาชื่อนางศิริพร นันตากาศ อายุ 46 ปี มีอาชีพทำพลุดอกไม้ไฟขาย สำหรับใช้จุดในงานศพ วันนี้ได้รับว่าจ้างจากคนในหมู่บ้านอื่นให้ทำพลุดอกไม้ไฟ 9 นัดเพื่อใช้จุดในงานศพคืนวันที่ 6 เม.ย. ตนได้ทำไว้ 10 นัด เสร็จตั้งแต่เวลา 15.00 น. เก็บไว้ในบ้าน ราว 20.00 น. ตนและภรรยาก็เข้านอน จนเที่ยงคืนต้องสะดุ้งตื่นตกใจสุดขีด เมื่อได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วบ้านและใกล้เคียงราว 20 กม. ขณะเดียวกันหลังคาบ้านฝาผนังและสิ่งของเครื่องใช้หายไปหมดชั่วพริบตา บ้านทั้งหลัง เหลือแต่เสาและโครงเหล็กเท่านั้น ส่วนตัวเองและภรรยาต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดแทบไม่ทัน โชคดีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ศีรษะและแขนจากเศษอิฐบล็อกที่ปลิวมาถูก

ตำรวจคาดว่าดินปืนที่ใช้ทำพลุน่าจะทำปฎิกิริยากับอากาศจนเกิดความร้อนแล้วปะทุและระเบิดขึ้นมา จะได้ให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดก่อนดำเนินการต่อไป.

B5 - War Room Falkman

 

น่านน้ำท่วมร้านค้าขนของหนีอย่างโกลาหล

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2555 เวลา 18:28 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
<!-- /.slide-container -->
<!-- /.slide-wrapper -->
<!-- /.more-img -->

<!-- /.featured-img -->น้ำน่านท่วมหน้าร้อนหลังฝนตกใกล้สว่างคืนที่ผ่านมา ทำให้ร้านค้าของชุมชนหาดหินขาวและหาดรวมใจ ที่ตั้งขายริมน้ำเพื่อให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำคลายร้อนต้องขนของหนี อย่างโกลาหล

<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->วันนี้ ( 5 เม.ย.) เจ้าของร้านค้าบริเวณหาดหินขาว และหาดรวมใจ ของชุมชนบ้านท่าช้าง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน กว่า 80 ร้านค้า เร่งเก็บข้าวของและเต้นท์กันอย่างโกลาหล หลังปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านขึ้นสูงเร็วผิดปกติ จนไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ขายของ ซึ่งเป็นผลมาจากเกิดฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาในจังหวัดน่าน โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำน่าน ทำให้น้ำน่านเพิ่มสูงขึ้นและไหลมาถึงเขตตัวเมืองน่าน

เจ้าของร้านคนหนึ่งในบริเวณหาดหินขาว เล่าว่า ขณะที่กำลังเตรียมของเพื่อบริการลูกค้าระดับในแม่น้ำน่านมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น จนไหลเอ่อล้นขึ้นมาท่วมขึ้นบริเวณริมหาด ซึ่งชุมชนได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวริมแม่น้ำน่านในช่วงหน้าร้อน และแต่ละร้านก็จัดโต๊ะไว้เป็นที่สำหรับนั่งรับประทานอาหารของประชาชน และนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนและเล่นน้ำ เจ้าของร้านค้าต่าง ๆ ก็รีบเก็บของหนีน้ำ โดยระดับน้ำขึ้นเร็วมาก ไม่ถึง 1 ชั่วโมง น้ำก็ขึ้นท่วมถึงบริเวณที่เป็นเต็นท์ขายของ และยังขึ้นอยู่เรื่อยๆ เจ้าของร้านค้าต้องกันเก็บของอย่างโกลาหล

อย่างไรก็ชาวบ้านต่างพากันวิตกกังวลถึงเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งอีกที่เกิดน้ำท่วมในช่วงเดือนเมษายน หลังจากเกิดช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว สำหรับหาดหินขาวและหาดรวมใจนั้น เป็นร้านค้าชุมชมบ้านท่าช้าง ที่ทางชุมชนได้จัดขึ้นเฉพาะกิจในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านลดลงมา จนแห้งขอดดอนทรายโผล่ เป็นชายหาดทราย เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนรับประทานอาหารและเล่นน้ำคลายร้อนในช่วงหน้าร้อนติดต่อกันมากว่า 6 ปี
ด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดน่าน ประกาศแจ้งประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านที่เพิ่มสูงขึ้นเป็นน้ำที่สะสมจากที่เกิดฝนตกหนักช่วงผ่านมาในพื้นที่ทางเหนือของจังหวัดน่าน ซึ่งคาดว่าภายในวันนี้ระดับน้ำจะเข้าสู่ภาวะปกติ และไม่เพิ่มสูงถึงบ้านเรือนประชาชนชน ตามที่วิตกแน่นอน.

B5 - War Room Falkman

 

พายุหลายลูกถล่มอาร์เจนตินาตาย13 ศพ

วันศุกร์ที่ 6 เมษายน 2555 เวลา 10:33 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
พายุรุนแรงหลายลูกพัดถล่มเมืองหลวงอาร์เจนตินา เสียหายเป็นวงกว้าง มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย

<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->วันนี้ ( 6 เม.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินาว่า พายุรุนแรงหลายลูกพัดถล่มเมืองหลวงของอาร์เจนตินา ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 13 ศพ รวมถึงบาดเจ็บอีกกว่า 20 ราย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

นางมาเรีย ยูจิเนีย วิดาล เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานเทศบาลกรุงบัวโนสไอเรส เปิดเผยว่า ในบรรดาผู้เสียชีวิตทั้งหมดในเขตเมืองหลวงนั้น 4 ราย เสียชีวิตจากพายุลูกเห็บที่พัดกระหน่ำ 1 รายเสียชีวิตจากการถูกกำแพงอาคารพังลงมาทับ และอีก 3 รายเสียชีวิตจากการถูกหลังคาบ้านปลิวตกลงมาใส่ นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมจากศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติด้วยว่า พบผู้เสียชีวิตอีก 9 ศพ ใกล้กับกรุงบัวโนสไอเรส โดย 1 ราย เสียชีวิตจากการถูกกระแสไฟฟ้าช็อต ส่วนอีก 8 ราย เสียชีวิตเพราะถูกกำแพง หรือหลังคาอาคารพังลงมาทับ

พายุหลายลูกมีความเร็วลมสูงถึง 100 กม./ชม. ส่งผลให้กระจกหน้าต่างบ้านเรือน และอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหาย กระแสไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ ต้นไม้นับร้อยต้นหักโค่น รถยนต์นับร้อยคันพลิกคว่ำเกลื่อนถนน ซึ่งเกิดขึ้น 1 วัน ภายหลังอุณหภูมิในกรุงบัวโนสไอเรส พุ่งสูงขึ้นเป็นกว่า 30 องศาเซลเซียสจากอุณหภูมิปกติประมาณ 17 องศาเซลเซียส.

B5 - War Room Falkman

 

ไฟไหม้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ฝรั่งเศส

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2555 เวลา 23:44 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->
ไฟไหม้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดับเพลิงได้ 2 จุดด้วยกัน ซึ่งก็ทำสำเร็จ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และอุบัติเหตุก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆด้านสิ่งแวดล้อม

<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->
วันนี้ (5 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแรนส์ ประเทศฝรั่งเศสว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดับเพลิงได้ 2 จุดด้วยกัน ที่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ส่งผลให้การทำงานของเตาปฏิกรณ์ต้องปิดลงโดยอัตโนมัติทันที หลังมีควันพวยพุ่งออกมาที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ทางตอนเหนือของประเทศ
บริษัท อีดีเอฟ เจ้าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพนลีย์ ออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รุดเข้าไปในตัวอาคารที่ตั้งของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ของโรงไฟฟ้า
นิวเคลียร์เพนลีย์ เพื่อดับไฟ 2 จุดด้วยกัน ซึ่งก็ทำสำเร็จ ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และอุบัติเหตุก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้น หน่วยฉุกเฉินก็ได้รับคำสั่งให้เข้ามาประจำหน้าที่เพื่อตรวจสอบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และให้แน่ใจว่าจะไม่มีเหตุเพลิงไหม้เช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก

B5 - War Room Falkman

 

นักธุรกิจชาวจีนซื้อปลากะพงแดงตัวสีทองราคา 1.14 ล้านบาท

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน 2555 เวลา 23:29 น.


<!-- /.images-list-items -->
<!-- /.images-list-container -->
<!-- /.images-list-wrapper -->

<!-- /.featured-img -->นักธุรกิจชาวจีนจ่ายเงิน 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.14 ล้านบาท ซื้อปลากะพงแดงตัวสีทอง ซึ่งหาดูได้ยาก
<!-- /.content -->
<!-- /#featured-caption -->
วันนี้ (5 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองจิตตะกอง ประเทศบังกลาเทศว่า นักธุรกิจชาวจีนยอมจ่ายเงินถึง 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.14 ล้านบาท เพื่อขอซื้อปลากะพงแดงตัวสีทอง ซึ่งหาดูได้ยาก ที่ตลาดปลาใกล้กับเมืองจิตตะกอง ในวันนี้

นายยาฮันจีร์ เซาดูการ์ พ่อค้าปลาท้องถิ่นที่ตลาดปลากาห์ท ใกล้กับเมืองจิตตะกอง เปิดเผยว่า มีนักธุรกิจชาวจีนจากฮ่องกงมาขอซื้อปลากะพงแดง น้ำหนัก 37 กิโลกรัม เพราะกระเพาะของปลานั้นอร่อยมาก รวมทั้งเนื้อก็หวานอร่อย และพ่อค้าปลาก็ซื้อปลาตัวนี้มาจากชาวประมง ซึ่งเพิ่งกลับมาจากการออกเรือหาปลาที่อ่าวเบงกอลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และ ขอก็ซื้อปลามาไว้ได้ด้วยการประมูลแข่งกับคู่แข่ง ถึง 500 รายด้วยกัน และก็ไม่มีใครกล้าสู้ราคาที่เขาเสนอไป เพราะเขารู้ดีว่าปลาตัวนี้จะต้องขายได้ราคาอย่างแน่นอน ซึ่งในที่สุดก็มีนักธุรกิจชาวจีนมาขอซื้อไปในราคา 3.05 ทากา (สกุลเงินท้องถิ่น) เท่ากับ 38,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.14 ล้านบาท

ศาสตราจารย์โนแมน ซิดดิกุย แห่งภาควิชาชีววิทยา สถาบันประมงเมืองจิตตะกอง เปิดเผยว่า การที่ปลากะพงมีลำตัวเป็นสีทอง แทนที่จะเป็นสีปกติเป็นสีแดงหรือสีเงินนั้น เป็นเหตุผลที่ทำให้ปลาตัวนี้มีราคาแพง ทุกๆปีจะมีชาวประมงจับปลากะพงแดงตัวสีทองได้ 3-4 ตัวเท่านั้น และเนื้อปลากะพงแดงก็นำไปปรุงอาหารอย่างเลิศรส

B5 - War Room Falkman

 

เพิ่มการระบายน้ำ 4 เขื่อนใหญ่ รองรับแหล่งก๊าซเยตากุนหยุดผลิต

วันที่ 06/04/2555 09:09





กฟผ.เพิ่มการระบายน้ำเขื่อนภูมิพล-สิริกิติ์-วชิราลงกรณ-ศรีนครินทร์ เอื้อภาคเกษตร และความมั่นคงของระบบกำลังไฟฟ้าของประเทศ ช่วงที่แหล่งก๊าซเยตากุน ประเทศพม่า หยุดทำการผลิตและหยุดจ่ายแก๊ส ระหว่างวันที่ 8-19 เม.ย.นี้…

นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยสถานการณ์การระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ มีการระบายน้ำตั้งแต่ต้นฤดูแล้งในวันที่ 1 พ.ย.2554 - 3 เม.ย. นี้ ซึ่งรวมระยะเวลากว่า 5 เดือน ได้มีการระบายน้ำรวม 11,766 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) โดยเป็นการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล 6,854 ล้าน ลบ.ม. หรือ 58% จากเขื่อนสิริกิติ์ 4,922 ล้าน ลบ.ม. หรือ 42% ยังเหลือต้องระบายน้ำช่วงฤดูแล้งระหว่างวันที่ 4-30 เม.ย.อีก 1,455 ล้าน ลบ.ม. คาดว่าปริมาณน้ำระบายจากเขื่อนทั้งสองตลอดช่วงฤดูแล้ง ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2554 – 30 เม.ย.นี้ ประมาณ 13,230 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าแผนการใช้น้ำเบื้องต้น 1,365 ล้าน ลบ.ม. โดยปริมาณน้ำระบายส่วนนี้เป็นการระบายเพื่อพร่องน้ำในอ่างฯ และการรักษาระบบนิเวศในแม่น้ำเจ้าพระยา

นายกิตติ กล่าวว่า ในเดือน เม.ย.นี้ คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ได้สั่งให้ กฟผ.เพิ่มการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ รวมทั้งเขื่อนวชิราลงกรณ และเขื่อนศรีนครินทร์ เพื่อให้การระบายน้ำเกิดประโยชน์สูงสุดในด้านการเกษตรและความมั่นคงของระบบ กำลังไฟฟ้าของประเทศ ในช่วงที่แหล่งก๊าซเยตากุน ประเทศพม่า จะหยุดทำการผลิตและหยุดจ่ายแก๊สระหว่างวันที่ 8-19 เม.ย. และปริมาณน้ำที่จะระบายเพิ่มนั้น มากกว่าความต้องการใช้น้ำภาคการเกษตรเพียงเล็กน้อย และเป็นการระบายในช่วงเวลาสั้นๆ ระหว่างวันที่ 9-11 เม.ย. และ 17-18 เม.ย.เท่านั้น จึงไม่กระทบต่อการบริหารจัดการน้ำในภาพรวมแต่อย่างใด

สำหรับสถานการณ์ ล่าสุด พบว่า เขื่อนภูมิพล มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 7,680 ล้าน ลบ.ม. หรือ 57% ระบาย น้ำในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ปีที่ผ่านมาถึงปัจจุบันไปแล้ว 6,854 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 90 %ของแผนการระบายน้ำทั้งหมด ปัจจุบันระบายน้ำวันละ 22 ล้าน ลบ.ม. และในช่วงวันที่ 9-11 และ 17-18 เม.ย. จะเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นวันละ 50 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่ เขื่อนสิริกิติ์ มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 5,518 ล้าน ลบ.ม. หรือ 58% ระบายน้ำในช่วงฤดูแล้งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ปีที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันไปแล้ว 4,922 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 88% ของแผนการระบายน้ำทั้งหมด ปัจจุบันระบายน้ำวันละ 22 ล้าน ลบ.ม. และในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. และ 17-18 เม.ย.นี้ จะเพิ่มการระบายน้ำขึ้นเป็นวันละ 40 ล้าน ลบ.ม.

สำหรับฝนที่ตกหนักกระจายในหลายจังหวัดในภาคเหนือเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มากขึ้นกว่าวันก่อนหน้าเล็กน้อย และสถานการณ์ภัยแล้งในหลายจังหวัดก็เริ่มคลี่คลายเนื่องจากฝนที่ตกลงมา ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ จะติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำร่วมกัน โดยปริมาณฝนนั้นเป็นตัวแปรสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนแผนการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนกิ่วลม เขื่อนกิ่วคอหมา เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักฯ ให้มีความพร้อมที่จะรับมือทั้งปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งได้อย่างดีที่สุด

B5 - War Room Falkman

 

พายุหิมะพัดถล่มไปทั่วกรุงมอสโคกลางฤดูใบไม้ผลิ

April 6, 2012



Muscovites woke up today to a blanket of snow covering the Russian capital after a powerful cyclone brought a winter storm in the middle of spring.

"Last night a small but powerful cyclonic whirl hit the capital at a speed of 50 kilometres (31 miles) per hour bringing with it copious snowfall," weather forecaster Fobos said.

Temperatures in the afternoon were expected to go up to two degrees Celsius (36 degrees Fahrenheit).

The snowstorm comes as a major test of patience for Muscovites who have endured an unusually cold and long winter lasting five months. Russians consider that spring begins on March 1.

"Pedestrians and drivers are urged to be careful. Gusts of wind can fell trees and tear down advertising hoardings," said NTV television channel.

Snowstorms were also forecast to continue on the far eastern Sakhalin Island, while cold weather was also expected in Siberia. Read More

B5 - War Room Falkman

 

เกิดเครื่องบินขนาดเล็กบินชนกันกลางอากาศ 2 ลำ ดับอย่างน้อย 2 ราย ที่โคโลราโด



Two small planes collided midair north of Denver just before noon today, killing at least two people, authorities say. One pilot survived.

A witness told Longmont Times-Call that he believes the single-engine planes clipped each other about 11:45 a.m. MT (1:45 p.m. ET), causing a Cessna to lose a wing and spiral into the ground along a road near a Walmart. No one survived that crash (photo), which killed two people, the Weld County coroner tells the Associated Press.

About five minutes later, the second plane crashed near the City of Longmont Public Works Garage, not far from the entrance to the Vance Brand Mumicipal Airport. The unidentified woman piloting the plane was pulled from the wreckage (photo) by passers-by and is reported in stable condition at an area hospital. Read More

B5 - War Room Falkman

 

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคเหนือโดยมีฝนปกคลุมทางตอนล่างของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนบนและทางตอนกลางของภาค </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคกลางโดยมีฝนปกคลุมทางตอนบนของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 4 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนบนและทางตอนกลางของภาค</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 5 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตกโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมตามบริเวณชายฝั่งและตกต่อเนื่อง </TD></TR></TBODY></TABLE>

B5 - War Room Falkman