WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่เกยหาด ที่ชุมพร อาหารยังเต็มกระเพาะ

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 20:20:14 น.



เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ได้รับแจ้งจาก นายสำอาง มะลิรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 6 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว ว่า พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่ถูกคลื่นซัดมาเกยหาดบริเวณปากคลองน้ำดำ พื้นที่ หมู่ที่ 6 ต.ปากคลอง จากนั้น นายจักรพงษ์ สุขใจ เจ้าหน้าที่ฝ่าย สัตว์ประมงหายาก ได้เดินทางไปตรวจสอบ พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่ ถูกคลื่นซัดมาเกยหาด สภาพเริ่มเน่าเปื่อย สันนิษฐานว่าน่าจะตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน



นายจักรพงษ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ในตัวเต่าไม่มีไมโครชิพ และเป็นเต่าเพศเมีย อายุประมาณ 20 ปี ความกว้างของกระดอง 95 เซนติเมตร ยาว 98 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 90 กิโลกรัม ส่วนสาเหตุการตายยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากสภาพเริ่มเน่าเปื่อย แต่จากการผ่าซากพิสูจน์ พบว่ายังมีอาหารเต็มกระเพาะ แสดงว่า ก่อนตายเต่ายังมีสุขภาพดี



ทั้งนี้ เต่าตนุเป็นสัตว์ทะเลที่ได้รับการคุมครองตามพระราชบัญญัติและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ขนาดโตเต็มวัยที่สามารถแพร่พันธุ์ได้มีความยาวกระดองประมาณ 80 เซนติเมตร ขนาดใหญ่สุดที่เคยพบมีความยาวกระดองถึง 150 เซนติเมตร น้ำหนักกว่า 200 กิโลกรัม แหล่งวางไข่ของเต่าตนุพบมากในอ่าวไทยบริเวณเกาะคราม จ.ชลบุรี และพบประปรายทางฝั่งทะเลอันดามันที่เกาะสิมิลัน เกาะสุรินทร์ และหมู่เกาะตะรุเตา และจากข้อมูลของศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร ในปี 2555 นี้ พบซากเต่าตนุที่เสียชีวิตขึ้นมาเกยหาดฝั่งอ่าวไทยแล้วกว่า 10 ตัว สาเหตุการตายส่วนใหญ่มากจากบาดแผลที่เกิดจากเครื่องมือประมงและติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร

พบซากเต่าตนุขนาดใหญ่เกยหาด ที่ชุมพร อาหารยังเต็มกระเพาะ : มติชนออนไลน์

B5 - War Room Falkman

 

วันนี้ช่วยอัพข่าว 2 แห่งเลย...จะเข้ามาเป็นระยะๆจ้า

B5 - War Room Falkman

 

นักวิทย์ออสเตรเลียงง เกาะในแผนที่โลก-กูเกิลเอิร์ธ "หายสาบสูญ"

วันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 22:00:25 น

นักวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรเลียเปิดเผยว่า เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิคตอนใต้ ซึ่งปรากฏในแผนที่ต่างๆ ซึ่งรวมถึงกูเกิล เอิร์ธ และกูเกิล แม็พส์ ไม่ปรากฏอยู่จริง



เกาะซึ่งมีรูปร่างเป็นแนวยาว ซึ่งในแผนที่กูเกิล แม็พส์ เรียกว่า"เกาะแซนดี้" ตั้งอยู่ระหว่างออสเตรเลียกับเกาะนิวแคลิโดเนีย ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศส และแผนที่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกอย่าง The Times Atlas of the World ระบุว่าชื่อ"เกาะซาเบิล" ขณะที่แผนที่สภาพอากาศที่ใช้โดยยานสำรวจทางทะเลของออสเตรเลีย เซาธ์เทิร์น เซอร์เวเยอร์ ก็ระบุเช่นกันว่าเกาะนี้มีอยู่จริง



แต่เมื่อคณะนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยซิดนีย์เดินทางไปสำรวจ กลับพบว่ามันเป็นเพียงท้องทะเลว่าเปล่า ในเขตทะเลคอรัล ซี แม้เกาะแห่งนี้ จะปรากฏตามสิ่งพิมพ์สาธารณะต่างๆมานานอย่างน้อยตั้งแต่ปี 2000

มาเรีย เซตอน นักวิทยาศาสตร์ซึ่งร่วมเดินทางไปพร้อมกับเรือสำรวจ ที่ใช้เวลาในการเดินทางนานกว่า 25 วัน เปิดเผยว่าทีมสำรวจคาดหวังว่าจะพบกับเกาะ แต่กลับพบเพียงท้องทะเลที่ลึกกว่า 1,400 เมตร "เราต้องการตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะแผนที่เดินเรืออิเล็กทรอนิกส์บนเรือ แสดงตัวเลขว่าพื้นที่แถบนี้มีระดับความลึก 1,400 เมตร ซึ่งถือว่าลึกมาก"






B5 - War Room Falkman

 

อนามัยโลกพบผู้เสียชีวิตเพิ่มจาก “ไวรัสโคโรนา”

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา 11:34 น.



องค์การอนามัยโลก ( ฮู ) พบผู้เสียชีวิตจาก "ไวรัสโคโรนา" อีก 1 ศพ เมื่อรวมกับผู้เสียชีวิตก่อนหน้านี้จากซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 3 ศพแล้ว

วันนี้ ( 24 พ.ย. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ว่า องค์การอนามัยโลก ( ฮู ) พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาอีก 1 ศพ และมีรายงานพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย ในซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการได้รับเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าวอยู่ที่ 3 ศพแล้ว

รายงานฉบับล่าสุดของฮู เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ ยังระบุรายละเอียดเกี่ยวกับชายชาวซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเสียชีวิตจากการได้รับเชื้อไวรัส โคโรนา เมื่อเดือนมิ.ย. และชายชาวกาตาร์เสียชีวิตในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ของอังกฤษ หลังเดินทางกลับจากซาอุดีอาระเบีย

ก่อนหน้านี้ ฮูยืนยันว่า เชื้อไวรัสร้ายแรงดังกล่าว อยู่ในสายพันธุ์เดียวกับเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งเป็นไวรัสตระกูลใหญ่ ที่อาจก่อให้เกิดได้ตั้งแต่โรคไข้หวัดธรรมดา ไปจนถึงโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือ ซาร์ส อย่างไรก็ตาม เชื้อไวรัสชนิดนี้มีฤทธิ์รุนแรงกว่ามาก เนื่องจากสามารถก่อให้เกิดอาการไตวายเฉียบพลัน อันเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ป่วยทั้งสองคน ผู้เชี่ยวชาญของฮูค้นพบด้วยว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองมีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด และอาศัยอยู่ในละแวกเดียวกันที่ซาอุดีอาระเบีย

นอกจากนี้ ฮูยังพบสัญญาณบ่งชี้การติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ ในสมาชิก 2 คนของครอบครัวดังกล่าว แม้หนึ่งในนั้นจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ผลการตรวจเลือดเบื้องต้น เพื่อหาระดับการติดเชื้อไวรัสโคโรนาในผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ปรากฏว่าเป็นลบ

สำหรับผู้ป่วยรายล่าสุดที่พบเป็นชาวกาตาร์ ถูกส่งตัวไปเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลที่เชี่ยวชาญการรักษาโรคปอด ที่เยอรมนี เมื่อเดือนต.ค. ซึ่งรายงานล่าสุดระบุว่า ผู้ป่วยเริ่มมีอาการดีขึ้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ฮูเชื่อว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวอาจกำลังแพร่ระบาดในอีกหลายประเทศ นอกเหนือจากในซาอุดีอาระเบีย และกาตาร์ จึงขอเตือนให้ประชาชนหมั่นสังเกตตัวเอง หากเริ่มมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหวัด เนื่องจากแม้จะยังไม่สามารถประเมินความรุนแรงของการแพร่ระบาดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า สถานการณ์จะอยู่ในขั้นไว้วางใจได้

B5 - War Room Falkman

 

อิสราเอล ยิงปาเลสไตน์!! ตาย 1 เจ็บ 9 หลังข้อตกลงหยุดยิง ชาวอิสราเอลกว่าครึ่งสนับสนุนให้โจมตีต่อ

วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 11:25:13 น



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า วันที่ 23 พ.ย. 2555 ฝ่ายอิสราเอลยิงชายชาวปากีสถานเสียชีวิต 1 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 คน ที่ชายแดนฉนวนกาซา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้นับว่าเป็นความรุนแรงครั้งแรกที่เกิดขึ้นระหว่างกลุ่มฮามาสและอิสราเอล นับตั้งแต่มีการตกลงหยุดยิง เมื่อวันพุธที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อผู้เสียชีวิตและคนกลุ่มใหญ่เข้าไปใกล้ชายแดนอิสลาเอล เพื่อเก็บชิ้นส่วนรถจี๊ปทหารของอิสราเอลที่พังเสียหายจากการสู้รบ จึงถูกฝ่ายอิสราเอลยิงใส่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งคน และบาดเจ็บอีก 9 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรีอิชมาอิล ฮานิยา ของกลุ่มฮามาสออกมากระตุ้นให้ฝ่ายอิสราเอลเคารพข้อตกลงหยุดยิง

หลังจากเกิดเหตุขึ้นกองกำลังอิสราเอลได้ทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้วกล่าวว่า ฝ่ายกาซาพยายามจะแทรกซึมเข้ามาในอิสราเอล ซึ่งฝ่ายอิสราเอลก็มีการยิงเตือนขึ้นฟ้าก่อนเมื่อคนกลุ่มนี้พยายามจะเข้ามาใกล้ชายแดนอิสราเอล และกองกำลังทหารของอิสราเอลกล่าวว่า เกิดความไม่สงบตามแนวชายแดนแต่ไม่ได้บอกถึงรายละเอียด

ที่ผ่านมากองกำลังอิสราเอล ได้กำหนดเขตหวงห้ามในฝั่งกาซาและยิงใครก็ตามที่พยายามจะเข้ามาในอาณาเขต เพื่อป้องกันการแทรกแซง แต่หลังจากมีข้อตกลงหยุดยิงก็มีจำนวนพลเรือนจากฝั่งกาซาพยายามเข้ามาในพื้นที่หวงห้ามมากขึ้น

ขณะเดียวกันที่กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ ได้มีการเจรจากับทูตอิสราเอลและฮามาสแยกกัน เกี่ยวกับขั้นต่อตอนไปของข้อตกลงหยุดยิง และข้อตกลงเกี่ยวกับการปิดล้อมชายแดนกาซา ซึ่งทางกลุ่มฮามาสเรียกร้องให้ยกเลิกข้อห้ามบริเวณชายแดน แต่ฝ่ายอิสราเอลยืนยันว่าฮามาสต้องหยุดการลักลอบขนอาวุธเข้ามาในอาณาเขต

มีรายงานผลจากการสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนชาวอิสราเอล 503 คน ชี้ว่าร้อยละ 49 คิดว่ารัฐบาลควรให้กองกำลังทหารโจมตีกลุ่มฮามาสอย่างต่อเนื่อง ส่วนร้อยละ 31 สนับสนุนให้รัฐบาลหยุดโจมตี ในขณะที่ร้อยละ 20 ไม่แสดงความคิดเห็น และร้อยละ 29 คิดว่าอิสราเอลควรส่งกองกำลังภาคพื้นดินบุกฉนวนกาซา

และจากการสำรวจเดียวกันนี้ยังชี้ให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูและพรรคลิคุดของเขา รวมทั้งพรรคร่วมรัฐบาลอิสราเอล เบเตนู ได้สูญเสียเสียงสนับสนุนบางส่วน แต่คาดว่าพรรคของเขาจะยังคงสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 มกราคม 2556

อิสราเอล ยิงปาเลสไตน์!! ตาย 1 เจ็บ 9 หลังข้อตกลงหยุดยิง ชาวอิสราเอลกว่าครึ่งสนับสนุนให้โจมตีต่อ : มติชนออนไลน์

B5 - War Room Falkman

 

ที่ปากช่องก็เป็นค่ะ แดดแรงจ้า อยู่ดีดี ไฟดับๆ ติดๆ อยู่ 2-3 ครั้ง และก็ดับไปอีกประมาณเกือบสิบนาที มีลมแรง ฟ้าร้องดังและมืดครึ้ม จากนั้นฝนก็ตกลงมา ตอนนี้ยังตกอยู่เลยค่ะ แต่ตกไม่หนัก

บอกตรงๆ ค่ะว่ารู้สึกใจคอไม่ดี เพราะมันไม่มีวี่แววส่อเค้า จากที่แดดเปรี้ยง กลายเป็นท้องฟ้ามืดดำ ลมพัดแรง และฟ้าร้อง

 

ดูภาพกลุ่มเมฆทึบตรงกลางประเทศไทย
เหมือนรูปอะไรบางอย่างจัง
...คล้ายมุ่งหน้าจะมาทาง กทม. ไหมเนี่ย

เวลาใกล้เคียงกับภาพ คห. คุณ Falkman
แต่เห็นลักษณะชัดขึ้นหน่อยค่ะ

 

2013 ระบบสุริยะวิปริต อวสานโลก ? (ไทยโพสต์)

ตามปฏิทินของชนเผ่ามายาที่ทำไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ออกคำทำนายไว้ว่า ปี พ.ศ.2555 หรือ ค.ศ.2012 จะเป็นวันอวสานโลก ถึงขนาดทำเป็นหนังฉายให้คนทั้งโลกได้ดูสุดยอดมหาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงปี 2012 ผลจากความแปรปรวนของสุริยะจักรวาลและความผิดปกติของแสงอาทิตย์

ด้านนักวิทยาศาสตร์ก็มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องจักรวาลและอวกาศ ได้ค้นพบความวิปริตของระบบสุริยะจักรวาลที่ส่งผลต่อทั้งโลก ทั้งพายุฝน น้ำท่วม น้ำแล้ง แผ่นดินไหว สึนามิ มีผู้สังเวยชีวิตมหาศาล แล้วตอนนี้ที่หิมะและอากาศเย็นยะเยือกกระหน่ำยุโรป ก็คาดเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

ปี 2012 จะเป็นวันอวสานโลกจริงตามคำทำนายที่ชนเผ่ามายาระบุไว้หรือไม่....ไม่มีใครรู้

แต่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่น ไมโครเวฟอินฟาเรด องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซา เจ้าของรางวัลวิศวกรดีเด่นจากนาซา ในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระบบตรวจจับพลังงานคลื่นไมโครเวฟจากนอกโลก เป็นนักวิทยาศาสตร์ไทยอีกคนที่ออกมาเตือนให้ทุกคนทราบถึงความปั่นป่วนของ ระบบสุริยะจักรวาลที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อโลกโดยตรง และที่งานสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง "เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤติให้เป็นทางรอด"

เขาบอกว่า จากการศึกษาไม่ใช่ ปี 2012 แต่เป็นปี 2013 ที่โลกจะเผชิญหายนะสูงสุด แม้จะไม่ตรงกับวันสิ้นโลกในปฏิทินของชาวมายา แต่ก็ได้ความว่า อีก 3 ปี พวกเราไม่รอดแน่ เป็นข้อมูลที่น่าตกใจ

ดร.ก้องภพ ให้ดูภาพเกี่ยวกับโลก ทางช้างเผือก ระบบสุริยะ และกาแล็กซี่ของโลก พร้อมระบุสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจากการศึกษาและรวบรวม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่เกี่ยวข้องกับองค์การนาซาที่กำลังทำงานอยู่ และเขาบอกว่า ปี 2556 หรือ ค.ศ.2013 เป็นปีที่จะเกิดโนวาการระเบิดที่มีพลังงานมากที่สุด มันจะปลดปล่อยพลังงาน มหาศาล เพราะมีแนวโน้มว่าปฏิกิริยาพระอาทิตย์จะขึ้นสูงสุดในต้นปี 2013 นี้ และเกิดการพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดทั้งความร้อนสูงและการหดตัวของระบบสุริยะ

ช่วงนั้นดวงอาทิตย์โคจร ตัดผ่านทางช้างเผือกในทุก ๆ 33-35 ล้านปีพอดี ซึ่งทางช้างเผือกมีมวลของดาว 2,000-4,000 ล้านดวง หากเกิดการบีบหดตัว ดวง ดาวและอุกกาบาตบางส่วนจะกระเด็นเข้ามาในระบบสุริยะ ซึ่งเมื่อ 35 ล้านปีที่ แล้วเป็นช่วงที่มีอุกกาบาตเข้ามาเยอะ แต่ความเสี่ยงจะมากกว่า 10 เท่า ในปี 2013

"ตลอดระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียทำงานองค์การอวกาศรัสเซียเทียบเท่านาซา สำรวจระบบสุริยะ พบมีการเปลี่ยนแปลงขอบด้านนอกสุดของระบบสุริยะ โดยวัดปริมาณความสว่างสูง ขึ้น 1,000% มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เชื่อว่ามีพลังงานบางอย่างเข้ามาในระบบสุริยะ นาซาเองก็พบการเปลี่ยนแปลง เช่นกัน ภาพถ่ายจากดาวเทียม Imax ที่โคจรรอบโลก ปรากฏพลังงานที่เล็ดลอดเข้ามาในะบบสุริยะ เดินทางด้วยความเร็วสูง แนวที่มี พลังงานรั่วใกล้กับทางช้างเผือก แล้วยังค้นพบว่า เมื่อวัดแกนพลังงานนี้มี การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในระยะ 6 เดือน ไม่ใช่ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นี่เป็นสิ่งที่นอกเหนือการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์"

ดร.ก้องภพ ให้ข้อมูลอีกว่า นอกจากรายงานของนาซายืนยัน การบินอวกาศยุโรปยังมีภาพแบบร่างพลังงานสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่และความร้อนสูงมากเคลื่อนตัวเข้าหาดวงอาทิตย์ แล้วยังมีข่าวอย่างเป็นทางการระบุการบีบอัดของชั้นขอบนอกระบบสุริยะ จะทำให้พลังงานรังสีคอสมิกเข้ามาในระบบสุริยะมากเป็นพิเศษ ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนโลก

นอกจากนี้ มีหลักฐานแสดงให้เห็นดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงสุดในรอบ 8,000 ปี และการที่นาซาส่งดาวเทียมโคจรที่ขอบด้านนอกเพื่อวัดความดันลมสุริยะช่วงปี 2547-2551 พบว่า ความเร็วลมสุริยะลดลงมาก ผลจากพลังงานบางอย่างเข้ามาบีบอัดลมสุริยะให้ลดลง สอดรับกับข่าวล่าสุดยืน ยันมีการเปลี่ยนแปลงด้านนอกสุดของระบบสุริยะ ส่งผลให้ความเร็วลมสุริยะลดลง 20 กิโลเมตรต่อวินาที ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2550 เป็นต้นมา และในตอนนี้ดาวเทียมวัดความเร็วลมสุริยะพบว่าลดลงถึง 0 แล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ถึง 4 ปี

"ดวงอาทิตย์มีวัฏจักร ทุก ๆ 11 ปี จะมีการพลิกกลับขั้วของสนามแม่เหล็กและเป็นช่วงที่เกราะป้องกันดวงอาทิตย์ ต่ำสุด คาดการณ์ว่าจะเกิดปี 2013 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง จากการสำรวจของดาวเทียม ช่วงที่ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยาสูงสุด ทั้งฝุ่นละอองและอุกกาบาตเข้ามามากเป็นพิเศษ มีผลกระทบต่อดาวเคราะห์ทุกดวง" วิศวกรอาวุโสไทยองค์การนาซา กล่าว

เขายังให้ภาพความปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะถ้วนหน้า ตั้งแต่ดาวพลูโต ที่พบความกดอากาศเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด ภาพดาวเนปจูนแสดงให้เห็นความสว่างจ้าของชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ดาวยูเรนัสก็เช่นเดียวกัน ความสว่างเพิ่มขึ้น กลุ่มเมฆมาก และมีการพลิกกับขั้วของสนามแม่เหล็ก ดาวเสาร์มีการเปลี่ยนแปลงในแนวเส้นศูนย์สูตรและเกิดปรากฏการณ์ออโรรา คือ มีแสงบนท้องฟ้าตอนกลางคืน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กอย่างมาก ดาวพฤหัสก็สว่างขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ และร้อนจัดขึ้น

ส่วนดาวอังคารเกิดสภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ มีพายุ มีการก่อตัวของเมฆในชั้นบรรยากาศดาวอังคาร ดาววีนัสสว่างขึ้น 2,500 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 30 ปี แม้แต่ดาวพุธก็ค้นพบสนามแม่เหล็กสูงมาก และเกิดน้ำแข็ง มีฝุ่นละอองที่พัดออกมา ส่วนหนึ่งมาจากความดันลมสุริยะลดลง

สำหรับดาวเคราะห์โลกที่มนุษย์อาศัยก็เปลี่ยนแปลงมาก วิศวกรอาวุโสไทยจากองค์การนาซา เปิดเผยว่า จากการวัดปริมาณรังสีคอสมิกมีสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ปริมาณจะลดลง แต่ปรากฏว่าไม่เป็นเช่นนั้น

"รังสีคอสมิกถ้ารับปริมาณมาก สิ่งมีชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ รวมถึงเกิดการกลายพันธุ์ เป็นโรคมะเร็ง แต่ไม่ต้องกังวลมาก การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ปริมาณฝุ่นละอองที่เข้ามาในโลกมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะสูงขึ้นอีก 13 เท่าตัว ในปี 2556 ปริมาณอุกกาบาตที่วัดได้มีสูงมากในปี 2541 อาจเพราะมีเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุหรือมีอุกกาบาตเข้ามาเยอะขึ้น ฝนดาวตกก็เพิ่มขึ้น ยืนยันปรากฏการณ์นี้แสดงว่ามีวิกฤติเข้ามาในโลกมากขึ้น"

ดร.ก้องภพ กล่าวต่อว่า อีกความผิดปกติที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศรอบนอก ธรรมดาเกิดขึ้นทุก 11 ปี แต่เมื่อวัดครั้งสุดท้ายผิดไปจากเดิม 28 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ชั้นบรรยากาศลดต่ำลง ส่งผลให้โลกของเราไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก เช่นเดียวกับภาพจากดาวเทียมวัดสนามแม่เหล็กรอบนอกแสดงให้เห็นรูรั่ว ที่มี อนุภาคและพลังงานหลุดลอดเข้ามาส่งผลต่อสภาพอากาศโลก ขั้วโลกเหนือน้ำแข็งละลาย ขั้วโลกใต้หิมะน้ำแข็งเพิ่มขึ้น

เวลานี้มีรายงานวิจัยมากขึ้น ชี้สนามแม่เหล็กโลกส่งผลกระทบต่อรังสีคอสมิกที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพเมฆและก่อตัวของเมฆ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงความถี่ในการ เกิดแผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อโลกมากเป็นประวัติการณ์ ปี 2553 ทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ความร้อนที่เกิดขึ้นบนโลก ทั้งอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ความสว่างของดวงอาทิตย์ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ในทางเดียวกัน ทั้งยังมีข้อมูลสถิติปี 2552-2553 ระบุความสูญเสียจากภัยพิบัติเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

ปี 2556 ที่ ดร.ก้องภพ คาดการณ์ว่าดวงอาทิตย์จะมีปฏิกิริยาสูงสุด จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อดาวเทียม อุกกาบาตหรือหินนอกโลกอาจทำให้ดาวเทียมเสียหาย มนุษย์มีความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะว่าจะได้รับรังสีแกมมา และคอสมิกปริมาณมาก รวมถึงเครื่องบินตก มีข้อมูลว่า 2-3 ปีมานี้ ปริมาณการส่งดาวเทียมไปนอกโลกจากทั่วโลกลดลง ก็ขึ้นกับการตี ความ ปี 2553 เป็นเพียงเริ่มต้นปฏิกิริยาสูงสุดของดวงอาทิตย์ อีก 3 ปีข้างหน้าจะรุนแรงขึ้น

ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ปี 2402 มีผู้บันทึกไว้ว่าเกิดปฏิกิริยาพระอาทิตย์ครั้งใหญ่ ปีนั้นแสงอาทิตย์สว่างจ้า ระบบโทรเลขทำงานโดยอัตโนมัติ คนใช้โทรเลขถูกไฟฟ้าช็อตจากพลังงานที่เข้ามา ปัจจุบันผลกระทบจะสูงกว่าครั้งนั้น อาจเกิดไฟฟ้าดับทั่วโลกหรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกใช้การไม่ได้ ระบบหม้อแปลงไป จนถึงสายส่งเสียหาย สภาพอากาศแปรปรวน พายุถล่ม น้ำท่วม รวมถึงแผ่นดินไหว ต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และหาวิธีอยู่รอด

"พื้นที่เสี่ยงกับปฏิกิริยานี้ คือ ขั้วโลก สหรัฐ แคนาดา ประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตรเสี่ยงน้อยกว่าแต่ไม่ใช่ไม่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ ประมาท พม่าย้ายเมืองหลวงไม่มีเหตุผล เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ สร้างเมืองตัวอย่างลอยน้ำ คาดว่าแล้วเสร็จปี 2013 หรือปี 2555 ทางการนอร์เวย์ย้ายศูนย์บัญชาการทหารลงใต้ดินเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัสเซียสร้างที่หลบภัยใต้ดิน 5,000 จุด เสร็จในปี 2012 นี่คือสิ่งที่แต่ละประเทศเตรียมการไว้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด" ดร.ก้องภพ กล่าวโดยไม่สรุปใด ๆ เพราะต้องการทำหน้าที่ให้ความรู้จากข้อมูล วิทยาศาสตร์ที่ได้ศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนจะเชื่อหรือไม่ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละบุคคล

อย่างไรก็ตาม ดร.ก้องภพ ฝากทิ้งท้ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือภัยพิบัติที่จะมีขนาดความรุนแรงแตกต่างกัน นโยบายของภาครัฐควรเน้นการป้องกันเพื่อลดการสูญเสีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อประชาชนเดือดร้อนมาก อยากให้แก้ที่ต้นเหตุ และใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพตรวจจับสิ่งผิดปกติ มีกระบวนการแจ้งเตือนล่วงหน้า รวมถึงสร้างสถานที่หลบภัย ซ้อมอพยพบนเส้นทางหนีภัย อีกมาตรการหนึ่งที่สำคัญ เป็นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

ส่วนคนทั่วไปต้องเรียนรู้พึ่งพาตัวเอง นอกจากหวังพึ่งรัฐที่อาจช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที เช่น สร้างคลังอาหารสำรองในพื้นที่ ปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงสำรองอาหารและอุปกรณ์ยังชีพที่จะใช้เอาตัวรอดในเหตุฉุกเฉิน 3-5 วัน ระยะยาวเห็นว่าทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์ที่สุด

 

มีความเป็นไปได้ตามข่าวนี้.....สูง ครับ

 

อมตะนครชลบุรี...มืดคลึ้มมากๆถ้าทางจะไม่รอดตกหนักแน่

 

คุณ Falkman อยู่ส่วนไหนของชลบุรีครับ....เดี๋ยวผมแบ่งอาหารฉุกเฉินให้ครับสำหรับ จิตอาสา....นับถือ

 

เลียบคลองสอง รามอินทรา ฝนตกโปรยปราย ท้องฟ้ามืดครื้ม

B5 - War Room Falkman

 

อังกฤษเตือนระวังน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 16:08น



อังกฤษ ประกาศเตือนภัย ระวังน้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่ หลังฝนตกหนักต่อเนื่อง และพายุพัดแรง

สำนักข่าวของอังกฤษ รายงานว่า สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ รายงานว่า ในหลายพื้นที่ของอังกฤษ
และเวลส์ ยังคงมีสภาพอากาศแปรปรวน ฝนตกหนัก และลมแรง ต่อไป ตลอดสุดสัปดาห์นี้ และเตือนภัยระวังน้ำท่วมในระดับสีเหลือง

มีรายงานว่า พื้นที่ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ภาคกลาง และเมืองคัมเบรีย ซึ่งมีอาคารอย่างน้อย 300 หลัง ถูกน้ำท่วมจม ประชาชนกว่า 100 คน ได้อพยพไปอยู่นพื้นที่ปลอดภัยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ลมที่พัดแรงกว่า 135 ก.ม./ช.ม. ทำให้ต้นไม้ เสาไฟฟ้า หักโค่น ทำให้ประชาชนหลายพันคน ไม่มีไฟฟ้าใช้

B5 - War Room Falkman