NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

มนตราแห่งรัก ๔ ประการ

มนตราข้อที่สอง "ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นั่น และฉันมีความสุข".. -Happy Smile_-Happy Smile_

เมื่อเรามองไปที่ดวงจันทร์ เราหายใจเข้าและออก ยาวลึก และพูดกับดวงจันทร์ว่า
"จันทร์เจ้าเอ๋ย ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นั่น และข้ามีความสุขมาก"

เราทำเช่นนี้กับดาวประกายพรึก กับดอกไม้ กับลำธาร กับภูเขา และกับสิ่งต่าง ๆ
อีกมากมายเลย การอยู่ในปัจจุบันอย่างแท้จริง และรู้ว่าผู้อื่นก็อยู่ที่นั่น
ด้วยเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง ยามที่เธอพินิจความงามของตะวันที่กำลังลับขอบฟ้า

หากเธออยู่ที่นั่นอย่างแท้จริง เธอจะจดจำและซึมซาบใจอย่างลึกซึ้ง
มองไปที่ดวงตะวันรู้สึกมีความสุข เมื่อใดก็ตามที่เธออยู่ที่นั่นอย่าง แท้จริง
เธอจะสามารถจดจำและซึมซาบในปัจจุบันกับสรรพสิ่ง กับดวงจันทร์ กับดวงดาว
กับดอกไม้ และกับบุคคลอันเป็นที่รักที่สุดของเธอ

เธอสามารถเริ่มฝึกปฏิบัติได้ด้วยการหายใจเข้าและออกให้ยาวลึก
เมื่อเรียกตัวเธอให้ตื่นขึ้น เมื่อเธอนั่งอยู่ใกล้บุคคลซึ่งเธอรัก และตั้งมั่นตั้งจิตอย่างลึกซึ้ง

เธอจงเปล่งมนตราข้อที่สองนี้ออกมา "ฉันรู้ว่า เธออยู่ที่นั่นและฉันมีความสุข"
เธอมีความสุข และบุคคลที่เธอรักก็จะมีความสุขด้วยในขณะเดียวกัน

ด้วยมนตราเหล่านี้ที่เธอนำมาฝึกในชีวิตประจำวันของเธอ ตัวเธอจะกลายเป็น "นักรัก" อย่างแท้จริง .. _heart+love_

 

มนตราแห่งรัก ๔ ประการ

มนตราข้อที่สาม "ที่รัก ฉันรู้ว่าเธอมีความทุกข์ และนี่คือเหตุผล ที่ฉันอยู่เพื่อเธอ"..:boo:

เมื่อเธอดำรงอยู่ในสติ เธอจะสังเกตเห็นความทุกข์จากคนที่เธอรักได้

ถ้าคนเรามีความทุกข์ และคนที่เรารักมิได้เหลียวแล ความทุกข์ของเรา
เราจะมีความทุกข์มากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นแค่เธอฝึกที่จะหายใจอย่างลึกซึ้ง

แล้วเข้าไปนั่งอยู่กับคนที่เรารักและพูดว่า

"ที่รัก ฉันรู้ว่าเธอเป็นทุกข์
และนี่ก็คือเหตุผลที่ฉันอยู่ที่นี่เพื่อเธอ" แค่นี้

เธอก็จะสามารถช่วยบรรเทาความทุกข์อันมากมายของพวกเขาได้แล้ว
เพียงแค่เธอดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะกับพวกเขาที่นั่น..(sing)


รัก..:boo:

 

มนตราแห่งรัก ๔ ประการ

มนตราข้อที่สี่ "ที่รัก ฉันมีความทุกข์ โปรดช่วยฉันด้วย" .. -Forever + U-

เป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด เราจะปฏิบัติในขณะที่ตัวเราเองมีความทุกข์
และเราเชื่อว่าคนที่เรารักเป็นบุคคลหนึ่งที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์นั้นของเธอ
มนตรานี้คือ

"ที่รัก ฉันมีความทุกข์ โปรดช่วยฉันด้วย"

แม้ว่ามนตราข้อนี้จะเป็น
คำเพียงไม่กี่คำ แต่ผู้คนส่วนใหญ่กลับไม่สามารถเอ่ยคำเหล่านี้ได้ ด้วย อัตตา ทิฐิ
ศักดิ์ศรีในใจของพวกเขา ถ้ามีใครคนอื่นได้พูดหรือทำในสิ่งเดียวกันกับคนที่เธอรัก
เธออาจจะไม่ทุกข์มาก แต่เพราะว่าเขาเป็น คนที่เธอรัก เธอแคร์
เธอจึงรู้สึกเจ็บปวดอย่างมากจนอยากจะปลีกตัวไปจากเขาเสียเพื่อร่ำไห้

แต่ถ้าเธอรักเขาหรือหล่อนจริง ๆ ในขณะที่เธอ เป็นทุกข์เช่นนั้น
เธอควรจะขอความช่วยเหลือจากเขาหรือหล่อน
โดยเธอจะต้องเอาชนะความหยิ่งหรือศักดิ์ศรีของเธอให้ได้เสียก่อน ""..:'( :'(


รัก ..

 

Best Wishes !



รัก ..

 

THE SHOW (โลกมายา)

I'm just a little bit
caught in the middle
Life is a maze
and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone
(I've tried)
and I don't know why

Slow it down
make it stop
or else my heart is going to pop
'cuz it's too much
Yeah, it's a lot
to be something I'm not

I'm a fool
out of love
'cuz I just can't get enough

I'm just a little bit
caught in the middle
Life is a maze
and love is a riddle
I don't know where to go
I can't do it alone
(I've tried)
and I don't know why

I am just a little girl
lost in the moment
I'm so scared
but don't show it
I can't figure it out
it's bringing me down
I know
I've got to let it go
and just enjoy the show

The sun is hot
in the sky
just like a giant spotlight
The people follow the sign
and synchronize in time
It's a joke
Nobody knows
they've got a ticket to that show
Yeah

I'm just a little bit
caught in the middle
Life is a maze
and love is a riddle
I dont know where to go
I can't do it alone
(I've tried)
and I don't know why

I am just a little girl
lost in the moment
I'm so scared
but don't show it
I can't figure it out
it's bringing me down
I know
I've got to let it go
and just enjoy the show

oh oh
Just enjoy the show
oh oh

I'm just a little bit
caught in the middle
life is a maze
and love is a riddle
I dont know where to go
I can't do it alone
(I've tried)
and I don't know why

I am just a little girl
lost in the moment
I'm so scared
but I don't show it
I can't figure it out
it's bringing me down
I know
I've got to let it go
and just enjoy the show

dum de dum
dudum de dum

Just enjoy the show

dum de dum
dudum de dum

Just enjoy the show

I want my money back
I want my money back
I want my money back
Just enjoy the show

I want my money back
I want my money back
I want my money back

ด้วยรัก

 

กด LIke!! ฝันดีราตรีซาหวัดคับลุงป้า พี่ๆสาวๆ น่าร๊กอ่ะ 5555 the show must go on ครับ 5555


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=elsh3J5lJ6g"]Lenka - The Show (New Version) - YouTube[/ame]


-Happy Smile_

 

วอ 1 เรียก วอ 2 ทราบแล้วเปลี่ยน
ลุงลิงหายไปไหนหว่าาา ไม่ยอมมาปล่อยมุขเลย
((((((((((( ลุงลิงงงงงงงงงงงงงงง ))))))))))))
:z17

 

พี่อีโค่....คืนนี้ว่างมะ ^O^

 

วอหาลุงลิงไม่มา ก็แปลว่าว่าง
ว๊างงงง ว่างง มีนัม ทำไรหราาา
จะเชื่อมจิตอ่ะป่าวววว
เค เค รับแซบบ
catt13

 

[/url] [size=x-small]ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย[/size][/IMG]

ฮ่าาาาาาาาาาาาาา อ่ะล้อเล่นขำๆๆๆ เนอะ

 

ก็มาคุยในกระทู้เค้าแล้วนี่เน๊าะ^O^

 

มนตราข้อที่หนึ่ง"ที่รัก ฉันอยู่ที่นี่เพื่อเธอ"
มนตราข้อที่สอง "ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นั่น และฉันมีความสุข"..
มนตราข้อที่สาม "ที่รัก ฉันรู้ว่าเธอมีความทุกข์ และนี่คือเหตุผล ที่ฉันอยู่เพื่อเธอ".
มนตราข้อที่สี่ "ที่รัก ฉันมีความทุกข์ โปรดช่วยฉันด้วย" .

ข้อห้า ก็คนมันรักอ่ะ รักม๊ากมาก ^_^

 

5555 เอาเพลงมาฝากจ๋ คิดถึงสัจจะนะครับ ฮฺฮฺฮฺฮฺ

ก่อนจะนอน คิดถึงกันซักครั้งหนึ่ง Mm..
ยิ่งถ้านอนฝันถึงกัน ก็ยิ่งขอบใจ
ตื่นขึ้นมา คิดถึงอีกซักครั้งหนึ่ง Mmm..
เพียงแต่ใจซึ้ง ถึงคนที่ห่างไกลสายตา
สองเวลาก็พอแล้ว

Mm...

 

หายไปไหนนะ ทักทายครับพี่ป่าน และ ลุงปลง ที่รัก ไปร่ะ นอนหลับฝันดีนะ ผมไปนอนทำตูดหมึก ยาวๆ แระ เจอกันสองเวลาครับ GOOD NIGHT ฮิฮิฮิฮิ ลิ้นห้อยแระ เมี๊ยวๆ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=OyyQ60MFSu4]สองเวลา_ศรัณย่า By:Koy - YouTube[/ame]

 

ความรัก คืออะไร

ท่านเอย ข้าพเจ้าเองต้องขอขอบคุณต่อทุกการสร้างสรรค์ ทุกถ้อยคำ ทุกข้อความ ทุกการช่วยเหลือ ทั้งที่มองเห็น และ มองไม่เห็นตลอดระยะเวลาแห่งการเดินทางเพื่อเสาะแสวงหา หนทางการกลับคืนสู่ "รัก"ของข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก เพราะเราทุก ๆคน ล้วนคือ "ธรรมชาติ" เป็นส่วนหนึ่งของ "ธรรมชาติ" และจะกลับคืนสู่ "ธรรมชาติ" ในที่สุดเหมือนกันทั้งหมด (เราล้วนมีจุดหมายในการกลับสู่แห่งเดียวกันในที่สุดเสมอ)

เวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญว่าใครจะถึงเร็วกว่าใคร หรือ ช้ากว่าใคร เพราะ "ช่วงเวลาที่แท้จริง" ไม่มีจริง เป็นเพียงสมมติ ที่ถูกบัญญัติขึ้นมาใช้ เพื่อก่อให้เกิดการเทียบเวลาให้ตรงกันเท่านั้น (สิ่งที่เราพร้อมใจกันเชื่อ = synchronize in time)

"ช่วงเวลา" แห่งการเดินทางในการกลับคืนสู่ "รักอันปราศจากเงื่อนไข" อันเป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของ "จักรวาล" เปรียบได้แค่เพียง "ขณะจิต" หนึ่ง ๆของจักรวาลเท่านั้น

จักรวาลหรือ ธรรมชาติ คือ ความรักอันปราศจากเงื่อนไข คือ ผู้สร้าง และเราทุกคน ล้วนคือ "ผู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาจากความรักอันปราศจากเงื่อนไขนั้น" เราทุกคนคือจิตวิญญาณที่มาเรียนรู้ในโลกหลายหลายมิติเหล่านี้ เพื่อการมีประสบการณ์ถึงตัวเอง ซึ่งก็คือ "ความรักอันปราศจากเงื่อนไข" และ จบกิจแห่งการแสวงหานั้น

การที่เราจะเรียนรู้ และมีประสบการณ์ถึง "รักอันปราศจากเงื่อนไข" ได้นั้น จักรวาลจำเป็นต้องมีสองขั้วเพื่อความสมดุลย์ในการเรียนรู้ นั่นคืเมื่อมี "รัก" ย่อมมี "กลัว" เมื่อมี "มืด" ย่อมมี "สว่าง" เราทั้งหลายจะเรียนรู้ได้อย่างไร หากปราศจากสองขั้วตรงกันข้ามมาให้เราได้เรียนรู้

ดังนั้น "ทุกขั้ว" ต่างคือ ครู มีความสำคัญมิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เพราะหากขาดขั้วใดขั้วหนึ่งแล้ว การเรียนรู้ทั้งหลายจะเกิดขึ้นไม่ได้

ดังนั้นสำหรับ "จักรวาล" แล้ว ขั้วทั้งสอง (J ผีเสื้อ และ B แมลงวัน) ล้วนเป็นแขนทั้งสองข้างอันสำคัญอย่างยิ่งยวด อีกทั้งยังเป็นดุลยภาพของจักรวาล ซึ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้ตนเอง ของ จักรวาล

ช่วงชีวิตของมนุษย์ ย่อมมี "ความรัก" เกิดขึ้นอยู่อย่างสม่ำเสมอ เพราะทุก ๆ สิ่งที่ปรากฏขึ้นในชีวิต ล้วนคือ "เราทั้งหมด" เพราะมันถูกสร้างจาก "ภาวะจิต" ของเรา

การที่เรามาพบกันได้ หรือ การที่เราได้พบปะกับบุคคลทั้งหลายที่เข้ามาปรากฏขึ้นในชีวิตของเรานั้น นั่นแสดงว่า เราล้วนมีบุพกรรมร่วมกัน หรือ มีเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือการที่จะต้องเรียนรู้ใน "รักอันปราศจากเงื่อนไข" ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของจิตวิญญาณในการมาเกิดภายใต้ "ภาวะทางกายภาพ" เพียงแต่ปัจจุบันขณะนี้ เราปราศจากความเข้าใจว่า ที่แท้จริงแล้ว "เขาคนนั้น" ภายใต้การพบปะกันในตัวตนนี้ ชาตินี้ ล้วนคือ "เรา" ที่ปรากฏในตัวตนอื่นในชาติภพอื่น เพื่อทำให้พันธะสัญญาที่ผูกพันกันไว้ในการเรียนรู้ จบสิ้น และ เกิดการกระทำใหม่ อันเป็นการเรียนรู้ถึงความรักอันปราศจากเงื่อนไข ที่แท้จริง และจบกิจแห่งการเรียนรู้นั้น แต่การจบกิจมักเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะเราไม่รู้จักคำว่า "พอเพียง"

ถ้าอดีต ท่านเคยทำร้ายจิตใจเขา (ซึ่งก็คืนตัวท่านเองในขณะนั้น) โศกเศร้าเสียใจ ด้วยการทอดทิ้ง หรือ ด้วยสาเหตุใดก็ตาม

มาในปัจจุบัน ท่านอาจจะกำลังทำอย่างนั้นเช่นเดียวกันกลับคืนสู่ เขา (ซึ่งก็คือท่านเองแต่ปรากฏในอีกรูปลักษณะหนึ่ง)

ท่านอาจเรียกสิ่งที่ปรากฏนี้ว่า "กฏแห่งการเรียนรู้" หรือ "กฏแห่งกรรม" เพราะธรรมชาติ คือ ความสมดุลย์ หากการเรียนรู้ใดมิใช่ความสมดุลย์ อันเป็นคุณลักษณะสำคัญแห่งจักรวาล สิ่งนั้นย่อมส่งผล ให้เกิดการ "ทำซ้ำ" หรือ "การกลับมาทำใหม่" อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

เหตุใด มนุษย์จึงกล่าวว่า "ความรัก คือ ทุกข์" และ เดินหนีไปจาก "หนทางสู่รัก"

ความรักที่มีพื้นฐานอันตั้งอยู่บน "ความกลัว" และ "ความไม่พอเพียง" ย่อมก่อให้เกิดทุกข์ เพราะ "ความกลัว"ย่อมเกิดจาก "สิ่งที่มีรากฐานมาจากเงื่อนไขใด ๆที่เกิดขึ้นในใจขณะมีรัก" เมื่อรักแล้วต้องการครอบครอง สมหวัง การอยู่ร่วมกันตลอดไป เพราะเงื่อนไขที่บังเกิดขึ้นมีรากฐานมาจากการบันดาลของจิตใจอันมีอัตตา ตัวตน หรือ ความพอใจ ไม่พอใจส่วนตนเป็นที่ตั้ง อีกทั้ง "ความไม่พอเพียง" ในการมีประสบการณ์ล้วนชักนำให้ภาวะจิตสร้างชาติภพในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นภายใต้ความต้องการนั้น

เมื่อสมหวังก็ สุข เมื่อไม่สมหวังก็ ทุกข์
ความรักจึงสร้าง สุขทุกข์ ได้ก็จาก "เงื่อนไข"ที่เกิดขึ้นในใจเราได้ดังนี้

ความรักที่แท้จริงย่อมก่อให้เกิด ความร่าเริงเบิกบาน เพราะไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ให้ต้องคาดหวัง เมื่อไม่ต้องคาดหวังจึงไม่ต้องทุกข์ทรมานอันเกิดจากการไม่สมหวังนั้น ๆ

ความรักที่แท้จริง ยังหมายความถึง "การรักตนเอง" เหตุใดเราจึงกล่าวเช่นนั้น เพราะทุกสรรพชีวิตที่บังเกิดขึ้นในโลก แห่งประสบการณ์ของเรา ล้วนเกิดจากการสร้างของภาวะจิต (มายา) ของตัวเราเอง ทั้งนี้เพื่อการมีประสบการณ์ถึงตนเองโดยเฉพาะ (เรานี่แหละคือผู้สร้าง ที่แท้จริง)

ดังนั้นการรักในทุกสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ในประสบการณ์ตัวเราให้ได้ นั่นก็คือ การเรียนรู้ที่จะรักตนเอง (รักให้ได้มากที่สุด คือ ผู้ชนะ)

ความรัก คือ สิ่งสวยงาม ความรักจะกลายเป็นสิ่งที่เลวร้ายไม่ได้เลย หากเราเรียนรู้ที่จะรักให้เป็น เพราะเมื่อใดทีท่านมี "รัก" ทุกสิ่งในโลกย่อมสวยงาม เราย่อมสนทนากับคนที่เราพบปะได้ด้วยความร่าเริง ทุกอย่างในสายตาย่อมดูสดสวย อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดขึ้นยามมีรัก ย่อมกระจายออกไปส่งผลให้ผู้ที่เราได้พบปะนั้นสัมผัสกับมันได้ และสร้างความเบิกบานใจ ให้กับผู้ที่ได้วิสาสะด้วย เช่นเดียวกัน

โลกมายาแห่งนี้ คือ สนานแม่เหล็ก ภาพมายาที่เกิดขึ้นทั้งหลายล้วนเกิดขึ้นจาก ความรู้สึกนึกคิดอันเป็นมีคุณสมบัติเป็นคลื่นพลังงานและส่งผลให้เกิดภาพในสนามแม่เหล็กนั้น ๆ

ความคิด MAGIC สร้างประสบการณ์ MAGIC
ความคิด MIRACLE สร้างประสบการณ์ MIRACLE

เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนประสบการณ์

เราคือ จิตวิญญาณ ที่สวมแว่นตาหกมิติ รูปร่าง "มนุษย์" เพื่อการเรียนรู้ เรากำลังเดินวนอยู่ใน "ลูกแก้ว" โดยปราศจากการรู้เห็นว่า เรากำลังอยู่กับที่ มีแต่เพียงภาพมายาอันเกิดจากความคิดของเราเท่านั้นที่เกิดขึ้นเพื่อให้เราได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์ทั้งหลายทั้ง MAGIC และ MIRACLE

ในความรัก มิได้จำเป็นที่ทุกคนจะต้องได้อยู่ร่วมกันเสมอไป (นี่เป็นเงื่อนไขที่คนส่วนใหญ่มักจะทุกข์จาก "ความรัก") เพราะในความเป็นจริงแล้ว "เราทุกคนล้วนอยู่ในกันและกันตลอดเวลา" เราล้วนวนอยู่ใน "โลกมายา" ที่ถูกสร้างขึ้นโดยภาวะจิตของตัวเราเอง เพื่อการเรียนรู้

ปัจจุบันขณะทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเรา ล้วนคือ ความสมดุลย์ของทุกชาติภพ ทุกตัวตนอยู่แล้วในขณะนั้น เพราะปัจจุบันขณะของเราทั้งหลายนั้น คือ "จุดตัด" ของ ปัจจุบันขณะของชาติภพอื่น ๆ ตัวตนอื่นๆ ที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมด เพราะทุกชาติภพ ทุกตัวตนล้วนมีเส้นใยบาง ๆ แห่งการเรียนรู้เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด


ด้วยรักไม่เปลี่ยนแปลง

 

รักแล้วรักเลย รักไม่มีเปลี่ยนแปลง รักพลังงานใหม่ รักพลังอิสระ.

 

ยินดีต้อนรับ คุณ Little Duck.
คุณมาครั้งล่าสุดเมื่อ วันนี้ เวลา 02:02 PM..:VO


NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ ..

 

<table id="post5738690" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> &nbsp;20-02-2012, 01:54 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #2888 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> Little Duck
สมาชิก



วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 899
พลังการให้คะแนน: 221


</td> <td class="alt1" id="td_post_5738690" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <table id="post5732161" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 18-02-2012, 09:49 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #2878 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> เราวันนี้
สมาชิก



วันที่สมัคร: Dec 2011
ข้อความ: 9
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_5732161" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> นับเลขพลังงานใหม่ให้เราบ้าง..ขอบคุณครับ
</td></tr></tbody></table>

18-02-2012, = 18+02+20+12 = 52 ENERGY BEGINING
09:49= 09+49 = 58 ENERGY HUMANITY
#2878 = 28+78 = 106 JUSTIFY FUNCTION

เราวันนี้ = TODAY =20+15+4+1+25 = 65 = FREE ENERGY
65 = 11= KEY

NEW ENERGY =14+5+23+5+14+5+18+7+25 = 116 = KEY FREE
1+16 = 17 QUALITY
11+6 = 17 QUALITY
1+1+6 = HUMANITY

65+116 = 181 การเทียบเวลา..
181 = ROTARY AVAILABLE
18+1 = 19 = SUN
1+81 = 82 = HUMANITY BEGINING
1+8+1 = 10 = JUSTIFY

หากดูความหมายของ เราวันนี้ = TODAY จะเห็นได้ว่าหมายถึง FREE ENERGY อันแสดงให้เห็นถึง พลังงานอิสระ และเมื่อดูความหมายของ NEW ENERGY อันหมายถึงพลังงานใหม่ และยังหมายถึง QUALITY และ QUALITY อันหมายถึงการยกระดับ และแสดงให้เห็นภึงการมาเป็นคู่ ความเท่ากัน และยังหมายถึง HUMANITY มนุษยชาติ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนยกระดับปรับพลังงานใหม่ พลังงานอิสระของพลังงานทั้งสองด้านให้เท่ากัน และเมื่อดูผลลัพธ์รวม จะเห็นได้ว่ามีผลลัพธ์เท่ากับ 181 อันหมายถึงการเทียบเวลา.. อันเป็นการเิริ่มต้น การขับเคลื่อนพลังานของทั้งสองพลังงานไปพร้อม โดยมี SUN เป็นกุญแจสำคัญ อันหมายถึงพลังงานบริสุทธิ์ พลังงานจากธรรมชาติ อันเป็นพลังงานอิสระ เพื่อปรับยกระดับพลังงานใหม่ อันเป็นการสร้างสมดุลย์ใ้ห้แก่จักรวาล..



NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ ..


</td></tr></tbody></table>
NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ ..

 

หนทางสู่รัก (WAY BACK INTO LOVE)

แม้หัวใจยังใฝ่สุขสม
อย่าระทม ถึงรักจะไม่ แลเหลียว
รักมอบไป เพียงข้างเดียว
ถึงไร้เสี้ยว รักตอบแทน อันใด

ใคร หากทำได้เช่นนี้
ดุจสวรรค์นั้นบ่งชี้ ทางยิ่งใหญ่
ทุกแห่งหน จรดลอย่างสดใส
เพราะจิตใจกว้างไกล
ใหญ่เหลือ เส้นทาง

แต่รักในใจ ใครจะแลเห็น
ทุกข์ยากลำเค็ญ
ก็ไม่แปรเปลี่ยน เจือจาง
รักลอยไปใจอ้างว้าง
อย่าหลงทาง สร้างความหวัง นำไป

ใคร ที่ใจหักเห
เพราะทุ่มเท ให้รักไป จนล้นใจ
คาดคะเน ผิดพลาดไป
ผลจึงครองหมองใหม้
ไป่ชั่วนิจนิรันดร์
เมื่อฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน
เราบอกรักกัน ไม่มีวันจืดจาง
แล้วเราไย ต้องเหินห่าง
ปล่อยฉันหลงทาง เสาะหารัก หลายปี
ฉัน ต้องหม่นหมาง
หาหนทาง คืนกลับสู่รัก ไม่พบสักที
โปรดเถิดรัก โปรดบ่งชี้
หนทางที่ ครองชีพนี้ รื่นรมย์
โปรดเถิดรัก โปรดบ่งชี้
หนทางที่ ครองชีพนี้ รื่นรมย์

ด้วยรักนิรันดร