NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Little Duck, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    จะถักทอ สายใย คริสตัลลายกริด
    ทุกชีวิต จะสืบสาน ความสดใส
    NEW AGE พรั่งพร้อม ศิวิไลซ์
    ด้วยน้ำใจ ไมตรี มีต่อกัน

    คริสตัลไลน์ สุกสดใส คล้ายบัวแก้ว
    งามเพริศแพร้ว รอไว้ ใช่ความฝัน
    จะถักทอ ด้วยสายใย ใจผูกพัน
    รอวันนั้น วันที่ นกจะบิน
     
  2. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ช่วงนี้ต้องเข้ารับ"พลังงานใหม่" ให้บ่อยๆ เพราะอัตตาผมมันเยอะจริงๆ ผมรู้ตัวครับกำลังกำจัดมันอยู่ มันอยู่กับผมมาตั้งแต่เกิด จะให้ตายง่ายๆยากครับ แต่งานนี้มันต้องตายแน่ๆ ไม่มีอะไรยากถ้าเราตั้งใจและมีสัจจะกับมันจริงๆ ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองครับ เพื่อว่าชาติหน้าสันดานเก่าๆจะไม่กลับมากับผมอีก หวังว่ามันจะเป็นเช่นนั้น
     
  3. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอให้ทุกท่าน นอนหลับ ฝันดี

    จินตวดี
     
  4. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ขอให้ทุกท่าน นอนหลับ
    ฝันดี เช่นกัน


     
  5. Crystal DNA

    Crystal DNA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    586
    ค่าพลัง:
    +530
    หน้า 111 สัญญาณเทพมาแล้ว

    หน้า 111

    ทุกคนมีเทพประจำตัวมาตั้งแต่เกิด
    ได้เวลาที่เราจะติดต่อกับเทพเหล่านั้นได้แล้ว
    เพื่อให้ช่วยเราเข้าสู่ยุคใหม่ ยุคศิวิไลซ์
     
  6. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    ioi ---GOOD NIGHT DEAR FRIENDS--- ค้ะสหาย และพี้ๆ..ราตรีสวัสด้วย "นมัสเต" และเพลงนี้แล้วกันน้าค้า จากเจได(ดีเจ)ค้าสหาย ^_^ สังเกตุจากการพิมพ์เหงมั๊ยค๊ะเจไดคนนี้ก็อัตตราแน่นฮึบเหมือนกันค้ะ ถอดดย้ากยาก ๕๕๕ แต่จะแน่วแน่ แก้ไขในสิ่งที่ยังไม่มีสัจจะค่ะ LET'S GO TO THE SEA LET"S GO SEE THE SUNSHINE
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=3BbrGvsecnU&feature=BFp&list=PL0AAC4C6E07B7AF69&index=1]‪Loves Embrace‬‏ - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  7. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    เป็นอีกแล้ว มันชอบเด๋งสองอัน ioi แถมให้อีกเพลงแล้วกันค่ะ
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Vjld5O5hNKI&feature=related"]‪Angels are amongst us !‬‏ - YouTube[/ame]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ ****

    เป็น สื่อกลาง ระหว่างดวงวิญญาณกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ ****

    เป็น นิยามของการหลุดพ้นทุกข์
    ถ้าไม่มีสัจจะ ก็ไม่มีทางรอดพ้นกรรมไปได้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สัจจะ ****

    เป็น วิธีปฏิบัติของผู้ที่เขาสำเร็จไปแล้วทุกคน
    ตั้งแต่ ดึกดำบรรพ์มาแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กรกฎาคม 2011
  11. kongsin

    kongsin Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +71
    ถัักทอสายใยแห่งรัก
     
  12. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=gtOlT-VvmsI&feature=player_embedded]‪Buddha Amitabha Song‬‏ - YouTube[/ame]

    ราตรีสวัสดิ์.
     
  13. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=DPaHrN7uK-s&feature=related]‪JOSH GROBAN-MI MANCHERAI-(I'LL MISS YOU-TE VOY A EXTRAÑAR)+LYRICS‬‏ - YouTube[/ame]

    หนึ่งเดียวคือทุกสิ่งทุกสิ่งคือหนึ่งเดียว โลกคือทุกสิ่งทุกสิ่งคือโลก

    ้have a good night everybody
     
  14. where?

    where? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +883
    หมั่นขออโหสิกรรมตนเอง

    ให้อภัยทุกๆ การกระทำที่ไม่ดีของตนเอง
    เพื่อเปิดทางให้ตนเองได้ค้นพบความจริงที่จริงแท้
     
  15. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    J&B

    ผมได้พบบทความที่เชื่อว่าสนับสนุนบทความของคุณJINTAWADEE
    เกี่ยวกับเรื่องJ&B หรือพลังบวกและลบ จึงขอนำมาแปะเพื่อสนับสนุนกันครับ
    ที่มา
    http://palungjit.org/threads/โค้งสุ...งการ-ต่อชาวโลก-ของมนุษย์ต่างดาว.220547/page-4

    :cool:
    <TABLE id=post2854897 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> 17-01-2010, 12:16 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #78 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --> [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2854897", true); </SCRIPT>
    ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Aug 2005
    สถานที่: Vietnam
    อายุ: 39
    ข้อความ: 4,246
    พลังการให้คะแนน: 3459 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2854897 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->สรุปใจความสำคัญเรื่องมนุษย์ต่างดาว ที่มีความเกี่ยวข้องกับมนุษย์โลก

    1. อันดับแรก คำว่า "มนุษย์ต่างดาว" นี่ อย่าใช้ครอบคลุมกับสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกทั้งหมดสิครับ
    เพราะมันไม่ใช่แบบนั้นเลย พวกเขาส่วนใหญ่ ที่อยู่ในมิติสูงๆ คือ ตั้งแต่มิติที่ 4 ขึ้นไปแล้วนี่
    ไม่ได้มีกายเนื้ออย่างเราหรอกนะครับ เพราะฉะนั้น คำว่ามนุษย์ต่างดาว จึงไม่น่าจะถูกต้อง
    ท่านจะเรียกว่ามนุษย์ต่างดาวได้ ก็ต่อเมื่อ พวกเขาอยู่ในมิติที่ 3 เหมือนกับเรา

    [​IMG]

    2. พวกเขาบอกว่า ร่างกายของมนุษย์เรา วิวัฒนาการมาจากสิ่งมีชีวิตที่คล้ายลิงในปัจจุบันนี้
    โดยมนุษย์ต่างดาวกลุ่ม Anunnaki (อ่านว่าไงเนี่ย อนันนาคี หรือเปล่า?)

    [​IMG]

    ซึ่งพวกนี้จะเป็นกลุ่มแรกๆที่เดินทางมายังโลก ได้มาช่วยพัฒนา DNA ของพวกเราให้วิวัฒน์สูงขึ้น

    โดยการผสมผสาน DNA ของลิงที่ว่านั่นแหละบางสายพันธุ์ กับ DNA ของพวกเขาเอง
    จากนั้นพวกเขาก็ปกครองพวกเรามาตลอด


    โดยทำให้พวกเราอยู่ในความกลัว เพื่อที่พวกเขาจะได้ใช้กระแสจิตแห่งความหวาดกลัวของพวกเรา
    เป็นพลังงานในการดำรงชีพของพวกเขาเอง ว่างั้นนะ


    อันนี้ก็เชื่อเถอะว่า เขาก็ต้องมีเนื้อหาและรายละเอียดอยู่มากพอสมควร คนเขียนเขาถึงเขียนออกมาเช่นนี้ได้


    ต่อมาก็ได้มีมนุษย์ต่างดาวอีกกลุ่มหนึ่ง มาจากกลุ่มดาวลูกไก่ ที่มาช่วยปรับปรุง DNA ของพวกเราต่ออีก
    ซึ่งในระหว่างนั้น ก็มีการทำสงครามกันระหว่างมนุษย์ต่างดาวต่างกลุ่มกันนี้ด้วยนะ

    และหลังจากนั้น DNA ของมนุษย์ก็ถูกมนุษย์ต่างดาวกลุ่มต่างๆอีกหลายกลุ่ม ลงมาช่วยกันปรับปรุงและพัฒนา
    จนวิวัฒน์มาได้อย่างทุกวันนี้ ทิ้งห่างต้นแบบที่บรรพบุรุษดั้งเดิม คือ Anunnaki ได้สร้างไว้ไปซะไกลโขเลย..

    <!--[if !supportLineBreakNewLine]--> <!--[endif]-->
    ซึ่งถ้าท่านได้อ่านข้อความจากต่างดาวบ่อยๆอย่างผมนี่ ท่านก็จะคุ้นชินกับคำว่า “มนุษย์คือเมล็ดพันธุ์แห่งแสงสว่าง”
    หรืออะไรทำนองนั้น เพราะ DNA ของเรามาจากดวงดาวต่างๆที่วิวัฒน์แล้วหลายๆดวงดาว


    ในแต่ละช่วงของการลงมาปรับ DNA ให้กับมนุษย์เราเป็นระยะๆอยู่นั้น (แต่ละระยะอาจห่างกันเป็นหมื่นเป็นแสนปีหนะนะครับ)
    พวกเขาก็จะคอยจับตาดูวิวัฒนาการของเราอยู่ไม่ห่าง แต่โดยที่พวกเราไม่รู้ตัว
    และไม่เข้าไปสอดแทรกวิวัฒนาการของมนุษย์แต่อย่างใด หากไม่มีบัญชาจากรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง
    ในมิติที่สูงสุด อะไรทำนองนั้น


    ก็คงเหมือนกับการที่พวกเราคอยสังเกตดูพฤติกรรมของลูกสุนัขที่เราเลี้ยงไว้ในบ้านกระมัง
    ถ้ามันอยากจะแทะกระดูก หรืออยากจะฉี่ไว้ตามเสาเพื่อประกาศอาณาเขตของมัน
    หรืออยากจะเดินตามดมตูดกันเพื่อพิสูจน์กลิ่น หรือแม้แต่อยากจะกินขี้ เราก็มิอาจจะไปเปลี่ยนอะไรมันได้
    เพราะนั่นมันเป็นสัญชาตญาณของมัน ใช่ไหมหละครับ


    สรุปว่ารูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างหรือพวกฝ่ายดีนี่ เขาจะไม่มาแทรกแซงวิวัฒนาการของมนุษย์เด็ดขาด
    เพราะนั่นเป็นการผิดกฎจักรวาล นอกเสียจากว่า


    <!--[if !supportLists]-->- มนุษย์เป็นผู้ร้องขอเอง<!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->- ได้รับบัญชามาจากรูปธรรมชีวิตในมิติที่สูงสุด

    และการเฝ้าสังเกตการณ์ของพวกเขานี่ ก็เลยทำให้พวกเราบางกลุ่ม เห็นพวกเขาเป็นพระเจ้าบ้าง
    เป็นเทพบ้าง จนมีตำนานเรื่องพวกนี้มากมาย

    แต่พวกเขาเองก็มี 2 ฝ่าย ซึ่งมาจากหลายๆดวงดาว ที่มีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน

    เช่น ถ้าเป้นฝ่ายมืดหรือฝ่ายมาร ก็อาจจะร้องขอการบวงสรวง หรือสิ่งตอบแทน
    หรือผลประโยชน์บางอย่างจากมนุษย์ อยากให้มนุษย์เคารพนอบน้อมและบูชาตนเองอะไรแบบนั้น
    อันนี้มีตำนานเล่าไว้มากมาย ไปหาอ่านเอาเองนะครับ

    [​IMG]

    ส่วนฝ่ายดีหรือฝ่ายแสงสว่างนั้น เขาจะคอยลงมาสั่งสอนทางที่ดีๆให้กับมนุษย์ประพฤติปฏิบัติเสมอๆ
    เป็นช่วงๆ ต่างยุค ต่างสมัยกันไป เช่น พระเยซูคริสต์ นี่ก็เป็นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงรูปธรรมหนึ่ง
    ที่อาสาลงมาสอนมนุษย์ อันนี้มีข้อมูลกล่าวไว้มากมาย เหมือนเดิมครับ ไปหาอ่านเอาเอง

    ................................
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ร่วมบริจาคโครงการผ้าป่าช่วยชาติกับหลวงตามหาบัวฯ http://www.luangta.com/help/contact.php<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** หนึ่งเดียว ****

    ศาสนศาสตร์...มีเพียงหนึ่งเดียว
    คือ โลกุตตระธรรม ....นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์
    ใช้ ความจริง...ไม่ใช้ ความเห็น
    ปฏิบัติตนด้วย สัจจะ....เอาสัจจะ มาประยุกต์ใช้ใน ชีวิตประจำวัน
    เป็นการ ให้โอกาสตนเอง...หลุดพ้นทุกข์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2011
  17. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    3. จากข้อมูลการสื่อสารของมนุษย์ต่างดาว และรูปธรรมชีวิตในมิติสูงกว่าเรา ที่ผมเคยอ่านมา เช่น

    - จิตรจักรวาล สื่อสารทางโทรจิตมา ถึง อ.ปริญญา ตันสกุล

    - มนุษย์ต่างดาว ที่สื่อสารทางโทรจิตมา ถึง ดร.เทพพนม เมืองแมน
    - ข้อความสื่อสารทางโทรจิต ผ่านมาทางนาย Ivo A.Benda จากสาธารณรัฐเช็ก
    - ข้อความสื่อสาร ทางโทรจิต ผ่านมาทางผู้ที่เป็นร่างสื่อจำนวนมากในประเทศอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา

    ส่วนใหญ่ จะออกแนวๆว่า จักรวาลทั้งหมดนี้ มันไม่ได้เกิดจากสิ่งที่ไร้จิตวิญญาณ บวกกับเหตุบังเอิญ
    อย่างทฤษฎีบิกแบงค์แต่ประการใด แต่ในทางตรงกันข้าม มันเกิดมาจากการออกแบบมาอย่างชาญฉลาดด้วยซ้ำไป

    ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องกล่าวถึงพระผู้สร้างด้วย และก็แน่นอน (อีกครั้งหนึ่ง) ว่ามันขัดแย้งกับทางพุทธเรา
    อันนี้ผมก็รู้แล้วหละ ก็บอกแล้วไง ว่าเรากำลังออกนอกขอบเขตของศาสนาอยู่


    เนื้อหาและรายละเอียดที่ทำให้มนุษย์เรา โดยเฉพาะนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิยุคกลางและยุคใหม่หลายๆคน
    เชื่อเรื่อง “การออกแบบอย่างชาญฉลาด” นี้ มีอยู่มากมายเหลือเกิน ผมจะทิ้งคีย์เวิร์ดไว้ให้ท่านไปสาวต่อเอาเองนะครับ


    <!--[if !supportLists]-->- Sacred geometry<!--[endif]-->

    [​IMG]

    <!--[if !supportLists]-->- Fibonacci numbers<!--[endif]-->

    [​IMG]


    เป็นต้น ซึ่งเริ่มค้นหาอ่านเรื่องอะไรก่อนก็ได้ แล้วมันจะเชื่อมโยงไปถึงกันและกันอย่างมากมายใหญ่โตเลยแหละ
    ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะยกเมฆมาลอยๆเลย ข้อมูลเพียบ



    อ้อ..อันนี้ก็น่าจะเกี่ยวด้วยนะครับ คือ กลศาสตร์ควอนตัม โดยเฉพาะเรื่อง Entanglement
    และเรื่อง Double slits experiment ที่สรุปออกมาแล้วโดยนักวิทยาศาสตร์ยุคของไอสไตน์
    รวมถึงตัวไอสไตน์เองด้วย ว่า “ผู้สังเกต มีอิทธิพลต่อผลการทดลอง”




    <EMBED height=344 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/KYX4ki7y-xI&hl=en_US&fs=1& allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true">

    ซึ่งหมายความว่า กระแสความคิดและจิตของเรา มีผลต่ออนุภาคระดับควอนตัมเสมอ
    แล้วมันแปลว่าอะไรรู้ไหมครับ ตามนัยยะของหนังสือชุด “โนวา อนาลัย”
    (ซึ่งเป็นหนังสือชุดที่ผมอ่านแรกๆแล้วไม่ค่อยอยากจะเชื่อสักเท่าไหร่ ต่อพอยิ่งได้อ่านข้อความสื่อสาร
    จากต่างมิติมากเข้าๆ ก็พบว่ามันสอดคล้องกับที่ อ.โนวา อนาลัย กล่าวไว้หมดเลย...น่าทึ่งมาก – อันนี้แนะนำให้ค้นดู
    และหาอ่านเอาเองนะครับ มีแบบ e-book อ่านฟรีด้วย)

    [​IMG]

    index


    มันก็แปลว่า อนุภาคต่างๆเหล่านี้ มันคิดได้เองของมัน มันมีสติสัมปชัญญะของมัน
    มันรู้ตำแหน่งและหน้าที่ของมัน มันเป็นได้ทั้งอนุภาคและคลื่น มันไม่ขึ้นอยู่กับช่องว่างและกาลเวลา
    ที่เป็นเส้นตรงอย่างที่เรารู้จัก คือมันสามารถไปได้หมด


    แล้วอย่าลืมนะครับว่า อนุภาคที่ว่านี่ คืออนุภาคแค่ระดับควอนตัมที่มนุษย์เราสามารถค้นพบและพิสูจน์ได้เท่านั้นเอง
    แต่อนุภาคที่เล็ก-ละเอียด-และอัศจรรย์กว่านี้ ก็ยังมีอีกเยอะแยะมากมาย อย่างที่ท่าน อ.โนวา อนาลัยกล่าวไว้ว่า

    “นักวิทยาศาสตร์ของเธอ จะค้นพบอนุภาคที่เล็กลงไปเรื่อยๆ จนกว่าพวกเขาจะเสียสติ”

    อนุภาคมูลฐานของสรรพสิ่งที่เล็กที่สุดที่ว่านี้ มันมีอยู่ในทุกสรรพสิ่ง นั่นแปลว่าร่างกายของท่าน
    และทั้งจักรวาลเต็มไปด้วยสิ่งนี้ นี่แหละคือผู้สร้างในอีกแง่มุมหนึ่ง นอกเหนือจากในแง่มุมของ
    รูปธรรมชีวิตในมิติที่สูงสุดหนะนะครับ

    ......................................
    <!-- google_ad_section_end -->
    __________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ร่วมบริจาคโครงการผ้าป่าช่วยชาติกับหลวงตามหาบัวฯ http://www.luangta.com/help/contact.php<!-- google_ad_section_end -->
    ***********************************************************
    4. รูปธรรมชีวิตต่างมิติ บอกว่า การลงมาเกิดในร่างมนุษย์ของพวกเราตั้งแต่ภพชาติแรกๆโน่น
    เราเป็นคนเลือกลงมาเอง เพื่อมาเรียนรู้ และวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของตัวเอง

    เพราะฉะนั้น บทเรียนต่างๆ ที่จะพบจะเจอในชีวิตที่อยู่ในร่างมนุษย์นี้ เราเป็นผู้วางแผนเอาไว้เองทั้งหมด
    ร่วมกันกับคนที่เกี่ยวข้องกับเราทุกคน

    เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่รูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งหลาย ไม่สามารถมาแทรกแซงได้
    เพราะมันจะไปขัดกับบทเรียนที่ตัวเราเองได้เลือกเอาไว้แล้ว และผิดกฎจักรวาลด้วย
    เขาจะช่วยได้บ้างนิดๆหน่อยๆในอันที่จะไม่ไปขัดขวางบทเรียนนั้นๆของเรา



    ตรงนี้ก็อีกนั่นแหละ..ที่ขัดกับทางพุทธเรา..ผมก็จะบอกอีกนั่นแหละ...ว่าอย่าลืม...เรากำลังพูดถึงอะไรกันอยู่


    เพราะฉะนั้น ผมเห็นคุณอะไรนะ (อ้อคุณ WeeWee คนขี้สงสัย) ที่โพสต์ก่อนๆหน้านี้แล้วตัดพ้อต่อว่า
    ว่าหากพวกเขาจะมาช่วยจริงๆ ทำไมปล่อยให้มนุษย์ต้องทุกข์ ต้องยาก ต้องประสบชะตากรรมที่โหดร้าย ฯลฯ


    ผมก็จะตอบว่า ใครจะไปรู้ ว่าชะตากรรมนั้นๆเจ้าตัวเขาเลือกมาเองหรือเปล่า เพื่อที่จะได้มีประสบการณ์นั้นๆ

    แต่คุณก็อาจจะแย้งว่า ใครจะอยากมีชะตากรรมที่โหดร้ายหละ..ผมก็จะตอบว่า เท่าที่ผมได้อ่านมานะ
    นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ จิตวิญญาณบางดวง ต้องการทำงานใหญ่และพิเศษถึงกับยอมทำอะไรที่คาดไม่ถึงมากมาย
    เอาง่ายๆนะ พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ตามนัยของพุทธนั่นหนะ ก็พอจะเป็นตัวอย่างได้บ้าง



    แต่มันก็มีประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวข้องอยู่อีก เช่น ในระดับปรมัตแล้ว กาลเวลามันไม่มีอยู่จริง
    พวกเขาที่อยู่ในมิติสูงๆแล้วนี่ เขาไม่ได้ขึ้นอยู่กับกาลเวลาที่เป็นเส้นตรงอย่างที่เรารู้จักหรอกนะครับ


    เพราะฉะนั้น เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ ที่มันยังไม่เกิดขึ้น และกำลังเกิดขึ้นอยู่ มันได้เกิดขึ้นไปเรียบร้อยแล้ว
    เพราะว่าอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันมีอยู่ เป็นอยู่ พร้อมกันหมด ที่นี่ และเดี๋ยวนี้
    ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงนะ แต่แนะนำให้ไปดู Clip VDO ตอน “Flatland” ของเรื่อง “What the bleep do we know?”

    (ลิงค์วีดีโอ)
    ซึ่งทุกๆเหตุการณ์ มันจะเชื่อมโยงต่อไปถึงเหตุการณ์อื่นๆเสมอ เพราะฉะนั้น เหตุอะไรที่เราเข้าใจ
    และคิดว่ามันร้ายในวันนี้ แต่ท้ายที่สุด มันอาจจะส่งผลดีตามมาก็ได้ เราอาจจะยังมองไม่เห็น แต่พวกเขาเห็น

    และอีกประเด็นหนึ่ง พวกเขารู้อยู่ว่าเรากับเขา ก็มาจากที่เดียวกัน อย่างที่ท่าน อ.โนวา อนาลัย กล่าวว่า

    “เธอไม่ใช่มนุษย์ที่มีจิตวิญญาณ แต่เธอคือจิตวิญญาณที่มาหาประสบการณ์ในร่างมนุษย์”

    เพราะฉะนั้นแล้ว การมาหาประสบการณ์ในชีวิตที่อยู่ในร่างมนุษย์นี้ สำหรับพวกเขาแล้ว
    ไม่ว่าเราจะเลือกประสบการณ์ที่ดีหรือร้าย นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาจะไปตัดสินว่าถูกหรือผิด
    เพราะมันก็แค่ลงมาลองหาประสบการณ์เท่านั้นเอง พวกเขามีแต่จะมาช่วยให้บทเรียนที่เราได้เลือกไว้นั้น
    ให้บรรลุผลตามนั้นเท่านั้นเอง


    5. รูปธรรมชีวิตต่างพิภพหรือต่างมิติที่เป็นฝ่ายแสงสว่าง พวกเขาจะไม่แทรกแซงมนุษย์อย่างที่ผมกล่าวไปแล้ว
    เพราะฉะนั้น ผมมีอะไรที่จะทิ้งไว้ให้พวกท่านได้เก็บเอาไปคิดกันดูนะครับ


    <!--[if !supportLists]-->
    5.1. ถ้าตามเนื้อหาหลักของกระทู้นี้ ที่บอกว่ามนุษย์ต่างดาว ได้เลือกมนุษย์เพื่อปรับ DNA ให้
    โดยที่มนุษย์ผู้นั้นต้องส่งใบสมัครไป
    <!--[endif]-->
    ตามความคิดของผมนะครับ ผมก็เคยอ่านเจออยู่ว่า พวกเขามีศักยภาพนั้นจริง
    และที่ต้องสมัครก่อน ก็อาจจะเป็นเพราะว่า มนุษย์จะต้องร้องขอไปเองก่อน ถึงจะได้ไม่ผิดกฎแห่งจักรวาล


    แต่ผมยังไม่เคยอ่านเจอนะครับว่า มีการใช้วิธีการแบบนี้ด้วย มันดูแปลกๆอยู่นะ เพราะว่า

    <!--[if !supportLists]-->
    5.2. โปรดจงรู้ไว้ว่า มนุษย์ต่างดาว และรูปธรรมชีวิตต่างมิติก็มี 2 ขั้วด้วยนะครับ คือฝ่ายแสงสว่างกับฝ่ายมืด

    (อันนี้ไม่ใช่การ์ตูนนะครับ ผมอ่านมาอย่างนี้จริงๆ ซึ่งถ้าใครจะด่าว่าผมอ่านการ์ตูนมากไปหรือเปล่า ก็ได้นะ
    แต่ผมอยากถามท่านกลับว่า การจะด่าใคร หรือแย้งอะไรกับใครนั่นหนะ ท่านเอาอะไรไปแย้งกับเขา
    มีข้อมูลมากพอหรือยัง หรือใช้แต่อารมณ์ของตนเองเป็นใหญ่)
    <!--[endif]-->

    เพราะฉะนั้น สองฝ่ายนี้ ก็ชิงไหวชิงพริบกันอยู่ ไม่เว้นแต่ละเวลานาที เขาว่านะ เขาว่า..

    ฝ่ายมืดมันจำเป็นต้องบริโภคพลังงานแห่งความกลัวเป็นพลังงานเพื่อยังชีพ เพราะฉะนั้น
    อะไรที่จะทำให้มนุษย์ตกอยู่ในความกลัวได้มากและนานที่สุด พวกมันจะรีบทำทันที และฝ่ายมืดนี่ก็
    ไม่ได้มานั่งสนใจเรื่องกฎของจักรวาลซะด้วยสิ พวกมันดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด มันจึงทำได้ทุกอย่าง


    ส่วนฝ่ายแสงสว่างนั้น ก็คอยขวางและช่วยเหลือมนุษย์แบบลับๆอยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกัน
    เช่น ทำให้ระเบิดนิวเคลียร์ที่มนุษย์โลกผู้ที่ถูกครอบงำด้วยกระแสจิตของฝ่ายมืดผลิตขึ้น ใช้การไม่ได้ เป็นต้น
    ไม่งั้นโลกคงบรรลัยไปนานแล้วหละครับ


    และเขาบอกอีกหนะแหละว่า มีมนุษย์ต่างดาวทั้งสองขั้วนี้ ที่ใช้ชีวิตปะปนอยู่กับมนุษย์ปกติเรา บนโลกของเรานี้มากมาย
    ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ โดยเฉพาะฝ่ายมืด ที่พยายามครอบงำมนุษย์โลกอยู่ทุกยุคทุกสมัย


    และเพราะในยุคพลังงานใหม่นี้ โลกของเราและระบบสุริยจักรวาลของเรา กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ไฟตอนโซน (photon zone)
    ของกาแล็กซี่ทางช้างเผือก ซึ่งมีคลื่นเกลียวแห่งพลังงานด้านบวกหนาแน่นขึ้นทุกขณะๆ
    ซึ่งพลังงานด้านบวกที่ว่านี้ มันก็เข้ากันได้ดีกับระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานแห่งความรักซะด้วยสิ
    และมันจะทำให้ผู้ที่มีจิตใจดีงาม มีรัก มีเมตตากรุณาอยู่เป็นปกติ มีวิวัฒนาการทางด้านจิตวิญญาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
    อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในรอบ 26,000 ปีของโลกมนุษย์


    ส่วนผู้ที่ถูกครอบงำด้วยพลังงานแห่งความมืดทั้งหลาย รวมถึงมนุษย์ต่างดาวฝ่ายมืดเองทั้งหลาย
    ก็กำลังตกอยู่ในภาวะบีบคั้น กระแทก กระหน่ำ โดยพลังงานในโฟตอนโซนนี้อยู่
    เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงกำลังปลดปล่อยความชั่วร้ายทั้งหลาย สำแดงออกมาอย่างเต็มที่
    ก่อนลมหายใจเฮือกสุดท้ายของพวกเขาจะมาถึง นอกเสียจากว่า พวกเขาจะเปลี่ยนจิตใจตัวเอง
    ให้เข้ามาสู่ด้านดีหรือด้านสว่างนี้ได้ทันเวลาเท่านั้น


    นี่ผมกำลังจะบอกว่า มนุษย์ทุกคนบนโลก กำลังอยู่ในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น (Ascension) ไปพร้อมๆกับโลกอยู่

    http://palungjit.org/threads/2012-%...-a.217055/

    เพราะฉะนั้น ท่านอาจจะสังเกตเห็นว่า ยุคนี้ มีวิชชาความรู้ด้านจิตวิญญาณปรากฏขึ้นมากกว่ายุคก่อนๆหลายเท่าตัว

    จิตวิญญาณของชาวโลกมากมาย โหยหา และกระหายใคร่รู้ความเป็นจริงของชีวิต มากกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา
    เพราะได้รับอิทธิพลจากโฟตอนโซนนี้

    และผู้คนมากมายสามารถปฏิบัติจิตได้ก้าวหน้าเร็วขึ้น ผู้ที่ได้อภิญญามีมากขึ้นเรื่อยๆ
    เพราะพลังงานด้านบวกนี้เอื้ออำนวยให้


    และจุดสุดยอดของเรื่องจะเกิดขึ้น เมื่อมาถึงจุดศูนย์ (zero point) ซึ่งเป็นจุดที่โลกจะหยุดหมุน 1 วินาที
    จากนั้นขั้วแม่เหล็กโลกก็จะสลับด้านกัน ตรงนี้แหละ ที่พลังงานจากโฟตอนโซนจะถูกถ่ายเทลงมายังโลกเข้มข้นมากๆ
    จนดึงระดับจิตของผู้ที่ดำรงอยู่ในสภาวะแห่งความดีงามอยู่แล้ว ให้พุ่งพรวดขึ้นไปสู่มิติที่ 5


    ส่วนผู้ที่มีระดับจิตอยู่ในด้านมืด ร่างกายของพวกเขาก็จะทนทานต่อคลื่นพลังงานด้านบวกนี้ไม่ได้
    และจะต้องตายไป เขาบอกมาอย่างนั้นนะครับ


    จุด zero point ที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นในปี 2012 และทำไมโลกถึงจะหยุดหมุนได้ อันนี้มีเนื้อหาเยอะมาก
    ผมจะบอกคีย์เวิร์ดให้ท่านไปค้นต่อเอาเองนะครับ คือ

    <!--[if !supportLists]-->

    - Schumann resonance
    <!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->- Zero point<!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->
    - Gregg Braden

    .........................................

    <!-- google_ad_section_end -->
    5. เพราะว่ายุคแห่งพลังงานใหม่นี้ มันเป็นยุคที่ฝ่ายมืดกำลังพ่ายแพ้ และหมดพลังอำนาจลง
    เพราะฉะนั้น ท่านจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในด้านดีต่างๆกำลังเกิดขึ้นบนโลกอย่างรวดเร็ว
    <!--[endif]-->
    ยุคพลังงานใหม่นี้ เริ่มต้นตั้งแต่การโคจรมาบรรจบกันเป็นรูปสามเหลี่ยมของดาวเคราะห์
    ในระบบสุริยจักรวาลของเราจำนวน 8 ดวง หรือเรียกว่า (Harmonic Convergence) ตั้งแต่ปี 1987


    บางท่านอาจจะยังนึกไม่ออกว่า อะไรที่ดีๆที่ว่านั้น มันคืออะไรบ้าง ทำไมไม่เห็นรู้เลย เอานะ


    <!--[if !supportLists]-->- การล่มสลายของสหภาพโซเวียต ทำให้สงครามนิวเคลียไม่ต้องเกิดตั้งแต่ตอนโน้น<!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->
    - ซัดดัม ฮุดเซน เป็นไงบ้าง<!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->
    - ผู้นำหลายๆประเทศ ที่คอรัปชั่น ฉ้อฉน เป็นไงบ้าง<!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->
    - เกิดสงครามน้อยลง เมื่อเทียบกับประวัติศาสตร์ยุคก่อนๆ ซึ่งไม่มีประเทศไหนเลยที่ไม่รบราฆ่าฟันกัน
    เพียงเพราะเรื่องแย่งชิงอำนาจ หรืออะไรกิ๊กๆก็อกๆกัน รวมถึงไทย จีน พม่า และก็พวกฟรั่งขี้นกทั้งหลาย
    <!--[endif]-->
    <!--[if !supportLists]-->
    - อื่นๆ คอยอ่านในกระทู้ครายออนของคุณ LadyofLight นะครับ<!--[endif]-->

    และเพราะว่าฝ่ายมืดกำลังอยู่ในภาวะจนตรอก ที่ถูกบีบอัดด้วยพลังงานด้านบวกที่ว่านั้น
    นอกจากพวกมันจะกระเสือกกระสนเพื่อรักษาสถานะและอำนาจของตัวเองเอาไว้แล้ว
    พวกมันยังต้องใช้กลยุทธทุกๆวิถีทางที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่ว่านั้น แบบว่าหมาจนตรอก
    และแบบว่าทิ้งทวนว่างั้นเถอะ ซึ่งกลยุทธที่ว่านี่ ก็ เช่น


    <!--[if !supportLists]-->- สื่อสารทางโทรจิตลงมาหาผู้ที่ปฏิบัติจิตบางคนบนโลก ที่กำลัง “หลง” อยู่ คำว่าหลงที่ว่านี่ก็เช่น
    หลงคิดว่าตัวเองวิเศษกว่าคนอื่น เป็นต้น ซึ่งคนประเภทนี้มีอยู่ในวงการผู้ปฏิบัติจิตทั่วโลกนั่นแหละ
    อันนี้ก็จะถูกพวกมารเหล่านี้เอาไปใช้เป็นเครื่องมือ โดยพวกมารก็จะเสแสร้งว่าเป็นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงๆ
    ที่เป็นที่รู้จักกันดีของชาวโลก เช่น เทพชั้นสูงต่างๆ

    ดังนั้น ก็ไม่ใช่ว่าทุกๆข้อความที่สื่อสารมาจากนอกโลกนั้นจะเชื่อถือได้หมดหรอกนะครับ มันมีทั้งจริงทั้งหลอกเยอะแยะไป
    <!--[endif]-->

    <!--[if !supportLists]-->
    - ข้อความที่พวกมารเหล่านี้ปลอมตัวสวมรอยสื่อสารมา มันก็จะอ้างข้อเท็จจริงเป็นพื้นฐาน

    เช่น ปี 2012 ก็จะมีเหตุการณ์พิเศษเกิดขึ้นจริงๆกับโลกและระบบสุริยจักรวาลของเรา
    เพราะว่าเรากำลังอยู่ในโฟตอนโซนนั่นเอง แต่ว่าพวกมันก็จะสอดแทรกสิ่งที่มันต้องการลงไปด้วย อย่างมากมาย

    เช่น เพราะว่ามันต้องการกระแสจิตแห่งความหวาดกลัว หวั่นวิตก และประหวั่นพรั่นพรึงของเรา
    ข่าวสารที่พวกมันสื่อมา ก็จะออกแนวๆด้านลบเป็นส่วนมาก เช่น จะเกิดเหตุ เภท ภัย ครั้งใหญ่หลวง จะเกิดวันสิ้นโลก
    จะเกิดอะไรต่ออะไรที่จะเป็นการล้างเผ่าพันธุ์มนุษยชาติออกไปจากโลก เป็นต้น

    นั่นหละ จงรู้และจับสังเกตดูให้ดี ใครที่เน้นแต่จะแพร่กระจายข่าวอะไรทำนองนี้อยู่เนืองๆ

    ท่านกำลังตกเป็นเครื่องมือของมารแล้ว โดยไม่รู้ตัว

    ผมรวมถึงบางข้อความที่สื่อมาจากต่างมิติ ที่ผมเอามาโพสต์ไว้แล้วในกระทู้ “การเตรียมการฯ”ของผมด้วย
    มันก็มีบ้างที่อาจจะมาจากฝ่ายมืดหรือฝ่ายมารเหล่านี้ จงใช้วิจารณญาณให้ดี จงใช้วิจารณญาณให้ดี


    <!--[if !supportLists]-->- ในข้อเท็จจริงเดียวกันนี้ แน่นอนว่าการปรับตัวของโลกมันก็ต้องมีบ้าง การตายของผู้คนอาจจะต้องมีบ้าง
    เพราะว่าผู้คนเหล่านั้นเขาได้วางแผน และเลือกเอาไว้แล้วว่าเขาจะมาตายในสถานการณ์ไหน

    (อีกครั้งหนึ่งนะครับ ว่า ผมรู้แล้ว..ว่าพุทธเราไม่ได้สอนแบบนี้ แต่นี่คือสิ่งที่มาจากต่างมิติและอยู่นอกขอบเขตของศาสนา –
    ถ้าพูดถึงตรงนี้ หลายคนคงติดใจว่า อ้าว..ถ้านอกขอบเขตของศาสนาจริงทำไมถึงกล่าวถึงพระเจ้า
    หรือพระผู้สร้างเต็มไปหมดเลย – ผมก็จะตอบว่า ก็พวกเขาเชื่อกันอย่างนั้น และถ้าอ่านให้มากๆจะรู้ว่า
    พวกเขารู้เรื่องการเวียนว่ายตายเกิด กฎแห่งกรรม และอื่นๆมากมายด้วยนะ ซึ่งศาสนาคริสต์และอิสลาม
    ไม่ได้สอนเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดนะครับ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวคริสต์ชั้นหัวกะทิมากมายเหลือเกิน
    ที่ยอมรับเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดมานานแล้ว เพราะจำนนด้วยหลักฐานและอื่นๆ ..
    อ๊ะ..อันนี้ก็จะยาวและไปไกลอีกแล้ว พอแค่นี้ก่อนนะครับ)
    <!--[endif]-->

    เรื่องเดียวกันนี้ ฝ่ายสว่างเขาจะไม่พูดถึงในด้านลบมากนัก เขาจะเน้นด้านบวกมากกว่า
    เช่น เขาจะบอกว่าปี 2012 มันเป็นปีแห่งการยกระดับขึ้นไปสู่มิติที่ 5 ซึ่งสภาวะความเป็นอยู่ ร่างกาย
    และจิตวิญญาณของมนุษย์ทุกๆคนที่เลือกที่จะยกระดับขึ้น ก็จะถูกยกระดับขึ้นโดยธรรมชาติ
    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวเราเองก็ต้องมีการเตรียมตัวเองให้พร้อมด้วย คือต้องกำจัดพฤติกรรมด้านลบ อารมณ์ด้านลบ
    และทัศนคติและความคิดในด้านลบออกไปให้มากที่สุด ไม่งั้นจะผ่านเข้าสู่มิติที่สูงขึ้นไม่ได้

    เน้นนะครับว่า เราต้องเป็นผู้เลือกเอง ว่าเราจะเอายังไง พวกเขาไม่อาจจะมาบังคับอะไรเราได้
    เพราะดาวเคราะห์โลกของเรา คือดาวเคราะห์แห่งทางเลือกเสรี

    มนุษย์ต่างดาวเผ่าพันธุ์ใดก้ตามแต่ ที่ใช้วิธีบังคับขู่เข็ญให้กลัว หรืออื่นๆ อันเป้นการละเมิดต่อ
    อิสรภาพแห่งความปราถนาของมนุษย์เราแล้ว ท่านโปรดใช้วิจารณญาณให้จงหนัก สำหรับมนุษยืต่างดาวกลุ่มนั้น

    เพราะนั่น อาจจะไม่ใช่ฝ่ายแสงสว่างแล้วหละ

    .....................................
    <!-- google_ad_section_end -->

    7. พลังงานแห่งความกลัวของมนุษย์ มันเป็นกระแสพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนหยาบที่สุด


    ส่วนพลังงานแห่งความรักและเมตตาของมนุษย์ คือพลังงานที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงที่สุด


    ทำไมถึงรู้หละใช่ไหมครับ อันนี้ผมก็ยังค้นไม่ละเอียด แต่คิดว่ามันต้องมีข้อมูลที่พิสูจน์ได้อยู่แน่นอน

    เพียงแต่ผมยังอ่านไม่หมดเท่านั้นเอง แต่ในตอนนี้ผมว่า ผมก็พอจะเทียบเคียงอะไรให้ท่านพอนึกออกได้อยู่นะครับ ลองคิดตามผมดูนะ

    - ท่านรู้ใช่ไหม๊ ว่าคลื่นสมองของมนุษย์เรา เราสามารถวัดมันเป็นค่าออกมาได้

    - ท่านรู้ใช่ไหม๊ ว่ารังสีออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างกายของมนุษย์เรานั้น มันสามารถถ่ายภาพออกมาดูได้

    - ท่านรู้ใช่ไหม๊ ว่ารังสีออร่าที่เปล่งออกมาจากร่างกายของมนุษย์เรานั้น มันมีหลายสี และสามารถเปลี่ยนแปลงได้

    ขึ้นอยู่กับสภาวะอารมณ์ในแต่ละขณะของเรา

    - ท่านรู้ใช่ไหม๊ ว่าคลื่นความถี่ของแสงสีแต่ละสี มีค่าต่างๆกัน แสงสีแดงมีค่าความถี่ต่ำสุด สีม่วงมีค่าความถี่สูงสุด

    (อันนี้เฉพาะช่วงคลื่นที่ตามนุษย์สามารถมองเห็นได้นะครับ)

    พอจะได้ไอเดีย เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างอารมณ์ของมนุษย์กับระดับคลื่นความถี่บ้างไหมครับ

    แต่ตัวอย่างที่ผมยกมานี่ ข้อมูลจริงๆไม่รู้จะใช่ตามนี้หรือเปล่านะ เอาเป็นว่าเทียบเคียงให้ฟังไปก่อนหนะนะครับ

    พลังงานแห่งความรัก กับพลังงานแห่งความกลัว มันเป็นสิ่งที่อยู่คนละขั้วกัน ถ้ามนุษย์คนไหนถูกครอบงำด้วยความกลัว

    แสงสว่างแห่งความรักก็จะแทรกซึมเข้ามาในจิตใจได้ยาก และสิ่งไม่ดีทั้งหลายที่เป็นด้านมืดด้วยกัน

    มันก็จะหลั่งไหลมาหาเพื่อนมัน ตามกฎแห่งการดึงดูดที่ว่า สิ่งที่เหมือนกัน มันจะดึงดูดซึ่งกันและกัน

    เพราะฉะนั้น พวกเขาถึงเน้นให้เราเตรียมตัวให้พร้อม อย่าถูกครอบงำโดยฝ่ายมืดอีก


    - จงมีทัศนคติต่อตนเอง และต่อผู้อื่นในด้านบวก

    - จงเปลี่ยนพฤติกรรมและทุกสิ่งทุกอย่างมาสู่ด้านบวก
    - จงรักผู้อื่นเสมือนรักตนเอง
    - ฯลฯ


    ........................................................<!-- google_ad_section_end -->
    • "ทุกสรรพสิ่งล้วนเป็นหนึ่งเดียวกัน" คำนี้เป็นคำที่พบได้ทั่วไป และจากทุกๆรูปธรรมชีวิตต่างมิติที่สื่อสารทางจิตมา
    • เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีพื้นฐานมาจากแหล่งพลังงานเดียวกัน
    และรวมถึง ในระดับจิตวิญญาณซึ่งเป็นพลังงานแล้วนี่ พลังงานมันไม่สามารถแบ่งแยกออกเป็นกลุ่มก้อนได้
    มันสามารถแทรกซึม-ถ่ายเทข้อมูลข่าวสารไปสู่กันและกันได้

    เพราะฉะนั้น ทุกสรรพสิ่งจึงเป็นหนึ่งเดียวกัน จึงเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักไว้ เพื่อที่จะได้มองเห็นคุณค่าของคนอื่น
    เสมอเหมือนคุณค่าของตัวเราเอง

    จงรักคนอื่นเสมอเหมือนกับรักตนเอง โดยปราศจากเงื่อนไข


    ความแบ่งแยก ว่านี่เป็นเขา นี่เป็นเรา เป็นเพียงมายาการของมิติที่ 3 นี้เท่านั้นเอง

    มีข้อเท็จจริง และสัจธรรมมากมาย ที่ผู้ที่อยู่ในมิติที่ต่ำกว่า ไม่สามารถจะเข้าใจผู้ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าได้เลย

    แม้แต่รูปธรรมชีวิตต่างมิติ ที่อยู่ในมิติที่ 6 ก็ยังไม่สามารถเข้าใจรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติที่ 7 ได้เลย

    จะนับประสาอะไรกับมนุษย์เรา ซึ่งอยู่ในมิติที่ 3 จะอาจเอื้อมไปเข้าใจผู้ที่อยู่ในมิติที่ 5 และ 6 และ 7 ได้

    พวกเขาบอกว่า "มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะเข้าใจ" ไม่ใช่แค่ว่า มันมีโอกาสน้อยมากที่เธอจะเข้าใจนะครับ

    แต่ "มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เธอจะเข้าใจ"
    <!-- google_ad_section_end -->

     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    <TABLE id=post4926318 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 12:12 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #4209 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4926318", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,912
    พลังการให้คะแนน: 5135 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4926318 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** หมดยุคเก่าแล้ว เรากำลังเข้ายุคใหม่ ****

    เหตุ...เพราะนิสัย ไม่เอาสัจจะ
    นับวัน กรรมจึงทวีคูณ

    สรุปการปฏิบัติ ....
    สัจจะ คือ แก่นสาร นอกนั้นไม่ใช่แก่นสาร

    เรื่องราว โลกุตตระธรรม
    เรื่องของสัจจะ...ใครทำไม่ได้ ก็ไปไม่รอด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** นิสัยสัตว์โลก ****

    + .......:....... -
    บวก .....:..... ลบ
    ขาว .....:.......ดำ
    สว่าง ....:...... มืด
    ดี.........:...... ชั่ว
    เทพ......:...... มาร

    ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหน พวกไหน ด้านไหน
    ก็ยังไม่สามารถ หลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้
    เพราะ ตรงข้ามกัน จึงต้องตอบโต้กันอยู่

    จะหลุดพ้นทุกข์ได้
    จึงต้องยืนอยู่เหนือนิสัยสัตว์โลก ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด
    ไม่ตกเป็นทาสของผู้อื่น ด้วยประการทั้งปวง

    จะทำได้จริง ก็ต้องยึดถือเป็นสัจจะ
    ถ้าขาดสัจจะ ก็คือ ทำไม่ได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  20. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,682
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** ศาสนศาสตร์ ****

    ศาสนาคริสตร์ ศาสนาอิสลาม ....เป็นศาสนาสังคม
    อยู่รวมกัน รักกัน มีสะสม
    แต่ยังไม่พ้นเรื่องอารมณ์

    ศาสนาพุทธ ... เป็นศาสนา เพื่อพ้นทุกข์ มุ่งหลุดพ้นโลก การเวียนว่ายตายเกิด
    จึงต้องแยกตัวเองออก เป็นอิสระ มีแต่ตัดลดสาหะออกไป

    ศาสนาพุทธ...ดั้งเดิม แท้จริง สมัยพุทธกาล
    ใช้ หลักโลกุตตระธรรม
    เรียนรู้ ความหมายของสัจจะธรรม
    นำ สัจจะมาตัดลดสิ่งต่างๆ พันธนาการต่างๆ
    ระหว่าง วิญญาณ กับ โลก

    เมื่อ หมดพันธะ หมดอารมณ์ ทั้งชอบและไม่ชอบ
    ก็หมดแรงดึงดูด ระหว่างดวงวิญญาณ กับโลก
    เมื่อตายไป ก็ละสังขาร ดินน้ำลมไฟ
    ดวงวิญญาณ จึงหลุดพ้นไปจากโลกได้
    โดยมี ตัวกระทำจากสัจจะที่ทำได้
    นำพาไปสู่นิพพาน คือ ถึงที่สุด เข้าถึงที่สุด
    เสมือนเป็นอาณาจักรของผู้ทำได้ ผู้ที่เขาสำเร็จไปแล้ว

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...