K ** ^___^ 1010 ศึกษาก่อนสะสม พระดีมีอนาคต

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ก๋ง สุญญตา, 27 มกราคม 2013.

  1. Torami

    Torami Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +91
    อ.ก๋ง...ช่วยแนะนำพระให้หน่อยได้มั๊ยค๊ะ ที่ช่วยเรื่องค้าขาย-เจรจาธุรกิจ
    ให้ผู้ใหญ่เอ็นดู ให้ลูกค้ามาซื้อของดี และทำให้ลูกหนี้ใจอ่อนยอมจ่ายเงิน
    .....ขอบคุณมากๆค่ะ
     
  2. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล เกิดในสกุล“ศรีสงคราม”หรือ “แก้วปักปิ่น” ถือกำเนิดเมื่อ วันพฤหัสบดี เดือน5 ปีชวด พ.ศ. 2437 ณ บ้านจาน อ.กันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดาชื่อ"ดี" มารดาชื่อ"อั๊ว " มีอาชีพทำไร่ทำนา เป็นเด็กยากจน แต่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ต่อมาบิดามารดาเห็นแววทางด้านพระพุทธศาสนา จึงให้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 14 ปี และนำไปฝากกับพระอาจารย์สีดาเจ้าอาวาสวัดบ้านจาน ซึ่งเป็นพระที่เชี่ยวชาญด้านกรรมฐานและมีวิชาอาคมที่เก่งมาก ในปี 2460 ขณะอายุได้ 23 ปีได้เข้าอุปสมบทหมู่จำนวน 9 รูป โดยหลวงปู่เป็นรูปที่ 9 โดยมีโยมลุงของท่านเป็นเจ้าภาพ โดยมีหลวงพ่อสีดาเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อเพ็งเป็นพระอนุสาวนาจารย์ และหลวงพ่อผุยเป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับรับฉายาว่า " ฐิตสีโล " แปลว่า " ผู้มีศีลตั้งมั่น " จากนั้นได้ศึกษาวิชาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ในแถบนั้นเป็นเวลา 4 ปี ก่อนออกแสวงหาครูบาอาจารย์อื่นๆ เพื่อศึกษาคันธธุระและวิปัสสนาธุระในชั้นที่สูงๆ ขึ้นไป

    ปี พ.ศ.2464 หลวงปู่หมุน เริ่มออกศึกษาแสวงหาประสบการณ์โดยได้ร่ำเรียนทั้งเวทย์วิทยา และสมถกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายสำนัก การเดินทางในสมัยนั้นเป็นที่ลำบากยากเย็น ต้องเดินเท้าเปล่าผจญภัยจากผีป่า หรือสัตว์ร้ายนานัปการ แต่หลวงปู่มิได้ย่อท้อ ได้เดินทางไปศึกษาวิชาอาคมที่ สำนักตักศิลาแห่งบ้านจิกใหญ่ อ.พิบูลมังสาหาร จังหวัด อุบลราชธานี กระทั่งศึกษาคัมภีร์มหาพุทธาคม อันเป็นแม่บทของคัมภีร์ปถมัง คัมภีร์อิทธิเจ คัมภีร์มหาราช คัมภีร์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นพื้นฐานแห่งอำนาจจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำราพิชัยสงคราม เช่น คัมภีร์นิติประกาศิต คัมภีร์ธนูรเวทว่าด้วยการแต่งเครื่องครอบมนตร์ในสงคราม เป็นต้น

    ในช่วงปี 2475-2482 เมื่อหลวงปู่สำเร็จการศึกษาวิชาการต่าง ๆ ก็เก็บบริขารออกธุดงค์ป่าผ่านถิ่นทุรกันดารในชนบทโดยเท้าเปล่ามายังกรุงเทพ ฯ ในระยะแรกหลวงปู่เข้าพักที่ วัดเทพธิดาราม เป็นการชั่วคราว โดยมีครูทองอินทร์ เป็นครูสอนของวัดเทพธิดาราม เป็นผู้เอื้อเฟื้อจัดหาที่พำนักให้ ท่านได้ให้หลวงปู่อยู่ที่วัดวัดอรุณราชวราราม พำนักอยู่กับพระพิมลธรรม(นาค) ศิษย์สายสมเด็จพระสังฆราชแพ โอกาสนี้หลวงปู่ได้ร่ำเรียนวิชาคัมภีร์มูลกัจจายน์สูตร ซึ่งเป็นหลักสูตรโบราณอันเก่าแก่ของคณะสงฆ์ไทยที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน เป็นตำราที่ละเอียดลึกซึ้ง แตกฉานพระบาลีว่าด้วยคัมภีร์อรรถกถายากยิ่งที่จะมีผู้เรียนได้สำเร็จ ปัจจุบันวิชานี้ได้ยกเลิกไปแล้ว

    หลวงปู่หมุนได้เข้าสอบวิชามูลกัจ จายน์ นั้น ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งการสอบในสมัยนั้นมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธาน และสมเด็จพระสังฆราช(แพ) เป็นประธานกรรมการฝ่ายสงฆ์ และพระเถราจารย์เป็นผู้ทดสอบด้วย โดยมีการถามตอบแบบมุขปาฐะ (ปากเปล่า) ถ้าถามตอบบาลีผิดเกิน 3 คำ ให้ปรับเป็นตกทันที ด้วยความรู้ความสามารถที่แตกฉานในคัมภีร์หลวงปู่สามารถสอบได้เปรียญธรรมถึง 5 ประโยคในคราวเดียวเท่านั้น หลัง จากนั้นหลวงปู่ได้ใช้วิชาความรู้อย่างคุ้มค่า โดยได้เป็นครูสอนมูลกัจจายน์อยู่ที่วัดหงส์รัตนาราม (ฝั่งธนบุรี) เป็นเวลานานหลายปี มีลูกศิษย์มากมาย นอกจากนี้ในช่วงหนึ่งหลวงปู่มาพักกับสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่วัดสุทัศน์ฯ และได้ศึกษาวิชาบางอย่างกับสมเด็จพระสังฆราชแพอีกด้วย

    จากนั้นก็เก็บ บริขารเดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์ทองดี ที่มาจาก อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ธุดงค์ ไปทางภาคเหนือเข้าเขตพม่าเป็นเวลา 1 ปี จากนั้นก็เดินเท้าเปล่าลงภาคใต้ไปพำนักกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ เพื่อปฎิบัติกรรมฐานและแลกเปลี่ยนวิชาอาถรรพณ์เวทมนต์กับพระอาจารย์ทิมอยู่ ประมาณปีกว่า ๆ ก่อนธุดงค์เข้าเขตประเทศมาเลเซีย เพื่อจะเรียนวิชากับพ่อท่านครน วัดบางแซะ ใช้เวลาธุดงค์อยู่ถึง 7 วัน แต่ไม่พบจึงตัดสินใจกลับวัดช้างให้

    ต่อจากนั้นก็ได้เรียนวิชาจาก พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช โดยได้ของที่ระลึกจากพ่อท่านคล้ายคือ ชานหมากเม็ดใหญ่เป็นที่ระลึก จากนั้นก็เดินธุดงค์เรื่อยมาจนกลับสู่เขตอีสานอีกครั้งและได้พบกับหลวงปู่สี ฉันทสิริ ในป่าแถบ จังหวัดหนองคาย และได้ วิชาลบผงสีจากหลวงปู่สี ซึ่งได้รับสืบทอดมาจากสมเด็จพุฒาจารย์โต วัดระฆังโฆษิตาราม

    ช่วงที่ท่านธุดงค์แถบอุบลราชธานีได้พบกับ หลวงปู่มั่น และขอเรียนข้อวัตรปฏิบัติในพระกรรมฐาน แต่ไม่ได้ร่วมคณะธุดงค์ เพราะท่านอยู่มหานิกาย หลวงปู่เคยเล่าประวัติในช่วงธุดงค์ให้กับพระภิกษุที่เป็นหลานของท่านว่า เคยได้เป็นศิษย์หลวงปู่มั่นอยู่พักหนึ่ง ในช่วงที่หลวงปู่ต้องการเจริญสมณธรรม เป็นธรรมอันล้ำลึกยากยิ่งที่ผู้ที่ยังเข้าไม่ถึงจะล่วงรู้ถึงอารมณ์ของ วิปัสสนานี้ได้ หลวงปู่หมุนได้อยู่ปรนนิบัติรับใช้พระอาจารย์มั่นอยู่ระยะหนึ่งแล้วก็แสวงหา ความวิเวก เพื่อประพฤติปฏิบัติต่อไป จนกระทั่งหลวงปู่แตกฉาน เชี่ยวชาญ ครั้งนั้นหลวงปู่หมุนได้ศึกษาธรรมจนที่สหธรรมมิกที่เป็นศิษย์ของหลวงปู่มั่น รู้จักสนิทสนมกับหลวงปู่ทุกองค์ เช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ เป็นต้น

    ในตอนที่หลวงปู่หมุนไปกราบนมัสการ หลวงปู่มั่น ท่ามกลางศิษย์สายกองทัพธรรม ในขณะสนทนาธรรมหลวงปู่มั่นได้ปรารภกับหลวงปู่หมุนว่า "ท่านหมุน ท่านเก่งพอตัวอยู่แล้ว หากไม่เจอกันหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับปริยัติ ปฏิบัติ และปฎิเวธ ให้สอบถามท่านแหวนได้ เพราะเขาเก่งมาก"

    หลวงปู่มั่นได้มอบของที่ระลึกให้หลวงปู่หมุน 2 อย่าง คือ แผ่นจารอักขระใบลาน ม้วนเป็นลูกอมกลมๆ เขียนเป็นภาษาขอมว่า เย ธมมา เหตุปภวา ฯลฯ เป็นต้น และธนบัตรรัชกาลที่ 8 พร้อมลายเซ็นหลวงปู่มั่น ภายหลังหลวงปู่ได้มอบให้โยมแม่ท่านไป ต่อมาหลวงปู่มีความกังขาสงสัยในกัมมัฏฐานในเรื่องของ จตุธาตุวัฏฐาน ซึ่งเป็นเรื่องของการปฏิบัติในธาตุทั้ง 4 เป็นมูลฐานของอิทธิปาฏิหาริย์ต่าง ๆ จึงได้เดินทางไปกราบของความรู้เพิ่มเติมจาก หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ก็ได้รับความกระจ่าง จากนั้นก็ธุดงค์ต่อไป ท่านยังได้ร่ำเรียนวิชาจาก พระอาจารย์สิงห์ วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา

    ต่อมาไม่นาน ก็ได้ร่ำเรียนวิชามีดหมอมหาปราบจากหลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว และหลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์หลวง ซึ่งวิชานี้หลวงพ่อเดิม พุทธสโร วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ก็เรียนจากหลวงพ่อขำและหลวงพ่อเงิน เช่นกัน นอกจากนี้ในช่วงที่หลวงปู่ธุดงค์มาสู่ภาคตะวันออกแถบจันทบุรี ท่านได้พำนักอยู่กับ หลวงพ่อสอน วัดเสิงสาง กระทั่งหลวงพ่อสอนไว้ใจให้วิชาอาคมและครอบครูให้กับหลวงปู่

    หลวงปู่หมุน นับเป็นหนึ่งในทายาทผู้สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุนแห่งนครจำปา ศักดิ์ราชอาณาจักรลาวที่ยังดำรงขันธ์อยู่ในปัจจุบัน โดยสมเด็จลุนเป็นที่เลื่องลือในคุณธรรมและอภิญญาอภินิหารอาทิ สามารถเดินบนน้ำได้ ย่นระยะทางได้ แปลงร่างได้ เดินทะลุภูเขาได้กล่าวกันว่าภิกษุสงฆ์ยุคก่อนโน้นต่างดั้นด้นสืบเสาะหา สมเด็จลุน (สำเร็จลุน) เพื่อฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษามหาวิทยาคม ตลอดจนวิปัสสนากรรมฐาน หลวงปู่หมุนเองก็ดั้นด้นธุดงค์ผ่านอุบลราชธานีเข้าประเทศลาวเพื่อสืบเสาะสม เด็จลุน แต่ไม่พบ แล้วมาพักอยู่กับหลายพ่อมหาเพ็ง วัดลำดวน ในช่วงนั้นหลวงปู่ได้ใช้เวลาค้นคว้าศึกษาพระไตรปิฏก ในเรื่องพระวินัยปิฏก และพระอภิธรรม ซึ่งเป็นพระคัมภีร์ที่กล่าวถึงการเจริญกัมฏฐานล้วนๆ ประมาณ 2 เดือนกว่า แล้วก็ออกธุดงค์กลับสู่ประเทศไทยเข้ากรุงเทพฯ มาพักนักที่วัดหงส์รัตนาราม

    ต่อมาธุดงค์ไปทางอีสานเข้าสู่ประเทศลาวอีก หลายครั้ง จนกระทั่งท่านมีอายุ 30 ปีกว่าแล้ว คราวนั้นหลวงปู่ได้พบกับฆราวาสชื่ออาจารย์ฉันท์ ซึ่งมีศักดิ์เป็นเหลนของสมเด็จลุน ที่จังหวัดนครพนม โดยเรียนวิชาจากอาจารย์ฉันท์จนหมดภูมิแล้ว อาจารย์ท่านจึงได้แนะนำฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่ดำเหลนของสมเด็จลุนปรมาจารย์ ใหญ่ที่สืบสายเวทวิทยาพุทธาคมในสายสมเด็จลุน

    ในการฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงปู่ดำนั้น มีกฎเกณฑ์รายละเอียดมากทั้งยังต้องทดสอบภูมิปัญญา และอำนาจของกระแสจิตที่ต้องเข้มแข็งพอที่จะเรียนวิชาของท่านได้ ในรุ่นที่หลวงปู่ฝากตัวเป็นศิษย์นั้นมีมากกว่า 50 รูป แต่หลวงปู่ดำท่านทดสอบวิชา แล้วคัดออกจนเหลือแค่ 3 รูป มีหลวงปู่หมุน หลวงพ่อสงฆ์ (วัดม่วง ลพบุรี) และอีกรูปหลวงปู่ลืมชื่อไปแล้ว

    สำหรับพิธีครอบครูของหลวงปู่ดำนั้นมีของยกครูที่หลวงปู่จำได้อย่างแม่นยำคือ 1.ผ้าไตรจีวร 2.บาตร 3.ทองคำหนัก 10 บาท (สำหรับทองคำ จะคืนให้เมื่อเรียนจบ) และมีข้อห้ามประการสำคัญอีกคือ ห้ามสึกตลอดชีวิต ถ้าสึกไปชีวิตก็จะหาไม่ ในการครอบวิชานี้ถือว่าเป็นสุดยอดเคล็ดวิชาวิทยาคม ในสายของสมเด็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ ซึ่งกว่าจะเรียนจบต้องใช้ความวิริยะอุตสาหะบำเพ็ญเพียรอย่างมาก ได้จำวัดพักผ่อนวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น อาหารต้องฉันมื้อเดียว และขั้นตอนสุดท้ายที่จะสำเร็จวิชานี้จะมีการทดสอบอย่างพิสดาร

    อย่างไรก็ตามเป็นที่เชื่อกันว่าหลวงปู่หมุนท่านสำเร็จวิชาสำเร็จธาตุ 4 มาจากสายสมเด็จลุน ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าวิชาสายนี้ลึกลับเกินปุถุชนคนธรรมดาจะเรียนได้สำเร็จ ผู้ที่จะเข้าถึงได้ต้องเป็นผู้ที่มีบารมีมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เพราะการควบคุมธาตุ 4 ได้นั้นผู้ที่จะสามารถทำการนี้ได้ต้องสำเร็จจตุตฌานเป็นบาทฐานในการทำ และยังต้องมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของกสิณจตุธาตุทั้ง 4 ได้แก่ ดิน น้ำ ลม และไฟอีกด้วย

    หลังจากนั้นหลวงปู่ก็กลับมาจำพรรษา ที่วัดบ้านจาน จนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และพระอุปัชฌาย์ รับสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน ที่" พระครูหมุน ฐิตสีโล" หลวงปู่ได้ปฎิบัติศาสนกิจตามที่ได้รับมอบหมายเป็นเวลาถึง 20 ปี จึงลาออกจากทุกตำแหน่ง ต้องการใช้ชีวิตที่เหลือบำเพ็ญสมณธรรมปฏิบัติพระวิปัสสนาธุระ อย่างเดียว ประมาณปี 2487 ในช่วงที่หลวงปู่อายุ 50 ปี ท่านเก็บบริวารออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรอยู่ในป่าดงดิบ โดยลำพังแต่ผู้เดียว และในช่วงนี้เองที่หลวงปู่ได้พบกับอาจารย์จ่อยและอาจารย์ขวัญ วัดป่าหนองหล่ม ในระหว่างที่หลวงปู่ธุดงค์โดยบังเอิญ อาจารย์ทั้ง 2 จึงได้นิมนต์หลวงปู่โปรดญาติโยมที่วัดป่าหนองหล่ม หลังจากที่หลวงปู่หมุนเดินธุดงค์แสวงหาธรรม อยู่หลายสิบปี ประมาณปี 2520 ท่านจึงกลับมายังวัดบ้านจาน ซึ่งวัดบ้านจานในยามนั้น มีอายุกว่า 200 ปี อยู่ในสภาพทรุดโทรม ท่านจึงได้พัฒนาวัด สร้างอุโบสถขึ้นมา ด้วยหยาดเหงื่อและแรงจิต ทำให้อุโบสถเสร็จสมบูรณ์ในเวลาอันสั้น

    นอกจากนี้ท่านยังได้ช่วยเหลือ ลูกศิษย์และสหธรรมิก อีกหลายวัดเช่น วัดป่าหนองหล่ม, วัดโนนผึ้ง ,วัดซับลำใย, และคณะศิษย์วัดสุทัศน์ฯ ในการสร้างถาวรวัตถุของวัด จนเป็นที่มาของ วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมในหลายรุ่นต่อมา ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังแทบทุกรุ่น ที่ท่านจัดสร้างขึ้น จึงเป็นที่นิยมในหมู่ศิษยานุศิษย์ ด้วยเชื่อในพลังแห่งบุญฤทธิ์จิตตานุภาพของท่าน

    จนกระทั่งเมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 11 มี.ค.2546 หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล พระอมตะเถระ 5 แผ่นดิน แห่งวัดบ้านจาน อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มรณภา
     
  3. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ขอเล่าประสบการณ์ต่อเลยนะครับ เรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรงเกิดขึ้นมาประมาณ 2 ปีก่อน

    ผมมีเพื่อนคนหนึ่งเป็นผู้หญิงครับ สมมุติว่าชื่อ “เอ็ง” เธอ มีอาชีพค้าขายพลอยครับ ลักษณะนิสัยเป็นคนใจร้อนนิดๆครับ มีอยู่ช่วงหนึ่งเธอมีปัญหาทางครอบครัว โดยสามีได้ไปมี กิ๊ก ทำให้ต้องทะเลาะกันเป็นประจำทั้งกับสามี และกิ๊กของสามี จนได้ตัดสินใจแยกทางกัน แต่ดูเหมือนว่า ทางแฟนใหม่ของสามีนั้นจะไม่ยอมเลิกรา ทางฝ่ายนี้ก็ไม่ยอมใคร เจอกันทีไรต้องมีปะทะฝีปาก บางครั้งก็ถึงกับลงไม้ลงมือกัน มีอยู่วันหนึ่งขณะที่คุณเอ็ง กำลังทำกิจอยู่ในบ้าน ได้มีผู้หญิงอายุประมาณ 40 ปี ได้เข้ามาถามเพื่อนที่พักอยู่ที่ห้องเช่าด้วยกันว่า ไอ้เอ็งมันอยู่ที่นี่ใช่ไหม ทางเพื่อนของคุณเอ็ง ได้ยินหญิงผู้นั้นถามแบบนี้ ก็คิดว่าคงจะมาหาเรื่องกันก็เลยถามกลับไปว่า ทำไมหรือ มีอะไรก็บอกฉันมาก็ได้ เอ็งกำลังไม่ว่าง หญิงวัย 40 ก็ ตอบกลับมาว่า ไม่ใช่เรื่องของมึง เป็นเรื่องของไอ้เอ็งมัน อย่างมายุ่ง พอสิ้นเสียงของหญิงผู้นั้นแล้ว เธอก็เดินจากไป ทิ้งไว้แต่ความสงสัย และใจคอที่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เพราะใบหน้าของหญิงปริศนานั้นช่างดูน่ากลัวพิลึก ใบหน้าอันหมองคล้ำ และผิวที่ดูไม่ค่อยผ่องใส....พอดีคุณเอ็งก็เดินมาที่หน้าบ้านเพราะได้ยิน เสียงของคนทั้งสอง พูดคุยกัน แล้วก็ถามว่าใครมา เพื่อนของคุณเอ็งก็บอกว่าไม่รู้สิ เมื่อตะกี๊ มีคนมาถามหาแก...ฯลฯ พอเล่าเรื่องจบ ก็สรุปว่า..ฉันไม่ค่อยไว้ใจเลยมันแปลกๆยังไงก็ไม่รู้ เอาน่าคงไม่มีอะไรหรอก.....แต่พอ คืนนั้นก็ได้เรื่อง เพื่อนของคุณเอ็งได้ตื่นมาเข้าห้องน้ำตอนดึก ได้เห็นแสงไฟมาจากตู้เย็นก็เลยเดินไปดูปรากฎว่า เห็นคุณเอ็งกำลังหยิบเนื้อหมูสดๆจากตู้เย็นมากิน ก็ตกใจก็เลยเข้าไปเขย่าตัวคุณเอ็งอย่างแรง พอคุณเอ็งได้สติก็ตกใจเช่นกันว่า มาที่นี่ได้ยังไงแล้วก็เรื่องเนื้อหมูนี้ด้วย จึงทำให้ทั้งสองคนนั้นนอนไม่หลับ เพราะไม่กล้านอนเลยจนถึงเช้า..ก็ไปทำงานกันต่อ พอไปถึงที่ทำงานก็รู้สึกแปลกๆ ยังไงไม่รู้ มีอาการเวียนหัวคล้ายจะอาเจียน และรู้สึกร้อนๆอยู่ภายใน พอกลับไปบ้านก็เอาพระมาคล้องคอไว้ จนถึงตอนกลางคืน ก็นอนไม่หลับ พยายามจะหลับก็นอนไม่หลับอีกเช่นเคย มันมีความคิดอยู่ในหัวว่า ไปกระโดดตึกสิ หรือจะให้ฆ่าตัวตายอย่างเดียว แต่ก็ต้องพยายามดึงสติกลับมาตลอดเลย สู้กับความนึกคิดของตัวเอง ที่ไม่ใช่ตัวเองจนถึงเช้า ก็ไปหาหมอตรวจดูหมอก็ไม่พบอะไรผิดปกติ หมอก็ให้ยานอนหลับมากินเท่านั้น พอกลับจากหาหมอก็มาที่ออฟฟิต อยู่ดีๆก็เกิดอาการจะอาเจียนขึ้นมาก็รีบวิ่งไปห้องน้ำ เป็นสิ่งที่ยากที่คนทั่วไปจะเชื่อ เพราะสิ่งที่เธออาเจียนออกมานั้นมี....หนอนหลายตัวมาก..ติด ออกมาพร้อมกับเศษอาหารด้วย ยิ่งทำให้ตัวเองยิ่งมีความกลัวขึ้นไปอีก ว่าอาจโดนคุณไสยต์ ก็ได้ไปปรึกษากับน้า และเล่าให้คนอื่นๆฟังก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อ จึงได้โทรศัพท์มาหาผม และก็มาหาผมที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่พร้อมกับเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังโดย ละเอียด เธอเล่าทั้งน้ำตา..ผมจึงตัดสินใจปลดพระในคอและที่เหน็บอยู่ที่กระเป่าให้เธอ เอาไปอาราธนาขอบารมีให้ช่วย พระที่ผมให้เธอ(ยืม) นั้นได้แก่ รูปหล่อหลวงปู่ทวด และท้าวเวสสุวรรณของหลวงปู่หมุนรุ่น “จักรพรรดิ ปู่หมุน” พร้อมทั้งบอกวิธีทำน้ำพระพุทธมนต์(โดยนำพระแช่น้ำ) อาบกิน พร้อมทั้งจดคาถาบูชาให้ไปด้วย และให้สวดมนต์ แผ่เมตตาไปให้เขา ที่เป็นจ้าวกรรมนายเวร และเล่าประสบการณ์และสรรพคุณของพระให้ฟัง เพื่อให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น พอผ่านไปประมาณอาทิตย์กว่าๆ เธอก็โทรศัพท์มาเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เอาพระของพี่ไป ก็ได้สวดมนต์ และทำตามที่พี่บอกทุกอย่างคืนนั้นเลย ก่อนนอนก็นำพระติดตัวเวลานอน ก็นอนหลับดีเป็นปกติ อาการต่างๆทั้งความคิดที่ไม่ใช่เราดังกล่าวข้างต้นก็ไม่ปรากฏอีกเลย พอดีขึ้นแข็งแรงขึ้น ก็กลับไปหาพ่อที่ จ.จันทบุรี พ่อของเธอก็พาไปหา พระอาจารย์ที่ท่านเก่งกล้าในด้าน วิชาอาคม ให้ช่วยดูให้ที่ว่าอาการเหมือนกับโดนของนี้ยังมีอยู่อีกหรือไม่ จาก การตรวจทางในของเกจิอาจารย์อาวุโส ท่านนั้นบอกออกมาว่า ไม่มีไสยศาสต์ในตัวอีกแล้ว หมดแล้ว..ฯลฯ บอกแต่เพียงว่า ให้ทำบุญ ตักบาตร และให้ทำกระทงลอยส่งไปเท่านั้น..ของนั้นจะได้ไม่กลับมาอีก..เธอบอกผมว่า ที่โทรมาหานี่ก็จะโทรมาเล่าให้ฟัง และก็จะขอบูชาพระ(เช่า) ต่อจะได้หรือไม่ ด้วยความที่ผมนั้นมีหลวงปู่ทวดองค์เดียวก็จึงบอกเขาไปว่า เอาไว้จะหามาให้ก็แล้วกันนะ วันรุ่งขึ้นเธอก็นำพระมาคืนผม และทุกวันนี้ เธอก็ยังเป็นปกติ และไม่ปรากฎมีอาการแปลกๆอีกเลยครับ
    สิ่งที่เล่ามาทั้งหมดนี้นั้น ขอยืนยันอีกครั้งครับว่าเป็นเรื่องจริง ที่เกิดขึ้น และตัวผู้พบประสบการณ์นั้นก็เป็นเพื่อนของผมที่พบเห็นกันเป็นประจำครับ..
    (โปรดใช้วิจจารณญาน เป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลครับ )
     
  4. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    รุ่น 100 วันหลวงปู่อิง ผมนั่งอยู่ด้านหน้าเลย หลวงปู่หมุนฯเสกรุ่นนี้แบบลืมตาบรรยายภาพเลยครับ

    วันนั้นผมไปถึงที่วัดหลวงปู่อิงในช่วงเช้าประมาณเกือบ 6 โมงเช้า แล้วเข้าไปกราบหลวงปู่หมุน เรียนถามท่านว่า “หลวงปู่หลับสบายดีหรือเปล่าครับ” ท่านตอบว่า “ไม่ได้หลับหรอก ต้องแผ่เมตตาไปในจักรวาลให้คนมาทำบุญกันเยอะ ๆ” นั่งสนทนากับท่านได้สักพักท่านก็บอกให้ออกไปได้แล้ว ท่านบอกว่า “เฮาต้องเข้าสมาธิตลอดเวลา” (ทำท่านั่งสมาธิให้ดู)
    พอได้ฤกษ์ท่านก็มาที่ปะรำพิธี ท่านบอก พระมงคลฯ (ตอนนั้น) ว่าจะเสกให้ 15 นาที เมื่อท่านนั่งเข้าที่อันดับแรกเลยที่ท่านทำ คือ ชักยันต์กลางอากาศ แล้วกระดิกนิ้วชี้รัวเร็วๆ ผมสังเกตุเห็นน้ำตาเทียนหยดไหลออกมาอย่างรวดเร็วเหมือนกับมีเปลวไฟเผาไหม้ เทียนอย่างรุนแรง พร้อมกันนั้นท่านก็พูดออกมาว่า “อยู่แดนนิพพานไหนก็ลงมา...” (หมายถึงหลวงปู่อิง) “…ลูกหลานเขามาทำบุญกัน” สักพักเมื่อท่านหยุดนิ้วลงน้ำตาเทียนก็ชะงักหยุดไหลในกระทันหัน แล้วท่านก็บอกพวกเราว่า “เอ้า..ท่านมาแล้ว ทำไมไม่กราบกันซะ” พวกในงานก็ก้มลงกราบกันเป็นแถว ท่านก็นั่งพูดเหมือนนั่งสนทนากับหลวงปู่อิงว่า “ท่านดีใจเห็นลูกหลานมาทำบุญ...จะร้องไห้ทำไม ผมเองก็ต้องตายคือกัน”

    หลังจากนั้นท่านก็ได้เสกวัตถุมงคลในงานแต่ที่แปลกพิศดาร คือ ท่านนั่งพูดไปเรื่อย ๆ เชิญองค์นั้นองค์นี้มาตลอด ที่พอจำได้ก็ “…พระกัสสปะขอเอาตีนจุ่มทำน้ำมนต์ด้วย...” “นิมนต์หลวงพ่อถ้ำวัวแดงด้วย...” “...หลวงปู่บุญถ้า บ่มาก็บ่ศักดิ์สิทธิ์..” (เหมือนหยอก ๆ กัน) แล้วก็เชิญฤษีต่าง ๆ งานนั้นมันส์มาก เพราะเหมือนเราได้เห็นเป็นฉาก ๆ และที่สำคัญไม่ใช่ 15 นาที เพราะท่านหันมาถามพระมงคลฯว่าครบเวลาหรือยัง ซึ่งจริง ๆ น่ะครบแล้ว แต่พระมงคลท่านปล่อยออกไปอีก ถ้าจำไม่ผิดน่าจะประมาณ 30-40 นาทีน่ะครับ พอท่านเสกเสร็จท่านลุกขึ้นยืนแล้วชี้(ข้าวตอกดอกไม้ที่โปรยในพิธี)บอกว่า “ของศักดิ์สิทธิ์ทั้งนั้นทำไมไม่เก็บกันไว้” ผมก็เลยรีบกวาดแบ่งกันมาได้คนละนิดคนละหน่อย ขนาดข้าวตอกดอกไม้ในพิธียังศักดิ์สิทธิ์ ผมว่าพระหลวงปู่อิงรุ่นนี้ก็ต้องหนึ่งไม่มีสองเหมือนกันครับ เอามาเล่าสู่กันฟังในยามยังพอจำได้ครับ
     
  5. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    สุนัขกัดไม่เข้า..
    เป็นประสบการณ์ของคุณ เอก คนนี้ผมรู้จักครับ อยู่ที่จ.จันทบุรี เรื่องมีอยู่ว่า....
    มีอยู่วันหนึ่งคุณ เอก ได้ไปตีกอร์ฟที่สมามไดร์...ตอนประมาณเวลา 18.00-19.30น. ขณะที่กำลังเดินมาที่รถเพื่อที่จะเตรียมตัวกลับ ได้เดินผ่านสุนัขพันธุ์(ข้าง)ทาง ตัวหนึ่ง ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะสุนัขตัวนั้นไม่มีท่าทีพิรุธอะไร ก็เลยไม่ทันระวังตัว ขณะที่ได้เดินผ่านเจ้าสุนัขตัวนั้น มันได้งับที่น่องของคุณเอกอย่างเต็มแรง คุณเอกก็สะดุ้งตกใจสุดขีด ตัวเย็น วาบขึ้นมาถึงเส้นผม พอได้สติด้วยสัญชาติญาน คุณเอกก็ได้สบัดขา ให้หลุดจากคมเขี้ยว แล้วสุนัขเจ้ากรรมก็ได้วิ่งหนีไป มีคนได้เห็นเหตุการณ์ได้ถามว่า เป็นอะไรหรือไม่ ? คุณเอกก็บอกว่า ไม่เป็นอะไร.. คนที่เห็นเหตุการณ์คนนั้นก็บอกว่า สุนัขตัวนี้มันชอบกัดคนที่มาที่นี่หลายคนแล้วด้วย คุณเอกยังบอกอีกว่า..แทนที่จะโกรธ และเคียดแค้นเจ้าสุนัขตัวนั้น แต่เปล่า ใจตอนนั้นกลับไม่ได้โกรธ เจ้าสุนัขตัวนั้นแต่อย่างใด มันมีความคิดผุดขึ้นมาว่า มันคงเป็นเวร กรรมของเรามาแต่ก่อนละมั้ง แต่คุณเอกก็ไม่กล้าที่จะเปิดร่องรอยแผลให้คนๆนั้นดู(สงสัยอาย..) ก็ได้รีบขับรถมาหาเพื่อนที่ร้านอาหารอีสานแห่งหนึ่ง ก็ลองมองไปที่กางเกง เห็นกางเกงเป็นรูเขี้ยวเลย พอเปิดกางเกงขึ้นมาดูปรากฏว่า เห็นเป็นเพียงรอยเขียวช้ำของเขี้ยวสุนัข ทั้ง 4 เขี้ยว แต่ตอนนี้ชักจะปวดมากขึ้น เนื่องจากเพราะแรงงับของสุนัขนั้นทำให้ถึงกับ ช้ำเป็นรอยสีออกม่วงๆเลย แสดงว่ากัดแรงมาก เพื่อนคุณเอกเห็นเข้าถึงกับตกใจ แต่เหมือนปาฏิหาริย์ เขี้ยวสุนัขนั้นกลับไม่สามารถทะลุผ่านได้แม้แต่หนังกำพร้า คุณเอกบอกว่า ทั้งตัวแขวน รูปหล่อเบ้าทุบ ของหลวงปู่หมุนอยู่เพียงองค์เดียวเท่านั้นครับ….
     
  6. Ravipich

    Ravipich Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +46
    ขอบคุณค่ะ ที่ให้ความรู้ นิดๆ หน่อยๆ :cool: ได้จุใจทีเดียว
     
  7. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    สมเด็จหลวงปู่หลังลายเซ็นต์ อุดจีวร ประสบการณ์วันแรกผมได้รับพระสมเด็จของท่าน ขณะนั้นแฟนผมกำลังนอนหลับครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งรูปร่างค่อนข้างเล็กมาจากไหนไม่รู้ ( ตอนนั้นแฟนผมยังไม่รู้จักหลวงปู่หมุน )เดินถือไม้เท้า ตรงไปพานที่มีพระของท่าน แล้วท่านก็จับที่พระสมเด็จ(แล้วเขย่า) เหมือนกับว่าท่านเมตตาลมาเสกซ้ำวัตถุมงคลให้อีกต่อหน้า ต่อหน้าต่อตาแฟนผม แล้วท่านก็หายไป แฟนผมรู้ภายหลังว่าพระรูปนั้นคือหลวงปู่หมุน(ผมเอารูปถ่ายของท่านมาให้แฟนดู เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2550 เวลาตอนค่ำ ครับ เรื่องทั้งหมดนี้สร้างความปลาบปลื้มให้กับพวกเรามาก ท่านเมตตากับศิษย์ทุกคน ขอย้ำว่า พระสมเด็จของท่านราคาไม่แพง ราคาไม่ถึงพันแต่ พุทธคุณสุดยอดจริงๆครับ ทุกเรื่องสมความปารถนา ประสบการณ์ วัตถุมงคลของท่าน มีมากจริงๆหากพิมพ์ไป อาจจะทำให้ผู้อ่านคิดว่าเป็นการสร้างกระแส แต่เอาเฉพาะที่ผมสามารถจับต้องได้คือ ท่านทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป ผมกลายเป็นคนที่ทำบุญมากขึ้น ปฏิบัติธรรม และเชื่อมั่นว่าบารมีของอริยะสงฆ์โดยเฉพาะหลวงปู่หมุน ท่านอาจไม่ดัง เหมือนเกจิอื่น แต่สำหรับผมท่านคือหนึ่งไม่มีสองครับ
    ปล.1 วัตถุมงคลของหลวงปู่มีผู้ตรวจสอบว่า พลังมากถึงขนาดเอาเบจภาคี 5 องค์ มารวมกันยังไม่ได้เท่า การตั้งธาตุ หนุนธาตุ ทำให้มีพลังงานสะสมจนสุดพิสดาร พิสดารจนไร้ผู้เทียมทาน(อันนี้โปรดใช้วิจารณญาน) เกจิไม่สามารถเสกทับของๆท่านได้
    ปล2 วันเสาร์นี้ผมจะทำบุญถวายพระบูชา ผ้าไตรจีวร และสังฆทานชุดใหญ่ให้ท่านครับเพราะเรื่องที่ขอสำเร็จอีกแล้ว
     
  8. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ไหนๆ ก็กล่าวถึงกริ่งเจริญลาภแล้ว ก็ขอหยิบยกเอาประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆมาเล่าให้ท่านๆ ได้อ่านกันบ้างนะครับ เพื่อให้กระทู้นี้จะได้ไม่เหงาครับ.....
    มีอยู่ครั้งหนึ่งมีคนเคยเอาพระกริ่งเจริญลาภไปให้หลวงปู่ตี๋ วัดหลวงราชาวาส จ.อุทัยธานี ให้ท่านเสกเพิ่มเติมให้ พอหลวงปู่ตี๋ ท่านรับพระกริ่งไปท่านก็บอกว่า "ฉันเสกให้ไม่ได้ หลวงปู่องค์นี้จิตท่านละเอียดกว่าฉันมาก" แล้วท่านก็ส่งพระกริ่งองค์นั้นคืนและเรื่องนี้เป็นประสบการณ์ตรง ของผมเองครับ มีอยู่วันหนึ่งผมเข้าไปวัดสุทัศน์ เพื่อไปกราบหลวงปู่อั้น วัดธรรมโฆษก ตอนนั้นหลวงปู่อั้น ท่านยังไม่ดัง ผมได้เข้าไปหาท่านได้เป็นการส่วนตัว จึงมีโอกาสถอดพระที่คอไปให้ท่านเสกเพิ่ม พอท่านรับพระไปท่านก็หลับตาประมาณ 5 วินาทีท่านก็ลืมตาแล้วก็พูดว่า"โอ...พุทธานุภาพสูงจริงๆ" ผมก็เลยถามว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านก็บอกว่า.."หลวงปู่หมุนเนี่ย เก่งจริงๆนะ พลังจิตท่านสูมาก พระท่านไม่ต้องเสกหรอก"(เมื่อกี๊ก็ไม่ได้เสก..แค่ครวจสอบพลังเฉยๆ) เก็บเอาไว้ให้ดีนะพระองค์นี้ พุทธานุภาพท่านสูง" นี่เป็นคำกล่าวของหลวงปู่อั้น วัดธรรมโฆษก(โรงโค) ผมแปลกใจมากที่ท่านรู้ได้อย่างไรว่า..พระที่ผมให้ท่านเสกนั้นเป็นพระของหลวง ปู่หมุน ???? เคยถามหลวงปู่อั้นว่า... หลวงปู่เคยเจอหลวงปู่หมุนมาก่อนไหมครับ? ท่านบอกว่า.."ไม่เคยเจอมาก่อน เพิ่งมาเจอที่นี่แหละ"(ยิ้ม..) เจออย่างไรครับ? (ท่านก็ไม่ตอบ..) แต่เท่าที่ได้รับฟังจากพี่ท่านนึง(เป็นผู้หญิง..) เขาบอกว่า ตอนสมัยที่หลวงปู่อั้นมาพักที่ วัดสุทัศน์ใหม่ๆ ก็จะพักที่คณะ7 ทุก ครั้งที่ท่านมาพักท่านก็จะเสก วัตถุมงคลของท่าน และของหลวงปู่กาหลงด้วย โดยกองวัตถุมงคลก็จะกองรวมกันไว้ที่หน้าโต๊ะหมู่ ที่มีรูปถ่าย และรูปหล่อของหลวงปู่หมุนอยู่ด้วย พี่เขาเคยถามหลวงปู่อั้นเหมือนกัน ถึงเรื่องหลวงปู่หมุน ตอนแรกท่านก็ไม่ยอมตอบอะไรมาก แต่พอขยั้น ขยอท่านมากๆ ท่านก็เลยยอมบอก พี่ท่านนั้นถามหลวงปู่อั้นว่า...ตอนที่หลวงปู่อั้นเสก วัตถุมงคลของท่านนั้น เคยเห็นหลวงปู่หมุนมาร่วมเสกด้วยหรือไม่ ท่านตอบว่า..."เห็นท่าน(ด้วยจิต..)มาช่วยเสกให้ทุกครั้ง" ฉันก็เลยถามท่านว่า หลวงปู่ชื่ออะไรครับ..ท่านตอบว่าผมชื่อหมุน..." หลวงปู่อั้นยังบอกอีกว่า.. "ตอนหลวงปู่หมุนท่านมาช่วยเสกให้ ท่านแยกกายเป็น 2 องค์ลอยอยู่กลางอากาศ และทำให้อย่างดี พลังจิตตานุภาพท่านสูง เสกแรงมาก(หลวงปู่อั้นท่านเคยบอกว่า พอหลับตาปั๊บ เห็นเป็นไฟสว่าง..พุ่งออกมาจากกองพระแรงมาก) แล้วหลวงปู่หมุนท่านพูดอะไรกับหลวงปู่บ้าง..? หลวงปู่อั้นบอกว่า..."หลวงปู่หมุนก็ไม่ได้บอกอะไร เพียงแต่ท่านแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติ และการปลุกเสกของ...." ฯลฯ...
     
  9. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ประสบการณ์พระปิดตารวยทันใจ
    เมื่อวานนี้เองครับ ผมได้ไปเดินช็อปปิ้งกับแฟนกับแฟนที่ห้างแพลตตินั่ม เป็นห้างที่เน้นขายเสื้อผ้าเป็นหลักครับ วันนั้นที่คอผมห้อยปิดตาไตรมาสรวยทันใจเนื้อผงทาทอง ของหลวงปู่หมุนครับ แฟน ผมได้เดินดูเสื้อผ้าอยู่ร้านหนึ่ง ผมก็เข้าไปด้วยตอนนั้น คนเยอะมากครับ แฟนผมเลยบอกว่าเดี๋ยวกลับมาดูใหม่ แล้วก็กลับไปดูใหม่ สรุปว่าไม่มีคนเลยครับ แฟนผมเลยบอกว่าคนน้อยดีจัง ผมเลยแกล้งบอกแฟนเล่นๆว่า เดี๋ยวคนก็เข้าเต็มร้านนี้อีก เพราะว่าผมห้อยของดีของหลวงปู่หมุนอยู่ แฟนผมก็เหมือนจะไม่ค่อยเชื่อครับ ผมเลยอธิษฐานกับหลวงปู่ขอให้คนเข้ามาเต็มร้าน ไม่ถึง 2 นาทีครับ คนกรูกันเข้ามากันจนไม่มีอากาศจะหายใจครับ ผมและแฟนถึงกับต้องถอยออกมาจากร้านครับ เลยไปช็อปปิ้งร้านอื่นอีกครับ ไม่มีคนเหมือนกันครับ คราวนี้ไม่ได้อธิษฐานอะไรเลยครับ แค่ผมยืนอยู่หน้าร้านเพียงอึดใจเดียว ฝูงชนเข้ามาแน่นร้านจนแฟนผมต้องรีบจ่ายเงิน แล้วรีบออกจากร้านทันทีครับ แฟนผมบอกว่าถ้าอีกร้านยังเป็นเช่นนี้ จะศรัทธาหลวงปู่หมุนมาก ไม่ต้องสงสัยเลยครับ อีกร้านมีสาวใส่แว่นดูเสื้อผ้าอยู่คนเดียว แฟนผมเข้าไปในร้าน ส่วนผมยืนอยู่หน้าร้าน ไม่เกิน 3 นาทีครับ ยังไม่ทันอธิษฐานอะไรเลยครับ จากที่มีอยู่ในร้าน 2 คน กลายเป็น8-10 คนครับ มาจากไหนกันก็ไม่ทราบครับ แฟนผมไม่มีที่ยืนเลยต้องรีบจ่ายเงินเหมือนเดิมครับ องค์นี้ผมเลี่ยมเงินใช้ห้อยคอทุกวันครับ หลักหมื่นผมก็ไม่ปล่อยครับผมเชื่อว่าวัตถุมงคลของหลวงปู่องค์นี้จะให้สิ่ง ดีๆกับผม มากกว่าเงินหลักหมื่นแน่นอนครับ
     
  10. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ราเองก็เป็นคนหนึ่งที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่ เมื่อหลายปีที่แล้วเคยนั่งรถไฟแล้วต่อมอเตอร์ไซไปกราบท่านเป็นครั้งแรกและ ครั้งเดียวที่ได้พบหลวงปุ่ ตอนไปถึงวัดเงียบมากมีพระดูแลท่านอยู่องค์เดียว ภาพแรกที่เห็นก็คือหลวงปู่หมุนนอนหลับอยู่บนเตียงคนไข้ ทั้งรู้สึกตกใจและสงสารท่านเพราะท่านผอมมากๆเละไม่รู้มาก่อนว่าท่านอาพาธ ในใจก็นึกเสียดายที่ไม่มีโอกาสได้สนทนากับท่านเพราะเดินทางมาไกลเพียงแค่ได้ ก้มกราบน้อมดวงจิตนมัสการและขอให้หลวงปู่หายไวๆ เสร็จแล้วก็เดินออกมาและก็จะกลับเพราะกลัวรถไฟจะหมดด้วย แต่เกิดเหตุอัศจรรย์ เมื่อพระที่ดูแลหลวงปู่บอกว่าหลวงปู่ท่านให้มาตาม ทั้งแปลกใจและดีใจว่าหลวงปู่รู้ได้ยังไง จะบอกว่าหลวงพี่ท่านไปปลุกก็คงไม่ใช่ ไม่งั้นท่านคงปลุกตั้งแต่ตอนกราบแล้วเพราะหลวงพี่เองก็อยู่ด้วย พอเจอท่านๆก็ยิ้มและกวักมือเรียกเข้าไปก็ได้มีโอกาสกราบท่านที่เตียงและถึง ตัวเลยด้วย ท่านก็ทักทายสียงท่านเบามากแต่เราได้ยินไม่ชัดก็มีหลวงพี่ท่านช่วยบอกให้ ก็คุยซักแป๊บนึงเพราะไม่อยากรบกวนท่านนานเพราะเห็นท่านอาพาธอยู่ ก็เลยส่งมีดหมอรุ่นเสาร์ห้าบูชาครูและตะกรุดนารายณ์สี่กร ที่ได้บูชามาจากวัดสุทัศน์ ให้หลวงปู่ท่านจับเพื่อเป็นสิริมงคลเสมือนหนึ่งว่าได้รับจากมือหลวงปู่ หลวงปู่ท่านก็จับไว้ในมือ และท่านก็ให้ก้มหัวลง หลวงปู่ก็เอามือจับที่หัวอยู่นานรู้สึกดีใจมากเสร็จแล้วก็ก้มลงกราบ และอวยพรให้หลวงปู่มีสุขภาพแข็งแรงหายจากอาพาธไวๆ ก่อนออกมาหลวงปู่ก็บอกให้ไปร่วมสร้างพระเจดีย์ก็เลยออกมาเช่าเหรียญพระพรหม ในราคา ๑๐๐ บาทใจก็อยากทำบุญมากกว่านั้นแต่ต้องเดินทางอีกไกลเลยได้มาชิ้นเดียวน่า เสียดายมากๆ ขณะเดินทางกลับก็มีความรู้สึกมาตลอดทางว่าบนหัวที่หลวงปู่ได้เอามือจับนั้น ยังมีความรู้สึกเหมือนมีมือหลวงปู่ท่านจับอยู่ตลอดเวลา เพราะรู้สึกหน่วงๆและเป็นเช่นนั้นประมาณ ๑ วันเต็มๆ ทำให้รู้สึกได้ถึงพลังที่หลวงปู่ท่านช่วยประสิทธิ์ จึงรู้สึกดีใจ และภูมิใจมากที่ตัวเราก็ยังมีปู่อยู่เหมือนกัน นี่เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่นำมาเล่าสู่กันฟัง ทุกวันนี้ก็ยังระลึกถึงความเมตตาของหลวงปู่ท่านอยู่เสมอ ขอกราบนมัสการหลวงปู่ไว้ ณ ที่นี้
     
  11. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ว่าจะเล่าประสบการณ์เรื่องนี้ให้ฟังกัน แต่เพิ่งจะมีเวลาประกอบกับเจ้าของเหรียญมาหาที่บ้านพอดี เลยได้ฟังเรื่องจากปากอีกครั้งหนึ่งหลังจากได้ฟังมานานแล้วตั้งแต่สมัยเกิด เหตุ เลยขอถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ เหรียญหมุนเงินหมุนทองเหรียญนี้เจ้าของเป็นลูกศิษย์หลวงปู่หมุนสมัยเริ่ม สร้างพระ ของหลวงปู่รุ่นเจริญลาภ ส่วนพระกริ่งเจริญลาภองค์ที่อยู่ข้าง ๆ ท่านอาจสังเกตุเห็นว่าองค์นี้แปลก ๆ เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ เหรียญหมุนเงินหมุนทองเหรียญนี้ หลวงปู่ตอกโค๊ทเองเลยนะครับ 9 โค๊ท เหมือนกับหลวงปู่จะทำให้เป็นพิเศษเพราะเจ้าของเหรียญนี้ช่วงหนึ่งมีปัญหากับ ชีวิตตัวเองจนหาทางออกไม่ได้จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย... เจ้าของเหรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า
    "ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจิตใจมันเป็นยังไง อยากฆ่าตัวตายอย่างเดียว..."
    "แล้วทำยังไง" ผมยิงคำถาม
    "ผมหามีดได้เล่มนึง เป็นมีดปลายแหลม ตอนนั้นหน้ามืดตามัวไปหมด คิดได้อย่างเดียวว่าจะต้องตาย..."
    "พอได้มีดผมก็จ้วงมีดแทงท้องผมไม่ยั้ง ปึ๊กๆๆ..." "พี่เชื่อไม๊ มันเหมือนเราแทงยางรถยนต์ มันกระเด้งออกมาทุกครั้งที่แทงลงไป เป็นแค่รอยยางบอน..."
    "อื้อฮือ" ผมถึงกับอุทานออกมาด้วยความทึ่งปนความเสียว "เหรอ แล้วไงต่อ..."
    "ผมยังไม่หยุดนะ ตอนนั้นมันหน้ามืดไม่มีสติแล้ว พอรู้ว่ามีดมันแทงไม่เข้าแน่ ๆ ผมเอายังงี้เลย... ผมตัดสายไฟพัดลม... กำเอาสายตรงที่เป็นทองแดงไว้ ส่วนสายพันแขนไว้เลย แล้วเสียบปลั๊กไฟ..."
    "เฮ้ย.. แล้วไฟดูดเปล่า..." ผมถามต่อด้วยความเสียวไส้
    "จะไปเหลือเหรอพี่ ไฟมันดูด ตื๊ดดๆๆๆ เป็นระยะ ๆ รู้เลยว่าเวลาไฟมันวิ่งเข้าตัวมันเป็นยังไง ดูดอยู่นานพอสมควรเลยหละ...หลายนาที แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเล๊ย สุดยอดจริง ๆ ของหลวงปู่นี่ไม่ต้องห่วงเลย..."
    "เออว่ะ ไม่น่าถามเลยว่าดูดหรือเปล่า แล้ววันนั้นใส่อะไรบ้างล่ะ..." ผมถามเพื่อความชัวร์
    "...เหรียญนี้เหรียญเดียวเลยพี่..."

    นี่ล่ะครับประสบการณ์ของเหรียญหมุนเงินหมุนทองที่ไม่ใช่ดีเด่นทางด้านโชคลาภแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ ของหลวงปู่นี่ครบทุกด้านเลยครับ
     
  12. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ว่าจะเล่าประสบการณ์เรื่องนี้ให้ฟังกัน แต่เพิ่งจะมีเวลาประกอบกับเจ้าของเหรียญมาหาที่บ้านพอดี เลยได้ฟังเรื่องจากปากอีกครั้งหนึ่งหลังจากได้ฟังมานานแล้วตั้งแต่สมัยเกิด เหตุ เลยขอถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ เหรียญหมุนเงินหมุนทองเหรียญนี้เจ้าของเป็นลูกศิษย์หลวงปู่หมุนสมัยเริ่ม สร้างพระ ของหลวงปู่รุ่นเจริญลาภ ส่วนพระกริ่งเจริญลาภองค์ที่อยู่ข้าง ๆ ท่านอาจสังเกตุเห็นว่าองค์นี้แปลก ๆ เดี่ยวผมจะเล่าให้ฟังครับ เหรียญหมุนเงินหมุนทองเหรียญนี้ หลวงปู่ตอกโค๊ทเองเลยนะครับ 9 โค๊ท เหมือนกับหลวงปู่จะทำให้เป็นพิเศษเพราะเจ้าของเหรียญนี้ช่วงหนึ่งมีปัญหากับ ชีวิตตัวเองจนหาทางออกไม่ได้จึงคิดสั้นฆ่าตัวตาย... เจ้าของเหรียญได้เล่าให้ผมฟังว่า
    "ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าจิตใจมันเป็นยังไง อยากฆ่าตัวตายอย่างเดียว..."
    "แล้วทำยังไง" ผมยิงคำถาม
    "ผมหามีดได้เล่มนึง เป็นมีดปลายแหลม ตอนนั้นหน้ามืดตามัวไปหมด คิดได้อย่างเดียวว่าจะต้องตาย..."
    "พอได้มีดผมก็จ้วงมีดแทงท้องผมไม่ยั้ง ปึ๊กๆๆ..." "พี่เชื่อไม๊ มันเหมือนเราแทงยางรถยนต์ มันกระเด้งออกมาทุกครั้งที่แทงลงไป เป็นแค่รอยยางบอน..."
    "อื้อฮือ" ผมถึงกับอุทานออกมาด้วยความทึ่งปนความเสียว "เหรอ แล้วไงต่อ..."
    "ผมยังไม่หยุดนะ ตอนนั้นมันหน้ามืดไม่มีสติแล้ว พอรู้ว่ามีดมันแทงไม่เข้าแน่ ๆ ผมเอายังงี้เลย... ผมตัดสายไฟพัดลม... กำเอาสายตรงที่เป็นทองแดงไว้ ส่วนสายพันแขนไว้เลย แล้วเสียบปลั๊กไฟ..."
    "เฮ้ย.. แล้วไฟดูดเปล่า..." ผมถามต่อด้วยความเสียวไส้
    "จะไปเหลือเหรอพี่ ไฟมันดูด ตื๊ดดๆๆๆ เป็นระยะ ๆ รู้เลยว่าเวลาไฟมันวิ่งเข้าตัวมันเป็นยังไง ดูดอยู่นานพอสมควรเลยหละ...หลายนาที แต่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเล๊ย สุดยอดจริง ๆ ของหลวงปู่นี่ไม่ต้องห่วงเลย..."
    "เออว่ะ ไม่น่าถามเลยว่าดูดหรือเปล่า แล้ววันนั้นใส่อะไรบ้างล่ะ..." ผมถามเพื่อความชัวร์
    "...เหรียญนี้เหรียญเดียวเลยพี่..."

    นี่ล่ะครับประสบการณ์ของเหรียญหมุนเงินหมุนทองที่ไม่ใช่ดีเด่นทางด้านโชคลาภแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ ของหลวงปู่นี่ครบทุกด้านเลยครับ
     
  13. eow1

    eow1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    741
    ค่าพลัง:
    +1,465
    สาธุ....ครับ
     
  14. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    นี่คือ บางช่วงบางตอน ของคนที่นำไปใช้แล้ว มีประสพการณ์ เล่าแชร์กัน ในหมุ่ กลุ่มห้อง สนทนา ลูกศิษย์ ท่านทุกๆ คน มีเป็นพันๆ เรื่อ่ง อ่านไม่ไหว ล้วนแล้วมี ประสพการณ์จริงทั้งสิ้น นี่เอง เป้นสาเหตุหนึ่ง ให้ พระท่าน แพง และ คนต้องการอย่างมาก ในเวลานี้ครับ ................
     
  15. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_2879 (750x1000).jpg

    SAM_2880 (750x1000).jpg

    SAM_2877 (384x512).jpg

    SAM_2875 (576x768).jpg

    SAM_2876 (240x320).jpg

    มหาสมปรารถนา กำลังมาแรง จะขึ้น หมื่นกลางๆ ในไม่ช้าครับ เปิด ไว้ 25000 ครับ สามโค๊ต นวะ เหรียยนี้ แพง แน่นอนครับ เก้บไว้ ไม่ขาดทุนครับ ....................
     
  16. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    SAM_2852 (750x1000).jpg

    SAM_2853 (504x672).jpg

    SAM_2855 (672x896).jpg

    SAM_2857 (240x320).jpg

    SAM_2869 (576x768).jpg

    เหรียญรุ่นแรก ปี 40 จะแตะ หมื่นปลายๆไม่เกิน ปีหน้าครับ ...........เปิดตอนนี้ ยังพอ ได้ เสีย 30000 ครับ ........สวยคม รม น้ำตาลม่วง แท้ ๆ ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2013
  17. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    หมายเหตุ ราคาพระเครื่องหลวงปู่หมุนนั้น ขออนุญาติ ปรับเปลี่ยน ราคาทุกวันตาม ดัชนี พระเครือ่ง สายท่าน วันต่อวันนะครับ กรุณาเชคราคา ทุกวันก่อน ตัดสินใจซื้อ นะครับ .........ขอสงวนสิทธิ์ในการปรับเปลี่ยนราคา ตามกลไก ตลาดครับ .....................
     
  18. ครุฑยุดนาค

    ครุฑยุดนาค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1,914
    ค่าพลัง:
    +7,212
    วันนี้เวลา 14.33 น. ได้โอนเงิน 350.05 บาท แล้วนะครับ

    ขออภัยที่มาแจ้งล่าช้า...ช่วงนี้ยังยุ่งเหยิงอยู่ครับ...ขอบคุณครับอาก๋ง
     
  19. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    ครับ รบกวน เพือ่นๆ โอน แล้วแจ้งหน้าบอร์ดนิดนึง แบบนี้ ผม ความจำไม่ค่อยดี หลงๆ ลืมๆ ครับ แต่ พยายาม จะจัดให้ ทุกคนครับ.................ผิดพลาดตกหล่น ขออภัยแต่ จะแก้ไข ให้กลับมาดี หรือมากกว่า ที่ท่าน เสียหายครับ นี่คือ ปฏิทาน ของเรา ....................
     
  20. ก๋ง สุญญตา

    ก๋ง สุญญตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    4,015
    ค่าพลัง:
    +8,149
    เปิดบ้านต้อนร้บวันพระ ครับ อย่าลืม ใส่บาตรสวดมนต์บ้าง ทำสมาธิ สัก15 นาทีแล้ววันนี้ ทำอะไรก็จะโชคดี ครับ.......................
     

แชร์หน้านี้

Loading...