Inelia ผู้มาจากต่างมิติ - บทสัมภาษณ์ และบทความจากเธอ เกี่ยวกับปี 2012 และการ Ascension ของโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 6 มิถุนายน 2011.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ผู้อาวุโสชาวมายัน, หัวกะโหลกคริสตัลทั้ง 13
    และพิธีกรรมสำคัญที่กำลังจะเกิดขึ้น ที่จะสัญจรไปทั่วทั้งประเทศ USA


    บทความโดย: Cal Garrison

    ที่มา:
    http://www.spiritofmaat.com/oct11/crystal_skull_pilgrimage.html


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    ครั้งแรกที่ฉันได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับ “การทำพิธีกรรมสัญจรของกะโหลกคริสตัล” ดังกล่าว
    คือวันที่ 23/7/11 ซึ่งในตอนนั้นฉันไม่ค่อยแน่ใจว่า กะโหลกคริสตัลทั้ง 13 นั้น
    พวกมันทั้งหมดจะมารวมกันได้อย่างไร เพราะว่ามันมีปัจจัยหลายๆอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
    ทั้งทางด้านตรรกศาสตร์ และทางด้านมิติทิพย์ด้วย

    ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หลายสิ่งหลายอย่างก็ถูกจัดสรรแล้วจัดสรรอีก และภายหลังจากการประชุมหลายๆครั้ง
    Hunbatz Men ซึ่งเป็นผู้รักษาวันที่ และเป็นนักบวชอาวุโสของคณะกรรมการมายันอิทซ่า (Mayan Itza Council)
    และ Pedro Pablo Chuc Pech ซึ่งเป็นประธานของ “สภาผู้อาวุโสแห่งชนเผ่ามายัน” (Mayan Council of Elders)
    ก็ได้ออกมาประกาศว่า

    พวกเขามีแผนที่จะนำพากลุ่มของผู้อาวุโสชาวเผ่ามายัน
    พร้อมด้วย “กะโหลกคริสตัลทั้ง 13”
    ไปทำพิธีกรรมสัญจร ในประเทศ USA
    จากชายฝั่งหนึ่งไปยังอีกชายฝั่งหนึ่งของ USA

    ซึ่งการทำพิธีกรรมสัญจรดังกล่าวนี้
    จะเริ่มต้นจากแมนฮัตตัน ในวันที่ 27/10/11 นี้
    และจุดหมายปลายทางก็คือเมืองลอสแองเจลิส
    ในวันที่ 11/11/11 ที่จะถึงนี้


    ในวันที่ 11/11/11 ดังกล่าว จะมีกลุ่มผู้อาวุโสทั้ง 13 อีกกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากดินแดนมายัน ถึง LA ด้วย
    เพื่อมาร่วมกันทำพิธีในวันเปิดประตูมิตินี้ ซึ่งไฮไลท์ของงานก็จะเป็นการทำพิธีกรรมด้วยกะโหลกคริสตัลทั้ง 13 ของชาวมายัน

    เหล่าผู้อาวุโส ซึ่งโดยปกติแล้วจะเก็บตัวอยู่แต่ภายในกลุ่มของพวกเขาเองเท่านั้น
    และพวกเขาก็ได้ถูกสอนมาเป็นอย่างดีแล้วเกี่ยวกับการทำพิธีกรรมทั้งหมดนี้
    และนับจากนี้ไปพวกเขาจะทำพิธีกรรมให้สาธารณชนได้ดู

    เพราะเหตุนี้พิธีกรรมของกะโหลกคริสตัลทั้ง 13 ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่ทำไปครั้งล่าสุด
    เมื่อ 26,000 ปีก่อนนั้น ก็จะถูกทำให้เห็นเป็นสาธารณะในครั้งนี้

    การเดินทางจากจากนิวยอร์คสู่ลอสแองเจลิสของเหล่าผู้อาวุโสนั้น จะมีการหยุดทำพิธีที่
    “จุดศูนย์รวมพลังงาน” (Power node) ต่างๆตามรายทาง เพื่อทำให้คำพยากรณ์กลายมาเป็นความจริง
    คำพยากรณ์กล่าวไว้ว่า

    “เมื่อเวลามาถึง จิตวิญญาณของทวีปอเมริกาเหนือก็จะถูกปลุกให้ตื่นขึ้น
    แล้วมันก็จะกลับคืนมาสู่ความเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
    ผืนแผ่นดินแห่งนี้จะกลายเป็นที่บ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งการรู้แจ้งของมวลหมู่มนุษยชาติต่อไป”


    ซึ่งในการหยุดแวะพักที่จุดศุนย์รวมพลังงานแต่ละจุดนั้น พวกเขาก็จะประกอบพิธีกรรมเพื่อเปิดผืนแผ่นดินตรงจุดนั้นๆ
    และเพื่อยกระดับพลังงานบรรพบุรุษ ณ.จุดนั้นๆขึ้น ซึ่งระดับพลังงานที่สูงขึ้นของจุดศูนย์รวมพลังงานเหล่านี้
    ก็จะไปช่วยเกื้อหนุนการเปิดประตูมิติใน LA ในวันที่ 11/11/11 นี้ด้วย


    และการประกอบพิธีกรรมทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ก็เปิดต้อนรับทุกๆคน
    ที่มีความรู้สึกว่าตนเองก็เป็นอีกผู้หนึ่ง ที่ถูกเรียกให้เข้าไปร่วมในพิธีนี้ด้วย


    และข้อมูลต่อไปนี้ สำหรับใครที่ยังไม่เคยรู้ถึงความสำคัญของ “กะโหลกคริสตัลทั้ง 13”
    (the 13 Crystal Skulls) นี้มาก่อน

    ธาตุกายสิทธิ์โบราณเหล่านี้ คืออุปกรณ์ที่เก็บข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของดาวเคราะห์โลก
    และของมนุษย์โลกในอนาคตเอาไว้ พวกมันถูกแกะสลักขึ้นมาจากผลึกควอตซ์บริสุทธิ์
    และบางอันก็ถูกแกะสลักมาจากผลึกคริสตัลชนิดอื่นๆ เช่น หยก เป็นต้น

    กะโหลกคริสตัลเหล่านี้ สามารถสร้างสนามพลังงานบางอย่างขึ้นมาได้ ซึ่งสนามพลังงานดังกล่าวนี้
    สามารถจะไปกระตุ้นจิตสำนึกของมนุษย์ให้ขยายการรับรู้ออกไปสู่มิติอื่นๆได้
    และที่สำคัญที่สุดก็คือ พวกมันก็เป็นสิ่งที่มีจิตวิญญาณอย่างหนึ่งด้วย
    และตอนนี้พวกมันกำลังมีส่วนช่วยยกระดับคลื่นความถี่ของแม่เหล็กโลกให้สูงขึ้นอยู่ด้วย

    เมื่อจิตวิญญาณของกะโหลกคริสตัลทั้ง 13 นี้ ถูกปลุกให้ตื่นขึ้น โดยการทำพิธีกรรมดังกล่าว
    ภูมิปัญญาโบราณ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่ถูกเก็บไว้ใน matrix ของกะโหลกคริสตัลเหล่านี้มานานแสนนานแล้ว
    ก็จะเข้าไปใน “สนามพลังงานรวม” (Unified field) และจะไปเติมเต็มข้อมูลความรู้เข้าไปใน “จิตสำนึกมวลรวม”
    (collective consciousness) ของมวลหมู่มนุษยชาติ ซึ่งเป็นข้อมูลความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ
    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้เกิดขึ้นแล้ว บนโลกใบนี้ นับตั้งแต่เมื่อ 26,000 ปีที่ผ่านมา หรืออาจจะนานกว่านั้นซะอีก



    ถ้าใครกำลังรู้สึกงงและลังเลถึงความสำคัญของพิธีกรรมดังกล่าวนี้อยู่ ข้อความต่อไปนี้จาก Hunbatz Men
    และจากเหล่าผู้อาวุโสชาวมายันอาจจะช่วยให้คุณเข้าใจอะไรได้มากขึ้น:

    ถึงพี่น้องทุกๆคน

    พวกเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้พวกคุณทุกๆคนทั่วทุกมุมโลกทราบว่า
    ในวันที่ 27 ตุลาคม 2011 นี้ พวกเราจะมีการประกอบพิธีกรรมสัญจรขึ้น
    ซึ่งจะมีการนำหัวกะโหลกคริสตัลศักดิ์สิทธิ์มาร่วมในการประกอบพิธีด้วย
    พิธีกรรมสัญจรนี้จะเริ่มต้นที่เมืองแมนฮัตตัน รัฐนิวยอร์ค และมีจุดหมายปลายทางที่เมืองลอสแองเจลิส
    รัฐแคลิฟอเนียร์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา

    ซึ่งตลอดการเดินทางพวกเราจะร้องขอ และวิงวอนต่อจิตวิญญาณแห่งเอกภพผู้ยิ่งใหญ่
    (The Great Cosmic Spirit) ให้มาช่วยส่องสว่างเส้นทางของพวกเรา และทำให้ภารกิจ
    ในการนำพาหัวกะโหลกศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    ด้วยวิธีนี้กะโหลกคริสตัลเหล่านี้ จะไปช่วยส่องสว่างและกระตุ้นให้พื้นที่ต่างๆ
    ที่จิตวิญญาณแห่งเอกภพผู้ยิ่งใหญ่นี้ไปปรากฎอยู่ให้ทำงานขึ้น

    ดังนั้น พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่พวกเรากำลังจะไปแวะเหล่านี้ เช่น Great Serpent Mound, OH;
    the temples of Cahokia, IL; Sedona, AZ; และพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์จุดอื่นๆ
    ก็จะถูกกระตุ้นขึ้นโดยคลื่นความสั่นสะเทือนของเอกภพ

    เพราะฉะนั้น ดินแดน Tamuanchán (ชื่อดั้งเดิมของประเทศ USA ที่ชาวมายันใช้เรียก)
    ก็จะกลับมาเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ใหม่อีกครั้งหนึ่ง
    และจะกลับมาส่องสว่างให้แก่มวลหมู่มนุษยชาติบนโลกใบนี้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง

    ได้โปรดช่วยทำให้การเดินทางในครั้งนี้ กลายเป็นการเดินทางด้านจิตวิญญาณครั้งยิ่งใหญ่ด้วยเถิด
    เพื่อให้กะโหลกคริสตัลศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ นำพาพวกเราไปในดินแดนอันเป็นที่รักของพวกเรา
    ที่ชื่อ Tamuanchán นี้ ที่ๆพระบิดาแห่งดวงอาทิตย์ และพระมารดาแห่งโลกของพวกเรา
    จะดูแลจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของพวกเราตลอดไป


    ขอจิตวิญญาณผู้ยิ่งใหญ่จงอยู่กับพวกคุณตลอดไป


    Hunbatz Men
    Council of Maya Itza Priests and Elders
    …………………………………………………
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2014
  2. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณมากเลยน่ะครับ รับและเติมเต็มแสงสว่างแล้วครับ ^^
     
  3. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    ขอพรอันศักดิ์สิทธ์ของเรา ช่วยให้ภาระกิจของชาวมายัน สำเร็จโปรดโปร่งด้วยเถอะ


    ...
     
  4. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้เกี่ยวข้องกับการประท้วงที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกาและที่อื่นๆอยู่หรือเปล่าครับ เพราะจำได้ว่าเค้านัดกันหรือมีอะไรซักอย่างในวันที่ 28 ตุลาคม 2011 นี้ และจะมีพลังงานอะไรบางอย่างเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ด้วยด้วย (ในกระทู้ที่ทีมงานได้แปลให้นี่แหล่ะครับ) ผมว่าทุกอย่างกำลังจะลงตัวแล้วนะครับ รวมถึงการเปิดเผยตัวของเพื่อนเราจะแดนไกลด้วย
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ก็อาจจะเกี่ยวนะครับ..เพราะว่าเรื่องการเลื่อนระดับขึ้นนี้เป็นเรื่องใหญ่
    ดังนั้น แผนงานมันจึงใหญ่มากด้วย และผู้ที่เกี่ยวข้องในแผนงานนี้ ก็มีมากซะด้วย
    ทั้งที่รู้ตัวเอง และไม่รู้ตัวเอง แต่ก็กำลังทำหน้าที่อยู่แบบไม่รู้ตัวอย่างนั้นแหละ

    แต่ละทีม แต่ละส่วน แต่ละคน ก็ทำหน้าที่ของตนเองไป ตามแต่ว่าใครจะไปเกี่ยวข้องกับเรื่องไหนอยู่
    พวกไปเปิดจุดประสานมิติ หรือ ไปกระตุ้นการทำงานของพวกจุดศุนย์รวมพลังงานต่างๆทั่วโลก..ก็ทำไป
    ส่วนพวกที่สู้รบปรบมือกับพวกอิลลุมินาติทั้งแบบลับๆและแบบเปิดเผยก็ทำกันไป
    และพวกที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นในประเทศต่างๆก็ทำกันไป

    ในมุมมองของผม ผมเห็นแต่ความสอดคล้องกลมกลืน และลงตัวไปหมดเลย
    มันถูกต้องแล้วที่เป็นแบบนั้น มันถูกต้องแล้วที่เป็นแบบนี้ อะไรแบบนั้นหนะนะครับ

    รวมถึงน้ำท่วมประเทศไทยก็ถูกต้องแล้วด้วยครับ เป็นเหตุการณ์ที่ดีมากๆซะด้วย
    เพราะมันเป็นสถานการณ์ที่ช่วยเปิดโอกาสให้น้ำใจของคนไทยหวนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
    มันช่วยทะลายกำแพงแห่งความเห็นแก่ตัวของผู้คนที่กำลังร่วมชะตากรรมกันอยู่ลงไปได้บางส่วน

    ซึ่งแน่นอนว่า พวกที่เห็นแก่ตัวมากขึ้นก็ย่อมมีด้วย แต่เราเลือกมองในแง่ดีเอานะครับว่า
    เพราะว่าเหตุการณ์นี้ มันทำให้คนที่อยู่บ้านใกล้ๆกัน หรืออยู่ติดกัน ที่ไม่เคยคุยกันมาก่อนเลย
    ก็จะได้มีโอกาสคุยกัน ได้มีโอกาสออกมาแสดงความคิดเห็นร่วมกัน และร่วมมือร่วมใจกันทำงาน
    อะไรแบบนั้นครับ เหมือนยุคก่อนๆ

    ส่วนเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจ มันจะซักกี่พันกี่หมื่นล้านๆบาท
    ผมว่าถ้ามันซื้อจิตสำนึกที่ดีงามของคนไทยบางส่วนกลับคืนมาได้ นั่นก็สุดจะคุ้มแล้วหละครับ

    เพราะว่าถ้าคนไทยมีจิตสำนึกที่ดีงาม มีความสามัคคีกลมเกลี่ยวกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน
    และมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกัน เหมือนสมัยก่อนได้อีกครั้งหนึ่งแล้วนี่
    อย่าว่าแต่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ฟื้นคืนมาอีกครั้งได้อย่างรวดเร็วเลยนะครับ
    อะไรที่ดีๆงามๆมันก็เป็นไปได้ทั้งนั้นหละ..

    นี่แหละคือ "ชนวน" แห่งการเลื่อนระดับขึ้นของจิตสำนึกของคนไทยอย่างหนึ่งหละ

    "เปลี่ยนน้ำท่วมให้เป็นน้ำใจ"


    http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=hYo8JfjDnYw#!
    ................................................................

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2011
  6. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    ขอบคุณมากครับคุณ "คุณชยุต" ทั่วโลกก็ให้ความสนใจกับเรื่องน้ำท่วมบ้านเราเยอะพอสมควรนะครับ แต่ที่เหนือกว่าสิ่งใดคือ"น้ำใจของคนไทย"ที่มีให้กัน การเลื่อนระดับของคนไทยได้เริ่มขึ้นแล้ว
     
  7. tangOAH

    tangOAH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,183
    ค่าพลัง:
    +5,528
    ขอบคุณนะคะ เป็นข้อความที่สร้างกำลังใจให้อย่างมากค่ะ

    :cool::cool::cool:<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  8. thanathama

    thanathama เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +129
    เมื่อเกิดเหตุการณ์น้ำถ้วมขึ้น ผมถามตัวเองว่าเราสามารถเรียนรู้อะไรได้บ้าง
    ก็มีความรู้สึกผุดขึ้นมาว่า โลกกำลังต้องการความรัก
    ผมเลยนึกย้อนกลับไปได้ว่าทุกครั้งที่เกิดภัยพิบัติขึ้นบนโลก
    ก็จะเกิดมวลความรักความเมตตาอันบริสุทธิ์ตามมาอย่างมหาศาลทุกครั้ง
    ผมเลยรู้สึกต่อได้ว่าถ้าเราสามารถคงความรู้สึกรัก และ เมตตาอย่างนี้เอาไว้
    และ ถ่ายทอดต่อ ๆ ไปจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งไปเรื่อย ๆ
    โลกคงไม่ต้องใช้ภัยพิบัติมากระตุ้นให้เกิดพลังงานความรัก
    และ เราก็คงอยู่กันอย่างสงบสุข
     
  9. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    บทความจาก Inelia ผู้มาจากต่างมิติ
    เดือนพฤศจิกายน 2554
    เรื่อง การเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร?

    ที่มา : http://www.ascension101.com/en/ascension-information/51-november-2011/171-what-it-means-to-be-human.html


    ตอนที่ 1



    การเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร?


    [​IMG]



    ใครๆก็มักจะพูดเช่นว่า “ฉันเป็นแค่มนุษย์เท่านั้น” หรือ
    “มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์(human nature)ที่ทำไปอย่างนั้น”
    โดยส่วนใหญ่แล้วเกี่ยวกับการกระทำในเชิงลบ
    ซึ่งมีคำคุณศัพท์คำเดียวที่ถูกใช้ในเชิงบวก และนั่นก็คือคำว่า “มนุษยธรรม(humane)”

    มีข้อมูลขัดแย้งกันอยู่มากมายในประเด็นที่ว่ามนุษย์เรามาจากไหน
    บ้างพูดว่าเราถูกสรรค์สร้างขึ้นโดยเทพเจ้าองค์หนึ่ง บ้างก็ว่าเราวิวัฒนาการมาจากลิง
    บ้างก็ว่าเราเป็นส่วนผสมโดยบังเอิญ(mishmash)ระหว่างส่วนประกอบทาง DNA ของสิ่งมีชีวิตบนดาวโลกกับเอเลี่ยน

    และธรรมชาติของเรา อันเป็นสิ่งที่บอกว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตแบบมนุษย์ตนหนึ่ง
    ก็กลายเป็นปริศนาให้ได้ขบคิดกันไปด้วยการสร้างกระบวนการอันเป็นระบบระเบียบทางวัฒนธรรม,ศาสนาและสังคม

    ฉันอยากให้พวกคุณได้รู้ว่าความเป็นมนุษย์นั้นมีความหมายอย่างไรตามที่ฉันเข้าใจ
    รวมทั้งอยากให้แง่คิดกับพวกคุณในบทบาทของการเป็นผู้สังเกตเห็นได้คนหนึ่ง
    ซึ่งน่าจะเป็นแง่คิดที่แตกต่างไปจากแง่คิดส่วนใหญ่

    อย่างแรกเลย ฉันมองเห็นว่าสิ่งมีชีวิตแบบมนุษย์ เป็นความสัมพันธ์แบบที่ต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันไประหว่าง
    “ตัวบุคคลหนึ่ง(person)” กับ “ร่างกายของเขาหรือเธอ(body)”
    ร่างกายนั้นมีความคิดรู้(intelligence)เป็นของมันเอง
    รวมถึงมีเส้นทางในการวิวัฒนาการของมันเองด้วย
    ร่างกายมนุษย์ก็คือการสำแดงออกมาเป็นรูปธรรมทางร่างกายซึ่งวิวัฒนาการสูงสุดแล้วของจิตสำนึกรู้แบบพระเจ้า(Divine Consciousness)นั่นเอง

    มันช่างน่าทึ่งที่ความรู้สึก, อารมณ์, การนึกคิด
    และสถานะของการเป็น “สิ่งมีชีวิต” มากมายหลายอย่างเป็นของร่างกายอย่างเดียวเท่านั้น
    รวมไปถึงความกลัวการสูญเสีย หรือโมโหหิวเนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำ
    หรือการที่ต้องการจะอยู่ใกล้ชิดร่วมกันกับมนุษย์คนอื่น

    ความลับปลีกย่อยอย่างหนึ่งเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์
    ซึ่ง “กลุ่มผู้เคยมีอำนาจ” ไม่ต้องการให้พวกคุณรู้ก็คือ
    ร่างกายมนุษย์เป็นสิ่งประดิษฐ์(artifact)ที่ก้าวหน้าขั้นสูงสุดซึ่งปรากฏเกิดอยู่บนดาวเคราะห์โลก
    (และอาจจะในดาวเคราะห์อื่นๆอีกหลายดวงด้วย)
    และเมื่อเรารวมประสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับ “ร่างกาย” ของคนอื่นๆเพื่อทำสมาธิหรือทำปฏิบัติการด้านพลังงาน
    มนุษย์เราก็สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาหลายๆลูกได้เลย
    พันธุกรรมและการสั่นสะเทือนของเราได้ถูกระงับยับยั้งไว้
    เพื่อหยุดเราจากการได้รู้และการเข้าใช้งานความสามารถทั้งหลายเหล่านี้มานานนับหลายพันปีแล้ว
    และใครก็ตามที่ทำให้ความสามารถเหล่านี้กลับมาทำงานขึ้นได้ใหม่
    เขาเหล่านั้นก็ถูกลงทัณฑ์โดยการเผาทั้งเป็นจนตาย

    ความลับปลีกย่อยอย่างที่สอง ก็คือ ทั้งหมดที่มนุษย์เราต้องทำเพื่อทำให้ความสามารถ
    และทักษะทั้งหลายของร่างกายมนุษย์เปิดทำงานขึ้นมาได้
    คือการเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของเรากับของกายเนื้อขึ้น
    และทั้งหมดที่เราต้องทำเพื่อที่จะบรรลุเช่นนั้นได้ก็คือ
    ขับสิ่งที่เป็นพิษทั้งทางกายเนื้อและทางการสั่นสะเทือนออกไป ทางกายเนื้อทำได้โดยสิ่งที่เรากินและดื่มเข้าไป
    และทางการสั่นสะเทือนทำได้โดยการบริหารจัดการความกลัวของเราเอง
    [การบริหารจัดการความกลัวอ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://palungjit.org/threads/inelia-ผู้มาจากต่างมิติ-บทสัมภาษณ์-และบทความจากเธอ-เกี่ยวกับปี-2012-และการ-ascension-ของโลก.293099/ ]

    บุคคล หรือ “วิญญาณ(soul)” คือ
    การสำแดงออกของจิตสำนึกรู้แบบพระเจ้ามาเป็นรูปธรรมที่วิวัฒน์สูงที่สุดในฐานะเป็นสิ่งอื่นอีกสิ่งหนึ่ง

    เป็นธรรมดาที่เมื่อเรามองไปรอบตัวแล้ว เราก็มองเห็นคนอื่นๆแต่ละคนๆ
    รวมทั้งตัวของเราเองด้วยในบางครั้ง ซึ่งต่างก็ไม่ได้ดูวิวัฒน์ไปมากแล้วแม้แต่นิดเดียวเลย

    ตรงนี้เป็นจุดที่เครื่องพรางแห่งความหลงลืมเข้ามาเกี่ยวข้อง
    ซึ่งเพื่อที่จะเล่นเกมอยู่ในระดับของความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ไม่เหมือนกันเลย(singularity)ในดาวเคราะห์ดวงนี้
    เราจึงเลือกที่จะลืมลักษณะความเป็นพระเจ้า(divinity)และความสามารถที่ไร้ขอบเขต(omnipotence)ของเราไป




    ....................
    <!-- google_ad_section_end -->
     
  10. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    บทความจาก Inelia ผู้มาจากต่างมิติ
    เดือนพฤศจิกายน 2554

    เรื่อง การเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร?

    ที่มา : http://www.ascension101.com/en/ascension-information/51-november-2011/171-what-it-means-to-be-human.html


    ตอนที่ 2



    โครงสร้างของจิตสำนึกรู้แบบเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถรับสัมผัสรู้สึกได้ทั้งหมดทุกโครงสร้าง
    ไม่ว่าของมนุษย์หรือของสปีชี่ส์อื่นๆก็ตาม ต้องลืมสิ่งที่เป็นแหล่งต้นกำเนิดไว้เป็นค่าเริ่มต้น
    ในขณะที่เรามาเป็นความเป็นเอกลักษณ์จำเพาะตนหนึ่ง
    ระดับของความหลงลืมก็มีแตกต่างกันไปหลากหลายระดับ
    แต่ความหลงลืมนั้นจะมีอยู่ในระดับใดระดับหนึ่งเสมอ

    เหตุผลของการมีชีวิตอยู่บนดาวเคราะห์ก็แตกต่างหลากหลายกันไปด้วยในแต่ละบุคคล ณ จุดนี้
    หลายๆคนก็แค่ต้องการมีชีวิตอยู่ให้สมกับการมีชีวิตไม่ว่าชีวิตนั้นได้นำอะไรมาให้ก็ตาม
    นอกนั้นก็ต้องการ “วิวัฒน์” ไปเป็นสิ่งอื่นบางสิ่ง บางคนที่อาจตระหนักรู้ไปได้มากกว่า
    ก็เลื่อนระดับเข้าสู่สภาวะแห่งชีวิตที่ “สั่นสะเทือนสูงกว่า” สิ่งที่เรามีอยู่ในขณะนี้ไป

    สำหรับตัวฉันเองแล้ว ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นเลย แต่ฉันอยู่ที่นี่เพื่อทำงานชิ้นหนึ่ง
    งานชิ้นนี้คือการเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
    กับการสั่นสะเทือนของสิ่งอื่นๆทุกสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงให้สูงขึ้น
    เท่าที่ฉันรู้ได้ ฉันไม่ได้มีชีวิตแบบ “วิญญาณมนุษย์(soul)” หนึ่งตนแบบนี้มาก่อน
    หรือฉันจะไม่มีแบบนี้อีกหลังจากชีวิตแบบวิญญาณมนุษย์ครั้งนี้สิ้นสุดลงไป

    ในขณะเดียวกัน ฉันก็มีประวัติศาสตร์ของตัวเองบนดาวเคราะห์นี้มา 45 ปี
    ส่วนใหญ่ก็เป็นชีวิตที่ธรรมดาๆทั่วไปไม่ได้มีอะไรโดดเด่น
    และฉันก็มีลูกด้วย 4 คน มีพี่น้อง 2 คน และมีเครือญาติกับเพื่อนฝูงมากมาย
    โดยพื้นฐานแล้ว ฉันดำรงชีวิตแบบชีวิต “มนุษย์”

    ฉันใช้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ไปในฐานะสิ่งชีวิตแบบมนุษย์คนหนึ่ง
    ซึ่งทำให้ฉันรู้สึกว่ามันเป็นปริศนาเกิดคำถามไปหมดเสียทุกอย่าง
    มันเป็นประสบการณ์ที่ไม่น่าต้องการและไม่น่าอภิรมย์เอามากๆ ตามระดับการได้มาซึ่งประสบการณ์ระดับหนึ่งๆ
    ถึงกระนั้นก็ตาม สิ่งที่ฉัน “รู้สึก(feel)” ได้เกี่ยวกับการปรากฏขึ้นในฐานะความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะก็คือ
    แม้ในระดับ “ตัวบุคคล(personal)” แล้ว มันจะดูไม่สัมพันธ์กันตรงๆเลยเสียทีเดียว
    แต่มันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันเป็นประสบการณ์ที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่องานชิ้นที่ฉันมาทำที่นี่

    ความหมายของการเป็นมนุษย์ ณ กาลอวกาศบนดาวโลกที่มีลักษณะจำเพาะเช่นนี้(particular planetary time/space)
    ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้นมากไปกว่านี้อีกแล้ว
    ในทางตรงกันข้าม มนุษย์เรากลับมีจำนวนมากมายนับล้านๆ
    ซึ่งเกิดเป็นมนุษย์ขึ้นที่นี่โดยมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่นๆและมิติแนวอื่นๆ
    เพื่อที่จะเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของจิตสำนึกสะสมแบบมนุษย์ในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา
    แต่ในอีกด้าน เราก็กลับมีกลุ่มรวมของสิ่งมีชีวิตที่รับความรู้สึกได้กลุ่มหนึ่งเกิดขึ้นมาหลายพันปีแล้วเช่นกัน
    ซึ่งอาศัยพลังงานที่ผลิตขึ้นโดยมนุษย์เป็นอาหาร
    และในขณะที่เราเพิ่มระดับการสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกให้สูงขึ้น
    ความเป็นดาวเคราะห์โดยรวมจึงกลายเป็นพิษสำหรับพวกเขาไป
    และพวกเขาก็กำลังทำทุกอย่างที่พวกเขาทำได้
    เพื่อทำให้ “ปศุสัตว์(cattle)” ที่ผลิตอาหารให้พวกเขาไม่ตื่นรู้ขึ้นมา




    .................
     
  11. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    บทความจาก Inelia ผู้มาจากต่างมิติ
    เดือนพฤศจิกายน 2554

    เรื่อง การเป็นมนุษย์มีความหมายอย่างไร?

    ที่มา : http://www.ascension101.com/en/ascension-information/51-november-2011/171-what-it-means-to-be-human.html


    ตอนที่ 3 จบ



    สงคราม, ความอดอยาก, โรคระบาด(กับความกลัวที่มันนำมาให้)
    ต่างก็เป็นสิ่งที่ขัดต่อธรรมชาติของสปีชี่ส์แบบมนุษย์ไปโดยสิ้นเชิง
    นี่คือเหตุผลที่ทหารซึ่งกลับมาจากเขตพื้นที่สงครามกลายเป็น “คนหดหู่(broken people)”
    มนุษย์เราไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนต่ำทั้งหลาย

    ความตาย คือประสบการณ์ที่ได้รับจากระดับร่างกายเนื้อเท่านั้น
    ร่างกายตายไปและเน่าเปื่อย แต่ “ความคิดรู้(intelligence)” ของมัน
    เคลื่อนย้ายออกมาและฟอร์มกายเนื้อแบบมนุษย์อีกร่างหนึ่งขึ้น
    “ความเป็นชีวิต/วิญญาณ/ตัวบุคล(The being/soul/person)”
    สามารถเคลื่อนย้ายเข้าและออกจากร่างกายเนื้อของเขาหรือเธอได้
    ทำได้แม้กระทั่งการสลับร่างกายเนื้อ(switch bodies)
    และการถือกำเนิดในร่างกายเนื้อใหม่ในทันทีที่สูญร่างกายเนื้อร่างก่อนไป

    แล้วเหตุใดล่ะ รูปธรรม “เชิงลบ(negative)” ชนิดอื่นเหล่านี้ จึงต้องการให้มนุษย์เราไม่ตื่นรู้?
    ทำไมพวกเขาจึงใช้มนุษย์เราเป็นแบตเตอรี่ส่วนตัว?

    เหตุผลก็คือ ร่างกายเนื้อของมนุษย์เราเป็นสิ่งประดิษฐ์อันน่าทึ่งที่สุดที่ได้ปรากฏเกิดอยู่
    เราไม่เพียงสรรค์สร้างสิ่งต่างๆขึ้นมาในสภาวะโลกแบบสสารทางกายภาพได้เท่านั้น
    แต่เรายังสามารถผลิตพลังงานหรือการสั่นสะเทือนจำนวนมหาศาลขึ้นในร่างกายเนื้อ(กายหยาบ)
    และร่างกายละเอียดแบบต่างๆได้อีกด้วย
    เนื่องจากสิ่งมีชีวิตเชิงลบเหล่านี้ไม่ได้เป็นของ “เมตริกซ์” ของมนุษย์เราโดยพื้นกำเนิด
    พวกเขาจึงจำเป็นต้องรับบางสิ่งบางอย่างเข้าไปหล่อเลี้ยงเพื่อที่จะดำรงอยู่ให้ได้
    และบางสิ่งบางอย่างเหล่านั้นก็คือ ความกลัวและอารมณ์ความรู้สึกที่สั่นสะเทือนต่ำชนิดอื่นๆของมนุษย์เรา

    ในขณะที่ฉันเดินท่องไปตามย่านเมืองใหญ่ ฉันรู้สึกชื่นชมและยำเกรงในสิ่งที่มนุษย์เราสร้างสรรค์ขึ้นมา
    ตั้งแต่สิ่งที่เล็กที่สุดตัวอย่างเช่น หลอดไฟฟ้า ไปจนถึงอาคารสิ่งก่อสร้างทั้งหลายที่น่าทึ่งที่สุด
    และเทคโนโลยีทุกอย่างที่ใช้เพื่อทำให้มันใช้งานได้
    แม้แต่บางสิ่งอย่างรถยนต์ มันก็ช่างน่าทึ่งยามจับตามอง

    มนุษย์เราในฐานะสปีชี่ส์หนึ่ง
    ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีที่ชดเชยความสามารถทั้งหมดซึ่งถูกริบไปจากมนุษย์นานนับหลายพันปีมาแล้วขึ้นได้

    ถึงแม้มนุษย์เราส่วนใหญ่ไม่สามารถสื่อสารกันทางจิตกับอีกคนหนึ่งหรือเป็นกลุ่มได้ในระยะไกล
    แต่โทรศัพท์ก็ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อทำให้การสื่อสารในระยะไกลเกิดขึ้นได้สำเร็จ

    แม้ว่ามนุษย์เราส่วนใหญ่ไม่สามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ในคลังข้อมูลสะสมรวม(collective databank)เพื่อใช้ข้อมูลและทักษะต่างๆได้
    แต่เราก็สรรค์สร้างอินเทอร์เน็ตอันเป็นที่ซึ่งเราสามารถทำในลักษณะนั้นได้ขึ้นมา

    ถึงแม้มนุษย์เราส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้จิตเคลื่อนย้ายคนหรือสิ่งของ(teleport)ข้ามโลกได้ในชั่วขณะเดียว
    แต่เราก็จัดการสรรค์สร้างรูปแบบการขนย้ายที่รวดเร็วมากๆขึ้นมาได้


    จากมุมมองของฉันแล้ว ยังมีอีกมากมายหลายอย่างในเรื่องความหมายของการเป็นมนุษย์ให้ได้เรียนรู้กัน
    ถึงกระนั้น สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้ก็คือ
    มนุษย์เราอยู่ที่นี่ ณ รอยต่อทางแยกของกาลอวกาศ(time/space)
    พวกเราทั้งหมดเป็นถึง : มนุษย์ แน่ะ :cool:
     
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขออนุญาตดันอีกหน่อยนะครับ
    ก่อนที่จะไม่ได้เข้ามาในเวปนี้อีกหลายวัน

    .................................
     
  13. Akornlokudorn

    Akornlokudorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +60
    หามานานครับ อยากอ่านมานานแล้ว สมใจอยากครับวันนี้:cool::cool:
     
  14. saintyom

    saintyom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    286
    ค่าพลัง:
    +776
    อยากเลื่อนระดับบ้าง ทำอย่างไรครับ?
     
  15. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ค่อยๆอ่านไปนะครับ
    การเลื่อนระดับก็คือการเข้าถึงตัวตนที่สูงส่งของเราเองนะครับ
    เป็นการเชื่อมต่อหรือเข้าถึงแหล่งปัญญาที่รู้แจ้ง
    เป็นการเริ่มค้นพบแนวทางชีวิตและภูมิปัญญาที่แท้จริง
    และการที่เรามีมุมมองแห่งการเรียนรู้ในสิ่งที่ดีที่สุดของเราตลอดไป

    ซึ่งผู้ที่ทำถูกต้องแล้วก็มักจะสังเกตเห็นการสื่อสารโดยตรงผ่าน synchronicities
    หรือความสอดคล้องเป็นจังหวะเดียวกันอย่างไม่บังเอิญ รวมถึงมุมมองวิสัยทัศน์และความฝันของเราด้วย
    ซึ่งหลายๆคนจะรับรู้อย่างฉับพลันและเป็นเป็นธรรมชาติ จากแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นอย่างลึกลับ (ในบางขณะ)

    วิธีการที่ง่ายที่สุดก็คือ...การปลุกอัฉริยภาพภายในออกมานะครับ
    เปิดตัวตนที่เป็นแก่นแท้ซึ่งเป็นอ่างน้ำที่ไร้ขีดจำกัดของเราออกมา
    การที่เราดำรงอยู่ในความรัก ที่ไม่ใช่ความกลัว
    นึกคิดหรือจินตนาการถึงสิ่งที่เป็นบวกด้วยสติปัญญาที่สร้างสรรค์
    การรักตัวเองที่ไม่ใช่ความเห็นแก่ตัว รู้จักแบ่งปันช่วยเหลือ
    ใช้หัวใจของเรานำทาง...สั่นสะเทือนเป็นพลังความรักและความเมตตา
    ก้าวผ่านบททดสอบต่างๆ ด้วยการยอมรับและเข้าใจมัน ผ่านการเป็นผู้สังเกตการณ์
    ลองทำดูนะครับ เพราะว่าเราทุกคนก็กำลังเคลื่อนย้ายเข้าสู่ช่วงเวลาที่ท้าทายมากขึ้นเรื่อยๆแล้วนะครับ :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2012
  16. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,262
    ขอบคุณมากครับหรับความเป็นมาของคุณอิเนเลีย คนที่เกิดท่ามกลางสังคมศาสนาคริสต์ แต่กลับมีความรู้ ความเห็น ที่ไม่เหมือนคริสต์ศาสนิกชน เป็นเรื่องที่น่าศึกษาเรียนรู้ และน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกเมื่อสตรีที่มีบุตรถึง 4 คน แต่บอกว่าหลังจากตายจากโลกนี้ไปแล้วเขาก็จะไม่เกิดเป็นอะัไรอีก เหมือนหายสาบสูญไปเลย คือนิพพานไม่เหลือเชื้อนั่นเอง และก่อนที่มาเกิดก็ไม่เคยเกิดเป็นอะไรมาก่อน ตรงมาเกิดที่นี่เพื่อปฏิบัติภารกิจ มันเป็นอะไรที่ชาวพุทธเราส่วนมากคับข้องใจ เพราะเราเรียนรู้มาอีกอย่าง เมื ่อได้รับรู้ในสิ่งที่ขัดกับความรู้ของเราก็อาจเกิดคับข้องใจขึ้นมา หรือปฏิเสธ ก็รับทราบไว้ไม่เสียหายครับ รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม

    อยากทราบเรื่องผู้รับสื่อสารรายอื่น ๆ บ้าง ไม่ทราบเมื่อไรจะแปลมาให้อ่านครับ :d:d:d
     
  17. Kingkong1

    Kingkong1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    776
    ค่าพลัง:
    +2,262
    เหมือนจิตหนึ่งหรือความว่าง จิตว่าง ของพุทธศาสนานิกายเซน
     
  18. จิตปีศาจ

    จิตปีศาจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +66
    เงียบ!!!ไปเลย ไม่มีต่ออีกเหรอครับ
     
  19. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    อ่านอีกรอบ ซึ้งอีกรอบ ดันต่อ
     
  20. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    Reconnecting with the spirit of money
    การกลับไปเชื่อมต่อกับวิญญาณของเงินใหม่อีกครั้ง


    โดย: Inelia Benz

    ที่มา:
    Reconnecting with the Spirit of Money


    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)


    ฉันเฝ้าแต่คิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด ครั้งแล้วครั้งเล่า
    เกี่ยวกับเรื่องที่เหล่า Light worker
    และผู้ที่กำลังเดินทางอยู่บนเส้นทางแห่งจิตวิญญาณทั้งหลาย
    มักจะยากจน พวกเขามักจะมีปัญหาอย่างมาก
    เกี่ยวกับการดึงดูดเงินทองให้เข้ามาสู่ชีวิตของพวกเขา

    แน่นอนว่า ไม่ใช่ว่าทุกๆคนจะต้องเป็นแบบนี้ไปซะทั้งหมด
    แต่ว่ามันก็ค่อนข้างที่จะกลายเป็นรูปแบบคล้ายๆกันทำนองนี้
    ท่ามกลางเหล่านักบำบัดทั้งหลาย (healers),
    นักพลังจิตทั้งหลาย (psychics),
    และแม้แต่ท่ามกลางผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่าง
    กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นอยู่ก็ด้วย

    ฉันจะไม่พูดถึงเหตุผลว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้
    เพราะว่ามันไม่ค่อยสำคัญสักเท่าไหร่
    แต่อย่างไรก็ตาม ฉันก็อยากจะชี้ให้เห็นว่า
    คุณจะต้องลงมือกระทำอะไรซักอย่าง
    กับ “สิ่งอุดตัน” ทั้งหลายที่มีอยู่ในตัวของคุณเอง
    ที่ทำให้เกิดปัญหาชนิดนี้ขึ้น กับชีวิตของคุณเอง ซะบ้าง

    แบบฝึกหัดที่เรากำลังจะพูดถึงในตอนท้ายของบทความนี้
    จะทำให้คุณสามารถชี้บ่งได้ว่าปัญหาของคุณคืออะไร
    เพื่อจะได้จัดการกับมันซะ และเยียวยารักษามันซะ

    ซึ่งหลังจากที่คุณได้เรียนรู้แบบฝึกหัดนี้ไปแล้ว
    คุณก็จำเป็นจะต้องนำไปปฏิบัติใช้จริงๆด้วย
    อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง ซึ่งจะดีมาก
    ถ้าจะทำในช่วงเวลาที่คุณเพิ่งทำสมาธิเสร็จใหม่ๆ

    เรื่องที่สำคัญมากที่สุดเกี่ยวกับ “เงิน”
    ที่คุณจะต้องเข้าใจก็คือ
    “มันก็คือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในรูปแบบของพลังงานชนิดหนึ่งด้วย”
    มันก็มีชีวิตด้วย!

    ให้คิดถึงมัน ว่ามันก็เป็น “ธาตุที่มีจิตวิญญาณ”
    (Elemental) ชนิดหนึ่งด้วย
    มันคือธาตุที่มีพลังอำนาจอย่างมาก
    และมีความสำคัญอย่างมากชนิดหนึ่ง

    ฉันอยากจะพูดด้วยซ้ำไปว่า
    บางทีมันอาจจะเป็นธาตุที่มีจิตวิญญาณ (Elemental)
    ที่มีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตของคุณ
    ในทุกวันนี้ก็ว่าได้ นั่นก็เพราะว่า
    สภาพการดำเนินชีวิตของพวกเราในโลกทุกวันนี้
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกเราที่อาศัยอยู่ในประเทศ
    ที่อยู่ในซีกโลกตะวันตก
    จำเป็นจะต้องใช้เงินในการดำรงชีวิตนั่นเอง

    เพราะว่าถ้ามีเงิน คุณก็จะสามารถทำสิ่ง
    ที่เป็นเรื่องพื้นฐานที่สุดในชีวิตของคุณได้
    เช่น ทำให้มีน้ำสะอาดดื่ม ทำให้มีที่อยู่อาศัย
    ทำให้มีเครื่องนุ่งห่ม
    ทำให้สามารถแสดงความเป็นตัวตนของคุณ
    ในทางสร้างสรรค์ออกมาได้
    และการที่จะมีของอยู่ของกินในทุกวันนี้
    สิ่งที่เป็นปัจจัยพื้นฐานมากที่สุดในชีวิตของเรา
    ก็จะได้มาจากการแลกเปลี่ยนด้วยเงิน
    เพราะฉะนั้น เงินจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อพวกเรา

    อีกเรื่องหนึ่งของเงิน ที่ฉันอยากจะให้คุณเข้าใจก็คือ
    “เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย” แม้ว่าอาจจะมีบางคน
    ที่ใช้เงินไปในทางที่ไม่ดีก็ตาม
    แต่ “เงิน” โดยตัวมันเองแล้ว ไม่มีอะไรที่เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย

    เมื่อใดที่คุณเป็นที่รู้จักหรือยอมรับของเงินแล้ว
    และสามารถเชื่อมต่อกับพลังงานของเงินได้แล้ว
    คุณก็จะได้รู้ได้เห็นด้วยตัวของคุณเอง
    ว่ามันไม่มีอะไรที่ไม่ดีเลยแม้แต่นิดเดียว เกี่ยวกับเงิน
    เพราะว่ามันคือสิ่งที่ครอบคลุมทุกสิ่งทุกอย่างแบบเบ็ดเสร็จ
    มันคือสิ่งสร้างสรรค์ มันคือสิ่งที่หล่อเลี้ยงบำรุงพวกเรา
    มันคือสิ่งที่อบอุ่น และมันก็คือสิ่งที่สวยงาม
    และฉันก็อยากจะให้คุณสามารถสัมผัสรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ได้ด้วย

    ในแบบฝึกหัดนี้ คุณจะต้องมีเงินจำนวนหนึ่งถือไว้ในมือด้วย
    ซึ่งถ้าเป็นธนบัตรจะดีกว่าเหรียญ แต่ถ้าในขณะนั้น
    คุณไม่มีธนบัตรเลย เหรียญก็สามารถใช้ได้เหมือนกัน
    แต่ว่าครั้งต่อไป ให้พยายามหาธนบัตรมาให้ได้ ยิ่งมีค่ามาก ก็ยิ่งดี

    ให้วางธนบัตรไว้ระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของคุณ
    ให้วางมือไว้ข้างหน้าคุณแบบสบายๆ
    ซึ่งมันก็อาจจะดูเหมือนว่า
    คุณกำลังสวดมนต์อธิษฐานจิตอยู่บ้างนิดหน่อย
    แต่ว่ามือของคุณจะวางแบบสบายๆอยู่ด้านหน้าของคุณ
    ดังนั้นมันจึงดูสวยงามและสบายๆ

    มันสำคัญมากๆว่า ในขณะที่คุณกำลังทำแบบฝึกหัดนี้อยู่
    คุณจะต้องไม่ร้องขอสิ่งใดเลย
    เพราะว่าฉันเคยสังเกตเห็นว่า คนบางคน
    ทันทีที่สามารถเชื่อมต่อกับเงินได้แล้ว
    หรือเมื่อพวกเขารู้สึกว่าเริ่มที่จะเชื่อมต่อกับเงินได้แล้ว
    พวกเขาก็จะเริ่มร้องขอสิ่งต่างๆทันทีเลย
    เช่น โอ..ฉันต้องการรถคันใหม่ ฉันต้องการงานใหม่
    ฉันต้องการเงินเพื่อไปซื้ออาหาร ฉันต้องการสิ่งนั้นสิ่งนี้ ฯลฯ

    จงอย่าทำแบบนั้น

    ลองคิดดูซิว่า คุณกำลังจะไปพบกับเพื่อนใหม่คนหนึ่ง
    เพื่อที่จะไปขอเป็นเพื่อนกับเขาหรือเธอผู้นั้น
    ซึ่งทันทีที่คุณได้พบหน้าเขาหรือเธอผู้นั้น
    คุณก็จะไม่เริ่มต้นขอสิ่งนั้นสิ่งนี้จากเพื่อนใหม่คนนั้นหรอกใช่ไหม๊

    ดังนั้นสิ่งที่พวกเรากำลังจะทำต่อจากนี้ ก็คือ..
    ในขั้นแรกให้ทำความคุ้นเคยกับพลังงานของเงินซะก่อน
    แล้วจากนั้นพวกเราก็จะปล่อยให้มัน
    แสดงความเป็นตัวตนของมันออกมาในสนามพลังงานของเรา
    นั่นแหละคือทั้งหมดที่พวกเราจะทำกันในตอนนี้หละ

    ดังนั้น ให้วางเงินเอาไว้ในระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของคุณ
    แล้วทำจิตใจให้สงบ จากนั้น
    พวกเราก็จะทำความรู้สึกไปที่ธนบัตรอันนั้น
    แค่ทำความรู้สึกถึงมันเฉยๆนะ
    ให้รู้สึกว่า มันกำลังอยู่ในระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของเรา
    ให้คิดว่าเรายินยอมให้มันอยู่ที่นี่

    แล้วไม่นานเราก็จะเริ่มรู้สึกอุ่นๆขึ้นมาที่ฝ่ามือของเรา
    เพราะว่ามันจะมีพลังงานแห่งความรักอันอบอุ่นแผ่ออกมาจากเงิน
    นั่นคือสัญญาณเริ่มต้นที่บอกให้เราทราบว่า
    คุณกำลังจะเป็นที่รู้จักหรือยอมรับของเงินแล้ว

    มันจะรู้สึกอุ่นๆ แล้วฉันอยากจะให้คุณพูดว่า “สวัสดี”
    แล้วบอกมันว่า คุณอนุญาตให้มันแสดงตัวตนของมันเองออกมา
    ให้คุณได้เห็น หรือได้รับรู้ได้
    แล้วจากนั้น ให้คอยฟังอยู่เฉยๆ
    ให้ทำจิตใจให้สงบ ให้นิ่ง แล้วคอยรับฟังมัน
    ถ้ามีภาพอะไรปรากฎขึ้นมา ก็ให้ดูมัน
    ถ้ามีความคิดอะไรผุดขึ้นมาในใจของคุณ
    ก็จงปล่อยให้มันแสดงออกมา


    ครั้งแรกที่ฉันทำแบบฝึกหัดนี้
    ฉันเห็นภาพนิมิตรอย่างหนึ่งปรากฎขึ้นมาจริงๆ
    มันเป็นภาพที่คุณแม่ของฉัน
    กำลังดึงเอาธนบัตรออกไปจากปากของฉัน
    แล้วไล่ให้ฉันเข้าห้องน้ำไปล้างปากเสีย
    และบอกกับฉันว่า เงินหนะสกปรกมากแค่ไหน
    และบอกฉันว่าฉันไม่ควรที่จะเอาเงินใส่เข้าไปในปากอีก
    และฉันก็ควรที่จะล้างมือทุกครั้งที่จับเงินด้วย

    แน่นอนว่า มันทำให้ฉันตกใจมาก และนั่นแหละ
    คือตัวการใหญ่ที่ทำให้เกิดการอุดตันขึ้น
    เพราะว่ามันทำให้ฉันไม่สามารถยินยอมให้เงิน
    เข้ามาในชีวิตของฉันได้เลย คุณรู้ไหมว่า
    ฉันไม่สามารถยินยอมให้เงินมาแตะต้องสัมผัสตัวฉันได้เลย
    เพราะว่ามันสกปรก ฉันค่อนข้างแปลกใจ
    ที่ฉันได้เห็นภาพนิมิตรอันนั้น
    เพราะว่าฉันได้ลืมมันไปจนหมดสิ้นแล้วนั่นเอง
    ดังนั้น ฉันจึงขอบคุณมัน แล้วฉันก็ปลดปล่อยมันไป

    และถ้าคุณเองก็ได้รับการตอบสนองกลับในแง่ลบ
    รูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง แบบนี้เหมือนกัน
    จากการทำแบบฝึกหัดนี้ ทั้งหมดที่คุณจะต้องทำก็คือ
    แค่กล่าวขอบคุณภาพนิมิตรอันนั้น แล้วทำความรู้สึกถึงมัน
    ถึงสิ่งที่อุดตันอยู่อันนั้น แล้วก็ปลดปล่อยมันไป
    เพราะว่าที่มันโผล่ขึ้นมาในช่วงจังหวะนี้
    ก็เพื่อที่จะให้คุณปลดปล่อยมันไปนั่นเอง

    ฉันเองก็ใช้เวลาอยู่ตั้งหลายสัปดาห์
    กว่าที่จะกำจัดสิ่งอุดตันเหล่านี้ออกไปได้หมด
    และในที่สุดฉันก็สามารถที่จะนั่งอยู่เฉยๆ
    แล้วยินยอมให้เงิน
    แสดงตัวตนของมันเองออกมาให้ฉันรับรู้ได้

    และขั้นตอนต่อไปก็คือ
    การยินยอมให้มันเข้ามาอยู่ในสนามพลังงานของคุณ

    ดังนั้น เมื่อใดที่คุณได้รับการตอบสนองในแง่บวกจากเงินแล้ว
    และเมื่อใดที่คุณได้ยินยอมให้มันแสดงตัวตนของมันออกมา
    ให้คุณได้รับรู้อย่างเต็มที่และอย่างสุดๆไปแล้ว
    ฉันอยากจะให้คุณขอร้องให้มันเข้ามาสู่ชีวิตของคุณ
    ให้มันเข้ามาสู่สนามพลังงานของคุณ

    และฉันสามารถบอกคุณได้เลยว่า
    มันจะดีใจอย่างมาก และดีใจแบบสุดๆด้วย
    ที่จะได้ทำแบบนั้น เพราะว่าไม่มีสิ่งใด
    ที่เงินมันจะชอบไปมากกว่า
    การที่จะได้เข้ามาอยู่ในชีวิตของคุณอย่างมากมายก่ายกอง
    นั่นคือวิธีการเดียว ที่มันจะแสดงตัวตนของมันออกมาได้
    ซึ่งก็คือการมีอยู่อย่างมากมายก่ายกอง
    และก็คือการได้เข้ามาอยู่ในทุกแง่ทุกมุมของชีวิตของคุณ

    ดังนั้น ในทางปฏิบัติแล้ว โดยทั่วไป
    เราจะแปลความหมายของสิ่งนี้ว่า
    การที่คุณยินยอมให้ธนบัตร
    ที่อยู่ระหว่างฝ่ามือทั้งสองข้างของคุณอุ่นขึ้นนั้น
    ก็คือการที่คุณยินยอมให้มันอุ่นขึ้น
    ก็คือการที่คุณยินยอมให้มันร้อนขึ้น
    และคุณก็ยินยอมให้ความอบอุ่นนั้นเจริญเติบโตขึ้น
    และแผ่ขยายออกมาโอบล้อมตัวคุณ
    คุณยินยอมให้มันเข้ามาสู่ชีวิตของคุณ
    และเข้ามาในกระแสชีวิตของคุณ
    เข้ามาสู่ความรักของคุณ

    สัญญาณที่คุณจะได้พบ
    จะคล้ายคลึงกับสัญญาณของดาวเคราะห์แม่โลกอย่างมาก
    เพราะว่าทั้งเงินและดาวเคราะห์แม่โลกเป็นหนึ่งเดียวกัน
    และเหมือนกัน จงยินดีต้อนรับมัน จงโอบกอดมันไว้


    คุณอาจจะหยุดฟังไฟล์เสียงนี้ ณ.จุดนี้เลยก็ได้
    (บทความนี้ถูกบันทึกในรูปแบบของไฟล์เสียงมาก่อน – ผู้แปล)
    เพื่อที่คุณจะได้ปล่อยให้ประสบการณ์นี้มันดำเนินต่อไป
    จนกระทั่งมันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงด้วยตัวของมันเอง


    และหลังจากที่คุณทำแบบฝึกหัดนี้เสร็จแล้ว
    จงกล่าวคำขอบคุณ “จิตวิญญาณของธาตุเงิน” นี้เสีย
    ที่ได้มาแสดงตัวตนให้คุณได้รับรู้อย่างเต็มที่
    แล้วจากนั้นถ้าคุณหลับตาอยู่ ก็จงลืมตาขึ้น
    แล้ววางเงินนั้นลง

    จงจำไว้ว่า คุณจะต้องทำแบบฝึกหัดนี้
    อย่างน้อยวันละ 1 – 2 ครั้ง
    และก็อย่าลืม กลับเข้ามาในเวปไซต์
    www.ascension101.com ด้วย
    เพื่อมาบอกเล่าถึงผลลัพธ์ที่คุณได้รับ
    ให้พวกเราฟังด้วยนะ ฉันอยากจะได้ยินจากคุณ

    .........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...