Inelia ผู้มาจากต่างมิติ - บทสัมภาษณ์ และบทความจากเธอ เกี่ยวกับปี 2012 และการ Ascension ของโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 6 มิถุนายน 2011.

  1. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เนรมิตฝันของคุณให้เป็นจริงเดี๋ยวนี้ – มันเกี่ยวข้องอย่างไรกับการเลื่อนระดับขึ้น
    (Manifest your dreams now – how it links to Ascension)

    บทความโดย: Inelia Benz
    พฤศจิกายน 2010

    ที่มา:

    Manifest Your Dreams Now - how it links to Ascension

    พวกเราหลายคนเมื่อได้ยินคำว่า “การเนรมิตให้กลายเป็นจริง” (manifest) แล้ว
    ก็มักจะนึกถึงภาพยนต์เรื่อง “The Secret” เพราะว่าภาพยนต์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก
    เพราะว่ามันสร้างขึ้นมาจากความเป็นจริงพื้นฐานอย่างหนึ่ง ที่พวกเราทุกคนต่างก็รู้ว่ามันเป็นความจริง
    เพียงแต่พวกเราละเลยที่จะเข้าถึงมันเท่านั้นเอง

    ความจริงที่ว่านั้นก็คือ พวกเราคือสิ่งมีชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์
    ผู้ที่สามารถเนรมิตโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเราขึ้นมาเองได้


    และเมื่อเราปฏิบัติงานเพื่อการเลื่อนระดับขึ้นของพวกเราเองแล้ว
    ผลพลอยได้อย่างหนึ่งก็คือ โลกแห่งความเป็นจริงของเรา
    จะกลายเป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น อย่างมาก


    ซึ่งแรกๆเราอาจจะรู้สึกคลั่งไคล้เล็กน้อย และ สนุกอยู่กับการเนรมิตสิ่งที่เป็นวัตถุสิ่งของต่างๆ,
    เนรมิตคู่รักที่สมบูรณ์แบบ, หรือเนรมิตร่างกายที่สมบูรณ์แบบ

    แต่หลังจากนั้น เราก็จะเปลี่ยนมาเนรมิตสิ่งที่น่าสนใจมากกว่า และ ดึงดูดใจมากกว่า

    ความปราถนาหลักๆ 3 ประการในชีวิตของพวกเราส่วนใหญ่ก็คือ
    ความมั่งคั่งร่ำรวย, สุขภาพ, และความรัก

    จากนั้นค่อยมาถึงเรื่องของความสามารถทางจิต, ความตระหนักรู้ที่มากขึ้น, การรู้แจ้ง และการเลื่อนระดับขึ้น
    แต่ว่าทั้งหมดนี้ ก็จะมีความสั่นสะเทือนที่สำคัญอย่างหนึ่งที่เหมือนๆกัน นั่นก็คือ ต้องการความสุข


    สำหรับชาวโลกมากมายแล้ว ศิลปะแห่งการเนรมิตนี้ ใช้ไม่ได้ผลกับพวกเขา
    ดังนั้นพวกเขาจึงยังคงยากจนอยู่, สุขภาพก็ยังไม่ดีอยู่, ยังคงเป็นโสดอยู่ (แม้ว่าจะไม่อยากจะเป็นโสดก็ตาม),
    ยังขี้เหร่อยู่, ยังไร้ความสามารถทางจิตอยู่, ยังมืดบอด และ
    ขาดการเชื่อมต่อกับแห่งกำเนิดของทุกสรรพสิ่งอยู่


    ดังนั้น จึงมีหนังสือที่เขียนโดยกูรูผู้รู้ทั้งหลายออกมามากมาย เกี่ยวกับ
    “ตัวเชื่อมต่อที่หายไป” (the missing link) หรือเกี่ยวกับ “ความลับเบื้องหลังความลับ”
    เพื่อทำให้ “ความลับ” นี้มันทำงานได้ผล


    เหตุผลที่มันใช้ได้ผลกับคนหนึ่ง แต่ใช้ไม่ได้ผลกับอีกคนหนึ่ง นั้นมีนิดเดียวเอง
    นั่นก็คือเพราะว่า คนๆนั้นทำการเนรมิตด้วยความกลัว และความอยาก
    ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นทำการเนรมิตด้วยความสุข และความรัก


    มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนระดับความสั่นสะเทือนเท่านั้นเอง
    ดังนั้น เห็นหรือยังว่าเรื่องนี้มันเกี่ยวข้องอะไรกับการเลื่อนระดับขึ้น?


    เมื่อคนๆนั้นก้าวหน้าขึ้นมาผ่านกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นแล้ว เขาหรือเธอผู้นั้น
    ก็จะเปลี่ยนจากระดับความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆ ไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น
    ซึ่งโดยพื้นฐานแล้ว พวกเขาก็จะเปลี่ยนจากความกลัว, ความโกรธ, และความทุกข์
    มาเป็นความรัก, ความสงบ และความสุข


    แต่ว่าขั้นตอนเหล่านี้นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันหมดในคราวเดียว ดังนั้น ตัวอย่างเช่น
    ในบางช่วงเวลา คนๆนั้นก็อาจจะขึ้นมาได้สูงกว่าจุดที่เป็นจุดเริ่มต้นอย่างมาก จนไม่กลัวความยากจนอีกแล้ว
    แต่ก็ยังอาจจะยังมีความกลัวที่จะต้องแก่ตายไปเพียงลำพังคนเดียวอย่างมากอยู่เป็นต้น
    ซึ่งถ้าในขณะเดียวกันนั้น พวกเขายังขมักเขม้นเดินหน้าเนรมิตความฝันในชีวิตของตัวเองอยู่ต่อไป
    มันก็อาจจะเหมือนกับการขับรถเฟอร์รารี่ แต่ไม่รู้วิธีเปลี่ยนเกียร์นั่นเอง


    ยิ่งคนๆนั้นมีความก้าวหน้าในการทำแบบฝึกหัดแห่งการเนรมิตมากขึ้นเท่าใด
    ความสามารถในการเนรมิตความฝันในชีวิตของพวกเขา
    ก็จะยิ่งมากตามไปด้วย ตรงนี้แหละคือปัญหาหละ
    เพราะว่าหากพวกเขาไม่จัดการกับความกลัวของพวกเขาให้หมดไปให้ได้ซะก่อน
    พวกเขาก็จะเนรมิตฝันร้ายของตัวเองขึ้นมาร่วมด้วยอยู่ต่อไป


    อีกครั้งหนึ่ง ในขณะที่เราปฏิบัติงานเพื่อการเลื่อนระดับขึ้นของเรานี้
    ความสามารถในการเนรมิตของเราก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆด้วย


    วิธีที่ปลอดภัย และรวดเร็วที่สุดในการเนรมิตก็คือ
    การจดจ่อความพยายามทั้งหมดของพวกเราให้กับการเลื่อนระดับขึ้น


    ดังนั้น แทนที่เราจะใช้จินตนาการ และทำความรู้สึกของเรา ไปกับการเนรมิตความมั่งคั่งร่ำรวย, ความรัก และสุขภาพ
    พวกเราควรจะเริ่มต้นโดยการหันมาจัดการกับความกลัว, ความโกรธ
    และความอยากที่จะประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดแทน

    และหลังจากที่ปฏิบัติเสร็จในแต่ละวันแล้ว พวกเราก็จะใช้เวลาสั้นๆ
    อยู่ในความสุขเกษมแห่งความรักอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้า


    เมื่อถึงเวลาที่เราไม่รู้สึกกลัว, ไม่โกรธ และไม่อยากอะไรอีกต่อไปแล้ว
    เมื่อถึงเวลานั้น เราก็จะได้เห็น และเบิกบานกับชีวิตที่สมบูรณ์แบบของเรา
    และได้เฝ้ามองดูมันปรากฏออกมารอบๆตัวเราด้วยความทึ่ง


    ถ้าคุณอยากรู้ว่าตอนนี้คุณกำลังอยู่ในขั้นตอนไหนแล้ว ให้ลองสังเกตุดูว่า
    เมื่อคุณได้อ่านข้อความต่อไปนี้แล้ว คุณมีความรู้สึกต่อต้านหรือไม่


    - ฉันต้องการแก่ตายไปเพียงลำพังคนเดียว
    - ฉันมีความสุขดีกับเรื่องน้ำหนักตัวของฉัน
    - ฉันไม่สนใจหรอกว่าสุขภาพของฉันจะดีหรือไม่
    - ฉันไม่ต้องการที่จะมั่งคั่งร่ำรวย

    ซึ่งถ้าหากว่ามีประโยคใดประโยคหนึ่งจากข้างบนนี้ ทำให้คุณรู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาได้หละก็
    ให้ค้นหาอาการเจ็บที่ว่านั้นในร่างกายของคุณดู และติดตามพลังงานนั้นกลับไปที่แหล่งกำเนิด
    แล้วให้จัดการกับความกลัว, ความโกรธ และความขัดสนที่คุณเจอนั้นเสีย

    ถ้าคุณพบว่ามีการต่อต้านเกิดขึ้นในคำแนะนำสุดท้ายนั้น นั่นเป็นเพราะว่า
    คุณยังไม่พร้อมที่จะปลดปล่อยสภาวะแห่งความสุขของคุณออกไป ให้จัดการกับมันซะด้วย


    (แบบฝึกหัดเพื่อจัดการกับความกลัว ผมได้โพสต์ไปแล้วก่อนหน้านี้นะครับ – ผู้แปล)

    คุณเข้าใจไหม เราไม่ได้ขจัดเอา "ความต้องการ" ของเราออกไป
    มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า หากเรามามีประสบการณ์บนโลกนี้
    โดยปราศจากความสุขจากสิ่งที่เราสร้างให้เป็นจริงขึ้นมา
    และนั่นก็คือ catch22 สถานการณ์ที่ไม่ว่าคุณจะเลือกทำแบบไหนในสองแบบนี้ ก็ไม่ดีทั้งนั้น

    (ซึ่งอธิบายได้ดังต่อไปนี้.../ผู้แปล)

    หากเรามี ความปรารถนา ความกลัว หรือปฏิเสธที่จะละทิ้ง "ฝัน" ที่เราคิดว่าจะทำให้เรามีความสุข
    เราก็จะไม่มีทางที่จะมีความสุขแท้จริงได้เลย
    และหนทางการสร้างฝันเป็นจริงของเราก็จะเจ็บปวดและเนิ่นนาน

    หากแต่เราปล่อยทิ้งความฝันเหล่านั้น เราก็อาจจะไม่มีทางได้มันมาอีกเลย

    แต่ก็มีคำว่า "แต่ทว่า" อีกที ในที่นี้ นั่นคือ

    เราจะได้รับในสิ่งที่เราไม่เคยฝันไว้ก่อน หรือไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้
    ซึ่งรวมถึงความสุขในระดับที่นึกไม่ถึง ไม่มีใครรู้มาก่อน ในหมู่ผู้คนในปัจจจุบันนี้เลยทีเดียว...


    คือ คุณ Inelia พยายามบอกว่า
    หากเราเลือกเดินหนทาง ascension เราจะได้ประสบกับความสุขในระดับที่ไม่มีใครในหมู่พวกเราจะรู้จักมาก่อนเลย
    คือ หนทาง ascension จะเหนือชั้นกว่า หนทาง the secret


    (ข้อความในย่อหน้าด้านบนนี้ แปลโดยคุณ Treeam นะครับ เพราะผมแปลแล้วอ่านไม่เข้าใจเท่าไหร่
    ข้อความดั้งเดิมของเขาอยู่ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)


    You see, we don't remove our "want". What would the point of a physical experience be
    without the joy of a magnificent reality? And that's the catch 22.

    If we need, fear or refuse to drop the "dreams" that we think will make us happy,
    we can never be truly happy, and our manifesting will be a painful and slow slog.
    And if we do drop them, we might never get them.

    But here is the "but", we get things we never even dreamed of, or thought possible.
    Including a level of happiness unknown to most people alive today.


    .....................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2011
  2. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ตื่นเต้นมากเลยครับมาโพสต่อน่ะครับผมติดตามและเติมเต็มแสงสว่างอยู่ครับ ^^
     
  3. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253
    You see, we don't remove our "want". What would the point of a physical experience be
    without the joy of a magnificent reality? And that's the catch 22.

    If we need, fear or refuse to drop the "dreams" that we think will make us happy,
    we can never be truly happy, and our manifesting will be a painful and slow slog.
    And if we do drop them, we might never get them.

    But here is the "but", we get things we never even dreamed of, or thought possible.
    Including a level of happiness unknown to most people alive today.

    อาจจะเแปลไม่ได้สละสลวยนะครับ ผิดถูกประการใด ขออภัยด้วยนะครับคุณชยุต

    แต่จากประโยคข้างต้นที่เข้าใจ ก็คือ

    เราไม่ต้องละทิ้งสิ่งใดๆเลย เพียงแต่ทิ้งความกลัวไปเท่านั้น

    เราทิ้งความฝันไป ก็เพราะเรากลัวที่จะฝัน กลัวว่าจะทำไม่ได้ กลัวที่จะไม่สำเร็จ กลัวความยากจน และสิ่งอื่นๆ

    ซึ่งความกลัวนั้นหละ ที่จะกลับมาสร้างความเป็นจริงของเรา

    แล้วเราก็ปลอบใจตนเอง ให้รู้สึกดีว่า ต้องละ ละในสิ่งที่เราก็ยังไม่เข้าใจ
    ความขัดแย้งในใจจึงยังดำเนินอยู่ ไม่หายไปไหน

    เราจึงไม่พบ ไม่เจอ ความสุขสดชื่น ที่เราพึงมี พึงได้ :)


     
  4. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณ คุณชยุต และคุณ cosmiccell มากเลยน่ะครับ ^^
     
  5. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    การเลื่อนระดับขึ้น กับ ศิลปะแห่งการเนรมิต
    (Ascension and the Art of Manifestation)

    บทความโดย: Inelia Benz
    มกราคม 2010

    ที่มา:

    Ascension and the Art of Manifestation


    มันไม่ใช่ความลับอะไรเลย ที่คนเราจะต้องการอาหาร, ความปลอดภัย และการปกป้องคุ้มครอง
    ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการพัฒนาจิตวิญญาณ และฉันก็หมายถึงปัจจัยพื้นฐาน อาหารอิ่มท้อง น้ำ ที่อยู่อาศัย
    และการปราศจากสัตว์ร้าย หรือสภาวะอากาศที่เลวร้าย ที่จะมาทำให้ร่างกายของเขาหรือเธอตายได้


    ในสังคมยุคใหม่ของพวกเรา บ่อยครั้งที่ผู้ที่มีความมั่นคงทางการเงินจะมีเวลาหันมาใส่ใจ
    และเริ่มต้นเดินบนวิถีแห่งการเลื่อนระดับขึ้นของจิตวิญญาณ แต่อย่างไรก็ตาม
    บางครั้งความมั่นคงทางการเงินที่ว่านี้ก็อยู่ได้ไม่นาน แล้วจะทำอย่างไรดีหละ?


    เมื่อเราอยู่ในสภาวะแห่ง "ความเป็นหนึ่งเดียว" (Oneness)
    หรือเข้าไปแวะเยี่ยมเยือนมันเป็นประจำทุกวันได้แล้ว
    ปาฏิหาริย์ก็จะเกิดขึ้น สิ่งต่างๆก็จะค่อยๆเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้น
    อย่างไม่รู้ที่มาที่ไปที่แน่ชัด ความปราถนาต่างๆของเรา
    ก็จะกลายเป็นจริง และชีวิตก็จะมั่นคงมากขึ้น

    พวกเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากเลย
    นอกเหนือจากทำตามแรงบันดาลใจของเราเอง
    และมีความสุขกับมันเท่านั้น

    แล้วชีวิตก็จะผลิตผลงานของมันออกมาให้เราเองนั่นแหละ



    มันอาจจะมีสักวัน ในช่วงชีวิตของคุณ ที่คุณจำเป็นต้องเนรมิตความอยู่ดีมีสุขให้เกิดขึ้น
    ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงิน ด้านสุขภาพ ด้านความสัมพันธ์ หรือด้านอื่นๆ
    และก็อยากจะทำมันให้ได้อย่างรวดเร็วด้วย และนี่คือสิ่งที่คุณจะทำ
    คุณเรียนรู้วิธีการเนรมิตแบบใดแบบหนึ่ง เช่น การใช้กฎแห่งการดึงดูด แล้วก็ยึดติดมัน!

    แต่ฉันขอแนะนำว่า ทำสมาธิซะก่อน
    ไปให้ถึงสภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียวให้ได้ซะก่อน
    แล้วค่อยทำแบบฝึกหัดสำหรับการเนรมิต


    คำเตือน: แต่อย่าไปยึดติดกับการเนรมิตนะ ทำวันละครั้งก็พอแล้ว
    แล้วกลับออกมาสู่สภาวะแห่งการเลื่อนระดับขึ้นตามธรรมชาติของคุณ
    ทำตามแรงบันดาลใจ และความสุขของคุณ, ดำรงอยู่ในศูนย์กลางจักระหัวใจของคุณ,
    ทำจิตใจให้สงบ และปล่อยให้กระแสพลังงานของจักรวาลไหลผ่านตัวคุณ

    คุณสามารถพบวิธีการเนรมิตเงินจำนวนมากได้จากไฟล์เสียงชุดนี้
    Reconnect with the Spirit of Money MP3



    และมันก็จะมีสักวัน ที่คุณจะไม่จำเป็นต้องเนรมิตอะไรอีกต่อไปแล้ว
    เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณต้องการ และที่นอกเหนือจากความต้องการของคุณ
    จะหลั่งไหลมาสู่คุณอย่างง่ายดาย และโดยไม่ต้องใช้ความพยายาม

    เพียงแค่ทำให้ “ความเป็นหนึ่งเดียว” เป็นสิ่งสำคัญอันดับแรกสุด
    ของชีวิตของคุณให้ได้เท่านั้นเอง


    ………………………
     
  6. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณ คุณชยุต มากเลยครับผมติดตามอยู่น่ะครับ สู้ๆ ^^
     
  7. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    ...คุณเข้าใจไหม เราไม่ได้ขจัดเอา "ความต้องการ" ของเราออกไป
    มันจะมีประโยชน์อะไรเล่า หากเรามามีประสบการณ์บนโลกนี้โดยปราศจากความสุขจากสิ่งที่เราสร้างให้เป็นเกิดเป็นจริงขึ้นมา
    และนั่นก็คือ catch22 สถานการณ์ที่ไม่ว่าคุณจะเลือกทำแบบไหนในสองแบบนี้ ก็ไม่ดีทั้งนั้น

    (ซึ่งอธิบายได้ดังต่อไปนี้.../ผู้แปล)

    หากเรามี ความปรารถนา ความกลัว หรือปฏิเสธที่จะละทิ้ง "ฝัน" ที่เราคิดว่าจะทำให้เรามีความสุข
    เราก็จะไม่มีทางที่จะมีความสุขแท้จริงได้เลย
    และหนทางการสร้างฝันเป็นจริงของเราก็จะเจ็บปวดและเนิ่นนาน

    หากแต่เราปล่อยทิ้งความฝันเหล่านั้น เราก็อาจจะไม่มีทางได้มันมาอีกเลย

    แต่ก็มีคำว่า "แต่ทว่า" อีกที ในที่นี้ นั่นคือ

    เราจะได้รับในสิ่งที่เราไม่เคยฝันไว้ก่อน หรือไม่เคยคาดคิดว่าจะเป็นไปได้
    ซึ่งรวมถึงความสุขในระดับที่นึกไม่ถึง ไม่มีใครรู้มาก่อน ในหมู่ผู้คนในปัจจจุบันนี้เลยทีเดียว...

    ________________________
    คุณเซลคะ ขอแชร์เพิ่มความเข้าใจส่วนตัว ถือว่ามาช่วยกันมอง นะคะ

    คือ คุณ Inelia พยายามบอกว่า
    หากเราเลือกเดินหนทาง ascension เราจะได้ประสบกับความสุขในระดับที่ไม่มีใครในหมู่พวกเราจะรู้จักมาก่อนเลย
    คือ หนทาง ascension จะเหนือชั้นกว่า หนทาง the secret
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มิถุนายน 2011
  8. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอบคุณคุณ threeam มากนะครับ
    แปลออกมาแบบนี้ค่อยเข้าใจหน่อย
    เดี๋ยวผมขอเอาไปแปะ ตรงโพสต์นั้นเลยนะครับ


    ...............................................
     
  9. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253

    :cool:
    ขอบคุณมากๆครับ คุณ treeam
     
  10. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณมากเลยน่ะครับผมติดตามอยู่เสมอครับ ^^
     
  11. Uaychai

    Uaychai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +231
    ขอบคุณมากเลยครับผมชอบบทความแนวนี้ จะคอยติดตามครับ
     
  12. mawmee

    mawmee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +622
    ขอบคุณมากเลยค่ะ มารออ่านต่อนะคะ(kiss)
     
  13. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    พูดถึงการขจัดความรู้สึกลบเกี่ยวกับเงินออกไปจากความคิด มีเรื่องเล่า

    เมื่อครั้งทำงานใหม่ๆ ยังเช่าหอพักอยู่ มีเพื่อนรูมเมทชอบดุ ถ้าเห็นเราวางธนบัตรบนเตียง เขารังเกียจว่าสกปรกมีเชื้อโรคบนแบ๊งค์ ปกติเขาชอบคิดแบบมักน้อยในเรื่องเงินทองตลอด คิดเพียงว่ามีพอใช้ไปวันวันก็พอ เราก็บอกว่าเรารักมันนะ เพราะทำให้เราได้ใช้มันในสิ่งที่ต้องการ ไม่เห็นจะไปรังเกียจทำไม
    พออายุมากเราโทรศัพทฺคุยกันเรื่องนี้ เพื่อนคนนี้ก็นึกขำว่า สงสัยเป็นเพราะเขาคิดแบบนี้แหละ ความรู้เท่ากันกับเรา เรียนจบปีเดียวกัน พอทำงาน เขามีเงินเดือนประมาณเศษหนึ่งในสามของเรามาตลอด ลอตเตอรี่ก็ไม่มีโชค
     
  14. threeam

    threeam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,364
    แวะมาบอกว่า ไม่คิดว่าคุณเซลแปลไม่เข้าใจนะคะ
    ส่วนตัวเชื่อว่า ข้อความของคุณInelia ได้ส่ง message ให้แต่ละคนที่อ่าน แตกต่างกันออกไป
    ถึงได้บอกว่า มาช่วยกันมองค่ะ ขอบคุณที่แชร์ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มิถุนายน 2011
  15. cosmiccell

    cosmiccell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +253
    [​IMG]

    ไม่มีปัญหาใดๆเลยครับ คุณ treeam

    ภาษาปะกิต ผมค่อนข้างปวกเปียก
    จึงแปลออกมา ตามที่ผมเข้าใจครับ
    เลยไม่ครบถ้วนตามอักขระ ที่คุณ inelia ได้สื่อสารมา

    ต้องขอบคุณ คุณ treeam ด้วยซ้ำ ที่มาช่วยแปลให้เข้าใจกัน

    จะรอติดตามผลงานแปลดีๆ ของคุณชยุต และคุณ treeam ต่อไปครับ :)
     
  16. COME&Z

    COME&Z เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,144
    ค่าพลัง:
    +234
    ขอบคุณมากๆ จริงๆค่ะ ทุกท่านเลยนะคะ^^ ซาบซึ้ง ลึกซึ้งกับทุกข้อความ ทุกประโยค..... พิมพ์อยู่นี่น้ำตาก็จะไหลซะงั้น^^
     
  17. grinny

    grinny Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +84
    ขอบคุณมากๆค่ะ สำหรับข้อมูลดีดีค่ะ
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    การดำรงอยู่ในศูนย์กลางหัวใจ – มันหมายความว่าอะไร?
    (Stay Heart Centered – what does that mean?)

    บทความโดย : Inelia Benz
    กุมภาพันธุ์ 2010

    ที่มา:

    Stay Heart Centered - what does that mean?

    เทคนิคหลักอย่างหนึ่งที่เราสามารถนำมาใช้ในงานเพื่อการเลื่อนระดับขึ้นก็คือ
    การดำรงอยู่ในศูนย์กลางหัวใจ (stay heart centered) แต่จริงๆแล้วมันหมายความว่าอย่างไร?

    อืม..มันไม่ได้หมายความว่า “ให้อยู่ในคุณงามความดี” หรือ “อยู่ในความรัก” หรือ “ให้อภัย” หรอกนะ
    แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นเอง เมื่อเราอยู่ในศูนย์กลางหัวใจก็ตาม แต่มันก็เป็นแค่ผลพลอยได้เท่านั้น

    การดำรงอยู่ในศูนย์กลางหัวใจ มันเป็นเรื่องของการกระทำทางกายภาพจริงๆ
    มันก็เหมือนกับการที่เราใช้สายพานวิ่งออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายเราฟิตนั่นแหละ

    การปฏิบัตินี้ ถูกออกแบบมาเพื่อย้ายความตระหนักรู้ของเรา จากศูนย์กลางศีรษะ ซึ่งเป็นส่วนของ ego
    ให้มาอยู่ที่ศูนย์กลางหัวใจ ซึ่งเป็นส่วนของตัวตนที่สูงส่งกว่า (higher self) ของเราแทน


    [​IMG]

    สิ่งแรกที่จะต้องทำก็คือ การหาที่ตั้งของศูนย์กลางหัวใจให้ได้ซะก่อน
    ซึ่งมันก็คือบริเวณพื้นที่ใต้กระดูกหน้าอก (Sternal angle)
    เรื่อยขึ้นไปจนถึงร่องคอ (Jugular notch – ดูภาพประกอบนะครับ – ผู้แปล)
    และอ้อมไปด้านหลังจนถึงระหว่างกระดูกไหล่

    [​IMG]

    บริเวณทั้งหมดนี้ คือ “ศูนย์กลางหัวใจ” ของคุณ
    มันจะครอบคลุมถึงบริเวณที่เรียกว่า “จักระหัวใจ” หรือ “จักระที่ 4”
    หรือ “จักระแห่งเทพ” หรือ “จักระกระดูกไหล่”
    มันคือบริเวณที่เป็นที่ตั้งของแก่นแท้ของคุณเอง



    ศูนย์กลางนี้ มันบรรจุความมีตัวตนทางกายภาพของคุณเอาไว้อยู่
    ไม่ว่าจะเป็นกายแห่งอารมณ์ (emotional body), กายเนื้อ และ ego
    และรวมถึงมีความเชื่อมต่อกับตัวตนที่สูงส่งกว่า หรือ กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนอยุ่ที่นี่ด้วย


    หลังจากที่คุณหาที่ตั้งของศูนย์กลางหัวใจได้แล้ว คุณจะตระหนักรู้ถึงมัน
    บริเวณที่มันตั้งอยู่ในขอบเขตทางกายภาพนั่นแหละ แล้วหายใจเอาอากาศเข้าไปในนั้น

    ในขณะที่คุณหายใจเข้า ลมหายใจของคุณจะบรรจุไปด้วยพลังชีวิต
    เมื่อคุณหายใจออก พลังชีวิตจะขยายตัวออกไปสู่บริเวณอื่นๆของร่างกายของคุณ
    รวมถึงพื้นที่ความสั่นสะเทือนที่อยู่รอบๆตัวคุณด้วย


    อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ให้ย้ายมุมมองของคุณ
    จากที่ปกติความนึกคิดของคุณจะไปอยู่ในร่างกาย หรือในส่วนหัวของคุณ
    ให้ไปอยู่ในศูนย์กลางหัวใจของคุณแทน


    ง่ายๆใช่ไหมหละ (smile)

    เมื่อคุณเริ่มทำแบบฝึกหัดนี้ คุณอาจจะรู้สึกว่ามีอารมณ์ด้านลบที่รุนแรงต่างๆผุดขึ้นมา
    พวกมันผุดขึ้นมาก็เพื่อให้คุณปลดปล่อยมันออกไป จงขอบคุณพวกมัน แล้วปลดปล่อยมันไป
    แล้วในที่สุดคุณก็จะสามารถอยู่ในศูนย์กลางหัวใจได้ด้วยความสุข และความรักล้วนๆ


    …………………………………..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • anatom1.gif
      anatom1.gif
      ขนาดไฟล์:
      98.6 KB
      เปิดดู:
      4,935
    • shoulder 06.jpg
      shoulder 06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.5 KB
      เปิดดู:
      3,361
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มีนาคม 2014
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    การเลื่อนระดับขึ้นคืออะไร และความเป็นหนึ่งเดียวคืออะไร?
    (What is Ascension and What is Oneness)

    บทความโดย: Inelia Benz

    มีนาคม 2009

    ที่มา:


    What is Ascension and What is Oneness



    การเลื่อนระดับขึ้น (Ascension): คือการเคลื่อนที่ไปในทิศทางสูงขึ้น
    แต่ไม่ใช่การเคลื่อนที่ขึ้นไปแบบเป็นลำดับขั้น ที่มีระดับสูงกว่าหรือต่ำกว่า
    เพราะว่ามันจะเหมือนกับตัวโน้ตดนตรีสองตัวมากกว่า ที่ตัวหนึ่งมีระดับเสียงสูงกว่าอีกตัวหนึ่ง
    แต่ไม่ได้หมายความว่าโน้ตตัวนั้นจะมีความสูงส่งกว่าโน้ตตัวอื่นๆ มันแค่มีระดับเสียงที่ต่างกันเฉยๆ


    ความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness): คือสภาวะที่ไร้การแบ่งแยก
    สภาวะที่รับรู้ และเข้าใจโลกแห่งความเป็นจริงแบบเป็นจิตสำนึกมวลรวมเพียงหนึ่งเดียว (One consciousness)
    หรือ เป็นสิ่งมีชีวิตเพียงตัวตนเดียว (One Being)


    เนื้อหาส่วนใหญ่ใน Blog นี้ จะเกี่ยวข้องกับการเลื่อนระดับขึ้น ไปสู่สภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness)
    ที่ๆพระเจ้า หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่เป็นอยู่ (All That Is)

    ประสบการณ์ชีวิตเมื่ออยู่ในสภาวะนี้ จะมีแต่ความสุขเกษม (bliss), ความปิติยินดี (ecstasy)
    และความเป็นทั้งหมด (wholeness)


    แต่ว่า พวกเราทุกคนสนใจเป้าหมายนี้หรือเปล่าหละ?

    ไม่เลย

    เพราะฉะนั้น การที่ลำพังตัวเราเอง จะไปถึงสภาวะแห่งการเลื่อนระดับขึ้นได้นั้น
    เราจะต้องหยุดแล้ว ซึ่งการเคลื่อนที่ขึ้นไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนใดๆซะก่อน
    เพราะว่าพวกเราได้มาถึงจุดที่ๆพวกเรามีความสุข, ความสบายใจ, และเป็นที่ๆเราต้องการจะอาศัยอยู่ในวันข้างหน้า
    ในภพชาติหน้า ในอีกล้านปีข้างหน้า หรือแม้แต่ตลอดกาลแล้ว

    แล้วสภาวะที่ว่านั้น มันจำเป็นต้องเป็นสภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียว (Oneness) หรือไม่?

    ไม่จำเป็นเลย

    มันเป็นสภาวะที่ต่ำกว่าสภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียวใช่หรือไม่?

    ไม่เลย

    เพราะว่ามันไม่มีระดับขั้นสูงกว่า/ต่ำกว่าของความเป็นหนึ่งเดียวหรอก แต่นั่นก็อาจจะฟังดูขัดแย้งกันอยู่บ้าง

    และความจริงก็คือว่า พวกเราแต่ละคนกำลังอยู่ในสภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียวอยู่แล้ว
    พวกเราแค่ไม่รู้สึกถึงมันเฉยๆ หรือรูปแบบชีวิตของพวกเราบนโลก (ความเป็นมนุษย์ - ผู้แปล)
    มันทำให้เราต้องมีมุมมองแบบนั้นโดยอัตโนมัติเท่านั้นเอง

    พวกเรามาอยู่ที่โลกใบนี้ ก็เพื่อที่จะมาเล่นเกมส์ ก็เพื่อที่จะมามีประสบการณ์ต่างๆ
    และก็เพื่อที่จะมาอยู่ในกาลเวลา ณ.ปัจจุบันขณะนี้


    ดังนั้น การเลื่อนระดับขึ้น จึงหมายถึง การที่ใครคนใดคนหนึ่ง
    เปลี่ยนจากสภาวะแห่งความหดหู่ซึมเซา ไปอยู่ในสภาวะแห่งความสบายใจ
    เปลี่ยนจากสภาวะแห่งการรู้แจ้ง ไปสู่สภาวะแห่งความเป็นหนึ่งเดียว
    เปลี่ยนจากสภาวะแห่งความสบายใจ เป็นสู่สภาวะแห่งความบรมสุข

    แล้วสภาวะใดสภาวะหนึ่งเหล่านี้ ดีกว่าสภาวะอื่นๆหรือไม่?

    ไม่เลย


    แล้วทำไมพวกเราต้องใส่ใจเรื่องการเลื่อนระดับด้วยเล่า?

    นั่นก็เพราะว่า พวกเราได้เลือกมาแล้ว

    เมื่อใครก็ตามที่เลื่อนระดับขึ้นไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนของความตระหนักรู้ที่สูงขึ้นแล้ว
    ความสามารถของพวกเขาที่จะทำสิ่งต่างๆ (พลังอำนาจ) ก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

    แล้วเกมมันก็จะน่าสนใจมากยิ่งขึ้น


    …………………………
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2011
  20. Senju

    Senju Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2010
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +94
    ขอบคุณมากเลยครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...