คลังเรื่องเด่น
-
"เล่าเรื่องพระกัสสปะ" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"เล่าเรื่องพระกัสสปะ"
" .. พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ๗ วัน ถวายพระเพลิง ทรงพิจารณาด้วยเหตุผลกลไกอะไรสมศาสดาเอก พิจารณาซิ "นั่นละ ๗ วันเท่านั้น พระพุทธเจ้าไว้เพียง ๗ วัน" นี่ละแบบฉบับ พระสาวกองค์ไหนตาย องค์ไหนนิพพานก็เข้าป่าเงียบ ๆ ไม่มีในประวัติให้เห็น
มีแต่ "พระกัสสปะ ที่ประวัติยืดยาวหน่อย พระกัสสปะนี้เป็นกรรมเกี่ยวข้องกันกับ พระอริยเมตไตรย มีกรรมเกี่ยวข้องกัน" ท่านจึงแสดงไว้ในปฐมสมโพธิ "อันนี้อัฐของท่านอยู่ในเขา ๓ ลูกชนกัน" ไม่มีใครเห็น เพราะกรรมจำเพาะกัน
"พระอริยเมตไตรย เป็นนายควาญช้าง พระกัสสปะนี้เป็นช้าง" ช้างตัวนี้เป็นช้างที่ดีมาก บอกให้เป็น – เป็น บอกให้ตาย – ตาย รักเจ้าของ เจ้าของชี้ให้ตาย – ตาย ชี้ให้เป็น – เป็น
พระเทวทัตนี่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าจำไม่ผิด ท่านประมวลชาดกมา เพราะชื่อเสียงของช้างที่มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของนี้ดังลั่นไปทั่วประเทศ พระราชารับสั่งให้นายควาญช้างนั้นเข้าเฝ้า "ไหนว่าช้างเธอนั้นดีทุกสิ่งทุกอย่าง บอกให้เป็นก็ได้ บอกให้ตายก็ได้ ใช้ยังไงได้หมดใช่ไหม" "ใช่" ว่างั้นเลย
"ถ้าอย่างนั้นวันนั้นเราจะให้เขาเผาเหล็กแดงให้ช้างมาจับได้ไหม" "ได้" เรื่องนี้ได้... -
มีใครเคย...บ้าง ? - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
มีใครเคยนั่งภาวนาจนก้นพองบ้าง ? มีใครเดินจงกรมจนเท้าแตกบ้าง ? มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่มี ขอบอกว่าครูบาอาจารย์ที่นั่งกรรมฐานจนก้นพอง เดินจงกรมจนเท้าแตก เมื่อท่านเข้าถึงธรรมในส่วนที่ต้องการแล้ว ยังกล่าวว่า "แค่นั้นยังพยายามไม่พอ" หรือที่บรรดาสายวัดป่าท่านใช้คำว่า "ธรรมะอยู่ฟากตาย" ก็คือต้องเพียรพยายามอย่างชนิดเอาชีวิตเข้าแลก ไม่อย่างนั้นแล้วโอกาสที่จะเห็นทุกข์มียากมาก
ถ้าความเพียรพยายามไม่เพียงพอก็ไม่ขึ้นชื่อว่าเป็นบารมี เพราะว่าการจะสร้างบารมีแต่ละอย่างจะต้องทุ่มเท ต้องทำด้วยชีวิตและต้องทำมาหลายชีวิตคือหลายชาติแล้ว
วันนี้จึงอยากเตือนสติทุกท่านว่า การปฏิบัติของเราท่านทั้งหลายนั้นยังขาดความเพียรอยู่มาก เราสามารถกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกได้ทุกเวลาอย่างที่ต้องการหรือไม่? เราสามารถทรงฌานได้ทุกเวลาที่ต้องการหรือไม่ ?
เราใช้ปัญญาพิจารณาวิปัสสนาญาณแล้วรู้แจ้งแทงตลอดในทุกสถานหรือไม่ ? ถ้าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังมีคำตอบอยู่ว่า "ไม่" ก็แปลว่าเรายังใช้ความพากเพียรของเราไม่พอ
คำสอนพระคุณหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านวิริยบารมี
๔ เมษายน ๒๕๕๘
เครดิตภาพ : คุณบิ๊ก -
อลังการงานสร้าง!! "นครวัด" เทวสถานมหัศจรรย์ สร้างด้วยก้อนหินจำนวนมหาศาล ... มากยิ่งกว่าหินที่ใช้สร้างพีระมิดทั้งอียิปต์รวมกัน!!
อลังการงานสร้าง!! "นครวัด" เทวสถานมหัศจรรย์ สร้างด้วยก้อนหินจำนวนมหาศาล ... มากยิ่งกว่าหินที่ใช้สร้างพีระมิดทั้งอียิปต์รวมกัน!!
“นครวัด” ถือเป็นที่สุดของสถาปัตยกรรมเขมรสมัยคลาสสิกรุ่งเรือง ซึ่งเริ่มต้นสร้างในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๒ วัสดุหลักที่สถาปนิกชาวกัมพูชาใช้ก่อสร้างก็คือหินทราย ในขณะที่โครงสร้างภายในและกำแพงรอบนอกก่อขึ้นด้วยศิลาแลง ส่วนวัสดุที่ใช้เชื่อมต่อนั้นสันนิษฐานว่าเป็นยางไม้หรือไม่ก็ปูนขาว
หินทรายที่ใช้ในการสร้างนครวัดนั้นเชื่อกันว่ามีจำนวนมากถึง ๕-๑๐ ล้านก้อน ซึ่งบางก้อนมีน้ำหนักถึง ๑.๕ ตัน ก้อนหินจำนวนมหาศาลนี้ต้องบอกว่ามากกว่าจำนวนก้อนหินทั้งหมดที่ใช้สร้างพีระมิดของอียิปต์หรือกินพื้นที่มากกว่ากรุงปารีสทั้งกรุงเสียอีก
หินทรายเหล่านี้ถูกลำเลียงมาจากแหล่งสกัดหินบนภูเขากุเลนซึ่งอยู่ห่างออกไปราวๆ ๒๕ ไมล์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ โดยลำเลียงมาตามลำคลองเป็นระยะทาง ๓๕ กิโลเมตร จนถึงทะเลสาบโตนเลซับ ข้ามทะเลสาบไปอีก ๓๕ กิโลเมตร แล้วเดินทางไปตามแม่น้ำเสียมเรียบอีก ๑๕ กิโลเมตร รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า ๙๐ กิโลเมตร แต่อย่างไรก็ตาม เอ็ตสึโอะ อุชิดะ และอิชิตะ ชิโมดะ... -
สงกรานต์ปีนี้ ขอให้เดินทางด้วยความแคล้วคลาด ปลอดภัย ด้วย!!"พระคาถา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" สาธุยาวๆ..
สงกรานต์ปีนี้ ขอให้เดินทางด้วยความแคล้วคลาด ปลอดภัย ด้วย!!"พระคาถา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด" สาธุยาวๆ..
คาถาหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด
“นะโม โพธิสัตว์โต อาคันติ มายะ อิติภะคะวา”
ขอบารมี หลวงปู่ทวด คุ้มครองทุกท่าน เดินทางช่วงสงกรานต์นี้ให้ปลอดภัย ทั้งไปและกลับ ภาวนาคาถาหลวงปู่ทวด ขอให้โชคดี แคล้วคลาด ปลอดภัย ทุกๆท่าน
ประวัติหลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด วัดช้างให้
หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เหยียบน้ำทะเลจืด เกิดเมื่อ วันศุกร์ เดือน4 ปีมะโรง พ.ศ.2125 ณ บ้านสวนจันทร์ ตำบลชุมพล อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา มีชื่อว่า “ ปู่ ” หรือ “ ปู ” บิดามีนามว่า (ตาหู) มารดามีนามว่า (นางจันทร์) มีฐานะยากจนปลูกบ้านอาศัยที่ดินเศรษฐีผู้หนึ่งไว้ชื่อ “ปาน” ตาหูและนางจันทร์เป็นข้าทาสของเศรษฐีปาน แห่งเมืองสทิงพระ ระยะที่หลวงพ่อทวดเกิด เป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวในนา ในระหว่างที่พ่อแม่กำลังเกี่ยวข้าวอยู่ ได้ผูกเปลให้ลูกน้อยนอน ทำงานไปก็คอยเหลียวดูลูกน้อยเป็นระยะ แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น คือนางจันทร์ได้เห็นงูตัวใหญ่มาพันที่เปลลูกน้อยแล้วชูคอแผ่แม่เบี้ย นายหู-นางจันทร์ได้พนมมือบอกเจ้าที่เจ้าทาง... -
ยกมือสาธุ!รับพรปีใหม่จากสมเด็จพระสังฆราช!! ทรงแนะให้ชวนกันหาวิธีอนุรักษ์สงกรานต์แบบเก่า เขยิบใกล้กันนิด ค่อยๆสาดน้ำหน่อยๆ
ยกมือสาธุ!รับพรปีใหม่จากสมเด็จพระสังฆราช!! ทรงแนะให้ชวนกันหาวิธีอนุรักษ์สงกรานต์แบบเก่า เขยิบใกล้กันนิด ค่อยๆสาดน้ำหน่อยๆ
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้ให้โอวาทแก่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และคณะข้าราชการ พศ.ที่เข้าสรงน้ำขอพรเนื่องในวันสงกรานต์ ขึ้นปีใหม่ของไทย ว่า
เนื่องในวันสงกรานต์ ขึ้นปีใหม่ไทยเดิมของเรา ที่ได้รักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณี และเป็นการสมควรสรรเสริญ การดำรงคงไว้ประเพณีสงกรานต์ เท่าที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันมันเพี้ยนๆ ไปกว่าเก่ามาก ตั้งแต่อาตมาเป็นเด็กๆ มาจนถึงอายุ 90 แล้วนะพูดกันง่ายๆ พูดกันแบบคุยๆ กันแบบนี้แหละสงกรานต์ผิดเพี้ยนไปเยอะ ถ้าเรามีทางไหนที่จะดำเนินการชักชวนให้มาทำกันแบบเก่า ไม่สาดกันโครมๆ มาใกล้ๆ กันสาดกันนิดๆ หน่อยๆ แล้วก็อวยพรกันดูเหมือนจะสบายดี เป็นที่ปลื้มใจ ดึงกลับมาแบบเก่าเรา
เมื่อครั้งไปที่เชียงใหม่ดูก็ไม่เหมือนเก่าแล้ว ผู้เฒ่าที่นั่นก็เล่าให้ฟังว่ามันผิดเพี้ยนหมดเลยไม่เหมือนเก่า วันเนาโดยเฉพาะในกรุงเทพฯเท่าที่เห็นมันก็เพี้ยนไปเยอะเหมือนกันนะ... -
"อะไรหนัก ก็ให้วางเสีย" (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
"อะไรหนัก ก็ให้วางเสีย"
" .. "เมื่อทุกข์เกิดขึ้นมา ก็รู้จักว่ามันทุกข์ ทุกข์นี่มันเกิดขึ้นมาเพราะอะไร" มันจะเห็นอะไรไม๊ "ถ้าเราเห็นตามธรรมดา มันก็ไม่ทุกข์" เช่นว่าเราอยู่อย่างนี้ ๆ เราก็สบาย
อีกวาระหนึ่ง "เราอยากได้กระโถนใบนี้มา ยกมันขึ้นมา ต่างแล้ว ต่างกว่าแต่ก่อนที่ยังไม่ได้ยกกระโถน ถ้าไปยกกระโถนขึ้นมา มีความรู้สึกว่ามันหนัก" มันเพิ่มขึ้นมา
"มันมีเหตุหนัก มันจะเกิดเพราะอะไร ถ้าไม่เพราะเราไปยกมัน ถ้าเราไม่ยกมัน มันก็ไม่มีอะไร" ถ้าไม่ยกมันเบา อะไรเป็นเหตุเท่านี้ก็รู้แล้ว ไม่ต้องไปเรียนที่ไหน "ถ้าเราไปยึดอะไร อันนั้นแหละเป็นเหตุให้เกิดทุกข์" ถ้าเราปล่อย มันก็ไม่มีทุกข์ .. "
"รู้เพื่อละ" หลวงปู่ชา สุภัทโท
http://www.ubu.ac.th/wat/ebooks/chahthai/Know_in_order_to_Let_Go.php -
ปฏิบัติธรรมก่อนนอนแบบง่ายๆ- พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ ปฏิบัติธรรมก่อนนอนแบบง่ายๆ +++
ถาม : เวลากลางวันเราทำงานมาเหนื่อยแล้ว เหนื่อยทั้งแรงกายแรงใจ ก่อนนอนมีเวลาปฏิบัติได้ไม่นาน ?
ตอบ : เวลาก่อนนอนเอาแค่ว่า #ถ้าไม่ไหวให้กราบพระ ๓ ครั้ง #นอนหงายลงไปนึกถึงพระว่า "#ถ้าเราตายลงไปวันนี้ขอไปพระนิพพาน" แล้วภาวนาหลับไปเลย #แต่ตื่นนอนนี่เราพักผ่อนมาเต็มที่แล้ว #ภาวนาอย่างเป็นทางการสักหน่อย เอาให้ได้สัก ๒๐ นาทีหรือครึ่งชั่วโมง #พอกำลังใจทรงตัวก็ตั้งใจว่า "#เราจะไปทำหน้าที่การงานของเราแล้ว #ถ้าหมดอายุขัยตายลงไปก็ตาม #หรือเกิดอุบัติเหตุอันใดถึงแก่ชีวิตก็ตาม #เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว" แล้วก็แบ่งความรู้สึกส่วนหนึ่งประคับประคองภาพพระหรือคำภาวนาของเราไว้ แล้วก็ทำหน้าที่ของเราไป
ฉะนั้น..#เวลาก่อนนอนอย่าไปบังคับตัวเองมาก เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ก็เหลือแต่ตื่นนอนที่ขี้เกียจไม่ได้
ถาม : กลายเป็นว่าเหนื่อยล้ามาก เวลานอนไม่ฟุ้งซ่าน กลับสงบนิ่ง
ตอบ : ถูก...แต่ถ้าไปฝืนมากๆ ร่างกายไม่ไหว เดี๋ยวจะไม่เอากับเราอีก เหมือนกำลังเหนื่อยมากๆ แล้วไปโหมทำงานต่อ พอร่างกายล้ามากวันรุ่งขึ้นก็จะทำงานไม่ไหว
สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.(หลวงพ่อเล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
ณ... -
"ภาวนา คือการสร้างพลังใจ" (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
"ภาวนา คือการสร้างพลังใจ"
" .. "หัดภาวนา คือการสำรวมใจให้มาอยู่ในที่เดียว" อย่าให้จิตส่งส่ายออกไปภายนอก "เหมือนกับน้ำมีหลายสาย เราปิดให้มีสายเดียวมันก็มีพลังแรงขึ้น" หรือมิฉะนั้นก็ เปรียบเหมือนกับไฟฟ้าของเรา "ไฟฟ้าถ้าหากเปิดหลาย ๆ ดวงมันก็หรี่ลงไป ถ้าเปิดดวงเดียวแล้วแสงมันก็สว่างจ้า" มีพลังขึ้น
"ใจคนเราถ้าหากส่งส่ายไปมาก ๆ พลังใจมันก็น้อยไป" ต้านทานสู้กับอารมณ์ไม่ได้ "ถ้าหากเราสำรวมอยู่ในจุดเดียว อารมณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านไปผ่านมามันก็ไม่ปรากฏ ด้วยอำนาจของพลังใจอยู่ในจุดเดียว" เพราะฉะนั้น "การทำภาวนา คือการสร้างพลังใจของเราให้มีขึ้น" .. "
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี -
ระวัง...โลกนี้มีสัตว์มากมายกำลังบำเพ็ญบารมี!! หลวงปู่จันทร์นั่งทางในเห็น "ปลาพระโพธิสัตว์" เลยต้องรีบช่วย ก่อนชาวบ้านจะซวยเพราะเอาไปแกงกิน!!
ระวัง...โลกนี้มีสัตว์มากมายกำลังบำเพ็ญบารมี!! หลวงปู่จันทร์นั่งทางในเห็น "ปลาพระโพธิสัตว์" เลยต้องรีบช่วย ก่อนชาวบ้านจะซวยเพราะเอาไปแกงกิน!!
หลายคนคงจะสงสัยว่า การเกิดมาเพื่อบำเพ็ญบารมีพระโพธิสัตว์เพื่อจะไปเป็นพระพุทธเจ้าตามที่ระบุไว้ในพระไตรปิฎกนั้นมีจริงหรือไม่ ... ลองอ่านเรื่องนี้แล้วพิจารณาดู
เหตุเกิดที่จังหวัดนครพนม ณ วัดศรีเทพประดิษฐาราม โดย "หลวงปู่จันทร์ เขมิโย" ท่านได้เล่าไว้ว่า
คืนหนึ่ง ขณะที่ท่านกำลังทำสมาธิกรรมฐานก็ปรากฏภาพนิมิตขึ้นในสมาธิ...เป็นภาพของแอ่งน้ำที่กำลังแห้ง ในนั้นมีปลาอยู่หกตัว เป็นปลาหมอสามตัว ปลาดุกสามตัว กำลังดิ้นรนกระเสือกกระสนอยู่
หลวงปู่จันทร์จึงกำหนดจิตถามว่าเป็นคู่เวรคู่กรรมมาทวงหนี้ใช่หรือไม่?
ปลาเหล่านั้นตอบว่า
"พวกเราเป็นพระโพธิสัตว์ มาเกิดเป็นปลาเพื่อบำเพ็ญบารมี แต่กระแสกรรมทำให้ถูกนายบุญช่วย สุวรรณทรรภ จับมาขังไว้ในตุ่มน้ำในสวนกล้วยติดหลังวัด ตอนนี้น้ำกำลังแห้ง ถ้าตายก่อนจะหมดโอกาสบำเพ็ญบารมี!!"
หลวงปู่จันทร์จึงถามว่า เหตุใดจึงมาปรากฏในข่ายฌานสมาธิของท่าน
ปลาพระโพธิสัตว์เหล่านั้นตอบว่า
"พวกเราตั้งจิตอธิษฐานว่า... -
สวยงามตระการตา ! “อุทยานธรรมเขานาในหลวง” สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ลือชื่อ เรื่องความงาม พร้อมสัมผัสทะเลหมอก ณ เจดีย์ลอยฟ้า
สวยงามตระการตา ! “อุทยานธรรมเขานาในหลวง” สถานที่ปฏิบัติธรรมที่ลือชื่อ เรื่องความงาม พร้อมสัมผัสทะเลหมอก ณ เจดีย์ลอยฟ้า
อุทยานธรรมเขานาในหลวง จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในสถานที่ปฏิบัติธรรม ชมทะเลหมอก และสักการะรอยพระพุทธบาท ที่ห้อมล้อมด้วยบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขาอันแสนงดงาม
จุดเด่นของที่นี่คือทุกอย่างภายในอุทยานธรรมไม่มีค่าจ้างค่าแรงงานใดๆคณะพระสงฆ์และชาวบ้านทำด้วยใจศรัทธาค่ะเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา
อุทยานธรรมเขานาในหลวง ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นยวน อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นสถานที่ตั้งเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ อันก่อสร้างด้วยศิลาแลงจากเมืองกำแพงเพชร ตั้งอยู่บนยอดเขาหินปูนสูงจากพื้นดินเกือบ 300 เมตร
นอกเหนือจากการเป็น ศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์อันเป็นที่เคารพบูชาของคนทั่วไปแล้ว สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ภายในอุทยานธรรมเขานาในหลวงยังมีความงดงามทั้งซุ้มประตูพุทธวดี 9 ยอดยิ่งเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบเข้ากับซุ้มประตู
และที่พลาดไม่ได้คือ การชมทะเลหมอก ไม่ต้องเดินทางขึ้นไปเที่ยวภาคเหนือก็มีทะเลหมอกสวย ๆ ให้ได้เห็นกัน
การเดินทางมายังอุทยานธรรมเขานาในหลวง... -
เคล็ดบูชาพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์วัดอัปสรสวรรค์มิ่งมงคลปีใหม่ไทย
เคล็ดบูชาพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์วัดอัปสรสวรรค์มิ่งมงคลปีใหม่ไทย
ใกล้ถึงปีใหม่ไทยก็มีหลายท่านถามว่า ปีใหม่ไทยปีไก่ทองคนที่อยู่กรุงเทพจะไปไหว้พระที่ไหนดี ที่จะเป็นมิ่งขวัญมงคล เรื่องนี้ท่านซินแสบอกว่าปีใหม่ไทย เพื่อน้อมความเป็นมงคลสูงสุดในชีวิตของเราชาวพุทธทั้งหลาย ก็คือไปกราบไหว้องค์พระพุทธปฏิมา อันเป็นเสมือนเครื่องแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อยังคงพระชนม์อยู่เป็นอุเทสิกเจดีย์สิ่งที่ถวายเป็นพุทธบูชาแก่พระพุทธเจ้า ปีใหม่ไทยจึงควรที่จะได้กราบพระพุทธปฏิมาเพื่อน้อมนำความเป็นมงคลมาสู่ตน ยิ่งปีนี้ปีมะโรงมังกรน้ำ นางสงกรานต์ทรงกระบือมา เขาว่าอุบัติเหตุจะมาก ดังนั้นหากปีใหม่ไทยนี้คิดจะไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลก็ขอแนะนำไปกราบพระประธานพระพุทธเจ้าทั้ง๒๘พระองค์ วัดอัปสรสวรรค์ เพื่อความเป็นมงคลสูงสุดชาวพุทธ โดยมีเคล็ดง่ายๆได้บุญแถมได้สักการะเครื่องแทนพระพุทธเจ้า๒๘พระองค์อีกด้วย
ก่อนไปไหว้พระประธานทั้ง๒๘องค์ ก็มีเครื่องบูชาดังนี้
๑.ดอกบัว ท่านละ๓ดอก
๒.สตางค์เท่าอายุเรา
๓.ธูป ๙ดอก เทียน๑คู่
๔.ทองคำเปลว ท่านละ๓แผ่น
๕.น้ำมันตะเกียง ท่านละ๑ขวด
เสร็จแล้วให้จุดธูปเทียน ที่ทางวัดจัดไว้ให้... -
มารเขาเล่นงานเราได้ตลอด - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
มารเขาเล่นงานเราได้ตลอด
การปฏิบัติของเรา ส่วนที่จะมาขวางเรา ก็คือบรรดามารต่าง ๆ ๕ อย่าง เขาทำหน้าที่ได้สุดยอดมาก พวกเราเผลอเมื่อไรจะเจ็บหนัก เรื่องพวกนี้พวกเราทุกคนต้องระวังให้ดี เขาเล่นเราอยู่ตลอด เราอาจจะไม่รู้ อย่างเช่นว่าจะออกจะบิณฑบาต ก็ "โอ๊ย..ไม่ไหวแล้ว ไข้กำลังขึ้น" ทั้ง ๆ ที่ถ้าจะตะกายไปก็ไปได้ แต่ใจบอกว่าไม่ไหว เมื่อใจบอกว่าไม่ไหว ร่างกายก็พลอยไม่ไหวไปด้วย ถ้าหากว่าถึงขนาดเป็นตายแลกด้วยชีวิต เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้
การบิณฑบาตเป็นกิจวัตร เป็นหน้าที่ซึ่งเราควรกระทำ เป็นพุทธประเพณีที่สืบทอดกันมาสองพันกว่าปี เราประกาศตนเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส เป็นทหารในกองทัพธรรม ถ้าไปอ่อนแอเหยาะแหยะให้มารเขาเห็น มารเขาก็นั่งกระดิกเท้ามองอย่างสบายใจ แต่ถ้าเราเข้มแข็ง ตายเป็นตาย สู้เพื่อให้ผ่านไป จะช่วยให้เราเห็นทุกข์ชัดขึ้นเสียด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น..ความอยากเกิด อยากทุกข์ เราต้องดูให้เห็นชัด ๆ แล้วก็ดูว่ายังอยากได้อีกไหม ? ถ้าไม่อยากได้ก็หาทางหนีให้พ้น หาทางไปนิพพาน ในขณะเดียวกัน ถ้าหากเราไปยอมอ่อนแอ แพ้พ่าย ไปยอมเสียตั้งแต่เริ่มต้น เราก็จะแพ้ทุกเรื่อง ไม่มีกำลังใจสู้ในทุกเรื่อง... -
ชื่นใจ! เมื่อเด็กชาวเขากินแตงโมเป็นครั้งแรก เกิดภาพน่ารักๆแบบนี้..สาธุ!พระจูเลียนแจกแตงโมให้ชาวเขา
ชื่นนนนใจ! เมื่อเด็กชาวเขากินแตงโมเป็นครั้งแรกในชีวิต เกิดภาพน่ารักๆแบบนี้... สาธุ! พระจูเลียนแจกแตงโมให้ชาวเขา #กราบพระจูเลียน
พระภิกษุ ชาวต่างชาติ ซึ่งเคยเป็นที่สนใจของโลกโซเชียล มาแล้ว ด้วยการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย และได้พบความหมายของชีวิตที่กับพระธรรมมอบให้
เมื่อแรงศรัทธาเต็มล้น เขาก็ได้ฝากชีวิตไว้ในร่มกาสาวพัสตร์ นานถึง 17 ปี
มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย สมถะ ในกุฎิเล็กๆ แค่พอนอน และใช้ชีวิตกับธรรมชาติ นานๆ บิณฑบาตรเพียงสัปดาห์ละไม่กี่ครั้ง ด้วยเกรงรบกวนชาวบ้าน
จากความประพฤติที่เรียบง่าย สมถะดังกล่าว จึงเป็นที่สนใจของชาวโซเชียลอย่างมาก
ล่าสุด เมื่อวานนี้ (24 มีนาคม 2560) ได้มีการโพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า "Phra Julien" โดยมีรายละเอียดว่า
"พระจูเลียนบริจาคผลไม้ให้ชาวบ้านที่บ้านโทคามน้อย ชาวบ้านยากจนและดูเหมือนว่าเด็กๆไม่เคยกินแตงโมเลยในชีวิต ในวันที่7 เมษายน อาตมาจะบริจาคข้าวสารให้ครอบครัวละ45 กิโลกรัม"
(พระจูเลียน นำแตงโม บรรทุกใส่รถกระบะ เดินทางมาแจกเด็กๆ ชาวเขา)
และเมื่อพระจูเลียนยื่นแตงโมให้เด็กน้อยชาวเขา
หนูน้อยก็กัดแตงโมทั้งเปลือก... -
บันทึกนาทีมงคลแห่งประวัติศาสตร์พระป่า ...เหตุอัศจรรย์!! ขณะในหลวง ร.10 ทรงประกอบพิธี “ยกฉัตรเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ” #ปรากฏการณ์มงคล
บันทึกนาทีมงคลแห่งประวัติศาสตร์พระป่า ...เหตุอัศจรรย์!! ขณะในหลวง ร.10 ทรงประกอบพิธี “ยกฉัตรเจดีย์และบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ” #ปรากฏการณ์มงคล
7 เม.ย. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จมาทรงประกอบพิธียกฉัตรพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูริทัตตถิราวาส จ.สกลนคร
ทั้งนี้ ที่เฟซบุ๊คของ “Sahai Dhamma” ได้โพสต์ข้อความถึงบรรยากาศงาน อันเกิดเหตุอัศจรรย์ในพิธีดังกล่าว มีเนื้อหาระบุว่า
วันนี้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่งานยกฉัตรเจดีย์และพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดป่าภูริทัตตถิราวาส หนองผือนาใน ซึ่งเป็นครั้งที่ปลื้มปิติที่สุดในชีวิต ขนลุกชันจนน้ำตาเอ่อคลอเบ้า
นับเป็นงานบุญครั้งประวัติศาสตร์ของพระกรรมฐานสายหลวงปู่มั่น ที่รวมความเป็นที่สุดมหามงคลแห่งยุคนี้เลยก็ว่าได้
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จมาทรงประกอบพิธียกฉัตรพระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์ บรรจุพระบรมสารีริกธาตุและพระอัฐิธาตุหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ณ วัดภูริทัตตถิราวาส บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ในวันศุกร์ ที่ ๗ เมษายน... -
วันสงกรานต์ปีนี้..ไหว้พระ ๙ วัด มีโชค มีชัย ชีวิตรุ่งเรืองตลอดไป มีเคล็ดแนะนำ ทำตามบอก รับรองเห็นผล!!! สาธุ...
วันสงกรานต์ปีนี้..ไหว้พระ ๙ วัด มีโชค มีชัย ชีวิตรุ่งเรืองตลอดไป มีเคล็ดแนะนำ ทำตามบอก รับรองเห็นผล!!! สาธุ...
คู่มือไหว้พระ ๙ วัด วันสงกรานต์
๑. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว)
คติ “เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย”
เครื่องสักการะ ธูป ๓ ดอก เทียน ๑ เล่ม ดอกไม้
วัดพระแก้ว เป็นวัดคู่บ้านคู่เมือง กรุงเทพฯ ตั้งแต่สมัย รัชกาลที่ ๑ เป็นวัดในมหาราชวัง โดยที่เป็นที่ประดิษฐานของ พระแก้วมรกต ด้วย
เดิม พระแก้วมรกต ถูกค้นพบทางภาคเหนือ (ตำนานเล่าว่า จ. เชียงราย) ตั้งแต่สมัยเป็นที่ อาณาจักรล้านนา ต่อมา ได้รับการอัญเชิญไปยังอาณาจักรล้านช้าง (ลาว) ก่อนที่จะได้รับอัญเชิญมายังกรุงเทพในสมัยรัชกาลที่ ๑
ความ แปลกของ พระแก้วมรกต คือ เนื้อแก้วมรกต (หยก) เป็นการแกะสลักที่ปราณีต และยากมาก เพราะใช้โลหะแกะสลักไม่ได้ จะต้องใช้ไม้ไผ่ฝนน้ำเท่านั้น จึงเชื่อว่า ฝีมือของช่างแกะสลักช่างวิเศษนัก และทำด้วยแรงศรัทธามากๆ
และฐานของ พระแก้วมรกตไม่เรียบ จึงไม่สามารถตั้งบนที่ราบได้ และนั่นเป็นตำนานที่บอกว่า พระแก้วมรกต ต้องประดิษฐานบนบุษบกเท่านั้น
๒. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
คติ “ร่มเย็นเป็นสุข”... -
หูทิพย์ หนึ่งในอภิญญาบารมี ของเจ้าคุณนร เมื่อท่านจับได้ว่า มีคนนินทาหาว่า สรงน้ำด้วยปัสสวะ!
หูทิพย์ หนึ่งในอภิญญาบารมี ของเจ้าคุณนร เมื่อท่านจับได้ว่า มีคนนินทาหาว่า สรงน้ำด้วยปัสสวะ!
เมื่อระหว่างปี ๒๕๐๓-๒๕๐๔ นายพิทักษ์ พยุงธรรม หลานชายท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี เลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งขณะนั้นยังมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี นายพิทักษ์ พยุงธรรมเวลานั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.ศ. ๓ ของโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ โดยปรกติเป็นเด็กแก่นเอาการอยู่
ค่ำวันหนึ่งในระหว่างเวลาดังกล่าว ที่หน้ากุฏิท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิท่านธมฺมวิตกโกไกลโขพอดู ไม่มีทางที่จะได้ยินการสนทนาใด ๆ ถึงกันอย่างปรกติธรรมดาได้เลย วันนั้นนายพิทักษ์ ได้ตั้งวงนินทาท่านธมฺมวิตกโกกับหมู่บรรดาเพื่อนฝูงศิษย์วัดด้วยกัน ซึ่งเป็นคำกล่าวหานินทาที่ออกจะฉกรรจ์อยู่
“กูว่าพระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ…..” เขาเอ่ยขึ้น
แล้วเขาก็เล่าต่อไปว่า ท่านธมฺมวิตกโกได้ถ่ายปัสสาวะใส่ตุ่มไว้ แล้วท่านก็เอามาอาบเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค หรือแก้ “เคล็ด” ทางไสยศาสตร์บางอย่าง ซึ่งตัวเขาไม่อาจจะทราบได้แน่... -
หลวงปู่จันทา!!!เล่ามีเปรตบนถ้ำภูพานมาสารภาพว่าเป็นเปรตเพราะกรรมใด ทั้งทีบวชพระมาตลอดเกือบ ๑๐๐ พรรษา?
หลวงปู่จันทา!!!เล่ามีเปรตบนถ้ำภูพานมาสารภาพว่าเป็นเปรตเพราะกรรมใด ทั้งทีบวชพระมาตลอดเกือบ ๑๐๐ พรรษา?
สมัยที่หลวงปู่จันทา ถาวโร ไปวิเวกกับพระอาจารย์บุญพินกตปุญโญ และพระจ่อย ไปอยู่ที่ถ้ำจำปา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ที่ถ้ำจำปาอยู่บนภูพาน โยมก็พาไปทำที่พักให้อยู่หน้าถ้ำ พอค่ำลง ก็ทำความเพียร เดินจงกรมจนถึง ๓ ทุ่ม จากนั้น ก็ไหว้พระ สวดมนต์แล้วอุทิศส่วนบุญ เสร็จแล้วก็เข้าที่ นั่งภาวนา พอจิตสงบ เกิดแสงสว่างจ้า ไม่นานเห็นเทพบุตรมาคุย เมื่อเทพบุตรลากลับไป จากนั้นไม่นาน ก็มีเปรตพระ ๓ ตนเข้ามาหา เป็นคนโบราณรูปร่างสูงใหญ่ มีเครายาวถึงหน้าอก เข้ามานั่งใกล้ ๆ ลูบขาข้างซ้าย แล้วพูดว่า...
“ ท่าน ๆ ผมกับท่านใครจะแก่พรรษากว่ากัน ? ” (เปรตพระ)
เราก็ตอบเขาไปว่า “ หลวงพ่อนั่นแหละ แก่กว่า ” (หลวงปู่จันทา)
“ ก็คงจะจริงอย่างท่านว่านั่นแหละ พรรษาของผมนั้นแก่กว่าท่าน แต่ว่าคุณธรรมของท่านนั้น แก่กว่าผมนะ ” (เปรตพระ)
“ แก่กว่าเพราะเหตุใด? ” (หลวงปู่จันทา)
“ แก่เพราะท่านเจริญธรรม เดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ อดนอนผ่อนอาหาร นี่มันแก่อย่างนี้ เพราะการเจริญธรรมถูกต้อง ” (เปรตพระ)... -
วีดีโอ ความสัมพันธ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับพระสายหลวงปู่มั่น
ความสัมพันธ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับพระสายหลวงปู่มั่น
FaithThaiStory :-
Published on Apr 4, 2017
ความสัมพันธ์หลวงพ่อฤาษีลิงดำกับพระสายหลวงปู่มั่น... ตามบันทึกหลวงพ่อฤาษีลิงดำมีความสนิทใกล้ชิดกับหลวงปู่สิม พุทธาจาโร อีกทั้งยังให้ความเคารพต่อหลวงปู่แหวน อีกด้วย -
ไอ้หางกุด กับ หลวงพ่อชา
เรื่องเล่า “หลวงพ่อชา สุภัทโท กับ ไอ้หางกุด” งูจงอางแห่งวัดหนองป่าพง!!!...
ที่วัดหนองป่าพง ช่วงสร้างแรกๆ นั้นมี “งูจงอางหางกุด” อยู่ตัวหนึ่ง ซึ่ง “หลวงพ่อชา สุภัทโท” เรียกมันว่า “ไอ้หางกุด” ตอนเช้าๆ เมื่อหลวงพ่อชาออกไปบิณฑบาต มันก็จะเลื้อยตามหลังทับรอยเท้าของหลวงพ่อไปด้วย..
เช้าวันหนึ่ง ขณะที่หลวงพ่อชากำลังเดินเข้าหมู่บ้าน คนหาปลาผู้หนึ่งสังเกตเห็นรอยงูใหญ่เลื้อยตามหลังจึงวิ่งเข้าไปในหมู่บ้าน บอกเพื่อนบ้านว่า “อาจารย์ชาเอางูมาบิณฑบาตด้วย!!”
ชาวบ้านกลัวมาก ขากลับจึงสะกดรอยตามหลวงพ่อ…ก็เห็นงูใหญ่เลื้อยตามหลวงพ่อเข้าไปในวัดด้วย รุ่งเช้าชาวบ้านจึงพากันมาพูดกับท่าน
“ท่านอาจารย์ทำไมเอางูไปบิณฑบาตด้วย? ทีนี้จะไม่ใส่บาตรแล้วนะ…กลัว!!”
“อาตมาไม่ทราบ… อาตมาไม่ได้เอาไป” หลวงพ่อชาตอบ
“ไม่ได้เอาไปยังไง … ตอนออกมาทุ่งนายังเห็นรอยงูมันเลื้อยทับรอยเท้าท่านอาจารย์อยู่นี่นา!!” ชาวบ้านช่วยกันต่อว่า..
แต่หลวงพ่อชาก็ยังยืนยันว่าท่านไม่รู้อยู่นั่นเอง ชาวบ้านก็เลยพากันมาสังเกต…ก็พบว่า งูตัวนี้ตามท่านไปจากวัด พอถึงศาลพระภูมิทางเข้าหมู่บ้าน มันก็แยกเข้าไปคอยอยู่ที่นั่น จนหลวงพ่อกลับจากบิณฑบาต... -
"กัลยาณมิตร" (สมเด็จพระญาณสังวร)
"กัลยาณมิตร"
" .. "กัลยาณมิตร มีความสำคัญแก่ชีวิตทุกคนแต่น้อยคนที่มีกัลยาณมิตร" เพราะน้อยคนที่เห็นความสำคัญของกัลยาณมิตร คำกัลยาณมิตรติดปากอยู่ได้แทบทุกคน พูดถึงได้ตลอดเวลา
แต่ใช่ว่าจะเห็นค่าเห็นความสำคัญของ กัลยาณมิตร "กัลยาณมิตรจึงยากจะมีโอกาสช่วยให้เกิดความสวัสดีแก่ผู้ที่พร่ำพูดถึงอยู่ได้" ไม่ใช่ความผิดพลาด บกพร่อง ของผู้หนึ่งผู้ใดที่มีคุณสมบัติแห่งความเป็นกัลยาณมิตร "แต่เป็นความรับไม่ได้ รับไม่เป็น หรือไม่รับ" ของผู้ไม่รู้จักกัลยาณมิตร
"กัลยาณมิตรคือ ผู้พร้อมด้วยคุณสมบัติที่สามารถจะปกปักรักษาเราให้สวัสดี" พ้นจากภัยพิบัตินานาประการได้ เพราะกัลยาณมิตรจะไม่เป็นพิษเป็นภัยสำหรับเรา จะทำทุกประการให้เรารู้ทางดำเนินชีวิตอย่างปราศจากทุกข์โทษภัยไม่ว่ายิ่งใหญ่หรือเล็กน้อย
คงเคยได้พบ ได้เห็น หรือได้ยินได้ฟัง กันมาแล้วบ่อย ๆ "ที่เมื่อใครคนใดคนหนึ่งคิดพูดทำที่ผิดพลาด ที่ไม่สมควรแก่ภาวะฐานะ ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศ เป็นต้นว่าเป็นผู้ไม่มีกัลยาณมิตร จึงไม่มีผู้ยับยั้งผู้ให้พ้นความผิดความเสียหาย ที่จะเกิด เพราะคิดพูดทำที่ผิด ที่ไม่สมควร" ที่ไม่น่าทำให้เกิดขึ้น... -
"เรื่องอภิญญาทำฤทธิ์นี่ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านทำได้มากกว่าคนอื่น" หลวงปู่สิม ศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านยืนยันไว้
"เรื่องอภิญญาทำฤทธิ์นี่ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ท่านทำได้มากกว่าคนอื่น" หลวงปู่สิม ศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านยืนยันไว้
เรื่องที่ทุกท่านจะได้ทราบนี้ ได้คัดลอกมาจากหนังสือ "เสียงจากถ้ำ (นารายณ์) ฉบับพิเศษ เขียนโดย หลวงตาวัชรชัยเจ้าอาวาสวัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ในฐานะผู้ที่คัดลอกมาให้ทุกท่านทราบจึงขอกราบขออนุญาต และขอขมาลาโทษ หลวงพ่อวัชรชัยมา ณ.ที่นี้ แต่เผื่อเป็นการที่จะเผยแพร่ถึงความเคารพบูชาและ ความศรัทธาที่มีต่อ หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ และเหล่าอริยะสงฆ์ทุกองค์ที่กล่าวถึงต่อไป จึงขอกล่าวถึงมาในที่นี้
ในครั้งนี้จะขอตัดตอนเฉพาะบางตอนที่กล่าวถึงหลวงพ่อกับหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร แห่งวัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ โดยตรงมาถ่ายทอด ดังนี้
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร เป็นศิษย์ของพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต เป็นประทีปแก้วอีกดวงหนึ่งซึ่งส่องแสงเจิดจ้าจับใจชาวโลก แล้วก็ดับไปตามสัจธรรมที่สมเด็จพ่อของเราทั้งหลายทรงแสดงไว้ ประทีปอันบริสุทธิ์เย็นใจดวงนี้ได้มาเพิ่มความสุขให้แก่บรรดาลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ที่วัดท่าซุงถึง 3 ปี ติดต่อกัน ได้ประทับฝากฝังความทรงจำแก่ทุกคนที่ได้พบเห็นไม่มีวันลืมไปได้... -
เมื่อมีญาติโยมมาถามเรื่องการทำสมาธิกับหลวงปู่สิม คำตอบที่ได้มันเป็นเช่นนี้ มาอ่านกัน!!!
เมื่อมีญาติโยมมาถามเรื่องการทำสมาธิกับหลวงปู่สิม คำตอบที่ได้มันเป็นเช่นนี้ มาอ่านกัน!!!
ในวันหนึ่งๆมีคนไปกราบนมัสการหลวงปู่เป็นจำนวนไม่น้อย คนเหล่านั้นบางคนก็ไปตั้งคำถามต่างๆนานาเอากับท่าน หลวงปู่ก็จำต้องเล่นเกมตอบคำถามไปกับเขาด้วย อย่างที่รวบรวมมาฉายเป็นหนังตัวอย่างให้ดูดังนี้
นักบ้าน : เป็นญาติโยมภาวนาจะได้สำเร็จมรรคผลหรือเปล่า หรือว่าต้องไปบวชก่อน
หลวงปู่ : พระเจ้าสุทโธทนะ พระพุทธบิดา ภาวนาอยู่ในหอปราสาทราชมณเฑียรได้สำเร็จมาแล้ว เป็นนักบวชถ้าไม่ตั้งใจภาวนาก็ไม่ได้สำเร็จเหมือนกัน
นักเรียนลัด : นั่งสมาธิไม่สงบ ทำยังไงให้สงบเร็วขึ้น
หลวงปู่ : ทำให้มากขึ้น ก็เท่านั้นเอง ไม่มีใครมาช่วยได้หรอก ตัวเรานั่นแหละต้องช่วยตัวเอง เหมือนขึ้นภูเขามานี่มีใครช่วยละ เราต้องเดินขึ้นมาเองใช่ไหม ทำกิจการงานอะไรก็เหมือนกันนั่นแหละ เราต้องประกอบกระทำเองจึงจะสำเร็จ จะไปรอหลวงปู่หลวงพ่อที่ไหน ตัวเราน่ะแหละเป็นหลวงปู่หลวงพ่อเสียเอง
นักเลงหุ้น : การทำสมาธิลดกรรมได้ไหม
หลวงปู่ : ได้ การทำสมาธิเป็นการทำบุญกุศล คือเราไม่ทำกรรมชั่ว ทำแต่กรรมดี จิตใจก็สูงเรื่อยๆ เห็นไหมพระพุทธเจ้า ท่านทำความดีมาหลายภพหลายชาติ... -
นายกฯไทย-อินเดีย จับมือดัน "พุทธคยา" เป็นศูนย์กลางพุทธโลก ยินดีที่มีพระอาจารย์อารยวังโสเป็นตัวแทนผู้นำจิตวิญญานชาวพุทธจากไทย
นายกฯไทย-อินเดีย จับมือดัน "พุทธคยา" เป็นศูนย์กลางพุทธโลก ยินดีที่มีพระอาจารย์อารยวังโสเป็นตัวแทนผู้นำจิตวิญญานชาวพุทธจากไทย
วันที่ 4 เม.ย. ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดแสดงธรรม "จิตภาวนา....เมตตาเจโตวิมุตติ" โดยหลวงพ่อพระอาจารย์อารยวังโส เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย จ.ลำพูน จัดโดย ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย
ณ ห้องป๋วย อึ๊งภากรณ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย เวลา 16:30 น.
ในวันนั้น ท่านภควันต สิงห พิศโนอี H.E. Mr. BHAGWANT SINGH BISHNOI ทูตอินเดีย ได้เดินทางมาพบพระอาจารย์อารยวังโส เพื่อหารือเรื่องการเผยแผ่พุทธศาสนาคืนสู่อินเดียและร่วมฟังธรรม ทางทีมข่าวทีนิวส์ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษท่านฑูตอินเดีย ในประเด็นของการกระชับสัมพันธ์ทางศาสนาระหว่าง 2 ประเทศ ดังเนื้อหาใจความต่อไปนี้
ท่านฑูตฯได้รู้จักกับพระอาจารย์อารยวังโสอย่างไร?
ข้าพเจ้าได้รู้จักพระอาจารย์อารยวังโสมาตั้งแต่ก่อนที่ข้าพเจ้าจะมาประเทศไทยเสียอีก ในแง่ที่ท่านเป็นผู้นำด้านจิตวิญญานในศาสนาพุทธ ทางรัฐบาลอินเดียได้ให้ความสำคัญกับบุคคลสำคัญด้านจิตวิญญานในศาสนาพุทธ... -
"แก่นธรรม คือสติ" (หลวงปู่ขาว อนาลโย)
"แก่นธรรม คือสติ"
" .. ธรรมทั้งหลายมันก็อยู่นี่แหละ "แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์นั้น เหล่านั้นเป็นเปลือกเป็นนอก แก่นมันก็คือสติ" ให้ทำเอา "สตินั่นแหละ ทำให้มีกำลัง เมื่อสติมีแล้วมันก็รักษาจิตของมัน" มันไม่ให้ไปออกซ้ายออกขวา สติคอยขนาบเข้ามา ๆ สติแก่กล้า จิตย่อมทนไม่ได้ เมื่อทนไม่ได้มันก็สงบลง "ครั้นสงบลงแล้วมันก็รู้"
"เดี๋ยวนี้มันไม่มีปัญญา มันก็ส่ายไปมา เพราะมันไปหลายทาง" จึงไปหลายทางเพราะเป็นอาการของมัน มันไปตามแง่ของมัน คือเวทนามันเป็นแสงของจิต สัญญาก็เป็นแสงของจิต ความปรุงนั้นก็เป็นแสงของจิต วิญญาณ เครื่องรู้ทวารทั้งหกก็เป็นแสงของจิตออกไปทั้งนั้น
"ผู้รู้แท้ ๆ ถ้าจะสมมุติว่าตนก็แม่นเจ้าจิตนั้นแหละแม่นเจ้าสตินั้นเหละที่สมมุติว่าตน" นอกจากนั้นเป็นอาการทั้งนั้น .. "
อนาลโยวาท
หลวงปู่ขาว อนาลโย -
ศีลข้อ5 กับอานุภาพของวัตถุมงคลของหลวงปู่หงษ์ มหาโพธิสัตว์
ดั่งใด้สดับมา เรื่องการดื่มเหล้ากับของเสื่อมหรือใม่เสื่อม สมัยหนึ่งข้าพเจ้า (อ ,เสก) ใด้อยู่อุปฐากรับใช้พ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลังแขกกลับหมด ท่านใด้คุยบอกว่า เครื่องรางของขลังต่างๆนั้นใม่สามารถช่วยคนใด้หรอก จริงๆแล้วเป็นเพียงอนุสติเครื่องรำลึกนึกถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อให้คนทำความดีเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้รักษาศิลทำแต่ความดี ☺แต่ยามเกิดภัยอันตรายสิ่งที่ช่วยคนคือ เทวดา พรหม เจ้าแม่ธรณี ครูบังบด ครูภูเขา เทพเจ้าเหล่าภูมิเทวดาที่อยู่บริเวณนั้น เนื่องจากยามเกิดอันตรายคนมักจะเรียกชื่อครูบาอาจารย์ให้ช่วยเมื่อท่านใด้ยินเหล่าเทวดาก็จะมาช่วยเหลือ หลวงปู่บอกว่าเวลาท่านปลุกเสก ของวัตถุมงคล เมื่อท่านใด้ทำการประจุวิทยาคมและจิตตานุภาพพลังจิตของท่านลงสู่วัตถุมงคลแล้ว ท่านก็มักจะอธิฐานบอกกล่าวกับพระครูบาอาจารย์ เหล่าเทวดา พระแม่ธรนี ครูภูเขา เจ้าบังบท... -
ธรรมทาน เป็นการเร่งรัดบารมีเดิม - หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
☆☆☆☆☆
ธรรมทาน สามารถทำได้ด้วยทางไหนบ้าง...?
☆☆☆☆☆
การถวายทานนี่มีอานิสงส์ไม่เสมอกัน
ถวายทาน เป็นส่วนบุคคลก็มีอานิสงส์ตามลำดับ ก็ขอตัดเอาขั้นสูงเลย ที่ท่านบอกว่า
▪ถวายสังฆทาน ๑๐๐ ครั้ง
มีผลไม่เท่ากับถวายวิหารทานหนึ่งครั้ง
และต่อมา
▪ท่านต่อว่า สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ
การให้ ธรรมเป็นทานชนะทานทุกอย่าง
ก็หมายความว่า
○ การสร้างหนังสือธรรมะ
○ การให้วิชาความรู้
○ หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัทที่สอนธรรมะแก่คนก็ดีสอนกรรมฐานแก่คนก็ดี นี่เป็นธรรมทาน
☆☆☆ สอนกรรมฐาน เป็นทานขั้นสูงสุด ☆☆☆
อ้างอิงจาก ธัมมวิโมกข์ ฉบับที่ ๑๓๙ หน้า ๕๗
โดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง)
*******************************************************************************************
https://www.facebook.com/punyawat.tuntommarat -
“หลวงปู่ดู่”เน้นเรื่องการทำบุญโดยการ สวดมนต์ ภาวนา รักษาศีล ให้ทานทำให้ครบ แทนการบริจาคเงินเข้าวัดมากๆ จึงจะเป็นการทำตามคำสอนพุทธองค์
“หลวงปู่ดู่”เน้นเรื่องการทำบุญโดยการ สวดมนต์ ภาวนา รักษาศีล ให้ทานทำให้ครบ แทนการบริจาคเงินเข้าวัดมากๆ จึงจะเป็นการทำตามคำสอนพุทธองค์
การทำบุญทำกุศลนั้น โปรดอย่านึกว่าจะต้องหอบข้าวหอบของไปใส่บาตรที่วัดทุกวัน หรือบุญจะเกิดได้ก็ต้องทอดกฐินสร้างโบสถ์ สร้างศาลา และอื่นๆ อย่างที่เขาโฆษณาขายบุญกันทั้งทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ และใบเรี่ยไรกันเกลื่อนกลาด จนรู้สึกว่าจะต้องเป็นภาระที่จะต้องบริจาคเมื่อไปวัดหรือสำนักนั้นๆ เป็นประจำ
บทสวดมนต์ชื่อ พระพุทธชัยมงคลคาถา ที่ขึ้นต้นด้วยพาหุงมีอยู่ท่อนหนึ่ง ซึ่งกล่าวถึงพระพุทธเจ้าทรงชนะมารคือกิเลสว่า
“ทานาทิธัมมวิธินา ชิตวา มุนินโท” แปลว่า
พระพุทธเจ้าผู้ทรงเป็นจอมปราชญ์ ทรงชนะมารคือกิเลส ด้วยวิธีบำเพ็ญบารมีธรรม คือความดี มีการบริจาคทานเป็นต้น
พระพุทธเจ้าทรงสอนการทำบุญทำกุศล ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และสวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา ให้ทานทุกครั้ง ให้ทำลายความโลภ คือกิเลสทุกครั้ง รักษาศีล เจริญภาวนาเพื่อทำลายความโกรธ ความเห็นแก่ตัว ให้ใจสะอาด ใจไม่เศร้าหมอง มองเห็นบาปคุณโทษได้ทุกครั้ง ทำได้ดังนี้จึงชื่อว่า ทำตามพระพุทธเจ้า
หลวงปู่ดู่ พฺรหฺมปัญโญ
FB วัดป่า @watpah... -
"พญายมราช แนะนำ" อุทิศส่วนกุศล : หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
ท่านพระยายมราชได้มาบอกอาตมาเรื่องการอุทิศส่วนกุศลให้คนตาย เมื่อวันปวารณาออกพรรษาปีพ.ศ.2531 ว่า
"ที่สำนักท่านพระยายมราชจะหยุดทำงานเรียกว่า หยุดนรกการ ๓ วัน คือวันออกพรรษา วันปวารณา และวันรุ่งขึ้น รวมเป็น๓วัน วันมหาปวารณาเป็นวันสำคัญท่านไม่สอบสวน พวกที่คอยการสอบสวนตามปกติเขามีอิสระอยู่แล้วจะไปไหนก็ได้ แต่ถึงเวลาสอบสวนก็จะมาเองเพราะกฎของกรรมบังคับ คนที่มาคอยอยู่ที่นี่จะมีโอกาสพ้นนรกหรือไม่ก็ยังไม่แน่ ถ้าบรรดาญาติฉลาด หมายถึงทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศลเจาะจงให้ตรงเฉพาะคนเดียว โดยเอ่ยชื่อ นามสกุล อย่าให้คนอื่น เพระเวลานั้นยังเป็นเวลาปลอดอยู่ มีสภาพคล้ายสัมภเวสี"
อาตมาจึงถามว่า ทำบุญอะไรพวกนี้จึงจะไปสวรรค์ชั้นสูงและมีความสุขมาก
ท่านตอบว่า "แดนใดที่ไม่มีบุญทำแล้วก็ไม่ได้รับเหมือนกัน หมายความว่าพระสงฆ์ที่เราไปทำบุญนั้นเป็นพระแค่ศีรษะกับห่มผ้าเหลือง ไม่ปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญาให้ครบถ้วนเรียกว่า "สมมุติสงฆ์" อย่างนี้ทำไปเท่าไรก็ไม่มีผล อุทิศส่วนกุศลให้คนตายเขาก็ไม่ได้รับ ถ้าทำบุญในเขตที่มีบุญน้อย ผู้รับก็มีอานิสงส์น้อย มีความสุขน้อย ทำบุญในเขตที่มีอานิสงส์มากได้รับผลบุญมากก็มีความสุขมาก... -
"ทำความสงบใจอย่างไร" (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
"ทำความสงบใจอย่างไร"
" .. คือปกติใจนั้นไม่สงบ "เวลาจะนอนมันก็ยังคิดยังปรุงไปตามกระแสของกิเลสที่ฉุดลากไป ให้ได้รับความกังวลวุ่นวายอยู่นั้นแล" เราให้สงบอารมณ์เหล่านั้นเสีย "แล้วนำอารมณ์แห่งธรรมซึ่งเป็นอารมณ์น้ำดับไฟ คือความรุ่มร้อนของกิเลสให้เย็นลงด้วยคำบริกรรม" เช่น "เราบริกรรมพุทโธ ๆ หรือธัมโม หรือสังโฆ" บทใดก็ได้ที่เราชอบใจตามจริตนิสัยของเรา
นำเข้ามาบริกรรมจิตใจของเรา "นึกคำว่า พุทโธ ๆ มีสติกำกับอยู่กับคำว่า พุทโธ ๆ นั้นตลอดไป" สำรวมใจไม่ให้กิเลสฉุดลากออกไปคิดในแง่ต่าง ๆ นอกจากอรรถจากธรรมที่เราบริกรรมอยู่นี้เท่านั้น เราสำรวมระวังไว้ให้ดี
เมื่อเราสำรวมระวังไว้ด้วยดี โดยมีสติควบคุมอยู่เสมอแล้ว "จิตใจของเราที่เคยคิดฟุ้งซ่านรำคาญนั้นจะค่อยสงบตัวเข้ามา" สงบตัวเข้ามาสู่ตัวเองแล้วปรากฏเป็นความสงบผ่องใส รื่นเริงขึ้นที่ใจของเรา ด้วยธรรมซึ่งเป็นน้ำดับไฟ ที่เราบริกรรมอยู่นี้ไปเรื่อย ๆ
นี่เรียกว่า "น้ำดับไฟคือคำบริกรรม ดับความคิดปรุง" ความเดือดร้อนทั้งหลาย กลายเป็นใจที่สงบเย็นขึ้นมาภายในตัวของเรา "นี่คือภาวนาได้ผล" คนที่มีการภาวนาจิตใจสงบลงแล้ว ตื่นขึ้นมาวันหลังนี้... -
เริ่มต้นปฏิบัติธรรมที่บ้านอย่างไรให้ได้บุญมาก
เริ่มต้นปฏิบัติธรรมที่บ้านอย่างไรให้ได้บุญมาก
การปฏิบัติเพื่อจุดมุ่งหมายให้พบสุข ต้องเข้าใจถึงเส้นทางแห่งความสำเร็จหรือการที่จะพาไปถึงความสุขนั้นได้จริง ไม่หลงทางไม่ผิดเส้นทาง ในทางธรรมนั้นก็คือ อริยมรรคมีองค์ 8 ซึ่งนั่นก็คือองค์รวมทั้งหมดของการปฏิบัติ ก่อนที่จะทราบถึงวิธีปฏิบัติ อันดับแรกที่เราต้องทำก็คือ ปรับทัศนคติให้ถูกต้องกับการปฏิบัติก่อน เปรียบกับเราหันหัวรถให้ตรงกับเส้นทางที่เราจะไปเสียก่อนจะได้ไม่ผิดทิศทาง
ให้ความสำคัญกับ“จิต”ตนเอง
ในคำสอนของพระอริยสงฆ์ของพระราชวุฒาจารย์ หรือหลวงปู่ ดุล อตุโล ท่านเคยเมตตากล่าวไว้ว่า “จิตนั้นคือสิ่งสูงสุด เป็นพุทธะที่แท้” หมายความว่าจิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่องปราศจากกิเลสใด ๆแล้วคือเป็นสิ่งที่สูงสุดในพระพุทธศาสนาคือ ดับแล้วซึ่งกิเลสทั้งสามกองใหญ่ ๆ คือ โลภ โกรธและหลง
การเน้นปฏิบัติธรรมเพื่อให้ได้บุญอย่างสูงสุด ผู้ที่มีสัมมาทิฐิจะมุ่งเน้นให้จิตสะอาดปล่อยวางจากสิ่งต่างๆได้ คือพิจารณาว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตนไม่มีอะไรเป็นของเราเลย" เมื่อเรารักษาความคิดของเราให้สามารถปล่อยวางได้ ความรู้สึกหรือจิตที่ขุ่นมัว เสียใจ น้อยใจ โกรธ โลภ หลง...
หน้า 382 ของ 412