คลังเรื่องเด่น
-
เรื่องจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค บันทึกของหลวงพ่อจรัญ
เรื่องจริงที่ไม่เคยรู้มาก่อน สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค บันทึกของหลวงพ่อจรัญ
เรื่องเล่าผ่านกาลเวลา :-
Published on Jul 11, 2017
บันทึกเรื่องจริง สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต แปลงร่างเป็นพญานาค ของหลวงพ่อจรัญ -
ยอดวิวทะลุร้อยล้าน !! ชาวเน็ตแห่ชมฝรั่งแต่งเพลง "พระพุทธเจ้า" เพลงป๊อปอิตาลี ได้แนวคิดจาก "สุญญตกรรม" สอนหลักธรรมะ
ยอดวิวทะลุร้อยล้าน !! ชาวเน็ตแห่ชมฝรั่งแต่งเพลง "พระพุทธเจ้า" เพลงป๊อปอิตาลี ได้แนวคิดจาก "สุญญตกรรม" สอนหลักธรรมะ
พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร แชร์คลิปเพลงOccidentali’s Karma ของ Francesco Gabbani นักร้องเพลงป๊อปอิตาลี โดยแปลว่า Westerner’s Karma หรือกรรมของฝรั่ง ซึ่งกลายเป็นเพลงดังในยุโรป ได้แต่งเกี่ยวกับแนวคิดสุญญตธรรม ในเนื้อร้องมีพูดถึง พระพุทธเจ้า นิพพาน และบทสวดมนต์ทางพระพุทธศาสนา แย้งกับความคิดบริโภคนิยมของตะวันตก จนมียอดวิวท่วมท้นในโลกออนไลน์
ในทางพุทธศาสนานั้น พระพุทธเจ้าตรัสสอนให้รู้จัก สุญญตา คือความว่าง มุ่งถึงความว่างกิเลส และว่างทุกข์ซึ่งเกิดจากกิเลส ว่างบาปอกุศลทุจริต ก็เป็นการว่างจากความทุกข์เพราะเกิดจากบาปอกุศลทุจริต ในการปฏิบัติธรรมะนั้นต้องการผลคือความว่างกิเลส ว่างบาปอกุศลทุจริต และว่างความทุกข์ที่เกิดเพราะกิเลส และบาปอกุศลทุจริตต่างๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องเข้าใจความว่าง ดังที่กล่าวมานี้
ติดตามชมเพลง Occidentali’s Karma ได้ที่
ที่มาจาก : เรื่องเล่าเช้านี้
เรียบเรียงโดย
เสาวลักษณ์ แสงสุวรรณ : สำนักข่าวทีนิวส์... -
เป็นที่ประจักษ์!! ภารกิจสำคัญของพระไทย "พระอาจารย์อารยวังโส" มุ่งมั่นเผยแผ่พุทธศาสนาแก่ชาวโลก จนได้รับคำยกย่องจาก"พระสังฆราชา"แห่งศรีลังกา!!
พระอาจารย์อารยวังโส คือ “พระภิกษุไทยที่ชาวพุทธในอินเดียเคารพนับถือ” เนื่องจากท่านเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูพุทธศาสนาในประเทศอินเดียอย่างแข็งขัน ขนาดได้รับการยกย่องว่าเป็น “Guruji” (กูรูยี) หรือ “ผู้ที่จะหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพุทธศาสนาลงบนแผ่นดินอินเดีย” เลยทีเดียว ซึ่งนอกจากจะได้รับการยกย่องจากชาวอินเดียแล้ว สำหรับประเทศแห่งพุทธศาสนา อย่างศรีลังกาเอง ซึ่งไทยได้สานสัมพันธ์ทางพุทธศาสนากับศรีลังกามาตลอด นั่นให้ความยกย่อง พระอาจารย์อารยวังโส เช่นกัน
โดยสมเด็จพระสังฆราชามหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ได้กล่าวคำอนุโมทนาแก่พระอาจารย์อารยวังโส ดังนี้
คำอนุโมทนา โดยสมเด็จพระสังฆราชามหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ศรีลังกา
ลงวันที่ 27 มีนาคม 2556 ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว เมืองแคนดี้ ศรีลังกา
บ่ายวันที่ 27 มีนาคม พุทธศักราช 2556 สมเด็จพระสังฆราชมหานายก พุทธศาสนาเถรวาทนิกายแห่งสยามอุบาลีวงศ์ ศรีลังกา ทรงประทานพระอนุญาตให้พระอาจารย์อารยวังโส และคณะศิษย์ศรัทธาจากเมืองไทย ได้เข้าเฝ้าที่พระตำหนัก ณ วัดพระเขี้ยวแก้ว (The Temple of the Sacred Tooth... -
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!
ศาสนาเซน แท้จริง คือปลายกิ่งก้านของพุทธศาสนานั้นเอง “หลวงตามหาบัว”ได้อธิบายไว้แจ่มแจ้งแล้วพิจารณาเถิดของจริง!!!
เรื่อง "ศาสนาเซน คือ กิ่งก้านพุทธศาสนาส่วนปลาย"
(คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
เรา (หลวงตามหาบัว)ก็เคยพูดแล้วว่าเซนนี้ออกจากพุทธ คือเซนนี่ผู้พิจารณาทางด้านปัญญา จิตใจผ่านได้ด้วยพิจารณาทางด้านปัญญา ทีนี้พวกที่มาตามหลังก็เลยเอาเรื่องปัญญานี้มาเป็นศาสนาเซนเสียเลย ไม่ได้คำนึงถึงว่าผู้หลุดพ้นมาจากแง่ไหน ๆ ของพุทธศาสนา ความจริงเป็นกิ่งก้านของพุทธศาสนาตอนปลาย คือตอนละเอียดเกี่ยวกับวิปัสสนา แล้วก็เลยเอานี้เป็นศาสนาเลย ใครมาปฏิบัติตามศาสนาเซนต้องใช้ปัญญาๆ แล้วผิดไปเลย อันนี้ผิดเข้าใจเหรอ พิสูจน์ดังที่ว่าพระพุทธเจ้าท่านสอนไว้นี้ ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีลเป็นเครื่องอบรมจิตใจให้อบอุ่นไม่เดือดร้อนวุ่นวาย เพราะเหตุที่ว่าตนทำศีลให้ด่างพร้อยหรือขาดทะลุไป จิตก็ไม่เป็นกังวลเพราะจิตของเราบริสุทธิ์ เวลาเข้าสมาธิจิตก็รวมได้ง่าย เพราะมันไม่วอกแวกไปหาสิ่งระแคะระคายที่เจ้าของทำศีลด่างพร้อย
นี้พิจารณาทางสมาธิ พอจิตเป็นสมาธิจิตมีกำลังเต็มเหนี่ยว เรียกว่า จิตในสมาธินี้เป็นจิตที่พอกับอารมณ์ทั้งหลาย... -
บทบาทไทยในฐานะศูนย์กลางพุทธศาสนาอาเซียน
ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากประเทศเพื่อนบ้านว่าเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา มีพระสงฆ์หลายประเทศในแถบอาเซียนเข้ามาศึกษาความรู้ จนกลายเป็นพื้นที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ โดยพระหลายรูปก็พร้อมที่จะนำความรู้กลับไปพัฒนาบ้านเกิด
กว่า 6 ปีที่พระเย็น โบว และพระสงฆ์ชาวกัมพูชา จำพรรษาที่วัดป่าอดุลยาราม จ.ขอนแก่น เพื่อประกอบกิจตามพระธรรมวินัย ควบคู่กับการศึกษาในระดับปริญาตรี และปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.วิทยาเขตขอนแก่น)
การทบทวนบทเรียนวิชาต่าง ๆ ให้กับพระรุ่นน้อง รวมทั้้งสอนภาษาไทย และภาษาอังกฤษ เป็นอีกหน้าที่ของพระเย็น โบว ในฐานะพระรุ่นพี่ ที่อยากให้พระรุ่นน้องประสบผลสำเร็จในการศึกษา และท่านยังตั้งใจว่าหากเรียนจบ ก็จะกลับไปเป็นครูที่บ้านเกิด
การช่วยเหลือซึ่งกันและกันของกลุ่มพระสงฆ์ทั้งจากกัมพูชา ลาว เวียดนาม และบังคลาเทศ ซึ่งมาเรียนที่ มจร.ขอนแก่น ทำให้เกิดเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน ร่วมกันทำงานส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาของพระภิกษุสามเณร
พระตู้เหวียน ตรัน นักวิชาการศึกษา ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการทำงานของเครือข่ายพระสงฆ์อาเซียน... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน จุนทสูกริกะคนฆ่าหมูที่ตกนรกทั้งเป็น
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน จุนทสูกริกะคนฆ่าหมูที่ตกนรกทั้งเป็น
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่พระเวฬุวันในกรุงราชคฤห์ ได้ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 15 โดยปรารภนายจุนทะคนชำแหละสุกร
ครั้งหนึ่งในหมู่บ้านแห่งหนึ่งไม่ไกลจากวัดพระเวฬุวัน มีชายชำแหละเนื้อสุกรผู้หนึ่งมีจิตใจโหดร้ายทารุณมาก ชื่อว่านายจุนทะ นายจุนทะคนนี้เป็นผู้ชำแหละสุกรมาเป็นเวลานานถึง 55 ปี เขาไม่เคยทำบุญให้ทานแม้แต่ครั้งเดียว ก่อนจะตายนายจุนทะมีความเจ็บปวดทุรนทุรายลงคลานส่งเสียงร้องเหมือนเสียงสุกรอยู่เป็นเวลานานถึงเจ็ดวัน เป็นความทุกข์ก่อนตายที่มีลักษณะคล้ายกับตกนรก พอถึงวันที่ 7 นายจุนทะก็สิ้นชีวิตและได้ไปเกิดในนรกขุมอเวจี ดังนั้นคนที่ทำชั่วก็มักจะต้องเดือดร้อนเพราะกรรมชั่วที่ตนเองทำไว้ เขาจะเดือดร้อนทั้งในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้และเมื่อตายไปในโลกหน้า
เกี่ยวกับเรื่องนี้พระศาสดาได้ตรัสพระธรรมบท พระคาถาที่ 15 นี้ว่า
อิธ โสจติ เปจฺจ โสจติ
ปาปการี อุภยตฺถ โสจติ
โส โสจติ โส วิหญฺญติ
ทิสวา กมฺมกิลิฏฺฐมตฺตโนฯ
คนทำชั่วย่อมเศร้าโศกในโลกทั้งสอง
คือ เศร้าโสกในโลกนี้ และเศร้าโศกในโลกหน้า
เขาย่อมเศร้าโศก ย่อมเดือดร้อน... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน พระนันทะเถระผู้ที่สำเร็จพระอรหันต์ด้วยการจ้างให้ปฏิบัติธรรม
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวันในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภพระนันทเถระพระญาติของพระศาสดา ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 13 และพระคาถาที่ 14 นี้
ครั้งหนึ่งเมื่อพระศาสดาประทับที่วัดพระเวฬุวันในกรุงราชคฤห์ พระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดาได้ส่งทูตหลายคณะมาทูลเชิญพระศาสดาเสด็จไปกรุงกบิลพัสดุ์ ในที่สุดพระพุทธองค์จึงได้เสด็จไปพร้อมด้วยพระอรหันต์จำนวน 20000 รูป ในวันแรกที่เสด็จถึงกรุงกบิลพัสดุ์พระองค์ได้ตรัสเวสสันดรชาดกให้พระญาติได้ฟัง ในวันที่ 2 ได้เสด็จเข้าไปในเมืองและได้ตรัสพระคาถาที่เริ่มบาทแรกว่า “อุตฺติฏเฐ นปฺปมชฺเชยฺย” ซึ่งแปลว่า “บุคคลพึงขยัน ไม่พึงประมาท” ซึ่งเมื่อพระราชบิดาทรงสดับแล้วได้บรรลุพระโสดาปัตติผล และเมื่อเสด็จเข้าไปไปพระราชวังได้ตรัสพระคาถาซึ่งมีความในบาทแรกว่า “ธมฺมํ จเร สุจริตํ” ซึ่งแปลว่า “บุคคลพึงประพฤติธรรมที่สุจริต” ในที่สุดแห่งพระธรรมเทศนาพระราชบิดาได้บรรลุพระสกทาคามิผล หลังจากเสวยภัตตาหารแล้วได้ตรัสจันทกินนรีชาดกซึ่งเกี่ยวโยงกับคุณธรรมของพระมารดาของราหุล(พระนางยโสธรา หรือพิมพา)
พอถึงวันที่ 3... -
"จำวัด"ผิดกันกับ"นอน" อย่างไร? หลวงปู่มั่นได้เมตตาแยกแยะทั้ง๒คำนี้ไว้ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ขาว
"จำวัด"ผิดกันกับ"นอน" อย่างไร? หลวงปู่มั่นได้เมตตาแยกแยะทั้ง๒คำนี้ไว้ตามคำบอกเล่าของหลวงปู่ขาว
หลวงปู่ขาว เล่าถึงคำสอนของ หลวงปู่มั่นเกี่ยวกับการหลับนอนของพระ ต่อไปดังนี้
ท่านควรขบคิดคำว่า จำวัด กับคำว่า นอน ซึ่งเป็นคำทั่วๆ ไป เทียบกันดูจะเห็นว่าผิดกันและมีความหมายต่างกันอยู่มาก
ระหว่างคำว่า จำวัดของศากยบุตร กับคำว่า นอนของคนและสัตว์ทั่วไป
ดังนั้นความรู้สึกของพระผู้เป็นศากยบุตรที่จะปลงใจจำวัดแต่ละครั้ง จึงควรมีความสำคัญติดตัวในขณะนั้นและเวลาอื่นๆ
จึงจะสมชื่อว่า ผู้ประคองสติ
ผู้มีปัญญา คิดอ่านไตร่ตรองในทุกกรณี ไม่สักว่าคิด สักว่าพูด สักว่าทำ สักว่านอน สักว่าตื่น สักว่าฉัน สักว่าเดิน สักว่านั่ง
สัก เป็นอาการปล่อยตัวเกินเพศเกินภูมิของศากยบุตรที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง
ในวงปฏิบัติ
โดยมากมักเข้าใจกันว่า
พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายนิพพานไปแล้ว สาปสูญไปแล้ว ไม่มีความหมายอะไรเกี่ยวกับท่านและตนเองเสียแล้ว ก็พระธรรมอันเป็นฝ่ายเหตุที่สอนกันให้ปฏิบัติอยู่เวลานี้ เป็นธรรมของท่านผู้ใดขุดค้นขึ้นมาให้ได้เห็นและได้ปฏิบัติตามเล่า?
ความจริง พุทธะ และ สังฆะ ก็คือ ดวงใจบริสุทธิ์ที่พ้นวิสัยแห่งความตาย... -
ทำไมถึงดวงซวย พระพุทธเจ้าบอกว่าอย่างไร
ทำไมอยู่ ๆ เราก็เกิดความซวยขึ้นมา ทั้งๆที่เราเข้าวัดทำบุญก็บ่อย พระพุทธเจ้าบอกเลยนะว่า "เธอคบคนดีหรือเปล่า"
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนคือคนดี คนไหนคือคนชั่ว
ลักษณะคนดี คุณลักษณะของคนดี พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ๗ ประการ ดังนี้
๑.รู้เหตุ
๒.รู้ผล
๓.รู้จักตนและหน้าที่ของตน
๔.รู้จักประมาณในการต่าง ๆ เช่น พูด การเงิน การนอน เป็นต้น
๕.รู้จักใช้การเวลาให้ถูกต้องแก่ภาวะนั้น ๆ
๖.รู้จักสังคม เช่น สังคมนี้เป็นอย่างนี้ สังคมนั้นเป็นอย่างนั้น ต้องทำอย่างนั้น ๆ เพื่อเข้ากับเขาได้ ถ้าเป็นสังคมคนชั่วก็ไม่เกี่ยวข้องเป็นต้น
๗.รู้จักบุคคลว่า คนนี้ควรคบ คนนั้นไม่ควรคบ คนนี้เป็นเทพ คนนั้นเป็นสัตว์ เป็นต้น
เรียกว่าสัปปุริสธรรม (สัต.อัง.)
นี่เรียกคุณลักษณะของคนดี
ลักษณะคนชั่ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้มาก เช่น เป็นคนชั่ว เพราะคิดชั่ว ทำชั่ว พูดชั่ว (ติก.อัง) แล้วยังมีที่ร้ายแรง เช่น
๑.ฆ่าผู้หญิงได้
๒.ชอบเป็นชู้เขา
๓.ประทุษร้ายมิตร
๔.ฆ่าพระได้
๕.ตระหนี่เห็นแก่ตัวจัด (ชา.ขุ.)
แล้วนอกจากนี้มีคนที่ไม่ควรจะคบด้วย
๑.ชอบพูดปด
๒.เย่อหยิ่ง
๓.พูดมาก
๔.ขี้โอ่อวดตัว
๕.ยกตนเอง
๖.มีใจไม่มั่นคง (ฉัก.อัง.)... -
"พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังแห่งล้านนา จำพรรษาในถ้ำ ปิดวาจา 3 เดือน เผยเคยไม่พูดเลย 3 ปี 3เดือน สาธุยกมือท่วมหัว!!
พระแท้! "พระครูบาบุญชุ่ม" เกจิดังแห่งล้านนา จำพรรษาในถ้ำ ปิดวาจา 3 เดือน เผยเคยไม่พูดเลย 3 ปี 3เดือน สาธุยกมือท่วมหัว!!
พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน เกจิดังที่เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศทั้ง ไทย ลาว พม่า จีน และ ประเทศภูฏาน ได้เดินทางไปจำพรรษาในถ้ำเมืองแกส อ.เมืองสาด รัฐฉาน ประเทศเมียนมา และปิดวาจา 3 เดือน
ลูกศิษย์พระครูบาบุญชุ่ม กล่าวว่า พระครูบาบุญชุ่ม ปัจจุบัน อายุ 53 ปี ได้บวชเรียนตามปฏิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่วัยเยาว์
โดยเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 60 ที่ผ่านมา พระครูบาบุญชุ่มได้เดินทางไปที่ เมืองสาด รัฐฉาน เพื่อจะเข้าปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ตลอดพรรษา ที่ถ้ำเมืองแกส ซึ่งเป็นถ้ำอยู่ห่างจากเมืองสาด ประมาณ 5 กิโลเมตร บริเวณก่อนเข้าถ้ำจะมีพุทธศาสนิกชนที่ทราบข่าวเดินทางมารอกราบพระครูบาบุญชุ่ม เป็นจำนวนมาก ซึ่งพระครูบุญบาบุญชุ่ม ได้นำสวดมนต์พร้อมทั้งให้พร สร้างความอิ่มเอมใจให้กับพุทธศาสนิกชนอย่างทั่วหน้า
ทั้งนี้ ตลอดพรรษา 3 เดือน ที่พระครูบาบุญชุ่มปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ท่านจะไม่พูดอะไรเลย เมื่อหลายปีก่อนท่านเคยเข้าปฏิบัติธรรมในถ้ำแห่งหนึ่ง ที่ลำปาง... -
เสียงธรรม หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่องเร่งรัดการปฏิบัติ - มองให้เห็นความทุกข์
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เล่าเรื่องเร่งรัดการปฏิบัติ - มองให้เห็นความทุกข์
FungKhorKid :- Published on Jul 10, 2017 -
“ห้ามส่งเสียงดังรบกวนในวัด” เพราะอาจจะกลายเป็นการทำ “กรรม” ที่หนักหนาสาหัสมาก !!
“ห้ามส่งเสียงดังรบกวนในวัด” เพราะอาจจะกลายเป็นการทำ “กรรม” ที่หนักหนาสาหัสมาก !!
เรื่อง “กรรมขัดขวางการภาวนา หนักหนาสาหัสมาก”
แม้กัปนี้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้พระองค์ที่สี่แล้ว ด้วยเหตุแห่งกรรมนั้น ยังไม่ได้ขึ้นมาจากนรกเลย
(ปกิณกธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)
ครั้งหนึ่ง มีลูกศิษย์หลวงปู่ผู้สนใจธรรมปฏิบัติกำลังนั่งภาวนาเงียบอยู่ ไม่ห่างจากท่านเท่าใดนัก บังเอิญมีแขกมาหาศิษย์ผู้นั้นแต่ไม่เห็น ก็มีศิษย์อีกท่านหนึ่งเดินเรียกชื่อท่าน “ผู้กำลังภาวนาอยู่” ด้วยเสียงอันดัง และเมื่อเดินมาเห็นศิษย์ผู้นั้นกำลังภาวนาอยู่ ก็จับแขนดึงขึ้นมาทั้งที่กำลังนั่งภาวนาเมื่อผู้นั้นห่างไปแล้ว หลวงปู่ท่านจึงเปรยขึ้นมาว่า
“ในพุทธกาลครั้งก่อน มีพระอรหันต์องค์หนึ่งกำลังเข้านิโรธสมาบัติ ได้มี “นกแสกตัวหนึ่ง” บินโฉบผ่านหน้าท่านพร้อมกับร้อง “แซก” ท่านว่า นกแสกตัวนั้นเมื่อตายแล้วได้ไปอยู่ในนรก แม้กัปนี้พระพุทธเจ้าผ่านไปได้พระองค์ที่สี่แล้ว นกแสกตัวนั้นยังไม่ได้ขึ้นมาจากนรกเลย”
หมายเหตุ : คติธรรมที่กล่าวมานี้ จึงเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของ “ป้ายเตือนในวัด” ที่ติดเตือนไว้ว่า ห้ามส่งเสียงดังรบกวน ที่นี่เป็นวัด ต้องการความสงบสงัด... -
โยนเงินสี่หมื่นลงข้างทาง.. "หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน" ช่วยชีวิตหนุ่มคิดสั้น จะผูกคอตายได้ทันพอดี เอาเงินไปไถ่บ้าน ก่อนโดนยึด..ท่านรู้ได้ไง?
หลวงปู่สรวง ช่วยคนคิดสั้นจะฆ่าตัวตาย
คุณบุญเลิศเล่าว่าลูกศิษย์เมืองจันทบุรีชื่อคุณนก มารับเอาตัวหลวงปู่สรวงไปพักที่บ้านของเธอ ใกล้ชายแดนเขมร คลับคล้ายว่าอยู่ในเขตคลองลึก จำชื่อหมู่บ้านไม่ได้
โดยรับเอาตัวหลวงตาไปก่อนหวยออกไม่กี่วัน
คือมีแผนจะเอาหวยจากหลวงตานั่นเอง
หลวงปู่ ก็ได้ให้หวยจนคุณนกและชาวบ้านถูกกันถ้วนทุกคน
หลังถูกหวยแล้ว คุณนกยังคงรั้งตัวหลวงปู่ไว้ไม่ปล่อยให้กลับ ตั้งใจให้อยู่บอกหวยงวดต่อไปอีกงวด ทั้งยังขัดกระแสต้องการให้หลวงปู่อยู่ต่อไปจากชาวบ้านไม่ได้
งวดต่อมาหลวงปู่ให้หวยถูกอีก
คนรวยหวยมากกว่างวดที่แล้ว หลายคนที่เชื่อมั่นทุ่มแทงได้เงินมากมายกันทั้งหมู่บ้าน
คุณนกทำท่าจะรั้งตัวหลวงปู่ไว้อีก ไม่ยอมให้หนีกลับศรีสะเกษ
ร้อนถึงคุณบุญเลิศซึ่งพักอยู่บ้านในเมืองอุบล
“ผมฝันครับ ฝันว่าหลวงปู่ มาหา บอกให้ช่วยไปรับที อยากกลับแล้ว..เรื่องฝันเห็นหลวงปู่ มาบอกให้ไปรับ ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก คือก่อนหน้านั้นก็ฝันมาหลายหน
ทุกหนก็เป็นเรื่องจริงๆคือหลวงปู่ ต้องการให้ไปรับ จึงรีบขับรถออกจากบ้านไปเมืองจันทน์ทันที”
พอไปถึงหลวงปู่ วิ่งมาหาที่ประตู แสดงอาการดีใจ จะขึ้นรถกลับ... -
มโนมยิทธิแบบจีน - พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน
+++ มโนมยิทธิแบบจีน +++
ถาม : (มโนมยิทธิเต็มกำลัง)
ตอบ : นั่นเป็นแบบจีนแท้ ๆ คนจีนทำมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว อาตมาดูมาตั้งแต่เด็ก ถึงเวลาคนตายไปไหน เขาให้ไปถาม เขาจะกำชับให้คนไปดูเลยว่า ถ้าเห็นแม่น้ำอย่าข้ามนะ ถ้าข้ามจะตายไปด้วย ตำรานี้จีนแคะเขาเรียก "ล็อกซ้ำกู๊" ลงไปดูในนรก
ถ้าลูกศิษย์มองไม่เห็น อาจารย์ก็จะจุดกระดาษเงินกระดาษทองตรงหน้า ก็คือลักษณะที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านปรับมาเป็นการเอาไฟส่อง ผมมั่นใจเลยว่าท่านอาจารย์สุขเรียนมาจากคนจีน อาตมาดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เวลาเริ่มไปดูคนตาย เขาจะสั่นแรงมาก ตบจนกระทั่งขาเขียวหมด ตอนแรกก็สงสัยว่าไปดูกันได้จริง ๆ หรือวะ ? แล้วสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าทำไมลงไปได้แต่นรก ?
ถาม : มีผีพาไปดูบาดาล เจอบ้านคนอยู่อีกฝั่งของน้ำ กำลังจะข้ามแม่น้ำ มีเสียงเรียกห้ามไว้ก่อน ?
ตอบ : ข้ามไม่ได้ นั่นเป็นเขตคนตาย พวกที่เล่นอย่างนี้มาเขาสั่งกันนักสั่งกันหนาว่าเจอน้ำอย่าข้ามเด็ดขาด ญาติคนไหนมาชวนก็ห้ามข้าม จะน้ำอะไรก็แล้วแต่ ถ้าเป็นน้ำนี่อย่าข้าม จะเป็นสะพาน จะเป็นเรือ หรือเป็นแม่น้ำ สระน้ำ ก็ห้ามข้าม เขาเล่นกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว พอมาฝึกมโนมยิทธิ... -
มมร จัดงานสมัชชาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ภายใต้แนวคิด"การขับเคลื่อนพลังบวร สู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน"
มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยร่วมกับองค์กรภาครัฐและเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ จัดงานสมัชชาการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ครั้งที่ 2 ภายใต้โครงการประเพณีวันสำคัญของชาติและศาสนา วันอาสาฬหบูชา ประจำปี 2560 เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ กรกฏาคม ๒๕๖๐ ณ ห้องคอนเวนชั่น โรงแรมรามาการ์เด้นท์ โดยพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอในการร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤติของพระพุทธศาสนาให้ฟื้นคืนกลับมาในจิตใจของพุทธศาสนิกชนไทย และกำหนดแนวทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาร่วมกันของหน่วยงาน องค์กร รวมไปถึงผู้มีส่วนร่วมทั้งภาครัฐและเอกชน ภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนพลังบวร สู่การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยั่งยืน”
พระพรหมเมธี ประธานในพิธี
พระพรหมเมธี ประธานในพิธีกล่าวสัมโมทนียกถาว่า วันอาสาฬหบูชาเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงพระธรรมเทศนาเป็นครั้งแรก จนมีพระรัตนตรัยครบองค์ 3... -
เผยตำนาน "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เล่ากันว่ากรุงศรีอยุธยามีขุมทรัพย์โบราณ ถึง 303 แห่ง..แต่!!มีนักรบโบราณคอยเฝ้ารักษาไว้ อย่า..แม้แต่จะคิด.
ตำนานปู่โสม เฝ้าทรัพย์
กรุงศรีอยุธยาอดีตราชธานีอันยิ่งใหญ่ของไทย ครั้งที่บ้านเมืองยังสงบอาณาประชาราษฎร์ล้วนมีชีวิตที่สุขสบาย ขุนนาง ขุนศึก พ่อค้าและชาวบ้านทั้งหลายยิ้มย่องผ่องใสมีชีวิตรุ่งเรืองถึงขีดสุด จึงต่างเก็บหอมรอมริบ สะสมแก้วแหวนเงินทองมีค่าไว้มากมาย
จนกระทั่ง เกิดสงครามถึงคราวพ่ายแพ้แก่พม่า กรุงศรีอยุธยาต้องล่มสลาย ผู้คนและเหล่าทหาร ช้าง ม้า วัว ถูกฆ่าตายกลาดเกลื่อน สมบัติมากมายที่สะสมกันไว้จึงถูกซุกซ่อนฝังไว้ตามจุดต่างๆ
ขุนนาง คหบดีและเจ้านายบางพระองค์ นอกจากจะฝังสมบัติไว้แล้ว ยังถึงกับฆ่าบริวารหรือทหารของตนให้ตายโหงอยู่ตรงที่ฝังสมบัติ เพราะหวังจะให้วิญญาณของผู้ตายกลายเป็นผี "ปู่โสมเฝ้าทรัพย์" เฝ้าสมบัติของตนก็มี
เมืองกรุงเก่าอยุธยานับแต่อดีตถึงปัจจุบันจึง ขึ้นชื่อลือชานักในเรื่องของวิญญาณ ที่มักมาปรากฏตามสถานที่โบราณต่างๆ หลายเรื่องน่ากลัว หลายเรื่องฟังแล้วน่าตื่นเต้นดีและทุกเรื่องล้วนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ดังเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้...
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้น จริงในอดีตเกี่ยวกับลายแทงสมบัติอันบ่งบอกจุดที่ซ่อนของขุมทรัพย์มากมาย... -
การบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้า มหาศาสดาโลก
ในพระพุทธศาสนา “บารมี” หมายถึงปฏิปทาอันยวดยิ่ง คุณธรรมที่ประพฤติปฏิบัติอย่างยิ่งยวดคือความดีที่บำเพ็ญอย่างพิเศษเพื่อบรรลุซึ่งจุดหมายอันสูง เช่นความเป็นพระพุทธเจ้าและความเป็นมหาสาวกเป็นต้น (พระพรหมคุณาภรณ์ ป.อ. ปยุตฺโต, พจนานุกรมพุทธศาสตร์, (พิมพ์ครั้งที่ 10) กรุงเทพ ฯ: เอส.อาร์.พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์ จำกัด, 2548, หน้า 239.
การเริ่มบำเพ็ญบารมีของพระพุทธเจ้ามีปรากฎในพระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย จริยปิฎก (เล่ม 33)และปรมัตถทีปนี อรรถกถาขุททนิกาย จริยาปิฎก ภายหลังจากเริ่มตั้งความปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ส่วนขุททกนิกาย พุทธาปทานและวิสุทธชนวิลาสินี อรรถกถาขุททกนิกาย พุทธาปทานได้พรรณาประวัติของพระโคตมพุทธเจ้าเมื่อครั้งยังถือกำเนิดเป็นสุเมธดาบสและเริ่มตั้งความปรารถนาต่อพระพักตร์ของพระทีปังกรพุทธเจ้า พอสรุปความได้ว่า
ในที่สุดสี่อสงไขยยิ่งด้วยกำไรแสนกัปนับแต่ภัทรกัปนี้ไป ได้มีนครหนึ่งนามว่าอมรวดี ในนครนั้นมีพราหมณ์ชื่อสุเมธ อาศัยอยู่เขาศึกษาศิลปะของพราหมณ์ จนเป็นผู้คงแก่เรียน ทรงจำมนต์ได้ เรียนจบไตรเพท ถึงความสำเร็จในลักขณศาสตร์ อิติหาสศาสตร์ และธรรมเนียมพราหมณ์... -
ลักษณะของ “คู่แท้” ตามหลักพุทธศาสนา คบกันเเล้วชีวิตดีงาม-คู่กันทุกภพชาติ
ลักษณะของ “คู่แท้” ตามหลักพุทธศาสนา คบกันเเล้วชีวิตดีงาม-คู่กันทุกภพชาติ
ในชีวิตของคนที่โหยหาความรัก คงอยากจะเจอคู่แท้สักที แต่จนแล้วจนเล่า เขาคนนั้นก็ไม่มาสักที ผู้หญิงหรือผู้ชายที่รอการมาของคู่แท้ อาจจะมีความรักและแต่งงานเมื่ออายุเยอะแล้วก็ได้ แต่เชื่อเถอะเขาจะมาพบคุณในช่วงเวลาที่เหมาะสม ส่วนคนที่ไม่ใช่ก็จะถูกเหวี่ยงออกไปเอง
ในสมัยพุทธกาล มีเรื่องเล่าถึงพลังปุพเพสันนิวาสอยู่หลายเรื่อง พลังของปุพเพสันนิวาสดังกล่าวได้เคยทำให้เศรษฐีต้องเลือกแต่งกับยาจก, กษัตริย์แต่งกับไพร่หรือคนป่าคนดอย, อาจารย์แต่งกับศิษย์, ลูกสาวเศรษฐีแต่งกับมหาโจร, ฯลฯ ชีวิตแต่งงานด้วยความรักเป็นความสุขของคนๆนั้นทั้งชีวิต อานุภาพจึงรุนแรง เมื่อความรักเกิดแล้ว ก็ไม่มีพรมแดนใดๆ มาขวางกั้นได้ เป็นข้อยกเว้นที่ทุกชาติก็เคยมีกันทั้งนั้น เเต่ลักษณะคู่เเท้ตามหลักพระพุทธศาสนาที่นำพาชีวิตให้ดีงามนั้น ต้องประกอบด้วย 4 สม ได้แก่
ศรัทธาสมกัน คือ นับถือศาสนา เคารพบูชาและเชื่อมั่นในสิ่งเดียวกัน มีความคิด ความสนใจ และรสนิยมใกล้เคียงกัน
ศีลสมกัน คือ ได้รับการอบรมมาให้มีศีลธรรมความประพฤติ และกิริยามารยาทที่สอดคล้องกัน
จาคะสมกัน... -
"หลวงปู่เสือดำ" หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร ก่อนทิ้งปืนเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์
สัมภาษณ์พิเศษ หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร หรือ หลวงปู่เสือดำ เบื้องหลังข้อตกลงลับ กับ ขุนพันธ์ ทิ้งปืน เข้าวัด
-------------------------------------------------------------------
เปิดตำนาน 4 ขุนโจรในอดีตของไทย เสือดำ เสือใบ เสือมเหศวร และเสือฝ้าย
สำหรับชีวิตจริงของเสือดำ ผู้เป็นจอมโจรชื่อดังในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมสมัยกับ เสือใบ, เสือฝ้าย และเสือมเหศวร มีชื่อจริงว่า ระพิน ได้ชื่อว่าเสือดำจากการสวมชุดดำเวลาออกปล้น และใช้ปืนคู่ แต่เมื่อเวลาออกปล้นจะต้องประกาศให้เจ้าทรัพย์รู้ก่อนล่วงหน้าเป็นสัปดาห์และปล้นด้วยความสุภาพ นิยมปล้นแต่คนรวยให้คนยากจน จนได้รับฉายาว่า สุภาพบุรุษเสือดำ เช่นเดียวกับ เสือใบ
เสือดำ ถูกปราบได้ด้วย ขุนพันธรักษ์ราชเดช นายตำรวจมือปราบชื่อดัง โดยขุนพันธ์ฯ ให้โอกาสเสือดำกลับตัว เสือดำจึงไปบวชกับ พลตำรวจเอกประเสริฐ รุจิรวงศ์ อธิบดีกรมตำรวจในยุคนั้น และบวชมาจนบัดนี้
ปัจจุบัน เสือดำ คือหลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร เจ้าอาวาสวัดศรีนวลธรรมวิมล เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร อายุกว่า 80 แล้ว แต่สุขภาพก็ยังแข็งแรงอยู่ และมักได้รับเชิญเป็นประธานในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลร่วมกับ... -
ไขข้อสงสัย ญาติโยมถวายสุกี้ ชาบู ให้พระฉัน ผิดไหม?
ไขข้อสงสัย ญาติโยมถวายสุกี้ ชาบู ให้พระฉัน ผิดไหม?
โซเชียลแชร์ภาพญาติโยมนิมนต์พระมาบ้าน ก่อนถวายเพลเป็นชาบูชุดใหญ่ เกิดเสียงวิจารณ์กันขรม ด้าน พระมหาไพรวัลย์ เผย ผิดพระวินัย ห้ามพระปรุงอาหาร หวั่นพระเลือกรสชาติถูกปาก… โลกโซเชียลกำลังวิพากษ์วิจารณ์ภาพพระสงฆ์กำลังนั่งฉันสุกี้และชาบู โดยภาพดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์ @KUSHQUSH เป็นภาพพระสงฆ์ 5 รูปที่ได้รับการนิมนต์มาบ้านของญาติโยม ก่อนเจ้าของบ้านจะถวายเพลเป็นชาบูชุดใหญ่ ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ยังเคยมีภาพพระกำลังนั่งฉันหมูกระทะอยู่ภายในบ้านหลังหนึ่ง หลังจากที่ญาติโยมนิมนต์ไปทำบุญบ้านด้วยเช่นเดียวกัน หลังจากภาพดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมากว่าเหมาะสมหรือไม่ บางส่วนเข้าใจพระที่ไม่สามารถปฏิเสธอาหารที่ญาติโยมถวายได้ แต่บางส่วนก็มองว่าไม่เหมาะ เนื่องจากพระสงฆ์ไม่ควรทำอาหารฉันเอง ซึ่งการฉันชาบูหรือสุกี้ก็เข้าข่ายนี้
ด้าน พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระวัดสร้อยทอง เปิดเผยกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ถึงประเด็นนี้ด้วยว่า การฉันในลักษณะนี้ไม่ถูกต้องตามพระวินัย เพราะว่า พระพุทธเจ้าฉันอาหารโดยพระเป็นผู้ปรุงเอง... -
เปิดตำนานศัตรูคู่อาฆาต กำเนิดแห่งครุฑและพญานาค
เปิดตำนานศัตรูคู่อาฆาต กำเนิดแห่งครุฑและพญานาค
หากจะเล่าถึงเหตุที่ครุฑกับนาคไม่ถูกกันแล้ว คงจะต้องเล่าย้อนไปถึงรุ่นแม่ของพญาทั้งสองกันก่อน ครุฑและนาคนั้นร่วมบิดาเดียวกัน คือพระกัศยปะมุนีเทพบิดร แต่ต่างมารดา ครุฑเป็นลูกของนางวินตา ส่วนนาคเป็นลูกของนางกัทรุ ซึ่งนางทั้งสองเป็นพี่น้องกันแต่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนัก นางกัทรุได้ขอพรให้นางมีบุตรมากมาย ล้วนด้วยอิทธิฤทธิ์ นางจึงได้กำเนิดไข่ 1000 ฟอง และได้กลายเป็นพญานาค ส่วนนางวินตานั้น ขอพรให้มีบุตรแค่สองคน แต่ขอให้มีอิทธิฤทธิ์มากกว่านางกัทรุทั้งหมด นางจึงได้คลอดไข่มาสองฟอง นางเฝ้ารอไข่ของนางถึง 500 ปี ก็ไม่มีทีท่าจะฟักซักที นางจึงรอไม่ไหว จึงทุบไข่ออกมาฟองหนึ่ง ปรากฏว่าเป็นเทพบุตรที่มีกายแค่ครึ่งท่อนบนชื่อ อรุณ
อรุณเทพบุตรโกรธมารดาของตนที่ทำให้ตนออกจากใข่ก่อนกำหนด จึงสาปให้มารดาของตนเป็นทาสนางกัทรุ และให้บุตรคนที่สองของนางเป็นผู้ช่วยนางให้พ้นจากความเป็นทาส จากนั้นจึงขึ้นไปเป็นสารถีให้กับพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ นางวินตาจึงไม่กล้าทุบไข่ฟองที่สองออกมาดู คงรอให้ถึงกำหนดที่บุตรคนที่สองซึ่งก็คือพญาครุฑออกมาจากไข่เอง
อนึ่ง เมื่อพญาครุฑแรกเกิดว่ากันว่า... -
“โคพระโพธิสัตว์” เป็นพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๑ นับแต่พระศรีอาริย์เป็นต้นไป
“โคพระโพธิสัตว์” เป็นพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๑ นับแต่พระศรีอาริย์เป็นต้นไป
“…โคพระโพธิสัตว์…”
“…วันหนึ่งไปนิมนต์ในงานวันสารทอยู่วัดศรีจอมทอง เชียงใหม่ เมื่อคืนก่อนวันจะไป เรานั่งภาวนาอยู่ตอนใกล้แจ้ง
มีโพธิสัตว์ตนหนึ่งแสดงรูปเป็นโคตัวผู้ใหญ่สีแดงน้ำผึ้งป่า ลักษณะงดงามทุกอย่างสะอาดสะอ้านเกลี้ยงเกลา เล็บกีบเท้า หู เขา หัว หาง ลักษณะเป็นโคอุสุภราชได้ทุกอย่าง มารายงานให้ทราบว่า
“ขอนิมนต์เทศน์โปรดเอาผมด้วยเถอะพระผู้เป็นเจ้าเอย กระผมตกทุกข์เป็นเดรัจฉานอยู่ วันพรุ่งนี้ท่านไปจะได้เห็นผมอยู่หน้าวัด”
เราก็ซักถามหลายอย่างหลายประการจึงรู้ว่า เป็นพระโพธิสัตว์องค์ที่ ๑๑ นับแต่พระศรีอาริย์ไป
“ผมนะครับจะได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งต่อไป บำเพ็ญบารมีแบบวิริยาธิกะที่ ๒ อายุ ๙๐,๐๐๐ ปี จะได้ตรัสรู้อยู่ประเทศอินเดีย กรุงโกสัมพี ต่อจากองค์ครูบาเจ้าศรีวิชัย แล้วก็เป็นลำดับของผมต่อไป ขอท่านจงเมตตาด้วยเถอะ
พ้นจากวิบากกรรมเป็นโคตัวนี้แล้ว จะได้ไปเกิดอยู่อีสานแล้วจะได้บวชเป็นพระ”
(หลวงปู่จาม) “เอาเถอะ ตั้งใจบำเพ็ญของตนไปเถอะท่านโพธิสัตว์เอย”
ทีนี้ตอนเช้าเดินจากที่พักไปวัดศรีจอมทอง ก็พูดกับท่านอาจารย์สิม... -
เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง..ในหลวง ร.10 ทรงเรียบเรียงหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ ด้วยพระองค์เอง
เป็นพระมหากรุณาธิคุณยิ่ง..ในหลวง ร.10 ทรงเรียบเรียงหนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์ ด้วยพระองค์เอง
เนื่องในพิธีมหามงคล บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ พระลานพระราชวังดุสิต วันอังคาร ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๘.๐๐ น
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ประธานองคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ไปในพิธี และสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมพโร) ทรงเป็นประธานสงฆ์ บำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวาย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ จำนวน ๑๗๕ รูป นำเจริญพระพุทธมนต์
และเหนือสิ่งอื่นใด “หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์” ที่ใช้ในพิธีดังกล่าว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพิมพ์หนังสือบทเจริญพระพุทธมนต์พระราชทานแก่ผู้มาร่วมพิธี รวม ๒๘ บท
ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเรียบเรียงด้วยพระองค์เอง เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า พระสยามเทวาธิราช... -
ไขปริศนา ! การหายตัวไปของพระอาจารย์ธรรมโชติแห่งบ้านบางระจัน
ไขปริศนา ! การหายตัวไปของพระอาจารย์ธรรมโชติแห่งบ้านบางระจัน
พระอาจารย์ธรรมโชติ เดิมชื่อ โชติ ขณะบวชได้ฉายาทางพระว่า ธรรมโชติรังษี พื้นเพเป็นชาวเมืองสุพรรณ ในยุคสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย บวชเรียนแล้วจำพรรษา เป็นเจ้าอาวาสอยู่ ณ วัดเขาขึ้นหรือเขานางบวช ท่านมีความรู้ด้านวิชากสิณ ด้านวิชาอาคมที่แก่กล้า ด้วยทั้งพรรษาและวิชาต่าง ๆ ที่ได้ศึกษาฝึกพร่ำร่ำเรียนมา ใครเห็นล้วนแต่เกิดศรัทธา
พระอาจารย์ธรรมโชติ ตามประวัติเดิม พำนักอาศัยอยู่ ณ วัดเขานางบวช ต่อมาชาวบ้านบางระจันได้อาราธนาไปพำนักอยู่ ณ วัดโพธิ์เก้าต้น จังหวัดสิงห์บุรี ในปี พ.ศ. 2308 ด้วยเหตุที่พระอาจารย์ธรรมโชติมีวิทยาอาคมสูง และได้ลงวิทยาอาคมกับผ้าประเจียด ตะกรุดพิสมร แจกจ่ายให้กับนักรบค่ายบางระจัน
พระอาจารย์ธรรมโชติ
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงพระนิพนธ์ในหนังสือไทยรบพม่าว่า พระอาจารย์ธรรมโชตินั้นได้หายสาบสูญไปหรือจะมรณภาพในเวลาเสียค่ายแก่พม่า หรือหนีรอดไปได้หาปรากฏไม่ แต่ตามความเชื่อและตำนานท้องถิ่นของชาวจังหวัดสุพรรณบุรีเล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อค่ายบางระจันมีทีท่าว่าจะแตก... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน พระสารีบุตรเถระบรรลุธรรม อาจารย์สญชัยไม่บรรลุธรรม
...
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน พระสารีบุตรเถระบรรลุธรรม อาจารย์สญชัยไม่บรรลุธรรม
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเขตวัน ในกรุงสาวัตถี ทรงปรารภอุปติสสะและโกลิตะ ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 11 และพระคาถาที่ 12 นี้
อุปติสสะและโกลิตะเป็นชายหนุ่มจากหมู่บ้านอุปติสสะและหมู่บ้านโกลิตะซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกรุงราชคฤห์ ทั้งสองคนไปชมมหรสพอยู่บนยอดภูเขาแล้วเกิดความตระหนักถึงความไม่เที่ยงของทุกสิ่งทุกอย่างจึงได้ตัดสินใจแสวงหาความหลุดพ้น ในเบื้องแรกทั้งสองคนได้เข้าไปเป็นศิษย์ของอาจารย์สญชัยซึ่งเป็นปริพาชกในกรุงราชคฤห์ แต่ไม่สมใจในคำสอนของสญชัย จึงได้ออกเดินทางตระเวนไปทั่วชมพูทวีป(อินเดีย)แล้วกลับมาที่กรุงราชคฤห์ดังเดิม หลังจากตระเวนหาแล้วไม่พบธรรมะอย่างแท้จริง ทั้งสองจึงได้ทำความตกลงกันว่าหากคนใดคนหนึ่งได้ไปพบธรรมะที่แท้จริงก็จะต้องบอกแก่กันและกัน
อยู่มาวันหนึ่งอุปติสสะไปพบพระอัสสชิเถระและได้เรียนรู้จากท่านถึงแก่นแท้ของธรรมะ ซึ่งพระอัสสะได้กล่าวเป็นพระคาถาว่า “เย ธมฺมา เหตุปพฺภวา เตสํ เหตุ ตถาคโต อาห เตสญฺจ โย นิโรโธ จ เอวํ วาที มหาสมโณ” ซึ่งแปลความได้ว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นแต่เหตุ... -
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน เรื่องพระเทวทัตผู้ไม่สมควรต่อผ้าจีวร
เรื่องเล่าพระธรรมบท ตอน เรื่องพระเทวทัตผู้ไม่สมควรต่อผ้าจีวร
เมื่อพระศาสดาประทับอยู่ที่วัดพระเชตวัน กรุงสาวัตถี ทรงปรารภพระเทวทัต ตรัสพระธรรมบทพระคาถาที่ 9 และ ที่ 10 นี้
ครั้งหนึ่งพระอัครสวกทั้งสอง คือ พระสารีบุตรและพระมหาโมคคัลลานะเดินทางจากกรุงสาวัตถึไปที่กรุงราชคฤห์ ณ ที่นั้นประชาชนชาวกรุงราชคฤห์ได้นิมนต์พระอัครสาวกทั้งสองและพระภิกษุบริวารของท่านจำนวนหนึ่งพันรูปไปฉันภัตตาหารเช้า ในโอกาสนี้เองมีอุบาสกคนหนึ่งถวายผ้ามีมูลค่าหนึ่งแสนกหาปณะให้แก่พวกคนที่ดำเนินการในพิธีถวายภัตตาหารในครั้งนี้ โดยแนะนำพวกเขาว่าควรจะนำผ้านี้ขายแล้วเอาเงินที่ได้จากการขายผ้านี้ไปเป็นค่าใช้จ่าย แต่ถ้าหากไม่ขาดแคนเงินก็ให้นำผ้าผืนนี้ถวายพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งตามแต่จะเห็นสมควร การณ์ปรากฏว่าไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนเงินและจะต้องนำผ้าไปถวายแก่ภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง เนื่องจากว่าพระอัครสาวกทั้งสองไปที่กรุงราชคฤห์เป็นครั้งคราว ส่วนพระเทวทัตเป็นพระที่อยู่เมืองนี้เป็นประจำ ชาวเมืองจึงถวายผ้าผืนนี้แก่พระเทวทัต
พระเทวทัตรีบนำผ้ามีมูลค่ามากนั้นมาทำเป็นจีวรห่มในทันที... -
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน ทิพย์มนต์ มหามนต์แห่งฤาษีโพธิสัตว์เพื่อให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ
...
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน ทิพย์มนต์ มหามนต์แห่งฤาษีโพธิสัตว์เพื่อให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ
บทสวดทิพย์มนต์สมัยพระสมณโคดมเสวยพระชาติเป็นพระฤาษี ;ท่านพ่อลี วัดอโศการาม
ในสมัยหนึ่งที่พระพุทธเจ้าพระสมณโคดม เสวยพระชาติเป็นพระฤาษีอยู่ในป่า ท่านได้สวดบททิพย์มนต์ เป็นประจำทุกวัน มีสิ่งน่าอัศจรรย์เกิดขึ้นคือ บรรดาสัตว์ต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในป่านั้น เมื่อได้เข้ามาสู่บริเวณที่พำนักของพระฤาษี สัตว์ทั้งหลาย อาทิเช่น ช้างป่า เสือ หมี เก้ง กวาง เหล่านี้ จะกลายเป็นมิตรกันทันที ไม่มีการไล่ล่าทำลายกัน สัตว์เล็กและสัตว์ใหญ่ต่างก็พากันเป็นมิตรต่อกันด้วยอานุภาพแห่งทิพย์มนต์ที่แผ่ออกไปทุกวันในเขตที่พระฤาษีบำเพ็ญพรตอยู่
ย้อนไปเมื่อปีพ.ศ.๒๕๐๐ หลวงปู่หลอดได้เดินทางจากป่ามาสู่กรุงเทพเป็นครั้งแรก ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดอโศการาม ของท่านพ่อลี ศิษย์หลวงปู่มั่น ซึ่งบททิพย์มนต์นั่นเอง ซึ่งท่านพ่อลีเป็นผู้ค้นพบจากพระไตรปิฎกท่านนำมาศึกษา และนำมาให้พระ เณร แม่ชี ที่วัดอโศกรามสวดกัน หลังจากทำวัตรเช้า วัตรเย็นทุกวัน
การสวดทิพย์มนต์เพื่อสิริมงคลแก่ผู้สวด เพื่อให้มีอายุ วรรณะ สุขะ พละ... -
ตำนานบทสวดมนต์ ตอน อุณหิสวิชัยคาถา พระคาถาต่ออายุพ้นโรคและภัยต่างๆ พระอุณหิสสะสูตร
พระอุณหิสสะสูตร
(ถอดความมาจากพระธรรมเทศนา “อุณหิสสวิชยกถา” วันอุโบสถ แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๒ วันอาทิตย์ที่ ๑๙ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๓ โดยพระครูบริสุทธิมันตาภรณ์(สมณศักดิ์ขณะนั้น) วัดตันตยาภิรม ตรัง พิมพ์เผยแพร่แก่พุทธบริษัท ผู้เชื่อบุญเชื่อกรรม ซึ่งปรารถนามีอายุยืนนาน)
นมตฺถุ สุคตสฺส
วนฺทิตฺวา สิรสา พุทธํ สทฺธมฺมคุณมุตฺตมํ
อุณฺหิสฺสวิชยํ นาม สตฺตานํ อายุวฑฺฒนํ
วกฺขามิ ปวรกณฺฑํ สมฺพทฺเธเนว เทสิตนฺติ
ขอถวายนมัสการสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทั้งพระสัทธรรม และพระอริยสงฆ์ ผู้มีคุณอันประเสริฐ บัดนี้ จักแสดงพระอุณหิสสวิชัย ซึ่งอาจยังอายุสัตว์ทั้งหลายที่ได้สดับตรับฟัง ให้เจริญวัฒนาผาสุกสืบไป.
สมัยหนึ่ง เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จขึ้นไปจำพรรษาโปรดพุทธมารดาตลอด ๓ เดือน ในดาวดึงสเทวโลก ประทับบนพระแท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ใต้ต้นปาริฉัตร อันเป็นที่ประทับนั่งของสมเด็จอมรินทราธิราช จอมเทพสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงแสดงเทศนาสัตตปากรณ์ คือ พระอภิธรรมเจ็ดคำภีร์ แก่ทวยเทพเทวดา มีพระสิริมหามายาเทพธิดา พุทธมารดา เป็นประธาน
ครั้งนั้น มีเทพบุตรตนหนึ่งนามว่า “สุปติฏฐิตะ”... -
ในหลวง ร.10 พระราชทานเทียนพรรษาถวายองค์พระธาตุพนมวันเข้าพรรษา
ในหลวง ร.10 พระราชทานเทียนพรรษาถวายองค์พระธาตุพนมวันเข้าพรรษา
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม นายธวัชชัย แท้เที่ยง ปลัดจังหวัดนครพนม เป็นประธาน นำข้าราชการ พี่น้องประชาชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมพิธีอัญเชิญเทียนพรรษาพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 เพื่อนำไปประดิษฐานน้อมถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ซึ่งภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ หรือกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า ก่อนประกอบพิธีทางศาสนา แสดงพระธรรมเทศนา เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาสาฬหบูชา และประเพณีวันเข้าพรรษา เนื่องจากวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดอารามหลวงชั้นเอก จึงได้รับพระราชทานเทียนพรรษาทุกปี ขณะเดียวกันได้มีชาวบ้านจากชุมชนคุ้มวัดต่างๆ ในเขตพื้นที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ได้น้อมนำเอาเทียนพรรษามาร่วมขบวนแห่นำไปถวายองค์พระธาตุพนม เป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นอันดีงาม โดยในปีนี้เน้นความเรียบง่าย งดการแสดงศิลปวัฒนธรรม เน้นสืบสานประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น มี นายอติชาต อุณหเลขกะ นายอำเภอธาตุพนม... -
พุทธภูมิพล!! "ทศบารมี" ที่สถิตอยู่ในพระราชหฤทัย ... คือประจักษ์พยานแห่ง "ปณิธานพระโพธิสัตว์" อันยิ่งใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ ๙!!
พุทธภูมิพล!! "ทศบารมี" ที่สถิตอยู่ในพระราชหฤทัย ... คือประจักษ์พยานแห่ง "ปณิธานพระโพธิสัตว์" อันยิ่งใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ ๙!!
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเป็นพระโพธิสัตว์!!
ครูบาอาจารย์ท่านบอกว่า "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่ปรารถนาพุทธภูมิ"!!
จริงหรือไม่จริง... ด้วยภูมิจิตภูมิธรรมของคนทั่วไปยังไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อพิจารณาจากพระราชจริยาวัตรของพระองค์ท่านแล้วทำให้เชื่อได้ว่า คำกล่าวของครูบาอาจารย์นั้นน่าจะเป็นความจริง เพราะพระราชจริยาวัตรทั้งหลายดำเนินไปตาม "ทศบารมี" (บารมี ๑๐ ประการ) ดังนี้
๑. ทานบารมี
ด้วยการพระราชทานกำเนิดมูลนิธิราชประชานุเคราะห์เพื่อสงเคราะห์ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ สงเคราะห์ด้านการศึกษาและป้องกันสาธารณภัยที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ รวมทั้งให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือเป็นส่วนรวมแก่ประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อนประการอื่นอีกด้วย
๒. ศีลบารมี
หมายถึงการที่พระองค์ท่านมีพระราชจริยาวัตรที่พิเศษอีกประการหนึ่งซึ่งคนทั่วไปทำได้ยาก คือ ในคืนวันอุโบสถนั้น พระองค์จะทรงรักษาอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด
๓. เนกขัมมบารมี...
หน้า 369 ของ 419