<<<<<<<______คนส่องพระ ______>>>>>>>

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย อั๋นวัดสาม, 22 ตุลาคม 2012.

  1. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    วิธีพิจารณาเหรียญหลวงปู่ทวดเปิดโลก
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก


    [​IMG]
     
  2. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    วิธีพิจารณาเหรียญหลวงปู่ทวดบัวข้าง
    พ.ศ. 2520 หลวงปู่ดู่ วัดสะแก


    [​IMG]
     
  3. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    ประวัติ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.พระนครศรีอยุธยา ชาติภูมิ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ท่านเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2447 ตรงกับวันศุกร์ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีมะโรง เป็นวันเพ็ญวิสาขปุรณมี ณ บ้านข้าวเม่า ตำบลข้าวเม่า อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โยมบิดาชื่อ พุด โยมมารดาชื่อ พ่วง นามสกุล หนูศรี มีพี่น้องร่วมมารดาเดียวกัน 3 คน ตัวท่านเป็นคนสุดท้อง เมื่อหลวงพ่อถือกำเนิดได้ไม่นาน มารดาของท่านก็เสียชีวิต และเมื่อท่านอายุได้ 4 ปี บิดาของหลวงพ่อก็เสียชีวิตอีก ทำให้หลวงพ่อกำพร้าตั้งแต่วัยเยาว์ ท่านจึงได้อาศัยอยู่กับยาย และ พี่สาวชื่อ สุ่ม เป็นผู้ดูแลเอาใจใส่ เมื่อท่านถึงวัยที่ต้องศึกษา ก็ได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดกลางคลองสระบัว วัดประดู่ทรงธรรม และวัดนิเวศธรรมประวัติ ตามลำดับ เมื่อตอนที่ท่านยังเป็นทารกมีเหตุอัศจรรย์ที่ทำให้เชื่อว่าท่านจะต้องเป็น ผู้มีบุญวาสนามาเกิด คือในช่วงหน้าน้ำหลาก คืนหนึ่งขณะที่บิดาและมารดากำลังทำขนมอยู่นั้น มารดาท่านได้วางตัวท่านไว้บนเบาะนอกชานบ้าน แต่ไม่ทราบด้วยเหตุใดตัวท่านได้กลิ้งตกลงไปน้ำ แต่เป็นที่น่าอัศจรรย์ที่ตัวท่านกลับไม่จมน้ำ กลับลอยน้ำไปติดอยู่ข้างรั้ว กระทั่งสุนัขที่บ้านเลี้ยงไว้ มาเห็นเข้าจึงเห่าและวิ่งกลับไปกลับมา มารดาท่านจึงสงลัยว่าคงจะมีเหตุการณ์ผิดปกติ จึงได้ตามสุนัขออกมาดู ก็พบท่านลอยน้ำอยู่ติดกับข้างรั้ว อุปสมบท เมื่อท่านอายุได้ 21 ปี ก็ได้บรรพชาอุปสมบท เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2468 ตรงกับวันอาทิตย์แรม 4 ค่ำ เดือน 6 ณ อุโบสถวัดสะแก ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมี หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแด่ เจ้าอาวาสวัดสะแก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อฉาย วัดกลางคลองสระบัว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับ ฉายาว่า “ พรหมปัญโญ ” ศึกษาธรรม ในพรรษาแรกๆ นั้น หลวงปู่ดู่ ได้ศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัด ประดู่ทรงธรรม (ในสมัยนั้นเรียกว่าวัด ประดู่โรงธรรม) โดยศึกษากับ ท่านเจ้าคุณเนื่อง พระครูชม หลวงพ่อรอด (เสือ) เป็นต้น ในด้านการปฏิบัติ วิปัสสนากรรมฐาน นั้น หลวงปู่ดู่ ได้ ศึกษา กับ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม ผู้เป้นพระอุปัชฌาย์ และ หลวงพ่อเภา ซึ่งเป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงพ่อกลั่น และ มีศักดิ์เป็นอาของท่าน เมื่อท่านบวชได้พรรษาที่ 2 ประมาณปลายปี พ.ศ. 2469 หลวงพ่อกลั่นก็ได้มรณภาพ ท่านจึงได้ศึกษากับหลวงพ่อเภาเป็นหลัก นอกจากนี้ยังได้ศึกษาจากตำราที่มีอยู่ จากชาดกบ้าง ธรรมบทบ้าง และด้วยความที่ท่านเป็นผู้รักการศึกษา ท่านจึงได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจาก พระอาจารย์อีกหลายท่าน ที่ จังหวัดสุพรรณบุรี สระบุรี ฯลฯ เมื่อพ.ศ. 2486 ครั้นออกพรรษาแล้ว หลวงพ่อก็ออกเดินธุดงค์ จากวัดสะแก มุ่งหน้า สู่ป่าเขาแถบจังหวัดกาญจนบุรี ในระหว่างทาง ก็แวะนมัสการสถานที่สำคัญต่างๆ ทางพุทธศาสนา นิมิตธรรม ในคืนหนึ่ง ในช่วงก่อน ปี พ.ศ.2500 เล็กน้อย หลังจากที่ท่านสวดมนต์ทำวัตรเย็น และเข้าจำวัดแล้วนั้น เกิดนิมิตไปว่าได้ฉันดาว ที่มีแสงสว่างมากเข้าไป 3 ดวง ขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่า กรอบๆ ดี เมื่อฉันหมดก็ตกใจตื่น ท่านจึงได้พิจารณานิมิตที่เกิดขึ้น ก็เกิดความเข้าใจในนิมิตนั้นว่า ดาวสามดวง ก็คือ ดวงแก้วไตรสรณาคมน์ นั้นเอง ท่านจึงท่อง “ พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ” ก็เกิดปิติขึ้นในจิตท่านอย่างท่วมท้น เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และมั่นใจว่า การยึดมั่นพระไตรสรณาคมน์ เป็นวิธี ที่เข้าสู่แก่นแท้ เป็นรากแก้วของพระพุทธศาสนา ท่านจึงกำหนดเอา พระไตรสรณาคมน์ เป็นองค์บริกรรมภาวนา เมตตาธรรม หลวงปู่ดู่ ท่านให้การต้อนรับแขกอย่างเสมอเท่าเทียมกันหมด ไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะ ท่านจะพูดห้ามปรามหากมีผู้เสนอตัวเสนอหน้าคอยจัดแจงเกี่ยวกับแขกที่มาหาท่าน เพราะท่านทราบดีว่ามีผู้ใฝ่ธรรมจำนวนมากที่อุตสาห์เดินทางมาไกล เพื่อนมัสการและซักถามข้อธรรมจากท่าน หากมาถึงแล้งยังไม่สามารถเข้าพบได้โดยสะดวก ก็จะทำให้เสียกำลังใจ เป็นเมตตาธรรมอย่างสูงที่หลวงพ่อมีให้ศิษย์ทั้งหลาย และหากมีผู้สนใจการปฏิบัติกรรมฐาน มาหาท่าน ท่านจะเมตตาสนทนาธรรมเป็นพิเศษอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย หลวงปู่ทวด ท่านให้ความเคารพในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ เป็นอย่างมากทั้งกล่าวยกย่อง ว่าหลวงปู่ทวดท่านเป็นผู้ที่มีบารมีธรรมเต็มเปี่ยม เป็นโพธิสัตว์จะได้มาตรัสรู้ ในอนาคต ให้บรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย ยึดมั่น และระลึกถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อติดขัดในระหว่างการปฏิบัติธรรม หรือประสบปัญหาทางโลก ท่านว่า หลวงปู่ทวดท่านคอยที่จะช่วยเหลือทุกคนอยู่แล้ว แต่ขอให้ทุกคนอย่าท้อถอย หรือละทิ้งการปฏิบัติ สร้างพระ หลวงพ่อดู่ ท่านมิได้ตั้งตัวเป็นเกจิอาจารย์ การที่ท่านสร้าง หรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องหรือพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า บุคคลจำนวนมากยังขาดที่ยึดเหนี่ยงทางด้านจิตใจ เพราะศิษย์ หรือ บุคคลนั้น มีทั้งที่ใจใฝ่ธรรมล้วนๆ กับ ยังต้องอิงกับวัตถุมงคล ท่านเคยพูดว่า “ติดวัตถุมงคลยังดีกว่า ที่จะไปให้ติดวัตถุอัปมงคล” แม้ว่าหลวงปู่ดู่ท่าน จะรับรองในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องที่ท่านอธิฐานจิตให้ แต่สิ่งที่ท่านยกไว้เหนือกว่านั้นก็คือการปฏิบัติ การภาวนา นี้แหละ เป็นสุดยอดแห่งเครื่องรางของขลัง บางคนมาหาท่านเพื่อต้องการของดีเช่นเครื่องรางของขลัง ซึ่งมักจะได้รับคำตอบจากท่านว่า “ ของดีนั้นอยู่ที่ตัวเรา พุทธัง ธัมมัง สังฆัง นี่แหละของดี ” ปัจฉิมวาร นับตั้งแต่ พ.ศ. 2527 เป็นต้นมาสุขภาพหลวงพ่อเริ่มทรุดโทรม เนื่องการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ด้วยเหตุจากการที่ต้องต้อนรับแขก และบรรดาศิษย์ทั่วทุกสารทิศ ที่นับวันก็ยิ่งหลั่งไหลกันมานมัสการท่านมากขึ้นทุกวัน แม้บางครั้งจะมีโรคมาเบียดเบียนอย่างหนัก ท่านก็อุตส่าห์ออกโปรดญาติโยมเป็นปกติ พระที่อุปัฏฐากท่าน เล่าว่า บางครั้งถึงขนาดที่ท่านต้องพยุงตัวเองขึ้นด้วยอาการสั่น และมีน้ำตาคลอเบ้า ท่านก็ไม่เคยปริปากให้ใครต้องเป็นกังวลเลย ภายหลังตรวจพบว่า หลวงพ่อ เป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว แม้ว่าทางคณะแพทย์ จะขอร้องท่านให้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ท่านก็ไม่ยอมไป ประมาณปลายปี พ.ศ.2532 หลวงปู่ดู่พูดบ่อย ครั้ง เกี่ยวกับ การที่ท่านจะละสังขาร ซึ่ง ในขณะนั้นหลวงปู่ดู่ท่านได้ใช้หลักธรรม ขันติ คือความอดทนอดกลั้นระงับ ทุกขเวทนาที่เกิดขึ้นจากโรคภัย จิตของท่านยังทรงความเป็นปรกติสงบเย็น จนทำให้คนที่แวดล้อมท่านไม่อาจสังเกตเห็นถึงปัญหาโรคภัยที่คุกคามท่านอย่าง หนัก วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาบ่ายนั้น มีนายทหารอากาศผู้หนึ่งมากราบท่านเป็นครั้งแรก หลวงพ่อท่านได้ลุกขึ้นนั่งตอนรับ ด้วยใบหน้าที่สดใส ราศีเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ จนบรรดาศิษย์ เห็นผิดสังเกต หลวงพ่อยินดีที่ได้พบกับศิษย์ผู้นี้ ท่านว่า “ต่อไปนี้ ข้าจะได้หายเจ็บไข้เสียที ” คืนนั้นมีคณะศิษย์มากรายท่าน ท่านได้พูดว่า “ ไม่มีส่วนใดในร่างกายที่ไม่เจ็บปวดเลย ถ้าเป็นคนอื่นคงเข้าห้อง ICU ไปนานแล้ว ” พร้อมทั้งพูดหนักแน่นว่า “ข้าจะไปแล้วนะ” และกล่าวปัจฉิมโอวาทย้ำให้ทุกคนตั้งอยู่ในความไม่ประมาท “ถึง อย่างไรก็ขอให้อย่าได้ละทิ้งการปฏิบัติ ได้ชื่อว่าเป็นนักปฏิบัติ ก็เหมือนนักมวย ขึ้นเวทีแล้วต้องชก อย่ามัวแต่ตั้งท่า เงอะๆ งะๆ” หลังจากคืนนั้นหลวงพ่อก็กลับเข้ากุฏิ และละสังขารไปด้วยอาการสงบด้วยโรคหัวใจ ในกุฏิท่านเมื่อเวลาประมาณ 5 นาฬิกา ของ วันพุธที่ 17 มกราคมพ.ศ. 2533 รวมสิริอายุได้ 85 ปี 8 เดือน 65 พรรษา ยังความเศร้าโศกและอาลัยแก่ ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง อุปมาดั่งดวงประทีปที่เคยให้ความสว่าง ดับไป แต่เมตตาธรรมและคำสั่งสอนของท่านยังปรากฏ อยู่ในดวงใจของ ศิษยานุศิษย์ตลอดไป จึงขอยกธรรมคำสอนของหลวงพ่อที่สอนให้ศิษย์ เข้าถึงธรรมด้วยการสร้างคุณงามความดีให้เกิดขึ้นที่ตนเองดังนี้ “ตราบใดก็ตาม ที่แกยังไม่เห็นความดีในตัวเอง ก็ยังไม่นับว่า แกรู้จักข้า แต่ถ้าเมื่อใด แกเริ่มเห็นความดีในตัวเองแล้ว เมื่อนั้นข้าว่า แกเริ่มรู้จักข้าดีขึ้นแล้วล่ะ”
     
  4. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370


    เมื่อพูดถึง "พระกำนั่ง"
    หากเป็นลูกศิษย์ที่เคยปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงปู่ดู่
    ก็จะไม่นึกแปลกใจอะไร เพราะได้ยินได้ฟังจนคุ้นหู
    แต่ถ้าเป็นคนอื่น ก็มักต้องขอให้พูดซ้ำอีกครั้งว่า คืออะไร

    พระกำนั่งนี้ หากพูดเต็ม ๆ ก็อาจพูดว่า "พระสำหรับกำนั่งสมาธิ" หรือ "สมเด็จฯ กำนั่ง" ก็เรียก
    เพราะพระที่หลวงปู่สร้างไว้สำหรับกำนั่งสมาธินั้น โดยมากจะใช้พิมพ์ของสมเด็จโตฯ วัดระฆัง
    ซึ่งจริง ๆ แล้วก็อาจมีพิมพ์อื่น ๆ ปนบ้าง เช่น
    พิมพ์เหรียญยันต์ดวง และ พิมพ์พระพรหมใหญ่ เป็นต้น

    พระกำนั่งนี้ หลวงปู่จะแจกให้ผู้จะปฏิบัติกรรมฐาน
    ใช้กำไว้ในมือข้างขวา โดยหันเศียรพระออกไปนอกตัวเรา กำเพียงเบา ๆ
    แล้วก็บริกรรมภาวนา ไตรสรณคมณ์
    (พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ  ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ  สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ)

    และพร้อม ๆ กับการบริกรรมภาวนา ท่านก็ให้ ตั้งนิมิตองค์พระ ที่เรารู้สึกศรัทธา และจดจำได้ง่าย เช่น
    พระพุทธชินราช 
    พระแก้วมรกต
    หลวงพ่อโสธร ฯลฯ
    หากไม่มี ก็ให้ลืมตามอง สมเด็จฯ กำนั่ง ที่อยู่ในมือนั้นแหละ เป็นองค์นิมิต
    นึกให้ชัด ถ้านึกไม่ออก ก็อาจลืมตามามองดูอีก จนกระทั่งชัดทั้งลืมตา และ หลับตา

    อย่าลืมว่า เริ่มจากการเห็นโดย ความรู้สึก
    มิใช่เห็นอย่าง ลืมตาดูทีวี
    เพราะฉะนั้น จะหวังให้องค์นิมิตชัดแจ่มในตอนต้นนั้นไม่ควร

    พระสมเด็จกำนั่งที่หลวงปู่สร้างขึ้น ก็เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการปฏิบัติกรรมฐาน
    โดยพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ที่ท่านอธิษฐานจิตลงไป
    จะเป็นปัจจัยช่วยสนับสนุนให้จิตของเรารวมเป็นสมาธิได้ง่ายขึ้น รวมทั้งป้องกันนิมิตร้ายต่าง ๆ

    ส่วนทางด้านปัญญา ท่านว่าเมื่อจิตสงบแล้ว ก็ให้นึกอธิษฐานขอบารมีจากองค์พระ
    ให้ธรรมที่สมควรแก่จิตของเราขณะนั้น...จงบังเกิดรู้ขึ้นมา
    (อาจเป็นข้อธรรมผุดขึ้นให้เราพิจารณา)

    พระกำนั่งนี้ก็แปลก บางคนพอได้กำในระหว่างการปฏิบัติแล้ว
    ก็มักรู้สึกเหมือนมีไฟฟ้าอ่อน ๆ วิ่งไหลผ่านมือที่กำพระอยู่นั้น
    ทำให้เกิดอาการปีติ...อันเป็นอาหารของใจ ที่ทำให้ใจเจ้าของเกิดกำลังขึ้นมา

    พระกำนั่งเป็นของไม่มีราคา (เพราะท่านแจกให้เปล่า)
    แต่มีคุณค่าเหลือประมาณ...โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ปฏิบัติ

    อย่างไรก็ดี ท่านก็มิได้สอนให้ลูกศิษย์ยึดติดในพระกำนั่ง
    จนกระทั่งหากไม่มีพระกำนั่ง จะนั่งปฏิบัติกรรมฐานมิได้

    ผู้ปฏิบัติควรวางใจของตน เพื่อสร้างความชำนาญในการเข้าสมาธิให้สม่ำเสมอ
    ทั้งในยามที่มีพระกำนั่ง และ ในยามที่ไม่มีพระกำนั่ง
    เพราะสุดท้ายแล้ว ย่อมมารวมลงที่ใจที่มีศรัทธา เชื่อมั่นในคุณพระที่มีอยู่...อย่างจะนับจะประมาณมิได้


    ***จากบทความของ คุณสิทธิ์
    ที่มา luangpudu.com / luangpordu.com
     
  5. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    เหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา


    [​IMG]

    [​IMG]

    หลังจากที่ผมแอบศึกษาเรื่องหลวงปู่ดู่มาพักใหญ่
    ได้อ่านประวัติและคำสอนต่างๆ ของท่านแล้วรู้สึกศรัทธา
    จึงได้พยายามตัดสินใจในการเช่าบูชาวัตถุมงคลของท่าน
    ซึ่งก็มีหลายรุ่นมากที่น่าสะสม เหรียญปฎิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    เป็นอีกรุ่น ที่เป็นของดีที่ราคายังไม่แพงเกินไป
    ผมจึงตัดสินใจเช่าเหรียญนี้มาเป็นเหรียญแรกครับ
     
  6. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370

    เหรียญ รุ่นนี้ ถือเป็นเหรียญ ที่ดีที่สุด รุ่นหนึ่งของ หลวงปู่
    เนื่องจาก ทำจาก ชนวนพระบูชา รุ่นหลวงพ่อสวย
    ผสมกับชนวนเพิ่มเติมคือทองแดงรีดเป็นแผ่น
    แล้วลงอักขระแผ่นยันต์ 80 ยันต์ ยันต์ละ 108 แผ่น
    (ซึ่งหมายถึงมากกว่า 8000แผ่น)
    ถวายหลวงปู่ปลุกเสกตั้งแต่ปี 2517 จนถึง ปี 2524
    แล้วจึงนำมาหลอมเป็นแผ่นใหญ่ จึงนำไปปั๊มเป็นเหรียญ
    เหรียญรุ่นนี้ เริ่มต้นแผ่นยันต์ ก็ไม่ละลายแล้ว
    ถึงขั้นต้องจุดธูป บอกกล่าว หลังจากนั้น
    แผ่นยันต์ต่างๆ จึงละลายทันที่ รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ทำตั้งแต่ ปี 2524
    แล้วปลุกเสกต่ออีก จนกระทั่งท่านมรณภาพ ต้นปี 2533
    ทางวัดจึงนำออกมาจำหน่าย ให้บูชากัน
    ซึ่งนับว่าเป็นเหรียญที่ ดีทั้งนอกและดีทั้งใน
    ด้วยชนวนมวลสาร ดุจดังการสร้างพระกริ่งโบราณ
    ที่มีมวลสารมากเช่นนี้ (ดีขนาด เหรียญยันต์ดวง
    ยังใส่ชนวนปี 2524นี้ รวมไปถึง
    เหรียญหลวงพ่อทวดปี 2528 ด้วยก็ใส่ชนวนนี้) 

    นอกจากนั้น เหรียญรุ่นนี้ ยังอยู่ในกุฎิ หลวงปู่ตอนที่
    ท่านนั่งอธิฐานจิตในพิธิเปิดโลกด้วย
    หลวงปู่เองท่านกล่าวในพิธิเปิดโลกว่า ขอให้พระที่ท่านทำทั้งหมด
    จงศักดิ์สิทธิ์ และยังอยู่ในพิธีการปลุกเสกเหรียญเศรษฐี
    เหรียญยันต์ดวง ด้วยสามารถกล่าวได้เลยว่า
    เหรียญรุ่นนี้ ศักดิ์สิทธิ์ทั้งในเนื้อเหรียญ
    และการอธิษฐานจิตอย่างแท้จริง

    อีกทั้งเจตนาของการสร้างก็เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ติดตัวป้องกันภัยต่างๆ 
    ตลอดจนสามารถนำมาใช้กำนั่งสมาธิได้
    เหรียญรุ่นนี้ลูกศิษย์ในสายหลวงปู่ดู่ที่นั่งกรรมฐาน
    หลายท่านจะนิยมนำมาอาราธนาไว้ในมือขณะนั่งกรรมฐาน
    ซึ่งจะช่วยให้จิตสงบได้เร็วครับ  
    จึงระบุไว้หลังเหรียญอย่างชัดเจนว่า ที่ระลึกในการปฎิบัติธรรม 
    ดังนั้น ลูกศิษย์กลุ่มหนึ่งของท่านจึงนิยมเก็บและใช้เหรียญนี้กันมาก

    ปล. จะเล่าให้ฟังโดยละเอียดต่อไปครับ
     
  7. ส่างปา

    ส่างปา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,531
    ค่าพลัง:
    +11,165

    :cool::cool::cool::cool: ผมเองก็อยากไปเหมือนกัน แต่ยังไม่มีโอกาสสักที เลย .....
     
  8. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    ท่าน น.อ.(พิเศษ) สำเภา คมสันต์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์รุ่นแรกๆ ของหลวงปู่ดู่ ที่ท่านรักและโปรดปรานมากได้ไปอยู่ปรนนิบัติ รับใช้หลวงปู่ตั้งแค่ปี พ.ศ.๒๔๙๐ เศษ เป็นต้นมา ซึ่งสมัยนั้น ยังไม่มีใครรู้จักหลวงปู่ดู่กันมากนัก

    ต่อมาเมื่อประมาณปี ๒๕๑๖-๒๕๑๗ น.อ.สำเภา ได้ขออนุญาตหลวงปู่สร้างเหรียญรูปเหมือนขึ้นเป็นครั้งแรกหลวงปู่ไม่ขัดข้อง ได้อนุญาตให้สร้างตามความประสงค์

    [​IMG]

    ต่อมาเหล่าบรรดาศิษย์ได้จัดสร้าง "หลวงพ่อสวย" เป็นพระบูชาขนาด ๕ นิ้ว ที่บรรดาลูกศิษย์สร้างให้หลวงปู่ปลุกเสก จำนวนไม่มากนัก หลวงปู่ดู่เคยพูดอยู่เสมอว่า พระบูชา "หลวงพ่อสวย" นี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะเกิดมาจากความตั้งใจเป็นพิเศษของหลวงปู่มาก่อนและท่านได้ปลุกเสกให้เป็นพิเศษจริงๆ

    การสร้างเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่นั้น เหรียญเสมาหล่อ มีรุ่นเดียว ออกปี ๒๕๒๒ ต่อมามีการสร้างเหรียญปั๊มเสมาขึ้นมาในปี ๒๕๒๔, ๒๕๒๕ และ ๒๕๒๖ ตามลำดับ
     
  9. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    เหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    เหรียญดีของหลวงปู่ดู่...วัดสะแก
    ที่ปลุกเสกนานถึงเกือบ 16 ปี


    [​IMG]

    การสร้างเหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524

    น.อ.สำเภา ได้นำชนวนของพระบูชา "หลวงพ่อสวย" มาจำนวนหนึ่ง 
    ผสมกับทองแดงบริสุทธิ์ แล้วรีดเป็นแผ่นบางๆ
    และมอบให้หลวงปู่ดู่ลงอักขระเลขยันต์เฉพาะตัวท่านทั้งหมด 
    ๘๔,๐๐๐ พระยันต์ เท่ากับพระธรรมขันธ์ 
    หลังจากนั้น หลวงปู่ดู่ได้ปลุกเสกแผ่นยันต์ทั้งหมดนี้เป็นเวลา ๗ ปี 
    น.อ.สำเภา ได้นำแผ่นยันต์ทั้งหมดไปหลอมอีกครั้ง
    แล้วรีดเป็นแผ่นสำหรับปั๊มเป็นเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ดู่ 
    ได้จำนวน ๒๐,๐๐๐ เหรียญ เท่าที่จำนวนเนื้อโลหะชนวนที่มีอยู่ 
    จากนั้น นำเหรียญทั้งหมดไปถวายหลวงปู่ดู่ปลุกเสก
    พอครบ ๑ ไตรมาส ช่วงออกพรรษาปี ๒๕๒๔

    หลวงปู่ดู่ได้นำเหรียญนี้ออกแจกแก่ผู้ที่ร่วมบริจาคทุน
    สร้างเหรียญจำนวนหนึ่งไม่มากนัก
    ที่เหลือนอกนั้น ได้เอาไว้ในกุฏิหลวงปู่ตลอดมา
    ตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ จนถึงปี ๒๕๓๓ เป็นเวลานานถึง ๙ ปี
    นับเป็นเหรียญที่หลวงปู่ดู่เสกให้นานที่สุด
    ถ้าหากนับรวมตอนปลุกเสกโลหะชนวนอีก ๗ ปี
    จะเท่ากับปลุกเสกนานถึง ๑๖ ปี
    พอหลวงปู่มรณภาพลง
    คณะกรรมการวัดได้เอาเหรียญรุ่นปฏิบัติธรรม ๒๕๒๔
    ออกมาจำหน่ายเหรียญละ ๑๐๐ บาท
    ปรากฎว่าไม่ถึง ๕ วัน เหรียญก็จำหน่ายหมด
     
  10. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    เหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา


    [​IMG]

    [​IMG]


    เหรียญรุ่นนี้ หลวงพ่อสายหยุด เคยบอกกับว่า 
    ได้ใส่ชนวนแผ่นโลหะ เป็นพระยันต์ 80 ยันต์จำนวนยันต์ละ 108 แผ่น 
    นำมาหลอมรวมก่อนรีดเป็นแผ่น แต่ปรากฎว่า ชนวนยันต์ไม่ละลาย 
    จึงต้องจุดธูปบอกกล่าวหลวงปู่ดู่มาจาก โรงงาน 
    ทันที่เมื่อจุดธูปบอกกล่าวก็หลอมละลายได้ทันที 
    น่าแปลกมากครับ เดิมที เหรียญรุ่นนี้ มีแพร่หลาย
    ในหมู่ลูกศิษย์ เพียง 1000-2000 เหรียญ 
    และต่างพบกับความอัศจรรย์เป็นอันมาก 
    จึงมีราคาและเป็นที่แสวงหากัน 
    ภายหลังที่หลวงปู่มรณภาพลง ในปี2533
    ทางวัดนำออกมาจำหน่าย เหรียญละ 100 บาท 
    ลูกศิษย์จึง แย่งกันบูชาจนหมดไปอย่างรวดเร็ว 
    จะไม่หากันได้อย่างไรละครับ เพราะด้านหลังเหรียญ
    เขียนอย่างชัดเจน ว่า ปฎิบัติธรรม

    เหรียญรุ่นนี้ เป็นเหรียญที่ดีมากเหรียญหนึ่ง 
    ของหลวงปู่ เพราะอยู่ในกุฎิหลวงปู่ ตั้งแต่ปี 2524 
    จนท่านมรณภาพ ทางวัดจึงนำมาให้บูชา
    และ เหรียญรุ่นนี้ ยังอยู่ในกุฎิของหลวงปู่ในช่วงที่ 
    หลวงปู่อธิษฐานจิต เหรียญยันต์ดวง เหรียญเศรษฐี 
    และ เหรียญเปิดโลก อีกด้วย
     
  11. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    วิธีพิจารณาเหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา

    [​IMG]
     
  12. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    [​IMG]
     
  13. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    วิธีพิจารณาเหรียญปฏิบัติธรรม พ.ศ. 2524
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา (ต่อ)


    [​IMG]
     
  14. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    รอยตัดข้างเหรียญปฏิบัติธรรม
    พ.ศ. 2524 หลวงปู่ดู่ วัดสะแก


    [​IMG]
     
  15. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    อนุโมทนาบุญด้วยครับ พี่

    [​IMG][​IMG]
     
  16. คนกันเอง

    คนกันเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    7,441
    ค่าพลัง:
    +8,975
    พี่ amuletism ครับ

    อยากทราบประวัติการสร้างเหรียญหลวงปู่ทวด บัวข้างครับ

    ไม่ทราบพี่พอมีประวัติหรือเปล่าครับ

    ขอบคุณครับ
     
  17. jaguarnusing

    jaguarnusing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4,901
    ค่าพลัง:
    +15,583
    กราบหลวงปู่ดู่ ด้วยเศียรเกล้า​


    [​IMG]
     
  18. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    ขอบคุณครับ พี่ๆทุกท่าน
    กุศลผลบุญจากการทำบุญในวันนี้
    ขอโปรดอำนวยอวยพรให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ
    ทุกท่านในกระทู้นี้ มีแต่ความสุข ความสำเร็จ
    สุขภาพแข็งแรงถ้วนกันครับด้วยเทอญครับ
     
  19. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    เหรียญพระพุทธเจ้าเหนือพรหม พ.ศ. 2522
    เนื้อโลหะผสม (โซนเนื้อเหลือง-แก่ทอง)
    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา


    [​IMG]

    [​IMG]

    พระหล่อเหรียญนี้ได้เดิมครับ
    ทั้งองค์พระและยันต์ทุกตัวติดชัดเจน
    คราบแป้งเดิมๆ คราบเบ้าดำๆ อยู่ครบ
    และยังได้เนื้อโทนสีเหลือง ซึ่งนิยมและหายากกว่า
    โทนเนื้อสีแดง ซึ่งแก่ทองแดง ซึ่งมีจำนวนมากกว่า
    เหรียญรุ่นนี้หลวงปู่ดู่จารทุกเหรียญ
    แต่รอยจารจะเป็นรอยแผ่วๆ เท่านั้นครับ
     
  20. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,370
    เหรียญพระพุทธเจ้าเหนือพรหม พ.ศ. 2522

    เหรียญหล่อพระเหนือพรหม พิมพ์ ๔ เหลี่ยม
    เนื้อโลหะผสม พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นรูปพระพรหม ๔ หน้า ๘ กร
    ประทับห้อยบาทบนฐาน มีพระพุทธรูปอยู่บนเศียร
    เป็นหลักปรัชญาคติพุทธ ในชัยมงคลคาถาบทที่ ๘
    เป็นปางที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปปราบทิฐิของท้าวพกาพรหม
    โดยพระพุทธองค์ทรงใช้อิทธิฤทธิ์ด้วยการ
    ซ่อนหาท้าวพกาพรหมไม่พบพระองค์
    โดยทรงเสด็จไปซ่อนอยู่บนเศียรพกาพรหม
    จนกระทั่งพรหมยอมแพ้ เมื่อได้ฟังพระพุทธองค์แสดงธรรม
    เป็นที่ประจักษ์ธรรม พรหมก็สำเร็จโสดาปัตติผลกลายเป็น
    "พระพรหม" นับแต่นั้นมา
    เหรียญนี้หลวงปู่ดู่เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสก
    สร้างเนื้อโลหะผสม ๑๑,๐๐๐ เหรียญ
    (ข้อมูลจากหนังสือพรหมปัญโญเถระ โดย ผศ สมโภชน์ ทองแดง)
     

แชร์หน้านี้

Loading...