♥ มาแต่งกลอนแก้เหงากันนะ ♥

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย kib_jang, 21 มีนาคม 2008.

  1. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    ท่านแอ็บนั้นเก่งซึ้ง.........ในธรรม
    เล่นไม่ฝึกกระทำ............รออ่าน
    ครูดีศิษย์โง่ กรรม..........ไม่แจ้ง มืดบอด
    เปรียบว่ายังอ่อนจารย์.......เช่นนี้....ขาวดำ.....เอ้อเข้าใจคนเดียว555555555 สวัสดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 เมษายน 2014
  2. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    เล่นตัดบทอย่างนี้..........ขอ "งง" ด้วยนา
    เก่งจะถามฤคง.............อ่านแจ้ง
    เพียงท่านคนเดียวลง......รออ่าน เฉลยแล
    หรือขีดเขียนความแกล้ง...อ่านแล้ว "งง""งง" ^_^
     
  3. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    เอามาฝากค่ะ อ่านแล้วใช่เลย แต่ทำยังไม่ได้งะ ToT
    เสียงกรีดร้องขอชีวิตจิตหวาดหวั่น
    เสียงห่ำหั่นเข่นฆ่าน่าสยอง
    เสียงซวบซาบคมดาบเชือดเลือดไหลนอง
    เสียงกรีดร้องสะท้านจิตสะกิดใจ
    เสียงสัพเพสัตตาพาให้คิด
    ว่าชีวิตนี้มีค่ากว่าสิ่งไหน
    อเวราอย่ามีเวรอย่ามีภัย
    ชีวิตใครใครก็หวงอย่าล่วงเกิน
    ท่องสัตเพสัตตามาแต่ไหน
    ยังเข้าใจในเนื้อแท้แค่ผิวเผิน
    ยังฆ่าบ้างกินบ้างอย่างเพลิดเพลิน
    ยังใช้เงินซื้อชีวิตอนิจจา
    สัตว์เกิดมาใช้กรรมที่ทำไว้
    เป็นเป็ดไก่กุ้งปูเป็นหมูหมา
    ตามเหตุต้นผลกรรมที่ทำมา
    มิใช่ฟ้าประทานไว้ให้คนกิน
    มีปัญญาแต่ไฉนจึงไม่คิด
    มองชีวิตกลัยเห็นเป็นทรัพย์สิน
    เสียงกรีดร้องก่อนตายใครได้ยิน
    น้ำตารินเมื่อถูกเชือดเลือดกระเซ็น
    พูดว่าเจาเกิดมาเป็นอาหาร
    เขาลนลานหนีตายมีใครเห็น
    เขาจนใจเถียงไม่ได้พูดไม่เป็น
    ช่างเลือดเย็นเข่นฆ่าไม่ปรานี
    .....(มีต่อ)

    ที่มาหนังสือ พุทธพยากรณ์ภัยพิบัติโลก
     
  4. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    *******************************
    บอกมีต่อ...ต่อมา..หรือต่อไป
    บอกไวไว..ต่อมา..จะหนีต่อ
    ถ้าต่อไป...จะตาม..ไปหาต่อ
    เมื่อมีต่อ...ย่อมมี...รออ่านต่อ....นะครับ^_^
    *******************************
    "สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็น ไปตามกรรม
    ดีชั่วทำ นั้นแบ่ง ประณีตหยาบ"
    ศีลข้อหนึ่ง ห้ามฆ่า ละเว้นบาป
    เมตตาหาก เริ่มที่ตน ผลแผ่ไป
    *******************************
    เมตตาใจ ย่อมเห็น ค่าชีวิต
    ทุกชนิด สัตว์ทุกข์ ย่อมสงสาร
    มีหรือปล่อย กรีดร้อง อนาจาร
    ย่อมลนลาน เข้าช่วย แม้เกินตัว
    *******************************
    จิตขุ่นมัว ด้วยแรง รักสงสาร
    แม้สังขาร ไม่เอื้อ ด้วยทรัพย์สิน
    จิตวุ่นวาย มัวหมอง เป็นอาจิณ
    จับทุกสิ่ง ลงหมอบ อุเบกขธรรมฯ
    *******************************
    "สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็น ไปตามกรรม
    ดีชั่วทำ นั้นแบ่ง ประณีตหยาบ" .........เป็นต้นแล@
    *******************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2014
  5. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ก็ไม่รู้ว่าสนใจอยากรู้"ต่อ"
    จะเขียน"ต่อ"ให้รู้จนสูญสิ้น
    "ต่อ"ที่ว่าอะไร ใครได้ยิน
    อ่าน"ต่อ"สิ้นจนจบบทเนื้อความ...
    (มี2บทเอง)

    ต่อละนะ...

    มีพืชผักมากมายนับไม่หมด
    ทุกกลิ่นรส สดใสหลายหลากสี
    ธรรมชาติจัดวางอย่างดิบดี
    สัตว์วิ่งหนี พืชเต็มใจให้กินมัน
    เพราะเรากิน เขาจึงฆ่าเอามาขาย
    เราสบายแต่สัตว์โลกต้องโศกศัลย์
    ท่องสัตเพสัตตามาทุกวัน
    เมตตากันโปรดอย่าฆ่าและอย่ากิน
    (จบแล้ว)

    กลอนบทนี้ "เขา"แต่งเพื่อเตือนใจ
    มีเอาไว้สำหรับผู้รู้เห็น
    กรรมที่ฆ่า ที่กิน สุดรำเค็ญ
    ใครรู้ เห็น ยอมรับได้ เป็นบาปเอย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤษภาคม 2014
  6. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    รักษาศีล

    รักษาศีลพึงประพฤติอยู่ในกฎ
    จิตน้อมนบถือไว้อย่าหลีกหนี
    รักษาไว้ใจใฝ่ธรรมนำพาดี
    จะเป็นที่สรรเสริญเหล่าเวไนย


    ศีลข้อหนึ่ง ประกอบด้วย เมตตา
    ให้เขาหนา อย่าฆ่า อย่าจองเวร
    ศีลข้อสอง มืออย่าไว ใจนักเลง
    รู้จักเกรง กลัวบาป อย่าตามใจ
    ศีลข้อสาม อย่าผิดลูก ผิดเมียเขา
    หากเป็นเรา เราจะคิด เป็นไฉน
    ศีลข้อสี่ มุสา จะพาไป
    ยังนรก ตกสวรรค์ ใจหวั่นกลัว
    ศีลข้อห้า สุรา เมระยะ
    กินก็จะ แสบร้อน อยู่ภายใน
    ขาดสติ ยั้งคิด ไม่หวั่นไหว
    เผลอใจทำ อำมหิต ผิดชอบเอย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 5 พฤษภาคม 2014
  7. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    แวะเข้ามาทำไมมันเงียบจังนะ...

    ฝากกลอนส่งถึงละกัน ^0^"
    เสียงก้องดังจากที่ไกลแสนไกล
    ประสานใจส่งถึงชลกวี
    หากได้ยินสำเนียงดั่งดนตรี
    โปรดเทอญหนาคนดีส่งเสียงมา
    อาจารย์แอ๊บ...ไปไส ใครรู้บ้าง
    ห่างหายจากเรือนชาญที่อยู่นี่
    ไปแล้วโปรดกลับมา ณ.คนดี
    สหายที่รอคอย หวังฟังธรรม..

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 พฤษภาคม 2014
  8. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649

    มิน่าใยใจสั่น
    เสียงดังลั่นdawlongเพ้อ
    ท่านแอ๊บเข้าฌานเออ
    ต้องรอเธอออกค่อยมา.....ปลีกวิเวกเป็นระยะจร้า..เด๋วคงกลับมา
     
  9. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    โปรดอ่าน.....
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 80-112
    และ....
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 97

    บาทพระคาถาว่า เอสามคนฺโธ น หิ มสโภชน ความว่า ความ


    ประพฤติด้วยอำนาจอกุศลธรรม มีปาณาติบาตเป็นต้นนี้ ชื่อว่า อามคันธะ


    กลิ่นดิบ คือ เป็นกลิ่นทีมีพิษ เป็นกลิ่นดุจซากศพ. ถามว่า เพราะเหตุไร ?


    ตอบว่า เพราะไม่เป็นที่พอใจ เพราะคลุกเคล้าด้วยของไม่สะอาดคือ


    กิเลส เพราะเป็นของที่สัปบุรุษทั้งหลายเกลียด และเพราะนำมาซึ่งความเป็น


    กลิ่นที่เหม็นอย่างยิ่ง.


    สัตว์ทั้งหลายเหล่าใด ซึ่งมีกิเลสอันบังเกิดขึ้นแล้ว ด้วยกลิ่นดิบ


    ทั้งหลายเหล่าใด สัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นผู้มีกลิ่นเหม็นอย่างยิ่งกว่า


    กลิ่นดิบทั้งหลายเหล่านั้น แม้ร่างที่ตายแล้วของคนที่หมดกิเลสทั้งหลาย ก็ยัง


    ไม่จัดว่ามีกลิ่นเหม็น เพราะฉะนั้น กลิ่นนี้ (คือการฆ่าสัตว์เป็นต้น ) จึงเป็น


    กลิ่นดิบ ส่วนเนื้อและโภชนะที่ผู้บริโภคไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่ได้รังเกียจ


    (คือไม่สงสัยว่าเขาฆ่าเพื่อตน) จัดเป็นสิ่งหาโทษมิได้ เพราะฉะนั้น เนื้อและ


    โภชนะจึงไม่ใช่กลิ่นดิบเลย.


    พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงวิสัชนากลิ่นดิบโดยนัยหนึ่ง ด้วยเทศนา


    ที่เป็นธรรมาธิษฐานอย่างนี้แล้ว บัดนี้ เพราะเหตุที่สัตว์เหล่านั้น ๆ ประกอบ


    ด้วยกลิ่นดิบทั้งหลายเหล่านั้น ๆ สัตว์ผู้หนึ่งเท่านั้น จะประกอบด้วยกลิ่นดิบ


    ทุกอย่างก็หามิได้ และกลิ่นดิบทุกอย่าง จะประกอบกับสัตว์ผู้เดียวเท่านั้น ก็หา


    มิได้ ฉะนั้นเมื่อจะทรงประกาศกลิ่นดิบเหล่านั้น ๆ แก่สัตว์เหล่านั้น เมื่อจะ


    ทรงวิสัชนากลิ่นดิบด้วยเทศนาที่เป็นบุคคลธิษฐานก่อนโดยนัยว่า ชนทั้งหลาย


    เหล่าใดในโลกนี้ ไม่สำรวมแล้วในกามทั้งหลาย ดังนี้เป็นต้น จึงได้ทรงภาษิต


    พระคาถา ๒ พระคาถา.


    ....โปรดอ่านต่อ....


    สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 80-112


    http://www.tripitaka91.com/91book/book47/051_100.htm#81
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2014
  10. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ลิ้งไว้ให้...พระธรรมมา....อ่านกันโลด
    แล้วได้โปรด...แสดงคิด...ให้เห็นว่า
    หนึ่งเรื่องฆ่า...สองเรื่องกิน...ที่เป็นบาป
    กลิ่นดิบสาบ...บาปอย่างไร...ไฉนรวม

    "ต้องรอเธอออกค่อยมา"พูดถูกใจ
    บ่ไปไสไปขุ่นขุ่นอยู่แถวนี้...


     
  11. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    ขุ่นขุ่น ข่อยบ่เข้าใจจร้า
     
  12. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    "บ่ไปไส"พ้องเสียง"บ่ไปใส"
    "บ่" เข้าใจแปลว่า"ไม่"นะท่าน
    "ใส"ตรงข้าม คำว่า "ขุ่นขุ่น"อ่าน
    จึงผันผ่าน ตอบว่า "ไปขุ่นขุ่น" เอย
    ***********************
    ต้องการพัดลมเพิ่มไหมครับ ^_^
    ***********************
    "ต้องรอเธอออกเฉลย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2014
  13. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649
    อ่านตามลิงค์ทิ้งไว้
    ไม่เข้าใจอ่านวกวน
    เหตุเพราะยังฉงน
    จึงไม่สนแค่ผ่านตา.....แฮะๆๆๆๆ
     
  14. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    กลิ่นดิบ จัดเป็นกลุ่มของกิเลส อันได้แก่ รัก โลภ โกรธ .หลง ที่บุคคลนั้นมี เจตนาประทุร้ายจนถึงแก่ชีวิตเพื่อบำรุงความต้องการของตนและพวกพ้อง โดยที่ผู้ถูกกระทำไม่มีความปรีดาในสื่งที่ถูกกระทำ จึงจัดเป็นกลิ่นดิบ ซึ่งสามารถยกตัวอย่างได้หลายประเภท.(ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องฆ่าเพียงอย่างเดียว) ทำให้การฆ่าเพื่อเอาเนื้อมาทาน แม้จะเป็นซากศพที่หอม รสเลิศ ที่ใครหลายๆคนต้องการ ก็จัดเป็นกลิ่นดิบเช่นกัน

    สิ่งไม่ดิบ อันได้แก่ สิ่งต่างๆที่ปราศจากกิเลส ไม่ว่าจะเป็นผัก ผลไม้ หรือสิ่งมีชีวิตที่ตายแล้ว (ตายตามธรรมชาติ ไม่ได้ถูกใครฆ่าหรือกระทำให้เป็นไป )หรือแม้แต่ การกระทำด้วยจริตที่ปราศจากกิเลส แม้จะเป็นซากศพที่เหม็น แม้ไม่เป็นที่ต้องตาต้องใจ หากแต่ปราศจากกิเลส และผู้ถูกกระทำก็ไม่มีความไม่พอใจ จึงจัดเป็นกลิ่นไม่ดิบหรือสะอาดนั่นเอง อาจยกตัวอย่างคือ ปลาตาย คนเห็นแล้วนำมากิน เนื้อเหล่านั้นจึงจัดเป็นของสะอาด เพราะปราศจากบาปและกิเลส เป็นต้น
    เพียงแต่มนุษย์ยังถูกกิเลสบดบัง จะมากจะน้อย จึงทำให้เห็นการฆ่าเพื่อบำรุงตนเป็นเรื่องธรรมดา...ประมาณว่า ไม่ขอรู้ขอเห็น แต่ขอกิน ใช่ปะ...
    แต่ในจิตใจส่วนลึก ก็รู้อยู่แก่ใจ..
    ไม่รู้จะแต่งกลอนยังไง สงสัยต้องคิดนาน555
    ข้อความ..ตามความเข้าใจนะคะ อาจจะไม่ตรงประเด็นที่พระไตรปิฎกยกมา แต่ก็ตามความเข้าใจค่ะ ผิดถูกอย่างไรแ.แก้ให้ด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 พฤษภาคม 2014
  15. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    ข้อ๑ ...กลิ่นดิบ
    ขอยกพระธรรมข้างมาต้นสถิต
    อันกลิ่นดิบประพฤติเป็นต้นคือ
    ด้วยอกุศลธรรมผิดศีลถือ
    มีการฆ่าคือปาณาติบาต


    จัดไม่สะอาดคลุกเคล้าเข้ากิเลส
    แม้เพียงเศษกลิ่นเหม็นยิ่งซากศพ
    สัปบุรุษทั้งหลายพากันหลบ
    พากันลบกิเลสร้ายหมายนิพพาน


    ข้อ๒...กลิ่นดิบ แห่งเนื้อและโภชนะ
    เนื้อหมายถึงเศษซากสรรพสัตว์
    ชีวิตดับฆ่าด้วยอกุศล
    แม้เพียงคิดกลิ่นดิบต้องแต่ตน
    วิบากผลเพียงตนรับใช่อื่นใคร

    กฎกรรมใดใครก่อนั้นผู้รับ
    จะส่งผลัดใครอื่นจะได้หรือ
    ดุจก้อนไฟบุคคลนั้นจับถือ
    ที่ร้อนคือเพียงตนใช่อื่นใคร


    โภชนะในหมายอาหารอื่น (ผัก ....ฯลฯ)
    อันดาษดื่นทั่วไปตามที่เห็น
    หากว่าได้มาด้วยอกุศลเป็น
    กลิ่นดิบเหม็นเช่นเดียวกันใช่ไหมเอย


    ข้อ๓...การไม่เห็นไม่ได้ยินไม่รังเกียจ
    การไม่เห็นไม่ได้ยินไม่รังเกียจ
    หมายเปรียบไม่สงสัยเพื่อตนกิน
    ไม่ร่วมหมองแปดเปื้อนในมลทิน
    ไม่เห็นยินรังเกียจโทษต้องฤา

    หากต้องโทษคือฝืนกฎแห่งกรรม
    ที่ใครทำโทษต้องตนร่วมรับ
    แม้ไม่เห็นยินรังเกียจโทษกลับทับ
    ให้ร่วมรับวิบากทำกรรมคนกิน

    ข้อ๔...การเห็น ได้ยิน และรังเกียจ
    หากร่วมรับกฎกรรมในกลิ่นดิบ
    ทวีสิบร้อยพันยากคาดเดา
    ตามจิตเข้ายินดีกรรมหนักเบา
    ที่มัวเมารับไฟร้อนแล้วนึกเย็น


    ข้อ๕...กินอย่างพระ
    สรุปว่าเนื้อและโภชนะ
    กินอย่างพระสักว่าเพียงอาหาร
    บำบัดโรคเสียดหิวเป็นอาการ
    ทรมานผ่านพ้นประพฤติธรรม


    ข้อ๖...บาปคนทำกรรมคนกิน แม้ไม่เห็นไม่ได้ยินไม่รังเกียจ ?
    เนื้อเศษชิ้นโภชนะในตลาด
    ดารดาษเพื่อใครหรือเพื่อตน?
    หากเดินผ่านไม่ซื้อไม่สนยล
    ไม่วางทนคงเททิ้ง!เพราะตนเมิน?


    โภชนะเพลินข้าวผักที่เกลื่อนขาย
    อาจบางรายรมยาฆ่าแมลงมอด?
    อกุศลทั้งหลายสืบตกทอด
    คนกินกอดวิบากทุกข์รับหมดฤา?
    ********************************************
    เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลถูกผิดโปรดใช้วิจารณญาณ...._/\_
    ********************************************
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 พฤษภาคม 2014
  16. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    อ่านอีกทีจิ...^_^
     
  17. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ชอบค่ะ...ชอบ...สุดยอด:cool:
     
  18. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    มีฉบับแก้ไขครับ ขออภัยครับ _/\_
     
  19. ล้อเล่น

    ล้อเล่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    4,924
    ค่าพลัง:
    +18,649

    อ่านกลอนพอเข้าใจ
    ยึดถือไปคงเช่นกัน
    ปล่อยจิดละทิ้งพลัน
    ไม่ถือมั่นปะทังกาย.....

    เออคงจาเข้าใจถูกนะค่ะ....
     
  20. แอ๊บแบ้ว

    แอ๊บแบ้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,335
    ค่าพลัง:
    +2,544
    แล้วแต่วิจารณญาณน่ะครับ
    ถูกให้คิดผิดช่วยแจ้งแถลงไข
    เหตุผลกินเนื้อเจน่าสนใจ
    แล้วแต่ใครนำคิดแต่งเนื้อความ ^_^
    *********************
     

แชร์หน้านี้

Loading...