๙๙๙"เหรียญเก่า เหรียญขลัง เหรียญดัง เมืองกรุงเก่า โดย เด็ก ฅนอโยธยา"๙๙๙

ขอขอบคุณท่านพี่มากๆนะครับ ที่แวะเข้ามาทักทายกัน

ขอขอบคุณท่านพี่มากๆนะครับ ที่แวะเข้ามาทักทายกัน
เก่งเก่า เล่าตำนาน หล่อโบราณ มหาอุด???
.......................................นอกจากท่านจะเป็นพระอุปัชฌาย์ ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวแล้ว ท่านยังเป็นอาจารย์สอนกัมมัฏฐานให้กับหลวงปู่ทิมอีกด้วยครับ แม้กระทั่งหลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม เจ้าของสมเด็จหลังไผ่อันลือลั่น ก็เรียนลบผงมาจากหลวงปู่สังข์ วัดน้ำเต้านี่เหละครับ รูปหล่อโบราณรุ่นนี้ เป็นรุ่นแรก และรุ่นเดียวของหลวงปู่สังข์ครับ ทำพิธีเทโบราณกันที่วัด เป็นพิธีใหญ่มากๆในสมัยนั้นเลยทีเดียว รายนามของพระเกจิที่มานั่งปรก ๔ ทิศ ตอนเททองก็มี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู และหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทองครับ หลังจากเสร็จพิธีแล้ว หลวงปู่สังข์ ท่านปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งหนึ่ง และหลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็มรณภาพในปี ๒๕๑๘ นั่นเอง รูปหล่อโบราณรุ่นนี้ จึงเป็นมรดกชิ้นสุดท้ายของท่านครับ องค์นี้ สภาพสวยเดิมๆ ตามแบบพระหล่อโบราณทุกประการณ์ ประสบการณ์เรื่อง มหาอุด คงกระพัน โดนกันมาเยอะครับ แต่ค่อนข้างจะหายากซักหน่อยครับผม........................................

 

หาทั้งเมืองกรุงเก่า เจอแค่องค์เดียว???..................................................ในงานพุทธาภิเศกที่วัดบางนมโคประมาณปี ๒๕๓๖ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมพิธี ในพิธีนั้น ก็ปรากฏว่ามีเกจิมีชื่อจากเพชรบุรี เจ้าของปลัดขิกที่โด่งดังได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีด้วยเช่นกัน และมาถึงตอนใกล้จะถึงเวลาฤกษ์เสกพอดี ท่านพูดออกมาว่า " วันนี้ขอลองวิชากับพระอยุธยาหน่อย" ปรากฎว่าหลวงพ่อองค์นั้นท่านใช้กสินไฟในช่วงที่นั่งปลุกในโบสถ์ ทำให้บริเวณพิธีอากาศร้อนมากๆ ทำให้เวลาผ่านไปพระเกจิอาจารย์ที่เข้ามาร่วมพิธีเหงื่อแตกเกือบทุกองค์ บางองค์เริ่มทนอากาศร้อนไม่ไหวก็เริ่มทยอยออกจากโบสถ์ จนกระทั่งเวลผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมงเหลือพระเกจิอยุธยาไม่กี่องค์ กับหลวงพ่อชื่อดังจากเพชรบุรี และเมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ทำให้บางองค์ต้องลุกออกจากโบสถ์เหลือหลวงพ่อเมี้ยน กับหลวงพ่อชื่อดัง จากเพชรบุรี เพียง 2 องค์จนกระทั่งปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อจากเพชรบุรี ยกมือไหว้หลวงพ่อเมี้ยนและกล่าวว่าผมยอมหลวงพ่อแล้วครับ มีศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า "ไม่รู้จักเมี้ยนซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ" (เข้าใจว่าหลวงพ่อจงท่านเก่งอาโปกสินมาก ขนาดพ่อท่านคล้ายยังยอมรับท่านเลยครับ)............................................หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา สุดยอดเกจิเจ้าของฉายา หลวงพ่อเมี้ยน ๕ ม.ฉายานี้ มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะครับ ได้มาเพราะท่านเก่งจริงๆ เรื่องขับคุณไสย์ ไล่ผีล่ะก็ งานถนัดของท่านครับ!!! ที่เห็น เป็น"พระกริ่งช่อฟ้า" ซึ่งเป็นพระ"รุ่นแรก"ของท่าน เป็นพระกริ่งยอดนิยม และนับว่าเป็นวัตถุมงคลที่ทรงคุณค่าอีกชิ้นนึง ที่ลูกศิษย์สายนี้"หวงกันมาก"เนื่องจากเป็นพระกริ่งที่สร้างตามตำหรับตำราของ"วัดสุทัศฯ"ทุกประการ โดยท่านเจ้าคุณฉลอง วัดสุทัศฯ ท่านเป็นศิษย์ก้นกุฏิของหลวงพ่อ ดำเนินการสร้างให้ ในปี ๒๕๓๕ โดยทำการเททองกันที่วัดสุทัศฯ เป็นเนื้อ"เงินตรายันต์โบราณ"ผสมกับก้านชนวนพระกริ่งวัดสุทัศฯรุ่นเก่าอีกด้วย(เนื้อนี้สร้างเป็นกรณีพิเศษ เพื่อแจกกับศิษญ์ใกล้ชิดเท่านั้น) และสร้างเอาไว้น้อยสุดๆ เพียง ๒๕ องค์เท่านั้น องค์นี้ สภาพสวยเดิมๆ โค๊ดชัดๆ หมายเลข ๒๒ ครับผม......................................................

 

เก่า แท้ ดี หายากส์ ประสบการณ์แรง แต่ไม่แพงซักที???
....................................................สมัยก่อน จิ๊กโก๋บ้านนอก นักเลงลูกทุ่ง จะเก๋าไม่เก๋าเขาดูที่"รอยสักว่าเป็นลูกศิษย์ใคร หลวงปู่หน่าย วัดบ้านแจ้ง ในอดีดท่านก็เป็นอาจารย์สักมีชื่อ(มากๆ)อีกท่านของเมืองกรุงเก่า แต่ลูกศิษย์ลูกหาของท่านบางคน(คงไม่มาก ส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี)เป็น"คนเกเร"จนทางการต้องมาขอร้องให้ท่านเลิกสัก เพราะว่า"ปราบยาก"เหลือเกิน ที่เห็น เป็นเหรียญหลวงปู่หน่าย รุ่นแรก วัดบ้านแจ้ง ที่คนในพื้นที่เรียกกันว่า เหรียญใบตำแย เป็นอีกหนึ่งเหรียญของหลวงปู่หน่าย ที่ประสบการณ์ดี สร้างน้อย และหายาก เหรียญนี้ สภาพสวยเดิมๆ แท้ ดูง่ายๆ ครับผม...............................................

 

เหมือนจะเก๊ แต่เหนียวสุดๆ???
............................................ถ้ามองกันแบบผิวเผิน เหรียญนี้ผิวหน้าเหรียญมี"เม็ดกลาก"เพียบบบบบบบอย่างกับเหรียญเสริม เหรียญเก๊เลยทีเดียว แต่พอพลิกด้านหลัง ผิวเหรียญเรียบตึง แถมมีรอยจารถึง ๕ ตัวเลยทีเดียว เหรียญรุ่นนี้ เป็นที่รับรู้กันในพื้นที่เมืองกรุงเก่าเป็นอย่างดีว่า เป็นเหรียญรุ่นที่ ๓ ของหลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง จัดสร้างโดยการใช้บล็อคด้านหน้าของรุ่นแรก(ที่ทางวัดเก็บรักษาไว้)มาปั๊ม แต่ด้านหลังแกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ เหมือนหลวงพ่อท่านจะรู้ล่วงหน้า ว่าเหรียญนี้อาจจะมีการถกเถียงกันในภายหน้า ท่านจึง"ลงเหล็กจาร"ไว้ทุกเหรียญครับ เหรียญละ ๕ ตัวเต็มๆ และเป็นเหรียญอีกรุ่นหนึ่งของท่าน ที่ประสบการณ์โชกโชนจริงๆ ???...........................................จากที่ท่านเป็นพระเกจิบ้านนอก ที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่หลังจากที่ท่านได้เข้าร่วมปลุกเสก"พิธีจตุรพิธพรชัย"ที่วัดรัตนชัย(วัดจีน)ในตัวเมืองกรุงเก่าแล้ว ชื่อเสียงของท่านก็เริ่มเป็นที่ปรากฏ ก็เพราะเหตุที่ว่า"เกจิชัยนาท"ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ของท่านว่า "พระวัดบ้านช้าง"อ.วังน้อย ท่านเก่งคงกระพันชาตรี เวลาปลุกเสก ตัวเฑาะจะลอยออกมาจากปาก ปราชญ์ย่อมรู้ในปราชญ์ หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง ท่านเป็นพระเกจิที่คนในพื้นที่เลื่อมใสศรัทธากันมาช้านาน ด้วยคุณวิเศษของท่าน และท่านเองก็เป็นหนึ่งใน"ศิษย์เอก"ของหลวงพ่อพัน วัดบ้านสร้าง ที่เก่งแบบลูกไม้ใต้ต้นเลยทีเดียว ที่เห็นเป็นเหรียญรุ่นรุ่นที่ ๓ ของท่าน เป็นเหรียญเนื้อทองแดง ด้านหลังมีรอยจารลายมือหลวงพ่อ ๕ ตัว ของแท้ๆสร้างเอาไว้น้อย ส่วนของเก๊ ก็ออกมาระบาดกันหลายฝีมือ และทำได้ดีชนิดประมาทไม่ได้เลย เหรียญนี้ สภาพสวยเดิมๆ แท้ ดูง่ายๆ ครับผม.............................

 

ก็ขี้เหร่อย่างนี้ คงไม่มีใครเอา!!!
...........................................สุดยอดเกจิอีกท่านของเมืองกรุงเก่า ที่ผู้คนให้ความศรัทธากันมาก หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ นับว่าเป็นสุดยอดเกจิแห่งเมืองกรุงเก่า ๑ ใน ๒ ท่าน ที่ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสก"พิธีใหญ่ของประเทศ"ครบทั้ง ๔ พิธี(อีกท่านหนึ่งก็คือ"พระทองคำแห่งบางไทร" หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอกครับ)คือ ๑ พิธีวัดราชบพิธ ปี ๒๔๘๑(ไปแทนอาจารย์ของท่านที่เพิ่งมรณภาพ) ๒ พิธีวัดสุทัศฯ ปี ๒๔๘๕(อินโดจีน)๓ พิธี ๒๕ พุทธศตวรรษ ในปี ๒๕๐๐ พุทธมณฑล และ ๔ พิธีวัดประสาทบุญญาวาส ปี ๒๕๐๖ หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดง ท่านเป็นอีกหนึงในศิษย์เอกของหลวงพ่อโป๋ วัดวังแดง อดีตปรมาจารย์ยุคเก่า รุ่นราวคราวเดียวกันกับหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่กรอง วัดเทพฯ ท่านเชี่ยวชาญเวทย์มนต์คาถาเป็นอย่างมาก เป็นที่พึ่งยามยากของชาวบ้านมาตลอด โดยเฉพาะบ้านนอกบ้านนาอย่างนั้น ในสมัยโบราณ เรื่องการทำคุณไสย์ ทำคุณทำของ ลมเพลมพัด ภูตผีปีศาจยังมีอยู่ เรื่องอย่างนี้ หลวงพ่อแจ่มท่าน"เอาอยู่"และท่านก็มีชื่อเสียงอย่างมาก เหรียญรุ่นแรกของท่าน สร้างในปี ๒๕๐๘ เป็นที่กล่าวขานทั้งในด้านประสบการณ์ และเป็นที่กล่าวขานในเรื่องความ"หายากส์"เนื่องด้วยท่านสร้างไว้จำนวนไม่มากนัก ตามประวัติว่าสร้างเนื้อทองแดงกะหลั่ยทอง ๕๐๐ เหรียญ และเนื้ออัลปาก้า ๑๐๐๐ เหรียญ ของดี มีประสบการณ์ และหายากส์ เหรียญนี้ เป็นเหรียญเนื้อทองแดง กะหลั่ยทอง ที่สร้างเอาไว้น้อย สภาพ"ไม่สวย"(ชำรุดมาแต่เดิมจากขั้นตอนการปั๊มเหรียญ)แต่ก็แท้ ดูง่ายๆ เด็ก ฅนอโยธยา ขอโชว์อย่างเดียวครับผม....................................................

 

.................................หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม สุดยอดเกจิเมืองกรุงเก่าอีกท่าน ที่ผู้คนเมืองกรุงเก่าให้การยอมรับนับถือกันมาก ท่านเป็นพระเกจิเรืองอาคมที่สืบทอดสายวิชาของหลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ สุดยอดเกจิคงกระพันของเมืองกรุงเก่าในอดีต และยังได้รับการถ่ายทอดวิชาจากสุดยอดเกจิอีกท่านหนึ่ง นั่นก็คือ หลวงปู่สังข์ วัดน้ำเต้า(หลวงปู่สังข์ ท่านนี้ ก็เป็นอาจารย์ของหลวงปู่ทิม วัดพระขาวด้วยเช่นกัน) หลวงพ่อเอียด ท่านเป็นพระที่มีเมตตามากๆ พระเครื่องของท่าน ชาวบ้านชาวช่อง ลูกศิษย์ลูกหา พ่อค้าแม่ขายเขามีประสบการณ์กันมากครับ ที่เห็น เป็นพระผงรูปเหมือนพิมพ์ใหญ่"รุ่นแรก" สร้างในปี ๒๕๔๙ ด้านหลังฝังตะกรุดเงิน ทอง ๒ ดอก โรยเกศา โรยตะไบพระกริ่ง ฝังจีวร ฝังพลอยเสก ตอกโค๊ด ตอกเลข สร้างจำนวนน้อย เพียงแค่ ๕๐๐ องค์เท่านั้นครับ.................................

 

สำนักพรหมอันดับ ๑ ของประเทศ???
......................................................มีพระข้า ไม่มีวันตายโหง!!!....ใช่ครับ หลวงปู่สี วัดสะแก ท่านบอกกับลูกศิษย์ของท่าน ในสมัยที่ท่าน ยังดำรงค์สังขารอยู่อย่างนั้นจริงๆ จะเชื่อ หรือไม่เชื่อก็ตามใจ แต่คนเมืองกรุงเก่า เขาศรัทธาท่านกันจริงๆครับ!!!.............................................. ..............................................หลวงปู่สี วัดสะแก ท่านเป็นอีกหนึ่งสุดยอดเกจิ แห่งเมืองกรุงเก่า ที่เป็นที่เคารพศรัทธาที่สุดอีกท่านหนึ่ง ลูกศิษย์รุ่นเก่าๆเคยเล่าว่า เคยเห็นท่านนั่งสมาธิแล้ว"ตัวลอย"จากพื้น บางคนก็บอกว่าเคยเห็นท่านนั่งสมาธิแล้ว"ตัวใหญ่"คับกุฏิก็มี หลวงปู่สี ท่านเป็นพระที่คงแก่เรียน ท่านเป็น"ศิษย์ใกล้ชิด"ของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ และได้ศึกษาสายวิชาจาก"วัดประดู่ทรงธรรม"อย่างแตกฉานอีกท่านหนึ่งเหมือนกัน ที่เห็นเป็นเหรียญพรหมพิมพ์สีเหลี่ยมข้าวหลามตัดรุ่น ส.เสวี หน้าใหญ่"เนื้อเงิน" เป็นพระชุด"เหรียญพรหม"อีกรุ่นของหลวงปู่ ที่พบเจอยากมากๆ แทบไม่ค่อยพบเห็นกันเลย เพราะสร้างเอาไว้ไม่มากนัก แค่เพียงไม่กี่ร้อยเหรียญ สถาพสวยเดิมๆ ด้านหลังมีรอยจารลายมือของปู่ เลี่ยมทอง ๓ ห่วงพร้อมบูชา พุทธคุณเชื่อถือได้ น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง ครับผม.....

 

๑ ใน ๓๖ องค์ เนื้อชนวนพระกริ่งล้วนๆ หายากส์???
..................................................ในงานพุทธาภิเศกที่วัดบางนมโคประมาณปี ๒๕๓๖ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมพิธี ในพิธีนั้น ก็ปรากฏว่ามีเกจิมีชื่อจากประจวบฯ เจ้าของปลัดขิกที่โด่งดังได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีด้วยเช่นกัน และมาถึงตอนใกล้จะถึงเวลาฤกษ์เสกพอดี ท่านพูดออกมาว่า " วันนี้ขอลองวิชากับพระอยุธยาหน่อย" ปรากฎว่าหลวงพ่อองค์นั้นท่านใช้กสินไฟในช่วงที่นั่งปลุกในโบสถ์ ทำให้บริเวณพิธีอากาศร้อนมากๆ ทำให้เวลาผ่านไปพระเกจิอาจารย์ที่เข้ามาร่วมพิธีเหงื่อแตกเกือบทุกองค์ บางองค์เริ่มทนอากาศร้อนไม่ไหวก็เริ่มทยอยออกจากโบสถ์ จนกระทั่งเวลผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมงเหลือพระเกจิอยุธยาไม่กี่องค์ กับหลวงพ่อชื่อดังจากประจวบฯ และเมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ทำให้บางองค์ต้องลุกออกจากโบสถ์เหลือหลวงพ่อเมี้ยน กับหลวงพ่อชื่อดัง จากประจวบฯ เพียง 2 องค์จนกระทั่งปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อจากประจวบฯ ยกมือไหว้หลวงพ่อเมี้ยนและกล่าวว่าผมยอมหลวงพ่อแล้วครับ มีศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า "ไม่รู้จักเมี้ยนซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ" (เข้าใจว่าหลวงพ่อจงท่านเก่งอาโปกสินมาก ขนาดพ่อท่านคล้ายยังยอมรับท่านเลยครับ).......................................หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา สุดยอดเกจิเจ้าของฉายา หลวงพ่อเมี้ยน ๕ ม.ฉายานี้ มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะครับ ได้มาเพราะท่านเก่งจริงๆ ที่เห็น เป็น"เหรียญหล่อโบราณ"รุ่นแรก ปี ๒๕๓๔ ทำพิธีเททองกันที่วัดสุทัศฯตามตำรับตำราโบราณทุกประการ ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยม ยอดประสบการณ์ของท่าน เป็นเหรียญ"เนื้อชนวนพระกริ่งวัดสุทัศฯล้วนๆ"ที่สร้างเอาไว้น้อยสุดๆเพียงแค่ ๓๖ เหรียญเท่านั้น สภาพสวยเดิมๆ โค๊ดชัดๆ ครับผม......................................................

 

๑ ใน ๓๖ องค์ เนื้อชนวนพระกริ่งล้วนๆ หายากส์???
..................................................ในงานพุทธาภิเศกที่วัดบางนมโคประมาณปี ๒๕๓๖ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจากทั่วประเทศมาเข้าร่วมพิธี ในพิธีนั้น ก็ปรากฏว่ามีเกจิมีชื่อจากประจวบฯ เจ้าของปลัดขิกที่โด่งดังได้รับนิมนต์มาร่วมพิธีด้วยเช่นกัน และมาถึงตอนใกล้จะถึงเวลาฤกษ์เสกพอดี ท่านพูดออกมาว่า " วันนี้ขอลองวิชากับพระอยุธยาหน่อย" ปรากฎว่าหลวงพ่อองค์นั้นท่านใช้กสินไฟในช่วงที่นั่งปลุกในโบสถ์ ทำให้บริเวณพิธีอากาศร้อนมากๆ ทำให้เวลาผ่านไปพระเกจิอาจารย์ที่เข้ามาร่วมพิธีเหงื่อแตกเกือบทุกองค์ บางองค์เริ่มทนอากาศร้อนไม่ไหวก็เริ่มทยอยออกจากโบสถ์ จนกระทั่งเวลผ่านไปประมาณ ๑ ชั่วโมงเหลือพระเกจิอยุธยาไม่กี่องค์ กับหลวงพ่อชื่อดังจากประจวบฯ และเมื่อเวลาผ่านไปอากาศก็ยิ่งร้อนขึ้น ทำให้บางองค์ต้องลุกออกจากโบสถ์เหลือหลวงพ่อเมี้ยน กับหลวงพ่อชื่อดัง จากประจวบฯ เพียง 2 องค์จนกระทั่งปลุกเสกเสร็จ หลวงพ่อจากประจวบฯ ยกมือไหว้หลวงพ่อเมี้ยนและกล่าวว่าผมยอมหลวงพ่อแล้วครับ มีศิษย์ของท่านที่ไปด้วยเห็นความผิดปกติ เลยถามหลวงพ่อว่าทำไมหลวงพ่อถึงไม่มีเหงื่อออกเลย หลวงพ่อเมี้ยนท่านตอบว่า "ไม่รู้จักเมี้ยนซะแล้ว เมี้ยนลูกศิษย์หลวงพ่อจงนะ" (เข้าใจว่าหลวงพ่อจงท่านเก่งอาโปกสินมาก ขนาดพ่อท่านคล้ายยังยอมรับท่านเลยครับ).......................................หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา สุดยอดเกจิเจ้าของฉายา หลวงพ่อเมี้ยน ๕ ม.ฉายานี้ มิใช่ได้มาเพราะโชคช่วยนะครับ ได้มาเพราะท่านเก่งจริงๆ ที่เห็น เป็น"เหรียญหล่อโบราณ"รุ่นแรก ปี ๒๕๓๔ ทำพิธีเททองกันที่วัดสุทัศฯตามตำรับตำราโบราณทุกประการ ซึ่งเป็นเหรียญยอดนิยม ยอดประสบการณ์ของท่าน เป็นเหรียญ"เนื้อชนวนพระกริ่งวัดสุทัศฯล้วนๆ"ที่สร้างเอาไว้น้อยสุดๆเพียงแค่ ๓๖ เหรียญเท่านั้น สภาพสวยเดิมๆ โค๊ดชัดๆ ครับผม......................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

พอจะมีเหรียญวัดประดู่ทรงธรรมให้ดูบ้างไหมคับ

 

หลวงพ่อสละ อาจารย์สอนกัมมัฏฐานแห่งวัดประดู่ทรงธรรม
เกิด ปี๒๔๕๗ มรณภาพ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๖
หลายๆท่านอาจไม่รู้จัก แต่ท่านเป็นพระแท้ ที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

ท่านเป็นลูกศิษย์และมีศักดิ์เป็นลูกบุญธรรมของก๋งจาบ ฆราวาสจอมขมังเวทย์สายวัดประดู่ทรงธรรม อาจารย์ของหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราฯ, หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง และหลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน สามพระเกจิผู้จารตะกรุดหลอมไม่ละลายในพิธีวัดประสาทฯ
หลวงพ่อสละท่านเป็น พระที่สำเร็จทางวิปัสสนากรรมฐาน รวมทั้งด้านการลบผงอิติปิโสรัตนมาลา

ท่าน ถือสมถะจำวัดบนไม้กระดานแผ่นเดียวเป็นประจำ เมื่อท่านละสังขารท่านก็ละสังขารบนกระดานแผ่นเดียวกันนี้ หลังจากที่ท่านละสังขารไปแล้วกระดานแผ่นนี้ได้กลายเป็นพระธาตุมาจนถึง ปัจจุบัน !!!

หลวงพ่อสำเร็จวิชาผงรัตนมาลา ซึ่งเฉพาะห้องพระพุทธคุณกระทำการลบโดยตั้งองค์พระตั้งแต่ตัว อิ แล้วลบเป็นอักขระ ถอดเรื่อยไปจนถึงสูญนิพพาน จนถึงองค์พระตัว ติ ทั้งหมด ๕๖ องค์ นับเป็นหนึ่งเที่ยว ทำเรื่อยไปจนทะลุกระดาน หรือผงไต่ ผงเดิน เป็นอันสำเร็จ คนใกล้ชิดต่างทราบดีว่าท่านสามารถลบผงทะลุกระดานได้ จนบางคนเรียกว่าการลบผงใต้ดาน ความขลังไม่มากเท่าไร ท่านสั่งไว้ว่า "ถ้าจะสร้างพระ ๘๔๐๐๐ องค์ ให้ผสมผงรัตนมาลาของท่านลงไปช้อน(ชา)หนึ่ง เมื่อกดพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จแล้ว ไม่ต้องเสกอีก ก็ใช้ได้เลย"

วัด ประดู่ทรงธรรม เดิมชื่อวัดประดู่ หรือ วัดประดู่โรงธรรม ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างสมัยใด ภายในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมฝาผนังในสมัยรัตนโกสินทร์ เช่น ภาพกระบวนพยุหยาตราทางสากลมาตร การแสดงมหรสพในงานถวยพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้า
วัดประดู่ทรงธรรม ถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตั้งอยู่ในเขตอำเภอพระนครศรีอยุธยา ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะเมือง บริเวณกลุ่มวัดในเขตอโยธยา
วัดประดู่ทรงธรรมถูกกล่าวถึงในพระราชพงศาวดาร ในคราวที่พระภิกษุสงฆ์ของวัดประดู่แปดรูป ได้ช่วยเหลือพระเจ้าทรงธรรมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาหลบหนีจากการก่อกบฏของ พวกญี่ปุ่นที่หมายปลงพระชนม์ชีพ นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงในคราวที่พระเจ้าอยู่หัวอุทุมพร หรือที่เรียกกันว่า "ขุนหลวงหาวัด" ทรงผนวชและพำนักที่วัดประดู่ทรงธรรมนี้เป็นวันสุดท้าย ก่อนถูกกวาดต้อนไปอังวะภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. ๒๓๑๐
สถาน ที่สำคัญภายในวัด คือพระอุโบสถสมัยกรุงศรีอยุธยาที่มีการบูรณะใหม่ในราวสมัยรัชกาลที่ ๔ มีจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวทศชาติชาดกพุทธประวัติภาพขบวนเสด็จทางสถลมารค วิถีชีวิตและการละเล่นของคนไทยในสมัยก่อน
ในอดีตวัดประดู่ทรงธรรม เป็นวัดที่เป็นแหล่งศิลปศาสตร์หลายแขนง อาทิ เช่น วิชาพุทธศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีวิชาความรู้รอบตัวต่างๆซึ่งสามารถจำแนกได้ดังนี้.-
๑. สูติศาสตร์ ตำราฟังเสียงสัตว์ร้อง เป็นต้น
๒. สัมมติศาสตร์ ตำรารู้กำเนิดเกิดเขาและไม่รู้ว่าชื่อนั้นๆมีสรรพคุณและโทษอย่างไรใช้ทำยา ได้อย่างไร
๓. สังขยาศาสตร์ ตำรารู้จักการคำนวณเลข
๔. โยคศาสตร์ ตำรารู้จักการเป็นช่าง
๕. นิติศาสตร์ ตำรารู้ที่จะเป็นครู สอนแบบแผนราขการประเพณี
๖. วิเสริกศาสตร์ ตำรารู้เลี้ยงฝูงชนให้จำเริญศิริมงคล
๗. คณิตศาสตร์ ตำรารู้นักขัตฤกษ์และตำรากาลต่างๆ
๘. คันธัพพศาสตร์ ตำรารู้จักลำนำเพลิงขับ
๙. ติกิจฉศาสตร์ ตำรารู้คัมภีร์แพทย์
๑๐. อนุท์เพธศาสตร์ ตำรารู้ศิลปศาสตร์
๑๑. ปุราณศาสตร์ ตำรารู้จักที่บ้านเก่า เมืองเก่า ตำบลเก่า
๑๒. อิติหาสศาสตร์ ตำรารู้จักที่มีมงคลบริโภคอาหาร
๑๓. โชติศาสตร์ ตำรารู้จักคัมภีร์พยากรณ์
๑๔. มายาศาสตร์ ตำรารู้เล่ห์กล
๑๕. เหตุศาสตร์ ตำรารู้เหตุผลจะบังเกิดการณ์ต่างๆ
๑๖. วันทุฎศาสตร์ ตำรารู้เลี้ยงโค กระบือ ปศุสัตว์ รู้จักหว่านพืช
๑๗. ยุทธศาสตร์ ตำรารู้จักคัมภีร์พิชัยสงคราม
๑๘. ปาสัณฑ์ศาสตร์ ตำรารู้คัมภีร์โลกวิหาร
๑๙. ฉันทศาสตร์ ตำรารู้คัมภีร์โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน
๒๐. พุทธวัจนะ ตำรารู้คัมภีร์พุทธศาสตร์
นอก จากนี้ยังมีตำราต่างๆ เช่นตำราตีเหล็กของหลวงปู่เลื่อง(จ้าอาวาสองค์ที่ ๔) ความดังนี้ เหล็กยอดพระเจดีย์ศรีมหาธาตุ ยอดปราสาททวรามาผสม เหล็กกันผีพรายตายท้องกลม เหล็กตรึงป้อมรบ

 

สวัสดีครับพี่
ตอนนี้
ไม่มีเหลืออยู่ในมือเลยครับผม

 

ศิษย์มีครู เก่งแบบไม่ธรรมดา???
.......................สุดยอดเกจิเมืองกรุงเก่าท่านนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะนอกจากท่านจะเป็น"ศิษย์เอก"ของหลวงพ่อเขียน วัดบ้านพร้าวนอกแล้ว ท่านยังเป็นอีกหนึ่งเกจิเมืองกรุงเก่า ที่เป็นศิษย์ของทั้งหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก และหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อีกด้วย ท่านเก่งแค่ใหน ผมไม่รู้ รู้แต่เพียงว่า คนแถวๆเสนา บางไทร บางบาล ถ้าหาหลวงพ่อจง หลวงพ่อปานมาแขวนคอไม่ได้ อีกหนึ่งตัวเลือกที่จะนำมาบูชา ก็คือพระหลวงพ่อมี วัดมารวิชัยนั่นเอง ที่เห็น เป็นรูปหล่อ"รุ่นแรก"ของท่าน สร้างในปี ๒๕๒๘ เนื้อทองผสมรมดำ สร้างจำนวนไม่มาก แค่พันเศษๆ จึงเป็นพระยอดนิยมอีกรุ่นของท่าน ที่ค่อนข้างหายาก องค์นี้ สภาพสวย รมดำเดิมๆ ใต้ฐานตอกโค๊ดชัดๆ แท้ดูง่าย ครับผม...........................

 

เหรียญเหนียวในตำนานของเมืองกรุงเก่า???
...........................................คนท้องที่ อ.ผักไห่ หายใจเข้าออกเป็นหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโดกันทั้งอำเภอแหละครับ ด้วยประสบการณ์เรื่อง"มหาอุด คงกระพัน"โดนกันมาแบบจะจะลูกตาเลยทีเดียว แต่ของแท้ๆท่านสร้างใว้น้อยครับ แค่ไม่กี่ร้อยเหรียญเอง แค่คนในพื้นที่ตามเก็บกัน ก็แทบจะไม่มีของออกมาให้เห็นแล้วครับ เหรียญนี้ เป็นเหรียญเนื้อทองแดง สภาพสวยเดิมๆ และก็เป็นเหรียญที่แท้ดูง่ายๆ ครับผม...........................................................................หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๓ บิดาชื่อนายดิษฐ์ มารดาชื่อนางหนู มีพี่น้องร่วมท้อง ๕ คน คือ ๑ นางหรุ่น ๒ นางทิม ๓ พระอุปัชฌาย์อิ่มธัมมสาโร ๔นายหลำ ๕หรุ่ม หลวงพ่ออุปัชฌาย์อิ่ม ในช่วงเป็นเด็กครอบครัวได้ส่งมาเรียนหนังสืที่วัดสะแกและได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา โดยหลวงพ่อหร่าย วัดสะแกเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่หร่ายซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นพระที่มีวิชากล้าแข็งซึ่งแม้แต่หลวงพ่อกลั่นยังได้มาศึกษาวิชากับท่าน หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อกลั่น ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดลาดชะโดต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อทองและเป็นเจ้าอาวาสลำดับที่๑๓แห่งวัดลาดชะโด จากนั้นได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระเณรแถวนี้ทั้งหมดตั้งแต่ ลาดชะโด ดอนลาน นาคู ลำตะเคียน ลานช้าง ลาดตาล ในสมัยยุคนี้ถือว่าวัดรุ่งเรืองเป็นอย่างมากบางปีมีพระจำพรรษาถึงร้อยกว่ารูปก็มี ท่านชอบทำยาแผนโบราณแจก เช่น ยาเขียว ยาเหลือง ยาดำ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายถึงกรุงเทพฯ เจ้านายผู้ใหญ่ เช่น หม่อมเจ้าคำรพ ทรงนับถือท่านนักโดยเฉพาะพวกบ้านแป้งบ้านขนมจีน อำเภอเสนานับถือท่านมาก ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันก็เกิดในสมัยท่าน นอกจากนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์มาขอเรียนวิชากับท่านมากมายเช่น หลวงปู่โต๊ะวัดลาดตาล,หลวงพ่อกร่ายวัดโพธิ์ศรีเป็นต้น หลวงพ่ออิ่มท่านมรณภาพในเดือน๑๐ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ สิริอายุได้๗๗ปี ๕๗ พรรษา หล่อรูปหลวงพ่ออิ่ม ลูกศิษย์ต่างๆให้ความเคารพหลวงพ่ออิ่มมาก จึงต้องการหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่ออิ่มไว้เพื่อทำการบูชาต่อไป จึงได้ไปขออนุญาติหลวงพ่ออิ่มเพื่อทำการหล่อรูปเหมือน แต่หลวงพ่อกับบอกว่าถ้าหล่อรูปเหมือนแล้วตนจะต้องตาย จึงบอกไม่ให้หล่อ แต่ลูกศิษย์ด้วยความนับถือต้องการจะหล่อรูปเหมือนให้ได้ จึงไปตามช่างมาปั้นหุ่นแกะรูปของท่านโดยหลวงพ่อก็นั่งเป็นแบบให้ช่างแกะและมีน้ำตาไหลตลอดเมื่อช่างแกะเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าเหมือนหลวงพ่อมาก หลวงพ่อจึงพูดออกมาว่ากูตายแน่ วันที่ทำการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลมาปลุกเสกพร้อมกันโดยสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งมา๒แบบ แบบที่๑ คือแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบที่๒ แบบใบเสมา และมีแหวนพิรอด ซึ่งพันด้วยผ้าดิบสีขาว,ธง๓ชาย โดยทำพิธีหล่อที่หน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด มีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาปลุกเสกรูปหล่อและเหรียญของท่านซึ่งวันนั้นมีประชาชนมากันมากมาย เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จได้มีการจำหน่ายเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ในราคา ๑ บาทและแหวนพิรอดในราคา ๑บาท ส่วนเหรียญรูปใบเสมาหลวงพ่อบอกว่าให้นำใส่ขันลงหินนำมาเก็บไว้ที่กุฏิ ซึ่งได้นำมาจากภายหลังและถือได้ว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่ออิ่ม การหล่อรูปเหมือนได้ทำการหล่อในช่วงกลางเดือนห้า พ.ศ. ๒๔๙๐ และต่อมาหลวงพ่อได้มรณะภาพเดือนเก้า พ.ศ.๒๔๙๐ ซึ่งได้เป็นไปตามที่หลวงพ่อได้บอกลูกศิษย์ไว้ว่าถ้ารูปหล่อเหมือนของตนแล้วตัวเองต้องตาย การฌาปนกิจศพหลวงพ่ออิ่ม มีขึ้นในเดือนห้าของปีต่อมาโดยก่อนที่ฌาปนกิจมีประชาชนที่ให้ความเคารพมาขอจีวรของหลวงพ่ออิ่มไปเป็นจำนวนมากเมื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว กระดูกและเศษเถ่าก็มีประชาชนที่ศรัทธาจำนวนมากมาขอไปจนหมด ต่อมาภายหลังมีบางคนนำกระดูกของหลวงพ่อไปขาย ซึ่งมีราคาสูงมาก ขัดรูปหล่อ ครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เห็นว่ารูปหล่อหลวงพ่ออิ่มเก่ามากแล้วชาวบ้านต้องการจะขัดให้ใหม่จึง ได้วางแผนไปให้ช่างขัดแต่ปรากฎว่าหลวงพ่อมาเข้าฝันว่าไม่ต้องนำมารูปหล่อมาขัดเพราะท่านกลัวเจ้บแต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อจึงได้ยกหลวงพ่ออิ่มไปขัดต้องใช้คนยกถึงสิบคนจึงจะสามารถยกรูปหล่อของหลวงพ่ออิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงขัดปรากฎว่าหลวงพ่ออิ่มได้เข้าฝันคนขัดว่าไม่ให้ขัดรูปหล่อของตนเพราะกลัวเจ็บแต่ช่างไม่เชื่อจึงได้ลงมือขัดปรากฎว่าช่างมีอาการปวดไหล่เมื่อมีอาการขัดส่วนต่างๆ ก็มีอาการปวดตามจุดที่ขัดดังนั้นจึงไม่มีการขัดต่อได้จึงได้ ไปบอกให้ชาวบ้านว่าไม่สามารถขัดรูปหล่อหลวงพ่อต่อได้ให้ชาวบ้านมายกกลับขากลับใช้คนยกเพียงสองคนก็ยกขึ้นได้สบาย ประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออิ่มจัดสร้างในปี๒๔๙๐ แบ่งเป็น๒พิมพ์ คือ ๑.เหรียญพิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ ๒.เหรียญพิมพ์เสมาคว่ำ ทั้ง๒พิมพ์สร้างรวมกันประมาณ๑,๐๐๐เหรียญ ปัจจุบันเป็นเหรียญหายากเหรียญหนึ่งของจ.พระนครศรีอยุธยา ประสบการณ์เหรียญก็มากมายพอยกตัวอย่างได้ดังนี้ กรณีตาสนิทกับตาผัน ตาสนิทนั้นท่านมีไข่ทองแดงซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางตามธรรมชาติสร้างมาและมีความคงกระพันสูง ส่วนตาผันนั้นแกนับถือหลวงพ่ออิ่มมากและได้คล้องเหรียญหลวงพ่ออิ่มติดกายไว้ตลอดเวลา วันหนึ่งทั้งสองท่านเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นนำมีดดาบออกมาฟันกัน ปรากฏว่ามีดดาบนั้นไม่ระคายผิวของทั้ง๒ท่านเลยทีเดียว กรณีตำรวจที่ผักไห่ ในสมัยก่อนในย่านผักไห่ลาดชะโดถือว่าไกลปืนเที่ยง โจรผู้ร้ายชุกชุม วันหนึ่งเกิดกรณีโจรได้บุกมาชิงตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ในช่วงนั้นมีตำรวจเข้าเวรไม่กี่นาย และปรากฎว่ามีตำรวจนายหนึ่งได้ถูกโจรยิงเข้าอย่างจังจนตกจากชั้นบนลงมาข้างล่างแต่ปรากฏว่าตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่เป็นอะไรเลย ปัจจุบันหากมีนายตำรวจย้ายไปที่ผักไห่ก็จะถามถึงเหรียญหลวงพ่ออิ่มทุกครั้งไป กรณีเด็กรถที่สัตหีบ ในสมัยก่อนเถ้าแก่ศรีนวล วิเศษสุวรรณซึ่งเป็นคนลาดชะโดแต่ได้ไปทำธุรกิจรถสองแถวโดยสารที่สัตหีบ ท่านจึงได้นำเด็กที่ลาดชะโดไปเป็นเด็กรถ วันหนึ่งเด็กรถของแกเกิดทะเลาะเบาะแว้งกับนักเลงที่นั่นถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน นักเลงถิ่นสู้ไม่ได้จึงชักปืนยิงเด็กรถของเถ้าแก่ศรีนวลอย่างจัง แต่ปรากฏว่ากระสุนนัดดังกล่าวไม่ได้ระคายผิวของเด็กรถแต่อย่างใด เนื่องจากเด็กคนนั้นแขวนหลวงพ่ออิ่มไว้นคอนั่นเอง นอกจากนั้นยังเกิดประสบการณ์มากมายกับเหรียญรุ่นนี้ จนในสมัยก่อนยังมีคนนำเหรียญของท่านไปแขวนไว้ตามหน้าบ้าน,เล้าเป็ดและคอกสัตว์เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและภูติผีต่างๆด้วย .......................................ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ ของพี่"จักร ฅนอโยธยา"ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ........................................

 

(((((เหรียญดัง!!! มหาอุด หยุดปืืน??? )))))
เหรียญดัง!!! มหาอุด หยุดปืน??? .......................................อีกเหรียญประสบการณ์ดี ชนิดที่เป็น"ข่าวหน้าหนึ่ง"มาหลายครั้งหลายครา เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดสามเรือน เมืองกรุงเก่า ทั้งเหรียญรุ่นแรกปี ๒๔๙๔ และเหรียญรุ่น ๒ ปี ๒๔๙๘ ประสบการณ์ยอดเยี่ยมทั้ง ๒ รุ่นเลยครับ ชั่วโมงนี้ จะหาเหรียญแท้ๆ ชัวร์ๆซักเหรียญ ช่างยากเย็นซะเหลือเกิน เนื่องจาก ของแท้ๆ ท่านสร้างเอาใว้น้อย และแรงศรัทธา จากผู้คนในท้องที่ จึงทำให้เหรียญหลวงพ่อแก้ว วัดสามเรือนแท้ๆ ทั้ง ๒ รุ่น ถูก"กระชับพื้นที่"เก็บเข้ารังกันหมด ส่วนของเก๊ ฝีมือเฉียบขาดมากๆ เล่นเอาคนที่ไม่แม่นจริง ต้องถอยห่างไปหลายก้าว แต่ของเก๊ ย่อมมีพิรุธ พิจารณากันดีๆ ก็มีความแตกต่างครับ ที่เห็นเป็นเหรียญทั้ง ๒ รุ่นของท่าน ทั้งรุ่นแรกปี ๒๔๙๔ และรุ่น ๒ ปี ๒๔๙๘ประสบการณ์ ก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลยทั้งสองรุ่น ครับผม............................................

 

พระผงหลวงพ่อกลั่น

ได้มานานแล้วครับ หาข้อมูลหารสร้างไม่ได้ครับ รบกวนสายตรงด้วยครับว่า
1.ชื่อรุ่นอะไร
2.เนื้อหามวลสาร(เห็นเนื้อหาดีมาก แต่ไม่แน่ใจว่าผสมอะไรบ้าง)
3.อาจารย์ท่านใดปลุกเสกครับ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

สวัสดีครับ
เป็นพระสร้างในชั้นหลังครับ
ไม่ทันหลวงพ่อกลั่นครับ
สร้างในสมัยหลวงพ่อเฉลิม เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
มี ๒ พิมพ์ อีกพิมพ์ เป็นรูปหลวงพ่ออั้น
พุทธคุณดีครับ หลวงพ่อเฉลิม ท่านเก่งมาก
เด็ก ฅนอโยธยา

 

เหรียญเหนียวๆ ไฟแดงๆ สวยแชมป์ๆ ???
................................................ได้ยินมากับหู ได้ดูมากับตา เหรียญหลวงปู่กรอง วัดสว่างอารมย์ รุ่นแรกปี ๒๕๐๒ พุทธคุณท่านดีจริงๆ เหตุเกิดในท้องที่เมืองกรุงเก่า เมื่อซักยี่สิบกว่าปีมาแล้ว ไอ้หนุ่มคนพื้นเพแถววัดสว่างอารมย์ ถูกคู่อริ"ดักยิง"ด้วยปืนลูกซอง นัดเดียวเต็มหน้าอก กระเด็นตกคันนา คนยิงวิ่งหนีไปแล้ว คิดว่ายังไงก็ตายแน่ ส่วนคนถูกยิงนอนเจ็บหน้าอกอยู่พักใหญ่ ลองเอามือคลำดู"เลือดไม่ออกซักหยด" รอดตายราวปาฏิหาริย์ นี่เป็น"เรื่องจริง"ไม่ต้องอิงนิยาย คนเมืองกรุงเก่าเขา"รู้กันทั่ว"ครับ สมัยนั้น หลวงพ่อปาน"พิมพ์ทรงนก" ราคา ๗-๘ ร้อยบาท แต่เหรียญหลวงปู่กรอง วัดสว่างอารมย์ ราคา"พันกว่าบาท"แล้ว คิดดูก็แล้วกัน เหรียญนี้ ถึงแม้จะเป็นเหรียญที่ไม่ทันหลวงปู่ก็ตาม แต่ก็ได้รับการปลุกเสกอย่างดีจาก"สหธรรมิกที่ใกล้ชิด"ของท่าน ก็คือ"หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก"นั่นเอง จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจในพุทธคุณอันเอกอุของเหรียญนี้ครับ ส่วนท่านที่มีความศรัทธาในเหรียญนี้ โปรดใช้ความระมัดระวังในการเช่าหา เพราะได้ปรากฏว่ามี"ของเก๊"ออกมาระบาดมานานแล้ว และบางฝีมือก็ทำได้ดีซะด้วย ไม่มีความชำนาญจริง มีโอกาสโดน"น็อคเอาท์"แน่นอนครับ ที่เห็น เป็นเหรียญหลวงปู่กรอง วัดสว่างอารมย์รุ่นแรกปี ๒๕๐๒ เหรียญเนื้อทองแดงผิวไฟแดงๆ สภาพสวยแชมป์ๆ(และหายากส์มากๆ)ครับผม..................................................

 

"รู้แล้วเจริญ เนื้อเงิน หายากส์ ๑ ใน ๑๐ เหรียญ"
.................................................ฉันสร้างวัตถุมงคล เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติพวกเธอทั้งหลาย ให้ระลึกเสมอว่า เราคือพุทธบุตร ผู้ต้องยึดมั่นเรื่อง ศีล สมาธิ ปัญญา ทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ทั้งหลาย ทั้งปวง มิใช่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์อันพึงมิชอบมิควร ผิดศีล ผิดธรรม ถ้าเธอทั้งหลายทำแต่ความดี วัตถุมงคล ก็จะเป็นมงคลปกป้องคุ้มครองอันตราย เธอทั้งหลาย ก็จะพบแต่ความสุข ความเจริญ ความสำเร็จตลอดไป........................................อีกหนึ่งวาทะแห่งธรรม ที่หลวงพ่อได้เมตตาอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ลูกหาครับ.........................................................................................................สุดยอดเกจิเมืองกรุงเก่า ที่นับได้ว่า เป็นสุดยอดคณาจารย์ของแท้ หลวงพ่อวัดพิชัยสงคราม ท่านเป็นผู้สืบทอดสายวิชาสำคัญอีกสำนักหนึ่งของประเทศไทย ก็คือ"สำนักวัดประดู่ทรงธรรม"ซึ่งเป็นสำนักวิชาอาคมเก่าแก่ ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีมาแล้ว และท่านก็ได้ศึกษามาจนเชี่ยวชาญ สามารถสร้างของได้ตามตำรับตำรา และปลุกเสกได้เข้มขลังยิ่งนัก ที่เห็นเป็นเหรียญ"รู้ธรรม"เนื้อเงิน ที่สร้างไว้เพียงแค่ ๑๐ เหรียญเท่านั้น สวย ขลัง ดี มีคุณภาพ มีอนาคตครับ...........................................

 

พุทธคุณโด่งดังไปถึงชั้นพรหม???
..........นี่คือ"สุดยอด"พระเนื้อผงตัวจริงของท่าน ที่คนเมืองกรุงเก่า"ปิดบัง-ซ่อนเร้น"กันมานานแสนนาน พุทธคุณเป็นที่ขึ้นชื่อลือชา โดยเฉพาะเรื่องเมตตา แคล้วคลาด"นิรันตราย"มีประสบการณ์กันมากจริงๆ พระที่ว่านี้ก็คือ พระผงน้ำมันยาง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก รุ่นแรก ปี ๒๔๙๒..........................พระผงน้ำมันยาง เป็นพระเนื้อผงรุ่นแรกของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ๒๔๙๒ โดยท่านทำการลบผง และรวบรวมมวลสารมงคลต่างๆ รวมทั้งท่านยังได้รับผงของหลวงปู่ใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในสมัยนั้น มาเป็นมวลสารในการสร้างพระในครั้งนี้ด้วย(หลวงปู่ใหญ่ ท่านก็เป็นศิษย์ของหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติเช่นกัน) พระรุ่นนี้มีการสร้างทั้งหมด ๖ พิมพ์ โดยสร้างไว้จำนวนไม่มากนัก เป็นที่นิยมของลูกศิษย์รุ่นเก่าๆมาก ที่เห็น เป็นพิมพ์สี่เหลี่ยมสมาธิซุ้มครอบแก้ว และพิมพ์พระแก้วมรกตเล็บมือ สภาพสวยเดิมๆ และที่พิเศษ หลวงปู่ได้ทำการ"เบิกพระเนตร"องค์พระเอาไว้ด้วย ครับผม...............................................