ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เมื่อนึกในใจกระนี้แล้วถึงหยุด และวางคำที่นึกนั้นเสีย กำหนดจิตพิจารณานิ่งเฉยอยู่ จนกว่าจะตกลงและแลเห็นในใจว่า เฒ่าแก่ชราได้เป็นแท้ จึงรีบพิจารณาให้เห็นแก่เฒ่าชราหลังขดหลังโขสั่นทดๆ ไปในขณะปัจจุบันทันใจนั้น แล้วผูกปัญหาถามดูทีว่า “ตายเป็นไหมเล่า”
     
  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    หยุดนิ่งพิจารณาอยู่อีก จนกว่าจะตกลงเห็นในใจได้ว่า ตายแน่ตายแท้ไม่แปรผัน จึงรีบพิจารณาให้เห็นตายลงไปอีกเล่า ในขณะปัจจุบันทันใจนั้น “เมื่อตายแล้วจะเปื่อยเน่าตายทำลายไปหรือไม่” หยุดนิ่งพิจารณาเฉยอยู่อีก “จนกว่าจิตของเราจะตกลงเป็นว่า เปื่อยเน่าแตกทำลายไปหรือไม่” หยุดนิ่งพิจารณาเฉยอยู่อีก จนกว่าจิตของเราจะตกลงเห็นว่า เปื่อยเน่าแตกทำลายไปได้แท้แน่ในใจฉะนี้แล้ว ก็ให้รีบพิจารณาให้เห็น เปื่อยเน่า แตกทำลาย จนละลายหายสูญลงไป เป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ ไปตามธรรมดา ธรรมธาตุ ธรรมฐีติ ธรรมนิยาม
     
  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แล้วพลิกเอาจิตของเรากลับทวนเข้ามาพิจารณากายในกายของเราเอง ให้เห็นลงไปได้อย่างเดียวกัน จนกว่าจะตกลงและตัดสินใจได้ว่าร่างกายของเรานี้ ก็แก่เฒ่าชรา ทุพพลภาพแตกตาย ทำลาย เปื่อยเน่าไปเป็นเหมือนกัน แล้วรีบตั้งสติพิจารณาเห็นเป็นแก่เฒ่าชราดูทันที และพิจารณาให้เห็นตายลงไปในขณะปัจจุบัน แยกส่วนแบ่งส่วนออกดูให้เห็นแจ้งว่า หนังเป็นอย่างไร เนื้อเป็นอย่างไร กระดูกเป็นอย่างไร ตับไตไส้พุงเครื่องในเป็นอย่างไร เป็นของงามหรือไม่งาม ตรวจดูให้ดีพิจารณาให้ละเอียดจนกว่าจะถอนความยินดียินร้ายเสียได้ แล้วพิจารณาให้เห็นเปื่อยเน่าผุพังลงถมแผ่นดินไป ภายหลังกลับพิจารณาให้เห็นเป็นคืนมาอีก
     
  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แล้วฝึกหัดทำอยู่อย่างนี้จนกว่าจะชำนาญ หรือยิ่งเป็นผู้มีสติได้พิจารณาให้เนื้อ หนัง เส้น เอ็น และเครื่องในทั้งหลาย มีตับ ไต ไส้ พุง เป็นต้น เปื่อยเน่าผุพังลงไปหมดแล้ว ยังเหลือแต่ร่างกระดูกเปล่า จึงกำหนดเอาร่างกระดูกนั้นเป็นอารมณ์ทำไว้ในใจ ใคร่ครวญให้เห็นแจ้งอยู่เป็นนิจ จนกว่าจะนับได้ทุกกระดูกก็ยิ่งดี เพียงเท่านี้ก็เป็นอันแก้นิมิตได้ดีทีเดียวฯ
     
  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    คราวนี้ถึงทำพิธีพิจารณาเป็น อนุโลม ถอยขึ้นถอยลง คือตั้งสติกำหนดจิตไว้ให้ดีแล้ว เพ่งพิจารณาให้เห็นผมอยู่บนศีรษะมีสีดำ สัญฐานยาว ก็จะหงอกขาวลงถมแผ่นดินทั้งนั้น และพิจารณาให้เห็นขนซึ่งเกิดตามชุมชนตลอดทั่วทั้งกายนอกจากฝ่ามือฝ่าเท้า ก็จะลงถมแผ่นดินเหมือนกัน
     
  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    พิจารณาเล็บที่อยู่ปลายนิ้วเท้า นิ้วมือ ให้เห็นเป็นของที่จะต้องลงถมแผ่นดินด้วยกันทั้งนั้น

    พิจารณาฟันซึ่งอยู่ในปากข้างบน ข้างล่าง ให้เห็นแจ้งว่าได้ใช้เคี้ยวอาหารการกินอยู่เป็นนิจ แต่ก็จะต้องลงถมแผ่นดินเหมือนกัน

    คราวนี้พิจารณาหนังเบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นมา เบื้องต่ำแต่ปลายผมลงมา มีหลังหุ้มอยู่เป็นที่สุดรอบ ยังชีวิตนี้ให้ตั้งอยู่ได้แล้วเป็นไป ถ้าถลกหนังนี้ออกหมดแล้วก็ต้องตาย ตายแล้วต้องถมแผ่นดิน พิจารณาเห็นความจริงฉะนี้
     
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แล้วเลิกหนังออกวางลงไว้ที่พื้นดิน พิจารณาเส้นเอ็นให้เห็นแจ้งว่า เส้นเอ็นทั้งหลายรัดรึงกระดูกไว้ให้ติดกันอยู่ เมื่อเลิกเส้นเอ็นนี้ออกหมดแล้ว กระดูกก็จะหลุดจากกัน ผุพังลงถมแผ่นดินทั้งสิ้น

    แล้วกำหนดเลิกเส้นเอ็นนี้ออกเสีย กองไว้ที่พื้นดิน พิจารณาร่างกระดูกให้เห็นแจ้งว่า กระดูกในร่างกายนี้มีเป็นท่อนๆ เบื้องต่ำแต่กระดูกกระโหลกศีรษะลงไป เบื้องบนแต่กระดูกพื้นเท้าขึ้นมา เห็นได้กระจายสมควร
     
  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    แล้วเพ่งเล็งพิจารณาดูเครื่องในทั้งหลาย ให้เห็นว่า ปอดอยู่ที่ไหน ม้ามอยู่ที่ไหน ดวงหฤทัยอยู่ที่ไหน ใหญ่น้อยเท่าไร เห็นตับไต ไส้พุง อาหารใหม่ อาหารเก่า เป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน มีรูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร มีสีสันวรรณะเป็นไฉน เครื่องในทั้งปวงนี้ เป็นที่ประชุมแห่งชีวิตก็จริง แต่ก็จะต้องถมแผ่นดิน เมื่อพิจารณาเห็นฉะนี้แล้วจึงกำหนดให้ขาดตกลงไปกองไว้ที่พื้นดิน ยังเหลือแต่ร่างกระดูก
     
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จึงพิจารณาดูกระดูกกระโหลกศีรษะเป็นลำดับลงมา กระดูกคอ กระดูกแขน กระดูกหัวไหล่ กระดูกสันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกเอว กระดูกตะโพก กระดูกต้นขา กระดูกแข้ง กระดูกพื้นเท้า พิจารณาอย่างนี้เรียกว่า อนุโลมฯ
     
  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    คราวนี้พึงพิจารณาเป็น ปฏิโลม คือพิจารณาถอยกลับขึ้นเบื้องบนตั้งแต่กระดูกพื้นเท้าขึ้นไปตลอดถึงกระดูกกระโหลกศีรษะ พิจารณาทบทวนกลับจากศีรษะถอยลงมาตรงหน้าอกนั้นให้มั่นคง ทำในใจว่า ร่างกายทั้งหมดนี้มีจิตเป็นใหญ่ ประชุมอยู่ที่จิต จึงกำหนดรวมจิตเข้าให้สงบ แลตั้งอยู่เป็นเอกัคคตา วิธีที่ ๒ นี้ เรียกว่า ตีรปริญญา แปลว่า ใคร่ครวญอารมณ์ฯ
     
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ขอเตือนสติไว้ว่า ในระหว่างกำลังพิจารณาอยู่นั้น ห้ามไม่ให้จิตเคลื่อนจากที่คิด ระวังไม่ให้ส่งจิตไปตามอาการ จิตจะถอนจากสมาธิ ถ้าจิตถอนจากสมาธิเป็นใช้ไม่ได้ ข้อสำคัญให้เอาจิตเป็นหลัก ไม่ให้ปล่อยจิต ให้มีสติเพ่งเล็งให้รอบจิต พิจารณาให้รอบกาย รักษาใจไม่ให้ฟุ้ง จึงไม่ยุ่งในการพิจารณาฯ
     
  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    วิธีที่ ๓ เจริญวิปัสสนา

    คือ เมื่อผู้ปฏิบัติทั้งหลายได้ฝึกหัดจิตมาถึงขั้นนี้ มีกำลังพอพิจารณาปฏิภาคนิมิตได้ชำนาญคล่องแคล่วเป็นประจักขสิทธิ ดังที่อธิบายมาแล้ว และกำหนดจิตรวมเข้าไว้ในขณะจิตอันเดียว ณ ที่หน้าอก ตั้งสติพิจารณาดูให้รู้รอบจิต เพ่งพินิจให้สว่างแลเห็นร่างกระดูกทั่วทั้งกาย ยกคำบริกรรมวิปัสสนา วิโมกขปริวัตรขึ้นบริกรรมจำเพาะจิตว่า

    สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา สพฺเพ ธมฺมา อนิจฺจา สพฺเพ ธมฺมา ทุกฺขา

    ให้เห็นร่างกระดูกทั้งหมดเป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวตน ไม่ควรถือเอา ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ กำหนดให้เห็นกระดูกทั้งหลายหลุดจากกันหมด ตกลงไปกองไว้ที่พื้นดิน
     
  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    คราวนี้ตั้งสติให้ดี รักษาไว้ซึ่งจิต อย่าให้เผลอ ยกคำบริกรรมวิปัสสนานั้นอีก เพ่งพิจารณาจำเพาะจิต ให้เห็นเครื่องอวัยวะที่กระจัดกระจายกองไว้ที่พื้นดินนั้น ละลายกลายเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ ถมแผ่นดินไปหมด

    กำหนดจำเพาะจิตผู้รู้ เพ่งพินิจพิจารณาให้เห็นพื้นแผ่นดินกว้างใหญ่ เป็นที่อาศัยของสัตว์ทั้งโลก ก็ยังต้องฉิบหายด้วยน้ำ ด้วยลม ด้วยไฟ ยกวิปัสสนาละลายแผ่นดินนี้เสียให้เห็นเป็นสภาวธรรม เพียงสักว่าเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปเท่านั้น
     
  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    รวบรวมเอาแต่จิต คือผู้รู้ ตั้งไว้ให้เป็นเอกจิต เอกธรรม สงบนิ่งแน่วอยู่ และวางลงเป็นอุเบกขา เฉยอยู่กับที่ คราวนี้จะแลเห็นจิตนั้นแจ่มแจ้งยิ่งขึ้นทีเดียว ก้าวล่วงจากนิมิตได้ดี มีกำลังให้แลเห็นอำนาจอานิสงส์ของจิตที่ได้ฝึกหัดสมาธิมาเพียงชั้นนี้ ก็พอมีศรัทธาเชื่อในใจของตน ในการที่จะกระทำความเพียรยิ่งๆ ขึ้นไป วิธีที่ ๓ นี้ เรียกว่า ปหานปริญญา แปลว่า ละวางอารมณ์เสียได้แล้ว

    จากหนังสือพระไตรสรณคมน์และสมาธิวิธี โดย พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    _/|\_ _/|\_ _/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ชาวพุทธควรรู้และปฏิบัติตาม

    พระพุทธองค์ทรงห้ามไม่ให้ทำ อาชีพ 5 อย่าง เรียกว่า มิจฉาวณิชชา คือ การค้าขายที่ผิด หรือไม่ชอบธรรม หมายถึง บุคคลไม่ควรค้าขาย สิ่งเหล่านี้ ซึ่งถือว่าเป็นอันตรายต่อเพื่อนมนุษย์ต่อสัตว์และต่อสภาพแวดล้อม ประกอบด้วย

    1. สัตถวณิชชา คือการขายอาวุธ อันเป็นอุปกรณ์ซึ่งมีไว้ประทุษร้าย เชื่อว่าคือสิ่งที่ได้ชื่อว่า อาวุธทุกชนิด เช่นอาวุธปืน อาวุธเคมี ระเบิด นิวเคลียร์ อาวุธอื่น ๆ เป็นต้น อาวุธเหล่านี้ หากมีเจตนาเพื่อทำร้ายกัน จะก่อให้เกิดการทำลายล้างซึ่งกันและกัน เป็นการทำลายสันติภาพและมิตรภาพ

    2. สัตตวณิชชา หมายถึงการค้าขายมนุษย์ อันหมายถึงการจ้างวานแลกเปลี่ยนด้วยเงินทองเพื่อสำเร็จความพอใจที่เนื่องด้วยชีวิตมนุษย์ เช่นการซื้อประเวณี ตลอดถึงการค้าขายเด็ก การค้าทาส ตลอดจนการใช้แรงงานเด็กและสตรีอย่างทารุณเพื่อผลกำไร

    3. มังสวณิชชา หมายถึง ค้าขายสัตว์เป็นยังมีชีวิต สำหรับฆ่าเพื่อเป็นอาหารส่งเสริมทารุณกรรมและเป็นการส่งเสริมให้ทำผิดศีลข้อที่ 1

    4. มัชชวณิชชา หมายถึง การค้าขายสุราและของมึนเมา โดยการกล่าวครอบคลุมหลักการถึงการไม่ให้ค้าขายสารเสพติดทุกชนิด

    5. วิสวณิชชา หมายถึง การค้าขายยาพิษ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ใช้รวมทั้งสารเคมีที่อันตรายต่อชีวิต คน และสัตว์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การปฏิบัติธรรมในยุคของโลกออนไลน์

    นักภาวนาสามารถภาวนาได้ตลอดเวลาเพียงแค่ทำไว้ในใจ ทำอะไรรึ...ก็กำหนดสมาธิ สติ ไว้ในใจ ในกาย ในตา ในหู ในจมูก ในลิ้น วิธีการง่ายๆ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ หรือเรียกรวมๆ กันว่า อายตนะ6 ทุกคนมีเหมือนกันๆ ค่ะ มีไว้ทำอะไร...ก็มีไว้เพื่อรับการกระทบ กระทบแล้วเป็นอย่างไร กระทบแล้วก็รู้ว่าขณะที่ถูกกระทบนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้างทางอายตนะ6 วิญญานธาตุจะแปรสัญญานให้ได้รับรู้ เมื่อรับรู้แล้วก็มีการส่งออก เป็นการสื่อสารเพื่อประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน หรือให้โทษแก่ตนหรือแก่ท่าน ก็ว่ากันไป...ตามสติปัญญา ณ ขณะนั้นๆ

    ทีนี้นักภาวนาจะหาประโยชน์ได้จากการกระทบที่คล่องแคล่วว่องไวนี้ เพียงแค่คุณมีสติสมาธิขณะที่ตากระทบรูปตัวหนังสือต่างๆ ภาพต่างๆ ที่เพื่อนๆ โพสต์ วางสติกำกับไว้ที่อายตนะ6 มีความระลึกรู้สึกตัวทั่วพร้อม กระทบปุ๊บเกิดอะไรขึ้นภายใน ใช้ความรู้สึกตัวจับอาการไว้แล้วน้อมเข้ามาดูภายในที่ตน เห็นอะไรบ้าง เกิดอารมณ์ใดบ้าง ดูไปว่ามันเกิดจากอะไรเป็นเหตุ หมายถึงเหตุที่มีอยู่ภายในใจตนเองนั่นแหละ กิเลสกองไหน ตัณหากองไหน อุปาทานขันธ์ไหน เพียงแค่"สติ"หรือ"ผู้รู้"นี้เห็นที่เหตุ อารมณ์นั้นก็ดับไป ง่ายแค่นี้เอง เป็นการภาวนาง่ายๆ กับยุคดิจิตอล ไม่ต้องไปรอฤกษ์ รอเวลา นั่งขวาทับซ้ายหายใจเข้า-ออก พุทโธๆ แยกให้ออกเรื่องภายนอกกับภายใน ใช้ระบบคู่ขนานกันไป

    อารมณ์ภาวนาที่เกิดต่อเนื่องกันไป ส่งผลให้เจริญทางธรรมได้อย่างว่องไว เข้าใจธรรมะกับการดำเนินชีวิตมากขึ้น ทุกข์น้อยลง ปัญหาต่างๆ กลายเป็นเรื่องสนุก ท้าทายความสามารถและสติปัญญา

    ฝึกอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะได้นิสัยของนักภาวนา และยังเป็นปัจจุบันธรรมด้วยค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ทำไมแค่อนุโมทนาบุญ กลับเป็นพลังหนุนที่ยิ่งใหญ่เพราะอะไร

    วิธีการเสริมสร้างอำนาจจิตโดยใช้พลัง" ผู้อื่น "

    มนุษย์สามารถสร้างอำนาจจิตของตน โดยพลังของ"ผู้อื่น"ได้ 3 วิธีคือ

    ในทุกวัน ทุกเวลานาที รังสีจิตทั้งหลายในบรรยากาศจะมีทั้งรังสีหยาบ ละเอียด ดี ชั่ว

    วิธีที่จะเลือกดูดซับรังสีจิตที่ดี และประณีตให้เข้ามาในตนทำได้ 3 ประการ คือ

    1. เข้าใกล้ผู้มีพลังจิตที่ประเสริฐ ทันทีที่เราเข้าใกล้ผู้มีพลังจิต" อันประเสริฐ "ด้วยความชื่นชม ยินดี อนุโมทนา อานุภาพจิตของท่านจะเหนี่ยวนำเราให้ปรับสภาวะเข้าสู่ "ความประเสริฐดั่งท่าน"ด้วยเสมือนเหล็กธรรมดา ที่เข้าไปอยู่ในรัศมีสนามแม่เหล็ก ย่อมถูกเหนี่ยวนำให้เป็นแม่เหล็กอ่อนๆ ได้ด้วยกระนั้น ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าบรมครูจึงตรัสว่า "การพบเห็นสมณะ..เป็นมงคลแห่งชีวิตประการหนี่ง " ในขณะเดียวกันถ้าจิตยังไม่ยิ่งใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับคนที่มีอำนาจจิตทรามด้วย ดังคำสอนเรื่องมงคลแห่งชีวิตประการแรกที่ว่า ชีวิตจะได้ดีนั้น สิ่งแรกเลยที่จะต้องทำให้ได้ คือ อย่าส้องเสพสมาคมกับคนชั่ว คนพาล จงเสวนาสมาคมกับบัณฑิต เมื่อทำได้ดังนี้ ความดีอื่นๆ ในชีวิตก็จะตามมาอีกมากมาย

    2. ในทุกขณะจะมีคนทำความดีอยู่เสมอ พึงระลึกถึงบุคคลเหล่านั้น แล้วอนุโมทนาสาธุ การอนุโมทนากับภาวะที่ดีใด จะทำให้ท่านยกระดับจิตของตนให้ใกล้เคียง กับภาวะนั้นด้วย และหากเขาเหล่านั้นอุทิศส่วนกุศลให้เป็นการทั่วไป ซึ่งมีอยู่ตลอดเวลา เมื่อท่านอนุโมทนา ท่านก็จะได้ดูดซับพลังแห่งคุณความดีเข้าไว้ในตนทันที เป็นการทำบุญทางลัดอย่างหนึ่ง บุคคลที่ทำความดีมหาศาลที่เราพึง ระลึก เสมอๆ คือ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ เพื่อเป็นแบบอย่าง เป็นต้น

    3. จัดเวลา ฝึกตน ให้สอดคล้องกับท่านผู้มีอำนาจจิต หรือชนส่วนใหญ่จากการวิจัยพบว่าเมื่อคนหลายคนมาฝึกจิตร่วมกัน ในทิศทางการฝึกเดียวกัน อานุภาพจิต โดยรวมในบรรยากาศจะมีพลังมาก อย่างน้อยเท่ากับกำลังสองของจำนวนคน เช่น ฝึกจิตร่วมกัน 9 คน พลังรวม ของรังสี จิตในบรรยากาศจะ เท่ากับ 9 x 9 = 81 คน เป็นต้น

    ดังนั้นจะเป็นการฉลาดที่จะฝึกตนให้ตรงกับที่คนส่วนใหญ่ในสังคมฝึก หรือตรงกับที่ท่านผู้ทรงพลังจิตฝึก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นช่วง " 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม " และ "ตี 3 ถึง 6โมงเช้า " ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าว พลังจิตชั่วร้ายใน บรรยากาศจะมีน้อยมาก และพลังจิตอันประเสริฐจะเข้มข้นมาก เพราะเป็นช่วงที่ผู้คนทั้งหลาย พักกิจกรรม! และพักผ่อนแล้ว และผู้ฝึกตนกำลังฝึกจิตกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ตอนตี 3 ถึง 6 โมงเช้า" คนส่วนใหญ่ยังหลับอยู่ มีเฉพาะผู้ฝึกตน เท่านั้นที่กำลังทำกิจฝึกจิตกันอยู่ ในเวลาดังกล่าว ถ้าท่านตื่นขึ้นมาฝึกตน ท่านจะได้รับพลังจิตอันประเสริฐอย่างมากมาย

    (จากหนังสือการเสริมสร้างพลังจิต)
    #หมั่นฝึกตน #จักเป็นคนที่ได้ธรรม

    หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    " ให้ปฏิบัติให้มันเกิดขึ้นในใจตัวเอง มันจะรู้ขึ้นมาเอง.จิตสว่างขึ้นๆ มันจะมีให้เห็น เรื่องภายในผุดขี้นมา ไม่ว่าเรื่องใดก็เรื่องหนึ่ง.จิตมันจะฟอกตัวเองอยู่ตลอดเวลา.

    การภาวนาหากไม่มีหลักแล้ว มันมักจะไปตามสัญญา.ตามหนังสือ ตามครูบาอาจารย์ว่า.หากรู้ด้วยตัวเองจะไม่เป็นอย่างนั้นเลย มันจะไปตามเรื่องของสมาธิ.

    เพราะฉะนั้นพระพุทธเจ้า พระองค์จึงทรงให้เอาศีล สมาธิ ปัญญา เพราะสติสำคัญมาก.ยึดคำสอนของพระพุทธเจ้า อย่าทำเล่น แล้วมันจะเห็นความเป็นจริง.ส่วนคำพูดใครก็พูดได้... ถ้าพูดตามหนังสือ.แต่ใจของเรามันโลเลอยู่นั่น ยังกับไม้ปักรั้ว ลมพัดมาก็ล้มไปหมด.แต่โอชารสที่ซึมซาบเข้าในจิตใจแล้วไม่รับรู้เลย.การปฏิบัติมีแยบคายหลากหลายกว่านั้น ให้ปฏิบัติอย่าทำเล่น."

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      25.4 KB
      เปิดดู:
      20
  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    วันก่อนทบทวนเรื่องความรู้ที่ครูถ่ายทอดแก่ศิษย์ เราพิจารณาว่ายิ่งครูมีความรู้มากก็ถ่ายทอดให้ศิษย์ได้มาก ใครที่ได้เรียนกับครูที่มีความรู้มาก คนๆ นั้นก็จะมีความรู้มากตามไปด้วย

    มาดูทางด้านธรรมะที่นำพาให้พ้นทุกข์ พระพุทธเจ้าคือบรมครูของครูทั้งหลาย ส่วนพระอรหันตสาวก พระอนาคามีบุคคล พระสกทาคามีบุคคล และพระโสดาบันบุคคลคือครูประจำวิชา วิชาความรู้ที่ถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ก็เป็นไปตามภูมิธรรมที่ท่านมีอยู่

    พระโสดาบันสอนศิษย์ได้ตามภูมิของโสดาบัน
    พระสกทาคามีสอนศิษย์ได้ตามภูมิของสกทาคามี
    พระอนาคามีสอนศิษย์ได้ตั้งแต่ภูมิพระโสดาบันไปจนถึงภูมิอนาคามี
    พระอรหันต์สอนศิษย์ได้ตั้งแต่ภูมิโสดาบันจนถึงระดับภูมิอรหันต์

    เป็นการยากที่ปุถุชนจะมองเห็นว่าใครคือพระอริยบุคคล เพราะยังถูกร้อยรัดไว้ซึ่งกิเลสสังโยชน์10 อันมีเครื่องมอมเมาจิตให้ลุ่มหลงเคลิบเคลิ้ม ถ้าอย่างนั้นก็คงต้องพึ่งวาสนาเก่าที่เคยทำมา ให้คอยชักจูงไปจนได้พบเจอครูอาจารย์ที่เคยมีวาสนาต่อกันมาในอดีต จึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นใครๆ ยังติดข้องสังโยชน์ข้อสีลัพพตปรามาส

    สีลัพพตปรามาส หมายความถึงความยึดมั่นถือมั่นอยู่ในสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือศีลพรตภายนอกพระพุทธศาสนา หรือความยึดมั่นถือมั่นในการบำเพ็ญเพียงกายและวาจาตามหลักธรรมพระพุทธศาสนา (ศีล) ของตนว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐ ซึ่งเป็นเหตุให้ละเลยการปฏิบัติทางด้านจิตใจหรือการใช้ปัญญาเพื่อหลุดพ้น

    สีลัพพตปรามาสจัดเป็นความเห็นผิดหรือมิจฉาทิฏฐิอย่างหนึ่ง จัดเข้าในกลุ่มสังโยชน์ขั้นต้นที่พระอริยบุคคลระดับโสดาบันจะละความยึดมั่นเช่นนี้ได้

    โดยสรุป สีลัพพตปรามาส คือความเชื่ออย่างเห็นผิดในอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอกตัว, ความยึดมั่นในความดีเพียงขั้นศีลของตน และความเชื่อว่าการบำเพ็ญทางกายวาจาเท่านั้นที่จะสามารถทำให้คนบริสุทธิ์จากกิเลสหรือหลุดพ้นได้ ความเห็นเหล่านี้ถูกจัดเป็นความเห็นที่ผิดพลาดในทางพระพุทธศาสนาเพราะเนื่องด้วยพระพุทธศาสนาเน้นเรื่องภายในจิตใจคือการหลุดพ้นด้วยปัญญาภายในเป็นสำคัญ นอกจากนี้พระพุทธเจ้าตรัสหลักสีลัพพตปรามาสไว้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติหลงผิดจากแนวทางหลักในพระพุทธศาสนา กล่าวคือไม่ให้มัวแต่หลงยึดมั่นแค่เพียงความบริสุทธิ์ของศีลที่มีเฉพาะด้านกายและวาจา โดยละเลยความบริสุทธิ์ด้านจิตใจไป ซึ่งความยึดมั่นถือมั่นเช่นนี้จัดเป็นอัสมิมานะซึ่งจัดเป็นกิเลสชนิดหนึ่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. rachotp

    rachotp เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2020
    โพสต์:
    1,218
    กระทู้เรื่องเด่น:
    251
    ค่าพลัง:
    +23,891
    … บทความนี้ดีมากครับ _/\_ ผมขออนุญาตคุณ@อนัตตา นำบทความนี้ไปแชร์เผยแพร่ต่อเพื่อเป็นธรรมทานนะครับ “เทียน ต่อ เทียน บุญ ต่อ บุญ สาธุครับ _/\_

    ผมขอน้อมกราบอนุโมทนาบุญที่คุณ@อนัตตา ได้เคยได้สร้างกระทำบำเพ็ญมาตั้งแต่ในอดีตชาติจนถึงปัจจุบันวันนี้ด้วยครับ (^_^)
    … ขออำนาจบุญจงรักษาคุณ@อนัตตา และ ครอบครัว อีกทั้งทุกๆท่านที่เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญในกระทู้นี้หรืออ่านกระทู้นี้ด้วยเทอญ… สาธุครับ _/|\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มีนาคม 2021

แชร์หน้านี้

Loading...