ใครหาทางหลุดพ้นได้แล้วบ้างช่วยแนะนำที

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย nunnapath, 26 มีนาคม 2009.

  1. Nud

    Nud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +555
    อยากหลุดพ้น ก็ปล่อยวางค่ะอย่ายึด ยึดแล้วทำให้ทุกข์ ก็ปล่อยไป ปล่อยวาง ไม่ยึดก็จะทำให้มีความสุขค่ะ
     
  2. amm.

    amm. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +613
    ทำใจให้เป็นปกติสุขกับปัจจุบัน...อย่าคิดถึงเรื่องอดีต...อย่าเพ้อถึงอนาคต...
    สงบระงับให้จริง...ถามใจเราว่าสงบแล้วทำไมยังคิดอยู่อีก...สงบคือไม่คิด...ไม่ปรุงแต่ง...
    ตาเห็นก็สักแต่ว่าเห็น...อย่าปรุงแต่งไปกับมัน...
    หูได้ยิน...ก็อย่าปรุงแต่งให้เกิดมโนภาพ...
    กายสัมผัส...ก็อย่าคิดว่าชอบไม่ชอบ...ไม่ยินดีกับสิ่งที่มากระทบทางระบบสัมผัสทั้งหลาย...แล้วท่านจะรู้ว่าความสุขที่แท้จริงเป็นเช่นไร...ความสงบระงับดับลงเป็นอย่างไร...
    ค่อยๆทำไปอย่างเร่งร้อน...การเร่งคือกิเลสนั่นเอง...
    ความอยากหลุดพ้นก็คือกิเลส...
    ผู้ปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่มักอยากหนีความทุกข์นั่นแหละกิเลส...เมื่อปฏิบัติธรรมไปแล้วสงบแล้วก็จะรู้ว่าแท้จริงแล้วเราอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลาที่เราเป็นมนุษย์อย่างมิอาจหลีกพ้น...
    เราจึงต้องฝึกทุกข์ให้เป็น...เมื่อฝึกทุกข์เป็นแล้ว...เราก็ต้องฝึกการปล่อยวางความทุกข์นั้น...เราก็จะเข้าสู่สภาวะแห่งความสุข...แต่เมื่อถึงระดับหนึ่งเราจะรู้ว่าความสุขแท้จริงมิอาจอยู่กับเราได้ยั่งยืนเพราะโลกมันเป็นเช่นนี้...เราก็จะปล่อยวางสุขลงเสีย...กลับคืนสู่สภาวะหลุดพ้นจากทุกข์และสุข...คืนสู่จิตเดิม....
     
  3. jaya

    jaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,110
    ค่าพลัง:
    +2,183
  4. ha801

    ha801 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    296
    ค่าพลัง:
    +928
    ลองวางมันดูซิ(ปล่อยวาง)
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** หนทางพ้นทุกข์ตามสัจจะธรรม ****

    เหตุเพราะ...นิสัย สร้างอารมณ์
    อารมณ์....สร้างการกระทำ
    การกระทำ...สร้างตัวกระทำ
    ตัวกระทำ....คือผู้จัดสรรการเกิด สำหรับผู้ที่ยังมีนิสัยหลงเหลือ
    ตัวกระทำ....คือผู้จัดสรร ไม่ต้องมาเกิดใหม่ สำหรับผู้ที่หมดสิ้นนิสัย
    จึงพยายาม...ตัดนิสัยให้ได้จริง ทุกวัน
    วันละข้อ ทำให้ได้จริง....เป็น สัจจะทำ

    เหมือนที่ พระพุทธเจ้าทำ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. MrBean

    MrBean สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +0
    อนุโมทนากับคุณnunnapath และผู้ที่เข้ามาร่วมแสดงความเห็นทุก ๆ ท่านนะครับ

    สำหรับคุณnunnapath ผมขอแนะนำว่าเพียรสร้างบารมี คุณงามความดีไว้เรื่อย ๆ แบบที่เป็นอยู่นี้ดีอยู่แล้วครับ

    พอถึงจุดนึงแล้วคุณจะมีดวงตาเห็นธรรมได้อย่างไม่ยากเย็นนัก อย่างไรก็ดี ขอให้เวียนอยู่กับธรรมมะของพระพุทธเจ้าอย่าได้หลุดไปไหน

    เมื่อมีดวงตาเห็นธรรมแล้วคุณจะสามารถหลีกไกลจากทุกข์ได้มาก แม้เพียงผ่านการเข้าสู่ความเป็นอริยบุคคลจำพวกแรกคือโสดาบันบุคคล
    เมื่อนั้นหมายถึงความเข้าใจในเรื่องของร่างกาย จิตใจ รูปธรรมนามธรรมทั้งหลายจะเกิดขึ้น จนเราไม่จำเป็นต้องยึดถืออะไรในความเป็นตัวตนอีก

    หนทางที่พอจะชี้แนะได้ก็คือให้ทำความรู้จักกับกายและใจให้ดี โดยเฉพาะติดตามดูอาการของใจให้รู้จักว่าใจเฉย ๆ เป็นอย่างไร ใจไม่เฉยเป็นอย่างไร
    เวลาที่ใจไม่เฉยจะมีอาการอย่างไรเข้ามาประกอบใจ เข้ามาประกอบใจแล้วเกิดความรู้สึกอะไร ตามดูจนอาการต่าง ๆ หายไปเหลือแต่ใจเฉย ๆ ที่อยู่กับรู้ ตามดูหลาย ๆ เที่ยว แบบหมั่นเพียร
    ดูจนแยกได้และเห็นเท่าทันการเกิดดับของสิ่งที่เข้ามาประกอบใจ เห็นชัดขณะกำลังเข้ามาประกอบ เห็นชัดเวลาเกิดอาการชอบไม่ชอบหรือเฉย ๆ ตามมา
    จนที่สุดจะเกิดความรู้อย่างหนึ่งแวบเข้ามาเหมือนมีแสงสว่าง หรือเหมือนกับเข้าใจอะไรที่ถึงที่สุด นั่นคือความเข้าใจเรื่องใจของเรา
    ว่ามีความเป็นเอกเทศ เห็นถึงใจของเราตอนยังไม่บรรลุธรรมคือจะเวียนไปตามสิ่งที่เข้ามาประกอบกับใจไม่รู้จักจบจักสิ้น ไม่มีวันหยุดไม่มีภพชาติที่สิ้นสุด
    แล้วค่อยย้อนมาทบทวนดู เราจะเข้าใจเรื่องสักกายะทิฏฐิ เรื่องการประพฤติในศีล และเรื่องความสงสัยในสังสารวัฏ
    พอความเข้าใจในสัมมาทิฏฐิเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว ความทุกข์ทั้งหลายจะห่างไกลได้อย่างน่าอัศจรรย์ทีเดียวครับ
     
  7. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    เพราะรู้ เพราะเห็น จึงเป็นทุกข์ และเหตุแห่งทุกข์นี้เอง ทำให้รู้สึกว่าทุกสิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวเราเอง ทำให้เราต้องตกอยู่ในพันธนาการของสิ่งเหล่านี้ จะทำอย่างไรดี จะวางก็ยังวางไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ จะทิ้งก็ทิ้งไม่ได้เพราะต้องรับผิดชอบ เบื่อหน่ายก็ต้องทนไป พอนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ทีไรน้ำตาไหลทุกที ทำไมหนอ
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** พระพุทธเจ้าสอน ****

    พระพุทธเจ้า สอนเรื่อง... "หนทางหลุดพ้นทุกข์"
    จึงต้องให้รู้ หลักเดียวที่ปักไว้มั่นคงคู่โลกนี้....คือ "หลักสัจจะธรรม"
    รู้ว่า...ตัวกระทำมีจริง ตัวกระทำไม่ตาย ตัวกระทำมีผลตอบแทน
    รู้ว่า....ตัวกระทำ คือผู้จัดสรรให้เกิดใหม่ เป็น มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ บนโลก
    รู้ว่า...นิสัยสันดาน ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ก่อให้เกิดการกระทำ เป็นกรรมตามมา
    รู้ว่า....รู้ว่าเมื่อหมดนิสัยสันดาน ตัวกระทำที่ทำได้ทั้งหมดจะจัดสรรให้ ไม่ต้องมาเกิดใหม่บนโลก
    รู้ว่า... "สัจจะ" คือผู้นำให้เกิดการกระทำใหม่ๆ ในชีวิต
    รู้ว่า...."สัจจะ" สามารถใช้ปฏิบัติขจัดนิสัยสันดานให้หมดไปได้จริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    หากเข้าใจคำสอนของพระพุทธองค์ตรงทางเมื่อไหร่

    จะเห็นเลยว่า ที่พูดว่า ต้องทน นั้นเป็นเพราะเรายึดสุขอยู่ ไม่ได้ปล่อย
    วางตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์ตรงตามความเป็นจริง

    หากความเบื่อ ความทน เกิดขึ้นโดยมีภาพ ว่างจากสิ่งหนึ่งแต่ยังคว้าอีก
    สิ่งหนึ่ง ว่างจากความไม่เอาแต่ยังรักสุขสงบ ว่างจากสุขสงบแต่เอา
    แต่เห็นทุกข์ เหล่านี้ล้วนไม่ใช่ทาง "ละ" ที่พระพุทธองค์ตรัส

    การ ละ ที่พระพุทธองค์ตรัส จะเป็นการ ละ ที่ไม่ใช่เลือกสิ่งหนึ่ง เพื่อไป
    เอาอีกสิ่งหนึ่ง แต่เป็นการละความถือตัวตนหนึ่งเดียวนี้โดยบริบูรณ์ทั้ง
    กายและใจด้วยปัญญาอันยิ่ง เหตุนั้นจึงมีตัวตนที่เอื้ออนุเคราะห์ให้กับ
    โลกได้อย่างมหากรุณา

    ทางนั้นเห็นยาก แต่ใช่ว่าท่านจะไม่ชี้ไว้

    ทางนั้นท่านชี้ไว้ ใช่ว่าจะอ่านแล้วเข้าใจเอาได้

    สิ่งที่ต้องทำคือ ปฏิบัติบูชาให้สมควรแก่ธรรม

    [​IMG][​IMG][​IMG]
     
  10. amm.

    amm. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +613
    เพราะรู้ เพราะเห็น จึงเป็นทุกข์ และเหตุแห่งทุกข์นี้เอง ทำให้รู้สึกว่าทุกสิ่งที่อยู่ล้อมรอบตัวเราเอง ทำให้เราต้องตกอยู่ในพันธนาการของสิ่งเหล่านี้ จะทำอย่างไรดี จะวางก็ยังวางไม่ได้เพราะเป็นหน้าที่ จะทิ้งก็ทิ้งไม่ได้เพราะต้องรับผิดชอบ เบื่อหน่ายก็ต้องทนไป พอนึกถึงคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ทีไรน้ำตาไหลทุกที ทำไมหนอ
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    ผู้มีปัญญาย่อมหาวิธีดับทุกข์ได้
    รู้จริงเห็นจริงจะไม่ทุกข์...เพราะจะรู้เหตุแห่งทุกข์นั้นและจะรับสภาพกับมันได้...อีกทั้งยังจะพบทางเดินที่จะพ้นจากทุกข์นั้นโดยความสงบ...ไม่ทุรนทุราย...อึดอัดกับสภาพที่เป็น...จิตจะค่อยๆปรับไปอย่างละเอียดโดยเราแทบจะไม่รู้สึกอัดอั้นเลย...
    หากแต่ที่เรารู้สึกกันนั้นเนื่องจากเป็นขั้นตอนของจิตที่รู้แล้วแต่วางใจรับสภาพกับปัจจุบันไม่ได้จึงเกิดทุกข์ขึ้นมา...
    ควรฝึกให้ใจสงบให้มากขึ้นไปอีก...เพื่อให้จิตหาทางปรับสภาพเอง...โดยเราต้องใช้การพิจารณาเข้ามาเพิ่มเติม...รับสิ่งใดเข้ามาให้พิจารณาให้เห็นสิ่งนั้นจนใจเราสงบจึงวางมันลง...การละวางไม่ใช่การละทิ้งหน้าที่...เราทุกคนมีหน้าที่ของตนเอง...ตามแต่กรรมที่เราสร้างมา...แต่การละวางในที่นี้หมายถึงการละวางความทุกข์ใจต่างๆที่เกิดขึ้น...
    บางคนทำนาตากแดดทั้งวัน...แต่ทำไมเขาจึงยังยิ้มมีความสุขได้....
    <!-- / sig -->
     
  11. MrBean

    MrBean สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +0
    ทุกคนล้วนเกิดมาตามกรรม มีกรรมเป็นของ ๆ ตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

    ที่เราต้องอยู่ไปและรายรอบไปด้วยบุคคล(สัตว์,สิ่งของ)นั้นเกิดมาจากผลกรรมในอดีตทั้งนั้น คือการกระทำที่ได้กระทำไว้แล้วในอดีต
    เมื่อมีการกระทำเอาไว้ ผลจึงต้องเกิดมีขึ้นตามมาอย่างหลีกเลี่ยงได้ยากครับ

    อยากให้เข้าใจไว้ก่อนว่า การที่เราเกิดมาในโลกนี้ ทุกคนล้วนต้องรายรอบไปด้วยผู้คนมากมายเพราะเราเป็นสัตว์สังคม
    และคนที่อยู่รอบตัวเราล้วนแต่เป็นปุถุชนคนหลงแทบทั้งสิ้น
    ดังนั้นคนเหล่านั้น ย่อมจะทำไปตามกิเลศที่ชักนำให้พวกเขากระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เขาทั้งหลายต้องการทั้งสิ้น
    โดยสิ่งเหล่านั้นอาจถูกใจเราหรืออาจไม่ถูกใจเราก็ได้ แต่แน่นอนว่าต้องถูกใจของเขาแน่เขาจึงทำแบบนั้น
    นั่นคือปุถุชนจะยึดเอาตามกิเลศของตนเองเป็นหลัก ถ้าถูกใจของตนแล้วเป็นถูกต้องทั้งนั้นครับ
    อันนีเป็นโลกแห่งความเป็นจริง เป็นโลกที่เราต้องมาอยู่อาศัยเมื่อเราต้องเวียนมาเกิดในโลก หลายคนจึงเบื่อหน่ายกับการที่ต้องมาเกิดคลุกคลีกับดวงจิตเหล่านี้

    เหตุแห่งทุกข์ที่คุณเล่ามา ผมเข้าใจว่าเป็นเหตุภายนอก เป็นเหตุที่เปลี่ยนแปลงได้ยากครับ พระพุทธองค์จึงทรงเมตตาชี้ทางไว้ในมงคลข้อแรกว่า อเสวนา จ พาลานัง คืือเลือกที่จะไม่คบคนพาล
    แต่ก็ไม่ได้หมายถึงรอบตัวเราเป็นคนพาลทุกคนนะครับ บางทีก็เป็นบุตร สามี ภรรยา บิดามารดา แต่อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ล้วนเป็นปุถุชนคนหลงแทบทั้งสิ้น

    เหตุแห่งทุกข์อีกอย่างหนึ่งก็คือ เหตุจากภายในครับ อันนี้มีความสำคัญมากกว่าเหตุจากภายนอก
    เหตุจากภายใจ เป็นกระบวนการประมวลผลจากประสบการณ์หรือสิ่งที่อยู่ภายในใจของเราเอง โดยมีอคติความลำเอียงเข้ามาเป็นผู้ร่วมพิจารณาด้วยเสมอ
    เพราะผลที่ได้จะได้ออกมาตามที่ใจของเราต้องการ

    เหตุจากภายนอกเป็นสิ่งที่กำจัดออกไปได้ยาก เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ชิด ไม่สามารถปล่อยไว้ตามยถากรรมได้ แต่เหตุจากภายในนั้นเกิดจากกระบวนการจิตของเราเอง ซึ่งถ้ารู้ทาง จะพ้นจากทุกข์ได้ครับ

    การปฏิบัติธรรม กับการทำหน้าที่นั้นเป็นสิ่งเดียวกันครับ แต่บางคนโชคดี ที่เหตุรอบตัวหรือกรรมเก่าไม่ส่งผลมาก แต่บางคนก็โชคไม่ดี เพราะผลจากเหตุที่ทำไว้สาหัสสากันพอสมควร

    อยากให้ทราบว่า เรามีชีวิตวันนี้เพื่อวันที่ลมหายใจสุดท้ายมาเยือน
    ในขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่ให้พึงกระทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้อื่นและต่อจิตใจของตนเอง

    สิ่งที่อยู่รอบตัวเรานั้น ลองจัดแจงแยกแยะดูครับ ว่าสิ่งใดเราหลีกเลี่ยงได้ สิ่งใดเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งที่หลีกเลี่ยงได้คงหมดปัญหาได้ไม่ยาก ส่วนสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ได้ ควรต้องเรียนรู้ว่าจะอยู่ด้วยอย่างไรจึงไม่นำความทุกข์มาให้ครับ
     
  12. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ก็ใครเขาไปผูกเธอไว้

    ไป"ไป๊ โลกอุดร
     
  13. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256

    ถ้าข้าพเจ้าไปโลกอุดร จะได้เจอกับท่านหรือเปล่า ถ้าไม่เจอกับท่านก็ยังไม่ไปน๊ะ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    rabbit_scary
     
  15. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515

    พระพุทธเจ้าไง หลุดพ้นแล้ว
    กับพระสังฆเจ้าไง ก็พ้นแล้ว
    พ้นโดยพระธรรมเจ้าที่พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้
    คำตอบ จาก
    ใครหาทางหลุดพ้นได้แล้วบ้างช่วยแนะนำที
    คุณมาถูกทางแล้ว
    เยี่ยมมากเลย
    คุณมีบุญมากสั่งสมมาทางนี้อยู่แล้ว
    ก็เพียรต่อไป อย่างมีสติปัญญากำกับ
    แสงสว่างใดเสมอด้วยปัญญาไม่มี
    ขออนุโมทนาด้วย
    ขออธิษฐานให้คุณ และเราด้วย เห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามจริงเถิด อย่ามีเมฆหมอกมัว ปิดบังเขดขวางลยสาธุ
     
  16. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    ขอบพระคุณทุกท่านที่เมตตาสั่งสอน ข้าพเจ้ารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดดับแค่เพียง
    กระพริบตา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปได้ แล้วทำไมใจเราถึงต้องไปยึดเกราะเอาไว้ให้หนัก ปล่อยให้เป็นไปตามสภาวะที่ควรเป็น ใช่ไหมค่ะ แต่ที่ไม่ควรจะขาดเลยก็คือการพิจารณาในสภาวะที่เกิด พยายามดู พยามเห็น ไปเป็นไปตามไตรลักษณ์ใช่ไหมค่ะ แล้วเราก็จะปล่อยไปทีละอย่าง เมื่อใจเราเบา กายเราก็จะเบา ใช่ไหมค่ะ ตอนนี้รู้สึกได้ถึงคำว่านี่แหละสุขใจจัง
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ดีแล้วครับ เวลาสุขใจ ก็สังเกตุ สุขใจไปด้วยล่ะ สังเกตุไปเรื่อยๆครับ
     
  18. ..กลับตัวกลับใจ..

    ..กลับตัวกลับใจ.. Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +96
    ...(sing)...
     
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +29,753
    <div style="width:300px;"><object width="300" height="110"><param name="movie" value="http://media.imeem.com/m/7IC2hNkqeb"></param><param name="wmode" value="transparent"></param><embed src="http://media.imeem.com/m/7IC2hNkqeb" type="application/x-shockwave-flash" width="300" height="110" wmode="transparent"></embed></object><div style="background-color:#E6E6E6;padding:1px;"><div style="float:left;padding:4px 4px 0 0;"><a href="http://www.imeem.com/"><img src="http://www.imeem.com/embedsearch/E6E6E6/" border="0" /></a></div><form method="post" action="http://www.imeem.com/embedsearch/" style="margin:0;padding:0;"><input type="text" name="EmbedSearchBox" /><input type="submit" value="Search" style="font-size:12px;" /><div style="padding-top:3px;"><a href="http://www.imeem.com/ads/banneradclick.ashx?ep=0&ek=7IC2hNkqeb" rel="nofollow"><img src="http://www.imeem.com/ads/bannerad/152/10/" border="0" /></a><a href="http://www.imeem.com/ads/banneradclick.ashx?ep=1&ek=7IC2hNkqeb" rel="nofollow"><img src="http://www.imeem.com/ads/bannerad/153/10/" border="0" /></a><a href="http://www.imeem.com/ads/banneradclick.ashx?ep=2&ek=7IC2hNkqeb" rel="nofollow"><img src="http://www.imeem.com/ads/bannerad/154/10/" border="0" /></a><a href="http://www.imeem.com/ads/banneradclick.ashx?ep=3&ek=7IC2hNkqeb" rel="nofollow" ><img src="http://www.imeem.com/ads/bannerad/155/10/7IC2hNkqeb/" border="0" /></a></div></form></div></div><br/><a href="http://www.imeem.com/glaibarn/music/rgZ-Dro4//">ทะเลใจ - นรีกระจ่าง คันธมาส</a>

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    เหมือนชีวิตได้ผ่านเลยวัยแห่งความฝัน
    วันที่ผ่านมาไร้จุดหมาย
    ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ
    เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน

    เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา
    ตัวเป็นของเราใจของใคร
    มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย
    คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน

    + คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว
    คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
    ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์
    อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น

    ++ คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน
    คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
    ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก
    พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ

    +++ ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย
    ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
    ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
    หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข

    + / ++ / +++


    ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ
    หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มีนาคม 2009
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็เจ้าของกระทู้ตั้งชื่อกระทู้ ก็บอกวิธีอยู่แล้วในตัว

    บอกอย่างไร ก็คำว่า หลุดพ้น นั่นแหละคือ วิธี

    เวลาเราถูกอะไรมัดไว้ จะหลุดพ้น มันก็ต้องดิ้น ถ้าเชือกมันมัดแน่นก็อาจจะต้องหาอะไรมาตัด หรือ บางทีรู้ปมเงื่อนว่าอยู่ตรงไหนก็กระตุกคลายปมเงื่อนทีเดียว

    การหลุดพ้น นั้น ธรรมดาเราก็ไม่ได้โดนมัดไว้ตลอดเวลาหรอก

    แต่เวลาโดนมัด เราก็ต้องหาทาง เพื่อที่จะออกจากพันธนาการนั้น


    ก็ลองดูว่า ถ้าจิตใจ ถูกตรึงกับสิ่งใด นั่นแหละโดนพันธนาการ การหลุดพ้น มีอยุ่ทางเดียวจริงๆคือ อย่าไปเอามันมาไว้ในใจเรา วางมัน ปล่อยมันไป
    นั่นแหละ ใครปล่อยวางได้ทุกอย่าง ก็คือ หลุดพ้นจริงๆ

    แต่ทั้งนี้ จิตใจที่กว่าจะทำได้แบบนั้น เป็นเรื่องที่ น้องจะต้องไปศึกษาและหาวิธี เพื่อที่จะได้วาง ปล่อย และ ไม่เอามาไว้ในเรา

    ซึ่งพระพุทธองค์ ได้วางวิธีไว้แล้ว คือ ต้องศึกษา ศีล สมาธิ และ ปัญญาให้ดี ว่าจะพัฒนาอย่างไร
     

แชร์หน้านี้

Loading...