ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย คุณสนุก, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    สวัสดีค่ะพี่รุ่ง ...
     
  2. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    พุทธวิธีในการเพิ่มบุญบารมีให้ตัวเอง

    บุญบารมีนั้น เป็นพลังที่มีอำนาจที่เกิดในทางที่ดีเท่านั้น ได้แก่ คุณธรรม จริยธรรม ที่ได้กระทำ หรือบำเพ็ญกันมาอย่างยาวนานมากพอ ซึ่งเราต้องทำของเราเอง ใครอยากได้ก็ต้องทำเอาบำเพ็ญเอา เช่น การที่เราก้มลงกราบพระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย นั้น ก็เป็นบุญอย่างหนึ่ง ที่ได้เคารพนบนอบต่อ พระรัตนตรัย เคารพต่อในสิ่งที่ดี เป็นต้น
    การที่เราได้มีโอกาสเกิดมา และ เติบโตขึ้น เป็นเพราะ ในตัวของแต่ละคนมีบุญบารมีอยู่ที่ช่วยเกื้อหนุนให้มีความสุขและดำรงตนอยู่ได้ ไม่เช่นนั้นเราก็ไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ และที่เราเป็นมนุษย์และยังมีความสุขน้อยอยู่ก็เพราะ มีบุญน้อย จิตหรือ กายทิพย์ยังไม่ผ่องใส จึงไม่มีพลังพอที่จะดึงดูดสิ่งดี ๆอื่น ๆเข้ามาช่วยเสริมสร้างชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
    การทำบุญ ทำความดี นั่นเอง จึงเป็น สิ่งที่เราต้องทำก่อน ที่เราจะเข้าหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สิ่งที่เป็นสิริมงคล จึงจะมีพลังอำนาจมาคอยเกื้อหนุนเราให้เราประสบความสำเร็จและโชคดี ดังนั้นก่อนจะเข้าหาสิ่งที่เป็นสิริมงคลในชีวิต ขอให้เราสร้างคุณความดีให้มากพอ ดังวิธีการต่อไปนี้

    1. ละความโกรธ
    การที่เรามีความโกรธครอบงำในจิตใจ มันก็ทำให้จิตขุ่นมัวแล้ว ทีนี้ พอจะทำอะไรเราก็ไม่สามารถจะทำได้ดีกว่า ตอนที่จิตใจยังเป็นปกติ หรือ ตอนที่มีความสุข เราสามารถทำเรื่องเล็ก ๆให้เป็นเรื่องใหญ่ ได้ ทำให้เพื่อนกลายเป็นศัตรูได้ เมื่อโกรธขึ้นมาแล้ว แทนที่จะได้เจอเรื่องดี ๆ กลับกลายเป็นว่า แม้แต่เรื่องปกติ ก็ทำให้เราเห็นว่าเป็นเรื่องไม่ดีได้
    และความโกรธนี้เอง เป็นต้นเหตุให้เกิด กิเลสอย่างอื่น ๆขึ้นมาอีกได้แก่ ความอิจฉาริษยา คือ จะมองเห็นคนอื่นเป็นศัตรูไปเสียหมด เห็นใครทำอะไรได้ดี ก็จะรู้สึกเป็นทุกข์ร้อน กระวนกระวายไม่ต่างจากไฟเผาตัว
    แล้วอย่างนี้ จะให้เกิดความเป็นสิริมงคลอย่างไรกับชีวิตได้
    การฝึกให้ตนเป็นคนไม่โกรธ คือ พยายาม นิ่ง ไว้ เมื่อเจอเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนอารมณ์จิตใจ พยายามหลับตา ปิดปากไว้ แล้วหนีไปให้ไกลจากสาเหตุที่ทำให้เกิดความโกรธ แล้วผ่อนคลายมันด้วยการนอนหรือ นั่งนิ่ง ๆ สักพักเสมือนเป็นการใช้เวลาเป็น น้ำ ที่คอยดับ โทสะ ในจิตใจให้ดับลง เมื่อทำได้บ่อย ๆแล้วก็ ขอให้ “ฝึกนั่งสมาธิ” ในจิตใจอยู่นิ่ง เมื่อจิตอยู่นิ่ง ๆ บ่อย ๆ เมื่อมีอะไรมาสั่นไหวก็จะไม่ไหวตามมันได้ง่าย ๆ เพราะ จิตได้รับการฝึกฝนมาดีแล้ว เหมือน เสาที่ถูกตอกลึกลงไปให้อยู่นิ่ง และคอยกล่าวเตือนสติตัวเองไว้เสมอว่า “ โกรธเป็นบาป ริษยาก็ เป็นความทุกข์ ไม่มีประโยชน์อันใดสักนิดที่เราจะโกรธ และมันช่วยแก้ปัญหาอะไรไม่ได้”

    2. ละความโลภ
    ความโลภ ก็เป็นสิ่งบดบังจิตให้ไม่ผ่องใส เช่นเดียวกัน คือ มีความอยากอยู่ตลอดเวลา อยากได้ และ พอได้มาแล้ว ก็อยากได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ต้องเหนื่อยต้องดิ้นรนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่ต้องการไม่มีที่สิ้นสุด
    ความโลภ ยังผลให้เกิด กิเลส ข้อหนึ่งตามมาคือ ความตระหนี่ คือ จะทำให้มีนิสัยมักเก็บทรัพย์สินเงินทองเอาไว้กับตัวมาก ๆ ไม่เลือกวิธี ขอให้ได้ทรัพย์สินนั้นมาแม้ต้องโกงต้องฆ่า ต้องทำลาย ก็ยอม ขอเพียงให้มีเงินมีทองร่ำรวยกว่าคนอื่น ๆ เท่านั้น
    กิเลส ข้อที่ตามมาอีกอย่างคือ ทำให้ เรา กลายเป็นคนที่มี ความปรารถนาในสิ่งที่ชั่วช้าได้ง่าย คือเรียกได้ว่า มีจิตใจเป็น ลามก คือ ปรารถนาจะได้ลาภลอย ๆ โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย ปรารถนายศศักดิ์ที่เกินกำลังความสามารถ ปรารถนาให้ผู้อื่นไม่ได้ดีไปกว่า และ ปรารถนาที่จะทำชั่วเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
    การละความโลภในจิตใจ ฝึกได้ชำระได้ ด้วยการ “ให้” ในทางธรรม ก็หมายถึง การรู้จัก ให้ทานเมื่อรู้จักให้ทานบ่อย ๆ ก็จะทำให้ไม่รู้สึกเสียดาย เช่นการทำบุญด้วย วัตถุทาน อย่างการตักบาตร การถวายสังฆทาน จนพัฒนาไปเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้นอย่าง การสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณะประโยชน์ อย่าง ห้องน้ำ สาธารณะ สร้างศาลา ทำถนนหนทาง ไปจนถึงการ สร้าง ศาสนาสถาน อย่างโบสถ์ วัด วิหาร ให้เหล่า พระสงฆ์ใช้ประกอบศาสนกิจ
    เมื่อฝึกการให้ทานทางวัตถุได้มากเข้าบ่อย ๆ ก็จะสามารถให้ ทานอีกอย่าง หนึ่ง คือ ทานทางจิตได้ ที่ เรียกว่า “อภัยทาน” คือ นอกจากจะไม่โกรธแล้ว ยังมอบ การให้อภัย เป็นของตอบแทนเขาอีก เป็นการอโหสิกรรม คือ ไม่ให้ต้องมาเกี่ยวพันเป็นเวรกรรมกันอีกต่อไป ซึ่งใน ทางพระพุทธศาสนาแล้ว ถือเป็น การบำเพ็ญทานบารมี ขั้นสูงสุด

    3. ละความหลง
    การละความหลง คือ การไม่หลบหลู่ และให้ความเคารพในสิ่งที่สมควร ความหลงนั่นคือ สิ่งที่เรียกว่า เป็น อัตตา เป็นการยึดมั่นถือมั่นในตัวตนของเราเอง ว่า เรานี้ดี เก่งโดยไม่ได้ย้อนมองตัวเองว่า คนที่เก่งกว่า ดีกว่าเรา นั้นยังมีอยู่มากมาย
    การที่เราเป็นคนหลงในตน ก็จะทำให้พึงมีนิสัย มักอวดไปด้วย มีทิฎฐิมานะสูง ชอบอวดทรัพย์สินมีค่า เครื่องแต่งกายเครื่องประดับไปจนถึง อวดในเรื่อง ความรู้ ภูมิรู้ที่มีอยู่ในตนจนบดบังปัญญาเสียสิ้น
    คนที่ไม่สามารถละความหลงในตนได้ ก็จะไม่เจริญรุ่งเรื่อง หาสิ่งที่ดีใส่ตัวไม่ได้ ไม่เจริญก้าวหน้า เพราะมักดูหมิ่นดูแคลนในความสามารถคนอื่น แม้จะมีความรู้แต่ก็ไม่อาจนำไปใช้อยู่ร่วมกันกับคนอื่น เพราะคิดว่ารู้มาก ( แต่ที่จริงแล้ว ก็รู้เท่าที่ตนเองรู้)ไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่สำเร็จสักอย่าง และร่วมงานกับใคร ๆก็ไม่ได้
    บางคน ก็ หลง อยู่กับสิ่งอื่น ๆ เช่น หลงใหลในความสวยงามแห่งรูป เช่น ได้พบกับคนที่หน้าตาดี รูปร่างดีก็หลงละเมอ สูญเสียความเป็นตัวตนของตนเอง พยายามเอาชนะใจเขาหรือเธอและอยากได้มาครอบครอง จนทำให้หลงผิดทำได้ แม้แต่ทำความผิดเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง อย่างนี้ ก็เป็นความหลงเช่นกัน
    ความหลงที่อันตรายร้ายแรงที่สุด คือ การ “หลงผิดในความคิด” คือ การเห็นผิดเป็นชอบ ดังที่ปรากฏอยู่ใน พระไตรปิฎก ขุททุกนิกาย มหานิเทศ เล่มที่ 29 ข้อที่ 74 ความว่า
    1. เห็นว่า ทานที่ให้แล้วไม่มีผล
    2. เห็นว่า ยัญที่บูชาแล้ว ไม่มีผล
    3. เห็นว่า การเซ่นสรวง ไม่มีผล
    4. เห็นว่า วิบากกรรมของกรรมดีและกรรมชั่ว ไม่มี
    5. เห็นว่า โลกนี้ ไม่มี
    6. เห็นว่า โลกหน้า ก็ไม่มี
    7. เห็นว่า พระคุณมารดาไม่มี
    8. เห็นว่า พระคุณ บิดา ไม่มี
    9. เห็นว่า สัตว์เป็น โอปปาติกะ( สิ่งที่เกิดจากอากาศ และโตเต็มวัยทันที) ไม่มี
    10. เห็นว่า สมณะ ผู้ปฎิบัติดีปฏิบัติชอบ รู้แจ้งเห็นจริงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ด้วยตนเอง และสอนผู้อื่นให้รู้ตามให้รู้แจ้งนั้น ไม่มีในโลก ( พระพุทธเจ้า)
    เมื่อโกรธ ความโกรธจะทำให้ให้ไร้สติ ใบหน้าบูดบึ้งผิวพรรณไม่สวยงาม หยาบกร้านแข็งกระด้าง ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ เมื่อริษยาผู้อื่น ความริษยาก็จะทำให้เราไม่ได้ในสิ่งที่เราต้องการ ซ้ำยังเป็นทุกข์หนักเพิ่มขึ้นอีกด้วย เมื่อเกิดความตระหนี่ ความตระหนี่จะบดบังปัญญา สมบัติที่หวังไว้ก็จะสูญหาย เมื่อมักอวด ก็จะมีแต่คนไม่อยากคบค้าสมาคม และไม่สามารถแนะนำสิ่งที่ถูกต้องได้ตามความเป็นจริง เมื่อ มีจิตใจปรารถนาชั่วช้า ลามก การปรารถนานั้น

    ก็จะทำให้เราไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้ เหลือแต่สิ่งที่ไม่ควรตกมาถึงมือเรา
    และ สุดท้ายที่อันตรายที่สุด เมื่อหลงผิดเห็นผิดแล้ว ความเห็นผิดจะปิดกั้นเราจาก ทำนองคลองธรรมทั้งหมด ปิดกั้นความดีงาม ปิดกั้นทุกสิ่งที่ดี ๆไม่ให้เข้ามาในชีวิต แล้วทีนี้ ก็อย่าได้ถวิลหา ว่าอะไรจะเป็น สิริมงคลแก่เราเลย เพราะ ตัวเรา จิตของเรา ไม่เป็น กุศล เสียแล้ว แม้จะไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไหว้พระ แค่ไหนก็ไม่บังเกิดผล ไหว้ก็จะไหว้แต่มือเท่านั้น ใจไม่ไหว้ด้วย
    การแก้ ความหลงนั้น จึงเป็น เรื่องที่ ยากเย็นที่สุด สำหรับ คนเรา แม้แต่ในพระอริยสงฆ์ก็ยังตัดกิเลสที่ชื่อว่าความหลง ( โมหะ) ได้เป็นอย่างสุดท้ายกว่าจะบรรลุได้เป็นถึง พระอรหันต์ ซึ่งต้องอาศัยการบำเพ็ญบุญสูงสุด ด้วยการ การเจริญวิปัสสนา ให้เกิดปัญญา
    การเจริญวิปัสสนาให้ได้ผล ก็ต่อเมื่อ เราได้ ฝึก สมาธิ เพื่อระงับกิเลสสองอย่างแรก คือความโกรธและความโลภ เมื่อจิตใจนิ่งสงบเป็นบาทฐานแล้ว จึงจะเจริญวิปัสสนาให้เกิดปัญญาได้
     
  3. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    เคล็ดเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไปสักการะ

    ตุลาคม 3, 2012 โดย ธ. ธรรมรักษ์
    [​IMG]เรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น เชื่อว่าหลายคนคงสัมผัสถึงอำนาจและพลังมหาศาลที่ตาของคนนั้นไม่มีทางมองเห็น แต่สัมผัสได้ด้วยความรู้สึกที่ลึกอยู่ข้างในจิตใจ

    ในโลกมนุษย์นั้น ยังมีอะไรอีกมากมายที่คนไม่รู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีจริง
    เมื่อเราได้ไปอยู่ในสถานที่สำคัญ ที่เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นของพรหม เทพเทวา หรือดวงจิตวิญญาณการสัมผัสนั้นอาจจะเป็นในรูปแบบของความปิติยินดี ความเย็นกายสบายใจ หรือขนลุกซู่ น้ำตาไหลโดยไม่ทราบสาเหตุ ในทุกสถานที่สำคัญที่มีคนมาทำบุญกันนั้น ล้วนมีเหล่าเทพเทวามาร่วมอนุโมทนาในบุญนั้นด้วยเสมอ
    มีทั้งที่อยู่ประจำสถานที่นั้นหรือได้รับการอัญเชิญมาร่วมอนุโมทนาบุญที่มนุษย์นั้นสร้างบุญใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างวิหาร อุโบสถ ฝังลูกนิมิต สร้างพระพุทธรูป การทอดกฐิน ทอดผ้าป่า หรือแม้กระทั่งการทำสังฆทาน
    โดยเฉพาะในเขตพุทธสถานหรือวัดวาอารามต่างๆ นั้น ล้วนมีปวงเทพเทวา และผู้สร้าง ผู้ทำนุบำรุงวัดนั้น คอยปกป้องคุมครองวัดนั้นอยู่แน่นอน เป็นการดีหรือไม่หากเรามีโอกาสไปทำบุญและอุทิศเชื่อมบุญกับท่านเหล่านั้น และขออนุโมทนามีส่วนร่วมในบุญของท่าน ที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา
    เพราะที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นมีการสร้างบุญตลอดเวลา ยิ่งเป็นวัดวาอาราม เป็นพระพุทธรูปที่มีอายุหลายร้อยปี ก็จะยิ่งมีกองบุญใหญ่แน่นอนเพราะตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีคนไปทำบุญมากมายมหาศาลในแต่ละวัน
    ในอดีตนั้นเวลาที่ครูบาอาจารย์ท่านจะไปสร้างหรือบูรณปฏิสังขรณ์วัดนั้น ถ้าท่านรู้ว่าไม่มีการเชื่อมบุญกันมาก่อน เป็นการสร้างบุญใหม่ท่านจะทำการอธิษฐาน ขอมีส่วนในกองบุญของวัดนั้นก่อนเสมอ เพื่อให้การทำงานนั้นลุล่วง
    หรือเรียกง่ายๆ ก็ขอให้มีบุญเพิ่มมากขึ้นเสียก่อน อัญเชิญปวงเทพเทวาที่คุ้มครองวัดนั้น ให้ท่านเมตตาส่งบุญมาช่วยให้งานนั้นสำเร็จได้โดยง่าย
    ดังเช่นครูบาศรีวิชัยเจ้า ตนบุญผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ที่เป็นประธานในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอารามกว่า 200 วัดและถนนที่ขึ้นดอยสุเทพที่รู้จักกันดีทั่วเมืองไทย ก่อนเวลาที่ท่านจะทำการก่อสร้างท่านต้องมีการเสี่ยงทายและดูว่าบุญของท่านว่าเชื่อมกับสถานที่แห่งนั้นหรือไม่ ถ้ามีบุญท่านก็จะทำการบรวงสรวงเทพเทวา เพื่อเชื่อมบุญกันให้งานนั้นสำเร็จได้โดยง่าย
    ซึ่งในเรื่องการเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น ครูบาอาจารย์ท่านรู้ดีเกือบทุกท่านตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ลำพังพระสงฆ์รูปเดียวนั้น จะมีบุญพอหรือไม่ที่สร้างพระวิหาร อุโบสถใหญ่โต ต้องใช้เงินสร้างเป็นร้อยๆ ล้าน ท่านจะเอาเงิน เอาบุญที่ไหนมาทำให้สำเร็จ นอกจากการรวมกองบุญจากคณะผู้มีศรัทธา ที่มีการเชื่อมบุญกันไว้อาจจะตั้งแต่อดีตชาติที่ผ่านมา ถึงแม้ชาตินี้จะอยู่กันไกลแสนไกลด้วยวิบากกรรมของแต่ละคนที่ทำไว้
    ด้วยอำนาจและพลังจากปวงเทพเทวาที่ดลใจให้คนจากทั่วสารทิศมาร่วมกันสร้างบุญ บางคนอยู่ไกลถึงต่างประเทศ เมื่อปวงเทพเทวาท่านดลใจให้รับรู้ รับทราบการสร้างบุญ ก็มาร่วมกันสร้างให้สำเร็จ
    เป็นเรื่องจริงเป็นอย่างยิ่งว่า คนที่เคยร่วมบุญกันมาตั้งแต่อดีต เมื่อถึงเวลาก็จะกลับมาช่วยกันสร้างบุญใหม่ร่วมกันอีก เพราะสายใยแห่งบุญนั้นจะดึงกลับมา หรือจากแรงอธิษฐานที่เคยกล่าวสัจจะวาจาอฐิษฐานไว้ในอดีตชาติ

    การเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้น นอกจากเราจะได้บุญเพิ่มแล้ว เรายังมีโอกาสมาสร้างบุญใหม่ให้หนุนนำชีวิตให้พบความสุขอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดอีกสักกี่ชาติก็ตาม

    จากหนังสือเรื่อง ปาฏิหาริย์แก้ “ดวงตก” โดย ชำนาญ การวิเศษ
    อ้างอิงที่มา

    เคล็ดเชื่อมบุญกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไปสักการะ

    พี่ล้างใจ อ่านตาลายอีกครั้งค่ะ...:d
     
  4. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459
    ส๊งขลา ใกล้ ๆ บ้านผมเรยนิ๊
     
  5. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=41fDZQtQkRs]เพลงเสน่ห์สงขลา - YouTube[/ame]
     
  6. nuanhadyai@hotmail

    nuanhadyai@hotmail เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    8,545
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +25,204
    นิคมเทพา น่ากลัวหรือเปล่าน้องภัทร วันเสาร์พี่ไปนาทวี อาจจะเลยไปเทพา...
     
  7. phattharaphong

    phattharaphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    758
    ค่าพลัง:
    +11,459
    สบาย ๆ (k)
     
  8. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    กราบหลวงปู่ที่เคารพครับ
    อรุณสวัสดิ์ครับผม
    ซำบายดีนะครับพี่น้อง:cool:
    :cool::cool:
     
  9. app.amulet

    app.amulet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ขอให้พี่ทำได้ตามดังที่ตั้งใจครับ

    การกระทำที่มุ่งหวังเมตตา ต่อผู้อื่น หวังดีต่อผู้อื่น ผมเชื่อว่าหลวงปู่ทวดท่านต้องช่วย และอนุโมทนาบุญด้วยแน่ ๆ ครับ
     
  10. พลศิริ

    พลศิริ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    7,978
    ค่าพลัง:
    +18,982
    เสี่ยครับ อาจารย์ให้ PM ไปบ่แม่นติครับ เสี่ยเล่นหน้ากระทู้เลยเหรอ:cool::cool::cool::cool:
     
  11. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • p111.jpg
      p111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      269.2 KB
      เปิดดู:
      128
    • p222.jpg
      p222.jpg
      ขนาดไฟล์:
      310.8 KB
      เปิดดู:
      123
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:***นั้น เดียวสิ้นเดือน นี้ ถ้าพวกเรามีเวลาเหลือ อาจ จะได้ไปกราบ
    พ่อท่าน วัดนิคมเทพา นะครับ คุณ นวล***
     
  13. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]


    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  14. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    ไม่มีหน้าม้า ไม่มีสแตนอิน ครับ. แสดงสด


    (บอกมาเลยครับอาจารย์. ว่าถูก). (k):cool::cool::cool:555
     
  15. ล้างใจ

    ล้างใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    7,268
    ค่าพลัง:
    +24,819
    วัตถุประสงค์จัดสร้าง เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้อิทธิวัตถุมงคลชั้นยอดไว้ใช้

    พระผงมหาว่าน พระอาจารย์ปาล ปาลธัมโม วัดดอนศาลา จ.พัทลุง ปี 2511:cool:


    เนื้อสวยอย่างแรงครับท่านอาจารย์. อยากส่อง (k)
     
  16. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799

    [​IMG]

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • m11.jpg
      m11.jpg
      ขนาดไฟล์:
      219.1 KB
      เปิดดู:
      170
    • m12.jpg
      m12.jpg
      ขนาดไฟล์:
      241.2 KB
      เปิดดู:
      182
  17. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799

    [​IMG]

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • n111.jpg
      n111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      257.2 KB
      เปิดดู:
      234
  18. จงอาง

    จงอาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +7,799
    [​IMG]

    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  19. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:***สวยมากครับ อ.จงอาง***
     
  20. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321

    :cool::cool::cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...