ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

กราบหลวงพ่อทวด
หวัดดีคุณนวล คุณล้างใจ อ.จงอางและเพื่อนๆทุกท่านขอหลวงพ่อทวดคุ้มครองทุกท่นครับ

 

สวัสดี น้อง tawanrise , น้องกำพล
สวัสดี เพื่อนๆ สมาชิก และลูกหลานสมเด็จ ทุกๆ คน ขอรับ​

 

อาจารย์ ซำบายดีนะครับ
งานคงจะลดลงแล้ว เวลาพักผ่อนคือจะมีเพิ่มขึ้นนะครับผม

 

สวัสดีครับ พี่พล ไม่ได้คุยกันนาน สบายดีไหมครับ

 

กราบหลวงปู่ทวดครับ.................
เอาบุญมาฝากครับวันนี้ผมและครอบครัวไปทำบุญตักบาตรที่วัดสันป่าสักวรอุไรธรรมารามครับ

 

​

 

องค์นี้ด้านหลังปั๊มหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ปัตตานี 2524 (เรียนถามอาจารย์จงจางปี๒๔ออกวัดช้างให้มีพิมพ์นี้ด้วยหรือเปล่าครับ)

 

ชมรมคนรักษ์พระเครื่องเมืองคอน
เผื่อท่านใดสนใจและได้ร่วมทำบุญด้วยครับ

 

สวัสดียามบ่ายค่ะ ทุกท่าน เสร็จภาระกิจจากงานประจำ.....
วันนี้ 15.30 น.จะนำสติกเกอร์หลวงพ่อทวด ไปวัดคลองพระยา
ต.บ้านพรุ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาค่ะ
เป็นวาระที่5 อธิษฐานจิตโดย พระมหาไพศาล ปสนฺนจตฺโต (เจ้าอาวาสวัดคลองพระยา)
(พระมหาไพศาลสอบถามว่า จะให้อธิษฐานจิตกี่วัน.....) แล้วแต่พระอาจารย์จะเมตตาค่ะ
แล้วจะนำภาพวัดมาให้ชมนะคะ...

 

กล่องวัตถุมงคล...ที่ไปรับกลับจากวัดโคกสมานคุณค่ะ
ซึ่งพระครูอาทรวรคุณ เลขานุการเจ้าคณะภาค ๑๘
ผู้ช่วยเลขาเจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง
เมตตาอธิษฐานจิตให้ ถึง 4 วัน
ซึ่งพระครูที่มีติตกิจนิมนต์ งานในหลายที่ค่ะ



วันที่ 26 กย. ไปรับกล่องวัตถุมงคล ไม่ได้ไปรับด้วยตนเอง ให้ทางบ้านไปรับให้ เพราะต้องเตรียมงาน วันที่ 27 กย.55 งานเกษียณของที่ทำงาน และพระครูอาทรวรคุณ ท่านก็มาทำพิธีในงานเกษียณของโรงพยาบาลด้วยค่ะ....
กราบอนุโมทนาบุญพระครูอาทรวรคุณค่ะ

 

เรื่องเล่าความฝันของคนบ้า
ก่อนอื่นต้องท้าวความเรื่องจริงก่อนไปอิงเรื่องฝัน เมื่อ2 ปีที่แล้วผมได้ไปวัดที่ อ.สวี จ.ชุมพร ผมขับรถไปให้พระอาจารย์เเดง วัดกรรมฐาน ท่านบอกจะไปกราบอาจารย์ท่านที่สวี ชื่อพ่อหลวงพ่อนวล ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ศรี มหาวีโร จ.ร้อยเอ็ด เคยธุดง กับหลวงปู่ด้วย และอยู่กับหลวงปู่10กว่าปี
แต่ท่านอาพาธ จีงกลับมาอยู่วัดบ้านเกิด(ธรรมยุต) ที่วัดศิษย์ยานุศิษย์สร้างห้องเป็นแก้วปลอดเชื้อให้ท่านจำวัดและรักษาพักฟื้น
ผมได้ไปกราบท่านพร้อมพระอาจารย์แดง ทราบมาว่าท่านเก่ง เหล่าพญานาคเอาแก้วมาถวายเพื่อขอร่วมบุญให้ท่านสร้างพระเจดีย์ ท่านบอกแก้วนี่เวลาใครมาเอานะถ้าพญานาคเขาไม่ให้เขาจะมาบอกท่านเลยปรากฏให้ท่านเห็นว่าคนนี้นะ...ไม่ให้เขาไม่ผ่านคนนั้นหน่ะ(คนไม่ดีเทวดาไม่คบ ผียังระอา คนบ้าอย่างผมไม่เอาด้วยผมเอาแต่คนที่บ้าเหมือนกัน(deejai)(deejai)(deejai) ไปเรื่อยเลยผมอย่าถือสาครับ...มันจะหนัก ผมยังไม่ถือเลย(tm-love))
ตอนกลางวันผมคนขับรถ มีพระอาจารย์เเดง นั่งเบาะซ้ายกลัวผมเหยีบบหนักได้เตือน...และมีพี่ระนั่งเบาะหลัง
เราก็ไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเมืองชุมพรไปเรื่อยๆ สาธุๆๆ ผมกับพี่ระมีพระเเก้วเเดง จึงฝากกระเเสเอาไว้ทุกๆสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
พอตกตอนเย็นกลับวัดหลวงพ่อนวล มากราบท่านหัวค่ำ ท่านให้ดูภาพ และเล่าว่าหลวงปู่ศรี มหาวีโร พ่อแม่ครูอาจารย์ของท่าน ท่านบอกทุกอย่างของหลวงปู่เป็นพระธาตุหมดตั้งแต่ยังดำรงค์ขันธ์ เส้นเกษา 1 เส้น จะเเตกออกเป็นพระธาตุเม็ดกลมๆ มลๆ เส้นละ 3 เม็ด หรือ3 องค์ทุกเส้น น้ำลายยังเป็นพระธาตุหมด แม้แต่โลหิตหลวงปู่หมอเจาะมา ไม่ทันได้ทำไรก็เป็นพระธาตุ เขาเรียกพระธาตุเม็ดทับทิม หลวงปู่ศรีท่านเป็นพระพุทธภูมิเดิมสร้างพระบารมีมามาก แม้แต่หลวงตามหาบัว ท่านยังสรรเสริญหลวงปู่ศรี ว่าท่านมีบารมีมาก แต่หลวงปู่ศรีท่านก็เคารพหลวงตามหาบัว มากๆ ท่านไม่ยอมนั่งเสมอหลวงตา
กลับมาที่หลวงพ่อนวลดีกว่าหลวงพ่อนวลให้ชมแก้วพญานาคที่ท่านเต็มเลยใส่ถาดเต็มเลยพญานาคท่านต้องการสร้างบารมีกับพระพุทธศาสนามีหลายสีเต็ม และมารู้จากท่าน ท่านบอกพระอาจารย์เเดงว่า แก้วพญานาคที่ขายๆกัน ออกทีวีบ้าง อ้างว่าเอามาจากแม่น้ำโขงอยู่ในหินเขย่าดังขลุกขลิกต่อออกมาเป็นแก้ว...นั่น!!!! ไม่ใช่ ไม่ใช่ของจริง คนทำ!!!!!
ว่ากันต่อไปครับอันนั้นเรื่องของคนที่ทำ ผมไม่เกี่ยวครับเอาเรื่องของผมดีกว่า
พี่ระได้ถอดพระในคอให้หลวงพ่อนวลอธิฐานให้ ท่านอธิฐานอึดใจเดียวแล้วส่งให้ ท่านบอกเจ้ากรรมนายเวรพี่ระเป็นไก่ มายืนอยู่ 2 ตัว
ตาผมบ้างผมก็ถอดพระส่งให้ท่านอธิฐานเหมือนกันครับ...ท่านบอกผมมีความเกี่ยวข้องเกี่ยวพันธ์กับพระชัยหลังช้าง...เเละที่บ้านผมหมายถึงคนที่บ้านก็เกี่ยวข้อง(ซึ่งหลักจากนั้น1 ปีที่ยะลา อาจารย์สอนกรรมฐานมาจากระนอง แกมีพระที่อยู่ในถำ้เป็นอาจารย์แกอีกที แกว่าพระองค์นี้สำเร็จแล้ว อาจราย์ฆราวาสคนนี้มีลูกศิษย์เยอะเเยะที่ยะลา แกเคยเห็นผม 2 ครั้งป้าๆที่เป็นลูกศิษย์แกให้ผมไปหาแก แกชื่อปู่สอน(ทีนี้ผมจะเรียกแกว่าปู่สอนนะ ทุกคนเข้าใจนะครับ) ปู่สอนแกทายถูกหมดเพื่อนๆผมที่ไปด้วยใครเป็นยังไง...เอาปัจจุบันนะ...ขนาดผมนึกในใจว่าผมไม่เชื่อเเกพอนึกปุ๊บแกถามทันทีว่าผมเชื่อแกไหม ผมก็บอกตามตรงว่าไม่100% แกยิ้ม แกก็สอนต่อไป....ผมเริ่มเห็นความดีและแกไม่ธรรมดา จึงนึกเอามโนภาพว่าผมนั่งอยู่ข้องหน้าแกและพนมมือขอขมาแกที่คิดไม่เชื่อและอาจล่วงเกิน นี่เอามโนจิตนึกคิดสมมุติไปนะคล้ายคนสร้างภาพด้วยจิตหน่ะ ...แต่ตัวผมนี่กลับนั่งเฉยๆวางท่าเเต่เอาใจไปขอขมา...แกยิ้มและพูดว่าถูกแล้วๆๆเราเอาใจไปขอขมาก็ได้เราสมมุติว่าเรายกมือหรือขอขมานี่ นั่นถูกเขาเรียกว่าเอาใจทำ แกบอกทำบ่อยๆนะ สมมุติว่าเราอยู่โน่นนี่ ทำบ่อยๆจิตหลุดออกไปจริงๆ(ถอดจิต)...และพอเเกเห็นว่าในใจผมเริ่มเชื่อ แกก็บอกว่านี่รู้ไหมว่าในอดีตชาติ ผม(หมายถึงผม)เคยเป็นทหารและร่วมแบกพระชัยหลังช้างด้วย แล้วแกบอกวว่าไม่บอกแล้วเดี๋ยวผมจะยึดติดภพชาติ...(เรื่องปู่สอนมีเยอะผมขอเล่าแค่นี้ เพื่อจะบอกว่าพี่หลวงพ่อนวล ทีสวี ท่านบอกผมมีความเกี่ยวพันธ์พระชัยหลังช้างนี่ตรงกัน เเต่คนละสถานที่คนละเวลาที่ไปมา คือหลวงพ่อนวลท่านบอกก่อนที่สวี ประมาณ 1 ปี)
มาที่หลวงพ่อนวลกันต่อครับ ตอนนั้นพี่ระกระซิบผมว่าแกไปหาอาจารย์มาแล้วที่อื่นที่แกเชื่อถือ เขาก็บอกว่ามีเจ้ากรรมนานเวรแกเป็นไก่ตามแกอยู่2 ตัวเหมือนกัน...(สุดยอดครับหลวงพ่อนวลท่านไม่ธรรมดาจริงๆ.....แต่ก็ธรรมดาครับ ธรรมดาของโลกของผู้ปฏิบัติ (แต่ไม่ธรรมดาสำหรับพวกผมและพี่ระ))
จากนั้นหลวงพ่อนวลท่านให้ของดีครับ แปลกตรงที่วันนี้เราไปกราบที่ไหนบ้างก็ไม่ได้บอกท่านแต่ท่านเอาวัตถุมงคลแต่ละที่ ที่เราไปกราบและเป็นของเก่าทันหลวงพ่ออาจารย์เก่าๆทั้งนั้นซึ่งเขาเล่นหากันเป็นหมื่นแล้ว...ท่านให้และบอกว่าการที่เราให้ของนี้แก่พวกสู ไม่ใช่เพราะพวกสูมากับหลวงพ่อเเดง แต่เพราะพวกสูมาจาก 3 จว.ใต้
หลวงพ่อแดง ผม และพี่ระ จึงกราบลาให้ท่านพักผ่อน
รุ่งเช้าจึงกลับยะลา ขามาผมขับ เเต่หลวงพ่อแดงท่านปรามไม่ให้ขับเร็วซึ่งผมทำได้ยาก จึงให้พี่ระขับขากลับแทนเพราะแกใจเย็นกว่าผม
หลังจากวันนั้น สักอาทิตย์ (เออลืมบอกไปครับ การที่ไปสวี นี่นอกจากหลวงพ่อเเดงท่านจะไปกราบอาจารย์แล้วท่านยังจะไปเอาวัสดุ จะมาทำ กลด ให้ผมท่านรู้เรื่องอีก9ปี ของผมผมบอกครับ แต่ตอนนั้นมากกว่าอีก 9 ปี แต่ตอนนี้อีก 9 ปีแล้ว)
หลังจากวันนั้นสักอาทิตย์ อยู่ๆผมอยากไปนอนวัดกรรมฐานอยากไปฝากกระเเสคิดปุ๊บดูนาฬิกาเกือบทุ่มแล้ว ผมจึงขับมอร์เตอร์ไซร์ ไปวัดกรรมฐาน ไปที่กุฏิหลวงพ่อเเดงบอกว่าขอยืมกลด ที่ไม่ใช้สัดอัน ท่านให้แล้วบอกจะไปตรงไหน ผมบอกไปข้างบน(ข้างบนมันสูงติดป่ามีสัตว์ป่าและมีงูพวกนี้ อีกอย่างมีเจดีย์คนตายด้วยเพียบ ท่านเตือนว่าอย่าไป ผมว่านั่นแหละที่จะไป เลยไปขออนุญาตุเจ้าอาวาสวัดก่อนจึงขึ้ไปข้างบน
ไปถึงก็กราบหลวงปู่ทวดและหลวงปู่สุระเจ้าวัด ขอปักกลด ได้ต้นไม้ใหญ่ ก็ปักกลดเเขวนตรงต้นไม้ใหญ่ ก็เริ่ม เข้าในกลดและเอามีดหมอวัดบางพระผูกไว้บนกลดอธิฐานป้องกันสัตว์มีพิษและอื่นๆ
ก็เริ่มสวดมนต์ บทจักพรรดิ์ แผ่ไปตามปกติเขาเรียกปรับภพภูมิ จากนั้นก็ภาวนาตามสมควร...ผ่านไปหลังจากแผ่กศลให้(.........)ตามใจที่มันคิดและเชื่อ))
ทรงภาพหลวงปู่ หลังจากนั้นก็มาคิดว่า เอ้...หรือว่าเราจะนอนแล้วภาวนาดีเออ...เอาอย่างนั้นดีกว่า(เริ่มขี้เกียจ)
ก็นอนภาวนา ไม่รู้หลับไปตอนไหนแต่เหมือนกับไม่หลับเต็มๆนะคล้ายๆภาพหลอน คงจะมโนภาพคงจะหลอน(นี่เป็นที่มาของคนบ้า)...ก็ฝันว่า1.ไฟไหม้ใหญ่ด้วยคาร์บอม รถดับเพลิงวิ่งว่อนไปหมดตกใจว่าแล้วเราทำอะไรอยู่...
2.ภาพเเรกหายไปมีภาพใหม่มาแทน เห็นประเทศไทยโดนบุกรุกเห็นเครื่องบินรบต่างประเทศยิงจรวด ยิงระเบิดใส่บ้านเรือนผู้คนวิ่งตายหนีตาย...ผมอยู่ไม่ไกลจากบ้านมากเห็นบ้านข้างๆพินาจไปกับตา เป็นห่วงบ้านเอง รีบวิ่งฝ่าไปบ้านคิดว่าถ้าบ้านโดนระเบิดเหมือนบ้านอื่นผมจะทำอย่างไรดี นี่เหตุการณ์อยู่ตรงหน้า...คิดได้ว่ามีสงครามต้องมีสงบ เป็นสัจจะธรรมมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ก็ต้องมีดับไปในที่สุด คิดว่าสงครามนี่ไม่นานต้องหยุดแต่เมื่อหยุดเเล้วบ้านเราอาจพังเราจะทำอย่างไรตอนนี้ดี(ยังโง่อยู่กลัวบ้านพังเพราะเห็นลูกไฟเเดง ไม่คิดระเเคะระคายสักนิดว่าสงครามขนาดนี้ชิวิตเมิงจะรอดไหม นี่ประมาทและโง่สุดๆไม่คิดถึงความตายสักนิดว่านี่เราอาจต้องตายแล้วก่อนตายเราควรทำยังไง หากคนปฏิบัติเขาต้องทรงอารมณ์ ปล่อยวางร่างกายทรงอารมณ์ที่ฝึกฝนมา ศาสนาพุทธเราสอนว่า คนตายแล้วไปไหน ย่อมขึ้นอยู่กับวาระจิตสุดท้าย !!!!!
ผมนี่โง่ไม่คิดว่าตังจะตายคิดแค่ว่าสงครามสงบบ้านพัง เราจะต้องมีอะไรๆๆๆหลังจากมันสงบ ก็เลยวิ่งไปที่บ้านคิดว่าจะไปเอาบัตรประชาชน(สงครามสงบจะได้รู้ว่าผมเป็นคนไทยนะประมาณนี้) และไปเอาเงินเอาทองที่มีที่เก็บ และที่สำคัณคือ...พระเครื่อง (ผมนี่โง่สุดๆๆจะตายแล้วพระจะช่วยได้อย่างไร)
แต่พอวิ่งไปเหนื่อยมากไม่ทันถึง เห็นเครื่องบินมาทางผมเเละเห็นเขายิงจรวด ลูกเบ้อเร่อมาทางผม เห็นลูกไฟใหญ่กว่าบ้านเสียอีก ในใจคิดโดยเร็วโดยอัตโนมัติ กูต้องตามเเน่ๆควาวนี้ คิดนานกว่านี้สงสัยคิดไม่ทันเสร็จตายเสียก่อน(จรวจลูกเบ้อเร่อลูกไฟยักษ์)ทันใดนั้นเร็วมากๆ ผมคิดได้ว่าไม่เอาอะไรเเล้วผมต้องตายแล้วคราวนี้ จึงระลึกถึงพระพุทธเจ้าจับรูปพระพุทธรูปเป็นพุทธานุสติและอธิฐานว่าขอไปนิพพานเวลานั้นรู้สึกลูกไฟมหึมาเท่าภูเขาครอบร่างผมอยู่...แน่นอนครับผม...เอกรินทร์ ไม่เหลือซาก ไม่เหลือเถ้าถ่านครับและตัดความรู้สึกนึกคิดตัดภาพทั้งหมดทันทีอนัตตาว่างเปล่าไร้ตัวตนดับหมดยิ่งกว่าดูละครอยู่ๆแล้วไฟดับยิ่งกว่านั้นมากมันประมาณไม่ได้จริงๆ
และผมก็ตื่นตอนเช้า....อ้าวฝันไปหรือนี่แล้วเราหลับไปตอนไหนว๊ะ...
กลับบ้านมาตรองความฝัน เรื่องไฟไหม้ใหญ่ตัดไปไม่เอามาคิดไม่ติดใจ
แต่ติดใจตรงสงคราม.....ก็เลยมาคิด อ๋อ ความฝันท่านสอนเรานะเนี่ย ใครว่าผมบ้าผมไม่ทักท้วง แต่ผมพิจารณาว่าความฝันนี้เป็นธรรมะ
1.ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นช่างเหมือนจริง น่ากลัว......แต่พอตื่นขึ้นมาก็สลายตัว หาอะไรไม่ได้เป็นอนัตตา
2.ข้อสำคัญ...ไม่ใช่แปลว่าผมฝันแม่นหรือจะบอกเหตุในอนาตคไม่ใช่(ผมแค่คนบ้าไม่ใช่ผู้วิเศษ)
แต่ฝันนั้นได้สอนธรรมะอันยิ่งใหญ่ ว่าไม่ให้ผมประมาท ในชีวิตในลมหายใจ ที่แค่หายใจเข้าแล้วไม่หายใจออกเราก็ตายแล้ว ไม่ให้ประมาทในการทำความดี ภัยอย่างนั้นสงครามอย่างนั้นจะเกิดหรือไม่เกิดไม่ใช่เรื่องสำคัญ...ทุกสิ่งในโลกล้วนอนิจจังไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตามกฏของไตรลักษณ์ ต่อให้ไม่เกิดสงคราม ผมก็ต้องตาย คนทั้งหมดต้องตาย ไม่มีใครอยู่ตลอดไป ต่อให้ไม่มีสงคราม หรือภัยใดๆ บ้านเรือนศักวันก็ต้องไม่มี วันข้างหน้าจะเปลี่ยนไปเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบ ก่อนเราจะมาสร้างเป็นบ้านพื้นที่ตรงนี้ในอดีตก็เป็นอย่างอื่นมาก่อน สับเปลี่ยนเวียนวน เอาสาระแน่นอนไม่ได้ ความตายเกิดเเน่ ความดับเกิดแน่กับทุกสิ่งขึ้นอยู่ที่ช้าหรือเร็วเท่านั้น ฉนั้นเมื่อความตายเกิดเเน่กับผม แล้วผมจะทำยังไงก่อนตาย ให้สมกับชาวพุธ ให้สมกับที่ปรารถนา ความตายอยู่ตรงหน้า...ผมจะทำอย่างไร จะประมาทต่อไปว่าไม่ตายหรือ จะทำอย่างไร? นี่ต่างหากหัวใจในความฝันของผมครั้งนี้ เขาจะทดสอบว่าผมจะทำอย่างไร...ผมดีใจที่คิดถูกเอาวินาทีสุดท้าย แต่ก็เสียใจที่กว่าคิดได้เกือบตายเสียก่อนเกือบไม่ทัน ถ้าตายตอนผมไปเอาเงินคิดอย่างเดียวว่าเงินๆอยู่ไหนบ้านๆของฉัน ผมคงเป็นผีเฝ้าบ้านเฝ้าเงินเฝ้าสมบัติ....แต่ผมคิดถึงพระแล้วตายตอนนั้น ตามความเชื่อทางศาสนาอย่างน้อยๆผมเป็นเทวดา....โอ้...ช่างคนละเกรดกันเลย

ปล.หลังจากนั้น ไม่นานนักเกิด คาร์บอบในถนนรวมมิตร ใจกลางเมืองยะลาไฟไหม้ใหญ่ที่สุดตั้งแต่ผมทำงานนี้
และระเบิดใหญ่และรุนแรงที่สุดในยะลาตั้งแต่เคยมีมา.......ก็แค่บังเอิญ..

 

กลับมาจากวัดคลองพระยาแล้วค่ะ
ไปเจอพญานาคที่หน้าวัดด้วย....
นำภาพมาให้ชมค่ะ

เทศบาลบ้านพรุ ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ 5 กม. จากถนนเข้าไปวัดประมาณ 2กม.
ถึงหน้าวัด ก็จะเห็นพระหลวงพ่อทวด สมเด็จโต พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ ประดิษฐาน อยู่หน้าวัด
และมีองค์พญานาค ค่ะ...

 

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ

 

ชมกันต่อค่ะ...

 

เมื่อไปถึงก็พบท่านเจ้าอาวาสพระมหาไพศาล ปสนฺนจตฺโต
ซึ่งท่านกำลังสนทนาธรรมกับน้อง ๆ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ที่มาปฏิบัติธรรม คุยเรื่องนำหนังตลุง
มาในงานทอดกฐินและวางศิลาฤกษ์อุโบสถ ซึ่งกำลังดำเนินการก่อสร้างค่ะ
กำหนดการทอดกฐินและวางศิลาฤกษ์อุโบสถ
วันจันทร์ ที่ 19 พ.ย. พ.ศ.2555 เวลา 18.00 น. สมโภชน์ผ้ากฐิน
วันอังคาร ที่ 20 พ.ย. พ.ศ.2555 เวลา 13.09 น. วางศิลาฤกษ์อุโบสถ

เรียนเชิญท่านที่อยู่ใกล้เคียง ร่วมงานพิธีในวันดังกล่าว
ร่วมทำบุญ ติตต่อ พระมหาไพศาล ปสนฺนจตฺโต
โทร. 083-3971103 ค่ะ
นิมิตลูกเอก
ช่อฟ้าเอก ลูกนิมิตร ซุ้มกำแพงแก้ว ซุ้มประตู -หน้าต่าง เสาอุโบสถ พญานาค
แกะสลักบานหน้าต่าง ช่อฟ้า กำแพงแก้ว ปูน ทราย หิน ดิน หินอ่อน ดาว
กระเบื้อง


พระมหาไพศาล ท่านได้พาชมวัดของท่านค่ะ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของหน่วยงานราชการ เอกชน โรงเรียน และประชาชน มีถ้ำ สำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งท่านจำลองและได้ทำขึ้น.....แยกสำหรับผู้ปฏิบัติธรรมชาย-หญิง ซึ่งต้องการความสงบดูจิต.......เมื่อมองถ้ำนี้แล้ว เป็นรูปพญานาคค่ะ มีส่วนหัว ลำตัว และหาง....

พระมหาไพศาล ท่านได้ทำหนังสือ ถึงหน่วยหน่วยทหารค่ะ ขอกำลังพล 20 นาย
มาช่วยเร่งงาน ทำที่พักเพื่อรองรับ ผู้มาปฏิบัติธรรม และ งานทอดกฐินและวางศิลาฤกษ์อุโบสถค่ะ
วัดของท่านจะมีชาวมาเลเซีย มาทำบุญเป็นจำนวนมากค่ะ เพราะศรัทธา...



วัดของท่านกำลังปรับภูมิทัศน์ สร้างที่พัก เพื่อรองรับผู้ปฏิบัติธรรม