ใครปลูกว่าน เล่นว่านบ้างเข้ามาคุยกันหน่อย

บ้านเพื่อนสมาชิกท่านใด จัด สวนไม้ว่าน....ถ่ายรูปมาแบ่งปัน กันบ้างนะครับ ....จะขอดูไว้เป็นแนวทางบ้าง นะครับ .... ขอบคุณครับ

 

เครดิตบทความ : เขียนโดย อานนท์ แก้วมั่น

วงจรชีวิตของว่านขันหมากเศรษฐี 3 ปีลูกสุกครั้งนึง

ว่านขันหมากหรือขันหมากเศรษฐี เป็นว่านที่ปู่ย่าตายายสมัยโบราณนำมาใช้ป้องกันและรักษาโรคชนิดต่างๆเพราะในเมล็ดของว่านขันหมากมีเอนไซด์ที่ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกายมนุษย์ทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งและป้องกันรักษาเซลล์เนื้อร้ายต่างๆ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รักษาอาการภูมิแพ้ หอบหืด โรคกระเพาะ โรคลำไส้ ทางเดินอาหาร ปวดท้องบิด ตะคริว มือเท้าชา ปวดตามแข้งขา เส้นเอ็นตึง รักษาไข้และอาการไอได้ รักษามะเร็งระยะต่างๆ เนื้องอก ซิสส์ เบาหวาน ความดัน ยับยั้งความเสื่อมชราของร่างกาย เป็นยาอายุวัฒนะ ป้องกันความเสื่อมทางด้านเพศ เป็นสมุนไพรที่มีงานวิจัยรับรองอย่างมากมาย ทุกส่วนของว่านชนิดนี้ตั้งแต่ ราก ลำต้น ใบ ดอก ผล มีตัวยาต่างๆมากมาย ส่วนใครที่นำต้นมาปลูกเชื่อกันว่าเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง โชคลาภ ค้าขายร่ำรวย มีมหานิยม เป็นที่เกรงขามต่อผู้ได้พบเห็น ป้องกันภูติผีได้ ถ้าใครนำมาปลูกแล้วขันหมากออกดอกเชื่อกันว่าเจ้าของบ้านจะมีแต่โชคดี เงินไหลนอง ทองไหลมา เพราะต้นนึงจะออกดอกออกผลใช้เวลาร่วม 3 ปีทีเดียว ถ้าทุกท่านต้องการข้อมูลมากกว่านี้สอบถามได้นะครับที่ หมอพืชอานนท์ 089-6889946,085-6572243
วันนี้ผมจะพาทุกท่านมาดูข้อมูลวงจรชีวิตของว่านขันหมากเศรษฐี สุดยอดสมุนไพรจากป่าลึกกันนะครับ ว่าเขามีวิถีความเป็นอยู่แต่ละช่วงแต่ละอายุยังไง...ก่อนอื่นผมเองต้องขอออกตัวก่อนนะครับว่าไม่ได้อุปโหลกตัวเองเป็นผู้รู้หรือผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรง แต่ผมคลุกคลีและศึกษาว่านขันหมากเศรษฐีมาร่วม 7 ปี เดินป่า ขึ้นเขา มาไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง หลงป่าเป็นวันเป็นคืนนับสิบครั้ง ใช้ว่านชนิดนี้ช่วยเหลือบรรเทาผู้คนที่รักสุขภาพ รักษาโรคร้ายต่างๆที่รุมเร้ากายและใจ ตลอดจนป้องกันตัวเองจากสภาพแวดล้อมและอาหารการกินที่เปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน มาร่วม 7 ปี จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าวให้กับท่านผู้ที่สนใจใคร่รู้ในความเป็นมาของว่านชนิดนี้ครับ

วงจรชีวิตว่านขันหมากเศรษฐี

1. แก่จัด บางครั้งก็แห้งเหี่ยวร่วงลงสู่ดิน หลังจากรอดจากกระรอก กระแต นก หนู ไก่ป่า

2. หลังจากเหลือรอดจากปลวก มด แมลง หนู ตามพื้นดิน ประมาณ 3-6 เดือน ก็จะงอกต้นลูก ต้นใหม่ขึ้นมาให้เห็นครับ



3. ประมาณ 1 ปี ถ้าไม่มีไฟป่ามาเผาทำลายก็จะเริ่มเลี้ยงต้น เลี้ยงใบ ดูที่ลำต้นครับยังเขียว ลำต้นยังอ่อนอยู่ ถ้าลำต้นเริ่มแก่จะออกน้ำตาลไล่ขึ้นไปจากโคนไปปลาย




4. อายุประมาณ 3-5 ปี ลำต้นจะเริ่มแก่สีออกน้ำตาล จึงจะเริ่มติดดอก ออกลูกได้



5. เมื่อต้นสมบูรณ์เต็มที่ ประมาณ 3-5 ปี จะเริ่มออกดอก การออกดอก1ต้นอาจมีหลายๆดอกออกตามกันก็ได้ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของลำต้น เกิดดอกได้ตลอดปี



6. ประมาณ 15-30 วันดอกจะร่วง เผยให้เห็นพวงลูกว่านขันหมากลูกเล็กๆเป็นตุ่มๆ เล็กกว่าหัวไม้ขีดอีก



7. ประมาณ 6-8 เดือน ลูกจะเริ่มโตขึ้น ขนาดประมาณหัวไม้ขีดไฟ



8. ลูกว่านขันหมากอายุประมาณ 2-2.5 ปี ประมาณ ครึ่งปีก็คงมีลูกแดงๆสุกให้เห็นเป็นพวงเลยครับ



9. เมื่ออายุครบประมาณ 3 ปี ตั้งแต่ออกดอกมาเขาก็จะสุกอย่างที่เห็นนี่แหละครับ





อย่างที่ทุกท่านรู้กันนะครับว่าว่านชนิดนี้ตั้งแต่ออกดอกจนถึงลูกสุกกินเวลายาวนานมากถึง 3 ปี แล้วช่วงลูกสุกแดงก็มีกระรอก กระแต ไก่ป่า นก หนู แย่งกันกิน นอกจากนั้นก็ร่วงหล่นสู่ดิน งอกขึ้นมาอีก แต่กว่าที่เขาจะโตจนสามารถออกลูกออกผลได้ก็ไม่ต่ำกว่า 3 ปีเช่นกัน สรุปแล้วก็คือหลังจากเมล็ดงอก จนเป็นลำต้น เลี้ยงตัวเองจนเติบใหญ่ 3 ปี จึงจะออกดอกได้ เมื่อออกดอกแล้วกว่าจะเป็นลูกสุกก็ร่วม 3 ปี นั่นก็คืออายุขั้นต่ำที่เขาให้ลูกสุกแก่เราท่านก็ร่วม 6 ปีทีเดียว นี่จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมเมื่อนำเขามาทำเป็นยาสมุนไพรทานจึงเห็นผลชัดเจนครับ และภัยอีกอย่างของต้นว่านชนิดนี้ก็คือ ไฟป่าครับ ทั้งจากน้ำมือของมนุษย์ และเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ถ้าป่าไหนไฟไหม้นั่นหมายถึงว่านชนิดนี้ต้องเริ่มวงจรชีวิตใหม่ตั้งแต่เริ่มงอก เลี้ยงลำต้น ออกดอก เป็นลูก ร่วม 6 ปีทีเดียว บางแห่ง บางที่ เจอไฟป่า ครั้ง สองครั้ง สูญพันธุ์ไปเลยก็มีครับ น่าเสียดายจริงๆ

เขียนโดย อานนท์ แก้วมั่น

ว่านขันหมากเศรษฐีสุดยอดสมุนไพรไทย: วงจรชีวิตของว่านขันหมากเศรษฐี 3 ปีลูกสุกครั้งนึง

 

ดอกโสมไทย ใบบางคนเขามาทำพวกผัดกิน แต่จะเปื่อยๆเหมือนผักปรัง
-เคยไปดูบั้งไฟพญานาคไหม กลิ่นว่านสะเลเตหอมตลอดทาง เพราะชาวบ้านแถวนั้นเขาปลูกไว้ แต่ถ้าเอาดอกมาบูชาในห้องพระ ถ้าห้องแอร์แรกๆก็หอม แต่ถ้าดอกเหี่ยวกลิ่นจะฉุน

 

ว่านมเหศวร ผู้หญิงที่มีระดู(ประจำเดือน)เข้าใกล้ หรือใช้มูลสัตว์ผสมดินปลูก เชื่อว่าว่านนี้จะเฉาตาย

รูปหัวกระชายแห้ง หัวเชื่อมต่อกันยังกะว่านจูงนาง

 

-ผลว่านขันหมากนั้น นึกว่าลูกเก๋ากี๊ ตากแห้ง
ใบอ่อนของพริก ที่แม่ของข้าพเจ้าเอามาผสมแกงอ่อมบ่อยๆรสขมนิดๆ บางทีนึกว่าใบฟ้าทลายโจร แม่เก็บมาผิดใบก็เคยมีนะ
-อ่านเจอ ไม้จำพวกบอน มีหัวใต้ดินเมื่อออกดอก ต้นก็จะเฉาตาย หัวหรือเหง้าถ้าไม่ขุดขึ้นมาก็จะเฉาตายสูญพันธุ์หมด จึงต้องขุดเอาหัวมาปลูกใหม่ทุกฤดูเป็นประจำ หากปลูกมากเป็นแปลงยาว หลายแปลงได้จ้างแรงงานขุดแน่
-ไม้ล้มลุกที่มีอายุภายใน1ปี จะต้องคอยดูแล เริ่มตั้งแต่เมล็ดงอก ต้นอ่อน จนถึงออกดอกและมีเมล็ดตามเดิม เช่นบานชื่น บานไม่รู้โรย ทานตะวัน ดาวกระจาย หงอนไก่ เทียน
-ไม้เมืองหนาวกินเวลาจากเมล็ด มาเป็นเมล็ดไม่ถึง2ปีเช่นซ่อนกลิ่นฝรั่ง
-ไม้ยืนต้น รวมทั้งไม้พุ่ม ไม้เถาว์เลื้อยที่อายุอาจเกิน100ปีเช่น มะม่วง มะขาม ไผ่ ปาล์มต่างๆ ตะแบก หางนกยูง ราชพฤกษ์

 

ขอบคุณครับ

 

สวยน่า ชม และแฝงด้วย ธรรม

 

ขอบคุณครับ

 

อยากทราบว่าท่านใดมีประสบการณ์หรือทราบเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับไม้มงคลหรือว่านที่มีความพิเศษสามารถใช้ป้องกันสิ่งไม่ดี กันผี หรือป้องกันคุณไสยต่างๆบ้าง

เท่าที่ผมพอทราบมาบ้างก็มีต้นธรณีสาร ใช้ป้องกันสิ่งไม่ดีต่างๆ ท่านผู้รู้แนะนำให้ผมปลูกไว้

ต้นวาสนา ช่วยกันผี(สัมภเวสี)ได้ ทราบมาจากสื่อโทรทัศน์ ต้นวาสนาก็มีหลายพันธุ์จะใช้ได้ทุกพันธุ์หรือเปล่าก็ไม่ทราบ

ส่วนคนจีนก็มีความเชื่อเกี่ยวกับต้นทับทิมและต้นเซียงเช่า เขาจะปลูกไว้ใช้ประโยชน์เวลาไปงานศพ คือจะเด็ดกิ่งต้นนี้ติดตัวไปด้วยเอาไว้กันสิ่งไม่ดี

ใบหนาด ก็เคยทราบมาว่าใช้กันผีได้ แต่ไม่เคยปลูกครับ

 

เคยได้ยินมาว่า ว่านพระตะบะ มีพุทธคุณช่วยกันผี อยู่เหมือนกัน นะครับ ผมเองก็ไม่มีไว้เหมือนกันครับ มีก็แต่เพียงว่านพญาช้างเผือกที่ พี่ที่ทำงานเค้าบอกว่าปลูกไว้กันผี ได้ นะครับ

 

-ตอนนี้ข้าพเจ้ากำลัง งงๆ ว่าว่านตูบหมูบนี่จะเป็นต้นเดียวกันกับเปราะนกยูงรึเปล่า เพราะเปราะนกยูงมีชื่อหลายชื่อ ผักเปราะ เปราะหอม นกคุ้มป่า พญานกคุ้ม เปราะป่า เปราะรากหอม ก็เรียก เปราะนกยูง มีข้อมูลว่า หัวมีกลิ่นฉุนแบบเผ็ดๆ พ.ค.ออกดอกโรยแล้วใบเฉาตาย แต่ถ้านำลงกระถางรดน้ำเสมอใบจะคงอยู่ตลอดปี ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดได้ ชอบดินปนทรายผสมปุ๋ยหมัก ในอัตราเท่ากัน
-ต้นกุหลาบหิน ตอบโจทย์ในการจัดแจกันของข้าพเจ้าสมัยที่เป็นเด็กชั้นประถม มันอยู่ในแจกันบนโต๊ะครูได้หลายวัน ช่วงนั้นเพื่อนๆเด็กประถมนำดอกไม้มาหลากหลายแต่ก็ไม่สู้กุหลาบหินรู้จักแต่ชนิดดอกสีแดงคล้ายดอกเข็ม กุหลาบหินดอกบานตลอดปี มีช่วงที่ดอกงามในเดือนก.พ.-เมษา เป็นไม้อุ้มน้ำแต่ไม่จัดอยู่ในวงศ์กระบองเพชร

 

แม่บอกว่า..เวลาจะเด็ดกิ่ง (ใบ) ทับทิมไปงานศพ ให้กลั้นหายใจก่อนเด็ด
และให้ทิ้งก่อนเข้าบ้าน (ห้ามนำเข้าบ้านเด็ดขาด)

และมีต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง แถวบ้านเรียก เฉียงพล้า (ภาคอื่นไม่แน่ใจว่าเรียกอะไร)
กิ่งใบต้นเฉียงพล้าชุ่มน้ำมนต์ แล้วพรมรอบๆ บ้าน หรืออื่นๆ จะช่วยไล่สิ่งไม่ดี
และพวกสัมฯ ได้ค่ะ (ข้อมูลยังไม่แน่น ต้องไปสัมภาษณ์แม่ก่อน อิอิ)

 

มีนักวิชาการบอกว่า ถ้าคนเราไม่อนุรักษ์ พืชตระกูลว่านต่างๆไว้ มีโอกาสสูญพันธุ์สูง กว่าพวกไม้ผลไม้ดอก เพราะพวกไม้ผลไม้ดอก มีนก มีหนู ช่วยขยายพันธุ์ บางต้น อย่างต้นรัก ราวกับมีอภินิหาร เมล็ดมีใยเบาๆสีขาวเหมือนปุยฝ้าย พาลอยออกไปเกิดไกลๆได้ อย่างกับการโดดร่ม ดิ่งพสุธา
วิธีเปลี่ยนกระถาง
-นำกระถางใบใหม่มาล้าง สารเคมีที่เคลือบมานั้น อาจเกิดปฏิกริยากับดิน
-เตรียมดินที่ปลูกเหมาะกับพันธุ์พืช ปุ๋ยเคมี2%ผสมอินทรีย์วัตถุ ดินจะไม่แข็ง
-ถ้าต้นไม้ใหญ่ เอาไม้ดันที่ก้นกระถาง ดินเก่าเอาออกไม่ให้เกินครึ่ง บรรจงอุ้มเอาไปลงกระถางใหม่
รูปด้านล่าง ใบอ่อนกระเจี๊ยบ เอาใส่แกงปลา เพิ่มรสเปรี้ยว

 

ท่านๆที่ชอบว่านและสมุนไพรในกระทู้นี้ส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯกันหรือเปล่าครับ เผื่อว่าในอนาคตอาจจะนัดพบพูดคุยหรือแจกว่านสมุนไพรกัน ตอนนี้ผมก็มีว่านหรือสมุนไพรอยู่บ้าง แม้ว่าจะไม่มากนัก ส่วนใหญ่ตายไปพร้อมกับน้ำท่วมใหญ่ทีผ่านมา ขนหนีน้ำได้จำนวนหนึ่ง แต่บางชนิดก็ทนมากแช่น้ำอยู่เป็นเดือนกลับงอกใหม่ได้หลังน้ำลด นั่นคือว่านมหาลาภครับ ว่านมหาลาภที่ผมปลูกอยู่ปัจจุบันนี้ก็ไม่ได้ซื้อหามาจากไหน ตอนแรกเขาขึ้นที่สวนเป็นกอเล็กๆ เข้าใจว่าบ้านที่อยู่ติดสวนเขาอาจทิ้งหรือทำหล่นลงมานานแล้ว จนขึ้นเป็นกอผมเห็นสวยดีเลยขุดมาปลูกไว้ ตอนแรกยังไม่ทราบว่าเป็นว่านอะไร ก็เลยค้นข้อมูลดูจากหนังสือก็เลยทราบครับ ตอนนี้ขึ้นตรึมเลย คิดวางแผนจะแจกเพื่อนๆที่สนใจ และยังมีว่านหอมแดง ต้นพญายอหรือเสลดพังพอนตัวเมีย รางจืดเถาดอกสีม่วง ว่านมหากาฬ พลับพลึงดอกขาว ที่มีมากพอจะขยายพันธุ์แจกได้ เผื่อท่านใดสนใจครับ บางทีก็อาจจะสกัดน้ำมันพลับพลึง หรือทำยาหม่องสมุนไพรแจกเพิ่มไปด้วยเลย บ้านผมอยู่ในซอยพาณิชยการธนบุรีหรือจรัลฯ13 เข้าไปไม่ลึกเท่าไร

 

สำหรับเรื่องสมุนไพรที่กันผีหรือสิ่งไม่ดีนี่ผมเผื่อไว้สำหรับในอนาคตด้วยครับ ส่วนจะช่วยได้แค่ไหนก็ยังไม่ทราบคงต้องปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์หรือมีญาณตรวจสอบได้ดูก่อน

ผมเชื่อว่าหากในอนาคตมีภัยพิบัติใหญ่จริง ปัญหาที่ตามมาจะมีหลายเรื่อง เช่น โรคระบาด ภาวะขาดแคลนอาหาร รวมไปถึงเหล่าภูตผีสัมภเวสีที่มีมากขึ้น จึงได้เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ เช่น เตรียมสมุนไพรที่จำเป็นสำหรับป้องกันและรักษาโรคระบาด สมุนไพรแก้พิษต่างๆ รวมไปถึงพืชอาหารบางอย่าง เช่น มันเลือดนก มันแกว ฯลฯ และสมุนไพรที่ช่วยป้องกันสิ่งไม่ดีหรือภูติผีต่างๆ (ที่จริงผมก็มีวัตถุมงคลเตรียมเอาไว้บ้างแล้ว) แต่ก็อยากใช้ว่านมงคลปลูกกันไว้อีกชั้นกันเหนียว อิอิ กะไปขยายพันธุ์สำรองไว้ที่สุพรรณบุรีด้วย เป็นบ้านแม่ยายผมเองครับ

 

ไม่แน่ใจว่าใช่ ส้มป่อย หรือเปล่านะครับ

 

ผมอยู่ มหาชัย สมุทรสาคร ครับ ว่านส่วนใหญ่ ผมซื้อมาลงกระถางไว้ครับ ส่วนบ้านที่ ตจว. จะปลูกลงดินไว้ตามรอบๆบ้านครับ

ผมไม่เด่นด้านการปลูก นะครับ แต่ชอบที่จะหาความรู้ด้านนี้ ครับ และเป็นธุระหาว่านในพื้นที่ ให้ได้ครับ เวลากลับตจว.

 

เห็นแล้ว สดชื่น

 

เคยได้ยินอยู่เหมือนกันครับ ....

 

เห็นด้วยครับ ........เตรียมการไว้ล่วงหน้าก็ดีครับ .....

(ข้อสังเกต :
ควาเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับว่าน นะครับ .....ว่านทุกชนิด มีส่วนประกอบภายในทางเคมีหลายอย่าง มีมาก - น้อย ทั้งที่เป็นประโยชน์/โทษ ต่อการปรับสมดุลย์ของสิ่งมีชีวิตและไร้ชีวิต ขึ้นอยู่กับ พื้นที่และความสมุดลย์ ของ ธาตุ ครับ ถ้านำมาปลูกเลี้ยงต่างพื้นที่ จำต้องมีการปรับสมดุลย์ของธาตุเพื่อนให้คงไว้ซื่ง เคมีที่คงอยู่ในว่าน .....และนำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ส่วนเรื่องของจิตที่บรรจุลงสู่ว่านต่างๆ ...ขึ้นอยู่กับผู้ที่ดูแลว่าน และผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณที่บรรจุจิตตอนปรุงยา เหล่านั้นด้วยเช่นกัน ครับ

ภูมิปัญญา ที่ได้จากผู้ใหญ่ในสมัยเก่าก่อนที่สืบทอดต่อๆกันมา ถ้าสังเกตกันดีๆ จะเห็นว่า ขบวนการผลิตเวชภัณฑ์ หลายๆชนิด ปัจจุบัน ก็มีพื้นฐานจากภูมิปัญญาที่เราเห็นในอดีต ทั้งนั้นเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเอเซียเอง หรือ ทางซีกโลกอีกฝั่ง
ส่วนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ทางจิด ก็มีรากฐานมาจากความเชื่อเรื่องชีวิตหลังความตายเช่นกัน ไม่ว่าทางเอเซีย หรือ ซีกโลกใดๆ ก็มีเหมือนกัน ...ครับ

ยาวจัง ...........ขอย้ำว่าเป็นเพียงความนำเสนอความเข้าใจส่วนตัวนะครับ ...ไม่ไช่ข้อเท็จจริง ) ขอบคุณครับ