โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

***เทวดา...มาฟังหลวงปู่ฯ...สวดมนต์***

ถ้ากล่าวถึง เรื่องเกี่ยวกับเทวดาแล้ว หลวงปู่พิศดู ท่านรู้จักดีเป็นที่สุด ท่านรู้จักและรู้เรื่องของเทวดาทุกหมู่เหล่า ทุกระดับชั้น ซึ่งจะว่าไปแล้ว หลวงปู่ฯท่านคลุกคลีกับเหล่ากายทิพย์ต่างๆ มาตั้งแต่สมัยท่านบวชใหม่ๆ เช่นเรื่องที่จะเล่านี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆเรื่อง ที่หลวงปู่ฯเมตตาเล่าให้ฟัง

เรื่องนี้ เกิดขึ้นสมัยตอนที่หลวงปู่พิศดู ไปอยู่ช่วยงานที่วัดเขาน้อยท่าแฉลบ อ.เมือง จ.จันทบุรี สมัยนั้นหลวงปู่ฯยังเป็นพระหนุ่ม ระยะนั้นหลวงปู่กงมา หลวงปู่เจี๊ยะ และพ่อแม่ครูอาจารย์บางรูป ได้ไปพำนักอยู่ที่นั่นด้วย เมื่อถึงวันพระใหญ่ พระภิกษุสงฆ์ต้องประชุมกันลงอุโบสถ เพื่อฟังสวดปาฏิโมกข์ ซึ่งในขณะนั้น พระที่สวดปาฏิโมกข์ได้ก็หายาก หลวงปู่ฯ จึงต้องเป็นผู้สวดเอง

หลวงปู่ฯเล่าให้ฟังว่า

" เราสวดปาฏิโมกข์ที่นั่นครั้งแรก พอเริ่มสวด เราก็เห็นเทพ พรหม เทวดา ลอยมาพร้อมกับวิมานแก้ว วิมานทอง อยู่ในอากาศรอบๆวัดเขาน้อยฯ มองไปทางไหน ก็เห็นแต่เทวดาเต็มไปหมด "

แล้วเขามาในลักษณะไหนครับ...ลูกศิษย์คนหนึ่งถาม

" เขาย่อขนาดลงมา เป็นองค์เล็กๆ เขามาฟังสวด พอสวดเสร็จ เขาก็อนุโมทนากัน แล้วก็เคลื่อนหายไป "
ข้อมูลโดย...คุณสิรภพ

 

*** ท่านพ่ออุปคุต...เป็นพระที่มีฤทธิ์มาก ***

สมัยที่หลวงปู่พิศดู ยังดำรงค์ขันธ์อยู่ ท่านเคยกล่าวถึงพระมหาอุปคุตไว้ว่า

" ท่านพ่ออุปคุต เป็นพระที่มีฤทธิ์มาก ตั้งแต่พระพุทธเจ้านิพพานลงมา ยังไม่มีผู้ใด มีฤทธิ์เกินกว่า ท่านพ่ออุปคุต ท่านปราบพญามาร ซะงอเลย "

" ต่อไปข้างหน้า หากมีภัยมาก ท่านพ่ออุปคุต สามารถป้องกันภัยได้ ใครบูชาท่านด้วยความเคารพ จะอยู่รอดปลอดภัย "

ด้วยเหตุนี้ องค์หลวงปู่ฯถึงดำริ ให้สร้างพระมหาอุปคุตขึ้นมาอย่างเป็นทางการ หลวงปู่ฯ เคยบอกว่า

" รูปของท่าน(พระมหาอุปคุต)ก็ต้องเชิญท่าน มาเสกให้ "

ด้วยการที่เคยอยู่รับใช้องค์หลวงปู่ฯ มาพอสมควร ทำให้ทราบถึงความเกี่ยวพัน และสายสัมพันธ์ขององค์พระมหาอุปคุตและองค์หลวงปู่พิศดู ว่าอย่างน้อยในอดีตกาล องค์หลวงปู่ฯเคยบวชอยู่ในสำนัก ของพระมหาอุปคุตเถระมาก่อน เพราะฉะนั้นองค์หลวงปู่ฯกับพระมหาเถระอุปคุต จึงมีความเกี่ยวข้องกันโดยตรง ไม่ว่าองค์หลวงปู่ฯจะทำการอธิษฐานจิตวัตถุมงคลใดๆ อันมีรูปสมมุติของพระมหาอุปคุต ท่านก็จะอัญเชิญญาณบารมีธรรม ของพระมหาอุปคุต มาร่วมอธิษฐานจิตด้วยทุกครั้ง ตลอดถึงครูบาอาจารย์ทุกองค์ อันมีท่านพ่อลี ผู้เป็นพระอาจารย์ของหลวงปู่ฯท่านด้วย หลวงปู่ฯท่านบอกเสมอว่า

" ท่านพ่ออุปคุตนั้น...แค่เราคิดถึงท่าน...ท่านก็มาหาแล้ว "
(ข้อมูลโดย...คุณสิรภพ )

อานิสงส์การบูชาพระอุปคุต
1. จะเป็นสิริมงคลชุ่มเย็นตลอด
2. ป้องกันภัยพิบัติและแคล้วคลาดจากอันตรายต่างๆและอุบัติเหตุทั้งหลาย
3. เป็นผู้ชนะมารและศัตรูที่จะมาปองร้ายเราทั้ง 10 ทิศ
4. เป็นผู้มีอำนาจวาสนาดี ไม่มีใครข่มเหงรังแก
5. เป็นที่เคารพนับถือและเกรงกลัวของคนทั้งหลาย
6. เป็นผู้กินไม่หมด มีโชคลาภอยู่ตลอดเหมือนพระอุปคุตล้วงบาตร

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามเย็นครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

#ย้อมสีอังสะ..
ผมเคยคุยกับลูกศิษย์ของหลวงปู่ท่านหนึ่ง ที่นำอังสะตัวนี้มาถวายหลวงปู่ ซึ่งโดยความจริงแล้วอังสะตัวที่เห็นในภาพนี้จะเป็นสีสดเหลืองอ๋อยเลย ไม่ใช่สีของพระป่าแบบที่เห็นในภาพ ซึ่งในความตั้งใจของพี่เขานั้นไม่ได้ตั้งใจจะเอาอังสะสีเหลืองสดมาถวายหลวงปู่ แต่ด้วยความรีบร้อนจึงได้แวะซื้อจากร้านที่สะดวก แต่อังสะที่ร้านมีแต่สีเหลืองสด จึงได้นำมาถวายก่อนเพื่อหวังอานิสงส์
เมื่อนำมาถวายแล้ว หลวงปู่ได้พูดขึ้นว่า " สีนี้ไม่ใช่สีพระป่า แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะย้อมของเราเอง.. "
ว่าแล้วหลวงปู่ท่านก็สรวมอังสะตัวนั้นให้ทันทีโดยที่ผู้ถวายก็ไม่ได้คิดฝันว่าท่านจะเมตตาฉลองให้ ซึ่งพอดีวันนั้นมีลูกศิษย์นำกล้องถ่ายรูปมา จึงขออนุญาตหลวงปู่ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ท่านก็ใส่อังสะสีเหลืองอ๋อยตัวนี้ให้เขาถ่ายภาพ รู้สึกว่าวันนั้นจะถ่ายไปร่วมๆสิบภาพ แต่พอล้างออกมาปรากฏว่า สีของอังสะจากเหลืองอ๋อยได้กลายเป็นสีกรักทุกภาพ..!!!!
ทุกคนที่รู้เห็นก็ต่างบอกว่า แปลกมาก ตรงกับที่หลวงปู่ท่านกล่าวเอาไว้ข้างต้นว่า..
" สีนี้ไม่ใช่สีพระป่า แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราจะย้อมของเราเอง.. "
ซึ่งก็ไม่คิดว่าท่านจะยอมสีอังสะในลักษณะออกมาทางภาพถ่ายแบบนี้
และภาพนี้ก็ยังได้เป็นภาพยอดนิยม ที่หลวงปู่เรียกว่า " ภาพยิ้มยักษ์กลัวผีกลัว(ภาพมหากัน) "

#ขอขอบพระคุณ คุณโต(อิตาลี ลูกศิษย์หลวงปู่) ที่ถ่ายทอดประสบการณ์นี้ให้ฟังครับ

 

สวัสดียามสายครับป๋า

 

" อ่านต่อไปเรื่อยๆนะ...เราไปเดินจงกรมก่อน...เดี๋ยวมา "

อภิญญา...ของ...องค์หลวงปู่พิศดู

ผมเคยได้คุยกับลุงคนหนึ่ง ซึ่งลุงคนนี้ ผมพอจะมีความคุ้นเคย ลุงได้เล่าประสบการณ์ ที่พบเจอกับองค์หลวงปู่ให้ฟัง

สมัยก่อน ตอนที่องค์หลวงปู่พิศดู ยังแข็งแรงอยู่ ลุงคนนี้ ได้เข้าไปรับใช้องค์หลวงปู่บ่อยๆ และมีอยู่วันหนึ่ง ไปหาท่าน ท่านก็สั่งให้อ่านหนังสือธรรมะ ซึ่งเป็นหนังสือเล่มหนามาก แต่ท่านสั่งเอาไว้ว่า ให้อ่านให้จบ และให้อ่านออกเสียงด้วย พออ่านไป อ่านมาสักพัก หลวงปู่ท่านก็บอกว่า

" อ่านต่อไปเรื่อยๆนะ เราไปเดินจงกรมก่อน เดี๋ยวมา "

ลุงคนนี้ พอนั่งอ่านนานๆ ก็เมื่อย จึงได้นอนอ่าน พอนอนอ่านกำลังเพลินๆ ก็รู้สึกเห็นว่า ทำไมองค์หลวงปู่ ท่านเดินจงกรมเร็วนัก จึงได้หันไปมองก็ ตกใจ เพราะเห็นว่า เท้าขององค์หลวงปู่ไม่ได้ติดพื้น เท้าของท่านลอยอยู่เหนือพื้น ประมาณคืบหนึ่ง ซึ่งในระยะที่นอนอ่านหนังสือ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ว่าองค์หลวงปู่ท่านลอยอยู่ เท้าท่านไม่ได้ติดกับพื้นแน่นอน ตั้งแต่นั้นมา ลุงจึงหมดความสงสัย ในคุณวิเศษขององค์หลวงปู่

ประสบการณ์ที่คล้ายๆกันนี้ เคยเกิดกับพระอาจารย์รูปหนึ่งที่ วัดเทพพล

เมื่อเดือนก่อน ผมได้โทรคุยกับลุงที่บริษัท เขาเล่าให้ฟังว่า ไม่นานมานี้ลุงได้ไปทำบุญ ที่วัดเทพพล ได้พบพระรูปหนึ่งอยู่ที่วิหาร ก็สนทนากับท่านไปสักพักใหญ่ พระรูปนั้น ท่านก็เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า

" เรื่องปาฏิหาริย์นี่ มีจริงนะ อาตมาเคยเจอมากับตัวเอง ตอนไปอยู่กับครูบาอาจารย์องค์หนึ่ง ท่านชื่อ หลวงปู่พิศดู อยู่ที่จันทบุรี "

" สมัยที่อาตมาไปอยู่กับหลวงปู่ 2 เดือน ช่วงเวลาเช้าๆ อาตมาเห็นท่านเดินเท้าไม่ติดพื้น ลักษณะเหมือนท่าน ลอยสูงจากพื้นขึ้นมา แล้วเคลื่อนไปข้างหน้า อาตมาตาไม่ฝาดแน่ เพราะเห็นแบบนี้มา ไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง "

" หลวงปู่พิศดู ท่านมีอภินิหารมากนัก อาตมาเจอประสบการณ์กับท่าน หลายครั้งเลย "

ข้อมูลคุณสิรภพ

 

" ที่ให้ไปนะ เอาไปคล้องนะ โยมได้ของดีไปแล้ว...ต้องใช้ "

หลวงปู่พิศดู ท่านเคยบอกไว้ว่า

" เวลาเราเสกของ เราจะน้อมเอาของนั้น ไปถวายพระพุทธเจ้า พอพระพุทธเจ้าท่านรับแล้ว ของนั้นก็เป็นของๆท่านนะ แม้แต่ของอื่นๆ ที่มีคนเอามาถวาย เราเอาถวายพระพุทธเจ้าท่านหมด "

" เวลาเราเสก พระพุทธเจ้าท่านก็มา ท่านมากันทั้งหมด "

" มนต์ที่ใช้เสก ก็มนต์ของพระพุทธเจ้าท่านทั้งนั้น ถ้าเราใช้มนต์ของท่าน ท่านก็มาช่วยทำด้วยอยู่แล้ว "

" ท่านพ่ออุปคุต ท่านมาช่วยเสกของให้ด้วยนะ ท่านพ่ออุปคุตนี่ ญาณท่านใหญ่ แค่เราคิดถึงท่าน ท่านก็มาแล้ว "

" เราถึงหมดทุกสาย ไม่ว่าสายไหนๆก็มาหาเราหมด "

" ใช้ของเราไม่ต้องมีข้อห้าม ไม่ต้องห่วง ไม่มีเสื่อมอยู่แล้ว จะใส่ไปรอดอะไรก็ใส่ไป ไปได้ทุกที่ "

" ที่ให้ไปนะ เอาไปคล้องนะ โยมได้ของดีไปแล้ว...ต้องใช้ "

 

ev546081123th พระประแดง

 

สวัสดียามบ่ายครับป๋า

 

สวัสดียามเที่ยงงครับป๋า

 

#คัดลอกบทความจากหนังสือตามรอยหลวงปู่ใหญ่

ข้าพเจ้าและสามีได้ไปขายของอยู่ที่จังหวัดจันทบุรีเวลาบ่ายโมง ข้าพเจ้าและสามีได้เดินทางไปยัง #วัดเทพธารทอง มีเพื่อนอยู่ที่จังหวัดตราดแนะนำให้ไปหาเจ้าอาวาส(หลวงปู่พิศดู)ที่วัด เพราะเขาบอกว่าหลวงพ่อเป็นสายเดียวกับหลวงปู่ใหญ่ ข้าพเจ้ากับสามีได้เข้าไปกราบ หลวงพ่อท่านชรามากแล้ว ท่านถามข้าพเจ้าว่า มาธุระอะไร ข้าพเจ้ากล่าวว่ามากราบด้วยใจเคารพ นั่งสนทนากันอยู่สักพักได้มีพระรูปหนึ่งเดินเข้ามาคุยกับหลวงพ่อก็ได้เชิญหลวงพี่รูปนี้ขึ้นเทศน์โปรดข้าพเจ้ากับสามี หลวงพี่ได้นั่งทำสมาธิสักครู่แล้วก็เริ่มเทศน์เกี่ยวกับการกำหนดจิตใจ น้ำเสียงนุ่มน่าฟัง พูดช้า ข้าพเจ้าและสามีฟังแล้วเกิดการปิติ ซึ่งข้าพเจ้าไม่เคยเป็นมาก่อน ท่านเทศน์เหมือนกับรู้ว่าข้าพเจ้าและสามีกำลังประสบปัญหายุ่งยากทางการงาน การเงิน ปัญหาหนี้สิน สามีของข้าพเจ้าได้บ่นกับท่านว่าเจ้าของอู่รถนิสัยไม่ดี ไม่ยอมทำรถให้กับข้าพเจ้า หลวงพี่ท่านพูดว่า ก่อนเราจะกล่าวหาผู้อื่นให้ดูที่ต้นเหตุของเรื่องอย่ามองที่ปลายเหตุถ้าสามีไม่ใจร้อน มีสติ สมาธิ ความใจเย็น ก็คงไม่ขับรถไปปาดหน้าเขาแล้วก็ทำให้เกิดการชนกัน เราก็คงไม่ต้องมานั่งทุกข์ใจอย่างนี้ สามีของข้าพเจ้าได้คุยอีกว่าปัจจุบันนี้เขาเลิกสุราและเนื้อสัตว์ทุกชนิด เลิกได้จากน้ำมนต์พระโพธิสัตว์กวนอิม หลวงพี่กลับถามว่าแน่ใจหรือว่าหยุดได้จากน้ำมนต์ ทำไมไม่คิดให้ดีว่าเราหยุดได้จากความตั้งใจของเราเองเพราะเรามีจิตใจที่ตั้งมั่นว่า เราจะหยุดดื่มสุรา และเลิกกินเนื้อสัตว์ ท่านเปรียบเทียบให้ฟังว่า เด็กที่กำลังหัดยืนและเดินนั้นไม่มีใครสามารถช่วยให้เขายืนได้ ถ้าเขาไม่ช่วยตัวของเขาเอง เขาจะต้องมีกำลังใจที่เข้มแข็ง เขาถึงสามารถยืนและเดินได้ คนเรานั้นจิตใจเป็นใหญ่กว่า ท่านแนะนำให้ข้าพเจ้านั่งสมาธิอย่าท้อแท้กับอุปสรรค สำรวมจิตให้สงบ แล้วปัญญาก็จะเกิด พอท่านเทศน์จบ ข้าพเจ้ากับสามีรู้สึกตัวเบา สมองปลอดโปร่ง พอเทศน์จบ หลวงพี่ท่านจะไปธุระ ข้าพเจ้าก็นิมนต์ขึ้นรถของข้าพเจ้าเพื่อที่จะไปส่งท่านที่ตะพง จ.ระยอง ตอนที่ท่านไปเก็บของอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ได้ถามหลวงพ่อ(พิศดู) ว่าหลวงพี่องค์นี้บวชมากี่พรรษา หลวงพ่อท่านบอกว่า #อย่าไปสนใจพรรษาเลยเพราะนับพรรษาไม่ถูก ข้าพเจ้ากับสามีก็แปลกใจในคำพูดนั้น ระหว่างอยู่บนรถท่านนั่งตัวตรงไม่มองซ้ายขวา กิริยาสำรวมมาก ท่านเห็นกล้องส่องพระของสามี ท่านก็พูดลอยๆ ว่าอย่าส่องแต่พระ ให้ส่องดูจิตใจของตนเองบ้าง สามีก็รีบเก็บกล้องส่องพระ ท่านบอกว่าท่านเดินธุดงค์มาจากโคราช รองเท้าไม่ได้ใส่ แต่มองดูที่เท้านั้นใหญ่และเป็นสีชมพูไม่เหมือนพระเดินธุดงค์ ข้าพเจ้าได้ถามท่านว่าให้ส่งที่ตะพงแล้วท่านจะไปไหนต่อ ท่านบอกว่าท่านจะไปทำธุระที่อุดร ช่วงที่ท่านลงจากรถข้าพเจ้าและสามีได้คุกเข่ากราบท่าน และท่านกำลังให้พรเป็นภาษาพระอยู่นั้นได้มีเม็ดฝนเล็กมากโปรยมาในขณะที่แสงแดดจ้าอยู่ สามีได้พูดว่าน้ำมนต์ หลวงพี่บอกว่าพูดดีมาก และก็บอกอีกว่า โยมทั้งสองมาส่งอาตมา ต่อไปชีวิตจะดีขึ้นจะพบเจอแต่สิ่งที่ดี และให้รักษาศีล มั่นฝึกสมาธิกำหนดจิตใจ แล้วโยมก็จะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้

ที่อยู่ 45/3 ม.19 ต.บางระมาด อ.ตลิ่งชัน กทม.
วันที่ 19 พ.ย. 2541
ชื่อ คุณสุภัทรา - คุณศักดา เกษมสวัสดิ์

---------------------------------------------------

( #เหตุการณ์ที่นอกเหนือจากหนังสือ )
หลังจากทั้งสองสามีภรรยาได้คุกเข่ากราบหลวงพี่นิรนามองค์นั้น ท่านก็ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแทบจะทันที เป็นที่อัศจรรย์ สองสามีภรรยาก็วิ่งวนหาแต่ก็ไม่พบ
ต่อมาภายหลังหลวงปู่พิศดูได้เฉลยว่า พระรูปดังกล่าวนั้นคือ หลวงปู่ใหญ่ หรือหลวงปู่เทพโลกอุดรนั่นเอง ท่านมาโปรดลูกศิษย์เก่าของท่าน..

#หมายเหตุ หลวงปู่พิศดูท่านพบและคุ้นเคยกับหลวงปู่เทพโลกอุดรมาตั้งแต่ท่านยังเป็นพระหนุ่ม ท่านนับถือหลวงปู่เทพโลกอุดรเสมือนครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง เช่นเดียวกับพระมหาอุปคุต

#ขอขอบพระคุณ คุณสุภัทรา - คุณศักดา เกษมสวัสดิ์ เจ้าของเรื่อง มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับผม.. สาธุ

 

สวัสดียามสายครับป๋า