โชคเหนือเมฆ-กำไลเหนือดวง- มูลนิธิเทียนฟ้า 2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

ขอทราบราคาด้วยครับพี่บัติ

 

แจ้งไปทางpmแล้วครับ องค์จริงมาแล้วครับ

 

รบกวนขอทราบราคาด้วยครับ

 

แจ้งให้ทราบทางpmแล้วครับ

 

ปิดแล้วครับ

 

จัดให้เป็นชุด 1.รูปถ่ายที่อยู่กับหลวงปู่นานที่สุด (ตอกโค็ด)+พระอุปคุตจิ๋ว(ชนะมาร)+เหรียญขวัญถุง(ตอกโค็ด)หลวงปู่อธิษฐานจิต มีแบ่งทองแดง1ชุดและทองเหลือง1ชุดครับ(pm)

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfH979l21HXVRlr" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/t/25b/rKyI71.JPG" /></a>
<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfHciXtAnbRoXZY" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/7e8/jb7WpF.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfHfuLC8JTw4cXD" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/e34/9zNKtS.JPG" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfHiGzKGRHAxM4n" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/682/WwsKnB.JPG" /></a>​

 

แจ้งให้ทราบทางpmแล้วครับ

 

พระชุดนี้มีลูกศิษย์รุ่นเก่าที่อยู่ จ.ตราด ได้พระชุดนี้มาจากวัด วัดหนึ่งที่ จ.กำแพงเพชร แล้วนำมาถวายหลวงปู่ เมื่อประมาณ ปี 2545 เพื่อให้ท่านเสกแจกแก่ลูกศิษย์ลูกหาของท่าน เป็นพระเนื้อดินเผามีอยู่ด้วยกันหลายพิมพ์ครับ เช่นพิมพ์พระรอด พระปิดตา พระตรีกาย พิมพ์ขุนแผน พิมพ์พระสิวลี ฯลฯ เดิมทีพระชุดนี้ไม่มีลงทอง และไม่มีจารอักขระใดๆ หลวงปู่ท่านได้แจกจ่ายไปบ้างบางส่วน ต่อมาพระที่เหลือนั้นทางลูกศิษย์จึงได้ขออนุญาต จารอักขระ และลงทองบลอนซ์เพื่อให้มีความแตกต่างจากพระชุดเดิม และให้ทราบกันว่าพระชุดนี้เป็นชุดที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตยาวนานอย่างน้อยถึง 3-4 ปี และทองบลอนซ์ที่ใช้ลงพระชุดนี้ ก็เป็นทองเบอร์เดียวกันกับที่ใช้ลงพระขุนแผนพุทธะมงคลนั่นเองครับ

ข้อมูลคุณทุเรียนทอด

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfxftWObCgBp6Gl" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/333/OYlk6O.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfxijMgsdeuN4Vw" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/4e1/OrG9Ri.JPG" /></a>

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfPscgh3euIeN7e" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/7f4/yJXSd9.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfPv25JjV8cnKqH" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/738/pmc5bw.JPG" /></a>​

ปิดให้ตามที่แจ้งมาทางpmครับ

 

หนุมานมหาฤทธิ์ วัดเขาน้ำซับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xKfUQudos8YSbIBr" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/610/eqCM2j.jpg" /></a>​

หนุมานนั่งบนฐานภูเขา เอาหางขดรอบ เพราะหนุมานมีฤทธิ์มาก สามารถย่อตัวหรือขยายตัว มีพลังยกถอนภูเขาได้สบาย ดังเช่นตอนหนึ่งในวรรณคดีกล่าวถึงตอนที่หนุมานแสดงฤทธิ์ถอนภูเขาสัญชีพสัญญี ที่มีต้นยาสังกรณี ตรีชวา โดยขยายร่างให้ใหญ่ เอาหางขดรอบ แล้วเหาะเอาภูเขายาทั้งลูกกลับมาเพื่อเอายามารักษาพระลักษณ์ที่ถูกหอกกบิลพัท.. ฯลฯ

และใต้ฐานยังออกแบบเป็นฐานแบบตุ๊กตาล้มลุก เป็นเคล็ดแสดงถึงลักษณะที่ไม่ตาย ไม่แพ้ ไม่ล้ม ถ้าล้มแล้วจะต้องลุก ที่รอบฐานยังจารึกอักขระหัวใจหนุมาน และกำลังหนุมานไว้ด้วย
เท่าที่เราเคยเห็นการสร้างหนุมานนั้นจะนั่งยองจับเข่า หรือถ้าพนมมือก็จะคุกเข่า แต่ถ้ามาคิดดูแล้ว ธรรมชาติของลิงจะไม่คุกเข่าครับ ยิ่งถ้าท่าเตรียมพร้อมต่อสู้จะต้องนั่งยอง
หนุมานชุดนี้ถ้าสังเกตุดูจะเห็นว่านั่งยอง เพราะหนุมานก็เป็นลิง จึงออกแบบให้อยู่ในท่านั่งยองเตรียมพร้อมออกรบ และพนมมืออธิษฐานฤทธิ์ร่ายเวทมนต์ก่อนออกไปรบครับ.. การออกแบบจึงไม่ซ้ำกับที่ใดมาก่อน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่คาดกันไม่ถึง แต่ถ้าคิดถึงหลักความน่าจะเป็นจริงแล้ว จึงสมบูรณ์แบบลงตัวทุกประการครับ
ใต้ฐานเจาะรูเพื่ออุดผงหนุมานคลุกผุ่น หนุมานแผลงฤทธิ์ และผงหนุมานจากสำนักต่างๆมากมาย อาทิ หลวงพ่อกวย หลวงปู่สีห์ วัดสะแก หลวงพ่อดิ่ง และสารพัดผงวิเศษที่ดีที่สุดเท่าที่จะหากันมาได้ ฯลฯ

ส่วนโค๊ดที่จะใช้ตอกหนุมานนั้น เป็นโค๊ดรูปตรีศูล อาวุธประจำกายของพญาหนุมานอันเรืองฤทธิ์ ซึ่งอาวุธนี้เป็นของวิเศษเฉพาะตัวเวลาไม่ใช้จะซ่อนไว้อยู่ ถ้าจะใช้งานจึงออกมาเองครับ..
หนุมานรุ่นนี้ตั้งชื่อรุ่นว่า.. " หนุมานมหาฤทธิ์ " สร้างจากเนื้อสัมฤทธิ์เดชผสมดีบุก เพียงเนื้อเดียวเท่านั้น โดยได้เททองหล่อในพิธี พร้อมกับเททองพระประธานทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ และพระกริ่งสุขังเสติ ของทางสำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิแนวหน้าของเมืองอโยธยาฯ อาทิ หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน ฯลฯ นั่งปรกประจำทิศ และพระสวดพิธีธรรมอีก 19 รูป

หนุมานมหาฤทธิ์ชุดนี้ ได้หลอมหล่อจากชนวนศักดิ์สิทธิ์ล้วนๆ โดยมี..

- ชนวนพระกริ่ง ธัมมะจารีก้อนก้นเบ้า มาผสมเป็นชนวนสำคัญ
- ชนวนพระกริ่ง สุขังเสติ (ตักน้ำโลหะจากเบ้าหลอมพระกริ่ง มาใส่เบ้าหลอมหนุมาน..)
- ชนวนพระขรรค์แก้ววัชรจักร รุ่นแรก ของหลวงปู่พิศดู
- ชนวนพระนารายณ์ และพระนารายณ์ทรงครุฑ หลายสำนัก
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่อั๊ป วัดท้องไทร
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อแล วัดพระทรง
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อสาคร วัดหนองกลับ
- ชนวนหนุมาน หลวงตาวาส วัดสะพานสูง
- ชนวนหนุมาน หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่บัว วัดศรีบูรพาราม
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง
- ชนวนหนุมาน หลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง
- ชนวนหนุมาน ศาลพระกาล
- ชนวนหนุมาน อีกหลายสำนัก
- แผ่นอักขระยันต์ หนุมาน หลายแผ่น
- แผ่นอักขระจารพระยันต์ต่างๆจำนวนมาก
- ... ฯลฯ


มวลสารที่ใช้อุดใต้ฐานหนุมาน มีดังนี้

- ผงหนุมาน ของ หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
- ผงหนุมาน ของ หลวงปู่สีห์ วัดสะแก
- ผงหนุมาน ของ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
- ผงหนุมาน ของ หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
- ผงหนุมาน ของ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
- ผงหนุมาน ของ หลวงปู่หนู ทุ่งแหลม
- ผงหนุมาน ของ หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
- ผงหนุมาน ของ หลวงพ่อฟู วัดบางสมัตร
- ผงหนุมาน ของ หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนินสุทธาวาส
- ผงหนุมาน ของ สายหลวงปู่ดู่
- ผงหนุมาน คลุกฝุ่น ทั้งสายพระ และสายฆราวาส
- ผงว่าน 108 ชนิด (ครบ..)
- ผงว่าน 500 ชนิด ของหลวงปู่พรหมมา วัดหินผานางคอย (จำนวนมาก..)
- ผงดำออกศึก หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว , หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
- ดินสอพอง ศาลพระกาฬ จ.ลพบุรี
- ตะไคร่ พระที่นั่งไกรสรสีหราช(ตำหนักทะเลชุบศร) ต.ทะเลชุบศร จ.ลพบุรี
- ผงดิน-ทราย พระที่นั่งไกรสรสีหราช(พระที่นั่งเย็น หรือ ตำหนักทะเลชุบศร) ต.ทะเลชุบศร จ.ลพบุรี
- ผงดิน-ทราย ในสระทะเลชุบศร
- น้ำในสระทะเลชุบศร
- ผงธูป ศาลลูกศร จ.ลพบุรี

- ตะไคร่ ลูกศรพระราม ศาลลูกศร จ.ลพบุรี.. ขยายความดังนี้.. ศาลลูกศร ตั้งอยู่ถนนสายริมน้ำหลังวัดปืนใหญ่ ที่ศาลแห่งนี้มีแท่งหินแท่งหนึ่งคล้ายหัวลูกศรโผล่เหนือระดับพื้นดินขึ้นมา สูงประมาณ 1 เมตร เป็นศาลเจ้าหลักเมืองโบราณที่เรียกว่า " ศาลลูกศร " หรือที่เรียกหินรูปลูกศรนี้กันว่า ศรพระราม นั้นเกิดแต่เรื่องรามเกียรติ์ สมมติฐานเป็นตำนานของเมืองนี้ คือเมื่อเสด็จศึกทศกัณฑ์ พระรามกลับไปครองเมืองอโยธยาแล้ว จะสร้างเมืองให้หนุมานไปปกครองนั้น จึงได้อธิษฐานเสี่ยงทายแผลงศร ลูกศรพระรามไปตกบนภูเขาบันดาลให้ยอดเขานั้นราบลง และเกิดไฟเผาผลาญจนดินบริเวณนั้นสุกจนกลายเป็นสีขาว(ดินสอพอง) หนุมานตามไปถึงจึงเอาหางกวาดดินเป็นกำแพงเมืองหมายไว้เป็นสำคัญ แล้วพระวิษณุกรรมลงมาสร้างเมืองให้ ครั้นเสร็จแล้วพระรามจึงประทานนามว่า " เมืองลพบรี " หรือเมืองขีดขิน ด้วยเหตุนี้จึงอ้างกันมาก่อนนานแล้วว่า หลักเมืองนั้นคือลูกศรพระรามที่กลายเป็นหิน และเนินดินตามกำแพงเมืองที่ยังปรากฏอยู่เป็นของหนุมานที่เอาหางกวาดทำไว้.. ตรงที่หินรูปลูกศรนี้ จะต้องทำการหล่อน้ำเอาไว้ตลอดเวลา เพราะมีความเชื่อกันว่า หากน้ำที่หล่อลูกศรนี้แห้งลงเมื่อใด จะเกิดไฟไหม้ทั่วทั้งเมืองลพบุรี ดังที่เคยปรากฏมาแล้ว..

- น้ำหล่อศรพระราม(หินลูกศร..) ศาลลูกศร จ.ลพบุรี
- หินเขี้ยวหนุมาน
- ผงชมพูนุช หลวงพ่อกวย
- ผงธูป ที่บูชาหลวงพ่อสุ่น และพญาหนุมาน วัดศาลากุน
- ทองคำเปลวปิดองค์รูปเหมือนหลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน
- รากพุดซ้อน ทิศตะวันออก วัดศาลากุน

- ใบโพธิ์ประทาน ของวัดระหารไร่.. ขยายความดังนี้.. เมื่อคราวที่ได้นำหนุมานไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดระหารไร่นั้น เมื่อเสร็จพิธีแล้วได้ยกลังหนุมานออกมาจากปรัมพิธี และมานั่งพักที่ใต้ต้นโพธิ์บริเวณข้างๆศาล ฤาษีอิสริโกมุนี สักครู่เดียว ใบโพธิ์ใบหนึ่งมีสภาพเขียวสดใสไม่มีขาดแหว่งได้ตกลงมาบนลังหนุมานพอดี จึงได้อธิษฐานขอใบโพธิ์ใบนั้นมาทำมวลสารบรรจุในองค์หนุมานชุดนี้ด้วย..

- กากว่าน-มวลสารก้นหม้อ น้ำมันอนันตคุณ108.. ขยายความดังนี้.. กากมวลสารก้นหม้อน้ำมันอนันตคุณ108 นั้น ประกอบด้วย น้ำมัน 108 เกจิครูบาอาจารย์ , ว่าน 108 ชนิดครบ , มวลสารประเภทผงวิเศษและแร่ต่างๆ 108 ชนิด ฯลฯ โดยผ่านการหุงต้มมาแล้วหลายไฟ และผ่านพิธีพุทธาภิเษก และอธิษฐานจิตมาแล้วหลายสิบพิธีครับ..

- ผงที่ใช้สร้างพระหลวงปู่ทวด วัดประสาท ปี 2506
- ผงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค พิมพ์ทรงหนุมาน
- ผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
- ผงมหาจักรพรรดิ์ ล้วน 99 % ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จำนวนมาก
- ผงของหลวงพ่อแก้ว , หลวงพ่อปลอด , หลวงพ่อทองสุข วัดในปากทะเล จำนวนมาก
- ผงอิทธิเจ สมัยอยุธยา วัดสัมฤทธิ์

- ผงกสิณ ผงพุทธะมงคล และผงวิเศษต่างๆ ขององค์หลวงปู่พิศดู
- ผงยาวิเศษปราบโรค หลวงปู่พิศดู
- ผงมวลสารที่ใช้บรรจุในองค์พระกริ่งธัมมะจารี และพระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ชุดอุดผง
- ผงที่ใช้สร้างพระทุกรุ่น ของหลวงปู่พิศดู
- ผงชาญหมาก หลวงปู่พิศดู
- ผงไม้เท้า หลวงปู่พิศดู
- ผงไม้เทพธาโรเสก หลวงปู่พิศดู
- ผงไม้โพธิ์นิพพาน วัดเทพธารทอง
- ผงบายศรีพระมหาอุปคุต หลวงปู่พิศดู
- ผงดอกไม้บูชาพระ ของหลวงปู่พิศดู
- ผงสี ที่ลอกออกจากพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ วัดเทพธารทอง
- ข้าวก้นบาตร ของหลวงปู่พิศดู
- ผงยาสมุนไพร ของหลวงปู่พิศดู
- ผงน้ำอ้อยเสก หลวงปู่พิศดู
- น้ำมนต์พิธีต่างๆ และน้ำล้างหน้า ขององค์หลวงปู่พิศดู
- ปรอท ที่ใช้ทำเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
- ผง เปลือกหอยเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
- ผง เปลือกหอยสังข์มงคล หลวงปู่พิศดู
- สีผึ้ง หลวงปู่พิศดู

- ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
- ผงยาจินดามณี หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
- ผงยาจินดามณี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
- ผงยาจินดามณี หลวงปู่ใบ วัดกลางบางแก้ว
- ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
- ผงยาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร

- ผงมวลสาร สายหลวงปู่เทพโลกอุดร
- แป้งเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
- ผงมวลสารของ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
- ผงมวลสารของ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
- ผงพระคำข้าว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
- ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะ
- ผงมวลสาร ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
- ผงพระกรุสมัยต่างๆ หลายกรุ
- ผงพระกรุ วัดบึงพระยาสุเรนทร์
- ผงพระกรุ วัดชนะสงคราม ยุคสงครามเก้าทัพ
- ผงวิเศษของ หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
- ผงวิเศษของ หลวงปู่กิ วัดสนามชัยเขต
- ผงวิเศษของ หลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
- ผงวิเศษของ หลวงปู่แทน วัดธรรมเสน
- ผงวิเศษของ หลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
- ผงวิเศษของ หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
- ผงวิเศษของ หลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ
- ผงวิเศษของ หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
- ผงลบสูตร หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
- ผงลบสูตร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
- ผงลบสูตร หลวงปู่ดี ธัมมะธีโร
- ผงตรีนิสังเห และผงสบสูตร หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี

- ผงยาที่ใช้พอกตะกรุด ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน
- ผงยา 7 ชนิด ผงว่านสลักไก ผงว่านต่างๆ ดินปิดรูปู หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว
- ผงไม้กงกะเด็น ว่านเปราะหอม หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม
- ผงวิเศษหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
- ผงบายศรีบูชาครู หลวงปู่หมุน
- ผงกสิณ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
- ยาอจินไตย หลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร เพชรบูรณ์
- ผงการบูรเสก หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์
- ผงจากขวานฟ้าผ่า ล้างอาถรรพ์
- ผงพระว่านจำปาสักหลายองค์
- ผงมหาอำนาจ
- ผงวิเศษของ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
- ผงวิเศษของ หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
- ผงพระหลวงปู่ผาด วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก
- ชาญหมากพระเกจิ ครูบาอาจารย์ต่างๆ จำนวนมาก

- ผงอุกามณี ของ สมเด็จลุน เมืองจำปาสัก
- ผงปฐวีธาตุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
- ผงปฐวีธาตุ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
- ทรายเสก หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
- ทรายเสก หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
- ทรายเสก หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมนต์
- ทรายเสก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
- ทรายเสก หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
- ทรายแก้ว ทรายเงิน ทรายทองศักดิ์สิทธิ์ และอิฐพระธาตุพนมองค์เดิม วัดพระธาตุพนม
- มวลสารเก่า วัดพระธาตุพนม
- พลอยเสก

- ผงปูนเสก คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ
- ผงพระปิดตา ทั่วทั้งสายชลบุรี และใกล้เคียง
- ผงกะลาตาเดียว และไม้มงคล
- ผงกาฝากไม้มงคลต่างๆ
- ผงธูปวัดสำคัญๆหลายที่
- ผงงาช้างโบราณ
- ผงแท่งอำพัน วัดพระปฐมเจดีย์
- ผงโมเสค วัดพระพุทธชินราช

- ข้าวสารดำ อายุ 2,500 ปี
- ผง ปรอทหลวงปู่ละมัย
- แร่ พระหัตถ์ 4 รอย วัดปะต๊ะ สิบสองปันนา
- แร่ จ้าวน้ำเงิน
- แร่ เมฆพัตร
- แร่ บางไผ่
- แร่ ข้าวตอกพระร่วง
- แร่ เหล็กน้ำพี้
- แร่ เกาะล้าน
- แร่ เหล็กไหลย้อย
- แร่ เหล็กเปียก
- แร่ เพชรหน้าทั่ง
- แร่ วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506
- ปรอทดำ
- ปรอทขาว

- ตะไบ พระกริ่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
- ตะไบ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง
- ตะไบ พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ สุขังเสติ วัดเขาน้ำซับ
- ตะไบ รูปหล่อพระมหาอุปคุตปราบมาร วัดเขาน้ำซับ
- ตะไบ พระกริ่ง ญาท่านสวน วัดนาอุดม
- ตะไบ พระกริ่ง มงคลมหาเศรษฐี วัดศรีบูรพาราม
- ตะไบ พระกริ่ง ชินบัญชร ญสส. วัดศรีบูรพาราม
- มวลสารต่างๆ จากสายสำนักเขาอ้อ
- ผงมวลสารจากครูบาอาจารย์ สายพระป่ากรรมฐานทั้วประเทศ
- ผงต่างๆ จากเกจิอาจารย์ ฯลฯ อีกจำนวนมากนับไม่ถ้วย ที่ไม่มีการจดบันทึกเอาไว้
- ... ฯลฯ

- สีผึ้งหลายสิบวัด จำนวนมาก
- น้ำผึ้งเสก
- น้ำมัน อนันตคุณ108
- น้ำมัน หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
- น้ำมัน ชาตรี หลวงปู่ปาน , หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
- น้ำมัน ชะมด หลวงพ่อผินะ
- ...ฯลฯ


น้ำมนต์ต่างๆที่ใช้ผสมในมวลสารที่บรรจุองค์หนุมานนี้..

- น้ำมนต์ ที่แช่พระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ในพิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ วันตักบาตรพระมหาอุปคุต ปี 2553
- น้ำมนต์ หลวงปู่พิศดู หลายวาระ
- น้ำมนต์ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
- น้ำมนต์ วัดตูม จ.พระนครศรีอยุธยา
- น้ำมนต์ พิธีเททองหล่อพระประธานทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ พระกริ่งสุขังเสติ หนุมานมหาฤทธิ์
- น้ำทิพย์ ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
- น้ำทิพย์ หลวงปู่เชื่อม วัดเขาทอง
- น้ำมนต์ 3 บ่อ พิธีไหว้ครูจักรวาล หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
- น้ำมนต์ หลวงปู่ไม วัดป่าเขาภูหลวง
- น้ำมนต์ พิธีพุทธาภิเษกต่างๆมากมาย
- น้ำมนต์ จากวัด และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ มากกว่า 300 วัดทั่วประเทศ ผสมกัน
- น้ำส้มป่อย ล้างหน้าองค์พระมหามัยมุนีย์(พระมหาจักรพรรดิ์) ประเทศพม่า
- น้ำในสระทะเลชุบศร
- น้ำหล่อลูกศรพระราม ศาลลูกศร
- ... ฯลฯ

มวลสารทั้งหมดนี้ มีจริงๆ ใส่จริงๆ และไม่ได้ลากข้อมูลของใครมาแน่นอน มั่นใจได้ครับ มีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณท่านหนึ่ง ได้จับผงมวลสารเหล่านี้ถึงกับบอกว่า.. ผงนี้สูงมาก จับแล้วขึ้นหัวเลย... หากเอาไปอุดหนุมานก็จะยิ่งเพิ่มฤทธิ์มากยิ่งขึ้นอีก หรือเอาไปทำอะไรๆก็ขลัง

ตะกรุดที่บรรจุใต้ฐานหนุมานมหาฤทธิ์นี้ เป็นตะกรุด " เฑาะเพชร " จารอักขระโดยหลวงปู่องค์หนึ่ง ที่เป็นผู้สืบทอดสายวิชาหนุมาน และสรรพวิชาต่างๆ โดยตรงมาจาก ท่านพ่อโต วัดเขาชากกระโดน(เขาบ่อทอง) จ.ระยอง โดยท่านได้จารใส่แผ่นโลหะแผ่นใหญ่ 5 แผ่น ซึ่งแผ่นโลหะนี้เป็นแผ่นที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วหลายพิธี เมื่อจารและเสกเรียบร้อยแล้ว ก็นำมาตัดซอยเป็นแผ่นเล็กๆ เพื่อตั้งใจนำมาบรรจุใต้ฐานหนุมานชุดนี้โดยเฉพาะ โดยตะกรุดทุกดอกนั้นจะทำการตอกโค๊ด นะปถมัง ด้วยทุกดอก
อันพระยันต์ เฑาะเพชร นั้น มีพุทธคุณครอบจักรวาล โดยเฉพาะเรื่องทรหด อดทน อยู่ยงคงกระพัน ชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด ฯลฯ ใช้ได้ครบเครื่องตามแต่อธิษฐาน เฉกเช่นยันต์พุทธอุดม้วนโลกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เพียงแต่เป็นคนละแขนงวิชากันเท่านั้น
อนึ่ง ยันต์เฑาะเพชร โดยรูปร่างอาจดูคล้ายกับยันต์เฑาะขัดสมาธิที่เห็นกันทั่วไป แต่ทว่าก็มิใช่ยันต์เฑาะขัดสมาธิ อย่างที่เราเคยเห็นกันไม่ หากแต่ยันต์เฑาะเพชรนั้น เป็นยันต์เฉพาะของสำนักนี้ การเรียกสูตรชักยันต์ก็ไม่เหมือนกันกับเฑาะขัดสมาธิ การขมวดยอดอุนาโลมขึ้นไปก็ไม่เท่ากันด้วย.. และยันต์เฑาะเพชรนั้นก็เป็นพระยันต์ที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของสำนักเลยก็ว่าได้...

อีกประการหนึ่งเหตุที่หลวงปู่ท่านจารยันต์ เฑาะเพชร ให้มาเป็นตะกรุดบรรจุใต้ฐานหนุมานนั้น เหตุผลก็อาจจะมาจากคำว่า เพชร ก็เป็นได้ คือหนุมานมีกุณฑล ขนเพชร และมีเขี้ยวแก้ว ไม่ว่าจะอาวุธใดๆก็มิอาจจะฟาดฟันให้หนุมานได้รับบาดเจ็บถึงขั้นเลือดตกยางออกได้เลย ให้สมกับคำว่าเพชรเป็นธาตุที่แข็งที่สุดในโลก และหนุมานก็เป็นอมตไม่มีวันตาย...

ข้อมูลคุณทุเรียนทอด

 

รบกวนขอราคา หนุมานครับ

 

ขอข้อมูล รูปภาพ และ หนุมาณ ครับ

 

แจ้งให้ทราบทางpmแล้วครับ

 

ข้อมูลในกระทู้คุณทุเรียนทอดตามลิงค์เลยครับ

http://palungjit.org/threads/หลวงปู...งๆ-ข้อมูลวัตถุมงคล-หน้า-1-8-a.292037/page-553

 

วัตถุมงคล2ชุดนี้ ผมขอนำปัจจัยถวายรักษาอาการอาพาธของหลวงปู่ท่อน ทราบข่าวจากลูกศิษย์คงจะพาหลวงปู่ท่อนเข้ามารักษาที่กรุงเทพในวันพรุ่งนี้ครับ บูชาชุดละ1550บาท

 

ขอ1ชุดนะครับ

 

รับทราบครับ คุณหมอร่วมบุญชุดทองแดงหรือทองเหลืองครับ

​

 

ขอร่วมบุญชุดที่เหลือครับ

 

เหลือชุดทองเหลืองให้ร่วมบุญครับ

 

คุณSIR2010ร่วมบุญชุดทองเหลืองนะครับ​

​

 

" โย โว ภิกฺขเว มํ อุปฏฺฐเหยฺย โส คิลานํ อุปฏฺฐเหยฺย "

" ผู้ใดปรารถนาจะอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงอุปัฏฐากภิกษุผู้ป่วยไข้ "


พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า: “โย ภิกขเว มํ อุปฏฐเหยย โส คิลานํ อุปฏฐเหยย”
"ผู้ใดปราถนาจะอุปปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นพึงรักษาภิกษุป่วยไข้"
การให้การพยาบาลหรือบำบัดโรคภัยไข้เจ็บของพระสงฆ์ เท่ากับการได้อุปัฏฐากพระพุทธองค์เลยทีเดียว
ตามความเชื่อผู้คนส่วนมากแล้วมึความเชื่อและศรัทธาว่า " ถ้าหากผู้ใดที่ได้ถวายอาหารหรือสิ่งของต่อพระพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บุญที่เกิดจากการถวายทานนั้น มีอานิสสงส์มากจริงๆ ถึงขนาดผู้นั้นตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ได้เป็นสาวก หรือ อัครสาวก หรือ ปราถนาพุทธภูมิ ก็ได้สมดังใจปรารถนาเลย"

ตามพระพุทธดำรัสที่กล่าวมาข้างต้นนั้น การที่เราดูแลช่วยเหลือปรนิบัติต่อพระภิกษุผู้อาพาธ เท่ากับว่าเราได้สร้างกุศลต่อพระพุทธองค์โดยตรงเลยทีเดียว ดังนี้ ผลบุญมหาศาลจักบังเกิดขึ้นแก่เราผู้ได้ปรนนิบัติอุปัฏฐากพระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธ เปรียบเสมือนเราได้ถวายทานต่อพระพุทธเจ้านั่นเอง

ดังนั้น การที่เรามีโอกาสหรือตั้งใจที่จะปรนิบัติดูแลช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ที่ป่วยไข้ อาพาธ แล้วเราน้อมจิตของเราระลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะส่งผลต่อจิตใจอันเป็นกุศลเป็นอย่างมาก และอานิสสงส์ดังกล่าวนั้น บุญจากการอุปัฏฐากพระพุทธองค์ย่อมมีกำลังกุศลมหาศาล หากตั้งจิตอธิษฐานว่า ขอให้เราเจริญในธรรมในพระศาสนาของพระพุทธองค์แล้ว กำลังแห่งความตั้งใจนั้นก็ย่อมมีมากมาย และส่งผลให้เราก้าวหน้าในธรรม มีพละและอินทรีย์ เพื่อความหลุดพ้นในโอกาสภายหน้าได้เป็นแน่แท้ เหตุดังนั้น พวกเราอย่ามัวประมาทอยู่เลย พึงกระทำมหากุศลดังกล่าวให้เกิดขึ้นแก่ตัวเอง ครอบครัว และสหธรรมิกของเราโดยพลัน ฯ
อานิสงส์การบริจาคเงินบำรุงภิกษุสามเณรอาพาธ

๑. ชื่อว่าเสมือนอุปัฏฐากพระพุทธเจ้า ดังพระพุทธพจน์ที่ว่า "ผู้ใดต้องการอุปัฏฐากเราตถาคต ผู้นั้นจงไปอุปัฏฐากภิกษุไข้เถิด"
๒. อกุศลกรรมในอดีตชาติ จะเปลี่ยนจากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นสูญ ถือเป็นการสเดาะเคราะห์อย่างหนึ่งได้
๓. เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ เมื่อได้รับส่วนบุญนี้จะเลิกจองเวรจองกรรม ช่วยให้พ้นเวรพ้นกรรม
๔. สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง เทวดารักษา สรรพวิญญาณเมตตาปราณี
๕. เหล่าวิญญาณร้ายไม่อาจเบียดเบียนบีฑาได้
๖. จิตใจสงบร่มเย็น ปวงภัยไม่เกิด ฝันร้ายไม่มี มีสง่าราศีผ่องใส สุขภาพเเข็งเเรง กิจการงานเป็นมงคลแก่ ตัว อายุยืนยาว ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
๗. คุณธรรมเจริญมั่นคง ปฏิบัติธรรมก้าวหน้า ปัญญาเกิด
๘. ไม่พลัดพรากจากคนรัก ของรัก ก่อนเวลาอันควร
๙. ชื่อว่าได้อุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนาให้มั่นคง ยั่งยืน
๑๐. ถือเป็นการทำสังฆทานอย่างหนึ่ง เพราะเป็นการถวายการอุปัฏฐากบำรุงแก่พระภิกษุสงฆ์จำนวนมาก
๑๑. จะไม่ไร้ญาติขาดมิตร เวลาแก่ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจะมีคนคอยดูเเล ไม่ถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว
๑๒. มีเดชบารมีมาก มียศวาสนา เป็นใหญ่เป็นโต ไม่มีใครข่มขี่เบียดเบียนได้
๑๓. จะเป็นที่รักแก่คนทั้งปวง ไปที่ใดจะมีผู้คอยช่วยเหลือเกื้อหนุน ไม่ถูกปล่อยให้ขัดข้องในเรื่องทั้งปวง
๑๔. จะมีสมบัติมาก และสมบัติจะไม่ถูกทำลายโดยราชภัย โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย วาตภัย ฯลฯ
๑๕. จะได้พบพระอริยสงฆ์ ได้พบพระอรหันต์ ได้พบพระดี ได้พบพระเครื่องพระบูชาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่เจอพระปลอม ไม่เจอพระเก๊ พระทุศีล
๑๖. จะได้ฟังธรรมจากพระอริยเจ้า และเข้าถึงธรรมได้โดยง่ายดาย
๑๗. จะได้เจอครูบาอาจารย์และเพื่อนที่ทรงคุณธรรม
๑๘. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้จะเป็นปัจจัยแก่สวรรค์และนิพพาน
๑๙. ด้วยบุญที่อุปัฏฐากภิกษุอาพาธนี้ สามารถอธิษฐานให้เป็นปัจจัยแก่การบรรลุเป็นพระมหาสาวก พระอัครสาวก พระปัจเจกพุทธเจ้า และพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในอนาคตกาลได้


Source:www.sbntwn.com

ดร.สินเย็น นำเสนอ
November 27, 2010