โครงการจัดตั้งหอเมตตาธรรมบำบัดวิกฤต(CICU) หลวงปู่จันทร์ศรี จตททีโป

การเห็นจิตของเรานี่แหละดี มันคิดดีคิดชั่ว

คิดหยาบ คิดละเอียด ก็รู้ดูจนกระทั่งมันวางลง

ถ้าเห็นอยู่เสมอๆแล้ว ก็วางหมด "


(หลวงปู่เทศก์ เทศรังสี)

 

อย่าทะนงตนคิดว่าเราเป็นคนดี ถ้าคิดว่าดีเป็นผู้วิเศษเมื่อไร

เมื่อนั้นแหละกรรมใหญ่ อันตรายใหญ่จะมาถึงท่าน

ที่เราเรียกกันว่าความประมาท "


(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ-วัดท่าซุง)

 

เวลาฟังธรรม ถ้าเราฟังแต่เสียงเอาโสตหูฟังแต่ใจไม่ฟัง

ก็ไม่เข้าใจตลอดกาล การที่เราฟังธรรมแต่เล็กแต่น้อยจนเฒ่าจนแก่

ก็ยังไม่ได้บรรลุมรรคผลนิพพานคือ เราฟังแต่เสียงฟังเอาหูฟัง...ใจยังไม่ฟัง "



(หลวงปู่สิม พุทธาจาโร)

 

กิเลสมันก็เป็นอกาลิโกเหมือนกัน "


(หลวงตามหาบัว)

 

พระพุทธเจ้าของเราท่านตรัสว่า..

ให้อายแต่สิ่งที่มันเป็นบาป

ไม่เป็นบาปไม่ต้องอาย "



(หลวงพ่อชา สุภัทโท)

 

นิพพานมีความแน่นอน (นิจจัง) มีความสุขเป็นอมตะ

ไม่มีคำว่าสูญสลาย ไม่มีอดีตไม่มีอนาคต มีแต่ปัจจุบัน "



(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ-วัดท่าซุง)

 

การปฏิบัติเหมือนกับการเอาชนะความปรุงแต่ง

จริงๆ ไม่ได้บังคับอะไรหรอก

เพียงไปรู้ให้ทัน รู้ทันแล้วมันก็หยุดไม่ปรุงแต่งต่อไป "



(หลวงพ่อสุรศักดิ์ เขมรังสี)

 

ใจวุ่นวายทำไมจึงวุ่นวาย เพราะมีตัณหาไม่อยากให้คิด ไม่อยากให้มีอารมณ์

ความไม่อยากนี่แหละตัวอยากคือ วิภวตัณหา ยิ่งไม่อยากเท่าไรมันยิ่งชวนกันมา

เราไม่อยากมันทำไมจึงมา? ไม่อยากให้มันเป็นทำไมมันเป็น? นั่นแหละเราอยาก

ให้มันเป็นเพราะเราไม่รู้จักใจเจ้าของ ”



(หลวงพ่อชา สุภัทโท)

 

บ้านช่องสถานที่ต่างๆ ที่ทำไว้หรูหรา

เวลาตายแล้วไม่เห็นใครเอาไปได้สักคนเดียว

มีแต่บุญและบาปเท่านั้นติดตามตัวของเราไป "



(หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

 

ความคิดนั้น มันเกิดอยู่เสมอ เหมือนลมหายใจนั่นเอง..ห้ามไม่ได้

การปฏิบัติก็ไม่ได้มุ่งให้ดับความคิด เอาแค่ว่า พอรู้อารมณ์แล้วจิตมันคิด

นึกปรุงแต่งก็ให้รู้ทัน อย่าให้ฝันทั้งที่ตื่นคือ หลงคิดไปโดยไม่รู้ตัวเท่านี้ก็พอ.."



(หลวงปู่ดูลย์ อตุโล)

 

เหมือนกับเรากินข้าว ไม่ต้องคาดหวังให้มันอิ่ม

ค่อยๆกินไปมันก็อิ่มเอง..การภาวนาก็เช่นกัน "



(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)

 

ดีชั่วออกจากใคร

ย่อมกลับไปหาเขาเอง "



(หลวงพ่อลี ธัมธโร)

 

เมื่อใดมีความคิดว่าเราทำดีไม่ได้ดี

หรือเขาทำดีไม่ได้ดี

ก็พึงรู้ว่าเมื่อนั้น กำลังหลงผิดจากความจริง

ทำดีต้องได้ดีเสมอ...

ไม่มียกเว้นด้วยเหตุผลใดทั้งสิ้น "



(สมเด็จพระญาณสังวร-พระสังฆราช)

 

ใจเป็นคนเก็บไม่ใช่กาย เพราะฉะนั้นบาปบุญคุณโทษ

อะไรต่างๆนั้นใจเป็นผู้เก็บไว้ ใจเท่านั้นที่จะทำให้เกิดต่อไปอีก

ร่างกายก็เป็นเพียงส่วนประกอบ ”



(หลวงพ่อวิริยังค์ สิริฐาโร)

 

คนอื่นไม่ดี เรายังพอหนีได้

แต่ถ้าเราไม่ดี เราจะหนีเราไปอยู่ที่ไหน "



(หลวงปู่สาย เขมธัมโม)

 

การปล่อยชีวิตล่องลอยไป ตามอารมณ์และแรงโน้มถ่วงของโลก

คือการยอมจำนนต่อโชคชะตา โดยไม่ยอมแข็งขืนฝืนตน

ก่อกบฏต่อกิเลสเลย จงคิดอย่างปราชญ์ ฝึกตั้งโจทย์ตอบโจทย์

และเดินตามเส้นทางที่จะทำให้ถึงเป้าหมายที่โจทย์ตั้งไว้..นี่คือวิถีของผู้ฝึกตน "



(อาจารย์อัจฉราวดี วงศ์สกล-เตโชวิปัสสนาสถาน)

 

นั่งงสมาธิก็ต้องการดับ ดับอะไร? ดับความวุ่นวายใจดับความคิดมาก

ดับความร้อนใจมาก ดับความมีปัญหามาก คนพูดมากคนคิดมาก

คนวุ่ยวายมากมีตัวตนมาก คือ ตัวเรา..เราคือตัววุ่นวาย "



(หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)

 

ผู้มีขันติ..เป็นบัณฑิต

ผู้มีความอดทน เป็นผู้รู้จักภาวะดีและชั่วของตน "


(หลวงปู่จาม มหาปุญโญ)

 

โลกนี้กำลังก้าวหน้าสำหรับคนโง่ แต่กำลังถอยหลังสำหรับคนมีปัญญา

เพราะว่าไม่มีความก้าวหน้าในทางจิตใจ เพราะว่าถูกวัตถุท่วมทับถูกวัตถุบีบคั้น

ถูกความสุขทางเนื้อหนังครอบงำย่ำยี ทำให้จิตใจไม่มีความเจริญงอกงาม.."



(ท่านพุทธทาสภิกขุ)

 

ตัณหา ความดิ้นรนทะยานอยาก

ล้วนเป็นเครื่องเผาจิตใจทั้งสิ้น "



(สมเด็จพระญาณสังวร-พระสังฆราช)