แคร่ริมคลอง...วันวิสาข์พาไป "พิพิธภัณฑ์สักทอง"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ณ., 19 สิงหาคม 2008.

  1. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ใช้เวลาเออระเหยลอยเรือราว 45 นาทีพอดิบพอดีไม่ขาดไม่เกิน
    ก็ขึ้นฝั่งที่ท่าน้ำนนทบุรี จากนั้นก็รวมตัวผู้ร่วมเดินทาง
    มุ่งหน้าสู่รังสิตคลอง 6 เพื่อร่วมหล่อพระ ที่วัดปัญญานันทาราม
    เราร่วมกันทำบุญและใช้เวลาอยู่ที่นี่ไม่นานนักก็ต้องรีบจรลีกันต่อ
    เพราะวันนี้เรามีที่หมายอยู่อีกหลายที่ และแล้ว 6 ชีวิตพากันออกเดินต่อไป...


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 401.JPG
      401.JPG
      ขนาดไฟล์:
      53.1 KB
      เปิดดู:
      335
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    แหงนหน้าขึ้นมองพระอาทิตย์เกือบตรงหัว
    แต่อากาศไม่ค่อยจะร้อนนัก ราวกับฟ้าเป็นใจ
    เรามาถึงศูนย์ปฏิบัติธรรมพุทธบูชา บางเลน นครปฐม
    จำได้ว่าเมื่อตอนเช้า หนึ่งในกลุ่มเราเกรินๆ เรื่องพิซซ่า
    พอมาถึง หลวงพี่ปูกำลังฉันเพลพอดี
    แล้วท่านยังเมตตรส่งพิซซ่าตรงหน้ามาให้พวกเรา
    ว้าว...ไม่น่าเชื่อแค่เกรินๆ ก็ยังได้หม่ำพิซซ่ากันคนละชิ้น
    อิอิ...อย่างนี้เรียกว่าธรรมะจัดสรร ธรรมะเมตตาของแท้เลยเนอะ
    หลังจากรายการพิซซ่า และเราได้ร่วมบุญกับหลวงพี่
    พวกเราก็ต้องรีบกราบลา เพราะกิจสำคัญยังรอคิวอยู่


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 501.JPG
      501.JPG
      ขนาดไฟล์:
      65.4 KB
      เปิดดู:
      252
    • 502.JPG
      502.JPG
      ขนาดไฟล์:
      109.7 KB
      เปิดดู:
      259
    • 503.1.JPG
      503.1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      119.7 KB
      เปิดดู:
      273
    • 503.JPG
      503.JPG
      ขนาดไฟล์:
      102.6 KB
      เปิดดู:
      254
  3. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    จากสำนักปฏิบัติธรรมพุทธบูชามาราว 45 นาที
    เราก็มาถึงจุดหมายต่อไป วัดเกษมสุริยัมนาจ อยู่บางเลนเหมือนกัน
    จริงๆ เราน่าจะมาถึงวัดก่อนแต่ใช้เวลาในการไปซื้อปลา
    ที่ตลาดปลาราว 15 นาทีก่อนจะเข้ามาถึงวัด
    ก็ได้ปัจจัยจากพี่ๆ น้องๆ ที่ร่วมบุญกันมานี่แหละ
    ซื้อปลาไปปล่อยได้ 150 กิโลฯ พอไปถึงก็แจ้งกรรมการ
    และได้ร่วมปล่อยปลา 150 กิโลฯ กันก่อน

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 601.JPG
      601.JPG
      ขนาดไฟล์:
      48.5 KB
      เปิดดู:
      250
    • 602.JPG
      602.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.1 KB
      เปิดดู:
      264
  4. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    จากนั้นก็เอาปัจจัยที่เหลือไปร่วมทำบุญปล่อยปลา, นก, เต่า, ปู, กุ้ง, หอย,โค, กระบือ
    รวมบุญถวายภัตตาหารเพลและสร้างพระทองคำชำระหนี้สงฆ์

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 701.JPG
      701.JPG
      ขนาดไฟล์:
      44.5 KB
      เปิดดู:
      255
    • 702.JPG
      702.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.5 KB
      เปิดดู:
      246
    • 703.JPG
      703.JPG
      ขนาดไฟล์:
      49.5 KB
      เปิดดู:
      260
    • 704.JPG
      704.JPG
      ขนาดไฟล์:
      37 KB
      เปิดดู:
      255
  5. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    การปล่อยปลาทุกเดือนที่วัดเกษมสุริยัมนาจนี้ เป็นการรวมตัวของสหมิกธรรม
    พระอาจารย์จากวัดสระพัง นครปฐม, วัดเกษมสุริยัมนาจ นครปฐม,
    วัดหนองหญ้าปล้อง กาจนบุรี, และอีกวัด เดี๋ยวได้ข้อมูลจะมาบอกให้ทราบกันนะคะ
    รวมถึงครูบาอาจารย์และลูกศิษย์จากหลายต่อหลายที่ได้มารวมตัวกัน
    ในการร่วมสร้างมหากุศลครั้งใหญ่ในทุกเดือน ตอนนี้ก็รอขบวนปลาที่กำลังเดินทางมาอยู่ค่ะ
    ระหว่างนี้ก็ได้ร่วมบุญปล่อยนก 1,000 ตัว ปล่อยหอยขมอีก 600 กิโลฯ

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 801.JPG
      801.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      250
    • 802.JPG
      802.JPG
      ขนาดไฟล์:
      46.8 KB
      เปิดดู:
      252
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011
  6. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,223
    ค่าพลัง:
    +15,633
    ขออนุโมทนาในการสร้างบุญกุศล และขอแผนที่ไปที่วัดด้วยครับ จากบางบัวทอง นนทบุรี คิดอยากจะชวนญาติ (ลูกสาวภรรยาของพ่อตา)ไปทำบุญปล่อยแต่ต้องหาโอกาสวันหยุดตรงกันทั้ง 2 คน
     
  7. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    แผนที่วัดเกษมสุริยัมนาจ ครับ
    แผนที่ประเทศไทย Longdo Map Online Thailand Map, แผนที่กรุงเทพ Bangkok Map

    ส่วนกำหนดการปล่อยปลา ที่หลวงพ่อท่านกำหนดการไว้ จะมี เดือนละครั้ง
    โดย เดือนหน้า วันที่ 10 เมษา
    15 พฤษภาคม
    12 มิถุนายน
    10 กรกฎาคม
    7 สิงหาคม
    11 กันยายน
    16 ตุลาคม
    13 พฤศจิกายน
    18 ธันวาคม

    แล้วเจอกันนะครับพี่
     
  8. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    อิอิ ^^ ลูกสาวภรรยาของพ่อตา อืม...สมการนี้ฟังดูน่ารักเชียว:cool:
     
  9. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เอ้า...มาต่อกันให้จบทริป...@^^@

    ขบวนรถขนปลา 3,500 กิโลฯ เดินทางมาถึง
    ผู้ร่วมบุญก็มารวมตัวกันพร้อมตะกร้าคนละใบ
    ที่จะใช้ใส่ปลาเพื่อจะเอาไปปล่อยลงแม่น้ำนครชัยศรีข้างๆ วัดนั่นแหละ
    เราไม่ได้เตรียมตะกร้าไป ได้แต่ร่วมส่งใจอนุโมทนากับทุกผู้ทุกคน
    แค่นี้ก็อิ่มใจสุดๆ ถ้าท่านใดสนใจก็ไปร่วมบุญกันได้นะคะ
    ถ้าต้องการปล่อยด้วยมือตัวเองก็ขอให้เตรียมตะกร้ากันมาด้วย
    มาปล่อยปลาที่นี้รู้สึกสบายใจดีจัง แถมมีทัศนียภาพสวยๆ
    ของแม่น้ำนครชัยศรีให้ได้ชม เห็นถึงความร่มรื่นชุ่มฉ่ำของสายน้ำ
    และความชุ่มเย็นในน้ำใจเมตตาปราณีของผู้มาร่วมบุญทุกท่าน

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 901.JPG
      901.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.6 KB
      เปิดดู:
      226
    • 902.JPG
      902.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.6 KB
      เปิดดู:
      239
    • 903.JPG
      903.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      231
    • 904.JPG
      904.JPG
      ขนาดไฟล์:
      29.7 KB
      เปิดดู:
      230
    • 905.JPG
      905.JPG
      ขนาดไฟล์:
      19.6 KB
      เปิดดู:
      240
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2011
  10. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    เราออกจากวัดเกษมสุริยัมนาจ มุ่งหน้าไปตามเสียงท้องที่จ๊อกๆ นำทาง
    ใช้เวลาไม่กี่นาที ประมาณ 4 กิโลฯ ก็มาถึงตลาดน้ำลำพญา
    ของกินของใช้เยอะแยะไปหมด ราคาก็ไม่แพง แถมอร่อยมากด้วย
    แต่ไม่ได้เก็บรูปไว้เลยเพราะมันแต่ห่วงซื้อของกิน
    เอาเป็นรูปอาหารบนโต๊ะแทนละกันเนอะ การันตรีความอร่อยเจ้าค่ะ
    ที่ตลาดน้ำลำพญามีการนั่งเรือชมสองฝั่งน้ำด้วย
    ตอนที่เรากำลังหม่ำก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ประกาศว่าเป็นเที่ยวสุดท้ายแล้วนะ
    ก็เกือบสี่โมงเย็นแล้ว...หันไปมองน้ำข้างๆ เรือนำเที่ยว
    น้ำใสๆ เห็นปลาตะเพียนหางแดงเต็มไปหมด
    เราเอาผักที่เหลือโยนไปให้ ปลากินกันใหญ่เลย
    แต่ละตัวดูมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • A01.JPG
      A01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      56.2 KB
      เปิดดู:
      235
    • A02.JPG
      A02.JPG
      ขนาดไฟล์:
      45.3 KB
      เปิดดู:
      234
    • A03.JPG
      A03.JPG
      ขนาดไฟล์:
      20.5 KB
      เปิดดู:
      222
  11. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    จากนั้นพวกเราก็มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ชัยฯ ทำเวลากันค่ะ
    ก็เกรงว่าจะไม่ทัน เพราะวันนี้ เป็นวันนี้เป็นสุดท้าย
    ที่หลวงพี่เล็กจะรับสังฆทานที่นี่แล้วค่ะ
    วิ่งๆ นำปัจจัยส่วนถวายสังฆฑานไปถวายหลวงพี่เล็ก ทันจนได้
    และตั้งแต่เดือนเมษายน 2554 เป็นต้นไป
    ท่านจะไปรับสังฆทานที่บ้านวิริยะบารมี ถนนวุฒากาศ 24 แทนนะคะ

    จากนั้นก็ไปกันต่อที่บ้านสายลม ร่วมถวายสังฆทานกับหลวงพี่อนันต์
    เป็นมหาสังฆทานชุดใหญ่ 5 ชุด พร้อมปัจจัย

    ขอให้ทุกท่านร่วมอนุโมทนาและได้รับสิ่งดีๆ ทุกประการเช่นกันนะคะ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B01.JPG
      B01.JPG
      ขนาดไฟล์:
      35.1 KB
      เปิดดู:
      232
    • B02.JPG
      B02.JPG
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      235
    • B03.JPG
      B03.JPG
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      229
    • B04.JPG
      B04.JPG
      ขนาดไฟล์:
      54.2 KB
      เปิดดู:
      232
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2011
  12. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    ขออนุโมทนาสาธุกับพี่ชานนด้วยนะค่ะ และขออโหสิกรรมให้กับพี่ชานน
    ทั้งมโนกรรม วจีกรรม กายกรรมทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ในชาตินี้และชาติไหนๆด้วยค่ะ
    จากที่เคยได้คุยกับพี่แม้จะไม่กี่ครั้ง ก้อยได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากพี่ชายคนนี้มากค่ะ

    ขอบพระคุณมากค่ะ...ด้วยรักและเคารพค่ะ

    ณ ค่ะถ้าก้อยอยากร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชด้วยไม่ทราบยังทันอยู่มั้ยค่ะพอดีเพิ่งทราบข่าวค่ะ
     
  13. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ได้รับอาสนะแล้วค่ะตั้งแต่เมื่อวาน
    เดี๋ยววันนี้ถึงมือพี่ชานนแน่นอน
    อนุโมทนาด้วยนะคะ

    ^^ ดีใจมีคนใจบุญใจดีอยู่ใกล้ๆ:cool:
     
  14. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    สามารถโอนปัจจัยร่วมเป็นเจ้าภาพได้ที่
    ธนาคารไทยพาณิช สาขามหาวิทยาลัยมหิดล
    บัญชี : ชมรมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    (เพื่องานบรรพชา-อุปสมบทหมู่)
    เลขบัญชี : 333-228-1558


    ไม่ได้เจอกันนานเลยเนอะ ยังคิดถึงอยู่นะจ๊ะ...^^
    จะมาร่วมพิธีบวชก็ได้นะคุณก้อย
    เช้าวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม 2554 นี้
    ที่วัดบวรราชวิหารนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ
    จะมีผู้เข้าอุปสมบททั้งหมด 6 ท่าน
    เป็นพระภิกษุ 5 รูป สามเณร 1 รูปค่ะ

    ยังไงก็ขออนุโมทนาบุญกับคุณก้อยและครอบครัวด้วยทุกประการนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2011
  15. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่หน่อยและคณะทุกประการค่ะ
    เอาไว้โอกาศเหมาะๆ คงได้ร่วมทริปกันอีกเนอะ ^^
     
  16. Mrs.Kim

    Mrs.Kim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +2,306
    วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ.2554 เวลา10.27น.ได้โอนเงินผ่านตู้เอทีเอ็มธ.กรุงไทย
    เข้าบัญชีชมรมพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เลขที่ 333-228-1558
    จำนวน 300 บาท เพื่อร่วมเป็นเจ้าภาพงานบวชพระในโครงการปฏิบัติธรรมฯแล้วนะค่ะ
    และได้โพสบอกในกระทู้นี้เรียบร้อยแล้วค่ะ....เพิ่งทราบว่าสามีก็โอนไปเหมือนกันค่ะ อิอิ

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญ...ติธรรมเจริญสติภาวนา.277790/page-2#post4447255
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2011
  17. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    สวัสดีครับ(ต้องขอโทษด้วยครับ)ว่าจะไม่เข้ามาเขียนที่ห้อง..แค่ริมคลอง...ก็มีเพื่อนๆสมาชิก(โทรมา)อยากให้เขียนเล่าประสบการณ์(ทางธรรม)ก่อนที่พี่จะไปบวชก็รับเรื่องไว้พิจารณา...จะเขียนไว้2เรื่องแต่ตอนนี้ขอเขียนเรื่องเดียวก่อนครับ(ต้องใช้สติ)คือเรียบเรียงเรื่องสมัยบวชอยู่วัดสังฆทานว่ามีเรื่องที่สำคัญอีกเรื่อง....จริงๆก็มีหลายเรื่องและก็สำคัญทั้งหมดเป็นประสบการณ์ของนักบวช(ผู้ปฏิบัติธรรม)....ขอเริ่มเรื่องเลยนะครับก็ขอให้เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านคิดว่าเป็นนิทานที่มาเล่าสู่กันฟังนะครับ....ต่อจากเรื่องที่กระผมไปจำวัดอยู่ที่ป่าช้าแล้วไม่พบวิณญาญคือ(ผี)พบแต่เสียงและกลิ่น...แต่มาอยู่ที่วัดสังฆทานก็ได้พบก็รับปากทางโยมไว้ว่าจะไม่บอกใครคือ...วิณญาญท่านไม่ให้บอกใครก็ไม่ได้บอกใครเลยสมัยบวชเป็นพระก็ประมาณ20กว่าปีแล้วไม่เคยเล่า...แต่รับปากตอนเป็นพระแต่ตอนนี้เป็ฆาราวาสคงเล่าได้แล้วนะครับก็ขออนุญาติเขาแล้วทางจิต(เมื่อวาน)....เรื่องของเรื่องคือวันหนึ่งขณะกระผมกำลังเดินจงกรมอยู่ที่บริเวณวัด(สังฆทาน)ก็มีพระขาวและเณรเดินเข้ามาหาและมาบอกกระผมว่าเรื่องที่บอกท่านเรื่อง(วิณญาญ)ที่อยู่ที่นี้ท่านยังจำได้หรึอเปล่า...ก็บอกว่ายังจำได้ครับแต่ทำไมต้องมาบอกผมด้วยครับ...พระขาวบอกว่าท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ...กระผมก็บอกว่าไม่ได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเพียงแต่ทำหน้าที่ของสมณะให้ดีกับสมที่มาบวช...พระที่ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบในวัดเยอะมากทำไมท่านไม่ไปบอก...พระขาวก็บอกว่า(วิณญาญ)เขาต้องการคุยและสนทนาธรรมกับท่าน...ณ.เวลานั้นจิตบอกกับตัวเองว่าจะคุยกับ(ผี)จะทำอย่างไรดี...ถามตัวเองว่ากลัวไมตอบว่าก็มีความกลัวอยู่บ้าง...แต่ก็เลียงไม่ได้แล้วเพราะเขามาหาถึงที่...จึงบอกไปว่าว่าและโยมวิณญาญอยู่ไหน...พระขาวก็ตอบว่าอยู่ตรงหน้าท่าน...กระผมก็ถามว่ามีแต่พระขาวกับเณรไม่เห็นมีวิณญาญเลย...พระขาวก็ตอบว่าอยู่ในร่างเณร...กระผมจึงถามไปว่าจะเป็นไปได้อย่างไรวิณญาญ(ผี)จะมาสิงหรึอเข้าร่างเณรได้เพราะว่า...เณรเป็นผู้ทรงศีล(เป็นนักบวช)...อยู่เณรก็พูดมาว่าเป็นจริงเจ้าคะ...เณรพูดเป็นเสียงผู้หญิง...กระผมก็งงอยู่เพราะเคยคุยกับเณรมาก่อน...เณรรูปนี้มาจากเชียงใหม่แล้วเดินทางมาบวชที่วัดสังฆทานแต่เคยบอกว่าผูกพันกับที่นี้(วัดสังฆทาน)มากอยากมาบวชจึงต้องการมาอยู่ณ.ที่นี้...(ต่อ)กระผมก็รวบร่วมสติถามโยมวิณญาญที่อยู่ในร่าง(เณร)ว่าทำไมต้องไปอยู่ร่างเณรด้วย...โยมก็ตอบว่าผูกพันกันมาก่อนนานมากก็ประมาณ200กว่าปีมาแล้ว...คือเป็น(เมีย)ภรรยาในอดีตของเณรมาก่อน...เมื่อมาเจอเณรในร่างปัจจุบันที่มาบวชก็จำได้...กระผมก็ถามว่าโยมจะจำเณรได้อย่างไรเมื่อเณรเขาเกิดมาแล้วเขาต้องเปลียนร่างใหม่ที่ไม่เหมือนร่างเก่า...โยมก็บอกให้ท่านฟังเพื่อรับรู้ไว้ว่า...จริงๆแล้วไม่ว่าคนเราจะตายไปอีกชาติหรึอเกิดอีกชาติแต่จิตยังเป็นจิตเดิมอยู่ไม่เปลียน...แล้ววิณญาญที่เขาเป็นคู่กัน(สามี,ภรรยา)หรึอมีความสัมพันธ์กันเช่นเจ้ากรรมนายเวรเขาจำได้...เพราะวิณญาญเขามีพลังเขามองที่จิตที่สัมพันธ์กันมาแต่ก่อน...เหมือนที่ท่านเคยได้ยินมาว่าเจอเพื่อนในอดีตและเจอว่าสถานที่นี้ว่าเราเคยอยู่มาก่อนนั้นคือสัญญาในอดีตของจิต...แต่ท่านนึกไม่ออกเพราะมาผ่านมานานมากคือหลายพบหลายชาติ...แต่กับวิณญาญที่ยังไม่ได้เกิดเขาจำได้...ไม่ว่าท่านจะไปเกิดและเปลียนร่างแต่เขายังจำได้...เพราะวิณญาญเขามองที่จิตที่ผูกพันธ์กันมาก่อน...เป็นเรื่องที่มนุษย์เราจะไม่เข้าใจ...นอกจากผู้ปฏิบัติธรรม(ผู้ถือศีล)เท่านั้นที่เขาใจ...กระผมจึงถามต่อว่าแล้วเณรเกียวข้องอะไรกับโยม...โยมตอบว่าอดีตเป็น(ผัว)สามีมาก่อน...กระผมถามว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร...เขาก็บอกว่าสมัยก่อนแถวนี้(วัดสังฆทาน)เป็นชุมชนชาวบ้านสมัยปลายอยุธยาทำไร่กันตัวโยมก็เป็นคนที่นี้พร้อมกับเณรและเป็นผัวเมียกัน(คือคำพูดสมัยก่อน)โยมมาตายที่นี้...คือผูกคอตายที่ต้นทุเรียนที่ข้างๆกุฏิท่าน...ก็เห็นท่านปฏิบัติตลอดจึงมา...สื่อกับท่านให้รับทราบว่าเรื่องของวิณญาญที่ท่านสังสัยอยู่มีจริง...และอยากให้บอกเณรว่าโยมรักเขาอยู่และก็รอเขามานานมาก...ไปเกิดไม่ได้เพราะทำกรรมหนัก...คือค่าตัวตายเป็นปาบหนักมากต้องรับกรรม...เรื่องของโยมก็มีเท่านี้...จึงบอกให้ท่านรับทราบและรับรู้...แต่อยากฝากให้ท่านไม่ให้บอกใคร...กระผมก็รับปากสักพักก็ได้ยินเสียงระฆังของวัดดังให้ทำวัตร...สนทนากันตั้งแต่ที่จำได้(20.00-04.00น.)ก่อนจะจากไปโยมถามผมว่าผ้าเหลืองร้อนไหม...กระผมบอกว่าไม่ร้อน...ขอจับได้ไหม...กระผมก็บอกจับได้...โยมก็เข้ามาจับและบอกว่าเย็นจัง...กระผมก็บอกว่าที่เย็นนะมาจากใจโยมผ้าของสมณะเย็นตาเย็นใจเพราะสมณะเป็นผู้ประพฏติปฏิบัติธรรมให้กิเลสออกจากจิตใจก็ได้ธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะชำระจิตใจให้ผ่องใส...จึงขอฝากโยมว่าการยึดติดว่า...ทุกๆอย่างเป็นของเราก็จะทำให้เราเป็นทุกข์เหมือนเช่นโยมยึดอยู่ทุกวันนี้(ภรรยาหรึอเมีย)ทำให้โยมไม่ไปไหนและการค่าตัวตายเป็นบาป...แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไปแล้วก็เริ่มต้นใหม่ปฏิบัติและฟังธรรมที่วัดสังฆทาน(ทุกวันพระ)จะมีการเทศนา...ส่วนสมณะ(กระผม)ก็ยังต้องปฏิบัติอีกมาก...ก็ขอให้บุญที่สมณะปฏิบัติมาดีแล้วก็ขอถึงโยมด้วย...โยมก็ยกมือ...สาธุ วิณญาญก็ออกจากร่างเณร..ก็เป็นร่างผู้หญิงใส่ชุดแบบชาวบ้านสมัยก่อนแล้วค่อยๆหายไป....สักพักเณรก็ฟืนขึ้นก็ถามว่าตัวมาอยู่ที่นี้ได้อย่างไร...กระผมก็ไม่พูดมองหน้าพระขาวและบอกว่าให้พาเณรกลับกุฏิ...และพระขาวพูดก่อนกลับว่าตอนนี้ท่านเชื่อหรึอยัง...กระผมไม่ตอบ...จะไม่ให้เชื่อได้อย่างไรนั่งสนทนากันตั้งนานและได้เห็นและได้ฟังก็เข้าใจ...จึงรู้ว่าวิณญาญคนตายที่ยังผูกพันธ์กับอดีตทำให้ไม่ไปเกิดและการค่าตัวตายก็เป็นบาปมาก...โยมเขาอยู่มาเป็นร้อยปีแต่เขายังจำคู่ครองเขาได้...เรื่องนี้สอนให้รู้ว่ากรรมสัมพันธ์กันแม้อีกคนเกิดแล้วแต่อีกคนยังไม่ได้เกิดเพราะมีกรรม...แต่ก็ยังเฝ้ารอคนรักในอดีตเพื่อจะได้เจอกันอีก...ก็ทำให้เข้าใจว่าความรักและผูกพันธ์ทำให้วิณญาญหนึ่งต้องตั้งหน้ารอคนรักแม้เขา(คนรัก)จะเกิดแล้วก็อยากจะบอกให้รู้ว่ายังรออยู่...เรื่องนิทานนี้สอนให้รู้ว่ามนุษย์ทุกคนมีกรรมสัมพันธ์กันมาถ้าจะตัด...ก็ต้องมาประพฤติปฏิบัติธรรม...คือตัดพบชาติ(กิเลส)
    เรื่องของโยม(วิณญาญ)ที่อยู่มาได้หลายร้อยปี...จริงๆแล้วโลกของเรา(มนุษย์)ผ่านมาหลายร้อยปี...แต่โลกวิณญาญผ่านไปไม่อีกวัน...(ที่ฟังมาจากวิณญาญ)เพราะเวลาและมิติต่างกัน...เป็นเรื่องที่เพื่อนๆต้องเข้ามาศึกษาเองจึงจะเข้าใจ
    และที่สำคัญอย่างหนึ่งของผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม...หนีไม่พ้นคือเรื่องวิณญาญเพราะเป็นเรื่องที่ต้องได้สัมผัล...เพื่อเข้าใจเรื่องพบชาติและโลกวิณญาญมีจริง...จะได้เป็นข้อธรรมในการปฏิบัติว่าที่เราเกิดเพราะอะไร...พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านบอกว่า...ถ้าเราวิ่งหนี...เราไม่ได้หนีใคร...เราหนีใจเราเอง...แต่ถ้าเราหยุดเราจะเข้าใจตัวเราเอง...คือความ....ก็ต้องขอให้เพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่านที่อ่านเรื่องนี้แล้วได้รับรู้เป็นคติธรรมสอนใจ...ก็ขอตั้งจิตอุทิศบุญให้กับวิณญาญดวงนี้ที่อยู่วัดสังฆทานให้เขาเป็นสุขๆเถิอญและได้พบเห็นดวงตาธรรมเพื่อจะได้ไปเกิดเป็นมนุษย์และมาพบพระพุทธศาสนาประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อเข้าถึงซึ้งพระนิพพาน...สาธุ สาธุ สาธุ ...ต่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2011
  18. taweeyod

    taweeyod สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอไฟล์หนังสือสำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขารหลวงตามหาบัว

    ขอไฟล์หนังสือสำหรับงานพระราชทานเพลิงสังขารหลวงตามหาบัว
    email : taweeyod@hotmail.com
     
  19. K_Jit

    K_Jit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    276
    ค่าพลัง:
    +1,755
    กรรมใดที่ข้าพเจ้าเคยล่วงเกินไว้ ด้วยกายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี
    ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งตั้งใจก็ดี และมิได้ตั้งใจก็ดี ขออโหสิกรรมนั้น ๆ ด้วย
     
  20. ชานนคนไทย

    ชานนคนไทย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,008
    ค่าพลัง:
    +3,128
    ต่อครับ...จริงๆแล้วที่มีบ้างท่านที่รู้จักบ้างไม่รู้จักบ้าง...จำได้บ้างจำไม่ได้บ้าง...เขียนมาอโหสิกรรม...ก็ขอบคุณมาก...แต่(ส่วนตัว)กระผมไม่เคยคิดและพยามไม่คิดโกรธท่านทั้งหลายเลย ก็เลยไม่รู้จะอโหสิกรรมอย่างไร...แต่ทางโลกที่สมมุติขึ้นให้อโหสิก็ต้องทำตาม...ก็อโหสิกรรมให้ทั้งหมดไม่มีเหลือและก็ไม่เหลืออะไรเลยไม่ติดค้าง...มีแต่ความเป็นพี่,เป็นน้องและก็เป็นเพื่อนกัน...เพราะเรามาจากที่เดียวกันคือ....เวปพลังจิตถ้าไม่มีเวปพลังจิตก็ไม่รู้จักกันก็ต้องขอบคุณเจ้าของเวปและคณะกรรมการที่กรุณาให้ได้ใช้พื้นที่แสดงความคิดเห็นและทำให้ได้รู้จักกัน...ขอบคุณมากครับ...ส่วนเรื่องของกระผมที่เขียนไว้ก็คิดว่าเป็นนิทาน...เพราะตัวกระผมเองยังเป็นผู้ที่ต้องขัดเกลากิเลสอีกมาก...เพื่อนๆสมาชิกหลายท่านก็ปฏิบัติดีมากกว่าผมอีก...ผมแค่ผ่านไปพบ ไปเห็น ไปฟังมา ก็มาเล่าให้ฟังเป็นนิทาน...แต่สิ่งหนึ่งที่ผมจำในจิตตลอดคือคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์...ท่านจะบอกว่าการที่เราจะประพฤติปฏิบัติธรรม(ทำสมาธิ)จะต้องมีครูบาอาจารย์สอนและสอบอารมณ์ตลอด...เพื่อไม่ให้เราหลงทางเพราะกิเลสเขาฉลาดมากจะหลอกเราได้...มาเป็นนิมิตบ้าง,เป็นความสงบบ้าง,และมาบอกว่าเราสำเร็จขั้นนั้นขั้นนี้คือได้ณาน...จริงแล้วหลอกเราให้หลงทาง...ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์(พระ)ที่ปฏิบัติธรรมมาชี้แนะและบอกทางแก้(กุศโลบายธรรม)ให้ก็จะเดินหลงทางกว่าจะกลับมาก็ไปไกลแล้ว...เช่นหลงฤทธิ์คิดว่าตัวเองแน่ว่าคนอื่นจริงๆ แล้วไม่ได้แน่ว่าคนอื่นแต่โดนกิเลสหลอกเพราะไปยึดติด...จริงแล้วผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมต้องผ่านด่านนี้กันทุกท่าน...แต่จะมาในรูปแบบไหน(ในสมาธิ)ครูอาจารย์ท่านจึงเตือนและสอนว่าเมื่อเห็นแล้วรู้แล้วก็ให้มันผ่านไป...ไม่ใช่ทางที่เราจะไปเพียงแค่ผ่านมา...เหมือนกับเราตั้งใจจะไปนนทบุรีเราก็ต้องนั่งรถเมล์หรึอขับรถไปเองก็จะผ่านไปตามป้ายรถหรึอร้านข้างทาง...แต่ถ้าเราแวะพักก่อน...ก็ทำให้เราไปถึงจุดหมายปลายทาง...ช้า...จึงขอฝากเพื่อนๆสมาชิกทุกท่านที่ปฏิบัติกันมาดีแล้วถ้ามีอะไรติดขัดให้ถามผู้รู้...ความหมายของผมคำว่าผู้รู้คือ...ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม...คือ พระ...เพราะว่าท่านคือ ผู้รู้ท่านผ่านมาแล้วโดยใช้ชีวิตของท่านเป็นประกันถ้าไม่รู้ก็ขอให้ตายไปเลยแต่ก็ไม่ตายเพราะท่านต้องมาอบรมสอนญาติโยมอีกมาก...ขอเอ่ยนามมาคือพ่อแม่ครูอาจารย์พ่อฤษีลิงดำ(พระราชพรหมณาณฯ)และพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงตามหาบัวที่ท่านจะสอนและอบรมให้ถูกแนวทาง...ถ้าเพื่อนๆมีครูอาจารย์อยู่แล้วก็ให้ถามท่านจะดีกว่า...บ้างท่านก็มาถาม ผมก็แค่ได้เล่าและแลกเปลียนธรรมะคือสนทนาธรรมผมไม่ได้รู้มากว่าท่านทั้งหลายเลยเพียงแต่ปฏิบัติทุกวัน วันละนิดวันหน่อยสงบบ้าง ไม่สงบบ้างก็ไม่เป็นไรก็ขอให้ได้ทำ สู้กับความขี้เกียจของตัวเอง...ก็เขียนนอกเรื่องไปบ้างก็ต้องขอโทษด้วยครับ
    ก็ขอให้เพื่อนๆมั่นใจในตัวเราเองว่าเราก็มีบุญเหมือนกันคือได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนาพบพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ...อย่าไปท้อคิดว่าเราได้ทำสิ่งดีๆให้กับชีวิตของเรา...สักวันเราจะพบทางพ้นทุกข์..คือพระนิพพาน...สวัสดีครับ(เรื่องที่2ไว้เล่าต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...