แก้ไขความเข้าใจผิดของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว(บางคน)และเรื่องนิพพานอนัตตา

เรื่องคิดว่าสงสัย ผมไม่ได้หมายความว่าสงสัยตัวตนหรือเรื่องอะไรๆ ที่เกี่ยวกับสิ่งนี้ ที่สำคัญเลยคือเราไม่มีอะไรแลกเปลี่ยนกันได้จริงๆเลยสักอย่างเดียว เพราะสิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ได้เกิดจากการแลกเปลี่ยนแต่อย่างใดเลยครับ ผมกำลังจะกล่าวว่าหรือผมกล่าวว่า สงสัยในตนนั้นดีกว่าการสงสัยในสิ่งนอกเหนือจากตน ค้นหาในตนนั้นดีกว่าการค้นหาจากภายนอกเท่านั้น แต่ถ้าค้นหาในตนแล้วเกิดความสงสัย นั่นแหละถูกที่สุดครับ

 

ประเด็นที่เราคุยกันก็คือ ที่คุณแปล คำว่า อนัตตา แปลว่า เป็นการยึดมั่นถือมั่นว่าไม่มีตัวตน นะครับ นี่ที่ผมกำลังค้านครับ

 

ก็ประเด็นที่ผมบอกคือให้ลองปฏิบัติดูสิครับ

 

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งที่แปรปรวนทำให้เป็นทุกข์สิ่งนั้นไม่ควรไปยึดมั่น
สรรพเพธัมมา อนัตตา ทุกสรรพสิ่งไม่ควรไปยึดมั่น

อนัตตา = ไม่ยึดมั่น
อัตตา = ความยึดมั่น

ในความหมายของบุคคลบางกลุ่มเข้าใจไปว่า
อนัตตา = การไม่มีตัวตน
อัตตา = การมีตัวตน

จริงๆแล้ว อนัตตา คือ ไม่ควรไปยึดมั่น เพราะทุกสรรพสิ่งไม่คงทนถาวร มีเกิดดับ ไปอาวรณ์แล้วยื้อไว้ไม่ได้เมื่อพบความเสื่อมความดับก็จะทำให้ทุกข์ ยังไงเสียเราก็ไม่มีอำนาจไปสั่งสิ่งใดๆได้เลย
อัตตา คือ ความยึดมั่น ยึดมั่นว่า สิ่งนั้น บุคคลนั้น ฯลฯ ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ต้องอยู่กับเราไปตลอดอย่างนี้ ฯลฯ แต่มันเป็นไปไม่ได้ พอไม่ได้ดั่งใจก็เลยทุกข์

ฉะนั้นแล้ว นิพพาน คือ นิพพาน มันก็ถูกแล้ว
แต่เพราะนิพพานก็ไม่ใช่สิ่งที่จะไปยึดมั่นเหมือนกัน
นิพพาน ก็ต้องเป็นอนัตตา อนัตตาที่แปลว่า ไม่ควรไปยึดมั่น ไม่ใช่ว่าตัวนิพพานเป็นอนัตตา เพราะอนัตตาเป็นแค่คำเรียกสภาวะความยึดมั่นเฉยๆ ไม่มีอะไรเป็นอนัตตาหรืออัตตาได้ มีแต่ใจเรา จะมีอัตตาแค่ไหน จะถอนอัตตา ( กลายเป็นอนัตตา ) ได้เท่าใด
เพราะหากมุ่งหวังเอานิพพาน ผลคือจะได้ไปสวรรค์แทน เพราะความยึดมั่นอย่างดีสุดก็พาไปได้แค่นี้

 

ก็ผมปฏิบัติมาแล้ว ผลที่ได้ก็ไม่ได้ แปลตามที่คุณปฏิบัติหรือคิดเอาเอง ตามที่คุณบอกมานะครับ

 

กระทู้นี้เค้าก็บ่ได้ด่ากันนี่ครับ

เค้าก็ทำเหมือนอย่างที่คุณ wlotuss กะลังทำอยู่นี่ไงครับ
กะลังอธิบายสิ่งที่ตนเข้าใจ หรือ รู้เห็นมา
แล้วพอดีมันไม่ตรงกัน เลยออกมาเป็นอย่างนี้

มองให้เป็นธรรมดาจิครับ

 

เพราะคุณไม่ได้ปฏิบัติไงครับ จะมาว่าใครคิดเอาเองได้ยังไงครับ การเอาหนังสือมานั่งอ่านแล้วบอกว่ารู้มันต่างกันราวฟ้ากับเหวสำหรับผู้ที่ฝึกปฏิบัติตนมาอย่างยิ่งยวดและศึกษาด้วยความตั้งใจไม่ใช่เพื่อเอาชนะใคร เรื่องนี้จริงไหมครับ หรือว่าเป็นไปตามความคิดของผมหรือของใคร ไม่ใช่เรื่องจริงละครับ

 

ถ้าคุณเคนจะยอมรับว่าแปลผิด เข้าใจผิดเอง พิมพ์พลาดไป ก็ไม่เป็นไรครับ คนเรามันคิดผิดกันได้ครับ

 

ผมบอกคุณแล้วนะครับว่าผมปฏิบัติมา จนเข้าใจแล้ว
และผมก็ค้านคุณนี่ไงครับว่า คุณคิดเอาเองหรือเปล่า แต่มาท้าให้คนอื่นปฏิบัติดู ก็ผมปฏิบัติมาแล้ว มันไม่ไช่อย่างที่คุณแปลมานี่ครับ

 

นี่ก็คิดเอาเองอีกคนครับ ในโอวาทปาฏิโมก ว่าไว้ว่า นิพพานัง ปะระมัง วะทันติพุทธา แปลว่า ผู้รู้ทั้งหลายกล่าวพระนิพพานว่า เป็นธรรมอันยิ่ง

สงสัยไม่เคยอ่านมา เลยคิดเอาเองว่า นิพพานไม่เป็นสัพเพธัมมา

 

นี่คุณรู้ไหมเวลาที่คุณบอกว่า ตนเองปฏิบัติจนเข้าใจแจ่มแจ้งดีแล้ว มันทำให้ผมนึกถึงอะไร คุณเคยเห็นกบในกะลาไหมครับ ผมมองเห็นสิ่งนั้นทันทีที่คุณกล่าวเลย ต้องขออภัยด้วยนะครับ ที่กล่าวตรงๆ เวปนี้เขาด่ากันไม่ถือสากันหรอกเพราะมันเป็นธรรม เป็นแค่โลกธรรม 8 ประการเท่านั้นครับ

 

ทำไมผมต้องยอมรับว่าแปลผิดด้วยละ อุปกรณ์ที่คุณใช้แปลกับอุปกรณ์ที่ผมใช้แปลมันเป็นคนละเวอร์ชั่นกันนี่ครับ

 

การบอกกันตรงๆไม่เรียกว่าด่าหรอกครับ การด่ามันหมายถึงคนที่ไร้เหตุผลมาคุยกันเลยเปลี่ยนเป็น ใช้อารมณ์มาคุย จึงถือว่าด่าครับ คุณอยากบอกอะไรกับผมตามตรงก็เชิญครับ แต่ที่ผมรับรู้จากคุณก็คือ คุณเริ่มจะไม่อยากคุยแบบมีเหตุผลแล้วสิ

อีกอย่างครับ ในโลกยังมีธรรม8 ในนรก ในสวรรค์ ก็มีธรรมนะครับ เพราะโลกวัฏฏะ ล้วนเป็นธรรมทั้งนั้น ครับ แค่ กุศลธรรมกับอกุศลธรรมครับ

 

ผมบอกว่าคุณแปลผิดจากผลของนักปฏิบัติ ผมไม่ได้ว่าคุณผิด คุณแปลถูกถ้าคุณคิดเอาเองไงครับ เพราะที่ผมปฏิบัติมามันไม่ได้แปลเหมือนที่คุณเข้าใจไงครับ

 

คุณลองอ่านข้อความของคุณดูนะครับ ว่าคุณได้อะไรจากสิ่งนี้บ้างหลังจากพิจารณาดีแล้ว

 

คุณใช้อะไรปฏิบัติละครับ ใช้หู หรือใช้ตา หรือใช้ สมอง ปฏิบัติละครับ เพราะถ้าใช้เพียงแค่นั้น มันก็เป็นไปตามที่คุณได้ยินและเห็นและคิดเท่านั้น ข้อนี้จริงไหมครับ

 

นานๆ เข้ามาที ต้องขออภัยด้วยนะครับ ถือว่าซะว่า ผมมาศึกษาธรรมจากทุกท่านเหมือนอย่างเคย ผมพูดไปงั้นแหละ
อนุโมทนาธรรมแก่ทุกท่านครับ สวัสดีตอนเช้าครับ บายๆ

 

ผมรู้ดีเลยว่า ความยึดมั่นว่าไม่มีตัวตน ที่คุณ Kenny2 กล่าวนั้น มีปัจจัยอย่างไร และก็รู้ชัดว่า ที่กล่าวนั้นไม่ผิด
และผมก็รู้ดีเลยว่าที่คุณ wlotuss ได้กล่าวเรื่องนิพพาน ก็ไม่ได้ผิด
ถูกทั้งคู่ แต่มันต่างกันตรงนิยามความหมายของอนัตตาเฉยๆ
อย่างที่ผมกล่าวไปในโพสข้างต้นนั่นแล
เพียงแต่การยึดเอาแต่มุมมองและแนวคิดมุมเดียวที่เรามั่นใจว่าใช่
ทำให้มุมมองอื่นๆเราคิดว่าไม่ใช่ทั้งหมด
ทั้งที่ในความจริง ทางหรือมุมมองที่ไม่ใช่มันก็มีมาก แต่ทางหรือมุมมองที่ถูกก็ไม่ได้มีแค่มุมเดียว
จะไปที่ใดสักที่หนึ่ง ยังสามารถไปได้ตั้งหลายเส้นทาง
ดังนั้นแนวคิดใดๆ ที่จบที่นิพพาน ไปสำเร็จที่นิพพานจริงๆ เป็นนิพพานที่เดียวกัน ล้วนถูกต้องทั้งนั้นครับ

 

ผมเข้าใจครับว่า คุณหมายถึง ข้อความที่ผมพูดถึง การมีชีวิตอยู่นั้นไม่ได้แปลว่า มันไม่มีตัวตน ซึ่งตรงนี้ ถ้าคุณเข้าใจจริงๆ แล้ว มรรคแปดมีเอาไว้ใช้กับชีวิตที่ยังมีอยู่ไงครับ มันเป็นชีวิตที่ไม่เที่ยง ถ้าไม่กระทำตามมรรคแปดมันก็มีทุกข์เกิดได้อีกกีบคนอื่น แต่ถ้ากระทำตามมรรคแปดได้ ทุกข์ก็ไม่เกิดกับใครได้อีก ซึ่งอนัตตาธรรมนั้น มันเป็นผลที่ไม่สร้างทุกข์กับเราแต่อาจสร้างความไม่เข้าใจกับคนอื่นอาจสร้างทุกข์ให้คนอื่นครับ

ดังนั้นอนัตตา ความไม่ยึดมั่ยถือมั่นเลยไม่เกิดทุกข์ในกายใจตน แต่ถ้ามักง่ายคนอื่นเขาก็เดือดร้อนเพราะ การไม่ถือตัวตนของเราไงครับ มรรคแปดจึงเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และกระทำได้ของคนที่เข้าถึง อนัตตาธรรมครับ

 

อย่ามโนสิครับ