แก้ไขความเข้าใจผิดของลูกศิษย์หลวงตามหาบัว(บางคน)และเรื่องนิพพานอนัตตา

ต่างคนก็ต่างเคารพในอาจารย์ของตนเอง คุณยังเคารพหลวงตา แล้วทำไมคุณไปว่าให้คนอื่นแบบนั้นครับ เหมือนว่าให้ตนเองด้วยนะครับ อ่านแล้วไม่ต่างกันเลยครับ

 

เวปนี้เขาด่ากันได้แบบฟรีสไตล์หรือครับ
น่ากลัวจังเลยนะครับ เวปธรรมะไม่น่าจะปล่อยให้มีการด่ากันแบบนี้นะครับ
เหมือนตลาดสดเลยครับ อย่าด่าผมนะครับ

 

เราเคารพในธรรมของพระพุทธเจ้า

ต่างกันตรงที่ เราไม่ได้ หลับหูหลับตา สักแต่ว่าโพสต์ๆ โดยไม่ได้ดูอะไรเลย

เรามีวิจารณญาณในการโพสต์

เราไม่ได้เข้าข้างครูบาอาจารย์ท่านใด
เราถือพระสัพพัญญูพุทธเจ้า เป็นที่สุด

ครูบาอาจารย์ท่านใด กล่าวไว้สอนคล้องกับพระพุทธเจ้าเราก็ยอมรับ
ถ้ากล่าวนอกแนว หรือ ไม่ตรงกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ เราก็ไม่ได้ใส่ใจ

ลูกศิษย์มีหลายประเภท เราแค่โพสต์เตือนว่า ลูกศิษย์ประเภทนี้แหละที่มัก นำความเสื่อมเสียมาให้ครูบาอาจารย์

คนบางคนเขาหมั่นไส้ ครูบาอาจารย์ก็เพราะลูกศิษย์พวกนี้ที่คนพูดถึงอาจารย์ตัวเองไม่ได้นี่แหละ คือ ประมาณว่า อาจารย์ของกูนี่แตะไม่ได้ มีศรัทธาแต่ขาดปัญญา

ที่คอยดีแต่คอย โพสต์คำสอนของครูบาอาจารย์ โดยไม่พิจารณาให้รอบคอบ บางทีโพสต์คำสอนที่แย้งกับพระพุทธเจ้าด้วยซ้ำ

หรือ โพสต์ในเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ ประเด็นเนื้อหากระทู้ อย่างเช่น กรณีนี้เป็นต้น

ลองไปตามอ่านดูแล้วกัน

 

หลวงตาเองก็ไม่เที่ยง มรณะภาพไปแล้ว ไม่ทุกข์แล้วอนัตตาไปแล้ว
พระพุทธเจ้าเองก็ไม่เที่ยง ไม่ทุกข์แล้ว ปรินิพพานไปแล้ว
แล้วพวกเรา เที่ยงกันตรงไหนครับ ยังทุกข์กันอยู่มั้ย อนัตตากันหรือยังครับ

เมื่อไหร่พวกเราจะดับทุกข์กันได้ครับ

 

อนัตตา แปลว่า ไม่มีสิ่งใดให้ยึดมั่นถือมั่นได้เลย ไม่ได้หมายความว่าไม่มีตัวตน ตามที่ผมเข้าใจนะครับ ถ้าอัตตาคือตัวตน อนัตตาก็หมายถึงไม่ไห้ยึดมั่นถือมั่นในอัตตาทั้งหลายเหล่านั้น น่าจะแค่นี้นะครับ ความหมายของมัน คือคนเรามีกายใจ มีญาติพี่น้อง มีภพมีชาติ แต่อัตตาทั้งหลายเหล่านี้ล้วนไม่เที่ยง ไม่ควรยึดมั่นถือมั่นจนไม่ยอมตาย หรือจะตายแล้วยังเสียดายอยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่า ตอนมีชีวิตอยู่จะไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไเลยก็ไม่ถูกนะครับ เพราะตอนมีชีวิตอยู่นี่แหล่ะคือ ความจริงของโลก หรือความเที่ยงของการมีชีวิตเกิดมาแล้วนะครับ ผมเข้าใจแบบนี้ครับ

 

การเคารพครูอาจารย์นั้นดี แต่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ไม่ดูกาละเทศะ เนี่ยจะทำให้เสียชื่อครูอาจารย์ได้

เตือนไว้ ไปพิจารณาเอา

 

ผมว่า มีแต่ลูกศิษย์นะครับที่เถียงกันเอง ครูอาจารย์ไม่น่าเสียหายอะไรนะครับ

 

อนัตตาแปลว่ายึดมั่นว่าไม่เป็นตัวเป็นตนของๆตน อัตตาแปลว่ายึดมั่นว่าเป็นตัวเป็นตนของๆตน
นิพพานก็นิพพานสิจะไปเกี่ยวกับอัตตาได้ยังไง ความเที่ยงแท้หรือสัจธรรมก็เป็นไปตามนั้น ความไม่เที่ยงแท้ก็เป็นสัจธรรมที่เป็นไปตามนั้น ทั้งความไมเที่ยงและความเที่ยงแท้ก็เป็นส่วนหนึ่งของสัจธรรม นิพพานนั้นอยู่เหนือจากสิ่งเหล่านั้นไปอีกแล้วจะเป็นแบบข้างบนนั้นได้ยังไง

 

ปัญหาคือไม่รู้แล้วชอบพูดไป ทำให้เกิดความวุ่นวายสับสน จริงๆแล้วต้องพูดไปสองไพลเบี้ยนิ่งเสียโพธิสัตย์

 

ผมก็เพิ่งได้อ่านเป็นครั้งแรกครับ ที่ว่า อนัตตาแปลว่า ยึดมั่นว่าไม่เป็นตัวเป็นตนของๆตน
แปลเองหรือครับ

 

ครับแต่ไม่ได้แปลจากตัวหนังสือครับ แปลจากความจริงในสิ่งที่เคยเห็นครับเพียงแค่เอาสิ่งที่เคยเห็นและเคยรับรู้จากตำราและจากคำสอนและลองพิจารณาปฏิบัติเท่านั้นครับ ทำดูจริงๆสักครั้งสิครับ ดีกว่าเอาตำรามาแปลแข่งกันเป็นไหนๆ ลองดูสิว่าสิ่งที่ได้ตรงกับสิ่งที่ผมแปลไหมครับ

 

ลองปฏิบัติดูสิครับ ลองนั่งนิ่งๆดูก็ได้ เพราะไม่มีอะไรจะบอกได้มากกว่าการปฏิบัติเองครับ

 

ก็ถ้าแปลแบบที่คุณแปลตามความเข้าใจที่คิดเอาเองหรือเปล่าของคุณ มันก็แปลได้ครับว่า เป็นการยึดมั่น แต่ถ้าไม่แปลเหมือนที่คุณเข้าใจ โดยแปลว่ามันรู้ถึงความจริงว่าทุกอย่างมันไม่เที่ยงแท้แน่นอน การคลายความยึดมั่นจนปล่อยวางความยึดมั่น เป็นมันหมดความยึดมั่นแล้ว ก็จแปลว่า อนัตตาคือความไม่ยึดมั่นต่อสิ่งใดๆ ผมหมายถึงทั้งหมดนะครับ ไม่ไช่บางสิ่งบางเรื่อง

 

คุณคิดเอาเองมากกว่ามั้งครับ การไม่ยึดมั่น นี่ ไม่ต้องนั่งนิ่งๆก็ได้ครับ ทำตัวตามสบายก็ได้ครับถ้าปฏิบัติเข้าถึงแล้วจริงๆ

 

ทิฏฐุปาทาน ลองดูว่ามันเป็นจริงไหมละครับ

 

อย่าสงสัยมากเกินไป สงสัยในตนเองมากๆไว้เป็นดี ผมไม่ได้เรียนธรรมอักขระ ไม่ได้จบนักธรรมครับ

 

ช่วยแปลเป็นไทยให้ด้วยครับ เพราะไม่ได้เรียนพระอภิธรรมมาครับ

 

ให้คิดว่าผมไม่ได้สงสัยสิครับ ให้คิดว่าเราสองคนกำลังคุยแลกเปลี่ยน ความเข้าใจกันนะครับ

 

เป็นอย่างที่คุณเป็นแป๊ะเลยครับ คุณเป็นอย่างไรคำแปลก็คือตามนั้นครับ

 

ก็แสดงแน่ชัดว่าคุณคิดเอาเองฝ่ายเดียวนะสิครับ เพราะผมไม่รู้เรื่องกับคุณ