เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระรูปเหมือนเปิดพิมพ์ เนื้อชันเพชร ฝังเกศาและ เล็บหลวงพ่อ

    IMG_6727 (2).JPG IMG_6728 (2).JPG
     
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    แพะ หลวงพ่อ ลัด ตะโพน หลวงพ่อทรง

    กลุ่มนี้มาแนว เสน่ห์น่ะครับ

    IMG_6731 (2).JPG IMG_6732 (2).JPG IMG_6733 (2).JPG IMG_6734 (2).JPG IMG_6735 (2).JPG IMG_6736 (2).JPG IMG_6737 (2).JPG IMG_6738 (2).JPG IMG_6739 (2).JPG
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

    เบี้ยนี่ของเก่าน่ะครับ ทยอยออกบริการแฟนคลับบ้านเหรียญบิน เป็นของคณาจารยืหลักของอ่างทอง มีพระเวทย์วิทยาคมสูง เป็นเคารพไปทั่ว หาแท้ๆยากครับ

    เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน จังหวัดอ่างทอง ด้านหลังอุดด้วยชันโรงใต้ดิน เขย่าจะได้ยินเสียงปรอทดังขลุกๆ ตามสูตร ท่านเป็นพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง ยุคสมัยเดียวกับหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ท่านได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ กับพระอธิการพ่วง ต่อมามาศึกษากับพระครูธรรมสารรักษา(อ้น) วัดบุปผาราม พระอุปัชฌาย์ซึ่งมีชื่อเสียงใน จ.สุพรรณบุรีในสมัยนั้น นอกจากนี้ท่านยังเป็นสหธรรมิก ( น่าจะเป็นลูกศิาย์ ผู้ที่นับถือหลวงพ่อเดิมมากกว่าครับ ) กับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์
    เบี้ยแก้ของพ่อนุ่ม วัดนางใน ส่วนใหญ่เป็นเบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือกแต่อย่างใด
    พุทธคุณเบี้ยแก้ของพ่อนุ่ม วัดนางใน มีประสบการณ์มากมายไม่แพ้เบี้ยแก้ดังๆของสายอื่น ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้กลับเหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย
    พุทธคุณ และคุณวิเศษของเบี้ยแก้ของพ่อนุ่ม วัดนางใน ก็มีคุณวิเศษ และประสบการณ์มากมายไม่แพ้เบี้ยแก้ดังๆ ของสายอื่น สำนักอื่น กล่าวคือ ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้กลับเหตุร้ายให้กลับกลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เหมาะที่จะใช้พกพาติดกายไปทุกๆที่ แบบเน้นๆ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ “อโคจร”
    วิธีใช้เบี้ยแก้ ตั้งนะโม ๓ จบ
    อิติปิโส ภะคะวา ยาตรายามดี ได้ยามพระศรี สวัสดีลาโภ นะโมพุทธายะ แล้วสวดคาถาหัวใจต่อ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ พุท ธะ สัง มิ อิ สะ วา สุ

    IMG_6740 (2).JPG IMG_6741 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  4. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน

    IMG_6742 (2).JPG IMG_6743 (2).JPG
     
  5. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยแก่ หลวงพ่อดี วัดเทพากร

    IMG_6745 (2).JPG IMG_6746 (3).JPG

    เบี้ยเสาร์ ๕ หลวงปู่ดี ปี ๒๕๕๓

    img_0150-jpg-jpg.jpg img_0156-jpg-jpg.jpg img_2992-jpg-jpg.jpg

    img_4661-jpg-jpg.jpg img_4662-jpg-jpg.jpg img_4663-jpg-jpg.jpg
    62746-jpg-jpg.jpg

    เรื่องเบี้ยแก้หลวงปู่ดี นี่ผมเขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ปลุกเสกปี ๒๕๕๓ มีการเอาประมูลแล้วเก็บไว้ ไปเข้าพิธีที่ มั่นใจ ( หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ท่านไม่เพียงรู้จักกัน แต่เรียนวิชาเบี้ยมาสายเดียวกันด้วย ) แต่หาไม่เจอ จะเอามารวมกัน

    เบี้ยนี้ปลุกเสกเริ่มต้นเป็นเบี้ยไปขอหลวงปู่ดีท่านปลุกเสกให้ในปี ๒๕๕๓ ปีนั้นมีเสาร์ ๕ นิมนต์ท่านมาเสกให้ที่วัดบวรฯ มีการทำเบี้ยกันหลายกลุ่ม ของเขาทำกัน มีโค็ด มีจาร ตอกเบอร์ด้วยอย่างดี มีมาตรฐาน ปิดด้วยแผ่นทองแดง ผมก็ทำด้วยไปฝากเขาเข้าพิธี ฝากเขาน่ะแหละครับ

    เบี้ยลงจารโดยท่านพระครูวัดเงิน เนื่องจากเสาร์เป็นวัดแข็ง มีการปลุกเสกหลายที่ คณะทำ ไปขอหลวงพ่อใจเสกให้ก่อน ก่อนนำมาขอหลวงปู่ดีเมตตา ในตอนเย็นวันนั้น

    เบี้ยส่วนที่ผมเก็บ ยังไปขอหลวงปู่เล็กเสกให้หลายครั้ง ในปี ๒๕๕๕ และ ๒๕๕๗ ถึง ๒๕๕๘ พร้อมกับเหรียญเจริญสุข รุ่นเล็บจิก เป็นเบี้ยที่เสกมาหลายปีมาก หลายครั้ง ตามที่เขียนไว้ข้างถุงกันลืม ซึ่งลืมจริงๆ

    จากนั้นก็เก็บยาว ไม่ได้เอาไปไหนอีกครับ เบี้ยนี้มีขนาดใหญ่ อัดปรอทเต็ม บึ้กมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  6. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยแสนหก พิเศษ ฝาเงิน

    ท่านที่มองหาวัตถุมงคลของหลวงพ่อเสียน วิชาดูดพิษของหลวงพ่ออั้บ และ วิชานิ้วเพชรของหลวงปู่เล็ก ชิ้นนี้เลยครับ เสกยาวนานมากประมาณ ๘ ปี ไม่เร่งรีบถอนทุน ได้จังหวะก็เอาไปเสกซ้ำ ต้องการความขลังครับ

    ส่วนใหญ่ที่แจกและเอามาลงประมูลจะเป็นฝาทองแดง อันนี้พิเศาฝาเงิน หลังจากหลวงพ่อเสียนเสกให้แบบยาวนานจุใจ ผมเอาไปของหลวงพ่ออั้บเสกให้ ท่านใดที่อยากได้เบี้ยหลวงพ่ออั้บ ใช้อันนี้แทนได้เลยครับ แต่ผมไม่มาอ้างเป็นเบี้ยของ หลวงพ่ออั้บน่ะครับ เพราะคนล่ะเอกลักษณ์ แต่ท่านเสกให้ จุใจ ดูดพิษขอด้วยหมด ทั้ง มนต์ธรณีสารใหญ่ท่านแถมให้ ใช้ทำน้ำมนต์แก้เสนียด จัญไรได้ด้วย

    นอกจากนั้น ยังไปเอาเข้าพิธี หลวงปู่เล็ก หลายครั้ง หลายปี เสกจนแน่น ไม่ได้รีบเอามาขายถอนทุนแต่อย่าใด เพราะชอบทำแน่นๆ แต่เจตนาเสกแน่ๆ จะพระที่นับถือครับ เล่นเป็นเบี้ยหลวงปู่เล็กก็ได้ครับ มีถึง สามหลวงพ่อ เป็นอาจารย์ทางเบี้ยทั้งสิ้น


    IMG_6748 (2).JPG IMG_6747 (2).JPG

    รายการที่ ๑ เบี้ยแสนหก

    เบี้ยรุ่น ๑๖๐,๐๐๐

    attachment-jpg-jpg.jpg attachment-jpg-jpg.jpg attachment-jpg-jpg.jpg
    เปิดดูไฟล์ 612588 เปิดดูไฟล์ 612589 เปิดดูไฟล์ 612590

    เบี้ยขนาดคัด ทำเพื่อแจก เอาไปฝากหลวงพ่อเสียน ปลุกเสกพร้อมตะกรุด ตะกรุดในรูป

    ผมเอาแผ่นเงินไปขอท่านลง ท่านบอกว่า ๕ เสาร์ ผมเลยขอเอาเบี้ยไปฝากเสกด้วย ทั้งตะกรุด ทั้งเบี้ย น่าจะเกิน ๑๐ เสาร์ขึ้นไปอย่าว่าแค่ ๕ เสาร์ เพราะน่าจะร่วม ๆ สามเดือนกว่าๆ จนหลังงานพระราชทานเพลิงศพ หลวงพ่อ หลวงพ่อเสียนท่านเมตตาเสกให้จะเต็มที่ และสรรพคุณเบี้ยของหลวงพ่อเสียน เป็นเบี้ยลูกหม้ออ่างทองน่ะครับ ครูแรง นำไปใช้คุ้มตัวได้แน่นอน และผมไม่มีเจตนา เอามาแจกแข่งกับวัดน่ะครับ ใครเอาไปใช้จะได้รู้สรรพคุณ อยากได้อีกก็ไปหาบูชาที่วัดน่ะครับ ราคากันเองมากจนผมไม่แน่ใจว่าที่ท่านทำไปจะคุ้มหรือไม่

    นอกจากนั้น ผมเก็บไว้ว่าจะไปขอพระผู้ใหญ่อีกสององค์ เสกซ้ำให้ แต่ไม่ได้จังหวะ จนมาวันนี้ หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร ท่านหายป่วยดีขึ้นมากแล้ว ผมเลยเอาไปขอท่านเสกให้ ว่าจะเอามาแจกฟรี

    หลวงพ่ออั๊บเสกชุดใหญ่ให้น่ะครับ ปกติหลวงพ่ออั๊บ ท่านจะเป็นแบบหลวงพ่อจง คือ เสก เพี้ยงเดียว แต่คราวนี้ ผมเอาขวดน้ำ ไปขอน้ำมนต์ด้วย หลวงพ่อท่านเลยเอามือจับถุงเบี้ย ไม้คมแฝก ( ของวัด...แหะๆ ) และน้ำมนต์ ท่องมนต์ธรณีสารชุดใหญ่ นานประมาณ ๕ นาที ท่านท่องช้าๆและดังๆ เมื่อประจุเสร็จท่านก็ยิ้มให้แล้วบอกว่า มนต์ธรณีสาร
    ตอนหลวงพ่อท่านท่องมนต์ธรณีสาร ผมขนลุกชันไปหมด และ ของในตัวผมซึ่งปกติ จะไม่ค่อยขึ้นเพราะแก่แล้ว...แหะๆ เริ่มปั่นป่วนมีกำลัง ตัวพองขึ้นมา ผมต้องสงบจิตจับลมหายใจเบาๆจนอาการหายไป ไม่อยากของขึ้นต่อหน้าหลวงพ่อ ผมเลยเข้าใจว่า บรรดา ครูอาจารย์สายนครชัยศรี ตอนท่านเสกมนต์ ว่าโองการใหญ่ๆ ตอนท่านเชิญครูบาอาจารย์มาหมด พอครูเหล่านี้ท่านมา อาการของในตัวบางอย่างของเรา เหล่าลูกศิษย์ ที่เคยประสิทธิ์ไว้ อาจจะต่อเนื่องสายเดียวกัน ก็เริ่มมีอาการทักทาย แบบต่อสายไฟกัน ทักทายกัน จะออกอาการต่างๆ ผมไม่ใช่คนเล่นของแบบแบบแนวแรงๆเพราะไม่ชอบ แต่ไปหาพระมาเยอะ ท่านลงอะไรไว้ให้บ้างก็ไม่ทราบ
    มนต์ธรณีสารนี้ อีกท่านที่ผมเคยเห็นว่าทำได้ขลัง คือ หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึงน่ะครับ ที่บอกแบบนี้เพราะไปกราบหลายครั้ง และเห็นมากับตา อาจจะมีท่านอื่นที่ทำได้ขลังอีกแต่ผมไม่ทราบ แต่สำหรับของหลวงปู่หล้า ท่านจะทำน้ำมนต์ในบาตรแล้วเสกเทียนให้ไปจุด ผมก็ได้มา และท่านเคยแจกเหรียญรุ่นแรกให้มากับมือด้วยครับ ท่านเป็นพระที่เมตตาสูงมาก
    มนต์ธรณีสารนี้ เด่นๆ เลยจะไว้แก้ เคราะห์ เสนียด อาถรรพ์ อาเพท จัญไร โรคภัยน่ะครับ และท่านอยู่ในช่วงหายป่วย แข็งแรงขึ้นมาก คนกำลังหายป่วยนี่ ดวงจะดีขึ้นน่ะครับ ทำอะไรก็ขึ้น เพราะเป็นขาขึ้น ( เป็นเคล็ดน่ะครับ คุณถ้าหายป่วยให้รีบทำงาน สำคัญๆ น่ะครับ โอกาสสำเร็จมีมากกว่าธรรมดา )
    และหลวงพ่อท่านเมตตาทำให้เองน่ะครับ ผมเจตนาจะให้ท่านแค่เป่าเพี้ยงเท่านั้น ของนี้ทำมาแจก อย่างเดียวน่ะครับ ปริมาณจำกัด หมดแล้ว อาจจะไม่ทำอีก เพราะหาพระถึงๆมาเสกยากครับ...แหะๆ
    เบี้ยนี้ น่าจะไปแนวคุ้มครอง ป้องกัน ทั้งคุณผี คุณคน เสนียด จัญไร โรคภัยไข้เจ็บ น่ะครับ อยากให้พวกท่านที่ มาช่วยกระทู้เหรียญบินได้มีของดีๆไว้ติดตัวครับ ผมขากลับเลยไปแวะ พระที่ท่านรู้จักกันเอาไปฝากท่านตัวหนึ่ง ขอท่านดูให้ ท่านบอกว่ามีครบตามแนวทางเบี้ยทุกอย่าง ไม่ทิ้งลายเบี้ยวิเศษฯ
    เบี้ยนี่หาวัสดุทำยาก เป็นของทำมาเยอะๆยากน่ะครับ

    attachment-jpg-jpg.jpg attachment-jpg-jpg.jpg attachment-jpg-jpg.jpg
    เปิดดูไฟล์ 612591 เปิดดูไฟล์ 612592 เปิดดูไฟล์ 612593

    มีโค้ดสองตัวตรงแผ่นทองแดงที่ท้องเบี้ยน่ะครับ คือตัว ส หยดนำ สัญลักษณ์ แจกฟรี ของฟรี ไปเห็นที่ไหนให้รู่ว่าต้นทางฟรีมาอย่างเดียว
    และโค้ด นะ หน้าทอง ของอาจารย์ผม หลวงปู่พระครูบุญศรี ของมีสัญลักษณ์ของวัดใหม่ฯ วัดของอาจารย์ของผมไว้หน่อยน่ะครับ

    attachment-jpg-jpg.jpg attachment-jpg-jpg.jpg
    เปิดดูไฟล์ 612594 เปิดดูไฟล์ 612595

    เบี้ยนี้หลังจากนั้น นำมาขอให้หลวงปู่เล็ก เมตตาอีก หลายครั้ง

    62744-jpg.jpg

    62745-jpg.jpg

    หลวงปู๋เล็ก เสกให้ซ้ำ ในปี ๒๕๕๓ และ ๒๕๕๗ และ ๒๕๕๘ ใส่ลังเสกพร้อมเหรียญ เจริญสุข ครับ ( อันนี้มีทีเด็ดเพราะท่านลงนิ้วเพชรให้ในเหรียญด้วยเพราะของท่านไว้ ) เป็ยเบี้ยที่เสกยาวนานมาก

    เป็นเบี้ยแนะนำ มีคนถามหามาสิบกว่าปีแล้วครับ แต่ไม่ค่อยเอาออก เอาออกก็หมดไปนานแล้ว แหะๆ

    มาวันนี้ เก็บไว้ ร่วมๆ ๘ ปี เอามาประมูลให้แก่พี่น้องบ้านเหรียญบิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  7. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยเก่าจัด งมจากก้นแม่น้ำน้อย

    พวกนี้จะเป็นสมบัติที่นักประดาน้ำไปงมมาแล้วมาขายต่อ ซื้อกันมา พวกเวียนพระไม่สนใจ ผมได้จากเวียนพระหลวงพ่อเจริญ แถว ผักไห่อีกที ผมพอเห็นแล้วสนใจครับ เบี้ยนี้แท้แน่นอน และ ทรงลึกด้วย

    ของพวกนี้ หลังจากเจ้าของทำตกน้ำ น้ำจะพัดไหลไปรวมกันในแต่ละเเอ่งทราย เลน โคน ทับบน ยิ่งนาน ยิ่งหนา ประดาน้ำไทย เขาจะหาแหล่งแบบนี้ แล้วเอาเครื่องดูดทราย ดูด เลน โคลน ทรายออก แล้ว ควานเก็บมา ลูกปืนตะกั่วเก่า จะเจอเยอะหน่อย เพราะสมัยก่อนรบกันเยอะ ยิงกันไปมา สนิมแดงขึ้น เอามาขายดีเป็นลูกอมหลวงพ่อแต่ไม่ใช่หรอกครับ ลุกปืนตะกั่วนี่แหละ เศษ เงิน เศษทอง เหรียญเก่าๆ พระเครื่องก็มีบางที ถ้าไม่ย่อยสลายไปหมด ผมเคยได้ ลูกปรอทกรอ มาจากร้านพวกนี้แหละครับแต่นานหลายสิบปีแล้ว แต่ อันนี้พูดถึงงมแท้ๆน่ะครับ หลังๆของชักน้อยก็มีของปล่อย แล้วอ้างว่างมขึ้นมา ต้องใจเย็นๆ ดู

    กรุงศรีอยุธยาและ เมืองรอบๆเป็นมหานครมาหลายร้อยปี ทรัพย์สมบัติขนาด เอากันไปเยอะ ก็ยังหลงๆอยู่บ้างครับ


    เบี้ยนี้ถ้าสมบูรณ์ตีลึกครับ เก่าขนาดตะกรุดตะกั่วโดนน้ำกัดขาดไปแล้ว ปรอทอาจจะหลงอยู่ข้างใน แต่ดินโคลนเต็มไปหมด

    IMG_6749 (2).JPG IMG_6750 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  8. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ล็อคเก็ตพระสังข์ร่ายมหามณีจินดามนต์

    เมื่อวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2560 ผมได้กราบขอความเมตตา พระอาจารย์หลวงพี่วัดเงิน บางพรม พระอาจารย์ของผม เมตตาประกอบพิธีอธิฐานจิตอุดมวลสารปลุกเสกล็อคเก็ตพระสังข์ร่ายมหามณีจินดามนต์ ที่ระลึกไหว้ครูดนตรีไทยโรงเรียนสอาดเผดิมวิทยา 60 และเป็นทุนให้แก่วงดนตรีไทย ซึ่งพิธีได้สำเร็จตามปรารถนาทุกขั้นตอนการพิธี ตามสายวิชาของพระอาจารย์ ซึ่งในการนี้ได้อธิฐานจิตทำ // 1.สีผึ้งเจ้าเงาะจินดามณีมหามนต์ 2.น้ำมันจินดามณี(ของหลวงพี่) 3.สังข์จารนะรับเงินอุดมวลสารฝังเม็ดยาจินดามณี(๕๙ ขอน แจกผู้มาช่วยงานประมาณ ๑๑ ขอน) 4.ตะกรุดหนังกลองจารยันต์รัศมีพระอินทร์,พระจันทร์ // ซึ่งล็อคเก็ตได้เก็บไว้ที่หลวง ท่านปลุกเสกตั้งแต่เข้าพรรษา และหลังจากที่อุดมวลสารฝังตะกรุดเรียบร้อยแล้ว ก็ยังคงไว้ต่อจนออกพรรษาปลุกเสกครบไตรมาสแล้วจึงจัดส่งแก่ผู้ร่วมบูชาทำบุญมาครับ
    //มวลสารอุดหลังล็อคเก็ต//
    ***มวลสารอุดหลังล๊อคเก็ต***
    ผงมหาราช , ผงลบ นะมหาจินดามณี , ผงลบ นะ ฉิมพลีวิชารวย , ผงนะหน้าทอง หลวงปู่ดี , ผง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ , ผงหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน และผงบดดอกไม้และแป้งเจิมเทียนชัยในพิธีไหว้ครูดนตรีไทย , ผงดินหน้าตะโพน , ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร , ผงยาจินดามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    - ผงมหาราช พระครูวิธานสุตสุนทร หลวงพี่วัดเงิน บางพรม
    - ผงมหาราช ลป.นุ่ม วัดนางใน
    - น้ำมันเมตตา น้ำมันว่านดอกทอง พระครูวิธานสุตสุนทร หลวงพี่วัดเงิน บางพรม
    - น้ำมันมหาบุรุษ 8 จำพวก
    - เทียนชัยขี้ผึ้งแท้ในพิธีไหว้ครูดนตรีไทย
    - ชันโรงใต้ดิน
    - สีผึ้งหลวงปู่หงส์ สุสานทุงมนต์ สุรินทร์
    - สีผึ้งแม่พิม หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    - สีผึ้งเขียว มหาเศรษฐี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    - สีผึ้งหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม
    - สีผึ้งจินดามณีว่านไก่แดง
    - สีผึ้งพระอินทร์ หลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส
    - สีผึ้งหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - น้ำมันว่านไก่แดง
    - น้ำมันมโนราห์ร้อยโรง
    - เม็ดยาจินดามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    - ผงพุทธคุณ หลวงพ่อโปร่ง วัดถ้ำพรุตะเคียน จ.ชุมพร
    - ผงแร่เกาะล้าน
    - ผงรวมทำพระหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (ประกอบด้วยผงดอกมะลิ ผงดอกดาวเรืองทอง ผงดอกพิกุลทอง ผงหยกบด ผงดินสอพอง ผงดอกว่าน 108 ผงลิ้นทะเล ผงบ่อเหล็กไหล 9 อย่าง ผงตะไคร้หอม)
    - ผงดอกรักซ้อน
    - ผงอุปกรรมฐาน
    - ผงโคตรเหล็กไหล
    - ผงสีวลีดำ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - ผงสีวลีขาว หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - ผงว่านสบู่เลือด
    - ผงรังเหล็กไหล
    - ว่านสาวหลง
    - ผงพระ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    - ผงยาวาสนาจินดามณี
    - ผงไม้ตะเคียนเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช
    - ผงเขาอ้อ
    - ผงจันทร์ลอย ลพ.ทรง วัดศาลาดิน
    - ผงไม้พญางิ้วดำ
    - ผงงาช้าง
    - ผงช่อฟ้า วัดหงษ์รัตนาราม
    - ดอกไม้เสก ลป.อั๊บ วัดท้องไทร

    ราบว่าท่านก็ได้ร่ำเรียนวิชาในสายมนต์มณีจินดามาด้วยเช่นกัน กับพระอาจารย์ของท่านทางภาคอีสาน โดยส่วนตัวท่านเองนั้นมี “สังข์” ประจำตัวท่านเช่นกันเมื่อเรียนวิชชานี้เรียบร้อยแล้วเป็นอันว่าสำเร็จในวิชาครับ ในสายวิชามณีจินดามนต์นี้หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ามนต์เรียกเนื้อเรียกปลา ให้คุณในเรื่องโภคทรัพย์ เมตตา การทำมาหากิน เรียกทรัพย์ เรียกคนค้าขายไม่ตกอับไม่ขัดสน ผมจึงกราบเรียนท่านขออนุญาตให้รุ่นพี่ที่คุ้นเคยวาดภาพพระสังข์เพื่อจะทำวัตถุมงคลเครื่องราง ล๊อคเก็ตพระสังข์มหามณีจินดามนต์ โดยให้วาดเป็นพระสังข์ถอดรูปเงาะ กำลังร่ายมนต์เรียกเนื้อเรียกปลา โดยมีองค์ประกอบของพระสังข์คือมีรองเท้าแก้ว กระบองวิเศษ และรูปเงาะกายสิทธิ์ ตามท้องเรื่องสังข์ทอง ที่ปรากฏในปัญญาชาดก และประทับนั่งบนหอยสังข์อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมมงคล หอยสังข์ถือเป็นของมงคลอย่างสูงที่ใช้ในพิธีกรรม ในงานพิธีมงคลต่างๆของไทยเช่น งานมงคลสมรส เป็นต้น ก็จะพบการหลั่งน้ำจากสังข์เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข มีความสุขความเจริญ นอกจากนั้นแล้วสังข์ยังใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ด้วยการเป่าให้เกิดเสียงเพื่อเป็นอุดมมงคลกับงาน และเป็นการบวงสรวงบูชาพระเป็นเจ้าสูงสุดในคติของศาสนาพราหมณ์อีกด้วย บางตำนานบางความเชื่อก็กล่าวว่าเหตุที่ไทยเรานำหอยสังข์มาใช้ในงานการมงคลต่างๆก็ด้วยเหตุว่าสังข์นั้นเป็น 1 ใน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ 14 อย่าง อันเกิดจากการกวนเกษียรสมุทรของเหล้าเทวดาและอสูรเพื่อทำน้ำอมฤต ตามความเชื่อผู้ที่มีสังข์ไว้จะไม่ขาดเงินทอง อุดมด้วยความสงบสุขมั่งคั่งร่ำรวยเข้ามาสู่ตนเองและเคหะสถานที่ ทำมาค้าขายดีมีพลังดึงดูด นำพาโชคลาภ ความมั่นคง โภคทรัพย์มาให้แก่ผู้ครอบครอง ...ในภาพจึงมีความมงคลไปด้วยมหามณีจินดามนต์ตามสายวิชาและสังข์อันเป็นสิ่งอุดมมงคล และพระเดชพระคุณหลวงพี่ วัดเงิน ท่านได้เมตตาจารอักขระเลขยันต์ ในวิชามหาจินดามณีของท่านลงไว้ในภาพทั้งหมดเพื่อมิให้สูญหาย ผมได้จัดทำเป็นล๊อคเก็ตต้นบุญจำนวน 59 ชิ้น โดยด้านหลังล๊อคเก็ต พระอาจารย์หลวงพี่ วัดเงิน ท่านได้เมตตาจารตะกรุดนะ มหาจินดามณี ฝังด้านหลังล๊อคเก็ตต้นบุญนี้ให้ และอุดมวลสารมหามงคล อาทิเช่น ผงมหาราช , ผงลบ นะ มหาจินดามณี , ผงลบ นะ ฉิมพลีวิชารวย , ผง นะหน้าทอง หลวงปู่ดี , ผง หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ , ผง หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน และผงบดดอกไม้และแป้งเจิมในพิธีไหว้ครูดนตรีไทย , ผงดินหน้าตะโพน , ผงยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร , ผงยาจินหามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ , ฝังปลาตะเพียนอันหมายถึงความอุดมสมบูรณ์โชคลาภเงินทอง และสีผึ้งมงคลทางด้านเมตตามากมาย เป็นต้น
    1.ล๊อคเก็ตต้นบุญ สร้าง 59 องค์
    2.ล๊อคเก็ตธรรมดาสร้าง 195 องค์
    c_oc=AQnkl25wSr3xB7VVWY_q5BUA2D-p0BD1bpBq_G7-eK6yGTZQs2JPgHJJX0LNqDw0kTI&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg

    c_oc=AQkaWDESg9WIk6Ak8hVSRWtyFK8u0NLxV2Z62ppQXCahOBE3YmJbBO5Rvdh-fWTHwlU&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
    c_oc=AQmeoMCr18NfNVURhOuqY1I33VmH8FPSC9u9EvLwj2gK4T6Lfg2HbZ4x3wwhGGzr_Co&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
    c_oc=AQm9ioX78h08g864_o7Z7bh-vtnqMwvP8D84_h1u5AMklP4fDCyeNAqtpDv09ocdF-c&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
    c_oc=AQlvdFOxTA6k2hzFppQ9Y4lboqizdJG9kFLrIvE77ftsM7lNbRjt63HpDTB2zwFTZdU&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
    c_oc=AQnQOy-ff4DoNDuDOUl7l1utwkxM5fhiutneuseD2vXjfhOatOshR15SBZnhHJ267qk&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg


    IMG_6751 (2).JPG IMG_6752 (2).JPG IMG_6753 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2020
  9. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    สีผึ้งปทุมพรหมบุตร

    เดี๋ยวประวัติเต็มๆผมดึงมาน่ะครับ

    IMG_6754 (2).JPG IMG_6755 (2).JPG IMG_6756 (2).JPG
     
  10. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์ รุ่น “ทรัพย์เหลือล้น ๖๒”
    เหรียญปรก ใบมะขาม เนื้อทองแดงหูตัน พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด มีจารโดยท่านพระครูมานิตย์

    ตาไข่นี้เป็นกุมารไทยที่ไม่ต้องการโฆษณาของจริง ยิ่งกว่าจริง อยู่ที่บูชาขึ้นหรือไม่ แท้แน่อนได้แบ่งมาจากคนไปร่วมพิธีเอง เอามาบริการพี่น้องบ้านเหรียญบินฯ


    IMG_6757 (2).JPG IMG_6758 (2).JPG IMG_6759 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  11. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    สีผึ้งจินดามณี

    #วิธีใช้สีผึ้งจินดามณี
    ว่านะโม 3 จบ
    - ปิโย อะหัง สัพพะสิทธิ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (ทาปาก ทาคิ้ว)
    - นะสิวัง พรหมา มะอะอุ (ทาที่ทรวงอก)
    สีผึ้งจินดามณี เป็นสีผึ้งที่ทำขึ้นจากการเคี่ยวด้วยขี้ผึ้งแท้ ใส่กลิ่นธรรมชาติคือกลิ่นดอกโมก ขั้นตอนการเคี่ยวสีผึ้งตั้งแต่เริ่มต้น ทั้ง 3 ไฟ ล้วนแล้วแต่ได้กำหนดและได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์ของผม พระครูวิธานสุตสุนทร(หลวงพี่ วัดเงิน ตลิ่งชัน) และท่านยังเมตตาไห้ตั้งโรงพิธีปริมณฑลบวงสรวงครูในสายของท่าน ที่ท่านได้รับสืบทอดวิชามนต์จินดามณี และอธิฐานจิตปลุกเสกเชิญครู , พระสังข์ , เจ้าเงาะกายสิทธิ์ ประจุมนต์มหาจินดามณีลงในวัตถุมงคลไม่ว่าจะเป็นล๊อคเก็ตพระสังข์จินดามณี สังข์จินดามณี และสีผึ้งจินดามณี รวมทั้งหมด 3 พิธี ด้วยความเมตตาของท่าน ทุกครั้งท่านได้ลบผงมหาราชใส่ลงผสมในมวลสารอุดล๊อคเก็ตและใส่ลงในสีผึ้งจินดามณี ซึ่งถือว่าเป็นผงวิเศษทั้ง 5 ที่ใช้ในการสร้างพระเครื่อง ซึ่งผงมหาราชมีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่าสูง ป้องกัน ถอนคุณไสย แคล้วคลาด สำหรับการค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่ จะได้รับการเอ็นดูให้การส่งเสริมได้ดีในราชการและธุรกิจ เป้นผงวิเศษที่มีขั้นตอนในการลบในการทำการเสกที่สลับซํบซ้อนเป็นอย่างยิ่งกว่าจะสามารถลบได้ในแต่ละครั้งและได้จำนวนปริมาณที่น้อยมากในการลบผงแต่ละครั้ง ซึ่งเชื่อถือว่าผงมหาราชแม้เพียงน้อยนิด เปรียบประดุจกายพระศาสดาเลยทีเดียวมีอานุภาพเป็นเอกอุ #สีผึ้งจินดามณี เป็นสีผึ้งที่ไม่มีส่วนผสมของภูติพรายหรือเศษซากศพรายภูติ และทุกขั้นตอนผมได้ทำเองกับมือจึงมั่นใจว่าไม่มีนิยายหลอกลวงกัน ไม่สุกเอาเผากิน ทุกอย่างล้วนเป็นมงคลแก่ผู้นำไปบูชาทั้งสิ้น ดังคำที่พระอาจารย์เคยกล่าวว่า "โยมเชื่อแค่ไหนก็ขลังเท่านั้น" ดังนั้นผมจึงเชื่ออย่างสนิทใจและมั่นใจว่าต้องดี ต้องขลัง วิชาจินดามณีเป็นวิชาที่ว่าด้วยเรื่องความอุดมสมบูรณ์พูนสุข เป็นเมตตาแก่เจ้านาย ท้าวพระยามหากษัตริย์ ไม่อดอยากไม่ตกอับไม่อับจนไปทิศใดก็จะมีเมตตานำไป สีผึ้งนี้จะใช้ทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขาย เรียกคนเรียกทรัพย์ เปิดทางโชคลาภ ทาปากทาคิ้ว เจิมข้าวของ เจิมบ้านเจิมรถ เจิมสินค้า อธิฐานตามแต่จะปรารถนาได้ทั้งสิ้น โดยมีเคล็บว่าเวลาใช้เวลาเจิมทาให้คิดให้นึกในสิ่งที่ปรารถนาสิ่งที่ต้องการเป็นอันใช้ได้โดยไม่มีความเคลือบแคลงสงสัย แล้วใช้คาถากำกับดังนี้
    ว่านะโม 3 จบ
    ปิโย อะหัง สัพพะสิทธิ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (ทาปาก ทาคิ้ว)
    นะสิวัง พรหมา มะอะอุ (ทาที่ทรวงอก)
    พิธีบวงสรวงเสกขี้ผึ้งและน้ำมันจินดามณี

    หุงสีผึ้งไฟปฐม
    https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1656585014381336&id=100000895604214&pnref=story
    หุงสีผึ้งไฟ 2
    https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1657483987624772&id=100000895604214&pnref=story
    หุงสีผึ้งไฟ 3 (ไฟเอก)
    https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1659559920750512&id=100000895604214&pnref=story
    พิธีเสกสีผึ้งจินดามณีหลังจากเคี่ยวเสร็จแล้ว
    https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1677843035588867&id=100000895604214&pnref=story

    _oc=AQm9WgFuY04qgamhhhudYxGhpHckLceFwt5Fodddtf-HYV-j5eSewxDECbvkcNYG58g&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
    _oc=AQkRl59XUGCuO5EvdftOCtx_-bLc4zlsul8PSGpbp6nGVRC8bZf3lm0PkzuEaGZ7ybM&_nc_ht=scontent.fbkk22-2.jpg
    _oc=AQkZWFwOn8qw8eRQu1-b3tzGGnniAS2Ag9DhXJYhj5C8XtSMOPKbDlwfon8XJ2WuNA8&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
    IMG_6762 (2).JPG IMG_6763 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  12. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ตะโพนไม้กุ่ม วงอังศุสิงห์ ๖๐

    IMG_6764 (2).JPG IMG_6765 (2).JPG IMG_6766 (2).JPG

    #ตะโพนไม้กุ่ม ปี60
    1.1 ตะโพนขนาดบูขาใหญ่ สร้าง 30 ลูก
    1.2 ตะโพนเล็ก (บูชาติดตัวขนาดห้อยคอ) สร้าง 400 ลูก
    ตะโพน - กุ่ม
    ทุัม - มะหาด
    ระนาด - พยุง

    คำกล่าวประโยคนี้ผมได้ยินเมื่อประมาณปี 2546 จากคุณครูศิริ นักดนตรี ครูดนตรีไทยที่ผมเคยไปเรียนและรับใช้ครูในช่วงที่เรียนดนตรีไทยที่สวนสุนันทา ซึ่งผมมีโอกาสได้ไปมาบ้านครูเนื่องจากไปต่อเพลง เรียนเพลง และต้องขับรถยนต์ของครู เพื่อรับ - ส่งครู ในครั้งที่ครูมาสอนที่สวนสุนันทา และไปเป็นพิธีกรกล่าวโองการไหว้ครูดนตรีไทยในที่ต่างๆ ในช่วงบั้นปลายชีวิตของครู ซึ่งทำให้มีเวลาได้อยู่กับครูมากและได้พูดคุยเรื่องเกร็ดความรู้ทางดนตรีไทยมากมายในสมัยโบราณ

    ครูศิริ นักดนตรี เป็นศิษย์ของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ครูศิริมักจะถูกเรียกขานในวงการว่า "ครูเบิ้ม" ท่านความรู้ความเชี่ยวชาญทั้งปี่พาทย์และเครื่องสาย เครื่องหนัง เรียกว่าถ้าเรียนจากครูเบิ้มคนเดียวได้หมด ก็ไม่ต้องไปเรียนเพลงหรือวิชาอะไรจากที่อื่นได้เลย
    ครูเบิ้ม เรียนดนตรีไทยตั้งแต่เด็ก จากบิดาของท่าน คือ คุณพ่อสุข นักดนตรี คนปี่พาทย์ และคนปี่ ศิษย์ของครูสิน ศิลปบรรเลง ซึ่งเป็นพ่อของหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ดั้งเดิมครูเบิ้มเป็นคนอัมพวา สมุทรสงคราม นามสกุลท่านได้รับพระราชทานจาก รัชกาลที่ ๕ เนื่องจากเป็นนักดนตรีเก่าแก่ในอัมพวาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายและเคยถวายการบรรเลงรัชกาลที่ ๕ ทำให้พระองค์พอพระทัยจึงพระราชทานนามสกุลนี้มา
    ซึ่งครูเบิ้มเล่าว่า รัชกาลที่ ๕ พระราชทานนามสกุลมาผ่านทางจังหวัดสมุทรสงคราม ปู่ของครูเบิ้ม ไปรับพระบรมราชโองการพระราชทานนามสกุล "นักดนตรี" ที่ศาลากลางจังหวัดในสมัยนั้น ครูเบิ้มมีศักดิ์เป็นเครือญาติกับหลวงประดิษฐ์ไพเพราะ และท่านเรียนเพลงการต่างๆจากพ่อของท่าน คือคุณพ่อสุข นักดนตรี และพ่อของท่านจึงส่งไปเรียนต่อยอดกับหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ได้ไปอยู่บ้านครูหลวงฯ เรียนเพลง และรับใช้ครูหลวงฯ อยู่หลายปี
    ....เข้าเรื่องตะโพนไม้กุ่ม...
    ผมได้รับคำบอกเล่าจากครูเบิ้ม เมื่อประมาณปี 2546 เรื่องตะโพนไม้กุ่ม คือมีวันหนึ่งผมขับรถพาครูเบิ้มไปประกอบพิธีไหว้ครูดนตรีไทย อยู่ๆครูก็พูดขึ้นมาว่า ฉันมีระนาดทุ้มไม้มะหาดอยู่ผืนหนึ่ง ฉันจะให้เธอเอามั้ย ผมหันไปมองครูเบิ้มแล้วตอบกลับว่า แล้วแต่ครูจะเมตตาครับ ครูก้บอกงั้นฉันจะให้เธอ ไว้ค่อยไปเอาที่บ้าน หลังจากได้รับความรู้จากครู
    ครูได้เมตตาเล่าว่า สมัยโบราณ บ้านนักดนตรีไทยเก่าๆ หัวหน้าวงเค้าจะสร้างเครื่องดนตรีไว้ 3 อย่าง ไว้บูชา ไว้ประจำวงไม่เอามาใช้ เพื่อไว้ คุ้มวง คุ้มคน คุ้มบ้าน ผมถามต่อ มีอะไรบ้างครับึครู ... ครูบอกว่าเธอจำไว้เลยนะ ไม่มีใครบอกเธอหรอก แล้วต่อไปถ้ามีวงเธอหาไว้บุชาเลย นั่นคือ ...ตะโพน ไม้กุ่ม....ทุ้ม ไม้มะหาด ...ระนาด ไม้พยุง ครูบอกว่า สมัยโบราณเค้ามีไว้บูชา 3 อย่างนี้ เพราะ ตะโพนเป็นประธาน ใช้ไม้กุ่ม ชื่อดี พ้องกับคำว่าคุ้ม คือเอาเคล็ด คุ้มครอง ป้องกัน อุปทวอัตราย ระนาดทุ้ม ใช้ไม้มะหาด ชื่อดี พ้องกับคำว่ามหา หรือมหาดไทย มหาดเล็ก = ขุนนาง เป็นเคล็ดเรื่อง ความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์ ลา่ภยศสรรเสริญ ...ระนาดเอก ไม้พยุง มีชื่อดี คือเอาเคล็ด ใช้หนุนดวง ช่วยให้เจริญรุ่งเรือง พยุงให้สูงขึ้น ...ผมถามต่อว่าแล้วถ้าทำมาแล้วต้องเอาไปเสกอะไรหรือทำพิธีอะไรมั้ย ครูบอกว่า ไม่ต้องก็ได้ เอาขึ้นบูชาบอกกล่าวครูบาอาจารย์ได้เลยถือว่าชื่อดีของดีในตัวแล้ว มีแล้วคุ้มวง คุ้มคน คุ้มบ้านได้ทั้งหมด เป้นของครูบาอาจารย์โบราณถ่ายนทอดบอกกันมา
    ซึ่งผมก็เพิ่งเคยได้ยินจากครูเบิ้ม ศิริ นักดนตรี เป้นท่านแรก หลังจากนั้นผมก็จำคำครูที่เคนเล่าให้ฟังเรื่องตะโพนไม้กุ่ม จนขึ้นใจ และคิดว่าถ้ามีโอกาสผมจะสร้างตะโพนไม้กุ่มเอาไว้ใช้บ้าง และเวลาผ่านไปเนินนาน จนครูเบิ้ม ถึงแก่กรรมลงเมื่อปี 2548 แต่คำของครูเรื่องตะโพนไม้กุ่มและเรื่องอื่นๆก็ยังจำได้ดี และนำมาปฎิบัติเป็นครูจนทุกวันนี้ ...

    ซึ่งเมื่อผมมีโอกาสก็ได้หาไม้กุ่ม เพื่อมาสร้างตะโพนไม้กุ่มเป็นปฐม ซึ่งครั้งนี้ไม่ได้สร้างเพื่อบูชาคนเดียว เพราะด้วยความที่ผมชอบเรื่องพระเครื่องและเครื่องรางของขลัง พอจะเคยได้ยินได้ฟัง ในเรื่อง สายวิชาตะโพน อันโด่งดัง ในสายของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน ว่าเครื่องรางในสายวิชาตะโพนนั้น มีคุณอย่างเอกอุ ทั้งทางด้านเรียกคน เรียกทรัพย์ คุ้มครองป้องกัน และเป้นครูใหญ่ของชาวดนตรีไทย คือ พระปรคนธรรพ อีกด้วย ทำให้ผมคิดว่าถ้าหาก จะทำแล้ว ็จะทำให้ดี เผื่อแผ่แก่ผู้อื่นด้วย ซึ่งทำเป้นขนาดบูชาและขนาดพกติดตัว เพื่อสืบทอดตะโพนไม้กุ่มตามคำครูศิริ นักดนตรี ที่ได้ถ่ายทอดให้ผมมา เมื่อผมมาอยู่ชุมพรก็ได้สืบเสาะหาไม้กุ่ม เพื่อนำมาทำตะโพน จนพบไม้กุ่มตามต้องการ ....

    #ตะโพนไม้กุ่ม ตอนที่ 2
    #ตามหาต้นกุ่ม #แรงครูมาช่วยอำนวยผล ....เหนือธรรมชาติเหนือความคาดหมาย

    ...... หลังจากปี 2546 ที่ได้รับความรู้เรื่องราวตะโพนไม้กุ่มมาจากครูเบิ้ม ก็จดจำเรื่อยมา ท่องเรื่อยมา จนย้ายมาเป็นครูที่ชุมพรจนเมื่อปีที่แล้ว 2559 นั่งนึกนั่งคิดว่าอยากจะหาไม้กุ่มเพื่อมาทำตะโพน จึงไปถามแม่และคนเฒ่าคนแก่ ก็ตอบเหมือนกันว่า ต้นกุ่ม นี่แหละ มีในเฉพาะทางใต้ ผมจึงบอกลูกศิษย์ที่มีสวน ที่บ้านอยู่ในเรือกสวนไร่นาป่าเขา ให้ไปถามพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ว่าไม้กุ่มหรือต้นกุ่มจะหาได้ที่ไหน บ้านใครที่ใครมี ให้ขอได้แล้วมาบอก ผ่านไป 2-3 วัน ก็มีลูกศิษย์ 2 คนในวง นัฐสิทธิ์ พึ่งชาติ กับ วีรศักดิ์ รอดทอง มาบอกว่าได้ต้นกุ่มแล้วครับพร้อมถ่ายรูปมาให้ดู ได้ขนาดต้นไม่ใหญ่มากนัก ซึ่งคนพื่นที่เก่าแก่บอกว่าต้นกุ่มโตช้ามาก ต้นใหญ่ๆใช้เวลาชั่วอายุคนกันเลยทีเดียว หายาก เลยรู้ว่า ทำไมตะโพนไม้กุ่มจึงไม่ค่อยมี เพราะว่าไม้กุ่มโตช้ามาก ต้นที่ผมไปได้มานี่หลายสิบปีมาก แต่มีขนาดแค่ลำตัวคนรูปร่างท้วมหน่อยๆเท่านั้นเอง ....เมื่อรู้แหล่งแล้ว และเจ้าของอนุญาตให้ตัดได้ ผมจึงไปเรียนถามขอคำแนะนำจาก พระเดชพระคุณพระครูวิธานสุตสุนทร (พระครูมานิตย์) วัดเงิน บางพรม พระอารามหลวง กทม. ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ที่ผมให้ความเคารพนับถือมากที่สุดด้วยความเมตตาของท่าน รู้จักท่านมาตั้งแต่ประมาณปี 2549 ท่านเก่งทั้งวิปัสนากัมมัฎฐาน และเชี่ยวชาญรอบรู้ในเรื่องเวทย์มนต์คาถา วิชชาต่างๆอย่างเอกอุ ผมแน่ใจและมั่นใจว่าท่านคือพระที่กราบได้อย่างสนิทใจและยึดเอามาเป็นครูบาอาจารย์ในทางธรรมของเราได้ ผมก็ไปมาหาสู่ ขอคำชี้แนะ คำปรึกษาจากท่าน เรียกได้ว่าถ้าผมไป กทม. องค์แรกและองค์เดียวที่ผมจะไปกราบไปทำบุญที่จะขาดไม่ได้ คือ หลวงพี่มานิตย์ วัดเงินบางพรม กทม.
    ครั้งนี้ได้ไปขอคำแนนะชี้แนะจากท่านในเรื่องการ พลีเอาไม้กุ่มมาทำตะโพนในครั้งนี้ ซึ่งท่านก็บอก ฤกษ์ผานาที วันเวลาในการเข้าไปพลี และเครื่องบัดพลีต่างๆที่ต้องนำไป ตามที่ท่านได้บอกไว้ เมื่อได้ฤกษ์ยามและวิธีการพลีมาแล้ว ผมก็นัดหมายลูกศิษย์ไปช่วย และผู้ปกครองลูกศิษย์ที่รู้เรื่องการตัดต้นไม้การเลื่อยไม้ไปช่วยด้วย ...
    ในวันที่ไปทำพิธีนั้นผมบอกไว้เลยว่า เกิดเหตุมหัสจรรย์เหนือความคาดหมาย ถึงประมาณ 4 อย่าง ซึ่งจะด้วยแรงครูหรือเทพบันดาลก็ไม่ทราบได้แต่ล้วนเป้นนิมิตมงคลทั้งสิ้น (ผมมีรูปภาพประกอบและประจักษ์พยานยืนยันได้ทั้งสิ้น)
    และในวันที่ไปทำพิธีนั้น อากาศดีมาก มีแสงแดดจ้าตั้งแต่เช้า ผมให้ลูกศิษย์เตรียมข้าวของ พอถึงเวลาก็เดินทางเข้าป่าเข้าสวนไปที่ต้นกุ่ม เมื่อไปถึงบริเวณนั้น ก็จัดแจง ปูเสื่อปูผ้าขาว วางเครื่องเซ่นสักการะพลีกรรมตรงบริเวณโคนต้น ได้ฤกษ์ก็จุดธูปสวดมนต์และบอกกล่าวรุกขเทวดา เจ้าที่เจ้าไพร ขอตัดต้นกุ่มพลีเอาไปสร้างตะโพนให้คนบูชา เมื่อบอกกล่าวเสร็จแล้ว แล้วจึงให้ผู้ปกครองลูกศิษย์ทำการริกกิ่งก้านและเลื่อนโค้นต้นลงมา ซึ่งเมื่อผมบอกกล่าวและเอามีอีโต้เดินเข้าไปฟัน ขณะนั้น แสงแดดที่จ้าอยู่ ก็มีเมฆมาบดบังคล้ายในจะตกแต่ไม่ตกอากาศเย็นสบายเป้นที่น่าประหลาดใจมาก ใช้เวลาตัด และเลื่อยอยู่ 3 ชั่วโมง ไม่มีทั้งฝนทั้งแดดตกต้องลงพื้นเลย เป็นนิมิตหมายมงคลนะครับแล้วจะเล่าว่าเพราะอะไรในช่วงท้ายของตอนที่ 2 ค่อยไปรื้อเอาบรรดาเครื่องเซ่นพลีกรรมออก
    เมื่อริดกิ่งลงมากองที่โคนต้นจนเสร็จ ก็ช่วยกันลากกิ่งต้นน้อยใหญ่ออก เหลือเชื่อครับ!!! พอเอากิ่งที่ร่วงหล่นลงมาฟาดกองลงพื้นรอบบริเวณโคนต้น ทับตรงที่ตั้งเครื่องพลีกรรมและต้องเสียหายแน่นอน เพราะต้นมะนาวข้างๆก็ยังหัก กิ่งฉีกไม่เป็นชิ้นดี แต่พอเอากิ่งออกตรงที่ตั้งเครื่องพลีกรรม ปรากฎว่า เครื่องพลีกรรมยังอยู่เหมือนเดิมไม่มีอะไรแตกเสียหายเลยแม้แต่น้อย แม้กระทั่งเทียนที่จุด ก็ยังไม่ล้มลง ลูกศิษย์ที่เห็น ผู้ปกครองที่เห็น ยกมือไหว้กันเลยครับ แทบจะเป้นไปไม่ได้ที่จะรอดพ้นแรงกิ่งใหญ่ที่ทับถมลงมาหนักขนาดนั้นแม้แต่เทียนยังไม่ล้ม ผมเชื่อว่านี่เป็นด้วยแรงครูบาอาจารย์ที่มาสร้างความมหัสจรรย์ให้เป้นที่เจริญศรัทธากับความตั้งใจในครั้งนี้ครับ(ดูรูปประกอบ) เมื่อตัดต้นลงมาเลื่อยเป็นท่อนๆเพื่อง่ายแก่การขนย้ายในเวลานั้นท้องฟ้ายังปิดมีเมฆที่ไม่ลอยเคลื่อนไปไหนบังแสงแดดให้ตลอดเวลาอากาศเย็นสบายมากไม่ร้อน ...พอตัดต้นลงมาและเลื่อนเป้นท่อนๆไกล้จะ เสร็จ จู่ๆก็มีรถมอเตอร์ไซด์ขับผ่านมาและจอด มีคนเดินเข้ามาดู ถามและพูดคุย จนได้ทราบว่าอดีตเคยเป็นครูกลองยาว แต่ปัจจุบันมาทำสวนกรีดยางตัดปาล์ม เลยได้พูดคุยเรื่องกลองยาว เรื่องการกลึงกลองยาวสมัยก่อน และลุงคนนี้ก็มาช่วยยกช่วยขนไม้ที่เลื่อนขึ้นรถให้ด้วยและก็ลากลับไป ผมก็มาคิดว่าหรือจะเป็นนิมิตรหมายอีกอย่างที่ครูบาอาจารย์จะสื่อถึง เพราะคนที่มานี่เกี่ยวเนื่องกับกลองกับเครื่องหนังและลงมาจอดดูทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน เหมือนเป้นแรงครูที่ดึงดูกันมา... เมื่อตัดและเลื่อยเรียบร้อยก็ขนยกกันขึ้นรถซึ่งแต่ละท่อนหนักมากต้องกลิ้งไปบ้างไหลไปบ้าง จนเสร็จ แต่น่าแปลอีกอย่างหนึ่งก็คือที่สังเกตได้ คือเมื่อตัดต้นกุ่มลงมาเลื่อยเสร็จ ก็มีแสงแดดส่องจ้าลงมาตรงกับจังหวะที่ตัดต้นลงมานอนไว้บนพื้นพอดี สร้างความแปลกใจเข้าไปอีก พอขนขึ้นรถบรรทุกกลับไปฝากไว้บ้านลูกศิษย์ ก้มีฝนตกลงมาปรอยๆพอให้เช็นส่งท้ายจนถึงบ้านที่เอาไม้มาฝากไว้ ตกปรอยๆไม่เปียกแต่เย็นสบายครับ
    ...ทีนี้ย้อนมาว่าทำไมมีเมฆมาบังแสงแดดในช่วงที่ทำพิธีและตัดต้นกุ่มลงมา และพอต้นกุ่มลงมานอนกับพื้น จึงมีแสงแดดออกมาผมก็ไม่ทราบมาก่อนครับ จนคืนนั้นผมไปคุยกับ อาจารย์ฆาราวาสที่ศึกษาด้านไสยเวทย์อาคม อาจารย์ธีราวุฒิ (อ.คิม) คนที่มีความรู้เรื่องไสยศาตร์ คลุกคลีกับเรื่องเครื่องรางของขลังและสักยันต์มามากมาย พอผมเล่าถึงตอนเมฆมาบังแสงแดดตลอด 3 ชั่วโมงในการตัดต้นกุ่ม... อ.คิมก็บอกว่า เป็นไปตามตำราที่ว่าไว้ เรื่องการไปกู้ว่ายยาในป่าที่มีในตำราบอกไว้ว่า การเข้าไปกู้ว่านยาในป่า มีข้อห้ามคือ ห้ามให้เงาคนทับต้นไม้ ห้ามให้เงาต้นไม้ทับคน ของจึงจะสัมฤทธิ์ผล... ซึ่งข้อนี้ผมไม่รู้ไม่ทราบมาก่อนเลย พอฟังจาก อ.คิมเล่า จึงถึงบางอ้อ ว่าเหตุที่มีเมฆมาบังแสงแดดจนหมดในเวลากว่า 3 ชั่วโมงของการตัดนั้นคงไม่ใช่เหตุบังเอิญแล้ว แต่เป็นเพราะแรงครูมาช่วยมาเสริม พลังเหนือโลกมาดลบันดาล ทำให้มีเมฆมาบดบังไม่เคลื่อนที่ไปไหนตลอด 3 ชั่วโมง เพื่อให้ต้องตามตำราการกู้ว่านยาให้เกินความขลังและสัมฤทธิ์ผลมากที่สุด
    สรุปแล้ว เหตุการณ์ในวันที่พลีตัดต้นกุ่มนั้นมีเหตุมหัศจรรย์เกิดขึ้นถึง 4 ประการ คือ
    1.ปกปักเครื่องเซ่นสังเวย
    2.เมฆมาบังแสงอาทิตย์
    3.อดีตครูกลองยาวมาช่วย
    4.แดดออกและฝนตกปรอยๆส่งถึงบ้านที่พักไม้กุ่ม
    และหลังจากนั้นก็มีคนรู้ข่าวไปขูดหวยขอเลข ก็ได้เลขเด็กจากตอต้นกุ่มไปติดๆกัน ถึง 3 งวดครับ อันนี้ลูกศิษย์มาบอก ถ้าไม่เรียกแรงครูแล้วจะเรียกว่าอะไรครับ สาธุบารมีครูมาช่วยจริงๆ
    #ตะโพนไม้กุ่ม ตอนที่ 3) #ตอนสำเร็จสมปรารถนา
    หลังจากการตามหาไม้กุ่ม จนนำสู่การไปพลีตัดต้นกุ่มมาเพื่อทำตะโพนและเจอเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นในขณะทำพิธีและตัดต้นกุ่มไปแล้ว...ผมก็นำไม้กุ่มมาพักไว้ที่บ้านลูกศิษย์ระแวกนั้นเป็นเดือนเดือน จนไม้แห้งสนิท ไม้มีน้ำหนักเบามาก เหตุเพราะต้นกุ่มเป็นไม้น้ำขึ้นตามริมตลิ่ง ริมคลองริมธารน้ำจึงอมน้ำไว้ในต้นมาก แต่พอไม้แห้งจึงมาน้ำหนักเบาเพราะคายน้ำระเหยน้ำออกไป ทำให้เนื้อไม้มีความขาวอมเหลืองสวยงามมากยิ่งขึ้น เมื่อไม้แห้งได้ที่ ผมจึงขอให้เพื่อนสนิทที่ชอบแนวนี้นำไม้ไปกลึงขึ้นรูปตะโพน ซึ่งผมใช้ไม้ 1 ท่อนใหญ่กลางลำต้น เลื่อนชำแหละไม้ให้ได้ขนาดแล้วส่งไปกลึง โดยใช้ตะโพนกลึงลูกเล็กที่ "ลุงสิทธิ์" ซึ่งเป็นช่างทำซอฝีมือดีแห่งอัมพวากลึงไว้ให้จำนวนหนึง มาเป็นต้นแบบให้ช่างกลึง เพราะได้ลักษณะตะโพนมากที่สุด คือมีหน้าใหญ่หน้าเล็ก ตามแบบตะโพนไทย ครั้งแรกนำไม้ที่ชำแหละเป็นท่อนเล็กส่งไป และ หลังจากการวัดเสร็จทุกขนาดได้นำไปเข้าพิธีไหว้ครูพระสิหิงส์หลวงที่ท่านพระครูมานิตย์ วัดเงินบางพรม จัดขึ้นเพื่อขอเอาบารมีครูพระสิหิงส์หลวงประสิทธิ์ไม้กุ่มก่อนการนำไปกลึง ซึ่งหลวงพี่มานิตย์ ก็เมตตาให้เข้าร่วมในพิธีและเจิมไม้ก่อนนำไปกลึง เสร็จพิธีเพื่อนสนิทก็นำไปส่งให้ช่างไม้กลึงขึ้นรูปตะโพน สักประมาณระยะนึง ก็กลึงเสร็จ ถ่ายรูปมาให้ชม มีความสวยงามมากครับ(ดูตามภาพ) เมื่อได้ตะโพนมาครบแล้ว ทั้งขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ก็นำไปร่วม

    พิธีเสกเป็นปฐมฤกษ์
    โดยได้นำไปร่วมปลุกเสกมีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ จ.อ่างทอง ปลุกเสกอธิฐานจิต พระปิดตาดิเรกฤทธิ์ในพิธีนั้นด้วย ซึ่งหลวงปู่เล็กนั้น ท่านเป็นพระผู้ใหญ่ พระเกจิอาจารย์สายอ่างทอง มีพรรษากาล 98 พรรษาในปีนี้ ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำฯ หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ อ่างทอง หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ อ่างทอง ซึ่งท่านได้ร่ำเรีียนวิชาในสายตะโพนของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ จ.อ่างทอง ที่มีวิชาตะโพนอันลือลั่นในวงการพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง ...และเมื่อหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ ปลุกเสกให้เรียบร้อยแล้ว จึงนำกลับมาไว้ต่อที่ กุฎิ ท่านพระครูมามิตย์ วัดเงินบางพรม อีกนับหลายเดือน ผมจึงไปรับกลับมาเพื่อมาอุดผงมวลสารทางเมตตา และประกอบขาตะโพนและลงสีลงทองโดยนำกลับมาที่ชุมพร
    เมื่อนำกลับมาแล้ว ผมได้จัดพิธีคำนับไหว้ครูดนตรีไทยโดยการจัดเครื่องสังเวยตามแบบแผนไหว้ครูดนตรีไทยเพื่อ บูชาบวงสรวงอัญเชิญ บางมีครูบาอาจารย์ในสายดนตรีไทย โดยเฉพาะพระปรคนธรรพ มาประสิทธิ์ประสาท อำนวยอวยพรชัยในการสร้างตะโพนชุดนี้ และเอาฤกษ์เอาชัยเสียก่อน ตามวิสัยของนักดนตรีไทยที่ร่ำเรียนศิลปวัฒนธรรม ที่จะต้องระลึกนึกถึงครูต้น ครูดั้งเดิม ครูเทพสังคีตาจารย์ เพื่อให้เป้นแรงหนุนนำ แรงครู ช่วยส่งเสริมให้สำเร็จราบรื่นสมปรารถนาทุกประการ ... หลังจากที่จัดพิธีคำนับไหว้ครูดนตรีไทยเสร็จแล้วจึงเริ่มทำการลงสี ลงทอง ลงแล็คเกอร์เพื่อให้เกิดความสวยงามในไม้กุ่ม และได้ทำบล๊อคหล่อเรซิ่นผสมมวลสารเป็นขาตะโพน โดยทุกขั้นตอนก็ทำเอง กับ ลูกศิษย์ ทั้งหมด เมื่อลงสี ทาทองเสร็จแล้ว ผมก็นำตะโพนทั้งหมด นำกลับไปขอความเมตตา ท่านพระครูมานิตย์ วัดเงินบางพรม กทม. ขอความเมตตาท่านอธิฐานจิต บอกกล่าวครูบาอาจารย์ เป้นการอธิฐานจิตปลุกเสกปิดท้าย ซึ่งการทำตะโพนแต่ละครั้งก็มีเรื่องน่าแปลกอย่างหนึ่งคือ จะต้องมีคนแวะเวียนมามากผิดปกติ หรือจะต้องมีคนเกี่ยวเนื่องกับดนตรีไทย กับเครื่องกำกับจังหวะ เข้ามาในพิธีทุกครั้ง เป็นที่น่าแปลก
    ในวันที่ปลุกเสกปิดท้าย ท่านพระครูท่านให้ผมจุดธูปเชิญครูมาช่วยทำ และท่านบอกให้เชิญครูมาไหว้พระเจ้า 5 พระองค์และขอให้ครูข่วยทำตะโพนช่วยประสิทธิ์ตะโพนชุดนี้ให้ด้วย เมื่อเสร็จพิธีก็โปรยข้าวตอกดอกไม้ ประพรมน้ำมนต์ เป็นอันเสร็จพิธี ผมจึงเรียนถามท่านพระครู ต่อว่า ตะโพนชุดนี้ เด่นทางไหนขอรับ ท่านเมตตาบอกว่า ลง จินดามณี กับ มหาราช ไว้ เรียกทรัพย์ เรียกคน มหาลาภ ขจัดปัดเป่่าเภทภัยทั้งปวง มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยมอย่างสูงป้องกัน ถอนคุณไสย และแคล้วคลาด
    ..เมื่อปลุกเสกปิดท้ายแล้ว ผมจึงนำกลับมาชุมพรอีกครั้ง เพื่อมาประกอบขาตะโพนที่หล่อจากเรซิ่น พร้อมทั้งทาน้ำมันมหาบุรุษ 8 จำพวกที่ได้รับมาจากท่านพระครูฯ ท่านให้มาเจิมก่อนจะออกให้บูชา และปิดทองคำเปลวที่ตะโพนทุกลูก ซึ่งขั้นตอนสุดท้ายนี้ ผมได้ทำพิธีขึ้นเมื่อคืนวันที่ 26 มีนาคม 2560 โดยทำตามคำชี้แนะ และแนะนำจากท่านพระครูฯ วัดเงิน บางพรม กทม. บูชาครู เชิญครูมาช่วยมาประสิทธิ์ประสาทให้ด้วย ตะโพนลูกขนาดบูชา จะเจิมและทาน้ำมันที่หน้าตะโพนทั้ง 2 หน้าทุกลูก พร้อมทั้งปิดทองคำเปลวแท้ด้วย ผมเพิ่มสายสิญจน์มงคล ที่เก็บไว้มานาน เข้าพิธีไหว้ครูดนตรีไทยและปลุกเสกหลายเกจิมาผูกที่หูของตะโพนบูชาด้วยทุกลูก
    ส่วนตะโพนกลึงลูกเล็กขนาดห้อยคอ ผมได้เอาน้ำมันว่านดอกไม้ทอง น้ำมันโนรา 100 โรง น้ำมันมหาบุรุษ 8 จำพวก น้ำมันว่านไก่แดง สีผึ้งเขียวมหาเศรษฐีหลวงปู่เล็ก วัดทำนบ สีผึ้งแม่พิม หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร สีผึ้งเมตตามหานิยม หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมนต์ สีผุ้งพระอินทร์ หลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส สีผึ้ง หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน สีผึ้ง หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ และสีผึ้งอีกมากมาย รวมทั้งร้ำมันว่านต่างๆทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์ ที่ผมรวมไว้ในโหลน้ำมันส่วนตัวไว้มากมายและเก็บไว้เป็นเวลานาน นำมาแช่ตะโพนใบเล็กไว้ 1 คืน
    ในคืนนั้นก็เกิดเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ชวนให้ขนลุกอีกครับ คือว่าหลังจากที่ทำตะโพนเสร็จทุกขั้นตอนแล้ว กราบลาครูบาอาจารย์ และแยกย้ายกันนอนหลับ ส่วนผมมานั่งเขียนเรื่องราวในตอนที่ 2 ต่อจนเวลาประมาณ ตี 1 ครึ่งผมจึง เข้านอน โดนนอนที่ห้องดนตรีไทยของโรงเรียน หลับยาวตื่นมา ผมก็มานั่งหน้าโต๊ะหมู่ ดูความเรียบร้อย ก็มีลูกศิษย์คนหนึ่งถามขึ้นมาว่า เมื่อคืนครูมานั่งทำอะไรตอนหลับกันหมดแล้ว นั่งเหมือนทำพิธีอะไรหน้าโต๊ะหมู่ ที่มีตะโพนบุชาตะโพนเล็กวางอยู่ ผมหันไปบอกเมื่อคืนไม่ได้ทำอะไรต่อเลยนอนยาว ตาฝาดหรือเปล่า ละเมอหรือเปล่า แต่ลูกศิษย์คนที่เห้นก็ยืนยันว่า เห็นจริงๆ และยังนั่งดูครูทำอะไรอยู่สักพักนึง แล้วก็หลับต่อเพราะครูไม่พูดอะไร แต่ไฟไม่เปิดนะ จุดแต่เทียนธูปหน้าโต๊ะหมูครู แต่เห้นรูปร่างว่าเหมือนครูวิมมาก ซึ่งผมเองหลับจากลงตอนที่ 2 แล้วก็หลับยาวไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกจนเช้า เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมก็บอกลูกศิษย์ว่า ไม่มีอะไรหรอก ไม่ใช่ใครที่ไหนที่มาไม่ต้องกลัว นั่นคือครูบาอาจารย์เราองค์ใดองค์หนึ่ง ที่เมตตามาทำให้ มาประสิทธิ์มาอำอวยอวยชัยให้กับตะโพนชุดนี้ให้สำเร็จ สมปรารถนา ดีนอกดีใจด้วยความตั้งใจ เป็นแน่แท้ ตะโพนชุดนี้ ถึงแม้ไม่ใช่นักดนตรีไทยก้สามารถนำกลับไปบูชา คุ้มคน คุ้ัมบ้าน เรียกคนเรียกทรัพย์ ป้องกันภยันตราย แคล้วคลาดปลอดภัย สามารถบูชาได้สำหรับทุกๆคน โดยไม่ต้องเกรงกลัวอาภรรพ์อะไร และไม่ต้องกลัวว่าจะมีผีมีสางเพราะมวลสาร ไม้กุ่มทุกอย่าง ไม่มีชิ้นส่วนซากศพ ไม่มีซากสัตว์ และสำเร็จด้วยอำนาจพระพุทธคุณ คุณครูบาอาจารย์ ครูเทพ ครูมนุษย์เป็นที่สุดทั้งสิ้น...

    _oc=AQl-NgkSe-MKzmMtjSk9GB9WFKSB76amjcNMJ7oXph68PkUh0COITGV1mc0QmJKl7o4&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    _oc=AQkp1uVitMYHVsI_BrU4sSi2gIpZisG_y9vTrkFEAR-y59qZDC-QswI6v_CfQ9QJra8&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
    _oc=AQmZmwSjG11V7X2TP28zihvvZtbxJa1rFW05tLM9knEKdX_mG09QjeG2WyUQ4Y_netY&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    _oc=AQnMab6f6eoGqrze3q24dGbg_eZkh5AFp1TcaQP8klsQh1BkpQJKW_HwFr3XPS_AFcs&_nc_ht=scontent.fbkk22-1.jpg
    _oc=AQnTlND1hzDLfBE5j1ZZqgGr0GXY3aKlNhbPDhY4hL1PiyAgz-12K7XSSWidAitYcMc&_nc_ht=scontent.fbkk22-3.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  13. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    เบี้ยแก้ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ

    IMG_6771 (2).JPG IMG_6772 (2).JPG

    เบี้ยแก้นี่ผมย้อนหาประวัติดู ไม่เคยเขียนไว้ น่าจะทำประมาณ ปี ๒๕๕๖ ถึง ๒๕๕๘ น่ะครับ เป็นยุคแรกๆ เบี้ยหลวงปู่เล็กทำหลายครั้ง ก็ไม่พอเพียงต่อความต้องการ เพราะทำครั้งหนึ่งก้ได้แค่หลักร้อย เบี้ยของหลวงปู่ สรรพคุณสูงตามแนวเบี้ยครูอ่างทองครับ จึงต้องทำออกมาเรื่อยๆ จากหลายกลุ่มลูกศิษย์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  14. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ตะกรุดมนุษย์ - ยักษ์

    IMG_6770 (2).JPG

    ตะกรุดมนุษย์ยักษ์ แห่งเมืองวิเศษชัยชาญ

    แปลกที่ว่าผมไม่ได้เขียนเรื่องตะกรุดมนุษย์ยักษ์ไว้ในกระทู้เหรียญบินฯ เป็นเรื่องเป็นราว ขอบันทึกไว้ กันการสูญหายและสับสน ระหว่างของที่ออกจากวัดมะนาวหวานและ ของที่ปลุกเสก โดยหลวงพ่ออั้บ

    อารัมบท ( ความเดิม )

    ที่จริงเรื่องมันยาวแต่จะตัดให้สั้นพอได้ใจความว่า ผมเอาพระล็อกเก็ต จัมโบ้ หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ มีน้อยมาก ทำแค่ ๕๐ อัน ปี ๒๕๕๒ ไปแลก ตำราตะกรุด มนุษย์ ยักษ์ มาน่าจะประมาณปี ๒๕๕๒ หรือ ๒๕๕๓ นี่แหละครับ ตอนแลกกันนึกว่าได้ทั้งตำราของเดิม แต่พอได้เห็น เป็นแค่ซีร็อคมา..แหะๆ55555555 เลยตามเลย ผมก็อบตำรามาได้ สามเล่ม เอาไปถวาย หลวงพ่อเสียน ๑ เล่ม ( ท่านอยากได้สะสมไว้ในคลังตำราวัดมะนาวหวาน หลวงพ่อเสียนนี่ท่านมีตำราเก่าๆเยอะ สายหลวงพ่อเดิม สายวิเศษชัยชาญ เป็นปรมาจารย์ วิชาเก่าๆ เยอะมากครับ ท่านมีสัมพันธ์กับหลวงพ่อกลุ่มมาในอดีต เล่าบางเรื่องให้ฟังเกี่ยวกับหลวงพ่อกลุ่ม ) หลวงพ่ออั้บ ๑ เล่ม และ ท่านพระครูมานิตย์ ๑ เล่ม ผมไม่ได้เก็บไว้ เพราะของนี้ หลวงพ่ออั้บ พอท่านจับท่านบอกเลย เจ้าของตำรา ( ครูเจ้าของวิชา ต้นทางน่ะครับ ไม่ใช่นาย ก นาย ข ) หวงมาก ผมเลยกลัว ...แหะๆ

    ท่านที่มีตาในบอกว่า ครูท่านเจ้าของวิชาอยู่ในรูปหมาดำ ตัวใหญ่ ตำรานี้ครูแรงน่ะครับ แม้จะซีร็อคมา ผมแค่เด็กส่งของ ไม่มีเจตนาจะเก็บไว้ ด้วยประการใดๆ ให้ท่านผู้มีศีล มีบุญ และได้ต่อวิชาไว้ จะได้ประโยชน์กับพระศาสนาและ สังคมดีกว่าผมเก็บไว้เอง

    ต่อมา มีท่านที่มีตำราเดิมนี่น่ะครับ คนล่ะสาย ตอนนี้บวชเป็นพระอยู่ ท่านบอกขาดสายแล้ว ไม่มีการสอนต่อ ไม่มีใครเรียนต่อ ท่านติดต่อมาทางพระครู อยากจะถวายท่านพระครู ว่างๆ คงจะตามไปเอามาเก็บไว้สักวัน

    ตอนไปมอบตำราให้ หลวงพ่อเสียน และ หลวงพ่ออั้บ ท่านพระครูมานิตย์ ท่านไปด้วยไปขึ้นครูทางตำรา เพราะหลวงพ่อเสียนท่านอย่างไรมีเชื้อกันมา ต่อมา ผมนิมนต์ท่านพระครู ทำ ตะกรุดมาสักชุด แบ่งกันเอาไปสร้างวัด สร้างวิหารทาน และเอาไว้ใช้บูชา กันเอง เพราะของแท้ๆ หายากเหลือเกิน บุญกุศลที่พึงมี อุทิศให้ครูตะกรุดมนุษย์ยักษ์ ( มหารูด วัดประจำรัง ) โดยสนับสนุน แม่พิมพ์ ( ทำขึ้นมา ใหม่ ทรง หมาดำ และ ยักษ์ ) ตะกั่ว และ เครื่องม้วนตะกรุด ( ร่วมโดยคุณแว่น ศิษย์ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ) ตะกรุดนี้ม้วนด้วยเครื่อง และ ขึ้นรูป ด้วยแม่พิมพ์ด้วยแท่น อย่างเดียว ไม่มีการเขียนมือ พระคาถาเขียนด้วยมือ ที่ลงก็ซ่อนไว้

    บนตัวตะกรุด ตอก อักษร ม ตัวใหญ่ๆไว้บน ตะกรุด มนุษย์ และ ตัวอักษร ย ตัวใหญ่ๆไว้ ในตะกรุดยักษ์ ท่านพระครูตอกโค้ดประจำตัวของท่าน โค็ด ม หยดน้ำไว้ทุกดอกและ คาดด้วย เชือกร่ม ฝีมือทำประณีตมาก

    การลงจารตะกรุด ม้วนตะกรุด การผูกเชือก ต้องมีเคล็ด ทำตามตำรา เพราะฉนั้น ม้วนตะกรุดและเชือกนี้ ห้ามคลี่โดย เด็ดขาด ห้ามนำตะกรุดออกจากสายคาด เพราะตามตำรา เชือกนั้นก็เสกหลายขั้นตอน และเวลาร้อยเชือกเข้าตะกรุด ก็มีคาถากำกับ ดังนั้นถ้านำตะกรุดออกจากเชือก แล้วร้อยกลับเข้าไปเฉยๆ โดนไม่ว่าคาถา ก็จะไม่ครบบริบูรณ์ตามตำรา ต้องเอามาเสกใหม่ เขามีเคล็ดบังคับไว้

    คนที่คิดจะแกะดูยันต์ ท่านว่าไม่ต้องแกะครับ เพราะคาถาท่านไม่ได้ลงไว้เป็นตัวขอมปกติ แต่ลง วนๆ บ้าง ขีดบ้าง ซ่อนบ้าง เพื่อบังตัวยันต์ ซึ่งวิธีนี้หลวงปู่อั๊บ ท่านก็ใช้บ่อยๆ เพื่อบังตัวอักขระ หรือ ยันต์ของท่าน ทำตามวิธีของหลวงพ่ออั้บนี่แหละครับ และที่ผมเห็นมาหลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ ท่านก็ใช้วิธีนี้บังตัวยันต์ ดังนั้นถ้าท่านแกะดูนอกจากไม่ได้อะไรแล้ว จะเสียของเปล่าๆ นะคัรบ เพราะตะกรุดนี้มีเคล็ดวิธีม้วน ไม่เหมือนตะกรุดทั่วไป ถ้าท่านแกะออกและม้วนเอง ก็จะไม่ครบบริบูรณ์ ตามตำราอีกเช่นกัน

    แต่ทางที่ดีอย่าแกะเลยจะดีที่สุดนะครับ บอกไว้เป็นวิทยาทานเฉยๆนะครับ เผื่อปมเชือกใครหลุดจะได้ไม่ตกใจ ใช้บูชาไปแบบนั้นนั่นแหละครับ

    ตะกรุดมีทั้งหมดแค่ประมาณ ๒๑๖ เอว เกือบๆ ๒๒๐ กว่าเอว มีแค่นี้ มีรุ่นเดียว ท่านพระครูไม่ทำอีก เพราะท่านเจ้าของเขาหวงของเขา ตอนท่านลง มีนิมิตหมาดำมาให้เห็นตามตำรา ว่ามาแล้ว และ รับรู้ และคอยคุมอยู่ว่าอย่านอกตำรา

    เอาไปถวายวัดมะนาวหวานมากที่สุด ๑๐๔ เอว ถวายวัดไป ๑๐๐ เอว กั้กไว้เป็นของผู้สร้าง ๔ เส้น ( ตามรูป จะบรรยายไป ) แต่ระหว่างทาง กลับไปหาเจ้าของเดิม ๑ เส้น เลยกลับมาที่ผู้สร้าง ๓ เส้น เอาไว้ให้ลูกหลาน ตะกรุดนี้เอาไปออก ช่วยงานกฐินวัดมะนาวหวาน ๑๐๐ เอวในราคาเอวล่ะ ๙๙๙ บาท พรึ่บเดียวเกลี้ยง เมื่อหลวงพ่อเสียนปลุกเสกตามวิธีของท่าน ทางวัดมะนาวหวานตอกโค้ดเพิ่ม เป็น โค็ดของวัด สามารถแยกจากกันได้เด็ดขาด

    ที่เหลือประมาณ ๑๐๐ กว่าเอว นำไปปลุกเสกอีกที โดยหลวงพ่ออั้บ ท่านเล่าบางเรื่องเกี่ยวกับตะกรุดนี้ จะไม่เปิดเผยในที่นี้ เอาแค่ว่าตะกรุดนี้มีกำบังอยู่ด้วย

    ส่วนทีเหลือ ไปถวายหลวงพ่ออั้บท่านประจุซ้ำให้ ถวายหลวงพ่อไว้ ๒๐ เอว เป็น ค่า อ็อกซิเจน และค่ายา ในราคาวัด เอวล่ะ ๑๒๐๐ บาท พรึ่บเดียวเกลี้ยงมีคนไปเหมามา ที่ล่ะหลายเอว เงินส่วนนี้ถวายหลวงพ่ออั้บไปโดยตรง อีก ๒๐ เอว ถวายพระที่อุปัฏฐาก หลวงพ่ออั้บ ไป และ แจกไปสำหรับคนที่ควรได้ ผมชักลืมว่าเท่าไหร่ ที่เหลือน่าจะประมาณ ๗๐ กว่าเอว มาแบ่งกันระหว่างผู้จาร และ ผู้สร้าง ในหมู่ศิษย์ของท่านพระครู สายวัดเงินบางพรม

    ในส่วนของผมเคยมีประมาณ ๒๐ กว่าเอว แจก พวกเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานในแนวหน้า สามจังหวัดภาคใต้ เลือกคนแจกพอสมควร และเอามาประมูล จำนวนหนึ่ง ในส่วนของผม ผมเอาไปใส่ลังเหล็ก เข้าร่วมพิธีกับเหรียญเจริญสุข โดยหลวงปู่เล็กด้วยในปี ๒๕๕๗ ขอบารมีท่านอีกเต็มๆ ท่านก็สายเดียว น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับหลวงพ่อกลุ่ม แต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง วัดก็ไม่ไกลกันเท่าไหร่

    ในส่วนที่เหลือน่าจะประมาณ ๕๐ กว่า เอว ไม่บอกว่า อยู่ที่ไหน แต่ท่านที่ อ่านๆมาน่าจะเดากันได้ ร่วม ๗ ถึง ๘ ปีแล้ว ของคงกระจายไปเยอะ ...แหะๆ ไม่ได้อยู่ที่ผม ผู้มีบุญท่านเก็บไว้ สร้างวัด สร้างวา ตามสมควรของท่าน ไม่มีการสร้างมาอีกครับ

    คงไม่มีการทำมาอีก ถ้าไม่มีเหตุอันสมควร ให้ตำนานคงไว้เป็นตำนาน ไม่ได้ทำขายแต่ทำสืบต่อวิชา ของครูบาอาจารย์เก่า ๆ ไม่ให้สูญหายครับ

    ฝอยที่เขาออกมาจาก วัดมะนาวหวาน

    ตำนาน ที่กลับมาเป็นจริง

    ตะกรุด มนุษย์ ยักษ์ ตำนานตัวจริงของวิเศษฯ แทบสาบสูญ ไม่มีใครเถียง และไม่มีใครทำออกมาอีก ของเก่าอย่าไปหา มีนับจำนวนเอวได้ว่าอยู่ที่ใคร ทำให้เฉพาะคนที่มีวาสนาเป็นเจ้าของ มีเงินก็หาไม่ได้

    ชุดใหม่ ลงตามตำรา โดย ผู้ทรงคุณ

    ค่าวัสดุ ออกโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทำด้วยใจ เพื่อ ช่วยสร้างถาวรวัตถุในพระศาสนา และสืบวิชาครูแรงที่เข้มขลังไว้ไม่ให้สูญหาย เจตนาแบบนี้จริงๆ ไม่มีเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง ของมีจำนวนจำกัดแค่ สองร้อยกว่าเอว

    เงินทุกบาท เข้าวัด ไปที่หลวงพ่อวัดมะนาวหวาน ไปสร้างวัด ของมีไม่มาก

    ตะกรุดมนุษย์-ยักษ์ ลพ.เสียน วัดมะนาวหวาน สร้างตามตำรับโบราณที่ตกทอดมาแต่เมืองหงสาวดี

    หลวงพ่อวัดประจำรังท่านได้ร่ำเรียนไว้และถ่ายทอดมาให้หลวงพ่อกลุ่ม วัดฝาง

    ตะกรุดนี้ทำตามตำราเดิมของ ลพ.กลุ่ม วัดฝาง ที่ได้จากลูกศิษย์ของท่านคนหนึ่ง

    โดย พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน เป็นผู้จารให้
    เวลาทำจะมีตะกรุดอยู่ในสองพาน พานหนึ่งเป็นตะกรุดมนุษย์ พานหนึ่งเป็นตะกรุดยักษ์ อักขระรูปร่างยันต์ต่างกัน
    โดยตะกรุดมนุษย์จะลงยันต์เป็นรูปสุนัขกำลังยืนคร่อมจะกัดคนอยู่

    ส่วนตะกรุดยักษ์ก็จะเป็นยันต์รูปยักษ์ยืนคร่อมคนเช่นกัน
    เป็นความหมายชนะ สะกดให้อยู่ในอำนาจ
    วันไหนมีฤกษ์มนุษย์ก็จะลงตะกรุดมนุษย์ วันไหนฤกษ์ยักษ์ก็จะลงยักษ์

    แล้วเก็บเข้าพาน รอวันต่อไป กว่าจะลงเสร็จนานมาก
    มีขั้นตอนการทำที่ยุ่งยากซับซ้อน และที่สำคัญ คือ ครูแรงมาก
    การม้วนตะกรุดก็มีเคล็ดเฉพาะ โดยจะต้องม้วนตะกรุดมนุษย์ก่อน

    พอม้วนได้ครึ่งดอกก็ให้หยุดนำใส่พานขึ้นหิ้งบูชาครู
    แล้วจึงมาม้วนตะกรุดยักษ์ ซึ่งตะกรุดยักษ์นี้ให้ม้วนรอบเดียวจบได้เลย

    พอม้วนตะกรุดยักษ์เสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำใส่พานขึ้นหิ้งบูชาครู

    แล้วนำตะกรุดมนุษย์ที่ยังม้วนค้างอยู่มาม้วนต่อให้จบ
    แล้วจึงหาฤกษ์นำมาร้อยรวมกัน
    (ข้อมูลจาก พระอาจารย์มานิตย์ วัดเงิน ตลิ่งชัน)

    พุทธคุณครบเครื่องจริงๆ ใครเคยใช้อะไรแล้วเงียบ สายลุยๆ แนะนำ ตะกรุด มนุษย์ยักษ์ ตะกรุดจะคุ้มครองอันตรายที่มาจากคนและสิ่งชั่วร้ายที่มองไม่เห็น (ภูตผีปีศาจต่างๆ)

    อีกทั้งยังเป็นมหาเสน่ห์ สะกด จังงัง งงงวย เหนียว และมหาอุดครบเครื่อง

    ลงโค็ด ตำหนิ ชี้จุดไว้ให้ศึกษาครับ ชุดนี้มีแค่ ๒๐๐ กว่าเอว ไม่มีอวตารครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  15. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระรถเสนอุ้มไก่ ปี 2561

    IMG_6767 (2).JPG IMG_6768 (2).JPG

    อาจารย์ธีระวุฒิ สมวงษ์ (อ.คิม) เป็นผู้จัดสร้าง เพราะซาบซึ้งในคุณของ พระรถเสน ที่ชนไก่เพียงเพื่อแลกข้าว 12 ห่อ มาเลี้ยงดูมารดาของตน
    จำนวนการสร้าง
    1. แบบฝังตะกรุด
    2. แบบธรรมดา ไม่ฝังตะกรุด
    รายละเอียดมวลสาร
    ๑. ผงไม้ตะเคียนอินทภาณี เสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช
    ๒. ผงนางพญาตานี
    ๓. ผงไม้ยอไม่ตกดิน
    ๔. ผงมวลสารทำพระนางพญาพรายคู่ หลวงปู่แก้ว วัดระหารไร่
    ๕. ผงพรายกุมาร วัดควนนาเเค เป็นผงพรายกุมารที่ พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ท่านได้ทำไว้ โดยท่านได้นิมิตล่วงหน้าก่อน 7 วันว่า วันเสาร์ เดือน 12 ปีขาล จะมีศพเด็กน้อยลอยน้ำมาติดอยู่ที่รากไทรหลังวัดคลองน้ำเจ็ด จึงได้มอบหมายให้ พ่อท่านเชือน วัดควนนาแค ไปทำพิธีพลีกุมารานั้น แล้วบวงสรวงทำพิธีสร้างผงพรายกุมาร เตรียมการกันในปี 2505
    ๖. ผงพรายกุมาร วัดละหารไร่
    ๗. ลูกอมมหาจินดามณี พระปลัดปาน วัดตุ๊กตา
    ๘. ผงอิทธิเจ หลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์
    ๙. ผงมวลสาร หลวงพ่อปลอด วัดปากทะเล
    ๑๐. ผงมวลสารหลวงปู่เหลือง วัดตาด้วง
    ๑๑. ผงมวลสาร หลวงปู่จันทร์ วัดโฉลกหลำ
    ๑๒. ผงลบ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่
    ๑๓. ผงปถมังแฝด
    ๑๔. ผงมหาวนมหาเวียน
    ๑๕. ผงมวลสารอาถรรพ์ทางเมตตา โภคทรัพย์ สายลังกา
    ๑๖. ผงอาถรรพ์ทางเมตตา มหาเสน่ห์
    ๑๗. ผงมวลสาร ท่านพ่อโต วัดเขาบ่อทอง
    ๑๘. ผงมวลสารแท่งยา ท่านพ่อโต วัดเขาบ่อทอง
    ๑๙. ผงนะอิทธิเจ
    ๒๐. ผงชันโรงต้นคูณ
    ๒๑. ผงกาฝาก ขนุน มะยม คูณ รัก กาหลง
    ๒๒. ผงมวลสารพระครูบากองคำ วัดดอนเปา
    ๒๓. ผงรวมมวลสารสร้างขุนแผนสายภาคตะวันออก
    ๒๔. ผงพลอยเสก คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
    ๒๕. ผงนะหน้าทอง หลวงปู่ดี วัดเทพากร
    ๒๖. ผงประชุมธาตุ ๔
    ๒๗. ผงตะไบกะลาตาเดียว หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    ๒๘. ผงจินดามณี หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    ๒๙. ยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    ๓๐. ยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    ๓๑. ยาวาสนาจินดามณี หลวงปู่เล็ก วัดทำนบ
    ๓๒. ผงตะไบทองคำ ผงตะไบเงินแท้
    ๓๓. สีผึ้งหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม
    ๓๔. เครื่องหอมและน้ำมันหอม ตามตำราการสร้างวัตถุมงคลทางเสน่ห์ เมตตามหานิยมแต่โบราณ
    ๓๕. ผงมวลสารจากลานพระรถชนไก่
    ๓๖. ผงมวลสารจากถ้ำนาง 12
    ๓๗. น้ำศักดิ์สิทธ์บ่อน้ำ ถ้ำนาง 12
    ๓๘. ข้าวสารบ้านเศรษฐี 7 บ้าน
    ๓๙. ดินเจ็ดโป่ง ดินเจ็ดท่า ดินเจ็ดป่าข้า ดินเจ็ดทุ่งนา ดินเจ็ดเสมาชัย ดินเจ็ดนคร
    ๔๐. ผงจากสถานที่ชนไก่ของสมเด็จพระนเรศวรกับพระมหาอุปราชา จากประเทศพม่า (ได้รับเมตตาจากท่านเจ้าอาวาส วัดเจดีย์)
    และมวลสารทางเมตตาโภคทรัพย์ อีกมากกว่า ๑๐๐ ชนิด
    กรรมวิธีการสร้าง
    • พิธีขออนุญาตจัดสร้าง พร้อมพลีผงจากลานพระรถชนไก่และถ้ำนาง 12 เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2561
    • บวงสรวงกดพิมพ์นำฤกษ์ ในวันไหว้ครูประจำปี 2561 เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2561
    การบรรจุอิทธิคุณ
    • บวงสรวงบอกกล่าวขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประสิทธิ์ประสาทลงสู่วัตถุมงคล ณ ศาลพระรถเสน ที่สระสี่เหลี่ยม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2561
    • พิธีอธิษฐานจิตปลุกเสก เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 โดยได้รับความเมตตาจาก
    - ท่านพระครูวิธานสุตสุนทร (มานิตย์ สุทธิญาโณ) วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) กทม.
    - ท่านพระครูมุขธรรมธารารักษ์ (วัฒน์ ปิยวณโณ) วัดมุขธารา นครศรีธรรมราช
    - ท่านพระอาจารย์จอย กรุโณ วัดสวนหลวง นครศรีธรรมราช
    • บวงสรวงสมโภชในพิธีน้ำมนต์มหาเศรษฐี โดย ท่านพระครูวิธานสุตสุนทร (มานิตย์ สุทธิญาโณ) วัดเงิน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2561
    อิทธิคุณ ทางเมตตา มหานิยม คนรัก บนบานได้โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภ ให้คนที่ได้รับไปมีความกตัญญูต่อบิดา มารดาของตน ก็อาจจะช่วยให้ได้ลาภมาแบบแปลกๆ ได้เพื่อเลี้ยงดูครอบครัว
    c_oc=AQlivwjg0zLU-Ki-_ttUawE6RU2QPWW6B-73-HAhk1AVE7f6aNL0-KbkWfGPjxeXN6I&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
    c_oc=AQlyfISeXrCSKjOhCVr5JTxTvUIwbCyWIj2FKH5dyIfazDvW9Ptak0bxGvg7IX1yx74&_nc_ht=scontent.fbkk2-6.jpg
    c_oc=AQnWXzZhtehN1k5Q5-TTcinsWXOMqRQ9L4NVk5yt8jCi4GeqRB832CvMl3xUh3caqT0&_nc_ht=scontent.fbkk2-5.jpg
    c_oc=AQkcOkK73ZcP09eoB0uv34RUFiQzyyesLNAL3qUciSpFkcr3Ir1Au3yuXdc-LOUP568&_nc_ht=scontent.fbkk2-7.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  16. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    ไม้มงคล ๙ อย่าง

    ตอนผมสร้างบ้านปัจจุบัน จ้างบริษัทเขามาทำ และตอนลงเสาเอกบอกเขาให้ รอ


    คุณแม่ ผมทำพิธีให้ เปิดตำรา พรหมชาติ คุณแม่ผมท่านว่าเองหมด ไม้มงคลซื้อมาจาก เสาชิงช้า เอาไปขอ ลพ เจ้าคุณถาวร ลงให้ ทำพิธีเสาเอกแล้วจึงสร้าง

    ช่วงนั้นคาบเกี่ยวมาช่วงผมรู้จัก ลป บุญศรีพอดี แผ่นทองเงินนาค เลยไม่เอาลงเสาเอก เอามาขอหลวงปู่บุญศรีลงให้ เสียดายเลยใส่กรอบแขวนไว้ที่เสาเอก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะ ถ่ายรูปให้ดูครับ ช่วงนั้นผมไปพยุหะ เห็นเขาขายไม้นี้ถุงใหญ่ ชื่อดี ไม้ดี แต่แนว เศาไม้เสกๆ เอามาตอกเสาเอกคงไม่ได้ เลยซื้อมา ของ ลป บุญศรีลงให้ เอาไม้นี่ใส่ลงไปด้วยกับเหรียญเงิน หลายชนิดเป็นเคล็ด สีเงิน สีทอง ผมใส่เงิน ตปท ด้วย เพราะหากินกับต่างชาติ

    บ้านผมอยู่ร่มเย็นมา ยี่สิบกว่าปี

    ไม้นี่ผมก็แจกให้คนอื่นไป ที่เขาสร้างบ้าน หรือแนะว่าบ้านสมัยใหม่ เขาทำมาเสร็จ ไม่ได้ทำพิธีแบบเดิมๆ ทั้งบ้าน ห้องแถว ทาวน์เฮ้าส์ ก็เอาไม้นี้เลี่ยมหรือ ใส่ถุงไปแขวนน่ะครับ คนที่เลื่อมใส ลป บุญศรีได้ไป ไม่เห็นมีใครกลับมาบ่นผมน่ะครับ

    ของนี่ไม่ขาย แต่แจก และแถม

    ๒ ชุด ใครส่งจมมาถึงก่อน เขี่ยมมุมซองว่าไม้มงคล ๙ อย่าง ใส่ซองมาเสร็จ ตามกติกา ผมส่งให้เลย

    อีก ๒ ชุด ผมจะแถมกับ การประมูล และ ขายรายการที่ ๑๒

    อีกชุดผมจะเก็บไว้ เผื่อลูกมันไปสร้างบ้านเขา

    ของดีที่ไม่ต้องโฆษณา ไ่อับจน ค้าขายเป็น เศรษฐ๊ใหม่ครับ


    IMG_6775 (2).JPG IMG_6776 (2).JPG 344.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  17. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระสมเด็จ พระครูสุพจน์ อินโดจีน วัดสุทัศน์

    4769826-5ee4f.jpg

    เครติดเว็บ....ในเน็ทน่ะครับ ขอบคุณครับ

    ในช่วงสักปี ประมาณ พ.ศ. ๒๕๒x ผมไปแถววัดสุทัศน์ ตามประสาคนชอบหาของดี ธุระหลักอะไรลืมไปแล้ว น่าจะไปบูชาพระขาวของ ท่านเจ้าคุณ ประหยัด แต่ราคาแพงมากตอนนั้น เลยไม่ได้บูชาของวัด บูชามาแต่เหรียญพระประะานของเก่าเหมือนกัน แต่เคยได้ยินเรื่อง สมเด็จ หลวงพ่อสุพจน์ เลยถามที่ห้องพระท่านบอกทางให้ ว่าตำแหน่งกุฏิไหน แต่หลวงพ่อสุพจน์น่าจะล่ะสังขารไปนานแล้ว

    ก็เดินหาไป จนไปเจอกุฏิ ถามพระ แถวนั้นที่เจอท่านก็ชี้ๆ ไม่ได้สนใจเรื่องพระเครื่องเท่าไหร่ พอถามท่าน ท่านก็บอกโยมไปดูเอาเองแล้วกัน ท่านก็ขึ้นกุฏิไป น่าจะเป็นพระกุฏิอื่น เรียกว่าท่านไม่สนใจก็แล้วกัน

    ผมเดินไปจน เจอจนได้ เป็นห้องกั้นกับพื้นแผ่นหิน แผ่นปูน ห้องลูกกรงตาข่ายเหล็ก ข้างในมีลังเต็มวางแบบไม่สนใจ ถามพระแถวๆนั้นในกุฏิ ท่านก็ชี้ๆจำได้ว่าโยมดูเอาเองน่ะ เรียกว่าไม่รับเป็นเจ้าภาพ แต่ชี้ให้ ผมยังสงสัยแล้วจะบูชาจากใครเนี่ย

    เข้าไปให้ห้อง กั้น ตะแกรงตาข่าย จำได้ว่าประมาณ ๒ เมตรครึ่ง คูณ สักสามเมตรครึ่ง ขนาดพอสมควร

    ข้างในมีลัง กระดาษเต็มไปหมด มีพระครับ พระหลวงพ่อสุพจน์นี่แหละ หลายพิมพ์ แบบจัมโบ้อง์ใหญ่ๆก็มี ฝุ่นหนาเขลอะ แบบทิ้งมาไม่น่าต่ำกว่า ๑๐ ถึง ๓๐ ปี ผมลองคุ้ยดูไปตามกล่อง เป็นพระเนื้อปูนนี่จำได้ว่าแทบทั้งหมด เป็นพวกโบชัวร์ค หนัสืออื่นๆก็มี น่าจะหลายพันองค์ หลายกล่อง วางแบะกับพื้นก็มี ผมก็แค่มองๆเพราะ

    ๑) ชักไม่แน่ใจว่าของสงฆ์หรือไม่ ไม่มีใครออกตัว แม้มายืนเฝ้าตอนที่ผมเขาไปดู ไม่มีใครสนใจ

    ๒) คุ้ยๆมากชักกลัวงู แมงป่อง ตะขาบเพราะห้องนั้นวางกับพื้นปูน แผ่นหิน ธรรมดา คุ้ยไปเจอ ล่ะซวยแน่ๆ และบรรยากาศทึมๆ น่าจะมี ตัวอะไรแปลกๆ

    ๓) พระนอกจากฝุ่นเยอะมากแล้วไม่สวยอีก พิมพ์ไม่สวย เขลอะฝุ่นไปหมด

    มองซ้ายมองขวา ไม่มีใรสนใจเลย ไม่เอาดีกว่า กลับไปถามที่ห้องพระ ไม่มีใครสนใจ ท่าทางก็ไม่ใช่พระในสายท่าน

    เลยจบข่าว

    พระที่โชว์ เป็นพระได้มากจากข้างนอก

    น่าแปลกที่ว่าพระนี่เนื้อหา ประวัติชั้นยอด วัดเอามาทำความะอาด เอาใส่กล่องน่าจะออกบูชา จะได้เงิน หลายแสนในยุคนั้น หรือ อาจจะเอาออกที่หลัง หลังจากมีคนไปถามมากๆก็ได้ครับ

    เจอมาแบบนี้เลยเล่าให้ฟัง ว่าเพชรในตมมีจริงๆ พระมาจากวัดดัง หลวงพ่อก็เก่ง พิธีก็สุดยอด จริงๆจำได้ว่าเข้าอีกพิธี แต่ผมยังหาประวัติไม่เจอ เจอจะ มาต่อน่ะครับ เนื้อโขลกสุดยอด ยิ่งเก่ายิ่งแกร่ง สวย

    หลังๆค่อยมีคนหาประวัติและนำมาจำหน่าย

    ท่านที่อยากได้สมเด็จดีๆ แต่สู้วัดระฆัง หรือสายท่าน วัดอินทร์ไม่ไหว พระสมเด็จวัดสุทัศน์นี่เลยครับ ทำแจกฟรี พิธีสุดยอด พระที่ไปเสก เก่งๆทั้งนั้น

    แต่พระองค์นี้น่ะครับ ถ้าทำพิมพ์สวยแบบ วัดประสาท แบบพระครูละมูล ราคาเป็นหมื่นไปนานแล้วครับ พิธีสุดยอด เนื้อหาสุดเยี่ยม แขวนคอเดี่ยวสบายๆ พระสมเด็จนี่เอง พระสายวัดประสาทผมก็เก็บไไว้บ้าง จะเอาออกมาโชว์น่ะครับ

    เอามาจากเว็บ เครดิต เกจิน้อย พระเครื่องออนไลน์

    พระสมเด็จพิมพ์เศียรโต หลังเรียบ หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพ ปี ๒๔๘๔ หลังเรียบยุคแรก นิยม (พิธีปลุกเสกใหญ่อินโดจีน) ส่วนหนึ่งนำมาออกให้ทำบุญวัดประสาทฯ ปี ๒๕๐๖ สร้างโดยเจ้าคุณสุพจน์ วัดสุทัศน์ฯ หนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระพุทธยี่สิบห้าศตวรรษ และพิธีปลุกเสกพระวัดประสาทบุญญาวาสเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖ สังเกตได้ง่ายๆว่าพระเนื้อผงของท่านทุกชนิดจะมีเนื้อหาเดียวกันกับพระพิมพ์จันทร์ลอยวัดประสาทฯเป๊ะ ทั้งด้านหน้าและด้านหลังกาบหมาก ท่านเป็นพระในยุคพระครูลมูล ได้ร่ำเรียนวิชาอาคมกับเจ้าคุณศรีฯ(สนธิ์) วัดสุทัศน์ และจากหลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย โดยได้รับตำราการทำผงไก่เถื่อนจากหลวงพ่อแต้มมาด้วย เป็นอีกหนึ่งพระสมเด็จที่ สร้างจากผงเก่าวัดระฆัง เเค่เนื้ออย่างเดียวก็เกินคุ้มเเล้วละครับ เนื้อผงเก่าพระสมเด็จ เเถมปลุกเสกพิธีเดียวกับชินราชอินโดจีน พุทธคุณรอบด้านครอบจักรวาลสุดๆเเห่งพระเครื่องตระกูลพระสมเด็จร่วมสมัย จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริง ๆ

    พระสมเด็จนี้จัดสร้างโดยลพ.สุพจน์ นามเต็มของท่านคือ "พระครูพุทธมนต์วราจารย์" ท่านเป็นพระแบบว่าเก่งเงียบ ท่านมีวิชาลบผงสร้างผงจากตำราโบราณของวัดสุทัศน์ (ตำราโบราณของพระครูมูล วัดสุทัศน์) เป็นสหายธรรมกับหลวงปู่นาคและหลวงปู่หินวัดระฆัง จึงได้รับมอบผงสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักเป็นจำนวนมาก ท่านเป็นหนึ่งในเกจิที่ร่วมปลุกเสกพระยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ และงานพุทธาภิเษกใหญ่ ๆ เช่นพิธีวัดประสาทฯ ปี ๐๖ พิธีปลุกเสกพระประจำจังหวัดชลบุรี ปี ๐๙ ที่วัดป่าชลบุรี ก็มีชื่อของท่านในทำเนียบพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการนิมนต์มาร่วมพิธีปลุกเสกด้วย สมเด็จพิมพ์นี้สร้างที่วัดสุทัศน์ฯ เมื่อปี ๘๔ (พิธีอินโดจีน) โดยลูกศิษย์ของท่านนำพระสมเด็จวัดระฆังที่แตกหักจำนวนมากและไม่ได้ใครสนใจมาถวายท่าน

    ท่านจึงนำพระเหล่านั้นมาบดเป็นผงละเอียดและได้แกะพิมพ์ขึ้นมาใหม่ และได้กราบเรียนสมเด็จพระสังฆราชแพเพื่อขออนุญาตนำพระเข้าปลุกเสกในพิธีนั้นพร้อม ๆ กับวัตถุมงคลต่าง ๆ หลังจากนั้นจึงได้มอบให้แก่ลูกศิษย์ตลอดจนทหาร ตำรวจ และข้าราชการต่าง ๆ ที่ต้องไปราชการสงครามในสมัยนั้นเพื่อไปเป็นมงคล ปรากฎว่า "ประสบการณ์ดีเยี่ยม" พอข่าวนี้แพร่ออกไปปรากฎว่ามีประชาชนต่างมาทยอยขอพระสมเด็จจากท่านจำนวนมาก ซึ่งท่านก็มอบให้ด้วยความเต็มใจจนหมด จึงเรียกได้ว่าพระชุดนี้ "ดีนอก ดีใน" จริง ๆ พิธีอินโดจีนปี ๘๕ ทำพิธีในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๘๕ ที่วัดสุทัศน์โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์เป็นแม่งาน และมีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก ๑๐๘ องค์ ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

    1.สมเด็จพระสังฆราช แพ วัดสุทัศน์ 2.ท่าน เจ้าคุณศรี สนธิ์ 3. หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา 4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก 5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง 6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู 7.หลวง พ่อดิ่ง วัดบางวัว 8. หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง 9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง 10. หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว 11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด 12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ 13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง 14.หลวง พ่ออี๋ วัดสัตหีบ 15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา 16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ 17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก 18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์ 19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ 20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส 21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ 22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ 23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา 24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ 25.หลวง พ่อนอ วัดกลางท่าเรือ 26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค 27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ 28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ 29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี 30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง 31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ 32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม 33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม 34.หลวง พ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ 35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน 36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน 37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด 38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก 39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ 40.หลวง พ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ 41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ 42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ 43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง 44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน 45.หลวง พ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ 46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ 47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ 48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ 49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม 50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์ 51.หลวงพ่อปลอด วัดหลวงสุวรรณ 52. หลวงพ่ออิ่ม วัดชัยพฤกษ์มาลา 53.หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก 54. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน 55.หลวงพ่อครุฑ วัดท่อฬ่อ 56.หลวง พ่อกลีบ วัดตลิ่งชัน 57.หลวงพ่อทรัพย์ วัดสังฆราชาวาส 58.หลวงพ่อแม้น วัดเสาธงทอง 59.หลวงปู่รอด วัดวังน้ำว 60.หลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม 61.หลวง พ่อเส็ง วัดประจันตาคาม 62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง 63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก 64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ 65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง 66.หลวง ปู่เหมือน วัดโรงหีบ 67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว 68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง 69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า 70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง 71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา 72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง 73.หลวง พ่อสอน วัดลาดหญ้า 74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี 75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ 76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม 77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม 78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์ 79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว 80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง 8 1.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง 82.หลวง พ่ออ๋อย วัดไทร 83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ 84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ 85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก 86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ 87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา 88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ 89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม 90.หลวง พ่อทองคำ วัดปทุมคงคา 91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม 92.หลวงพ่อ กรอง วัดสว่างอารมณ์ 93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง 94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม 95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง 96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง 97.หลวง พ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร 98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร 99.หลวง พ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ 100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด 101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย 102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ 103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ 104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง 105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา 106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น 107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ 108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (ตัวท่านไม่ได้มาร่วมปลุกเสก แต่จารแผ่นทองเหลือง ทองแดงมาร่วมพิธี)

    IMG_6777 (2).JPG IMG_6778 (2).JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2020
  18. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระแหวกม่านเนื้อดินสอพอง

    ของหายาก ยุคแรกๆ สภาพสวยมาก หูตา ปาก ชัดเจน ขอบไม่บิ่นหัก มีเกศาลอยออกมา เกศาสั้นเป็นของ หลวงปู่พระครูบุญศรี เกศายาวเป็นของ หลวงพ่อทรง คนล่ะขนาด คนล่ะสี

    IMG_6773 (2).JPG IMG_6774 (2).JPG
     
  19. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    พระสมเด็จพิมพ์เทวดา วัดราชนัดดา เนื้อหินอ่อนหลังเรียบ

    พระองค์อยู่กับผมมาประมาณ ๕๐ ปีแล้วครับ เก่าเก็บ แห้งสนิท สวยกริ้บ ประวัติคือ พระมหาโกเมศ มณีโชติ ท่านเป็นผู้ทำพระยุคนี้ กุฏิท่านตอนนั้น เต็มไปด้วย มวลสาร และ อุปกรณ์ทำพระ ทั้งตำผง ทั้งปูน ทั้งแม่พิมพ์ วัดท่านคือ วัดราชนัดา อยู่หลังเฉลิมไทยก่อนทุบทิ้งน่ะครับ ท่านทำหลายพิมพ์ ผมจะทยอยนำมาให้บูชา แต่พิมพ์นี้จากกล่องชุด เป็นพิมพ์ท็อบของชุด พระท่านออกเป็นชุด มีพระสมเด็จ เป็นสิบองค์ แถมเหรียญท่าน ๑ เหรียญ และพระพุทธชินราชแบบ องค์ใหญ่อีก ๑ องค์ ในราคา ๑๐๐ บาท

    ยุคนั้น ทองราคาประมาณ บาทล่ะ ประมาณ ๔๐๐ กว่าบาท หน่อยๆ จะประมาณแถวๆนั้นน่ะครับ
    พ.ศ.2513 บาทละ 416 บาท
    พ.ศ.2518 บาทละ 1,580 บาท
    พ.ศ.2523 บาทละ 5,660 บาท
    พ.ศ.2528บาทละ 4,274 บาท
    พ.ศ.2532 บาทละ 5,004 บาท
    พ.ศ.2538 บาทละ 4,712 บาท
    พ.ศ.2543 บาทละ 5,426 บาท
    พ.ศ.2548 บาทละ 8,550 บาท
    พ.ศ.2549 บาทละ 11,068 บาท
    พ.ศ.2550 บาทละ 11,400 บาท
    พ.ศ.2551 บาทละ 13,795 บาท
    พ.ศ.2552 บาทละ 15,827 บาท
    พ.ศ.2553 บาทละ 18,392 บาท

    ราคาวันนี้
    96.5% รับซื้อ ขายออก
    ทองคำแท่ง 20,950.00 21,050.00
    ทองรูปพรรณ 20,572.12 21,550.00

    ตกลงว่า เงินร้อยบาทสมัยนั้นเยอะน่ะครับ เป็บซี่ขวดล่ะแค่บาทเดียว มาเทียบราคาทอง ๑๐๐ บาทยุคนั้นประมาณ ๕๐๐๐ บาทยุคนี้น่ะครับ

    งั้นพระชุดนี้จัดว่าแพงทีเดียว เหรียญออกตามวัดตอนนั้นเหีรียญล่ะ ๕ บาท ๑๐ บาทถือว่าแพงแล้ว

    ท่านโกเมศ ก็ออกลงหนังสือพิมพ์ ผมจำไม่ได้ว่าฉบับไหน ใน ไทยรัฐ เดลินิว์ พิมพ์ไทย ลงหลายวันเป็นข่างใหญ่ทีเดียวเพราะพิธีที่จะจัดใหญ่โต จำได้ว่ามีหลวงปู่โต๊ะ น่าจะมี หลวงปู่นาค วัดระฆํงด้วย เพราะยุคนั้น งานพิธีปลุกเสก ใหญ่โตมาก ทำให้ผมอยากได้ โดยเฉพาะหลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อแพ ท่านดังมาก แต่ตอนนั้นพึ่งเรียนมัธยม จำได้แน่นอน เพราะถ้า ปี ๒๕๑๕ ผมเข้าจุฬาแล้ว เป็นเด็กเรียนหนังสือ ได้เงินไปดรงเรียน วันล่ะ สามบาท ไ่มีปัญญษแน่นอน ทำให้ผมไปออดอ้อนคุณพ่อผม จำไม่ได้วาใช้วิธีไหน ท่านตกลงซื้อมาให้ทั้งชุด โดยท่านทำงานแบงค์แถวๆ เยาวราชช่วงวัดสามปลื้ม ท่านนั่งรถเมล์ ไปเฉลิมไทย ไปแวะซื้อมา ๑ ชุด แล้วเอามาให้ผม ผมจำได้ว่ากริ้ดสุดขีด พระสวยมาก

    งั้นพระชุดนี้ต้องทำประมาณนี้ คือ ๒๕๑๒ ถึง ๒๕๑๔ ในช่วงผมเรียนอยู่มัธยม จะเป็น ๒๕๑๕ ตามประวัติที่เขาเขียนไม่ได้ แต่อาจจะมีการทำพิธีซ้ำ ก็เป็นไปด้ เพราะท่านมหาโกเมศยุคนั้นดังมากแบโปรโมเตอร์ ในการทำพิธ๊ มีทุนน่ะแหละครับ ทำการตลาดแบบแนวใหม่ ในนการทำพร ะอาจจะมีการจัดพิธีมาอีก แล้วนำพระเข้าร่วมอีกก็ได้ ...ต่อมาได้ข่าวว่าทานลาสิกขาไปมีครอบครัวและไปทำร้านอาหาร จนข่าวเงียบหายไป


    สมเด็จพระมหาโกเมส มณีโชติ แห่งวัดราชนัดดา กทม. เป็นผู้สร้างเข้าพิธีปลุกเสก พิธีเดียวกับพระสมเด็จ "พระพุทธบาทประชารักษ์" ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นมาร่วมพิธีปลุกเสกมากมาย เช่น
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี,หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู,หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง ฯลฯ

    ประวัติและความเป็นมา
    พระสมเด็จรุ่นนี้พระธรรมรัตนากรหรือหลวงพ่อใหญ่เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาท ซึ่งเป็นเจ้าคณะจังหวัดสระบุรีในขณะนั้นได้เป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง เนื่องจากท่านเห็นว่าวัดพระพุทธบาทยังไม่เคยมีการจัดสร้างพระพิมพ์สมเด็จมาก่อนเลย ท่านได้เห็นว่าดอกไม้ที่ประชาชนนำมาใส่บาตรพระช่วงเทศกาลในช่วงเข้าพรรษาเป็นจำนวนมาก ท่านจึงได้ดำริให้รวบรวมไว้เพื่อนำมาเป็นมวลสารในการจัดสร้างและอีกวัตถุประสงค์หนึ่งเพื่อแจกแก่ผู้ที่เข้ามาแสดงมุตาจิตที่ท่าน ได้เลื่อนสมณศักดิ์ และส่วนหนึ่งนำมาจำหน่ายแก่ประชาชนที่มานมัสการรอยพระพุทธบาทในราคาองค์ละสิบบาทเพื่อเป็นที่ระลึก
    การจัดสร้างมีการดำเนินการโดยทางวัดเองเริ่มประมาณในปี พ.ศ.2512 โดยมี “พระมหาโกเมศ” จากวัดราชนัดดาซึ่งมีความสนิทกับท่านพระธรรมรัตนากรเป็นผู้ดำเนินการจัดสร้าง โดยพิมพ์พระเป็นพิมพ์ที่ท่านพระมหาโกเมศจัดหามาเท่าที่ทราบมีประมาณสิบกว่าพิมพ์ โดยเรียกชื่อพิมพ์คล้ายกันกับสมเด็จบางขุนพรหมแต่ได้แกะพิมพ์ให้แตกต่างกันออกไป และการพิมพ์องค์พระทำเป็นแบบสองหน้าก็มี ที่เรียกชื่อเท่าที่พบ
    ๑) พิมพ์ทรงเจดีย์
    ๒) พิมพ์ฐานขาสิงห์
    ๓) พิมพ์เกศบัวตูม
    ๔) พิมพ์ปรกโพธิ์
    ๕) พิมพ์อกครุฑ
    ๖) พิมพ์ฐานแซม
    ๗) พิมพ์วัดเกศ
    พิมพ์นอกจากนี้จะเป็นพิมพ์พิเศษที่ทำขึ้นมาเพื่อแจกแก่ผู้ที่มาช่วยงาน เช่น ทำเป็นพิมพ์สองหน้า
    ส่วนเนื้อหาพระจะแบ่งออกเป็นสามสีคือ
    ๑)เนื้อสีน้ำตาลหรือเนื้อเกสร สร้างจำนวนไม่มาก ไม่ได้นำออกจำหน่าย
    ๒) เนื้อสีเปลือกมังคุด สร้างจำนวนน้อยสุด ไม่ได้นำออกจำหน่าย
    ๓) เนื้อสีขาวสร้างจำนวนมากและนำมาจำหน่ายองค์ละสิบบาท
    พระทั้งหมดจัดสร้างจำนวนเท่าใดไม่ทราบ เมื่อทำการกดพิมพ์พระเป็นจำนวนพอแก่ความต้องการแล้วได้จัดพิธีพุทธาภิเศกที่ศาลาหอเย็นใกล้รอยพระพุทธบาทในปี พ.ศ.๒๕๑๕ ได้จัดพิธีขึ้นอย่างยิ่งใหญ่มาก ซึ่งได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นมาร่วมพิธีปลุกเสกกันมากมาย อาทิ เช่น
    หลวงปู่โต๊ะวัด ประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    ฯลฯ
    และในปีพ.ศ. ๒๕๒๒ พระที่เหลือของท่านส่วนหนึ่งพระธรรมรัตนากรหรือหลวงพ่อใหญ่ได้นำมาเข้าพิธีอีกครั้งหนึ่ง มีพระเกจิมาร่วมปลุกเสก เช่น
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ
    พระราชอุทัยกวี (หลวงพ่อพุธ)เจ้าคณะจังหวัดอุทัย (องค์นี้งูเห่าแผ่แม่เบี้ยท่านชี้มือสยบเลยจากคำบอกเล่าของผู้ที่ไปนิมนต์ท่าน)
    หลวงปู่นาค วัดหนองโปร่ง
    หลวงพ่อสุวรรณ วัดเขาบ่มกล้วย
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โกร่งธนู
    ฯลฯ

    พระรุ่นนี้หลวงพ่อกวยได้นำพระบางส่วนกลับไปด้วย โดยส่วนตัวผม ถือว่าเป็นของดีพิธีใหญ่ มวลสารเยี่ยม เกจิย์เก่า ดีครบสูตรพุทธคุณทุกทาง สภาพสวยเดิมสมบูรณ์พิมพ์คมชัดลึก พระชุดนี้ถือว่า เป็นของดีราคาถูก มีประวัติการสร้างที่แน่นอน ถือ เป็นพระนอกวัด(วัดโฆษิตาราม) ที่หลวงพ่อกวยท่านเสก น่าสนใจอีกรุ่นหนึ่ง
    ปล. หลวงพ่อกวยท่านได้นำรูปแบบพระเครื่องบางพิมพ์ที่ท่านชื่นชอบในพิธีนี้ นำไปเป็นต้นแบบสร้างที่วัดโฆษิตาราม เลยทำให้หลายคนสับสนอลเวงมาจนถึงบัดนี้

    ข้อมูลจากในเว็บ .... กราบขอบคุณครับ

    จะเห็นว่าพระชุดนี้พิธีใหญ่มาก หลวงพ่อกวย และอีกหลายหลวงพ่อที่เขาไม่ได้บันทึกไว้ มาตามที่ได้ถูกนิมนต์มาครับ


    IMG_6779 (2).JPG IMG_6780 (2).JPG IMG_6781 (2).JPG

    สภาพสวยกริ้บ ท่านที่อยากได้หลวงพ่อกวย แต่ไม่ไหวเรื่องราคาแพงและความสับสน ต้องสายตรง เล่นพิมพ์นอกวัดดีกว่ามีหลายพิมพ์ เช่นที่เอามาโชวื และ พิมพฺหลวงพ่อจง ของวัดน้อย น่าสนใจมาก ผมจะถ่ายรูปมาให้ชม เรื่อยๆ พิมพ์นอกวัด ประวัติชัวร์

    ประวัติเดี๋ยวดึงของเก่ามาให้ดูน่ะครับ หลวงพ่อกวยมาเสก หลายครั้ง หลายปี แน่นอนตามประวัติ
    แต่ตอนผมเก็บน่ะ เพราะชื่อเสียงหลวงปู่นาค วัดระฆังและ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อกวย ส่วนกลางยังไม่เป็นที่แพร่หลาย ท่านดังในท้องถิ่น ยุคนั้นข่าวสารไปยาก ต้องหาอ่านจะหนังสืออย่างเดียว
    สามสิบปีกว่าปี ก่อนผมก็เก็บไว้หลายอย่าง ส่วนใหญ่จากท่าน พตท สุวิน สว่างรัตน์ ที่แผงสวนจตุจักร ถ้าผมจำนามสกุลท่านไม่ผิด ท่านเป็นเซียนเหรียญและ เก็บสาย หลวงพ่อ กวย หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุนนาค เท่าที่จำได้ พระท่านเยอะมาก ที่บ้านอีกเพียบ เกิดต้องการอะไรท่านมี เช่น หลวงพ่อชา ท่านต้องไปหาที่บ้านอีกหลายวัน
    ต่อมาผมเลิกสะสม หลวงพ่อกวย เพราะยิ่งเล่นยิ่งงง ฝีมือ สายตาไม่ถึง เลิกดีกว่า

    พิมพ์พระพุทธชินราช หลังเรียบโรยแก้ว วัดราชนัดา
    IMG_6782 (2).JPG IMG_6783 (2).JPG IMG_6784 (2).JPG

    พิมพ์พระพุทธชินราช หลัง โพธื์ ๙ ใบ ถอดพิมพ์ หลวงพ่อกวย

    IMG_6785 (2).JPG IMG_6786 (2).JPG

    IMG_6787 (2).JPG IMG_6788 (2).JPG

    พระสมเด็จพิมพ์นอกวัด

    78879290_543116213178924_1054672465558503424_o.jpg 76997953_543116219845590_2007351835932753920_o.jpg

    78918682_551767582313787_6807425449359048704_o (1).jpg 79207394_551767602313785_6965421795641917440_o.jpg

    เหรียญหลวงพ่อกวย พิมพ์นอกวัด เป็นรูปหลวงพ่อเลยราคาแรงมาก

    68754089_464596261030920_8740260191116722176_o.jpg 68332682_464596234364256_1590623885189971968_o.jpg

    กุมารทอง มีจาร ปิดทอง เทหล่อโดยวัด และมาต่องานช่างพยุหะ

    69841002_483358229154723_4720450245517901824_o.jpg 69901235_483358259154720_7213233991212597248_o.jpg

    70540059_483358242488055_7119876928504332288_o.jpg 70248012_483358305821382_9122279183995633664_o.jpg

    มีอีกหลายอย่าง โชว์แค่นั้นก่อนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2020
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    38,014
    ค่าพลัง:
    +146,292
    มีดอาคมด้ามเขากระทิง พระครูมานิตย์

    เล่มนี้ขนาดเล็กเป็นมีดสั่งทำจากช่างอุทัย เป็นเขากระทิง มีราคาเอามาประมูลดีกว่าครับ ใบเป็นแสตนเลา 4140 คมกริบไม่ขึ้นสนิมครับ น่าใช้มากครับ สำหรับท่านที่ไม่ต้องการพกเล่มใหญ่ ผ่านพิธีทั้งลงอักขระ และ ไหว้ครูมาครบถ้วนครับ

    IMG_6789 (2).JPG IMG_6790 (2).JPG

    คาถาใช้กับมีดหมอ

    นะโม ๓ จบ

    นะโมพุทธายะ จะภะกะสะ

    สำนึกถึงคุณพระรัตนตรัย ครูฤาษี ครูเทพ เป็นต้น และขอบารมีตามจิตปรารถนาว่า

    ๑. พุทธัง ปัจจักขามิ ธัมมัง ปัจจักขามิ สังฆัง ปัจจักขามิฯ

    ใช้ทำน้ำมนต์ แก้และกันคุณไสย์ต่างๆ

    ๒. อะภิสะเมจจะฯ

    ใช้กดแก้พิษสัตว์ต่างๆ

    มีดหมอนี้ได้อัญเชิญคุณพระ คุณครูมาสถิตย์ไว้ พกได้ปกติทั่วไป

    ข้อห้ามตัดหรือกรีด แผ่นดินและต้นไม้

    พกในกระเป๋ากางเกงได้

    ทำให้ใช้ในชีวิตเฉพาะตัวหรือครอบครัว ไม่ให้ไปไล่ให้ใคร

    ก็สั้นง่ายๆ จะใช้ของขลัง ต้องจิตมั่น จึงใช้ได้ ต้องไม่ลบหลู่ครูบาอาจารย์ ไม่ฝืนคำห้ามน่ะครับ ปฏิบัติตามนั้นน่ะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...