เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

บุญตามวัน
ผันกวีตามไป
ให้สดใสรื่นเริง...

'บุญ'ค้ำคูณ..'พิน'พูนเพิ่ม
ตามต่อเติม..เสริม'ไร่ขิง'
อิง "ปู่ดู่".......อยู่พึ่งพิง
แลเล็กจริง...รวมยิ่งใหญ่!

 

มาดีเชียวคุณวรเอก ข้อมูลแน่นเปรี๊ยะทั้งไทย-จีนอย่างทรงภูมิท่านหนึ่ง แต่ความรู้เหล่านี้ล้วน..."รู้แล้วใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม" เรามิใช่กระทู้ศึกษาพุทธศาสนา ทุกเรื่องเป็นการหยิบ "ประเด็นสำคัญ" มาเล่ากำกับด้วยวัตถุมงคล หรือศิลปวัตถุทางศาสนาอันทรงคุณค่าประกอบกันไป เปรียบดังวงดนตรีมีเครื่องเล่นครบ เท่านั้นเอง

ถ้าจะเน้นเรื่องความรู้ทางศาสนา ไม่ว่ามหายาน-หินยานฯ หรือคตินิกายอะไรก็ตามแต่ นักอ่านคงนั่งหลับคากระทู้ หรือถ้าเขียนแล้วฮิตคนติดยิ่งกว่าติดกัญชายาบ้า ผมก็ค้นคว้าหามาให้อ่านกันได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตาม ขอบคุณที่เข้ามาเขียนในแง่มุมดังกล่าว เป็นสมาชิกใหม่ที่กระทู้นี้ยินดีต้อนรับด้วยเต็มใจ ถ้าไม่บรรเลง'วิชาการ'เกินไป โอกาสหน้ามีเวลา ก็เชิญ!

 

สวัสดีคุณอาวันวิ และท่านสมาชิกทุกท่านครับ
นักขุดกรุ มือขลังจอมขมังเวทย์..( ตอนที่126)

ขอบพระคุณครับ

 

เหรียญไข่รุ่นแรกปี20
"หลวงพ่อดำ วัดตุยง"
==============

ตามทางการสร้างถือเป็นเหรียญรุ่น 3 แต่รูปแบบรูปไข่ เป็น'ครั้งแรก' ที่จัดสร้างขึ้นมาของ หลวงพ่อดำ วัดตุยง ปัตตานี ถึงวันนี้ยาวนาน 45 ปีพอดิบพอดี

เนื้อทองแดงผิวไฟ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ประสบการณ์เพียบ ใน 3 จังหวัดแดนใต้ แผ่นดินมิคสัญญีไฟไม่เคยมอดดับ เหรียญสวยไม่ผ่านการใช้ร่วมบุญหลักร้อยก็พอในยุคโควิดใช้สอยประหยัด...

=======800=======

สภาพผิวหิังเล็กน้อย ไม่ผ่านการใช้การล้าง ช่วงอายุ 84 ปี ของหลวงพ่อที่กล่าวกับเหล่าศิษย์ว่า...ยิ่งแก่ ยิ่งเก่ง!

เหรียญตามภาพทุกประการ อริยสงฆ์ที่ไม่ผ่านการชงการเชียร์ด้วยนิยายนิทานน้ำเน่าใดๆทั้งสิ้น แต่แวดวงดงขมิ้นยอมรับว่าเป็นหมายเลข 1ในปัตตานี ทรงศีลบริสุทธิ์ห่างไกลพุทธพาณิชย์ ไม่มีงานใหญ่งานเล็กที่ไหนจะขาด"หลวงพ่อดำ"ในยุคที่ยังทรงสังขาร แม้นกระทั่งงานเจ้าฟ้ามหากษัตริย์

 

น้องทำจิตฯฟิตเครื่องมาด้วย เรื่องเล่าฯทางเสียงสุดมันส์ ผันผายเดินทางมาถึง ep ที่ 126 เป็นการเดินทางยาวไกลร่วมกันอย่างทรหด ทั้งความบันเทิงและบุญ-ทานผ่านการทำงานอันมีคุณค่า

อย่าลืมเปิดฟังในวันที่โลกกำลังระอุร้อนฉ่าด้วยพิษโรคร้าย และการเปิดศึกของ "รัสเซีย" กับ "ยูเครน" ที่ทำให้ "สงครามใหญ่" มีโอกาสระเบิดติดตามมาได้ทุกเวลา ถ้า "ผู้นำเฒ่า" แต่ละประเทศใจร้อนกว่าคนหนุ่มสาว

โลกนี้ต้องพึ่งกำลังคนหนุ่มสาววัยทำงานก็จริง แต่เปิดปูม ดูแต่ละประเทศใหญ่ๆดูเถิด ผู้นำล้วนวัยกลางคนย่างสู่วัยไม้ใกล้ฝั่งทั้งสิ้น...ประวัติศาสตร์โลกไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่สงครามโลกหนที่ 2 ที่นักการทหารกล่าวไว้ว่า...

"คนชรานั่งจิบชาในสวน ส่งหนุ่ม-สาว ไปตายในสงคราม"!!!

อย่าละเมอเพ้อพกแบบปรัชญวยห่วยแตกที่ลอกกันมาตามเพจตามเฟส เขียนโดยนักเขียนเพ้อเจ้อช่างฝันไร้สาระที่บอกว่า คนแก่นั้น หมดน้ำยา ควรอยู่บ้านเลี้ยงหลานเล่นกับหมาแมว

ไอ้พวกโง่หนุ่มหอยเน่าเหล่านั้นสะเออะแต่ลอกขี้ฟันเหม็นๆคนอื่น เขียนหนังสือด้วยความรู้ในกบาลตัวเองไม่เป็น หารู้ไม่โลกนี้ถูกปกครองและกำกับดูแลโดยคนแก่ทั้งสิ้น !

ว่าแล้ว ฟังจบก็อย่าลืมกดเลิฟ กดไลค์ให้กำลังใจน้องทำจิตฯสักจึ้กสองจึ้กครับ

 

วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันเสาร์ แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล

 

สวัสดีคุณอาวันวิและแฟนคลับทุกท่าน

 

เช้าที่โลกบางส่วนกำลังระอุด้วยไฟสงคราม ความสงบด้วยบารมพระพุทธศาสนาอันนำแต่ความร่มเย็นเป็นสุข เผื่อแผ่แด่สัตว์โลกทั่วหน้ายังหาได้บนแผ่นดินไทย แม้แต่ริมถนน ก็ได้ร่วมอนุโมทนาบุญใส่บาตรกับหลวงตาเป็นศิริมงคลวันหยุด

 

หลังจัดการกับมื้อเที่ยง
น้องปรายฯทักทายปจว.

 

พระพุทธรูปทองคำวัดไตรมิตร
เนื้อผงผสมว่านปูนเก่า'ปัดทอง'
==============

นามเต็มพระพุทธรูปทองคำใหญ่ที่สุดในโลกของประเทศไทย...พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร!

เรียกขานทั่วไป เอ่ยพระนามก็รู้กันว่า...พระสุโขทัยไตรมิตร!

ทองคำแท้หนัก 5.5ตัน มูลค่าทองคำทั้งองค์บันทึกไว้ในกินเนสบุ๊ค...28.5 ล้านปอนด์ ค่าเงินปอนด์ปัจจุบัน คิดแค่ 43.50 บาทต่อ1ปอนด์ ก็ลองคูณดูเล่นๆสำหรับคนเก่งเลขว่าเกิน"พันล้าน"ไปกี่มากน้อย เมื่อบวกกับคุณค่าประวัติศาสตร์ โบราณวัตถุอันหาค่ามิได้ ก็สมแล้วที่มีผู้ให้มูลค่าเป็น "หมื่นล้าน"!!!

ประวัติอันเหลือเชื่อของท่าน เชื่อว่าทุกคนคงได้อ่านกันจากบันทึกมากมาย มาชมวัตถุมงคลที่สร้างเพื่อให้นำไปบูชากันดีกว่า

พระเนื้อผงที่ผสมว่านมงคลมากมาย ทั้งยังนำปูนเก่าหุ้มองค์หลวงพ่อที่ทางวัดไตรมิตรฯเก็บไว้มาบดเป็นส่วนผสมเอาเคล็ด เป็นอุปเท่ห์แห่งความแคล้วคลาดปลอดภัยเหมือนพระพุทธรูปทองคำองค์จริงที่รอดพ้นสารพัดภัยมาได้จนกลายเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดินตราบวันนี้

ทางวัดได้สร้างไว้ 2 พิมพ์คือ พิมพ์ใหญ่-เล็ก แยกรูปแบบออกเป็น "ผงธรรมดา" กับ " เนื้อผงปัดทองคำ" ไว้สำหรับแจกกรรมการ ซึ่งเนื้อผงปัดทองก็มีทั้งพิมพ์ใหญ่-เล็กเหมือนกัน

สร้างปี 37 ตามตัวเลขบันทึกด้านหลังองค์พระ พิธีใหญ่มากสมเป็นวัดหลวงสำคัญกลางกรุง ที่ขาดไม่ได้คือบารมี 'หลวงพ่อธงชัย' หรือ "ท่านเจ้าคุณธงชัย "ซึ่งวันนี้ท่านครองสมณศักดิ์..."สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี" (ธงชัย ธมฺมธโช)"เป็นพระสมเด็จราชาคณะโด่งดัง ขลังสุดในยุคปัจจุบัน

ยกองค์ปัดทองสวยงาม แถมตลับพุกหรือตลับพรหมอย่างดีให้ขึ้นคอเป็นศิริมงคล เฮง เฮง รวย รวย ปลอดภัย มั่งคั่ง ได้ทันที...

=======600=======

หลวงพ่อทองคำ สวยสง่าอลังการ "ปัดทอง" เฉพาะองค์เชิดชูทรงงามอร่ามตาเหมือนองค์จริง เนื้อผงพุทธคุณเข้าว่านผสมปูนหุ้มเก่าแก่ดึกดำบรรพ์องค์ท่านพร้อมตลับอย่างดี

ด้านหลังที่สะสมบูชาแล้วไม่หลงทางด้วยรายละเอียดครบ ใช้วันนี้หรือเก็บไปวันหน้าล้วนเป็นศิริมงคลชีวิต!

ขนาดปกติ
เท่าสมเด็จ

 

หลวงพ่อฤาษีฯ-สมเด็จองค์ปฐม
ชุบทองขัดเงา-บล็อคกษาปณ์!
===============

วันนี้มาด้วยรูปแบบ"ทองคำ"ทั้งผง-เหรียญ เป็นมงคลยิ่งใหญ่ให้บูชาอย่างสบายกระเป๋า

เหรียญกลมหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง อีกด้านเป็น "สมเด็จองค์ปฐม" สร้างปี 36 (ไม่ทันหลวงพ่อเพราะท่านมีมรณภาพปี 35) แต่ในความใกล้กันของการสร้างเชื่อได้ว่าเหรียญนี้เป็นดำริของหลวงพ่อและของวัดแน่นอน ดังนั้นย่อมได้รับบารมีความศักดิ์สิทธิ์ตามตำรับวัดท่าซุงเต็มเปี่ยม

ยิ่งเป็นบล็อคสร้างโดย"กองกษาปณ์" ก็ยิ่งส่งเสริมคุณค่าล้นเหลือ นำชุบทองขัดเงา ต่างกับเนื้อทองแดงทั่วไปซึ่งสร้างพร้อมกัน

เหรียญอยู่ในตลับอะครีลิคอย่างดีมาโดยตลอด ถ่ายภาพก็ไม่นำออกมาให้แปดเปื้อนราคีมือ เชิญร่วมบุญวัตถุมงคลที่นำทำน้ำมนต์ได้สารพัดอย่างทั้ง กันเชื้อโรค กันรังสีนิวเคลียร์ ที่อาจจะบังเกิดกับสงครามเมื่อใดก็ได้...

=======500=======

สมเด็จองค์ปฐมงามสง่าด้วยผิวพรรณชุบทองขัดเงา

ด้านนี้คือหลวงพ่อฤาษีฯวัดเท่าซุง "พระราชพรหมยาน"ซึ่งร่างท่านไม่เน่าเปื่อยให้สักการะอยู่ที่วัด

ขนาดเหมาะ
ขึ้นคอ หรือ
พกพาเพื่อ
ศิริมงคลยิ่ง

 

เหรียญขาโต๊ะ'หลวงพ่อไสว'
"หลวงปู่โต๊ะ"ประธานเสก17
===============

เหรียญนอกวัดกับบารมี หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ที่อยากแนะนำอีกหนึ่งเหรียญก็คือ...

เหรียญรูปไข่พิมพ์ขาโต๊ะ หลวงพ่อไสว อนุภาโส วัดราษฏร์บำรุงหงอนไก่ กระทุ่มแบน สมุทรสาคร ปี 17 อายุสร้างเฉียด'ครึ่งศตวรรษ'รอมร่อ

สร้างในวาระพระอธิการไสว เจ้าอาวาสวัด'หงอนไก่ ครบ 60 พรรษา เป็นงานใหญ่พัฒนาวัดเก่าโบราณที่มีมาตั้งแต่ปี 2445 โดย หลวงพ่อไสว เป็นเจ้าอาวาสรูปที่ 3 ในปี 2500 ต่อมาท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่าไม้ เป็นพระอุปัชฌาย์ สมณศักดิ์ "พระครูสาครโชติคุณ" มีคุณบารมีในตนเข้มขลังอยู่แถวหน้าของ อ.กระทุ่มแบน

จัดสร้างเหรียญแจกด้วยเนื้อ เงิน(หลักสิบ),นวะ,ทองแดง อย่างละไม่มากนัก เป็นเหรียญประจำถิ่นที่มีประสบการณ์ และทุกบ้านละแวกนั้นต้องมีเหรียญนี้ติดบ้าน ไม่เชื่อก็ลองชมรายนามสุดยอดอริยสงฆ์แห่งยุคที่รับเชิญร่วมงานพิธี 9 รูป...

--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
(((ประธานในพิธี-เจ้าพิธี)))
--หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
--หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
--หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
--ลพ.ทองอยู่ วัดใหม่หนองฯ
--หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา
--หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม
--หลวงพ่อไสว อนุภาโส

เหรียญเนื้อทองแดงรมดำ อยู่ในเลี่ยมถนอมเนื้อ ทั้งรักษาหู-ห่วงไว้ให้อย่างดี มีเหรียญเดียวให้ร่วมบุญเหรียญขลังพลังอริยเหนือโลก แต่ราคาไม่ต้องเอื้อมมือคว้า...

=======700=======

ถ่ายผ่านเลี่ยมสะท้อนแสงมากไปหน่อย แต่เหรียญจริงงามเก่าเก็บ รักษาไว้ดีหายห่วง

เลี่ยมแบบเก็บรักษาห่วงไว้ด้านใน ไม่ถอดห่วงทิ้ง หลังเป็นพระประจำวันอาทิตย์ปางถวายเนตร แต่ใช้ได้ดีสำหรับคนเกิดวันไหนก็ได้

เหรียญรูปไข่มาตรฐาน

 

ทำบุญกันวันละนิด จิตแจ่มใส
หนีโรคภัยเรียบร้อย ก็สมควร
แก่เวลาแบกเป้เข้าป่าตะนาวฯ
ชมกันก้าวต่อก้าวของชาวคณะ
ที่มีจุดหมายปลายทางแค่เอื้อม
รอการปั้ม...เอ้ย จิ้มสักพักครับ

 

ระหว่างจอเข้าป่าตะนาวศรี มากินขนมกันก่อนครับ


ข้าวเหนียวทั้งหลายเหล่านี้ ห่อละ ๕ บาท ๔ ห่อรวม ๒๐ บาท


ส่วนกลอยคลุกมะพร้าวก็ ๒๐ บาทเช่นกันครับ ผมกินไม่ได้ใส่น้ำตาลเลยครับ

พิกัดตลาดนัดเช้าวันเสาร์ ใกล้ ๆ บ้านผมครับ

 

(ต่อ)...อาถรรพ์"เหล็กไหล"-ประจันหน้า'เจ้าถ้ำ'!!!
===============

ในเมื่อต้องหาทางข้ามน้ำ ก็ควรหาที่อาบน้ำเผื่อคนสำคัญในคณะไว้ด้วย ผมชวนลุงพรานออกสำรวจอีกหน เดินทวนน้ำไม่ได้ผล ก็เปลี่ยนเป็นเดินตามลำน้ำเชี่ยวกราก

เราลัดเลาะตะกายข้ามหินริมน้ำ ไต่รากไม้ มุดไปตามทางที่รกด้วยต้นไม้ใหญ่ขนาดเกิน 2 - 3 คนโอบ เดินไปอีกไม่น้อยกว่า 2 - 300 เมตร กระแสธารเชี่ยวเป็นเส้นตรงไม่โค้งไปทางขวาเหมือนเดินสำรวจทวนน้ำ อีกไม่กี่ก้าวข้างหน้าก็พบสิ่งที่ต้องการ

มันเลยแก่งมหาภัย แต่ปลายน้ำนั้นสิ้นสุดที่น้ำตกใหญ่ !

ก่อนถึงน้ำตกสัก 20 - 30 เมตร น้ำยิ่งเชี่ยวแรง เพราะแรงดึงดูดให้พุ่งกระโจนไปข้างหน้าลงสู่ที่ต่ำ มุมนี้เรามองไม่เห็นว่าน้ำตกนี้สูงขนาดไหน ได้ยินแต่เสียงอื้ออึงครืนโครมเมื่อน้ำกระแทกหินผาแอ่งธาราเบื้องล่าง กระนั้นตรงนี้ก็เป็นชัยภูมิพิเศษมีก้อนหินใหญ่ผุดขึ้นขวางทางน้ำเป็นระยะ แถมเบื้องหน้าก้อนหินก็มีก้อนเล็กก้อนน้อยให้วางตีนเดินข้าม

"ดูนั่น...นายทหาร"

ลุงเฒ่าชี้ให้ผมชมภาพพิสดารโผล่ออกมาจากป่าฝั่งตรงข้าม...

เจ้าจ๋อฝูงย่อมมีไม่ต่ำกว่า 10 ชีวิต กำลังเดินสี่ขาเรียงแถว ข้ามธารสวยน้ำใส ไหลแรงมายังฝั่งเรา พวกมันเลาะตามก้อนหินที่ผุดโผล่เหนือน้ำ บางตัวมีลูกน้อยเกาะห้อยตรงหน้าอกใต้ท้อง ตัวลูกกวัดแกว่งเฉี่ยวพื้นน้ำน่าหวาดเสียว แต่ดูฝูงลิงไม่อนาทรหวั่นใจ มันข้ามน้ำอย่างเป็นระเบียบ มีหัวหน้าฝูงนำทาง ทยอยขึ้นทางฝั่งที่เรายืนมองห่าง ๆ หายลับเข้าไปในป่า

ทัพจ๋อยาตราข้ามน้ำเป็นแบบอย่างน่าพิศวงคาตา ธรรมชาติน่ารักทำผมหวนนึกถึงมหากาพย์ 'รามายณะ' ที่ไทยเรามาดัดแปลงเป็น "รามเกียรติ์" ในตอนหนุมานนำเหล่ายอดทหารเอกพระรามปฏิบัติการ "จองถนน" ขนหินทิ้งถมมหาสมุทร เนรมิตมหาคงคายิ่งใหญ่เป็นถนน ให้พระรามกรีฑาโยธาทัพตีกรุงลงกา...

***จะยกพหลพลไกร
ข้ามมหาสมุทรไทไพศาล
ไปทวีปลงกากรุงมาร
สังหารอสูรพาลา
ไม่มีสีวิกายานุมาศ
จะเสด็จด้วยบาทอนาถา
จำจะให้เอารถรัตนา
ไปถวายผ่านฟ้าทรงจร ฯลฯ

บอกลุงเฒ่ารอฝั่งนี้ ผมทำตัวเป็นหนูตะเภา ทดลองเส้นทางทัพลูกหลานหนุมาน เดินสวนทางไปฝั่งโน้น วางเท้าหินก้อนย่อมมือเกาะหินใหญ่ เดินสะดวกเกินคาดคิด แค่ระวังความลื่นเท่านั้น นับก้าวได้ 12 ก้าว สำหรับคนตัวสั้นอาจต้องก้าวมากกว่านี้สัก 5 - 6 ก้าว ข้ามฝั่งได้ไม่ยากหากน้ำรักษาระดับไว้แค่นี้ ไม่มีฝนกระหน่ำ

กลับมาหาลุงที่นั่งพิงก้อนหินใหญ่ริมฝั่ง พรานเฒ่ายิ้มแฉ่งชี้ที่ปลายเท้าตัวเอง...

"อาบน้ำสบาย...นายทหาร"

ลุงพรานเจอที่สรงสนานให้สาวงามกับชาวคณะพร้อมกับที่ข้ามน้ำ การค้างอ้างแรมริมแก่งเชี่ยวราตรีนี้ ดูท่าราบรื่นและรื่นรมย์ !

เรากลับมาแจ้งข่าวดีให้ทุกคนทราบ ชาวคณะโดยเฉพาะชาวกรุง "เฮ" กันถ้วนหน้า เป็นความสุขความโล่งใจที่ไร้อุปสรรค หลังการผจญอุปสรรคหลากหลายแทบตั้งตัวไม่ติด

เราถอยร่นจากฝั่งริมแก่งลึกไปกว่า 30 ก้าว ยึดชัยภูมิใต้ไม้ใหญ่ใบบัง สร้างแคมป์ชั่วคราว ก่อไฟกองใหญ่ กองย่อย ไม่ทำลายไม้ใหญ่น้อยรอบด้าน ไม่รบกวนเทพาอารักษ์ให้ขุ่นเคือง ขอเพียงคืนเดียวก็อำลา

ชาวคณะทยอยกันไปชำระสะสางเนื้อตัว อาจารย์เลิศเดินมาหาผมเป็นคนสุดท้าย...

" พา 'จารย์ไปที่อาบน้ำที น้องพราน"

ผมสบตาปลาดุกจอมขมังเวทย์ มันได้เวลาของการอยู่กับผมตามลำพังอีกครั้ง

หลังก้อนหินใหญ่ที่ลุงพรานค้นพบว่า ริมน้ำตรงนั้นเป็นแอ่งเว้าเข้ามา ให้น้ำวกขังแล้วไหลออกไป เหมือนได้ลงแช่อ่างน้ำวนน่าอัศจรรย์ อาจารย์เลิศขัดถูร่างกาย ปลดปล่อยความเหนื่อยศึกไสยเวทย์ยามค่ำคืนทิ้งไปกับวารีเย็นชื่น ผมยืนยามอยู่อีกฟาก ไอ้ห้านัดพาดในอ้อมแขนไม่ประมาท...

"สบายตัวจังน้องพราน ถ้าคืนนี้หลับสนิท พรุ่งนี้เดินรวดเดียวไหว"

จอมขมังเวทย์พูดยิ้ม ๆ เอามือจับต้นแขนผม ชี้ไปที่ใต้ต้นไม้ เราเดินไปนั่งเคียงกัน...

"อาจารย์พยายามติดต่อองค์อาจารย์ 'ทันตธาตุ' แต่เข้าไม่ถึงท่าน อาจเป็นเพราะเรายังอ่อนด้อย หรือกิเลสคนอย่างเรามากเกินไปก็ไม่รู้"...!?

ไม่ต้องมีการอารัมภบทเยิ่นเย้อ จอมขมังเวทย์เข้าเรื่องที่เป็นความลับระหว่างเราทันที!

"แต่...ไม่เป็นไรน้องพราน ตอนที่ 'จารย์นอนหลับสนิท กลับมีความฝันประหลาาด ในฝันนั้น มีเสียงพูดไม่เห็นตัวดังในจิตใต้สำนึก 'จารย์ว่า..."

ผมกลั้นหายใจ รู้สึกเหมือนใบไม้เหนือหัวหยุดกระดิกไม่พลิกพริ้วตามแรงลม...

"เสียงบอกว่า...ท่านไม่ข้องเกี่ยวกิเลสมนุษย์ เรื่องลิขิตดินฟ้ามิใช่กิจของท่าน แต่ถ้าอยากแก้ไขก็จงใช้สติปัญญา เรื่องนี้แค่เส้นผมบังภูเขา"!!!

*** เรื่องเล่า-นักขุดกรุฯ ทุกตอนมีลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ ห้ามนำเผยแพร่ ก็อปปี้ ลอกเลียน ดัดแปลงทำซ้ำทุกกรณีโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีตามกฏหมายสูงสุด ***

 

รับครับ

 

รับครับ

 

รับครับ

 

นิมนต์หลวงพ่อใหญ่ครับ

 

วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๕ ตรงกับวันอาทิตย์ แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๓ ปีฉลู
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ อนาคะเตกาเล