เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย The Third Eyes, 12 พฤศจิกายน 2008.

  1. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    เพิ่มเติมภาพครับ

    [​IMG]


    เตรียมเชิญ ญา่ณองค์พระพิฆเนศลงที่รูปปั้นหน้าบ้านจารชยา


    [​IMG]



    [​IMG]



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  2. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    ขั้นมาชั้นบนเพื่อขยายเรื่องอุึปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวให้กับจารชยาและผู้ที่สนใจ


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    กลุ่มเขากะลา เปิดแสกนกรรมและรักษาโรค



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]

     
  4. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
  5. CHAYA MARUTY

    CHAYA MARUTY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2007
    โพสต์:
    1,005
    ค่าพลัง:
    +10,787
    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ The Third Eyes [​IMG]
    ดูไปดู มา...งานนี้ กลายเป็นงาน รวม กลุ่มพลังจิต ที่ แรงและใหญ่ที่สุด
    เห็นจะต้องจัด งาน มินิพลังจิต ที่ โลกทิพย์ ครั้งที่ 6...ภายในปีนี้..เชื่อว่า จะมีนักพลังจิต มาร่วมงาน นับร้อยคน...มีการแข่ง ดัน กำลังภายใน แบบบู๊ลิ้ม อีกเช่นเคย
    ดูว่า ใครจะเทียบได้ เท่า กับ เอี๊ยะก้วย..และอื้งย้ง

    ชอบตุณอีกครั้งที่ ลุงเม้าท์ เอารูปเก็บตกมาลงให้ สมาชิกดู...ใครเป็นใครในวงการบู๊ลิ้ม เมืองไทย..อย่าง มังกรบูรพา /ดาวทะเลทราย/โคมฉาย/ เม้า-ตา-อิน-/ เทพบุตรชาวดิน
    วัน ออฟ เจได/ ...ฯลฯ
    .............................................................................................

    ถ้าจัดงานมินิฯ ครั้งที่ ๖ หากไม่ติดขัดอะไร กลุ่มพลัง เขากะลา คงได้ไปร่วมงานด้วย เพื่อเพิ่มเติม เสริมงานให้เป็นงานมหกรรมพลังจิตโลก ครั้งที่ ๑
    ไปเลยนะครับอาจารย์





    ..............ในที่่สุด อ. ก็เฉลยจนได้ว่า ชมรมคนตาทิพย์ กับ กลุ่มเขากะลา มาเจอกัน เพื่ออะไร ตามที่ผมได้สงสัยไว้ แต่ไม่ได้บอกเพราะไม่แน่ใจนัก แต่ก็เป็นการร่วมทำมหากุศลต่อไปในภายภาคหน้าเพืื่อมหาชนนั่นเอง ในการมีกิจกรรมต่อไป 2 กลุ่มก็คงใกล้ชิดกันมากขึ้น ทำความดีก็ทำไปเถอะครับ สมาชิกชมรมคนตาาทิพย์ ก็ราว ๆ 4-500 คน สมาชิกเขากะลาก็มากอะโข รวมพลังทำงาน ต้องได้งานที่ยิ่งใหญ่แน่ครับ
     
  6. ploy_manee

    ploy_manee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +1,229
    อย่างนี้ต้องเรียก x-men ประจัญบาน ........... อิอิ
     
  7. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    อาจารย์วิรุฬ กล่าวถึง กลุ่มเขากะลา กับมนุษย์ต่างดาว ว่า

    มนุษย์ต่างดาวเขากะลา ที่มาติดต่อสื่อสาร เพื่อช่วยเหลือมนุษย์โลก นั้น
    มีตัวเป็นสีทอง เป็นผู้มีภูมิธรรมสูง
    พลังงานของมนุษย์ต่างดาวเขากะลาเป็นพลังงานแบบเดียวกับพลังงานของพระศรีอาริยเมตไตรย์
    จึงมิต้องสงสัยเลยว่า ธรรมจากมนุษย์ต่างดาวเขากะลา ที่นำมาสอนกันนั้น
    เป็นธรรม ที่ไม่ได้แตกต่างไปจากธรรมของพระพุทธเจ้าเลย
    เป็นธรรม ที่มุ่งเน้นการหลุดพ้น โดยเฉพาะ ไม่ต้องมาเสียเวลาศึกษาเป็นขั้นเป็นตอน ให้เสียเวลาไปโดยใช่เหตุ


    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2010
  8. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    <HR class=hrcolor width="100%" SIZE=1>อาจารย์วิรุฬ กล่าวถึงอนาคต ของกลุ่มเขากะลาว่า
    ต่อไปกลุ่มเขากะลา จะเป็นกลุ่มที่ มีผู้คนให้ความสนใจกันมาก
    ปัจจุบัน เชื่อได้ว่า มีผู้สนใจไม่ต่ำกว่า ๑ ล้านคนแล้ว

    ดังนั้นจึงอยากให้ กลุ่มเขากะลา วางแนวทางการทำงาน
    มีการกำหนดรูปแบบให้เป็นแนวปฏิบัติเดียวกัน
    มีขั้นตอนของการทำงาน มีการเลือกผู้เข้ามาทำงาน
    และพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ามาศึกษา หรือร่วมงานกับกลุ่มเขากะลา

    มิฉะนั้นแล้ว งานในอนาคต อาจจะมีปัญหา เป็นเหตุให้ต้องยุติการดำเนินงานไป
    เหมือนกับกลุ่ม โยเร ที่เคยเข้ามาเฟื่องฟู ในอดีต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2010
  9. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,085
    อาจารย์วิรุฬ ได้แนะนำการฝึกใช้สมองซีกซ้ายและขวา ให้มีความเท่าเทียมกัน
    โดยหากระดาษขาวมาหนึ่งแผ่น
    หยิบปากกามาสองด้าม
    ด้ามหนึ่งอยู่มือซ้าย อีกด้ามหนึ่งอยู่มือขวา
    แล้วลงมือเขียนรูปสี่เหลี่ยม กับรูปวงกลม
    แล้วแต่จะใช้มือข้างไหนเขียนรูปอะไร
    ลงมือเขียนพร้อมๆกัน จนกว่าเส้นรูปวงกลม และสี่เหลี่ยม
    ในมือแต่ละข้าง จะราบรื่น สม่ำเสมอ ไม่ติดขัด

    วิธีนี้จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้กับสมองทั้งสองซีก

    เมื่อทำได้แล้ว การฝึกจินตนาการเห็นภาพก็จะเห็นได้ชัดเจนแม่นยำ จำได้
    เพื่อเป็นฐานในการฝึกพลังพิเศษ ต่อไป
     
  10. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    วันนี้มีเรื่องเล่าขออิงเหตุบ้านการเมืองหน่อยแล้วกันครับ

    คือด้วยเหตุบ้านการเมืองอย่างที่เรารับรู้มาว่าเป็นอย่างไร นั่นคือทางโลกอันไหนจริงอันไหนปลอม

    อันไหนสร้างข่าวอันไหนสร้างภาพ เราก็ไม่อาจทราบความจริง ถึงรู้ก็ไม่สามารถพูดได้

    เข้าเรื่องแล้วกันพูดในแนวปาฏิหารแล้วกันครับ ทั้งสองสามฝ่ายนี้เค้าไม่ใช่มาทะเลาะกันครั้งนี้เป็นครั้งแรก

    รบกันมาหลายคร้ังแล้วผลัดกันแพ้กันชนะ บนพื้นดินไทยมาหลายภพหลายชาติแล้ว เราก็เคยเกิดมาอยู่ร่วมรบกะเค้าเหล่านั้น

    ดังที่เห็นว่าเรานั้นชอบฝ่ายหนึ่งฝ่ายในเหลือเกิน โดยที่คนบางคนเราไม่คิดว่าจะอยู่ข้านั้นแต่อยู่

    นั่นเป็นจริตเก่าที่ตามมา ก็ไม่ได้ว่าใครถูกใครผิด แต่อยากเตื่อนผู้ที่อยากจะปฏิบัติธรรมว่า เรานั้นต้องการอะไร

    ไปนิพานหรือไปสวรรค์ไปในภพภูมิที่ดีขึ้นใช่ไหม ถ้ายังยึดติดยังค่องแว้งกับคนเหล่านี้อยู่ก็บอกได้คำเดียวว่า

    ท่านก็คงไปดังที่หวังไว้ไม่ได้ ผมเองก็เคยพูดกับคนรู้จักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เค้าก็พูดตามภาษาว่าเราเห็นแก่ตัวหรือ ไม่ห่วงประเทศชาติหรือไง

    เราก็บอกไปว่าประเทศไทยไม่ได้เกิดเหตุการนี้ครั้งแรก และก็เคยผ่านเหตุการเหล่านี้มาแล้วแม้กระทั่ง

    ประเทศนี้ก็เคยเสียกรุงมาแล้วก็ยังผ่านมาได้ ครั้งนี้ก็ไม่ได้ร้ายแรงเท่าครั้งนั้นสะเมื่อไร

    แล้วเราเกิดมาคนเดียวตายคนเดียวถ้าไม่ยกจิตให้หลดจากวัฒะนี้ก็คงมาร่วมในอาจมเช่นเดิมอีก

    ดังครั้นพุทธการมีเปรตตนหนึ่งอยู่ในนรกภูมิโดนจักรปั่นหัวตลอดเวลาได้ความทุกทรมาณเช่นนี้ทุกวัน

    เมื่อได้ข่าวว่าพระพุทธโคดมได้เดินทางมาโปรดยังเมืองนรกก็เกิดจิตรเลื่อมใสที่จะไปนมัสการ

    ก็เลยขอนายนิริยบาลไปถวายนมัสการแต่นายนิริยบาลก็บอกไว้ว่าเนื่องจากท่านทำผิดต้องชดใช้

    ไม่มีผู้ใดที่ต้องทนทุกข์โดนจักรปันหัวแทนท่าน ถ้าท่านสามารถหาใครมารับการโดนจักรปัั่นศรีษะแทนท่าน

    ในขนะที่ท่านไปหาองค์พระโพธิญานได้ก็จะอนุญาติให้ไป เปรตตนนี้ก็ได้ไปขอร้องเพื่อนเปรตด้วยกัน

    ที่ร่วมกันทำความชั่วจนต้องตกนรกมาในขุมนี้ด้วยกันว่า ท่านยอมรับจักรนี้แทนข้าพเจ้าเพียงช่วเพลาเดียว

    เดี๋ยวข้าพเจ้าจะมารับโทษดังเดิม เดิมทีทั้งคู่นี้เป็นเพื่อนรักกันในชาติก่อนเกิดเป็นบ่าวไพรในบ้านมหาเศรฐี

    พระพุทธองค์ในสมัยนั้นเสวยชาติเป็นพระโพธิสัตว์ เดินรับบินฑบาตร ท่านมหาเศษฐีมีจิตเลื่อมใสอยากที่จะใส่บาตร

    จึงปรุงเครื่องหอมลนบาตรแล้วนำข้าวมธุปายาสใส่ในบาตรแล้วก็ได้เรียกบ่า่วทั้งสองให้นำไปถวาย

    ส่วนบ่าวทั้งคู่เป็นคนขี้เกียจไม่ยอมทำมางานทำการมาอู้นอนอยู่แต่เมื่อถูกท่านเศรฐีใช้ไปก็งวเงียนำไป

    แต่ในระหว่างทางเกิดหิวประกอบด้วยอาหารนั้นมีกลิ้นหอมหวรน่าทานจึงปรึกษากัน

    และขโมยทานกันจนอิ่มหนำสำราญ เสร็จแล้ว ภายหลังจึงเกิดความสำนึกผิด และตรอมใจตายในที่สุด

    เมื่อตายแล้วบ่าวทั้งสองต้องไปเสวยชาติเป็นสุนัขอดอยาก อยู่ถึงสามชาตก่อนที่จะมาอยู่ในนรกนี้

    ครันพุทธองค์ทรงบรรลุมัคผล ทรงต้องการโปรดสัตว์บ่าวคนหนึ่งซึงในชาติปัจุบันเป็นเปรต

    ทราบข่าวว่าพระองค์จะดำเนินทางผ่านมาจึงเกิดจิตที่อยากไปนมัสการ ก็ไปขอร้องเพื่อนเปรตด้วยกัน

    แต่ก็ไม่มีผู้ใดรับอาสาเอาจักรนั้นไป จึงมิอาจไปพบพระพุทธองค์ได้ ทั้งที่ บางคน บางครั้งเป็นเพื่อนรักกันผ่านอะไรกันมา

    เมื่อถึงคราเคราะก็ไม่อาจช่วยกันได้เนื่องจากบุญนั้นกรรมนั้นผู้กระทำย่อมเป็นผู้ได้แต่เพียงผู้นั้นเอง

    ชีวิตนี้กายนี้เราจักเพียงยืมเขามาใช้เพียงตัวเราคนเดียว อย่ายึดติดในของปรุงแต่งเลย

    ถ้าท่านต้องการไปจากวัฏฏะนี้ เพราะเราเกิดผู้เดียว ตายก็เพียงผู้เดียว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2010
  11. Nok Nok

    Nok Nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +3,297
    สาธุค่ะ ^_^

    [​IMG]สาธุค่ะ ^_^ [​IMG]
     
  12. Nok Nok

    Nok Nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +3,297
    ใจเยือกเย็น ^_^

    [​IMG]
     
  13. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    อืม! กรรมอดีต กรรมปัจจุบัน ก่อแล้วต้องมีผู้รับ

    อาจผลัดได้บ้าง แต่ก็หนีผลไม่พ้น คงเหลือแต่ความเพียร

    พระเรียกอัตตาหิ อัตตะโนนาโถ แต่วัยรุ่นเรียก ตัวใครตัวมัน


    เอ! แต่เห็นพระบอกว่า ต้องมีเมตตา ช่วยเหลือซึ่งกัน

    พอได้ช่วยแล้วเสร็จ ก็คงเข้าหลัก ตามกรรมที่เขาเป็น


    แล้วคนช่วยผู้เปี่ยมเมตตา ย่อมได้ผลบุญสนองตอบ แหง

    แต่ไอ้ตัวนายเวร นายกรรม เขาจะโกรธจะยอม เราไหมหนอ


    น่าคิด น่าคิด...ทั้งคนวางอุเบกขา กับคนอยากช่วย

    ก็คงถูกกรรมกำหนด มาเช่นเดียวกัน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 เมษายน 2010
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ยืนยันว่าไม่ใช่ ผิดความหมาย

    ที่ถูกควรเป้น "โถใครโถมัน" (อัตตาหิอัตโนนาโถ)
     
  15. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407

    แก้ไขข้อความใหม่ ไปแล้วครับจารย์ เขียนเอง งงเอง เหมือนกันแฮะ
     
  16. ณรงค์ฤทธิ์1976

    ณรงค์ฤทธิ์1976 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +318


    อนุโมทนาสาธุครับ...
     
  17. The Third Eyes

    The Third Eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    2,790
    ค่าพลัง:
    +51,007
    ตกลงว่า การไป พระราชวัง นารายณ์นิเวศ และ เมืองศรีเทพ จะเป็น วันที่ 16 เมษายน 2553
    รถแแกจาก บู๊ธ 042 ...เวลา6.30 น....เจออะไร ก็ คงต้องมาเล่า ในกระทู้นี้ เอง
    คอยตามอ่านตามดู..ตามอัธยาศัย
    ................................................................................................
     
  18. Nok Nok

    Nok Nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +3,297
    อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ^_^

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=top>อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ (อำเภอศรีเทพ) , เพชรบูรณ์





    </TD></TR><TR><TD height=357 vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left><TBODY><TR><TD height=24 vAlign=top width="100%" align=left><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" height=259><TBODY><TR><TD height=225 vAlign=top width="100%" align=left><CENTER><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber1 border=0 cellSpacing=1 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="97%"><TBODY><TR><TD width="50%">เมืองเก่าศรีเทพ เดิมชื่อ "เมืองอภัยสาลี" ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น" เมืองศรีเทพ" เป็นเมืองที่สร้างขึ้นในยุคของขอมเรืองอำนาจ ซึ่งคาดว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 1,000 ปี เมืองศรีเทพ เป็นเมืองที่มีคูน้ำและคันดินล้อมรอบ มีเนื้อที่ประมาณ 2,889 ไร่ หรือ 4.7 ตรกม.. ภายในตัวเมืองศรีเทพแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ เมืองส่วนใน มีลักษณะเป็นรูปเกือบกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 กม. มีช่องทางเข้าออก 8 ช่องทาง พื้นที่ภายในเป็นที่ราบลอนคลื่น มีสระน้ำและหนองน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และมีโบราณสถานที่ขุดแต่งแล้ว และยังไม่ได้ขุดแต่งประมาณ 70 แห่ง เมืองส่วนนอก มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าต่อกับเมืองส่วนใน มีขนาดเป็น 2 เท่าของเมืองส่วนใน มีช่องทางเข้าออก 7 ช่องทาง มีสระน้ำกระจายอยู่ทั่วไป และมีโบราณสถานกระจายอยู่แบบเดียวกับเมืองส่วนใน</B>
    </B>











    </TD><TD width="50%"><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber11 border=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="50%"><TBODY><TR><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD><TD height=9 background=../../../../../images/bg/shadow_s_t.gif>[​IMG]</TD><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_l.gif width=10></TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_r.gif width=10></TD></TR><TR><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD><TD height=10 background=../../../../../images/bg/shadow_s_b.gif>[​IMG]</TD><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></B>








    <CENTER><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber2 border=0 cellSpacing=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="95%" height=57><TBODY><TR><TD height=19 width="50%"><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber12 border=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="50%"><TBODY><TR><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD><TD height=9 background=../../../../../images/bg/shadow_s_t.gif>[​IMG]</TD><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_l.gif width=10></TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_r.gif width=10></TD></TR><TR><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD><TD height=10 background=../../../../../images/bg/shadow_s_b.gif>[​IMG]</TD><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD height=19 width="50%"><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber13 border=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="50%"><TBODY><TR><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD><TD height=9 background=../../../../../images/bg/shadow_s_t.gif>[​IMG]</TD><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_l.gif width=10></TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_r.gif width=10></TD></TR><TR><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD><TD height=10 background=../../../../../images/bg/shadow_s_b.gif>[​IMG]</TD><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=19 width="50%"><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber14 border=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="50%"><TBODY><TR><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD><TD height=9 background=../../../../../images/bg/shadow_s_t.gif>[​IMG]</TD><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_l.gif width=10></TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_r.gif width=10></TD></TR><TR><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD><TD height=10 background=../../../../../images/bg/shadow_s_b.gif>[​IMG]</TD><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD height=19 width="50%"><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" id=AutoNumber15 border=0 borderColor=#111111 cellPadding=0 width="50%"><TBODY><TR><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD><TD height=9 background=../../../../../images/bg/shadow_s_t.gif>[​IMG]</TD><TD height=9 width=10>[​IMG]</TD></TR><TR><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_l.gif width=10></TD><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD><TD background=../../../../../images/bg/shadow_s_r.gif width=10></TD></TR><TR><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD><TD height=10 background=../../../../../images/bg/shadow_s_b.gif>[​IMG]</TD><TD height=10 width=10>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    โบราณสถานและสถานที่สำคัญในอุทยานฯ ได้แก่






    </CENTER>



    </TD></TR><TR><TD height=22 width="100%"><CENTER><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="90%">
    ศาลเจ้าพ่อศรีเทพ </B>​


    อยู่ห่างจากประตูทางเข้าเล็กน้อยทางด้านขวามือ ศาลเจ้าพ่อศรีเทพไม่ใช่โบราณสถาน แต่เป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านทั่วไป โดยทุกปีจะมีงานบวงสรวง ในราวเดือนกุมภาพันธ์(ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3)

    ปรางค์ศรีเทพ
    เป็นสถาปัตยกรรมแบบศิลปะเขมรหันหน้าไปทางทิศตะวันตก ลักษณะของปรางค์สร้างด้วยอิฐและศิลาแลง ฐานล่างก่อด้วยศิลาแลงเป็นฐานบัวลูกฟัก แบบเดียวกับสถาปัตยกรรมเขมรทั่วๆ ไป เรือนธาตุก่อด้วยอิฐ ในการขุดค้นบริเวณนี้พบชิ้นส่วนทับหลังรูปลายสลักราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ซึ่งน่าจะเป็นการสร้างเพิ่มหลังจากโบราณสถานเขาคลังใน ต่อมาประมาณพุทธศตวรรษที่ 18 มีการพยายามจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงใหม่แต่ไม่สำเร็จ โดยได้พบชิ้นส่วนทิ้งกระจัดกระจาย

    โบราณสถานอื่นๆ
    นอกจากโบราณสถานหลักแล้วยังมีโบราณสถานย่อยๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป เช่น ทิศใต้ของเขาคลังใน พบโบสถ์ก่อด้วยศิลาแลง พบใบเสมาหินบริเวณใกล้หลุมขุดค้น และพบโบราณสถานรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสสมัยทวารวดี ซึ่งได้มีการก่อสร้างทับในระยะที่รับเอาศาสนาพราหมณ์เข้ามา จึงเห็นได้ว่าบริเวณเมืองชั้นในเดิมน่าจะเป็นเมืองแบบทวารวดีและมีการสร้างสถาปัตยกรรมเขมรในระยะหลังเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ทางทิศใต้ยังพบอาคารมณฑปแบบทวารวดีขนาดใหญ่ และมีการพยายามเปลี่ยนแปลงให้เป็นเทวาลัยประมาณต้นศตวรรษที่ 18 แต่ไม่สำเร็จ เช่นเดียวกับปรางค์ศรีเทพ

    สระแก้วสระขวัญ
    สระแก้วจะอยู่นอกเมืองไปทิศเหนือ ส่วนสระขวัญจะอยู่ในบริเวณเมืองส่วนนอก สระน้ำทั้งสองสระนี้มีน้ำขังตลอดปี และเชื่อกันว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ มีการนำน้ำทั้งสองสระนี้ไปทำน้ำพิพัฒน์สัตยา ตั้งแต่สมัยโบราณมาจนถึงปัจจุบัน


    โบราณสถานเขาคลังใน
    เชื่อกันว่าเป็นที่เก็บอาวุธและทรัพย์สมบัติต่างๆ จึงเรียกว่า "เขาคลัง" การก่อสร้างประมาณพุทธศตวรรษที่ 12-13 ผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุหลักในการก่อสร้าง ที่ฐานมีรูปปูนปั้นบุคคล และสัตว์ประดับเป็นศิลปะแบบทวารวดีมีลักษณะศิลปะแบบเดียวกับที่พบที่เมืองคูบัว โบราณสถานบ้านโคกไม้เดน จังหวัดนครสวรรค์ และวัดนครโกษา จังหวัดลพบุรี จะเห็นว่าเขาคลังในตั้งอยู่เกือบกลางเมือง ลักษณะทางผังเมืองจะคล้ายกับเมืองทวารวดีอื่นๆ เช่นนครปฐมโบราณเมืองคูบัว ราชบุรี และจากรายละเอียดปูนปั้นบุคคลหรือลวดลาย แบบเดียวกับที่พบที่เมืองคูคล้าย


    ปรางค์สองพี่น้อง
    ลักษณะเป็นปรางค์ 2 องค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่ หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเช่นเดียวกับปรางค์ศรีเทพ มีประตูทางเข้าทางเดียวและจากการขุดแต่งทางโบราณคดี พบทับหลังที่มีจำหลักเป็นรูปพระอิศวรอุ้มนางปารพตี ประทับนั่งอยู่เหนือโคอศุภราช ซึ่งลักษณะของทับหลังและเสาประดับกรอบประตูเป็นสิ่งกำหนดอายุของปรางค์ ซึ่งอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 เป็นศิลปะขอมแบบบาปวนต่อนครวัด และได้มีการสร้างปรางค์องค์เล็กเพิ่ม โดยพบร่องรอยการสร้างทับกำแพงแก้วที่ล้อมรอบปรางค์องค์ใหญ่ ซึ่งอยู่ใต้ปรางค์องค์เล็ก และยังมีการก่อปิดทางขึ้นโดยเสริมทางด้านหน้าให้ยื่นออกมา และก่อสร้างอาคารขนาดเล็กทางทิศเหนือเพิ่มขึ้น

    นอกจากนี้ระหว่างองค์ปรางค์ทั้งสองแห่งคือปรางค์สองพี่น้อง และปรางค์ศรีเทพจะมีกำแพงล้อมรอบ และมีอาคารปะรำพิธีขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป แสดงให้เห็นถึงลักษณะการวางผัง ในรูปของศาสนสถานศิลปะเขมรแบบเดียวกับที่พบในภาคอีสานของประเทศไทย

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD width="100%">
    อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.30-17.00 น. ค่าเข้าชม คนไทย 10 บาท ชาวต่างประเทศ 30 บาท สำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะและต้องการติดต่อวิทยากรบรรยาย ติดต่อโดยตรงได้ที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67170 โทร. (056) 799466

    การเดินทาง เมืองศรีเทพอยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ประมาณ 130 กม. ตามทางหลวงหมายเลข 21 (สระบุรี-หล่มสัก) ถึงหลักกม.ที่ 102 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 2211ไปอีกประมาณ 9 กม. จะเห็นป้ายบอกทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพอยู่ด้านขวามือ





















    </TD></TR></TBODY></TABLE></B></B>​
























    </TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER></B>















    </TD></TR></TBODY></TABLE></B>











    </TD></TR></TBODY></TABLE>










    </TD></TR></TBODY></TABLE></B></B>
















    </TD></TR><TR><TD height=357 vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left><TBODY><TR><TD height=24 vAlign=top width="100%" align=left>คอยติดตามอ่าน...ความรู้พิเศษ สุดๆๆๆๆ จากท่านอาจารย์สามตา และคณะ อยู่เจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ^_^










    </TD></TR></TBODY></TABLE>













    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2010
  19. maoleethong

    maoleethong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +731
    ติดตามอ่านมาจนครบทุกหน้าแ้ล้วครับ
    197 หน้า (วันที่ 9 เม.ย.53)
    ขอขอบคุณท่าน อ.สามตา และผู้โพสทุก ๆ ท่านครับ
    และขอติดตามอย่างต่อเนื่องตลอดไปครับ
    ---------------------------------
    โชคดีมีสุข สนุกรับวันสงกรานต์ ทุก ๆ ท่านครับพ้ม.
     
  20. ฐาปานีย์

    ฐาปานีย์ ปลูกด้วยรัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +400
    ขอให้เดินทางไป-กลับโดยสวัสดิภาพทุกท่านนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...