เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    "โกฮับโกลด์" ทาวน์อินทาวน์ เด่นรส เมนูจากเส้น
    -http://www.dailynews.co.th/article/381/164323-
    วันเสาร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา 00:00 น.
    ซุปเปอร์เนื้อตุ๋น

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    KumPoon - YouTube

    -http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=64ImB1CG8dM-


    อาหารจานเส้น อย่างก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารจานเดียว สั่งง่าย ทานง่าย ที่นักชิมส่วนใหญ่รักและชอบทานอาหารประเภทนี้ เพราะทานได้ตลอดเวลา ทุกโอกาส สัปดาห์นี้ขอชวนนักชิมที่ชอบบรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวขึ้นห้าง มีแอร์เย็นฉ่ำ ไปลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู รวมทั้งจานเดียว ที่ร้าน โกฮับโกลด์ ชั้น 2 โครงการ เดอะ ซีน ย่านทาวน์อินทาวน์ ดูสักครา

    ร้านโกฮับโกลด์ เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ใหญ่มาก ทว่าบรรยากาศอบอุ่น มีกลุ่มนักชิมผู้ชื่นชอบการทานก๋วยเตี๋ยวแวะเวียนมาลิ้มรสกันอยู่เนือง ๆ แม้เมนูอาหารไม่ได้มากมายหลายประเภท แต่ ก๋วยเตี๋ยว เป็นเมนูหลักเมนูเด่น แม่พลอยพลิกดูเมนู ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ มีเส้นให้เลือกทั้ง เส้นบะหมี่สำเร็จรูป ที่เขียนว่า “เส้นไวไว” บะหมี่ บะหมี่หยก เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และวุ้นเส้น ให้เลือก มาปรุงรสชาติเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น–ลูกชิ้น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมู ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น

    แม่พลอยเลือกทาน เส้นไวไวแห้งใส่หมูตุ๋นและลูกชิ้นหมู ความเด่นอยู่ที่หมูตุ๋นนุ่มเปื่อย และลูกชิ้นหมูนุ่มหนึบอร่อย ถ้าไม่ชอบเส้นอยากทานเกาเหลากับข้าวสวยร้อน ๆ ลองสั่ง เกาเหลาลูกชิ้นหมู หรือเกาเหลาหมูตุ๋น–ลูกชิ้นหมู มาลองดูก็ได้ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ค่อนไปทางหวานนำ หากไม่ชอบรสนี้ ลองเติมเครื่องปรุงลงไปอย่างละนิดละหน่อยตามส่วนที่ต้องการ ทุกอย่างก็จะลงตัวกำลังดี

    หากชอบทานเนื้อต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น หรือ เกาเหลาเนื้อตุ๋นกับลูกชิ้นเนื้อ มาทานได้เลย อย่ารอช้า รับรองไม่มีผิดหวังในรสชาติ ถ้าจะให้ออกรสชาติเข้มข้นเผ็ดขึ้นมาหน่อย ต้องลองสั่งซูเปอร์เนื้อตุ๋น มีเนื้อน่องลาย และลูกชิ้นเนื้ออร่อย ๆ อยู่ในหม้อไฟร้อน ๆ พร้อมกับน้ำซุปรสกำลังดีชนิดไม่ต้องปรุงเพิ่มไว้ให้ซดได้คล่องคอ

    ถ้าชอบเมนูยำยำ แนะนำ ยำลูกชิ้นหมู หรือ ยำลูกชิ้นเนื้อ รสเด่นอยู่ที่น้ำยำซึมแทรกเข้าเนื้อลูกชิ้น รสชาติไม่ได้เผ็ดมาก แถมมีกระเทียมโทนลูกเล็ก ๆ คลุกเคล้ารสมาให้ด้วยเวลาเคี้ยวรสชาติออกหวาน รู้สึกที่ปลายลิ้น ส่วนเมนูสะเต๊ะ มีทั้ง หมูสะเต๊ะใบเตย และ สะเต๊ะเนื้อ ทานกับอาจาดและน้ำจิ้ม รสชาติใช้ได้ ถ้าอยากทานอาหารจานเดียวประเภทข้าว ร้านนี้มี ข้าวคลุกกะปิ ที่ใส่มีหอมเจียวคลุกมาในข้าว พร้อมเครื่องเคียง มะม่วงซอย ถั่วฝักยาว ไข่เจียวฝอย หมูหวาน มะนาว เวลาทานต้องคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันรสชาติจึงจะลงตัว

    ส่งท้ายมื้ออาหารจานเดียวที่ร้าน โกฮับโกลด์ ด้วยเมนูของหวาน ที่มีทั้ง เฉาก๊วย ลอดช่อง และ กล้วยบวชชี มีมะพร้าวอ่อนและงาขาววางเป็นท็อปปิ้งด้านบน รสเด่นอยู่ที่ความหอมของงาและความนุ่มหอมของมะพร้าวอ่อนเข้ากัน และน้ำกะทิรสไม่หวานมาก

    นึกอยากทานอาหารจานเส้นแบบเบา ๆ บรรยากาศสบาย ในแบบฉบับ โกฮับโกลด์ บนชั้น 2โครงการ เดอะ ซีน ย่านทาวน์อินทาวน์ ลองแวะเวียนไปดู ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.สนใจสอบถามได้ที่ 0-2108-5863 สำหรับแฟนคอลัมน์เดลินิวส์ชวนชิม หากระบุว่า ทราบรายละเอียดของร้านจาก คอลัมน์เดลินิวส์ ชวนชิม ทางร้านยินดีลดราคา เฉพาะค่าอาหาร ให้ 10 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 2 อาทิตย์.

    เรื่อง แม่พลอย / สุพัตรา เมตะศิริ ภาพ

    http://www.dailynews.co.th/article/381/164323
    .
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ยกระดับอาหารพื้นบ้านดึงนักเที่ยวเยือนพนมสารคาม
    -http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9550000133772-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    2 พฤศจิกายน 2555 08:31 น.

    [​IMG]
    นางประยูร นาวา เจ้าของร้าน

    ถ้าพูดถึง ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ก็คงต้องนึกถึงอำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เพราะเป็นต้นกำเนิดของก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อเป็นการนำ ปากหม้อ มาทำเป็นก๋วยเตี๋ยว จุดเด่นอยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมู ซึ่งไม่รู้เหมือนกันว่าเขาต้มกันอย่างไร แต่มันสามารถปรุงรสได้อย่างกลมกล่อม จนใครหลายคนที่มาชิมก็ต้องติดใจกับน้ำซุปที่ไปด้วยกันได้ดีกับปากหม้อ

    [​IMG]
    ปากหม้อใส่ลงในน้ำซุปรับประทานได้เลย
    แม้ว่าก๋วยเตี๋ยวปากหม้อจะถือกำเนิดมานานหลายสิบปี ไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่านานขนาดไหน ซึ่งรายแรกเป็นของเจ๊ติ๋มก๋วยเตี๋ยวปากหม้อก็ยังคงเปิดให้บริการอยู่ และยังมีอีกหลายสิบรายที่เปิดขายอยู่ในขณะนี้ มีทั้งรอบเช้า บ่าย และค่ำ เรียกได้ว่ามาเวลาไหนก็จะได้กินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อของอำเภอพนมสารคาม ได้ทุกเวลา แล้วแต่ว่าคนไหนชอบสูตรไหนเวลาไหนก็เลือกกินกัน

    สำหรับร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อที่ถือว่าได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักกันดีก็ต้องเป็นรายนี้ “ปากหม้อ เจ๊ยูร” ตั้งอยู่ในตลาดพนมสารคาม ถนนเทศบาล 8 ของ “นางประยูร นาวา” หรือ “เจ๊ยูร” จุดขายของเจ๊ยูรอยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมู ไก่ ซึ่งมีรสชาติกลมกล่อม ต้มกระดูกหมูจนได้น้ำซุปที่ใส และมีรสหวานน้ำต้มกระดูก เรียกได้ว่าเป็นเคล็ดลับของแต่ละรายที่จะนำมาประชันขันแข่งกันว่าใครจะทำน้ำซุปออกมาได้รสชาติที่อร่อยกว่ากัน

    [​IMG]
    ไส้ทั้ง 5 แบบ
    เจ๊ยูรบอกกับเราว่า ได้เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวปากหม้อมานานกว่า 21 ปี ได้รับการถ่ายทอดมาจากแม่สามี โดยไส้ของปากหม้อมีอยู่ด้วยกัน 6 ไส้ ได้แก่ เต้าหู้ กุยช่าย ถั่วฝักยาว หน่อไม้ ถั่วงอก และไส้หวาน ไส้หวานจะเหมือนกับไส้หวานของข้าวเกรียบปากหม้อ ส่วนของน้ำซุป ประกอบไปด้วย ขาไก่ ชิ้นละ 5 บาท เลือด 3 ชิ้น 10 บาท และลูกชิ้น 4 ลูก 10 บาท ส่วนกระดูกหมูชิ้นละ 5 บาทเช่นกัน และในส่วนของปากหม้อจะทำเสิร์ฟกันร้อนๆ ในราคา 6 ชิ้น 10 บาท

    [​IMG]
    น้ำซุปไก่
    สำหรับการกินก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ลูกค้าประจำจะรู้กันดีว่าจะทำอย่างไร แต่พอเป็นหน้าใหม่ก็คงต้องอาศัยดูจากคนที่กินอยู่เดิมก่อน เมื่อลูกค้าได้น้ำซุป และปรุงตามชอบแล้วก็จะไปนั่งล้อมใกล้แม่ค้า เพื่อแม่ค้าจะได้ปรุงปากหม้อร้อนทีละตัว ตักปากหม้อใส่ชามน้ำซุปของแต่ละคนซึ่งต้องอาศัยความชำนาญมาก เพราะแม่ค้าจะทำปากหม้อออกมาได้แผ่นบาง และทำอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ทันกับลูกค้าที่มานั่งล้อมวงรอกินกันเป็นจำนวนมาก และด้วยพื้นที่มีน้อย มีความจำเป็นจะต้องกินเป็นรอบๆ วนกัน กินได้ครั้งละ 6 ตัว และวนให้คนอื่นมากินต่อ แต่ถ้าลูกค้าน้อยก็กินได้เต็มที่

    เจ๊ยูรเล่าว่า ปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวปากหม้อได้กลายเป็นของดี ของเด่นของพนมสารคามไปเสียแล้ว จากการบอกกันแบบปากต่อปาก ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนนอกพื้นที่ โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เดินทางไปกินกันเป็นจำนวนมาก ในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งในวันธรรมดาก็จะมีคนจากที่อื่นๆ เดินทางมาแวะกินเช่นกัน และยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเที่ยวตลาดโรงเกลือ และแวะมากินเช่นกัน โดยยอดขายต่อวันอยู่ที่ 2,000-3,000 ตัว โดยทางร้านจะเปิดขายตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนกว่าของจะหมด ซึ่งประมาณไม่เกินบ่าย 2 โมง

    [​IMG]
    บางวัน ลูกสาวคนเก่งก็มาขายเอง
    ทั้งนี้ จากการที่ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงประมาณ 4-5 ปีที่ผ่านมา ทำให้มีร้านเปิดขายเฉพาะในตลาดพนมสารคามมากกว่า 10 ร้าน มีทั้งเปิดขายกลางวัน และกลางคืน เรียกได้ว่ามาเวลาไหนก็จะได้กิน แต่ตอนเย็นจะเปิดมากกว่าตอนเช้าเพราะเป็นอาหารร้อนคนนิยมกินตอนเย็นมากกว่า โดยเฉพาะช่วงอากาศเย็นจะยิ่งขายดี ซึ่งปัจจุบัน ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อยังมีขายเฉพาะในพื้นที่ของจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยส่วนใหญ่จะเปิดที่พนมสารคาม จะมีที่เปิดเพิ่มขึ้นมาอีกแห่งหนึ่ง คือที่ตลาดเก่า บ้านใหม่ อีก 1 แห่ง ชื่อร้าน จุกดี จุดขายของร้านนี้ คือมีไส้ให้เลือกจำนวนมากถึง 14 ไส้ เป็นการดัดแปลงสูตรเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ให้ลูกค้า แต่ถ้าเป็นที่พนมสารคามมีเพียง 6 ไส้พื้นฐานเหมือนกันทุกร้าน

    โทร. 08-6833-4237


    -http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9550000133772-

    SMEs - Manager Online - ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อ ยกระดับอาหารพื้นบ้านดึงนักเที่ยวเยือนพนมสารคาม
    .
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “เตี๋ยวเทพ” ก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ รสเทพถึงใจ
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134112-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    4 พฤศจิกายน 2555 10:26 น.


    [​IMG]

    บรรยากาศด้านหน้าร้าน

    สมัยนี้ถ้าพูดถึงอะไรด้วยคำจำกัดความว่า “เทพ” นั่นก็แปลได้เลยว่า ต้องเป็นของสุดยอด เป็นคนเก่ง หรือเป็นของเด่นของดีของดัง อะไรทำนองนั้น และเมื่อมาใช้กับอาหารแล้วบอกว่าเป็นรสเทพนั้น ก็หมายความว่าต้องเป็นอาหารที่มีรสชาติเยี่ยมยอดแน่ๆ

    “ผ่านมาแวะกิน” มาเที่ยวแถวๆ แจ้งวัฒนะ ขับรถผ่านมาแล้วเห็นป้ายชื่อ “เตี๋ยวเทพ” ก็เลยเกิดอาการอยากลิ้มลองว่าก๋วยเตี๋ยวของร้านนี้จะเทพสมชื่อหรือเปล่า แบบนี้ก็ต้องเดินเข้าร้านไปลองสั่งมาชิม

    [​IMG]

    ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ
    เห็นว่าร้านนี้เปิดมากว่า 5 ปีแล้ว และเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำสูตรโบราณ ที่เป็นน้ำขลุกขลิกก็เพราะสูตรดั้งเดิมที่ขายในเรือสมัยก่อน ถ้าใส่น้ำเยอะไป เดี๋ยวน้ำก็จะหกหมดเสียก่อน พอนำสูตรมาขายที่ร้านก็ยังคงเป็นน้ำขลุกขลิกเหมือนเดิม

    ทีนี้ก็มาลองชิม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ (30 บาท พิเศษ 35 บาท) ที่มีทั้งน้ำขลุกขลิก และแบบแห้งที่ทางร้านจะเสิร์ฟน้ำซุปมาให้ซดกันด้วย เรื่องเส้นก็มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ และวุ้นเส้น น้ำซุปที่ใช้มาจากการต้มกระดูกหมูล้วนๆ ผสมกับหางหมูเพื่อให้ได้ความเข้มข้น เครื่องที่ใส่มาในชามมีทั้งหมูชิ้นหมักลวกสุก ตับหมู ไส้หมู เลือดหมู ใส่ถั่วฝักยาว กุ้งแห้ง ปรุงรสแบบต้มยำใส่ถั่วลิสงคั่ว โรยหน้าด้วยเกี๊ยวทอด ลองชิมแต่น้ำซุปก็จัดจ้านเปรี้ยวเค็มเผ็ด เนื้อหมูนุ่ม เครื่องในไม่คาว เกี๊ยวก็กรอบเข้ากันดี

    [​IMG]

    กระเพาะปลาผัดแห้ง
    นอกจากก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยเทพแล้ว ที่ร้านนี้ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้ชิมอีกด้วย อย่างเช่น กระเพาะปลาผัดแห้ง (50 บาท) ที่มากันแบบเต็มคำ ใส่มาทั้งกระเพาะปลาแท้ๆ กุ้งสด ปลาหมึกสด ผัดในสไตล์จีนประยุกต์ให้ได้รสเข้มข้น ใส่ไข่ไก่ ถั่วงอก และกะหล่ำปลี กินคู่กับจิ๊กโฉ่ว ตัดขึ้นมาชิมคำแรกได้กลิ่นหอมของไข่ ได้ความนุ่มของกระเพาะปลา ผักก็กรอบหวาน เข้ากับจิ๊กโฉ่วที่ออกเปรี้ยวเค็ม

    ส่วน สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด (50 บาท) จานนี้ก็อร่อยไม่แพ้ใคร ใช้เส้นสปาเก็ตตี้ลวกสุก ผัดกับซอสมะเขือเทศปรุงรส ใส่กุ้ง ปลาหมึก หอยลาย หอยแมลงภู่ เห็ดหอม แถมพริกแห้งและพริกไทยอ่อนเพิ่มความจัดจ้าน ยกมาเสิร์ฟร้อนๆ ตักขึ้นชิมก็จะได้ความเข้มข้นของรสชาติ ออกหวานเล็กน้อยแต่ไม่เลี่ยน

    [​IMG]

    สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด

    ตบท้ายเมนูอิ่มท้องด้วย ผัดหมี่ฮ่องกง (35 บาท) ใช้เส้นหมี่ซั่วลวกสุกแล้วนำมาผัดใส่กะหล่ำปลี แครอท กุ้ง ไก่ ปลาหมึก ผัดแบบแห้งๆ แล้วโรยด้วยต้นหอม จานนี้ไม่ต้องปรุงก็กินได้อร่อยเพราะเส้นหอมนุ่ม รสชาติกลมกล่อม แต่ถ้าใครชอบรสจัด จะเติมน้ำส้มสายชูและพริกป่นเพิ่มก็ไม่ว่ากัน

    แต่ถ้าอยากลองสั่งอย่างอื่นบ้าง ก็ขอแนะนำ สปาเก็ตตี้ขี้เมา (50 บาท) ข้าวต้มหมูทรงเครื่อง (35 บาท) ข้าวผัดมันกุ้ง (35 บาท) สุกี้น้ำ-แห้ง (35 บาท) เป็นต้น ที่ไม่ว่าจะสั่งเมนูไหนมาลองชิม ก็รับรองว่าอร่อยลิ้นขั้นเทพแน่นอน

    [​IMG]


    ร้าน “เตี๋ยวเทพ” ตั้งอยู่ที่ 111/153 ซอยสำราญสุข 2 ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี การเดินทางหากมาจากแยกหลักสี่ ให้วิ่งตรงมาบนถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าปากเกร็ด ตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ ให้ชิดซ้ายแล้วสังเกตทางซ้ายมือจะเห็นศูนย์รักษาตาท๊อปเจริญ ร้านจะตั้งอยู่ในซอยข้างศูนย์ฯ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 08.30-17.00 น. โทร. 08-6025-2266, 0-2960-5336


    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เตี๋ยวเทพ"
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000134107-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    2 พฤศจิกายน 2555 13:02 น.

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : เตี๋ยวเทพ

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว,อาหารเส้น

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ,สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด,ผัดหมี่ฮ่องกง,กระเพาะปลาผัดแห้ง

    บรรยากาศร้าน : ตกแต่งสไตล์ย้อนยุค

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 111/153 ซอยสำราญสุข 2 ถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี การเดินทางหากมาจากแยกหลักสี่ ให้วิ่งตรงมาบนถนนแจ้งวัฒนะ มุ่งหน้าปากเกร็ด ตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ และบิ๊กซีแจ้งวัฒนะ ให้ชิดซ้ายแล้วสังเกตทางซ้ายมือจะเห็นศูนย์รักษาตาท๊อปเจริญ ร้านจะตั้งอยู่ในซอยข้างศูนย์ฯ ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเล็กน้อย จะเห็นร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

    สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 08.30-17.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-6025-2266, 0-2960-5336

    ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่

    .
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    .
    “พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ” เย็นตาโฟโคตรเครื่อง โคตรเยอะ โคตรเยี่ยม
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000143796-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤศจิกายน 2555 13:24 น.

    [​IMG]
    บรรยากาศของร้าน
    ใครที่ชอบกินของดี ใหญ่ และเยอะ ฟังทางนี้ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะตะโกนบอกดังๆ ว่า คุณได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ เพราะว่าจะพาไปลองชิมร้านต้นตำรับเย็นตาโฟโคตรเครื่อง ที่เยอะแยะมากมายละลานตา แค่เห็นยกชามมาก็เริ่มอิ่มเสียแล้ว

    ร้านนี้เขามีชื่อว่า “พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ” หรือที่รู้จักกันในนาม “ร้านเย็นตาโฟโคตรเครื่อง” ที่เยอะสะใจคนกระเพาะใหญ่เสียจริง ถามไปถามมา คนที่ร้านบอกว่าเพิ่งเปิดเมื่อตอนต้นปี 2555 นี่เอง แต่คนก็ติดอกติดใจในความใหญ่เบิ้มกว่าใครๆ ไม่ว่าจะเป็นชามก๋วยเตี๋ยว เครื่องมือในการกิน และวัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาประกอบเป็นก๋วยเตี๋ยวหนึ่งชาม

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวโคตรเครื่อง
    ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่จะใช้น้ำซุปที่ต้มจากกระดูกหมูผสมกับก้างปลา ต้มจนเข้าที่ก็จะได้น้ำซุปที่หอมหวานแต่ไม่คาว และก๋วยเตี๋ยวต่างๆ ก็มีให้เลือกทั้งน้ำใส ต้มยำ และเย็นตาโฟ ส่วนของเด็ดก็คือ เย็นตาโฟที่มีซอสให้เลือกถึง 3 สี นั่นก็คือ ซอสแดง ทำจากเต้าหู้ยี้ ซอสเขียว ทำจากใบเตย และซอสเหลือง ทำจากฟักทองและมะม่วงสุก

    มาถึงร้านแล้ว จะให้กินชามธรรมดาก็ใช่ที่ แต่จะกินชามใหญ่สุดก็ไม่ไหว เลยขอสั่งแบบกลางๆ เป็น ก๋วยเตี๋ยวโคตรเครื่อง (50 บาท) ที่เลือกได้ทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่เหลืองแบน และวุ้นเส้น รวมทั้งน้ำใส ต้มยำ หรือเย็นตาโฟก็ได้ โดยก๋วยเตี๋ยวโคตรเครื่องจะใส่ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นรักบี้ ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย ลูกชิ้นแคะ เกี๊ยวปลา หมึกกรอบ เห็ดหูหนูขาว และสาหร่ายวากาเมะ โรยหน้าด้วยเกี๊ยวทอดกรอบ ใส่มาครบเครื่องแบบนี้ก็มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วก็ตักชิมความอร่อยเข้ากันทั้งลูกชิ้นคัดคุณภาพ น้ำซุปหวานหอม โดยเฉพาะถ้าสั่งเป็นต้มยำ ทางร้านก็จะปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ กินกันได้ทันที

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาแซลมอน
    ตามต่อด้วย ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาแซลมอน (100 บาท) ที่เห็นแซลมอนชิ้นโตลวกสุกวางเด่นมาในชาม รวมตัวกับลูกชิ้นหลากหลายชนิด ปรุงรสมาเรียบร้อย และโรยหน้าด้วยเกี๊ยวทอดกรอบ รสชาติต้มยำเข้มข้น ส่วนเนื้อปลาแซลมอนก็สุกกำลังดี มีความแน่นสดหวานกำลังเหมาะ

    แต่ถ้าเบื่อก๋วยเตี๋ยวแล้ว ก็ต้องหันมาสั่ง หอยนิวซีแลนด์ลวกจิ้ม (150 บาท) ที่ทางร้านเลือกใช้หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์สดๆ ที่คัดมาอย่างดี นำมาลวกพอสุก เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเฉพาะของทางร้าน กินคู่กันเนื้อหอยสดหวาน ส่วนน้ำจิ้มก็รสเปรี้ยวเค็มเผ็ดจี๊ดจ๊าด

    [​IMG]
    หอยนิวซีแลนด์ลวกจิ้ม
    หรือถ้าชอบแบบเนื้อๆ เน้นๆ ต้องลอง ลูกชิ้นหมูปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) เป็นลูกชิ้นหมูล้วนสูตรเฉพาะ ปิ้งให้พอสุกส่งกลิ่นหอม จิ้มกับน้ำจิ้มสูตรดั้งเดิมที่เผ็ดหวานกำลังดี เนื้อลูกชิ้นเคี้ยวเด้งอร่อย กินคู่ผักสดแก้เลี่ยนสักนิด

    เมนูอื่นๆ ทางร้านก็ยังมีให้ลิ้มลอง อาทิ ก๋วยเตี๋ยวไข่ทูโทน (80 บาท) ก๋วยเตี๋ยวต้มยำไข่โบราณ (30 บาท) ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นน้ำใส (30 บาท) และพิเศษ สำหรับคนพิเศษเท่านั้น เพราะทางร้านแนะนำไว้ว่า เป็นเมนูโคตรหนัก สำหรับโคตรคนนั่นก็คือ โคตรสะใจ (800 บาท) ที่จะใส่ทุกอย่างเท่าที่มีในร้าน ใครที่มั่นใจก็มาลองลิ้มความใหญ่ ความอร่อยกันได้เลย

    [​IMG]
    ลูกชิ้นหมูปิ้ง
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ” ตั้งอยู่เลขที่ 16 ระหว่างซอยประชาสงเคราะห์ 1 และ 3 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวง-เขต ดินแดง กทม. การเดินทางหากมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้วิ่งตรงมายังแยกประชาสงเคราะห์ (แยกโบสถ์แม่พระ) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์ วิ่งตรงมาจนเลยซอยประชาสงเคราะห์ 1 สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน สามารถจอดรถได้บริเวณซอยด้านข้างร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น. โทร. 08-6022-2151, 08-2345-3643, 09-0006-0398 พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ เย็นตาโฟโคตรเครื่อง | Facebook

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ"
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000143792-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 พฤศจิกายน 2555 13:16 น.

    [​IMG]
    ชื่อร้าน : พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวโคตรเครื่อง,ก๋วยเตี๋ยวต้มยำปลาแซลมอน,หอยนิวซีแลนด์ลวกจิ้ม,ลูกชิ้นหมูปิ้ง

    บรรยากาศร้าน : ริมถนน มีที่นั่งสบาย

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่เลขที่ 16 ระหว่างซอยประชาสงเคราะห์ 1 และ 3 ถ.ประชาสงเคราะห์ แขวง-เขต ดินแดง กทม. การเดินทางหากมาจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ให้วิ่งตรงมายังแยกประชาสงเคราะห์ (แยกโบสถ์แม่พระ) ให้เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนประชาสงเคราะห์ วิ่งตรงมาจนเลยซอยประชาสงเคราะห์ 1 สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน

    สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณซอยด้านข้างร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-6022-2151, 08-2345-3643, 09-0006-0398

    พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ เย็นตาโฟโคตรเครื่อง | Facebook

    Travel - Manager Online - “พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ” เย็นตาโฟโคตรเครื่อง โคตรเยอะ โคตรเยี่ยม

    Travel - Manager Online - รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน พล ก๋วยเตี๋ยวโบราณ
     
  5. pookohbar

    pookohbar สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    [​IMG]
    แนะนำผับค่ะ ย่านถนนข้าวสาร ชื่อร้านโอ้บาร์ อาหารเค้าอร่อยมากค่ะ
    อาหารจานเด็จที่ใครๆมาชิมแล้วก็ต้องได้รับคำชมตลอดค่ะว่าอาหารที่นี้อร่อยทุกอย่างเลยค่ะ พูดถึงผับแล้วเราก็มักจะกินเหล้าเต้นกระจายช่ายมั้ยค่ะ แต่โอ้บาร์ให้มากกว่าที่เพื่อนๆคิดนะค่ะ เพราะเราทำทุกอย่างให้มันดีที่สุดสำหรับทุกๆท่าน ใครที่แวะมาเที่ยวก็อย่าลืมสั่งอาหารทานเล่นกันนะค่ะ รับรองค่ะว่าอร่อย...เฟริมๆค่ะ สนใจโทร 086-305-0778
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อิ่มอร่อยมื้อเช้าด้วย ไข่กระทะ - ก๋วยจั๊บญวน ที่ร้าน “อยู่ดี”
    -http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9550000147683-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    10 ธันวาคม 2555 22:06 น.

    [​IMG]
    ไข่กระทะ ร้านอยู่ดี จ.ภูเก็ต

    มื้อเช้าเป็นมื้ออาหารสำคัญที่จะช่วยเพิ่มพลังให้เราพร้อมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ตลอดวัน เรามาเพิ่มพลังกับอาหารเช้าเมนูอร่อยๆ ที่ร้าน “อยู่ดี” กันดีกว่า ร้านนี้เขามีเมนูอาหารเช้าให้เลือกทั้งสไตล์เวียดนาม ข้าวต้มแบบไทยๆ หรือจะเป็นอเมริกันเบรกฟาตส์ แถมยังอิ่มได้ถึงมื้อเที่ยงด้วยเมนูอาหารที่ทางร้านบรรจงคัดสรรมาไว้บริการอีกหลายเมนู

    [​IMG]
    ร้านอยู่ดี ตั้งอยู่บนถนนบางกอก ตรงข้ามกับซอยภูธร อ.เมือง จ.ภูเก็ต

    “ร้านอยู่ดี” ตั้งอยู่บนถนนบางกอก ตรงข้ามกับซอยภูธร อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นร้านเล็กๆ โล่ง ๆ สบายๆ สะอาดสะอ้าน เปิดขายอาหารเช้าและอาหารมื้อเที่ยง ตั้งแต่เวลา 06.30 น. - 14.00 น. หยุดทุกวันที่ 28 - 29 ของเดือน

    [​IMG]
    กุ๊กอุ๊ เจ้าของร้าน กำลังปรุงอาหารให้ลูกค้า

    เข้ามาในร้านจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากเจ้าของร้านสองสามี – ภรรยา ที่คอยแนะนำเมนูอาหารเช้าและเที่ยงให้ลูกค้าได้เลือกรับประทาน โดยร้านนี้เขามีเมนูแนะนำประจำร้านหลายเมนูที่เป็นอาหารเช้า

    [​IMG]
    ไข่กระทะ เมนูแนะนำของร้านอยู่ดี

    เริ่มต้นจากเมนู “ไข่กระทะ” ที่หน้าตาน่ารับประทานมาก และคุณภาพคับกระทะ เพราะร้านนี้เขาใช้ไข่ไก่สองฟอง ลงไปทอดในกระทะ พร้อมด้วยไส้กรอกร่มควัน หมูสับทรงเครื่อง หมูยอ แฮม กุนเชียง มะเขือเทศ พริกหวาน ทอดจนไข่ไก่เป็นยางมะตูม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ยกลงเสิร์ฟทานคู่กับซอสมะเขือเทศ หรือ ซอสพริก เข้ากันเป็นอย่างดี ราคาเพียงชุดละ 35 บาท

    [​IMG]
    ขนมปังญวน

    หรือใครจะสั่ง "ขนมปังญวน" มาทานคู่กับไข่กระทะก็เข้ากันดี ขนมปังญวนของร้านนี้ เขาใช้ขนมปังฝรั่งเศสผ่ากลาง อบให้กรอบทาเนย ใส่หมูหยอง หมูยอ กุนเชียง นำไปอบอีกครั้ง โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เวลาทานขนมปังจะกรอบ หมูหยองจะกรอบๆ เค็ม มันๆ หวานกุนเชียง ราคาชิ้นละ 10 บาท

    [​IMG]
    ไข่กระทะทานคู่กับขนมปังญวน

    [​IMG]
    ก๋วยจั๊บญวน สูตรดั่งเดิมจากนครพนม

    “ก๋วยจั๊บญวน” เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม ที่อยากจะแนะนำให้เลือกรับประทานถ้ามาร้านนี้ ของเขาอร่อยจริงๆ ที่ร้านนี้เขาใช้ก๋วยจั๊บญวนเส้นสดที่สั่งตรงมาจากนครพนม เจ้าของร้านบอกว่าก๋วยจั๊บญวนที่ร้านเป็นสูตรที่ทำรับประทานกันภายในครอบครัวที่นครพนมมาตั้งแต่เด็กแล้ว จึงเป็นสูตรดั่งเดิมจริงๆ มีทีเด็ดที่เส้นเหนียวนุ่ม น้ำซุปหอมหวาน และมีกลิ่นของเห็ดหอมโชยเข้าจมูกเวลารับประทาน ซี่โครงหมูอ่อนที่ตุ่นจนเปื่อย ใส่พร้อมหมูยอ หมูสับทรงเครื่อง เลือดหมู และเห็ดหอมตุ่นกับน้ำมันงา โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย เสิร์ฟให้ลูกค้าร้อน เมนูนี้สนนราคาอยู่ที่ถ้วยละ 45 บาท

    [​IMG]
    ซีโครงหมูตุ่นยาจีน เนื้อนุ่ม กระดูกอ่อนเคี้ยวกรุบๆ

    มาดูที่เมนูอาหารเช้าแบบไทยๆที่เป็นเมนูข้าวต้มกันบ้าง ร้านนี้มีเมนูข้าวต้มให้เลือกอิ่มอร่อยหลายเมนูด้วยกัน เขาใช้น้ำซุปซีโครงไก่เคี้ยวกับเครื่องตุ่นยาจีน หอมใหญ่ หัวไชเท้า และที่สำคัญไม่ใส่ผงชูรส ส่วนข้าวก็ต้มจนแตกเม็ดพอดีๆ

    [​IMG]
    ข้่าวต้มปลากระพง

    เริ่มจากเมนู “ข้าวต้มปลากะพง” ใส่ปลากะพงชิ้นใหญ่ เห็ดหอม โรยหน้าด้วยต้นหอมซอย กระเทียมเจียว ขิงซอยและขึ้นฉ่าย รสชาติกลมกล่อมหอมเห็ดหอมและกระเทียมเจียว เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มเต้าเจียว เค็มๆ หวานๆ เปรี้ยวๆ

    [​IMG]
    ข้าวต้มมะระยัดไส้

    "ข้าวต้มมะระตุ่น" เป็นสูตรที่กุ๊กอุ๊เจ้าของร้านคิดขึ้นมาเอง ใช้มะระยัดใส่หมูสับทรงเครื่องสูตรเฉพาะของร้าน ตุ่นจนความขมของมะระหายไปเกือบหมด ใส่พร้อมเห็ดหอม โรยหน้าด้วยขิงซอย ต้นหอมซอย กระเทียมเจียวและขึ้นฉ่าย ถ้วยนี้มะระจะออกรสขมนิดๆ กลมกล่อม ไม่ต้องปรุงรสก็อร่อยได้จนหมดถ้วย ราคาอยู่ที่ถ้วยละ 45 บาท "ข้าวต้มกระดูกหมู่ตุ่น" ใช้กระดูกหมูอ่อนตุ่นกับเครื่องยาจีนจนเนื้อนุ่ม กระดูกอ่อนเคี้ยวกรุบๆ รับรองจะไม่ผิดหวัง นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารเช้าแบบอเมริกันเบรกฟาสต์ ที่ขายในราคาชุดละ 60 บาท

    [​IMG]
    อาหารเช้าแบบอเมริกันเบรกฟาสต์
    ที่ร้านอยู่ดีมีบริการอาหารลูกค้าอิ่มไปจนถึงมื้อเที่ยง โดยมื้อเที่ยงจะเปิดขายตั้งแต่เวลา 11.45 – 14.00 น.จะมีอาหารที่เป็นเมนูแนะนำอยู่หลายเมนูด้วยกัน เช่น ข้าวปลาราดซอสสามรส ข้าวพะแนงหมูทานคู่กับไข่ตุ่น ข้าวคลุกกะปิ ข้าวเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ก๋วยเตี๋ยวผัดสามสี เนื้อปลากะพงลวกจิ้ม เป็นต้น ซึ่งแต่ละวันทางร้านจะสลับกันทำ 3 - 4 เมนู

    [​IMG]
    ข้่าวอบซี่โครงหมูซอสฮ่องกง อีกหนึ่งเมนูเด็ดของร้าน

    แต่ที่พิเศษสุดและเป็นเมนูยอดฮิตของร้านที่มีบริการลูกค้าทุกวัน คือ เมนู “ข้าวอบซี่โครงหมูซอสฮ่องกง” โดยการนำซี่โครงหมูมาหมักกับเครื่องเทศตามสูตรเฉพาะของร้านหนึ่งคืน หลังจากนั้นนำไปตุ่นไฟอ่อนประมาณ 2 ชั่วโมง จนได้เนื้อนุ่มชวนรับประทาน ส่วนน้ำซอสที่ใช้ราดนั้น จะนำมาจากน้ำที่ได้จากการอบชี่โครงหมู แล้วไปแช่แข็งเพื่อสกัดไข่มันออก และนำมาเคี้ยวอีกทีหนึ่ง ทานคู่กับข้าวหอมมะลิอย่างดี มีผักดอง และไข่ต้มยางมะตูม เป็นเครื่องเคียง ตัดเลี่ยนด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด

    [​IMG]
    หลากหลายเมนูอาหารเช้า ที่ร้านอยู่ดี ถ.บางกอก อ.เมืองภูเก็ต

    “กุ๊กอุ๊” คุณอยู่ดี สุขแสน เจ้าของร้าน เล่าให้ฟังว่า ร้านเปิดมาขายมาประมาณ 4 - 5 เดือน ได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมาก มีลูกค้าแวะเวียนมารับประทานไม่ขาดสาย เป็นลูกค้าประจำที่เข้ามารับประทานตั้งแต่เปิดทานจนถึงวันนี้ และมีการบอกต่อเพื่อนฝูง เพราะที่ร้านจะเน้นอาหารอร่อย สะอาด และถูกสุขลักษณะ จะไม่ใช้ผงชูรส เราปรุงอาหารให้ลูกค้าเหมือนกับที่ปรุงรับประทานเอง เพราะผมเป็นคนที่ชอบทำอาหาร ใช้ประสบการณ์จากการเป็นกุ๊กร้านอาหารมากว่า 10 ปี มาเปิดร้านเป็นของตัวเอง และปัจจุบันก็ยังเป็นกุ๊กประจำเรือดำน้ำของบริษัท สคูบ้าเน็ต อยู่ด้วย

    [​IMG]
    กุ๊กอุ๊ หรือ คุณอยู่ดี แสนสุข เจ้าของร้านอยู่ดี
    ร้านอยู่ดี จะเปิดให้บริการลูกค้าตั้งแต่เวลา 06.30 - 14.00 น.หยุดทุกวันที่ 28 และ 29 ของเดือน ลูกค้าสามารถโทรสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 084 - 8489602 หรือ 080 - 7002779

    -http://www.manager.co.th/South/ViewNews.aspx?NewsID=9550000147683-
    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “ก๋วยจั๊บราชวงศ์หมิง” อร่อยของจริงในยุทธภพ
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000150878-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    16 ธันวาคม 2555 18:15 น.

    [​IMG]

    ด้านหน้าร้าน
    “ผ่านมาแวะกิน” ได้ฟังจากบรรดาแม่ครัวทั้งหลายว่า “กวยจั๊บ” นั้นเป็นอีกหนึ่งเมนูปราบเซียน ก็เพราะว่ามีเครื่องเคราเยอะ ต้องพิถีพิถัน มีขั้นตอนการปรุงมากมาย ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้หาร้านกวยจั๊บอร่อยๆ ได้ยาก

    แต่สำหรับมื้อนี้ ใครที่ชอบกินกวยจั๊บต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะ “ผ่านมาแวะกิน” จะพาไปชิมกวยจั๊บเจ้าดัง ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยไม่เป็นรองใครในยุทธภพ ซึ่งร้านก็มีชื่อว่า “ก๋วยจั๊บราชวงศ์หมิง” แต่ไม่ต้องคิดมากว่าชื่อร้านจะมีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์แต่อย่างใด เหตุที่ตั้งชื่อนี้ ก็เพื่อความสะดุดหู และชวนให้เข้ามาชิมเท่านั้นเอง

    [​IMG]
    ไข่ต้มพะโล้ ลูกขนาดพอเหมาะ

    ร้านนี้เขาเปิดขายกันเฉพาะกวยจั๊บเพียงอย่างเดียว เป็นกวยจั๊บน้ำข้น ที่มีการปรับปรุงรสชาติจากสูตรเก่าแก่ดั้งเดิมเพื่อให้ถูกลิ้นกับคนทุกเพศทุกวัยมากขึ้น แต่ยังคงความกลมกล่อมเข้มข้นของรสชาติอยู่เหมือนเดิม

    ความเด็ดขาดอย่างแรกของกวยจั๊บร้านนี้ก็คือ น้ำซุป ที่ผ่านการเคี่ยวกระดูกหมู ผสมกับเครื่องพะโล้ และเครื่องเทศไทยๆ อีกหลายชนิด ปรุงรสให้กลมกล่อม และใส่ซีอิ้วดำ ที่เป็นต้นเหตุของน้ำซุปสีเข้ม รสชาติหวานหอมกำลังดี

    [​IMG]
    กวยจั๊บ

    ต่อมาก็คือเส้นกวยจั๊บ ที่มีเคล็ดลับพิเศษอยู่ที่การต้ม ต้องใช้เทคนิคและความชำนาญเฉพาะตัวในการต้มเส้นให้ออกมาม้วนกลม สุกทั่วกันทั้งเส้น ไม่เละ ไม่ขาด และไม่แฉะเกินไป ส่วนเครื่องในที่ใช้ก็จะต้องคัดมาเป็นพิเศษ ล้างทำความสะอาดอย่างดี ตัดส่วนขอบมันทิ้ง และต้มกับน้ำซุปที่แยกต่างหากจากในหม้อกวยจั๊บ เพื่อให้ได้รสชาติของน้ำซุปที่เข้าไปผสมในเครื่องใน ได้ความนุ่ม หอม และเครื่องในไม่มีกลิ่นคาว

    หมูกรอบก็ต้องใช้หมูสามชั้นคัดพิเศษที่มีมันน้อย นำมาทำความสะอาดและต้มจนสุก ตักขึ้นมาทาเกลือแล้วผึ่งให้แห้ง จากนั้นหั่นเป็นเส้นๆ ขนาดกำลังดี ก่อนจะนำไปทอดให้กรอบนอกนุ่มใน ซึ่งความมันในสามชั้นก็จะออกไป เหลือแต่ความนุ่มของเนื้อ และความกรอบของหนัง

    [​IMG]
    เกาเหลา + ข้าวสวย

    ส่วนเต้าหู้ ก็จะนำไปต้มกับน้ำพะโล้ แล้วนำมาอบไว้ในหม้ออีกครึ่งชั่วโมง ทำให้เปลือกเต้าหู้นุ่ม อุ้มน้ำ แต่ไม่เละ เลือดหมูก็จะนำไปต้มกับน้ำพะโล้เช่นเดียวกัน แต่ใช้ไฟอ่อนๆ เพื่อไม่ให้แตก สุดท้าย ไข่ไก่ก็ต้องนำไปต้มกับน้ำพะโล้ โดยต้องเลือกไข่ไก่ที่ผิวเกลี้ยงเนียน ขนาดพอเหมาะ เท่าๆ กันทุกใบ

    เห็นส่วนผสมมาครบทุกอย่างแล้วก็ต้องอยากลองชิมเป็นธรรมดา ใครที่จะมาร้านนี้ก็ไม่ต้องเลือกให้ปวดหัว เพราะมีให้สั่งเฉพาะ กวยจั๊บ (40-50 บาท) และเกาเหลา (40-50 บาท) ที่เลือกสั่งได้ว่าจะใส่เครื่องอะไร หรือไม่ใส่อะไร ทั้งหมูกรอบ เต้าหู้ เลือด ไข่ กระเพาะหมู ตับ และหัวใจ แถมท้ายด้วย ข้าวสวย (10 บาท) สั่งมากินคู่กับเกาเหลาให้อิ่มท้อง

    นอกจากนี้ยังขอแนะนำให้สั่งน้ำเพื่อสุขภาพที่ทางร้านต้มเองใหม่ๆ ทั้ง น้ำพั้นช์ตะไคร้ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำลำไย น้ำมะตูม (แก้วละ 12 บาท) มาดื่มแก้กระหาย หลังจากกินกวยจั๊บอิ่มอร่อยแน่นท้อง ใครที่ผ่านมาซอยอารีย์ก็อย่าลืมแวะมาชิมแล้วกัน

    [​IMG]
    น้ำกระเจี๊ยบ น้ำตะไคร้ น้ำลำไย

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “ก๋วยจั๊บราชวงศ์หมิง” ตั้งอยู่เลขที่ 43 ซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) เขตพญาไท กทม. การเดินทาง หากใช้บริการ BTS ให้ลงที่สถานีอารีย์ แล้วเดินตรงเข้ามายังซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ผ่านซอยอารีย์ 1 ให้สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.30-15.30 น. โทร. 0-2278-4282

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ก๋วยจั๊บราชวงศ์หมิง”
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000150867-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 ธันวาคม 2555 15:50 น.

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : ก๋วยจั๊บราชวงศ์หมิง

    ประเภทอาหาร : กวยจั๊บ

    เมนูจานเด่น : กวยจั๊บ,เกาเหลา

    บรรยากาศร้าน : ห้องแถวเล็กๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่เลขที่ 43 ซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) เขตพญาไท กทม. การเดินทาง หากใช้บริการ BTS ให้ลงที่สถานีอารีย์ แล้วเดินตรงเข้ามายังซอยพหลโยธิน 7 (ซอยอารีย์) ผ่านซอยอารีย์ 1 ให้สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน

    สถานที่จอดรถ : ไม่มี

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-15.30 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2278-4282
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ดั้งเดิม รสเด็ด แซบ จี๊ดจ๊าด
    ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154441-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ธันวาคม 2555 11:13 น.

    [​IMG]
    ทางเข้าร้าน

    ใครๆ ก็ว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือต้นตำรับนั้นต้องเป็นของอยุธยา และถ้าได้ลงไปกินในเรือด้วยก็จะยิ่งซึมซับอรรถรสได้มากขึ้น แต่สมัยนี้จะให้ล่องเรือกินก๋วยเตี๋ยวก็คงยากหน่อย เพราะแม่น้ำลำคลองในเมืองกรุงก็มีอยู่น้อย กลายสภาพเป็นถนนไปเสียหมด ถ้าอยากจะกินก๋วยเตี๋ยวเรือจริงๆ ก็คงต้องขึ้นมากินบนบกเสียแล้ว

    อย่างที่ “ผ่านมาแวะกิน” แวะมาเยี่ยมเยียนเพื่อนแถวๆ คลองลำเจียก เพื่อนก็เลยพามาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือชื่อดังของย่านนี้ “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ที่เขาเปิดขายกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือแบบอยุธยาที่นำมาปรับปรุงรสชาติให้มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และมีให้เลือกกินทั้งหมูและเนื้อ แยกหม้อกัน นอกจากนี้ ทางร้านยังมีผักสดให้เลือกหยิบกันได้ตามชอบ ทั้งใบโหระพา ผักชีฝรั่ง และถั่วงอกดิบ

    [​IMG]
    โต๊ะนั่งภายในร้าน

    ลองสั่งชามแรกมากิน ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก (ชามเล็ก 15 บาท ชามใหญ่ 20 บาท) ที่หอมน้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวกับเครื่องเทศไทยๆ ใส่ทั้งผักบุ้งลวก เนื้อหมูหมัก ลูกชิ้นหมู และตับลวกสุก ใส่เลือดหมูลงไปให้ได้น้ำซุปสีเข้มข้น ทางร้านจะปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ต้องบอกว่ารสชาติจัดจ้านมากๆ ใครที่ไม่กินเผ็ดก็ต้องสั่งกับทางร้านไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นอาจกินไปน้ำตาไหลไปก็ได้

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตก+กากหมู

    ส่วน ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก (ชามเล็ก 15 บาท ชามใหญ่ 20 บาท) ก็จะใช้น้ำซุปที่ได้จากต้มกระดูกวัวเคี่ยวจนเข้าที่ ใส่ทั้งเนื้อสดลวกสุก เนื้อเปื่อยที่ตุ๋นจนได้ที่ ลูกชิ้นเนื้อล้วนอย่างดี ตับลวก และใส่เลือดในน้ำซุปด้วย ซึ่งชามนี้ทางร้านก็ปรุงมาให้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

    ใครที่ไม่ชอบก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ก็ยังมีให้เลือกทั้ง ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ (ชามเล็ก 15 บาท ชามใหญ่ 20 บาท) ที่จะเป็นน้ำซุปใส ปรุงรสและใส่พริกป่นสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่ทำให้น้ำซุปมีสีเข้ม แถมยังใส่ถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ ให้ได้ความหอมมัน

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก

    สุดท้ายกับเมนู ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส (ชามเล็ก 15 บาท ชามใหญ่ 20 บาท) ที่หอมกลมกล่อมด้วยน้ำซุปใสร้อนๆ อร่อยแบบธรรมดาๆ ไม่ต้องจี๊ดจ๊าดมาก แต่ถ้าใครที่เลือกสั่งเป็นวุ้นเส้น หรือ บะหมี่ ทางร้านก็ขอขยับราคาอีกสักนิดเป็น ชามเล็ก 25 บาท ชามใหญ่ 30 บาท ซึ่งก็จะได้ปริมาณเพิ่มขึ้นด้วย

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ

    อีกอย่างที่อยากแนะนำไม่ให้พลาด คือ กากหมู (20 บาท) ที่จะใช้ส่วนมันแข็งของหมูนำมาเจียวเองใหม่ๆ สดๆ ทุกวัน กินแกล้มกับก๋วยเตี๋ยวจะได้ความหอมกรอบเคี้ยวเพลิน เหมือนมีมันมาแตกอยู่ในปาก

    ใครที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลในละแวกนั้น หรือผ่านไปผ่านมาก็ต้องลองไปแวะชิมความอร่อยเด็ดของก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรอยุธยาที่ร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” รับรองได้ถึงความแซ่บ จี๊ดจ๊าดเลยทีเดียว

    [​IMG]
    ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ตั้งอยู่ที่ 3/2 ซอยคลองลำเจียก 13 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.การเดินทางจากแยกเกษตร ให้วิ่งตรงมายังถนนเกษตรนวมินทร์ (ถนนประเสริฐมนูกิจ) ตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านแยกตัดถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา สังเกตซ้ายมือ จะมีแยกตัดกับถนนคลองลำเจียก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงซอยคลองลำเจียก 13 สังเกตทางขวามือจะเห็นร้านตั้งอยู่ติดริมถนน สามารถจอดรถได้บริเวณด้านข้างและด้านหลังร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.โทร. 08-1336-9533, 08-9135-2082

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 ธันวาคม 2555 16:17 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9550000154425-

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเรือหมู, เนื้อ

    บรรยากาศร้าน : เพิงขายริมถนน

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 3/2 ซอยคลองลำเจียก 13 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.การเดินทางจากแยกเกษตร ให้วิ่งตรงมายังถนนเกษตรนวมินทร์ (ถนนประเสริฐมนูกิจ) ตรงมาเรื่อยๆ จนผ่านแยกตัดถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา สังเกตซ้ายมือ จะมีแยกตัดกับถนนคลองลำเจียก ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป ตรงไปเรื่อยๆ จนถึงซอยคลองลำเจียก 13 สังเกตทางขวามือจะเห็นร้านตั้งอยู่ติดริมถนน

    สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้บริเวณด้านข้างและด้านหลังร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 06.00-17.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร.08-1336-9533, 08-9135-2082

    Travel - Manager Online - “ป.ประทีป ก๋วยเตี๋ยวเรือ” ดั้งเดิม รสเด็ด แซบ จี๊ดจ๊าด
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “Burendo” ชาบูญี่ปุ่น+จีน สูตรเฉพาะ รสเยี่ยม เน้นคุณภาพ
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000003732-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2556 11:34 น.


    [​IMG]
    บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน“Burendo”

    อันที่จริงต้นปีอย่างนี้ ฤดูกาลในบ้านเราจะต้องเข้าสู่หน้าหนาวกันแล้ว แต่ทว่าสภาพอากาศมันแปรปรวนเสียจริง จะมีลมหนาวมาบ้างก็หนาวแค่ไม่กี่วันก็ร้อนอีกแล้ว แต่ช่างเถอะไม่ว่าอากาศจะหนาวหรือไม่หนาว ก็ไม่มีผลต่อการออกไปตระเวนกินของเราสักหน่อย

    เพราะยังไงเสียเราก็ยังอิ่มอร่อยได้ทุกสภาพอากาศอยู่แล้ว อย่างในมื้อนี้ “ตระเวนกิน” จะขอพาแฟนๆ นักกินที่ชื่นชอบกินอาหารสไตล์ญี่ปุ่นมาอิ่มอุ่นท้องกับการได้ซดน้ำซุปร้อนๆ อย่างชาบู ชาบู โดยขอพามาที่ร้าน“Burendo” (บูเรนโดะ) ซึ่งมีชื่อแห่งย่านสยามสแควร์ ซอย 10 เปิดมานานแล้วถึง 6 ปี

    [​IMG]
    โต๊ะนั่งเป็นแบบเคาน์เตอร์

    “Burendo” ร้านนี้นำเสนอชาบู ชาบู สไตล์ญี่ปุ่นบวกกับสไตล์จีน ที่ทางร้านคิดค้นสูตรการทำน้ำซุปและน้ำจิ้มขึ้นมาเป็นพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และชาบูของที่ร้านนี้ก็ต้องบอกว่าเน้นเรื่องคุณภาพเป็นหัวใจหลัก เรียกว่าคัดสรรแต่วัตถุดิบชั้นยอดทั้งนั้น มากำนัลปากให้ผู้ที่ชอบกินชาบู ชาบู ได้เต็มอิ่มกับเนื้อสัตว์มากมาย ที่เลือกเฟ้นมาแล้วว่ามีแต่ของดี และมีความหลากหลาย มีผักสด และเมนูอาหารพิเศษหลายชนิดที่ทางร้านคัดสรรมาเป็นพิเศษ รวมถึงที่นี่ยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอย่างข้าวปั้นให้ได้เลือกลิ้มรสด้วย

    [​IMG]
    ชุดบูเรนโดะมีเนื้อสัตว์สารพัดอย่าง

    ในการมากินชาบู ชาบู ที่ร้าน “Burendo” แห่งนี้ ทางร้านได้จัดโต๊ะนั่งเป็นแบบเคาน์เตอร์ และเป็นแบบการกินชาบู ชาบู แบบหม้อของแต่ละคน โดยจะมีเตาไฟฟ้าตั้งอยู่ประจำที่ให้เลือกนั่งกันได้ตามชอบใจ ทางร้านนำเสนอชาบู ชาบู มีทั้งแบบสั่งเป็นแบบอะลาคาร์ท และแบบเป็นบุฟเฟต์ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบ คือ แบบบุฟเฟต์เนื้อ ราคา 350 บาท จะมีให้เลือกสั่งได้เฉพาะเนื้อวัว-หมู-ไก่-ผักรวม ข้าว และน้ำผลไม้ฟรี 1 แก้ว และแบบบุฟเฟต์พิเศษ ราคา 550 บาท ที่จะสามารถเลือกสั่งเนื้อสัตว์ได้นานาชนิดที่มีอยู่ในเมนูมากมาย รวมถึงยังสามารถสั่งอาหารจานโปรดและเมนูข้าวปั้นได้ด้วย และบุฟเฟต์ของที่นี่สามารถกินได้แบบเรื่อยๆ ไม่มีการกำหนดเวลา

    [​IMG]
    ผักสดรวมในชุดบูเรนโดะ

    สำหรับในมื้อนี้เราขอเลือกที่อิ่มแบบสบายท้องกับเมนูชาบู ชาบูชุดเด่นประจำร้าน นั่นก็คือ ชุดบูเรนโดะ (240 บาท) เป็นชาบู ชาบู แบบชุดรวมหลายๆ อย่างมาในเซ็ทเดียว มีทั้งเนื้อวัวจากออสเตรเลียที่คัดเฉพาะส่วนสันในมาสไลด์เป็นชิ้น มีเนื้อหมูส่วนสันนอกที่คัดมาเป็นพิเศษสไลด์มาเป็นชิ้นเช่นกัน มีเนื้อไก่ส่วนอก และซีฟู้ดมีกุ้งกับหมึกสด อีกทั้งยังมีอาหารจานโปรดที่ทางร้านจะจัดมาให้เป็นพิเศษ แล้วก็มีผักสดรวมหลายๆ อย่าง

    [​IMG]
    น้ำจิ้มงาและน้ำจิ้มพอนซึรสเด็ด

    ที่สำคัญน้ำซุปชาบู ชาบู ของที่นี่ถึงแม้จะมีให้เลือกแค่แบบเดียว คือ แบบน้ำซุปใส แต่เป็นน้ำซุปที่ผ่านกระบวนการปรุงมาอย่างพิถีพิถันได้มาจากการนำผักหลายๆ ชนิดมาต้มและใส่ขิงด้วย จนได้น้ำซุปใสที่ส่งกลิ่นหอมชวนกิน ส่วนน้ำจิ้มก็มีความพิเศษไม่แพ้กัน ซึ่งมีน้ำจิ้มให้เลือก 2 แบบ คือ น้ำจิ้มงาสูตรพิเศษที่ทางร้านปรุงขึ้นมาโดยเฉพาะ ใช้งาขาวแบบเข้มข้นแล้วปรุงรสตามสูตรพิเศษ และใส่เครื่องปรุงสูตรพิเศษลงไปอีก น้ำจิ้มอีกแบบ คือ น้ำจิ้มพอนซึ เป็นน้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเป็นพิเศษ มีต้นหอม พริก และกระเทียมใส่มาให้ด้วย


    [​IMG]
    เต็มอิ่มกับชาบูชุดบูเรนโดะ

    ลิ้มรสชาบูชุดบูเรนโดะ นำผักใส่ลงไปต้มในน้ำซุป และนำเนื้อสัตว์ลงไปลวกจุ่มในน้ำซุปร้อนๆ กินแล้วอร่อยโดนใจปากที่เนื้อสัตว์มีความสด เนื้อนุ่มหวาน กินคู่กับน้ำจิ้มงาก็เข้มข้นหอมกลิ่นงาขึ้นจมูก หรือน้ำจิ้มพอนซึก็รสชาติดีออกเผ็ดนิดๆ จากพริกที่ใส่มาอร่อยถูกปากดีจริง และยิ่งได้ซดน้ำซุปชาบู ชาบู ร้อนๆ ได้กลิ่นน้ำซุปที่หอมกลิ่นขิงอ่อนๆ และรสชาติน้ำซุปหวานกลมกล่อมชุ่มชื่นโล่งคอดีแท้

    [​IMG]
    อิ่มอร่อยกับชาบู ชาบู ร้อนๆ

    เรียกว่าได้มากินชาบู ชาบู รสอร่อยกับอาหารที่มีคุณภาพเช่นนี้ แล้วช่างมีความสุขกับการกินเป็นอย่างมาก ซึ่งหากว่าแฟนๆ นักกินที่ชื่นชอบการกินชาบู ชาบู รสชาติดี และมีของคุณภาพมากมายให้ได้ลิ้มลองแบบนี้ ก็อยากแนะนำให้มากันได้ที่ร้าน“Burendo” แห่งนี้ ขอบอกเลยว่าไม่มีคำว่าผิดหวังอย่างแน่นอน

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    “Burendo” (บูเรนโดะ) ตั้งอยู่ที่ 430/11-2 สยามสแควร์ซอย 10 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม . การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าBTS ให้ลงที่สถานีสยามสแควร์ แล้วเดินมาที่สยามสแควร์ซอย 10 จะเห็นร้าน Burendo ตั้งอยู่ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. โทร. 0-2251-7557

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “Burendo” (บูเรนโดะ)
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000003747-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มกราคม 2556 11:34 น.

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : Burendo (บูเรนโดะ)

    ประเภทอาหาร : อาหารญี่ปุ่น

    เมนูจานเด่น : ชุดบูเรนโดะ, บุฟเฟต์ชาบู

    บรรยากาศร้าน : ห้องแอร์นั่งสบาย โต๊ะนั่งเป็นแบบเคาน์เตอร์

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 430/11-2 สยามสแควร์ซอย 10 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม . การเดินทางถ้านั่งรถไฟฟ้าBTS ให้ลงที่สถานีสยามสแควร์ แล้วเดินมาที่สยามสแควร์ซอย 10 จะเห็นร้าน Burendo ตั้งอยู่ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

    สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ภายในสยามสแควร์

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : 0-2251-7557
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    รีวิวร้าน บ้านแพรว
    -http://www.trendzap.com/reviews/797-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%A7-%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8B%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B5%E0%B8%99?utm_campaign=TZ&utm_source=SFirstpage&utm_medium=galleryzone-


    [​IMG]

    เมื่อวันก่อนเข้ากรุงเทพฯ ไปประชุมแล้วก็ไปพักอยู่ที่หอน้องชายตรงซอยโยธินพัฒนา 3 ก่อนจะกลับหิวกินอะไรดีฟ่ะเช้าอยู่ด้วย ไม่รู้ว่าเพื่อนๆ จะเป็นเหมือนผู้เขียนหรือเปล่านึกอะไรไม่ออกเข้าโฟวสแควร์ดูเช็คอิน ว่าบริเวณรอบๆ ตัวเราเนี่ยมีที่ไหนคนมาใช้บริการเยอะมั้ง หลังๆ ผู้เขียนใช้วิธีนี้บ่อยมาก จึงมักจะไม่ค่อยพลาดร้านอร่อยเท่าใดนัก เนื่องจากเลือกจากปริมาณการเช็คอินนั่นเอง แล้ววันนี้ก็เช่นกันจิ้มๆๆ เอ้ย.. มีร้านอร่อยบานเลย ทำไมน้องมันไม่บอกตรูฟ่ะ เอ๊ะหรือว่าไม่ได้ถามหว่า .. ขับรถหาเลยมีร้านหนึ่งเค้าเช็คอินว่า "ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่ตุ๋นหมูตุ๋น" แต่พอมาถึงหน้าร้าน เค้ามีชื่อเหอะ ร้านนี้ชื่อว่า "บ้านแพรวไก่ตุ๋นหมูตุ๋น"

    [​IMG]

    หากเข้าทางโยธินพัฒนา 3 ก็ให้ตรงมาจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายมาอีกประมาณ 200 เมตรก็จะเจอร้านแล้วค่ะ หากเลยไปถึงร้านเพ้อเนี่ยแสดงว่าเลยแล้วนะคะย้อนกลับมาค่ะ ร้านอยู่ติดถนนเลยค่ะมีป้ายสังเกตุไม่ยากค่ะ เอาล่ะตามผู้เขียนเข้าไปในร้านกันเลยค่ะ

    [​IMG]

    ตอนนี้ก็ประมาณสิบโมงเช้าคนยังไม่ค่อยเยอะค่ะ พอเลือกที่นั่งได้ก็สั่งอาหารเลยค่ะ ป้าด..หันไปเห็นป้ายราคาไม่ถูกเลยนะเนี่ย ก็เลยสั่งเกาเหลาสองตุ๋นมาค่ะ จะได้ชิมทั้งไก่ตุ๋นและหมูตุ๋นเลยทีเดียว ผู้เขียนแอบสังเกตุเห็นคนเข้ามากันเรื่อยๆ นะคะส่วนใหญ่ก็เป็นครอบครัว มาเด็กๆ มาทานด้วยก็จะสั่งกุ้งชุปแป้งทอดไว้ให้ทานเล่นด้วยล่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    มาแล้ววว... ก๋วยเตี๋ยวสองตุ๋นน่ากินเชียวค่ะ น้ำก๋วยเตี๋ยวเนี่ยเข้มข้นเชียว หมูตุ๋นไก่ตุ๋นก็ไม่ต้องพูดถึงความเปื้อยมานิ่มเชียวแหละทานง่ายเลย เค้าเสริฟ์พร้อมจานใส่กระดูกด้วยล่ะ แหม.. เตรียมพร้อมให้ดีจัง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ผู้เขียนปกติเป็นคนทานอาหารไม่ปรุงอยู่แล้ว เนื่องจากหากปรุงมันก็จะไม่รู้ว่าเค้าทำอร่อยหรือเราปรุงอร่อยกันแน่ แต่หันไปเห็นพริกคั่วก็เลยลองใส่เสียหน่อย แม่เจ้า.. ใส่ไปนิดเดียวเผ็ดมาก ดีนะไม่ใส่ช้อนใหญ่ๆ ดังนั้นหากใครมาทานอย่าเพิ่งใส่พริกตูมเดียวนะคะ ค่อยๆ ใส่นี่คือคำเตือนเพราะเผ็ดมากค่ะ โดยรวมแล้วเรื่องรสชาติอร่อยค่ะ แต่แอบแพงไปหน่อยง่ะ ..

    By Patthanid C.

    บ้านแพรว ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นไก่ตุ๋นสูตรยาจีน - รีวิว บ้านแพรว : Trendzap.com
    .
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูมสำราญทอง ก๋วยเตี๋ยวเรือใส่ไข่มะตูมเจ้าแรกในไทย
    -http://travel.sanook.com/1193857/%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8D%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AA%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%83/-

    [​IMG]

    ปกติเห็นแต่ก๋วยเตี๋ยวเรือชามเล็ก ใส่เครื่องแบบเบา ๆ แต่เจ้านี้จัดหนักใส่เครื่องแบบจัดเต็ม We Recommend ได้ยินว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าแรกที่ใส่ไข่มะตูมด้วย จึงไม่รอช้ารีบไปพิสูจน์ความอร่อยกันค่ะ

    ก๋วยเตี๋ยวเรือฟิวชั่น

    ร้านมี 2 ชั้น ขนาดไม่ใหญ่มาก มีเรือทำก๋วยเตี๋ยวตั้งโดดเด่นอยู่หน้าร้าน ตกแต่งด้วยโต๊ะเก้าอี้ไม้ง่าย ๆ ว่าแล้วก็อย่ารีรอ เพราะกลิ่นของน้ำซุปช่างหอมยั่วยวนเหลือเกิน กับเมนูสร้างสรรค์สไตล์ก๋วยเตี๋ยวเรือฟิวชั่น ที่เอารสชาติของน้ำซุปดั้งเดิม มาใส่ลูกเล่นด้วยวัตถุดิบที่เข้าสมัย อย่างไข่มะตูม คล้าย ๆ ใส่ในราเมนญี่ปุ่น หรือใส่เกี๊ยว หมูชาบู และเนื้อน่องลาย พร้อมเสิร์ฟไซส์ใหญ่ ชามเดียวอิ่มแน่นอนค่ะ

    [​IMG]

    สูตรเด็ดความอร่อยอยู่ที่น้ำซุปเข้มข้น ส่งกลิ่นหอมมาแต่ไกล และวัตถุดิบคุณภาพดี แถมยังหมักหมูหรือเนื้อก่อนมาใส่ในก๋วยเตี๋ยว เพื่อรสชาติที่ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่ามาแล้วต้องลอง ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูม (50 บาท) ใส่ไข่มะตูมเยิ้ม ๆ เพิ่มความมันอร่อยให้กับก๋วยเตี๋ยว ซึ่งสามารถใส่ไข่เพิ่มกับเมนูอื่นได้ด้วย พร้อมเลือกใส่หมูสด หมูตุ๋น ลูกชิ้นหมู และเลือกเส้นได้ อีกเมนูสร้างสรรค์ ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูชาบู (60 บาท) ใช้หมูสันนอกเกรดเอสไลด์บาง รสนุ่มละมุน หรือ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน่องลาย(45 บาท) เหมาะสำหรับคนชอบเนื้อ เป็นเนื้อส่วนหายากของน่องวัว มีเอ็นกรุบกรอบแทรกอยู่ หรือลอง มาม่าเรือต้มยำจัมโบ้ (50 บาท) ใส่เครื่องปรุงรสชาติต้มยำของมาม่าจริง ๆ ผสมน้ำก๋วยเตี๋ยวเรืออีก รสเข้มข้นจัดจ้าน และเมนูสร้างสรรค์ใหม่ล่าสุด เกี๊ยวเรือ (45 บาท) เป็นเกี๊ยวไส้หมูสับทรงเครื่องใส่ในน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือ น่าลิ้มลองค่ะ

    [​IMG]

    ที่นี่ยังมีเมนูทานเล่นที่หลายคนติดใจ กากเจียว (15 บาท) โดยเลือกส่วนมันหมูมาทอดจริง ๆ ทอดใหม่่วันต่อวัน ไม่มีเหม็นหืนแน่นอน และ ลูกชิ้นปิ้ง (ชุดละ 40 บาท) ทานได้เพลิน ๆ ปิดท้ายด้วย เฉาก๊วยโบราณ (20 บาท) ที่ใช้น้ำตาลอ้อยแทนน้ำเชื่อม ส่งกลิ่นหอมหวาน ใครอยากมาลองก๋วยเตี๋ยวเรือแนวใหม่ ร้านตั้งอยู่ในซอยจุฬา 50 บริเวณสามย่านเก่า ตรงข้ามจามจุรีสแควร์ มาทานกันให้อิ่มหนำสำราญท้องกันไปเลยค่ะ

    Recommended Dishes

    ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูม
    ก๋วยเตี๋ยวเรือหมูชาบู
    ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน่องลาย
    มาม่าเรือต้มยำจัมโบ้
    เกี๊ยวเรือ
    กากเจียว

    ที่ตั้ง: 270 ซ.จุฬา 50 (สามย่านเก่า) แขวงวังใหม่ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330

    โทร: 088-971-6074

    เวลาเปิดบริการ: ทุกวันเวลา 08.00-21.00 น.

    ราคาต่อท่านโดยประมาณ: ต่ำกว่า 100 บาทต่อคน

    สัญชาติอาหาร: ไทย

    ประเภทอาหาร: ก๋วยเตี๋ยว-บะหมี่, สุกี้-ชาบู

    รูปแบบการให้บริการ: ร้านอาหารทั่วไป

    เหมาะสำหรับ: ครอบครัว

    ที่จอดรถ: ลานจอดรถบริเวณสามย่านและริมถนน

    facebook Page: -http://www.facebook.com/3ranthong-

    ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่มะตูมสำราญทอง ก๋วยเตี๋ยวเรือใส่ไข่มะตูมเจ้าแรกในไทย

    .
     
  12. Amata_club

    Amata_club เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    27,079
    ค่าพลัง:
    +52,187
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “โคตรพิเศษ-เฉี่ยวนรก” เมนูสร้างชื่อ...บะหมี่จอมพลัง
    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366366624&grpid=01&catid=&subcatid=-


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366366624&grpid=01&catid=&subcatid=-


    แม้งานหน้าร้านจะรัดตัวเต็มที แต่ คุณแนน-อรอมล จงเจริญ วัย 21 ปี เจ้าของกิจการ “บะหมี่จอมพลัง” ซึ่งกำลังเด่นดังในหมู่นักชิมผู้นิยมชมชอบความ “อลังการ” ยังกรุณาสละเวลามาให้ข้อมูลด้วยน้ำเสียงสดใส


    เริ่มต้นความเป็นมาว่า กิจการนี้ มีสองหุ้นส่วนสำคัญ คือตัวเธอและแฟนหนุ่ม คือ คุณกัณ-กัณฐัศว์ พงษ์ไพบูลย์เวชย์ อายุ 23 ปี ระหว่างที่คบหากันได้ 1 ปี อยากมีกิจการของตัวเอง จึงชวนกันไปเดินเล่นแถวตลาดนัดจตุจักร


    ช่วงนั้นเองมีรุ่นพี่คนหนึ่ง มาเสนอแผงให้ทดลองทำค้าขาย เลยตกลงและตัดสินใจ ทำ “เปาะเปี๊ยะทอด” ออกขายในสัปดาห์ถัดมา




    “ไม่มีฝีมือทำอาหารมาก่อน อาศัยเป็นคนชอบทำ ชอบทาน และชอบดูรายการโทรทัศน์ญี่ปุ่น ที่มักมีการทานอาหารจานโตๆ เปาะเปี๊ยะทอด ที่ทำขายตอนนั้น จึงมีขนาดใหญ่กว่าที่ขายกันทั่วไป” คุณแนน ย้อนให้ฟัง


    ขายอยู่ได้ 3 เดือนเศษ เห็นท่าไปไม่ไหว เพราะยอดตก แถมเจ้าของที่กำลังจะขึ้นราคาค่าเช่าอีก เลยบอกเลิกเช่าแผง แต่ต้องมานั่ง “กุมขมับ” กันทั้ง 2 คน เพราะเงินที่นำมาลงทุนนั้น ขอยืมทางบ้านมาถึง 15,000 บาท


    ระหว่างขับรถกลับบ้านด้วยความเครียด เห็น “ตลาดนัดรถไฟ-สวนจตุจักร” เพิ่งเปิดทำการ จึงชวนกันแวะเข้าไปดูเผื่อมองหาลู่ทางทำมาหากินอะไรได้บ้าง



    กระทั่งเห็นคนยืน “ต่อคิว” เป็นแถวยาว เข้าไปสอบถาม จึงทราบกำลังรอจับสลากสิทธิ์แผงค้าภายในตลาด เลยเข้าคิวต่อบ้างแต่ไม่ทัน โชคยังดีมีคนมาสะกิดขายต่อให้ เพราะเขาไม่ถนัดเรื่องขายอาหาร เลยซื้อต่อไว้ 1 ล็อก


    จากนั้นจึงนำ “เปาะเปี๊ยะทอด” ชิ้นโต มาขายอีก แต่ขายไม่ดี มียอดขายแค่วันละ 1,000 กว่าบาท เดือนถัดมาจึงเข้าคิวจับสลากแผงค้าอีก ทำให้มี 2 แผงค้าแต่ไม่อยู่ติดกัน เลยไปขอแลกกับเจ้าของแผงข้างๆ จนทำให้มี 2 แผง พื้นที่ 4x4 ตารางเมตร อยู่ในความรับผิดชอบ


    เมื่อมีพื้นที่ค้าขายกว้างขวางขึ้น หากยังคงเป็นเปาะเปี๊ยะทอดอยู่เหมือนเดิม รายรับคงขยับช้าไม่ทันกับรายจ่าย สองหนุ่มสาวเจ้าของกิจการ จึงหารือกันว่าน่าจะนำอาหารประเภทอื่นที่ได้กำไรมากกว่ามาขาย


    คุณแนน เล่าให้ฟังต่อ พอกลับไปบ้าน เห็นอุปกรณ์ค้าขายของคุณแม่ของแฟนหนุ่ม ประกอบด้วย หม้อก๋วยเตี๋ยว เตาแก๊ส ฯลฯ วางเรียงราย จึงได้ไอเดีย ทำอาหาร “จานหลัก” ขายน่าจะดีกว่า แต่ว่าจะเป็นอะไรนั้นยังไม่ได้ข้อสรุป


    “เรา 2 คนชอบกินบะหมี่ เลยคิดว่าขายราเม็งดีมั้ย แต่คิดไปคิดมา ต้นทุนคงสูงและเราไม่มีทุนเหลือพอขนาดนั้น จึงคิดหันมาขายบะหมี่-หมูแดงดีกว่า เพราะคนกินกันมาเป็นร้อยปีแล้ว” คุณแนน เล่าถึงจุดเริ่มสำคัญเมื่อราว 1 ปีที่ผ่านมา


    ร้านบะหมี่ของสองหนุ่มสาว ตั้งต้นด้วย โต๊ะไม้ 4 ตัว เก้าอี้ซักผ้าที่บ้าน 2-3 ตัว เสื่อ 2 ผืน ยังไม่มีชื่อร้าน ปรากฏสัปดาห์แรกยอดขายไม่หวือหวา เลยต้องมานั่งทบทวนกันใหม่


    “ตอนนั้นต้องรีบใช้หนี้ เลยอยากให้ลูกค้ารู้จัก อยากให้ร้านเรามีความสุดๆ เพื่อกระตุ้นยอดขาย จึงปรึกษากัน บะหมี่ใส่ไข่ด้วยมั้ย ไก่มันแมตช์กับบะหมี่มั้ย ปูใส่แค่เนื้อไม่เท่ ใส่ไปทั้งตัวเลยดีมั้ย คืออยากให้อาหารของเรามีความเป็นศิลปะ มีความหลากหลาย และแปลก-ใหม่ เพื่อดึงดูดความสนใจ” คุณแนน เล่าด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม






    และระหว่างวันธรรมดาที่ยังไม่ได้เปิดร้าน จึงช่วยกันคิด แบรนด์ของตัวเอง กระทั่งคุณกัณปิ๊งคำว่า “บะหมี่จอมพลัง” เพราะทั้งสองหุ้นส่วนชอบออกกำลังกายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว


    “บะหมี่ของเรามีแนวคิดให้เยอะมาตั้งแต่แรก เพราะอยากให้ลูกค้าได้ทานของอร่อยและปริมาณสมราคา พอมาตั้งชื่อเป็นบะหมี่จอมพลัง มีเครื่องเคียงมากขึ้น จึงตั้งราคาขาย ชามละ 50 บาท 100 บาท และเมนู โคตรพิเศษ ชามละ 200 บาท” คุณแนน อธิบาย


    การเปลี่ยนแปลงดังว่าสามารถดึงลูกค้าเข้ามาได้เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่ถึงขั้น “บูม” อย่างทุกวันนี้ และระหว่างนั้นสองหนุ่มสาวเจ้าของกิจการ ยังไม่ “หยุดคิด” พยายามเสาะหาอุปกรณ์หรือไอเดียใหม่ๆ มาใส่ร้านตลอด


    โดยช่วงไปเดินตลาดย่านเยาวราช เห็นชามลายจีนใบเขื่อง เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12 นิ้ว วางขาย จึงซื้อมาไว้จำนวนหนึ่ง ก่อนนำมาใส่บะหมี่และเครื่องเคียงจนเต็มชาม ตั้งชื่อเมนู “โคตรพิเศษแบบใหม่” ขายชามละ 300 บาท


    คุณแนน เล่าต่อ หลังจาก “โคตรพิเศษแบบใหม่” ออกมา ปรากฏลูกค้าให้ความสนใจกันมาก เข้ามาอุดหนุนแล้วไม่ลืมถ่ายภาพก่อน “อัพเฟซ” กันยกใหญ่ ต่อมาไม่นานมีรายการโทรทัศน์หลายแห่งมาติดต่อขอถ่ายทำ


    แม้ “โคตรพิเศษแบบใหม่” จะเรียกลูกค้าได้ดีพอสมควร แต่ลูกค้ามักทานเหลือกันแทบทุกราย เลยคิดจัดโปรโมชั่น “5 นาทีทรมาน” แข่งขันทานเมนูดังว่า โดยตั้งกติกา คน 3 คน ใช้เวลา 5 นาที ทานหมดได้ หากพาใครมาไม่ต้องจ่ายเลยทั้งโต๊ะ


    “โปรโมชั่นนี้ ได้ผลดีเกินคาด คนสนใจมากขึ้นกว่าเดิม ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น บางคนพาพ่อแม่มาทาน มาจัดงานวันเกิดที่ร้าน ถ่ายวิดีโอ ลงเฟซบุ๊กบ้าง ยูทูบบ้าง จนมีสื่อขอมาถ่ายทำกันมาก” คุณแนน เล่า น้ำเสียงเหมือนยังตื่นเต้นอยู่


    ถึงกิจการจะเริ่มเป็นที่รู้จักพอสมควรแล้ว แต่เจ้าของกิจการยังไม่ยอมหยุดนิ่ง หากมีเวลาว่างเป็นต้องเดินตลาด หาไอเดียอยู่เสมอ จนวันหนึ่งไปเจอร้านขายจานกำลังจะ “ทุบทิ้ง” ชามสีดำก้นลึก ใบใหญ่มาก รูปทรงแปลกตา


    จึงเข้าไปถามไถ่ได้ความ เขาสั่งนำเข้ามาขาย แต่ลวดลายและขนาดผิดสเปก ใช้ไม่ได้จึงจะทำลายทิ้ง ทั้งสองจึงออกปากขอซื้อเหมาหมดทั้ง 40 ชาม ก่อนมานั่งคิดกันต่อจะทำยังไงกับชามดังว่าดี


    สุดท้ายได้ข้อสรุป จะนำมาใส่บะหมี่พร้อมเครื่องเคียง ตั้งราคาขายชามละ 700 บาท ตั้งเป็นเมนูใหม่ ให้ชื่อว่า “เฉี่ยวนรก”


    “ที่ทำของแบบนี้ออกมาขาย เพราะอยากให้คนมาทานมีความอบอุ่น ได้ทานอาหารด้วยกัน มีความสนุกแบบเพื่อน สุมหัวกันทานโดยไม่จำเป็นต้องไปร้านเหล้า” คุณแนน บอกจริงจัง


    และว่าออกเมนู “เฉี่ยวนรก” ไม่เท่าไหร่ ยอดขายดีกว่าเดิมอีก อาจเป็นเพราะ มีความแปลก-ใหม่ ทำให้วัยรุ่นสนใจ ทานแล้วก็ถ่ายรูปส่งให้กัน เป็นการกระจายข่าวให้คนรู้จักเร็วขึ้น


    คุณแนน เล่าด้วยว่า เปิดกิจการมาได้ประมาณ 1 ปี มีคนติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์แล้วไม่ต่ำกว่า 30 ราย แต่ยังไม่อยากขาย กลัวเขาทำไม่ได้แบบเรา เพราะอาหารจะขายดี ไม่ใช่แค่ความอร่อยเท่านั้น ต้องมีบรรยากาศ การบริการ ความเป็นกันเองของเจ้าของร้าน ประกอบด้วย


    ก่อนจากกันไป ถามไถ่ถึงโปรโมชั่นใหม่จะมีออกมาอีกมั้ย คุณแนนยิ้มกว้าง ก่อนบอกส่งท้าย


    “ต้องมีแน่นอน เพราะตอนนี้ได้ข่าวว่ามีคนลอกเลียนแบบกันเยอะมาก ทั้งในกรุงเทพฯ-ต่างจังหวัด อีกทั้งเด็กยุคใหม่แจ้งเกิดใหม่กันทุกวัน เราคงหยุดนิ่งแค่นี้ไม่ได้”

    “โคตรพิเศษ-เฉี่ยวนรก” เมนูสร้างชื่อ...บะหมี่จอมพลัง : มติชนออนไลน์

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “บะหมี่จอมพล” สั่ง หนึ่ง อิ่มถึง สิบ
    -http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366366117&grpid=01&catid=&subcatid=-

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    สดุจตา เรื่อง / รูป




    พนักงานเสิร์ฟแห่งภัตตาคาร “เชียงการีล่า คิทเช่น” บัดนี้แปลงกายอยู่ในชุดจอมพล เดินแบกเกี้ยวเทียมบ่า นำพาเมนู มาส่งถึงโต๊ะลูกค้า พร้อมกับเอ่ยวาจา “บะหมี่จอมพล อร่อยคุ้มค่า กินแล้วซู่ซ่า ห้าห้าห้าห้า”


    สิ้นเสียงอันทรงพลัง เสียงปรบมือก็ดังก้องขึ้นแทนที่ พร้อมๆ กับสายตาของลูกค้าที่ไม่เฉพาะผู้สั่งซื้อเท่านั้น แต่หมายรวมไปถึงทุกโต๊ะอาหาร ต่างจับจ้องมาที่เมนูอลังการที่มีชื่อว่า “บะหมี่จอมพล”

    บะหมี่จอมพล คือเมนูเด่นประจำภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ที่เปิดตัวมาถึงวันนี้ราว 8 ปีแล้ว และยังคงครองใจผู้บริโภคได้ด้วยขนาดของชาม คุณภาพวัตถุดิบ และสำคัญคือรสอร่อย


    ดังได้เกริ่นบอกไว้แล้วว่า บะหมี่จอมพล คือเมนูเด่นที่ต้องเรียกว่ายังฮิตติดตลาดของภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ซึ่งนิตยสารเส้นทางเศรษฐี ก็เคยนำเสนอเรื่องราวของภัตตาคารแห่งนี้กันมาแล้ว ฉะนั้น ฉบับนี้จึงขอเกริ่นกล่าวแนะนำกันพอหอมปากหอมคอ แล้วค่อยมาเจาะประเด็นกันที่เมนูเด่นประจำร้าน


    เชียงการีล่า คิทเช่น คือ ภัตตาคารขนาดเล็กย่อส่วนมาจากภัตตาคารเชียงการีล่า เปิดตัวมาได้กว่า 10 ปีแล้ว โดยจุดมุ่งหมายของการเปิดบริการก็เพื่อขยายฐานลูกค้าลงมาสู่ผู้บริโภคระดับกลางมากขึ้น แต่จะยังคงเสิร์ฟเมนูคุณภาพด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศเช่นภัตตาคารเชียงการีล่า


    ฉะนั้น หากต้องการลิ้มรสเมนู หูฉลาม เป๋าฮื้อ กุ้งมังกร กระเพาะปลา เป็ดย่าง แต่มีสตางค์ในกระเป๋าไม่มากนัก ก็สามารถเข้ามาอิ่มอร่อยในภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ได้

    สาขาแรกของเชียงการีล่า คิทเช่น เปิดอยู่ย่านสีลม ใกล้กับบีทีเอส สถานีช่องนนทรี กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ เปิดตัวกับสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ
    สำหรับประเภทเมนูเน้นอาหารจานด่วน อาหารชุด ติ่มซำกว่า 40 รายการ และหนึ่งในเมนูสามารถเรียกลูกค้าได้ดี คือ บะหมี่จอมพล ซึ่ง คุณบัญชา พจชมานะวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ภัตตาคารแกรนด์เชียงการีล่า จำกัด บอกว่าเปิดตัวขึ้นมาเพื่อสร้างความแปลกใหม่ให้กับภัตตาคารอาหารจีน ซึ่งในขณะนั้นถ้าจะมองหาเมนูจานใหญ่ ยังถือว่าแทบมองไม่เห็น


    บะหมี่จอมพล
    เสิร์ฟคนกลุ่มใหญ่


    ภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น จึงงัดกลยุทธ์นี้มาใช้เรียกลูกค้าได้ราว 8 ปีแล้ว ซึ่งกับเมนูบะหมี่จอมพลนี้ยังเป็นที่ถูกอกถูกใจลูกค้าที่มานั่งกลุ่มใหญ่ตั้งแต่ 8-10 คนขึ้นไป


    “แนวคิดแรกกับการทำเมนูบะหมี่จอมพลขึ้นมา เพราะต้องการสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้าเข้าร้านก่อน ดึงดูดด้วยความแปลกใหม่ เพราะถ้าพูดถึงภัตตาคารหรือร้านอาหาร ยังแทบมองไม่เห็นว่าใครจะนำกลยุทธ์นี้มาใช้ เราจึงลองทำดู”


    ถือว่าได้ผล เพราะเพียงเปิดตัวบะหมี่จอมพลไม่นาน ลูกค้าทั้งขาประจำ และขาจร ต่างให้ความสนใจอยากลิ้มรส แม้ในขณะนั้นจะมีราคาอยู่ที่ชามละประมาณ 500 กว่าบาท กระทั่งขยับมาเป็น 600 กว่าบาท และจนถึงวันนี้ชามละ 999 บาท ซึ่งกับราคาที่สูงขึ้นนี้มาพร้อมคุณภาพที่ผู้ผลิตว่าไม่เอารัดเอาเปรียบ โดยเปลี่ยนจากเนื้อปู มาเป็นกุ้งมังกรตัวใหญ่ยักษ์น้ำหนักไม่ต่ำกว่า 6-7 ขีด


    “ตอนที่ใส่เนื้อปู เรามองว่ายังไม่สามารถเรียกลูกค้าได้มากนัก กระทั่งมาเปลี่ยนเป็นกุ้งมังกร คราวนี้ฮือฮามาก ลูกค้าเห็นแล้วตื่นตาตื่นใจ กุ้งตัวโตเต็มชามขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 30 เซนติเมตร พร้อมกันนั้นยังใส่เห็ดหอม เป๋าฮื้อ เนื้อปลา หมูแดง ลงไปเพิ่มความหลากหลาย ให้สมกับราคาตั้งไว้”
    ในส่วนของบะหมี่เส้นเหนียวนุ่ม ตำรับนี้ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นสูตรเฉพาะของภัตตาคาร โดยคุณบัญชา ว่า เฉพาะน้ำหนักของบะหมี่ประมาณ 4-5 ขีด บวกน้ำซุปรสละมุนลิ้น


    ไม่เพียงใจใหญ่ในเรื่องวัตถุดิบ และความพิถีพิถันในคุณภาพ แต่รสชาติก็ให้ความสำคัญเป็นอันดับ 1 ซึ่งคุณบัญชา ว่า ถ้าไม่มีสิ่งนี้ก็คงไม่สามารถเรียกยอดขายได้ถึงวันละ 10 ชาม ต่อวันต่อสาขา


    ขนาด ไม่ใช่กลยุทธ์การมัดใจลูกค้า แต่ภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ยังเติมต่อความประทับใจ ด้วยวิธีเสิร์ฟที่แปลกไปจากเมนูอื่น โดยจะให้พนักงานเตรียมความพร้อมสวมใส่ชุดจอมพล แบกเกี้ยวเทียมบ่า นำพาเมนูบะหมี่จอมพลมาหยุดตรงโต๊ะลูกค้า พร้อมกับเปล่งเสียงกังวาน กับถ้อยคำที่ได้เกริ่นไว้ในข้างต้น และนี่จึงน่าจะเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ที่แฝงไว้ด้วยกลยุทธ์การโฆษณาภายในร้าน ที่เชื่อว่าจะก่อเกิดการซื้อขาย กลับกลายเป็นการบอกต่อไปในอนาคต


    จากยอดขายที่มีมาอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ จึงเชื่อว่า บะหมี่จอมพล คงไม่ใช่แค่กลยุทธ์สร้างกระแสเรียกลูกค้าเฉพาะช่วงเริ่มต้น แต่ทว่าเมนูนี้กลับกลายเป็นเมนูหมายปอง ที่ใครมาภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ก็ขอสักครั้งให้ได้ลิ้มชิมรส


    ภัตตาคารเชียงการีล่า คิทเช่น ตั้งอยู่ สีลม (BTS ช่องนนทรี) สอบถามได้ที่ โทรศัพท์ (02) 636-6840-1
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ยลย่านเก่า อิ่มอร่อย “กวยจั๊บโบร่ำโบราณ” ที่ย่านสามแพร่ง
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000049145-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 เมษายน 2556 14:41 น.

    [​IMG]
    กวยจั๊บโบร่ำโบราณ ย่านสามแพร่ง
    เมื่อพูดถึงสามแพร่ง สำหรับบางคนอาจจะนึกไปถึงภาพยนตร์เรื่อง 3 แพร่ง หรือทางสามแพร่งต่างๆนานา แต่ 3 แพร่งของเราในวันนี้ บรรดานักชิมทั้งหลายคงแทบจะไม่มีใครที่ไม่รู้จัก..

    “แพร่งภูธร แพร่งนรา และ แพร่งสรรพสาตร์” ที่อยู่ระหว่างถนนตะนาวและถนนอัษฎางค์ หรือที่คนแถวนั้นเรียก กันว่า "สามแพร่ง" หรือ "ย่านแพร่ง" ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆกับเสาชิงช้า (คลิกอ่านเรื่องกินย่านเสาชิงช้าที่นี่-http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000034579-)

    [​IMG]
    ห้องแถวไม้สองชั้นที่เรียงรายในย่านสามแพร่ง
    “สามแพร่ง” ถือเป็นย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร เพราะที่นี่มีร้านรวงมากมายให้เราได้เลือกสรรกันอย่างตามใจชอบ นอกจากชื่อเสียงในเรื่องของอาหารแล้ว ย่าน "สามแพร่ง" ยังเต็มไปด้วยบรรยากาศของกรุงเทพฯ ในสมัยก่อน โดยจะสามารถสัมผัสได้จากห้องแถวไม้สองชั้นที่เรียงรายตลอดสองข้างทาง รวมถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านในย่านนี้ที่อยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยก่อน มาจนถึงปัจจุบัน (คลิกอ่านเรื่องท่องเที่ยวย่านสามแพร่งที่นี่-http://manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000048781-)

    [​IMG]
    ร้านกวยจั๊บตั้งอยู่ระหว่างแพร่งนราและแพร่งสรรพสาตร
    และเมื่อมาถึงสามแพร่งทั้งที เราก็ไม่พลาดจะสรรหาของอร่อยลงท้อง โดยมาเริ่มกันที่ร้าน “กวยจั๊บโบร่ำโบราณ” ตั้งอยู่ระหว่างแพร่งนราและแพร่งสรรพสาตร บริเวณถนนตะนาว โดยร้านนี้ขายมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 (เรียกได้ว่ารุ่นเก่าของจริง) เมื่อมาถึงจะได้กลิ่นหอมของน้ำซุปเตะจมูกมาแต่ไกล เส้นกวยจั๊บนุ่มกำลังดี เสิร์ฟคู่กับหมูกรอบ เลือดหมู ไส้หมู เต้าหู้ และไข่ต้ม โรยหน้าด้วยผักชี รสน้ำซุปหอมหวาน กลมกล่อมจริงๆ ส่วนใครที่ไม่ชอบเส้นกวยจั๊บ ทางร้านก็ยังมีเส้นหมี่ และเส้นมาม่า ให้เลือกกันตามชอบอีกด้วย สนนราคาชามละ 30 บาท พิเศษ 35 บาท โทร.08-1839-0227

    [​IMG]

    “ขนมเบื้องแพร่งนราเจ้าเก่า” ในซอยแพร่งนรา
    หลังจากอิ่มอร่อยกับกวยจั๊บกันไปแล้ว จากนั้นเดินเข้ามายัง “แพร่งนรา” จะมาเจอกับร้าน “ขนมเบื้องแพร่งนราเจ้าเก่า” ร้านนี้ตั้งอยู่ภายในซอยแพร่งนรา ตั้งขายอยู่หน้าบ้าน เมื่อเดินผ่านจะสังเกตเห็นได้ง่าย โดยมีขนมเบื้องแผ่นใหญ่ ทำกันร้อนๆบนเตาถ่าน ชวนให้น่ากิน และมีไส้ให้เลือกกัน 2 ไส้ คือ ไส้เค็ม และไส้หวาน เรื่องรสชาตินั้นก็จัดได้ว่าอร่อยทีเดียว แป้งขนาดกำลังดี เมื่อกัดเข้าไปสัมผัสได้ถึงความกรอบของแป้ง กับไส้ขนมที่หวาน-เค็มกำลังดี สนนราคาแผ่นละ 10 บาท โทร.0-2221-9364

    [​IMG]
    “ขนมไข่หงส์แม่เยาว์ (สูตรสุราษฎร์ธานี)” กรอบนอกนุ่มใน
    มาเอาใจคนชอบกินของทอดกันบ้าง ถัดจากร้านขนมเบื้องไปอีกนิดก็จะเจอร้าน “ขนมไข่หงส์แม่เยาว์ (สูตรสุราษฎร์ธานี)” ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ภายในซอยแพร่งนรา โดยจะขายขนมไข่หงส์เพียงอย่างเดียว มีทั้งไส้หวานและไส้เค็ม ไข่หงส์ที่ร้านนี้จะทอดกันร้อนๆที่หน้าร้านเลย ไข่หงส์ลูกโต แป้งกรอบนอกนุ่มใน เข้ากันดีกับไส้หวาน และไส้เค็ม รสชาติอร่อยกลมกล่อม หากใครชอบกินของทอด หรือว่าชอบกินไข่หงส์ล่ะก็ .. พลาดไม่ได้เชียว ราคานั้นก็ไม่แพง ถุงละ 20 บาท โทร.08-1948-1844

    [​IMG]
    “ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นยาจีน” รสอร่อย
    จากนั้นไปอร่อยกันต่อกับ “ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นยาจีน” เส้นก๋วยเตี๋ยวนานาชนิด ไม่ว่าจะ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ สามารถเลือกตามใจชอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำซุปหมูตุ๋น หอม หวาน ลูกชิ้นหมู เนื้อหมูตุ๋น รสชาติกลมกล่อมกำลังได้ที่ และโรยหน้าด้วยต้นขึ้นฉ่าย กับกระเทียมเจียวใหม่ๆ อร่อยอย่าบอกใคร ส่วนใครที่ไม่อยากกินเส้น ก็สามารถสั่งเป็นเกาเหลามากินกันได้ นอกจากนี้ที่ร้านยังมีข้าวราดแกงชนิดต่างๆขายอีกด้วย สนนราคาก๋วยเตี๋ยวชามละ 35 - 40 บาท ส่วนเกาเหลาชามละ 40 - 50 บาท โทร.0-2221-9364

    [​IMG]

    ร้าน “นมโจ” บริเวณแพร่งภูธร
    และปิดท้ายกันที่ “แพร่งภูธร” กับร้าน “นมโจ” ร้านนมโจตั้งอยู่บริเวณปากซอยแพร่งภูธร ที่นี่ขายน้ำมากมายหลายชนิด อย่างที่ขึ้นชื่อก็คงจะหนีไม่พ้นเมนูนม ไม่ว่าจะเป็น นมสดเย็น นมชมพู โกโก้เย็นนมสด ฯลฯ สำหรับใครที่ไม่ชอบดื่มนม ที่ร้านนมโจก็ยังมีเมนูน้ำผลไม้ต่างๆไว้คอยบริการ นอกจากจะมีเครื่องดื่มเย็นๆคลายร้อนแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูขนมปังหลากหลายไว้ให้เลือกกันตามชอบ เช่น ปังเย็นนมน้ำแดง ปังเย็นโกโก้ ปังเย็นชาเย็น เป็นต้น ส่วนราคานั้นก็ไม่แพง เครื่องดื่มราคาตั้งแต่ 20 - 30 บาท และเมนูขนมปังราคา 40 บาท โทร.08-5222-9188

    นอกจาก 5 ร้านที่กล่าวกันไปแล้ว ย่านสามแพร่ง ยังมีร้านอร่อยอีกมากมาย ที่รอให้ทุกคนไปชิมไปชมกัน หากวันหยุดที่จะถึงนี้ใครยังไม่มีโปรแกรมไปไหน ก็ลองไปเดิมชมบ้านเก่า หาของอร่อยๆกินกันได้ที่ย่านสามแพร่ง

    ********************************************************************

    การเดินทาง ถ้ามาจากสี่แยกคอกวัว แล้วตรงมาที่ถนนตะนาว(ฝั่งเสาชิงช้า) จะเห็นศาลเจ้าพ่อเสืออยู่ทางขวามือ ถัดไปจะเป็นแพร่งสรรพสาตร์ (สังเกตจากซุ้มประตูเก่า) จากนั้นจะเจอแพร่งนรา และแพร่งภูธรอยู่ติดกัน

    Travel - Manager Online - ยลย่านเก่า อิ่มอร่อย “กวยจั๊บโบร่ำโบราณ” ที่ย่านสามแพร่ง

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด” อร่อยแบบมีเส้น
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2556 14:24 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000052254-

    [​IMG]


    “ครัววันหยุด” ในอาทิตย์นี้ ชวนมาทำเมนูง่ายๆ “เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด” ชิมเส้นหมี่เหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม ออกเผ็ดเล็กน้อย (ตามแต่จะชอบ) ผักกระเฉดเคี้ยวกรอบๆ กินกันเพลินๆ

    ส่วนผสม
    เส้นหมี่อบแห้ง 180 กรัม (นำไปแช่น้ำจนนิ่ม)
    ผักกระเฉด 250 กรัม
    อกไก่ 200 กรัม
    พริก+กระเทียม ตำละเอียด
    น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ้วขาว 5 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันพืชสำหรับผัด


    [​IMG]



    วิธีทำ
    หั่นอกไก่เป็นชิ้นพอคำเตรียมไว้ก่อน ผักกระเฉดเด็ดเป็นท่อนยาวพอประมาณ ล้างทำความสะอาด ผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ เส้นหมี่น้ำไปแช่น้ำไว้จนนิ่มแล้วยกขึ้นสะเด็ดน้ำ

    ตั้งกระทะบนเตา ใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืช พอร้อนแล้วใส่พริกกระเทียมผัดพอหอม ใส่อกไก่ ผัดจนสุก ใส่เส้นหมี่ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสใส่น้ำตาลทราย น้ำมันหอย และซีอิ้วขาว ชิมรสให้ถูกปาก เสร็จแล้วใส่ผักกระเฉด ผัดพอสุก แล้วยกขึ้นตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย


    Travel - Manager Online - “เส้นหมี่ผัดผักกระเฉด” อร่อยแบบมีเส้น

    .
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “เล่าซา” ต้นตำรับลูกชิ้นปลา อร่อยอย่าบอกใคร
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2556 14:04 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000053906-

    [​IMG]
    บรรยากาศที่นั่งภายในร้าน

    ใครๆ ก็มักจะบอกว่า การที่จะหาร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่รสเด็ด อร่อยถูกใจ และไม่มีกลิ่นคาวนั้น ช่างยากเย็นเสียนี่กระไร แต่ถ้าหากว่าตามติดมากับ “ผ่านมาแวะกิน” แล้วละก็ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง เพราะที่จะพาไปชิมในมื้อนี้ ต้องยกให้ว่าเป็นร้านที่ถูกจริตเสียจริงเชียว

    ร้านนี้เขามีชื่อว่า “เล่าซา” ขายกันเฉพาะก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ที่เป็นสูตรเดียวกับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาลิ้มเล่าซา ร้านดังแห่งถนนทรงวาด ซึ่งต้องบอกว่าของเด็ดของร้านนี้ก็อยู่ที่ลูกชิ้นปลาหลากหลายชนิด อันเป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ทำเองทั้งหมด จากวัตถุดิบที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้ว
    [​IMG]
    เส้นปลาน้ำ

    เริ่มจาก ลูกชิ้นปลา จะเลือกใช้เนื้อปลาดาบยาวมาตีผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ ก่อนจะปั้นเป็นลูกกลมๆ แล้วต้มให้สุก ไม่มีการใส่สารบอแรกซ์ หรือผสมแป้งลงไปในลูกชิ้น ที่เคี้ยวแล้วลูกชิ้นเด้งดึ๋งอยู่ในปากนั้นก็เพราะกรรมวิธีการตีผสมเนื้อปลาของทางร้าน

    ส่วน ฮือก้วยทอด ก็จะใช้เนื้อปลาดาบยาวมาตีผสมกับเครื่องปรุงเช่นกัน แต่จะปั้นให้เป็นเส้นยาว นำไปต้มให้สุก แล้วทอดให้ผิวเหลืองสวยอีกครั้ง เส้นปลา จะใช้เนื้อปลาหางเหลืองมาตีผสมกับเครื่องปรุงรสแล้วค่อยนำมารีดเป็นเส้นๆ สุดท้าย เกี๊ยวปลา ใช้เนื้อปลาหางเหลืองมีตีให้เนียนด้วยมือ แล้วนำมารีดเป็นแผ่นบางๆ ไส้ในใช้เนื้อหมูปรุงรส ห่อเสร็จแล้วก็นำไปต้มให้สุก

    [​IMG]
    บะหมี่แห้ง

    เห็นลูกชิ้นปลามากหน้าหลายตามานอนเรียงกันอยู่ในตู้หน้าร้าน ก็ถึงคราวที่ต้องมาลองชิมกันเสียที ชามแรกยกให้ เส้นปลาน้ำ (60 บาท พิเศษ 80 บาท) ชามนี้จะใช้เส้นปลาแทนเส้นก๋วยเตี๋ยว ใส่ลูกชิ้นปลา ฮือก้วยทอด และเกี๊ยวปลา ส่วนน้ำซุปนั้นได้มาจากการต้มปลาผสมกับกระดูกหมู ลองชิมน้ำซุปหวานหอม รสชาติกลมกล่อมกำลังดี

    ตามมาด้วย บะหมี่แห้ง (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่เส้นบะหมี่ทางร้านก็ทำเองเช่นกัน เป็นบะหมี่ไข่ที่เหนียวนุ่มอร่อย ลวกให้สุกแล้วคลุกเคล้ากับซอสเปรี้ยวผสมเครื่องยาจีน ใส่ลูกชิ้นปลา ฮือก้วย และเกี๊ยวปลา มาพร้อมกับผักกาดหอมให้กินแกล้ม ชิมแค่เส้นบะหมี่เหนียวนุ่ม ได้ความหอมและรสชาติอร่อยจากซอสที่ปรุงมาให้แล้ว ส่วนลูกชิ้นปลาก็เคี้ยวเด้งอร่อย ไม่คาว

    [​IMG]
    เส้นใหญ่โฟ

    ส่วน เส้นใหญ่โฟ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ชามนี้ก็หน้าตาชวนกิน สีแดงโดนใจได้จากซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านปรุงเองแบบได้รสชาติมาแล้ว ทั้งเปรี้ยวหวานเค็มกลมกล่อม เข้ากันกับเส้นใหญ่ และลูกชิ้นปลาหลากหลายชนิด

    แถมท้ายให้คนชอบลูกชิ้นปลากับเมนู ลูกชิ้นลวกจิ้ม (80 บาท พิเศษ 120 บาท) ที่ใส่มาทั้งลูกชิ้นปลา ฮือก้วย และเกี๊ยวปลา กินคู่กับน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล น้ำส้มพริกตำ น้ำปลา พริกป่น และถั่วลิสงป่น ได้เคี้ยวลูกชิ้นเด้งๆ เข้ากันดีกับน้ำจิ้มที่เปรี้ยวเค็มเผ็ดจัดจ้าน

    [​IMG]
    ลูกชิ้นลวกจิ้ม

    หรือถ้าใครอยากชิมเมนูอื่นๆ บ้าง ก็ขอแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เกาเหลาสาหร่าย (50 บาท พิเศษ 60 บาท) หนังปลาแซลมอน (16 บาท) หรือจะปิดท้ายมื้ออร่อยด้วย ขนมถ้วย (คู่ละ 10 บาท) ก็ยังได้

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “เล่าซา” ตั้งอยู่ที่ 1111/16 ม.เดอะฮาบิเทท ถ.ศรีวรา ซ.ลาดพร้าว 94 แขวง-เขตวังทองหลาง กทม. การเดินทางถ้ามาจาก ถ.พระราม 9 ให้วิ่งเข้าถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา ขับตรงมาผ่าน 4 แยกประดิษฐ์มนูญธรรม แล้ววิ่งตรงมาไปกลับรถใต้สะพาน และให้ชิดซ้ายไว้เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถ.ศรีวรา (ซ.บ้านต้นซุง) ตรงเข้ามาแล้วเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือ จะเห็นหมู่บ้านเดอะฮาบิเทท ร้านตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน สามารถจอดรถได้บริเวณหน้าร้าน ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ ร้านเปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น. โทร. 08-9174-5958 ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 18/7 แยก 3 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 08-5816-6056

    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เล่าซา"
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2556 13:57 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000053905-

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : เล่าซา

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

    เมนูจานเด่น : เส้นปลาน้ำ,บะหมี่แห้ง,เส้นใหญ่โฟ,ลูกชิ้นลวกจิ้ม

    บรรยากาศร้าน : ห้องแถวโปร่งๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 1111/16 ม.เดอะฮาบิเทท ถ.ศรีวรา ซ.ลาดพร้าว 94 แขวง-เขตวังทองหลาง กทม. การเดินทางถ้ามาจาก ถ.พระราม 9 ให้วิ่งเข้าถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา ขับตรงมาผ่าน 4 แยกประดิษฐ์มนูญธรรม แล้ววิ่งตรงมาไปกลับรถใต้สะพาน และให้ชิดซ้ายไว้เพื่อเลี้ยวซ้ายเข้าถ.ศรีวรา (ซ.บ้านต้นซุง) ตรงเข้ามาแล้วเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา วิ่งตรงมาเรื่อยๆ สังเกตซ้ายมือ จะเห็นหมู่บ้านเดอะฮาบิเทท ร้านตั้งอยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน

    สถานที่จอดรถ : บริเวณหน้าร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-20.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 08-9174-5958

    ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ในซอยจันทน์ 18/7 แยก 3 เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 08-5816-6056

    .
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    "ขนมจีนทอดมันปลา" อิ่มอร่อยแบบพื้นบ้าน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 พฤษภาคม 2556 16:26 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000057267-

    [​IMG]

    ขนมจีนน้ำยาป่า แกล้มด้วยผักแนม และทอดมันปลา
    ถ้าพูดถึง “ขนมจีน” คงพูดได้อย่างเต็มปากว่า.. แทบจะไม่มีคนไทยคนไหน ไม่รู้จักก็ว่าได้

    “ขนมจีน” เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่ทำขึ้นมาจากแป้ง โดยผ่านกรรมวิธีต่างๆ ทั้งนึ่งทั้งต้ม จนกลายมาเป็นเส้นกลมๆ สีขาว เหนียวนุ่ม สามารถกินคู่กับน้ำยาต่างๆมากมาย

    ส่วนการกินขนมจีนนั้นหลักๆก็จะกินกับ น้ำพริก น้ำยา น้ำยาป่า แต่ในแต่ละภาคของเมืองไทย ก็จะกินขนมจีนที่แตกต่างกันออกไป โดยภาคใต้มักจะกินขนมจีนกับแกงไตปลา ภาคเหนือก็จะเป็นขนมจีนน้ำเงี้ยว เป็นต้น หรือถ้าใครไม่ชอบกินน้ำยา จะกินเส้นขนมจีน เหยาะน้ำปลาลงไปหน่อยๆ ก็อร่อยเหมือนกัน

    [​IMG]

    ขนมจีนน้ำพริกกินคู่กับทอดมันปลา
    ในแถบจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ มักนิยมกินขนมจีนคู่กับทอดมัน คนเพชรบุรีบางคนมักนิยมกินเส้นขนมจีนราดคู่กับทอดมันปลา แล้วราดด้วยน้ำจิ้มทอดมันแทนน้ำยาไปเลย ส่วนทางจังหวัดประจวบฯ มักกินขนมจีนราดด้วยน้ำยาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำพริก น้ำยา แนมด้วยผักต่างๆ และกินคู่กับทอดมันปลาร้อนๆ ราดด้วยน้ำจิ้มรสหวานอมเปรี้ยว และเผ็ดนิดๆ ถือเป็นอาหารพื้นบ้านอย่างหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนภูมิภาคอื่นๆ

    หากใครที่ชื่นชอบขนมจีน หรืออยากจะลองกินขนมจีนในแบบใหม่ๆ ดูบ้าง ก็สามารถไปลองซื้อ-หามากินกันได้ เพียงแค่มีเส้นขนมจีน และน้ำยาในแบบที่ชอบ กินคู่กับทอดมันปลาร้อนๆ ราดน้ำจิ้ม ก็สามารถอร่อยในแบบใหม่ๆ กันได้อีกด้วย หรือจะลองไปกินถึงถิ่นที่จังหวัดเพชรบุรี ประจวบฯ หรือแถบทางใต้ ก็ยิ่งได้รสชาติขึ้นไปอีก

    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000057267-

    Travel - Manager Online - ขนมจีนทอดมันปลา อิ่มอร่อยแบบพื้นบ้าน

    .
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    “รุ่งเรือง” ก๋วยเตี๋ยวหมูเจ้าดัง อร่อยไม่ซ้ำใคร
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000059200-
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2556 15:09 น.

    [​IMG]
    บรรยากาศภายในร้าน

    มื้อกลางวันเป็นมื้อที่คนส่วนใหญ่มักจะหาอะไรง่ายๆ มากินให้อิ่มท้อง ก่อนจะไปใช้แรงกายแรงใจในการทำงานต่อในช่วงบ่าย ซึ่งอาหารง่ายๆ ที่ว่านั้น นอกจากอาหารตามสั่งจำพวกข้าวผัด ผัดกะเพรา และสารพัดผัดแล้ว ก็ต้องมีเมนูก๋วยเตี๋ยวรวมอยู่ด้วย เพราะหากินได้ง่าย และสามารถปรุงรสชาติได้ตามชอบ

    “ผ่านาแวะกิน” ก็เลยมีร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าอร่อยมาแนะนำสำหรับคนที่อยากหาอาหารอร่อยกินง่ายๆ ซึ่งร้านนี้มีชื่อว่า “รุ่งเรือง” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 และเน้นขายเฉพาะก๋วยเตี๋ยวหมู

    [​IMG]
    เส้นเล็กต้มยำ
    ร้านนี้เขาเปิดขายมามากกว่า 50 ปีแล้ว โดยลูกค้าส่วนใหญ่ที่แวะเวียนมาชิมก็เพราะติดใจในรสชาติของก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำของที่นี่ เพราะเขาเลือกใช้แต่ของสดใหม่ คุณภาพดี อย่างน้ำซุปก็เป็นน้ำซุปต้มกระดูกหมูที่เคี่ยวจนเปื่อย แล้วก็ยังนำหมูสับที่ปรุงรสแล้วมาลวกลงไปในน้ำซุปนี้ด้วย ก็ยิ่งทำให้น้ำซุปมีรสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมชวนกินยิ่งขึ้น

    เครื่องต่างๆ ที่ทางร้านใส่มาในชามก๋วยเตี๋ยวมีทั้ง เนื้อหมู ที่เลือกเนื้อหมูส่วนขาหน้ามาต้มให้สุกแล้วหั่นเป็นชิ้นๆ ตับหมู หัวใจ และไส้หมู นำมาล้างทำความสะอาดอย่างดี นำไปต้มจนสุก แล้วค่อยนำมาหั่น มีหมูสับปรุงรสที่ลวกในน้ำซุปกระดูกหมูแล้วตีเป็นแผ่นๆ นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นปลา และฮือก้วย ซึ่งลูกค้าคนไหนชอบหรือไม่ชอบอะไร ก็สามารถเลือกได้ว่าจะใส่อะไรลงไปในชามก๋วยเตี๋ยวของตัวเองบ้าง

    [​IMG]
    บะหมี่ต้มยำน้ำและแห้ง
    สำหรับเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีให้เลือกนั้น มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ และเกี้ยมอี๋ และมีทั้งน้ำใส ต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวแห้ง ซึ่งถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้ง ทางร้านจะปรุงรสมาให้เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งยำเสร็จสรรพ ใส่ทั้งถั่วลิสงป่น พริกป่น น้ำตาลทราย และน้ำมะนาว

    ก๋วยเตี๋ยวหมูของร้านนี้ ไม่ว่าจะเป็นเส้นไหนๆ สนนราคาอยู่ที่ชามละ 40 บาท พิเศษ 50 บาท เมื่อลองชิมแล้วต้องบอกว่าอร่อยเด็ดถึงใจจริงๆ อย่างชามนี้ เส้นเล็กต้มยำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) เส้นเล็กเหนียวนุ่มกำลังดี ลูกชิ้นปลากับฮือก้วยเคี้ยวเด้งไม่คาว ส่วนเครื่องในต่างๆ ก็นุ่มอร่อยไม่เหนียว หมูสับนุ่มได้รสชาติ น้ำซุปหอม รสชาติจัดจ้านจากเครื่องปรุงที่ปรุงมาเป็นต้มยำให้แล้ว

    [​IMG]
    เกี้ยมอี๋น้ำ
    แต่ถ้าลองชิมแบบแห้งอย่าง บะหมี่แห้ง (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ก็ได้ลิ้มรสชาติความหอมอร่อยของถั่วลิสง ความเปรี้ยวหวานเผ็ดเค็มของเครื่องที่เคลือบอยู่บนเส้นบะหมี่ ส่วน เกี้ยมอี๋น้ำ (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ก็จะได้ลิ้มรสน้ำซุปต้มกระดูกที่หอมกลมกล่อม ซึ่งถ้ามาชิมก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ขอแนะนำว่าให้กินคู่กับ หนังปลากรอบ (15 บาท) เพิ่มความกรอบมันเค็มเคี้ยวเพลิน

    ตบท้ายความอิ่มหนำด้วยน้ำดื่มชื่นใจ โอเลี้ยง ลำไย และเก๊กฮวย (แก้วละ 10 บาท) ที่ทางร้านทำเองสดๆ ใหม่ๆ รสชาติหวานหอมเย็นชื่นใจ ดับร้อนดับกระหายดีนักแล

    ขอบอกว่าถ้าจะมาชิมก๋วยเตี๋ยวร้านนี้แบบสบายๆ ควรจะมาช่วงสายๆ เพราะคนยังไม่เยอะ แต่ถ้ามาในช่วงเที่ยงก็จะมีพนักงานออฟฟิศในละแวกนั้นแวะเข้ามากินกันอย่างเนืองแน่น แถมยังมีบางส่วนที่สั่งใส่ถุงกลับไปกินบ้านอีกด้วย ฉะนั้น ใครที่จะมาชิมของอร่อยก็ต้องอดใจรอกันนิดนึง ใจเย็นเข้าไว้ ของอร่อยไม่หนีไปไหน

    [​IMG]
    โอเลี้ยง ลำไย และเก็กฮวย
    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “รุ่งเรือง” ตั้งอยู่ที่ 10/3 ถ.สุขุมวิท ซ.สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 26 ไปประมาณ 100 เมตร สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน เยื้องๆ กับปั๊มน้ำมัน สามารถจอดรถได้บริเวณด้านข้างร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น. โทร. 0-2258-6746 ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ข้างๆ กัน โทร. 0-2258-6744


    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "รุ่งเรือง"
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 พฤษภาคม 2556 15:09 น.
    -http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000059194-

    [​IMG]

    ชื่อร้าน : รุ่งเรือง

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

    เมนูจานเด่น : เส้นเล็กต้มยำ,บะหมี่ต้มยำน้ำและแห้ง,เกี้ยมอี๋น้ำ,โอเลี้ยง ลำไย และเก็กฮวย

    บรรยากาศร้าน : ห้องแถว

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 10/3 ถ.สุขุมวิท ซ.สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. การเดินทางจากถนนสุขุมวิท เลี้ยวเข้าซอยสุขุมวิท 26 ไปประมาณ 100 เมตร สังเกตทางซ้ายมือจะเห็นร้านตั้งอยู่ริมถนน เยื้องๆ กับปั๊มน้ำมัน

    สถานที่จอดรถ : บริเวณหน้าร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2258-6746

    ส่วนอีกสาขาตั้งอยู่ข้างๆ กัน โทร. 0-2258-6744
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อร่อยเลือกได้ที่ 1000 เส้น

    -http://www.trendzap.com/reviews/2578-%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-1000-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B9%89%E0%B8%99-%E0%B8%81%E0%B9%8B%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B9%8B%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B9-mix-match?utm_campaign=TZ&utm_source=SFirstpage&utm_medium=travelzone-review-


    [​IMG]

    เพราะก๋วยเตี๋ยวไม่ได้มีแค่ ชิ้น สด เปื่อย และความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน จึงเป็นที่มาของร้าน 1000 เส้น ก๋วยเตี๋ยวหมูสไตล์ Mix & Match กับบรรยากาศชิลล์ๆ ให้คุณกินก๋วยเตี๋ยวเคล้าเสียงเพลงบอสซ่า กับเมนูที่เลือกเองได้อย่างจุใจ ว่าอยากจะทานเส้นแบบไหนกับท๊อปปิ้งอะไร


    [​IMG]

    เส้นเกี๊ยมอี๋ 65.-
    ปรุงรสด้วยน้ำต้มยำมะนาวสดแบบขลุกขลิก กับ Topping หมูเด้ง หมูสด หมูสับรวนและเกี๊ยวกรอบ


    [​IMG]
    สปาเก็ตตี้แห้งหมูกรอบ 75.-
    เส้นสปาเก็ตตี้ลวกกำลังพอดี ราดด้วยน้ำซอสแห้งปรุงรส ท็อปปิ้งด้วยหมูกรอบชิ้นโต


    [​IMG]
    พาสต้าเกลียวแห้งกระดูกหมูอบ 75.-
    เส้นฟูซิลี่ ราดด้วยกระดูกหมูอบสูตรเข้มขนแบบขลุกขลิก เพิ่มความหอมด้วยกระเทียมกรอบปรุงรส


    1000 เส้น ชั้น 2 โครงการสนั่นนภา ปากซอยอารีย์ (ซอยพหลโยธิน 7)

    เปิดบริการ : ทุกวัน 10:30 - 21:00

    Tel. 086-0661000

    อร่อยเลือกได้ที่ 1000 เส้น ก๋วยเตี๋ยวหมู mix & match - รีวิว 1000 เส้น : Trendzap.com

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...