เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

“ก๋วยเตี๋ยว 12 ปันนา (ต้นตำรับน้ำเงี้ยวป้าสุข)” น้ำเงี้ยวสูตรเด็ด ต้นตำรับความอร่อย <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">3 ตุลาคม 2553 16:29 น.</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศภายในร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นักกินท่านใดที่ติดใจรสชาติของอาหารเหนืออันเป็นเอกลักษณ์ ก็คงจะนึกถึงเมนู น้ำเงี้ยว เป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ และก็คงจะมีร้านเจ้าประจำอยู่ในใจด้วยเหมือนกัน สำหรับ “ผ่านมาแวะกิน” ก็เช่นกัน ร้านน้ำเงี้ยวในใจก็คือร้านป้าสุข ที่สันโค้งน้อย จ.เชียงราย

แต่ครั้งจะให้เดินทางดั้นด้นไปกินทุกคราที่อยากลิ้มลองก็ใช่ที่ จึงลองสอบถามเพื่อนฝูงดูว่า ร้านนี้มีสาขาอยู่ที่กรุงเทพฯ บ้างหรือไม่ แล้วก็ได้ความมาว่า ลูกสาวของป้าสุข คุณร่มฉัตร ประสิทธิยาพันธ์ มาเปิดร้าน ก๋วยเตี๋ยว 12 ปันนา อยู่ที่ ซ.สีลม 3 โดยใช้สูตรน้ำเงี้ยวต้นตำรับของป้าสุข

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีนน้ำเงี้ยว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เดินเข้าร้านมาก็ได้กลิ่นหอมหวนเรียกน้ำลายแล้ว อย่ารอช้าเลยดีกว่า มาเริ่มเมนูแรกด้วย น้ำเงี้ยว (35 บาท พิเศษ 45 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งเส้นขนมจีน และเส้นก๋วยเตี๋ยว ตัวเส้นขนมจีนนั้นจะเล็กกว่าร้านทั่วไป เพราะสั่งมาเป็นพิเศษ ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยวรสชาติความเหนียวนุ่มจะคล้ายเส้นใหญ่ แต่มีขนาดเท่ากับเส้นเล็ก ด้านน้ำพริกน้ำเงี้ยวสูตรเด็ดนั้นสั่งตรงมาจากเชียงราย ซึ่งก็มีส่วนผสมของพริก หอม กระเทียม ขมิ้น เกลือ กะปิ และถั่วเน่า

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวน้ำเงี้ยว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> นำน้ำพริกที่ได้ไปผัดจนหอม ใส่หมูสับ มะเขือเทศ และเลือดไก่ แล้วนำไปต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู ปรุงรสเล็กน้อย ตักราดขนมจีน หรือเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เลือกไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี และกระเทียมเจียว กินคู่กับเครื่องเคียงอย่างถั่วงอกดิบ หรือจะบีบมะนาวเพิ่มรสชาติให้จี๊ดจ๊าดก็ได้ รสชาติของน้ำเงี้ยวออกเผ็ดเล็กน้อย หอมกลิ่นกระเทียมเจียวและน้ำซุป

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ข้าวซอยหมูสับ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนอีกจานเป็นเมนู ข้าวซอย (35 บาท พิเศษ 45 บาท) ที่มีให้เลือกทั้งหมู ไก่ และเนื้อวัว ใช้พริกแกงเผ็ดมาปรุงรสเพิ่มเติม ใส่ผงกะหรี่ และเครื่องปรุงอื่นๆ เคี่ยวกับกะทิ และเนื้อสัตว์ต่างๆ โดยหมูจะใช้เป็นหมูสับ เนื้อน่องลาย ส่วนไก่จะใช้ทั้งตัวนำมาสับแยกชิ้นส่วน ให้ลูกค้าสามารถเลือกได้ แล้วเคี่ยวจนเนื้อสัตว์เปื่อยนุ่ม เวลาเสิร์ฟจะตักราดเส้นข้าวซอยที่เหนียวนุ่ม โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี หอมแดง และเส้นบะหมี่ทอดกรอบ ชิมแล้วได้รสนุ่มละมุน หอมกะทิเข้มข้น กลมกล่อม

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> อีกเมนูที่อร่อยไม่แพ้กันก็คือ ขนมจีนน้ำยาปลาช่อน (บาท) ที่ใช้เนื้อปลาช่อนแท้ๆ มาตำกับเครื่องแกงแดง และกระชาย ทำให้ได้เนื้อได้น้ำ ยามกินกับขนมจีนเส้นนุ่มแล้วรสชาติอร่อยถึงใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline"> ข้าวกั๊นจิ๊น</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แต่ถ้ายังไม่อิ่มดี ก็ต้องมาลอง ข้าวกั๊นจิ๊น หรือ ข้าวเงี้ยว (20 บาท) ที่เป็นข้าวสวยคลุกกับเลือดหมู ปรุงรส แล้วนำไปนึ่งจนสุก โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว กินคู่กับต้นหอม แตงกวา และหอมแดง ที่กินแล้วอร่อยเข้ากันดี ข้าวไม่นิ่มไม่แข็งเกินไป ได้รสกลมกล่อมของเลือดหมูและเครื่องปรุงต่างๆ อวลอยู่ในปาก

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีขนมหวานอย่าง ลอดช่องเผือก และ ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ (15 บาท) ไว้ให้เติมเต็มความอร่อยกันด้วย

คราวนี้ ถ้านึกอยากจะกินน้ำเงี้ยวอร่อยๆ สูตรต้นตำรับ ก็ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงรายแล้ว เพียงแค่แวะมาที่ร้าน ก๋วยเตี๋ยว 12 ปันนา ก็จะได้ลิ้มรสชาติอาหารเหนือกันได้อย่างสะใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ก๋วยเตี๋ยว 12 ปันนา (ต้นตำรับน้ำเงี้ยวป้าสุข) ตั้งอยู่ที่ 16/4 ซ.สีลม 3 (พิพัฒน์) ถ.สีลม แขวงสีลม เขตบางรัก กทม. การเดินทาง ถ้าเดินทางจากดุสิตธานีไปตามถนนสีลมมุ่งหน้าไปทาง ถนนเจริญกรุง ผ่านแยกคอนแวนต์ ให้สังเกตทางซ้ายมือ จะเห็น ซ.สีลม 3 (ซ.พิพัฒน์) อยู่ทางซ้าย ให้เลี้ยวเข้าซอยไปอีกประมาณ 200 เมตร จะเห็นร้านอยู่ขวามือ (ตรงข้ามกับอาคาร อาณารักษ์) ร้านเปิดวันจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 07.00-14.30 น. โทร.08-6334-1489</td></tr></tbody></table>


.

Travel - Manager Online -



.



.



.



................

 

จั่นเจากวยจั๊บ ร้านดังอัมพวา

เมื่อประมาณเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสแวะเยี่ยมเยือน อ.อัมพวา ตลาดน้ำอีกแห่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ตลาดน้ำดำเนินสะดวก เรื่อง ชายโย
เมื่อประมาณเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสแวะเยี่ยมเยือน อ.อัมพวา ตลาดน้ำอีกแห่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ตลาดน้ำดำเนินสะดวก แถมยังขึ้นชื่อเรื่องหิ่งห้อยยามค่ำคืน การเดินทางค่อนข้างสะดวกครับ จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้ามาที่ถนนพระราม 2 วิ่งตรงตามป้ายไปยัง จ.สมุทรสาคร



จากนั้นจะมีป้ายบอกทางไป อ.อัมพวา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ ก็ถึงตัวตลาดน้ำอัมพวาแล้ว ถ้ามาเที่ยววันเสาร์อาทิตย์ ผมแนะนำให้เดินออกจากกรุงเทพฯ สายๆ หน่อยก็ได้ครับ แต่ถ้ามาถึงเร็วก็ได้ที่จอดรถเร็ว ได้ล่องเรือชมปากอ่าวตอนกลางวันก่อนตลาดเปิดจริงๆ เพราะตลาดวันหยุดที่นี่จะคึกคักหลังบ่าย 3 โมงเย็นไปจนถึง 4 ทุ่ม ผมขอแนะนำอีกว่า มาแล้วให้มาล่องเรือชมหิ่งห้อยตอนกลางคืนอีกรอบ อย่ามาเพียงแค่ชมตลาดโบราณที่ให้อารมณ์คล้ายๆ ตลาดสามชุก เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่หิ่งห้อยเยอะจริงๆ ครับ ใครที่เคยมาแล้วเห็นแค่ไม่กี่ตัว มาช่วงสัปดาห์นี้รับรองมีให้เห็นเต็มต้นไม้ในหลายๆ จุด บางต้นสว่างราวกับติดไฟคริสต์มาสเลยทีเดียว



หลังกลับจากชมหิ่งห้อยแล้ว ก็ต้องมาหาอาหารรับประทานกันเสียหน่อย ครั้งนี้ผมเลือกร้านกวยจั๊บจั่นเจา เพราะเป็นร้านใหญ่ร้านดังประจำที่นี่ มีคิวต่อยาวค่อนข้างแน่น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพื้นที่ริมน้ำมีค่อนข้างจำกัด ร้านนี้หาไม่ยาก ถ้ามาถึงอัมพวาแล้วเดินๆ ไปก็จะเห็นเองครับ ป้ายร้านใหญ่มาก คนพื้นที่รู้จักกันหมด อย่างไรก็ดีสำหรับการรับประทานอาหารที่อัมพวานั้น ต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้อร่อยและดีไปเสียทุกร้านนะครับ บางร้านขายข้าวหมูแดง ราคา 25 บาท แต่ได้ข้าวมาแค่หนึ่งทัพพีกับหมูแดงชิ้นสองชิ้น ดูโหวงๆ แนะนำว่าให้ลองซื้อมาชิมก่อนสักกล่อง อร่อยถูกปากแล้วค่อยสั่งเพิ่ม
กลับมาที่ร้านจั่นเจาของเรากันต่อครับ ร้านนี้ถ้าจะให้ดีมาช่วงเย็นๆ สักประมาณ 45 โมงเย็น คนจะไม่เยอะมากครับ หรือมาอีกทีก็หลัง 2 ทุ่มไปเลย เวลาสั่งเราจะสั่งผ่านคนกลาง คือในพื้นที่ที่เรานั่งได้ จะมีเรือขายอยู่หลายๆ ร้านมาจอดออกัน แล้วจะมีคนทำหน้าที่เหมือนนายท่าอาหาร รับออร์เดอร์จากลูกค้าแล้วคอยรับส่งต่อ ส่วนตัวผมไม่ไหวจะไปแย่งกับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ เลยต้องสั่งเป็นถุงกลับมารับประทานที่โฮมสเตย์เอา
รสชาตินั้นก็สมราคาคุยครับ น้ำซุปเข้มข้น หมูกรอบอร่อยใช้ได้ เส้นก็ลวกทำได้ตามสูตร เรียกได้ว่าอร่อยในระดับที่น่าพอใจ ฝากท้องได้สบายๆ แต่อาจจะต้องเบิ้ล 2 ชาม แม้ราคาจะอยู่ที่ 20 บาท แต่ก็ได้เครื่องตามราคาครับ ท่าทางจะเป็นแนวทางเดียวของก๋วยเตี๋ยวเรือที่ต้องใช้ชามเล็กๆ ใส่เครื่องพอประมาณ ต้องรับประทานแบบเบิ้ลๆ แต่อร่อยใช้ได้ครับ เป็นอีกร้านที่ผมได้แวะเวียนแล้วอยากแนะนำจริงๆ เสร็จแล้วจะลองสั่งอาหารเรืออื่นๆ รับประทานต่อก็ยังได้ แต่อย่าลืมที่ผมบอกนะครับ ลองสั่งมาสักจานก่อน อร่อยแล้วค่อยสั่งใหม่
ความอร่อย 4
ความสะอาด 3

จั่นเจากวยจั๊บ ร้านดังอัมพวา

ที่มา คมชัดลึก
.

 

[FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก'ป้าแป๊ะ' หนึ่งใน'อร่อยเด็ด77จังหวัด'

คอลัมน์ อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>เป็นร้านที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ "อร่อยเด็ด 77 จังหวัด" ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกป้าแป๊ะ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรี อยุธยา

วัน เปิดตัวหนังสือเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่อาคารข่าวสด นาง พิศมัย เกษมสินธุ์ ลูกสาวของป้าแป๊ะ สำเริง แซ่ตั้ง ผู้รับช่วงดูแลกิจการร้าน มาปรุงโชว์ด้วยตนเอง

ทายาทป้าแป๊ะ กล่าวว่า แม่ขายก๋วยเตี๋ยวมาแล้วถึง 53 ปี ยุคแรกพายเรือขาย ต่อมาจึงย้ายมาเปิดเป็นร้าน ขณะนี้มี 2 สาขา คือที่สะพานปรีดี และที่ตำบลเจ้าเจ็ด อ.เสนา ขณะนี้คุณแม่ไม่ค่อยสบาย เป็นโรคกระดูกยุบตัว จึงให้ลูกๆ สานต่อกิจการ

เมื่อแวะเวียนไปที่ร้าน ตำบลเจ้าเจ็ด นอกจากจะพบลูกสาวป้าแป๊ะแล้ว ยังเจอ ลุงฮวด แพรเขียว คู่ชีวิตป้าแป๊ะ ทำหน้าที่แทน

ลุง ฮวดกล่าวว่า สมัยที่พายเรือขายมาด้วยกันตามคลองเจ้าเจ็ดตั้งแต่ชามละ 50 สตางค์ ถึง 1 บาท จนหมดเรือไปถึง 4 ลำ กระทั่งยกเรือขึ้นมาบนบกขายที่หน้าบ้านในตำบลเจ้าเจ็ด มากว่า 20 ปี ได้ถ่ายทอดวิชาสู่รุ่นลูกทั้ง 6 คน บางคนนำไปเปิดสาขาอยู่หลายแห่ง ที่เหลือลูกสาวคนสุดท้องได้ช่วยขายที่บ้าน เพราะต้องการตอบแทนลูกค้า ซึ่งส่วนมากเมื่อมาถึงอำเภอเสนา จะถามหาก๋วยเตี๋ยวป้าแป๊ะอยู่เสมอ<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

ลุงฮวด เล่าต่อว่า ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก รสชาติจะอร่อยหรือไม่ขึ้นอยู่ที่น้ำต้ม ตัวไก่ เนื้อต้องเหนียวแน่นและเครื่องปรุง

สำหรับ น้ำต้มจะตั้งหม้อต้มตั้งแต่ตี 4 โดยใช้เตาถ่านหุงต้มเพื่อให้ไก่สุกทั่วทั้งตัว หลังตั้งหม้อแล้ว ต้มไก่สดทั้งตัวประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อตักไก่ออก ก็ต้มไก่ชุดใหม่ต่อ ทำอย่างนี้ต่อไปจนต้มไก่เสร็จ เมื่อมันไก่ลอย จึงตักมันไก่ออกให้หมด น้ำต้มจะมีความหวานจากกระดูกไก่ใช้เป็นน้ำก๋วยเตี๋ยวได้เลย<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

ไก่ทางร้านจะซื้อจากเล้าโดยตรง เป็นไก่ที่เลิกไข่แล้ว เนื้อไก่จะเหนียวหลังต้มจะฉีกง่าย

ส่วน เครื่องปรุง มีพริกป่น น้ำส้มผสมพริกขี้หนูสด น้ำปลา โดยเฉพาะถั่วลิสงบดจะต้องอบถั่วแล้วจึงจะไปคั่วอีกครั้ง ปกติใช้ถั่ววันละ 4 กิโลกรัม ส่วนกระเทียมเจียวจะใช้จากน้ำมันไก่ที่ลอยตัวในน้ำต้มไก่ กลิ่นจะหอมกว่าเจียวในน้ำมันพืช

ก๋วยเตี๋ยวป้าแป๊ะถ้าเป็นต้มยำรส ชาติจะเผ็ดเปรี้ยวนำ ต้มจืดจะรสชาติกลมกล่อมน้ำต้มหอมหวาน ถ้าก๋วยเตี๋ยวแห้ง เนื้อไก่นุ่มหวาน เฉลี่ยขายได้วันละกว่า 500 ชาม ถ้าเป็นวันหยุดลูกค้าจะเพิ่มขึ้นใช้ไก่วันละ 10-15 ตัว

ก๋วยเตี๋ยว ทุกวันนี้ยังขายในราคาชามละ 10 บาท มาหลายปีแล้ว ยังไม่ขึ้นราคาเพราะเห็นใจลูกค้าที่เป็นชาวบ้านและชุมชนมาอุดหนุน นอกจากนี้ยังมีลูกค้าบางคนมาไกลเสียค่าน้ำมันถ้าคิดแพงลูกค้าจะท้อ กำไรมีแต่ไม่มาก จะคงราคา 10 บาท ต่อไปนานๆ

แนะนำว่า ก๋วยเตี๋ยวป้าแป๊ะ "ชิมก่อนปรุง อย่าปรุงก่อนชิม"

ผู้ ที่จะเดินทางไปชิมก๋วยเตี๋ยวป้าแป๊ะถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางปทุมธานี-เสนา ถึงสี่แยกไฟแดงเสนาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายเสนา-สุพรรณบุรี วิ่งข้ามสะพานเสนาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ให้สังเกตทางแยกขวามือเข้าเทศบาลตำบลเจ้าเจ็ด วิ่งผ่านเทศบาลไปเล็กน้อยแล้วเลี้ยวขวาจะถึงร้านป้าแป๊ะอยู่ซ้ายมือ

ถ้า เปิดกระจกรถวิ่ง จะได้กลิ่นหอมน้ำต้มไก่โชยมาเตะจมูก ร้านจะเปิดขายตั้งแต่ 07.00 น. เป็นต้นไป จนกว่าไก่จะหมดไม่มีวันหยุด สอบ ถามรายละเอียดได้ที่เบอร์ 08-9451-4730 ทางร้านรับงานนอกสถานที่ด้วย[/FONT]



.



.

 

ไม่ทำมะดาจริง ๆ ซะด้วย

 

เด็ดดวงมากมาย รสเด็ดเนื้อตุ๋น

29 ตุลาคม 2553 เวลา 07:27 น.

กรุงเทพฯ ใกล้จะปริ่มน้ำอยู่รอมร่อ แต่ความหิวไม่เคยรอใคร ใช่ป่ะ?
เรื่อง ภาพ อัคร เกียรติอาจิณ



กรุงเทพฯ ใกล้จะปริ่มน้ำอยู่รอมร่อ แต่ความหิวไม่เคยรอใคร ใช่ป่ะ?
ว่าแล้วเราก็ขอชะแว้บไปหาของอร่อยย่านพัฒนาการกินดีกว่า (เป็นวิธีหนีน้ำวิธีหนึ่งไงครับ ใครจะเลียนแบบก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์)
ตรงข้ามกับซอยพัฒนาการ 21 ข้างๆ ที่ทำการไปรษณีย์พัฒนาการ ป้ายเด่นบอกให้เราหยุด เพราะที่นี่มีเสิร์ฟ “เนื้อตุ๋น” สูตรล้ำโดยร้าน “รสเด็ด”
ตึกแถวคูหาเดียว มีที่นั่งไม่ถึง 10 โต๊ะ สะอาดระดับน่าพอใจ ก้าวแรกแตะพื้น กลิ่นน้ำซุปก็ลอยมายั่วน้ำลายซะงั้น
“เส้นหมี่แห้งกับเกาเหลาทุกอย่าง” เราสั่งอย่างรวดเร็ว จนเจ้าของต้องถามซ้ำอีกรอบ “หมูหรือเนื้อคะ” อืม ก็ลืมนึกไปว่าแม้เขาจะชูเนื้อตุ๋นเป็นพระเอก (จากป้าย) แต่ด้านในก็มีบริการหมูตุ๋นด้วย
“เนื้อทั้ง 2 ชามเลยครับ” เราย้ำเพื่อความชัวร์ ชั่วอึดใจสิ่งที่เราสั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
เส้นหมี่ปริมาณกำลังดี ไม่มากไม่น้อย เหยาะซีอิ๊วหวาน เนื้อตุ๋น ลูกชิ้น สร้างสีสันในชามชวนหม่ำยิ่งกระไร คลุกเคล้าเข้าเครื่องเครา เติมพริกป่นและพริกน้ำส้มที่ออกสีเขียวจางๆ รสเปรี้ยวหอม แค่นี้ก็อร่อยแล้ว
ส่วนเกาเหลาอุดมด้วยเนื้อตุ๋น ทั้งติดมันและเนื้อล้วนๆ มีลูกชิ้นอีก 2 ลูก แบบเอ็นและไม่เอ็น เครื่องในที่สามารถเลือกได้ตามใจ



น้ำซุปสีไม่เข้มมาก ได้กลิ่นเครื่องยาจีน ควันร้อนค่อยๆ ลอยออกมาจากปากชาม ถ้าตั้งใจดู (ก่อนซด) มันอ้อยอิ่งพอตัว ผักบุ้งจีนหั่นยาวกรุบกรอบเข้ากับน้ำซุปและสารพัดเครื่อง
รสชาติน้ำซุปนั้นออกกลางๆ ไม่โดดเด้งเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่มีความกลมกล่อมอยู่ ชอบที่มันไม่หวานและไม่จัดเกินไป ซดได้เพลินๆ หรือถ้าจะเติมเครื่องปรุงเหมาะมาก ด้วยรสชาติกลางอย่างนี้ พริกป่น พริกน้ำส้ม น้ำตาลทรายนิดหน่อย น้ำปลาอีกปลายช้อน ก็ครบครันความอร่อยจนท้องไส้ต้องเอ่ยขอบคุณครับ
ต้องชมว่าเขาตุ๋นเนื้อได้นุ่มดี เนื้อติดมันจะอร่อยกว่าเนื้อล้วน ได้เคี้ยวอะไรหนึบๆ ปากจะได้ออกกำลังบ้าง จำพวกเครื่องในก็โอเค ไม่หลากหลายแต่สะอาด ขณะที่ลูกชิ้นรู้สึกเฉยๆ เพราะไม่เด็ดเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่คาดหวังไว้สูงว่าน่าจะเป็นตัวชูรสให้ก๋วยเตี๋ยวเลิศยิ่งขึ้น ความหนึบมีน้อย ความอร่อยจึงหายวับ เสียดายๆๆๆๆ เสียดายจริงแท้
อ่ะ ในเมื่อลูกชิ้นไม่ได้ ทว่าเนื้อตุ๋นของเขาก็ได้ใจเราไปเต็มๆ อยากให้สาวกคนชอบเนื้อไปลองชิมกัน เพราะเจ้านี้เด็ดดวงไม่เหมือนใคร
การเดินทางง่ายและสะดวก คือ รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่ริมถนน แท็กซี่ก็สะดวกดี หรือจะนั่งรถเมล์ชิล ชิล ก็มีสาย 11 92 และ 133 ผ่านหน้าร้าน ถ้าไปไม่ถูกสอบถาม 023198705 เขาเปิดบริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ราวๆ 4 โมงเย็นก็เก็บแล้ว ราคาก๋วยเตี๋ยวต่อชามเริ่มที่ 30 บาทเกาเหลา 35 บาท พิเศษ 40 บาท ชามโตกินจุใจจนอิ่มแปล้

เด็ดดวงมากมาย รสเด็ดเนื้อตุ๋น
.


http://www.posttoday.com/กิน-เที่ยว/กิน-ดื่ม/ตะลอนชิม/57360/เด็ดดวงมากมาย-รสเด็ดเนื้อตุ๋น
.



.

 

[FONT=Tahoma,]เป็ดนุ่มหอมเครื่องเทศ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้สี่ เจริญนคร

อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดสูตรโบราณดั้งเดิม "เจ้สี่" ย่านเจริญนคร มีอายุยาวนานกว่า 40 ปี สร้างชื่อจากเมนู "ก๋วยเตี๋ยวเป็ดน้ำใสทะเล"

สุวรรณี แซ่จิว หรือ เจ้สี่ กล่าวว่า ก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่ร้านเป็นสูตรดั้งเดิมตั้งแต่สมัยคุณพ่อ ที่เริ่มขายมาตั้งแต่ชามละสลึงย่านตลาดน้อย จนกระทั่งย้ายมาขายอยู่ที่ถนนเจริญนคร ปากซอยเจริญนคร 44 จนถึงปัจจุบันนี้

ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่ร้านอยู่ที่เนื้อเป็ดที่นุ่มหอมกลิ่นเครื่อง เทศ ผงพะโล้ที่เข้าถึงเนื้อเป็ด เครื่องในเป็ดที่สดใหม่โดยเฉพาะกึ๋นที่นำมาหั่นเป็นบั้งๆ เพื่อความสวยงามกับอาหารให้น่ากินมากยิ่งขึ้น

ไส้เป็ดทางร้านทำแบบพิเศษกว่าร้านอื่นๆ ตรงที่ไส้เป็ดขาวสะอาด เมื่อกินเข้าไปจะรู้สึกถึงความกรอบสดใหม่

และที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของทางร้านก็คือการใส่ "ปลาหมึกกรอบ" ลงไปด้วย<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

เจ้สี่บอกว่า เป็นสูตรที่ทำมาตั้งแต่สมัยคุณพ่อ หากไม่ใส่แล้วจะไม่ครบสูตรของตระกูล ที่สำคัญทางร้านใช้เตาถ่านในการต้มน้ำซุปตลอดทั้งวัน ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเพิ่มสีสันของก๋วยเตี๋ยวเป็ดให้น่ากินมากยิ่งขึ้น

เมนูก๋วยเตี๋ยวเป็ดสูตรเด็ดชามแรก คือ "เส้นเล็กเป็ดน้ำใส" ความอร่อยของเนื้อเป็ดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมีเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เพิ่มความอร่อยให้ด้วย เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเป็นเส้นที่สั่งจากร้านประจำมากว่า 10 ปี เส้นจะเหนียวนุ่ม กินคู่กับถั่วงอกอวบขาว ลวกเส้นกับผักด้วยน้ำต้มที่ร้อนจัดจนสุกจึงใส่ชาม ตามด้วยเนื้อเป็ดและเครื่องใน อย่าง ไส้เป็ด เลือดเป็ด กึ๋น ตับ และปลาหมึกกรอบ

หลังจากนั้นใส่กระเทียมเจียวที่เจียวเองเล็กน้อย ใส่น้ำซุปสูตรเด็ดหอมเครื่องสมุนไพรผงพะโล้ทำเองสูตรของต้นตระกูล สนนราคาชามละ 30-50 บาท

"บะหมี่แห้งเป็ด" เป็นเมนูยอดนิยมของทางร้านที่ลูกค้าสั่งกันมาก ทางร้านเลือกใช้เส้นบะหมี่เส้นเล็กเพราะมีความนุ่มและหอม นำไปลวกกับถั่วงอกจนสุก หลังจากนั้นนำมาใส่ชาม แล้วนำกระเทียมเจียวลงไปคลุกจนเส้นบะหมี่ไม่ติดกัน จากนั้นใส่เนื้อเป็ด เครื่องใน ไส้เป็ดและปลาหมึกกรอบ

ก่อนเสิร์ฟโรยด้วยผักกาดเขียวซอย ราคาชามละ 30-50 บาท

"เกาเหลาเป็ดรวม" จานนี้รวมทุกชิ้นส่วนของเป็ดอยู่ในชามเดียวกัน โดยเฉพาะปีกเป็ด-ขาเป็ด

ทางร้านตุ๋นกับผงพะโล้บนเตาถ่าน นานประมาณ 4 ชั่วโมง ทำให้เนื้อเป็ดนุ่มจนร่อนออกจากกระดูก กินคู่กับน้ำซุปซี่โครงเป็ดและกระดูกหมู ที่หวานและหอมกรุ่นกลิ่นเครื่องผงพะโล้ กินคู่กับถั่วงอกและผักกาดเขียวซอย ก่อนกินควรชิมกินแล้วถึงค่อนปรุง ราคาชามละ 50 บาท

"ชุดรวมอะไหล่เป็ด" ลูกค้าเกือบทุกโต๊ะต้องสั่งมากิน เพราะถือว่าเป็นเมนูจานเด็ดที่ลูกค้าจะได้รู้ถึงรสชาติความอร่อยของเนื้อ เป็ดและเครื่องใน สูตรโบราณของทางร้าน

ในหนึ่งจานจะมีเครื่องในเป็ดประกอบด้วยกึ๋น ตับ ไส้ ปีกเป็ด เลือดเป็ด และปลาหมึกกรอบ ใส่น้ำซุปตุ๋นเป็ดเข้มข้นแบบขลุกขลิก สนนราคาจานละ 100 บาท

นอกจากความอร่อยของอาหารแล้ว เจ้สี่บอกว่า ความเป็นกันเองกับลูกค้าก็เป็นตัวเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารได้มากอีกด้วย

หาก ต้องการมากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านจะต้องใจเย็นๆ เนื่องจากเจ้สี่ทำเพียงคนเดียว และมีโต๊ะรับรองลูกค้าเพียง 4 โต๊ะ ร้านเปิดในเวลา 11.30-18.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด สอบถามรายละเอียดได้ที่โทร. 08-9987-8318

 

กลมกล่อม อร่อยลงตัวกับ“ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่”/กุ๊กเล็ก <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">11 พฤศจิกายน 2553 16:43 น.</td></tr></tbody></table>
โดย : กุ๊กเล็ก

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่ หอมอร่อยลงตัว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เวลาที่คิดถึงเมนูอาหารจีน ก็มักจะนึกถึงอาหารจำพวกติ่มซำ หรือหมูหัน เป็ดปักกิ่ง แต่เมนูที่ “กุ๊กเล็ก” จะแนะนำกันในวันนี้ เป็นเมนูสไตล์จีนสมัยใหม่ ที่มีความพิเศษอยู่ตรงเนื้อปลาสดๆ จากทะเล ที่ให้ความหวานกลมกล่อม อร่อยลงตัว กับเมนู “ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าปลาเต้าซี่” ซึ่งเป็นสูตรเด็ดจาก ภัตตาคารสเตลล่าพาเลซ โรงแรมใบหยก สกาย

ส่วนผสมมีดังนี้
เส้นก๋วยเตี๋ยว 2 ขีด
เนื้อปลาเก๋าสด 120 กรัม
เม็ดเต้าซี่ 1 ช้อนชา
เห็ดสดย่างซีอิ้ว 3 ดอก
ต้นหอมหั่นท่อน 30 กรัม
หอมใหญ่หั่น 40 กรัม
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
น้ำสต็อกไก่ ½ ถ้วย
แป้งทอดกรอบปรุงรส ½ ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/3 ช้อนชา
ซีอิ้วขาว 1 ช้อนชา
น้ำมันหอย 1 ช้อนชา
น้ำมันงา
เหล้าจีน
ซีอิ้วดำ
แป้งมันฮ่องกง

ได้ส่วนผสมครบแล้วก็เริ่มวิธีการทำด้วยการนำกระทะตั้งไฟให้ร้อน ใส่น้ำมันงาเพื่อผัดเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เหลืองหอม พักไว้ในจาน นำเนื้อปลาเก๋าคลุกกับแป้งทอดกรอบปรุงรสแล้วลงทอดในน้ำมันจนพอสุก ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน วางพักไว้กับเส้นก๋วยเตี๋ยว

นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอน้ำมันร้อนใส่กระเทียมลงผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่ เห็ดสด เม็ดเต้าซี่ แล้วตามด้วยน้ำสต็อก ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่างๆ เดือดแล้วใส่แป้งมันฮ่องกงที่ละลายน้ำแล้ว คนให้เข้ากันกะให้เหนียวเล็กน้อย ใส่ต้นหอมโรยหน้า เสร็จแล้วตักราดเส้นก๋วยเตี๋ยวและปลาที่พักไว้ในจาน ยกเสิร์ฟร้อนๆ ลิ้มรสความกลมกล่อมอร่อยเด็ดได้เลย

Travel - Manager Online -

 

เฮียอ้วน ก๋วยเตี๋ยวไก่นานาสมุนไพร


ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ นับเป็นเมนูโปรดสำหรับคนชอบรับประทานเมนูเส้นหลายๆ ท่าน ยิ่งคนที่ต้องการรับประทานแบบอิ่มท้องด้วยแล้ว ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระเป็นหนึ่งในเมนูที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะเราเองก็ไม่เคยเห็นก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านไหนให้มาแบบกะปริดกะปรอย จนต้องสั่งดับเบิลๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเลยสักร้าน และร้านที่เราจะแนะนำวันนี้ก็เช่นกัน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระนานาสมุนไพร
โดย... ชายโย


ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระ นับเป็นเมนูโปรดสำหรับคนชอบรับประทานเมนูเส้นหลายๆ ท่าน ยิ่งคนที่ต้องการรับประทานแบบอิ่มท้องด้วยแล้ว ก๋วยเตี๋ยวไก่มะระเป็นหนึ่งในเมนูที่ไม่เคยทำให้ใครผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะเราเองก็ไม่เคยเห็นก๋วยเตี๋ยวไก่ร้านไหนให้มาแบบกะปริดกะปรอย จนต้องสั่งดับเบิลๆ เหมือนก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเลยสักร้าน และร้านที่เราจะแนะนำวันนี้ก็เช่นกัน เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวไก่มะระนานาสมุนไพร
ร้านเฮียอ้วนตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ติดกรมป่าไม้ เลยแยกเกษตรมุ่งหน้าบางเขน ร้านนี้หาง่ายครับ หากขับรถมาลองหาที่จอดในกรมป่าไม้ก็ได้ แล้วเดินออกมาถนนใหญ่ไม่ไกลเราจะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ร้านนี้เปิดเวลา 10.00-20.00 น. สูตรเด็ดของเจ้านี้อยู่ที่การใช้น้ำเครื่องสมุนไพรหลายอย่างรวมๆ กัน ถามว่าอร่อยเหมือนก๋วยเตี๋ยวไก่เจ้าอื่นๆ ไหม ผมบอกได้เลยว่าไม่ต่างกันมาก แต่จะได้กลิ่นและรสชาติชุ่มๆ คอเหมือนรับประทานเครื่องยาสมุนไพรจีน
มาดูที่เครื่องในจานที่ขาดไม่ได้ก็เห็นจะเป็นมะระและไก่ที่เราสามารถ เลือกได้ว่าจะรับประทานแบบน่อง แบบฉีก หรือผสม ส่วนคนที่ชอบรับประทานเส้นมาม่า หรือลดน้ำหนักด้วยวุ้นเส้น เพิ่ม 5 บาทครับ จากอาหารราคาปกติ 30 บาท พิเศษ 35 บาท แต่ธรรมดาก็อิ่มแล้วครับ ส่วนผักก็สามารถเดินไปหยิบใส่จานที่หน้าร้านได้เลย แต่บอกไว้ก่อนนะครับว่าร้านนี้มีที่นั่งไม่มากนัก ประมาณ 8 โต๊ะเท่านั้น หากแวะผ่านมาทำธุระที่กรมป่าไม้ มาจองบ้านพัก ที่กางเต็นท์ ก็ลองแวะชิมได้ครับ ไม่น่าผิดหวัง ฝากท้องได้สบายใจ
ความอร่อย 4
ความสะอาด 4

เฮียอ้วน ก๋วยเตี๋ยวไก่นานาสมุนไพร

 

ผมแนะนำร้านนึงนะครับไม่มีชื่อเป็นร้านรถเข็นธรรมดา อยู่ในซอยแยกลงไปริมคลองในซอยร่วมฤดี เกี๊ยวกุ้งใช้ได้ น้ำซุปใสหอม เช็ง ๆ เฮียง ๆ ......ดี ที่เด็ดสุด หมูแดง ที่ใช้คอหมูหรือเนื้อติดมันนิด ๆ มาหมักแล้วย่าง ทำให้เกิดความหอมละมุนจากเครื่องหมักและมันหมู และยังนุ่มลิ้นเวลารับประทาน ใช้ได้ครับ

 

“ราดหน้าคุณภาพ” สูตรดั้งเดิม สดใหม่ อร่อยคับจาน <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">21 พฤศจิกายน 2553 14:37 น.</td></tr></tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศในร้านราดหน้าคุณภาพ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ลอย.. ลอยกระทง พอถึงเดือนสิบสองที่น้ำนองเต็มตลิ่ง ก็ถึงเวลาของเทศกาลลอยกระทงกันอีกครั้ง ในปีนี้ก็มีให้เลือกกันหลากหลายที่ตามความชื่นชอบของแต่ละคน ส่วน “ผ่านมาแวะกิน” ก็ยังตัดสินใจไม่ได้เสียทีว่าจะไปลอยกระทงที่ไหนกับใคร

ระหว่างตัดสินใจนั้น ก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปตระเวนหาของอร่อยกินดีกว่า ซึ่งคราวนี้ “ผ่านมาแวะกิน” มุ่งตรงมาที่กระทรวงสาธารณสุข เพราะได้ยินมาว่าที่นี่มีร้านราดหน้าอร่อยๆ ชื่อว่า “ราดหน้าคุณภาพ”

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">อารีรักษ์ บรรจงปรุ เจ้าของร้าน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ร้าน “ราดหน้าคุณภาพ” เปิดให้มาลิ้มรสอร่อยกันนานกว่า 15 ปีแล้ว โดยคุณอารีรักษ์ บรรจงปรุ เจ้า ของร้านเล่าให้ฟังว่า จุดเด่นของที่ร้านคือใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ เน้นคุณภาพสมกับชื่อร้าน ส่วนสูตรอาหารต่างๆ ในร้านก็เป็นสูตรแต่ดั้งเดิม ซึ่งถูกปากลูกค้าจนกลายเป็นเจ้าประจำหลายต่อหลายคน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ราดหน้าอเมริกันหมูเส้นใหญ่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> เมนูชื่อดังของร้านนี้ก็คือ ราดหน้าอเมริกันหมูเส้นใหญ่ (45 บาท) ที่โดดเด่นมาตั้งแต่น้ำราดหน้าที่หอมหวาน เพราะทำจากน้ำซุปหมูจึงได้รสชาติที่หวานนุ่ม ส่วนหมูหมักของร้านนี้ก็หมักได้นุ่มเนียน ทางร้านเลือกใช้ผักคะน้าปลอดสารเฉพาะส่วนก้านขาวอวบ และส่วนยอด นำมาลวกพอสุก กินแล้วกรุบกรอบ ไม่ขม ไม่เหม็นเขียว เส้นใหญ่ก็เหนียวนุ่มพอดี และที่พิเศษของจานนี้ก็คือ จะใส่ไข่ดาว ไส้กรอก และแฮม เพิ่มเข้าไป ทำให้กลายเป็นราดหน้าอเมริกันรสชาติกลมกล่อมชวนกิน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ราดหน้ากุ้งเส้นใหญ่</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ส่วนอีกจานนี้เป็นราดหน้ากุ้งเส้นใหญ่ (45 บาท) ที่ตัวเส้นเหนียวนุ่ม คะน้ากรอบ ส่วนน้ำราดหน้าก็ทำจากน้ำซุปหมูเช่นกัน แต่เปลี่ยนเนื้อหมูเป็นกุ้งขาวที่สดหวาน ชิมแล้วรสกลมกล่อมจนแทบไม่ต้องปรุง และหากใครไม่ค่อยโปรดปรานราดหน้าเส้นใหญ่ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นเส้นหมี่ หรือหมี่ขาวกรอบก็ได้

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ผัดไทกุ้งสดและกุ้งแห้ง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> และ ผัดไทกุ้งสดและกุ้งแห้ง (55 บาท) จานนี้ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ทางร้านใช้เส้นผัดไท ผัดกับเครื่องอย่างเต้าหู้ ผักกดหวานสับ กุ้งแห้ง ถั่วงอก ขาไก่ และกุ้งสด ปรุงรสด้วยน้ำปรุงสูตรพิเศษเฉพาะตัว ที่ให้รสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย กลมกล่อม เข้ากับเส้นเหนียวนุ่มหอมกรุ่น

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หมูสะเต๊ะ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แต่ถ้าจะให้ครบสูตรต้องสั่ง หมูสะเต๊ะ (ไม้ละ 4 บาท) มาลองชิม ที่นี่เลือกใช้สันนอกหมูมาหั่นเป็นชิ้น หมักกับเครื่องเทศหลากชนิดที่จะส่งกลิ่นหอมละมุนเวลาได้กิน หมักทิ้งไว้หนึ่งคืนแล้วนำมาปิ้ง ระหว่างนั้นก็ค่อยๆ ทานมกับหัวกะทิลงไปบนเนื้อหมูสะเต๊ะ ที่จะช่วยทำให้หอมนุ่มยิ่งขึ้น เมื่อสุกแล้วก็เสิร์ฟกับน้ำจิ้มสูตรเด็ดรสหวานมันเผ็ด และอาจาดสามรส

ส่วนเมนูอื่นๆ ที่อยากให้ลองมาชิมก็อย่างเช่น ราดหน้าหมู (35 บาท) ราดหน้าอเมริกันกุ้ง (55 บาท) ราดหน้าใส่ไข่ (45 บาท) ผัดไทกุ้งสด (45 บาท) เป็นต้น ซึ่งไม่ว่าจะมาช่วงลอยกระทง คริสต์มาส ปีใหม่ หรือวันไหนๆ ก็สามารถอร่อยกันได้อย่างเต็มที่ แบบคุณภาพคับจาน ที่ร้าน “ราดหน้าคุณภาพ”

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ราดหน้าคุณภาพ” ตั้ง อยู่ที่ 150/110 หมู่ 9 ซ.ดวงมณี ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางจากแยกแคราย ให้ขับตรงมาบน ถ.ติวานนท์ มุ่งหน้ามายังกระทรวงสาธารณสุข ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย รพ.ศรีธัญญา แล้วขับตรงเข้าสู่กระทรวงสาธารณสุข มุ่งหน้าไปยังประตู 4 (ติดกับสภาการพยาบาล และ ถ.ศิริชัย) ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางออก สามารถจอดรถได้ในกระทรวงสาธารณสุข (เสาร์-อาทิตย์ ประตูกระทรวงสาธารณสุขปิด) หรือสามารถเข้า ซ.ศิริชัย (กรุงเทพ-นนท์ 12) ก็ได้ ร้านเปิด จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น. และ เสาร์ เวลา 08.30-14.00 น. (หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) โทร. 0-2951-1127,0-2965-9426

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> คลิก!!อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ราดหน้าคุณภาพ"</td></tr></tbody></table>

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ราดหน้าคุณภาพ

ประเภทอาหาร : อาหารไทย

เมนูจานเด่น : ราดหน้าอเมริกัน ผัดไท หมูสะเต๊

บรรยากาศร้าน : ห้องแถวโปร่งสบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 150/110 หมู่ 9 ซ.ดวงมณี ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางจากแยกแคราย ให้ขับตรงมาบน ถ.ติวานนท์ มุ่งหน้ามายังกระทรวงสาธารณสุข ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอย รพ.ศรีธัญญา แล้วขับตรงเข้าสู่กระทรวงสาธารณสุข มุ่งหน้าไปยังประตู 4 (ติดกับสภาการพยาบาล และ ถ.ศิริชัย) ร้านจะอยู่ตรงข้ามกับประตูทางออก

สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ในกระทรวงสาธารณสุข

เวลาเปิด-ปิด : เปิด จันทร์-ศุกร์ เวลา 08.00-15.00 น. และ เสาร์ เวลา 08.30-14.00 น. (หยุดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2951-1127,0-2965-9426

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000163435
.

http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9530000164672
<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400">
</td></tr></tbody></table></td></tr><tr><td align="center" height="5" valign="top">
</td></tr></tbody></table>
.



.

 

[FONT=Tahoma,]เป็ดพะโล้-หอยกระทะ เมนูฮิตร้าน'ชื่นจิตร'อยุธยา

อิ่มอร่อย



<table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>อําเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น อำเภอเล็กๆ อำเภอสุดท้ายตั้งอยู่เขตติดต่อ จ.สระบุรี

ที่ นี่มีของอร่อยมากมาย วันนี้จะขอแนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด "ร้านชื่นจิตร" ร้านเก่าแก่ที่เปิดขายมานานแล้ว มีลูกค้าติดใจในรสชาติอาหารที่มีอยู่หลากหลาย

นอกจากก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้แล้ว ยังมีอาหารเลิศรส ราคาเยาไว้บริการ อีกมากมาย

ที่สำคัญ คือ สะอาด บริการดี ราคาถูก

เมนู แรกขอแนะนำ "ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้" ซึ่งเป็นเมนูชูโรงของร้าน สูตรเด็ดอยู่ที่น้ำซุปที่เป็นมรดกตกทอดมานานของ ตระกูลมูลธรรม ซึ่งวันนี้ มี ศรีนวล มูลธรรม วัย 53 และลูกๆ พศิน มูลธรรม และ นัทภัทร มูลธรรม เป็นผู้สืบทอดความอร่อย จากรุ่นคุณอาที่เปิดร้านขายอยู่ที่ จ.นครสวรรค์

จะ เรียกว่าเป็นตำนานก๋วยเตี๋ยวเป็ดก็คงไม่ผิดนัก เพราะร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ขายตั้งแต่ร้านยังเป็นเพิงสังกะสี จนตอนนี้สร้างเป็นอาคารถาวรโอ่อ่ากว้างขวาง เป็นร้านดังใน อ.ท่าเรือ

ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการ พ่อค้า และชาวบ้าน มีแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยือนถึงเรือนชาน ก็มักจะพากันมากินกลางวันกันที่นี่<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>
</td></tr></tbody></table>

เสน่ห์ ของก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ร้านนี้อยู่ที่น้ำพะโล้ คุณศรีนวล เผยเคล็ดลับว่า ทีเด็ดอยู่ที่การต้มเป็ดในน้ำพะโล้ครั้งละมากๆ พร้อมกัน จะทำให้น้ำซุปมีรสชาติเข้มข้น ออกรสหวานนำ

จากนั้นจะบรรจงใส่ เครื่องเคียงสมุนไพรซึ่งเป็นสูตรเด็ดของทางร้าน การทำน้ำพะโล้นอกจากจะใช้เป็ดหลายตัวต้มรวมกันแล้ว ยังต้องใช้เวลาตุ๋นให้นานข้ามวัน การตุ๋นนานๆ จะทำให้เนื้อเป็ดมีความนุ่มนวลชวนรับประทาน แถมยังทำให้น้ำพะโล้ที่ถูกคลุกเคล้าด้วยสมุนไพร ใช้ไฟอ่อนๆ จากท่อนฟืน มีรสชาติหอมหวาน

ร้านนี้ใช้ระยะเวลาตุ๋นเป็ดนานข้ามวันจึงจะเอามายกเสิร์ฟลูกค้า

ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจที่ตอนปรุงก๋วย เตี๋ยวจะมีกลิ่นหอมฟุ้งไปทั้งร้าน

ขนาด ของเป็ดก็เป็นสิ่งสำคัญที่คุณศรีนวลช่างคัดสรร จะต้องเป็นเป็ดตัวใหญ่เท่านั้น เพราะเป็ดตัวเล็กเนื้อจะแห้ง ไม่น่ารับประทาน นอกจากก๋วยเตี๋ยวเป็ดแล้ว ยังมีเมนู ข้าวหน้าเป็ด เป็ดพะโล้จิ้มน้ำจิ้ม ซึ่งสูตรน้ำจิ้มทำเอง คอยไว้บริการ หรือใครอยากเปลี่ยนรสชาติจากเป็ดเป็น ข้าวขาหมู ที่ร้านก็ทำเองด้วยสูตรที่คล้ายๆ กัน

นอกเหนือเมนูก๋วยเตี๋ยวเป็ด แล้ว ร้านชื่นจิตรยังมีอาหารอีกมากมายหลายอย่าง มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวหมู เย็นตาโฟ ผัดมะกะโรนี สุกี้ ไปยัน สปาเกตตี และ อาหารตามสั่ง

อีก เมนูที่ไม่พลาดการแนะ นำ คือ หอยกระทะร้อน ที่กรอบและหอมกรุ่นไม่แพ้กัน หอยกระทะที่นี่ใช้หอยแมลงภู่ตัวใหญ่ทอดในแป้งกรอบ ใส่กระทะอันร้อนฉ่ารมควัน สูตรเด็ดอยู่ที่การผสมแป้งกับเนย ทำให้มีกลิ่นหอมชวนรับประทาน จิ้มกับน้ำจิ้มหอยกระทะที่คิดค้นด้วยสูตรของทางร้าน

ได้อรรถรสระหว่างรับประ ทาน

คน ส่วนใหญ่ที่มากิน จะสั่งหอยกระทะกินคู่ก๋วยเตี๋ยวเป็ด เพื่อเพิ่มรสชาติอาหาร กินก๋วยเตี๋ยวเป็ดหากคอแห้ง ควรสั่งน้ำหวาน น้ำสมุนไพรมากินไล่กัน ที่นี่มีทั้ง น้ำเก๊กฮวย กระเจี๊ยบ โอเลี้ยง และ น้ำมะพร้าว พร้อมบริการ

ทุกอย่างทำเองทั้งนั้น!?!

"เรา เน้นเรื่องความสะอาดเป็นอันดับแรก เครื่องเคียงทุกอย่างคัดเป็นพิเศษ วัตถุดิบต้องสดและใหม่ เพื่อให้ได้คุณภาพ ที่สำคัญ ราคาต้องพอดีไม่แพง คนทั่วไปกินได้ เพราะลูกค้าเรามีหลายระดับ มีทั้งข้า ราชการในพื้นที่ ชาวบ้านในย่านนี้ไปยันนักท่องเที่ยวที่มาไหว้หลวงพ่อโตวัดสะตือ ก็แวะเวียนมากินเป็นประจำ ขายมาหลายสิบปี ขายเป็ดมาตลอด และก็จะยังขายต่อไปเพราะเป็นอาชีพที่เลี้ยงครอบครัวได้" คุณศรี นวลกล่าว

สำหรับ สนนราคาค่าอาหาร เริ่มต้นที่ก๋วยเตี๋ยวเป็ด-หมู 30 บาท พิเศษ 35 เกาเหลาเป็ด 35-40 บาท หอยกระทะร้อน 35 บาทเท่านั้น ข้าวขาหมู 30 บาท น้ำแก้วละ 10 บาท

'ร้านชื่นจิตร' ตั้งอยู่เลขที่ 9/5 ม.7 ต.จำปา อ.ท่าเรือ อยู่บนถนนสายท่าเรือ-ท่าลาน ใกล้สำนักงานเทศบาลตำบลท่าหลวง หากมาจากตลาดท่าเรือมุ่งหน้าท่าลาน ไม่เกิน 3 ก.ม. ก็ถึงร้าน สังเกตง่ายๆ จะมีตุ๊กตาเป็ดตัวใหญ่ตั้งไว้ตระหง่าน เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00- 15.30 น. ไปไม่ถูกติดต่อที่เบอร์ 035-341-401[/FONT]

http://www.khaosod.co.th/view_news....nid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1DMHhNUzB5Tmc9PQ==

.



.



.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวหมู “แซว” อร่อยแซ่บซะอย่าง</TD><TD vAlign=baseline align=right width=102></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
ร้าน “แซว” ตั้งอยู่ที่ 1/5 ซ.สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทาง จาก ถ.สุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้า ซ.สุขุมวิท 49 ไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้กับเซเว่นอีเลฟเว่น สามารถจอดรถได้หน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.30 น. โทร. 0-2258-7960 ส่วนสาขา 2 ตั้งอยู่ท้าย ซ.สุขุมวิท 105 (ซ.ลาซาล) โทร. 0-2748-7600


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “แซว"


</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 พฤศจิกายน 2553 13:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ด้านหน้าร้านแซว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ช่วงนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ผ่านไปผ่านมาแถว ถ.สุขุมวิท อยู่บ่อยๆ เลยได้รับคำแนะนำจากญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่งให้ลองไปชิมก๋วยเตี๋ยวที่อยู่ต้น ซ.สุขุมวิท 49 เพราะท่านเป็นลูกค้าประจำมานานแล้ว ได้ยินแบบนี้ก็คงจะพลาดไม่ได้ที่จะลองแวะเข้าไปลองลิ้มรสดู

ร้านที่ว่านี้ชื่อ “แซว” เห็นชื่อสั้นๆ แบบนี้ แต่ความอร่อยนั้นมีมายาวนานแล้ว เพราะเค้าเปิดกันมาแล้วกว่า 30 ปี สังเกตได้จากตู้ไม้ที่ตั้งอยู่หน้าร้าน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดสังเกตว่ามาถูกร้านแล้ว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณลุงประสงค์ ตันติพัฒนเสรี และลูกชาย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>บรรยากาศในร้านก็นั่งกันได้แบบสบายๆ แต่อาจจะหนาแน่นมากหน่อยในช่วงกลางวัน ถ้าหากว่าไม่อยากมานั่งรอที่ร้าน ก็สามารถโทรสั่งอาหารไว้ก่อนได้ มาถึงร้านแล้วจะได้นั่งกินได้เลย

ระหว่างที่นั่งรออยู่ คุณลุงประสงค์ ตันติพัฒนเสรี เจ้าของร้าน ก็เข้ามาพูดคุยกับ “ผ่านมาแวะกิน” อย่างสนุกสนาน และยังบอกอีกด้วยว่า ตอนนี้ร้านแซวมีอยู่ 2 สาขาแล้ว สาขาแรกก็คือที่นี่ และสาขา 2 อยู่ใน ซ.สุขุมวิท 105


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นเล็กต้มยำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>หนึ่งในสูตรเด็ดของร้านก็อยู่ที่น้ำซุปที่หอมหวาน ซึ่งได้มาจากการเคี่ยวกระดูกหมูจนเปื่อย ทำให้ได้ความหอมหวน ส่วนความหวานกลมกล่อมนั้นมาจากที่ใช้น้ำซุปหม้อเดียวกันนี้ลวกทั้งเนื้อหมู เครื่องใน และลูกชิ้นต่างๆ

หอมเตะจมูกชวนกินขนาดนี้ สั่งชามแรกมาลองชิมเลยดีกว่า เส้นเล็กต้มยำ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ชามนี้ได้เส้นเล็กที่เหนียวนุ่ม เต็มไปด้วยเครื่องเคราอย่าง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง หือก้วย ตับหมู เนื้อหมู และหมูสับปรุงรส และสูตรเด็ดต้มยำที่เน้นน้ำมะนาวสด และถั่วลิสงคั่วใหม่ๆ ที่ทำให้หอมอร่อย จานนี้รสชาติจัดจ้านแต่ไม่เผ็ดเกินไป กินแบบไม่ต้องปรุงรสเพิ่มก็ถึงใจแล้ว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ต่อด้วย บะหมี่แห้ง (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่เป็นบะหมี่ไข่เส้นแบนสั่งทำพิเศษ แล้วใส่ทั้ง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง หือก้วย หัวใจหมู เนื้อหมู และหมูสับ ชามนี้โรยหน้าด้วยน้ำตาลและถั่วลิสงคั่วที่ทางร้านทำเองสดๆ ใหม่ๆ เวลากินก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน ชิมแล้วได้รสหวานๆ มันๆ กลมกล่อม


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่แคะ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>อีกชามเป็น เส้นหมี่แคะ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ที่ใส่ลูกชิ้นแคะมาหลายๆ แบบ ให้ได้ชิมกัน ลูกชิ้นรสนุ่มนวล เคี้ยวอร่อย ไม่คาว ถ้าหากว่าอยากกินให้แซ่บขึ้น จะใส่ถั่วลิสงคั่ว หรือน้ำมะนาวสดๆ เพิ่มรสชาติ ก็มีให้เติมได้ที่แต่ละโต๊ะ

ชามสุดท้ายนี้ เส้นใหญ่เย็นตาโฟ (30 บาท พิเศษ 40 บาท) ชามนี้ครบครันด้วย ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง หือก้วย ลูกชิ้นแคะ เต้าหู้ทอด เลือดหมู ปลาหมึกกรอบ และผักบุ้ง ซอสเย็นตาโฟที่ใส่สีไม่แดงจัดนัก แต่รสชาติกลอมกล่อมดี เข้ากับน้ำซุปหอมหวาน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นใหญ่เย็นตาโฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แต่ถ้าหากว่ากินไปแล้วรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป แนะนำให้สั่ง กากหมู (ถุงละ 10 บาท) หรือ หนังปลาทอดกรอบ (ถุงละ 10 บาท) มากินคู่กับก๋วยเตี๋ยว และสั่ง โอเลี้ยง เก๊กฮวย ลำไย (แก้วละ 10 บาท) หรือ วุ้นใบเตย (แก้วละ 12 บาท) ที่ทางร้านทำเอง รสชาติไม่หวานมากนักมาดื่มปิดท้าย

“ผ่านมาแวะกิน” มาลองชิมถึงร้านแล้วก็รู้เลยว่าทำไมถึงมีลูกค้าแวะเวียนกันมาบ่อยๆ แต่ถ้าหากท่านนักอ่านอยากรู้บ้างว่าเพราะอะไร ก็ต้องมาชิมกันเองที่ร้าน “แซว”


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>น้ำสารพัดชนิด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
ร้าน “แซว” ตั้งอยู่ที่ 1/5 ซ.สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทาง จาก ถ.สุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้า ซ.สุขุมวิท 49 ไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้กับเซเว่นอีเลฟเว่น สามารถจอดรถได้หน้าร้าน ร้านเปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.30 น. โทร. 0-2258-7960 ส่วนสาขา 2 ตั้งอยู่ท้าย ซ.สุขุมวิท 105 (ซ.ลาซาล) โทร. 0-2748-7600


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “แซว"


</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : แซว

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวหมู

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวแคะ

บรรยากาศร้าน : ห้องแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 1/5 ซ.สุขุมวิท 49 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. การเดินทาง จาก ถ.สุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้า ซ.สุขุมวิท 49 ไปประมาณ 20 เมตร จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ใกล้กับเซเว่นอีเลฟเว่น

สถานที่จอดรถ : บริเวณหน้าร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.00-16.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ : โทร. 0-2258-7960

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
.

Travel - Manager Online -

 

น่าทานทั้งนั้นเลยค่ะ...........

 

น่ากินทุกร้านเลย ..................

 

บะหมี่ นายงี้ตู้ไม้

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ในจำนวน 'ขวัญใจคนนอนดึก' ยุคก่อนนั้น มีชื่อร้านบะหมี่ 'นายงี้ ตู้ไม้' รวมอยู่ด้วย--โธ่ ร้านก๋วยเตี๋ยวที่เลิกเที่ยงคืน-ตีหนึ่งอาจจะมีหลายร้าน

แต่ที่กินแล้วชื่นใจ ไม่กลับบ้านไปนอนหลับฝันร้ายนั้นมีอยู่ไม่มาก

หนึ่งในนั้นมี 'งี้' ที่เป็นร้านโปรดถึงโปรดมากของคุณน้องเขยอยู่ด้วย

เรียกว่าถ้าตกค่ำแล้วหิว นึกอะไรไม่ออก นอกจาก 'ก๋วย จั๊บ 3 ทุ่ม' ตรงสถานีรถไฟบางซื่อแล้ว

ต้องดิ่งมาหน้าโรงพยาบาลบางโพ ที่ตั้งของงี้เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลัก

มาห่างหายกันไประยะหลัง เพราะร่ำรวยแล้วย้ายที่

จากหน้าโรงพยาบาลบางโพ ไปอยู่ใกล้โรงเรียนเทพประสิทธิ์ ถนนกรุงเทพฯ-นนท์ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

แถวๆ โรงพักเตาปูนน่ะครับ ลองไปหาดู

และมาพักใหญ่นี่เองที่เพิ่งรู้ว่า เดี๋ยวนี้เขาเปิด สาขาสองแล้ว เลยมาจากสาขาแรกพอประมาณ

ยังอยู่บนถนนกรุงเทพฯ-นนท์นั่นแหละครับ แต่ให้วิ่งตรงเลยแยกวงศ์สว่างมาประมาณ 200-250 เมตร แล้วสังเกตด้านซ้ายมือ

จะเห็นป้ายร้านบะหมี่นายงี้ ตู้ไม้ หน้าตึกแถว

แต่ช่วงนี้อาจจะลำบากสักหน่อย เพราะกำลังขุดถนนทำเสารถไฟฟ้า เลยจอดรถหน้าร้านไม่ได้

บังเอิ๊น-บังเอิญว่าวันนั้นเอารถไปเข้าอู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กันตอนเที่ยงพอดี

ด้วยความเคารพกฎจราจร ก็เดินข้ามสะพานลอยไป

ถึงร้านเขาไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง

สั่งบะหมี่แห้งมาหนึ่ง เกี๊ยวน้ำอีกหนึ่ง และข้าวหมูแดงหมูกรอบอีกหนึ่ง

เสียดายที่ไปกันสองคนตายาย สั่งได้แค่นี้ ไม่งั้นละก็---(ฮา)

ทั้งบะหมี่ เกี๊ยว หมูแดง หมูกรอบ รวมไปถึงเป็ดย่าง เป็ดพะโล้ เขาทำเองทั้งหมดจากร้านใหญ่เตาปูน แล้วส่งมาประกอบ (พูดยังกับรถยนต์) ที่นี่

ยังอร่อยคงเส้น คงวา

เส้นบะหมี่กับแป้งเกี๊ยวเขาทำมาสด ยังหอมอยู่

หมูแดงหอมควันย่าง หมูกรอบก็กรอบได้ใจ

น้ำซุปเขาเคี่ยวกระดูกหมูกับเกลือจนเนียน ออกเค็มนำนิดๆ แต่ซดแล้วชื่นใจ

ถ้าจะมีที่ติอยู่นิดเดียว ในฐานะลูกหลานนครปฐม+ลูกเขยนครปฐมแดนข้าวหมูแดง ก็คือน้ำราดหมูแดงของเขาหวานไปนี้ดดด

ไม่มาก และแก้ได้ด้วยการตักพริกดองใน ซีอิ๊วมาราดเยอะๆ

มีเปรี้ยวมีเผ็ดนิดๆ ตัดกับหวาน ไปคลุกตรงที่ข้าวขาวๆ ช่วยเจือรสให้อ่อนลง

ก็อร่อยละครับ

ข้อน่าสังเกตอย่างหนึ่งของร้านนี้ก็คือ คนกินในร้านไม่เยอะ เพราะจอดรถไม่ได้

ฉะนั้น ส่วนใหญ่จึงมาหิ้วกลับไปฝากที่บ้านหรือเพื่อนฝูง

เข้ามาคนหนึ่งแล้วสั่งใส่ห่อกลับไป 10 หรือ 20 นั้นเป็นเรื่องปกติ

แล้วไม่ได้มาคนเดียวเสียด้วย เดี๋ยวก็มา-เดี๋ยวก็มา

ถามเด็กในร้านก็บอกว่า ตั้งแต่ขุดถนนทำรถไฟฟ้า คนนั่งกินในร้านก็บางไป แต่คนหิ้วกลับบ้านหรือกลับไปฝากเพื่อนเยอะขึ้น

จะลองไปหิ้วดูบ้างก็ได้นะครับ ไม่ผิดกติกา

ถือว่าช่วยให้ร้านอร่อยๆ อยู่ต่อไปได้

 

ร้านบะหมี่นี่ก็น่าทานจังค่ะ

 

จริง ครับ

 

น่าอร่อยทั้งนั้นครับ

 

"ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" กลมกล่อมน้ำซุปสมุนไพรตำรับชาววัง อร่อย(โฮก)จนอิ่มแปล้

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 250px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 300px;"><ins id="google_ads_frame1_anchor" style="display: block; border: medium none; height: 250px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 300px;"></ins></ins>
"ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" กลมกล่อมน้ำซุปสมุนไพรตำรับชาววัง อร่อย(โฮก)จนอิ่มแปล้

โดย...ตามลม​

ชอบ "แกง" อะไรมากที่สุด ?



"แกงเขียวหวาน" คงอยู่ในอันดับต้นๆ ที่หลายคนนึกถึง ยิ่งถ้าได้ข้าวสวยร้อนๆ หรือขนมจีนเส้นนุ่มๆ มาทานคู่กันแล้วล่ะก็อิ่มหนำ โจ้ได้ไม่จำกัดโดยไม่รู้เบื่อตลอดวันแน่ๆ

​

​

แต่สำหรับบรรดาขาตะลอนชอบชิม ลิ้มอาหารแปลกใหม่ ไม่ซ้ำเมนู ขอท้าไปลอง "คุณติ๊ก ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" ซึ่งอยู่ริมถนนสนามจันทร์ถัดจากองค์พระปฐมเจดีย์ มุ่งหน้าม.ศิลปากร สนามจันทร์ โดยเขาหยิบ "สารพัดเส้นก๋วยเตี๋ยว" มากลั้วกับซุปแกงเขียวหวานที่ปรับรสชาติให้พอเหมาะพอดีกัน สมดังสโลแกนประจำร้าน "อร่อยครบเครื่อง เรื่องเขียวหวาน"





<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" height="72" width="17"> <tbody> <tr> <td>
</td> <td>



</td></tr></tbody></table>
"ทรงวุฒิ ไวยลิยา" หรือ คุณติ๊ก เจ้าของร้าน เล่าว่า เป็นคนชอบทานแกงเขียวหวานมาตั้งแต่เด็กๆ จนวันหนึ่งรู้สึกไม่อยากทานคู่กับข้าวแล้ว เลยลองสั่งเส้นก๋วยเตี๋ยวมาแทน และก็เห็นว่า ก๋วยเตี๋ยว กับแกงเขียวหวาน เข้ากันได้ จึงเกิดเป็นไอเดีย "ก๋วยเตี๋ยว...เขียวหวาน" ที่ต้องกล้าพูดว่า "แตกต่าง" เป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวของโลก เหมือนเส้นผมบังภูเขา คอนเซปต์นี้ง่ายๆ แต่ยังไม่มีใครกล้าทำ



กะทิ หวานหอม เคี่ยวจนแทบไม่มีไขมัน (สำหรับคนกลัวอ้วน) ผสมผสานสมุนไพรไทยและเครื่องเทศมากกว่า 15 ชนิด คือ หัวใจหลักที่ทำให้ น้ำแกงเขียวหวานของคุณติ๊ก กลมกล่อม ถูกปากผู้ทาน ซึ่งเป็นสูตรเก่าโบราณชาววังที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยคุณยายทวด มาคุณยาย คุณแม่ กระทั่งถึงคุณติ๊กทายาทรุ่นที่ 4

"น้ำแกงเขียวหวาน ตอนนี้มีทั้งหมด 10 อย่าง เช่น เขียวหวานไก่ เนื้อ หมู ลูกชิ้นปลา ซึ่งเป็นเมนูที่เราเห็นทั่วๆ ไป ส่วนเมนูใหม่ที่เราคิดขึ้นมาจะเป็น เมนูเขียวหวานทูน่า เขียวหวานกุ้ง เขียวหวานปูอัด เขียวหวานปลาหมึกยัดไส้ หรือจะใส่รวมกันทั้งหมด เป็นเขียวหวานทะเล ที่ ร้านทำมาเพื่อเอาใจน้องๆ วัยรุ่น รสชาติแต่ละแบบก็จะแตกต่างกันไป แถมยังขายดีเสียด้วย น้ำซุปที่ใส่ให้ลูกค้าไม่ต้องปรุงเพิ่ม ความเผ็ดอยู่ในระดับกลางๆ ไม่เผ็ดมาก แต่ใครทานเผ็ดมากเราจะมีพริกคั่ว พริกสดตำให้" คุณติ๊กไล่เรียงเมนู สารพัด "เขียวหวาน" ให้ฟัง ทั้งยังบอกว่า ทั้งหมดสามารถทานคู่กับ "ตระกูลเส้น" ได้ทั้งนั้น ทั้ง เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่หยก พาสต้า มาม่า เกี๊ยมอี๊ วุ้นเส้น เซียงไฮ้ สปาเก็ตตี้ มะกะโรนี เป็นต้น



แต่ถ้าบางคนไม่คุ้นกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ทางร้านก็มีเมนูเซ็ทข้าวไข่เจียวกรอบ ใส่พริกหอม กับ ซุปเขียวหวาน ให้ได้ทานกันด้วยนะ

ธีม "สีเขียว"ของร้าน "คุณติ๊ก ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" เป็นเอกลักษณ์ที่จดจำได้ง่าย แม้ จะมีที่นั่ง แค่ 35 ที่นั่ง ภายใต้พื้นที่ที่ไม่ใหญ่โต แต่การตกแต่งถือว่าน่ารักไม่หยอก ทุกอย่างล้วนเป็นสีเขียวทั้งหมด เริ่มตั้งแต่นอกร้านที่ตระหง่านด้วยร่มสีเขียวคันใหญ่ มีโต๊ะ เก้าอี้ไม้เล็กๆ ตั้งอยู่ 3-4 ชุด สำหรับคนที่ชอบรรยากาศแบบ open air ทานไป ชมวิวไป ภายในร้านมีกระจกที่หุ้มด้วยกรอบไม้ทำเป็นหน้าต่าง รับกับแสงไฟสะท้อนผนังให้ความรู้สึกเย็นสบาย ภาชนะเครื่องใช้สำหรับบรรจุอาหารก็ล้วนดูง่ายๆ แต่ลงตัว คลอเคล้าเสียงเพลงบรรเลงนุ่มๆ ที่เมื่อเข้าไปนั่งทานแล้วแทบไม่อยากลุกไปไหน

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td>
</td> <td>
</td></tr></tbody></table>​

แม้ร้าน "คุณติ๊ก ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" จะเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ต้องขอบอกว่า ลูกค้าแน่นเอี้ยด เต็มร้านทุกวันมิได้ขาด ด้วยรสชาติอาหารที่อร่อยถูกปากแล้ว ราคายังถือว่าเกินคุ้มเสียอีก เพราะนอกจากจะมีเมนูเส้นก๋วยเตี๋ยว ให้เลือก อะแด๊ปกับน้ำแกงเขียวหวานสารพัด เมนูเซ็ท ทั้งยังมีเครื่องเคียงเป็นปลากรอบและไข่เค็มแถมให้อีกด้วย ขณะที่ถ้าใครชอบทานผัก เดินไปตักจากตะกร้าที่วางไว้ได้ไม่จำกัด เช่นเดียวกับน้ำสมุนไพรต่างๆ ที่ทางร้านใส่ขวดโหลมาวางไว้ ใครชอบทานน้ำอะไร ก็จ่ายเพียงแค่ครั้งเดียว แต่เติมฟรีไม่อั้นตลอดวัน ถือเป็นลุกเล่นอย่างหนึ่งที่ทางร้านอยากให้ลูกค้าสนุกและมีส่วนร่วมไปด้วย กัน ด้านของหวานก็มี เค้กมะพร้าว เงาะลอยแก้ว เฉาก๊วย

​

"สำหรับ ก๋วยเตี๋ยวแล้วเราดูแล 35 คนนี้ให้ดีเสียก่อน ถ้าลูกค้าอยากทานจริงๆ เขารอได้ เราบริการด้วยใจ ใส่ใจอย่างทั่วถึง ถ้าซื้อกลับบ้านจะได้ทุกอย่างพิเศษหมดเลย น้ำซุป ผัก สามารถเอาไปทานกับข้าวได้อีก มีขอเมนูรวมแบบพิเศษ ก็จัดให้ คิดราคาพิเศษแต่ไม่แพง เริ่มต้น 39 บาทจนถึง 59 บาท (39-49-59) เป็นราคาที่คนกรุงเทพฯ คิดว่าถูก บ้านเราก็สามารถทานได้ เราให้คุณค่ากับลูกค้าระดับเดียวกัน บรรยากาศเหมือนกับเข้าไปนั่งทานในกรุงเทพฯ แต่การจ่ายเงินจ่ายแบบชาวบ้านๆ ไม่แพงมาก ดังสโลแกน " เจ้าของร้านวัย 28 กล่าวปิดท้าย



แปลก อร่อย ได้สนุก แบบนี้ หากใครแวะไปนครปฐมไม่ลองไปรับประทาน "คุณติ๊ก ก๋วยเตี๋ยว เขียวหวาน" ถือว่าพลาดอย่างแรง โดยเขาเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 20.00 น. แต่ขอเตือนถ้ามาถึงประมาณ 15.00 – 16.00 น. (บางวัน) ของอร่อยอาจจะหมดก่อน ซึ่งทางร้านก็ใจดีอาจต้องทำอีกหนึ่งรอบ เพื่อให้ลูกค้ารอบดึกได้ทานด้วย หรือจะติดต่อไปจับจองไว้ก่อนที่ คุณติ๊ก โทร 084-9146444,085-3300688 หรือ คลิกไปชมเมนูอาหารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/greencurry2010




.

http://www.matichon.co.th/news_detai...&subcatid=0901

.

 

<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="headline" align="left" valign="baseline">“เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)” รสเด็ดดี แซบโดนใจ</td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> <td align="right" valign="baseline" width="102"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="middle">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="middle">12 ธันวาคม 2553 16:21 น</td></tr></tbody></table>

<table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">โต๊ะนั่งสบายๆ ภายในร้าน “เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)”</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> มื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” อยากจะชักชวนแฟนๆ นักกินที่พิสมัยการกินก๋วยเตี๋ยวเรือ เดินทางไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ด อันแสนจะแซบถูกปากโดนใจ กันที่ร้าน “เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)” เป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเล็กๆ ที่มีลูกค้ามาอุดหนุนอย่างมากมาย เพราะล้วนแต่ติดใจในรสชาติก๋วยเตี่ยวเรือของที่นี่ที่มีน้ำซุปอันเข้มข้นและ หอมหวนชวนกิน บวกกับมีเนื้อหมู เนื้อวัว ที่ผ่านการหมักข้ามคืนอย่างนุ่มลิ้น แถมยังปรุงรสชาติมาแบบแซบปากโดยไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่มเลย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="350"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="350"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">คุณวินัย ด้วงเอี่ยม (ลุงกี้) เจ้าของร้านอารมณ์ดี</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> “เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)” มีเจ้าของร้านที่แสนจะอารมณ์ดีนามว่า “ลุงกี้” วินัย ด้วงเอี่ยม ซึ่ง เปิดขายก๋วยเตี๋ยวเรือมานานกว่า 13 ปี เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือสไตล์อยุธยา ที่ลุงกี้ได้ปรับปรุงน้ำซุปเป็นสูตรสไตล์เฉพาะของทางร้าน มีการผสมผสานเครื่องเทศสมุนไพรทั้งไทยและจีนลงไปด้วย แล้วใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำซุปนานกว่า 3 ชม. ได้เป็นน้ำซุปที่มีรสชาติของน้ำต้มกระดูกที่หวาน แล้วได้กลิ่นหอมจากเครื่องเทศสมุนไพร ซึ่งน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่จะมีทั้งแบบน้ำใส น้ำข้น(รสชาติเหมือนน้ำตกแต่ไม่ใส่เลือด) และน้ำตก (ใส่เลือด) ซึ่งน้ำซุปของที่นี่มีทั้งน้ำซุปที่ต้มจากกระดูกหมู และน้ำซุปที่ต้มจากกระดูกวัว ซึ่งมีการแยกหม้ออย่างชัดเจน และแยกภาชนะที่ใส่เนื้อหมู เนื้อวัว อย่างชัดเจนด้วย

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นหมี่น้ำตกเนื้อ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> สำหรับเส้นก๋วยเตี๋ยวก็มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ขาว บะหมี่เหลือง เส้นใหญ่ วุ้นเส้น ก๋วยเตี่ยวเรือก็ให้เลือกสั่งมาลองลิ้มมากมาย อย่างก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นเล็กแห้งหมู (เล็ก 11 บาท ใหญ่ 20 บาท จัมโบ้ 30 บาท) ที่จะใส่พริกป่น น้ำส้ม น้ำปลา และถั่วป่น เรียกว่าปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ มาถึงก็กินได้เลย (ถ้าไม่กินเผ็ดบอกไม่ใส่พริกได้) ในชามมีเครื่องหลายอย่าง มีเนื้อหมู หมูสับ ตับหมู ที่กินแล้วนุ่มลิ้นมากเพราะผ่านการหมักข้ามคืน มีหมูตุ๋นที่เปื่อยนุ่ม เพราะตุ๋นกับเครื่องเทศต่างๆ นานกว่า 3 ชม. มีลูกชิ้นหมูเคี้ยวนุ่มเด้งปาก

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นเล็กแห้งหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> กินแห้งไปแล้วมากินน้ำบ้าง เป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นหมี่น้ำตกเนื้อ (เล็ก 11 บาท ใหญ่ 20 บาท จัมโบ้ 30 บาท) ในชามมีเนื้อสดที่เคี้ยวหนึบหนับปากไม่มีความคาวอยู่เลย เพราะหมักกับเครื่องเทศทิ้งไว้1คืน มีเนื้อเปื่อย ที่เคี้ยวเปื่อยนุ่มลิ้นมากๆ เพราะลงตุ๋นในน้ำซุปนานเป็นวัน มีเอ็นแก้วเคี้ยวกรึบปาก ตับวัวเคี้ยวนุ่ม และลูกชิ้นวัวเคี้ยวเด้ง พร้อมกับซดน้ำซุปที่เข้มข้นมากๆ ได้รสชาติและกลิ่นของเครื่องเทศสมุนไพรต่างๆ หอมขึ้นจมูก และที่สำคัญไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่มเลย เพราะทางร้านปรุงมาให้แล้วเสร็จสรรพเช่นกัน

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เส้นเล็กน้ำตกหมู</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> แล้วนอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือรสแซบแล้ว ที่ร้านยังมีขนมหวาน ราคา ถ้วยละ 12 บาท อย่างน้ำแข็งใสกะทิ ที่ใช้กะทิสดๆ ส่วนเครื่องก็มีลอดช่อง เผือก แตงไทย ข้าวเหนียวดำ ส่วนน้ำแข็งใสน้ำแดง เครื่องมีให้เลือกทั้ง ขนมปัง ลูกชิด ข้าวโพด วุ้นมะพร้าว ให้กินล้างปากแบบอร่อยหอมหวานชื่นใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บะหมี่แห้งเนื้อ</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> และมื้อนี้ “ผ่านมาแวะกิน” ก็ได้อิ่มกับก๋วยเตี๋ยวเรือรส เด็ดแบบอิ่มหนำ ซึ่งหากใครอยากจะลองลิ้มก๋วยเต่ยวเรือรสแซบแบบนี้บ้าง ก็ไม่ยากแค่ขับรถออกจากบ้านตรงมาที่ร้าน “เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)” เป็นได้แซบแบบโดนใจ

</td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="400"> </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หวานเย็นชวนกิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“เตี่ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)” ตั้งอยู่ที่ 115/3 หมู่ 3 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากแยกแคราย มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 5 ข้ามสะพานพระราม 5 แล้วชิดซ้ายออกคู่ขนาน ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นร้านเตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้) อยู่ซ้ายมือ (อยู่ก่อนถึงเซเว่นอีเลฟเว่น) จอดรถได้ริมถนน เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น. ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-9769-7566, 08-4097-6127</td></tr></tbody></table>

Travel - Manager Online -

<table align="Center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="450"> <tbody><tr> <td align="center" valign="Top" width="450"> </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top"></td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : เตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้)

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

เมนูจานเด่น : เส้นหมี่น้ำตกเนื้อ, เส้นเล็กแห้งหมู, เส้นเล็กน้ำตกหมู, บะหมี่แห้งเนื้อ, หวานเย็น

บรรยากาศร้าน : มีโต๊ะให้นั่งสบายๆ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 115/3 หมู่ 3 ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี การเดินทางถ้ามาจากแยกแคราย มุ่งหน้าไปทางสะพานพระราม 5 ข้ามสะพานพระราม 5 แล้วชิดซ้ายออกคู่ขนาน ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นร้านเตี๋ยวเรือบางกร่าง (ลุงกี้) อยู่ซ้ายมือ (อยู่ก่อนถึงเซเว่นอีเลฟเว่น)

สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ริมถนน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-17.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-9769-7566, 08-4097-6127