เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ลูกชิ้นปลา ธ ธง

รายงานโดย :ชายโย:

��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - �١��鹻�� � ��

หลายท่านนิยมรับประทานก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา เพราะเป็นหนึ่งในเมนูเพื่อสุขภาพ แต่ที่น่าเสียดายก็คือก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาล้วนๆ นั้นหารับประทานได้ไม่ง่ายนัก




บางร้านเป็นลูกชิ้นปลาโรงงานรสชาติที่ได้จะเป็นอีกแบบ เผลอๆ จะมีกลิ่นคาวให้กวนใจ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุดต้องลูกชิ้นปลาทำมือ เรื่องรสชาติและคุณภาพคงอุ่นใจสำหรับลูกค้า แล้วถ้าคุณกำลังหาลูกชิ้นปลาทำมือสดๆ ทุกวันละก็ ผมแนะนำ ธ ธง ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลาทำมือเพื่อสุขภาพครับ

การเดินทางมาที่ร้านนี้ ให้ตั้งมาร์กแลนด์ไว้ที่ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ครับ จากนั้นให้วิ่งเข้าถนนสาย 305 รังสิต-นครนายก ร้านนี้อยู่ริมถนนใหญ่ระหว่างซอยรังสิต-นครนายก 63-65 เห็นหน้าร้านค่อนข้างชัดเจน แต่มีที่จอดรถไม่มากนัก เวลาเปิดคือ 7 โมงเช้า ไปจนถึง 4 โมงเย็น

เมนูประจำร้านมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวไปจนถึงสเต๊ก เรียกว่าเอาใจลูกค้ากันเต็มๆ ใครอยากซื้อข้าวได้ข้าว ใครอยากรับประทานสเต๊กมีขาย เพิ่งเคยเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวขายสเต๊กก็ร้านนี้ละครับ แต่จะว่าไปคราวก่อนผมไปร้านสเต๊กก็มีข้าว มีราดหน้าขายเหมือนกัน ยุคนี้ขายอะไรได้ก็ขายครับ ทำให้อร่อยมีคุณภาพก็พอครับ

กลับมาที่เมนูของร้าน ธ ธง นี้กันต่อ เมนูหลักๆ ของเขาคือเย็นตาโฟลูกชิ้นปลาขึ้นป้ายเป็นตัวชูโรง ว่าแล้วก็ต้องสั่งมาชิมเสียหน่อย รสชาตินั้นออกแนวกลางๆ ครับ ไม่ดี ไม่แย่ ไม่ได้รู้สึกว่าอร่อยไปกว่าเย็นตาโฟร้านอื่นๆ แต่ที่ชอบก็คือการลวกเส้นได้กำลังดี กับลูกชิ้นปลาเคี้ยวเหนียวนุ่ม กัดลงไปแล้วรู้สึกได้ถึงความเหนียวกำลังดี กลิ่นหอมของลูกชิ้นปลารสชาติอร่อยได้ใจ
ว่าแล้วก็ต้องสั่งลูกชิ้นปลาลวกจิ้มมาชิมรสชาติที่แท้จริงอีกครั้ง ลูกชิ้นปลาขาวๆ แต่ละลูกยังมีร่องรอยนิ้วมือคนทำไว้ให้ลูกค้าเห็นว่าทำมือ ไม่ได้ปั๊มมาจากโรงงาน ไม่มีกลิ่นเหม็นคาว และรสชาติหอมอร่อย น้ำจิ้มออกแนวเปรี้ยวเผ็ด แนะนำว่าหากใครสั่งคงต้องเป็นแบบยำน่าจะอร่อยกว่าแบบลวกครับ



เบ็ดเสร็จทั้งสองเมนูสำหรับเย็นตาโฟ ถ้าชามนี้ไม่ได้ลูกชิ้นปลาทำมือช่วยกู้หน้า ผมคงเขียนโน้ตถึงเจ้าของร้านให้เอาป้ายเย็นตาโฟลงเถอะ แล้วปรับสูตรหาเมนูอื่นที่เข้ากับรสชาติลูกชิ้นปลาที่ดีกว่านี้แทน ส่วนลูกชิ้นปลาลวกจิ้มนั้นต้องปรับปรุงรสชาติน้ำจิ้มขนานใหญ่ เพราะที่ลูกชิ้นอร่อยก็ควรคู่กับน้ำจิ้มที่ดีกว่านี้เช่นกัน ร้านลูกชิ้นปลา ธ ธง จึงเด่นที่ลูกชิ้นปลาล้วนๆ ใครที่ชอบลูกชิ้นปลาทำมือลองแวะไปชิมได้ครับ ไม่ผิดหวังเรื่องลูกชิ้นปลาจริงๆ

ความอร่อย 4 (ให้เฉพาะลูกชิ้นปลา)
ความสะอาด 4

​

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชื่อฝรั่ง..อาหารไทย "โกโก้นัท ปาล์ม" ต้นมะพร้าว "ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" / แม่ช้อยนางรำ</TD></TR></TBODY></TABLE>
Travel - Manager Online
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2552 16:39 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : แม่ช้อยนางรำ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"หนูวรรณ" ลูกสาวครูจรวย แม่สมทรงก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย วัดสังเวช บางลำพู</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"นักเลงเปิบรุ่นใหญ่ อายุห้าสิบปีขึ้นไป
จะต้องมากินฝีมือคนเมืองสุโขทัยเจ้านี้
ขายมาสี่..ห้าสิบปีตำนาน ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย"

ความจริง..อีชั้นไม่ต้องเขียนแนะนำเชิญชวนอะไรให้วุ่นวายเพียงบอกแต่ว่า

ร้าน "โกโก้นัท ปาล์ม" ที่อีชั้นเขียนถึงสัปดาห์นี้ ก็คือร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ชื่อร้าน "สมทรง" ในวัดสังเวช ริมคลองบางลำพู นักเลงเปิบก็รู้จักกันดี

ร้านนี้เป็นต้นตำรับเก่าแก่ของ "ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" ที่มาเปิดขายในกรุงเทพเมื่อสี่..ห้าสิบปีที่ผ่านมา

อาหารอร่อยประจำร้าน นอกจากก๋วยเตี๋ยวที่ว่าแล้ว

บรรดาแกงแบบฝีมือคนไทยโบราณอร่อยทั้งนั้น อย่างแกงเขียวหวาน ผัดเผ็ดปลาดุก ข้าวคลุกกะปิ ข้าวน้ำพริกลงเรือ รวมทั้งเมนูที่อีชั้นกินมาไม่เคยเปลี่ยนใจคือ..ขนมจีนซาวน้ำ หาฝีมือเก่าทำได้อร่อยพอดี๊..พอดี!!

แต่ที่จะต้องเขียนเรียนแควน..แควนก็เพราะว่า


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ขนมเบื้องสุโขทัย" ม่ายช่าย..ขนมเบื้องญวนนะเจ้าค่ะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ร้าน "สมทรง" ในวัดสังเวช อย่าว่าแต่หาที่จอดรถยากเลย กระทั่งเก้าอี้จะนั่งกินก็แสนลำบาก เรียกว่าต้องตากหน้ายืนตาลอย คอย..คล้อย..คอยว่า


เมื่อไหร่จะมีเก้าอี้ว่างเสียทีละโ-ย

แต่ตอนนี้ไม่ต้องไปถึงร้านเก่าก็ได้ เพราะลูกสาวของเจ้าของร้าน "สมทรง" ที่ว่า ชื่อว่า "หนูวรรณ" เธอมาเปิดอีกสาขาอยู่ที่ถนนรัชดาภิเษก แถวหน้าศาลอาญา ลาดพร้าวใกล้บ้านอีชั้น

อย่างนี้มันก็ต้องแนะนำกันหน่อย เพื่อเห็นแก่ความอร่อยที่ไม่น่าควรจะปล่อยให้หลุดมือ

ร้านโกโก้นัท ปาล์ม
อยู่ซอยรัชดาภิเษก 42 ถนนรัชดาภิเษก ข้าง "เบนซ์อมร" โทรศัพท์ 0-2622-2246, 0-2513-9699, 08-3220-4441 เปิดขายทุกวันระหว่างเวลา 11.00-22.00 น.

สำหรับท่านที่เป็นลูกค้าประจำ ก็ไม่จำเป็นต้องอ่านข้อเขียนของอีชั้น ก็เพียงแต่ให้รู้ว่า "ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" วัดสังเวช บางลำพู เขาเปิดอีกสาขาอยู่ที่นี่



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ซาวน้ำ" อาหารชาววัง ฝีมือชาวบ้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แต่ถ้าใครยังไม่รู้ ไม่เคยเปิบก็ต้องอ่านซะหน่อย จะได้อร่อยยิ่งขึ้น

ร้านนี้มีความหลากหลายมากกว่าที่ร้านเก่าวัดสังเวช คือตอนเที่ยงเขาจะมีข้าวแกงแบบไทย..ไทย ใส่ถาดให้คุณได้เลือกสั่งตามใจ

ส่วนก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เขาปรุงใหม่..ใหม่ ร้อน..ร้อนหลังร้าน ซึ่งก็รวมทั้งอาหารจานเดียวทั้งหลายที่จะต้องทำกันทันที ไม่มีทำตามลมผึ่งแดดเอาไว้

ข้าวแกงขึ้นชื่อก็คือ เขียวหวาน พะแนง ผัดเผ็ด มีให้เลือกวันละ 7-8 เมนูไม่ซ้ำ

ส่วนอาหารจานเดียวก็พวกข้าวน้ำพริกลงเรือ ขนมจีนซาวน้ำ ข้าวคลุกกะปิฝีมือเก่า ส่วนที่ต้องสั่งก่อนล่วงหน้าเพราะช้าสักหน่อยก็คือ

"ขนมเบื้องสุโขทัย" ที่อร่อยแตกต่างไปจากขนมเบื้องญวน และที่สำคัญต้องสั่ง "ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย" แห้งชาม...น้ำชาม รับรองว่าอร่อยลืมอิ่มกัน


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ร้านชื่อฝรั่งแต่ขายอาหารไทย ฝีมือของคนไทยสุโขทัย ไม่ขอจาระไนมากไปกิน...ไปเปิบกันเถิดเจ้าค่ะไม่ผิดหวัง

คนรุ่นเก่ากินแล้วจะคิดถึงความหลัง

คนรุ่นใหม่กินแล้วจะได้รู้ว่าความอร่อยแบบไทย..ไทยนั้นอร่อยอย่างไร

อ๋อ!! เกือบลืมไปขนมไทยแบบโบราณ เขาก็มีเปลี่ยนทุกวัน อย่าง "เปียกข้าวฟ่าง" ตั้งแต่คุณหญิงย่าอีชั้นจากไป โอกาสจะได้กินก็แสนจะยาก

แต่มาที่นี่มี "ข้าวฟ่างเปียก" แบบในรั้วในวังให้เปิบกัน ขนมไทยโบราณแปลกก็มีอีกหลายรายการ

อะไร..อะไรก็ดีทั้งนั้น เว้นแต่ชื่อทำไมไม่ตั้งชื่อเป็นภาษาไทย เล่นใช้ภาษาปะกิตเรียกไม่ติดปาก แต่ก็ต้องมาเพราะติดฝีมือจ้า!!

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เซียนบะหมี่

<A href="http://hilight.kapook.com/view/40019" target=_blank>?荧ễ? ૕¹ ?Ћ?覬t;/a>

​

​

เซียนบะหมี่ (ข่าวสด)

คอลัมน์ เอิ๊กอ๊ากอินเตอร์

ฝีมือไม่แน่จริงทำงี้ไม่ได้นะขอบอก

สถาบันที่สุดในโลก "กินเนสบุ๊ก" ป่าวประกาศยกย่องให้ คุณลุงหลี่ เอิ้นไห่ พ่อครัวชาวจีนผู้เชี่ยวชาญการทำเส้นบะหมี่ ครองสถิติใหม่

เป็นมนุษย์ที่สามารถใช้ก้อน "แป้ง" น้ำหนักแค่ 1 กิโลกรัม มาตีๆๆ ยืดๆๆๆ ดึงๆๆ จนได้ "เส้นบะหมี่" ยาวเฟื้อยรวมๆ กันแล้วมากถึง 2,852 กิโลเมตร!

เรียกว่าถ้าจับเอาเส้นบะหมี่ของลุงหลี่มาขึงตรงๆ ก็ลากยาวสุดๆ ชนิดข้ามมณฑล ข้ามประเทศกันเลยทีเดียว



ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก

 

รสเด็ด-ชามโต เย็นตาโฟ เม้งโภชนา


ยังคงวนเวียนอยู่แถวๆ ย่านพระโขนง ไม่ไกลจากตัวตลาดมากนัก ราวๆ 100 เมตร ตรงข้ามกับ ซอยปรีดีพนมยงค์ 5 จะพบกับร้านเย็นตาโฟเจ้าอร่อย




“เม้งโภชนา” เป็นร้านตึกแถวคูหาเดียว มีที่นั่ง 5-6 โต๊ะ พื้นที่ค่อนข้างคับแคบ แถมร้อนอบอ้าว นี่ขนาดว่าเปิดพัดลมแล้วก็ยังร้อนอยู่ดี อ้อ!...อีกอย่างคือเจ้าของไม่ค่อยยิ้มเท่าไหร่ แต่ช่างเถอะ เมื่อเขาอร่อยจริง เราก็อภัยให้ได้
สารพัดลูกชิ้นพาเหรดมาให้ลิ้มลอง ตั้งแต่ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นเผือก ลูกชิ้นหมู จนถึงของเด็ดประจำร้าน ลูกชิ้นปลาโฮมเมด ที่ทั้งนุ่ม เหนียว ไม่ใส่แป้ง และที่ห้ามพลาดคือ ฮื่อก้วย หรือลูกชิ้นปลาเส้น มี 2 แบบ ต้มกับทอด อร่อยต่างกันแล้วแต่คนชอบ
เย็นตาโฟชามโตร้อนกรุ่นถูกเสิร์ฟ สีสันอาจไม่เหมือนร้านอื่น เพราะเขาแอบซ่อนซอสสีแดงไว้ข้างใต้ เครื่องเคราก็มีลูกชิ้นอย่างที่บอก ผักบุ้งไทยต้นอวบอ้วนคัดสรร ไม่ได้สักแต่หั่นใส่มาทั้งหมดโดยไม่แยกส่วนแข็งส่วนอ่อน
แค่คนๆ ให้เข้ากัน ไม่ปรุงก็ซดได้เลย หรือจะปรุงก็ใส่พริกน้ำส้มกับพริกป่นพอแล้ว เดี๋ยวเสียรสดั้งเดิมของเขา น้ำซุปกลมกล่อมมาก ช่วยเพิ่มความอร่อยให้เย็นตาโฟอีกโข
ลูกชิ้นปลาที่เขาคอนเฟิร์มว่าทำเอง เป็นสูตรที่สืบทอดมายาวนานของทางร้าน อร่อยเด็ดสมคำอ้าง ไม่มีกลิ่นคาว หั่นชิ้นพอเหมาะ เคี้ยวได้เต็มปากเต็มคำ ที่สำคัญเขาเสิร์ฟชามโตๆ เรียกว่าหิวจัดสั่งพิเศษชามเดียวก็อิ่มแปล้ ขายที่ราคา 30-35 บาท
ถ้ายังไม่อิ่มจะสั่งอย่างอื่นมากินต่อก็ไม่ว่า เช่น ฮื่อก้วย เส้นละ 35-40 บาท หั่นเฉียงๆ จิ้มกับน้ำจิ้มรสแซบ หรือจะลองก๋วยเตี๋ยวธรรมดา มีทั้งแห้งและน้ำ แต่แนะนำว่าแห้งไม่ค่อยเด็ด ตรงที่แห้งเกินไป กินแล้วฝืดคอ เพราะเขาไม่เสิร์ฟน้ำซุป แล้วถั่วงอกก็ใส่มานิดหน่อย ไม่สะใจคนชอบถั่วงอกเอาเสียเลย ทางที่ดีสั่งแบบน้ำนั่นละ อร่อยกว่ากันเยอะ




ใครคิดสั่งใส่ถุงไปฝากคนที่บ้าน อยากให้แยกน้ำซุปกับเส้นและเครื่องเครา จะได้รสชาติเหมือนกินที่ร้านเด๊ะ และควรจะสั่งลูกชิ้นต่างหาก ราคาก็ขึ้นอยู่กับชนิด ขายเป็นร้อย ลูกชิ้นกุ้ง ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นเผือก ลูกชิ้นปลา ร้อยลูก 270-290 บาท ส่วนเกี๊ยวปลา 330 บาท

หรือจะสั่งแค่พออิ่มก็มี 6 ลูก 20 บาท 25 ลูก 73 บาท 50 ลูก 145 บาท ใส่ในเย็นตาโฟก็เด็ด เอาไปปิ้งหรือทอดก็เจ๋ง คอลูกชิ้นทั้งหลายเห็นทีห้ามพลาด
การเดินทางมาชิมเย็นตาโฟร้านนี้ สะดวกสุดคือนั่งบีทีเอส ลงสถานีพระโขนง จากนั้นก็เดินย้อนขึ้นมาทางตัวตลาดประมาณ 200 เมตร ข้ามไปอีกฝั่ง เดินต่ออีกไม่กี่ก้าวร้านจะอยู่ริมถนนใกล้ๆ กัน

ใช้บริการรถเมล์ก็ประหยัดดี และมีหลายสายที่ผ่าน เช่น 22 40 71 115 133 501 545 หรือถ้ายังงงๆ กับเส้นทาง ลองกดเบอร์นี้ 08-1712-4488
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 1 ทุ่ม ช่วงกลางวันคนแน่น เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง และไม่ต้องกลัวของหมด เขามีตลอดทั้งวัน แถมสด ใหม่ รับประกันได้

​

 

ศึกผัดไทยชิงแชมป์โลก เงินร่วม2แสน มืออาชีพ-สมัครเล่น ไม่เกี่ยง ควงตะหลิวสมัครได้

http://www.matichon.co.th/news_detai...id=01&catid=no




จัดแข่งขันผัดไทยชิงแชมป์โลก ชิงเงินรางวัลเกือบ 200,000 บาท ในงาน “มหกรรมอาหารปลอดภัย สู้ภัยเศรษฐกิจ” สมัครได้วันนี้จนถึงวันที่ 19 สิงหาคมนี้ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพ หรือมือสมัครเล่น รีบควงตะหลิวมาสมัครได้


[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]P { margin: 0px; } ข่าวจากคณะกรรมการจัดงาน “มหกรรมอาหารปลอดภัย สู้ภัยเศรษฐกิจ” ที่จะจัดให้มีขึ้นพร้อมกับงานวันเส้นทางเศรษฐี ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 26-30 สิงหาคม นี้ที่ ห้างสรรพสินค้า เดอะ มอลล์ บางกะปิ แจ้งว่า ในงานจะมีการแข่งขันชิงชนะเลิศแชมป์โลกผัดไทยขึ้นมา ในวันที่ 29 สิงหาคม เพื่อชิงเงินรางวัลรวมทั้งสิ้น 185,000 บาท

ทั้งนี้การแข่งขันดังกล่าวจะจัดให้มีทั้งผัดไทยตำรับดั้งเดิม และผัดไทยตำรับประยุกต์ โดยแต่ละประเภทดังกล่าวยังแบ่งผู้สมัครเข้าแข่งขันเป็น กลุ่มมืออาชีพและมือสมัครเล่น ดังมีรายละเอียด คือ

ผัดไทยประเภทตำรับดั้งเดิม นั้น กลุ่มมืออาชีพ ผู้ชนะเลิศจะได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท รองชนะเลิศรับเงินรางวัล 10,000 บาท และกลุ่มมือสมัครเล่น ผู้ชนะเลิศได้เงินรางวัล 20,000 บาท รองชนะเลิศเงินรางวัล 10,000 บาท

ประเภทตำรับประยุกต์ กลุ่มมืออาชีพ ชนะเลิศเงินรางวัล 50,000 บาท รองชนะเลิศ 20,000 บาท ส่วนมือสมัครเล่น ชนะเลิศได้รับเงินรางวัล 30,000 บาท และรองชนะเลิศ 15,000 บาท

นอกจากเงินรางวัลดังกล่าวแล้ว ผู้ชนะทุกคนจะได้รับประกาศนียบัตรด้วย

สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าแข่งขันนั้น ในกลุ่มมืออาชีพ ได้แก่ พ่อครัวแม่ครัว ผู้ประกอบการโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร ฯลฯ ส่วนกลุ่มมือสมัครเล่น ได้แก่ บุคคลทั่วไปที่ไม่ได้มีอาชีพเป็นพ่อครัวแม่ครัวของสถานประกอบการ

กำหนดการแข่งขันรอบคัดเลือก แข่งขันที่ ตึกข่าวสด ในวันที่ 25 สิงหาคม 2552 โดยคัดผู้สมัครที่ผ่านเกณฑ์มาเข้าแข่งขันจำนวน 70 คน เพื่อคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบไปแข่งในรอบตัดสินจำนวน 5 คนในแต่ละประเภท

รอบชิงชนะเลิศ แข่งขันที่ เอ็มซีซี ฮอลล์ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ ในวันที่ 29 สิงหาคม 2552 ระหว่างเวลา 13:00 - 18:00 น.
เกณฑ์การตัดสินประเภทตำรับดั้งเดิม ใช้เกณฑ์ตัดสินจากการเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ, ความถูกต้องของสูตร วิธีปรุง และเทคนิคที่ใช้, รูปแบบการนำเสนอ รสชาติ-สีสันความน่ารับประทาน

ประเภทตำรับประยุกต์ ใช้เกณฑ์ตัดสินจากความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมต่างๆ, สูตร วิธีปรุง และเทคนิคเฉพาะตัว, รูปแบบการนำเสนอ รสชาติ-สีสันความน่ารับประทาน

ผู้สนใจสมัครเข้าแข่งขัน ให้เขียนแรงบันดาลใจถึงเหตุผลที่สมัครเข้าร่วมแข่งขัน พร้อมบอกสูตรวัตถุดิบ-วิธีปรุง และแนบภาพถ่ายผัดไทยฝีมือตนเอง พร้อมทั้งแจ้งชื่อ-ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์มือถือของคุณไปที่ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) 12 ถ.เทศบาลนฤมาล แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

วงเล็บมุมซองว่า (แข่งขันปรุงผัดไทย ประเภท (มืออาชีพ หรือ มือสมัครเล่น ตามที่สมัคร)”

อนึ่งผู้ผ่านเกณฑ์ได้เข้าไปแข่งขันในรอบคัดเลือกต้องเสียค่าสมัครในวันแข่งขันท่านละ 100 บาท

รับสมัครถึง 19 สิงหาคมนี้ เท่านั้น สอบถามเพิ่มเติม 02-589-0020 ต่อ 1621 [/FONT]

 

บะหมี่-เกี๊ยว "เจี๊ยเฮง"

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>บะหมี่จะกินอร่อยหรือแค่พอกินได้นั้น มันอยู่ที่เส้นเป็นสำคัญ ถ้าเส้นบะหมี่ดีแล้ว อะไรๆ ก็ดีตามไปหมด

บะหมี่ของ "ร้านเจี๊ยเฮง" นั้นเชื่อถือได้เรื่องความอร่อยความเด็ด เพราะเจ้าของโรงงานบะหมี่มาเปิดร้านเอง จึงมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ

ปิ่นโตเถาเล็กค้นพบร้านบะหมี่-เกี๊ยวเจี๊ยเฮงด้วยความบังเอิญเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ลูกสาวคนเล็กไปฝึกซ้อมยิมนาสติคที่อาคารกีฬาเวสน์ ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) เป็นประจำ

เจี๊ยเฮงเป็นร้านบะหมี่เล็กๆ ในตึกแถวคูหาเดียวริมถนนประชาสงเคราะห์ จากสี่แยกประชาสงเคราะห์ (แยกโบสถ์แม่พระ) ที่ตัดกับถนนอโศก-ดินแดง เข้ามาไม่เกิน 700-800 เมตร อยู่ทางขวามือติดกับห้างทองดี เยาวราช ใกล้ซอยประชาสงเคราะห์ 6 ช่วงตอนเย็นๆ ค่ำๆ บริเวณฝั่งตรงข้ามกับร้านนี้จะมีตลาดนัดจึงดูผู้คนคับคั่ง คึกคัก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ส่วนเรื่องที่จอดนั้นลำบากหน่อย เพราะจอดรถริมถนนไม่ได้ ต้องลองซอกแซกไปจอดในซอยฝั่งตรงข้ามกันเอาเอง ยิ่งมาตอนเย็นเวลามีตลาดนัดลืมเรื่องที่จอดไปได้เลย ทางที่ดีมารถรับจ้างสาธารณะสะดวกสุด

มาร้านนี้มีเมนูเดียวคือ "บะหมี่กับเกี๊ยวใส่หมูแดง" สนนราคาชามละ 25 บาท พิเศษ 30 บาท แนะนำให้สั่ง "บะหมี่แห้ง" ซึ่งให้น้ำซุปมาต่างหากอีกถ้วยเล็กๆ อย่างที่บอกเจ้านี้มีดีที่เส้นบะหมี่ เส้นแบนๆ เล็กๆ เหนียวนุ่มหนึบอร่อย เติมกากหมูปรุงรสเข้าไปด้วยยิ่งทำให้หอมมันยิ่งนัก

เส้นบะหมี่นี้มาจากโรงงานห้องแถวเล็กๆ ของคุณไพโรจน์ ที่อยู่ใกล้ๆ กันในซอยประชาสงเคราะห์ 14 (ซอยพร้อมพรรณ) เขาทำบะหมี่ขายส่งตามร้านบะหมี่ต่างๆ เฉพาะเจ้าประจำมาแล้ว 2 ชั่วอายุคน ไม่ต่ำกว่า 50 ปี แต่เพิ่งมาเปิดร้านบะหมี่เพียงไม่เกิน 6-7 ปีมานี้ วันหนึ่งๆ จะผลิตบะหมี่ไม่กี่ร้อยกิโล ถือเป็นโรงงานขนาดเล็ก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

แต่คุณภาพไม่เล็กไปด้วย คุณไพโรจน์ไม่เคยขี้เหนียวเรื่องวัตถุดิบทั้งแป้งสาลีและไข่เป็ด ความอร่อยมีรสมีชาติของเส้นบะหมี่อยู่ที่การใช้ไข่เป็ดอย่างดีเป็นส่วนผสม

หลังจากคุณไพโรจน์เปิดร้านบะหมี่ได้ปีเดียว ก็ใจดียกให้ลูกน้องคู่ใจชื่อ "ตุ้ย" เป็นเถ้าแก่ดูแลร้านต่อ

นอกจากจะส่งบะหมี่มาให้ขายแล้ว ยังไปเรียนเคล็ดลับการทำ "เกี๊ยวหมูสับ" มาจากลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อบะหมี่กันเป็นประจำ รายนั้นก็ใจดีไม่หวงสูตร บอกส่วนผสมสัดส่วนเครื่องปรุง ซีอิ๊ว น้ำตาล ไข่ และหมูสับอย่างหมดเปลือก

เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่การตีหรือการกวนไส้หมูสับจนเหนียวเหมือนกับการทำไส้ซาลาเปา คุณไพโรจน์จึงนำสูตรเด็ดเคล็ดลับมาสอนต่อให้กับลูกน้องด้วย นอกจากนั้นหมูแดงที่นี่ก็ทำเองเช่นกัน ขาดก็แต่เลี้ยงหมูเองเท่านั้นแหละ

ถ้าใครสนใจอยากซื้อบะหมี่เปล่าๆ กลับบ้าน ให้ลองถามไถ่ที่ร้านกันเอง ถ้ามีเหลือพอเขาก็จะแบ่งขายให้ หรือถ้าต้องการซื้อปริมาณมากๆ ให้โทร.ไปที่โรงงาน 0-2245-1038 หรือที่ 08-1842-6437 แล้วปะเหลาะขอให้เขาแบ่งขายกันเอาเอง เพราะตามปกติเขาไม่ค่อยจะขายให้ขาจรหรอกจ้ะ

เขียนถึงบะหมี่เจ้านี้แล้วชักทนหิวไม่ไหว ขอลาไปกินบะหมี่เกี๊ยวก่อนนะจ๊ะ

ข้อมูล

เจี๊ยเฮง บะหมี่-เกี๊ยว

โดย คุณมานะ(ตุ้ย) พิรานรัมย์

ที่ตั้ง 62/3 ถนนประชาสงเคราะห์ เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400

โทร.0-2644-0271

เปิดบริการ 10.00-21.00 น. ทุกวัน

หยุด เมื่อมีธุระ

แนะนำ บะหมี่-เกี๊ยว หมูแดง

หมายเหตุ ต้องการซื้อบะหมี่จากโรงงาน โทร.0-2245-1038 และ 08-1842-6437

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"นิวยืนยง" บะหมี่เหนียวนุ่ม ลูกชิ้นปลาเนื้อเด้ง
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 สิงหาคม 2552 14:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"ผ่านมาแวะกิน" มีโอกาสเวียนแวะมาหาของกินอร่อยๆ แถวย่านเยาวราชกันอีกแล้ว ซึ่งในมื้อนี้เราตั้งใจที่จะมาหาบะหมี่รสเลิศกินกัน และหลังจากที่เดินดุ่มๆ สอดส่ายสายตาหาร้านอยู่ได้ไม่นาน เราก็มาพบเข้ากับร้านบะหมี่เจ้าเก่าแก่ชื่อดังอีกหนึ่งเจ้าของเยาราช นั่นคือร้าน "นิวยืนยง"

ร้านนิวยืนยง ร้านนี้เปิดขายบะหมี่ลูกชิ้นปลามานานกว่า 60 ปี ขายกันมาตั้งแต่รุ่นอากง จนมาถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน ก็ยังคงรสชาติของบะหมี่ลูกชิ้นปลาสไตล์จีนแต้จิ๋วที่เลิศรสอยู่เหมือนเดิม เพราะทางร้านทำบะหมี่ และลูกชิ้นปลาที่หลากหลายเอง และทำแบบสดใหม่ทุกวัน ไม่มีการใส่สารกันบูดแต่อย่างใด


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านนิวยืนยง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อมาถึงร้านก็เลือกหาที่นั่ง แล้วก็ไม่รอช้ารีบสั่ง บะหมี่แห้ง (ชามเล็ก 40 บาท ใหญ่ 50 บาท) มากินเป็นชามแรก บะหมี่แห้งสีเหลืองนวลดูน่ากิน ซึ่งทางร้านทำบะหมี่เอง เน้นใส่ไข่เยอะ ทำเป็นบะหมี่เส้นเล็กกลมๆ ลวกแล้วเหนียวนุ่ม กินแล้วเคี้ยวนิ่มนุ่มลิ้น และภายในชามยังเต็มไปด้วยลูกชิ้นสารพัดอย่างที่ทางร้านทำเองอีกเช่นกัน

มีลูกชิ้นปลาลูกกลม และแบน ที่ทำมาจากปลา 3 อย่าง คือ ปลาดาบ ปลาหางเหลือง ปลาอินทรี ขูดเอาแต่เนื้อมาผสมกับเครื่องปรุงสูตรเด็ด และปั้นด้วยมือทุกลูก ลวกสุกเคี้ยวนุ่มเด้งหนึบอยู่ในปาก และยังมีลูกชิ้นกุ้ง ที่มีเนื้อกุ้งผสมกับแห้ว ปั้นเป็นลูกกลมแล้วทอด กินแล้วได้รสชาติกุ้งเคี้ยวกรึบกรอบแห้ว

ยังไม่หมดยังมีฮือก้วย ที่ทำจากเนื้อปลาทั้ง 3 อย่างเหมือนลูกชิ้นปลาแต่นำมาทอด กินแล้วเคี้ยวนิ่มกำลังดี และอีกหนึ่งอย่างคือ ฮือกึ้น ทำเหมือนกับฮือก้วย แต่ว่าจะมีสาหร่าย กุ้งแห้ง และขึ้นฉ่ายผสมอยู่ด้วย แล้วนำมาห่อด้วยน้ำมันแหแล้วเอาไปนึ่ง เนื้อฮือกึ้นเคี้ยวนุ่มปาก และก็ยังใส่เกี๊ยวปลา เป็นแผ่นเกี๊ยวที่ทำจากเนื้อปลาแล้วข้างในมีไส้เนื้อหมูบดผสมกับมันหมูปรุงรสชาติ กินแล้วเกี๊ยวปลาเคี้ยวนุ่มเด้งปากได้รสชาติดี อ้อแล้วยังมีบะเต็งคือหมูสามชั้นกับหน่อไม้ที่ผัดรวมกัน และมีหนังปลาทอดใส่มาให้ด้วย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่แห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>พอบะหมี่หมดชามก็สั่ง เกี๊ยมอี๋น้ำ (ชามเล็ก 40 บาท ใหญ่ 50 บาท) มากินต่อทันที จะได้ซดน้ำซุปร้อนๆ หวานกลมกล่อม เพราะทางร้านใช้ทั้งน้ำซุปกระดูกหมู น้ำซุปปลา 3 อย่าง และน้ำซุปหมูที่ใช้ทำหมูหยอง มาผสมต้มรวมกันเป็นน้ำซุปรสดี และมีลูกชิ้นสารพัดใส่มาให้กินเพลินปาก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยมอี๋</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แต่ถ้าใครอยากกินแต่ลูกชิ้นอย่างเดียวก็สั่ง ลูกชิ้นรวมลวก (50 บาทขึ้นไป) มากินได้ หรือจะเลือกก็ได้ว่าจะเอาลูกชิ้นอะไรบ้างมากินให้เต็มอิ่มกันไป สามารถเลือกสั่งได้มากน้อยตามใจชอบ

มื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" ได้อิ่มแปล้กับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาที่ร้าน "นิวยืนยง" อย่างเต็มที่ ส่วนถ้าใครอยากจะลองชิมบ้างก็แวะเวียนมากันได้ทางร้านยินดีต้อนรับอยู่แล้ว

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"นิวยืนยง" ตั้งอยู่ที่ 103-105 ถ.ทรงสวัสดิ์ แขวงสัมพันธวงศ์ กทม. การเดินทางถ้ามาจากวงเวียนโอเดียน วิ่งตรงมาที่ถ.เยาวราช ตรงมาจนถึงแยกเฉลิมบุรีแล้วเลี้ยวขวา เข้าถ.ทรงสวัสดิ์ จะเห็นร้านนิวยืนยงตั้งอยู่ข้างที่จอดรถโรงหนังเฉลิมบุรีเก่า เปิดจันทร์-ศุกร์ 08.00-21.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00-18.30 น. รับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2224-4212

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "นิวยืนยง"

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "นิวยืนยง"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 สิงหาคม 2552 14:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : นิวยืนยง

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

เมนูจานเด่น : บะหมี่แห้ง, เกี๊ยมอี๋น้ำ, ลูกชิ้นรวมลวก

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 103-105 ถ.ทรงสวัสดิ์ แขวงสัมพันธวงศ์ กทม. การเดินทางถ้ามาจากวงเวียนโอเดียน วิ่งตรงมาที่ถ.เยาวราช ตรงมาจนถึงแยกเฉลิมบุรีแล้วเลี้ยวขวา เข้าถ.ทรงสวัสดิ์ จะเห็นร้านนิวยืนยงตั้งอยู่ข้างที่จอดรถโรงหนังเฉลิมบุรีเก่า

เวลาเปิด-ปิด : เปิดจันทร์-ศุกร์ 08.00-21.00 น. เสาร์-อาทิตย์ 08.00-18.30 น.

เบอร์โทรศัพท์ :รับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2224-4212

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อย เสี่ยงโรคความดันสูง

เตือนภัย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อย เสี่ยงโรคความดันสูง

​

เตือนกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยเสี่ยงโรคความดันสูง (เดลินิวส์)​

กระทรวงสาธารณสุขเผย กินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยๆ เสี่ยงโรคอ้วน ขาดสารอาหาร โรคความดันสูง ทำสุขภาพแย่ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กวัยรุ่นและกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งโดยปกติกลุ่มคนเหล่านี้จะกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบ่อยมาก มักจะกินแบบง่ายคือกินบะหมี่อย่างเดียว โดยไม่ได้เติมผักและเนื้อสัตว์เพิ่มด้วย การกินแบบนี้บ่อยๆ จะนำไปสู่ภาวะเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารหรือไม่ก็อ้วนฉุ ซ้ำร้ายอาจได้เกลือโซเดียมเกินความต้องการของร่างกาย​

จากการสำรวจของสำนักงานวิจัยธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย คนไทยกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปีละมากกว่า 2,000 ล้านซอง เฉลี่ยประมาณวันละ 8 ล้านซอง คิดเป็นมูลค่าเกือบหมื่นล้านบาทต่อปี สะท้อนให้เห็นว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารยอดฮิตของคนไทยที่ต้องการช่วยกันใส่ใจ แนะนำการกินให้ถูก กินให้เป็น โดยเฉพาะในช่วงขึ้นราคาต้องกินให้คุ้มค่า ​

จากการศึกษาของสถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าส่วนประกอบของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปส่วนใหญ่ร้อยละ 60 - 70 เป็นแป้งสาลี รองลงมาเป็นไขมันในเครื่องปรุง ร้อยละ 15 - 20 ที่เหลือร้อยละ 5 - 6 เป็นเกลือและผงชูรส ซึ่งจัดเป็นเกลือโซเดียมอยู่ในเครื่องปรุง โดยหากกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากกว่า 1 ซองหรือ 1 ถ้วยต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้ปริมาณโซเดียมเกินความต้องการของร่างกายต่อวัน ร้อยละ 50 - 100 ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการทำงานของไต และเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันโลหิตสูงได้ ​

ในยุคเร่งรีบรวมทั้งผู้ที่มีรายได้น้อย การกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถ้ากินเป็น กินถูก ก็จะเกิดประโยชน์ได้ โดยก่อนซื้อทุกครั้งต้องอ่านฉลาก ควรเลือกซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่บนฉลากระบุว่าเติมสารไอโอดีน ธาตุเหล็ก และวิตามินเอ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งเสริมให้เติมลงไปในเครื่องปรุง และไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบดิบๆ เพราะเส้นบะหมี่จะพองตัวในกระเพาะเกิดการจุกแน่นท้องได้ ​

และที่สำคัญคือเพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน ควรเติมไข่หรือเนื้อสัตว์ และผักลงไปทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับโซเดียมและไขมันเกิน อาจเติมเครื่องปรุงเพียงครึ่งซองหรือน้อยกว่านั้นก็ได้ ทางที่ดีไม่ควรกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปติดต่อกันเป็นประจำนานๆ ซึ่งถือว่ากินซ้ำซาก จะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนหรือได้รับอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป มีอาหารไทยที่เป็นอาหารจานด่วนและมีสารอาหารครบ 5 หมู่ สามารถกินทดแทนและกินสลับกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช่น ข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ ขนมจีน ข้าวผัด แม้จะแพงกว่าเล็กน้อยแต่เพื่อสุขภาพที่ดีก็ต้องทำ​

​

เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย​

​

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“บะหมี่ปู-เกี๊ยวกุ้ง”ยักษ์!! ใหญ่อย่างนี้ อร่อยอย่างนี้อยู่ที่นี่
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 สิงหาคม 2552 15:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : แม่ช้อยนางรำ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“บะหมี่ปู-เกี๊ยวกุ้งยักษ์” ใหญ่อย่างนี้ อร่อยอย่างนี้อยู่ที่นี่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>“ร้านแรกอยู่เจริญกรุง ตรง ‘โอเดียน’
ตอนนี้เปิดสาขาถนนรัตนาธิเบศร์ นนทบุรี
อยู่หลังบ้านอีชั้นเอง...เจ้าค่ะ”

ใคร...ที่ชอบกินปูทะเล

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก้ามปูทะเลที่ก้ามใหญ่..ใหญ่ เนื้อหนา..หนา

เป็นก้ามปูทะเลสด..สด รสชาติจะหวานนุ่มกว่าปูทะเลแช่น้ำแข็ง ขอให้อ่านนะเจ้าค่ะ!!

ศุกร์นี้ขอแนะนำร้าน “บะหมี่ปูทะเล....เกี๊ยวกุ้งทะเล” ร้านอร่อยที่ช้อยจะต้องยืนยันการันตีให้รู้กันว่า

นี่เป็นร้านบะหมี่ปูทะเล ก้ามปูยักษ์!! ใหญ่ที่สุด อร่อยที่สุดของวงการ

ร้านนี้แต่เดิมอยู่หน้าแยกโอเดียน ตรงกันข้ามกับ “ประตูจีน” ริมถนนเจริญกรุง เป็นห้องแถวของวัดไตรมิตร

ลูกค้าติดอกติดใจ เรียกชื่อว่า “ร้านโอเดียน” แต่ไม่ใช่ฉายหนังเหมือนชื่อโรงภาพยนตร์เก่า

ร้านนี้ขายบะหมี่ปูทะเล เกี๊ยวกุ้งทะเล แบบกวางตุ้ง

ที่โด่งดังนอกจากความอร่อยแล้ว ก็ยังดังเรื่องใช้ “ก้ามปูทะเล” ขนาดยักษ์ใหญ่ที่สุดในวงการ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“ก้ามปูทะเลยักษ์” ใหญ่...สด รสธรรมชาติ มีทุกวันไม่ขาด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เรียกว่าเป็นร้านบะหมี่ แต่ก้ามปูที่ใช้ใหญ่กว่าภัตตาคาร

อีชั้นเป็นลูกค้าประจำของร้านนี้หลายปีดีดัก เวลาไปเยาวราชจะต้องไปฟาด!!

บะหมี่ปูทะเลแห้ง เกี๊ยวกุ้งทะเลน้ำ

แถมด้วย “เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ” จิ้มน้ำบ๊วยเจี่ย..บ๊วยกอ หอเจี๊ยะ!!

เขียนถึงร้านบะหมี่ปูทะเล “โอเดียน” สัปดาห์นี้ ก็เพราะจะเขียนเรียนแควน..แควนทั้งหลายว่า

ตอนนี้ไม่ต้องไปถึงโอเดียน เจริญกรุงให้มันยุ่งยากวุ่นวายกันอีกแล้ว

มาที่เมืองนนท์แค่นี้ก็เปิบอร่อยของเขาได้

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้านบะหมี่ปู “โอเดียน” เขามาเปิดสาขาที่เมืองนนทบุรีหลังบ้านอีชั้น คราวนี้คนแถวฝั่งธน นนทบุรี หรือกรุงเทพตอนบนก็จะได้อร่อยกันโว้ย!! อร่อยกันหวาทั่วหน้ากันแล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“เถ้าแก่ธวัช” สุดยอด-ยอดสุดในวงการบะหมี่ปูทะเล เกี๊ยวกุ้งทะเล</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ร้านสาขาแรกของเขาอยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ อยู่เกือบจะถึงสะพานพระนั่งเกล้า

สังเกตง่ายๆคืออยู่ใกล้แยกถนนเลี่ยงเมือง ตรงนั้นจะมีห้างสรรพสินค้า “เซ็นทรัลทาวน์”

ขับรถไปทางสะพานแต่ก่อนจะถึงสะพาน ก็จะมีถนนยูเทิร์นลอดใต้สะพาน คุณต้องลอดสะพานกลับมาทางเซ็นทรัลอีกครั้ง

แต่ยังไม่ถึงเซ็นทรัล ซ้ายมือจะมี “ศูนย์บริการรถนิสสัน” ก็ร้าน “บะหมี่ปูทะเล เกี๊ยวกุ้งทะเล” จะอยู่ติดกัน จอดรถหน้าร้านได้เลย

เมนูอาหารอร่อยที่นี่มีมากมาย

แต่อย่าลืมสั่ง “บะหมี่ปูทะเลแห้ง” แล้วถึงตามด้วย “เกี๊ยวกุ้งน้ำ” เพื่อเพิ่มความอร่อยก็สั่ง

“เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ” จิ้มน้ำบ๊วยกอ บ๊วยเจี่ย กินเพลิน...เพลินก่อน

สองเมนูนี้เป็น “เมนูบังคับ”


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับเมนูอื่นก็สั่งตามชอบมีขนมจีบปู ขนมจีบกุ้ง ข้าวผัดปู กระเพาะปลา ข้าวราดหน้าไก่ แต่ขอเขียนเมนูให้อ่านจะได้เตรียมการก่อนไปถึงร้าน

เมนู “บะหมี่ปูทะเล-เกี๊ยวกุ้งทะเล”บะหมี่หมูแดง 25 บาท บะหมี่เนื้อปูทะเล 50 บาท เกี๊ยวกุ้งหมูแดง 35 บาท เกี๊ยวกุ้งเนื้อปูทะเล 50 บาท ถ้าใส่ก้ามปูทะเลยักษ์มีให้เลือก 3 ขนาด ขนาดธรรมดา ก้ามละ 150-200 บาท ขนาดกลาง ก้ามละ 250-300 บาทขนาดใหญ่ ก้ามละ 350-400 บาท

ราคาขนาดนี้ ก็เลือกกินตามต้องการเถิดเจ้าค่ะ แต่ต้องเรียนท่านว่า

ปูทะเลเป็นอาหารทะเลที่อร่อยแล้วก็แพง

ที่ขายกันเป็นกิโลตกเกือบ 1000 บาท

แล้วคิดซิเจ้าค่ะว่า ปูทะเลตัวหนึ่งมีก้ามเพียง 2 ก้ามเท่านั้น

แต่ถ้ามาเปิบร้าน “บะหมี่ปูทะเล-เกี๊ยวกุ้งทะเล” ของร้าน “โอเดียน” ที่ว่า ทั้งที่ร้านเก่าแถวหน้าโอเดียน ถนนเจริญกรุง หรือร้านใหม่อยู่หลังบ้านอีชั้น เมืองนนทบุรี

..รับรองว่าอร่อยคุ้มค่าสมราคา ใครได้กินก็ถือว่าโชคดี เพราะปูทะเลก้ามยักษ์อย่างนี้หากินง่าย..ง่ายที่ไหนกันล่ะเจ้าค่ะ

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน “บะหมี่โอเดียนร้านแรก” อยู่ตรงข้ามโอเดียน ถนนเจริญกรุง ข้างประตูเล็กเข้าวัดไตรมิตร โทรศัพท์ 08-6888-2341, 08-4703-4042 อีก “สาขาหนึ่ง ถนนรัตนาธิเบศร์” นนทบุรี ติดกับศูนย์บริการนิสสัน โทรศัพท์ 08-6053-8484
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ขนมเปี๊ยะ-ไหว้พระจันทร์"เชียงการีล่า" 11ไส้...อัศจรรย์วงการ / แม่ช้อยนางรำ
Travel - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กันยายน 2552 17:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : แม่ช้อยนางรำ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กล่องขนมเปี๊ยะสวยที่สุดทุกปี ปีนี้..ศิลปินเมืองจีนออกแบบพิเศษเป็นรูป "ไซซี" หนึ่งในสี่สาวงามในประวัติศาสตร์จีนนางผู้ได้รับสมญานามว่า "มัจฉาจมวารี"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "เชียงการีล่า...ได้ชื่อว่าเป็นตำนานขนมไหว้พระจันทร์
บุกเบิกเป็นเจ้าแรกในวงการนานกว่าห้า...หกสิบปี
เคยทำ "ขนมไหว้พระจันทร์" ในที่สุดในโลกมาแล้ว"

ไหว้พระจันทร์ปีนี้..ตรงกับคืนวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม

เป็นประจำเหมือนทุกปีที่คุณ "มานะ พจชมานะวงศ์" ประธานกรรมการภัตตาคารเชียงการีล่า กรุ๊ป จะต้องส่งขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์มาให้ก่อนถึงคืนวันไหว้

ก็เรียกว่าส่งกันมาให้อย่างนี้เป็นสิบ..สิบปี

ไม่ว่าอีชั้นจะทำงานอยู่ที่ไหน คุณมานะไม่เคยลืม

ก็เป็นซะอย่างนี้อีชั้นซาบซึ้งใจจึงถือได้ว่าเป็นกัลยาณมิตรที่ไม่ทอดทิ้งกัน

ว่าถึงเรื่องขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์นั้น สมัยอีชั้นเป็นเด็กบิดาเป็นสรรพากรจังหวัดพระนคร พ่ออีชั้นพาตระเวนกินขนมเปี๊ยะตามภัตตาคารดังทั่วกรุงเทพ ก็พอจะจดจำได้ว่าภัตตาคารไหนอร่อย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ขนมเปี๊ยะใหญ่ที่สุดในโลก" ภัตตาคารเชียงการีล่าทำไว้เป็นเจ้าแรกเมื่อพ.ศ.2532 ขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 เมตร มีความหนา6นิ้ว นำหนัก 2,800 กิโลกรัม ใช้คนงาน 150 คน ใช้ไข่แดง 5,000 ฟอง น้ำตาล 40 กิโลกรัม แป้งหมี่ 560 กิโลกรัม น้ำมันพืชและผลไม้แห้ง 100 กิโลกรัม ตัดแบ่งได้ 13,000 ชิ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก่อนที่จะเป็น "แม่ช้อย" ออกมาร่ายรำนานถึง 35 ปีแล้ว เมื่อพูดถึงเขียนถึงก็จะต้องยอมรับว่า "ขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์" ของภัตตาคารเชียงการีล่าเป็นหนึ่งในยุทธจักร

ไม่ใช่ทำอร่อยเท่านั้น ก็ต้องชื่นชมนิยมกันบอกได้ว่า

ขนมเปี๊ยะไหว้พระจันทร์ของภัตตาคารเชียงการีล่า จะมีไส้แปลก..แปลกใหม่เพิ่มขึ้นทุกปี อย่างตอนนี้ไส้ขนมเปี๊ยะของเชียงการีล่ามีถึง 11 ไส้ด้วยกัน

ในขณะที่ขนมเปี๊ยะเจ้าอื่นมี 3-4 ไส้ซ้ำ...ซ้ำกัน...น่าเบื่อ

ปีกลาย...อีชั้นจำได้คุณมานะ ส่งไส้พิเศษที่อีชั้นนึกไม่ถึงว่าจะทำได้ แต่ก็ทำได้ก่อนใคร จนถึงปีนี้ก็ยังไม่มีใครทำได้คือ ... "ไส้มังคุด"

ไส้นี้ผู้หญิงชอบเพราะออกรสอมเปรี้ยวอมหวาน กินนาน..นานก็ไม่เลี่ยน

ส่วนผู้ชายก็ชอบ "ไส้กาแฟอราบีกา" เอาไปกินกับกาแฟร้อน หรือกาแฟเย็นเข้ากันอย่างดีเช่นเดียวกับเด็ก..เด็กที่ชอบ "ไส้คาลิฟอร์เนีย" ซึ่งเป็นไส้ครีม

แต่ปีนี้ไส้ออกใหม่เป็น "ไส้เก๋าลัดเทียนสิน" ที่ได้ชื่อว่าทั้งหวาน...ทั้งมัน แถมยังผสมถั่วแมคคาดาเนียที่เข้ากันอย่างเหมาะเหม็ง!!

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปีนี้มี 11 ไส้อัศจรรย์วงการ ไส้ทุเรียน/ไส้โหงวยิ้ง/ไส้ลูกบัวกวน/ไส้เต้าซา/ไส้พุทราจีน/ไส้คาลิฟอร์เนีย/ไส้แปดเซียน/ไส้มังคุด/ไส้กาแฟ และปีนี้พิเศษสุดไส้แมคคาดาเนียเก๋าลัดเทียนสิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ขนมเปี๊ยะของภัตตาคารเชียงการีล่า นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยมีไข่แดงข้างใน 1 ฟอง 2 ฟองตามที่ต้องการพิเศษหรือธรรมดา

"กล่องขนมเปี๊ยะ" ของที่นี่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในวงการขนมเปี๊ยะ

สวยจนเกิดมีงานอดิเรกนักเลงสะสมกล่องขนมจะต้องซื้อสะสมเอาไว้อวดกัน

ราคาขนมเปี๊ยะมีตั้งแต่อันละ 10 กว่าบาทไปจนถึง 90 บาท

ส่วนกล่องขนมเปี๊ยะที่งดงามมีขนมเปี๊ยะใส่ครบครัน ราคาตั้งแต่ 308 ไปจนถึง 1,700 บาท

อยากเห็นว่าอร่อยแปลกอย่างไร ก็ลองพิจารณากันเถิดเจ้าค่ะ

แต่ถ้ามาถึงภัตตาคารเชียงการีล่า ทั้งที่ถนนธนิยะ ถนนสีลม ถนนเยาวราช ถนนศรีนครินทร์ หรือถนนช่องนนทรี อย่าลืมแวะกิน "สุกี้ฮ่องกง" ที่ในเมืองไทยต้นกำเนิดเกิดขึ้นที่นี่

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "สุกี้ฮ่องกง" (ตาปี่โหลว)
ชุดเล็ก 500 ชุด ชุดใหญ่ 1,500

หม้อสุกี้จะมีน้ำให้เลือก 2 อย่างคือ น้ำใสเครื่องยาจีน (แบบฮ่องกง) น้ำขุ่นเครื่องยาชาเต๊ (แบบแต้จิ๋ว) มีเครื่องเคราให้เลือกถึง 14 อย่าง

แต่ถ้าเป็นชุดพิเศษสุดชุดละ 3,500 บาท มีกุ้งมังกรตัวโต กินได้สิบคนเฉลี่ยคนละ 350 บาทเท่านั้น

รายละเอียดโทรศัพท์ไปถามกันเองที่ 0-2224-5933,0-2234-9147, 0-2234-0861, 0-2632-1238ถึง 9

*********************************************************
*********************************************************

...ส่วนอยากจะกินอะไรมากกว่านี้ ก็เชิญตามสบายที่นี่มีทั้งอาหารกวางตุ้ง อาหารเซี่ยงไฮ้มาตรฐานแบบกินอยู่ในแผ่นดินใหญ่เมืองจีนเลยละเจ้าค่ะ อีชั้นการันตี..
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เส้นใหญ่ปูดำ ก๋วยเตี๋ยว-ขนมจีน



˹ѧ

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

โดย "นายเหล็กหวาน"



งัดภาษากอล์ฟมาเป็นเรื่องของอาหารการกิน จะบอกว่า "เดินตามรอยโปร" ก็ว่าได้ "มติชน" ฉบับวันอาทิตย์ก่อน "คุณอ้อ" ชวนชิม ร้าน "เส้นใหญ่ ปูดำ" ในซอยวิภาวดี 60

ผมจึงเดินตามรอยโปร แกะรอยไปกิน "เส้นใหญ่ ปูดำ" แกะรายแทงเส้นทาง เลี้ยวเข้าซอยวิภาฯ60 ที่จะทะลุไปแฟลตบางบัว เพื่อออกถนนพหลโยธินได้ ผ่านวงเวียนในซอยเลี้ยวขวา เข้าซอยอนุบาลธนวรรณประมาณ 200 เมตร ขวามือจะเจอร้าน "เส้นใหญ่ ปูดำ"

เจ้าของร้านไม่ต้องบอกกิตติศัพท์อะไรมาก คือ "คุณสรารัตน์ หรุ่มเรืองวงศ์"อดีตนางสาวไทย ตอนหลังหันมาเล่นหนัง ละครอยู่บ้างประปราย

จริงๆ แล้ว "ร้านเส้นใหญ่ปูดำ" เคยเปิดขายอยู่ที่จุดเดิมมาพักหนึ่ง แต่ตอนหลังย้ายไปขึ้นห้างแถวๆ ถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา

ไม่รู้ขายไปขายมาอีท่าไหน กลับมาขายที่จุดเก่า

"เส้นใหญ่ปูดำ" ยุคตกแต่งร้านใหม่ แอร์เย็นฉ่ำ

เป็นก๋วยเตี๋ยวไฮโซก็ว่าได้ เพราะเจ้าของร้านใช้บริเวณหน้าบ้านตัวเอง เนรมิตมาขายก๋วยเตี๋ยว ตกแต่งหรูหรา มหากาฬเป็นอย่างมาก

ของใช้ทั้งโต๊ะ เก้าอี้ การตกแต่งภายใน ตลอดถึงภาชนะที่นำมาใส่อาหาร ถวย ชาม ช้อน แก้ว ล้วนแล้วแต่คัดเกรดประเภทไฮโซมาทั้งดุ้น

เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวชานเมือง ที่ดูรูปพรรณสัณฐานโดยภาพรวมทั้งหมด น่าจะขายตามห้างยักษ์ หรือโรงแรมหรูซะมากกว่า

รสนิยม การตกแต่งร้าน องค์ประกอบทุกด้าน ขอการันตีว่าคุณภาพคับแก้ว

"รูปสวย" สมบูรณ์แบบแล้ว ที่นี่หันมาดู "รส"

จะเข้าแก๊ป สวยแต่รูปจูบไม่หอมหรือไม่ประการใด องคาพยพหลักของร้านอาหาร ไม่ใช่ปรุงแต่งร้านดี แต่ "รส" ไม่เอาไหน

"เส้นใหญ่ ปูดำ" ชูสโลแกนหน้าร้านว่า "อร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์"

ลองสั่งมาทดสอบหลายๆ อย่าง เริ่มจาก "ลวกจิ้ม" เป็นลูกชิ้นปลา ฮื้อก๊วย ลูกชิ้นกุ้ง รสนุ่ม มีน้ำจิ้มมาช่วยเสริมทัพอีกนิดหนึ่ง ถึงใจพระเดชพระคุณ ไม่รู้ทำเองหรือไปสั่งมาจากเจ้าไหน แต่เด็ดดวงมาก

สลัดปแลาแซมมอน ผักที่นำมาใช้เป็นเครื่องเคียง เป็นผักเขียวจากเมืองเหนือ

อาหารจานเด็ดสุดของร้าน ต้องเป็นคิวก๋วยเตี๋ยว

มีให้เลือก แต่ที่ลูกค้าสั่งเป็นพิมพ์นิยม คือ เย็นตาโฟกับบะหมี่หมูย่าง

จะแห้งหรือน้ำก็ได้ ถ้าเป็นแห้ง ทางร้านจะบริการน้ำซุบมากลั้วลำคอให้ถ้วยหนึ่ง

เสร็จพิธีเมนูหลัก ตามด้วยเมนูถัดไป คือ ขนมจีนแกงเขียวหวานหมู

"เส้นใหญ่ ปูดำ" ยุคปรับปรุงใหม่ นอกจากจะเน้นของใช้ชั้นดี มีเกรดแล้ว ด้านรสชาติถือว่ายอดเยี่ยม

ยังมีความละเอียดอื่นๆ ที่ถือว่าเป็นเสน่ห์แห่งปลายจวัก เป็นต้นว่าพริกป่นที่ลูกค้าจะต้องใช้เป็นตัวช่วยในการเสริมรส

ตำได้เนียน คือเม็ดพริกแตกละเอียด ไม่เหมือนบางร้าน ไม่ค่อยเน้นเรื่องพริกป่น

จุดนี้แม้จะไม่ใช่ประเด็นหลักในการขายอาหาร ก๋วยเตี๋ยว

แต่ลูกค้าบางรายก็ให้คะแนนไว้ในใจ

ลงทุนตกแต่งร้านหรูหรา ของดีมีราคา เครื่องใช้ อุปกรณ์ ตลอดถึงองค์ประกอบอื่น เนี้ยบเนียน ราคาน่าจะเกรดสูงระดับ ห้างหรือโรงแรมห้าดาว แต่ "เส้นใหญ่ ปูดำ" ไม่ถึงขนาดนั้น

เจ้าตัวน่าจะขายก๋วยเตี๋ยวเป็นงานอดิเรก เพราะความชอบมากกว่า หากำไร

ไปไม่ถูก ลองโทร.0-2940-9437

 

เส้นนุ่มเครื่องแน่น ร้าน"ก๋วยเตี๋ยวพริกสด "

อิ่มอร่อย

˹ѧ


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>แค่ชื่อ "พริกสด" ก็บรรยายถึงรสชาติจัดจ้านของอาหารอยู่แล้ว เมื่อมาปรุง "ก๋วยเตี๋ยว" ด้วย ยิ่งทำให้น่าสนใจ

"ร้านก๋วยเตี๋ยวพริกสด" ตั้งอยู่ภายในซอยสุคนธสวัสดิ์ ถนนตัดเส้นทางเกษตร-นวมินทร์ แยกก่อนถึงถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา

ถ้าใครผ่านไปจะเห็นมีลูกค้าแน่นร้านทุกวัน ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ รถจอดยาวเหยียดตลอดถนน

ทศพล โอวรารินทร์ เจ้าของร้านวัย 33 ปี กล่าวว่า ร้านเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 3 ปี มีเมนูก๋วยเตี๋ยวให้เลือกมากกว่า 20 เมนู เมนูข้าวอีกกว่า 30 เมนู อาหารของที่ร้านสดใหม่ทุกวัน เน้นทำเครื่องเคียง และวัตถุดิบเองเกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวปู ลูกชิ้นปลาอินทรี หมูกรอบ หมูแดง เป็ดย่าง

เมนูขึ้นชื่อของทางร้านที่ลูกค้าแทบทุกโต๊ะสั่งกันคือ "เส้นเล็กพริกสด" ในชามจะมีทั้งเนื้อปลาช่อนทะเลสด ลูกชิ้นปลาราดด้วยน้ำพริกสด เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่ใช้พริกขี้หนูและพริกเมล็ดใหญ่มาตำผสมกัน เสร็จแล้วปรุงด้วยเครื่องปรุง ให้มีรสชาติของทางร้านราดลงไปบนก๋วยเตี๋ยว <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

สำหรับเส้นก๋วยเตี๋ยวทางร้านสั่งตรงมาจากร้านเจ้าประจำ เพราะเส้นก๋วยเตี๋ยวจะเหนียวนุ่ม เมื่อกินคู่กับลูกชิ้นและเนื้อปลาเข้ากันได้ดี ชามนี้ราคา 35 บาท

"เส้นหมี่ขาวเย็นตาโฟ" ไม่เป็นสองรองใคร เครื่องเคียงที่ครบครัน อัดแน่นอยู่ในชาม ทั้ง ปลาเส้น ลูกชิ้นปลา เกี๊ยวปลา แมงกะพรุน หนังปลากรอบ ปลาหมึกกรอบ ราดด้วยซอสแดง ที่ทางร้านทำเองทุกขั้นตอน จึงทำให้เย็นตาโฟมีรสชาติเข้มข้นถึงรสชาติอาหาร ราคาชามละ 35 บาท

"เกี๊ยวกุ้งต้มยำน้ำข้น" เป็นเมนูเด็ดที่ลูกค้าต่างเอ่ยปากชมว่าอร่อยสุดๆ ด้วยความจัดจ้านเข้มข้นของน้ำต้มยำ ที่ใช้น้ำซุปกระดูกหมูอ่อนต้มรวมกับน้ำต้มลูกชิ้นปลา จึงทำให้มีความหอมและได้รสชาติความหวานแบบธรรมชาติจากน้ำต้มกระดูก

ทางร้านนำน้ำซุปมาทำน้ำต้มยำ ใส่น้ำพริกเผา นมสด และเครื่องต้มยำ ทั้งขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูดฉีก เพิ่มความเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว ซึ่งทางร้านจะทำน้ำต้มยำไว้เฉพาะ 1 หม้อ ในหนึ่งชามประกอบด้วยใส่เกี๊ยวกุ้ง เห็ดนางฟ้าฉีกฝอย เนื้อปลาสด ปลาหมึกสด โรยหน้าด้วยผักชีฝรั่ง ราคาชามละ 45 บาท

"บะหมี่เกี๊ยวเป็ดเกี๊ยวกุ้งแห้ง" เป็นอีกเมนูที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าไม่น้อย เพราะเป็ดของที่ร้านขึ้นชื่อว่าอร่อย รสชาติหวาน และน้ำราดเป็ดที่มีความเข้นข้นสามรส เป็ดทางร้านย่างเองทำให้กรอบนอกนุ่มใน หนังเป็ดจะไม่แห้งจนเกินไป

สำหรับเกี๊ยวกุ้งทางร้านก็ห่อเองโดยใช้กุ้งขาวนำมาสับ แล้วห่อด้วยเกี๊ยว ซึ่งทางร้านต้องทำมาถึงวันละ 1,400 ตัว สนนราคาชามนี้ 50 บาท

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเมนูข้าวไว้รับรองลูกค้ามากมาย อย่างข้าวหน้าไก่หมูกรอบ ใช้เนื้อไก่มาทำเป็นน้ำสตูว์ไก่ ราดลงบนข้าวที่มีหมูกรอบ และกุนเชียงโรยหน้า เสิร์ฟพร้อมพริกชี้ฟ้าหั่น ราคาจานละ 45 บาท

นอกจากนี้ทางร้านยังมีเกาเหลาลูกชิ้นปลาน้ำใส เกี๊ยวกุ้งหมูแดงหมูกรอบแห้ง เกี๊ยวต้มยำน้ำข้นหมูกรอบ เกาเหลาเกี๊ยวปู ก๋วยเตี๋ยวทะเลพริกสด ข้าวหน้าเป็ด ข้าวหน้าไก่เห็ดหอม หรือข้าวหน้าเป็ดปนไก่ ฯลฯ

เจ้าของร้านบอกถึงสูตรเด็ดมัดใจลูกค้าคือ การใช้วัตถุดิบที่ดี และต้องทำเองทุกขั้นตอน เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพของอาหารให้เป็นมาตรฐานของทางร้าน ซึ่งก๋วยเตี๋ยวของทางร้านต้องชิมก่อน แล้วถึงค่อยปรุงรส

ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน หยุดช่วงวันเทศกาลเท่านั้น แต่วันปกติแล้วเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. หากไปร้านไม่ถูกสอบถามได้ที่โทร. 08-5844-4440 และ 08-9874-6466

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB3TWc9PQ==

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่ยูนนาน ท้าแชมป์ยาวสุดในแดนมังกร
China - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 ตุลาคม 2552 17:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ม่านหมี่ที่ยาวที่สุดในแดนมังกร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เส้นหมี่เริ่มไหลออกมา</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ลุ้น...เส้นหมี่ไหลออกมาไม่ขาดสาย</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เว็บข่าวหยุนหนัน--ถนนย่านใจกลางพาณิชย์ของอำเภอเหมิ่งจื้อ มณฑลหยุยหนัน (ยูนนาน) คึกคักเป็นพิเศษ ด้วยผู้คนแห่แหนกันมาชมการผลิตเส้นหมี่ที่จะขึ้นเวทีท้าแชมป์สถิติ “ยาวที่ที่สุดในประเทศจีน โดยผู้ริเริ่มโรงงานหวั่นเหยียนหมี่เสี่ยนแห่งอำเภอเหมิ่งจื้อ

คนงานร่วม 30 คน ขมีขมันทำเส้นหมี่ยาวที่สุดในวันอาทิตย์(18 ต.ค.) ที่ผ่านมา และจะนำไปเสนอตัวขอจด “สถิติที่สุดแห่ง JINISI “ ทั้งนี้ สถิติที่สุดแห่ง JINISI จัดตั้งโดย Great World DSJJNS ซึ่งมีฐานในนครเซี่ยงไฮ้ （大世界基尼斯纪录） เป็นสำนักจดสถิติ “ที่สุด” ของประเทศจีน

คนงานเล่าเบื้องหลังการเตรียมงานว่า ต้องใช้เวลาเตรียมวัตถุดิบ กว่า 10 วัน ระดมแป้งข้าวเจ้า 1.8 ตัน ใช้น้ำจากซันเฉียนสุ่ย (น้ำพุบนเขา) ไม้ไผ่สำหรับผึ่งเส้นหมี่ 1,400 ต้น พวกเขาเริ่มงานตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นเวล 6 ชั่วโมง 7 นาที จึงได้เส้นหมี่ที่มีความยาวเท่ากับความสูงเหนือระดับทะเลของอำเภอเหมิ่งจื้อ เท่ากับ 2567.8 เมตร เพื่อขึ้นสังเวียนท้าแชมป์เส้นหมี่ยาวที่สุดในประเทศ

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสูตรด็อกเตอร์ ชักธงแฟรนไชส์อร่อยปลอดภัย
SMEs - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 ตุลาคม 2552 09:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสูตรด็อกเตอร์ จาก จ.สุโขทัย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย” เมนูขึ้นชื่อของเมืองสุโขทัย ถูกนำมาต่อยอดสร้างอาชีพให้แก่ผู้ว่างงาน หรือเกษตรกรรมที่อยากมีอาชีพเสริม โดยวางโครงสร้างขยายสาขาในระบบแฟรนไชส์ กำหนดใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษในท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้ทั้งผู้ค้ารายย่อย และเกษตรกรได้รับประโยชน์เกื้อหนุน ซึ่งกันและกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ดร.ปฐมชนะศึก มหาเจริญเสฏฐี </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ผู้บุกเบิกโครงการ “เถ้าแก่ใหม่ ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr.” คือ ดร.ปฐมชนะศึก มหาเจริญเสฏฐี อดีตอาจารย์ภาควิชาเกษตร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งโดดมารับหน้าที่ประธานคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตและแปรรูปก๋วยเตี๋ยวไทยเชิงพาณิชย์ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย เล่าถึงที่มาว่า ส่วนตัวเป็นชาวสุโขทัยโดยกำเนิด รวมถึง ญาติเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ชีวิตจึงคลุกคลีและผูกพันกับเมนูนี้มาตลอด ขณะที่หมวกอีกใบเป็นนักวิชาการด้านการเกษตร พบเห็นปัญหาเกษตรกรไทย คือ ความยากจนเพราะพืชผลราคาตกต่ำ อีกทั้งยังเน้นทำเกษตรโดยพึ่งพาสารเคมี

ดังนั้น เพื่อจะแก้โจทย์ดังกล่าว เกิดแนวคิดใช้เมนูก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยที่คนทั่วประเทศรู้จักดีอยู่แล้ว มาขยายเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ โดยให้ผู้ว่างงานหรือเกษตรกรมาเป็นเถ้าแก่ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ หารายได้เสริม รวมถึงพัฒนาให้ท้องถิ่นเป็นแหล่งป้อนวัตถุดิบปลอดสารพิษ ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาได้ทั้งความยากจน และช่วยส่งเสริมเกษตรอินทรีย์

ทั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ความเป็นไปได้จริงในเชิงพาณิชย์ ได้ทดสอบตลาดเปิดร้านต้นแบบที่สยามสแควร์ ซ.6 นอกจากนั้น ยังใช้ร้านนี้สำรวจความชอบรสชาติก๋วยเตี๋ยวจากลูกค้าเป้าหมายด้วย

จนที่สุดได้สูตรเหมาะสม จากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1 หมื่นคน กว่า 80% ชื่นชอบรสชาติ อีกทั้ง ผลประกอบการ 6 เดือน ตั้งแต่เปิดร้านเมื่อเดือนมีนาคม-สิงหาคม 2552 เป็นต้นมา กำไรสุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 50,000 บาทต่อเดือน ทำให้มั่นใจว่า โครงสร้างธุรกิจดังกล่าวพัฒนาสู่ชุมชนได้จริง

นอกจากนั้น โครงการนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากกรมการจัดหางาน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ มีแหล่งทุนในการเริ่มอาชีพนี้ได้ โดยมีข้อตกลงสามารถกู้เงินจาก ธกส.ได้ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ 6% ต่อปี ระยะเวลาผ่อนไม่เกิน 2 ปี และที่สำคัญ ผู้ติดบัญชีดำ สามารถกู้เงินในโครงการนี้ได้เช่นกัน แต่มีเงื่อนไขต้องเข้ากับการอบรมอาชีพกับ ธกส. เสียก่อน รวมถึง ต้องได้รับรองคุณสมบัติจากคณะกรรมการชุมชนของตนเองว่า เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมดี ตั้งใจประกอบอาชีพจริง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>รูปแบบ ร้านรถตุ๊กตุ๊ก </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ***ขยายแฟรนไชส์เปิดโอกาสสร้างอาชีพ

ดร.ปฐมชนะศึก อธิบายรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ให้ฟังว่า เบื้องต้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ร้านค้าที่ต้องการนำเมนูนี้ไปเสริมกับธุรกิจหลัก ลงทุน 19,999 บาท 2. แบบบูท โดยจะออกแบบร้านให้ทั้งหมด ลงทุน 79,999 บาท และ 3.ร้านก๋วยเตี๋ยวเคลื่อนที่ มีทั้งแบบรถเข็น รถสามล้อเครื่อง รถสามล้อถีบ และรถตุ๊กตุ๊ก ลงทุนตั้งแต่ 29,999 – 99,999 บาท (แตกต่างกันไปตามรูปแบบ) โดยทุกรูปแบบการลงทุนจะได้อุปกรณ์ครบชุดพร้อมขาย รวมถึง ได้รับการสนับสนุนฝึกอบรม และประชาสัมพันธ์

นอกจากนั้น สำหรับผู้มีฐานะดีสามารถเป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุน แล้วให้ผู้อยากมีอาชีพเป็นคนลงแรงขาย แบ่งรายได้กันที่ผู้สนับสนุนได้ 40% ผู้ขายได้ 50% อีก 10% เป็นค่าดำเนินการของวิสาหกิจชุมชนฯ

ทั้งนี้ กำหนดราคาขายปลีกที่ชามละ 25 บ. ผู้ขายจะมีกำไรเฉลี่ยที่ 13.5 บาทต่อชาม นอกจากนั้น ได้ร่วมมือกับอีกหลายบริษัท ให้นำสินค้าต่างๆ มาวางขายในร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr. เช่น บัตรเติมเงินโทรศัพท์ เครื่องดื่ม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยเสริมรายได้ให้ผู้ขายอีกทาง โดยผลการทดสอบตลาด ทุกรูปแบบจะคืนเงินลงทุนได้ในเวลาประมาณ 2-3 เดือน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นำแฟรนไชส์ไปอออกงานมหกรรมโครงการร่วมใจสร้างแบรนด์ ร่วมแรงสร้างอาชีพ ที่ กระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ***ชูอร่อยปลอดสารพิษช่วยเกษตรกรไทย

ในด้านคุณภาพของก๋วยเตี๋ยวนั้น ดร.ปฐมชนะศึก อธิบายว่า วัตถุดิบทั้งหมดปลอดสารพิษมาจากโรงงานที่เป็นเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นเส้น ผัก ลูกชิ้น ถั่วลิสง เครื่องปรุง เป็นต้น โดยบรรจุในถุงพลาสติกสุญญากาศ ส่วนในอนาคต หากสาขากระจายไปมากยิ่งขึ้น จะจัดระบบให้ซื้อวัตถุดิบจากโรงงานหรือเกษตรกรในท้องถิ่น เพื่อสะดวกต่อการขนส่ง และยังสร้างรายได้ให้ท้องถิ่น โดยมีข้อแม้ว่า ผู้ที่จะเข้าเป็นเครือข่ายป้อนวัตถุดิบต้องพัฒนาตัวเองให้ผลิตสินค้าปลอดสารพิษ ตัวอย่างเช่น หากกลุ่มเกษตรกรจาก จ.เชียงใหม่ อยากจะเป็นตัวแทนส่งผักให้ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr. ในภาคเหนือตอนบน ต้องปรับปรุงไร่ของตัวเองให้ปลูกผักแบบอินทรีย์ หรือโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวใน จ.ขอนแก่น อยากเป็นตัวแทนส่งเส้นให้ร้านก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr. ในแถบภาคอีสาน ต้องปรับการผลิตเส้นให้ได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย เป็นต้น

สำหรับการดูแลมาตรฐานแฟรนไชส์นั้น ด้านรสชาติจะส่งเป็นผงซุปก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยสำเร็จรูป ซึ่งผงดังกล่าวผ่านการวิจัยมาแล้วว่ารสชาติเป็นที่ยอมรับ สะอาดปลอดภัย และทำง่าย ขั้นตอนปรุงเพียงแค่ใส่ลงในน้ำร้อนจะได้น้ำซุปรสชาติมาตรฐาน นอกจากนั้น ทุกสาขาจะมีเครื่องคอมพิวเตอร์บันทึกข้อมูลเชื่อมต่อทางออนไลน์ส่งมาที่ส่วนกลาง ทำให้ตรวจสอบได้ว่า ในแต่ละสาขาใช้วัตถุดิบหรือมียอดขายมากน้อยเพียงใด ทำให้ดูแลมาตรฐานได้ทั่วถึง นอกจากนั้น จัดทีมซุ่มตรวจสอบอีกชั้นด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>วัตถุดิบทั้งหมด บรรจุสุญญากาศ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ดร.ปฐมชนะศึก สรุปในตอนท้ายว่า ตั้งเป้าอยากให้มีสาขาก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr. รวมกันกว่า 20,000 จุดทั่วประเทศ ภายใน 5 ปี หากเป็นไปตามเป้า ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ เหล่านี้ จะเป็นจุดกระจายสินค้าเกษตรปลอดสารพิษอย่างดี รวมถึง เมื่อมีปริมาณการสั่งซื้อจำนวนมาก จะกระตุ้นให้เกษตรกรหรือโรงงานชุมชนต่างๆ อยากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาผลิตวัตถุดิบปลอดสารพิษ เพื่อเข้าเป็นเครือข่ายป้อนวัตถุดิบ ผลที่ตามมา จะก่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภคได้บริโภคก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยและปลอดภัย ผู้ค้ามีรายได้ดีหนีความยากจนสำเร็จ และภาคเกษตรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสู่เกษตรอินทรีย์ ซึ่งจะเป็นผลดีระยะยาวต่อภาคเกษตรไทย

*******

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> <TABLE class=BODY cellSpacing=1 cellPadding=2 width=500 align=center bgColor=#000000 border=0><TBODY><TR><TD width=500 bgColor=#cccccc><CENTER>ลงทุนแฟรนไชส์ “ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย Dr.”</CENTER></TD></TR><TR><TD width=500 bgColor=#eeeeee>- เบื้องต้นแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.แบบมีพื้นที่หรือร้านอยู่แล้ว ต้องการนำเมนูนี้ไปเสริม ลงทุน 19,999 บาท
2. แบบบูท ตั้งถาวร ลงทุน 79,999 บาท
3.แบบหน่วยบริการเคลื่อนที่ มี 4 แบบย่อย คือ รถตุ๊กตุ๊ก 99,999 บาท , รถมอเตอร์ไซด์ 59,999 บาท , รถถีบ 34,999 บาท และรถเข็น 29,999 บาท

- ทุกรูปแบบได้อุปกรณ์ครบชุด และการฝึกอบรม 3 วัน

- กำไรต่อชามประมาณ 13.5 บาท

- คาดการณ์คืนทุนใน 2-3 เดือน
</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวป้าแป๊ะ

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม

˹ѧ��;��������ʴ�͹�Ź� : �ú�ء�� ʴ�ء����ͧ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>ด้วยความเกรงใจท่านที่ยังอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจเป็นอย่างยิ่ง ที่มานำ เสนอเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกในวันนี้

แต่เนื่องจากติดค้างใจตัวเองมาเป็นนานสองนาน (แถมไปคุยฟุ้งกับป้าแป๊ะเอาไว้ จนป่านนี้ถ้าป้ายังยิ้มอยู่ก็คงเหงือกแห้งไปแล้ว)

ยังไงก็ต้องเขียนเรื่องนอกเจกันละครับ

ยังไม่ไปกินก็ตัดเก็บเข้าแฟ้ม หรือแปะข้างฝาไว้ก็ได้ ออกเจเมื่อไหร่มีเวลาว่างค่อยแวะไปเยี่ยมป้าเขา

ก๋วยเตี๋ยวแบบชาวบ้าน ไก่บ้านต้มเนื้อนุ่มแต่เหนียว ฉีกมาเป็นเส้น ปรุงมาให้เสร็จสรรพในชาม

แค่คิดตามก็น้ำลายไหลแล้วใช่ไหมล่ะ (ฮา)

เอาเป็นว่าเริ่มต้นไปยังไงก่อน

จากกรุงเทพฯ มาได้ 3 เส้นทาง มาทางใหญ่สายเอเชีย เจอแยกบางปะหันให้เลี้ยวซ้าย จนวิ่งไปเจอที่ว่าการอำเภอเสนา <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

มาเส้นสุพรรณฯ เจอสามแยกใหญ่ที่เลี้ยวขวาไปอยุธยา ก็เลี้ยวเจออำเภอเสนาเหมือนกัน

หรือมาเส้นเดิมจากปทุมธานี ก็จะดิ่งตรงมาเสนาเลยเช่นกัน

ทีนี้พอถึงเสนาแล้วให้ถามคนแถวนั้นว่าตลาดเจ้าเจ็ดไปทางไหน วิ่งเส้นในจะสวยกว่าเส้นนอก ถึงเล็กกว่า แต่ว่าจะมีวิวแม่น้ำให้ดูด้วย

ที่จริงถ้ามาจากทางสุพรรณฯ จะเจอเจ้าเจ็ดก่อน ถ้ามั่นใจว่าวิ่งไม่หลงก็ไปได้เลย

แถวนั้นจะมีก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกดัง อยู่สองร้านคือป้าปุ๊กับป้าแป๊ะ

ป้าปุ๊เป็นพี่ป้าแป๊ะ และเพิ่งลงนิตยสารดังอย่าง "พลอยแกมเพชร" ไป

เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเลยต้องแนะนำป้าแป๊ะด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

อร่อยจนขายดีขนาดไหน ไปถึงที่ร้านป้าเขาก็จะเห็น ลูกสาวหรือหลานสาวผลัดกันมาเข้าคิวลวกเส้นให้

ป้าแป๊ะจะมีหน้าที่ปรุงอย่างเดียว

ตรงนี้แหละที่สะเด่า

เพราะป้าเขามือหนัก

น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น ผักชีฝรั่งหั่นฝอย และที่ทำให้แซบจัดจ้านแบบบ้าน-บ้านก็คือน้ำส้มพริกดองที่ใช้พริกขี้หนูครับ

ไม่กินผงชูรสก็บอกป้าเขาได้

ไม่ว่าแห้งน้ำ จะไม่ปรุงเพิ่มเลยก็ได้

ถ้าไปถึงตอนเที่ยง คนจะแน่นจนเหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี

ไปเช้าหน่อยก็จะมีไข่อ่อน พวงไข่ สำหรับคนไม่กลัวไขมันจุกอกด้วย

พิเศษสุดสำหรับคนเป็นเกาต์ (อย่างข้าพเจ้า) ป้าแป๊ะเขาจะมีหมูกรอบเอาไว้กระหย่อมหนึ่ง

เล็กแห้งหมูกรอบของป้ากินแล้วลืมก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกได้

กินหนไหนไม่เคยไม่ซ้ำชามสองชามสาม

ขายที่นั่นชามละ 10 บาท

แต่บางวันแฟนประจำอาจไม่ได้เจอ เพราะว่าป้ารับออกงานด้วย ในกรุงเทพฯ ก็มานะ

ขายออกงานชามละ 15 ถ้ามากรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นที่ 6,000 เพราะรถราป้ามีมาเอง

มางานไหน ถ้าของไม่หมดไม่กลับ และถ้าไปงานบุญ มือยิ่งหนัก

แอบเอาเงินใส่ซองทำบุญกับเจ้าภาพหรืองานข้างๆ ด้วย

แถมมือหนักเหมือนตอนปรุงก๋วยเตี๋ยวนั่นแหละ

อยากลองก็โทรศัพท์ไปสอบถามที่ 0-3578-6173 หรือ 08-9451-4730

 

แซบ!ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ สูตรนครปฐม@ประชาชื่น

อิ่มอร่อย

˹ѧ
http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09TMHhNQzB6TUE9PQ==

แซบ!ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ สูตรนครปฐม@ประชาชื่น

อิ่มอร่อย



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ช่วงเที่ยงๆ ถ้าขับผ่านไปบริเวณถนนหน้าสน.ประชาชื่น มุ่งหน้าถนนคลองประปา จะเห็นคนมานั่งกิน "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ แซ้บ...แซบ อร่อย ต้องลอง"

มานินเทพ ประเสริฐศรี หรือ ลูกแก้ว มือปรุงก๋วยเตี๋ยวและข้าวไก่อบ กล่าวว่า ร้านเปิดขายอยู่ละแวกนี้ได้ 2 ปี แต่ก่อนอยู่เลยจากที่ตรงนี้ไปไม่ไกล เมื่อเจ้าของที่ขอที่คืน เพื่อนๆ จึงช่วยกันหาที่ทางใหม่ ไม่ให้ไกลจากที่เดิมมากนัก เพราะมีลูกค้าเจ้าประจำแล้ว กระทั่งได้ที่ตรงนี้ ซึ่งเป็นทำเลดีทีเดียว เหมาะกับหนุˆมสาวออฟฟ?ศที่หา ร‰านกินอาหารกลางวันกัน

สำหรับอาหารชูโรงของทางร้าน ตรงกับชื่อร้าน คือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ" ตามด้วย "บะหมี่ไก่อบ" และ "ข้าวไก่อบ" หรือใครจะสั่งเป็นเกาเหลาก็ไม่ว่ากัน ทั้งหมดได้สูตรมาจากญาติที่จังหวัดนครปฐม รสชาติเข้มข้น เปรี้ยวเผ็ดหวานเค็ม ลงตัว โดยไปเรียนรู้อยู่นานก่อนที่จะมาเปิดร้านอย่างที่เห็น <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

โดยที่ร้านมีเส้นให้เลือกไม่ว่าจะเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ หรือบะหมี่ สำหรับบะหมี่ ใช้บะหมี่ไข่เส้นเล็กบาง ไม่เหมือนกับที่ร้านทั่วๆ ไป โดยที่ร้านจะสั่งจากเจ้าประจำ

เจ้าของสูตรเปิดเผยว่า "บะหมี่ต้มยำ" เมนูยอดฮิต ใช้จังหวะการลวกเส้นบะหมี่ไม่ให้เร็วหรือนานเกินไป โดยมีน้ำซุปเป็นกระดูกสันหลังหมู ล้างให้สะอาด ก่อนต้มรวมกับส่วนผสมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น หัวไชเท้า รากผักชี พริกไทย กระเทียม เกลือ น้ำตาลกรวด ซีอิ๊วขาว เคี่ยวไปเรื่อยๆ ให้ได้ที่ก่อนที่จะมาทำเป็นน้ำซุป

จากนั้นตักน้ำซุปลงใส่ถ้วย ใส่หมูสับไร้มัน ตับต้ม ไส้อ่อนต้มเปื่อยจากนั้น ปรุงรสด้วย มะนาว น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น โรยด้วยถั่วลิสงคั่วคลุกเคล้าให้ได้ที่ก่อนเทลงไปในเส้นบะหมี่ โดยมีถั่วฝักยาว สไลซ์บางๆ ใส่โรยหน้า ผักชี โรยหน้าลงไป และเกี๊ยวกรอบ หรือใครจะสั่งก๋วยเตี๋ยวแห้งก็ไม่ว่ากัน

เมนูถัดมาเป็น "บะหมี่ไก่อบ" ใช้เนื้อสะโพก ที่เหนียวนุ่ม โดยหมักด้วยซีอิ๊วขาว น้ำตาล ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วดำ และเครื่องปรุงอื่นที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน จากนั้นเอาส่วนผสมคลุกกับเนื้อสะโพก นวดนานราว 10 นาที ก่อนที่จะหมักค้างคืนไว้ในตู้เย็น 1 คืน จนกระทั่งเช้าก็นำมาอบ จนได้ที่ ก่อนที่จะเป็นไก่อบ บะหมี่ไก่อบ หรือเมนูสุดท้ายเป็นเมนู "ข้าวไก่อบ" ที่ใช้ข้าวสวยหุงกำลังพอดี ข้าวไม่แข็งหรือแฉะจนเกินไป ราดด้วยไก่อบ โดยมีน้ำจิ้ม ถ้วยเล็กๆ วางไว้ข้างจาน กับแตงกวาหั่นสไลซ์ มีน้ำซุป ซดร้อนๆ ให้คล่องคอ

และเพื่อสุขภาพ ที่ร้านไม่ใส่ผงชูรส และหม้อก๋วยเตี๋ยวเป็นหม้อ สแตนเลส ซึ่งปราศจากสารตะกั่ว ส่วนราคาอยู่ที่ชามและจานละ 20-25 บาท

สำหรับเส้นทางมาของร้านเมื่อผ่านสน.ประชาชื่น ให้ขับมุ่งหน้าตรงไปยังถนนเลียบริมคลองประปา ก่อนถึงสี่แยกให้มองทางซ้ายมือจะเห็นร้าน ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ แซบ....แซบ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-15.00 น. ทุกวัน ยกเว้นวันเสาร์ หรือถ้ามาไม่ถูก ให้โทร.ที่เบอร์ 08-4458-8876

ทีมงานภูมิใจนำเสนอมาก และย้ำว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ แซ้บแซบ อร่อยต้องลอง

 

โอเดียน บะหมี่ก้ามปูทะเล

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

˹ѧ��;������Ԫ�����ѹ : ˹ѧ��;�����س�Ҿ ����ͤس�Ҿ�ͧ������

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>อาทิตย์นี้ ขอทบทวนร้านอร่อยย่านเยาวราช เนื่องจากเขามีการขยายสาขาไปอีกแห่งหนึ่ง ทีเด็ดของร้านนี้อยู่ที่ "บะหมี่ใส่ก้ามปูทะเล" ที่หากินได้ยาก เท่าที่เคยชิมมามีไม่เกิน 5 ราย

เจ้าบะหมี่ก้ามปูที่ว่านี้มีชื่อว่า "โอเดียน (Odean)" ตั้งชื่อเช่นนี้เพราะว่าทำเลที่ตั้งร้านแรกอยู่ใกล้กับ "วงเวียนโอเดียน อันเป็นสถานที่ตั้งซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ" (อยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านเลย) ร้านนี้ลูกชายคนเล็กคอยดูแล ส่วนเฮียธวัชกับเจ๊ก็ยังคอยเป็นผู้ให้กำลังใจและช่วยกำกับการแสดงอยู่เช่นเดิม

ถ้ามาร้านแรก ให้จอดรถตรงที่ "จอดรถบนพื้นราบซึ่งเดิมเป็นโรงหนังเฉลิมบุรี" ชั่วโมงละ 30 บาท เดินออกจากที่จอดแล้วเลี้ยวขวามาที่แยกไฟแดงชื่อแยกหมอมี แล้วเลี้ยวขวาอีก เดินไปเรื่อยๆ ข้ามแยกไฟแดงจนถึงร้านบะหมี่โอเดียนที่อยู่ก่อนถึงวัดไตรมิตรฯ (ร้านจะอยู่ฝั่งซ้าย ต้องข้ามถนนอีกที)

ส่วนใครที่อยู่กรุงเทพฯโซนเหนือ ตอนนี้ลูกชายคนโตไปเปิดร้านอีกสาขา "ริมถนนรัตนาธิเบศร์ขาเข้าเมือง" ก่อนถึงถนนเลี่ยงเมืองและห้างเซ็นทรัล คุณภาพ รสชาติ และการบริการเต็มเปี่ยมเช่นกัน ซึ่งเฮียธวัชยังช่วยส่งกำลังบำรุง นำวัตถุดิบดีๆ เช่น ก้ามปูไปเติมให้ไม่เคยขาด สาขานี้ดูโปร่งโล่งสะอาดตา มีให้เลือกนั่งได้ทั้งในห้องปรับอากาศ และโซนด้านนอก

ถ้ามาจากในเมืองให้ขึ้นทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2 ) มาลงที่ทางออกถนนงามวงศ์วาน (เลือกทางไปแคราย) เมื่อออกจากทางด่วนแล้ว ให้วิ่งตรงอย่างเดียวข้ามสะพานแยกแครายไป ถนนงามวงศ์วานจะเปลี่ยนชื่อเป็นถนนรัตนาธิเบศร์ วิ่งไปเรื่อยๆ หลายกิโลเมตร จนกระทั่งไปกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า (อย่าเผลอข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาล่ะ) จากนั้นให้วิ่งย้อนกลับไปทางเดิม โดยต้องอยู่ช่องคู่ขนานด้านนอก ถึงสะพานกลับรถรูปเกือกม้าเมื่อไหร่ ก็จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือ ถ้าไปไม่ถูกให้โทร.สอบถามทางได้ที่ เบอร์ 08-6053-8484 นะจ๊ะ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ส่วนถ้ามาจากฝั่งบางบัวทอง ให้ใช้สะพานพระนั่งเกล้า สะพานเก่านะจ๊ะ เพราะสะพานคู่ที่สร้างใหม่นั้นจะทอดข้ามเลยไป ลงสะพานแล้วให้วิ่งคู่ขนานด้านนอกเช่นกัน ถ้าที่จอดรถหน้าร้านเต็ม ให้จอดรถที่ปั๊มแก๊สใกล้ๆ กันได้ฟรี เจ้าของปั๊มเขาใจดีจริงๆ

ข้างหน้าร้านทั้งที่เยาวราชและที่สาขาใหม่ มีตู้แขวนก้ามปูทะเลสีส้มสดเป็นพวงใหญ่ เด่นเป็นสง่า ลองใจถึง ห้อยเป็นพวงๆ ขนาดนี้ แสดงว่าฝีมือไม่ธรรมดา ใครเล่าจะซื้อปูทะเลแพงๆ มาแกะก้ามทิ้ง คงต้องขายหมดทุกวันเป็นแน่

ที่นี่มีรายการอาหารให้เลือกไม่มากนักประมาณ 10 กว่าเมนู ประเภททำน้อยแต่อร่อยทุกอย่าง มาแล้วห้ามพลาด "บะหมี่กับเกี๊ยวกุ้ง" เกี๊ยวกุ้งอร่อยเด็ดเคี้ยวได้เนื้อกุ้งล้วนเต็มคำ รสชาติหวานหอม ส่วนบะหมี่นั้นก็สุดยอดเป็นบะหมี่เส้นเล็กๆ ตราเพชรของไท้สูน ซึ่งสั่งมาจากร้านน้องชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง ผูกขาดเป็นขาประจำกันตั้งแต่แรกเริ่ม <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

จะเติมหมูแดงหรือเนื้อปู เชิญตามสบาย แต่มาแล้วอย่าลืม "ก้ามปู" เป็นอันขาด ไม่อร่อยสดได้อย่างไร ที่นี่เขาคัดปูทะเลมาจากแหล่งที่ดีที่สุดของประเทศ นั่นคือ "ปูบ้านดอน สุราษฎร์ธานี" และ "นครศรีธรรมราช" แล้วมาแกะเนื้อและก้ามเอง เนื้อจึงสดหวานอร่อย เนื้อแน่นเต็มก้าม สนนราคาบะหมี่หมูแดงถูกสุด 25 บาท เกี๊ยวกุ้งและบะหมี่+เกี๊ยวกุ้ง ใส่หมูแดง สนนราคาเท่ากัน 35 บาท ถ้าเติมเนื้อปู 50 บาทรวด

ส่วนก้ามปูทีเด็ดนั้นแล้วแต่ขนาด คือ 150-200-250-300-350-400-450 บาท ในรูปที่เห็นคือชามละ 250 บาท ควรสั่งอย่างแห้งแล้วปรุงรสจัดๆ ซดน้ำซุปที่ให้มาด้วยตามอีกที เท่านี้เห็นสวรรค์รำไร ส่วนถ้าเป็นบะหมี่หมูแดง หรือบะหมี่เนื้อปู ถ้าสั่งอย่างแห้ง ต้องการน้ำซุปด้วยต่างหากคิดถ้วยละ 5 บาท

ของกินเล่นมีฮ่อยจ๊อ สาหร่ายกุ้งสด กระเพาะปลา (50 บาท) และ "ขนมจีบกุ้งสด" เข่งละ 6 ตัว (50 บาท) เน้นเนื้อกุ้งเต็มคำ ราดกระเทียมเจียวนิดหน่อย จิ้มกับ "น้ำจิ้มซีฟู้ดพริกตำสีเขียว" ทีเด็ดของร้าน ใช้ราดได้อเนกประสงค์ แค่นี้ก็อร่อยเข้มแล้ว

ข้าวผัดก็ดีไม่ใช่ย่อย ลองชิม "ข้าวผัดกุ้งหรือข้าวผัดปู" ผัดได้แห้งเป็นเม็ดร่วนเพราะใช้ข้าวหอมมะลิเก่าจากสุรินทร์ ผัดแล้วไม่เหนียวเป็นยาง อย่าลืมปรุงรสด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดสารพัดนึก

เมนูใหม่ที่อร่อยจนยกนิ้วให้คือ "เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ" (จานเล็ก 50 จานใหญ่ 100 บาท) แป้งเกี๊ยวผสมไข่กรอบเอามากๆ รับมาจากเจ้าบะหมี่เช่นกัน ไส้กุ้งมีรสมีชาติเด็ดอย่าบอกใคร กลายเป็นตัวขายดีประจำร้านเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเครื่องดื่มที่เขาปรุงเองมี 4 อย่างคือ น้ำตะไคร้ เก๊กฮวย กระเจี๊ยบ โอเลี้ยง

เอาเป็นว่าใกล้ที่ไหนไปที่นั่น ชอบนั่งสบายๆ ให้ไปที่รัตนาธิเบศร์ อยากสัมผัสย่านเก่าต้องไปที่ไชน่าทาวน์ โอเดียน ถ้าชิมแล้วติดใจ อยากเลี้ยงเพื่อนฝูงญาติมิตร ที่นี่รับจัดนอกงานสถานที่ด้วยนะจ๊ะ

ข้อมูลร้าน

โอเดียน เกี๊ยวหมี่ปูทะเลแท้

โดย คุณกิติพงษ์ เติมวัฒนาภักดี

ที่ตั้ง 659 ถนนเจริญกรุง (วงเวียนโอเดียน) เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100

โทร. 08-6888-2341, 08-4703-4042

เปิดบริการ 09.00-21.00 น. ทุกวัน

หยุด อังคารสุดท้ายของเดือน

อาหารแนะนำ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง หน้าปูและก้ามปูทะเล ข้าวผัดกุ้งและปู ขนมจีบกุ้งสด เกี๊ยวกุ้งทอดกรอบ

สาขารัตนาธิเบศร์

โดย คุณวงศ์จันทร์ วงศ์สมุทร์

ที่ตั้ง 25/18-19 (ติดกับศูนย์บริการนิสสัน) ถนนรัตนาธิเบศร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี

โทร 08-6053-8484

เปิดบริการ 09.00-20.00 น.

หยุด จันทร์สุดท้ายของเดือน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร" รสโดนใจ ได้สุขภาพ
Travel - Manager Online

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 พฤศจิกายน 2552 14:30 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ช่วงนี้ฟ้าฝนยังโปรยปรายตกลงมาไม่ขาดสาย พาให้หลายๆ คนเจ็บไข้ป่วยไข้กันเป็นแถว เพราะเนื่องจากโดนพิษฝนเล่นงาน "ผ่านมาแวะกิน" เป็นห่วงเรื่องสุขภาพของแฟนๆ นักกินทั้งหลายเสียจริงเชียว มื้อนี้เราเลยจะชวนไปหาของกินที่กินแล้วดีต่อสุขภาพ อย่างก๋วยเตี๋ยวสมุนไพร โดยขอพามาที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร" ของคุณเจี๊ยบ อภิญญา พันธุ์ภักดี ซึ่งเธอเป็นแฟนพันธมิตรตัวยง ขนาดที่ว่าหากมาถึงร้านจะเห็นรถก๋วยเตี๋ยวที่มีสมุนไพรวางอยู่เต็มตู้ แล้วก็ยังมือตบห้อยอยู่เต็มรถเลย


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณเจี๊ยบชวนกินก๋วยเตี๋ยว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เราได้พูดคุยกับคุณเจี๊ยบ เธอบอกถึงที่ไปที่มาของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรร้านนี้ว่า เปิดขายมานานกว่า 5 ปี มีเธอเป็นผู้ที่คิดค้นสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรขึ้นมาเอง โดยได้นำเอาสมุนไพรต่างๆ ที่มีประโยชน์มาเป็นส่วนผสมหลักในการทำก๋วยเตี๋ยว ซึ่งจะเลือกใช้ทั้งสมุนไพรไทยและสมุนไพรจีนแห้งกว่า 20 ชนิด อาทิ ใบกระวาน ลูกกระวาน ชะลูด อบเชย ดอกจันทน์ ลูกจันทน์ เก๋ากี้ หล่อฮังก้วย และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงมีสมุนไพรสดอย่าง หัวหอม กระเทียม ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใส่มาด้วย

การทำก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรของที่ร้านนี้คือ จะนำเอาสมุนไพรไทย-จีน ทั้งหมด มาต้มกับน้ำซุปกระดูกหมู ซึ่งใช้กระดูกหมูเยอะมากๆ ต้มตุ๋นรวมกันอยู่นานกว่า 6 ชั่วโมง จนได้น้ำซุปสมุนไพรที่หอมหวนชวนกินเอามากๆ


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นเล็กแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรของที่นี่นั้น จะมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกอยู่หลายอย่าง มีเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และบะหมี่ ส่วนเครื่องเคราของก๋วยเตี๋ยวก็มีหลายอย่างที่ทางร้านทำเองทั้งสิ้น ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวมาหนึ่งชามในชามจะเต็มไปด้วยเครื่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคั่วตับหมู ที่ตุ๋นจนเคี้ยวนุ่ม หมูสด ที่เลือกใช้ส่วนสะโพกหั่นสไลด์เป็นชิ้นแล้วหมักกับซอสลวกสุก เนื้อหมูนั้นนิ่มนุ่มมาก มีลูกชิ้นหมู ที่ใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกทำเช่นกัน และปั้นด้วยมือต้มสุก เคี้ยวแล้วนุ่มแน่นเด้งปาก โดยไม่พึ่งสารบอแรกซ์ และยังมีหมูเด้ง ที่มาแบบชิ้นใหญ่ไม่ใช่เล่น เป็นเนื้อหมูส่วนสะโพกที่นำมาบดผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ แล้วตีให้เหนียว ใส่น้ำแข็งให้ขึ้นฟู และทำให้เป็นชิ้นแบนใหญ่ๆ ใส่ลงไปในน้ำซุปสมุนไพรจนหมูสุก เนื้อหมูเคี้ยวเด้งหนึบหนับปาก


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่น้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>เรียกว่าหากมากินก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรที่นี่ จะเลือกสั่งน้ำก็อร่อยมากๆ เพราะจะได้ซดน้ำซุปสมุนไพรร้อนๆ รสหวานกลมกล่อม กรุ่นกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ ไหลลื่นลงคอชุ่มชื่นดีต่อสุขภาพ หรือจะสั่งแบบแห้งก็ได้ซึ่งทางร้านจะใส่ซีอิ้วดำมาด้วย แต่ถ้าใครไม่ชอบกินเส้นจะสั่งเกาเหลาก็เข้าที และสนนราคาก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพรของที่นี่ขายอยู่ที่ชามละ 30 บาท พิเศษ 40 บาท เกาเหลา 40 บาท เรียกว่าได้อิ่มท้องแล้วดีต่อสุขภาพ หากได้ลองมาแวะกินที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร"



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาเหลา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร" ตั้งอยู่ที่ 115 ตรอกนาวา (หลังโบสถ์พราหมณ์) ถ.ตะนาว เสาชิงช้า กทม. การเดินทางจากสี่แยกคอกวัว วิ่งตรงมาที่ถ. ตะนาว มาจนถึงศาลเจ้าพ่อเสือ ตรงมาอีกนิดจะเจอธนาคารกรุงเทพฯ แล้วเห็นซอยข้างธนาคารกรุงเทพฯ ตรงเข้ามาประมาณกลางซอย จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูฯ อยู่ทางขวามือ เปิดทุกวัน เวลา08.00-16.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-3138-1386

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร"

Travel - Manager Online

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 พฤศจิกายน 2552 14:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวหมูสมุนไพร

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวหมู

เมนูจานเด่น : เส้นเล็กแห้ง, เส้นหมี่น้ำ, เกาเหลา

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 115 ตรอกนาวา (หลังโบสถ์พราหมณ์) ถ.ตะนาว เสาชิงช้า กทม. การเดินทางจากสี่แยกคอกวัว วิ่งตรงมาที่ถ. ตะนาว มาจนถึงศาลเจ้าพ่อเสือ ตรงมาอีกนิดจะเจอธนาคารกรุงเทพฯ แล้วเห็นซอยข้างธนาคารกรุงเทพฯ ตรงเข้ามาประมาณกลางซอย จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูฯ อยู่ทางขวามือ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา08.00-16.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 08-3138-1386

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ชิมก๋วยเตี๋ยวรสเลิศ

Daily News Online > หน้าวาไรตี้ > ชิมก๋วยเตี๋ยวรสเลิศ





อิ่มอร่อยอาหารแบบไทยๆ

ก่อนที่ผมจะเดินทางไปประเทศอิสราเอลและอเมริกา ในวันแม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ ผ่านมา ผมได้พาคุณแม่ไปทานอาหารที่ร้านอาหารซึ่ง เป็นร้านที่คุณแม่แวะไปทานบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อคุณแม่เปิดกระเป๋าสตางค์ คนที่ร้านเห็นรูปผมจึงถามว่าเป็นอะไรกับหมึกแดง คุณแม่บอกว่า เป็นแม่ เขาก็บอกว่าอยากให้คุณหมึกแดงมาชิมอาหาร ที่ร้านบ้าง ผมก็เลยต้องเอาใจคุณแม่ในวันแม่ ด้วยการพาคุณแม่ไปทานอาหารที่ ร้านบางสะพาน ซึ่งเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวครับ

ที่ร้านขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมู รวมทั้ง ข้าวมันไก่ ที่มีทั้งข้าวมันไก่ธรรมดาและข้าวมันไก่ทอด อีกทั้ง มีลูกชิ้น และอะไร ต่าง ๆ อีกหลายอย่างครับ วันที่ผมพาคุณแม่ไปด้วย คุณแม่แสดงถึงความดีใจ ซึ่งผมก็ดีใจที่ได้ทำอะไรให้คุณแม่ครับ เพราะว่าท่านเป็นผู้มีพระคุณให้กำเนิดผมมาไม่เช่นนั้นคงจะไม่ได้เป็นหมึกแดงอย่าง ทุกวันนี้

วันนั้นพอไปถึงซึ่งเราไปหลายคนพอสมควร ผมพาลูกชายลูกสาวไปด้วย เขาเป็นลูกบุญธรรมของผมครับ ซึ่งแท้จริงแล้วเด็กทั้งสองคนนี้ ผมเลี้ยงมาตั้งแต่เกิดซึ่งเป็นหลานแท้ ๆ ของผม เป็นลูกของน้องชายครับ ทั้งคู่ไปกินข้าวกับย่า ต่างคนต่างสั่งกันใหญ่เลยครับ ผมเองก็สั่งหมดทุกอย่างที่ขวางหน้า ผมสั่ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เพราะผมเป็นคนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ อยู่แล้ว ที่นั่นมีทั้งก๋วยเตี๋ยว เนื้อและหมู วันนั้นเผอิญพาคนไปหลายคนจึงได้กินหลาย อย่างครับ

ผมสั่ง เส้นเล็กเนื้อ อร่อยดีนะครับ เขาลวกเนื้อได้ดีทีเดียว หลังจากนั้น ผมสั่งเส้นเล็กแห้งเนื้อ มาทาน ส่วนคนอื่น ๆ สั่ง เส้นหมี่น้ำเนื้อ เส้นหมี่น้ำหมูใส่แต่ตับ ส่วนผมกิน เส้นหมี่เนื้อแห้งครับ บางคนกิน เส้นหมี่แห้งหมูตุ๋น แล้วก็สั่ง ลูกชิ้นเอ็นหมู ลูกชิ้นเนื้อปิ้ง มากินเล่น รวมทั้งสั่ง ยำวุ้นเส้นรวมมิตร มากินด้วย

จากนั้นผมสั่ง ข้าวมันไก่ และ ข้าวมันไก่ทอด มากินต่อ ผมสั่งหมดทุกอย่างที่มีในร้านเลยครับเพราะอยากกิน ปรากฏว่า รสชาติใช้ได้ครับ ต้องเรียนตามตรงว่ารสชาติใช้ได้หมายความว่าอร่อยครับ แต่ว่ายังไม่อร่อยมาก ส่วนตัวผมเป็นคนชอบกินเส้นหมี่แห้งเนื้อ ทั้งเนื้อตุ๋น ลูกชิ้น และชอบกินตับที่ลวกแบบว่ายังมีเลือดซิบ ๆ อยู่ข้างในจะได้หวานครับ ซึ่งที่นี่ก็ทำได้ดีครับ แต่ว่าตับลวกนานไป ผมถึงไม่ให้ห้าดาว

ส่วน ยำวุ้นเส้นรวมมิตร ของเขาใช้ได้ครับ แซบมาก ผมชอบความเข้มข้น ของน้ำยำ สำหรับลูกชิ้นก็ใช้ได้ หลังจากกินกันเรียบร้อยแล้ว ของหวานมี บัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน ให้เรากิน ตามมาด้วย ลอดช่องแตงไทย อร่อยทั้งสองอย่างเลยครับ ร้านนี้เป็นร้านที่ควรจะแวะไปชิมกันนะครับ บรรยากาศดีมาก

ส่วนอีกร้านหนึ่งที่ผมไปมาก่อนที่จะเดินทางไปอเมริกา เผอิญวันนั้นเป็นวันที่ผมได้หยุดพักผ่อน ผมจึงนัดน้องของผมและครอบครัว ไปกินอาหารแถว อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา ชื่อว่า ร้าน สี่แควกุ้งเผา ร้านนี้อร่อย จริง ๆ ครับ ราคาก็ย่อมเยา ผม ไปกินมาแล้วพุงกางเลยครับ

วันนั้นไปกันแค่ 3 คน แต่สั่งอาหารกันเต็มโต๊ะเลยครับ สิ่งที่จะต้องสั่งเมื่อมาทานที่ร้านนี้ คือ กบทอดกระเทียมพริกไทย เพราะว่าไม่มีที่ไหน อร่อยเท่าที่นี่เลยครับ หนัง กบกรอบมาก เหมือนกินข้าวเกรียบเลย ส่วนเนื้อก็ยังนุ่ม ต่อมาเป็น กุ้งเผา ถึงแม้ตัวจะไม่ใหญ่นัก แต่เผามาได้ดีมาก อร่อยเช่นกันครับ

จานถัดมาเป็น แกงคั่วหอยขม ผมก็กินเรียบเลยครับจานนี้ ยังมี ปลาคังผัดฉ่า ผัดเผ็ดลูกชิ้นปลากราย ปลาทอด แต่ที่ผมชอบมากซึ่งเป็นอาหารโบราณที่คุณพ่อของผมก็ชอบเช่นกัน คือ ผัดสายบัว รสชาติดีครับ ที่แปลกที่สุดของร้านนี้ คือ ทอดมัน ครับ แทนที่เขาจะเอาเครื่องแกงใส่เข้าไปในเนื้อทอดมันเขาไม่ใส่เลยนะครับ กลายเป็นทอดมันที่ไม่มีเครื่องแกง มีแค่รากผักชี กระเทียมพริกไทย เท่านั้นเอง แล้วเสิร์ฟกับเครื่องอาจาด ผมบอกกับที่ร้านว่า ทำแปลกดี หอม ๆ จืด ๆ แต่ก็อร่อยครับ

ร้านนี้เป็นอีกร้านหนึ่งที่บรรยากาศดี อาหารอร่อยมาก ราคาย่อมเยาครับ เพราะฉะนั้นผมเชียร์เต็มที่เลยครับ อยากให้เพื่อน ๆ แวะมาชิมกันดู.

เข้าครัวกับหมึกแดง
หมูผัดปล่าร้าทรงเครื่อง

เครื่องปรุง
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- หมูสับ 100 กรัม
- น้ำปลาร้า 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- น้ำมะขามเปียก 1 ช้อนโต๊ะ
- หอมแดงซอย 30 กรัม
- ตะไคร้ซอย 30 กรัม
- ใบมะกรูดซอย 15 กรัม
- พริกขี้หนูซอย 15 กรัม
- กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนโต๊ะ
- ผักเครื่องเคียง พอประมาณ
(แตงกวา, ถั่วฝักยาว, กะหล่ำปลี)

วิธีทำ

1.นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันให้ร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม เติมหมูสับ ลงไปผัดพอสุก

2.ปรุงรสด้วย น้ำปลาร้า น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก ผัดให้เข้ากัน

3.ชิมรสให้ออกเค็มนำ ตามด้วยหวาน เปรี้ยว หรือตามต้องการ

4.เทส่วนผสมที่ผัดไว้ลงในชาม คนให้ส่วนผสมพออุ่น ๆ

5.ใส่หอมซอย ตะไคร้ซอย ใบมะกรูดซอย และพริกขี้หนูซอย กระเทียมเจียว และน้ำมันกระเทียมเจียว ลงไปผสมให้เข้ากัน
6.ตักใส่จาน เสิร์ฟกับข้าวสวย และผักเครื่องเคียง.

 

ผัดไทยคิคูยา 2 ความอร่อยภาคกลางวัน

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

˹ѧ

ผัดไทยคิคูยา 2 ความอร่อยภาคกลางวัน

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod01151152&sectionid=0125&day=2009-11-15

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>สัปดาห์นี้มาว่ากันต่อ ยังมีของดีอร่อยริมทางย่านเยาวราช ที่เจ้าอ๊อดเพื่อนรักไม่สนว่าผมจะอิ่มแค่ไหน หลังจากที่เราอิ่มหนำสำราญกับขนมผักกาดหน้า ธ.นครหลวงไทย ราชวงศ์แล้ว เจ้าอ๊อดก็นำทางข้าพเจ้าย้อนกลับไปยังที่จอดรถในถนนมังกร

ปิ่นโตเถาเล็กเคยพาแฟนๆ ตามรอยบิดาข้าพเจ้าไปชิม "ผัดไทยใส่กระทงใบตอง" ตำรับไม่เหมือนใครไม่มีใครเหมือน ที่ "หน้าร้านคิคูยาบนถนนราชวงศ์ ของคุณป้าสละ ยิ้มถาวร" เมื่อหลายปีก่อนมาแล้ว รายนี้ขายมานานปีดีดัก จนมีสมญานามร้านว่า "ผัดไทยคิคูยาหรือผัดไทยราชวงศ์"

ใครไปชิมที่ร้านนี้ต้องอาศัยความอดทนอย่างสูง เพราะมีลูกค้าผู้หิวโหยมารอคิวกันแน่นขนัด ถึงแม้คุณป้าซึ่งอายุน้อยกว่าบิดาข้าพเจ้านิดเดียว (79 ปี) จะผัดก๋วยเตี๋ยวทีละกระทะใหญ่ๆ ก็ยังไม่ทันกับความต้องการของลูกค้า

นับแต่นี้ไม่ต้องเสียเวลารอแล้ว เพราะผัดไทยรายนี้เขาแตกสาขาเพิ่มเติมอีก 1 แห่ง แถมยังไม่ต้องรอจนมืดค่ำก็ไปลองชิมได้ สาขานี้เป็นของหลานสาวกับหลานเขย มีมาหลายปีแล้ว โดยจะออกขายตั้งแต่ 9 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น เป็นประจำทุกวัน อยู่ตรง "ริมทางเท้าข้างห้างเทสโก้โลตัส สาขาเยาวราช (อาคารพิชัยญาติ) ถนนมังกร" เขาขึ้นป้ายชื่อไว้ที่รถเข็นว่า "ผัดไทยราชวงศ์ (คิคูยา)" เพื่อไม่ให้เป็นการสับสน ผมขอเรียกว่า "ผัดไทยคิคูยา 2" ก็แล้วกัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ถ้านำรถมาเอง ให้เข้าถนนมังกร (ซึ่งน่าจะเรียกว่าซอยมากกว่า) จากด้านถนนเจริญกรุง (ตรงข้ามวัดเล่งเน่ยยี่หรือวัดมังกรกมลาวาส) เมื่อเข้ามาแล้ว ให้เลือกจอดรถได้ 2 ตึก ตึกแรกอยู่ต้นซอยเสียค่าจอดชั่วโมงละ 30 บาท ตึกถัดมาก็คือที่ตั้งห้างโลตัสนั่นแหละ รู้สึกว่าจะคิดค่าจอดชั่วโมงละ 40 บาท เนื่องจากย่านไชน่าทาวน์นี้มีตรอกซอกซอยมากมายแถมถนนหลายสายก็ยังถูกจัดให้เดินทางเดียวด้วย จึงโปรดกรุณาศึกษาแผนที่ของปิ่นโตเถาเล็กก่อนไปด้วยนะจ๊ะ

ร้านผัดไทยคิคูยา 2 นี้ขายอยู่ในรถเข็นริมทางเท้าของซอยมังกร "ก่อนถึงปากทางด้านถนนเยาวราชเพียงไม่กี่เมตร" เขาตั้งโต๊ะสีเขียวอ่อนรอบรถเข็นเป็นรูปตัวแอล (L) จนดูเหมือนเป็นเคาน์เตอร์สำหรับกินอาหารหน้าเตาในครัวที่บ้านมากกว่า นอกจากนี้ยังมีอีก 1 โต๊ะต่างหาก สีเขียวอ่อนเช่นกัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

อย่างที่เคยบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนตอนไปร้านแรก ก่อนจะชิมผัดไทยเจ้านี้ ขอให้แฟนๆ เปลี่ยนโหมดการรับรสผัดไทยเสียก่อน เพราะผัดไทยสูตรนี้ถึงแม้จะเป็นตำรับโบราณเกือบ 50 ปีแล้วก็ตาม แต่ไม่ใช่ผัดไทยเส้นจันท์ เส้นใหญ่ๆ หนึบๆ เหนียวๆ ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก ใส่ถั่วลิสงเหมือนของทั่วๆ ไป

รายนี้เขามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร กล่าวคือเป็นผัดไทยเส้นเล็กๆ ผัดด้วยเตาถ่านจนเส้นแห้งๆ ร่วนๆ เกรียมๆ หอมๆ โดยจะผัดกับไข่เป็ด มันกุ้ง กุ้งสดหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เต้าหู้ ถั่วงอกและกุยช่าย ปรุงรสด้วยน้ำตาลและพริกป่น จนมีรสชาติจัดจ้านแต่ยังคงไว้ซึ่งความกลมกล่อมนุ่มนวล ดูเหมือนว่าสาขา 2 นี้จะให้ปริมาณกุ้งมากกว่าจนเห็นได้ชัด จึงเป็นสาเหตุที่เจ้าอ๊อดชอบมากินที่นี่ จะกินทั้งทีต้องสวาปามให้เต็มที่ถึงเครื่องอย่างนี้

เวลารับประทานให้บีบมะนาวเพิ่มอีกอย่างเดียวก็พอ กินแกล้มกับกุยช่ายและหัวปลี สนนราคาชามละ 30 บาท พิเศษ 40 บาท ถ้ากินที่ร้านเขาจะตักใส่จาน แต่ถ้าสั่งห่อกลับบ้านจะใส่ในกระทงใบตองขนาดกะทัดรัดน่าเอ็นดู และปิดฝาด้วยใบตองแล้วจึงห่อด้วยกระดาษอีกที ร้านดั้งเดิมทำอย่างไร สาขานี้ก็ยังประพฤติปฏิบัติเช่นเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง

คนผัดชื่อคุณเสาวคนธ์ เป็นหลานสาวแท้ๆ ของคุณป้าสละ เพราะพ่อเป็นพี่ชายของคุณป้า นอกจากคุณเสาวคนธ์แล้ว ยังมีสามีเป็นผู้ช่วยดูแลหน้าร้านอีก 1 คนชื่อ คุณอัษฤางค์ ถ้าไปไม่ถูกให้โทร.ถามได้ที่เบอร์ 08-9688-9685 นะจ๊ะ

เชิญไปพิสูจน์ความอร่อยของผัดไทยตำรับพิเศษไม่เหมือนใครได้ทุกวัน

ผัดไทยราชวงศ์ (คิคูยา)2

โดย คุณอัษฎางค์-เสาวคนธ์ ละมลเทียร

ที่ตั้ง ริมทางเท้าข้างห้างเทสโก้โลตัส เยาวราช ถนนมังกร เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ 10100

โทร.08-9688-9685

เปิดบริการ 09.00-17.00 น. ทุกวัน

หยุด เทศกาลกินเจ

แนะนำ ผัดไทย