เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ที่ไม่ใช่ "ก๋วยเตี๋ยว" ธรรมดา...!!

    โดย สุขุม เฉลยทรัพย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01act03310552&sectionid=0130&day=2009-05-31

    กระแสทุนนิยมของโลก ณ วันนี้ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ "อาชีพดั่งเดิมของไทย" หลากหลายอาชีพกำลังตกอยู่ในสภาวะ "ใกล้สูญพันธุ์"

    ตัวอย่างเช่น "การขายก๋วยเตี๋ยวเรือแบบดั่งเดิมของชาวปทุมธานี" ซึ่งนอกจากจะเป็นเอกลักษณ์ของวิถีชีวิตความเป็นไทยแล้ว ยังเป็นภาพสะท้อนของความผูกพันระหว่าง "คนไทย" และ "แม่น้ำลำคลอง" ที่นานวันก็ยิ่งดูเหมือนว่าจะลบเลือนไปจากความทรงจำของคนไทย

    ดังนั้น การอนุรักษ์ "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" เพื่อไม่ให้เป็นเพียง "ตำนานแห่งอาชีพ" ในยุคแห่งการจัดการความรู้นั้น คงจำเป็นต้องมีการระดมความคิดจากผู้เกี่ยวข้องในการมองหา "ทางเลือก" เพื่อ "ทางรอด" ...!!

    อดีตก๋วยเตี๋ยวเรือปทุมธานีหรือก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตจะขายในเรือ โดยผู้ขายพายเรือขายตามคลอง และลูกค้าจะเรียกให้จอดเมื่อต้องการซื้อก๋วยเตี๋ยว จากลักษณะที่ขายในเรือ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือจำเป็นต้องมีขนาดชามค่อนข้างเล็กเพื่อความสะดวกในการขาย ทำความสะอาด และการเก็บชามเมื่ออยู่ในเรือ ส่วนรสชาติของ "ก๋วยเตี๋ยวเรือแบบดั่งเดิม" จะมีรสจัดจ้าน กลมกล่อม

    เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปส่งผลให้ลักษณะของก๋วยเตี๋ยวเรือปทุมธานีเกิดการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวเรือส่วนใหญ่แม้จะสามารถคงรสจัดจ้าน กลมกล่อมไว้ได้ไม่เปลี่ยน แต่ก็ได้ "ยกพลขึ้นบก" และจัดจำหน่ายในสถานที่ต่างๆ ทั่วไป โดยอาจจะมีการนำเรือมาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งร้าน หรือหากขายบริเวณริมน้ำก็จะไม่ได้พายเรือขาย แต่จะขายในเรือขนาดใหญ่

    ดังจะเห็นได้จากร้านก๋วยเตี๋ยวเรือบริเวณริมคลองรังสิต นอกจากนั้น ชามก็มีขนาดใหญ่ขึ้น ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบก๋วยเตี๋ยวเรือในอดีตและปัจจุบัน คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าพบความแตกต่างหลากหลายประการ

    อัตลักษณ์ของความเป็นก๋วยเตี๋ยวที่เริ่มเลือนราง ผนวกกับยอดจัดจำหน่ายที่ "ทรงๆ ทรุดๆ" ล้วนเป็นแรงผลักดันให้ นายปรีชา บุตรศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เกิดแนวคิดของการส่งเสริมอาชีพ และผลักดันให้ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นอาชีพที่เป็นเอกลักษณ์ประจำจังหวัดปทุมธานี จนทำให้เกิดการสร้างความร่วมมือระหว่างจังหวัดปทุมธานี สถาบันวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี และ "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ในการดำเนินโครงการพัฒนาอาชีพ "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" อย่างยั่งยืน

    จากการศึกษาวิจัยข้อมูลดิบเชิงปฐมภูมิ และทุติยภูมิ ในโครงการพัฒนาอาชีพ "ก๋วยเตี๋ยวเรือปทุมฯ" อย่างยั่งยืนทำให้คณะนักวิจัยจาก "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต สามารถวิเคราะห์สภาพแวดล้อมภายในและภายนอก โดยใช้ SWOT Analysis เข้ามาเป็นแนวทางในการกำหนดยุทธศาสตร์ได้ ดังต่อไปนี้

    "จุดแข็ง" (Strengths) ประกอบด้วย การมีชื่อเสียง และครองใจผู้บริโภคได้เป็นอันดับ 1 การมีทำเลที่ตั้ง และมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น รสชาติอร่อย จัดจ้าน ถูกปากผู้บริโภค ราคาไม่สูง และความเชี่ยวชาญในการปรุงของผู้ประกอบการ

    ในขณะที่ "จุดอ่อน" (Weaknesses) ประกอบด้วย กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือยังไม่มีการรวมตัวเป็นกลุ่มธุรกิจอย่างจริงจัง และไม่มีการจัดตั้งหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมผู้ประกอบการธุรกิจก๋วยเตี๋ยวให้มีมาตรฐานโดยเฉพาะด้านความสะอาด นอกจากนั้น ผู้ประกอบการธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือขาดทักษะความรู้ด้านการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นด้านการตลาด การประชาสัมพันธ์ การจัดการด้านการเงิน ฯลฯ

    "โอกาส" (Opportunities) ประกอบด้วย ปทุมธานีเป็นจังหวัดในลำดับต้นๆ ที่มีแนวคิดในการพัฒนาธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือให้เป็นสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่น จากสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งเป็นอาหารที่มีราคาไม่สูง และจากสภาพสังคมที่คนให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือซึ่งเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีโอกาสขยายตลาดได้ดียิ่งขึ้น

    "อุปสรรค" (Threats) ประกอบด้วย ธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือมีการแข่งขันทางการตลาดสูง เนื่องจากเป็นสินค้าที่ไม่ค่อยมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะในด้านคุณประโยชน์ด้านหน้าที่ (Function benefit) ในการเป็นอาหาร ธุรกิจก๋วยเตี๋ยวเรือมีคู่แข่งที่มีความเข้มแข็ง เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา และการก่อตั้ง หรือขยายธุรกิจ เป็นไปได้อย่างยากลำบาก เนื่องจากอยู่ภายใต้การควบคุมและกำกับดูแลของกฎหมายอาคารสถานที่

    ผลการวิเคราะห์ SWOT Analysis ที่ปรากฏนั้น นอกจากจะเป็นรูปธรรมของการนำข้อมูลดิบมาผ่านกระบวนการจัดการความรู้ตามหลักวิชาการแห่งศาสตร์ของการจัดการความรู้แล้ว ยังเป็นสิ่งที่จะสามารถนำไป "ต่อยอด" เป็นแผนยุทธศาสตร์ แผนการปฏิบัติงานอันเกิดขึ้นจากข้อมูลพื้นฐานจากการระดมความคิดของบุคคลที่เกี่ยวข้อง

    อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจ การวิเคราะห์ข้อมูลตามหลักวิชาการต่างๆ คงเป็นสิ่งที่ดูเหมือนไร้ค่า หากไม่มีการนำข้อมูลดังกล่าวไปปฏิบัติ และปฏิบัติอย่างจริงจังต่อเนื่อง จุดเริ่มต้นของการปฏิบัติจริงนั้น สามารถเริ่มได้จากการกำหนดให้ก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็นหนึ่งของรายการอาหารในงานเลี้ยงของหน่วยงานราชการจังหวัดปทุมธานี

    การกำหนดให้มีการศึกษาเรื่องก๋วยเตี๋ยวเรือในสถาบันการศึกษา เช่น เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี การกำหนดให้ก๋วยเตี๋ยวเรือเป็นอาหารในโครงการอาหารกลางวันของ สพฐ. สัปดาห์ละหนึ่งมื้อ นอกจากนั้น อาจจะมีการนำเอกลักษณ์ด้านอาหารอื่นๆ เช่น นำข้าวจังหวัดปทุมธานีมาผลิตเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว นำลูกชิ้นของตระกูลหาญสวัสดิ์ หรือแม้แต่พริกของลาดหลุมแก้วมาใช้เป็นส่วนประกอบต่างๆ เพียงเท่านี้ ก็น่าจะปลุกกระแส และเป็นการแสดงออกถึงการปฏิบัติอย่างจริงจัง

    ที่กล่าวไปทั้งหมดนี้ผู้เขียนเพียงต้องการสื่อให้เห็นว่าการอยู่รอดในสังคมแห่งทุนนิยม หากไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย วิเคราะห์สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป องค์ความรู้ที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวันมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์สูงสุดตลอดจนพยายามคิดต่าง ทำต่างจากกรอบความคิดเดิมๆ นั้น เชื่อคงไม่ต้องรอถึงอนาคต แต่แค่ ณ วันนี้ ก็น่าจะอยู่รอดได้ยากแล้ว ดังนั้น การดำรงรักษาขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นไทยให้คงอยู่สืบต่อไปในอนาคตผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยเฉพาะส่วนราชการ จำเป็นต้องทั้งคิดทั้งทำ และดึงความธรรมดาที่ไม่ธรรมดาให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าให้จงได้

    หลังจากการที่อ่านข้อเขียนนี้ เชื่อว่าหลายคนน่าจะเล็งเห็นได้ว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" เป็นอาหารที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีความเป็นไทย อาหารเพื่อสุขภาพ ราคาไม่สูงแต่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนสื่อให้ถึงความเป็น "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ที่ไม่ใช่แค่ "ก๋วยเตี๋ยว" ธรรมดา...!!

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ตามล่าหาราดหน้า

    http://www.posttoday.com/magazine.php?id=50964
    รายงานโดย :เรื่อง / ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์:


    ผมว่าหลายคนเมื่อเลือกกินอาหารตามสั่ง ซึ่งปกติมีรายการอาหารอยู่ไม่กี่อย่าง ในจำนวนนั้นต้องมีราดหน้าอยู่ด้วย


    [​IMG]ก็อาจจะเลือกกินราดหน้า กินไปแก้ขัด หวังแค่อิ่มรอดไปหนึ่งมื้อ ผมว่าส่วนใหญ่ก็เป็นอย่างนั้นครับ นอกจากหวังความอร่อยไม่ได้แล้ว ผมอยากพูดแรงๆ ว่าคนทำอาหารตามสั่งนั่นแหละเป็นตัวการทำลายตัวตนของราดหน้า ซึ่งที่จริงก็ไม่ได้ทำยากเย็นอะไร แต่ถ้าเข้าใจทำสักนิดให้ได้เรื่องได้ราวแล้ว ขายราดหน้าอย่างเดียวก็รวยได้
    เพราะเห็นว่าราดหน้าเป็นของกินใกล้ตัวมากที่สุด จึงอยากพูดเรื่องราดหน้าพร้อมกับชวนไปกินที่ร้านที่ไม่น่าจะผิดหวัง แต่ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่า รสนิยมการกินนั้นไม่เหมือนกัน บางคนบอกว่าอร่อย อีกคนว่าไม่ได้เรื่อง อันนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะธรรมชาติสร้างปุ่มสัมผัสรสมาไม่เหมือนกัน ไม่ต้องอะไรนับประสาแค่น้ำดื่มบรรจุขวดขายยังชอบไม่เหมือนกันเลย
    ราดหน้าเดี๋ยวนี้มีหลายสกุล แต่ที่ผมเริ่มกินราดหน้าเป็นนั้น สกุลฝีมือกวางตุ้ง ซึ่งร้านกวางตุ้งที่เห็นง่ายๆ เป็นร้านขายเป็ดย่าง หมูย่าง หมูกรอบ แล้วก็มักจะมีบะหมี่เกี๊ยวหมูแดง และประเภทก๋วยเตี๋ยวผัด ก็จะมี โกยซีหมี่ และราดหน้าด้วย แล้วร้านกวางตุ้งต้องเป็นราดหน้าเนื้ออย่างเดียว ไม่มีหมู
    เริ่มตั้งแต่วิธีการผัดเส้นของร้านกวางตุ้ง ทั้งเส้นใหญ่และเส้นหมี่ จะต้องให้น้ำมันในกระทะร้อนจัดจนไอน้ำมันขึ้นควันเขียวเอาทีเดียว และน้ำมันผัดเส้นที่ดีที่สุดต้องเป็นน้ำมันหมู ใส่เส้นแล้วรีบใส่ซีอิ๊วนิดหน่อย ผัดตลบ 2-3 ที ความร้อนของกระทะนั้นทำให้เส้นมันสะดุ้งความร้อนและเกรียมนิดๆ นั่นแหละทีเด็ด เส้นจะมีกลิ่นกระทะ จากนั้นก็ทำน้ำราดหน้า เนื้อที่ใช้จะต้องหมักให้นุ่มก่อน วิธีที่ให้เนื้อนุ่มนั้นก็ง่ายๆ เอายางมะละกอดิบคลุก 2-3 หยดเท่านั้น และเนื้อนั้นจะหมักกับเครื่องปรุงอื่นๆ รวมทั้งแป้งด้วย
    น้ำราดหน้าเหนียวข้นและไม่เจิ่งเต็มจานชาม นี่แหละราดหน้าสมัยก่อน อยู่ๆ ก็มีสกุลราดหน้าอีกสกุลหนึ่งโผล่มา แล้วก็กระจายไปทั่วทุกหนทุกแห่ง ราดหน้าที่ว่าเป็นสกุลโรงหนังเอ็มไพร์ โรงหนังที่ว่านี้อยู่ตรงปากคลองตลาดครับ และเจ๊งไปนานแล้ว ผมจำชื่อเดิมของร้านราดหน้าเอ็มไพร์ไม่ได้ ยิ่งพอออกแตกหน่อออกกอไปมากๆ เลยไม่รู้ว่าอันไหนกันแน่ที่เป็นของดั้งเดิม
    สกุลราดหน้าเอ็มไพร์ ไม่ได้เน้นการผัดเส้นให้มีกลิ่นกระทะ แล้วก็จะมีแต่หมูอย่างเดียวไม่มีเนื้อ อีกอย่างหนึ่งจะเน้นเรื่องน้ำราดหน้าและตัวผักคะน้า การทำน้ำราดหน้านั้นจะทำทีเดียวเยอะๆ ทำไว้ล่วงหน้า ใครมาเวลาไหนก็กินได้ทันใจ น้ำราดหน้าสีจะออกขาวๆ หน่อย ไม่เหมือนน้ำราดหน้าของกวางตุ้งที่สีของน้ำจะออกสีน้ำตาลเข้ม นอกจากน้ำเยอะๆ แล้วผักคะน้าจะสับเป็นท่อนๆ แถมไม่ปอกเปลือกอีกต่างหาก ถ้าเป็นผักคะน้าต้นเล็กก็จะใส่ทั้งต้นเลย เวลาคนกินจะใช้ช้อนส้อมตัดเป็นท่อนเล็กๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะช้อนส้อมมันไม่คมพอที่จะหั่น ก็เลยต้องคาบคะน้าทั้งต้นเข้าปาก เหมือนวัวคาบหญ้าไม่มีผิด
    จะบอกว่าไม่อร่อยก็ไม่ได้ อร่อยครับ เป็นอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งรูปแบบเอ็มไพร์นี้ ในร้านอาหารตามห้างแทบทุกห้างก็ต้องมีราดหน้าแบบนี้
    ผมกำหนดสกุลราดหน้าต่างยุค ต่างแบบไว้แค่นี้ ส่วนแบบปลีกย่อยเป็นราดหน้าตามสั่งไม่อยากกล่าวถึง
    ทีนี้ก็มาถึงร้านราดหน้าที่ดูเข้าท่าบ้าง จะเอาแบบกวางตุ้งก่อน มีหลายร้านอยู่เหมือนกันครับ แถบบางรักก็มีหลายร้าน เริ่มต้นที่ร้านประจักษ์ ขายเป็ดย่าง หมูย่าง หน้าห้างโรบินสัน บางรัก ราดหน้าเนื้อใช้ได้ พอเข้าซอยเจริญเวียง จากปากซอยนิดเดียวมีร้านเป็ดย่าง หมูย่าง ชื่อร้านนายสูง เป็นร้านแบบเดียวกับประจักษ์ ก็มีราดหน้าเนื้อใช้ได้อีกเช่นกัน
    ซอยเจริญเวียงนี้ทางก้นซอย เลี้ยวขวาจะออกถนนสาทรได้ พอเลี้ยวนิดหนึ่งมีภัตตาคารแสนยอด ร้านนี้มีรายการอาหารเยอะแยะนับไม่ถ้วน พวกบะหมี่ เกี๊ยวกุ้ง เป็ดย่าง ลูกชิ้นกุ้งผัดผักโสภณ ล้วนอร่อยทั้งสิ้น ราดหน้าเนื้อที่นี่จะชัดเจนของความเป็นราดหน้าเนื้อแบบเก่ามาก เส้นก๋วยเตี๋ยวจะมีกลิ่นกระทะ ไปร้านนี้กินราดหน้าเนื้อไม่ผิดหวังครับ
    ข้ามไปไกลหน่อยถึงวังบูรพา ตรงหน้าโรงหนังควีนเก่า มีร้านบะหมี่เป็ดตุ๋น ชื่อจี่จังหว่อ
    เป็นร้านบะหมี่เป็ดตุ๋นที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งต้องยกให้บะหมี่เป็ดตุ๋นเป็นอันดับ 1 อันดับ 2 และอันดับ 3 เป็นราดหน้าเนื้อ กับโกยซีหมี่ ตามลำดับ
    มาที่ถนนพระราม 4 ตรงแถวสามย่านบ้าง ซึ่งอาจจะยุ่งยากตรงทางเข้าหน่อย เอาตามที่ผมเคยไปถนัดแล้วกันครับ ก่อนอื่นต้องมาทางถนนพระราม 4 ที่มาจากหัวลำโพง เมื่อเลยแยกถนนบรรทัดทองมาแล้วสักหน่อยจะเจอซอยจุฬาฯ 11 เลี้ยวเข้าไป ผ่านป้อมเก็บเงินค่าจอดรถ แล้วเข้ามานิดเดียวเจอซอยจุฬาฯ 46 ซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปเลย ร้านจะอยู่ซ้ายมือ ชื่อร้านเล่งกี่
    ร้านนี้ราดหน้าเนื้ออร่อยมาก เส้นหอมกลิ่นกระทะและรสชาติทำน้ำราดหน้าอร่อย แต่ร้านนี้มีขีดจำกัดหน่อยครับ จะทำทีละชาม ฉะนั้นต้องคอยนานหน่อย เผื่อไว้เลยครึ่งชั่วโมง แล้วเวลาขายจะเริ่ม 11.30 น. บ่ายโมงเลิก ไปขายอีกที 5 โมงเย็น ไปกินร้านนี้ก่อนเวลานั่งคอยได้แต่ไม่ขายครับ กลางวันวันเสาร์คนจะเยอะ ต้องไปนั่งคอยก่อนตอน 11 โมง ส่วนวันอาทิตย์หยุด มีแถมอีกนิดว่าก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ก็อร่อย [​IMG]
    สำหรับแถบร้านนี้มีของดีอีกอย่างในวันพุธกับวันเสาร์ ตรงหัวมุมซอยจุฬาฯ 46 ตอนเช้าจะมีรถเข็นขายไก่ย่างบางตาล ซึ่งมาจากบางตาล ราชบุรี อร่อยใช้ได้เลย วิธีซื้อต้องซื้อก่อนจะกินราดหน้า เรียกว่าใช้ช่วงเวลาที่ร้านเล่งกี่ยังไม่ขายก็มาซื้อไก่ย่างเสียก่อน ไม่อย่างนั้นหมด สำหรับร้านเล่งกี่นั้นทางเข้าอาจจะสับสนหน่อยสำหรับคนไม่คุ้นเคยย่านนั้น ก็มีโทรศัพท์ไว้ถาม เป็นเบอร์ 02-215-4324
    นี่เป็นราดหน้าเนื้อครับ ส่วนราดหน้าแบบเอ็มไพร์ ซึ่งร้านที่จะแนะนำนี้ก็ไม่ใช่เอ็มไพร์เต็มตัว กึ่งๆ ครับ ชื่อร้านยู่อี่ หรือทั่วไปเรียกร้านผมขาวเพราะเถ้าแก่เนี้ยผมแกขาวทั้งหัว อยู่บนถนนเจริญกรุง อยู่เยื้องกับถนนเท็กซัส (เกือบถึงห้าแยกเจริญกรุง) เป็นห้องแถวริมถนนโล่งๆ เป็นราดหน้าหมู น้ำราดหน้าอร่อย และข้นเหนียวไม่เจิ่งนอง จะเสียอย่างเดียวใส่ผักคะน้ามาทั้งต้น ต้องทำตัวเป็นวัวค่อยๆ กัดและดึง ร้านนี้วันอาทิตย์หยุดครับ ก็นี่แหละครับราดหน้าที่พอจะเป็นแบบฉบับของราดหน้า ถึงจะยุ่งยากกับการเดินทางตามล่าสักหน่อย แต่ก็ดีกว่ากินราดหน้าจากร้านตามสั่งครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    นิดากวยจั๊บไก่ อร่อยได้ใจ

    ��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - �Դҡ�¨������ ����������

    ที่มา โพสต์ทูเดย์

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :เรื่อง / ภาพ ลีโอ leoken@posttoday.com:

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ผมว่าหลายคนที่เป็นสาวกคนรักก๋วยเตี๋ยว ส่วนใหญ่มักจะชอบกินกวยจั๊บตามไปด้วย บางคนชอบน้ำใส บางคนชอบน้ำข้น อาจเป็นเพราะกวยจั๊บนั้นหน้าละม้ายคล้ายก๋วยเตี๋ยวอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน


    [​IMG]

    จะแตกต่างก็ทั้งเครื่องเคราบางอย่าง บางร้านอาจจะมีหมูทอดกรอบๆ มาช่วยเสริมทัพเพิ่มความอร่อย ผมว่าถ้าไม่แน่จริงคนที่เปิดร้านขายกวยจั๊บอย่างเดียวคงไม่รวยหรอก นั่นล่ะที่เป็นเครื่องการันตีว่าคนชอบกินกวยจั๊บไม่ได้น้อยไปกว่าคนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยว

    วันนี้นึกครึ้มอกครึ้มใจไปตามฟ้าตามฝน เลยอยากจะแนะนำกวยจั๊บรสเด็ดให้คุณผู้อ่านลองไปรับประทานกันดู ร้านที่ว่านี้อยู่แถวแยกคลองตัน ร้านชื่อว่ากวยจั๊บไก่นิดา เปิดขายตรงบริเวณนี้มากว่า 10 ปีกันเข้าไปแล้ว
    ความพิเศษของกวยจั๊บร้านนี้นอกจากจะเป็นไก่ เพราะเจ้าของร้านเป็นอิสลาม ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเห็นกวยจั๊บหมูเสียมากกว่าแล้ว รสชาตินั้นยังกลมกล่อม ผมแอบตะล่อมถามเจ้าของร้าน นิดา มูลทรัพย์ ว่าทำไมรสชาติของน้ำซุปจึงอร่อยได้ใจขนาดนี้ เธอตอบเสียงใสว่า “เป็นสูตรเด็ดของทางร้านค่ะ” นั่นแปลว่าเธอไม่ยอมบอกสูตรลับ เอาน่าไม่เป็นไร ขอให้อร่อยก็พอแล้ว

    นอกจากเครื่องเคราทั้งไส้กรุบกรับ เครื่องในชิ้นกำลังพอคำ ไก่เนื้อแน่นและนุ่มเพราะทางร้านจะเลือกใช้แต่เฉพาะบริเวณอกไก่เท่านั้น รวมทั้งไข่ต้มเหลืองๆ น่าหม่ำแล้ว สิ่งที่ทำให้กวยจั๊บร้านนี้โดดเด่นไม่เหมือนใครก็เห็นจะอยู่ตรงที่ใส่ข้อไก่ตุ๋นลงไปในหม้อตุ๋นน้ำซุปด้วย ที่นอกจากจะช่วยทำให้น้ำซุปหวานละมุนลิ้นแล้ว ยามเคี้ยวยังหนุบหนับ กรุบๆ กรับๆ แสนเพลินและอร่อยอย่าบอกใครเชียว ใครโปรดการเคี้ยวข้อไก่ตุ๋นก็สามารถสั่งเจ้าของร้านเขาได้เลยเต็มที่
    ส่วนใครที่ไม่สันทัดกวยจั๊บร้านเขายังมีอาหารตามสั่งให้เลือกลิ้มลองอีกหลากหลายเมนู ล้วนอร่อยเด็ดทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ข้าวกะเพราเนื้อไข่ดาว ใครที่ชอบไข่กรอบๆ ละก็ได้ใจกันไปเลย กินแล้วบอกตรงๆ ว่าคิดถึงรสมือแม่เป็นที่สุด เมนูขายดียังมีไก่กระเทียม และที่ขาดไข่ไม่ได้เลยก็คือข้าวผัดปู แกงเขียวหวานของเขาก็อร่อย

    อ้อ! และที่ขายดิบขายดีสูสีกับกวยจั๊บก็เห็นจะเป็นข้าวมันไก่เนื้อขาวจั๊วะ กินกับน้ำจิ้มรสชาติเข้มข้นออกหวานนิดๆ แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ และสามารถสั่งน้ำซุปมากินพร้อมเมนูข้าวได้ทุกเมนูไม่เฉพาะข้าวมันไก่ ซึ่งมีให้เลือกทั้งน้ำซุปใสแบบน้ำซุปข้าวมันไก่ หรือน้ำซุปข้นแบบกวยจั๊บ แถมยังไม่คิดค่าน้ำซุปแต่อย่างใด ใครผ่านแถวคลองตันก็แวะรับประทานได้นะครับ ร้านจะเปิดขายทุกวัน (หยุดเสาร์เว้นเสาร์) ตั้งแต่เวลา 08.00–19.00 น. โทร.ไปสอบถามกันได้ที่ 08-1581-8358
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกอเต็กเชียง น้ำซุปหอมหวาน

    ��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - ��������������͡��������§ ��ӫػ�����ҹ

    รายงานโดย :เรื่อง : เพนฟิ่น / ภาพ : เพนฟิ่น

    ตะลอนชิมวันนี้เพื่อคนรับประทานเนื้อวัว (อีกครั้ง) ด้วยก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเสียงมานานอย่าง กอเต็กเชียง มีคนเคยบอกเพนฟิ่นว่าร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อนี้มีหลายร้านอยู่เหมือนกัน

    เห็นว่าที่เมืองทองก็มี ที่แถวประชาชื่นก็ใช้ชื่อนี้ แต่ร้านกอเต็กเชียงที่เพนฟิ่นพาไปนี้อยู่ในย่านเตาปูน เห็นและคุ้นเคยกันมานานแล้ว ก็ไม่รู้ว่าแต่ละร้านจะมีความสัมพันธ์กันอย่างไร เพนฟิ่นไม่ได้ถาม เพราะไปนั่งรับประทานทีไร เจ๊เจ้าของร้านก็ก้มหน้าก้มตาสนใจกับออร์เดอร์ตรงหน้ามากกว่า เลยไม่ถามแล้วกัน สู้สั่งแล้วนั่งรอ เดี๋ยวเดียวก็ได้อิ่ม

    [​IMG]


    ไม่รู้ใครเป็นเหมือนเพนฟิ่นบ้างเวลาเดินผ่านร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อแต่ละที ไม่รู้เป็นอย่างไร กลิ่นน้ำซุปหอมยั่วยวนจมูกให้ได้ต้องเข้าไปลิ้มรสอยู่บ่อยๆ ที่กอเต็กเชียงนี่ก็เหมือนกัน กลิ่นน้ำซุปยั่วยวนออกมาจากร้าน 1 คูหา หอมเป็นที่สุด
    ลองดูจากป้ายของร้านนี้กันหน่อยว่าเขามีอะไรเป็นเมนูให้เลือกมาก เป็นป้ายที่แจกแจงยาวแขวนเอาไว้หน้าร้านเลยทีเดียว ที่เขามีโฆษณา (ตัวเอง) ไว้ก็ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวและเกาเหลาหมูตุ๋นและเนื้อตุ๋น ลูกชิ้น เนื้อสด ตับ หัวใจ เซี่ยงจี๊ ผ้าขี้ริ้ว เนื้อตุ๋น เอ็นตุ๋น ไส้ตุ๋น ขอบกระด้งตุ๋น ม้ามตุ๋น ลิ้นตุ๋น ตัวเดียวตุ๋น ซึ่งถ้าสั่งแบบเกาเหลาใส่ทุกอย่างก็ชามละ 70 บาท แต่ถ้าเป็นแบบเกาเหลารวมพิเศษ แบบนี้ก็ชามละ 80 บาท ส่วนถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวก็เริ่มต้นที่ชามละ 40 บาท
    จะสังเกตได้ว่าที่นี่มีทั้งเนื้อวัวและหมู แต่ส่วนใหญ่เห็นคนที่เข้ามาในร้านก็ล้วนแต่สั่งเนื้อ สงสัยว่าก๋วยเตี๋ยวหมูคงจะไว้เป็นทางเลือกให้กับผู้ที่ไม่บริโภคเนื้อวัว แต่ว่าส่วนที่ปรุงของก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวนั้นจะเป็นตู้ใหญ่ เห็นหม้อก๋วยเตี๋ยวชัดเจน ก็ลองถ้าใครนึกถึงกอเต็กเชียง ก็จะยกให้กับเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อนั่นเอง สำหรับที่ร้านนี้ส่วนที่เพนฟิ่นมักสั่งก็คือ เกาเหลาเอ็น ตับ ไส้ ข้าวเปล่า จากนั้นก็จะเป็นเนื้อน่องลายลวกมาอีกชามหนึ่งต่างหาก จิ้มกับน้ำส้มพริกตำสูตรเฉพาะของร้านยิ่งเข้ากันได้รสชาติแสนอร่อย น้ำซุปของกอเต็กเชียงเป็นสีน้ำซุปแบบตุ๋นเนื้อทั่วๆ ไป แต่จะได้รสเผ็ดร้อนของพริกไทย ไม่ได้ถือว่าเผ็ดอะไรมาก แต่เรียกได้ว่าให้รู้รสชาติ ก็มีคนถามไถ่จนที่ร้านกอเต็กเชียงต้องนำพริกไทยมาขายด้วยนั่นล่ะ เป็นกล่องๆ กล่องละ 50 บาท

    [​IMG]

    รสชาติของน้ำซุปนั้นใครที่ไม่เคยไปลองที่ร้านนี้แนะนำว่าให้ชิมเสียก่อน เพราะว่าน้ำซุปเขาจะปรุงออกไปทางหวาน คนที่ไม่ชอบหวานถ้าขืนใส่น้ำตาลไปก่อนโดยไม่ชิม อาจมีเลี่ยนได้
    ส่วนหมูตุ๋นนั้นเพนฟิ่นไม่เคยลองชิม แต่หน้าตาและสีสันเข้าท่าอยู่เหมือนกัน ก็น่าจะมีรสดีไม่แพ้กัน เหลือบๆ มองที่กระทะทองเหลืองที่มีเนื้อหมูและเอ็นตุ๋น ดูๆ แล้วเอ็นตุ๋นก็น่ารับประทานเป็นที่สุด
    ใครที่อยากไปลองลิ้มรสก๋วยเตี๋ยวหรือเกาเหลาที่กอเต็กเชียง ร้านเขาเปิด 09.00-15.00 น. ส่วนถ้าไปเวลาเที่ยงน่ะเหรอ ก็ขอให้ทำใจ เพราะว่าร้านก็จะแน่นตามระเบียบ เพราะเป็นร้านคูหาเดียว จำนวนโต๊ะไม่ได้มีมากนัก อาจอารมณ์เสียได้ แต่ถ้าใครชอบพวกเนื้อตุ๋นและส่วนต่างๆ รวมทั้งน่องลายลวก แนะนำให้ไปลอง รอนิดรอหน่อยก็คุ้มค่า รับรองว่าไม่ผิดหวัง
    ยกนิ้วให้
    อร่อย 5 นิ้ว สะอาด 5 นิ้ว

    [​IMG]

    <SCRIPT type=text/javascript><!-- google_ad_client = "pub-3070849023962414"; google_ad_width = 468; google_ad_height = 60; google_ad_format = "468x60_as"; google_ad_type = "text_image"; google_ad_channel =""; google_color_border = "FFFFFF"; google_color_bg = "FFFFFF"; google_color_link = "940F04"; google_color_url = "111111"; google_color_text = "111111"; //--></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=undefined&dt=1245376705828&lmt=1245376705&format=undefinedxundefined&output=html&correlator=1245376705828&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Fnewreply.php%3Fdo%3Dpostreply%26t%3D29074&ea=0&frm=0&ga_vid=227661275.1228318893&ga_sid=1245372240&ga_hid=101041064&ga_fc=true&flash=9.0.28.0&w=-1&h=-1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=11&u_java=true&dtd=62" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กินผักกันดีกว่า

    รายงานโดย :เรื่อง / ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์

    ��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - �Թ�ѡ�ѹ�ա���

    ที่มา โพสต์ทูเดย์

    เพิ่งโทรศัพท์คุยกับคนที่อเมริกา คนที่นั่นยังแย่อยู่ ถึงจะยังมีงานทำก็ถูกลดเงินเดือน แล้วยังเครียดที่ไม่รู้ว่าจะตกงานเมื่อไหร่ เมื่อรายได้ลดลงก็ต้องระวังเรื่องค่าใช้จ่าย


    แต่ปรากฏว่ามีบางอย่างเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะตอนนี้เขาระวังเรื่องสุขภาพอาหารการกิน อย่างน้อยกินเพื่อไม่ให้เจ็บไข้ แล้วเรื่องผักออร์แกนิกนี่มาแรงมาก และมีหลายชนิดที่เขาจำเป็นต้องกิน แต่ราคาก็แพงเอาเรื่อง ครั้นจะซื้อทุกอย่างตามที่ต้องการก็ไม่ไหว เขาเลยใช้วิธีตั้งกลุ่มรวมเงินกันซื้อผัก แล้วเอามากอง บางคนอยากได้อันนั้นนิดเดียวอันนี้มากหน่อย บางคนยังไม่กินอันนี้ จะกินอันนั้น ตกลงจัดสรรแบ่งกันเรียบร้อย ก็ได้ผักไปกินตามต้องการและเสียเงินไม่มาก แล้วทำท่าไปได้ด้วยดี กำลังหาวิธีจับจ่ายเรื่องอื่นๆ ต่อไป

    [​IMG]

    เรื่องนี้ผมขอยืมภาษาตามจริตสังคมมาใช้หน่อยว่า ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส ก็เพราะได้ยินเรื่องผักนี่เองทำให้นึกถึงการกินผักบ้านเรา ซึ่งเรานั้นได้เปรียบมากเพราะมีผักมากมายมหาศาล แต่ไม่ค่อยกินกัน
    ยิ่งมาสมัยนี้เลี้ยงลูกแบบตามใจลูกเกินเหตุโดยเฉพาะการกินผัก ผมเห็นพ่อแม่สั่งก๋วยเตี๋ยวให้ลูกไม่เอาผักประเภทผักชี ต้นหอม ถั่วงอก เวลากินอาหารอย่างอื่นก็เหมือนกัน ยังช่วยเขี่ยผักในจานของลูกออกอีกต่างหาก
    บางทีเห็นสาวๆ สมัยใหม่ไม่กินผัก บอกว่ากินไม่เป็น หรือกลัวเชยหรือกลัวไม่ทันสมัยก็ไม่รู้ บางทีในขณะที่เห็นนั้นอยากจะบอกว่า หนูๆ กินเถอะ กินแล้วสวย ก็ไม่รู้จะกินหรือไม่
    แล้วผักที่ผมอยากให้กินหรือพยายามหัดกิน คือพวกผักพื้นบ้านครับ พูดง่ายๆ ผักบ้านนอกนั่นแหละ ผักพวกนี้เป็นผักออร์แกนิกตัวจริง
    ปรากฏว่าคนที่กินผักเก่งนั้นมีทั้งเหนือ อีสาน ใต้ ก็เพราะลักษณะสังคมความเป็นอยู่เขาเคยชินการกินผักมาตั้งแต่เล็กๆ อาหารภาคต่างๆ นั้น เขามีเหตุที่มาที่ต้องกินผัก ทางเหนือสมัยโบราณเขากินลาบดิบใส่เครื่องเทศ จึงต้องกินผักแกล้ม แกงแคของเขาก็เป็นแกงผักรวม
    ภาคอีสาน ความที่อัตคัดเนื้อสัตว์หน่อย หนักข้าวเหนียว และผักต้มอาจจะเป็นหน่อหวาย หน่อไม้ ขนุนอ่อน กับปลาร้าใส่พริกที่เรียกว่าแกงอ่อม ตำน้ำพริกง่ายๆ เผ็ดหน่อย แค่พริก หอมแดง ปลาร้า กินกับผักที่หาใกล้ๆ ขึ้นตามริมลำน้ำ ชายนา หรือประเภทเป็นเถาเกาะกับต้นไม้ใหญ่ เอามากินกับน้ำพริก แค่นั้นก็อิ่มแล้ว
    ภาคใต้หนักอาหารทะเลและเผ็ดระเบิด ไม่ว่าจะกินอะไรก็ต้องมีผัก แล้วภาคใต้นั่นอุดมสมบูรณ์ด้วยผักพื้นบ้าน ก็เลยกินกันระเบิดเถิดเทิง
    การกินผักดิบของคนภาคอื่นๆ แม้กระทั่งมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วเขาก็ยังติดนิสัยนั้น ฉะนั้นเวลาเราๆ ไปกินอาหารใต้จะเห็นถาดผักขนาดเบ้อเริ่มเทิ่ม
    อย่าว่าแต่ภาคต่างๆ ของไทยเลย แม้กระทั่งอาหารเวียดนาม เช่น แหนมเนือง ก็มีทั้งกล้วยดิบ มะเฟือง กระเทียม พริกที่ต้องกินไปพร้อมกันด้วย จานผักก็มีผักกาดหอม ใบโหระพา สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ที่ขาดไม่ได้คือผักไผ่หรือผักแพว
    ภาคกลางเดิมก็กินผักบ้าง แต่อาจจะละเมียดละไมไปหน่อย กินน้ำพริกถึงจะมีผัก ผักก็ยังเอาไปลวก ไม่ลวกเปล่าราดน้ำกะทิอีกต่างหาก เอาไปดองบ้าง เช่น ถั่วงอกดอง ผักเสี้ยนดอง หอมแดงดอง หรือเอาไปทอด เช่น ชะอมชุบไข่ทอด
    ผักกินสด เช่น แตงกวา มะเขือ ก็เกิดเป็นผักปลูกเป็นแปลง ปลูกระบบใส่ปุ๋ยใส่ยาฆ่าแมลงอีก ยิ่งถั่วฝักยาวและกะหล่ำปลีนั่นตัวดี ฉีดยาเยอะ
    ผมถึงว่าน่าจะหัดกินหรือพยายามกินผักพื้นบ้านกัน และไม่ต้องยึดอะไรตายตัวมากนัก เช่น ขนมจีนน้ำยาลองกินกับยอดมะกอกของอีสานจะติดใจครับ ยอดมะกอกจะออกเปรี้ยวๆ มันๆ ดีกว่าผักกาดดองอีก หรือจะเป็นผักติ้วก็ได้
    ผักอีสานอีกแบบหนึ่งเป็นผักกาดต้นเล็กๆ ใบเป็นฝอยหน่อย รสชาติคล้ายวาซาบิ กินกับพวกหลน หรือน้ำพริกปลาร้า ผมว่าวิเศษมาก หรือแม้กระทั่งกินกับข้าวผัดจะอร่อยกว่ากินกับต้นหอมครับ
    การซื้อหาผักพื้นบ้านเดี๋ยวนี้หาง่ายครับ ตามตลาดสดทุกแห่งต้องมีแผงขายผักพื้นบ้านอย่างน้อยหนึ่งแผง ยิ่งตลาดคลองเตยไม่ต้องพูดถึง เหมือนยกอีสานทั้งภาคมาไว้ที่กรุงเทพฯ

    [​IMG]

    ตามตลาดสดหรือตลาดนัดนอกเมือง เช่น ปทุมธานี นนทบุรี ก็ต้องมีผักพื้นบ้าน แถมคนขายเขาจัดเป็นกำๆ 4 กำ 10 บาท ยิ่งดีใหญ่ เพราะได้มาถึง 4 อย่าง และไม่มากเกินไป กินหมดในหนึ่งมื้อ ความที่ผมชอบกินผักพื้นบ้าน เจอตลาดแบบนั้นต้องซื้อมาก่อน กินกับอะไรก็ได้ ลองดูครับ ผักถูกมีประโยชน์เมืองไทยนี่แหละ
    หมดจากเรื่องผักก็จะแถมของดีอย่างหนึ่งที่เจอโดยบังเอิญ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ผมนึกอยากกินก๋วยเตี๋ยวเรือ (ขายในเรือจริงๆ) ที่พุทธมณฑล ต้องไปถึงศาลายา วิ่งผ่านหน้ามหาวิทยาลัยมหิดลแล้ว ต้องเลี้ยวซ้ายที่จะไปนครชัยศรี พอถึงไฟแดงแรกก็เลี้ยวขวาเป็นถนนที่ไปบางเลน ข้ามสะพานแรกเป็นคลองมหาสวัสดิ์ วิ่งไปสักหนึ่งกิโล มีทางเลี้ยวขวาข้ามคลองทวีวัฒนา ตรงไปถนนจะเลียบไปกับคลองเล็กๆ ไปประมาณ 2-3 กิโลเมตร จะมีบ้านริมคลองที่เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวริมน้ำ มีเรือก๋วยเตี๋ยวจอดอยู่ 2 ลำ จะมีรถจอดริมถนนเยอะหน่อย ร้านนี้ต้องถอดรองเท้าและนั่งกับพื้น ปกติวันธรรมดาจะมีแต่ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ พอวันเสาร์-อาทิตย์ก็มีก๋วยเตี๋ยวหมูเพิ่มขึ้นมาอีกอย่าง อร่อยและถูก ในร้านยังมีผักมีพริกขายด้วย ที่จริงผมเคยแนะนำร้านนี้ไปครั้งหนึ่งแล้ว
    แต่ครั้งนี้เจอของพิเศษขึ้น คือมีคนเอาแกงถุงมาขาย ใส่ถาดมาและเชิญชวนให้คนซื้อครับ มีแกงหลายอย่าง เช่น แกงเทโพ แกงเขียวหวาน กะปิคั่ว แกงบอน ถุงละ 20 บาท ผมได้ยินกะปิคั่วกับแกงบอนซึ่งไม่ได้กินมานานแล้ว เลยซื้อมาตั้งใจแค่กินให้หายอยาก ไม่ได้หวังอะไรมากมาย แต่เมื่อเอามากินที่บ้านแล้วอร่อยใช้ได้เลย จัดว่ามีฝีมือ
    เสียดายไม่ได้ถามว่าขายทุกวันหรือไม่ ถ้าไม่ได้ขายที่นี่แล้วไปขายที่ไหน สงสัยต้องไปกินก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง ลองเสี่ยงโชคดู ถ้าเจอคงได้เรื่องได้ราวมา ครั้งนี้ก็เป็นเรื่องผักแล้วมาลงท้ายที่ก๋วยเตี๋ยวแถมข้าวแกงอีก คงมีเท่านี้ครับ
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ตำมี่ยำมี่"...แซบดี รสไทย
    Travel - Manager Online

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มิถุนายน 2552 16:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศสวนด้านหลังร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ท่ามกลางบรรยากาศใจกลางกรุงเทพฯอย่างเพลินจิต มีซอยเล็กๆที่แฝงตัวอย่างร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และต้นสนอันเป็นชื่อของซอยต้นสนมีร้านอาหารน่ารักน่านั่งแทรกตัวอยู่อย่างกลมกลืน ใช่แล้วมื้อนี้ "ตระเวนกิน" ได้ตะเวนมาในย่านหลังสวนและก็ได้พบเจอกับร้านอาหารไทยชื่อเก๋ว่า "ร้านตำมี่ ยำมี่" (TUMMY YUMMY)


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>บรรยากาศร้านที่ดูสงบ ร่มรื่น เชื้อเชิญให้ "ตระเวนกิน" ก้าวย่างเข้าไปจับจองที่นั่งภายในบรรยากาศบ้านเก่าอายุ 60 ปี แต่ตกแต่งดัดแปลงได้อย่างน่ารัก มีบรรยากาศภายในบ้านแบบห้องแอร์เย็นสบาย หรืออยากสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติก็ได้ที่สวนด้านหลังบ้าน เลือกนั่งกันได้ตามความพอใจ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไก่ย่าง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เลือกทำเลแล้วก็เปิดเมนูสั่งอาหารมาลิ้มชิมรส จานแรกคือ ไก่ย่าง (ตัวละ 320 / ครึ่งตัว 180 / 1/4 ตัว 130) ซึ่งไก่ย่างที่ร้านตำมี่ยำมี่นี้ก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นสูตรพิเศษของเมืองกาญจน์โดยนำไก่ไปหมักเครื่องเทศ แล้วย่างในเตาอบจนหนังกรอบ เคี้ยวแล้วเนื้อนุ่มหนังกรอบได้รสชาติเครื่องหมักเข้มข้น ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยเด็ด หรือใครติดน้ำจิ้มไก่ หรือน้ำจิ้มแจ่ว ทางร้านก็มีบริการให้

    มีไก่ย่างแล้วอีกเมนูที่พลาดไม่ได้ก็คือ ส้มตำไทย (85 บาท) ที่ใช้มะละกอสดใหม่กรอบ ตำกับเครื่องตำไทยใส่กุ้งแห้ง ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว ตามแบบส้มตำไทยออกรสเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวาน แซบจัดจ้านตามสไตล์อาหารไทย


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ส้มตำไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ตามมาด้วย ยำผักบุ้งกรอบ (145 บาท) สมชื่อด้วยผักบุ้งไทยเอาไปชุบแป้งทอดกรอบๆ ราดด้วยน้ำยำแบบใส ใส่กุ้ง หมึก และหมูสับ รสชาติเปรี้ยวมะนาว หวาน เค็ม เผ็ด จัดจ้านเช่นกัน

    ถัดมาเป็นเมนูอาหารไทยแบบน้ำๆ ได้แก่ แกงเผ็ดเป็ดย่าง (220 บาท) ที่มีเป็ดสไลด์เป็นชิ้นปรุงกับเครื่องแกงที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเองเป็นแบบแกงกะทิ ใส่มะเขือเทศ เครื่องสมุนไพรไทยอย่าง มะเขือพวง กระชาย พริกไทยอ่อน อย่างเข้มข้นจัดจ้าน เนื้อเป็ดก็เคี้ยวนุ่มไร้กลิ่นสาป


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยำผักบุ้งกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>อีกหนึ่งเมนูสัญชาติไทย คือ ข้าวผัดตำมี่ยำมี่ (135 บาท) เห็นชื่อแปลกๆแบบนี้ แต่รับรองว่าเด็ดเช่นกัน เพราะข้าวผัดตำมี่ยำมี่เขาใส่เนื้อหมูแดดเดียว ใส่ใบกระเพรา ผักซอย แครอท ก้านคะน้า หอมใหญ่ ผัดคลุกเคล้ากับข้าวและเครื่องปรุงรสสูตรพิเศษของทางร้านที่คิดค้นขึ้นมาเอง หอมกลิ่นกระเพราอ่อนๆข้าวแห้งเป็นเม็ดร่วนปากไม่แฉะ เนื้อหมูแดดเดียวก็นุ่มหวานไม่เหนียว รสชาติเผ็ดหน่อยๆ ตามแบบฉบับคนไทย


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>แกงเผ็ดเป็ดย่าง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จานสุดท้าย ได้แก่ ราดหน้าหมูหมัก (145 บาท) ซึ่งก็ไม่ใช่ราดหน้าธรรมดาๆ เหมือนที่เราเคยกินๆกัน เพราะราดหน้าหมูหมักของที่ร้านตำมี่ยำมี่แห่งนี้มีความพิเศษตรงที่นำเส้นใหญ่หนาๆ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป นำไปทอด ตัวน้ำราดหน้าใส่หมูหมักเปื่อยนุ่ม คะน้ากรุบกรอบ แครอท และใส่ไข่อีกด้วย หอมกลิ่มน้ำมันงามาแต่ไกล รสชาติกลมกล่อมกำลังดี เส้นใหญ่ทอดกรอบนอกนุ่มในเคี้ยวหนึบหนับปาก


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวผัดตำมี่ยำมี่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>นอกจากนี้ "ร้านยำมี่ตำมี่" ยังมีอีกหลายหลากเมนูให้เลือกลิ้มลองอาทิ ต้มแซบกระดูกอ่อน (160 บาท), ลาบเป็ด (150 บาท), ปลาทอดน้ำยำมะม่วง (320 บาท) และอีกมากมายหลายเมนูอาหารไทย และหากมาในเวลากลางวันมีชุดอาหารกลางวัน (Lunch Set) ในราคา 250 บาท ให้เลือกเมนูอาหาร ของหวาน และเครื่องดื่มจากเซต ซึ่งจะปรับเปลี่ยนรายการอาหารไปเรื่อยๆ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ราดหน้าหมูหมัก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้านตำมี่ ยำมี่ (TUMMY YUMMY) 42/1 ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. การเดินทาง จากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวเข้าเส้นชิดลมตรงมายังถนนหลังสวน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอย 1 ตรงมาถึงสามแยกที่ตัดกับซอยต้นสนเลี้ยวซ้าย ร้านตำมี่ยำมี่จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-14.30 น. และเวลา 17.30-22.40 น. รับจัดงานในสถานที่ จอดรถได้ที่ซอยข้างร้านและที่โรงแรม Bliston โทร.0-2254-1061


    คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ตำมี่ยำมี่"

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ตำมี่ยำมี่"
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มิถุนายน 2552 16:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ตำมี่ ยำมี่ (TUMMY YUMMY)

    ประเภทอาหาร : ไทย

    เมนูจานเด่น : ไก่ย่าง, ส้มตำไทย, ยำผักบุ้งกรอบ, แกงเผ็ดเป็ดย่าง, ข้าวผัดตำมี่ยำมี่, ราดหน้าหมูหมัก

    บรรยากาศร้าน : ด้านในติดแอร์เย็นสบาย สวนด้านหลังร้านร่มรื่นชวนนั่งสบายๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : 42/1 ซอยต้นสน ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม. การเดินทาง จากถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เลี้ยวเข้าเส้นชิดลมตรงมายังถนนหลังสวน จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอย 1 ตรงมาถึงสามแยกที่ตัดกับซอยต้นสนเลี้ยวซ้าย ร้านตำมี่ยำมี่จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ

    สถานที่จอดรถ : จอดรถได้ที่ซอยข้างร้านและที่โรงแรม Bliston

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 11.00-14.30 น. และเวลา 17.30-22.40 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : 0-2254-1061
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เมี่ยงคะน้าก๋วยเตี๋ยว" เคี้ยวกร้วมคำโต
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มิถุนายน 2552 11:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : กุ๊กเล็ก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "กุ๊กเล็ก" เปิดตู้เย็นที่บ้าน เห็นผักคะน้าสีเขียวดูน่ากินอยู่ในช่องแช่ผัก นึกอยู่นานว่าจะนำเมนูผักคะน้าอะไรดี จะนำมาผัดผักก็เบื่อเต็มที่ นึกไปนึกมาเอาอย่างนี้ เอาใบคะน้ามาทำ "เมี่ยงคะน้าก๋วยเตี๋ยว" กินดีกว่า เปลี่ยนรสชาติความจำเจ ได้รสชาติความแปลกใหม่ ที่อร่อยและได้คุณค่าทางอาหาร ว่าแล้วก็อย่ารอช้าให้เสียเวลาตามเราเข้าครัวลงมือทำอาหารกันดีกว่า

    ส่วนผสม

    ผักคะน้า(เลือกเอาแต่ใบคะน้าไม่แก่เกินไปแล้วตัดก้านออก)
    ผักกาดหอม
    ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลวกสุก(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ)
    กุ้งลวกสุก(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ)
    ไข่ เจียว(หั่นเป็นชิ้นๆ พอดีคำ)
    หมูสับ
    กุ้งแห้ง

    เครื่องปรุงน้ำเมี่ยง

    ถั่วลิสงคั่วโขลก 3 ช้อนโต๊ะ
    พริกตำ (จำนวนตามแต่ต้องการว่าชอบเผ็ดมากเผ็ดน้อย)
    น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
    น้ำปลา 1/4 ถ้วย
    น้ำ 1/2 ถ้วย
    น้ำมะขามเปียก 1/4 ถ้วย

    วิธีทำน้ำเมี่ยง เริ่มจากผสมน้ำตาลปี๊บ น้ำ น้ำมะขามเปียก และน้ำปลาให้เข้าด้วยกัน จากนั้นยกขึ้นตั้งไฟ เคี่ยวพอเหนียวแล้วจึงใส่ พริกและถั่วลิสงลงไป

    เท่านี้ก็ได้น้ำเมี่ยง นำมากินกับ "เมี่ยงคะน้าก๋วยเตี๋ยว" ที่จัดเป็นคำๆ เมี่ยง 1 คำ ต่อคะน้า 1 ใบ ส่วนส่วนผสมอื่นๆเลือกหยิบผสมตามความชอบ โดยขั้นตอนนั้นให้นำผักคะน้ามาวางแล้วตามด้วยผักกาดหอมหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลงไป ใส่กุ้ง หมูสับ ไข่เจียว และกุ้งแห้ง เวลากินก็นำน้ำเมี่ยงมาราดแล้วห่อเป็นคำเคี้ยวกร้วมเข้าปากกรุบกรอบรสชาติน้ำราดออกหวานๆ เอร็ดอร่อยกันไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวน้ำตก 5 บาท ของดีราคาถูก ตอบโจทย์ยุคศก.พอเพียง
    SMEs - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 กรกฎาคม 2552 10:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก 5 บาท </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในภาวะที่เศรษฐกิจตกต่ำ คนไทยต้องเผชิญกับปัญหา ค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ค่าแรงกับเท่าเดิม ทางออกที่ดีที่สุด คือ การวางแผนการใช้เงินอย่างรัดกุม เงินที่ใช้ไปแต่ละครั้งจะต้องคุ้มค่าที่สุด และในช่วงที่วิกฤต เช่นนี้ ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของคนไทยด้วยกัน จากพ่อค้า แม่ค้า ที่ยอมจะขายสินค้าราคาถูก แม้จะได้กำไรเพียงเล็กน้อย เพื่อเป็นทางเลือกให้คนที่มีรายได้น้อย

    เฉก เช่น นางสาวมานัส บุญตา เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำตกชามละ 5 บาท รายเดียวที่พบเห็นในได้ในย่านกรุงเทพฯ และชานเมืองในขณะนี้ ที่ยอมจะมีกำไรเพียงเล็กน้อย เพื่อแลกกับความพึ่งพอใจของลูกค้า และความสุขที่ได้บริการลูกค้าจำนวนมาก ทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจร ที่แวะเวียนมาชิมกันอย่างต่อเนื่องเต็มร้านทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง บ่าย 3 โมงเย็น

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นางสาวมานัส บุญตา เจ้าของร้าน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เปิดตัวด้วยกลยุทธ์ราคาถูก

    นางสาวมานัส เล่าว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ เปิดขายมาได้ประมาณ 11 ปี อยู่ในชุมชนสมประสงค์ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก เส้นเล็ก เส้นหมี่ และเส้นใหญ่ ขายราคาชามละ 5 บาท มาจนถึงปัจจุบัน โดยไม่ได้มีการปรับราคาแต่อย่างใด แม้ว่าต้นทุนทุกอย่างจะเพิ่มสูงขึ้นกว่าเท่าตัวก็ตาม

    จุดเริ่มต้นมาจากเมื่ออดีตสมัยเด็ก ครอบครัวทำก๋วยเตี๋ยวขาย และเมื่อมีโรงงานอุตสาหกรรมมาเปิดในย่านนั้นเป็นจำนวนมาก จึงหันเหชีวิตตัวเองไปเป็นสาวโรงงานอยู่ระยะหนึ่ง แต่รู้สึกว่าการเป็นสาวโรงงานนั้นรายได้น้อย และต้องเป็นลูกจ้างเขาตลอด จึงคิดกันกับเพื่อนมาลองทำก๋วยเตี๋ยวขายกัน เพราะเป็นอาชีพที่เราเคยทำมาก่อน และมีสูตรของตัวเองอยู่แล้ว

    โดยเลือกเปิดในทำเลใกล้บ้าน เพราะเจ้าของที่ให้เช่าในราคาที่ไม่แพง แต่ปัญหาคือ ร้านอยู่ในซอยไม่ได้ติดถนนใหญ่ ในช่วงแรกกลัวว่าจะขายไม่ได้ เพราะไม่ใช่พื้นที่ที่มีคนผ่านไปมา และคนในหมู่บ้านก็มีไม่มาก แต่อาศัยว่าตั้งราคาขายถูกเพียงชามละ 5 บาท ลูกค้ามากินและถูกใจในรสชาติ ประกอบกับราคาไม่แพง จึงก็เกิดการบอกกันแบบปากต่อปาก จนมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เน้นขายปริมาณ
    แก้ปัญหาต้นทุนเพิ่ม

    ในช่วงแรกราคาต้นทุนวัตถุดิบ อย่าง เส้นก๋วยเตี๋ยว และเนื้อหมู หรือ เครื่องปรุง ราคาไม่เพิ่มสูงขึ้นเหมือนในปัจจุบัน เช่น หมูกิโลกรัมละ 50 บาท เพิ่มสูงถึงกิโลกรัมละ 120 บาท ส่วนเส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นหมี่ เพิ่มจากกิโลกรัมละ 50 บาท เป็นกิโลกรัมละ 90 บาท ในช่วงที่ราคาข้าว เพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ มีราคาน้ำตาลทราย น้ำปลา หรือ แม้แต่ผัก เพิ่มขึ้นด้วย

    จากเดิมในอดีตลงทุนซื้อของเพียงวันละไม่เกิน 2,000 บาท แต่วันนี้ ต้องลงทุนซื้อของถึงวันละ 5,000 บาท ถึง 6,000 บาท แต่เราก็ยังคงยืดหยัดราคาเดิม แต่อาศัยขายปริมาณมาก โดยวันหนึ่งต้องขายให้ได้วันละ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ชามขึ้นไป ซึ่งจากการลงทุนประมาณ 5,000 บาท สามารถขายก๋วยเตี๋ยวได้วันละ 8,000 บาท ถ้าเป็นเสาร์-อาทิตย์ ลงทุนเพิ่มเป็นวันละ 6,000บาท ขายได้ถึง วันละ 9,000 บาท กำไรที่ได้วันละประมาณ 2,000 บาทถึง 3,000 บาท

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ป้ายหน้าบ่งบอกว่าขายมานาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> “ต้องยอมรับว่าทุกวันนี้ ต้นทุนทุกอย่างเพิ่มสูงขึ้น แต่เราก็ยังคงยืดหยัดราคาเดิม โดยที่ไม่ได้มีการลดปริมาณแต่อย่างใด เพราะเห็นว่าขายราคาเดิมก็ยังคงมีกำไร อาศัยขายปริมาณมาก และเป็นการทำกันภายในครอบครัว พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่ได้จ้างใคร มีรายได้อยู่แบบพอเพียง ลูกค้าบางคนก็บอกให้ปรับราคาขึ้นบ้างก็ได้ แต่เห็นว่าเศรษฐกิจในปัจจุบันทุกอย่างเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ไม่ได้เพิ่มตาม เราจึงต้องการจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับคนไทยด้วยกัน”

    นอกจากนี้ ทางร้านยังมีโปรโมทชันให้กับลูกค้าขาประจำ เพราะในวันปีใหม่จะให้ลูกค้าได้กินฟรี เป็นการตอบแทนคุณให้กับลูกค้าที่กินก๋วยเตี๋ยวของเราทั้งปี และในส่วนวันธรรมดายังมีโปรโมทชันให้กับลูกค้าที่มากินครบ 10 ชาม แถม ให้อีก 1ชามฟรี เพื่อการันตีว่าก๋วยเตี๋ยวของเรานั้นไม่ได้น้อย แต่ถ้ากินได้ก็ยินดีให้กินฟรีอีก 1 ชาม

    สำหรับก๋วยเตี๋ยว ร้านพี่มานัส แม้จะขายชามละ 5 บาท แต่ปริมาณ เท่ากับก๋วยเตี๋ยวชามละ 10 บาท หรือ 12 บาท ที่ขายกันอยู่ทั่วไป ส่วนเนื้อสัตว์ใส่ให้ในปริมาณที่ไม่ต่างกัน รสชาติการันตีได้จากลูกค้าที่แวะเวียนมากินกันจนขายหมดทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์ – อาทิตย์ คิวสั่งก๋วยเตี๋ยว เยอะจนคนทำทำกันไม่ทันจนต้องปฏิเสธลูกค้าไปบ้าง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านร่มรื่น เป็นกันเอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ที่ผ่านมา มีหลายคนเห็นว่า ร้านพี่ขายดี ก็ลองนำกลับไปทำขายบ้าง ในราคา 5 บาท แต่สุดท้ายก็อยู่ไม่ได้ เพราะการจะขาย 5 บาท จะต้องมีลูกค้าที่มากพอ และขายปริมาณมาก เป็นหลักหลายร้อยชาม ถึง หนึ่งพันชามจึงจะอยู่ได้ ซึ่งการขายก๋วยเตี๋ยวไม่ใช่ว่าขายถูกและจะขายได้ สิ่งสำคัญคือ รสชาติจะต้องดีด้วย และที่เรายังคงขายอยู่ได้ เพราะไม่ได้หวังกำไรมาก และให้ความสำคัญกับรสชาติ ซึ่งการทำก๋วยเตี๋ยวขาย สิ่งสำคัญอยู่ที่น้ำซุปต้องอร่อย จึงจะมัดใจลูกค้าได้”

    ทุกวันนี้ ก๋วยเตี๋ยวของพี่มานัส ไม่ได้มีลูกค้าเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย แม้แต่คนรวยขับรถหรูก็ยังมากิน เพราะติดใจในรสชาติ จึงเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่า การขายของดี ไม่จำเป็นต้องราคาแพง และถ้าเราสามารถขายราคาไม่แพง และรสชาติดีด้วย สามารถประสบความสำเร็จได้ ในขณะคนที่ขายราคาแพง แต่ถ้าขายได้น้อยก็ขาดทุนได้เหมือนกัน

    โทร. 08-9485-2560

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อร่อยริมม."ก๋วยเตี๋ยวเจ๊โส่ย" ร้านสุดโปรดชาวม.กรุงเทพ
    Campus - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กรกฎาคม 2552 16:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>กลุ่มนักศึกษา ม.กรุงเทพฯ กับ ร้านสุดโปรด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>“ โซ่ย รัตติกาล ขวัญบุตร” นักศึกษาชั้นปีที 3 คณะเศรศฐศาสตร์ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>“ใหม่-รุจิรา เครือคล้าย” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ต้มโคล้ง เมนูเด็ด</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บรรยากาศในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>พูดถึงมื้อกลางวัน ยามหิวนอกจากบรรดาอาหารในโรงอาหารที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้บริการแล้ว ร้านรวงแถบบริเวณรอบรั้วมหาวิทยาลัยก็นับเป็นอีกแหล่งที่เหล่านิสิตนักศึกษานิยมไปฝากท้อง พร้อมฝากความผูกพันเอาไว้อย่างสม่ำเสมอ โดยหนึ่งในร้านที่มักจะถูกแวะเวียนไปอิ่มอร่อยกันอย่างไม่ขาดสาย ก็คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวตึกแถว หน้าม.กรุงเทพ ที่มีชื่อว่า ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวเจ๊โส่ย” ที่เปิดขายกันมาแล้วกว่า 30 ปีและก็ขายดิบขายดีเป็นที่รู้จักกันตั้งแต่รุ่นปู่ย่ารหัสยันเฟรชชี่ศิษย์ปัจจุบันต่างก็เคยมาเยือน

    วันก่อน Life on campus มีโอกาสผ่านไปแวะเวียนไปดูกิจกรรมต่างๆของชาวม.กรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ในงานรณรงค์ ลดละเลิกการสูบบุหรี่ และการประกาศจำกัดเขตพื้นที่ให้สูบภายในมหาวิทยาลัยได้เฉพาะเขตกำหนด พร้อมออกแจกแจงบทลงโทษสำหรับนักศึกษาที่สูบบุหรี่นอกพื้นที่ ตลอดจนชี้แจงข้อควรสังเกตในพื้นที่กำหนด อาทิเช่น มีการติดป้าย มีถังทรายดับบุหรี่ และมีโต๊ะเก้าอี้สำหรับนั่งเป็นต้น

    โอกาสเดียวกันในระหว่างการเดินชมการจัดระเบียบพฤติกรรมการสูบบุหรี่อย่างเป็นขอบเขต จวบจนบ่ายคล้อย เราจึงไม่พลาดแวะไปทดลองชิม ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดตามที่กล่าว พร้อมกับเหล่านักศึกษาที่ต่างก็ทยอยมาเติมพลังช่วงกลางวันอย่างไม่ขาดสาย

    และก็ประเดิมด้วยการสั่งอาหาร โดยเมนูลือชาเมนูแรกที่ชาวม.กรุงเทพฮิตสั่งกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสอบถามมาแล้วว่า ส่วนใหญ่จะชื่นชอบ “ก๋วยเตี๋ยวต้มโคล้งทะเล (30, 40 บาท) เมนูเด็ดรสแซบที่ทางร้านเจ้โส่ยคิดค้นขึ้นมาเอง อย่าง การนำเอาเครื่องต้มโคล้งมาให้ ลิ้มรสได้ถึงความแซบของเครื่องต้มโคล้งที่ปรุงรสได้เข้มข้น เปรี้ยวนำปนเค็ม และจากนั้นจึงตามด้วยอีกหนึ่งเมนูรสแซบที่ภูมิใจนำเสนอไม่แพ้ไปกว่ากันคือ รสชาติเด็ดสะระตี่ตรงที่เป็นการปรุงเครื่อง ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทะเล (30, 40 บาท)
    และ เมนูปิดท้ายที่ขอแนะนำเป็น ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟโบราณ (25, 30 บาท)แบบถึงเครื่องเต็มสูตร

    "โบ-สุภาวดี" นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ โบกับเพื่อนๆมาทานก๋วยเตี๋ยวร้านหน้าม.เป็นประจำโดยโบบอกว่าร้านนี้อร่อยกันแบบปากต่อปากและเธอก็คือหนึ่งคนที่ได้รับการบอกต่อมาว่าให้ลองมาชิมรสชาติก๋วยเตี๋ยวร้านเด็ดประจำม.ร้านนี้จนกระทั่งเธอและทุกคนในกลุ่มมีเมดูเด็ดยอดฮิต อย่าง บะหมี่เป็ดเกี้ยวกรอบ

    “ พี่สาวเป็นคนแนะนำมาค่ะว่า ให้มากินตรงบริเวณนี้ เพราะโรงอาหารในมหาวิทยาลัยจะคนข้างคนเยอะตอนช่วงพักกลางวันเราก็เลยมักมานั่งสั่งก๋วยเตี๋ยวทานตรงนี้ และหากอากาศร้อน บริเวณร้านชั้นบนก็จะมีแอร์ ที่สำคัญคือเมนูเด็ดที่เราลองๆมาจนได้เป็นเมนูประจำคือ บะหมี่เป็ดเกี้ยวกรอบ โบว่ารสชาติก็โอเค และเหมาะสมกับราคา โดยเราจะมากันเกือบแทบทุกวันหลังเลิกเรียน ที่จะเป็นช่วงบ่ายถึงเย็นค่ะ”

    หม่ำก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวจะไม่พออิ่มเท่าไรนัก ที่นี่ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกสั่งมาหม่ำอีก อาทิ เนื้อปลาลวกจิ้ม (30, 50, 100 บาท) ทะเลลวกจิ้ม (50 บาท) ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวมันไก่ทอด (ทุกอย่างจานละ 25 บาท) แล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าหม่ำแต่ก๋วยเตี๋ยวแซบๆ ร้อนๆ แล้วจะร้อนเพราะทางร้านมีห้องแอร์บริการไม่เสียงเงินเพิ่ม

    “ โซ่ย รัตติกาล ขวัญบุตร” นักศึกษาชั้นปีที 3 คณะเศรศฐศาสตร์ โซ่ยมีชื่อเล่นคล้ายๆกับทางร้าน แต่หาใช่เป็นชื่อเจ้าของร้านเพราะชื่อร้านก๋วยเตี๋ยวโส่ยนั้นถูกตั้งขึ้นมาเฉยๆไม่ใช่ชื่อของเจ้าของร้าน โซ่ยเล่าให้ฟังว่ามักมานั่งร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อเดียวกันกับตนประจำซึ่งนอกจากจะมาทานเมนูเด็ดแล้วยังมักจะสั่งเมนูทานเล่นอื่นๆและมานั่งพูดคุยกับเพื่อน “ชอบมานั่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เหมือนมานั่งคุยพบปะกันมากกว่า การมานั่งทานก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว เพราะเรื่องของการบริการก็ดีในระดับที่เป็นกันเอง และเราก็ได้สั่งของทานเล่นไปด้วย อย่างที่ชอบสุดๆก็ เกี้ยวกรอบค่ะ จะเป็นเมนูตบท้ายกับเมนูก๋วยเตี๋ยวเลย”

    นอกจากจะเป็นร้านที่เหล่าชาวม.กรุงเทพมาอิ่มอร่อยประกอบการนั่งคุยเล่นแล้ว บางโต๊ะยังสังเกตเห็นว่า การบ้านและรายงานก็ถูกหยิบขึ้นมาสานต่อในระหว่างทานเมนูสุดโปรด

    “ใหม่-รุจิรา เครือคล้าย” นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะมนุษยศาสตร์ หนึ่งในขาประจำร้านเจ๊โซ่ยใหม่บอกว่าเมนูเด็ดของเธอคือ ต้มยำเกี๋ยวน้ำ ที่มีรสชาติเข้มข้นกว่าที่อื่นจึงทำให้ติดใจมาร้านนี้บ่อยๆไม่ว่างเว้นแม้แต่ช่วงปั่นรายงานให้เสร็จก่อนส่งอาจารย์
    “ ร้านนี้รุ่นพี่จะแนะนำมาแพราะเหมือนเป็นร้านที่เขามากินกันบ่อยและบอกต่อรุ่นน้องกันมาเป็นรุ่นๆ กลุ่มของใหม่เองก็ยังมาอุดหนุนไม่บ่อยนักเพราะเพิ่งย้ายที่เรียนมาจากวิทยาเขตรังสิต แต่พอพี่เขาแนะนำแล้วเรามาชิมก็ติดใจ เราก็ยังไม่ค่อยจะเปลี่ยนร้านทานกันเท่าไร้ด้วยทำเลที่ดี เหมือนเป็นสถานที่ที่คุ้นชินไปแล้ว ซึ่งคิดว่าในอนาคตหลังเรียนจบไป ในความทรงจำพวกเราก็คงจะนึกถึงร้านนี้อยู่แน่ๆ”...


    แหม! หมดมื้อนี้นอกจากจะอิ่มอร่อยแล้ว เรื่องราคายังเป็นราคานักศึกษาอีกด้วย เอาล่ะ ใครว่างจะไปทดลองชิมก๋วยเตี๋ยวสูตรเด็ดประจำใจชาวม.กรุงเทพ ก็เชิญกันได้ที่ร้าน "เจ๊โส่ย" ซึ่งตั้งอยู่หน้ามหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท ตรงข้ามกับประตู 3 ติดแถบถนนพระราม 4 เปิดบริการตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. (หยุดวันอาทิตย์)

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด" รสเด็ดเป็ดนุ่ม สูตรสมุนไพร
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 กรกฎาคม 2552 15:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาแถวถนนร่วมจิตต์ตัดใหม่ คงจะสังเกตเห็นป้ายร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เขียนไว้ว่า "ร้านไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด" ฟังดูพิลึกๆตรงที่ว่าชื่อร้านเป็นไก่ แต่ดันขายเป็ด เห็นแล้วชักเป็นงง งองู 2 ตัว และชื่อนี้ก็คุ้นหูเคยมีคนพูดถึงบ่อยๆ วันนี้ "ผ่านมาแวะกิน" จึงขอแวะไปกินไปลิ้มลองรสตามคำร่ำลือ

    และเพื่อไขข้อข้องใจ "ผ่านมาแวะกิน" จึงได้เข้าไปถามกับเจ้าของร้านคือ คุณณัฐเสกร์ ไทยศิริมงคล และเมื่อสอบถามก็ได้ความมาว่า ชื่อร้านเป็นชื่อของลูกคนเล็ก ตอนแรกไม่ได้ใช้ชื่อนี้ซึ่งก็ขายไม่ค่อยดี จึงเปลี่ยนชื่อใหม่มาเป็นไก่แก้ว และย้ายทำเลที่ตั้งมาตั้งที่ถนนร่วมจิตตัดใหม่ในปัจจุบัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กึ๋น ตับ เนื้อเป็ดชิ้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> คุณณัฐเสกร์ เล่าว่าเปิดร้านมากว่า 13 ปี ซึ่งเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดสูตรสมุนไพรไทยที่คิดค้นขึ้นมาเอง โดยเลือกใช้เป็ดจีนเพราะหนังจะบางไม่มีมัน แล้วคัดเอาน้ำหนักตัวที่ 3 กิโลกรัมขึ้นไป

    จากนั้นก็นำเอาเป็ดมาต้มกับเครื่องสมุนไพรไทยต่างๆ อาทิ เครื่องพะโล้ ไม้หอม อบเชย เร่วจากเมืองจันทบุรี เม็ดพริกไทย ผักชี นำมาต้มเคี่ยวเกือบ 2 ชั่วโมง จึงได้ออกมาเนื้อนุ่มไม่เหนียวเลยแม้แต่น้อย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่น้ำเป็ด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> "ผ่านมาแวะกิน" ได้ฟังแล้วก็น้ำลายสอ จึงขอสั่งอาหารมาลิ้มลองรสชาติกันเลย โดยจานแรกเป็น เกี๊ยวทอด (25บาท) มาเป็นออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยระหว่างรอเมนูจานหนัก โดยเกี๊ยวทอดของที่ร้านนี้เป็นแผ่นเกี๊ยวห่อไส้เนื้อหมู ทอดสดๆใหม่ๆกรอบแห้ง ต้องขอบอกว่าแห้งจริงๆ เหมือนไม่ได้ทอดในน้ำมันเลยก็ว่าได้

    ตามมาติดๆด้วย ตับ กึ๋น เป็ดชิ้น (100 บาท) โดย กึ๋น จะต้มให้นุ่มกับน้ำพะโล้ เคี้ยวนุ่มไม่เหนียวได้รสพะโล้ ส่วน ตับ ก็ลวกในน้ำพะโล้ ชิ้นใหญ่เคี้ยวนุ่มเช่นกัน สำหรับเนื้อเป็ดก็ไม่มีมันเคี้ยวนุ่ม ไม่เหม็น ไม่สาบ จะกินเดี่ยวๆ หรือจะจิ้มกับน้ำจิ้มที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเอง เป็นน้ำจิ้มคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดออกรสเปรี้ยว เผ็ด เค็ม เด็ดจัดจ้านก็ได้ไม่ว่ากัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ไส้แก้ว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> จานถัดมาคือ ไส้แก้ว (40 บาท) ) ซึ่งก็คือไส้เป็ดสีใส ที่ทางร้านล้างทำความสะอาดหลายต่อหลายรอบเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ไส้ที่สะอาดไม่มีกลิ่น ไม่ใส่สารใดๆ เคี้ยวกรึบกรอบปาก ยิ่งจิ้มกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษของทางร้านก็ยิ่งเด็ด

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวลวกจิ้ม </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ต่อด้วย บะหมี่น้ำเป็ดทุกอย่าง (30 บาท) ซึ่งบะหมี่เป็นบะหมี่เส้นเป๊าะ หรือบะหมี่เหลืองที่เส้นใหญ่กว่าบะหมี่ปกตินั่นเอง แล้วก็ใส่เป็ดชิ้น ไส้ ตับ กึ๋น เลือด น้ำซุปหอมหวานเครื่องพะโล้ กลมกล่อม

    นอกจากเส้นบะหมี่แล้ว ยังมีเส้นเล็กที่สั่งมาจากเมืองจันทบุรี เป็นเส้นที่เล็กกว่าเส้นเล็กทั่วไป เหนียวนุ่ม เคี้ยวนุ่มลื่นปาก นอกจากนี้ยังมีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกอีกได้แก่ เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และวุ้นเส้น

    เมนูสุดท้ายคือ เกี๊ยวลวกจิ้ม ( 40 บาท) ซึ่งเป็นเกี้ยวเนื้อหมูและเนื้อเป็ดหมักปรุงรสตีจนเหนียวหมักไว้ครึ่งชั่วโมง จึงนำมาห่อแผ่นเกี๊ยว นำไปลวกสุกเป็นเกี๊ยวคำโตเคี้ยวได้เนื้อเต็มๆปากเต็มคำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหน้าเป็ด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ยังมีให้เลือกอิ่มอีกหลายเมนู อาทิ ข้าวหน้าเป็ด (30 บาท) เส้นเล็กแห้งเป็ดทุกอย่าง (30 บาท) ขนมทำเองได้แก่ ขนมกล้วยโบราณ (3ชิ้น 10 บาท) ขนมเทียนไส้เค็ม (3 ชิ้น 10 บาท) ข้าวต้มมัดไส้กล้วยและไส้เผือก (มัดละ 10 บาท) และของหวานยังมีไอศกรีมกะทิ ใส่ข้าวเหนียว ลูกชิด ( 15 บาท) ด้วย ถ้าเริ่มหิวแล้วละก็อย่าลืมแวะกินได้ที่ร้านไก่แก้วแต่ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้านี้ได้เลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขนมต่างๆ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้านไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด ตั้งอยู่บน ถนนร่วมจิตต์ตัดใหม่ เขตดุสิต กทม. การเดินทาง ถ้ามาจากถนนนครไชยศรีวิ่งมาจากราชวัตรข้ามคลองมา ผ่านสี่แยกพิชัย พอถึงแยกถัดไปคือแยกร่วมจิตต์(จุดสังเกตคือตรงสี่แยกมีไปรษณีย์ดุสิต) พอถึงแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนร่วมจิตต์ตัดใหม่ ตรงมาครึ่งทางร้านไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ดจะอยู่ทางขวามือเยื้องตึก Bเบญจมาศ ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น. รับจัดงานนอกสถานที่ โทร.0-2243-5514, 08-1913-4173, 08-9682-6363

    คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด"

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด"
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 กรกฎาคม 2552 15:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด

    ประเภทอาหาร
    : ก๋วยเตี๋ยวเป็ด

    เมนูจานเด่น : กึ๋น ตับ เนื้อเป็ดชิ้น, บะหมี่น้ำเป็ด, ไส้แก้ว, เกี๊ยวลวกจิ้ม, ข้าวหน้าเป็ด

    บรรยากาศร้าน : มีโต๊ะให้เลือกนั่งสบายๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่บน ถนนร่วมจิตต์ตัดใหม่ เขตดุสิต กทม. การเดินทาง ถ้ามาจากถนนนครไชยศรีวิ่งมาจากราชวัตรข้ามคลองมา ผ่านสี่แยกพิชัย พอถึงแยกถัดไปคือแยกร่วมจิตต์(จุดสังเกตคือตรงสี่แยกมีไปรษณีย์ดุสิต) พอถึงแยกให้เลี้ยวขวาเข้าถนนร่วมจิตต์ตัดใหม่ ตรงมาครึ่งทางร้านไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ดจะอยู่ทางขวามือเยื้องตึก Bเบญจมาศ

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-16.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ :0-2243-5514, 08-1913-4173, 08-9682-6363
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สีสันสปาเกตตี รสชาติธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :เรื่อง : วุฒิชัย สาสุข / ภาพ : ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ��ʵ� ������ - �Թ-����-��ͻ - ���ѹʻ�ࡵ�� �ʪҵԸ����ҷ�����������

    เวลาแวะไปร้านอิตาเลียน คุณชอบสั่งอะไรกินกัน สำหรับเราต้องนี่เลยเมนูพาสตา หรือถ้าให้เจาะจงชัดๆ สปาเกตตี น่าจะเป็นจานโปรดในมื้อนั้น


    ใช่...มันอาจจะดูพื้นๆ เมื่อเทียบกับหลายๆ เมนูที่อยู่ในลิสต์ ยิ่งเฉพาะร้านดั้งเดิมที่มีอาหารชื่อไม่ค่อยคุ้นหูปรากฏ ทว่าเพราะกินง่าย ไม่ต้องนั่งรอนาน ที่สำคัญคือยังคงอร่อยเด็ดในสไตล์อิตาเลียนควิซีน สปาเกตตีจึงได้ใจเราไปเต็มๆ
    แล้ววันนี้คุณเตรียมพร้อมจะไปลิ้มลองสปาเกตตีกับเราหรือยังล่ะ
    พาสตาชื่อว่า ‘สปาเกตตี’

    [​IMG]

    อิตาลีได้รับฉายาต้นตำรับพาสตา อีกหนึ่งสันนิษฐานก็บอกว่าจีนคือต้นกำเนิด เพราะเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีมายาวนานตั้งแต่ 5,000 ปีก่อนคริสตกาลนู่น
    พาสตาถือกำเนิดบนโลกใบนี้เมื่อราวศตวรรษที่ 13 ส่วนผสมหลักๆ ของมันจะประกอบไปด้วย แป้งสาลี น้ำ และไข่ นำมารีดเป็นแผ่นและตัดเป็นเส้นหลายหลากรูปทรง สั้น อ้วน เล็ก กลม แบน เรียบ ท่อ เกลียว วง กระทั่งทำเป็นแผ่นเกี๊ยว รวมมากกว่า 600 ชนิด และมีชื่อเรียกต่างกันไปถึง 4,000 ชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็หมายรวมถึงสปาเกตตีเอาไว้ด้วย
    ในบรรดาพาสตาคนค่อนข้างจะรู้จักสปาเกตตีดี เป็นรองก็แต่มะกะโรนีที่ถูกนำมาตั้งเป็นฉายาประเทศอิตาลี ตัวอย่างง่ายๆ คือน้อยคนที่จะบอกว่าทีมฟุตบอลจากแดนสปาเกตตี ส่วนใหญ่มักบอกว่าทีมฟุตบอลจากแดนมะกะโรนี และยังไม่มีใครบอกว่าทีมฟุตบอลจากแดนลาซานญา...แน่ๆ
    นี่เองทำให้สปาเกตตีแพ้ในเชิงสัญลักษณ์วงกว้าง แต่ไม่ว่าใครจะคิดเห็นอย่างไร ทั้งสปาเกตตีและมะกะโรนีก็จัดอยู่ในหมวดพาสตา และคนอิตาเลียนจำนวนไม่น้อยคงยินดีกับสมญานามแดนดินแห่งพาสตา เพื่อความกระจ่างตรงกันว่าสปาเกตตีกับมะกะโรนี ที่แท้ก็แค่ส่วนหนึ่งของพาสตา
    มีคำพังเพยโบราณของคนอิตาเลียนกล่าวไว้ “ที่โต๊ะอาหารไม่มีใครแก่” นั่นเพราะถ้อยคำสนทนามักนำมาซึ่งการแบ่งปันความรอบรู้ด้านต่างๆ ต่อคนอื่นๆ ที่นั่งร่วมโต๊ะ ตั้งแต่การเมือง สังคม เศรษฐกิจ ศิลปะ วรรณกรรม ปรัชญา เรื่อยถึงเคล็ดลับการจีบสาวกับเทคนิคการมัดใจสามี
    และการกินสปาเกตตียิ่งช่วยให้บทสนทนาสนุกเข้มข้น บางทีความรู้บนโต๊ะอาหารก็ต้องอาศัยทักษะส่วนตัว ไม่ว่าจะจดจำหรือแลกเปลี่ยนแบบมีชั้นเชิง ไม่ต่างจากตอนใช้ส้อมม้วนเส้นสปาเกตตีเข้าปาก จะให้ง่าย ไว และไม่น่าเกลียด ความสามารถเฉพาะคนและศิลปะนั้นสำคัญ

    เรื่องสัพเพเหระ...สปาเกตตี
    เอกลักษณ์สำคัญของสปาเกตตีคือเส้นกลมยาว หรือเป็นเส้นแบนบาง นิยมทำเป็นพาสตาแห้งมากกว่า ขนาดเส้นอาจมีให้เลือกไม่เยอะเท่าพาสตาริบบิ้น หรือพาสตาสด
    สีสันของสปาเกตตีจะออกเหลืองขุ่น ไม่สดใสเข้มอ๋อย มีบ้างที่จะเป็นสีอื่น อันนี้ก็เพราะส่วนผสมที่ใช้ เช่น ใส่ผักมีสี หรือบางครั้งมีสีดำ ซึ่งเรียกกันว่า สปาเกตตีหมึกดำ สีดำไม่ใช่ปกติของมัน แต่เกิดจากการใช้หมึกของปลาหมึกเป็นส่วนผสม แปลกตาดี แต่ความเหนียวนุ่มยังเหมือนเดิม
    พาสตาที่อาจจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างฟูซิลลี เป็นเส้นเกลียวเรียวเล็ก คนบางกลุ่มก็เหมารวม เรียกว่าสปาเกตตีเกลียวได้เหมือนกัน
    ส่วนใหญ่สปาเกตตีมักผัดกับซอสมะเขือเทศ แค่นี้ก็อร่อยแล้ว เป็นวิธีปรุงที่แสนง่ายสำหรับคนชอบกิน แต่ไม่อยากยุ่งยาก การตระเตรียมส่วนผสม ต้มเส้นในน้ำเดือดพอสุก หรือให้อยู่ระดับ Al Dante เพื่อเวลานำไปปรุงต่อ จะมีความกรุบนิดๆ ไม่เละนุ่ม เดี๋ยวจะดูไม่น่ากิน
    เคล็ดลับการปรุงสปาเกตตีให้อร่อยอาจมีตัวช่วย คือบีบมะนาวลงในน้ำต้มก็ได้ น้ำมะนาวช่วยลดความกระด้างของน้ำ อีกทั้งยังทำให้เส้นสปาเกตตีนุ่มไวขึ้น
    หากอยากให้อร่อยเป็นทวีก็ให้ใส่เครื่องเทศเยอะๆ อย่างน้อยเครื่องเทศช่วยลดความเข้มข้นรสชาติไข่แดง อันเป็นส่วนผสมสำคัญได้ ไม่หมดแค่นั้น ขั้นตอนการผัดอย่าใช้เวลานานและต้องหมั่นคน จะได้สปาเกตตีเส้นสวยและไม่แห้งเกิน
    อาจจะไม่เกี่ยวกับวิถีครัวโดยตรง แต่พระเจ้าในศาสนาเชิงล้อเลียน...พาสตาฟาเรียน ปีศาจสปาเกตตีลอยฟ้า หรือ Flying Spaghetti ก่อตั้งโดย บ็อบบี เฮนเดอร์สัน ก็สร้างความฮือฮาอยู่พักหนึ่ง เพราะแนวคิดนี้เป็นการคัดค้านกฎของคณะกรรมการการศึกษาของรัฐแคนซัส ที่บังคับให้โรงเรียนในสังกัดสอนทฤษฎีผู้สร้างอันชาญฉลาด ควบคู่ไปกับทฤษฎีวิวัฒนาการของชาร์ลส์ ดาร์วิน ซึ่งเขาเชื่อว่าโลกและจักรวาลถูกสร้างโดยพระเจ้าที่มีรูปร่างคล้ายสปาเกตตีและลูกชิ้นสองลูก (ดูจากภาพเขียนแล้วค่อนข้างจะทะลึ่งพิกล) และควรอย่างยิ่งที่จะเรียกมันว่าปีศาจสปาเกตตีลอยฟ้า

    หลากรสอร่อยทันควัน
    คนเลิฟสปาเกตตีอย่างเราไม่หนักใจหรอกเวลาที่ใครมาชวนไปชิม หรือกระทั่งต้องให้ดั้นด้นให้ฝากท้องกับเจ้าประจำก็บ่ยั่น!?! เพราะยังไงๆ คิดเสียว่าเป็นการให้รางวัล (ปาก) ตัวเอง ติดก็แต่กลัวว่าจะอร่อยไม่จริงต่างหากเล่า...
    บ่อยครั้งเรามักไม่มีเวลาเหลือเฟือขนาดนั้น ทำให้ต้องหันมาขอพึ่งตัวเลือกอื่นที่แม้อาจยังมือใหม่อยู่ แต่ความอร่อยหาได้น้อยหน้ากับร้านเก่าแก่โด่งดัง
    เช่นที่ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เรารู้ดีว่าเป็นร้านพิซซาสารพัดหน้าละลานตาจนเลือกไม่หวาดไม่ไหว อีกทั้งยังติดภาพลักษณ์ฟาสต์ฟู้ด ไปกินทีไรจะถูกเพื่อนแซวตลอด...สาวกจังก์ฟู้ด แต่เราก็ไม่เคยพลาดเลยนะหากหิวขึ้นมา ต้องแวะหม่ำสปาเกตตีที่เขาสร้างสรรค์เอาใจผู้คนอยู่เสมอ นอกเหนือจากจานเดิมๆ ซ้ำๆ ก่อนลุยงานต่อ
    สำหรับเมนูสปาเกตตีสูตรของที่นี่นั้นเขาเริ่มออกมาเอาใจนักกินได้สักระยะหนึ่งแล้ว เรียกว่าเป็นพาเหรดสปาเกตตี 10 จานด่วน 10 รสชาติ และแบ่งออกเป็น 3 เซ็กชัน
    4 จานแรก คือ สปาเกตตี ซีฟู้ด รสชาติเด่นตรงที่ใช้ซอสสูตรพิเศษที่ชื่อ โรเซ กับ มารีนารา ซึ่งซอสทั้งสองตัวนี้หนักแน่นที่ความเปรี้ยว หวาน ครีมมีเล็กๆ โดยมีกลิ่นอิตาเลียนเฮิร์บช่วยเพิ่มอรรถรส ใส่กุ้ง หอยเชลล์ หรือใครที่เป็นมังสวิรัติก็มีให้ลิ้มลองในแบบรวมมิตรผักกันด้วย
    4 จานถัดมาเป็น สปาเกตตี ฟิวชัน ดัดแปลงให้เกิดความแปลกใหม่ รสชาติเข้มข้น ถูกลิ้นคนไทยที่ชอบอะไรจัดจ้าน เน้นความสดของส่วนผสม แฮม เห็ด ไส้กรอก หอยลาย เบคอน พร้อมทั้งเครื่องเทศไทย เช่น กระเทียม โหระพา พริกชี้ฟ้า ช่วยชูรสให้อร่อยจนลืมความเป็นออริจินัลของสปาเกตตีสูตรอิตาเลียนไว้ชั่วครู่ อีกสองจานนั้นยึดตามสูตรของอิตาเลียน ให้รสชาติความเป็นสปาเกตตี คลาสสิก คาโบนารา ครีมซอสบวกกับไข่แดง ตามด้วยชีส หอมมัน คนชอบครีมมีน่าจะถูกใจ พอร์คซอส ใช้ซอสหมูสีสันเจ็บจี๊ดของมะเขือเทศ ได้รสจัดสไตล์อิตาเลียน อืม...ม์ ขอเวลาอิ่มอร่อยก่อนล่ะ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สารกันบูดในเส้นก๋วยเตี๋ยว

    สารกันบูด ในเส้นก๋วยเตี๋ยว


    [​IMG]


    สารกันบูดในเส้นก๋วยเตี๋ยว (ไทยรัฐ)

    ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารชนิดหนึ่งที่มีลักษณะทำจากแป้งข้าวเจ้าที่ผ่านการล้างน้ำ นึ่งด้วยไอน้ำ อบให้หมาดแล้วนำไปตัดเป็นเส้นตามขนาดที่ต้องการ

    โดยทั่วไปเห็นขายตามท้องตลาดมีทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ กวยจั๊บ และเซี่ยงไฮ้ หากทำเสร็จแล้วขายเลยเรียกว่าเส้นสด ซึ่งเก็บไว้ได้ไม่นานเพราะมีความชื้นสูง ทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นประมาณ 4-5 วัน

    เมื่อเก็บได้ไม่นาน การกระจายสินค้าก็ไปได้ไม่ไกล ผลกำไรที่ได้ก็ไม่มาก สิ่งเหล่านี้ทำให้ผู้ประกอบการหันมาพึ่งสารเคมีเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา หากรับประทานเส้นก๋วยเตี๋ยวเหล่านี้เข้าไป ผู้บริโภคอย่างเราอาจกลายเป็นถุงใส่สารเคมีเคลื่อนที่ได้

    สารกันบูด หากใส่เกินมาตรฐานอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกายได้ เช่น สารกันบูดชื่อ กรดเบนโซอิก หากใน 1 วัน เรารับประทานอาหารอะไรที่มีสารชนิดนี้อยู่ไม่เกิน 500 มิลลิกรัม ตับ และไตสามารถกำจัดออกได้ทางปัสสาวะ

    แต่ถ้าเกิน 500 มิลลิกรัม ทุกวัน ตับและไตจะทำงานหนัก และถ้ากำจัดออกไม่หมดก็จะสะสมในร่างกาย เสี่ยงต่อไตพิการได้

    ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข กำหนดให้ใช้สารกันบูดทุกชนิดรวมกันได้ไม่เกิน 1,000 มิลลิกรัม/กิโลกรัม

    วันนี้สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างเส้นก๋วยเตี๋ยวแต่ละชนิดเพื่อตรวจหาสารกันบูดตกค้าง 2 ชนิด ผลวิเคราะห์เป็นอย่างไร พิจารณากันเองดังในตาราง


    [​IMG]

    ทางที่ดีอย่ารับประทานบ่อยนัก และหลีกเลี่ยงการซื้อก๋วยเตี๋ยวเส้นสดที่ขายไม่หมดในวันต่อวัน เพื่อความปลอดภัย


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบโดย kapook.com
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก" เข้มข้นถึงเครื่อง
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 กรกฎาคม 2552 15:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศในร้านก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> มื้อนี้มิตรรักนักกิน คนไหนที่ชื่นชอบกินก๋วยเตี๋ยวเรือคงจะได้อิ่มอร่อยสมใจอยากกันแน่ เพราะว่า "ผ่านมาแวะกิน" จะพาไปลองลิ้มก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเด็ดอีกหนึ่งร้าน ที่ได้ยกเรือลำน้อยขึ้นมาบนบกและเปิดขายก๋วยเตี๋ยวเรือในนามร้านชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก" ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ตรงที่เป็นการนำเอาสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณมาปรับปรุงแต่งสูตรใหม่ให้เป็นสูตรก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดของทางร้านเอง ที่มีความเด่นอยู่ตรงน้ำซุปที่มีความเข้มข้นจัดจ้านเป็นพิเศษ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำมาม่าเนื้อ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เอาล่ะไม่ขอพูดพล่ามให้เสียเวลาแล้วมาสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่มาชิมกันดีกว่าว่ารสจะเด็ดแค่ไหน ซึ่งที่นี่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือหมูและเนื้อซึ่งจะขายแบบแยกหม้อไม่ปะปนกัน และมีเส้นให้เลือกหลายอย่างมีทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นมาม่า บะหมี่เหลือง และวุ้นเส้น ชามแรกที่เราเลือกสั่งมานั้นเป็น ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำมาม่าเนื้อ น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวส่งกลิ่นหอมดี เพราะทางร้านใช้กระดูกเนื้อมาต้มผสมกับเครื่องเทศยาจีนหลายตัว และเคี่ยวนานกว่า 15 นาทีจนน้ำกระดูกออก ทำให้น้ำซุปนั้นหวาน กลมกล่อม ไม่เค็ม กินโดยไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มเลยก็ยังได้ ส่วนเครื่องที่ใส่มามีมากมาย มีทั้งเนื้อสด ที่ใช้เนื้อส่วนที่เรียกว่าเนื้อลูกมะพร้าวที่มีความนุ่มมาก เคี้ยวนุ่มหนึบปาก และยังมีตับ ผ้าขี้ริ้ว เอ็น ลูกชิ้นเคี้ยวเด้ง และเนื้อเปื่อยนุ่มๆ ที่ใช้เนื้อน่องลายมาทำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นหมี่แห้งหมู </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ส่วนอีกชามที่สั่งมาคือ ก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นหมี่แห้งหมู ที่เต็มไปด้วยเครื่องหลายอย่างมี หมูสดที่ใช้หมูเนื้อแดงเคี้ยวนุ่มปาก มีตับหมู หมูตุ๋นเนื้อนิ่ม และลูกชิ้นหมูที่เคี้ยวเด้งไม่แพ้กัน และความพิเศษของก๋วยเตี๋ยวแห้งที่นี่ นอกจากจะใส่ซีอิ้วดำแล้ว ทางร้านยังปรุงรสมาให้เสร็จสรรพ ใส่พริกป่นที่ทำเอง น้ำตาล ถั่วป่น และมีมะนาวมาให้บีบเพิ่มรสเปรี้ยว เรียกว่าแค่คลุกเคล้าให้เข้ากันก็อร่อยได้เลย แต่ถ้าสั่งน้ำ น้ำซุปก็ใช้กระดูกหมูมาต้มเคี่ยวกับเครื่องเทศยาจีนเช่นกัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กากหมู, ลูกชิ้นลวกเนื้อ-หมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> และถ้าจะเพิ่มรสชาติให้กับการกินก๋วยเตี๋ยวเรือของที่นี่ อย่าลืมสั่ง กากหมู (15 บาท) มากินคู่กัน เพราะกากหมูของที่นี่ทำเอง โดยเอาหนังหมูมาเจียวนานกว่า 4 ชม. แล้วเอามาทอดอีกที จนได้กากหมูที่เคี้ยวกรอบกรุบเพลินปาก

    เกือบลืมบอกไปว่าก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่ขายชามละ 18 บาท พิเศษ 25 บาท ใส่ถุงกลับบ้านทำแบบพิเศษ 25 บาท เกาเหลาชามละ 25 บาท ใส่ถุง 30 บาท และนอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกกินอีก อาทิ ลูกชิ้นลวกเนื้อ-หมู ชามละ 20 จิ้มกินกับน้ำจิ้มรสเด็ด ขนมถ้วย (ชุดละ 20 บาท) วุ้นมะพร้าว (ลูกละ 25 บาท) น้ำมะพร้าว 100% (แก้วละ 15 บาท) เรียกว่ามาที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก" จะได้อิ่มท้องกลับไปแน่ๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขนมถ้วย, วุ้นมะพร้าว, น้ำมะพร้าว</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    "ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก" ตั้งอยู่ที่ 34 หมู่ 4 ถ.ลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. การเดินทางถ้ามาจากมอเตอร์เวย์ลงร่มเกล้า เลี้ยวขวามาเจอถ.ลาดกระบัง แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งตามถ.ลาดกระบังมาประมาณ 1กม. จะเจอร้านอยู่ซ้ายมือมุมทางโค้ง ตรงข้ามกับซ.ลาดกระบัง 38 เปิดอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 09.00-18.00 น. รับออกงานนอกสถานที่ โทร. 08-9888-7887 และขายเฟรนไชน์ด้วย โทร. 08-1591-9356

    คลิก!! อ่านรายละเอียดร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก"
    Travel - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 กรกฎาคม 2552 15:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเรือยกพลขึ้นบก

    ประเภทอาหาร
    : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำมาม่าเนื้อ, ก๋วยเตี๋ยวเรือเส้นหมี่แห้งหมู, กากหมู, ลูกชิ้นลวกเนื้อ-หมู, ขนมถ้วย, วุ้นมะพร้าว, น้ำมะพร้าว

    บรรยากาศร้าน : มีโต๊ะให้เลือกนั่งสบายๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 34 หมู่ 4 ถ.ลาดกระบัง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กทม. การเดินทางถ้ามาจากมอเตอร์เวย์ลงร่มเกล้า เลี้ยวขวามาเจอถ.ลาดกระบัง แล้วเลี้ยวซ้ายวิ่งตามถ.ลาดกระบังมาประมาณ 1กม. จะเจอร้านอยู่ซ้ายมือมุมทางโค้ง ตรงข้ามกับซ.ลาดกระบัง 38

    สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถด้านมนร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 09.00-18.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ :รับออกงานนอกสถานที่ โทร. 08-9888-7887 และขายเฟรนไชน์ด้วย โทร. 08-1591-9356
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=661 border=0><TBODY><TR><TD class=textHeadBlue>ชอบเส้นเฮ!มหกรรมกินเตี๋ยวเรือ</TD></TR><TR><TD height=25>:: INN online .- ʴ?ѹ?շը??蒇 ::</TD></TR><TR><TD><B><TABLE height=300 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=664 border=0><TBODY><TR><TD width=1></TD><TD vAlign=top width=660>
    <!-- [​IMG] -->
    </B>
    <!-- Show Detail -->
    งานมหกรรม “กินก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเที่ยวปทุมธานี” ในงานชุมนุมดาวดังร้านก๋วยเตี๋ยวเรือมาให้เลือกทานแบบละลานตา


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD height=5></TD></TR>


    <!-- Show Image -->
    [​IMG]




    <!-- End Show Image -->






    </TBODY></TABLE>
    สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดปทุมธานี จ้งว่าจะมี มหกรรม “กินก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเที่ยวปทุมธานี” ดำเนินการโดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณพัฒนาจังหวัดปทุมธานี ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2552ด้วยจังหวัดปทุมธานี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปทุมธานี นายชาญณรงค์ สุหงษา บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) และห้างสรรพสินค้า เทสโก้โลตัส สาขารังสิต (คลอง 4) จะดำเนินการจัดมหกรรม “กินก๋วยเตี๋ยวเรือรังสิตเที่ยวปทุมธานี” ระหว่างวันที่ 29 กรกฎาคม – 2 สิงหาคม 2552 ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัส สาขารังสิต (คลอง 4)

    เพื่อปลุกกระแสก๋วยเตี๋ยวเรือที่ขึ้นชื่อของจังหวัดปทุมธานี ให้กับมาอีกครั้ง โดยในงานจะมีจำหน่ายก๋วยเตี๋ยวเรือจากร้านดังมากมายในจังหวัดปทุมธานี กิจกรรมการแข่งขันกินก๋วยเตี๋ยวเรือล้มแชมป์ การแสดงบนเวทีจากศิลปินที่มีชื่อเสียง การจำหน่ายสินค้าและนิทรรศการจากพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ หออัครศิลปิน ชมบัวจากพิพิธภัณฑ์บัวฯ ร่วมถึงการจำหน่ายสินค้า OTOP การจำหน่ายต้นไม้ พรรณไม้และของแต่งบ้านในราคาถูก การออกร้านของผู้ประกอบการต่าง ๆ และสวนสนุก ฯลฯ ในวันที่ 29 กรกฎาคม ถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2552 เริ่มงานเวลา 11.00 – 22.00 น. ของทุกวัน ณ ลานหน้าห้างสรรพสินค้าเทสโก้ โลตัสสาขารังสิต (คลอง 4)


    </TD></TR></TBODY></TABLE></B></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...