เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ทายนิสัย จากเส้นก๋วยเตี๋ยว
http://women.kapook.com/horo00054/


</PRE>
บางคนกินเส้น บางคนไม่กินเส้น แต่วันนี้เรามาลอบทายใจคนกินเส้นกันดู ว่าคุณชอบกินเส้นอะไรกันเอ่ย

ข้อมูลจาก Forward Mail
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต

เส้นใหญ่ </PRE>ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ คุณเป็นคนหนักแน่น ทำอะไรทำจริง แบบไม่ดีไม่ได้ไม่เลิก เป็นคนอ่อนไหว อะไรที่มากระทบกับความรู้สึกจะครุ่นคิด วิเคราะห์หาที่มา และบางครั้งทำให้เครียด ไม่ค่อยพูด เงียบขรึม ตรึกตรอง ทบทวน รักเพื่อน รักสัตว์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และยังชอบแก้ปัญหาให้คนอื่นอีกด้วย

เส้นเล็ก </PRE>ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก คุณเป็นคนรวยอารมณ์ขัน เพื่อนฝูงมากมาย มีมุขฮาตลกๆ ให้คนรอบข้างได้ขำเสมอ เป็นศูยน์รวมของเพื่อน ไม่ชอบคิดเล็กคิดน้อย และแม้มีปัญหาเข้ามาในชีวิตคุณก็ยังยิ้มเสมอ แต่ค่อนข้างขาดความเชื่อมั่นในตัวเองในบางครั้ง ไม่กล้าชนปัญหา แต่ยิ้มกับปัญหา ค่อนข้างเจ้าช ู้เสน่ห์แรงพอตัว รักเพื่อนมากบางครั้งอาจลืมคนใกล้ตัวไปบ้าง

เสันหมี่ </PRE>ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่ คุณเป็นคนเก็บตัว แต่เรียนเก่งชะมัด ใฝ่รู้ รักการอ่าน ชอบค้นคว้าชนิดหนอนหนังสือเลยทีเดียว ร้านหนังสือตามห้างมักได้เงินจากคุณอย่างสม่ำเสมอ โรเเมนติกอยู่คู่กับคุณ คุณเป็นคนปราณีตกับแฟน เอาใจใส่ทุกเรื่อง ทุกรายละเอียด แต่แฟนของคุณอย่าลืมวันเกิดเชียว คุณจะงอนไปเลย แฟนคุณกว่าจะเดาอาการคุณออก คุณก็งอนเรื่องใหม่ซะแล้ว

เส้นบะหมี่ </PRE>ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่ คุณเป็นคนที่ชอบโลดโผนผจญภัย ท่องเที่ยวไปทุกที่ แต่จะมักไม่ค่อยโรแมนติก หากมีแฟน แฟนของคุณจะต้องเข้าใจคุณเป็นอย่างมาก คุณมักมุ่งไปข้างหน้า ไม่มองข้างหลัง มีความฝัน ค้นหา ท้าทาย แต่ไม่ชอบวางแผนชีวิต คุณเป็นคนรักของครอบครัวและเพื่อนฝูง อีกทั้งคุณยังเป็นคนใจดี

เส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (หรือมาม่า) </PRE>ถ้าคุณชอบทานก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่กี่งสำเร็จนี้ คุณเป็นคนถือตัวชะมัด ไม่ชอบง้อใคร ไม่ชอบขอใคร พึ่งพาตนเอง ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของคุณหรอก ชอบและรักเสียงเพลง ละเมียดละมัยพอประมาณ เป็นคนฟุ่มเฟือย แต่ทำงานเก่ง การเรียนไม่เท่าไหร่ กิจกรรมเด่น แต่ออกจะเจ้าอารมณ์ บางครั้งพาลไม่มีเหตุผลเอาดื้อๆ

เส้นขนมจีน (ข้าวปุ้น) </PRE>ถ้าคุณชอบทานเส้นขนมจีน เขาว่าคุณเป็นคนขี้เหนียว แต่คุณบอกเพื่อนว่าคุณถูกสอนให้รู้จักใช้เงิน คุณไม่ชอบซื้อของพร่ำเพรื่อ แต่ชอบซื้อของดี แพงไม่ว่า ถ้าถูกใจคุณคุณสามารถเททั้งกระเป๋าแบบไม่สนใจใคร คุณขี้รำคาญคน แต่ชอบช่วยเหลือสังคม อาชีพ ส.ส. น่าจะเหมาะกับคุณ คุณเป็นคนช่างเลือกแฟนต้องดูดีเสมอ ถ้าไฮโซยิ่งดี มีสีหน่อยคุณจะภูมิใจมาก คุยทั้งวันไม่หยุด

เส้นสปาร์เก็ตตี้ </PRE>ถ้าคุณชอบทานเส้นสปาร์เก็ตตี้ คุณเป็นคนดุ น่าจะเป็นครูปกครอง หรือเป็นตำรวจสายปราบปราม ทำงานด้านกฎหมายยิ่งดีใหญ่ ใครอย่ามาเอาเปรียบคุณเชียว คุณเอาเรื่องไม่เลิก แต่คุณไม่ชอบก้าวก่ายใคร ไม่ชอบการเมือง ส่วนตัวคุณเป็นคนโอบอ้อม อารี แต่ไม่แสดงออก เวลาน้ำท่วมไฟใหม้ที่ไหนไปดูซิ มีของที่คุณนำไปบริจาคเพียบ แต่คุณไม่ติดชื่อของคุณไปด้วยหรอก
​

 

อร่อยก๋วยเตี๋ยวปลา หอมผัดฉ่าปลากะพง
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=64819&NewsType=2&Template=1

เมื่อสองอาทิตย์ที่แล้ว ผมพาเพื่อน ๆ ไป ใต้ หลังจากนั้นก็ขึ้นเหนือไปสุโขทัย วันนี้ผมจะพาไปจังหวัดเพชรบุรี ผมไม่ได้ไปหัวหินมาเป็นปีแล้วครับ เผอิญกลับมาจากเมืองนอก แล้วต้องพาฝรั่งไปดูไวน์ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ น้ำตกป่าละอู บรรยากาศเหมือนไปอยู่เมืองนอกนะครับ ก่อนจะไปถึงที่นั่น เราต้องขับรถกันไป ผมต้องพาทุกคนกินก๋วยเตี๋ยวตอนกลางวันเสียก่อน
ก๋วยเตี๋ยวที่เราจะไปกิน คือ ก๋วยเตี๋ยวปลาที่ร้าน VIP ที่จังหวัดเพชรบุรี ตอนนี้กำลังทำถนนกันอยู่ตรงสามแยก รถติดมากครับ แต่เมื่อทำถนนเสร็จคงจะสบายขึ้น ร้านนี้ผมเขียนให้หลายครั้งแล้ว ยังไม่ลืมนะครับ เพราะก๋วยเตี๋ยวปลาอร่อยจริง ๆ โดยเฉพาะน้ำจิ้มที่ทำขายเป็น ขวด ๆ เอามาจิ้มปลาลวก ลูก ชิ้นปลา หรืออะไรต่าง ๆ อร่อยมากครับ

ผมไปทีไร ผมกินมื้อใหญ่เลยครับ ตั้งแต่ของกินเล่น เช่น ไข่ปลาหมึกชุบแป้งทอด มีน้ำจิ้มอร่อย หลังจากนั้นกินเส้นหมี่น้ำหนึ่งชาม แล้วน้าโรจน์ คนขับรถของผมซึ่งอยู่กับผมมา 7-8 ปีแล้ว ไปทีไรกินเส้นหมี่ลูกชิ้นปลา เอาแต่ลูกชิ้นปลา เป็นสิบ ๆ ลูกครับ แต่ลูกไม่ใหญ่นะครับ เพราะว่าลูกชิ้นปลาที่นี่สด และอร่อยมาก มีเส้นหมี่ปลาหมึกและลูกชิ้น ผมถ่ายรูปมาให้ดูก่อนที่เขาจะใส่น้ำลงไป ผมกินก๋วยเตี๋ยวไป 2-3 ชาม โดยเทน้ำจิ้มลงไปในน้ำ ไม่ต้องปรุงอะไรอย่างอื่นเพิ่มเลยก็อร่อยแล้วครับ

หลังจากนั้น กินข้าว มีหนังปลาชุบแป้งทอด กับไข่ปลาหมึกชุบแป้งทอด มีหัวปลาผัดฉ่า มีต้มยำหัวปลาที่แซบเหลือเกิน เพราะต้มยำหัวปลาที่นี่ใช้หัว ปลาจริง ๆ นอกจากนั้นยังเอาใบโหระพาใส่เข้าไปด้วย พริกของเขาคงเป็นพริกกะเหรี่ยง แน่ ๆ เลยครับ เพราะเผ็ดมาก

ยังมี หัวปลาและเนื้อปลาผัดฉ่า ด้วย ผัดฉ่าที่นี่ไม่เหมือนของคนอื่นนะครับ เพราะว่าไม่ได้ผัดแบบธรรมดา เขาเอาผงกะหรี่ใส่เข้าไปเล็กน้อย ทำให้หอมขึ้น ในเครื่องผัดที่ตำไว้แล้วนั้น เขาใส่ผงกะหรี่ไปในนั้นด้วย เอาไปผัด เอาปลาลง ปรุงด้วยน้ำปลา เครื่องปรุงต่าง ๆ เสร็จแล้วเสิร์ฟให้เรากิน เผ็ดมากเพราะเขาทราบว่าผมชอบกินเผ็ด จากนั้นกินคลุกกับข้าว เอาน้ำขลุกขลิกที่อยู่ข้างล่างมาราดข้าว แล้วคลุกให้ดี เอาน้ำปลาพริกเหยาะสักหน่อยหนึ่ง ตักใส่ช้อน เข้าปาก คุณเอ๋ย มีความสุขจริง ๆ ครับ

หลังจากนั้นหาอะไร หวาน ๆ กิน ที่นี่ไอติมเขาก็มีแต่โดยมากแล้วผมจะกินกล้วยตาก ซึ่งทำเป็นแผ่นแบน ๆ คล้าย ๆ กล้วยฉาบ แต่เป็นกล้วยตาก และซื้อกลับบ้านด้วย
ฉะนั้น ถ้าเพื่อน ๆ มีเวลาหรือเดินทางไปหัวหิน หรือปราณบุรี ออกจากกรุงเทพฯ 10 โมง ไปถึงที่นั่นราว ๆ 11 โมงครึ่ง หรือช่วงเกือบ ๆ เที่ยง ก็พอดีกินอาหารกลางวันที่นั่นได้เลยครับ บางทีต้องเข้าคิวนะครับ เพราะคนมาก แต่ว่าอร่อยแน่ ๆ เลยครับ ถ้าใครไปฝากความคิดถึงไปให้เขาด้วยนะครับ ผมอยากไปกินอีก แต่ว่านาน ๆ ทีถึงจะได้ไปหัวหิน เพราะงานมากซะเหลือเกินครับ.

หมึกแดง​

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ราดหน้ายอดผักวัชรพล” รสกลมกล่อมชวนกิน
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000131851
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 พฤศจิกายน 2551 14:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน “ราดหน้ายอดผักวัชรพล”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นานๆ ที “ผ่านมาแวะกิน” จะผ่านแวะเวียนมาแถวซ.วัชรพล และเหตุที่ครั้งนี้ได้ผ่านมาก็เพราะว่าเพื่อนสาวลากเรามาเป็นเพื่อนทำธุระกิจส่วนตัวแถวนี้ แล้วที่เรายอมมาด้วยแต่โดยดี ก็เพราะว่าเพื่อนเอาอาหารอย่างราดหน้าที่เราชื่นชอบมาล่อ ว่าที่ซ.วัชรพลแห่งนี้นั้นมีร้านขายราดหน้าเลิศรส ที่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งราดหน้าเจ้าเด็ดของกรุงเทพฯ ที่ชวนให้มาลิ้มลอง

ร้านราดหน้าที่เพื่อนพาเราไปกินกันนั้นก็คือร้าน “ราดหน้ายอดผักวัชรพล” ที่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในซอยวัชรพลต่างรู้จักกันดีว่าร้านนี้เขาเปิดขายราดหน้ารสดีมานานแล้วกว่า 14 ปี ซึ่งราดหน้าที่ร้านนี้เป็นที่ถูกปากถูกใจของนักกินทั้งหลายก็เห็นจะอยู่ตรงที่ ราดหน้าของที่นี่เน้นกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถันตามแบบสูตรเด็ดเฉพาะของที่ร้าน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ราดหน้าทะเลใส่ไข่ (ล่าง) ราดหน้าเส้นใหญ่ทะเล (บน)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับราดหน้าจานเด่นๆ ที่ชวนสั่งมากินก็มี ราดหน้าทะเล (45 บาท) ซึ่งทางร้านจะทำราดหน้าแบบจานต่อจาน ไม่ได้ทำแบบเป็นหม้อใหญ่ๆ พอสั่งปุ๊บก็จะลงมือทำ ทำให้ได้ราดหน้ามีรสชาติที่ดี ตั้งแต่ตัวเส้นซึ่งมีให้เลือกทั้งเส้นใหญ่ เส้นหมี่ หรือว่าหมี่กรอบ แต่อย่างจานนี้เราสั่งเป็นเส้นใหญ่ ทางร้านจะผัดเส้นใหญ่ลงในกระทะใส่ซีอิ้วดำนิดหน่อยผัดคั่วด้วยไฟแรงๆ จนได้เส้นใหญ่ที่สุกหอมและเหนียวนุ่ม

ส่วนน้ำราดหน้าทางร้านจะปรุงน้ำราดหน้าด้วยน้ำซุปกระดูกหมู ปรุงรสชาติใส่กระเทียม เต้าเจี้ยวที่ทางร้านจะปรุงรสชาติตามสูตรมาแล้ว และใส่แป้งมันที่ผสมกับเครื่องปรุงสูตรพิเศษของทางร้านไว้แล้วลงไป ทำให้ได้น้ำราดหน้าที่เหนียวหนืดกำลังดี และเมื่อเป็นราดหน้าทะเลก็จะใส่กุ้ง ปลาหมึก แล้วใส่ผักอย่างยอดคะน้าก้านอวบ ข้าวโพดอ่อน แครอท และเห็ดหอม ชิมราดหน้าแล้วก็ต้องบอกว่าถูกปากตรงที่เครื่องทะเลเคี้ยวเต็มปากเต็มคำเข้ากันกับเส้นใหญ่เหนียวนุ่ม ละมุนรสเข้ากับน้ำราดหน้าเหนียวข้นออกรสกลมกล่อมหอมหวาน เจือรสเค็มจากเต้าเจี้ยวนิดๆ กินโดยไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มก็ยังได้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เปาะเปี๊ยะสด, หมูแดง-หมูกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ยังมีอีกหนึ่งราดหน้าจานเด็ดที่ชวนกินไม่แพ้กันก็คือ ราดหน้าใส่ไข่ (ทะเล 50 บาท หมู 35 บาท) คือทางร้านจะผัดเส้นจนได้ที่แล้วก็ทำไข่เจียวมาห่อเส้นไว้ ทำให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ไปอีกแบบตรงที่จะได้กินเส้นนุ่มเข้าคู่กับไข่เจียวหอมๆ และรสชาติลงตัวเข้ากับน้ำราดหน้า

นอกจากนี้ก็ยังมี ราดหน้าหมู (30 บาท) ที่จะมีหมูหมักเนื้อนุ่มหวานให้ได้ลิ้มรส มีราดหน้ารวมมิตร (45 บาท) แล้วก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอให้ชิมกันอีก อาทิ ผัดซีอิ้ว (หมู 35 บาท ทะเลหรือรวมมิตร 55 บาท) หมูแดง-หมูหรอบ (ขีดละ 45 บาท ถ้าราดข้าว 30 บาท พิเศษ 35 บาท) ที่ทางร้านทำเองทั้งหมูแดงเนื้อนิ่มหวาน หมูกรอบเคี้ยวกรอบนอกนุ่มใน แถมมีน้ำราดเค็มๆ หวานๆ ให้กินคู่กัน และก็ยังมีเมนูกินเล่นอย่าง เปาะเปี๊ยะสด (25 บาท) ที่ชวนกินอีกด้วย เอาเป็นว่าหากใครมีโอกาสผ่านมาแถวซ.วัชรพล แล้วเกิดนึกอยากกินราดหน้ารสดีขึ้นมา ก็ลองแวะมาฝากท้องอิ่มกันได้ที่ร้าน “ราดหน้ายอดผักวัชรพล” ร้านนี้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ราดหน้ายอดผักวัชรพล” ตั้งอยู่ที่ 126/82-83 ถ.รามอินทรา ซ.วัชรพล แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. การเดินทางถ้ามาทางถ.รามอินทรา วิ่งตรงมายังซ.วัชรพล ตรงเข้ามาในซอยประมาณ 400 ม.จะเห็นร้านตั้งอยู่ขวามือ มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามกับเสถียรธรรมสถาน เปิดทุกวัน 08.30-21.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2945-5144

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ราดหน้ายอดผักวัชรพล"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ของดีบางขุนนนท์ ต้นตอก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง และราชาบะหมี่เกี๊ยว
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod01091151&sectionid=0125&day=2008-11-09
คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>"ถนนบางขุนนนท์"(เดิมชื่อถนนบางกอกน้อยตลิ่งชัน) ย่านฝั่งธน ถือเป็นถนนสายอาหาร อุดมด้วยร้านเด็ดเรียงรายสองข้างทางอยู่หลายเจ้า

เริ่มจากสามแยกที่ตัดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ใกล้กับทางรถไฟ เข้าไปนิดเดียวตรงฝั่งซ้ายมี "ร้านบะหมี่ปูตั้งเลียกเส็ง" (ข้าวหมูแดงเด็ดมาก) ถัดมาใกล้ๆ กับโรงพักบางขุนนนท์มี "ร้านลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบ"

ไปเรื่อยๆ ถึงโค้งกรมบังคับคดี ข้ามคลองชักพระ ถนนเส้นนี้ก็จะเปลี่ยนชื่อเป็น "ถนนชัยพฤกษ์" ถ้าตรงไปเรื่อยๆ จนสุดทางจะไปออกที่ถนนบรมราชชนนีตรงวัดไก่เตี้ย ซึ่งบนเส้นชัยพฤกษ์นี้มีเจ้าก๋วยเตี๋ยวเรือหมูใส่ตำลึง "ประสพลาภ (นายแกละ)" อีก 1 ร้านเด็ดด้วย

พูดถึงก๋วยเตี๋ยวหมูใส่ตำลึง นึกขึ้นมาได้ว่าย่านนี้แหละคือดงก๋วยเตี๋ยวหมู แหล่งกำเนิดของก๋วยเตี๋ยวใส่ตำลึง จึงติดต่อขอให้เจ้าอ๊อดเพื่อนรักช่วยเป็นมัคคุเทศก์อาหารเช่นเคย อ๊อดผู้ไม่เคยปฏิเสธเรื่องกิน รีบกุลีกุจอพาไปชิมในบัดดล บอกว่าต้องมาที่นี่เลย "ร้านเพ้งบางขุนนนท์"

เพ้งบางขุนนนท์เป็นร้าน 2 คูหาริมถนนบางขุนนนท์ อยู่ถัดจากร้านลูกชิ้นปลานายเงี๊ยบไปประมาณ 300 เมตร ติดกับ ธ.กสิกรไทย ไม่พูดพล่ามทำเพลง รีบสั่งเส้นเล็กแห้ง กับบะหมี่แห้ง มารวดเดียวพร้อมกัน โอ้โฮเฮะ มากับเจ้าอ๊อดไม่เคยผิดหวัง

เส้นเล็กเจ้านี้เหนียวนุ่ม ไม่มันชุ่มโชกจนเกินไป ใส่ทั้งหมูชิ้น หมูสับ ตับ และมีของดีที่ผมชื่นชอบคือ "ไส้และกระเพาะหมู" สดอร่อย ที่เห็นในรูปคือขนาดพิเศษชามละ 30 บาท ของโปรดของเจ้าอ๊อดคือบะหมี่แห้ง บะหมี่ที่นี่เส้นเล็กๆ เหมือนฝอยทอง เส้นเหนียวหนึบเด็ดอีกเช่นกัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ยังไม่จุใจจึงสั่งเส้นใหญ่ต้มยำมาชิมอีกชาม คราวนี้ขอขนาดธรรมดา 25 บาทบ้าง เขาปรุงมาให้เสร็จรสจัดจ้าน ควรชิมก่อนปรุงเพราะรสจัดอยู่แล้ว ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำจะใส่ "เซ่งจี๊" เพิ่มอีกอย่างหนึ่ง สวรรค์ของคนชอบเครื่องในเช่นผมเลยล่ะ ผมชอบก๋วยเตี๋ยวใส่ตำลึงเพราะตำลึงช่วยเบรกรสจัดๆ ของก๋วยเตี๋ยว เกิดความกลมกล่อมอร่อยอย่างลงตัว

นอกจากเส้นใหญ่ เส้นเล็ก บะหมี่แล้ว ยังมีเส้นหมี่ วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋ให้เลือกอีกด้วย ของอร่อยยังไม่หมดเพียงแค่นี้ ตรงหน้าร้านเขาปิ้ง "หมูสะเต๊ะ" กลิ่นหอมฉุย น่ากินมาก จึงสั่งมาอีกจาน สนนราคา 10 ไม้ 30 บาทหรือไม้นึงแค่ 3 บาทเท่านั้น หมูสะเต๊ะเนื้ออวบอ้วนรสจัดชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ห้ามพลาดเป็นอันขาด

อิ่มหนำสำราญแล้วถึงเวลาสัมภาษณ์เจ้าของร้าน คุณสุรพลเล่าว่า ที่นี่ทำกันเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว เดิมพ่อ (คุณชาญ) พายเรือขายอยู่ในคลอง ซึ่งคุณชาญเป็นพี่ชายนายแกละ เจ้าโปรดของคุณชายนั่นเอง มิน่าล่ะถึงมีลีลาการปรุงคล้ายกัน จากนั้นจึงยกพลขึ้นบกมาเข้าร้านนี้ได้ 36 ปีแล้ว แม่เป็นคนชงก๋วยเตี๋ยว มีคุณสุรพลและน้องชายอีก 2 คน น้องสาวอีก 1 คน เป็นผู้ช่วยอีกด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

มาถึงตรงนี้จึงรู้ว่าใครคือเจ้าแรกของก๋วยเตี๋ยวหมูย่านนี้ คุณสุรพลเล่าว่าเจ้าแรกนั้นในปัจจุบันนี้อยู่ตรงข้ามกรมบังคับคดีติดคลองชักพระ ส่วนร้านเพ้งนี้ไม่ใช่เจ้าแรก แต่เป็นรายแรกที่ริเริ่มการนำตำลึงมาใส่ในก๋วยเตี๋ยว โดยตอนนั้นมีลูกค้าที่เหมาก๋วยเตี๋ยวไปออกงานเป็นต้นคิดเอาตำลึงมาปรุงให้คนในงานได้ชิม คุณชาญเลยเกิดไอเดียนำกลับไปใช้บ้าง นอกจากร้านนายแกละกับร้านเพ้งและเจ้าแรกตรงกรมบังคับคดีแล้ว ยังมีร้านนายอ้วนอีกหนึ่งเจ้า รวมแล้วมี 4 เจ้าดังในย่านนี้

เรารอถึงช่วงเย็น เพราะวันนี้ปิ่นโตเถาเล็กได้นัดแนะกับคุณครูเฉลิมขวัญ ครูของกระผมตั้งแต่สมัย ป.5 โน่นแน่ะ ครูจะพาผมไปชิมบะหมี่ริมทางใกล้กับซอยชัยพฤกษ์ 3 นับเป็นอีกหนึ่งร้านเด็ดที่ลูกค้ามักจะแวะมาซื้อกลับไปกินที่บ้าน ร้านนี้ชื่อ "ราชาบะหมี่เกี๊ยว"

ที่นี่ทำกันในครอบครัวแค่พ่อแม่ลูกๆ มาได้ 20 กว่าปีแล้ว ทุก 5 โมงเย็นจะเข็นรถบะหมี่ออกมาตั้งหน้าบ้าน ขายไปเรื่อยๆ จน 4 ทุ่ม แต่ถ้าวันไหนโดนเหมา แค่ 2 ทุ่มก็หมดแล้ว ของอร่อยคือบะหมี่เกี๊ยวใส่หมูแดง โดยบะหมี่มาจากเจ้าประจำที่ลาดพร้าว เป็นเส้นนุ่มๆ สีเหลืองสด ต่างจากบะหมี่ที่ร้านเพ้งซึ่งออกเหนียวหนึบ

และที่เด็ดที่สุดคือ "หมูกรอบ" ซึ่งใช้กรรมวิธีย่างด้วยเตาถ่านจนแห้งดีแล้วค่อยนำไปทอด ไม่เอาส้อมจิ้มๆ แล้วเอาไปต้มเหมือนร้านทั่วไป เขาบอกว่าจะทำให้เนื้อแข็ง มิน่าล่ะ หนังหมูกรอบของเจ้านี้ถึงกร๊อบกรอบจนอยากจะสั่งหมูกรอบเปล่าๆ มาจิ้มซีอิ๊วดำ กินอีกต่างหาก ที่เห็นในภาพน่ะคือบะหมี่เกี๊ยวขนาดธรรมดา ชามละ 30 บาทให้มากจนจุใจ ถ้าเป็นบะหมี่หรือเกี๊ยวอย่างเดียวแค่ 25 บาทเท่านั้น

ถ้าอยากไปลองชิม จะนั่งที่ร้านก็ได้ หรือถ้าอยากซื้อกลับ จะโทร.ไปสั่งก่อนทางมือถือสะดวกที่สุดที่ 08-9607-7518 เห็นไหมครับว่าถนนเส้นนี้ช่างมีอะไรอร่อยให้ลิ้มลองมากมาย ยังเหลืออีกหลายเจ้าแต่ขออุบไว้ก่อนนะ แค่นี้ก็ชิมไม่หวาดไม่ไหวกันแล้ว

ข้อมูล

เพ้ง บางขุนนนท์เจ้าเก่า

โดย คุณชาญ อรัญยถาวร

ที่ตั้ง 115/13-14 ถ.บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700

โทร.0-2434-9617

เปิดบริการ 08.00-15.30 น. พฤหัสบดี-อังคาร

หยุด วันพุธ

แนะนำ ก๋วยเตี๋ยวหมูใส่ตำลึง หมูสะเต๊ะ

ราชาบะหมี่เกี๊ยว

โดย คุณประวิทย์ (นายเข็ม) แซ่ลิ้ม

ที่ตั้ง 168/53 ถ.ชัยพฤกษ์ เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ 10170

โทร.0-2435-0353,08-9607-7518

เปิดบริการ 17.00-22.00 น. ทุกวัน

หยุด เมื่อมีธุระ

แนะนำ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดง หมูกรอบ

หมายเหตุ จอดแวะซื้อข้างร้านได้ หรือไปจอดที่ซอย ธ.ออมสิน (ชัยพฤกษ์ 4 ) เยื้องๆ กัน

 

ทีเด็ด"ก๋วยเตี๋ยวเรือกะลา" สูตรร้านลุงเผ่า จ.นครนายก
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNUzB4TkE9PQ==

อิ่มอร่อย




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
เขื่อนขุนด่านปราการชล"เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายก มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกันเป็นประจำ

ถ้าไปเที่ยวแล้วจะไม่มาหาอะไรกินอร่อยๆ ก็จะ "เสียเที่ยว" ไปหน่อย

ที่บริเวณใกล้ๆ กับตัวเขื่อนขุนด่าน ก็มีร้านก๋วย เตี๋ยวเรือรสชาติจัดจ้าน เอร็ดอร่อยแถมยังมีเอกลักษณ์ประจำร้าน คือใช้ "กะลามะพร้าว" มาทำเป็นชามก๋วยเตี๋ยว

ชื่อว่า "ร้านลุงเผ่าก๋วยเตี๋ยวเรือกะลา"

แม้ว่าร้านจะอยู่ลึกเข้าไปในสวนซึ่งห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 1 กิโลเมตร แต่ก็ยังเต็มไปด้วยลูกค้าขาประจำพากันมากิน โดยเฉพาะช่วงตอนเที่ยงๆ จนแน่นไปหมด

ลุงเผ่า หรือ คุณเผ่า สิงห์บุปผา อดีตพนักงานบริษัทการบินไทย ปัจจุบันนี้เกษียณอายุแล้ว เล่าให้ฟังว่า ได้คิดสูตรการทำก๋วยเตี๋ยว เรือขึ้นมาจากการได้มีโอกาสไปชิมก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าดังๆ หลายเจ้า จากนั้นก็เอามาดัดแปลงสูตรให้เป็นของตัวเอง

ส่วนกะลามะพร้าวที่เอามาทำชามนั้น มีความคิดว่า ที่บ้านมีสวนมะพร้าว ทำให้มีกะลามะพร้าวอยู่จำนวนมาก จึงได้เกิดความคิดว่า หากดัดแปลงกะลาเป็นชามก๋วยเตี๋ยว โดยขัดกะลาให้ดำเงาแล้วประกบกับกะลาอีกครึ่งซีก ให้น้ำยาติดให้สนิทแล้วต่อด้ามไม้ออกมาเป็นที่จับอีกเล็กน้อย ก็จะเป็นการทุ่นค่าใช้จ่ายในการซื้อชามก๋วยเตี๋ยว
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


อีกทั้งยังมีความทนทาน และตกไม่แตกอีกด้วย

สูตรก๋วยเตี๋ยวของลุงเผ่า ที่มีรสชาติเข้มข้นนั้น เกิดจากใช้เครื่องปรุงสดๆ ใหม่ๆ ทั้งเนื้อวัวและเนื้อหมู รวมทั้งบรรดาเครื่องใน ทำความสะอาดอย่างดี หั่นชิ้นโตน่ากิน

ทีเด็ดร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเผ่าอยู่ที่ 2 อย่าง คือ "น้ำซุป" ที่มีรสชาติหอมหวาน และ "พริกน้ำส้ม" เครื่องปรุงเพิ่มรสชาติจี๊ดจ๊าด

น้ำซุปเนื้อนั้นเริ่มจากการนำเอากระดูกหมูส่วนข้อขา หรือที่เรียกว่า "คาตั๊ง" มาบุบพอแตก แล้วนำเอาใส่หม้อ เคล็ดลับสำคัญก็คือต้องใส่กระดูกลงไปก่อนที่น้ำจะเดือด ไม่อย่างนั้นน้ำไขกระดูกจะไม่ออกมาและน้ำซุปก็จะไม่หวาน

จากนั้นจึงเร่งไฟให้เดือด แล้วราไฟลงให้เหลือปานกลาง เคี่ยวต่อไปอีก 1 ชั่วโมง เป็นอันใช้ได้

ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวหมู ใช้กระดูกส่วนสันหลัง บุบพอแตกเช่นกัน นำใส่ในหม้อต้ม ในอัตราส่วน 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร แล้วใส่หัวไช้เท้า เคี่ยวต่อไปอีก 1 ชั่วโมง

ส่วนเครื่องในนั้น เน้นสั่งมาแบบวันต่อวัน ไม่เก็บค้าง โดยล้างให้สะอาดแล้วใส่ซอสปรุงรสและน้ำตาลทราย คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักแช่เย็นทิ้งไว้ข้ามคืน

อีกทีเด็ดของร้านลุงเผ่านั่นคือพริกน้ำส้ม ซึ่งใช้พริก 7 ชนิดมาตำผสมรวมกัน เป็นสูตรลับของทางร้าน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


เวลาลูกค้าสั่งก๋วยเตี๋ยวก็จะโรยพริกน้ำส้มปรุงมาในชามให้เสร็จ ซึ่งเจ้าของนั้นมั่นใจในรสชาติถึงขนาดที่จะต้องคอยบอกลูกค้าหน้าใหม่เสมอให้ชิมก่อนปรุง

ก๋วยเตี๋ยวร้านลุงเผ่า มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่ใส่ทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย เอ็นเปื่อย และเครื่องในสารพัด ไม่ว่าจะเป็น ตับ หัวใจ ผ้าขี้ริ้ว ม้าม และลูกชิ้น

ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมู มีทั้งหมูหมัก หมูตุ๋น ส่วนเครื่องในหมูก็มีทั้ง ตับ กระเพาะ เซ่งจี๊ หัวใจ และม้าม ทุกอย่างหั่นใส่ในชามมาชนิดชิ้นโตๆ ดูน่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ยังมีลวกจิ้มเครื่องในเนื้อวัว และเครื่องในหมู จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรเด็ด อันประ กอบด้วย พริกแห้งเผา กระเทียมเผา ใส่ซอสปรุงรส พริกป่น น้ำตาลทราย แล้วเหยาะน้ำมันหอยนิดหน่อย

สำหรับอาหารอื่นๆ มีทั้งยำรวมมิตรทะเล ที่ใส่ทั้งกุ้งสดตัวโต และปลาหมึกสดชิ้นใหญ่และลูกชิ้นปลา รสชาติเข้มข้นถูกใจคนชอบอาหารประเภทยำยิ่งนัก

อีกจานหนึ่งที่แนะนำก็คือ ยำผลไม้ ซึ่งใช้ผลไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นแก้วมังกร มะเขือเทศ สับปะ รด ถั่วลิสงคั่ว ถั่วฝักยาว แครอต และมะเฟืองผลไม้ที่นับวันจะหารับประทานยากขึ้นเรื่อยๆ

ยังมีส้มตำปูที่ใช้ปูดองอย่างดีไม่เค็มจัดเกินไป

ปิดท้ายด้วยขนมหวานที่ทางภรรยาของลุงเผ่าทำเอง ไม่ว่าจะเป็นถั่วแปบ ตะโก้ หรือขนมตาล สดๆ ใหม่ๆ จากเตา หรือน้ำชากาแฟโบราณรสอร่อย ก็จะครบเครื่องในการชิมก๋วยเตี๋ยวร้านนี้

บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเผ่า เป็นบรรยากาศแบบบ้านสวน มีต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นให้ร่มเงาแก่ลูกค้า คนมาเยือน มีลำธารเล็กๆ ไหลผ่าน มีศาลาร่มรื่น ที่ให้ลูกค้านั่งพื้นเอนกายพักผ่อนได้อย่างสบาย รวมทั้งเลี้ยงปลาไว้ให้เด็กๆ หรือคนใจบุญได้ซื้ออาหารเลี้ยงปลาเป็นการทำบุญทำทานได้อีกด้วย

ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเผ่า เปิดบริการตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. หยุดขายทุกวันจันทร์ ฉะนั้น ใครที่อยากจะมาชิมมาชมก๋วยเตี๋ยวเรือกะลาเจ้าอร่อยนี้ กรุณาดูวันที่จะมาด้วยจะได้ไม่ผิดหวัง

เส้นทางที่จะมายังร้านนั้น ให้เริ่มจากทางถนนที่จะไปยังน้ำตกนางรอง เมื่อถึงสามแยกที่จะเลี้ยวขวาไปทางเขื่อนขุนด่านปราการชลให้เลี้ยวขวาไปตามถนนดังกล่าวประมาณ 500 เมตร จะพบทางแยกเล็กๆ ขวามือ มีป้ายร้านก๋วยเตี๋ยวเรือลุงเผ่าบอกทางไว้ ให้ขับรถเข้าไปตามทางเล็กๆ เมื่อถึงหน้ารีสอร์ตที่ชื่อหญ้างาม รีสอร์ท ให้เลี้ยวเข้าไปภายใน ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่สุดทาง หรือจะโทร.มาก่อนก็ได้ที่เบอร์ 08-3295-8119

 

ตี่โภชนา เป็ดย่างหนังกรอบที่สุดในประเทศไทย

http://www.matichon.co.th/matichon/v...day=2008-11-16

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>
วันนี้ปิ่นโตเถาเล็กขอเล่าเรื่องร้านเป็ดย่างหนังกรอบที่สุดในประเทศไทยเท่าที่ได้เคยชิมมา เรื่องราวของผู้ก่อร่างสร้างตัวจากเจ้ารถเข็นเล็กๆ จนสามารถขยับขยายมีร้านของตัวเอง สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วในตอนนี้ ร้านนี้มีชื่อว่า "ตี่โภชนา" ของเฮียตี่นี่เอง

จริงๆ แล้วชิมของเขามาตั้งนมนาน นับตั้งแต่เฮียตี่ย้ายนิวาสถานจากเชียงรายเข้ากรุงเทพฯมาตั้งรถเข็นขายอยู่หน้าโรงพยาบาลพญาไท 1 ถนนศรีอยุธยา เมื่อปี 2533 จนกระทั่งพี่เทิ่ง สติเฟื่อง ได้พาคุณชายถนัดศรีไปชิมและนำไปบอกต่อในคอลัมน์ของพ่อ แต่ผมนั้นกลับทำตกหล่นเล็ดลอดไม่ได้เขียนถึงเสียที ถ้าไม่แนะนำก็เหมือนยังขาดๆ อยู่ เอาเป็นว่าตามไปชิมกันเลยดีกว่า

ร้านตี่โภชนาของเฮียตี่เป็นตึกแถว 2 คูหาริม "ถนนสุคนธสวัสดิ์" อยู่ตรงนี้มาได้ 16 ปีแล้ว ถ้าเข้าทางซอยลาดพร้าว 71 วิ่งไปจนสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นเลี้ยวขวาที่สามแยกถัดไป เข้าถนนนาคนิวาส จากจุดนี้วิ่งไปเรื่อยๆ ผ่านเขตลาดพร้าวเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เมื่อวิ่งผ่านซอยนาคนิวาส 48 ถนนเส้นนี้จะเปลี่ยนชื่อเป็นถนนสุคนธสวัสดิ์ในบัดดล อีกสักพักถนนจะบังคับเลี้ยวขวา ให้มองด้านซ้ายจะเห็นตาข่ายสูงของสนามไดรฟ์กอล์ฟ ส่วนร้านตี่โภชนาอยู่ทางฝั่งขวาใกล้กับซอยสุคนธสวัสดิ์ 6 มีป้ายร้านเบ้อเริ่มเห็นได้ชัด
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


หรือจะเข้าทางถนนเกษตร-นวมินทร์ ฝั่งขาเข้าเมืองก็ได้ สังเกตตรงสี่แยกไฟแดงมีป้ายบอกทางไป "โชคชัย 4" เมื่อเลี้ยวเข้ามาจะเป็นถนนสุคนธสวัสดิ์ด้านตรงข้ามกับทางที่บอกไปก่อนหน้า วิ่งไปตามทางจนกระทั่งเลยแยกทางเข้าโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ให้มองหาป้ายร้านตี่โภชนาทางด้านซ้าย (มาทางนี้สนามไดร์ฟกอล์ฟอยู่ฝั่งขวาแทน)

ของอร่อยอันดับหนึ่งยอดนิยมตลอดกาลของเฮียตี่คือ "เป็ดย่างหนังกรอบ" เฮียตี่คิดค้นเตาย่างซึ่งสั่งทำขึ้นเป็นพิเศษ รอบหนึ่งย่างได้ 15 ตัว ใช้เวลา 50 นาที โดยใช้เป็ดเชอรี่ของบางกอกแร้นช์ ไม่ชุบสีผสมอาหารใดๆ แต่ชุบเครื่องเทศสูตรลับเฉพาะของเฮียตี่ นำไปย่างจนกระทั่งน้ำมันโดนรีดออกเกือบหมด ท่านก็จะได้ชิมเป็ดย่างหนังกร๊อบกรอบที่โดนรีดน้ำมันจนกลายเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อเป็ด ไม่สามารถแล่แยกจากกันได้ จึงกินได้ไม่เลี่ยน ให้ราดด้วยน้ำเป็ด และจิ้มน้ำจิ้มสูตรพิเศษสีน้ำตาลอ่อน ซึ่งมีส่วนผสมของงา มัสตาร์ดและเต้าเจี้ยว หรือจะจิ้มน้ำจิ้มซีอิ๊วดำใส่พริกชี้ฟ้าตามปกติก็ได้
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


เคล็ดลับการกินเป็ดย่างให้หนังกรอบที่สุดคือต้องรีบกินทันทีที่เขามาเสิร์ฟที่โต๊ะ เพราะเวลาสับเป็ด ความชื้นจากเนื้อเป็ดจะส่งผ่านเข้าไปถึงหนังเป็ด แต่ถึงอย่างไรก็ตามถึงแม้จะทิ้งไว้นานก็ยังกรอบอร่อยกว่าร้านอื่นๆอยู่ดี

อีกอย่างหนึ่งเป็นของโปรดของแม่ผมคือ "หมูกรอบ" ที่หนังกรอบเอามากๆ และโดนย่างจนแทบไร้มันอีกเช่นกัน จึงกินได้ไม่เลี่ยน ห้ามพลาดเช่นกัน "หมูแดงอบน้ำผึ้ง" ของที่นี่ เนื้อนุ่มเนียนหอมกลิ่นรมควันเพราะย่างด้วยอ้อยและใช้เตาถ่านจึงมีกลิ่นหอมเหลือหลาย ไม่ใช้วิธีต้มให้เสียอารมณ์ สีแดงที่เห็นไม่ใช่สีผสมอาหารแต่เป็นสีของน้ำตาลธรรมชาติที่ใช้หมักหมู

นอกจากเป็ดย่างแล้ว ยังมี "เป็ดพะโล้" รสชาตินุ่มนวลกลอมกล่อม เนื้อแสนนุ่ม เฮียตี่ลงทุนทำผงพะโล้เอง สนนราคาต่อกิโลปาเข้าไป 2,000 กว่าบาท เพราะมี "หญ้าฝรั่น (Saffron)" กิโลละเกือบหมื่นเป็นส่วนผสมด้วย จึงมีกลิ่นหอมจรุงใจ

ของเหล่านี้จะกินคู่กับข้าวเปล่าหรือจะลองชิม "บะหมี่หยก" ทำเอง (อีกแล้ว) ใส่น้ำใบเตยของเฮียตี่ ก็ดีไม่น้อย อยากซดน้ำๆ มีให้เลือกหายอย่าง มี "เอ็นหมูตุ๋นน้ำแดง" ซึ่งทำจากเอ็นหมูแห้งนำเข้าจากเมืองจีน หรือจะลอง "กระเพาะปลาน้ำแดง" หรือ "เป็ดตุ๋นมะนาวดอง" ก็ได้ ชอบอย่างไรให้สั่งอย่างนั้น ถ้าชอบแทะๆ ให้สั่ง "ปากกับปีกเป็ดอบหม้อดิน" มาแทะเล่นอีก 1 อย่าง

ร้านเฮียตี่เปิดทุกวัน ไม่มีวันหยุด ถ้าสนใจอยากเหมาไปออกงานนอกสถานที่ เฮียตี่คิดอย่างต่ำ 8,000 บาททำได้ 200 จาน โดยไม่ยอมลดมาตรฐาน ห้ามขอเพิ่มจำนวนจานโดยใส่เป็ดน้อยชิ้นลงเป็นอันขาด โปรดรับทราบตามนี้ด้วย เห็นไหมว่าเขาไม่ยอมเสียชื่อเสียง ไม่ยอมลดคุณภาพใดๆ ทั้งสิ้น แล้วอย่างนี้จะไม่ตามไปชิมอีกหรือจ๊ะ

ข้อมูลร้าน

ตี่โภชนา

โดย คุณเกียรติก้อง(ตี่) จิรสุขานนท์

ที่ตั้ง 41/175-176 ถนนสุคนธสวัสดิ์ (ใกล้ปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 6) เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ 10230

โทร.0-2570-9835 ถึง 36, 08-1938-4000, 08-9167-3221

เปิดบริการ 08.00-18.00 น.จันทร์-เสาร์ 08.00-16.00 น. อาทิตย์

หยุดหลังเทศกาลสงกรานต์ 2 วัน

แนะนำเป็ดย่างหนังกรอบ หมูกรอบ หมูแดง เป็ดพะโล้ เอ็นหมูตุ๋นน้ำแดง กระเพาะปลาน้ำแดง เป็ดตุ๋นมะนาวดอง ปากและปีกเป็ดอบหม้อดิน
<!-- / message --><!-- sig -->

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ปักธงขาย "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ชู "น้ำซุปรสเด็ด" สร้างเงิน
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4>http://www.komchadluek.net/2008/11/16/x_agi_b001_231040.php?news_id=231040

</TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


วิถีชีวิตของคนทุกคนย่อมแตกต่างกันไป ต่างดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดทั้งของตนเองและครอบครัว เฉกดั่ง นิกร เดชะอุบ หนุ่มเมืองเหนือ วัย 32 ปี ที่เป้าหมายชีวิตขอเพียงอยู่ได้อย่างพอเพียง
ไม่เป็นหนี้เป็นสินใคร ทำให้ในที่สุดเขาตัดสินใจเปลี่ยนทางเดินชีวิตใหม่ กลับไปปักหลักที่บ้านเกิด และพยายามสร้างกิจการเล็กๆ เป็นของตัวเอง กระทั่งมีโอกาสฝึกอาชีพกับ “คม ชัด ลึก” จนกลายเป็นเจ้าของร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ที่ปัจจุบันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ก่อนหน้าเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือในตัวตลาด อ.ลี้ จ.ลำพูน ภายใต้ชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวเรือ คม ชัด ลึก" เมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา นิกรเล่าว่า เป็นลูกจ้างในโรงงานนิคมอุตสาหกรรม จ.ลำพูน แต่ด้วยอยากกลับไปอยู่กับลูกชายวัย 6 ขวบ จึงจูงมือ "สุพัตรา เดชะอุป" ภรรยาคู่ใจ เสมียนโรงงานเดียวกัน กลับไปใช้ชีวิตที่ อ.ลี้ ทว่าสิ่งที่หวังไว้ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะต้องกลายเป็นลูกจ้างอีกครั้ง โดยเป็นพนักงานติดตั้งและซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า มีรายได้เดือนละ 4,000 บาท <CENTER></CENTER>


ขณะที่แฟนสาวตกงาน ต่อมาได้รับโทรศัพท์จากพี่สาวของภรรยาซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ ชักชวนให้เข้าฝึกอาชีพในโครงการคม ชัด ลึก นิกรจึงเลือกอบรมเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือลูกชิ้นเนื้อสด เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา
"วันที่อบรม วิทยากรบอกว่าพวกคุณจะได้ชิมก๋วยเตี๋ยวเรือที่อร่อยที่สุดในประเทศ ตอนแรกผมไม่เชื่อ จนได้ลองชิมและกินต่อหลายชามเพราะน้ำซุปอร่อยมาก จากนั้นผมได้ทดลองทำตามหลังฟังบรรยายและสาธิต ทั้งที่ไม่เคยจับอุปกรณ์ทำก๋วยเตี๋ยวมาก่อน แต่ก็สามารถเรียนรู้ได้ภายใน 1 วัน" นิกรเล่าย้อนถึงระหว่างการเข้าร่วมอบรม
ความไม่มั่นใจในฝีมือหลังผ่านการทดลองทำราว 2 สัปดาห์ นิกรบอกว่าตอนแรกไม่คิดว่าจะเปิดร้านขายแต่อย่างใด แต่เพราะทุกคนที่ได้ชิมรสชาติจากการปรุงของตน โดยเฉพาะการทดลองปรุงเลี้ยงญาติและเด็กๆ ในหมู่บ้าน ทุกคนต่างให้คำชมและแนะนำว่าควรเปิดร้าน จึงตัดสินใจใช้เงิน 1.2 หมื่นบาท ซื้ออุปรณ์พร้อมปรับปรุงร้าน โดยใช้ชื่อ “ก๋วยเตี๋ยวเรือ คม ชัด ลึก” ในเวลาต่อมา
ถึงวันนี้เกือบ 1 ปี ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือเล็กๆ กลายเป็นที่รู้จักของคนใน อ.ลี้ มากขึ้น โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนในหมู่บ้าน ข้าราชการท้องถิ่น ซึ่งติดใจรสชาติของน้ำซุปที่เข้มข้น ที่ปรุงจากเครื่องเทศและการหมักกระดูกหมูนานกว่า 3 ชั่วโมง ส่วนวัตถุดิบ เครื่องปรุงอื่นๆ จะเน้นผลิตขึ้นเอง ทำให้มั่นใจในคุณภาพ รวมถึงกรรมวิธีการทำแบบฉบับเฉพาะตัว ซึ่งเขาย้ำว่าสวนทางกับราคาจริงๆ เพราะความอิ่มอร่อยนั้นเพียงธรรมดาชามละ 20 บาท และพิเศษ 25 บาท
"ลูกค้ามีมากขึ้นบางวันต้องรอต่อคิว ส่วนใหญ่ติดใจรสชาติของน้ำซุป ส่วนรายได้วันธรรมดาหักค่าใช้จ่ายจะได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 600 บาท วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท" นิกรบอกและว่า อนาคตมีเป้าหมายจะขยายร้านเพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย
อยากมีอาชีพที่มั่นคง ไม่ยาก หากมีใจรัก เหมาะทีเดียวสำหรับผู้ที่ว่างงานหรือมองหาอาชีพเสริม "เมนูก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณสูตรสมุนไพร" โดยคุณอรภา ธนาธีระสกุล เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือโบราณ ริมถนนหทัยราษฎร์ กทม.จะมาบอกเคล็ดลับการทำอย่างละเอียด ในวันเสาร์ที่ 6 ธันวาคมนี้ สนใจสำรองที่นั่งที่โทร.0-2338-3356 และ 0-2338-3357

ธานี กุลแพทย์​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"เย็นตาโฟปักกิ่ง" รสเลิศลิ้น ชวนลิ้มลอง
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000135681
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 พฤศจิกายน 2551 15:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน "เย็นตาโฟปักกิ่ง"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> มื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" มีโอกาสได้มาเยือนย่านบางขุนนนท์ ตรงฝั่งธนบุรีกันอีกแล้ว และทุกครั้งที่ได้มาบางขุนนนท์พร้อมกับอาการหิวโหยทีไร ก็ต้องบอกว่าเราจะได้รับความอิ่มท้องกับอาหารอร่อยๆ เสียทุกครั้งไป เพราะอย่างที่รู้ๆ กันดีว่าที่นี่นั้นมีของกินอร่อยๆ ให้เลือกกินมากมาย โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวนั้นมีร้านเจ้าเด็ดเจ้าดังตั้งขายอยู่หลายร้านด้วยกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คุณปิยะดา ศุภธีระนนท์ กำลังปรุงเย็นตาโฟ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อย่างในมื้อนี้เราก็เลือกที่จะมาอิ่มท้องกับก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟรสเด็ดกันที่ร้าน "เย็นตาโฟปักกิ่ง" ที่เปิดขายมานานกว่า 40 ปีแล้ว มีคุณปิยะดา ศุภธีระนนท์ เป็นเจ้าของร้าน และเป็นผู้ปรุงเย็นตาโฟตามสูตรเด็ดที่สืบทอดต่อมาจากคุณพ่อ ซึ่งสูตรที่ว่านั้นเป็นสูตรมาจากปักกิ่งที่ไม่มีร้านไหนเหมือน และที่นี่ก็ขายแต่เย็นตาโฟอย่างเดียวเท่านั้น เรียกว่ามั่นใจในรสชาติเย็นตาโฟที่เด็ดจริง

เย็นตาโฟของที่นี่มีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกหลายอย่าง มีเส้นหมี่ขาว เส้นเล็ก เส้นใหญ่ และบะหมี่เหลือง และในชามจะเต็มไปด้วยเครื่องหลายอย่างมีทั้งลูกชิ้นปลาที่ทางร้านทำเองโดยใช้เนื้อปลาอินทรีย์ ฮือก๊วยที่ทำมาจากเนื้อปลาอินทรีย์เช่นกัน ลูกชิ้นแบนที่ปรุงรสและใส่เห็ดหอมมาด้วย มีปลาหมึกกรอบ เลือด เต้าหู้ เกี๊ยวทอด และที่ทำให้เย็นตาโฟของที่นี่ไม่เหมือนร้านไหน ก็คือ มีเผือกทอดกรอบที่ทางร้านทำเองใส่มาด้วย และผักบุ้งที่ใส่มาด้วยนั้นทางร้านก็เลือกใช้ผักบุ้งไทยก้านเขียวอวบ ที่ต้องสั่งมาจากแม่น้ำท่าจีนเท่านั้น เพราะว่ามีความกรอบเป็นพิเศษ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เย็นตาโฟน้ำ (บน) เย็นตาโฟเส้นใหญ่แห้ง (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นี่คือส่วนของเครื่องที่ใส่มาหลายอย่าง แต่เย็นตาโฟจะขาดสิ่งสำคัญไปไม่ได้นั่นก็คือ ซอสเย็นตาโฟ ซึ่งซอสเย็นตาโฟของที่นี่ทางร้านปรุงเองตามสูตรเด็ดเฉพาะ ที่จะเน้นใช้เต้าหู้ยี้นำมาปรุงรสชาติและใส่พริกขี้หนูสวนบดลงไป เคี่ยวจนได้ที่เป็นซอสเย็นตาโฟที่มีความเข้มข้น สีสันสวยโดยไม่ได้ใส่สีผสมอาหาร

ชิมรสชาติเย็นตาโฟแล้วต้องบอกว่ากินโดยไม่ต้องปรุงเครื่องพริกเพิ่มเติมเลย เพราะด้วยซอสเย็นตาโฟที่เข้มข้นออกรสกลมกล่อม เจือรสเผ็ดนิดๆ แถมหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้อ่อนๆ ส่วนน้ำซุปนั้นก็หวานกลมกล่อม เพราะทางร้านใช้กระดูกสันหลังหมูมาต้มทำน้ำซุป

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกาเหลาเย็นตาโฟแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> มากินเย็นตาโฟของที่นี่จะสั่งแบบแห้ง หรือแบบน้ำ หรือจะสั่งแบบไม่เอาเส้นเป็นเกาเหลาก็ล้วนแล้วแต่เลิศรสชวนกินทั้งนั้น แถมสนนราคาก็ย่อมเยาเพียงชามละ 30 บาท พิเศษ 35 บาท และยังมีน้ำกระเจี๊ยบ น้ำลำไย และน้ำบ๊วยที่ทางร้านทำเอง ราคาแก้วละ 10 บาท ให้สั่งมาดื่มคู่กับก๋วยเตี๋ยวที่ชวนกินของร้าน "เย็นตาโฟปักกิ่ง"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

"เย็นตาโฟปักกิ่ง" ตั้งอยู่ที่ 25/47 ถ. บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกปิ่นเกล้า ให้วิ่งตรงมาทาง ถ.จรัญสนิทวงศ์ (ที่จะมุ่งหน้าไปท่าพระ) วิ่งตรงมาจนเจอแยกไฟแดง ก็ให้เลี้ยวขวาเข้า ถ.บางขุนนนท์ ตรงเข้ามาประมาณ 800 ม. จะเห็นร้านเย็นตาโฟปักกิ่งอยู่ซ้ายมือเป็นตึกแถว จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามกับวัดศรีสุดาราม เปิดทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น. โทร. 0-2424-9489

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "เย็นตาโฟปักกิ่ง"
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000135684

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 พฤศจิกายน 2551 15:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : เย็นตาโฟปักกิ่ง

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

เมนูจานเด่น : เย็นตาโฟน้ำ, เย็นตาโฟเส้นใหญ่แห้ง, เกาเหลาเย็นตาโฟแห้ง

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 25/47 ถ. บางขุนนนท์ แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกปิ่นเกล้า ให้วิ่งตรงมาทาง ถ.จรัญสนิทวงศ์ (ที่จะมุ่งหน้าไปท่าพระ) วิ่งตรงมาจนเจอแยกไฟแดง ก็ให้เลี้ยวขวาเข้า ถ.บางขุนนนท์ ตรงเข้ามาประมาณ 800 ม. จะเห็นร้านเย็นตาโฟปักกิ่งอยู่ซ้ายมือเป็นตึกแถว จุดสังเกตอยู่ตรงข้ามกับวัดศรีสุดาราม

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ :0-2424-9489
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวหมูทอด
http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNUzB5TVE9PQ==

สวรรค์ในครัว

เขียง มะขาม



จัดอันดับประเทศที่มีร้านอาหารจานด่วนมากที่สุด เมืองไทยน่าจะอยู่ในระดับต้นๆ อย่างไม่ต้องสงสัย

เพราะไม่ว่าซอกไหนมุมไหน ที่จะไม่เจอร้านข้าวแกงหรือร้านก๋วยเตี๋ยวเป็นไม่มี

ในจำนวนนี้ที่ดีก็มาก ที่ห่วยขนาดกินเข้าไปแล้วยังนั่งงงๆ อยู่ว่า เอ๊ะร้านนี้เขาอยู่มาได้อย่างไรหว่าก็เยอะไป

เกริ่นมาพอสมควรนี่เพราะว่า มีคนไปเจอร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดใหม่มา

ไม่ถึงกับอยู่ในเขตอิทธิพล (คือเดินหรือขี่จักรยานไปกินได้) เสียทีเดียว

แต่อยู่ไม่ไกลนัก (คือถึงนั่งรถไปก็ไม่เกินครึ่งชั่วโมง)

ร้านที่ว่านี่ชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวหมูทอด สามัคคี" ไม่ได้ตั้งชื่อให้เข้ายุคเข้าสมัยที่ต้องการความสมานฉันท์สามัคคีอะไรนั่นหรอกครับ
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


แต่เพราะว่าร้านเขาอยู่ในซอยสามัคคีที่แยกจากถนนประชาชื่น-นนทบุรี ทางที่จะเข้าหมู่บ้านประชานิเวศน์ 2 และ 3 นั่นแหละครับ

เข้าซอยแล้วด้านขวามือเป็นอู่รถเมล์สาย 66 ให้เลยไปอีกหน่อย ดูซ้ายมือเข้าไว้ ร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ติดกับร้านแว่นบิวตี้ฟูล ก่อนถึงร้าน 7-11

ถ้ากินที่ร้านเขาจะมีรายการจานด่วนให้เลือกหลายอย่าง ทั้งหมูไก่กุ้งปลาหมึก ทอดกระเทียมราดข้าว ผัดกะเพรา ผัดพริกแกง

แต่เมื่อขึ้นชื่อว่าร้านก๋วยเตี๋ยวก็ต้องลองก๋วยเตี๋ยวสิครับ

เด็ดที่สุดประจำร้านนี้คือบะหมี่ เส้นเขาเล็กแบบถ้าเป็นสปาเกตตีก็ต้องเรียกว่าแองเจิล แฮร์ และเหนียว นุ่ม
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


และเข้าท่าขนาดผู้ชำนาญการด้านบะหมี่ที่ระดมกันมาช่วยชิมตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าไม่ใช่เส้นสดที่ทำเองทุกวัน ก็ต้องเลือกซื้อจากร้านทำบะหมี่ได้ดีมาก

เพราะหอมแป้งและไข่ติดจมูกขึ้นมา

น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เขาใช้น้ำต้มกระดูกหมู หัวไช้เท้า และเกลือเป็นหลัก

ต้มนานจนออกมาเค็มหวานกำลังเนียน แต่บางวันพ่อครัวก็ใจถึงใส่หัวไช้เท้าให้เยอะจนกลิ่นนำหน้าอย่างอื่นขึ้นมา

ถ้าสั่งเกี๊ยว จะให้ผักกวางตุ้งมามากเป็นพิเศษ-อันนี้ชอบ

ที่สำคัญคือร้านเขาน้ำเดือดจัด ลวกแล้วเส้นหรือแป้งเกี๊ยวจะสุกพอดี กัดไปแล้วไม่สากลิ้น

สมาชิกฝ่ายหญิงของทีมพิสูจน์อาหารอีกรายบอกว่าชอบมากหมูทอดเนี่ย-แนว

นอกจากรายการที่ว่ามานี้แล้ว เขายังมีข้าวหมูทอดขายด้วย(แหงอยู่แล้ว)

มีลูกชิ้นหมู หมูตุ๋น ซึ่งยังไม่ได้ลองทั้งสองอย่าง

ราคาก็อยู่ระดับ "กินได้" คือธรรมดา 30 พิเศษ 35

เทียบกับความตั้งใจ ความสะอาดสะอ้าน ก็สมกัน

อ้อ แล้วที่ร้านนี่เขา "แนว" อีกอย่างหนึ่งก็คือ หม้อก๋วยเตี๋ยวปลอดสารตะกั่ว

และที่สำคัญคือปลอดผงชูรส

อย่างสุดท้ายนี่สมาชิกสมาคมผู้รักและเกรงใจภรรยาซึ่งแพ้ผงชูรสอย่างรุนแรง ถูกใจมั่ก-มั่ก

ผ่านไปอุดหนุนกันได้

ไทยจะได้ติดอันดับโลกอยู่ต่อไป

 

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย อ.อรอนงค์
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=66134&NewsType=2&Template=1



<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top>อ.อรอนงค์ โพธิ์ศรี ทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ขายมากว่า 20 ปี รสชาติอร่อยถูกใจผมมาก ผมจึงเชิญไปสอนทำก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ให้กับผู้ที่ต้องการเปิดเป็นอาชีพ จนมีลูกศิษย์เรียนแล้วไปเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวขายทั่วประเทศ สูตรก๋วยเตี๋ยวอร่อย ๆ อย่างนี้ ธุรกิจแฟรนไชน์ขายกัน 5 หมื่น ถึง 1 แสนบาท แต่วันนี้ผมขอสูตรการทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อจาก อ.อรอนงค์ ให้ทำกินเองที่บ้าน แต่ถ้าจะทำขายต้องฝึกฝีมือสักพัก เมื่อความอร่อยเข้าที่จึงจะเปิดร้านได้

เครื่องปรุง น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น 1.กระดูกข้อวัว 1 ข้อ, 2.เนื้อสามชั้นหน้าท้องวัว 2 กิโลกรัม, 3.เอ็นแก้ว 1 กิโลกรัม, 4.พริกไทยเม็ดตรามือ 1 ทัพพี, 5.ผงหมักเนื้อนุ่มโชตธนโชติ 3 ช้อนโต๊ะ, 6.โป๊ยกั๊ก 10 ดอก, 7.อบเชย (ยาวชิ้นละ 3 นิ้ว) 5 ชิ้น, 8.ชวนเจีย (พริกหอม) 2 ช้อนโต๊ะ, 9.รากผักชี 5 ราก, 10.ซอสปรุงรส 6 ทัพพี, 11.ซีอิ๊วขาว 5 ทัพพี, 12.เกลือป่น 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ 1.ใช้เหล็กแหลมจิ้มตามชิ้นเนื้อให้ทั่ว แล้วใช้พริกไทยป่นและผงหมักเนื้อนุ่มทาละเลงให้ทั่ว หมักทิ้งไว้ 30 นาที เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าไปในเนื้อ, 2.ใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงหม้อก๋วยเตี๋ยว แล้วเติมน้ำให้เต็มหม้อ ต้มด้วยไฟอ่อน ๆ, 3.เมื่อน้ำเดือดปุด ๆ ให้ใส่เนื้อสามชั้นที่หมักไว้ลงไปต้มเคี่ยวจนเนื้อนุ่ม จากนั้นใส่เอ็นแก้วลงไปต้มด้วยจนเปื่อยดีแล้วจึงตักขึ้นมาหั่นเป็นเอ็นนุ่ม, 4.น้ำก๋วยเตี๋ยวที่เคี่ยวไว้ 2 ชั่วโมงนำไปทำน้ำก๋วยเตี๋ยวได้เลย แต่เนื้อที่ต้มต้องเคี่ยวไปอีก 1 วัน ถึงจะได้เนื้อเปื่อยนุ่ม ๆ

อ.อรอนงค์ เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นเนื้อตุ๋น ในหมู่บ้านพระปิ่น 2 พุทธมณฑลสาย 2 เป็นร้านที่ลูกน้องท่าน ผบ.ทบ. เป็นลูกค้าขาประจำทุกวัน โทร.08-1441-9895

ร้านเนื้อตุ๋นที่มีปัญหาต้มเนื้อไม่นุ่ม สอบถาม โทร.08-1577-1317 ผมมีวิธีสอนให้ครับ

ขุนขยับ แม่มะลิ​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อร่อยเด็ด...ก๋วยเตี๋ยววนิดา หนองคาย

http://www.posttoday.com/magazine.php?id=18720

รายงานโดย :เรื่อง / ภาพ ลีโอ leoken@postoday.com
วันศุกร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

เพิ่งกลับจากเที่ยวลาวใต้ไม่นาน แต่อาการอยากกินเฝอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาแม้แต่น้อย...


เที่ยวตระเวนร้านเฝอที่มีรสชาติและหน้าตาละม้ายกับเฝอของเวียดนาม ที่เรากินอยู่ในลาวนั้นแสนจะยาก มองไปทางไหนก็เจอแต่ก๋วยเตี๋ยวตระกูลดัง...
แต่แล้วในที่สุดผมก็สมปรารถนาเมื่อมาพานพบร้านก๋วยเตี๋ยววนิดา หนองคาย อาการคิดถึงเฝอเลยมลายหายไปฉับพลัน!
ร้านนี้เขาเปิดให้ลิ้มลองความอร่อยเด็ดมากว่า 20 ปีกันเข้าไปแล้ว เดิมเปิดอยู่ข้างฟู้ดแลนด์ลาดพร้าว ก่อนจะขยับขยายมาอยู่ข้างธนาคารกสิกรไทยสาขาลาดพร้าว 99 ได้ 6 ปี
ความประทับใจแรกที่เข้ามาร้านนี้คือความสะอาดสะอ้าน ในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำสยายอุรา ความประทับใจต่อมาคือมีเมนูอาหารเวียดนามให้เลือกลิ้มลองกว่า 20 เมนูทีเดียว และที่ประทับใจที่สุดก็คือเฝอหรือก๋วยเตี๋ยวหนองคายที่เป็นไฮไลต์ของร้าน บอกให้ก็ได้ว่ารสชาตินั้นอร่อยกว่าที่ไปกินที่ลาว หรือเวียดนามเสียอีก
น้ำซุปของเขาเข้มข้นและหอมล้ำด้วยสมุนไพรกว่า 10 ชนิด ซึ่งเป็นสูตรเด็ดของทางร้าน เส้นก็เหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เจ้าของร้านบอกว่าสั่งตรงมาจากเวียงจันทน์ ซึ่งยังคงใช้กรรมวิธีการทำเส้นแบบใช้มืออยู่เลย จึงทำให้มั่นใจว่าปราศจากสารอันตรายใดๆ ยิ่งได้พริกสดเผา กะปิเผาที่ให้ความหอม พร้อมเหยาะซอสศรีราชาปรุงรสในน้ำซุปยิ่งอร่อยเด็ด เมื่อแกล้มกับผักพื้นบ้านอย่างผักแขยง ผักชีลาว ผักแพว ใบสะเม็กที่ออกรสเปรี้ยว และหากินไม่ได้ง่ายๆ ยิ่งอร่อยเด็ดชนิดที่คาดไม่ถึง
อ๋อ !!! เกือบลืมบอกไปแม้แต่เนื้อทางร้านก็เลือกใช้เนื้อโคขุน เนื้อที่มีความมันแทรกอยู่จึงให้ความนุ่มกว่า หอมกว่าเนื้อธรรมดาทั่วๆ ไป งานนี้ถ้าไม่เบิ้ลให้หายอยากคงนอนไม่หลับเป็นแน่ !
นอกจากเฝอ เมนูที่ไม่ควรพลาด

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ชินเขต2/8"จัดจ้าน โดนใจ
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141084
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 พฤศจิกายน 2551 15:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" คืออีกหนึ่งรูปแบบของกินแบบไทยๆ ที่ได้ชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็เพราะแต่ก่อน พ่อค้า แม่ขาย เขาต้องพายเรือขายกันในคลอง แต่สมัยนี้แสนสะดวกสบาย เพราะก๋วยเตี๋ยวเรือหนีน้ำขึ้นบนกันหมดแล้ว

เกริ่นแบบนี้ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่า มื้อนี้อาหารอันโอชะที่ "ผ่านมาแวะกิน"จะพาไปเติมเต็มให้กระเพาะของเรา คือ ก๋วยเตี๋ยวเรือ นั้นเอง แม้ว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือ จะหากินง่ายมีมากมายหลายเจ้า แต่จะหากินรสชาติดั้งเดิมที่คงความเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือไว้หายากเต็มที เพราะ ก๋วยเตี๋ยวเรือ รสชาติต้องจัดจ้าน ปรุงเครื่องให้ถึงรสไม่ครึ่งๆกลางๆ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นเล็กเนื้อน้ำตก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และเป็นโชคดีที่มีเพื่อนฝูงรักกินของ "ผ่านมาแวะกิน"แนะนำร้านก๋วยเตี๋ยวมาให้ลิ้มลอง ร้านนี้ชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ชินเขต2/8" ร้านเล็กๆบรรยากาศกันเอง ที่ตั้งอยู่ตรงปากซอยชินเขต2/8

ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลงให้มากความ มาถึงแล้วขอประเดิมชามแรกกันเลยกับ เส้นเล็กเนื้อน้ำตก (15 บาท) เข้มและข้นด้วยเลือดวัว ผสมกับน้ำซุปกระดูกวัวหอมกรุ่น ในชามมีทั้งเส้นเล็กเหนียวนุ่ม เนื้อสดหมัก เนื้อเปื่อย ลูกชิ้นเนื้อวัวแท้ และผักบุ้งสดกรอบ รสชาติจัดจ้านแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นใหญ่หมูแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ยังมี เส้นหมี่เนื้อแห้ง (15บาท) ที่เส้นหมี่ถูกลวกจนเหนียวนุ่มพอดี ใส่ทั้งลูกชิ้น เนื้อสดที่เหนียวนุ่ม เนื้อและเนื้อเปื่อยที่ใช้เวลาตุ๋นนานกว่า 3 ชั่วโมง กินคู่กับผักสดอย่างใบกระเพรา หรือ โหระพา เพื่อดับกลิ่นคาว

หากใครไม่กินเนื้อ ที่นี่ก็ยังมี ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมูเป็นอีกตัวเลือก ที่ "ผ่านมาแวะกิน"สั่งมาคือ เส้นใหญ่หมูแห้ง (15บาท) ในชามจะใส่เนื้อหมูหมักจนนุ่ม ลูกชิ้นหมูอย่างดี ผักบุ้งลวก ชามนี้ไม่ใส่น้ำซุป แต่ใส่ซีอิ้วดำลงไปแทน โรยหน้าด้วยพริกป่น ยังคงความจัดจ้านไว้ดุจเดิม

ใครที่กังวลว่าเนื้อกับหมูจะถูกลวกปนกันในหม้อเดียวหายห่วงได้เลย เพราะก๋วยเตี๋ยวที่นี่จะแยกเป็นสองหม้อ คือหม้อเนื้อกับหม้อหมู เพื่อให้ลูกค้าเลือกได้ตามใจไม่ปะปนกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นหมี่เนื้อแห้งกับแคบหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก่อนกลับเจ้าของร้านใจดียังกระซิบบอกเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆของการกินก๋วยเตี๋ยวเรือมาด้วยว่า จะกินก๋วยเตี๋ยวเรือให้อร่อย ต้องใส่เส้นน้อย เพราะเมื่อเส้นอืดแล้วจะทำให้เสียรสชาติ แล้วยังฝากเมนูเด็ดที่ทางร้านมีอย่าง เกาเหลาเนื้อแห้ง (15 บาท) และเครื่องดื่มที่ชงเองอย่าง โอเลี้ยงและชาดำเย็น (6 บาท) มาแนะนำอีกด้วย ว่างๆ ก็ลองแวะมาชิมกันที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ชินเขต 2/8"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาชินเขต2/8" ตั้งอยู่ที่ 117/151 ซ.ชินเขต 2/8 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.10210 การเดินทางจากสี่แยกพงษ์เพชร วิ่งตรงมาทางที่จะไปสี่แยกเกษตรศาสตร์ จะเจอสะพานลอยแรกให้เลี้ยวเข้า ซ.ชินเขต1 ก่อน จากนั้นเมื่อเจอแยกแรกให้เลี้ยวขวา ขับรถไปเรื่อยๆจะเจออีกแยกหนึ่งให้เลี้ยวขวาเช่นกัน ขับมาอีกประมาณ 50 เมตร จะเจอร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ

จุดสังเกตร้านจะอยู่เลย "ร้านอาหารเจ๊ณี" เล็กน้อย เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30-15.00น. ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์ สามารถจอดรถได้หน้าร้านและในซอย โทร.08-5845-5241, 08-1291-2340

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ชินเขต 2/8"
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แผนที่และการเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา ชินเขต2/8จัดจ้าน โดนใจ"
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000141147
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤศจิกายน 2551 19:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยาชินเขต2/8

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวเรือ

เมนูจานเด่น : เส้นเล็กเนื้อน้ำตก,เส้นหมี่เนื้อแห้ง
บรรยากาศร้าน : ร้านเล็กๆเป็นกันเอง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 117/151 ซ.ชินเขต 2/8 ถ.งามวงศ์วาน แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.10210 การเดินทางจากสี่แยกพงษ์เพชร วิ่งตรงมาทางที่จะไปสี่แยกเกษตรศาสตร์ จะเจอสะพานลอยแรกให้เลี้ยวเข้า ซ.ชินเขต1 ก่อน จากนั้นเมื่อเจอแยกแรกให้เลี้ยวขวา ขับรถไปเรื่อยๆจะเจออีกแยกหนึ่งให้เลี้ยวขวาเช่นกัน ขับมาอีกประมาณ 50 เมตร จะเจอร้านตั้งอยู่ทางซ้ายมือ จุดสังเกตร้านจะอยู่เลย "ร้านอาหารเจ๊ณี" เล็กน้อย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 08.30-15.00น. ทุกวันอังคาร-วันอาทิตย์ หยุดทุกวันจันทร์

บัตรเครดิต :-

ที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้หน้าร้านและในซอย

เบอร์โทรศัพท์ :08-5845-5241, 08-1291-2340

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า” อร่อยชาตินี้
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000146327
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>14 ธันวาคม 2551 12:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร้านก๋วยเตี๋ยวชาติหน้ากับบรรยากาศริมรั้ว </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถ้าพูดถึงก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดอันเลื่องชื่อแถวๆ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย “ผ่านมาแวะกิน” เห็นมีอยู่ร้านหนึ่งคือ ร้าน“ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ”(ร้านก๋วยเตี๋ยวตามสั่งริมรั้ว) ที่หลายๆ คนเรียกขานกันว่า“ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า”

ประทานโทษ ชื่อหลังนี่โดนมั่กๆ สำหรับฉายานี้ท่านได้แต่ใดมา...ก็เหล่านักศึกษาและลูกค้าเขาตั้งให้นะสิ เพราะลูกค้าเกิดปิ๊งไอเดียว่าน่าจะตั้งชื่อร้านให้มันฟังสะดุดหู สะกิดใจกันเสียหน่อย เพราะบ่อยครั้งเวลามากินก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ ต้องรอนานกันสักนิดเนื่องจากทางร้านมีลูกค้าเพียบ

แต่ประทานโทษ(อีกครั้ง) เมื่อก๋วยเตี๋ยวถูกเสิร์ฟขึ้นโต๊ะแล้ว “ผ่านมาแวะกิน” ขอบอกว่า อร่อยคุ้มค่าการรอคอยนัก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงต้มยำ(บน)เกี้ยมอี๋ต้มยำเย็นตาโฟ(ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับเมนูเด่นๆ ที่นี่ก็มี เมนูสุดฮิตอย่าง เส้นเล็กต้มยำ(ธรรมดา 25-30 พิเศษ 35) สีของน้ำต้มยำดูจัดจ้านชวนน้ำลายสอ โรยหน้ามาด้วยแคบหมูยั่วต่อมหิว เส้นก๋วยเตี๋ยวก็เหนียวนุ่มกำลังพอดี เมื่อส่งก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่มกำลังดี น้ำต้มยำรสเข้มข้นลงตัว

ตามต่อกันด้วย เกี้ยมอี๋ต้มยำเย็นตาโฟ (ธรรมดา 25-30 พิเศษ 35) สามารถเส้นอื่นๆ ได้ตามใจชอบ เส้นเกี้ยมอี๋ที่ใส่มาขาวหมวย เอ๊ย!!! ไม่ใช่ ขาวอวบชวนกิน ชามนี้อัดแน่นไปด้วย ลูกชิ้นหมูปลา หมึกกรอบที่กรอบสมชื่อ หมึกกล้วยที่คัดสรรมาอย่างดีจากเยาวราช

เซี่ยงไฮ้ไข่มุกหมูแดงต้มยำน้ำข้น (ธรรมดา 25-30 พิเศษ 35) แค่ฟังชื่อก็สะกิดต่อมหิวแล้ว ในชามมีเส้นเซี่ยงไฮ้ลวกสีเขียวใสผสมกับเม็ดไข่มุกขาวหรือเม็ดสาคู (อันที่มาของชื่อเมนู) ให้เคี้ยวกินหนุบหนับ พร้อมด้วยแคบหมูกรอบๆ เต้าหู้ทอด ลูกชิ้นหมู หมึกกล้วย และหมูแดงสดเนื้อนุ่ม ที่กินกันเพลินปากทีเดียว

จากเมนูน้ำสลับอารมณ์กันบ้างกับ บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงต้มยำ (ธรรมดา 25-30 พิเศษ35) ทางร้านใช้เกี๊ยวหมูหมักชิ้นโต ส่วนหมูแดงเนื้อนุ่มแน่น ซึ่งลุงเจ้าของร้านการันตีในความอร่อยมากเพราะทำเอง ปรุงเอง ไม่ได้ไปซื้อมาจากที่ไหน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เซี่ยงไฮ้ไข่มุกหมูแดงต้มยำน้ำข้น</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากก๋วยเตี๋ยวชามเด่นที่กล่าวมาแล้ว ร้านนี้ก็มีเมนูชวนกินอย่าง ต้มยำลูกชิ้นทะเล หมี่หยกเกี๊ยวต้มยำ เย็นตาโฟน้ำ-แห้ง ต้มยำเครื่องเย็นตาโฟ และอีกสารพัดเมนูชวนกินซึ่งแต่ละเดือนทางร้านจะคิดค้นหาเมนูใหม่ๆมากำนัลแด่ลูกค้า

ใครที่มีโอกาสผ่านไปแถว ม.หอการค้าไทย ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ หรือก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า คือหนึ่งในทางเลือกของผู้พิสมัยก๋วยเตี๋ยว ซึ่งขอบอกว่า ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า กินชาตินี้ อร่อยชาตินี้แน่นอน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน“ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ” (ร้านก๋วยเตี๋ยวตามสั่งริมรั้ว) หรือ “ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า” ตั้งอยู่ที่ซอยวิภาวดีรังสิต 2 ดินแดง กรุงเทพฯ การเดินทางจากถนนวิภาวดีมุ่งหน้าไปแยกดินแดงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 2 (ซอย ม.หอการค้า) มุ่งตรงเข้าไปเรื่อยๆตามเส้นทางถนนหลัก วิ่งตรงไปจะมองเห็นร้านแว่นท็อปเจริญอยู่ข้างๆ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมพอดี ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ (จะเปิดจันทร์เว้นจันทร์) เวลาตั้งร้านตั้งแต่ 08.00-19.00 น. สอบถามเพิ่มเติมที่โทร.08-1570-4299

คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน “ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า”
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000146349

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 ธันวาคม 2551 14:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวชาติหน้า

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว
เมนูจานเด่น : บะหมี่เกี๊ยวหมูแดงต้มยำ,เกี้ยมอี๋ต้มยำเย็นตาโฟ,เซี่ยงไฮ้ไข่มุกหมูแดงต้มยำน้ำข้น
บรรยากาศร้าน : ริมถนน บรรยากาศเป็นกันเอง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ ซอยวิภาวดีรังสิต 2 ดินแดง กรุงเทพฯ การเดินทางจากถนนวิภาวดีมุ่งหน้าไปแยกดินแดงแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 2 (ซอยม.หอการค้า) มุ่งตรงเข้าไปเรื่อยๆตามเส้นทางถนนหลัก วิ่งตรงไปจะมองเห็นร้านแว่นท็อปเจริญอยู่ข้างๆร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เย็นตาโฟ ซึ่งตั้งอยู่ตรงหัวมุมพอดี

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ (จะเปิดจันทร์เว้นจันทร์) เวลาตั้งร้านตั้งแต่ 08.00-19.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 08-1570-4299
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/index.php?showtopic=14509

โพสโดย คุณแตง

หน้าตาอย่างนี้





และอย่างนี้




ไม่ได้กินก๊วยเตี๋ยวเรือนานแล้ว วันนี้เลยทำ ก็เลยเอามาเผื่อทุกคนที่สนใจด้วย ไม่รู้เหมือนกันว่าเคยมีคนลงไว้หรือยัง ถ้าซ้ำกันก็ขออภัยด้วย การทำของเรานี่จะใช้เครื่องปรุงเท่าที่หาได้ในต่างแดนนะ ใครอยู่เมืองไทยอาจทำแตกต่างไปจากนี้ก็ได้

เครื่องปรุงประกอบด้วย:-

กระดูกหมู ๑ - ๒ ชิ้นใหญ่ หรือจะใช้โครงไก่ ๑ - ๒ โครงก็ได้
น้ำสะอาด ๖ ถ้วยตวง
โป๊ยกั๊ก ๒ ดอก
อบเชย ๑/๒ ท่อน ยาวประมาณ ๒ นิ้วน่ะ
ซีอิ๊วดำ ๑ ช้อนชา
ซอสถั่วเหลือง ๒ ช้อนโต๊ะ จะใช้ซีอิ๊วขาวหรือน้ำปลาแทนได้
เกลือป่น ๑/๒ ช้อนชา
น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะ ใครหาน้ำตาลกรวดได้ให้ใช้น้ำตาลกรวด ๑ ก้อน
รากผักชี ๒ ราก หาไม่ได้ก็ใช้ก้านต้นผักชีแทน
พริกไทยป่น ๑/๒ ช้อนชา
กระเทียม ๕ กลีบ
คึ่นช่ายฝรั่ง ๑ ก้าน ใครมีขึ้นช่ายจีนก็ใช้อย่างนั้น ๑ - ๒ ต้น หรือจะใช้หัวไชเท้า ๑ หัวแทนก็ได้


**หมายเหตุ** ใครไม่มีอบเชย และโป๊ยกั๊ํก ให้ใช้ผงพะโล้สำเร็จรูปแทน ๑ ช้อนโต๊ะ

(สูตรนี้ทำได้ประมาณ ๔ - ๕ ชาม ขึ้นอยู่กันใครใส่น้ำมากน้อย)



โพสได้แก้ไขโดย แตง เมื่อ December 01, 2007 10:23 pm <!--TEMPLATE: skin_topic, Template Part: Show_attachments_img-->

ภาพที่มาด้วย

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณแตง

การทำก็โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด
พอดีที่บ้านปลูกผักชีไว้ เลยมีรากตากแห้งและเมล็ดผักชีเก็บไว้ ปกติก็หาซื้อผักชีที่มีรากไม่ได้หรอก นี่เป็นภาพที่โขลกเสร็จแล้ว





ต่อมาก็เอากระเทียม พริกไทย และรากผักชีที่โขลกไว้ ใส่ในผ้าขาว พร้อมด้วยอบเชย และโป๊ยกั๊ก (หรือผงพะโล้่)





เครื่องใส่ผ้าขาวแล้วก็มัดให้แน่นอย่างนี้






ทีนี้ก็ล้างคึ่นช่ายให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนๆยาวพอประมาณ ถ้าใช้หัวไชเท้าก็หั่นเป็นแว่นหนาๆ ถ้าใช้คึ่นช่ายจีน ก็พับเป็นท่อนยาวพอควรแล้วมัดไว้




ทีนี้ก็ตวงน้ำใส่หม้อยกตั้งไฟแรง





พอน้ำเดือดให้ใส่กระดูกหมู หรือโครงไก่ลงไปแล้วหรี่ไฟให้อ่อน
กระดูกหมูนี่สับให้เล็กสักหน่อยนะ กะขนาดใส่ในหม้อได้น่ะ

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณแตง

การทำก็โขลกกระเทียม พริกไทย รากผักชีเข้าด้วยกันให้ละเอียด
พอดีที่บ้านปลูกผักชีไว้ เลยมีรากตากแห้งและเมล็ดผักชีเก็บไว้ ปกติก็หาซื้อผักชีที่มีรากไม่ได้หรอก นี่เป็นภาพที่โขลกเสร็จแล้ว





ต่อมาก็เอากระเทียม พริกไทย และรากผักชีที่โขลกไว้ ใส่ในผ้าขาว พร้อมด้วยอบเชย และโป๊ยกั๊ก (หรือผงพะโล้่)





เครื่องใส่ผ้าขาวแล้วก็มัดให้แน่นอย่างนี้






ทีนี้ก็ล้างคึ่นช่ายให้สะอาด แล้วหั่นเป็นท่อนๆยาวพอประมาณ ถ้าใช้หัวไชเท้าก็หั่นเป็นแว่นหนาๆ ถ้าใช้คึ่นช่ายจีน ก็พับเป็นท่อนยาวพอควรแล้วมัดไว้




ทีนี้ก็ตวงน้ำใส่หม้อยกตั้งไฟแรง





พอน้ำเดือดให้ใส่กระดูกหมู หรือโครงไก่ลงไปแล้วหรี่ไฟให้อ่อน
กระดูกหมูนี่สับให้เล็กสักหน่อยนะ กะขนาดใส่ในหม้อได้น่ะ

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณแตง

ใส่คึ่นช่ายลงไป ใส่เครื่องที่มัดไว้ลงไปด้วย





ใส่ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล ซีอิ๊วดำ และเกลือป่นลงไป แล้วก็เคี่ยวกระดูกหมูต่อไปประมาณ ๓๐ นาที - ๑ ชั่วโมง




<!--TEMPLATE: skin_global, Template Part: signature_separator-->

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณแตง


ทีนี้ก็มาเตรียมเครื่องอื่นๆได้ พอดีของเราวันนี้ใช้หมูทำ ใครจะใช้ลูกชิ้นต่างๆ หรือเนื้อก็ได้ตามชอบใจ

เครื่องประกอบด้วย:-
หมูเนื้อแดง ๑ ชิ้น
ซีอิ๊วขาว ๑ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ๑/๘ ช้อนชา
เส้นก๋ยวเตี๋ยว ใครใช้เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ ตามชอบนะ
ผักประกอบ ของเราไม่มีถั่วงอก และผักบุ้ง ก็เลยใช้ แครอทขูดฝอย และกะหล่ำปลีซอยแทน
ใบคึ่นช่ายหั่น
ต้นหอมซอย
ผักชีซอย ถ้ามี
ผักชีฝรั่งซอย ถ้ามี
ใบโหระพา ถ้าชอบ
แคบหมู ถ้าชอบ
กระเทียมเจียว
พริกป่น พริกดองน้าส้ม น้ำตาลทราย น้ำปลา ถ้าชอบ
เลือดหมูสด ถ้าชอบแบบน้ำตก

รูปประกอบไม่ได้แสดงเครื่องทุกอย่างนะ ปริมาณของนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละคน



โพสได้แก้ไขโดย แตง เมื่อ December 01, 2007 10:24 pm <!--TEMPLATE: skin_topic, Template Part: Show_attachments_img-->

ภาพที่มาด้วย



หั่นหมูเป็นชิ้นบางๆ แล้วใส่ซีอิ๊วขาว และเกลือลงไป หมักทิ้งไว้ สัก ๑/๒ - ๑ ชั่วโมง






เส้นก๋วยเตี๋ยวแห้งก็แช่น้ำให้นิ่มก่อน





มีเครื่องหมดแล้ว ต้มน้ำซุปได้ที่แล้วเป็นอย่างนี้






เวลาทาน เราก็ลวกเส้นก๋ยวเตี๋ยวให้สุกแล้วเอาใส่ชาม

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณแตง

ลวกผักใส่ตามลงไปในชาม





ลวกหมู หรืออย่างอื่นที่ชอบ




ใส่หมูลวกลงไปในชาม






ตักน้ำซุปใส่ลงไป
นี่ถ้าใครชอบแบบน้ำตกก็เอาเลือดหมูใส่ชามอีกใบก่อนแล้วใส่น้ำซุปคนๆให้เลือดสุกแล้วใส่ลงไปในชามก๋วยเตี๋ยว




ใส่กระเทียมเจียวลงไป






โรยหน้าด้วยคึ่นช่าย ต้นหอม ผักชีและผักชีฝรั่ง (ถ้ามี)
เสริฟร้อนๆได้ พร้อมด้วยเครื่องปรุงพริกป่น พริกดองน้ำส้ม น้ำตาล และอื่นๆที่ชอบเติม





ใครชอบทานกับแคบหมูและใบโหระพา ก็ใส่ลงไปด้วยได้ ชามนี้ไม่ต้องเติมอะไรอีกก็อร่อยแล้ว




โพสได้แก้ไขโดย แตง เมื่อ December 01, 2007 10:25 pm <!--TEMPLATE: skin_topic, Template Part: Show_attachments_img-->

ภาพที่มาด้วย

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือ (รวมทุกกระทู้), เปลี่ยนรูปแล้วบางส่วน
http://www.kruaklaibaan.com/forum/in...howtopic=14509

โพสโดย คุณhappypimpim

น้ำก๋วยเตี๋ยวมีเครื่องเยอะหน่อยนะคะ ปริมจำมาจากร้านประจำ
เค้าทำอร่อยมากเลยค่ะ พอดีไปเห็นตอนพี่เค้าทำพอดี

น้ำ (วันนี้ใช้ ๔ ลิตร)
กระดูก วันนี้ใช้กระดูกวัวค่ะติดเนื้อ
กระเทียม เยอะๆเลยค่ะ(ปริมใช้ประมาณ ๔ ขีดกว่า)
รากผักชี
เต้าเจี้ยว ๑ ช้อนโต๊ะ
เต้าหู้ยี้ ๑ ก้อน พร้อมนำ้
ซอสปรุงรส(วันนี้ปริมไม่ได้ใส่ค่ะ ชิมรสเห็นว่าพอดีแล้วแต่ที่เขียนไว้เพราะพี่เจ้าของสูตรแกใส่
บางทีปริมก็ใส่ค่ะ)
เกลือ
เห็ดหอม
น้ำตาลกรวด
พริกไทย
อบเชย
โปยกั๊ก
ผงพะโล้
ซีอิ๊วดำ
กระเทียมดอง พร้อมน้ำ
เลือด (ใส่ผสมในน้ำก๋วยเตี๊ยวด้วยประมาณทัพพีนึง)
ซุปก้อน(ไม่ใส่ก็ได้)
หัวผัก วันนี้เราใช้หัว swede

เส้นก๋วยเตี๊ยวต่างๆ
ต้นหอมผักชี ตั้งฉ่าย กระเทียมเจียว
ผักกินกับก๋วยเตี๊ยว วันนี้เราใช้ ผักบุ้ง กะหลำ่ โหระพา
ลูกชิ้นเนื้อ วันนี้ใช้สูตรนี้ค่ะ

พริกสดกับกะปิ สำหรับแกล้มกับก๋วยเตี๊ยว



โพสได้แก้ไขโดย happypimpim เมื่อ July 30, 2008 10:17 pm
<!--TEMPLATE: skin_global, Template Part: signature_separator-->
ต้มนำ้ให้เดือดใส่กระดูก หัวผัก อบเชย โป้ยกั๊กลงไป



นำกระเทียม พริกไทย รากผักชี เต้าเจี้ยว นำ้กระเทียมดอง มาปั่นรวมกัน ผสมนำ้นิดหน่อย




ปั่นเสร็จก็เทลงไปในหม้อก๋วยเตี๊ยว