เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“ปั่นทอง”ก๋วยเตี๋ยวปลาสด จัดมุมสบายสไตล์ร้านอาหาร
http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNews.aspx?NewsID=9510000100263
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>26 สิงหาคม 2551 09:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พื้นที่เป็นบรรยากาศถ่ายจากด้านหน้าร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ก๋วยเตี๋ยวปลาสด</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เย็นโตโฟสูตรเด็ดน้ำซอสปรุงเอง</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายปรพรต สำเร็จสุข เจ้าของร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>จัดพื้นที่เป็นสวนเล็กมุมสบายคลายร้อน</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มุมด้านหน้าร้าน </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ป้ายด้านหน้าร้านกาแฟ Coffee Art</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>มุมดื่มกาแฟในสวนหย่อมเล็กๆ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และจัดอยู่ในกลุ่มอาหารเพื่อสุขภาพที่สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัยและไม่จำกัดจำนวน และเมนูก๋วยเตี๋ยวปลาเป็นหนึ่งในเมนูที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค และสำหรับผู้ที่เดินทางไปเที่ยวจังหวัดนครนายกและผ่านไปทาง โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) คงจะได้มีโอกาสแวะชิมก๋วยเตี๋ยวปลาของร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสดปั่นทอง ของนายปรพรต สำเร็จสุข


ความโดดเด่นของร้านปั่นทองอยู่ที่การจัดร้านและบรรยากาศของร้านที่มีมุมสบายเพิ่มอรรถรสในการทาน โดยเฉพาะพื้นที่ของร้านที่กว้างขวาง เกินกว่าจะเป็นแค่เพียงร้านก๋วยเตี๋ยวธรรมดา หรือถ้าอากาศที่ร้อนมาก มีห้องแอร์ไว้บริการด้วย ซึ่งพื้นที่ของร้านทั้งหมดมีประมาณ 5 ไร่ รองรับลูกค้าได้ประมาณ 80 คน

นอกจากก๋วยเตี๋ยวปลาสด ที่เป็นเมนูเด่นของทางร้านแล้ว ทางร้านได้จัดพื้นที่อีกมุมหนึ่งเป็นร้านกาแฟสด จัดมุมกาแฟเป็นห้องโถงแปดเหลี่ยม โดยใช้ชื่อว่า Coffee Art และด้วยรสชาติของกาแฟ และบรรยากาศของมุมกาแฟ เสริมให้ลูกค้าร้านปั่นทองในส่วนของมุมกาแฟได้รับความนิยมมากพอกับกับร้านก๋วยเตี๋ยวปลาเลยที่เดียว จุดเด่นของกาแฟร้านปั่นทองอยู่ที่สูตรการชงกาแฟ ซึ่งเมล็ดกาแฟจะต้องคั่วสดใหม่ ไม่เกิน 2- 3 วัน เพราะน้ำมันหอมของกาแฟจะยังอยู่ และเมล็ดกาแฟเป็นเมล็ดกาแฟที่สั่งจากไร่ที่จังหวัดเชียงราย

นายปรพรต เล่าว่า สำหรับร้านปั่นทอง มาจากความที่ตนเองชอบทำอาหารและมีญาติซึ่งเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสดที่อยู่ บริเวณ ถนนพระราม 7 กรุงเทพฯ ใกล้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตบางกรวย และจากความสำเร็จของร้านที่พระราม 7 สร้างแรงบันดาลใจให้ผมคิดจะมีกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวปลาสดดูบ้าง เพราะสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวปลาสดญาติผมยินดีที่จะถ่ายทอดและจัดส่งวัตถุดิบให้ เราเพียงแค่หาทำเลที่เหมาะสมสามารถเปิดร้านได้เลย

หลังจากนั้น ตัดสินใจลาออกจากงานประจำและมาได้ทำเลเปิดร้านอยู่ที่จังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อและแม่ โดยมาได้ทำเลซึ่งอยู่ใกล้รร.นายร้อยจปร. และใกล้กันก็จะมีศูนย์หนังสือจุฬา และสนามกอล์ฟ ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองนครนายกมากนัก ลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่มนักเรียน และคณะอาจารย์ จากรร.นายร้อยจปร. ลูกค้าที่สนามกอล์ฟ และนักท่องเที่ยวจากบริเวณใกล้เคียง


เมนูเด่นร้านปั่นทอง ได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวปลาสด ก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เย็นตาโฟ จุดเด่นของเย็นตาโฟอยู่ที่น้ำซอส ซึ่งทางร้านคิดสูตรและทำขึ้นมาเอง ทำให้ปัจจุบันยอดขายเย็นโตโฟมากพอๆกับก๋วยเตี๋ยวปลาสด นอกจากนี้ มีเมนูเนื้อปลาลวกจิ้ม เนื้อปลาผัดฉ่า ปลาสดเต้าเจี้ยว ปลาสดต้มยำ เป็นต้น โดยเนื้อปลาที่ทางร้านใช้จะเป็นปลากระพงทะเล ที่เลือกใช้เนื้อปลากระพงเพราะเนื้อจะแข็งไม่ยุ่ยง่าย เหมือนเนื้อปลากระพงน้ำจืด หรือปลาชนิดอื่นๆ ที่สำคัญไม่มีกลิ่นคาว

สำหรับราคาก๋วยเตี๋ยวปลาสดร้านปั่นทองชามละ 30 บาท โดยเป็นราคาที่ปรับขึ้นมาจากเดิม 25 บาท ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาจากภาวะราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนวัตถุดิบ โดยเฉพาะเนื้อปลาสดมีการปรับราคาขึ้นมาก ร่วมถึงวัตถุดิบอื่นๆ มีการปรับราคาขึ้นเช่นกัน ส่วนราคาอาหารประเภทอื่นมีการปรับราคาขึ้นมาเป็นบางรายการ แต่ในส่วนของกาแฟสดราคายังคงเดิม เพราะต้นทุนวัตถุดิบหลักอย่างเมล็ดกาแฟยังไม่มีการปรับราคา

ในส่วนของต้นทุนก๋วยเตี๋ยวปลาสดในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณชามละ 18 บาท ถึง 19 บาท ก่อนการปรับราคาต้นทุนอยู่ที่ชามละ 14 บาทถึง 15 บาท แต่ละวันจะใช้เนื้อปลาสดประมาณ 6-7 กิโลกรัม เส้นก๋วยเตี๋ยวรวมทั้งปลาเส้นประมาณ 5-6 กิโลกรัม ในอนาคตมีแผนจะเพิ่มเมนูก๋วยเตี๋ยวหหมูเข้ามาด้วย เพราะต้นทุนถูกกว่า และบางคนไม่ชอบทานปลาสามารถเลือกทานก๋วยเตี๋ยวหมู ซึ่งเมนูก๋วยเตี๋ยวหมูจะเปิดขายในตอนกลางคืน ทั้งนี้การเปิดขายในเวลากลางคืน เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าสนามกอล์ฟ ที่ปัจจุบันมีเพิ่มมากขึ้น

นายปรพรต เล่าว่า เนื่องจากเราเป็นร้านอาหารสิ่งสำคัญ คือสูตรการทำอาหาร และรสชาติของอาหารจะต้องสม่ำเสมอ เรื่องของพ่อครัว แม่ครัวจึงเป็นหัวใจหลักของการทำอาหาร และเพื่อตัดปัญหาเรื่องของพ่อครัว แม่ครัว จึงใช้วิธีการทำสูตรอาหารแบบสำเร็จรูปซึ่งผมปรุงไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้ที่เป็นพ่อครัวแม่ครัว ตักใส่ตามจำนวนที่กำหนดไว้ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวและอาหารทุกชามออกมามีรสชาติใกล้เคียงกัน โดยอาหารประเภทอื่นๆ ก็ทำน้ำปรุงรสไว้เช่นกัน ช่วยให้ทุกคนในร้านก็สามารถเป็นพ่อครัว แม่ครัวได้ โดยไม่ต้องรอพ่อครัว หรือแม่ครัวตัวจริง

ทั้งนี้ การทำสูตรน้ำปรุงสำเร็จรูป ช่วยให้การขยายสาขาในอนาคตที่วางไว้มีความเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น ส่วนสาขาที่สองมีแผนที่จะร่วมกับเพื่อนเปิดที่อำเภอ แก่งคอย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก และยังไม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวปลาเปิดในบริเวณนั้น ในส่วนของการลงทุนร้านปั่นทองได้รับเงินกู้จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) เป็นเงินจำนวน 2 ล้านบาท วงเงินกู้ที่นำมาใช้ส่วนใหญ่นำมาตกแต่งร้านเป็นหลัก

*****************

สนใจโทร.08-1625-5977
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อึ้ง!แค่กินก๋วยเตี๋ยว"ราดหน้า" แต่กลับต้องเสี่ยงโรคมะเร็งตับ-ผิวหนัง
วันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2551 เวลา 16:47:00 น. มติชนออนไลน์

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1219916858&grpid=01&catid=04




เผยผลวิจัย พบสารโพลาร์ อะฟลาท็อกซินส์ ใน เส้นก๋วยเตี๋ยวโดยเฉพาะเส้นใหญ่ ซึ่งเกิดจากกาคลุกน้ำมันทอดแล้วผสมใส่กันเส้นไม่ให้ติดกัน ส่งผลอันตรายเสี่ยงเป็นมะเร็งตับ ความดันโลหิตสูง และอาจทำให้ถึงตายได้

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>เมื่อวันที่ 28 ส.ค. ที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ผศ.ดร.บัณฑิต อินณวงศ์ และ ผศ.ดร.โสภาค สอนไว ภาควิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมกับรศ.ดร.กาญจนา เศรษฐนันท์ ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และรศ.วีระชัย แก่นทรัพย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมแถลงข่าว “งานวิจัยมหันตภัยร้ายแฝงเร้นในก๋วยเตี๋ยว” ซึ่งสนับสนุนโดย สกว.



ผศ.ดร.โสภาค กล่าวว่า ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารยอดนิยม และจากการที่ทีมวิจัยได้ศึกษาวิจัยข้อมูลเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเส้นก๋วยเตี๋ยวตั้งแต่ปี 2549-2551 พบว่า เส้นก๋วยเตี๋ยวทั้งหมดมีอันตรายต่อสุขภาพ เนื่องจากมีการใช้น้ำมันทอดซ้ำในกรรมวิธีการผลิต ซึ่งจะทำให้เส้นก๋วยเตี๋ยวเหนียวนุ่ม ตัดง่าย โดยเส้นใหญ่พบมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ เส้นเล็ก เส้นก๋วยจั๊บ เส้นหมี่ที่ไม่ใช่เส้นหมี่อบแห้ง ทั้งนี้ เส้นใหญ่จะใช้น้ำมันในปริมาณสูงกว่าเส้นอื่นๆ ร้อยละ 5-8 เพื่อป้องกันการเกาะติดและจะช่วยให้ขยี้ให้แตกเป็นเส้นได้ง่าย แต่การใช้น้ำมันเก่าที่ผ่านการทอดซ้ำมาหลายๆ ครั้ง หรือนำมาผสมกับน้ำมันพืชใหม่ จำพวกน้ำมันปาล์ม น้ำมันถั่วลิสง จะทำให้มีความหนืดสูง ซึ่งนับว่า อันตรายมาก เพราะมีการสะสมของสารประกอบมีขั้ว หรือสารโพลาร์ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของเซลล์ และเป็นสาเหตุของโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดและหัวใจ นอกจากนี้ น้ำมันที่ใช้ทำเส้นก๋วยเตี๋ยวยังอาจปนเปื้อนของสารอะฟลาท็อกซินส์ ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบ มะเร็งตับ รวมทั้ง โรคลาย ซินโดรม ในเด็กก่อนวัยเรียนจะมีอาการไข้ ปวดท้อง อาเจียน ชัก สมองบวม และตายภายใน 24-72 ชั่วโมง



ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าเส้นก๋วยเตี๋ยวมีวัตถุกันเสียมากมาย ทั้งกรดเบนโซอิค ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ กรมโพรพิโอนิค เพื่อยับยั้งเชื้อราและจุลินทรีย์อื่นๆ ซึ่งตามมาตรฐานที่กำหนดให้ใช้ทุกๆตัวรวมกันต้องไม่เกิน 1,000 ppm แต่จากการสำรวจพบว่าโรงงานส่วนใหญ่ผลิตเกินมาตรฐาน ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการองค์การอาหารและยา(อย.) มีกฎหมายตรวจปริมารโซเดียมเบนโซเอตอย่างเดียว ทำให้มีการหันไปใช้วัตถุกันเสียตัวอื่นๆ แทน นอกจากนี้ ในกระบวนการผลิตยังพบว่ามีการใส่สารส้มหรืออะลูมิเนียม อะลัม ซึ่งตามมาตรฐานทั่วไปไม่ได้มีข้อกำหนดไว้ แต่ในมาตรฐานน้ำดื่มบรรจุขวดกำหนดว่าต้องไม่เกิน 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่จากการศึกษาในเส้นก๋วยเตี๋ยวมีปริมาณอะลูมินัมอยู่ถึง 620 ppm หรือ 620 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าอันตรายต่อสุขภาพมาก เนื่องจากในต่างประเทศพบว่า หากรับประทานอะลูมินัมตั้งแต่ 50-200 ไมโครกรัมต่อลิตรจะส่งผลต่อระบบประสาท อาจก่อให้เกิดการอักเสบของไตและกรวยไต มีผลต่อระบบกระดูกได้



“เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ผ่านการลวก อาจช่วยชะล้างน้ำมันเก่าหรือสารปนเปื้อนต่างๆ ออกไปได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีงานวิจัยยืนยัน แต่ปัญหาอยู่เส้นก๋วยเตี๋ยวที่ไปทำราดหน้า ผัดซีอิ้ว จะได้รับสารอันตรายเต็มๆ ที่สำคัญขณะนี้ยังพบว่า มีการใช้สารละลายบางชนิดที่มีลักษณะคล้ายน้ำมัน ที่เรียกว่า หัวเชื้อ เพื่อนำมาทาเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกรอบ เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น หล่อลื่นมากยิ่งขึ้น แต่ยังไม่มีใครทราบว่าสารละลายดังกล่าวมีส่วนประกอบของอะไร ดังนั้น ทีมวิจัยจะมีการศึกษาเพิ่มเติม และจะมีการระดมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทั้ง อย. สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ผู้ประกอบการทั่วประเทศ มาหารือถึงปัญหาดังกล่าว เพื่อหาแนวทางแก้ไขหรือปรับปรุงกรรมวิธีการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์” ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าว



ผศ.ดร.บัณฑิต กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ จะต้องมีการจัดตั้ง Head Center ซึ่งเป็นการรวมตัวของตัวแทนองค์กรที่เกี่ยวข้องประมาณ 20 คน เพื่อเผยแพร่ความรู้ในเรื่องกระบวนการผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีคุณภาพ ปราศจากสารปนเปื้อนต่างๆ ด้วย นอกจากนี้ ในวันที่ 4 กันยายนนี้ อย.จะเปิดตัวโรงงานผลิตเส้นก๋วยเตี๋ยวต้นแบบที่ได้มาตรฐาน GMP เบื้องต้น 2 โรงงาน คือ โรงงาน อึ้งฮะเส็ง จ.จันทรบุรี และโรงงาน จ.เจริญชัย จ.มุกดาหาร ก่อนจะขยายไปโรงงานอื่นๆ อาทิ โรงงาน อิสริยผล จ.เชียงใหม่ และโรงงาน ไทยวัฒนาไรซ์ จ.นครปฐม เป็นต้น

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"กวยจั๊บอ้วนโภชนา" หอมพริกไทย ถึงใจรสเผ็ดร้อน
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000102792</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 สิงหาคม 2551 12:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร้านกวยจั๊บอ้วนโภชนา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง "โอลิมปิกเกม" ที่ประเทศจีน เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ซึ่ง“ผ่านมาแวะกิน ย่อมไม่พลาดการชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยอยู่แล้ว

ครั้นพูดถึงประเทศจีนแล้วก็อดคิดถึงย่านจีนๆในไทยๆไม่ได้ แหม...จะเป็นที่ไหนได้ นอกจากย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์เมืองไทย ย่านเศรษฐกิจ การค้า ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยหลากหลายอย่างร้านที่มีโอกาสแวะไปกินครั้งนี้ คือ ร้าน"กวยจั๊บอ้วนโภชนา" ร้านรถเข็นเล็กๆตั้งอยู่หน้า"โรงหนังไชน่าทาวน์ราม่า" กินแล้วลืมรสชาติไม่ลงจนต้องมาบอกต่อ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กวยจั๊บหอมกรุ่นกลิ่นพริกไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านนี้เปิดขายด้วยประสบการณ์เก๋ามากว่า 30 ปี ขายกวยจั๊บน้ำใสอย่างเดียว แต่ลูกค้าแน่นร้านตลอด กวยจั๊บน้ำใส (ธรรมดา 30 บาท,พิเศษ 40 บาท)ใช้เส้นใหญ่อย่างดีทำให้เส้นเหนียวนุ่มไม่เกาะกัน ไม่เละแฉะ จุดเด่นของร้านที่หลายคนติดอกติดใจ อยู่ที่น้ำซุปรสเข้มข้น เผ็ดร้อนจากพริกไทยที่กลายเป็นส่วนผสมหลักซึ่งขาดไม่ได้ของทางร้าน ที่ถูกทำมาต้มคู่กับกระดูกหมู เวลาซดน้ำร้อนๆทำให้รู้สึกโล่งคอดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชามนี้เป็นเกาเหลา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในชามยังมี หมูกรอบ ที่แต่ละวันต้องเตรียมไว้กว่า 100 กิโลกรัม จัดเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของทางร้านเช่นกัน เพราะหมูกรอบจะถูกนำไปทอดจนหนังกรอบและเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีสารพัดเครื่องในอย่าง กระเพาะหมู ลิ้นหมู หัวใจหมู ตับหมู ปอดหมู กระดูกหมูอ่อน เสิร์ฟมาภายในชาม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศบริเวณร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อีกหนึ่งความพิเศษ คือ ที่ร้านจะมี ปาท่องโก๋กรอบตัวเล็ก (5บาทและ10บาท) ไว้ให้สำหรับกินคู่กวยจั๊บด้วย ซึ่งก็เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว และสำหรับคนไม่กินเส้นก็ยังสามารถสั่งเป็นแบบ เกาเหลา (40บาท)มากินได้ ด้วยจะเป็นเกาเหลาชามโต อุดมด้วยเครื่องในหมูหลากประเภท เครื่องในที่นี่ไร้กลิ่นคาว เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ช่วงยามเย็นใครไปเดินเล่นเยาวราช ก็ลองแวะไปชิมกวยจั๊บน้ำใสสูตรพริกไทยของร้าน “กวยจั๊บอ้วนโภชนา”กันได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน"กวยจั๊บอ้วนโภชนา" เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00-03.00 น. เปิดทุกวัน วันหยุดไม่แน่นอนสามารถสอบถามได้จากทางร้าน การเดินทางตรงจากวงเวียนโอเดียนมาเรื่อยๆร้านจะอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง ร้านอยู่หน้าโรงหนังไชน่าทาวน์รามา (นิวแหลมทอง) จอดรถได้ตั้งแต่ 20.00 น.ขึ้นไป โทร.08-6508-9979

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>31 สิงหาคม 2551 12:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ร้านกวยจั๊บอ้วนโภชนา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติอย่าง "โอลิมปิกเกม" ที่ประเทศจีน เพิ่งผ่านพ้นไปหมาดๆ ซึ่ง“ผ่านมาแวะกิน ย่อมไม่พลาดการชมและเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยอยู่แล้ว

ครั้นพูดถึงประเทศจีนแล้วก็อดคิดถึงย่านจีนๆในไทยๆไม่ได้ แหม...จะเป็นที่ไหนได้ นอกจากย่านเยาวราช ไชน่าทาวน์เมืองไทย ย่านเศรษฐกิจ การค้า ที่สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ อีกทั้งยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารอร่อยหลากหลายอย่างร้านที่มีโอกาสแวะไปกินครั้งนี้ คือ ร้าน"กวยจั๊บอ้วนโภชนา" ร้านรถเข็นเล็กๆตั้งอยู่หน้า"โรงหนังไชน่าทาวน์ราม่า" กินแล้วลืมรสชาติไม่ลงจนต้องมาบอกต่อ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กวยจั๊บหอมกรุ่นกลิ่นพริกไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านนี้เปิดขายด้วยประสบการณ์เก๋ามากว่า 30 ปี ขายกวยจั๊บน้ำใสอย่างเดียว แต่ลูกค้าแน่นร้านตลอด กวยจั๊บน้ำใส (ธรรมดา 30 บาท,พิเศษ 40 บาท)ใช้เส้นใหญ่อย่างดีทำให้เส้นเหนียวนุ่มไม่เกาะกัน ไม่เละแฉะ จุดเด่นของร้านที่หลายคนติดอกติดใจ อยู่ที่น้ำซุปรสเข้มข้น เผ็ดร้อนจากพริกไทยที่กลายเป็นส่วนผสมหลักซึ่งขาดไม่ได้ของทางร้าน ที่ถูกทำมาต้มคู่กับกระดูกหมู เวลาซดน้ำร้อนๆทำให้รู้สึกโล่งคอดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ชามนี้เป็นเกาเหลา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในชามยังมี หมูกรอบ ที่แต่ละวันต้องเตรียมไว้กว่า 100 กิโลกรัม จัดเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของทางร้านเช่นกัน เพราะหมูกรอบจะถูกนำไปทอดจนหนังกรอบและเนื้อนุ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีสารพัดเครื่องในอย่าง กระเพาะหมู ลิ้นหมู หัวใจหมู ตับหมู ปอดหมู กระดูกหมูอ่อน เสิร์ฟมาภายในชาม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศบริเวณร้าน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> อีกหนึ่งความพิเศษ คือ ที่ร้านจะมี ปาท่องโก๋กรอบตัวเล็ก (5บาทและ10บาท) ไว้ให้สำหรับกินคู่กวยจั๊บด้วย ซึ่งก็เข้ากันได้ดีอย่างลงตัว และสำหรับคนไม่กินเส้นก็ยังสามารถสั่งเป็นแบบ เกาเหลา (40บาท)มากินได้ ด้วยจะเป็นเกาเหลาชามโต อุดมด้วยเครื่องในหมูหลากประเภท เครื่องในที่นี่ไร้กลิ่นคาว เสิร์ฟพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ ช่วงยามเย็นใครไปเดินเล่นเยาวราช ก็ลองแวะไปชิมกวยจั๊บน้ำใสสูตรพริกไทยของร้าน “กวยจั๊บอ้วนโภชนา”กันได้

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้าน"กวยจั๊บอ้วนโภชนา" เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 18.00-03.00 น. เปิดทุกวัน วันหยุดไม่แน่นอนสามารถสอบถามได้จากทางร้าน การเดินทางตรงจากวงเวียนโอเดียนมาเรื่อยๆร้านจะอยู่ซ้ายมือ ตรงข้ามห้างขายทองเลี่ยงเซ่งเฮง ร้านอยู่หน้าโรงหนังไชน่าทาวน์รามา (นิวแหลมทอง) จอดรถได้ตั้งแต่ 20.00 น.ขึ้นไป โทร.08-6508-9979

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คุณลุ้ย มอเตอร์เวย์ สุดยอดก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod02310851&sectionid=0125&day=2008-08-31

วันที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11131 มติชนรายวัน



คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

โดย พัชรพน




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เดินทางแล้วหิวจัดๆ เคยรู้สึกไหมครับว่าโดยเฉพาะมื้อกลางวันนี้สั่งก๋วยเตี๋ยวมาซดน้ำก่อนนี่สุดยอด ยิ่งไปในแหล่งที่มีร้านก๋วยเตี๋ยวอร่อยๆ ด้วยแล้ว ชามแรกประทับใจจะทำให้ชามต่อไปเต็มไปด้วยความสุข

ถ้าคุณเดินทางไปภาคตะวันออก ชลบุรี จันทบุรี ระยอง ตราด ผ่านมอเตอร์เวย์

แล้วระหว่างนั้นเกิดหิวขึ้นมา คิดแวะศูนย์อาหาร ศูนย์ของฝาก ซึ่งมอเตอร์เวย์มีอยู่แห่งเดียว คือแถวๆ แม่น้ำบางปะกง รับรองเลยว่าไม่ผิดหวัง

ที่ศูนย์มอเตอร์เวย์บางปะกง ทั้งสองฝั่งมีร้านอาหารและของฝากมากมาย กินได้ ถูกสุขอนามัยเกือบทุกร้าน ที่ต้องบอกว่าเกือบก็แค่เผื่อเอาไว้หน่อย ความจริงแล้วน่าจะดีทุกร้าน แต่กลัวว่าผู้อ่านไปเจอร้านไหนไม่ถูกอนามัยเข้าจะมาด่าผม "ไหนบอกว่าดีทุกร้านงัย" หรืออะไรทำนองนั้น คำว่า "เกือบทุกร้าน" ก็เผื่อๆ ไว้เพื่อแก้ตัวว่าไม่ได้บอกว่าทุกร้าน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


แต่มีอยู่ร้านหนึ่งที่ไม่สร้างความผิดหวังให้กับคุณแน่

"คุณลุ้ย" ครับ

เป็นร้าน "ก๋วยเตี๋ยว" ขึ้นป้ายว่า "ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง" แต่ในร้านขายเยอะ ทั้งข้าวแกง ข้าวหมูแดง ต้มเลือดหมู มีครบแบบตามใจปากได้สบาย

ที่อยากแนะนำ "ก๋วยเตี๋ยว" ครับ "ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง" นั่นแหละ

"ก๋วยเตี๋ยวบ้านบึง" เป็นต้นตำหรับก๋วยเตี๋ยวมะนาว แต่ที่แปลกกว่าที่อื่นคือ น้ำซุปใส่ปลาหมึกแห้งฉีกเป็นเส้นๆ
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


เป็นก๋วยเตี๋ยวหมู ที่ใส่ทั้งหมูชิ้น หมูบะช่อ ลูกชิ้นปลา สูตรเฉพาะที่โด่งดังแถวชลบุรี

น้ำซุปที่กลมกล่อมอยู่แล้วด้วย "หวานน้ำต้มกระดูก" ให้กลิ่นหอมกลุ่นด้วยปลาหมึกแห้ง หอมแบบคาวๆ เจือนิดๆ

ต้มยำใส่พริกป่น น้ำตาล ถั่วลิสงบด บีบมะนาว

ลองดูเถอะครับ ก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ร้านนี้เฉียบมาก ถึงรสถึงชาติพอดิบพอดี

ถ้ายังติดใจสั่ง "แห้งอีกชาม" ให้ครบสูตร "แห้งชาม น้ำชาม"

ถ้าอยากเปลี่ยนเป็นข้าว ขอแนะนำ "ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ" เด็ดครับ เป็นข้าวหมูแดงในร้านก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

ผมว่าความอร่อยของข้าวหมูกรอบอยู่ที่น้ำราด และข้าว

น้ำราดของ "คุณลุ้ย" เฉียบมาก และเมื่อใช้ข้าวที่ไม่ใช่ข้าวมัน จึงลงตัวกันพอดิบพอดี

ก๋วยเตี๋ยวชาม ข้าวหมูแดงจาน อิ่มตื้อแน่

แต่อย่างว่า หนังท้องตึง หนังตาหย่อน อิ่มมากๆ มักจะง่วง ไม่เหมาะกับการขับรถ การหากาแฟสดสักแก้ว จึงเป็นสุนทรีย์ของชีวิต

แถวๆ นั้นแหละครับมีร้านกาแฟสดอยู่หลายร้าน

อ้อ! เกือบลืม "คุณลุ้ย" ตั้งอยู่ที่จัดพักรถมอเตอร์เวย์ทั้งสองฝั่ง ทั้งขาเข้าและขาออก เจ้าของเดียวกัน

ถ้าโชคดีเจอคุณลุ้ยอยู่ที่ร้านพอดี ชวนแกคุยเลย แก้เป็นคนเปิดเผย คุยสนุก

ผ่านไปแถวนั้นแล้วหิว อย่าลืมแวะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.กระตุ้นร้านก๋วยเตี๋ยวใส่ใจความปลอดภัยด้วย 5 หลักเกณฑ์
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000108435
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>12 กันยายน 2551 17:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> "วิชาญ" เปิดมหกรรมก๋วยเตี๋ยวอนามัย กระตุ้นผู้ประกอบการร้านก๋วยเตี๋ยวใส่ใจความปลอดภัย 5 หลักเกณฑ์ ควบคู่กับรสชาติความอร่อย มีคุณค่าทางโภชนาการครบ 5 หมู่ มีไขมันไม่เกินร้อยละ30 ในปีนี้จะเริ่มรณรงค์ในเขตกทม.-ปริมณฑล เตรียมขยายทั่วประเทศในปีหน้านี้



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วันนี้(12 ก.ย.) ที่บริเวณหน้าห้างเทสโก้โลตัส สาขารัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี นายวิชาญ มีนชัยนันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัย และคณะ เปิดงานมหกรรมก๋วยเตี๋ยวอนามัย ส่งเสริมคนไทยสุขภาพดี พร้อมมอบป้ายรับรองมาตรฐานร้านก๋วยเตี๋ยวอนามัยแฟรนไชส์ ที่เข้าร่วมโครงการฯ 12 ราย

นายวิชาญ กล่าวว่า สธ.มีนโยบายส่งเสริมให้อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ให้เป็นก๋วยเตี๋ยวอนามัย ให้คนไทยมีสุขภาพดี เนื่องจากเป็นอาหารที่เป็นที่นิยมของคนไทยทุกระดับ จัดเป็นอาหารจานด่วนที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน ราคาถูก ขณะนี้มีร้าน รถเข็นจำหน่ายประมาณ 75,000 แห่ง โครงการก๋วยเตี๋ยวอนามัยที่กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการครั้งนี้ จะควบคุมมาตรฐานตั้งแต่การผลิตเส้น การประกอบอาหาร ที่คำนึงถึงความปลอดภัยผู้บริโภค ควบคู่กับรสชาติอร่อย มีสารอาหารครบถ้วน เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่มาจากน้ำและอาหารที่ปนเปื้อน ซึ่งแต่ละปีคนไทยเจ็บป่วยกว่าปีละ 2 ล้านคน รวมทั้งป้องกันสารอันตรายที่อยู่ในเครื่องปรุง เช่นสารอะฟลาท็อกซิน ซึ่งเป็นต้นเหตุมะเร็งตับ ที่ผ่านมาตรวจพบปนเปื้อนในถั่วลิสงบด พริกป่น ร้อยละ 19

"ในปีนี้จะเริ่มดำเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลก่อน นำร่องในร้านก๋วยเตี๋ยวในระบบแฟรนไชส์ 12 ราย มีสาขาทั่วประเทศกว่า 10,000 แห่ง ปีต่อไปจะขยายไปยังทุกจังหวัด ร้านค้า รถเข็น ที่สมัครร่วมโครงการและผ่านการตรวจสอบเกณฑ์มาตรฐาน จะได้รับป้ายรับรองก๋วยเตี๋ยวอนามัยจากกรมอนามัย สัญลักษณ์เป็นรูปชามสีเขียวอ่อน มีตะเกียบสีเขียวเข้มคีบเส้นก๋วยเตี๋ยว 1 คู่ ขนาด 30คูณ 40 เซนติเมตร มีอายุ 1 ปี"นายวิชาญกล่าว

ด้าน นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า คุณค่าทางโภชนาการของก๋วยเตี๋ยว ขึ้นอยู่กับเมนูของก๋วยเตี๋ยวแต่ละชนิด และปริมาณการใช้วัตถุดิบต่างๆ จุดเด่นของก๋วยเตี๋ยวอนามัยก็คือจะเน้นให้ใช้น้ำมันไม่เกินร้อยละ 30 เพื่อป้องกันไขมันเกิน โดยก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม มีสัดส่วนโภชนาการที่เหมาะสมคือแป้งจากเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อสัตว์และไขมันคือ 50 ต่อ 20 และ 30 ตามลำดับ

สำหรับ ร้านก๋วยเตี๋ยวอนามัย จะต้องประกอบด้วย 5 เกณฑ์ ได้แก่1.วัตถุดิบ ได้แก่เส้นก๋วยเตี๋ยว ต้องผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี เนื้อสัตว์ ลูกชิ้น ปลาหมึกกรอบ และผักต่างๆ ต้องปรุงสุก และไม่มีสารอันตราย 6 ชนิดเจือปน คือบอแรกซ์ สารกันรา สารเร่งเนื้อแดง ฟอร์มาลิน สารกำจัดศัตรูพืช สารฟอกขาว ส่วนเครื่องปรุงรส ได้แก่ ถั่วป่น พริกป่นต้องไม่มีสารอะฟลาท๊อกซิน น้ำส้มสายชู น้ำปลาต้องมีตรา อย. ส่วนน้ำดื่ม น้ำแข็งต้องสะอาด จัดเก็บมิดชิดไม่เก็บรวมกับเนื้อสัตว์และผักสด

2.ด้านภาชนะอุปกรณ์ หม้อก๋วยเตี๋ยวต้องมีสภาพดี เขียงและมีด แยกใช้ระหว่างเนื้อสัตว์ดิบ สุก ชาม ช้อน และตะเกียบ สะอาด 3.ด้านสถานที่จำหน่าย ต้องสะอาด อยู่สูงจากพื้นอย่างน้อย 60 เซนติเมตร 4.การรักษาความสะอาดสิ่งแวดล้อม มีการเก็บขยะเศษอาหารที่มิดชิด และ5.ด้านผู้ปรุง ผู้เสริฟ ต้องแต่งกายสะอาด ตัดเล็บสั้น ไม่ทาเล็บ ผูกผ้ากันเปื้อนคลุมผมมิดชิด หากมีบาดแผล ต้องปิดแผลให้มิดชิด และใช้อุปกรณ์หยิบจับอาหารที่ปรุงสุกแล้ว ร้านก๋วยเตี๋ยวที่สนใจร่วมโครงการสามารถติดต่อที่กรมอนามัย โทร 02-590 -4184

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ ในบ้านไม้ริมคลอง
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod01140951&sectionid=0125&day=2008-09-14

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
วันนี้ปิ่นโตเถาเล็กจะพาไปปิ่นโตทัวร์นั่งกินลมชมวิวในบ้านไม้ริมคลอง บรรยากาศอันน่ารื่นรมย์เช่นนี้อยู่ไม่ไกล เพียงแค่ขับรถไปไม่เกินชั่วโมงก็ถึงแล้ว ผู้ชี้แนะทางอร่อยคือ ครูเผือกของลูกๆ หรือพี่เผือกศิษย์เก่าโรงเรียนเดียวกันกับผม

ป้าเผือกมักจะมีร้านเด็ดเป็นร้านเล็กๆ ที่ต้องซอกแซก แถมยังเปิดไม่เป็นเวลาเสียด้วย ร้านนี้ก็เช่นกัน ชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์หรือก๋วยเตี๋ยวสมพงษ์"

ความจริงเขาเปิดเป็นเวลาทุกวัน แต่มักจะมีผู้เหมาไปออกร้านอยู่เสมอ จึงขอฝากเบอร์โทร. 0-2985-1899, 08-1495-6874 และ 08-1836-9242 เอาไว้ตรวจสอบก่อนไปว่าโดนเหมาหรือเปล่า

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ร้านนี้อยู่ริมคลองมหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย ใกล้กับถนนวงแหวนรอบนอกกาญจนาภิเษก

ทางไปร้านนี้ ถ้ามาจากสะพานพระปิ่นเกล้าหรือสะพานพระราม 8 ให้ขึ้นทางคู่ขนานลอยฟ้าถนนบรมราชชนนีไปลงก่อนถึงถนนวงแหวน เมื่อถึงทางต่างระดับฉิมพลีให้เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบนอก (สาย 9) กาญจนาภิเษก ที่จะไปบางบัวทอง-สุพรรณบุรี ควรวิ่งบนเลนคู่ขนานด้านนอก

นับสะพานลอยคนข้ามไปจนถึง "สะพานที่ 3" มี ธนาคารไทยพาณิชย์เป็นจุดสังเกตทางซ้ายมือ แล้วกลับรถใต้สะพานข้างหน้าซึ่งมี "โรงกรองน้ำมหาสวัสดิ์ที่มีหอสูงสีขาว" เป็นจุดสังเกต
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


พอกลับรถย้อนมาแล้วให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยที่มีชื่อว่า "ถนนปลายบาง" (ที่มีป้ายทางไป "วัดศรีเรืองบุญ") วิ่งซิกแซกไปตามทางประมาณ 2 กิโลเมตร จนถึงหัวโค้งใหญ่ๆ (ที่จะหักโค้งซ้าย) ให้มองหาป้าย "บ่อตกปลาลุงวานทางฝั่งขวา" จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าซอยลูกรังขรุขระที่อยู่ติดกัน เข้าไปนิดเดียว จนถึงริมคลองให้จอดรถได้

จากนั้นเดินต่อไปทางซ้ายจนเห็นป้ายก๋วยเตี๋ยวสมพงษ์ทางขวา ติดป้ายบอกว่าขายหรือไม่ขาย ถ้าขาย ให้เลี้ยวเข้าไปตามทางเดินจนสุด ถอดรองเท้าแล้วเข้าไปนั่งในบ้านไม้ริมคลองที่ปูพื้นด้วยไม้กระดานได้เลย

อีกทางหนึ่งถ้ามาจากสะพานพระราม 5 วิ่งต่อมาบนถนนนครอินทร์แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนวงแหวนรอบนอก (สาย 9) กาญจนาภิเษก มุ่งไปทางตลิ่งชัน วิ่งมาประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วชิดซ้ายออกคู่ขนานด้านนอกข้ามคลองขื่อขวาง แล้วมองหาป้ายถนนปลายบาง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย (จุดสังเกตว่าจะถึงแล้ว ให้ดูหอสูงสีขาวของโรงกรองน้ำได้เช่นกัน ซึ่งถ้ามาทางนี้หอประปาจะอยู่ฝั่งขวานะครับ)
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


เชิญเลือกนั่งริมชานด้านนอกหรือข้างในบ้านได้ตามสบาย แต่ต้องนั่งกินกับพื้นนะครับ เขามีโต๊ะเตี้ยๆ ไว้ให้วางชามก๋วยเตี๋ยว ใครนั่งกับพื้นไม่ไหวก็มีม้านั่งพลาสติคเตี้ยๆ สำหรับให้นั่งยองๆ ชิมได้ ที่มุมระเบียงด้านในสุดมีเรือซึ่งทำเป็นที่ชงก๋วยเตี๋ยวและมุมขนมน้ำแข็งใส

ของอร่อยร้านนี้คือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำทั้งแห้งและน้ำ" ปรุงรสจัดๆ เผ็ดๆ ใส่พริกป่นละเอียดยิบตามสูตรดั้งเดิมตั้งแต่คุณสมพงษ์พายเรือขายในคลองเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน สมัยก๋วยเตี๋ยวชามละ 1 บาท จนกระทั่ง 30 บาท ในปัจจุบันนี้

ถ้าไม่กินเผ็ดต้องบอกก่อน จะเอาเผ็ดน้อย เผ็ดกลาง เผ็ดจัดได้ทั้งนั้น

ของดีคือ บรรดาเครื่องในทั้งหลายที่ซื้อจากเจ้าประจำในตลาดศาลาน้ำพุ มาทำวันต่อวัน นำเครื่องในมาล้างให้สะอาดแล้วต้มกับเกลือจนได้เครื่องในที่สดสะอาดนุ่มอร่อยเด็ดจริงๆ มีมากมายหลายอย่างทั้ง กระเพาะ ตับ หัวใจ ไส้ และขั้วกระเพาะนุ่มๆ

ส่วนเนื้อหมูเป็นชิ้นๆ กับหมูสับก็นุ่มอร่อยสุกกำลังดี นอกจากนี้ยังใส่กากหมูตามแบบโบราณอีกต่างหาก (ชอบจริงๆ) ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำแห้งจะบีบมะนาวมาให้เสร็จสรรพ

มีเส้นให้เลือกทั้ง เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เส้นเล็ก บะหมี่ และวุ้นเส้น ตบท้ายด้วยขนมน้ำแข็งใสเพื่อคลายความเผ็ด เข้าใจขายเสียจริง กินไปนั่งชมวิวสองฝั่งคลองไปด้วย แหม มันช่างมีความสุขล้นเหลือ

ก่อนจากกันมีคำเตือน 2 ประการ ก่อนไปให้โทร.ถามก่อนว่าปิดร้านโดนเหมาไปออกงานข้างนอกหรือเปล่า และอย่าไปหลังเที่ยง เพราะร้านนี้เปิดถึงบ่ายโมงเท่านั้น ควรไปตอนสายๆ สัก 10 โมงเช้าดีที่สุด โดยเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ คนแน่น ยังไม่ทันเที่ยงก็หมดเอาดื้อๆ

หรือใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง เหมาไปกินในงานซะเลย เขารับทำ 200 ชามอย่างต่ำ แค่ 6,500 บาทเท่านั้นนะจ๊ะ

ข้อมูลร้าน

ก๋วยเตี๋ยวสมพงษ์หรือก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำคลองขุดมหาสวัสดิ์

โดย คุณสมพงษ์ ฟักฟูทอง

ที่ตั้ง 160/1 หมู่ 2 ถนนปลายบาง (ถนนมหาสวัสดิ์) อ.บางกรวย จ.นนทบุรี

โทร. 0-2985-1899, 08-1495-6874 และ 08-1836-9242

เปิดบริการ 08.00-13.00 น. ทุกวัน

หมายเหตุ โทร.สอบถามก่อนว่าหยุดขายเพราะไปออกงานข้างนอกหรือไม่

แนะนำ ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำทั้งแห้งและน้ำ

 

"บะหมี่เป็ด"ถึงรส ร้านเป็ดย่าง สาธุประดิษฐ์

อิ่มอร่อย

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdPUzB4T1E9PQ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>











ถ้าหากินเมนูอาหารประเภท "เป็ด" ที่ย่านสาธุประดิษฐ์ มีร้าน "เป็ดย่าง" หรือชื่อเต็มๆ ว่า "พลวัฒน์เป็ดย่าง" น่าแวะเข้าไปชิม

ร้านตั้งอยู่ใกล้แยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ เปิดบริการมาได้ 6 ปี

คุณพัชรินทร์ พิบูลเวชศักดิ์ หรือพี่เล็ก อายุ 45 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ที่ร้านอาหารที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของลูกค้าจำนวนมากก็คือ เป็ดย่าง ที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านซึ่งเป็นสูตรโบราณ ได้รับการสืบทอดวิธีการทำมาตั้งแต่รุ่นคุณปู่

มีขั้นตอนการคัดสรรเป็ดสด ตั้งแต่การซื้อเป็ดขนาดเบอร์ "แอล" หรือน้ำหนักตัวเฉลี่ยประมาณ 2 กิโลกรัมขึ้นไป หมักด้วยเครื่องปรุงสูตรเฉพาะของทางร้าน เสร็จแล้วผึ่งไว้ในอุณหภูมิห้อง 1 คืน ย่างไฟอ่อนด้วยเตาย่างไฟฟ้า 1 ชั่วโมง 30 นาที เนื้อเป็ดจะหอมหวานนุ่มลิ้น ซึ่งเป็ดย่างทางร้านได้นำเนื้อเป็ดมาทำเป็นเมนูหลากหลายให้ได้กินกัน
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>


"บะหมี่เป็ด" เป็นเมนูแรกที่ลูกค้าสั่งกันทุกโต๊ะ คุณพัชรินทร์ กล่าวว่า ความอร่อยของบะหมี่เป็ดที่ร้าน นอกจากเนื้อเป็ดที่อร่อยแล้ว ส่วนประกอบสำคัญคือเส้นบะหมี่ เป็นสูตรของร้านโดยจะเน้นไข่มากกว่าแป้ง และต้องทำแบบเส้นเล็ก (คล้ายฝอยทอง) ซึ่งทางร้านจะสั่งโรงงานทำเป็นพิเศษ มีทั้งบะหมี่เป็ดน้ำและแห้ง ถ้าเป็นบะหมี่แห้งจะราดน้ำเป็ด ที่มีรสชาติหวาน หอม กลมกล่อม เป็นสูตรทางร้านที่ไม่เหมือนใคร

นอกจากบะหมี่เป็ดแล้ว หากลูกค้าต้องการสั่งแบบพิเศษ ขอแนะนำบะหมี่เป็ดหมูแดง บะหมี่เป็ดหมูกรอบ หรือบะหมี่เป็ด-แดง-กรอบ ก็ได้

"ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ" ทางร้านมีไว้บริการ หมูแดงของที่ร้านทำเองทุกขั้นตอน ใช้เนื้อหมูวันละกว่า 10 กิโลกรัม นำมาหมักกับเครื่องเทศและซีอิ๊ว แช่ตู้เย็นไว้ 1 คืน หลังจากนั้นย่างจนสุก รสชาติหมูแดงเครื่องเทศเข้าเนื้อทำให้มีรสนุ่มหวาน

สำหรับหมูกรอบ ทางร้านทำเองอีกเช่นกัน แม‰ขั้นตอนยุ่งยากสักหน่อย แต่สมกับรสชาติที่ได้คุณภาพและความอร่อย

สูตรหมูกรอบ ขั้นตอนแรก ต้มหมูจนสุก หมักด้วยเครื่องเทศต่างๆ และซอสปรุงรส เสร็จแล้วทาเกลือป่นโรยพริกไทยป่น หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นอบในเตาอบ 1 ชั่วโมง เพื่อให้น้ำมันหมูไหลออกมา

ขั้นตอนสุดท้าย ทอดด้วยน้ำมันร้อนๆ ซึ่งคุณพัชรินทร์เผยเคล็ดลับความอร่อยของหมูกรอบ ขึ้นอยู่กับน้ำมันที่ใช้ทอดด้วย เพราะที่ร้านจะเปลี่ยนใช้ของสดใหม่ทุกวัน หมูกรอบที่ได้จะหอมและสดใหม่น่ากิน

"เกี๊ยวหมู" เป็นหมูบดผสมกับกุ้งบดหมักด้วยซีอิ๊วขาว พริกไทย น้ำมันงา นวดให้เข้ากันจนเหนียว หมักไว้ 1 คืน ก่อนห่อด้วยแผ่นเกี๊ยว

ลูกค้าที่มาสั่งส่วนใหญ่จะสั่งเกี๊ยวน้ำเป็ด หรือเกี๊ยวน้ำหมูแดง น้ำซุปเข้มข้นชิมก่อนแล้วค่อยปรุงรสเพิ่มเติม

ทางร้านยังมี ซี่โครงหมูตุ๋น มะระหมูตุ๋น สาหร่ายหมูตุ๋น และหน่อไม้จีนตุ๋น ไว้ซดน้ำร้อนๆ คล่องคอ หากอยากชิมเป็ดย่างถึงรสถึงชาติ ขอแนะนำเป็ดสับแบบเป็นจาน กินกับข้าวเปล่าสักถ้วยสองถ้วย จะรู้ถึงรสชาติความอร่อย

ร้านตั้งอยู่ตรงข้ามไปรษณีย์สาธุประดิษฐ์ ใกล้แยกท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-17.00 น. ไปไม่ถูก สอบถามได้ที่ 0-2294-5904

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ซังเล้งบะหมี่มังกรคู่" ชูรส ชวนกิน
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000114290
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 กันยายน 2551 13:56 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านบะหมี่มังกร(ซังเล้ง) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นานๆ "ผ่านมาแวะกิน" จะมีโอกาสผ่านไปทำธุระแถวมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ครั้นเมื่อท้องหิวขึ้นมา อยากหาอะไรๆใส่ท้อง เราจึงโทรศัพท์สอบถามจากเพื่อนที่เคยร่ำเรียนมหา' ลัยนี้มา มันแนะนำเราว่า แถวถนนหน้า ม.หอการค้า มี "บะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)" เป็นอีกหนึ่งร้านชวนอร่อย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวหมูทอด(บน)เกี๊ยวกุ้งหมูรวม(ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อได้ข้อมูลดังนั้น "ผ่านมาแวะกิน" จึงไม่รีรอ รีบไปแวะหาเมนูเด็ดที่ร้านนี้กินในทันที โดยเราเลือกเปิดประเดิมมือด้วย บะหมี่เกี๊ยวหมูทอด (35บาท) ที่หน้าตาดูน่าลิ้มลองเป็นอย่างยิ่ง เสิร์ฟด้วยหมูทอดที่คัดเอาหมูสันนอกมาหมักด้วยเครื่องปรุงรสไข่และแป้งแล้วนำเข้าตู้เย็นเก็บไว้ เมื่อจะทอดก็นำมาคลุกไข่อีกครั้งแล้วนำมาชุบเกล็ดขนมปังลงทอดในน้ำมัน ได้ออกมาเป็นหมูทอดกรอบนอกนุ่มในและมีรสชาติในตัว เส้นบะหมี่ของที่นี่เขาก็ทำเอง เป็นบะหมี่เส้นเล็กเหนียว นุ่ม ส่วนเกี๊ยวก็ทำเองเช่นกัน โดยใช้หมูบดหมักเครื่องปรุงได้รสชาติและเคี้ยวหอมด้วยกลิ่นน้ำมันงานุ่มชุ่มปาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหมูแดงหมูกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> จานแรกจึงหมดไปอย่างรวดเร็ว จานต่อไปขอเปลี่ยนเป็นข้าวบ้าง โดยเลือกเมนู ข้าวหมูแดงหมูกรอบ (35 บาท) และแน่นอนว่าหมูแดงและหมูกรอบของที่ร้านบะหมี่มังกรแห่งนี้ เขาก็ทำเองเช่นกัน โดยหมูแดงใช้หมูสันนอกมาหมักเครื่องปรุงรสสูตรเฉพาะของทางร้าน ส่วนหมูกรอบเป็นหมูสามชั้น นำมาต้มให้สุกแล้วนำไปทอดถึง 3 ครั้งเพื่อรีดมัน ทำให้ได้หมูกรอบที่หนังกรอบเนื้อนุ่มไม่มีมันให้รำคาญใจอีกด้วย ส่วนน้ำราดของทางร้านจะใส่น้ำตาลปีบอย่างดีทำให้หวานมันออกเค็มนิดๆได้ที่เพิ่มความอร่อยให้ข้าวหมูแดงหมูกรอบ

สำหรับทีเด็ดสำหรับร้านนี้อีกหนึ่งอย่างก็คือ ซุปกระดูกหมู ที่ทางร้านบริการให้ฟรี เพื่อจะได้ซดน้ำให้คล่องคอ โดยเป็นซุปที่ต้มจากกระดูกหมูให้รสชาติกลมกล่อมหวานกระดูกหมู และเมนูสุดท้ายคือ เกี๊ยวกุ้งหมูรวม (45 บาท) ซึ่งได้รวมเอาหมู 3 อย่าง ทั้งหมูทอด หมูแดง และหมูกรอบไว้ในจานเดียว บวกกับเกี๊ยวกุ้งที่ใช้กุ้งทั้งตัวห่อแผ่นเกี๊ยวเคี้ยวนุ่ม กินไปซดน้ำซุปกระดูกหมูไปรสกลมกล่อมทั้งปาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหมูทอด+ซุปกระดูกหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หากมิตรรักนักกินท่านใดอยากจะสั่งจานเดียวแต่ขอเพิ่มหมูทอด หมูแดง หมูกรอบ หรือไข่ไก่ ก็สั่งเพิ่มได้ ทางร้านคิดราคาอย่างล่ะ 5 บาท ไม่เพียงแค่นี้ในร้านยังมีเมนูให้เลือกสั่งเลือกกินอีกมากมาย อาทิ ข้าวหมูทอด (35 บาท), บะหมี่หมูแดง (25 บาท), บะหมี่เกี๊ยวต้มยำ (35บาท), เส้นเล็กต้มยำพริกเผา (30 บาท), น้ำเก๊กฮวยทำเอง (12 บาท) เป็นต้น ใครที่ผ่านมาแถว ม.หอการค้า ก็แวะมาฝากท้องที่ร้านบะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง) กันได้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับพี่น้อง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

บะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง) ตั้งอยู่ซ.วิภาวดีรังสิต 2 (ซ.หน้าม.หอการค้าไทย) ดินแดง กรุงเทพฯ การเดินทางจากถนนวิภาวดีมุ่งหน้าแยกดินแดง เลี้ยวซ้ายเข้าซอยซ.วิภาวดีรังสิต 2 (ซ.ม.หอการค้า) วิ่งตรงไปเรื่อยๆตามทางหลักไปจนถึงทางเลี้ยงซ้ายเข้าม.หอการค้า ก่อนเข้าประตูมหาวิทยาลัยตรงหัวมุมจะมีร้าน7/11 ให้เลี้ยวขวา จะเห็นร้านบะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)อยู่ทางขวามือติดกับร้าน 7/11 ร้านเปิดทุกวัน เว้นวันอาทิตย์ เวลา 07.00-19.00 น. โทร.08-1116-6886, 08-1777-6996


รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "บะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "บะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)"
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000114225
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>
โดย ผู้จัดการออนไลน์
</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>
26 กันยายน 2551 14:28 น.
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : บะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)

ประเภทอาหาร : บะหมี่

เมนูจานเด่น : บะหมี่เกี๊ยวหมูทอด, ข้าวหมูแดงหมูกรอบ, เกี๊ยวกุ้งหมูรวม, ข้าวหมูทอด

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว โล่ง โปร่ง สบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 126/26 ซ.วิภาวดีรังสิต 2 (ซ.หน้าม.หอการค้าไทย) ดินแดง กทม. การเดินทางจากถ.วิภาวดีรังสิตมุ่งหน้าแยกดินแดง เลี้ยวซ้ายเข้า ซ.วิภาวดีรังสิต 2 (ซ.ม.หอการค้า) วิ่งตรงไปเรื่อยๆตามทางหลักไปจนถึงร้าน Family Mart แล้วเลี้ยงซ้ายไปทางเข้าม.หอการค้า ก่อนเข้าประตูมหาวิทยาลัย จุดสังเกต ตรงหัวมุมมีร้าน7/11 ให้เลี้ยวขวา จะเห็นร้านบะหมี่มังกรคู่(ซังเล้ง)อยู่ทางขวามือติดกับร้าน 7/11

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เว้นวันอาทิตย์ 07.00-19.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 08-1116-6886, 08-1777-6996
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตะลุยชิมของดีกรุงเก่า เตี๋ยวเรือรสเด็ด เตี๋ยวเป็ดรสเข้มกับโรตียักษ์
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod01051051&sectionid=0125&day=2008-10-05
คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>อยุธยาหรือกรุงเก่า เมืองแห่งอุทยานประวัติศาสตร์ ราชธานีเก่าของไทยเราที่ใครๆ ก็รู้จักกันดี สถานที่นี้เหมาะสำหรับการไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่งเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เพียง 60-70 กม.เท่านั้น

นอกจากนี้อยุธยายังอุดมไปด้วยอาหารการกินมากมาย ไปเที่ยวแล้วยังได้ชิมของอร่อยอีกต่างหาก

ใจกลางเกาะ กลางเมืองอยุธยามีก๋วยเตี๋ยวเรือเจ้าเก่าเปิดขายมาได้ 25 ปี จนมีขาประจำทั้งคนในพื้นที่รวมทั้งนักท่องเที่ยวมาอุดหนุนกันเนืองแน่นตลอดเวลา

ร้านนี้ชื่อว่า "ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็กเจ้าเก่า" ตั้งอยู่หน้า ทศท หรือองค์การโทรศัพท์ประจำเมืองอยุธยา หัวมุมถนนบางเอียน ตรงข้ามกับบึงพระราม

สภาพเป็นร้านโล่งๆ ยาวๆ มีหลังคาคลุมขนานไปกับทางเท้า มีเรือแจวขึ้นบกสำหรับเป็นที่ชงก๋วยเตี๋ยว ตั้งโต๊ะเรียงรายนับได้หลายสิบโต๊ะ คะเนดูสามารถจุคนได้เป็นร้อย

"ที่นี่มีทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อและก๋วยเตี๋ยวเรือหมูน้ำข้น ดังนั้น เวลาสั่งกรุณาบอกให้ชัดเจนว่าต้องการเนื้อหรือหมู"

แน่นอนของอร่อยๆ สุดสุดต้องเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อดั้งเดิม ที่เขาปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยวน้ำตกชามเล็กๆ สนนราคาชามละ 12 บาท มีเส้นให้เลือก 3 ชนิดคือ เส้นหมี่ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก

ของดีของเด่นอยู่ที่เนื้อสดและเนื้อเปื่อย "เนื้อสด" ที่แล่เป็นชิ้นเล็กๆ บางๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะนุ่มอร่อยมากสำหรับร้านริมทางเช่นนี้ ส่วน "เนื้อเปื่อย" นั้นก็เปื่อยและมีคุณภาพดี ไม่แข็งกระด้าง ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกรสจัดจ้านครบทุกรส ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย ใส่ทั้งผักบุ้งและถั่วงอก เครื่องอื่นๆ ยังมี ตับและลูกชิ้นลูกเล็กๆ อีกด้วย ก๋วยเตี๋ยวแห้งใส่ถั่วลิสงบด รสเด็ดเผ็ดร้อนอีกเช่นกัน กรุณาพกทิชชู่ไปด้วยจะได้ใช้แน่ยามคับขัน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูนั้นก็รสชาติเข้าขั้น ไม่ต้องปรุงเช่นกัน ใส่หนังหมูมาให้อีก 1 ชิ้นด้วย ร้านนี้เหมาะสำหรับมากินมื้อเที่ยง เปิดทุกวันยกเว้นพุธกลางเดือนและพุธปลายเดือนเท่านั้น

ก่อนกลับควรแวะซื้ออะไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ให้ไปที่ "ตลาดเจ้าพรหม" ซึ่งเป็นตลาดสดเก่าแก่ของ พระนครศรีอยุธยา ที่นี่มี "เป็ดพะโล้ของร้านเช็งเป็ดพะโล้เจ้าเก่า" ซึ่งคุณชายถนัดศรีกับปิ่นโตเถาเล็กชื่นชอบมานานนมเน เขาเปิดมานานเกือบครึ่งศตวรรษตั้งแต่รุ่นเตี่ย

เช็งเป็ดพะโล้อยู่ตรงทางเข้าตลาดฝั่ง "ถนนอู่ทอง" (ซึ่งเป็นถนนรอบเมือง) ตรงข้ามกับสาธารณสุข ถ้าหันหน้าเข้าตลาด แผงของร้านเช็งจะอยู่ตรงช่องด้านขวาช่วงต้นๆ เลย ป้ายหน้าร้านสะกดด้วยภาษาอังกฤษว่า Sheng

เขาใช้เป็ดเชอรี่ปรุงด้วยเครื่องยาจีนจนกลายเป็นเป็ดพะโล้รสเข้มข้นเข้าเนื้อ นุ่มอร่อยรสจัดจริงๆ เพิ่มความจัดจ้านด้วยน้ำจิ้มเป็ดใส่กระเทียมพริกตำ อร่อยอย่าบอกใคร ของโปรดอีกอย่างคือ "ไส้เป็ด" เนื้อนุ่มเนียน ซึ่งจะหมดก่อนอย่างอื่น สนนราคาเป็ดพะโล้ ตัวละ 280-300 บาท และ 320 บาท ตามขนาดตัว

ยังมีโรตีสายไหมที่กลายเป็นของฝากขึ้นชื่อประจำจังหวัดไปเสียแล้ว ย่านโรตีสายไหมอยู่ตรงข้ามกับโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา บนถนนอู่ทองฝั่งทิศใต้ของเกาะ บริเวณนี้มีร้านโรตีให้เลือกซื้อนับสิบๆ เจ้า <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

แต่ถ้าต้องการชิมเจ้าที่โด่งดังในระดับประเทศต้องมาที่ "ร้านโรตีสายไหมอาบีดีนและประนอม แสงอรุณ" สองสามีภรรยา โรตีแป้งหนานุ่มแผ่นยักษ์กับสายไหมหอมมัน ทำออกมาสดใหม่ทุกชั่วโมง

แป้งโรตีนิ่มๆ นี้ทำจากแป้งสาลีอเนกประสงค์กับเกลือและน้ำ คลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นนำแป้งเหนียวข้นไปละเลงบนกระทะก้นแบนด้วยมือเปล่า เชิญดูกรรมวิธีการทำได้เลยตรงด้านหลังของร้านอาบีดีน ประนอมสาขา 1 อยู่ทางฝั่งซ้าย (หันหน้าเข้าร้าน) ถัดจาก 7-11 ที่อยู่ทางขวาไปไม่กี่คูหา บริเวณนี้ยังมี "ร้านโรตีสาขา 3" ตรงหน้า 7-11 อีกแห่งซึ่งอยู่ทางฝั่งขวาตรงข้ามโรงพยาบาลเช่นกัน

ส่วน "สาขา 2" นั้นอยู่ห่างออกไปบนถนนอู่ทองเส้นเดียวกัน ทางไปพระตำหนักสิริยาลัย ใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้านตะวันตกตรงวัดกษัตราธิราช ตรงนี้มีการทำสายไหมจากน้ำตาลเคี่ยวคลุกกับหัวเชื้อที่ทำจากแป้งสาลีกับน้ำมันพืช

ในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์ เขามีกฎกติกามารยาทว่า "คนหนึ่งๆ ซื้อได้เพียง 5 ชุดเท่านั้น" ไม่ว่าจะเป็นขนาดไหน มีตั้งแต่ชุดละ 25 บาท ไปจนถึง 40 50 80 100 และชุดใหญ่สุด 200 บาท ที่จะได้แป้งโรตี 1 กิโล สายไหม 1 กิโล

ถ้าจะกินโรตีให้อร่อย ควรชิมในวันนั้นเลยหรือเก็บค้างคืนแค่คืนเดียวพอ แป้งจะได้ไม่คืนตัว ถึงแม้ว่าความจริงแล้วจะมีอายุการเก็บได้ 3 วันก็ตาม

อ่านจบแล้ว รีบรวมรวมสมัครพรรคพวก ลูกเด็กเล็กแดง ขับรถไปเที่ยวโบราณสถาน ไว้พระ เพื่อความเป็นสิริมงคล

"แล้วลิ้มลองของอร่อย ได้ทั้งอิ่มใจและอิ่มท้องไปพร้อมกันเลยทีเดียว"

ข้อมูล

ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก เจ้าเก่า

โดย ป้าเล็ก ประดิษภูมิ

ที่ตั้ง หัวมุมถนนบางเอียน หน้า ทศท อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

โทร. 08-1813-9723 08-1930-2385

เปิดบริการ 08.00-17.00 น. ทุกวัน

หยุด 2 วันต่อเดือน ทุกวันพุธกลางเดือนและพุธปลายเดือน

อาหารแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อ (เนื้อสดและเนื้อเปื่อย) และก๋วยเตี๋ยวเรือหมู

เช็งเป็ดพะโล้

โดย คุณมนต์สรร และคุณขวัญชัย รื่นเริงฤทธิ์

ที่ตั้ง ตลาดเจ้าพรหม ด้านทางเข้าตรงข้ามสาธารณสุข ถนนอู่ทอง อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา

โทร. 08-6020-5111 (คุณขวัญชัยหรือคุณน้อย)

เปิด 05.00-20.00 น. ทุกวัน

แนะนำ เป็ดและไส้พะโล้

โรตีสายไหม ร้านอาบีดีน-ประนอมแสงอรุณ

โดย คุณอาบีดีน และคุณประนอม แสงอรุณ

ที่ตั้ง สาขา 1 32/1 หมู่ 4 ถ.อู่ทอง ติดกับร้านคลังยา ตรงข้าม รพ.อยุธยา โทร.08-9005-9948

สาขา 2 ถนนอู่ทอง ซ้ายมือก่อนขึ้นสะพานวัดกษัตราธิราช โทร.08-7972-1372

สาขา 3 ตรงข้าม รพ.อยุธยา หน้า 7-11 โทร.08-9005-9948

เปิดบริการ 07.00-19.00 น. ทุกวัน (อาจปิดก่อนตั้งแต่ 18.00 น. หรือปิดหลังตอน 20.00 น.)

แนะนำ โรตีสายไหม

 

เกาเหลา-ซุปหอมกรุ่น ร้าน"ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้ง้อ"

อิ่มอร่อย

http://www.matichon.co.th/khaosod/v...ionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHhNQzB4TUE9PQ==

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>หากมีโอกาสแวะเวียนไปแถวถนนนครไชยศรี เขตดุสิต ซึ่งมีร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่อร่อยๆ อยู่หลายเจ้า ขอแนะนำ "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้ง้อ" ขึ้นชื่อในความอร่อยของน้ำซุป

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ้ง้อ มีกลิ่นอายน้ำต้มเนื้อแท้ๆ และโดดเด่นที่เนื้อเปื่อยอันลือชื่อ ในความกรุบนุ่ม จนยืนหยัดมากว่า 30 ปี

คุณพัชรินทร์ แซ่ลี้ หรือเจ้ง้อ อายุ 51 ปี เจ้าของร้านกล่าวว่า ได้สูตรการทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรโบราณมาจากรุ่นคุณพ่อ ที่มาจากเมืองจีนและมายึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

เริ่มต้นจากการหาบก๋วยเตี๋ยวเนื้อหม้อทองเหลือง ขายย่านซอยอารีย์ สะพาน ควาย จนกระทั่งหาบขายไม่ไหวจึงมาซื้อห้องแถวย่านถนนนครไชยศรี เพื่อตั้งร้าน ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อมากว่า 40 ปี จนกระทั่งตกทอดมาสู่รุ่นตนที่ขายมาถึงทุกวันนี้กว่า 30 ปีแล้ว

ความอร่อยของก๋วย เตี๋ยวเนื้อของที่ร้านอยู่ที่น้ำซุป และเน้นความสดใหม่สะอาด ไม่เหม็นสาบเนื้อและเครื่องใน <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

เมนูเนื้อที่ทางร้านขายดิบขายดี และลูกค้านิยมสั่งคือ เกาเหลารวมทุกอย่าง

ที่รวมทุกอย่างก็จะมี ทั้งเนื้อสด เนื้อเปื่อย ไส้อ่อน ขอบด้ง ม้าม เอ็นแก้ว ตับ และลูกชิ้นเนื้อ

ผักที่ใช้ใส่เกาเหลามี 2 อย่างคือ ถั่วงอก และผักบุ้ง ต้องชิมก่อนแล้วค่อยปรุง เพราะน้ำซุปมีรสเข้มข้นอยู่แล้ว กินกับข้าวสวยร้อนๆ สักถ้วยสองถ้วย ราคาธรรมดาชามละ 30 บาท พิเศษ 40 และพิเศษเพิ่มเนื้อต่างๆแล้วแต่ลูกค้าสั่ง 50 บาท

หากต้องการกินให้ถึงรสชาติของเนื้อ แนะนำเมนู เกาเหลาแห้งรวมทุกอย่าง

ชามนี้มีทั้งเนื้อสดเนื้อเปื่อย ลูกชิ้น เครื่องในทุกอย่าง อัดแน่นกันอยู่ในชาม เหยาะซีอิ๊วดำเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน เวลากินปรุงรสด้วยเครื่องปรุงให้ถูกปากตามชอบใจ กินกับ ข้าวสวยร้อนๆ เข้ากันพอดี ราคาจะเท่ากันกับเกาเหลารวม

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบลูกชิ้นเนื้อ ขอแนะนำเกาเหลาลูกชิ้นเนื้อวัว ที่ร้านใช้ลูกชิ้นเนื้อวัวสั่งตรงสดใหม่ทุกวันมาจากโรงงานเจ้าประจำที่ซื้อกันมาหลาย 10 ปี ย่านสาธุประดิษฐ์

ที่ใช้ลูกชิ้นที่โรงงานนี้เพราะเป็นเนื้อวัวแท้ ไม่ผสมแป้ง ที่สำคัญสะอาดและสดใหม่ทุกวัน กินคู่กับน้ำซุปร้อนๆ

สำหรับลูกค้าที่ต้องการกินก๋วยเตี๋ยวทางร้านก็มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ และเส้นบะหมี่ ไว้บริการอยู่แล้ว จะสั่งแบบพิเศษเนื้อเปื่อย หรือเครื่องในสามารถสั่งกับเจ้ง้อได้เลย เจ้จัดให้

สำหรับน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ที่มีความเข้มข้นนั้น เจ้ง้อบอกว่าเป็นสูตรเด็ดตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อ ที่นำติดตัวมาจากเมืองจีน โดยน้ำซุปต้มรวมกับสมุนไพรจีน ที่ใส่ลงไปเล็กน้อยเพื่อให้เข้มข้น และมีรสชาติที่กลมกล่อม หอมกรุ่น

ส่วนเนื้อเปื่อยนั้น เจ้ง้อบอกเคล็ดลับว่า ทางร้านนำเนื้อส่วนสะโพก และท้องติดมัน ลงไปต้มกับน้ำซุป เมื่อน้ำซุปเดือด ก็ให้ลดไฟลงเล็กน้อย ต้มประมาณ 3-4 ชั่วโมง เนื้อที่ต้มจะเปื่อยพอดี ใช้เนื้อสดหมักซีอิ๊วและส่วนผสมต่างๆ ที่เป็นสูตรของทางร้าน เสร็จแล้วนำไปหมักไว้ในตู้เย็นทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็ทยอยนำออกมาทำให้ลูกค้า

ส่วนเครื่องในและไส้ซื้อมาทำเอง เพราะต้องมาทำความสะอาด และเพื่อดับกลิ่นสาบของเนื้อวัว เสร็จแล้วนำไปหมักและเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อความสดใหม่ของเครื่องในอยู่เสมอ

ร้านเปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่เวลา 07.00-16.00 น. หากไปในวันหยุดให้โทรศัพท์ไปสอบถามที่นั่งก่อน เพราะมีลูกค้าประจำจำนวนมาก ที่โทร. 0-2241-5541 หรือ 08-6567-1260

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>แฮปปี้ไลฟ์กับคุณหรีด-เส้นหมี่กาน้าฉ่ายเห็ดโคน
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4>http://www.komchadluek.net/2008/10/18/x_soc_s001_226522.php?news_id=226522

</TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


เทศกาลเจที่ผ่านมาผลวิจัยสรุปออกมาว่า มีคนหันมานิยมกินเจเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 15% ถือว่า เป็นตัวเลขที่น่าจับตามองสำหรับผู้ประกอบการ แต่ที่สำคัญที่สุดคือ หรีดเชื่อว่าคนเริ่มให้
ความสำคัญเรื่องสุขภาพกันมากขึ้นและได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นจึงระวังว่าจะกินอะไรลงไปในท้องเรา ซึ่งหรีดดีใจมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะหรีดเป็นคนหนึ่งที่เมื่อสมัยก่อนไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้ เพราะมีความเชื่อว่าเราไม่ได้ทำอะไรสิ่งไม่ดี แล้วทำไมต้องกินเจเพียงวัตถุประสงค์ว่า ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต อีกทั้งเคยลองแล้ว มีความรู้สึกว่า ท้องหวิวๆ ตัวลอยๆ อีกทั้งยังเห็นดาววูบวาบอีก เลยกินไม่สำเร็จ รีบตรงไปหน้าองค์เจ้าแม่กวนอิม แล้วพนมมือขอลาออกเลย เพราะกลัวผิดคำตั้งใจที่ได้อธิษฐานไว้ อีกทั้งไม่สบายใจด้วย
แต่เชื่อไหมตอนนี้หรีดกินเจเหมือนใช้ชีวิตประจำวันเลยล่ะค่ะ เมนูเจก็ทำได้สารพัด พูดง่ายๆ ว่า ทำทั้งเดือนยังไม่ซ้ำเลยล่ะค่ะ วันนี้หรีดขอฝากอีกสักหนึ่งเมนูเบาๆ ที่หรีดเชื่อว่าแฟนคอลัมน์หรีดทำได้ คือ เส้นหมี่กาน้าฉ่ายเห็ดโคนสาเหตุที่หรีดเลือกเห็ดโคนเพราะเห็ดโคนหวานกรุบ อร่อย และมีเฉพาะฤดูนี้เท่านั้น แต่ถ้าหากหาไม่ได้ ก็เปลี่ยนเป็นเห็ดโคนญี่ปุ่นได้นะคะ เพราะเห็ดโคนญี่ปุ่นมีตลอดปีเลยล่ะค่ะ
หรีดขอแนะนำเคล็ดลับการลวกเส้นหมี่อีกครั้งนะคะเพราะเส้นหมี่จะได้นุ่มอวบอิ่มน่ากินมากขึ้น คือ นำน้ำร้อนเทลงในเส้นหมี่แล้วรีบนำขึ้นมาวางบนรังถึงแล้วเอาฝาหม้อมาปิด โดยที่ไอน้ำร้อนจะระเหยให้เส้นหมี่ระอุด้วยความร้อนประมาณ 15 นาที แต่อย่าลืมกลับเส้นหมี่ด้วยนะคะ เพื่อจะได้ทั่วถึง เดี๋ยวจะได้เส้นหมี่นุ่มเฉพาะส่วนที่โดนไอน้ำร้อนเท่านั้นเสร็จแล้วพักเส้นหมี่ไว้
ตอนนี้ใส่น้ำมันในกะทะแล้วนำเห็ดโคนลง ตามติดๆ ด้วยน้ำมันหอย เกลือ พริกไทย พริกชี้ฟ้าหั่นยาวเอาเม็ดออก อย่าลืมนะคะ ต้องให้เห็ดถูกเคลือบไว้เลย เหยาะน้ำตาลทรายขาวนิดหน่อยแล้วนำขึ้น ตอนนี้ตั้งกระทะเดิมใส่น้ำมัน เอาขิงหั่นแว่นลงไป ตามด้วยกาน้าฉ่าย พริกไทย มะเขือเทศแห้ง หรือลูกบ๊วยจีนแห้งแช่น้ำให้นุ่มแล้วมาหั่น เพราะทั้งบ๊วยและมะเขือเทศแห้งจะทำให้เราได้เคี้ยวเส้นหมี่แล้วจะอร่อยขึ้นค่ะ ตอนนี้ก็ผัดให้กาน้าฉ่ายให้หอมตอนนี้ก็นำเส้นหมี่ลง อย่าลืมเติมน้ำซุปผักนิดหนึ่ง หากไม่มีน้ำซุปผัก ก็ใช้น้ำเปล่าก็ได้นะคะสาเหตุที่ใส่น้ำเพื่อให้ตัวเส้นหมี่จะได้นุ่ม เพราะเส้นหมี่เวลามาถูกผัด-4น้ำมันเส้นหมี่จะกระด้างนิดหน่อย อย่าลืมเหยาะน้ำส้มสายชู และใส่พริกป่นลงไปสักนิด ตอนนี้เราก็ผัดจนกาน้าฉ่ายและเครื่องต่างๆให้เกาะตามเส้นของหมี่ จะได้รสชาติที่ครบรสเลยล่ะค่ะ นำขึ้นใส่จานแล้วแต่งด้วยเห็ดโคนที่ผัดเตรียมไว้แล้ว สาเหตุที่หรีดผัดเห็ดไว้ก่อนเพื่อแต่งหน้า ก็เพราะเห็ดโคนราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากใส่เห็ดมากจานนี้ก็ต้องใช้งบประมาณที่สูง แต่ถ้าใส่น้อยนำลงไปผัด ก็จะมองเห็นเหมือนวิญญาณเห็ด หรีดจึงมีไว้ประดับราคา เพราะดูหรู และอร่อยจริงๆ นะคะ
<TABLE align=center><TBODY><TR></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="96%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=headnews vAlign=top>ปักหลักขาย “กวยจั๊บต้มยำขาไก่" ชีวิตที่ลงตัวของ "นคร แสงงาม"
</TD></TR><TR><TD vAlign=top height=4>http://www.komchadluek.net/2008/10/23/x_agi_b001_227239.php?news_id=227239

</TD></TR><TR><TD class=dessubmmenu1><CENTER></CENTER>


วิถีการต่อสู้ชีวิตของคนทุกคนย่อมแตกต่างกันไป บ้างประสบผลสำเร็จ บ้างล้มเหลว แต่เป้าหมายเดียวกันนั่นคือ ขอเพียงความอยู่รอดของตัวเองและสมาชิกของครอบครัว เฉกดั่งการดิ้นรน ต่อสู้ ของ "นคร แสงงาม" หนุ่มใหญ่วัย 40 ปีเศษ ซึ่งกว่าจะลงตัวที่ "กวยจั๊บต้มยำขาไก่" เขาต้องใช้เวลาครึ่งชีวิต
ด้วยฐานะทางบ้านไม่ดี เมื่อเติบโตขึ้นมาทำให้นคร หรือ "จ้อน" ต้องเร่ร่อนออกจากบ้านหางานทำ เพื่อหาเงินมาประทังปากท้อง กระทั่งแต่งงานมีครอบครัวเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ก็ยิ่งดิ้นรนมากขึ้น ต้องตระเวนเร่ขายเทป ซีดีเพลง ย่านนวนคร ปทุมธานี ช่วงนั้นชีวิตเผชิญวิกฤติมากมาย โดยเฉพาะช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่แตก ฐานะการเงินแย่ลง สภาพครอบครัวลำบาก ในที่สุดต้องเลิกรากันไป
"ราวปี 2542 ไม่รู้จะทำอะไรดี ผมจึงกลับบ้านและได้รู้จักกับจินตนา คงแก้ว ซึ่งต่อมาได้อยู่กินด้วยกัน โดยได้บ้านเช่าในตัวเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ใกล้สี่แยกอนุชน ติดกับถนนแสงชูโตสายใหม่ เสียค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท ขายกวยจั๊บ ซึ่งผมดูแล้วว่าแถวนั้นยังไม่มีใครขาย"
จากนั้นได้ไปหาซื้อสูตรพร้อมเข้าร่วมอบรม โดยจ้อนบอกว่า ใช้เวลาอบรมแค่ 3 ชั่วโมง ก่อนกลับมาลองทำรับประทานดู เห็นว่ารสชาติใช้ได้ก็เริ่มวางแผนซื้อข้าวของเท่าที่จำเป็นเข้าร้าน เริ่มขายตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยลูกค้ารู้จักกันในนาม "ร้านกวยจั๊บนายจ้อน"
แม้ร้านจะเริ่มเป็นที่รู้จักของลูกค้ามากขึ้น แต่ทั้งคู่ไม่ได้นิ่งเฉย ได้พยายามคิดค้นสูตรใหม่ๆ กระทั่งได้คิดสูตร "กวยจั๊บต้มยำขาไก่" โดยมีส่วนผสมคือ น้ำต้ม 10 ลิตร ใส่รากผักชี 1 กำ คนอร์ 1 ซอง น้ำตาลทราย 2 ทับพี ผงชูรสพอประมาณ เกลือ ซีอิ๊วดำ เพื่อเพิ่มรสชาติ ส่วนขาไก่ต้องทำให้สะอาดไม่มีขนติด ต้มใส่เครื่องปรุงแล้วเคี่ยวจนเปื่อย ส่วนเส้นก็ใช้เส้นกวยจั๊บทั่วไปที่มีขายในท้องตลาด
จ้อน เล่าอีกว่า นอกจากกวยจั๊บต้มยำขาไก่ที่เป็นที่รู้จักในหมู่นักชิมแล้ว ยังต้องเสริมอาหารจานด่วนเข้าไปเพื่อเป็นตัวเลือกให้แก่ลูกค้าประจำและขาจร มีทั้งข้าวผักกะเพรา ผัดพริกแกง อาหารตามสั่งอื่นๆ แต่ก็มีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะทำกันแค่สองผัวเมียเท่านั้น
"ลงทุนวันละ 2,000-2,500 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วก็เหลือเป็นค่าเหนื่อยอย่างน้อยกว่า 1,000 บาท ก็ถือว่าไม่เลว ใช้เวลาขายประมาณ 8 โมงเช้า พอบ่าย 2 โมงก็หมดแล้ว โดยขายในราคาจานละ 25-30 บาท" จ้อนบอก
ใครที่ผ่านมาผ่านไปแถวย่านเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ถ้ารู้สึกว่าหิวและต้องการชิมเมนูใหม่ๆ ที่รสชาติถูกปาก อย่าลืมแวะไปได้ที่ร้านกวยจั๊บนายจ้อน อยู่บริเวณทางออกถนนแสงชูโตสายใหม่ ตรงสี่แยกอนุชน รับรองไม่ผิดหวัง...
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สามีภรรยาคู่นี้เน้นย้ำมากที่สุด นอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ความสะอาดก็ต้องเป็นเลิศด้วย!

จตุพร สุขอินทร์
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิชชินเก็บคืน “บะหมี่คัพ” ในญี่ปุ่นหวั่นมียาฆ่าแมลงปนเปื้อน
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000126385
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 ตุลาคม 2551 14:55 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=213 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=213> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี - นิชชินฟู้ดโปรดักส์ ของญี่ปุ่น เปิดเผยวันนี้ (24) ทางบริษัทได้เก็บคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุถ้วย ประมาณ 5 แสนถ้วย ภายในวันเดียว จากความกังวลว่าอาจมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลง จากเหตุสตรีรายหนึ่งล้มป่วยหลังรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้าไป

สตรีวัย 67 ปี ในเมืองฟูจิซาวา ชานกรุงโตเกียว มีอาการอาเจียน และลิ้นชา หลังจากรับประทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุถ้วยของบริษัทนิชชินสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเมืองกล่าวในช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี (23)

ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผลิต ณ โรงงานของนิชชิน ในญี่ปุ่นเอง ไม่ได้นำเข้าจากต่างแดน หลังเกิดระลอกคลื่นแห่งความกังวลต่ออาหารที่นำเข้าจากจีน

สำนักงานสาธารณสุข กล่าวว่า ระหว่างการตรวจสอบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุถ้วยพบมีสารเคมีสำคัญ (พาราไดคลอโรเบนซีน) ที่ใช้ในยาฆ่าแมลงปนเปื้อนอยู่ แต่รอยรั่วหรือสิ่งผิดปกติในถ้วย

นิชชิน สมัครใจเรียกเก็บคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดบรรจุถ้วยที่ผลิตจากโรงงานเดียวกัน ประมาณ 5 แสนถ้วย ภายในวันเดียว โฆษกบอก พร้อมระบุว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าววางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตในโตเกียวและพื้นที่ใกล้เคียง

“เราขออภัยสำหรับต้นเหตุแห่งปัญหาของผู้ชื่นชอบบะหมี่ถ้วย” ซูซุมุ นากากาวา บอกกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดี อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธถึงความเป็นไปได้ว่าอาจเกิดการปนเปื้อนมาจากโรงงาน โดยระบุว่าทางบริษัทไม่เคยใช้หรือเก็บยาฆ่าแมลงไว้ภายใน นอกจากนี้ ยังมีกล้องวงจรปิด 7 ตัว จับตาตามไลน์ผลิต ”ผมไม่คิดว่าการปนเปื้อนจะเกิดจากไลน์การผลิตของเรา”
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เจ๊น้อยกระโทก สุดยอดอาหารโคราช
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01fod01261051&sectionid=0125&day=2008-10-26

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ผัดหมี่โคราช


</TD></TR></TBODY></TABLE>
คราวนี้ขอพาไปปิ่นโตทัวร์ที่โคราชกันบ้าง ผมว่างเว้นไม่ได้ไปหาอะไรชิมที่เมืองย่าโมตั้งนานแล้ว พอดีติดใจได้ชิมของอร่อยในงานวันเกิดพ่อเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นอาหารท้องถิ่นโคราชแท้ๆ จากร้าน "เจ๊น้อยกระโทก" อร่อยขนาดนี้ เห็นทีจะต้องบุกไปถึงถิ่นเสียเลยดีกว่า

ร้านเจ๊น้อยกระโทก ถือเป็นร้านดังสำหรับรับแขกบ้านแขกเมือง อยู่บนถนนพิบูลละเอียด ตรงข้ามกับโรงพยาบาลค่ายสุรนารี บนเส้นที่มาจากห้าแยกนิ้งหน่องอันเป็นที่ตั้งของการไฟฟ้าโคราช แล้ววิ่งข้ามทางรถไฟไปทางสวนน้ำบุ่งตาหลั่วเฉลิมพระเกียรติ

เจ้าของร้านรุ่นแรกคือป้าน้อยหรือเจ๊น้อยอันเป็นที่มาของชื่อร้าน คุณชายถนัดศรีเคยมาชิมไว้ตั้งนมนานตั้งแต่ร้านยังอยู่ที่ อ.โชคชัย (แถวด่านเกวียน) สนิทถึงขนาดถ่ายทอดสูตรไข่เจียวคุณชายไว้ให้ ซึ่งทางร้านได้นำไปดัดแปลงจนกลายเป็นไข่เจียวกระโทกอันโด่งดัง

ร้านเจ๊น้อยกระโทกเพิ่งย้ายมาอยู่ในตัวเมืองได้ประมาณ 8 ปีเท่านั้น โดยมีเจ๊เป้าผู้ใจดี ลูกสาวของเจ๊น้อย เป็นผู้ว่าการร้านในรุ่นที่สอง

มาร้านเจ๊น้อยแล้วถ้าไม่ได้ลิ้มลอง "ผัดหมี่โคราช" ถือว่ามาไม่ถึงที่ เจ๊เป้าสาธยายว่าผัดหมี่โคราชสูตรโบราณจะใส่ปลาป่นที่ทำจากปลาฉลาด หรือจะใส่ปลาดุก ปลาช่อน ปลาไหล ก็ได้ ส่วนในปัจจุบันผัดหมี่ที่ทำกินกันเองตามบ้านก็จะใส่หมูสามชั้น
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
แกงส้มชะอมทอด

คั่วหม่ำ


</TD></TR></TBODY></TABLE>


สำหรับผัดหมี่โคราชของร้านเจ๊น้อยจะประยุกต์ใส่ไข่และเนื้อไก่ ผมเลยขอให้ทำมาทั้งสองชนิด ซึ่งถ้าใครมาที่ร้านอยากชิมแบบชาวบ้านก็บอกกับเจ๊เป้าได้เช่นกัน

ผัดหมี่โคราชจะแห้งกว่าผัดไทยนิดหน่อย รสจัดจ้านทั้งเค็มหวาน อีกทั้งยังเผ็ดจัด ถ้าไม่เผ็ดก็ไม่อร่อยหรอก ถ้าชอบเปรี้ยวก็บีบมะนาวเพิ่มได้

วิธีการผัดหมี่โคราชจะต่างจากผัดไทยคือผัดเครื่องปรุงเสียก่อน อันประกอบไปด้วย เนื้อไก่หรือหมูสามชั้น น้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา เต้าเจี้ยวดำ หอมแดงสับ แล้วเติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่าลงไปจากนั้นค่อยใส่เส้น

เส้นที่ใช้นั้นเดิมเป็นเส้นสด แต่จะเสียง่ายและไม่มีที่เก็บเส้นในปริมาณมากๆ ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นเส้นแห้งโดยเลือกใช้ "หมี่ตะคุของปักธงชัย"

เส้นหมี่โคราชไม่ใช่เส้นหมี่ขาวแต่เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวที่มีขนาดคล้ายๆ เส้นจันท์ แต่บางกว่าและเหนียวกว่าเส้นจันท์ ส่วนผัดหมี่โคราชแบบชาวบ้านที่ใส่หมูสามชั้นนั้นจะออกเค็ม ไม่มีรสหวาน มีรสเผ็ดโลดอย่าบอกใคร จะว่าไปแล้วผมชอบแบบนี้มากกว่าเสียอีก รสบ้านๆ ดี

ของกินอร่อยเด็ดอื่นๆ ยังมี "คั่วหม่ำ" ซึ่งเป็นไส้กรอกอีสานที่เปรี้ยวๆ เอามาสับแล้วปรุงรสด้วยเครื่องเทศสมุนไพร คั่วจนกรอบๆ แต่ชุ่มฉ่ำไม่แห้ง จานนี้ถึงเครื่องจริงๆ และก็เผ็ดเหลือหลาย แต่ห้ามพลาดเป็นอันขาด
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


ของดีอีกอย่างคือ "ปลาทูฟูผัดพริกขิง" ถ้าไม่บอกไม่รู้ว่าทำจากปลาทู ไม่มีกลิ่นคาวเลย ผัดได้ร่วนกรอบรสจัด เวลากินให้ห่อด้วยใบชะพลู เข้ากันดีนักแล

ยังมี "ไข่เจียวกระโทก" ซึ่งต่างจากไข่คุณชายพอประมาณ ของเดิมจะใส่หัวไชโป๊หวานหั่นแฉลบโหระพา และพริกชี้ฟ้า รสออกหวานๆ เค็มๆ แต่ถ้าเป็นไข่เจียวกระโทกรสชาติจะออกเค็มๆ เผ็ดๆ ใส่โหระพาเช่นกัน แต่จะใช้หัวไชโป๊เส้นๆ ที่หวานน้อย อีกทั้งพริกแดงๆ ที่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นพริกชี้ฟ้า ความจริงแล้วคือพริกขี้หนูผ่าตามยาวครึ่งเม็ด ซัดเข้าไปเต็มคำ เผ็ดจนลมออกหู โธ่ เจ๊ทำไมไม่เตือนผมก่อน

เจ๊เป้าอยากให้ลองส้มตำจานเด็ดของร้านเป็น "ส้มตำไทยโบราณ" ที่ตำถั่วลิสงแหลกๆ จนส้มตำน้ำข้นๆ รสจัดจ้าน ใส่มะนาวฝานทั้งเปลือกชิ้นเล็กๆ เป็นที่ชื่นชอบของพวกเรามาก รับรองรสเด็ดจี๊ดจ๊าดกว่าตำไทยเมืองกรุงยิ่งนัก

ยังมีอาหารพื้นบ้านที่เรียก "อ่อมกบ" ลักษณะคล้ายผัดเผ็ดที่ใส่ผักชีลาวและขมิ้นขาวเข้าไปด้วย เจ๊เป้าบอกว่าคนโคราชไม่กินหนังจึงลอกออกเหลือแต่เนื้อ อาหารจำพวกน้ำๆ ที่น่าลิ้มลองคือ "แกงส้มชะอมทอด" ที่ใช้เครื่องแกงตำเองรสจัดจ้านอีกแล้ว

มีอาหารอีกอย่างที่ทำกินกันตามบ้านทั้งที่โคราชและในกรุงเทพฯ นั่นคือ "ซี่โครงหมูย่าง"

ตอนแรกเจ๊เป้าบอกไม่ได้ตั้งใจจะนำมาบรรจุในเมนูประจำร้านหรอก แต่มีวันหนึ่ง คุณชายถนัดศรีมาชิมที่ร้าน แล้วเจ๊เป้านึกไม่ออกว่าจะทำอะไรแปลกใหม่ให้พ่อชิมดี ก็เลยเอาซี่โครงหมูย่างนี่แหละออกมาเสิร์ฟ ปรากฏว่าคุณบิดาชื่นชอบมาก ซึ่งก็จริงตามนั้น ช่างเป็นซี่โครงหมูที่แสนนุ่มแสนหอมหวาน รับประทานได้ไม่เบื่อ

ร้านเจ๊น้อยกระโทกนี้เหมาะทั้งกินมื้อกลางวันและมื้อเย็น ไปเที่ยวอีสานครั้งใด อย่าลืมแวะชิมที่โคราชก่อนก็แล้วกัน รับรองอร่อยจนฝันถึงไปอีกนาน

ข้อมูลร้าน

เจ๊น้อยกระโทก

โดย คุณยุพิน (เจ๊น้อย) และคุณภัทรภร (เจ๊เป้า) เที่ยงตรง

ที่ตั้ง 109-110 ถนนพิบูลละเอียด หมู่ 7 ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา

โทร.0-4425-5735

เปิดบริการ 08.00-22.00 น. (ครัวปิด 21.30 น.) ทุกวัน

อาหารแนะนำ ผัดหมี่โคราช คั่วหม่ำ ไข่เจียวกระโทก ส้มตำไทยโบราณ ปลาทูฟูผัดพริกขิง อ่อมกบ แกงส้มชะอมทอด ซี่โครงหมูย่าง

 

ก๋วยเตี๋ยวปลาน่ากิน

http://www.posttoday.com/magazine.php?id=486

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :เรื่อง : เพนฟิ่น / ภาพ : เพนฟิ่น:

</TD><TD>
วันพุธที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2551


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตาลอน ตาล๊อน ตะลอน วันนี้จะไปตะลอนที่ไหนดี ยังไม่ทันคิดหาบทสรุป ก็มีเสียงเชิญชวน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>ก๋วยเตี๋ยวเรือนายหงอก บ้านสวน รสเด็ด อร่อยจนลืมอิ่ม!

http://www.posttoday.com/magazine.php?id=14694


</TD><TD vAlign=top width=155></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD>รายงานโดย :เรื่อง /ภาพ ลีโอ leoken@posttoday.com:

</TD><TD>วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2551

</TD></TR></TBODY></TABLE>
อร่อยจนลืมอิ่ม... ผมว่าคุณก็เคยรู้สึกเช่นนี้! และถ้าคุณได้มาลิ้มลองรสชาติของอาหารที่ร้าน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิ่มแปล้ชามเดียวที่ "บะหมี่จับกัง"ข้างตั้งฮั่วเส็ง
http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000127468
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 พฤศจิกายน 2551 14:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=left border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านบะหมี่จับกัง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ยุคนี้ข้าวของแพง จะเสียเงินทั้งทีต้องคิดแล้วคิดอีก ยังไม่ทันหมดเดือนเงินในกระเป๋าก็เหมือนจะละลายหายไปได้เองจนกระเป๋าแบนแฟบ มื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" จึงได้เลือกที่จะพาไปกินบะหมี่จับกังที่ดูจะอิ่มท้องคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋าอันน้อยนิด แม้ครั้งนี้จะไม่ได้ไปกินบะหมี่จับกังแบบต้นตำหรับที่เยาวราช แต่ร้านบะหมี่จับกังร้านนี้ก็ไม่น้อยหน้ากัน

เมื่อมาถึงร้านได้เจอะเจอกับ พัชรี จันทรุไทย หรือ คุณโย ก็ได้เล่าให้ "ผ่านมาแวะกิน" ฟังว่า คุณพ่อเป็นผู้เริ่มทำโดยคิดสูตรบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงขึ้นมาเอง ซึ่งสาขาแรกที่เปิดอยู่ที่บางบอน สาขาที่2 อยู่ที่พระราม 2 และสาขาที่ 3 คือที่ ถ.สิรินธรนี้เอง ส่วนชื่อ "ร้านบะหมี่จับกัง" เพราะให้ปริมาณเยอะ ให้เส้นเยอะกว่าปกติที่เขาขายกัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่จับกังแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนเส้นบะหมี่ก็เป็นเส้นบะหมี่ที่ทำเอง โดยเครือญาติทำเป็นโรงงาน เป็นบะหมี่ไข่พิเศษ คือเป็นบะหมี่ไข่ล้วน แป้งน้อย ไม่ใส่สีผสมอาหารแต่เป็นสีจากไข่ เส้นกลมเหนียวนุ่ม โอ้..ฟังไปฟังมาน้ำย่อยในกระเพาะชักจะไม่ยอมสงบอยู่นิ่ง ทำให้ต้องรีบสั่งบะหมี่มาสังเวยกระเพาะกันสักชามสองชาม

โดยเริ่มประเดิมชามแรกที่ บะหมี่แห้ง (25 บาท พิเศษ 30 บาท)ซึ่งใช้บะหมี่ถึง 3 ก้อน คลุกเคล้าปรุงรสใส่แต่หมูแดงที่ทำเองเช่นกัน โดยเลือกใช้หมูสันในที่มีความนุ่ม เอามาหมักกับซอสและเครื่องเทศจีนสูตรของทางร้าน แล้วจึงเอาไปอบจนสุก และพิเศษตรงที่มีน้ำหมูแดงจากหมูที่อบราดมาในชามด้วย และถ้าสั่งแบบแห้งๆนี้ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะฝืดคอ ทางร้านจะเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปกระดูกหมูที่ต้มเคี้ยวปรุงรสไว้แล้วอย่างกลมกล่อม แถมมีกระดูกหมูให้ได้ดูดแทะกันเพลินๆด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวแห้ง และ บะหมี่เกี๊ยวน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>นอกจากนี้ที่ร้านบะหมี่จับกังยังมีเกี๊ยวรสดีให้ลิ้มลอง อย่างเช่น เกี๊ยวน้ำ เกี๊ยวแห้ง (25 บาท พิเศษ 30 บาท) ที่ใช้แผ่นเกี๊ยวแป้งไข่ ทำเองเช่นกัน นำมาห่อหมูบดละเอียดปรุงรส ส่วนใครถ้าต้องการแบบมิกซ์รวมในชามเดียวก็ต้องนี่ บะหมี่เกี๊ยวน้ำ (30 บาท) ซึ่งใครที่ผ่านมาแถวเส้นถนนสิรินธรหากหิวๆล่ะก็แวะมาฝากท้องที่ "ร้านบะหมี่จับกัง" กันได้ รับรองว่ามาแบบหิวกลับไปแบบอิ่มหนำแน่นอน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ร้านบะหมี่จับกัง ตั้งอยู่ที่ 293 ถ.สิรินธร แขวงบางบำรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ การเดินทางจากสะพานกรุงธน(ซังฮี้) วิ่งตรงข้ามสะพานข้ามแยกบางพลัด แล้วตรงมาเรื่อยๆผ่านห้างตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี แล้วสังเกตทางด้านซ้ายมือจะเห็นร้านบะหมี่จับกังตั้งอยู่เลยห้างตั้งฮั่วเส็งไปประมาณ 20 เมตร เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-18.00 น. สามารถจอดรถได้ริมถนนหน้าร้านจนถึง 15.00 น. หลังจากนั้นจอดได้ที่ห้างตั้งฮั่วเส็ง สอบถามโทร. 08-7999-6533


คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "บะหมี่จับกัง"
http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000127417</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง"ร้านบะหมี่จับกัง"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>2 พฤศจิกายน 2551 19:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=545 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=545> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : ร้านบะหมี่จับกัง

ประเภทอาหาร : บะหมี่

เมนูจานเด่น : บะหมี่จับกังแห้งหมูแดง, เกี๊ยวหมูแห้ง/น้ำ, บะหมี่เกี๊ยวแห้ง/น้ำ

บรรยากาศร้าน : ห้องเล็กๆ โล่ง โปร่ง สบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 293 ถ.สิรินธร แขวงบางบำรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ การเดินทางจากสะพานกรุงธน(ซังฮี้) วิ่งตรงข้ามสะพานข้ามแยกบางพลัด แล้วตรงมาเรื่อยๆผ่านห้างตั้งฮั่วเส็ง ธนบุรี แล้วสังเกตทางด้านซ้ายมือจะเห็นร้านบะหมี่จับกังตั้งอยู่เลยห้างตั้งฮั่วเส็งไปประมาณ 20 เมตร สามารถจอดรถได้ริมถนนหน้าร้านจนถึง 15.00 น. หลังจากนั้นจอดได้ที่ห้างตั้งฮั่วเส็ง

เวลาเปิด-ปิด : เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 10.00-18.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : 08-7999-6533
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>