เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 25 กุมภาพันธ์ 2006.

แท็ก: แก้ไข
  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระวัง!! กินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกได้เชื้อโรค
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000041547
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 เมษายน 2551 12:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับคนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวน้ำตกนั้น คงเพราะติดใจในรสชาติที่เข้มข้นของเลือดสดๆ ที่นำมาลวกกับน้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนๆ ใส่เส้นก๋วยเตี๋ยวและหมูหรือเนื้อและผักบุ้งกรอบๆ กินกับแคบหมูแสนจะอร่อยถูกปาก

    แต่วันนี้ "108 เคล็ดกิน" มีข่าวมาเตือนคนชอบกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตก เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขเขาเพิ่งออกข่าวเตือนมาว่า ในหน้าร้อนอย่างนี้ต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน เพราะเเบคทีเรียสามารถเติบโตได้ดีในอากาศร้อนๆ และการกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตกซึ่งต้องใช้เลือดหมูสดๆ ในการปรุงนั้น อาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อสเตรปโตค็อกคัส ซูอิส หากว่าไม่ทำให้เลือดนั้นสุกเสียก่อน เพราะบ่อยครั้งเราจะเห็นว่าพ่อค้าแม่ค้าเพียงนำเลือดนั้นไปลวกในน้ำร้อนไม่นานเท่าไรนักก็จะนำมาใส่ชามแล้ว และหากเลือดหมูนั้นมีเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวอยู่ก็จะสามารถติดสู่คนได้

    อาการของผู้ที่ได้รับเชื้อตัวนี้ก็คือจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ทำให้หูหนวกและสูญเสียการทรงตัว และหากผู้ป่วยเข้ารับการรักษาช้าอาจทำให้เชื้อแบคทีเรียทำลายเยื่อหุ้มสมองจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ และถ้าไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยก็จะเสียชีวิตภายใน 14 วัน หลังจากรับเชื้อ นับว่าน่ากลัวไม่น้อยเลยทีเดียว

    แม้ขณะนี้จะยังไม่ได้รับรายงานผู้ป่วยจากการกินก๋วยเตี๋ยวน้ำตก แต่ยังไงก็ต้องปลอดภัยไว้ก่อน อย่าลืมกระซิบกับพ่อค้าแม่ค้าเสียหน่อยว่าให้ปรุงสุกๆ ก็จะสามารถกินกันได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    [FONT=Tahoma,]วันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6357 ข่าวสดรายวัน

    http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROamIyd3dNVEkxTURRMU1RPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBd09DMHdOQzB5TlE9PQ
    ซุปหอมเนื้อหวาน ร้านเกาเหลาเมืองนนท์


    คอลัมน์ อิ่มอร่อย



    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>แวะเวียนไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ดที่เปิดให้บริการมากว่า 30 ปี ตรงข้ามตลาดนนทบุรี ทางไปหอนาฬิกา ท่าน้ำ จังหวัดนนทบุรี

    ชื่อชั้นฝีมือหายห่วง การันตีด้วยลูกค้าที่แน่นร้านตลอดทั้งวัน

    คุณพัชรีย์ อังสาชน อายุ 44 ปี เจ้าของร้าน กล่าวว่า ร้านเกาเหลาเมืองนนท์ เป็นร้านตั้งแต่รุ่นคุณพ่อคุณแม่ ตกทอดมาสู่รุ่นตนและพี่ๆ น้องๆ ช่วยกันทำมาหากิน

    ก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อของทางร้านต้องเป็น "เกาเหลาเนื้อ" สูตรพิเศษของทางร้าน มีรสชาติน้ำซุปที่หอมนุ่มลิ้น เนื้อวัวแท้สดๆ ไม่ต้องนำมาหมักกับน้ำซอส จะได้รสชาติความหวานของเนื้ออย่างแท้จริง

    ในแต่ละชามอัดแน่นไปด้วยคุณภาพของลูกชิ้นเนื้อวัว เอ็นวัว เนื้อเปื่อย เนื้อสด ตับ หัวใจ ม้าม ไส้อ่อน ผ้าขี้ริ้ว และขอบกระด้ง ส่วนผักที่กินคู่กับเกาเหลา ใช้ถั่วงอกและผักกาดหอมเป็นผักเครื่องเคียง

    ที่สำคัญต้องชิมน้ำซุปก่อนแล้วถึงค่อยปรุงรส เพราะน้ำซุปเกาเหลาเนื้อวัวมีรสชาติที่กลมกล่อมอยู่แล้ว<table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#400040"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    น้ำซุปทางร้านทำเตรียมไว้วันละ 2-3 หม้อเลยทีเดียว คุณพัชรีย์เป็นคนลงมือปรุงเองทุกวันเพื่อให้ได้รสชาติคงที่

    เริ่มตื่นมาลงมือตั้งแต่ตี 5 ใช้เนื้อที่สั่งสดต่อวันมาจากตลาดสดนนทบุรี เนื้อเปื่อยจะใช้เวลาต้มวันละ 3-4 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า

    สำหรับเนื้อสดเน้นเนื้อวัว หลังจากนั้นนำมาทำความสะอาดและหั่นเนื้อวัวแบบสไลซ์ พอคำเพราะทางร้านจะไม่นำเนื้อไปหมัก หาทำแบบหมักน้ำซอสจะต้องหั่นแบบชิ้นที่ใหญ่ เพื่อให้เครื่องหมักนั้นเข้าไปในเนื้อ ซึ่งทางร้านต้องการให้ลูกค้าได้กินรสชาติของเนื้อสดๆ อย่างแท้จริง

    ก๋วยเตี๋ยวเนื้อของทางร้านก็มีให้บริการทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ และเส้นบะหมี่ โดยเส้นก๋วยเตี๋ยวก็ต้องเป็นเส้นจากร้านประจำที่ทำสดๆ สั่งมาจากโรงงาน

    ความอร่อยจะอยู่ที่มีความเหนียวนุ่มหนึบของเส้นก๋วยเตี๋ยว

    อีกสิ่งที่เป็นตัวเพิ่มรสชาติของน้ำซุปให้อร่อยส่วนหนึ่งอยู่ที่ "เครื่องปรุง" ที่ใส่ลงในน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวทางร้านจะเน้นของอย่างดีที่สุด ทั้งซอส น้ำปลา และซีอิ๊ว<table style="border: 1px dotted rgb(255, 255, 255);" align="left" border="2" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#ffffe8"><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    สำหรับคนไม่กินเนื้อวัว ก๋วยเตี๋ยวหมูของทางร้านก็รสชาติหอมหวานน้ำต้มกระดูกหมู ชวนลิ้มลองเช่นเดียวกัน

    ก๋วยเตี๋ยวหมูของร้านเป็นสูตรของคุณพัชรีย์ทำเอง ทำมาได้ 5-6 ปี หลังจากลูกค้าบางรายติดใจในรสชาติก๋วยเตี๋ยวเนื้อ และอยากกินฝีมือก๋วยเตี๋ยวหมูบ้าง จึงได้ตัดสินใจไปรวบรวมสูตรเด็ดๆ มาปรับปรุงให้เข้ากับรสชาติของลูกค้าประจำของทางร้าน เพื่อเสริมให้กับลูกค้าที่ไม่กินเนื้อ

    จนตอนนี้ครองใจลูกค้าได้รองจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

    "เราจะแยกมุมขายกันเลย ชามและภาชนะที่ใส่หมูและเนื้อวัวจะแยกกันอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ลูกที่ไม่กินเนื้อได้สบายใจเมื่อมากินก๋วยเตี๋ยวร้านเรา" คุณพัชรีย์กล่าว

    ก๋วยเตี๋ยวหมูของทางร้าน มีทั้งน้ำตก เนื้อหมูสด ลูกชิ้นหมู และหมูตุ๋น ที่มีความนุ่มไม่เหนียวเปื่อย หอมน้ำตุ๋นหมูที่ผสมสมุนไพรจีน ที่ตุ๋นนาน 4-5 ชั่วโมง ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าก็จะมาสั่งเกาเหลาหมู หรือไม่ก็ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก ที่มีน้ำซุปเข้มข้น

    คุณพัชรีย์บอกว่า การที่จะทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติอาหารของทางร้านได้นั้น เราต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้าก่อน โดยใช้เนื้อวัวแท้สดและนำมาล้างให้สะอาดจึงจะไม่เหม็นคาว เน้นความสดใหม่ของอาหารทั้งหมด โชคดีที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตั้งอยู่ใกล้กับตลาดจึงไม่ต้องไปซื้อวัตถุดิบไกล

    สำหรับราคาเกาเหลาทั้งเนื้อและหมูราคาเท่ากันคือ ชามธรรมดา 25 บาท พิเศษ 30 บาท ก๋วยเตี๋ยวชามละ 25 บาท

    ทางร้านมีลูกค้าขาประจำในแต่ละวันจำนวนมาก หากท่านใดจะแวะเวียนไปลองชิมต้องใจเย็นๆ โดยเฉพาะในเวลา 11.00-13.00 น. ของทุกวันมีลูกค้ามารอคิวจำนวนมาก ทางร้านเปิดให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุด สอบถามกันก่อนได้ที่โทร 0-2525-1020
    [/FONT]
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE class=tborder id=post1196253 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">13-05-2008, 09:39 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>AddWassana<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1196253", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 03:23 PM
    วันที่สมัคร: Oct 2007
    ข้อความ: 2,883 <!-- Start Post Thank You Hack -->
    ได้ให้อนุโมทนา 16,903 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 13,057 ครั้ง ใน 2,756 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
    พลังการให้คะแนน: 632 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1196253 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ทายนิสัยกับเส้นก๋วยเตี๋ยวจ้า
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ทายนิสัยกับเส้นก๋วยเตี๋ยวจ้า



    [​IMG]
    <!--detail-->

    เชื่อมะ....เส้นก๋วยเตี๋ยวที่เราชอบกินกันทุกวันเนี่ย บอกเรื่องราวความเป็นตัวตนของคุณได้นะ ลองดูซิ ว่าจะตรงมั้ย
    ...คนที่ชอบกิน

    ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่
    คุณเป็นพวกจริงจังมาก เป็นพวกเงียบๆ รักสันโดษ ส่วนลึกในจิตใจของคุณจะค่อนข้างอ่อนไหว อะไรนิด อะไรหน่อยก็เก็บไปคิด ชอบช่วยเหลือคนอื่น อย่าเครียดนักนะ ต้องปล่อยวางบ้าง


    ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็ก
    คุณน่ะชอบสังคม มีเพื่อนมาก ไม่คิดมาก มีอารมณ์ขัน ข้อเสียของคุณก็คือไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองซักเท่าไหร่เลยล่ะ เจ้าชู้เหมือนกันนะคุณนี่


    ก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่
    คุณชอบอยู่เงียบๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ชอบอ่านหนังสือ ไปไหนมาไหนคนเดียวก็ได้นะนี่ ไม่น่าเชื่อว่าคุณจะโรแมนติกเหมือนกันน้า....แต่ขี้งอนชะมัด


    ก๋วยเตี๋ยวเส้นบะหมี่
    โอ้โห..อย่าซนนักสิ ชอบนักล่ะเรื่องท้าทาย ไม่เคยกลัวเลยล่ะ แถมยังชอบตะลอนๆ ไปโน่นมานี่ไม่หยุด ถ้าจะหาเพื่อนรู้ใจ ก็ไม่ควรเอาพวกขี้งอนนะ เพราะเขาจะไม่เข้าใจคุณเอาซะเลย วันๆ ยุ่งอยู่กันเรื่องนั้นเรื่องนี้ ไม่ค่อยมีเวลาให้หวานใจนะ


    บะหมี่สำเร็จรูป
    โถ....อย่าหยิ่งนักเลยจ๊ะ อย่าหวังนะว่าฉันจะยอมก้มหัวให้ใคร ไม่ว่ายากแค้น ลำบากลำบนแค่ไหน ก็ยังหยิ่งเสมอต้นเสมอปลาย เรื่องง้อเขาก่อนนี่ ทำไม่ด้ายยยยย ฝืนใจมั่กมาก ข้อดีก็คือ ละเอียดอ่อน เป็นคนหนึ่งที่ทำงานเก่ง ส่วนข้อเสียนะเหรอ เจ้าอารมณ์ชะมัด แถมยังใช้เงินเก่งอีกต่างหากนะ


    เส้นขนมจีน
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ข้อเด่นของคนชอบกินขนมจีนก็คือ ขี้เหนียวมาก แต่บางอารมณ์ถ้าเจอของถูกใจนะ ทุ่มไม่อั้นได้เหมือนกัน แถมอีกนิด อะไรนิดอะไรหน่อย ถ้าขวางหูขวางตานะ บอกไว้ก่อนว่า รำค้าน รำคาญค่ะ ฮู้ยอะไรกันนักหนาก็ไม่รู้ แต่เรื่องแฟนเนี่ยนะ ชอบมากกับพวกที่ดูหรูเริด มีชาติตระกูล ชอบกินขนมจีนหรือเปล่า นี่แหละตัวตนของคุณ


    เส้นสปาร์เก็ตตี้
    อาหารฝรั่งที่ถูกปากคนไทยไม่น้อย เป็นคนที่ดูจริงจังมาก จัดอยู่ประเภทอนุรักษ์นิยมคนหนึ่งเลยนะ เกลียดมากๆ ถ้าใครมาเอาเปรียบ และจะกัดไม่ปล่อยเลยล่ะ ถึงไหนถึงกัแต่ถ้าใครอยากให้ช่วยเหลือ ได้เลยเต็มที่ แต่ไม่ชอบออกนอกหน้าอ่ะ ประเภท ไม่ประสงค์จะออกนามประมาณนั้นล่ะ



    ที่มา : www.dek-d.com







    โดย : TTTonline Team
    <!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

    http://palungjit.org/showthread.php?p=1196253#post1196253
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>มหกรรมรวมพลคนกินเส้น
    http://www.manager.co.th/MetroLife/V...=9510000059794
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>22 พฤษภาคม 2551 18:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=196 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=196>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>วัฒนธรรมการกินเส้นนั้นมีอยู่เกือบทุกชาติไม่ว่าจะเป็นจีน ญี่ปุ่น เวียดนาม ไทย หรือแม้กระทั่งคนอิตาเลียนยังมีเส้นพาสต้าเป็นอาหารหลัก คนไทยคุ้นชินกับอาหารประเภทเส้นจนกลายเป็นอาหารในชีวิตประจำวันทีเดียว

    ถ้าอยากรู้ว่าอาหารประเภทเส้นนั้นสามารถนำมาทำเป็นเมนูมากมายเพียงใด ลองไปพิสูจน์กันได้ในงาน Inter Noodle Fest@Central PlaZa Bangna ซึ่งจัดโดย ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา ร่วมกับ สมาคมพ่อครัวไทยและสมาคมภัตตาคารไทย

    งานนี้จัดเป็นแหล่งรวมพลคนรักเส้น เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ของผู้ประกอบการร้านอาหารจานเส้นทุกประเภท รวมถึงผู้สนใจประกอบธุรกิจอาหารจานเส้น และผู้ที่ชอบกินอาหารจานเส้นเป็นชีวิตจิตใจ


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=290 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=290>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับส่วนที่เป็นสาระของงานนั้นคือ นิทรรศการความเป็นมาของอาหาร”เส้น” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นสิริมงคล ลื่อให้เห็นว่าปัจจุบันอาหารจานเส้นมีบทบาทเป็นอาหารจานหลักของคนไทย ที่กระจายไปทั่วทุกสังคมในรูปแบบเมนูอาหารจานเส้นต่างๆ ทั้งที่เป็นอาหารไทยและต่างประเทศ

    นอกจากนี้ ยังนำร้านอาหารประเภทเส้นที่มีชื่อเสียงรสชาติอร่อย กว่า 50 ร้าน โดยมีเมนูอร่อยให้เลือกกินกว่า 1,000 เมนู อาทิ เมนูจากก๋วยเตี๋ยว ขนมจีน บะหมี่ วุ้นเส้น พาสต้า สปาเก็ตตี้ ราเมน เป็นต้น และที่พลาดไม่ได้คือ ร้านที่ขายอาหารประเภทเส้นที่อร่อยและหากินได้ยาก อาทิ ร้านผัดหมี่ ร.5 ซึ่งเป็นร้านที่รัชกาลที่ 5 ทรงเคยเสด็จมาเสวยในโอกาสเสด็จประพาส, ร้านขนมจีนน้ำยาสูตรพระนางสุขุมารศรี พระอัครราชเทวี พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว, ร้านหมี่น้ำในรัชกาลที่ 4 สูตรเจ้าพระยาภาสุกรวงศ์ (พร บุนนาค) นักเรียนนอกคนแรกของไทย, ขนมจีนหล่มสักเจ้าแรก, บะหมี่งาดำ ร้านซังฮี้บะหมี่งาดำ, ก๋วยเตี๋ยวเรือจากร้านเรือหลุม เป็นต้น


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ส่วนกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์ของงานคือ ธารน้ำตกที่ทำจากเส้นพาสต้าที่มีขนาดยาวพิเศษถึง 500 เมตร, ลูกชิ้นยักษ์ โดยร้านก๋วยเตี๋ยวนายฮุย พร้อมแฟชั่นโชว์ที่บรรดานางแบบจะสวมใส่เสื้อผ้าที่รังสรรค์จากเส้นพาสต้าและสปาเก็ตตี้ และกินฟรีกุ้งอบวุ้นเส้นหม้อใหญ่ที่สุดในโลก ปรุงโดยสมาคมพ่อครัวไทย

    ใครสนใจแวะไปชิมได้ที่ บางนาฮอลล์ เซ็นทรัลพลาซา บางนา เปิดให้กินเส้นกันเต็มที่ถึง 8 วันเต็มคือ 27 พ.ค.-3 มิ.ย.ศกนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->

    http://palungjit.org/showthread.php?p=1226272#post1226272
     
  5. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ลิ้มรสอาหารไทยใหญ่ หลากก๋วยเตี๋ยวน้ำซุปเข้มข้น
    http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=2&Template=1


    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันที่ผมไปถึงที่แม่ฮ่องสอน หลังจากลงเครื่องบินมาแล้ว นอกจากจะได้กินอาหารกลางวันที่ร้านบ้านทรงไทย ในวันต่อมา ผมแวะไปกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเล็ก ๆ ร้านหนึ่งชื่อร้าน ก๋วยเตี๋ยวป้าหอม มีทั้ง ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวน้ำและ เส้นหมี่เนื้อ เส้นเล็กซี่โครงหมู รวมน้ำหรือแห้งด้วย ผมชิมหมดทุกอย่างเลยครับที่มีในเมนู

    พอไปถึง เจ้าของร้านเห็นผมก็ตกใจ อุทานออกมาว่าคุณหมึกแดงมาถึงนี่ มาทำอะไร ผมบอกว่า ผมมาถ่ายทำรายการโทรทัศน์ ผมขอแวะชิมก๋วยเตี๋ยว มีก๋วยเตี๋ยวอะไรบ้าง ผมเดินดูทั่วร้านเลยครับ จากนั้น ผมสั่งหมดทุกอย่าง ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวหมูผมจะกินเส้นเล็ก ถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อผมจะกินเส้นหมี่ แล้วถ้าเป็นก๋วยเตี๋ยวเนื้อแห้ง จะสั่งเส้น หมี่แห้ง

    รสชาติ ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ใช้ได้ ความจริงรสชาติอาจจะไม่เข้มข้นเท่าที่ผมเคยชิมมา อย่างไรก็ตามถึงอยู่ไกลแต่รสชาติดีพอสมควร สิ่งเดียวที่ผมติคืออาจจะเป็นการลวกเส้น คือเส้นอาจจะสุกน้อยไปเท่านั้นเอง แต่ว่ารสชาติ ของก๋วยเตี๋ยวนั้นใช้ได้เลยครับ เพราะฉะนั้น ถ้าเพื่อน ๆ แวะไปที่นั่น ร้านของป้าหอมเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น กินกันได้อร่อยทั้งวัน แต่สำหรับผม ขอเลือกไปตอน 3 โมงเย็น เพราะว่าน้ำที่อยู่ในหม้อที่ต้มเนื้อตุ๋นมา คงจะงวด และรสชาติคงจะเข้มข้นดีมาก คงจะหอมและอร่อยยิ่งกว่าตอนเช้าที่ผมไปอีก

    ต่อจากนั้น ผมไปทำงาน และมีนัดกินอาหารไทยใหญ่ที่ ร้านตำนานอาหารพื้นเมืองบ้านเพลง กับรองผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อน ๆ คงไม่ทราบว่าที่แม่ฮ่อง สอน เป็นแหล่งผลิตน้ำมันงาใหญ่พอสมควร เพราะว่าในนา ในทุ่งหญ้าจะเอางามาทำ แต่งาเป็นน้ำมันสำหรับเอาไปทอดและผัด จะไม่มีกลิ่นเลยนะครับ เพราะว่างาที่เอาไปทำ สกัดเอาน้ำมันมา โดยที่ยังไม่ได้เอางาไปคั่ว ถ้าเอางาไปคั่วให้หอมเสียก่อนจะได้น้ำมันงาที่มีกลิ่น

    อาหารไทยใหญ่ที่นี่จึงประกอบด้วยทุกสิ่งทุกอย่างที่ผัดและทอดด้วยน้ำมันงาครับที่ไม่มีกลิ่น แต่ว่าดีสำหรับสุขภาพ และประกอบด้วยคนไทยใหญ่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศไทย และทางตอนใต้ของประเทศจีน เพราะอากาศหนาวต้องกินไขมันเข้าไปเพื่อปกป้องร่างกายให้อบอุ่น

    ผมต้องเล่าให้ฟังก่อนเพราะเพื่อน ๆ บางคนไม่ชอบอาหารไทยใหญ่ เพราะเลี่ยนและมัน เพราะว่าใช้น้ำมันงาทั้งนั้น แต่ว่าสำหรับผมแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลิ้มรสอาหารของคนหลาย ๆ เผ่าพันธุ์ ซึ่งจะทำให้เข้าใจวัฒน ธรรมการกินและมีความลึกซึ้งและมีความเข้าใจที่ดี อย่าไปดูถูกอาหารคนอื่น ถ้าเราไม่เข้าใจวัฒนธรรมการกินของเขานะครับ ผมได้ไปนั่งจิบไวน์กับท่านผู้ว่าฯและท่านรอง ปรากฏว่า ผมเอาไวน์มาตั้งหลายขวด เขาเอาแก้วมาให้ ซึ่งความจริงแล้วก็จอกเลยละครับ แล้วเราก็ได้กินทีละจอก กินเท่าไรก็ไม่ได้รสชาติ เพราะว่ามันนิดเดียวจริง ๆ ก็ตลกดี และชิมอาหารไป

    อาหาร มีผัดผักกูดสะนาบ ใส่ซีอิ๊วกับน้ำมันหอย แต่ว่า ใช้น้ำมันงาผัดเอาไปสะดุ้งไฟเหมือนผักบุ้งไฟแดง ผักกูดเป็นผักพื้นเมือง เป็นยอดของต้นเฟิร์น เมืองนอกจะเอาไปดองทำเป็นสลัด คนทางใต้บางทีจะทำเป็นพระรามชุบศร แต่ที่นี่ผัดเหมือนผักบุ้งไฟแดงอร่อยดีนะครับ แต่บางทีถ้าใส่น้ำมันงามากจนเกินไปจะเลี่ยน และเป็นสิ่งที่ย่อยยากพอสมควรครับ

    หลังจากนั้นยังสั่งของที่เป็นไทยใหญ่จริง ๆ เลย คือ ยำหนังโก้ ความจริงแล้วคือยำหนังหมู หรือหนังหมูยำ ล้างทำความสะอาด เอาไปต้มแล้วเผาไม่ให้มีขน จากนั้นหั่นเป็นเส้นเอาไปยำ ซึ่งต้องมีน้ำมันงาผสมในเครื่องปรุงน้ำยำ ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมีน้ำมันงา ไขมันจากหนังหมูและไขมันจากน้ำมันงา จะให้ความอบอุ่นกับร่างกาย เราจะได้ไม่หนาวครับ เครื่องยำน้ำยำมีสมุนไพรเต็มไปหมด ให้ความหอม มีเครื่องเทศคั่วเยอะ ไม่ใช่อาหารแขกแต่เกือบเหมือน อร่อยมาก

    หลังจากนั้นได้กิน ต้มยำกบ กบที่นี่ตัวเท่าลูกไก่ ผมไม่แน่ใจว่าใช่กบภูเขาหรือไม่ อาจจะเป็นกบธรรมดา แต่ตัวใหญ่มาก สับมาเป็นชิ้น ๆ หนังยังอยู่ในนั้นเลย คนกินไม่เป็นคงคิดว่าไม่อร่อย แต่ได้รสชาติดีเลยนะครับ

    มี อุ๊บไก่ คือ ผัดให้แห้ง คล้าย ๆ กับอ่อม แต่ว่าไม่ใส่น้ำ เอาเครื่องไปตำ แล้วผัดกับไก่ จะมีข่า ตะไคร้ เครื่องเทศแห้ง เกือบจะเป็นอาหารจีนปนแขก ถ้าเพื่อน ๆ นึกอาหารพม่าได้ จะคล้ายแกงมัสมั่นผัดแห้ง แต่ว่าไม่มีกะทิ เค็ม ๆ มัน ๆ อร่อยดี

    จานต่อไปเป็น อุ๊บถั่วพู ผมนึกว่าใช้ถั่วทำ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เป็นเต้าหู้มาสับเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วเอามาผัดกระเทียม มีพริกมีต้นหอม และเครื่องเทศ น้ำมันหอย น้ำมันงาที่ใช้สำหรับผัด คล้าย ๆ อาหารจีนอร่อยมาก ผมชอบอยากกินกับข้าวเหนียวหรือข้าวต้มตอนเช้า ผมว่าเหมือนอาหารจีน แปลกดี แต่คนอื่นที่นั่งกินกับผมคงแปลกใจและคงไม่เข้าใจว่าผมชอบได้ยังไง นาน ๆ ทีได้รับประทานอะไรแบบนี้ทีดีเหมือนกัน

    ถ้าใครก็ตามที่ไป แม่ฮ่อง สอน ผมแนะนำว่าให้รับประทานอาหารไทยใหญ่ตอนหน้าหนาว ที่หนาวจริง ๆ แล้วจะทำให้เราอบอุ่น แต่ว่าไปหน้าร้อนไม่ต้องกินนะครับ เพราะจะเลี่ยน แล้วก็เหงื่อแตกเป็นไขมันออกมาหมดแน่ ๆ ครับ.
    หมึกแดง
    </TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    [FONT=Tahoma,]ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ แซ่บ ไม่ต้องปรุง

    คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

    โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

    http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01fod01080651&day=2008-06-08&sectionid=0125

    <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#f8b8cb"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>อาทิตย์นี้ยังป้วนเปี้ยนอยู่ที่จังหวัดนนทบุรีตามสัญญา ขอพาแฟนๆ ข้ามสะพานพระราม 5 เข้าสู่ถนนนครอินทร์ ซึ่งเป็นถนนตัดใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง ริมถนนเส้นนี้มีร้านอาหาร ภัตตาคารทั้งใหญ่และเล็กผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด แต่ผมขอพาท่านทั้งหลายไปชิมก๋วยเตี๋ยวรถเข็นเจ้าเล็กๆ ข้างทางแทน ถึงเล็กก็เป็นเล็กพริกขี้หนู ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้มีชื่อว่า *ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ* รสแซ่บจัดจ้านเหลือกำลัง

    การมาสะพานพระราม 5 สะดวกที่สุดจากในเมืองกรุงให้ขึ้นทางด่วนขั้น 2 หรือทางด่วนศรีรัชวิ่งขึ้นเหนือ หลังจากเสียค่าผ่านด่าน 10 บาท สำหรับรถเก๋งแล้ว ให้ลงที่ทางออกถนน *งามวงศ์วาน* (เลือกทางไป *แคราย*) จากนั้นเลี้ยวซ้ายแรกที่สี่แยกแครายเข้าถนนติวานนท์

    วิ่งผ่านสามแยกไฟแดงจนเห็นสะพานลอยที่สี่แยกข้างหน้าให้วิ่งข้ามไป ตรงต่อไปเรื่อยๆ จนถึงสะพานที่สองซึ่งก็คือสะพานพระราม 5 ให้วิ่งตรงขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา *ชิดช่องทางด้านซ้าย* เมื่อลงไปถึงเชิงสะพานฝั่งตรงข้ามให้วิ่งออกทางขนานด้านซ้ายทันที อีกไม่กี่ร้อยเมตรท่านจะผ่านร้านแม่ปรุงปลาเผา ให้รีบชะลอรถ อีกอึดใจเดียวก็จะเห็นดงรถเข็นขายอาหารริมทางซ้ายมือ หนึ่งในนั้นคือ เจ้าก๋วยเตี๋ยวมีป้ายไฟนีออน *ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ* ติดอยู่เหนือรถเข็น <table align="right" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#f8b8cb"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    จอดรถริมถนนได้เลย ส่วนท่านที่เผลอวิ่งเลย ลืมเข้าคู่ขนานตั้งแต่แรก ไม่ต้องตกใจให้ไปกลับรถใต้สะพานลอยตรงแยกถัดไป แล้ววิ่งย้อนกลับมากลับรถที่ใต้สะพานพระราม 5 อีกทีหนึ่งก็จะมาที่ร้านได้เช่นเดิม

    การมาชิมที่ร้านนี้ให้มาได้ตั้งแต่ *ห้าโมงเย็นไปจนถึงตีสอง* ซึ่งเป็นเวลาปิดของร้าน ถึงอย่างไรก็ตาม พวกบ้านไกลควรโทร.เช็คเสียก่อน จะได้ไม่เสียเที่ยว

    อยากชิมอาหารอื่นก็สั่งได้มีตั้งแต่เจ้ากระเพาะปลาไปจนถึงอาหารอีสาน ถ้าเห็นเจ้า *โรตี* ให้รีบกระโจนใส่ทันที กรอบอร่อยหวานมันทีเดียว

    ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณนี้เป็นตำรับสุพรรณบุรี บ้านเกิดของคุณกอล์ฟ (อภิรดี) เจ้าของร้านฝ่ายหญิง โดยคุณติ่น ฝ่ายชายเป็นผู้ว่าการชงและปรุงก๋วยเตี๋ยว เปิดขายมาได้ 6 เดือน โดยก่อนหน้านี้ขายเย็นตาโฟอยู่ที่ถนนหทัยราษฎร์ ย่านมีนบุรี เป็นเวลา 7 ปี

    คุณกอล์ฟบอกว่า สูตรเดิมของก๋วยเตี๋ยวหมูสุพรรณฯจะเหมือนกับก๋วยเตี๋ยวเรือหมูทั่วไป กล่าวคือเป็นก๋วยเตี๋ยวใส่ผักตำลึง และหมูสับที่รวนในน้ำเดือดให้พอสุกเนื้อยังเป็นสีชมพู และก็ใส่เครื่องในด้วย แต่คุณกอล์ฟกับคุณติ่นดัดแปลงสูตรนิดหน่อย <table align="left" border="0" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#f8b8cb"><td>[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>

    ผักตำลึงแถวนี้หายากก็ใส่ถั่วงอกแทน อีกทั้งยังเพิ่ม *ถั่วฝักยาวหั่นเฉียงๆ* ชิ้นเล็กๆ อีกด้วย คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวชากังราว จากนั้นก็เพิ่มกุ้งแห้ง ถั่วลิสง (ที่คั่วเอง) กระเทียมเจียว ส่วนหมูสับนั้นก็ใส่กระชอนลวกในน้ำเดือดให้สุกขึ้นอีกหน่อยเพื่อให้ถูกหลักสุขอนามัย แต่ก็ยังสุกกำลังดี เนื้อนุ่มหวานอร่อยเช่นเดิม

    มาร้านนี้ต้องเน้นชิมแต่ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เมนูฮิตของร้าน มีให้เลือกทั้ง *ต้มยำแห้งและต้มยำน้ำ* ที่ปรุงได้รสจัดจ้านเหลือหลายจนไม่ต้องปรุงเพิ่ม มีครบทั้งเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด และรสถั่วลิสงคั่วหอมๆ แทรกอยู่ทุกอณู ยกเว้นถ้าชอบเปรี้ยวให้เติมน้ำส้มสายชูเพิ่มอีกสักหนึ่งช้อนเล็กๆ เท่านั้น

    นอกจากหมูสับที่นุ่มหวานหอมแล้ว ยังมีเนื้อหมูชิ้นที่หวานอร่อยสุกกำลังดีอีกเช่นกัน เลือดหมูสดๆ เนื้อแน่นๆ หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมชิ้นเล็กๆ ตับหมูชิ้นเล็กๆ นั้นก็สดเหลือหลายจนเคี้ยวได้ดังกึ๊ดๆ เขามีเส้นให้เลือกทั้ง เส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ วุ้นเส้น และบะหมี่

    ขอแนะให้ลองเส้นเล็กเข้ากันดีกับต้มยำ สนนราคาชามละ 25 พิเศษ 30 บาท

    ถ้าฝนตกไม่ต้องกลัว เขาจะเขยิบเข้าไปขายในศาลาริมทาง กำลังมีแผนขยายเข้าไปขายในที่ทางถาวรยิ่งขึ้นในบริเวณเดียวกัน แต่ไม่ต้องรอหรอกขับรถกินลมชมวิวไปวันนี้ได้เลย ถ้าติดใจจะติดต่อไปออกงานนอกสถานที่เขาก็รับ เห็นว่ารับไปตอนช่วงกลางวัน แล้วตอนเย็นก็จะรีบกลับมาขาย

    ปิดท้ายด้วยคำเตือน โปรดกรุณาพกกระดาษเช็ดปากไปด้วยห่อใหญ่ๆ รับรองต้องแซ่บจนน้ำหูน้ำตาไหลเหมือนข้าพเจ้าเป็นแน่ เราเตือนแล้วนะจ๊ะ

    ข้อมูลร้าน

    ก๋วยเตี๋ยวต้มยำโบราณ

    โดย คุณอภิรดี (กอล์ฟ) เจนสิริเมธา

    ที่ตั้ง ริมทางคู่ขนานถนนนครอินทร์ ใกล้สะพานพระราม 5 และแม่ปรุงปลาเผา อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี

    โทร.08-9688-9556

    เปิดบริการ 17.00-02.00 น. ทุกวัน

    หยุด เมื่อมีธุระโดยจะแจ้งล่วงหน้า

    แนะนำ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำทั้งต้มยำแห้งและต้มยำน้ำ

    หมายเหตุ รับออกงานนอกสถานที่ตอนกลางวัน
    [/FONT]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="96%"><tbody><tr><td class="headnews" valign="top">"มานัส บุญตา"ชีวิตลงตัว ที่ก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท

    </td> </tr> <tr> <td height="4" valign="top">http://www.komchadluek.net/2008/06/12/x_agi_b001_206506.php?news_id=206506
    </td> </tr> <tr> <td class="dessubmmenu1"> <center>[​IMG]</center>

    ทางสู้ชีวิตของแต่ละคนกว่าจะถึงวันแห่งความสำเร็จย่อมไม่เหมือนกันบางคนใช้เวลากว่าสิบปีกว่าจะถึงวันนั้น




    เฉกเช่น มานัสบุญตา สาวใหญ่วัย48 ปี อดีตสาวโรงงาน ที่ชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนตกงานเพราะพิษเศรษฐกิจจนเธอต้องดิ้นรนเสาะหาอาชีพอื่น และการยึดขายก๋วยเตี๋ยวชาม 5 บาท ตลอดกว่าทศวรรษ ด้วยความอดทน ตั้งใจจริง โดนถือหลัก อร่อย ไม่แพง ขอชีวิตอยู่ได้อย่างพอเพียง ส่งให้กิจการร้านของเธอมีลูกค้าอุดหนุนหนาแน่นถึงทุกวันนี้
    สวนกระแสเศรษฐกิจที่สินค้ามีแต่ขึ้นราคาแสนแพงแต่สาวใหญ่หัวใจพอเพียง ขายก๋วยเตี๋ยวชามละ 5 บาท ลูกค้าแน่นร้าน เผยขายได้วันละกว่า 1,200 ชาม
    "มานัส" ซึ่งอยู่ที่ 87 ซอยสมประสงค์ ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี เจ้าของร้าน ก๋วยเตี๋ยว5 บาท บอกว่าเดิมนั้นทำงานเป็นสาวโรงงานอยู่หลายปี ต่อมาเศรษฐกิจย่ำแย่โรงงานปิดตัวจึงตกงาน ความที่เป็นคนหนักเอาเบาสู้จึงไม่ยอมอยู่นิ่งเฉย พยายามมองหาอาชีพใหม่รองรับ สุดท้ายก็ตกลงใจที่จะลงทุนเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยว เพราะสมัยเป็นเด็กเคยช่วยแม่ขายและคิดว่าอาชีพนี้จะเลี้ยงตัวเองได้โดยไม่ต้องเป็นลูกจ้างใคร
    "ขายตอนแรก เมื่อ 10 ปีก่อน รู้สึกกังวลเหมือนกัน เพราะเป็นที่รู้ดีกันว่าปทุมธานีนั้น ก๋วยเตี๋ยวเรือเยอะและขึ้นชื่อมาก แต่ละร้านมีสูตรเด็ดที่อร่อยแตกต่างกันไป แต่เราใจสู้เพราะก็มีสูตรของเราที่สืบทอดมาจากคุณแม่ เมื่อเปิดร้านเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2541 โดยขายชามละ 5 บาท ก็มีลูกค้าอุดหนุนตลอดมาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเราก็ยังขายอยู่ในราคาเดิมคือชามละ 5 บาท"
    ส่วนทีเด็ดที่นอกจากขายถูกเพียงชามละ5 บาทแล้ว มานัสเธอบอกว่า รสชาติก็ต้องดีด้วย ดังนั้นทุกขั้นตอนก่อนจะเบ็ดเสร็จเป็นชามนั้น จึงต้องพิถีพิถัน เริ่มจากต้มน้ำกับกระดูกหมู ใส่ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ น้ำกระเทียมดอง เกลือป่น แล้วก็เครื่องเทศอีกหลายอย่าง เท่านี้ก็ได้น้ำซุบที่รสชาติถูกปากคนกินแล้ว
    ถึงวันนี้ก๋วยเตี๋ยวจากร้านของเธอขายดีมากๆต้องใช้เส้นวันละ 15 กิโลกรัม เส้นหมี่ 4-5 ถุงใหญ่ ถั่วงอก ผักบุ้งอย่างละ 10 กิโลกรัม ซึ่งทุกอย่างนั้นราคาแพงขึ้น เช่น เนื้อหมูเมื่อก่อนอยู่ที่กิโลกรัมละ 45-50 บาท แต่วันนี้กิโลกรัมละ 110 บาท เส้นก๋วยเตี๋ยวจากกิโลกรัมละ 10-15 บาท เป็นกิโลกรัมละ 30 บาท เช่นเดียวกับผักตั้งโอ๋ กิโลกรัมละ 100 บาท และต้นหอมกิโลกรัมละ 70 บาท
    แม้ของทุกอย่างจะแพงขึ้นแต่มานัสยืนยัน จะยังคงรักษาเอกลักษณ์ขายชามละ 5 บาทต่อไป
    "เคยมีลูกค้าบอกว่าขึ้นเป็น 10 บาทก็ไม่ว่า ขอให้รสชาติแบบนี้ แต่เห็นว่าราคา 5 บาท นี้เราพออยู่ได้ อีกอย่างไม่ได้จ้างใคร ทำกันเองพี่ๆน้องๆ อยู่แบบพอกินพอใช้ ทุกวันนี้ลงทุนซื้อของประมาณ 5,500-6,000 บาท ขายได้ราว 1,200 ชาม ในวันธรรมดา และ 1,500 ชาม ในวันหยุด ก็พอมีกำไรบ้าง"
    ส่วนใครที่อยากชิมก๋วยเตี๋ยวฝีมือเธอแถมราคาถูกอร่อย แวะไปได้ที่ถนนปทุมฯ-นนท์ เลย 4 แยกปทุมวิไลไปเล็กน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสมประสงค์ราว 300 เมตร ก็จะพบร้านตั้งอยู่ด้านขวามือ

    พนอ ชมภูศรี
    </td></tr></tbody></table>
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    "ชลธิชา" ราชาก๋วยเตี๋ยวคั่ว
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000072551
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">22 มิถุนายน 2551 12:35 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน "ชลธิชา"</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> แม้ก๋วยเตี๋ยวจะเป็นเมนูคู่ปากท้องคนไทยที่สามารถหากินได้ทั่วไป แต่การที่จะหาก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดกินนั้นย่อมไม่ใช่เรื่องง่ายดายแต่อย่างใด แถมยิ่งถ้าเป็น"ก๋วยเตี๋ยวคั่ว"มันก็ยิ่งเพิ่มความยากลำบากในการเสาะหามากขึ้นไปอีก

    แต่เมื่อปากและท้องมันร้องอยากกินแล้ว ยังไงๆมันก็ไม่ยากเกินความพยายามของเราหรอกน่า เพราะจากการเสาะหาไถ่ถามทำให้เราได้มาพบกับก๋วยเตี๋ยวคั่ว "ชลธิชา" ตรงถนนอำนวยสงคราม ซึ่งร้านนี้เขาขายก๋วยเตี๋ยวคั่วมานานกว่า 30 ปี มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักในเรื่องก๋วยเตี๋ยวคั่วอันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (40 บาท) คั่วหมู (40 บาท) หรือว่าคั่วทะเล (50-60 บาท) รวมไปถึงก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตรที่เราเลือกสั่งกินในมื้อนี้

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตร </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สำหรับก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตร(50-60 บาท)ที่นี่ เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตรประเภทเป็นมิตรมากเป็นพิเศษ เพราะทางร้านเขาใส่มิตร(เครื่อง)แบบอัดแน่นมาเพียบเลย ทั้งปลาหมึกสด กุ้ง ปลาหมึกกรอบ รวมถึงหมูและไก่ที่ผ่านการหมักเครื่องมาเป็นอย่างดี ทำให้ก๋วยเตี๋ยวคั่วที่นี่รสชาติออกมาถูกปากถูกใจ โดยเฉพาะเส้นใหญ่ที่คั่วออกมาเส้นแห้งนิดๆนั้นให้กลิ่นหอม เคี้ยวอร่อยปาก กินแล้วเข้ากันดีกับไข่เนื้อแน่นที่ห่อไว้ และกลมกลืนลงตัวกับเครื่องที่ใส่มา ส่วนที่พิเศษก็คือก๋วยเตี๋ยวคั่วของที่นี่เขาจะใส่ปาท่องโก๋ทอดกรุบกรอบมาให้กินแกล้มคู่กันด้วย

    นอกจากก๋วยเตี๋ยวคั่วแล้วที่นี่ยังมีสุกี้ที่มีทั้งแห้งและน้ำเป็นอีกเมนูชูโรง ซึ่งมื้อนี้เราขอสั่ง สุกี้แห้งรวมมิตร (50-60 บาท) มาดับความหิว สำหรับสุกี้ที่นี่ให้รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นเต้าหู้ยี้ เพราะทางร้านนำเต้าหู้ยี้มาผัดกับไข่ แล้วจึงนำกุ้ง ปลาหมึก หมู ไก่ ผัดลงไปพร้อมกับใส่วุ้นเส้นและผักต่างๆ ผัดคลุกเคล้าจนเข้ากัน และมีน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ด ที่ออกรสหวานนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ มาให้ใส่เพิ่มรสตามใจชอบ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="270"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="270"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">สุกี้แห้ง(บน)และกระเพาะปลา(ล่าง)</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อีกหนึ่งเมนูที่ชวนกินไม่แพ้กันคือ กระเพาะปลา (40 บาท พิเศษ 50 บาท) ที่จะทำมาขายแบบหม้อใหญ่ๆ ทุกวัน กระเพาะปลาของที่นี่มีรสชาติดีตรงที่เนื้อกระเพาะปลานุ่มยุ่ย นิ่มลื่นลิ้น เพราะทางร้านเลือกใช้กระเพาะปลาอย่างดีที่มีน้ำมันน้อยมาทำ และยังมีเครื่องใส่มาหลายอย่างทั้งหน่อไม้ เห็ดหอม ไข่นกกระทา เลือดเป็ดนุ่มๆ เนื้อไก่และเครื่องในไก่สารพัด

    นอกจากเมนูที่กล่าวมาแล้ว ที่นี่ยังมีอาหารตามสั่งอื่นๆให้เลือกกินกันอีก อาทิ ผัดพริกหมูราดข้าว (40 บาท) ผัดขี้เมาเส้นใหญ่ (40-50 บาท) ราดหน้าเส้นใหญ่ (40 บาท) และยังมีเต้าทึงทั้งร้อนและเย็น (ธรรมดา 20 บาท แบบเมืองจีน 30 บาท) ให้กินตบท้ายกันอีกด้วย

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน "ชลธิชา" ตั้งอยู่ที่ 63/8-9 ถ.อำนวยสงคราม ดุสิต บางกระบือ กทม. การเดินทางถ้ามาจากเทเวศร์ ให้วิ่งตรงมาที่ถ.สามเสน ตรงมาจนถึงแยกบางกระบือให้เลี้ยวขวาเข้าถ.อำนวยสงคราม ตรงเข้ามาประมาณ 200 ม. จะเห็นร้านชลธิชา อยู่ทางซ้ายมือเป็นตึกแถวทาสีครีม มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2244-8887, 0-2244-8777, 08-1372-2115

    คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ชลธิชา"</td></tr></tbody></table>
    รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ชลธิชา" <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">22 มิถุนายน 2551 12:35 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ชื่อร้าน : ชลธิชา

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวคั่ว

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่, ก๋วยเตี๋ยวคั่วหมู, ก๋วยเตี๋ยวคั่วรวมมิตร, สุกี้แห้ง-น้ำ, กระเพาะปลา

    บรรยากาศร้าน : ตึกแถว

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 63/8-9 ถ.อำนวยสงคราม ดุสิต บางกระบือ กทม. การเดินทางถ้ามาจากเทเวศร์ ให้วิ่งตรงมาที่ถ.สามเสน ตรงมาจนถึงแยกบางกระบือให้เลี้ยวขวาเข้าถ.อำนวยสงคราม ตรงเข้ามาประมาณ 200 ม. จะเห็นร้านชลธิชา อยู่ทางซ้ายมือเป็นตึกแถวทาสีครีม มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-21.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2244-8887, 0-2244-8777, 08-1372-2115
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“นายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์” อร่อยได้ใจ ไม่ต้องไปไกลถึงเยาวราช
    http://www.manager.co.th/SMEs/ViewNe...=9510000075783
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 มิถุนายน 2551 10:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>นายเพิ่มศักดิ์ อาภาแจ่มใส หรือคุณบอย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>บะหมี่ ถือเป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน ซึ่งได้แพร่หลายไปทั่วโลก โดยได้มีการดัดแปลงวัตถุดิบตามสูตรของแต่ละประเทศ ซึ่งสำหรับในไทยจะเน้นส่วนผสมไปที่แป้งสาลี ไข่ และน้ำ นำมาผสมให้เข้ากัน แต่ขณะนี้เมื่อข้าวของแพงขึ้นผู้ผลิตต่างลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะไข่ไก่ที่ใส่น้อยลง หันมาใช้สีผสมอาหารแทน ทำให้ปัจจุบันหาบะหมี่ไข่แท้ๆ รับประทานได้ยาก แต่คงไม่ใช่ “ร้านนายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์” ที่ยังคงครองความเป็นบะหมี่ไข่สดให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลอง

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่ไข่สดเส้นเหนียวนุ่ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>นายเพิ่มศักดิ์ อาภาแจ่มใส หรือคุณบอย เจ้าของร้านนายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์ สาขาสยามพารากอน เล่าว่า เดิมตนเองได้ร่วมกับเพื่อน(นายศุภกร สุวรรณชัยยงหรือนายเม้ง) ประกอบธุรกิจร้านอะไหล่รถจักรยานยนต์ และเป็นตัวแทนจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นยี่ห้อ Conoco แต่เพียงผู้เดียวในประเทศ แต่ด้วยปัญหาทางการแข่งขันในตลาดและราคาน้ำมันที่ผันผวนอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องล้มเลิกธุรกิจดังกล่าวไป จากนั้นทางคุณบอยก็ได้ไปรับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัท โยโก อัลลอย วีลส์ จำกัด ที่จัดจำหน่ายสินค้าด้านวงล้อและยางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Dunlop ทำมาได้เกือบปีก็ได้รับการชักชวนจากคุณเม้ง ที่ชื่นชอบการทำอาหาร และมีสไตล์การทำอาหารด้วยรสชาติและสูตรการปรุงรสที่มีเอกลักษณ์ ให้เข้ามาร่วมทำธุรกิจอาหารด้วยกันและได้เปิดร้าน “นายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์” สาขาพารากอนในเวลาต่อมา นั่นเป็นที่มาของการเข้ามาสู้ธุรกิจอาหารเป็นครั้งแรก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวกุ้งยักษ์ใช้กุ้งเป็นตัวๆ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>แม้นายเม้งจะทำอาหารเป็นหลายอย่าง แต่การที่เลือกเปิดร้านบะหมี่นั้น เป็นเพราะต้องการสนองความต้องการของตนเอง ที่หาบะหมี่ไข่แท้รับประทานได้ยาก จึงคิดทำขายเอง โดยเน้นการทำเส้นบะหมี่ไข่เองทั้งหมด มีการผสมแป้งและน้ำน้อยกว่าปริมาณของไข่ไก่ ทำให้ได้บะหมี่เส้นเหนียมนุ่ม และหอมไข่ กว่าบะหมี่ที่มีขายอยู่ทั่วไป


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“ร้านเราเริ่มเปิดจากร้านรถเข็นย่านบางแค เมื่อปลายปี 2550 และได้นักชิมฝีปากเยี่ยม อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ มาชิม และการันตีความอร่อย นอกจากนั้นยังได้มีการบันทึกรายการอร่อยเลิศประเสริฐศรีและกระทะทองสมองเพชรออกอากาศทางทีวีอีกด้วย ทำให้ร้านนายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงได้มีโอกาสไปออกงานเทศกาลอาหาร ตามคำเชิญของ อ.ยิ่งศักดิ์ ที่ห้างเดอะมอลล์บางแค รวมถึงในงานวันนั้นพระองค์เจ้าโสมสวลีฯ ทรงเสด็จไปร้านของเรา และโอกาสนี้พระองค์ท่านยังได้เสวยบะหมี่ของทางร้าน และให้ข้าราชบริพารที่ตามเสด็จ ได้ลิ้มลองด้วย รวม 52 ชาม และยังได้รับพระราชทานรางวัลจากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุยกย่องให้เป็นอาหารที่ทรงโปรดปรานเพราะเป็นอาหารที่อร่อย สะอาด ถูกหลักอนามัย และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์อีกด้วย ทำให้ผู้บริหารในเครือเดอะมอลล์ สนใจมาชิมและให้เปิดร้านในฟู้ดคอร์ทของเดอะมอลล์ทุกสาขาโดยในช่วงแรกเราได้เปิดที่สาขาที่ห้างเดอะมอลล์สาขาบางแคก่อน จากนั้นก็ขยายต่อมาที่เดอะมอลล์สาขาท่าพระ โดยล่าสุดได้เปิดที่สาขาสยามพารากอน ชั้น G โซน Food Court ใกล้บันไดทางลงสยามโอเชี่ยนเวิล์ด ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่ปู+เกี๊ยวกุ้งยักษ์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>จุดเด่นของร้านนายเม้งบะหมี่ปู เกี๊ยวกุ้งยักษ์ อยู่ที่ความเหนียวนุ่ม หอมไข่ ของเส้นบะหมี่ ที่เป็นสูตรเฉพาะคุณภาพระดับภัตตาคาร แต่ราคาฟู้ดคอร์ท ในขณะที่เกี๊ยวกุ้งยักษ์ ก็ใช้กุ้งเป็นตัวๆ สอดไส้ข้างใน รวมถึงภายในยังมีเนื้อกุ้งกับหมู ที่นำมาบดรวมกันและนำมาห่อตัวกุ้งก่อนห่อด้วยใบเกี๊ยวคุณภาพเดียวกับเส้นบะหมี่ไข่อีกด้วย ทำให้ได้รสชาติเกี๊ยวกุ้งแบบเต็มๆ นอกจากนี้ยังมีน้ำซุปที่เป็นสูตรเฉพาะ ปราศจากผงชูรส ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่เน้นสินค้าที่ดี คุณภาพสูง วัตถุดิบหลายรายการคัดสรรมาจากย่านเยาวราช ส่วนหมูแดงก็จะเป็นสูตรแบบโบราณหาทานยาก มีรสชาติหวาน-เค็ม ที่สำคัญมีกลิ่นรมควันให้รู้สึกถึงความหอม ในขณะที่หมูกรอบกรอบมากแถมมีความนุ่มด้วยไม่แข็งกระด้าง ไม่มีความรู้สึกเหนียวต้องคายหนังทิ้งเหมือนหนังหมูกรอบบางร้านที่เคยไปกิน ส่วนน้ำราดข้าวหมูแดงหมูกรอบ เป็นสูตรเฉพาะของร้าน และในส่วนกระเพาะปลาน้ำแดง จะปรุงชามต่อชาม โดยใช้กระเพาะปลาอย่างดี พร้อมใส่เนื้อปูเป็นก้อนๆ ไม่ใช่เศษปู

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหมูแดง หมูกรอบ น้ำราดสูตรเฉพาะ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“เมื่อเรามุ่งเน้นไปที่อาหารจีนแล้ว ดังนั้นจึงต้องเพิ่มเมนูอื่นๆ เข้าไปด้วย เพื่อสร้างความหลากหลาย และครอบคลุมกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น หูฉลามน้ำแดงเนื้อปูเห็ดหอม กระเพาะปลาน้ำแดง ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ และผัดหมี่ฮ่องกงเนื้อปูเห็ดหอม ขนมจีบเยาวราช เป็นต้น ซึ่งเมนูเหล่านี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้เมนูอาหารเส้น โดยราคาเริ่มต้นที่ 60-130 บาท (ไม่รวมเมนูหูฉลามน้ำแดงเนื้อปูเห็ดหอม)”

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระเพาะปลาน้ำแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะสาขาสยามพารากอน จะเป็นชาวต่างชาติประมาณ 50% เช่น จีน ญี่ปุ่น และไต้หวัน รวมถึงลูกค้าชาวยุโรปด้วย ส่งผลให้ยอดขายประมาณ 150-200 ชาม/วัน ซึ่งคาดว่าลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้นมาเรื่อยๆ หากได้มาลิ้มลอง และได้สัมผัสวัตถุดิบที่มีคุณภาพ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ผัดหมี่ฮ่องกงเนื้อปูเห็ดหอม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>“ตอนนี้เริ่มมีลูกค้าตามออฟฟิศมาชิมแล้วติดใจในรสชาติและบอกต่อปากต่อปาก และเชิญชวนมาทานกันมากขึ้น หลายรายถึงกับเอาเบอร์โทรศัพท์ทางร้านโทรมาสั่งก่อนเที่ยงและให้คนมารับ ซึ่งทางร้านเราก็ยินดีบริการ เนื่องจากถ้ามาสั่งซื้อในจำนวนมาก แล้วรอรับก็จะต้องใช้เวลานาน เนื่องจากลูกค้าเยอะ ซึ่งแต่ละเมนูจะปรุงใหม่ชามต่อชาม ทำให้ต้องใช้เวลาพอสมควรหากสั่งคราวละมากๆ หากลูกค้าสนใจจะสั่งกลับไปทานตามออฟฟิศ แล้วจะนั่งรถหรือให้คนมารับก็ควรโทรสั่งล่วงหน้าก่อน เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว” คุณบอยกล่าวทิ้งท้าย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวผัดปู ที่ใส่เนื้อปูชิ้นโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>***08-1985-1414***

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บริเวณหน้าร้านที่สาขาสยามพารากอน โชว์หูฉลามยักษ์ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวเอเชียสะดุดตา</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. motange

    motange สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +0
    ก๋วยเตี๋ยวยำ..ที่ร้านเจียงฮาย

    (ping)มีเก้าหน้าเก้าเส้น
    อร่อยรสแซบซะใจ

    ชอบน้ำใสก็มี

    น้ำเงี้ยวก็อร่อย

    บัวลอยก็ถูกใจ

    ไปชิมเลยที่ปากซอย ลาดพร้าว 4 เวลา 11.00-21.00 น.
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"บังคาร่า ราเม็ง"น้ำซุปเด่น เส้นเหนียวนุ่ม
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000076430
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กรกฎาคม 2551 15:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน "บังคาร่า ราเม็ง"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>"อิ รัด ไช มา เสะ" เสียงบริกรหนุ่มสาว กล่าวคำทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า ยินดีต้อนรับ ดังลั่นร้าน เมื่อ "ผู้จัดการตระเวนกิน" เดินเยื้องกายเข้ามาภายในร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้ที่มีนามว่า "บังคาร่า ราเม็ง" (Bankara Ramen) เป็นร้านราเม็งน้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในเมืองไทยได้ไม่ถึงเดือน แต่นับว่ามีความน่าสนใจเชิญชวนให้มากินเป็นอย่างมาก

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มุมโต๊ะนั่งสบายๆ ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>บังคาร่าฯ ร้านนี้นำเสนอราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เพราะเป็นเฟรนไชส์ของร้านบังคาร่า ราเม็งชื่อดังจากญี่ปุ่นที่มีความโดดเด่นอยู่ที่เส้นราเม็ง และน้ำซุปอันเลิศรส เมื่อมาอยู่ในเมืองไทยก็ยังคงรสชาติราเม็งแบบต้นตำรับแท้ๆ จากญี่ปุ่นไว้ โดยไม่ได้มีการปรับแต่งรสชาติแต่อย่างใดเลย พวกวัตถุดิบแทบจะทุกอย่างในการทำราเม็งของที่นี่ส่งตรงมาญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นน้ำซุป เส้นราเม็ง และวัตถุดิบปรุงรสอื่นๆ แถมยังมีพ่อครัวญี่ปุ่น มาลงฝีมือปรุงราเม็งรสเลิศให้กินกันด้วย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บังคาร่า ราเม็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>สำหรับราเม็งที่ชวนกินของที่นี่มีราเม็งหลักๆ อยู่ 4 แบบให้เลือกกินกันตามใจชอบ มี บังคาร่า ราเม็ง (160 บาท) เป็นราเม็งต้นตำรับจากสูตรของเจ้าของร้านบังคาร่าฯที่ญี่ปุ่น ที่มีความโดดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูที่ผ่านการเคี่ยวกรำนานกว่า 15 ชม. จนได้น้ำซุปกระดูกหมูที่เข้มข้น และผสมกับซอสโชยุญี่ปุ่นสูตรพิเศษ ส่วนเส้นราเม็งเป็นเส้นหยักขนาดกลาง พร้อมกับใส่เครื่องมีชาชูคือหมูสไลด์ หน่อไม้ญี่ปุ่น สาหร่ายและโรยหน้าด้วยต้นหอมซอย ลิ้มรสราเม็งคีบเส้นส่งเข้าปากเส้นราเม็งเคี้ยวนิ่มเหนียวนุ่มปาก เข้ากับน้ำซุปที่ซดแล้วรสชาติเข้มข้น ออกเค็มนิดๆ และมีกลิ่นของโชยุ หน่อยๆ ส่วนเนื้อหมูรสดีเคี้ยวนุ่ม หน่อไม้ญี่ปุ่นมีรสชาติเคี้ยวกรึบกรับปากดี

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ทงคัตซึ ราเม็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ชามต่อมาเป็น ทงคัตสึ ราเม็ง (170 บาท) ที่ส่งกลิ่นหอมๆ ของน้ำซุปกระดูกหมูยั่วน้ำลาย น้ำซุปกระดูกหมูนั้นผ่านการเคี่ยวกรำนานหลายชั่วโมงจนกระดูกหมูนั้นละลายได้น้ำซุปเป็นสีขาวๆ เหมือนน้ำนมที่มีความเข้มข้นมากๆ ส่วนเส้นเป็นราเม็งเส้นเล็กยาวตรง และก็ใส่เครื่องอย่างเห็ดหูหนู ชาชู และต้นหอมซอย กินแล้วต้องบอกว่าถูกปากเอามากๆ ตรงที่ได้ซดน้ำซุปกระดูกหมูที่หอมหวานกลมกล่อมลิ้น บวกกับได้เคี้ยวเส้นราเม็งเล็กๆ ที่เหนียวนุ่มนิ่ม เข้ากันดีกับเครื่องที่ใส่มา

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ซึเคเมน ราเม็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กินราเม็งแบบมีน้ำซุปร้อนๆ ใส่มาไปแล้วถึง 2 ชาม ชามต่อมาขอแนะนำ ซึเคเมน ราเม็ง(190 บาท) ที่มีจุดเด่นอยู่ตรงที่น้ำซุปกับเส้นนั้นมาแยกกัน ทางร้านใช้เส้นราเม็งขนาดใหญ่นำมาต้มจนสุกแล้วนำไปแช่เย็น ออกมาเหมือนบะหมี่เย็น เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเด็ดที่มีส่วนผสมของน้ำซุปถึง 2 อย่างคือซุปกระดูกหมูและน้ำซุปทะเลที่ได้จากปลาต่างๆเคี่ยวจนเป็นน้ำซุปที่เข้มข้น แล้วใส่เครื่องมีชาชู หน่อไม้ญี่ปุ่น และหอมซอย ตามด้วยใส่น้ำมันพริกเผาของญี่ปุ่นคล้ายๆ กับน้ำพริกเผาบ้านเรา เวลากินต้องคีบเส้นราเม็งมาจุ่มในน้ำซุปแล้วก็ส่งเส้นเข้าปากเคี้ยวเส้นราเม็งเต็มปากเค็มปากเหนียวนุ่มเด้งๆ อยู่ในปาก และได้รสชาติน้ำซุปออกมัน เค็ม เจือหวานและเผ็ดนิดหน่อยจากน้ำมันพริกเผา

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มิโซะบูตะ ราเม็ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ราเม็งชามสุดท้าย มิโซะบูตะ ราเม็ง (230 บาท) เป็นราเม็งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความกลมกล่อมของน้ำซุปที่ได้จากน้ำซุปกระดูกหมู บวกกับใส่มิโซะ (เต้าเจี้ยวญี่ปุ่น) และซอสสูตรพิเศษปรุงรสลงไปจนได้น้ำซุปที่เข้มข้นหอมกลิ่นเต้าเจี้ยว ส่วนเส้นเป็นเส้นราเม็งขนาดใหญ่สำหรับมิโซะโดยเฉพาะ พร้อมกับยังใส่เครื่องหลายอย่าง มีถั่วงอกผัด บูตะเป็นหมูสไลด์เป็นแผ่นและผัดกับซอสพิเศษ โรยหน้าด้วยต้นหอม คีบเส้นราเม็งเข้าปากเคี้ยวนุ่ม ซดน้ำซุปร้อนๆ ตามไปออกรสซอสมิโซะที่เค็มๆ หวานๆ แล้วก็เคี้ยวหมูบูตะนุ่มๆ ที่มีรสชาติกลมกล่อมถูกปากเอามากๆ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>คาคูนิด้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>และการกินราเม็งของที่นี่ทางร้านยังมีท็อปปิ้งอีกกว่า 7 อย่าง ให้สามารถสั่งใส่เพิ่มมาในราเม็งแต่ละอย่าง ทำให้การกินราเม็งเพิ่มรสชาติความอร่อยไปอีกแบบ มีทามาโกะ (25 บาท) เป็นไข่ต้มยางมะตูม คาคูนิ (40 บาท) เป็นหมูสามชั้นตุ๋น ชาชู (30 บาท) คือหมูแผ่นหมักซอสหั่นเป็นแผ่นๆ คาราเนงิ (20 บาท) เป็นต้นหอมคลุกกับพริกเผาญี่ปุ่น โนริ (25 บาท) คือสาหร่ายแผ่น เนยแข็ง (10 บาท) และข้าวโพดต้ม (10 บาท)

    นอกจากราเม็งที่เป็นเมนูเด่นชูโรงแล้วทางร้านก็ยังมีเมนูกินเล่นอื่นๆ ที่ชวนสั่งมาลิ้มลองอีกมาก อาทิ คาคูนิด้ง (90 บาท) เป็นข้าวญี่ปุ่นใส่คาคูนิ ไข่ต้มยางมะตูมราดด้วยมายองเนส โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและสาหร่ายซอย เกี๊ยวซ่า (60 บาท) ที่แป้งเกี๊ยวบางนุ่ม ไส้เกี๊ยวเป็นหมูรสกลมกล่อม เนงิบูตะเมชิ (60 บาท) เป็นหมูชาชูนำมาสับปรุงรสชาติ ซึมามิชาชู (70 บาท) เป็นหมูชาชูผัดกับน้ำซุปสูตรพิเศษ เสิร์ฟพร้อมซอสญี่ปุ่น และมีของหวานอย่าง แอนนินโดฟุ (40 บาท) เป็นเต้าฮวยเย็นญี่ปุ่นที่ชวนกิน "ผู้จัดการตระเวนกิน" ขอแนะนำว่าร้าน "บังคาร่า ราเม็ง" เป็นอีกหนึ่งร้านราเม็งสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ชวนให้มาลองลิ้มรสชาติกันไม่น้อยเลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=270 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=270>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวซ่า</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    "บังคาร่า ราเม็ง" ตั้งอยู่ภายในเดอะ แมนเนอร์ ซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงทางฝั่งซ.สุขุมวิท 39 ตรงเข้ามาในซ.สุขุมวิท 39 ประมาณ 400 ม. จะเห็นตึกเดอะแมนเนอร์ทางขวามือ ร้านบังคาร่าฯ จะตั้งอยู่ภายในตึกนั้น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น. โทร. 0-2662-5162-3

    คลิก!! อ่านรายละเอียดแผนที่และการเดินทางไปยังร้าน "บังคาร่า ราเม็ง"
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->
    __________________


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "บังคาร่า ราเม็ง" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 กรกฎาคม 2551 15:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : บังคาร่า ราเม็ง

    ประเภทอาหาร : อาหารญี่ปุ่น

    เมนูจานเด่น : บังคาร่า ราเม็ง, ทงคัตซึ ราเม็ง, ซึเคเมน ราเม็ง, มิโซะบูตะ ราเม็ง, คาคูนิด้ง, เกี๊ยวซ่า

    บรรยากาศร้าน : มีโต๊ะนั่งสบายๆ ให้เลือกหลายหลายมุมได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ภายในเดอะ แมนเนอร์ ซ.สุขุมวิท 39 ถ.สุขุมวิท กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงทางฝั่งซ.สุขุมวิท 39 ตรงเข้ามาในซ.สุขุมวิท 39 ประมาณ 400 ม. จะเห็นตึกเดอะแมนเนอร์ทางขวามือ ร้านบังคาร่าฯ จะตั้งอยู่ภายในตึกนั้น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

    สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถด้านในร้าน

    บัตรเครดิต : รับบัตรเครดิต

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ :0-2662-5162-3
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ลูกชิ้นหมูเจ๊หมวยฯ" เคี้ยวเด้ง รสดี
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000079419
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 กรกฎาคม 2551 18:10 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้าน "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูเจ๊หมวย วัดพระศรีฯ"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เมื่อมีโอกาสแวะเวียนไปไหว้พระ เอาธรรมะเข้าข่มต่อผู้นำปากสุนัข ที่วัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ครั้นเมื่อเกิดหิวขึ้นมา "ผ่านมาแวะกิน"จึงพากระเพาะน้อยๆ ที่โหยหิวมาอิ่มอร่อยกับก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูรสดีที่ร้าน "ก๋วยเตี่ยวลูกชิ้นหมูเจ๊หมวย วัดพระศรีฯ" ที่อยู่ข้างๆวัดแห่งนี้

    ร้านก๋วยเตี่ยวลูกชิ้นหมูเจ๊หมวยฯ ร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ตรงที่จะขายก๋วยเตี๋ยวที่ใส่แต่ลูกชิ้นหมูอย่างเดียวเพียวๆ โดยไม่มีเครื่องเคราอย่างอื่นมาเอี่ยวเลย ซึ่งจากการได้พูดคุยกับเจ๊หมวย หรือคุณศศิประภา แซ่ตั้ง เจ้าของร้าน เธอบอกว่า

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูแบบน้ำและแห้ง และเกี๊ยวทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่รุ่นแม่จนมาถึงรุ่นลูกอย่างเธอ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงเอกลักษณ์ของก๋วยเตี๋ยวที่จะมีแต่ลูกชิ้นหมูอย่างเดียว ที่ทางร้านทำเองโดยเลือกใช้เนื้อหมูส่วนขาหลังมาบดละเอียดและผสมกับเครื่องปรุงรสสูตรเด็ดเฉพาะ ที่มีจะใส่น้ำแข็งลงไปด้วยในขณะที่นวดลูกชิ้น จึงทำให้ลูกชิ้นของที่นี่เนื้อเนียนแน่นเด้งดึ๋ง โดยไม่ต้องพึ่งสารบอแรกซ์แต่อย่างใด ก่อนจะปั้นออกมาเป็นลูกชิ้นลูกโตชวนกิน

    เอาล่ะเมื่อรับรู้ข้อมูลลูกชิ้นกระตุ้นความหิวกันแล้ว ทีนี่ก็ได้เวลาหม่ำก๋วยเตี๋ยวกันเสียที สำหรับก๋วยเตี๋ยวของที่นี่มีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่ และวุ้นเส้น แล้วก็มีลูกชิ้นหมูให้เลือก 2 แบบ คือลูกชิ้นหมูธรรมดากับลูกชิ้นเอ็นหมู ที่ใครจะสั่งทั้ง 2 อย่าง ควบมาในชามเดียวกันก็ได้

    ก๋วยเตี๋ยวน้ำของที่นี่ เด่นด้วยน้ำซุปกระดูกหมูหอมกรุ่น ให้กลมกล่อมรสออกหวานนิดๆ สามารถกินได้โดยไม่ต้องปรุงเครื่องเพิ่มแต่อย่างใด ส่วนใครถ้าได้รสจัดจ้านที่นี่ก็มีก๋วยเตี๋ยวต้มยำเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ลูกชิ้นปิ้ง, ยำลูกชิ้น และซ่าหริ่ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ในขณะที่จุดเด่นหลักอย่างลูกชิ้นหมูนั้น ขอบอกว่า เป็นลูกชิ้นลูกใหญ่ เคี้ยวเต็มปากเต็มคำ เนื้อลูกชิ้นเนียนแน่นเคี้ยวเด้งหนึบหนับถึงรสชาติเนื้อหมูเอามากๆ ส่วนลูกชิ้นเอ็นหมูก็จะรู้สึกถึงเนื้อหมูส่วนติดเอ็นเคี้ยวมันปากดี

    สนนราคาของก๋วยเตี๋ยวที่นี่เขาขายกันชามละ 30 บาท และพิเศษ 35 บาท ซึ่งนอกจากก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูแล้ว ก็ยังมีเมนูลูกชิ้นอื่นๆ ให้สั่งมากินอีก อาทิ ลูกชิ้นปิ้ง (ไม้ละ 10 บาท) พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ยำลูกชิ้น (40 บาท) ให้รสเด็ดเผ็ดแซบถึงใจ เกี๊ยวทอด (ถุงละ 20 บาท) รสกลมกล่อม รวมถึงของหวาน อย่าง ซ่าหริ่ม ลอดช่อง ข้าวเม่า-ข้าวตอก (ถ้วยละ 15 บาท)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เจ๊หมวย ขะมักเขม้นกับการปรุงก๋วยเตี๋ยว </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ใครที่อยากจะซื้อลูกชิ้นหมูกลับบ้าน ทางร้านก็มีบริการในราคา ลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเอ็นหมู ก.ก. ละ 280 บาท ครึ่งก.ก. 140 บาท หรือซื้อแบบเป็นเซ็ท 140 บาท มีให้ทั้งลูกชิ้น น้ำซุป ถั่วงอก และผักโรย เรียกว่าสามารถนำกลับไปทำก๋วยเตี๋ยวกินได้เองที่บ้านตามใจชอบ แบบกินไปนึกถึงร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูเจ๊หมวยฯไป

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นหมูเจ๊หมวย วัดพระศรีฯ" ถ้ามาจากแยกเกษตรฯ ให้วิ่งตรงมายังวัดพระศรีมหาธาตุฯ บางเขน ร้านก๋วยเตี๋ยวเจ๊หมวยจะตั้งขายอยู่ริมถนนตรงหน้าปากซอยพหลโยธิน 55 ก่อนถึงวัดพระศรีฯ เปิดจันทร์-เสาร์ (หยุดวันอาทิตย์) เวลา 08.30-20.00 น. ทางร้านรับออกงานนอกสถานที่ และขายเฟรนไชส์ด้วย ติดต่อได้ที่ โทร. 08-9920-5568
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  14. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
    สุดยอดกระทู้เลย ต้องขอบคุณที่มีกระทู้ดี ๆ อย่างนี้มาก ๆ ค่ะ
    ชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาก โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวหมูสับต้มยำ
    เข้ามาดู โหย อยากกินเลย แต่ช่วงนี้พยายามลดน้ำหนักอยู่ เศร้าเลย
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ราดหน้ามหาสมุทร" ที่ "เลตรัง" จังหวัดตรัง/แม่ช้อยนางรำ
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000085725
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 กรกฎาคม 2551 17:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย:แม่ช้อยนางรำ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยกมหาสมุทรเอามาใส่จาน ร้านแรกในเมืองไทย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>"ราดหน้าทะเล..อย่างที่เคยกินมันธรรมดา
    ถ้ามาจังหวัดตรัง มันจะต้องกินราดหน้าที่ว่า
    ใหญ่โตมโหฬารหยิบมหาสมุทรมาใส่ไว้ในจาน"

    เจ้านายจำ "กำนันพรศักดิ์ กับคุณอุษา เกลี้ยงช่วย" ได้อ๊ะปล่าว

    อีชั้นว่าเจ้านายต้องจำได้

    เมื่อหลายปีก่อน เราเคยแวะกินข้าวของกำนัน ที่ร้าน "เลตรัง" ที่ปากเมงไง จ้านายติดอกตอดใจชมว่ากำนันกับภรรยาทำกับข้าวเก่ง

    ก็เพราะเจ้านาย ศักดิ์สิทธิ์...(ฮิฮิ เยินยอแต่ไม่สอพลอนะ)

    ตอนนี้เจ้าพ่อกำนันก็เลยมาเปิดร้านชื่อ "เลตรัง2" อยู่ในเมือง จะได้ไม่เปลืองน้ำมันต้องขับรถไปกินถึงที่เก่า

    (แต่ร้าน "เลตรัง" ก็ยังขายอยู่นะเจ้าคะ)

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ราดหน้ามหาสมุทร" ปลาเก๋าทั้งตัว กุ้งก็ทั้งตัว ปลาหมึกก็ทั้งตัว วุ้นเส้นก๋วยเตี๋ยวก็พอประมาณ ไม่ใช่ทั้งโรงงาน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อเดือนที่แล้ว อีชั้นไปจังหวัดตรังมา ถึงได้รู้ว่ากำนันพรศักดิ์มาเปิดอีกร้านในกลางเมือง ขายดิบขายดีเป็นเรื่องดังนี้เจ้าค่ะ

    สิบปีก่อน อีชั้นยังจำได้ ฝีมือกับข้าวปักษ์ใต้ แบบคนตรังที่ร้าน "เลตรัง" ริมทะเล อร่อยมากโดนเฉพาะคนที่ชมชอบกินรสชาติกลมกล่อม

    ไม่ใช่เผ็ดร้อนปานจะถูกไฟไหม้ในปาก เหมือนกับข้าวปักษ์ใต้ทั่วไป

    เจ้านายก็เคยชมไง จำได้มั้ยเจ้าคะว่า
    "แกงส้มที่นี่เยี่ยม"

    เปรี้ยว เผ็ด เค็ม กำลังพอดี๊..พอดี ผักหญ้าปลาที่ใส่เป็นของท้องถิ่น หากินที่ไหนไม่ได้ ซึ่งก็ให้รวมไปทั้งกับข้าวปักใต้อีกหลายเมนูอย่าง...คั่วกลิ้ง กุ้งผัดพริกสะตอ สูตรเฉพาะประจำร้าน เหมือนกับ "ใบเหลียงผัดไข่" ใบเหลียงละมุนละไมไม่แข็งไปหัวไอ้โจร

    เรียกว่า..อร่อยโดนหรืออร่อยเหาะก็ได้ทั้งนั้น

    แต่มาตรังคราวนี้ ถึงได้รู้ว่า

    อาหารจีนที่ร้าน "เลตรัง" ก็อร่อยเหมือนกัน และที่อร่อยม๊ากมาก เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน ใครมาก็จะต้องเปิบพิสดาร ชื่อที่ตั้งไว้ก็พิศวงเช่นกัน เขาตั้งชื่อว่า

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เผือกหิมะ" เผือกเนื้อซุย น้ำตาล น้ำตาลเคลือบหวานพอดีจานนี้เอาไว้ล้างปาก</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>"ราดหน้ามหาสมุทร"

    อุ๊ยตาย..ว้ายกรี๊ด ตั้งชื่อบอกใหม่ก็ได้นะเจ้าค่ะแต่ไม่ผิดหรอกจะบอกให้

    ที่ร้านนี้กล้าตั่งชื่อไว้เช่นนี้ก็เพราะเป็นราดหน้าที่ให้มากกว่าราดหน้าทะเลที่ขาย..ขายกันทั่วไป เพราะอะไรมิต่ออะไรในทะเลมารวมไว้ในจานเดียว และที่สำคัญยกกันมาทั้งตัว อย่างเช่น "ปลาเก๋า" หรือ "ปลากะพงขาว" ก็เอามาแล่เนื้อทอดกรอบ

    ใครที่ชอบกินปลา ก็จะได้กินหัว...กินหาง..กินกลางตลอดตัว

    แล้วก็กลัวว่าจะไม่หมด ขอให้กลัวว่าไม่พอจะดีกว่า

    เพราะปลาเก๋า.. ปลากะพงเนื้อขาว ที่คัดมาตัวขนาด 7-9 ขีดกำลังกิน และที่สำมะคัญก็ล้วนแต่เป็นปลาว่ายน้ำทั้งนั้น

    ก็เห็นจะมีแต่ร้าน "เลตรัง2"เท่านั้นที่เริ่มเมนูก่อนใคร อีกหน่อยก็คงจะมีเลียนแบบ..ราดหน้ามหาสมุทร แต่ใจจะเป็นมหาสมุทรแบบพ่อกำนันพรศักดิ์แค่ไหนอีชั้นบ่ฮู้

    วันนี้อีชั้นและทีมงาน ปิดท้ายรายการอร่อยประทับใจด้วยความหวานแบบแต้จิ๋วที่หิวไม่หิวก็อร่อยทั้งนั้น ก็คือ "เผือกหิมะ"

    เผือกหอมหันไม่โต กำลังพอดีเอาไปทอดแต่เนื้อยังรุย..เนื้อยังซุงเคี้ยวนุ่มปาก

    แล้วเอาน้ำตาลที่ทำราวเกล็ดหิมะมาราดหน้าใส่ เคล็ดลับของหวานจานนี้มีมากมายแต่อีชั้นไม่จาระใน

    อยากให้เจ้านายมาเปรียบเทียบกับร้านเก่าๆในกรุงเทพด้วยตัวเอง

    เอาเป็นอันว่า ถ้าเจ้านายมาเมืองตรังจะต้องแวะไปร้าน "เลตรัง2"ของพ่อกำนันกับภรรยาเขานะเจ้าคะ

    แล้วเจ้านายก็จะรู้ว่า เมืองตรังใช่ว่าจะมือหมูย่างอร่อยเท่านั้นซะเมื่อไหร่

    "ราดหน้าเจ้าสมุทร" เกิดครั้งแรกในเมืองไทยที่ร้าน "เลตรัง2"นี่ไง รีบไปเปิบซะนะเจ้าคะ เจ้านาย..อีกหน่อยกระทั่งในมหาสมุทรก็จะไม่มีอะไรให้เราได้กินอีกแล้ว

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน "เลตรัง2" 13 ถนนไทรงาม ซอย1 ข้างรพ.ราชดำเนิน ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง 92000 โทรศัพท์ 0-7521-7700
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    'หมวย สินธร' ก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเหลาจีน ...โดย พัชรพน
    http://www.matichon.co.th/news_detai...42732&catid=30

    ความแตกต่างของ 'หมวย' กับก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอื่นอยู่ที่ 'น้ำซุป' คือสีน้ำซุปค่อนข้างใส เมื่อเติมเครื่องปรุงแล้วเนียนมาก หอมกรุ่น กลมกล่อม แบบน้ำซุปใน 'เหลาจีน' แต่ที่ให้ความสุขมาก คือ 'เป็ด' ซึ่งเป็นเป็ดตัวโตเนื้อหนา หั่นเป็นชิ้นโต ชามหนึ่งใส่หลายชิ้นจุใจ

    คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อย่างที่เคยบอกแหละครับ คนเราเมื่อสูงวัยขึ้น ผ่านโลก โชกโชนกับชีวิต แสวงหา สนองความอยากรู้อยากเห็นมากเข้า เรื่องราวที่มองว่าเป็นสาระยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ อะไรต่ออะไรกลายเป็นเรื่องที่รู้ว่าผ่านมาเดี๋ยวก็ผ่านไป หาสาระอะไรที่จะเป็นประโยชน์ถึงกับสมควรให้หมกมุ่นไม่ได้เสียเป็นส่วนใหญ่

    ยิ่งอายุมากเข้า เรื่องราวที่สร้างความสุขยิ่งเหลือน้อย แต่ละคนก็ต่างเลือกสักแค่อย่างสองอย่างไว้ให้ชีวิต

    ยิ่งทำให้เรื่องราวของชีวิตน้อยลงเท่าไร ความสงบที่นำความสุขมาให้ก็ยิ่งเพิ่มพูนมากเท่านั้น

    คุณพี่ "เทียนชัย ปาริสวรรณ" เจ้าของฉายา "เหลา ร้อยหลา" เซียนลูกสั้นชื่อกระฉ่อนในวงการกอล์ฟ

    ไม่ต่างอะไรกับมีดสั้นของ "ลี้ คิม ฮวง" ที่ไม่เคยพลาดเป้า หากเป็นระยะร้อยหลาลงมา "เหลา ร้อยหลา" จะโยนขึ้นกรีนมาทำพัตต์เดียวเป็นส่วนใหญ่ ที่ลงหลุมไปเลยก็นักต่อนัก

    เพราะพยายามตัดเรื่องราวที่ไม่เป็นสาระออก คุณพี่เหลา ร้อยหลา จึงมีภารกิจของชีวิตไม่กี่เรื่อง นอกจากกิจการของครอบครัวซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้น ตามกอล์ฟแล้ว ยังมีอีกเรื่อง
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เป็นเรื่องที่เหมือนกับใครต่อใครอีกหลายคนในวัยกลางๆ คือ "หาร้านอร่อย"

    เพียงแต่ร้านของ "เหลา ร้อยหลา" นั้นมีวิธีคิดแน่นอน คือ ร้านเล็กๆ ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก เป็นผู้บุกเบิก

    หลายวันก่อน คุณพี่แกกระซิบให้ฟังว่า มี "ก๋วยเตี๋ยวเป็ด" อยู่เจ้าหนึ่ง ทีเด็ด

    ได้ยินปุ๊บเก็บข้อมูลไว้ในสมอง กะว่าจะหาชั่วโมงว่างสักวันไปลอง ตั้งใจไว้อย่างนั้น แต่ก็เนิ่นนานพอสมควรกว่าจะว่างพอที่จะไปได้

    วันอาทิตย์ที่ผ่านมา มื้อกลางวัน ชวนทั้งครอบครัวดิ่งตรงไปเลย

    ย่าน "แฮปปี้แลนด์" สุดซอยเป็น "หมู่บ้านสินธร" ขับรถเลยป้อมยามไปนิด ร้านก๋วยเตี่ยวเป็ดที่ว่าอยู่ซ้ายมือ เป็นตึกแถว


    ดูธรรมดาๆ ครับ วันที่ไปคนไม่เยอะเท่าไร อาจจะเป็นเพราะไปช่วงคล้อยบ่ายแล้ว

    "หมวยก๋วยเตี๋ยวเป็ด" ไม่ได้ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดอย่างเดียว แต่ยังมี "ข้าวหน้าเป็ด" ด้วย <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เริ่มจาก "เส้นหมี่ขาวน้ำ" เพราะรู้สึกว่า "เป็ด" เข้ากันได้ดีกับเส้นหมี่ขาวมากกว่าเส้นอื่น

    แรกตักน้ำชิม เริ่มแอ๊ะ เพราะดูจืดๆ แต่ที่ไหนได้เมื่อเติมเครื่องปรุงเข้าไป น้ำซุปที่ดูจืดๆ กลับแปลงสภาพเป็นกลมกล่อม กลืนเข้ากับเครื่องปรุงตามใจชอบอย่างพิสดาร

    "อร่อย" ขึ้นมาทันที

    ความแตกต่างของ "หมวย" กับก๋วยเตี๋ยวเป็ดเจ้าอื่นอยู่ที่น้ำซุป รู้สึกไหมครับว่าก๋วยเตี๋ยวเป็ดส่วนใหญ่น้ำซุปจะเข้มเครื่องเทศ บางร้านใส่จนฉุนกึ้กขึ้นจมูกเมื่อสูดกลื่น

    แต่ของ "หมวย สินธร" ไม่เป็นอย่างนั้น สีน้ำซุปค่อนข้างใส ด้วยเหตุนี้ทำให้ชิมตอนแรกจึงดูจืดหากเทียบกับน้ำก๋วยเตี๋ยวเป็ดทั่วไป แต่เพราะไม่เข้มนี่เองที่พอเติมเครื่องปรุงแล้วเนียนมาก หอมกรุ่น กลมกล่อม แบบน้ำซุปในเหลาจีน

    แต่ที่ให้ความสุขในการลิ้มลองมากคือ เป็ด ที่นี่ใช้เป็ดตัวโตเนื้อหนา หั่นเป็นชิ้นโตๆ หนานุ่ม ชามหนึ่งใส่มาหลายชิ้น ทำให้เต็มอิ่มกับรสชาติของเป็ดพะโล้

    "คุณพี่เหลา" เล่าให้ฟังตอนหลังว่า ที่นี่ต้มพะโล้เป็ดเอง เป็นสูตรที่ตกทอดกันมาจากครอบครัวของหมวย ซึ่งเป็นครอบครัวจีน จึงโดดเด่นกว่าเป็ดพะโล้ทั่วไป

    อร่อยครับ ยิ่งหั่นวางบนจานข้าวหน้าเป็ดยิ่งเห็นแล้วท้องร้องต้อนรับกันเลย

    หมดเส้นหมี่ขาวน้ำไปด้วยความสุข หันไปโต๊ะข้างๆ เห็น "บะหมี่เป็ด" สีสันน่าลอง เลยสั่งมาลิ้ม

    เป็นเรื่องเลยครับคราวนี้ ข้อมูลในสมองที่บอกว่าเป็ดเหมาะกับเส้นหมี่ขาวนั้น เปลี่ยนแปลงเสียแล้ว

    บะหมี่เป็ดรสชาติเฉียบขาดจริงๆ ให้ความรู้สึกถึงความนุ่มเนียนของการเข้ากันได้ดีระหว่างเส้นบะหมี่กับเนื้อเป็ดชิ้นหนา

    บะหมี่ของที่นี่ไม่ธรรมดา เหนียวนุ่ม และหอม

    ใช้เวลาไม่นาน นั่งโจ้กันเงียบ แผล็บเดี๋ยวหมดไปคนละสองชาม

    เป็นอีกวันที่ครอบครัวเป็นสุข

    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของ "เหลา ร้อยหลา"


    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    อาหารช่วยให้อารมณ์ดี

    http://hilight.kapook.com/view/27184

    [​IMG]

    บางครั้งเรารู้สึกขาดความสุข อันเนื่องมาจากการขาดอาหารบางชนิด ที่จะช่วยกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ลองทำความรู้จักกับอาหารที่จะช่วยให้คุณมีความสุขยิ่งขึ้นดูสิคะ

    [​IMG] วานิลลา ไม่ว่าจะเป็นวนิลลาในขนมหรือพุดดิ้งก็อร่อยลิ้นทั้งนั้น แถมยังมีกลิ่นวานิลลาหอมยั่วน้ำลายอีกด้วย และที่สำคัญก็คือ มันช่วยให้อารมณ์ร่าเริงแจ่มใส มีความสุข วานิลลาจึงเปรียบเสมือน ยาดับความโกรธและความทุกข์กังวล บำรุงเส้นประสาท และถ้าจะให้ได้ผลจริงๆ ก็ต้องกินวานิลลาของแท้

    [​IMG] ช็อกโกแลต ในช็อกโกแลตมีสารอาหารต่างๆ เกือบ 400 ชนิด โดยเฉพาะช็อกโกแลตดำมีประโยชน์กว่าช็อกโกแลตนมถึงสามเท่า นอกจากนี้ช็อกโกแลตขมหนึ่งห่อ ยังมีคาเฟอีนมากเท่ากับกาแฟหนึ่งถ้วย ซึ่งจะช่วยให้กระปรี้กระเปร่า​

    [​IMG] พริกมีสารแคปไซซิน ซึ่งจะช่วยให้เรามีความสุขอารมณ์ดี คลายเครียด ผ่อนคลาย และกระตือรือร้น

    [​IMG] ผักชี
    ช่วยกระตุ้นให้อารมณ์ดี น้ำหอมระเหยและสีของผักชี จะส่งผลต่อระบบศูนย์ประสาท ดังนั้นจึงควรเติมผักชีในอาหารที่เรารับประทาน เช่น แกงจืด ยำ ฯลฯ

    [​IMG] อาหารทะเล มีโปรตีนทริปโตฟาน (Trytophan) มีวิตามินและเกลือแร่ เช่น โพแทสเซียม และแมกนีเซียม หากกินหอยแค่ 5-6 ตัว ก็สามารถช่วยให้อารมณ์ดีได้ เพราะมันมีผลต่อพลังทางจิต และช่วยให้ประสาทที่ตึงเครียดผ่อนคลายลง

    [​IMG] ก๋วยเตี๋ยว ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหรือเส้นใหญ่ ก็มีคาร์โบไฮเดรตสูงทั้งนั้น ซึ่งมันจะช่วยผลิตฮอร์โมนแห่งความสุขในสมอง จึงช่วยให้เรารู้สึกมีความสุขในสมอง จึงช่วยให้เรารู้สึกมีความสุข อารมณ์ดี ซึ่งชาวกรีกโบราณรู้มานานแล้ว


    [​IMG] นม หากฮอร์โมนเซโรโทนินซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสุขลดลง จะทำให้เรารู้สึกถึงพลังที่ถดถอย อารมณ์เสีย แต่หากได้กินผลิตภัณฑ์จากนม จะช่วยให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนแห่งความสุขมากขึ้น

    [​IMG] กล้วย มีคุณค่าทางอาหารเช่นเดียวกับสับปะรด ซึ่งมีฮอร์โมนเซโรโทนิน แต่ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่า ฮอร์โมนจากกล้วยจะให้ผลดีเช่นเดียวกับที่ร่างกายสร้างขึ้นเองหรือไม่ แต่กล้วยก็เป็นคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่ง และมีโปรตีนทริปโตฟาน ที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนเซเรโทนิน ซึ่งจะช่วยให้อารมณ์ดี

    [​IMG] มันฝรั่ง ให้พลังงานเหมือนโปรตีน แร่ธาตุและวิตามิน โดยเฉพาะมันฝรั่งมีวิตามินบี 6 สูง ซึ่งจะช่วยควบคุมการเผาผลาญโปรตีนในร่างกาย และช่วยปรับให้ฮอร์โมนสมดุล และช่วยให้ประสาทสงบ มีความสมดุล ไม่ขึ้นๆ ลงๆ แต่ควรเป็นมันผรั่งต้มหรือบด หรือมันฝรั่งในแกงมัสมั่นก็ได้ หากเป็นมันฝรั่งทอดกรุบกรอบจะทำให้อ้วนบั่นทอนสุขภาพมากกว่า




    ข้อมูลจาก
    [​IMG]
    ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
    ประจำวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ.2551​

    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“โอเดียน”บะหมี่เกี๊ยวปูหรูหรา ก้ามใหญ่...อร่อยได้ใจ
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000090600
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 12:41 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้าน “โอเดียน” </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>มีแต่ปูก้ามโต ใหญ่ ยัย ยัย ยัย ยัย ยัย ยัย ยาย มีแต่ปูก้ามโตมากมาย มาย มาย มาย มาย มาย มาย มาย.. “ผ่านมาแวะกิน” ต้องถึงกับร้องเพลงปู ของ Neko Jump ขึ้นมาทันที เมื่อเรากำลังยืนอยู่หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีชื่อว่า “โอเดียน” ที่ในมื้อนี้เราได้แวะเวียนมากินบะหมี่เกี๊ยวปูทะเลแท้ๆ ของที่ร้านนี้กัน

    เพราะที่ร้านโอเดียนเขาโด่งดังในเรื่องบะหมี่เกี๊ยวปู ที่มีก้ามปูทะเลแท้ๆ ก้ามโตๆ ให้เลือกกินกันอย่างจุใจ แถมยังห้อยก้ามปูโตๆให้เห็นกันจะจะเต็มตู้เพื่อบ่งบอกให้รู้กันไปเลยว่าหากมาที่นี่ จะได้ลิ้มรสชาติของก๋วยเตี๋ยวที่ใส่ปูทะเลสดๆแบบแท้จริง ไม่ใช่เศษเนื้อปูหรือวิญญาณปูแบบบะหมี่ปูบางร้าน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวหรูหราก้ามปู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>มื้อนี้เอาเป็นว่าเมื่อมาถึง “ผ่านมาแวะกิน”ก็ไม่รีรอ หาที่นั่งเย็นๆในห้องแอร์ แล้วสั่งเมนูเด่นของที่นี่มาหม่ำกันนั่นก็คือ บะหมี่เกี๊ยวหรูหราก้ามปู (แบบแห้ง ราคา 100 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของก้ามปูที่เลือก) บะหมี่เกี๊ยวชามนี้มีความพิเศษหลายอย่าง เริ่มจากบะหมี่เส้นเล็กที่ทางร้านทำเอง เกี๊ยวกุ้งลูกโตที่ใช้กุ้งทะเลล้วนๆมาปรุงรสห่อเป็นไส้ และพระเอกของชามคือ ก้ามปูทะเลก้ามโตๆ เป็นปูเนื้อที่ทางร้านสั่งมาเป็นพิเศษจากสุราษฎร์ธานีแบบสดๆใหม่ๆทุกวัน ก่อนนำมาต้มแกะเป็นก้ามๆเสิร์ฟพร้อมกับบะหมี่เกี๊ยวรสเด็ด ที่ให้รสชาติถูกปากเอามากๆ บะหมี่นั้นหอมเหนียวนุ่มปาก ด้านเกี๊ยวกุ้งรสกลมกล่อม เข้ากันดีกับพระเอกอย่างก้ามปูโตๆที่เนื้อแน่นหวานสะใจคนชอบก้ามปูยิ่งนัก

    นอกจากนี้บะหมี่เกี๊ยวชามนี้ยังมีเครื่องปรุงอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อปูทะเลสดๆที่แกะมาเป็นชิ้นๆ หมูแดงรสชวนกิน และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดที่เสิร์ฟมาให้จิ้มกินคู่กับปู

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขนมจีบกุ้งสด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>หลังจัดการโซ้ยบะหมี่เกี๊ยวปูจนเกลี้ยงชามแล้ว เราหันซ้ายแลขวาเห็นว่าที่ฝาผนังของร้านมีภาพอาหารอย่างอื่นติดไว้ด้วย เลยขอเมนูทางร้านมาดูทำให้รู้ว่านอกจากจะมีบะหมี่เกี๊ยวปูให้กินแล้ว ก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อย่างขนมจีบกุ้งสด (เข่งละ 50 บาท มี 6 ลูก) ที่นึ่งเสิร์ฟมาร้อนๆ กินขนมจีบกุ้งสดเคี้ยวเต็มปากเต็มคำ เนื้อเกี๊ยวบางนุ่ม ส่วนเนื้อกุ้งเคี้ยวเด้งกรอบหวาน ได้รสชาติกุ้งแท้ๆ แบบเป็นตัวๆ เลย และยังมีน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดมาให้จิ้มกินคู่เพิ่มรสชาติถูกปากไปอีกแบบ

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กระเพาะปลาน้ำแดง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>กระเพาะปลาน้ำแดง (50 บาท) เมนูนี้ก็ชวนกินไม่แพ้กัน เพราะทางร้านเลือกใช้กระเพาะปลาแท้ๆ มาทำ และก็ใส่เห็ดหอมกับเนื้อปูทะเลมา กระเพาะปลาแท้ๆ นั้นเคี้ยวนุ่มหยุ่นปาก รสชาติน้ำแดงก็หอมออกรสกลมกล่อมถูกปาก

    ส่วนเมนูอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มนั้นก็มีอีก อาทิ เกี๊ยวกุ้งกรอบ (100 บาท) ข้าวผัดปู (50 บาท) หอยจ้อปู (100 บาท) ข้าวหน้าไก่ (30 บาท) สาหร่ายกุ้งสด (เข่งละ 50 บาท) บะหมี่เกี๊ยวกุ้งเนื้อปูทะเล (แห้ง/น้ำ 50 บาท) บะหมี่เกี๊ยวกุ้งหมูแดง (แห้ง/น้ำ 35 บาท)บะหมี่เกี๊ยวหน้าไก่ (40 บาท) และเมนูอื่นๆ อีกมากมายที่มีให้เลือกลิ้มลองแบบอิ่มท้อง เดิน พุงกางกลับออกจากร้านไปอย่างจุใจ

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    ร้าน “โอเดียน” ตั้งอยู่ตรงวงเวียนโอเดียน (ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ) เยื้องรพ.เทียนฟ้า ข้างประตูเล็กวัดไตรมิตร ถ้ามาจากทางถ.พระราม 4 วิ่งมาทางหัวลำโพงข้ามสะพานเล็กๆ แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดไตรมิตร จะเจอวงเวียนโอเดียน ให้ขับรถวนขวารอบวงเวียน จะเห็นร้านโอเดียนอยู่ขวามือ ตรงจุดกลับรถ หน้าร้านมีตู้กระจกแขวนก้ามปูให้เห็นเป็นจุดสังเกต จอดรถได้หน้าร้าน เปิดทุกวัน (หยุดทุกวันอังคารสุดท้ายของเดือน) เวลา 08.30-21.00 น. โทร. 08-6888-2341, 08-4703-4042

    คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "โอเดียน"



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "โอเดียน"
    http://www.manager.co.th/Travel/View...=9510000090647
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 สิงหาคม 2551 12:42 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : โอเดียน

    ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

    เมนูจานเด่น : บะหมี่เกี๊ยวหรูหราก้ามปู, ขนมจีบกุ้งสด, กระเพาะปลาน้ำแดง, เกี๊ยวกุ้งกรอบ

    บรรยากาศร้าน : ตึกแถว มีห้องแอร์ให้นั่งเย็นสบาย

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ร้าน ตั้งอยู่ตรงวงเวียนโอเดียน (ซุ้มประตูเฉลิมพระเกียรติ) เยื้องรพ.เทียนฟ้า ข้างประตูเล็กวัดไตรมิตร ถ้ามาจากทางถ.พระราม 4 วิ่งมาทางหัวลำโพงข้ามสะพานเล็กๆ แล้วเลี้ยวซ้ายผ่านหน้าวัดไตรมิตร จะเจอวงเวียนโอเดียน ให้ขับรถวนขวารอบวงเวียน จะเห็นร้านโอเดียนอยู่ขวามือ ตรงจุดกลับรถ หน้าร้านมีตู้กระจกแขวนก้ามปูให้เห็นเป็นจุดสังเกต

    สถานที่จอดรถ : จอดรถได้หน้าร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน (หยุดทุกวันอังคารสุดท้ายของเดือน) เวลา 08.30-21.00 น.

    เบอร์โทรศัพท์ : 08-6888-2341, 08-4703-4042

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    แซบพิสดาร ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูกรอบ [15 มิ.ย. 51 - 15:28]
    [​IMG]หนึ่ง ในสุดยอดความคิดสร้างสรรค์ ที่ทั้งกรอบ ทั้งมันส์ กระตุ้นต่อมหิวเจ๊แซบตั้งแต่ ได้ยินชื่อ คือ “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูกรอบ” ของ “เจ๊ดำ” ณ ลำลูกกา
    อ๊ะ...อ๊ะ...เห็นชื่อแล้วอาจจะงง ไม่ต้องสงสัยเจ้าค่ะ คุณพี่ดำทำก๋วยเตี๋ยวต้มยำแล้วใส่หมูกรอบจริงๆ ไม่ได้ฟังผิด ถึงแม้ความคิดจะพิสดารแต่รสชาติจัดจ้านถูกปาก มีลูกค้าแวะเวียนมาฝากท้องมากมาย บางรายอยู่ถึงฝั่งธนฯแต่ดั้นด้นมาโซ้ยถึงร้านแบบไม่สะท้านค่าน้ำมัน (ฮา)
    “พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมาขายอันนี้” (อ้าว...)
    คุณพี่ดำเริ่มตอบคำถามถึงที่มาที่ไปของ “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูกรอบ” ด้วยความงง...พาเจ๊สงสัยหนักเข้าไปอีก “นึก ไม่ออกจริงๆ ว่าความคิดนี้มาได้ยังไง แต่มันเหมือนมาในหัวเลยว่า ลองใส่หมูกรอบดูดีกว่า ทั้งๆที่พี่ก็ไม่ได้ชอบทานหมูกรอบนะ แต่เราชอบลองโน่นลองนี่ ก็ลองไปเรื่อย คือเราเป็นคนชอบทำอะไรพิสดารๆน่ะค่ะ” จากความพิสดารสุดสร้างสรรค์ กลายเป็นความมันส์ในการโซ้ย
    [​IMG]
    “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ” ของพี่ดำไม่เน้นน้ำ แต่หนักเครื่อง รส เข้มข้นน้ำขลุกขลิกคลุกสองสามทีรสชาติเข้าที่ ซดกี่ทีก็แซบ พี่ดำคัดสรรเครื่องต้มยำอย่างดี ใส่ไม่มียั้ง ทั้งถั่ว พริก มะนาว เผ็ด เปรี้ยว มัน ครบรส ยิ่งโซ้ยกับหมูกรอบทอดมาอย่างดีไม่มีอมน้ำมัน ยิ่งเพิ่มความหฤหรรษ์ในการหม่ำอย่างยิ่งยวด หมูกรอบแต่ละชิ้นผ่านขั้นตอนการทำด้วยความเอาใจใส่ ไม่ได้เป็นแค่ “หมูไม้ประดับ” สักแต่ว่าทำไว้เป็นจุดขาย พี่ดำเลือกใช้หมูสามชั้น อย่างดี สั่งจากร้านประจำ เน้นเนื้อมากกว่ามัน ได้มาแล้วจะนำมาทำความสะอาดและต้มกับน้ำซุปรสกลมกล่อม ต้มจนสุกให้น้ำซุปซึมเข้าไปในเนื้ออย่างทั่วถึง แล้วตักออกจากหม้อ นำมาคลุกกับเกลือทั้งด้านหน้า ด้านหลัง แล้วนำไปทอดในน้ำมันร้อนปานกลางให้พอสุก รีดน้ำมันออกให้หมด แล้วตักขึ้นมาทอดอีกกระทะที่มีน้ำมันร้อนจัด ทอดจนหมูเหลืองกรอบน่าโซ้ย แล้วตักลงจากกระทะพักให้แห้ง นำมาหั่นพร้อมขาย
    [​IMG]
    ในการทอดแต่ละครั้งต้องใช้น้ำมันจำนวนมาก และต้องเป็นน้ำมันใหม่ หมูจะไม่เหม็นหืน กลืนคล่อง คนทอดต้องมีประสบการณ์ และ ความชำนาญเฉพาะตัว รู้ระดับความสุกที่กำลังดี ระดับความกรอบที่เหมาะสม และไม่อมน้ำมัน เมื่อ นำมาใส่ในก๋วยเตี๋ยวต้มยำต้องไม่ทำให้เลี่ยนจนเปลี่ยนรสชาติ ตักหมูกรอบใส่ปากแล้วเคี้ยวกรุบ...กรุบ...ซดน้ำซุปตาม...โอยยยย...อร่อย มั่กๆ!
    [​IMG]นอกจากความคิดพิสดารที่ใส่ “หมูกรอบ” ในต้มยำแล้ว พี่ดำยังมี “เส้นบะหมี่ทอด” โรยหน้า มาเพิ่มความแปลกแหวกต่อมรับรส เป็นเส้นบะหมี่หั่นขนาดพอดีคำ นำไปทอดให้เหลืองกรอบ พี่ ดำได้ความคิดมาจาก “เกี๊ยวกรอบ” ที่ใส่ในเย็นตาโฟทั่วไป แต่ไม่ ชอบทำตามคนอื่น เลยเปลี่ยนจากเกี๊ยวกรอบเป็นบะหมี่กรอบ (ซะงั้น) ลองทำตอนแรกลูกค้าก็งงๆ แต่ทำมาทำไป ลูกค้าเกิดติดใจ โดยเฉพาะคนที่ชอบความแปลกใหม่ ไม่ ซ้ำซากจำเจ หลายคนสั่งให้ใส่แทนเส้นก๋วยเตี๋ยว บางคนสั่งใส่ชามมาโซ้ยเพียวๆแก้เปรี้ยวปาก พี่ดำแอบกระซิบเจ๊แซบว่า เส้นบะหมี่ทอดไม่ใช่จะทำกันได้ง่ายๆ ต้องทอดให้กำลังดี ถ้ายังไม่ได้ที่เส้นจะไม่กรอบ หรือถ้าทอดนานเกินไปเส้นจะไหม้เกรียมไม่น่าทาน ทอดแล้วก็ต้องรีบขายถ้าปล่อยไว้นานเกินไปเส้นจะเหนียว เคี้ยวไม่เพลิน หลายครั้งที่พี่ดำมองดูบะหมี่ทอดแล้วคิดในใจ “หาเรื่องลำบากใส่ตัวจริงๆ” (ฮา)
    “ต้มยำ” ของร้านนี้ ปรุงใหม่ ทำใหม่ ทีละชาม ไม่ได้ทำน้ำยำค้างไว้ ใครที่มาตอนลูกค้าเยอะ ขอให้ทำใจ...อาจจะช้าหน่อย แต่อร่อยชัวร์!!
    แต่ถ้าหิวจัด รอไม่ไหว สั่ง “ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส” มาซดร้อนๆ รับรองว่าหายเซ็ง น้ำซุปรสดี กลมกล่อม ทำจากกระดูกหมูกว่าสิบกิโล ต้มผสมกับน้ำซุปที่ใช้ต้มหมูสามชั้นสำหรับทำหมูกรอบ เพิ่มความหวาน นุ่ม ชุ่มคอ ซดสบายๆไม่ต้องปรุง
    อีกหนึ่งชามฮิตติดใจขาประจำคือ “เย็นตาโฟ” รสเข้มข้น น้ำขลุกขลิก น้ำเย็นตาโฟปรุงเองกับมือ ไม่ได้ซื้อสำเร็จจากตลาด ถูกปากคนชอบรสจัด เพิ่มความมันส์ ด้วยเส้นบะหมี่ทอดโรยหน้า ถึงจะเรียกว่าครบกระบวนความแซบแบบคุณพี่ดำ (หุหุ)
    [​IMG]ระหว่างโซ้ยก๋วยเตี๋ยว เกิดอยากจะเปรี้ยว เคี้ยวอย่างอื่น คุณพี่ดำมีขนมจีนกับสารพัดน้ำยาไว้คอยบริการ ไม่ว่าจะเป็น “น้ำยากะทิ” “น้ำยาป่า” “แกงเขียวหวานไก่” “แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย” และ “แกงไตปลา” ที่ขึ้นชื่อลือชาในหมู่ขาประจำ สำหรับขาโซ้ยที่ชอบลอง เจ๊แซบ ขอแนะนำ “บะหมี่กรอบราดน้ำยากะทิ” เมนูสุดพิสดาร สร้าง สรรค์โดยลูกค้าขา ประจำชาวญี่ปุ่นที่ มาทานเป็นประจำ อยากรู้ว่าแซบขนาดไหนต้องไปลอง
    ร้าน “ก๋วยเตี๋ยวต้มยำหมูกรอบ” เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ถ้ามาตอนเที่ยงคนจะเยอะมากเป็นพิเศษ อาจจะรอนาน ถ้าเลี่ยงได้เป็น ตอนสายๆ หรือ บ่ายๆจะดีที่สุด ร้านตั้งอยู่ที่ทางเข้าลำลูกกา ถ้า มาจากถนนวิภาวดีเลี้ยวเข้ามาทางสนามกีฬาธูปะเตมีย์ แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามป้ายลำลูกกา ตรงไปจนเจอปั๊ม ปตท. ทางด้านซ้ายมือกลับรถ ร้านอยู่ทางซ้ายมือ เป็นร้านเล็กๆ มีป้ายวางไว้ที่ริมถนน คนไม่ชำนาญทาง โทร.ถามได้ที่เบอร์ 08-6338-6924 และ 08-6331-5684 การันตีถึงชัวร์!!
    เจ๊แซบ หัวเขียว
    [​IMG]
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด" รสจัดจ้าน จี๊ดจ๊าด
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099280
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 สิงหาคม 2551 14:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งภายในร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด" </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ความนิยมในการกินอาหารรสจัดจ้าน จี๊ดจ๊าด เปรี้ยว เผ็ดร้อนของพี่ไทยนั้นมีมาช้านานแล้ว ขนาดก๋วยเตี๋ยวซึ่งเป็นอาหารมาจากจีน ส่วนใหญ่เมื่อมาอยู่ในเมืองไทยยังต้องมีการปรุงรสชาติให้แซบเผ็ดถูกปากตามสไตล์พี่ไทย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ในบ้านเรามีก๋วยเตี๋ยวประเภทต้มยำมาสนองความต้องการของนักกินที่ชอบกินอาหารรสจัดกัน

    และในมื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" ก็มีร้านก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเด็ดอีกหนึ่งร้านมาแนะนำ ร้านที่ว่านี้คือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด" เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆ อันร่มรื่นที่ซ่อนตัวลึก แต่ไม่ลับอยู่ภายในซอยจรัญสนิทวงศ์ 13 ซึ่งที่นี่มีก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรมะนาวรสเด็ด เป็นเมนูของดีอันชวนให้มาลิ้มลองรสชาติกัน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรมะนาว (บน) ซี่โครงหมูตุ๋นราดข้าว (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรมะนาว (25-40 บาท) ของที่นี่นั้นเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำใส ที่มีความโดดเด่นตรงที่ทางร้านจะปรุงรสชาติต้มยำแบบจัดจ้าน โดยใช้มะนาวคั้นสดๆ ทุกวัน พริกขี้หนูป่นทำเอง และใส่ถั่วลิสงที่คั่วเองใหม่ๆ ปรุงรสชาติกับน้ำตาล น้ำปลาแบบชามต่อชาม และใส่มาในน้ำซุปกระดูกหมูที่เคี่ยวปรุงอยู่นาน ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆก็ใส่มาหลากหลาย มีทั้งหมูสับ หมูหมักลวกสุก และลูกชิ้นหมู ชิมก๋วยเตี๋ยวแล้วต้องบอกว่าทางร้านปรุงรสชาติมาได้แบบเผ็ดจัดจ้าน เปรี้ยว หอมมะนาวถูกใจ เรียกว่ากินโดยไม่ต้องปรุงรสอะไรเพิ่มอีก กลมกล่อมถูกปากเข้ากับเครื่องที่ใส่มาไม่ว่าจะเป็นหมูสับเนื้อนุ่ม หมูหมักเคี้ยวนิ่ม ลูกชิ้นหมูเคี้ยวเด้ง

    และใช่ว่าที่ร้านนี้จะมีแต่เมนูก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสเด็ดเป็นเมนูชูโรงเท่านั้น ที่นี่ยังมีเมนูอาหารจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนสั่งมากิน ไม่ว่าจะเป็น ซี่โครงหมูตุ๋นราดข้าว (40 บาท) เป็นซี่โครงหมูอ่อนตุ๋นกับเครื่องเทศยาจีนจนเปื่อยนุ่ม พร้อมกับปรุงรสด้วยเครื่องเทศไทย จนได้ซี่โครงหมูอ่อนรสชาติดีที่เนื้อนุ่มออกรสเครื่องเทศที่ซึมถึงเนื้อใน กระดูกซี่โครงอ่อนเคี้ยวกรุบกรับ กินคู่กับข้าวสวยอิ่มท้องกันไป

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ยำหนังปลาแซลมอน (บน) ยำหมูมะนาว (ล่าง)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> หรือจะเป็นเมนูจานเด่นประเภทยำ อย่างยำหนังปลาแซลมอน (45 บาท) ทางร้านนำหนังปลาแซลมอนทอดกรอบมายำใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศ ผักขึ้นฉ่าย ปรุงรสชาติยำแบบไทยๆ ลิ้มรสเคี้ยวหนังปลาแซลมอนหอมๆ กรุบกรอบปากซึมรสชาติน้ำยำเปรี้ยว หวาน เค็มเจือเผ็ดนิดหน่อย

    นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนกินอีก อาทิ ยำหมูมะนาว (45 บาท) ก๋วยเตี๋ยวซี่โครงหมูตุ๋น (40-45 บาท) สลัดผัก (30 บาท) ของหวานก็มี วุ้นมะพร้าวอ่อน (30 บาท) พุดดิ้งนมสด (20 บาท) และเมนูอื่นๆ อีกสารพัดที่ทางร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด" มีให้ลองแวะมาฝากท้องอิ่มกันแบบเต็มที่

    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

    "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด" ตั้งอยู่ภายในซอยวัดมะพร้าวเตี้ย บนถ.จรัญสนิทวงศ์ ซ. 13 การเดินทางให้เข้ามาในซอยจรัญฯ 13 (ซ.พาณิชย์ธนฯ) แล้ววิ่งตรงเข้ามาประมาณ 6-7 ก.ม. จะเห็นซ.วัดมะพร้าวเตี้ยทางขวามือ หน้าปากซอยมีเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นจุดสังเกต ให้เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วตรงมาเรื่อยๆ จนมาเจอสะพานข้ามคลองบางเชือกหนังลงมา ก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด ตั้งอยู่ขวามือ หรือถ้ามาทางเส้นถ.วงแหวนกาญจนาภิเษก ก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เลยเนติบัณฑิตยสภามา ก็จะเห็นป้ายที่เขียนว่าซอยลัดไปจรัญฯ 13 ให้เลี้ยวเข้าซอยนั้นตรงเข้ามาประมาณ 2 ก.ม. ก็จะเห็นซ.วัดมะพร้าวเตี้ยอยู่ซ้ายมือ มีที่จอดรถในร้าน เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น. (หยุดทุกศุกร์สุดท้ายของสิ้นเดือน) โทร. 08-6786-4071

    คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด"

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด"
    http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9510000099335
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 สิงหาคม 2551 14:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด

    ประเภทอาหาร
    : ก๋วยเตี๋ยวหมู

    เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวต้มยำสูตรมะนาว, ซี่โครงหมูตุ๋นราดข้าว, ยำหนังปลาแซลมอน, ยำหมูมะนาว

    บรรยากาศร้าน : มีโต๊ะให้เลือกนั่งสบายๆ รับลมธรรมชาติเย็นๆ

    ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ภายในซอยวัดมะพร้าวเตี้ย บนถ.จรัญสนิทวงศ์ ซ. 13 การเดินทางให้เข้ามาในซอยจรัญฯ 13 (ซ.พาณิชย์ธนฯ) แล้ววิ่งตรงเข้ามาประมาณ 6-7 ก.ม. จะเห็นซ.วัดมะพร้าวเตี้ยทางขวามือ หน้าปากซอยมีเซเว่นอีเลฟเว่นเป็นจุดสังเกต ให้เลี้ยวเข้าซอยมาแล้วตรงมาเรื่อยๆ จนมาเจอสะพานข้ามคลองบางเชือกหนังลงมา ก็จะเห็นร้านก๋วยเตี๋ยวหมูมะนาวเจ๊แอ๊ด ตั้งอยู่ขวามือ หรือถ้ามาทางเส้นถ.วงแหวนกาญจนาภิเษก ก็วิ่งตรงมาเรื่อยๆ เลยเนติบัณฑิตยสภามา ก็จะเห็นป้ายที่เขียนว่าซอยลัดไปจรัญฯ 13 ให้เลี้ยวเข้าซอยนั้นตรงเข้ามาประมาณ 2 ก.ม. ก็จะเห็นซ.วัดมะพร้าวเตี้ยอยู่ซ้ายมือ

    สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถในร้าน

    เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-16.00 น. (หยุดทุกศุกร์สุดท้ายของสิ้นเดือน)

    เบอร์โทรศัพท์ : 08-6786-4071
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...