เรือโนอาร์เรื่องจริงหรือ???(ขอเป็นของคริสมั่งนะงับ)

ผมมีเรื่องดาวเคราะห์ดวงที่ 12 ของระบบสุริยจักรวาล..... ตอนนี้ลืมว่าเก็บไว้ที่ไหน... เดี๋ยวขอเวลาค้นหน่อยครับ .... เดี๋ยวมาต่อ .... มี 12 ดวงจริงๆ ครับ ... ไม่ได้โม้....อิอิ !!!

 

พระคริสมิ ได้กล่าวถึงมนุษย์นอกโลก เว้นแต่ศาสนาพุทธที่กล่าวไว้

 

พลังคลื่นเต่าสะท้านฟ้า.............

ขออนุญาตนำเพื่อนๆหลายคนในบอร์ดพลังจิตนี้ไปออกในหนังสือของผมนะครับ แบบว่าเป็นนักเขียนครับ ใครที่รู้ตัวว่าดังๆในเว็บนี้อยู่แล้วก็เตรียมตัวดังทั่วประเทศได้เลยนะครับ ใครที่แย่งกันเป็นพระศรีย์ ใครที่ไม่ชอบพระศรีย์ตัวปลอม ใครที่ชอบด่าพระศรีย์ ใครที่มีเมตตาธรรม ใครที่ลุ่มหลงในวิชามาร และใครที่ขี้โม้ และใครๆที่เป็นเพื่อนของผม ใครที่น่ารัก ใครที่กำลังแอบรักใคร ผมขออนุญาตนำเรื่องราวเกี่ยวกับท่านๆทั้งหลายไปเขียนเป็นหนังสือนะครับ รวมทั้งคุณเว็บสโนว์ด้วยนะครับ

 

ขออนุญาตนำเพื่อนๆหลายคนในบอร์ดพลังจิตนี้ไปออกในหนังสือของผมนะครับ

ขออนุญาตนำเพื่อนๆหลายคนในบอร์ดพลังจิตนี้ไปออกในหนังสือของผมนะครับ แบบว่าเป็นนักเขียนครับ ใครที่รู้ตัวว่าดังๆในเว็บนี้อยู่แล้วก็เตรียมตัวดังทั่วประเทศได้เลยนะครับ ใครที่แย่งกันเป็นพระศรีย์ ใครที่ไม่ชอบพระศรีย์ตัวปลอม ใครที่ชอบด่าพระศรีย์ ใครที่มีเมตตาธรรม ใครที่ลุ่มหลงในวิชามาร และใครที่ขี้โม้ และใครๆที่เป็นเพื่อนของผม ใครที่น่ารัก ใครที่กำลังแอบรักใคร ผมขออนุญาตนำเรื่องราวเกี่ยวกับท่านๆทั้งหลายไปเขียนเป็นหนังสือนะครับ รวมทั้งคุณเว็บสโนว์ด้วยนะครับ

 

โอ้โฮ... ดูท่าทางจะเป็นเรื่องราวที่สลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนกว่าที่คิดไว้เยอะเลยนะครับ

มีทั้งเรื่องคนแย่งกันเป็นพระศรีฯ เรื่องคนชอบด่าพระศรีฯ เรื่องเมตตาธรรม + วิชามาร และเรื่องพวกขี้โม้และเรื่องแอบรักแอบหลง ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในเรื่องเดียวกัน อืมมมมม... ท่าทางจะสลับซับซ้อนมากๆเลยนะครับเรื่องนี้ 5555 เอาเป็นว่าถ้าวางแผงแล้วมาบอกหน่อยละกันนะครับ อยากจะเอาไว้ศึกษาหน่อยน่ะ
(b-ng)

 

ว๊า ... ตายหล่ะผมเผลอด่า ... พวกตัวปลอมไว้เยอะซะด้วย ...แป่ว...

คงไม่มีชื่อผมนะ ............... เดี๋ยวคนอ่านเขาจะหาว่าผม....ปากเสีย !!!

 

แล้วสรุปมันยังไงเนี่ยเรือ หางยาว เอ้ย โนอา ลำเน้???????

 

แหมดีจัง เวบที่มีคนเอาเรื่องไปเขียนแสดงว่าเวบดังเข้าขั้นเลยนะเนี่ย กรี๊ดดดดดด



อืม ส่งสำนักพิมพ์อะไรล่ะ

แนะนำว่าถ้าเรื่องดีมาก อย่าเอาไปทำหนังสือทำมือนะเดี๋ยวโดนขโมยความคิด

ส่งสำนักพิมพ์ Animate Group สิคะ หนังสือเนื้อดีนะราคาเค้าจะฟิกอยู่ที่135-150บาท ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยเมื่อเทียบกับจำนวนหน้าของหนังสือและเนื้อกระดาษ แล้วเค้าจะเน้นเรื่องแปลกๆด้วย แต่สาระต้องข้นด้วยนะ

อีกอันนึงก็คือสำนักพิมพ์ของกิ๊กกะจิ๊บง่ะ แต่เรื่องต้องอ่านแล้วเข้มๆเลยนะแหวกด้วยแบบว่าไม่ซ้ำกับตลาด ราคาหนังสือมักลงที่ตัวเลข 150 ก็ดีนะ เนื้อกระดาษดี หนาดีด้วยถือว่าไม่แพง

หรือถ้าจะเอาแบบผ่านการพิจารณาง่ายหน่อย สำนักพิมพ์ไพลินง่ะ ดีนะ เค้าออกหนังสือเยอะไง เลยรับเนื้อเรื่องพิมพ์แบบเยอะๆ

นี่กระเจียวกำลังรวบรวมงานเขียนบางอย่างของตัวเอง ส่งสำนักพิมพ์ไยไหมน่ะ เพราะว่าชอบสำนักพิมพ์นี้ที่สุดเลย ชอบกว่าสำนักพิมพ์อมรินทร์อีก อมรินทร์ไฮโซไป

อืม จริงๆก็แนะนำไปเรื่อยน่ะ เพราะเข้าร้านหนังสือบ่อย ไม่เคยลองส่งงานเขียนสักที แหะๆ

 

แล้วจะมีเราด้วยหรือป่าวหว่า

 

ต้องใช้วิจารณญานในการอ่านมากๆ .....

 

เคยเรียนโรงดรียนคริสมาตอนเด็ก จำไม่ค่อยได้ ว่าเรือโนอานี้ เป็นเรือที่พระเจ้าไห้โมเสส สร้าง หรือเป็นเรือที่ไห้คนชื่อโนอาสร้างกันแน่ ไม่แน่ใจ แต่ไม่น่าจะใจโนอาหละมั๊ง . . .
เรือโนอา คือ1ในสิ่งที่แสดงออกถึงอาริยะธรรมโบราณ เป็นสิ่งที่เหนือกว่า อาริยะธรรมความเจริญของมนุษย์ในโลกปัจจุบัน ไม้ที่สร้างเรือ ไม่ไช่ไม้ธรรมดา ที่ใช้สร้างเรือทั่วๆไปในสมัยนั้น บนเรือโนอามีสิ่งแปลกๆมากมาย
ข้อมูลจาก สปีแกน - -

 

เรือโนอาร์ เคยผ่านๆตาว่าอยู่บนยอดเขาเหมือนกัน....

CatWater ยังเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย.....

 

เรือโนอาร์ตามพระคัมภีร์ไบเบิลของคริสเตียนนั้นกล่าวว่าหลังจากนำท้วมโลก40 วัน 40 คืนแล้วเรือดังกล่าวก็มาติดอยู่บนยอดเขาอลาลัส ซึ่งยอดเขาดังกล่าวปัจจุบันอยู่ในประเทศตุรกีซึ่งก็ชื่ออลาลัสเหมือนในพระคัมภีร์ของคริสเตียนและหมู่บ้านที่อยู่รอบๆภูเขานั้นก็มีชื่อที่สอดคล้องกับเรื่องราวและบุคคลที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ รัฐบาลตุรกีเคยประกาศการค้นพบมาแล้วแต่ถูกประชาคมโลกตำหนิและประณามว่าสร้างเรื่องอยากดังจนรัฐบาลตุรกีต้องยุติการประกาศดังกล่าวแต่ก็มีนักผจญภัยหลายคณะเคยขึ้นไปพิสูจน์มาแล้วซึ่งก็มีทั้งพบและไม่พบเรือโนอาร์ เพราะเทือกเขาอลาลัสนั้นมีพายุหิมะตลอดทั้งปียากแก่การขึ้นไปพิสูจน์แต่ก็เคยมีการถ่ายภาพจากดาวเทียมและปรากฏเห็นเป็นลักษณะเหมือนเรืออยู่บนยอดเขาซึ่งถ้าเป็นเรือจริงจะเป็นเรือที่ใหญ่มาก ๆ เพราะเมื่อเทียบกับภูเขาที่อยู่ใกล้ ๆ มีขนาดพอ ๆ กันที่เดียว อนึ่งชื่อภูเขาอลาลัสในตุรกีนี้เป็นชื่อเก่าแก่มีมานานแสนนานไม่ได้เพิ่งมาตั้งชื่อเพราะอยากดังและชื่อหมู่บ้านต่างที่รอบภูเขาที่สอดคลองกับชื่อบุคคลและเหตุการณ์ในพระคัมภีร์ก็เป็นชื่อเก่าแก่ตั้งมานานแล้วเช่นกันโดยบุคคลที่ศึกษาเรืองเหล่านี้ได้ศึกษาจากบันทึกเก่าๆของนักเดินทางและพ่อค้ที่ทำการค้าขายในสมัยโบราณรวมทั้งบันทึกของจักรวรรดิ์โรมัน(ตุรกีก็คืออาณาจักรโรมันตะวันออก)ก็ยืนยันว่าชื่อดังกล่าวมีมานานแล้วเช่นกัน

 

เรื่องราวคำพยากรณ์ที่ค้นพบในเรือที่ชื่ออาร์คในอิรัคนั้นคล้ายกับเรื่องการพยากรณ์ที่ชื่อ เดอะไบเบิลโคดส์โดยนำเอาพระคัมภีร์ของคริสเตียนที่บันทึกตามภาษาต้นฉบับซึ่งพระคัมภีร์ของคริสเตียนมี 2 ภาค ภาคแรกตั้งแต่พระเจ้าสร้างโลกจนถึงประมาณก่อนพระเยซูมาบังเกิด ซึ่งบันทึกเป็นภาษาฮิบรู ส่วนภาค 2 ตั้งแต่พระเยซูบังเกิดจนถึงอวสานของโลกบันทึกเป็นภาษากรีก ซึ่งไบเบิลโคดศ์นั้นใช้ภาคแรกในการศึกษาโดยการอ่านภาษาฮิบรูในลักษณะกลับหลังจากหลังมาและหน้าจากล่างขึ้นบนและจากขวาไปซ้ายและอ่านทะแยงมุมจะได้คำพยากรณ์เกี่ยวกับโลกนี้มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องตึกเวิลด์เทรด เรื่องการลอบสังหารณ์อดีตประธานาธิดีสหรัฐ และการลอบสังหารผู้นำอิสราเอลโดยมีการระบุชื่อไว้อย่างชัดเจนและเรื่องราวต่างๆมากมายลองไปหาอ่านใน the bible code ส่วนที่พบในอิรัคน่าจะเป็นสำเนาที่ทีการคัดลอกกันไปเพราะชาวฮิบรูหรือยิวหรืออิสราเอลในปัจจุบันจะเก็บรักษาและคัลอกอย่างละเอียดและจะทำลายสำเนาที่เขียนผิดทิ้งทันทีจะไม่มีการลบแล้วเขียนใหม่ดังนั้สำเนาโบราณของชาวคริสต์จึงตรงกันไม่ว่าจะถูกค้นพบที่ไหน

 

โนอา คือสิ่งหลงเหลือ
มนุษย์ คือโซอานอย
... คือผู้มาเยือน
กายเว่อ ๆ ๆ ๆ

อะล้อเล่นนะ

 

ส่วนเรื่องที่บอกว่ามนุษย์ต่างดาวเป็นผู้ให้พิมพ์เขียวโนอาร์สร้างเรือนั้นไม่น่าจะจริงเพราะในพระคัมภีร์ของคริสเตียนนั้นได้กล่าวเตือนว่าอย่าเชื่อเรื่องราวของภูตผีปีศาจแห่งจักรวาลซึ่งก็คือมนุษย์ต่างดาวนั้นเองส่วนที่บอกว่าในวาระสุดท้ายพระคริสต์จะเสด็จกลับมานั้นพระองค์เสด็จมาเพื่อรับผู้ที่เชื่อและวางใจในพระองค์ให้ไปอยู่สวรรค์แต่ก่อนที่พระองค์จะกลับมานั้นจะมีผู้ที่อ้างตัวเป็นพระคริสต์มากมายแต่เมื่อพระคริสต์มานั้นจะเหมือนฟ้าแลบจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกคือรวดเร็วมากจนไม่มีใครจะสังเกตได้และผู้ที่พลาดจากการถูรับขึ้นไปจะต้องทนทุกข์ทรมานเพราะภัยพิบัติและสงครามและโรคระบาดและความเสื่อมทรามทางศีลธรรมของมนูษย์ซึ่งนี่เคยเป็นสาเหตุที่เกิดนำท้วมโลกในสมัยของโนอาร์แต่ในวาระสุดท้ายนั้นโลกจะพินาศด้วยไฟซึ่งมีคนที่พยายามจะตีความพระคัมภีร์ตอนนี้ว่าไฟอาจหมายถึงไฟจากอาวุธนิวเคลียร์ก็ได้แต่ไม่ว่าจะเป็นไฟอะไรก็น่ากลัวเหมือนกัน

 

praise<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1018581", true); </SCRIPT>
ผมว่าคุณให้คำตอบที่ดีที่สุดครับ

 

บัญยัติ 10 ประการของคริสเตียนมีดังนี้ครับ
1.อย่ามีพระเจ้าอื่นใดนอกเหนือจากเรา
2.อย่าทำรูปเคารพสำหรับตนเป็นรูปสิ่งใดที่อยู่ในฟ้าเบื่องบน หรือแผ่นดินเบื่องล่าง หรือในนำใต้แผ่นดิน
3.อย่าปรนนิบัติหรือกราบไหว้รูปเหล่านั้นเพราะเราเป็นพระเจ้าของเจ้าเป็นพระเจ้าที่หวงแหนให้โทษบิดาตกทอดไปถึงลูกหลานของผู้ที่ชังเราถึงสามสี่ชั่วอายุคนแต่เราแสดงความรักมั่นคงต่อคนที่รักเราและปฏิบัติตามบัญญัติของเราจนถึงพันชั่วอายุคน
4.อย่าออกพระนามของพระเจ้าอย่างไม่สมควรเพราะผู้ที่ออกพระนามของพระเจ้าอย่างไม่สมควรนั้นพระเจ้าจะถือว่าไม่มีโษก็ไม่ได้
5.จงนึกถึงวันสบาโตถือเป็นวันบริสุทธิ์จงทำการงานทั้งสิ้นของเจ้าใน 6 วันแต่วันที่ 7 นั้นเป็นวันสบาโตของพระเจ้าของเจ้าในวันนั้นอย่าทำการงานใดๆไม่ว่าเจ้าหรือบุตรชายบุตรหญิงของเจ้าทาสทาสีของเจ้าหรือสัตว์ใช้งานของเจ้าหรือแขกที่อาศัยอยู่ในประตูเมืองของเจ้า
6.จงให้เกียรติแก่บิดามารดาของเจ้าเพื่ออายุของเจ้าจะได้ยืนนานบนแผ่นดินซึ่งพระเจ้าของเจ้าประทานแก่เจ้า
7.อย่าฆ่าคน
8.อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา
9.อย่าลักทรัพย์
10.อย่าเป็นพยานเท็จใส่ร้ายเพื่อนบ้านของเจ้าอย่าโลภภรรยาของเพื่อนบ้านหรือทาสทาสีของเขาหรือโคลาของเขาหรือสิ่งใดๆที่เป็นของเพื่อนบ้าน

 

อยากดูรูปเรือโนอาร์บนภูเขาอลาลัสเขาไปดูgodwithus(คลิกในgoogle)

 

กว่า 2 ทศวรรษมาแล้ว ที่การค้นหาเรือโนอาห์ เป็นที่สนใจจากนานาชาติ นักสำรวจหลายชุด แถบเทือกเขา อารารัต ทางตะวันออกของตุรกี ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาวอเมริกัน เรือโนอาห์ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล มีขนาดใหญ่ ทำด้วยไม้สนโกเฟอร์ ทำเป็นห้องๆ และยาชันทั้งข้างในและข้างนอก ยาว 300 ศอก กว้าง 50 ศอก สูง 30 ศอก (ใช้หน่วย 1 Cubit = 1 เมตร) และมี 3 ชั้น มีประตูด้านข้าง (ปฐมกาล 6:14-16) เป็นที่รู้กันดี ตั้งแต่ก่อน ศตวรรษที่ 20 แล้วว่า มันมีขนาดใหญ่พอๆ กับเรือเดินสมุทรในปัจจุบัน

​

พระคัมภีร์กล่าวว่า ณ วันที่ 17 ของเดือนที่ 7 ฝนก็หยุดตก และน้ำเริ่มลด นาวาก็ค้างอยู่บนเทือกเขาอารารัต (ปฐมกาล 8:4) ซึ่งเป็นแถบ อาณาจักร Urartu โบราณ แต่ไม่ได้ระบุยอดเขาโดยเฉพาะ หลังจากโนอาห์ และครอบครัว ออกจากเรือบนภูเขา เรือนั้นก็ไม่ได้ถูกกล่าวถึง ในพระคัมภีร์อีกเลย ผู้เขียนไบเบิ้ลคนต่อๆ มา ก็ไม่เคยพูดถึง และไม่ได้บอกว่า จะเห็นได้ที่ไหน อารารัตในปัจจุบัน มีเทือกเขาแฝดสูง ที่น่าสนใจคือ มีรายงานจำนวนมาก ในประวัติศาสตร์ บอกว่าเรือขนาดใหญ่อยู่บนภูเขาแถบนี้ นักวิชาการปัจจุบัน หลายคนคิดว่า ยอดเขาอารารัตในตุรกี เป็นสถานที่ ที่น่าจะพบเรือโนอาห์มากกว่า เพราะอารารัตคือยอดเขา ที่สูงที่สุดในตุรกี ดังนั้นขณะน้ำลด ภูเขาลูกแรก ที่จะโผล่เหนือน้ำ ต้องเป็นภูเขา Ararat ที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี และมีชื่อเรียกในภาษาท้องถิ่นว่า Aghri Dagh ซึ่งแปลว่า ภูเขาแห่งความเจ็บปวด ปัจจุบันอารารัตมียอดเขา 2 ยอดคือ Great Ararat ที่สูง 5,137 เมตร กับ Little Ararat ที่สูง 3,896 เมตร และช่วงบนของยอดเขาทั้งสอง
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD></TD><TD> รายงานกว่าศตวรรษจากผู้เคยพบเห็นเรือ ค้นพบชิ้นไม้ ถ่ายรูปได้จากที่สูง มากมาย เป็นที่เชื่อกันว่า อย่างน้อย ชิ้นส่วนที่ใหญ่ๆ ของเรือ น่าจะยังมีอยู่ อาจไม่ได้อยู่ เทือกเขาสูงสุด แต่ที่ไหนซักแห่ง ซึ่งอยู่เหนือ ขึ้นไป ระดับหมื่นฟุต ภูเขานี้ปกคลุมด้วยหิมะ และน้ำแข็งตลอดทั้งปี มีเพียงช่วงฤดูร้อน ที่จะเข้าไปได้ บางคนก็เคยปีนและเดินขึ้นไป
</TD><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
ในทศวรรษที่ 80 นักสำรวจเรือโนอาห์จำนวนไม่น้อย ได้เข้าร่วมโครงการนาซ่า กับ เจมส์ เออร์วิน เป็นเรื่องครึกโครมมาก จนสภาพโซเวียตต้องออกมาขัดขวาง เพราะว่าเทือกเขาอยู่ขอบชายแดน ตุรกี-โซเวียต พอเจมส์เสียชีวิตลง ก็มีการสำรวจครั้งใหม่ ในทศวรรษที่ 90 และตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา แต่ยังไม่มีหลักฐาน แน่ชัดว่ามีคนพบเรือทั้งลำ ในความพยายามค้นหาตำแหน่งของเรือ Noah ตลอดเวลาที่ผ่านมา ได้มีการอ้างหลักฐาน การเห็นซากเรือ หลายครั้ง เช่น เมื่อ 700 ปีก่อนนี้ หนังสือชื่อ Travels of Sir John Mandeville ที่เล่าว่า มีนักบวชคนหนึ่ง เก็บเศษไม้ได้จากยอดเขา Ararat แต่ก็ไม่มีใคร ณ วันนี้รู้ว่า Sir John ในหนังสือนั้นคือใคร และมีตัวตนหรือไม่ และเมื่อ 200 ปีก่อนนี้
ความสนใจเกี่ยวกับเรือ Noah ได้บังเกิดอีกเมื่อวารสาร The New Eden รายงานว่า นักบินชาวรัสเซียคนหนึ่ง ชื่อ Vladimir Roskovitsky ขณะบินสำรวจผ่านยอดเขา Ararat เขาได้เห็น ซากเรือขนาดใหญ่ บนเขาลูกนั้น แต่ก็ไม่มีการติดตามไปดู จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1917 แม่ทัพรัสเซีย ท่านหนึ่ง ได้ส่งทหาร 150 คน ขึ้นไปดูซากเรือ เพื่อนำรายงาน ไปบังคมทูล ให้จักรพรรดิซาร์ (Czar) ทรงทราบ แต่ได้เกิดรัฐประหาร คณะปฏิวัติ Bolshevik จึงได้ทำลายเอกสารรายงานหมด เพื่อไม่ให้ใคร เชื่อคัมภีร์ไบเบิลอีกต่อไป
ในปี ค.ศ. 1955 F. Navarra นักผจญภัยชาวฝรั่งเศสกับลูกชาย ได้เดินทางขึ้นยอดเขา Ararat และได้นำ ไม้โอ๊กแผ่นหนึ่งกลับลงมา ในหนังสือชื่อ Noah's Ark: I Touched It เขาเล่าว่า เขาต้องหลบซ่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ของตุรกี เพื่อนำซากไม้ที่ยาว 2 เมตรออกนอกประเทศ ถึงแม้หนังสือเล่มนั้น จะมีภาพของสองพ่อลูกบนภูเขา แต่ก็หามีภาพของเรือไม่ และเมื่อ Navarra ให้ผู้เชี่ยวชาญ ด้านอายุของวัตถุโบราณ วัดอายุของไม้เขา ได้ข้อสรุปว่า ไม้นั้นมีอายุตั้งแต่ 4,000-6,000 ปี ซึ่งก็ตรงกับคำสอน ในคัมภีร์ไบเบิลที่ว่า โลกถือกำเนิดเมื่อ 6,008 ปีก่อนนี้ และเหตุการณ์น้ำท่วมโลก เกิดขึ้นเมื่อ 5,000 ปีก่อนจริง
ถึงแม้ข้อสรุปเกี่ยวกับเรือจะยุติลงในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ แต่ประเด็นเหตุการณ์ น้ำท่วมโลก ก็ยังมีบุคคลสนใจมากมาย เมื่อ 4 ปีก่อนนี้ ในหนังสือชื่อ Noah's Flood : The New Scientific Discoveries About the Event That Changed History. William Ryan แห่ง Lamont-Doherty Earth Observatory ที่เมือง Palisades ใน New York สหรัฐอเมริกา ได้เสนอความเห็นว่า ในอดีตเมื่อ 8,000 ปีก่อนนี้ ได้เกิดเหตุการณ์ น้ำท่วมครั้งมโหฬาร ในบริเวณที่ราบรอบทะเลดำ (Black Sea) ซึ่งอยู่ระหว่างยุโรปกับเอเชีย และเป็นทะเลสาบ น้ำจืด น้ำทะเล ได้ไหลทะลักผ่านเข้ามา ทางช่องแคบ Bosphoues จนถึงทะเลดำ ทำให้ระดับน้ำในทะเลสาบ เพิ่มสูงขึ้น 100 เมตร ในเวลา 3 ปี แต่ Ryan มิได้ระบุชัดว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เกิดจากสาเหตุใด
ในวารสาร Paleoceanography ฉบับที่ 19 ปีนี้ Mark Siddall แห่งมหาวิทยาลัย Bern ในสวิตเซอร์แลนด์ กับคณะได้รายงานการใช้คอมพิวเตอร์ จำลองสถานการณ์น้ำท่วมในทะเลดำ และพบว่า เหตุการณ์น้ำท่วมโลก สามารถเกิดขึ้นได้ โดยคณะผู้วิจัย ได้สมมติว่าในอดีตเมื่อ 10,000 ปีก่อนนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่โลก กำลังตกอยู่ใน ยุคน้ำแข็ง Holocene ทะเล Mediteranean ทะเล Marmara และทะเลดำมีแผ่นดินคั่นอยู่ ณ เวลานั้นระดับน้ำ ในทะเลดำ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำในทะเล Marmara ประมาณ 100 เมตร และเมื่อน้ำแข็งละลาย ระดับน้ำในทะเล เมดิเตอร์เรเนียน และทะเล Marmara ได้เพิ่มสูงขึ้นๆ จนกระทั่งเมื่อ 8,400 ปีก่อนนี้ น้ำจากทะเล Marmara ก็ได้ไหลข้ามพื้นแผ่นดิน ที่คั่นระหว่างทะเล Marmara กับทะเลดำเข้าสู่ทะเลดำ

​

ในการศึกษารายละเอียดของเหตุการณ์น้ำท่วมว่ารุนแรง หรือราบเรียบเพียงใด Siddall กับคณะได้กำหนด ให้กระแสน้ำท่วม มีความเร็วต่างๆ กัน แล้วศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นตามบริเวณขอบทะเลดำ และเขาก็ได้พบว่า ถ้ากระแสน้ำไหลช้าๆ แรง Coriolis ซึ่งเกิดจากการหมุนรอบตัวเองของโลก จะทำให้น้ำไหลขึ้นทางเหนือ จะพุ่งเฉียงไปทางตะวันออก แต่ถ้ากระแสน้ำไหลเชี่ยว เพราะขณะนั้น ได้เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวด้วย พลังไหลของน้ำจะมหาศาล จนมันสามารถไหล ได้ทุกทิศทาง ปริมาณน้ำที่มากถึง 60,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เท่ากับ 20 เท่า ของน้ำตก Niagara จะไหลพุ่งเข้าทะเลดำ เป็นเวลานาน 33 ปี จนระดับน้ำในทะเล Marmara และทะเลดำเท่ากัน น้ำจึงหยุดท่วม
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD><TD align=middle></TD></TR><TR><TD align=middle>คลิกที่นี่เพื่อขยายภาพ</TD><TD align=middle>คลิกที่นี่เพื่อขยายภาพ</TD></TR></TBODY></TABLE>
ในปี 1987 Ron Wyatt นักสำรวจโบราณคดี พบว่าบนเทือกเขา มีรอยของเรือขนาดใหญ่ ในเขตของตุรกี นักข่าวได้ประโคมข่าวใหญ่ในประเทศ รัฐบาลได้ขอให้รอนแสกนภาพจากเรดาห์ และพบร่องรอย ที่เป็นหลักฐาน มากมาย แต่แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด ในช่วงปี 1840 และระยะเวลาที่ยาวนาน ได้กระจายชิ้นส่วนของเรือ ออกไปแล้ว เป็น 3 ชิ้นเป็นอย่างน้อย หรืออาจมากกว่า 6 ชิ้น แต่มีการอัศจรรย์ ที่ยังคงรักษาบางชิ้นส่วนเอาไว้ได้ โดยการค้นพบ จากภาพถ่ายจากดาวเทียม ทำให้สามารถ พบเศษไม้ ที่กลายเป็นหิน ได้จำนวนหนึ่ง การค้นคว้านี้ ยังคงดำเนินต่อไป แม้จะยังไม่มีคนใด ที่ได้เห็นเรือทั้งลำหลงเหลือในปัจจุบัน

ที่มา::
http://webinspirer.com/godwithus/article/article_detail.php?no=000039a