เมื่อความรักเดินทาง(บันทึกการเดินทาง)จะทำตะกรุดหาเงินร่วมสร้างศาลา

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 ตุลาคม 2008.

  1. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    สวัสดี พี่ ๆ ทุกท่านครับ

    เห็นช่วงนี้ เงียบ ๆ พี่จัมโบ้มีเรื่องอะไรใหม่ ๆ มาเล่าให้ฟังบ้าง
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พี่เด่นชัย เล่าเถอะ พี่ก็นักเดินทาง..........

    เล่าเรื่องครูบา ทางลำพูน ให้ฟังมั้ง เคยไปกราบครูบาจันทร์แก้วไหม วัดศรีสว่าง

    เล่าเรื่องครูบาอินตา ให้ฟังมั้ง ผมเคยไปกราบทำบุญกับท่าน2-3ครั้ง

    ..............................

    อาทิตย์หน้าว่างไหม..........ไปทำบุญกัน
     
  3. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ถ้าให้เล่าเรื่องครูบาที่เชียงใหม่ ยาวเลย... สมัยก่อนผมเรียนอยู่ มช. มีเพื่อนสนิทกันที่ชื่นชอบทางสายธรรมะ ผมเลยได้กำไรชีวิตตรงนี้
    ไม่ได้โม้ ถ้าจะให้นับครูบาอาจารย์ที่เคยแวะเวียนไปคุยไปหา นับไม่ถ้วนจริง ๆ ดัง ๆ ทั้งนั้น แต่ก็อย่างว่า... สมัยก่อนไม่ชอบสะสมวัตถุมงคล ไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
    ครูบาฯ ที่สนิทมาก ๆ ก็มีหลายท่าน ที่ผมใช้คำว่า "สนิท" ไม่ใช่ว่า ลามปามอยากเป็นเพื่อนกับพระน่ะครับ เพียงแต่ว่า... คุ้นเคยกันมาก ถึงมากที่สุด ประมาณว่า ท่านจำชื่อผมได้ รู้จักครอบครัวผม หรือผมสามารถไปนอนค้างในวัดนั้นได้โดยที่ท่านอนุญาตตลอดเวลา ไปนอนบ่อย ๆ จนสนิทกับตุ๊เจ้าในวัดนั้น ๆ ด้วย ผมขอรวมลำพูนกับเชียงใหม่ไว้ที่เดียวกันเลย เพราะใกล้กันมาก
    ลป.ครูบาอินตา วัดวังทอง จ.ลำพูน เหรอ ที่พี่จัมโบ้เคยไป หรือว่า ลป.ครูบาอินตา วัดห้วยไซ้ บ้านธิ ในสมัยท่านยังอยู่ ผมคุ้นกับท่านทั้ง 2 โดยเฉพาะ ครูบาวังทอง ท่านเป็นคนที่อายุมากที่สุดใน จ.ลำพูน ส่วนครูบาห้วยไซ้ มีพระธาตุมาเกาะที่สังขารของท่าน มันก็เป็นเรื่องที่แปลกดี
    ครูบาจันทร์แก้ววัวลายไม่คุ้น แต่เคยไปทำบุญกับท่านหลายรอบ ที่คุ้นเคยกับท่านยังมีมาก เล่าไม่ไหว ต้องทยอย ๆ เล่า เช่น ครูบาเผือกวัดไชยสถาน ครูบาก๋องวัดกู่แดง ครูบาคำวัดศรีดอนตัน ครูบาดวงจันทร์วัดป่าเส้า ฯลฯ ที่เอ่ย ๆ มานี่มรณภาพหมดแล้ว ครูบาฟ้าหลั่งผมก็มารู้จักท่านตอนย้ายมาวัดทุ่งปุยแล้ว ไม่อยากจะโม้ (แต่ขอโม้นิดนึง) ได้เหรียญของวัดทุ่งปุยมาเป็นร้อย ๆ เหรียญ ที่เขาว่าตัดรุ้งขาด อะไรทำนองนั้น ผมก็ไม่เคยลองหรอกเพราะบ้านผมรุ้งไม่ขึ้นมาหลาย 10 ปีแล้ว ได้มาแจกให้เพื่อนในคณะกันจนหมด ตัวเองเหลือแต่สร้อยประคำไม้กับเหรียญติดสร้อยประคำ ปัจจุบันสร้อยประคำหายไปไหนจำไม่ได้ แต่เหรียญยังอยู่ ลป.ท่านให้เอามาแจกน้องในงานรับน้อง พาน้องไปไหว้สาครูบาเจ้า 9 วัดในเชียงใหม่อะไรประมาณนั้น

    เดี๋ยวขอกินแบรนด์บำรุงสมองก่อน เรื่องมันนานมาแล้ว จะทยอยเล่าน่ะ

    ส่วน อา. หน้า จัดโปรแกรมไปเลยครับ เดี๋ยวจะทำตัวให้ว่าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กันยายน 2014
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ครูบาอินตา วัดวังทอง .........ที่เคยไปกราบ ส่วนครูบาอินตา วัดห้วยไซ ก็อยากฟัง เล่าเลย........บันทึกความทรงจำเอามาถ่ายทอดเก็บเอาไว้ก็ศูนย์หายไปตามกาลเวลา
     
  5. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ครูบาวังทอง เป็นคนแก่ร่างใหญ่ โครงสร้างของร่างกายเหมือนคนโบราณ กระดูกใหญ่ ตัวสูง ขนาดท่านผอมมาก แต่กระดูกแขนหรือกระดูกขาท่านใหญ่เท่า ๆ คนที่ร่างกายสมบูรณ์เลย ท่านจะพูดภาษายอง คล้าย ๆ ล้านนาแต่ฟังยากกว่า เวลาหายใจจะหายใจดัง ๆ ท่านเป็น 1 ในคณะตนบุญทำทางขึ้นดอยสุเทพร่วมกับครูบาศรีวิชัย ยุคนั้นมีหลายรูปที่ทันครูบาศรีวิชัย เช่น ครูบาดวงดีวัดท่าจำปี ครูบาผัดวัดศรีดอนมูล ครูบาคำวัดศรีดอนตัน ครูบาคำตัน สนส.ม่อนปู่อิน ครูบาข่ายวัดหมูเปิ้ง ฯลฯ เยอะ...

    ครูบาวังทอง ท่านจะมีพระลูกศิษย์ที่ท่านรักมากอยู่รูปหนึ่ง ชื่อว่าหลวงพี่สัญชัย เป็นพระหนุ่มที่เอาจริงทางด้านศาสนา ชอบนั่งกัมมัฏฐาน ชอบไปนอนตามถ้ำตามป่า ชอบออกไปหาความสงบ แต่เสียดายที่ท่านมีอายุน้อยไปนิด ท่านมรณภาพด้วยโรคระบบลำใส้ อายุท่านแค่ 30 นิด ๆ เองในตอนนั้น ทำเอา ลป.ครูบาวังทองน้ำตาไหล ขนาดผมยังเสียวในใจ ท่านไม่น่าจะจากไปเร็วเลยจริง ๆ ผมจะสนิทกับหลวงพี่ฯ เพราะรุ่นราวคราวเดียวกัน คุยกันถูกคอมาก ๆ

    เรื่องอิทธิฤทธิ์เหนือโลกของครูบาวังทอง ตอนนั้นผมไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้ เลยไม่มีอะไรมาเล่า แต่ดูจากนิสัยของท่าน ท่านใจดีมาก ๆ ใครไปหาท่าน ท่านจะเอาด้ายดิบเส้นโต ๆ มาเสก ๆ เป่า ๆ แล้วก็ผูกข้อมือให้ จบ... ง่าย ๆ ตามสายครูบาฯ ผมบอกตรง ๆ ผมคุยกับท่านไม่รู้เรื่อง เพราะผมฟังภาษาคำเมืองออกบ้างนิดหน่อย แต่ ลป.ท่านจะพูดภาษายองซะเป็นส่วนมาก ท่านจะไม่พูดภาษากลางหรือไม่พูดภาษาคำเมือง ผมก็ได้เพื่อนสนิทนี่แหละเป็นล่ามช่วยแปล...

    เพื่อนสนิทของผมอยู่ อ.แม่อาย ชม. เรียนด้วยกันแต่ใจชอบไปทางพุทธศาสนา เวลาว่าง เขาก็จะพาผมเที่ยวกราบครูบาฯ ตามวัดต่าง ๆ ในจังหวัดทางเหนือ ตลอดเวลา 4 ปีกว่าผมจำไม่หมดว่าไปวัดไหนบ้าน แต่ที่แน่ ๆ ครูบาดัง ๆ หรือครูบาเงียบ ๆ ผมเองว่าไปมาหมด ไปยัน จ.ลำปาง แม่ฮ่องสอน พะเยา ฯลฯ เช่น ครูบาคำปันวัดนาแส่ง หรือ อ.ประสิทธิ์วัดป่าหมู่ใหม่ ฯลฯ ที่ไปนี่ไม่ได้บ้าพระอะไรกับเขาหรอกครับ แต่ว่าคนมันอยู่ต่างบ้าน ผมคน กทม. โดยกำเนิด ไปอยู่ที่อื่นก็คิดถึงบ้านเป็นธรรมดา เวลาว่างมันเหงา ก็ต้องหาอะไรทำ เท่านั้นเอง...

    พักก่อน เดี๋ยวมาต่อใหม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2014
  6. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    สวัสดี พี่ ๆ ทุกท่านครับ

    ผมอยากเลี่ยมพระเป็น เอาแบบอัดกรอบกันน้ำธรรมดา เพราะถ้าไปจ้างเขา ขนาดมาตรฐานก็องค์ละ 100.- ถ้าขนาดใหญ่อย่างจาตุคามก็ 150.- น่าจะเป็นอาชีพเสริมได้ หรือเป็นงานอดิเรกยามว่าง ตอนนี้กำลังศึกษาการทำอยู่ ว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือแล้วลองทำดู เผื่อพี่ ๆ ท่านใดมีเทคนิคดี ๆ มาแชร์กัน

    เรื่อง ลป.ครูบาวังทอง นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเล่าอะไรให้ฟัง อาจจะเป็นว่าตอนนั้นไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องพระเรื่องเจ้าจึงมองผ่านจุดสำคัญไป อย่างที่เขาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" รู้แต่เพียงว่าท่านเป็นที่พึ่งทางใจของชาวบ้านในละแวกนั้น บางทีมีงานวัดที่สำคัญ ๆ ชาวบ้านผู้ชายนอนกับพื้นเป็นทางให้ ลป. ท่านเดินเหยียบเลยน่ะครับ แสดงให้เห็นถึงความศรัทธาที่มีต่อ ลป. นั้นมากจริง ๆ ผมอยู่กับท่านมา 4 ปี ได้เพียงแต่เหรียญที่ท่านทำแจกในงานฉลองอายุ 2 เหรียญเท่านั้น ไม่ได้ขออะไรเพิ่มเพราะตอนนั้นไม่สนใจ มารู้จากเพื่อนในตอนหลังว่าท่านก็ทำเครื่องรางตะกรุดเหมือนกัน แต่ทำไม่มาก และนาน ๆ จะทำซักที ต้องรอเวลา ไม่ได้ทำเป็นรุ่น ๆ เหมือนการสร้างเหรียญ ตะกรุดที่ว่านี้ภาษาเหนือเขาเรียกว่า "ตะกรุดเป็งปุ๊ด" การทำก็คือท่านจะให้ลูกศิษย์เตรียมวัสดุที่ทำตะกรุดไว้ แล้วต้องรอให้ถึงวันพระใหญ่ข้างขึ้น 15 ค่ำ และตรงกับวันพุธ เท่านั้น เป็งก็คือคืนเดือนเพ็ญ ปุ๊ดก็คือวันพุธ ลป.ท่านเสกไว้ให้เป็นเมตตามหานิยม พอทำมาท่านก็แจกฟรีบ้าง ใครขอก็ท่านก็ให้ ใครทำบุญท่านก็แจก ถามผมว่าได้มาบ้างไหม... ผมจะบอกว่า ผมโง่ ไม่ได้กับเขาน่ะครับ เสียดายถึงทุกวันนี้

    เมื่อต้นปีผมไปเยี่ยมเพื่อนที่ลำพูน (เพื่อนคนสนิท ปัจจุบันท่านเอาดีทางด้านพุทธศาสนา บวชได้ร่วม ๆ 10 พรรษาแล้ว) เพื่อนผม (พระหลวงพี่) พาเที่ยววัดเหมือนเดิม พาผมกราบทำบุญกับ ลป.ท่านหนึ่ง ท่านทำตะกรุดเป็งปุ๊ดเหมือนกัน ท่านคือ ลป.ครูบาบุญทาวัดเจดีย์สามยอด ป่าซาง ลำพูน ผมก็โง่อีก ไม่ได้บูชามา ตั้งใจว่าปลายปีจะจัดทัวร์นกเขาไม่ขัน ไปย้อนรอยที่ป่าซาง จะไปทำบุญไปสนทนาธรรมกับท่าน ท่านก็ดันมาจากไปซะแล้ว ท่านมรณภาพเมื่อ 2 พ.ค.57 ที่ผ่านมานี่เอง เศร้า...

    โม้มานาน เมื่อคืนถ่ายรูปเหรียญ ลป.ครูบาอินตา มาให้ชมครับ ราคาไม่ต้องพูดถึง ไม่ใช่ว่าจะแพงน่ะครับ ทำบุญกับวัด 20.- บาทเองครับ สร้างไม่มาก ทำมาเพื่อแจกคนมาร่วมบุญงานฉลองอายุเท่านั้นครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2014
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เล่าเรื่อยๆ ผมชอบ ผมเคยทำบุญกับท่าน ถวายปัจจัยท่าน ท่านให้อาหารมาแต่ก็ไม่กล้ารับเอามา ถวายคืนท่านไป คุยกับท่านไม่เข้าใจ ......แต่ดูท่านเมตตา ทำบุญกฐินกับท่านก็ได้ทำตอนไปที่วัด .....

    เรื่องเลี่ยมพระผมเคยหัดทำนานมาแล้ว เครื่องไม้เครื่องมือยังอยู่ครบ หัดตั้งแต่ตอนอายุ 17-18 ... เลี่ยมแบบสมัยก่อนจะเลี่ยมหลายชั้นหนาๆไม่ได้ใช้พลาสติคอังไฟกดกับแบบให้พองขึ้นมา เท่าไหร่ ที่สมัยนี้เขาเรียกแบบเดิมๆหนาๆว่าเลี่ยมแบบเลนส์

    แต่เลี่ยมนี้ผมใช้เวลานาน เลี่ยมล่าสุดให้ลูกแขวนผมออกแบบเป็นตัวปลา สีเขียว .....
    เอาไปให้แขวนแต่ลูกไม่ชอบ ผมก็เข้าใจว่าเด็กจะชอบ ทำเป็นตัวปลา เอาเหรียญทำน้ำมนต์หลวงปู่ศรีที่เขาแจกให้มาใส่สายสิญจ์ใส่ยาจินดามณี 2-3ปีมาแล้ว ลูกไม่ยอมแขวนเดี่ยวถ้าไปหาลูกแล้วหาเจอจะถ่ายให้ดู ฝีมือห่วยๆ.......

    ตอนนี้ไม่ได้เลี่ยมซื้อพลาสติคมาไว้หลายแผ่น รออารมศิลปินบังเกิดเพราะไม่ค่อยมีเวลาของไม่ครบอีก........

    เลี่ยมพระสมัยก่อน20บาทกับ40บาท ......ตอนนี้แพงมีต้นเหตุมาจากยุคจตุคามทำให้ค่าเลี่ยมแพงก้าวกระโดดและไม่ยอมลง .......
    ปัจจุบันผมได้ช่างเลี่ยมใหม่ไม่แพง ฝีมือก็ดีในระดับหนึง เลี่ยมผมไม่แพงผมเลี่ยมมาหลายสิบองค์แล้วเอาไปเลี่ยมทีละ 10องค์ 5องค์ 3องค์ เขาเอาถูกกว่าที่อื่นถ้าแพงผมก็ไม่เลี่ยม
    เขาเลี่ยมให้ผมถูกกว่าที่อื่นก็เลยเลี่ยมกับเขาแลบะไม่ได้เลี่ยมเองเลย.........

    ถ้าจะเลี่ยมราคาไม่แพงไม่ถึง100 ทั้งเหรียญและรูปหล่อพระกริ่ง มาฝากผมไปเลี่ยมได้พาไปรู้จักเขาก็ได้.......ราคาถูกกว่าที่อื่นเยอะ ล่าสุดผมเอาเหรียญหลวงพ่อคูณรุ่นเพื่อชีวิตไปเลี่ยม 2 เหรียญ......
     
  8. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    แจ๋วเลย พี่จัมโบ้ เดี๋ยวลงทุนซื้อเครื่องมือก่อน จะถามอีกที แต่คิด ๆ ดูแล้วถ้าเลี่ยมไม่มาก จ้างเขาจะดีกว่าน่ะ 555++ คุ้มกว่าลงทุน

    เมื่อ อา. ที่แล้ว พี่ที่ทำงาน ค่อนข้างซี้กัน มาเอาโทรศัพท์มาให้ผมลง app แกทำไม่เป็น แถมบ่น ๆ ว่าตามโลกไม่ทัน แกเห็นผมนั่งดูพระอยู่ แกถามว่าชอบพระเหรอ ผมว่าชอบ คุยไปได้ซักพัก บอกจะเอาตะกรุดหนังเสือ ลพ.เต๋ มาให้ บ้านอยู่ดอนตูมใกล้ ๆ วัด ดีใจฝุด ๆ แกไม่ชอบพระเครื่อง เอาแต่เรื่องเมาเรื่องร้องคาราโอเกะ เวลาแกเมามาก ๆ ผมไปขับรถให้แกหลายครั้ง ยังดีที่มีสติ เมาไม่ขับ + โทร.หาน้อง น้องล่ะ...แอบเซ็ง

    เมื่อวานแกเอาพระมาให้ บอกว่าตะกรุดพี่ชายแกไม่ให้ หวงมาก ผมเสียใจนิดหน่อย สงสัยไม่ใช่เจ้าของ แต่แกได้เอาพระขุนแผน ลป.แย้ม มาให้แทน นับถือน้ำใจแก บอกว่าเดี๋ยวรอพี่ชายใจอ่อนจะเอามาให้ จะมีวาสนาไหมหนอ...

    กำลังหาข้อมูลรุ่นนี้อยู่ ใครมีประสบการณ์บ้างครับ พี่จัมโบ้พอรู้ความเป็นมาบ้างไหม

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2014
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ไม่มีข้อมูลครับ มีผ้าแสลงแงงท่านผืนกุมารท่านก็มีพอสมควร

    ตะกรุดสามห่วง สายวิชาของวัดสามง่าม........ไปวัดสมัยก่อนเห็นตกค้าง..........

    เลี่ยมพระถ้าจะเอาเป็นอาชีพเสริมได้ครับหลักเลยก้ยังได้ มีหลายคนยึดเป็นอาชีพ

    แต่ก็จะไม่มีเวลาทำอะไรเลย อาชีพแบบนี้ต้องอยุ่กับที่หยุดไม่ได้ ไม่ทำไม่ได้ไม่มีเงิน

    เซียนพระหลายคนพื้นฐานมาจากรับเลี่ยมพระเพราะได้เห็นของเยอะ แต่ลงทุนสุงเหมือนกันหนะแต่ไม่สูงมาก เครื่องเจียรไฟฟ้า 1 ตัว สว่านมือ แบบไฟฟ้าก็ได้แบบธรรมดามือหมุนก็ได้
    เตาไฟฟ้า หรือตะเกียงแอลกอฮอล์ เลื่อยฉลุ แผ่นอะคิลิค แผ่นพลาสติค หลายๆสี ไม้อัด
    ไขปลาวาฬ กระดาษทราย ตะไบ น้ำยาเช็ดกระจก กระป๋องสเปรย์ ผ้าปิดจมูก คร่าวๆมีแค่นี้เลี่ยมได้แล้ว........

    ลองทำดู เอาเหรียญก่อนเลี่ยมธรรมดาง่ายๆเลี่ยมแบบโบราณ พลาสติคหนาๆปิดด้านหน้า
    ออกแบบเองได้ พระผงไว้ที่หลัง.......เลี่ยมแรกๆมือไม้อาจจะเกร็งระวังเป็นนิ้วล๊อค
     
  10. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    สวัสดี พี่ ๆ ทุกท่านครับ

    ช่วงนี้พี่ ๆ แต่ละท่านเงียบ ๆ สงสัยไม่มีประสบการณ์อะไร นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่า แคล้วคลาด... แต่ช่วงนี้ผมไม่แคล้วคลาดเลย เมื่อวัน อา. เก็บสายไฟที่บ้าน โดนมีดเฉือนนิ้วโป้งตัวเอง เป็นแผลยังไม่หาย

    อา. นี้ พี่จัมโบ้มีโครงการไปไหน กระซิบหน่อย เผื่อว่าง... จะตามไปด้วย

    ช่วงนี้ฝนตกหนักทุกภาค ขับรถระมัดระวังกันด้วยน่ะครับ

    ไม่มีพระเครื่องมาให้ชม คิดดูแล้วเหมือนเอามะพร้าวมาขายสวน พี่ ๆ แต่ละท่านสะสมพระมาก่อนผม ต้องมีดีเยอะกว่าผมแน่นอน

    ผมนึกถึงคำพูดของหลาย ๆ คนว่า... "โดนมาก่อน" ตอนแรกผมยังไม่เข้าใจ มันเป็นยังไง แต่ตอนนี้พอจะเข้าใจประโยคที่ว่านี้แล้ว 555++
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    มีโครงการแต่ไม่มีปัจจัยไปไหนเลยไม่สะดวก..........ช่วงนี้ผมมีภาระเพิ่ม
    ต้องได้ไปด้วยกันจนได้ผมตั้งใจไว้แล้ว จะไปเลี้ยงลิงที่วัดหลวงพ่อเฒ่า วัดค้างคาว.........ฝากเอาไว้อ่านกันครับทุกๆท่านมีรถ ดูแลระบบหล่อเย็นกันหน่อยนะครับ ถ้ามีปัญหาเครื่องพังซ่อมแพงครับ ซ่อมไม่ค่อยจบต้องเปลี่ยนเครื่องก็มี
    ผมกลัวที่สุดเรื่อง รถเสีย เครื่องพัง.........

    การระบายความร้อนด้วยนํ้า และการระบายความร้อนด้วยนํ้าจะประกอบด้วยอุปกรณ์ต่างๆ คือ
    1. หม้อนํ้า
    2. ท่อนํ้าเข้า - ออก/เข็มขัดรัด
    3. ปั๊มนํ้า/สายพานปั๊มนํ้า
    4. เทอร์โมสตาร์ท
    ในส่วนของหม้อนํ้านั้นมีหน้าที่ คือ
    1. เก็บและรวบรวมนํ้าในระบบ
    2. สร้างความดันอากาศให้สูงกว่าความดันบรรยากาศ
    3. ระบายความร้อนของนํ้าหล่อเย็น
    ระบบการระบายความร้อนด้วยนํ้า คือ การใช้ปั๊มนํ้าสร้างแรงขับดันนํ้าเข้าสู่เครื่องยนต์ แล้วพาความร้อนออกจากเครื่องยนต์ด้วยวิธีการ Heat Convection แล้วนํ้าก็จะออกจากเครื่องยนต์มาที่หม้อนํ้า ซึ่งนํ้าตอนขาออกจะมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าตอนก่อนเข้าเครื่อง นํ้าร้อนนี้ก็จะถูกถ่ายเทความร้อนให้กับอากาศภายนอกที่หม้อนํ้านั่นเอง เมื่อนํ้าหล่อเย็นมีการถ่ายเทความร้อนออกสู่บรรยาอากาศ ที่หม้อนํ้าแล้ว ก็จะมีอุณหภูมิตํ่าลงอีกครั้ง แล้วก็หมุนเวียนเข้าสู่เครื่องยนต์อีกเพื่อถ่ายเทความร้อนเป็นวัฏจักร เครื่องยนต์ขณะทำงานมีอุณหภูมิบริเวณห้องเผาไหม้จะสูงถึงกว่า 100 องศาเซลเซียส แน่นอนว่านํ้าที่ออกจากเครื่องยนต์จะมี อุณหภูมิหลายร้อยองศา แต่ทำไมนํ้าในหม้อนํ้าจึงไม่เดือดและระเหยออกจากระบบ ถ้าคุณเคยต้มนํ้าในสภาวะความดันบรรยากาศปกติ นํ้าจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส แต่ถ้าคุณต้มนํ้าบนยอดเขาสูง ซึ่งมีความดันบรรยากาศตํ่ากว่าความดันบรรยากาศ ที่ระดับพื้นดิน จุดเดือดของนํ้าจะตํ่ากว่า 100 องศาเซลเซียส (นํ้าเดือดเร็ว) แต่ถ้าคุณต้มนํ้าที่บรรยากาศสูงๆ จุดเดือดของนํ้าก็จะสูงกว่า 100 องศาเซลเซียส (นํ้าเดือดช้า)
    จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้น ภายในหม้อนํ้าจะถูกออกแบบให้มีความดันสูงกว่าความดันบรรยากาศหลายเท่า นํ้าหล่อเย็นในระบบจะมีอุณหภูมิขณะที่เครื่องยนต์ทำงานเกิน 100 องศาเซลเซียส แต่จะไม่เดือด เพราะจุดเดือดของนํ้าก็จะสูงขึ้น ภายใต้ความดันบรรยากาศสูงๆ
    เมื่อเราทราบแล้วว่าระบบระบายความร้อนด้วยนํ้านี้ อยู่ภายใต้สภาวะความกดดันสูงๆ ก็มีข้อควรระวัง คือ
    1. อย่าเปิดฝาหม้อนํ้าขณะที่เครื่องยนต์ เพราะความดันสูง ภายในระบบจะดันนํ้าให้พุ่งออกมาสู่ความดันบรรยากาศ ทันทีที่เปิดฝาหม้อนํ้า
    2. ท่อยางนำนํ้าเข้า - ออก ต้องขันแหวนรัดให้แน่นขึ้น มิฉะนั้นนํ้าจะรั่วซึมออกมา ควรขันในขณะที่เครื่องเย็น เพราะเหล็กและท่อยางจะหดตัว ทำให้ขันได้แน่นขึ้น
    3. อย่าเติมนํ้ามากเกินปริมาณที่กำหนด เพราะนํ้าเดือดจะขยายตัวดันหม้อนํ้าแตกได้ หม้อนํ้ายุโรปมีความแตกต่างกับของรถญี่ปุ่นมาก ในรถญี่ปุ่นหม้อนํ้าจะมีถังพักนํ้าเป็นพลาสติกใสๆ เมื่อนํ้าในหม้อนํ้าเดือด ขยายตัวล้นออกมาก็จะมาอยู่ในถังพักนํ้าพลาสติกนี้ พอเครื่องยนต์เย็นหม้อนํ้าก็จะเกิดสูญญากาศดูดเอานํ้าจากถังพักนํ้าจนเต็ม ระบบเช่นเดิม ในรถยุโรป จะไม่มีถังพักนํ้าเช่นรถญี่ปุ่น แต่จะมีเพียงตัวหม้อนํ้าเท่านั้น ถ้าเติมนํ้ามากเกินกำหนดขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน นํ้าหล่อเย็นจะมีอุณหภูสูง และเกิดการขยายตัวดันหม้อนํ้าให้แตกได้ นอกจากนี้หม้อนํ้ารถยุโรปรุ่นใหม่จะทำจากอะลูมิเนียมแทน หม้อนํ้าแบบทองเหลือง ของรถทั่วๆไป เพราะหม้อนํ้าอะลูมิเนียมมีคุณสมบัติในการถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่ามาก และมีนํ้าหนักเบาช่วยลดนํ้าหนักโดยรวมของรถลงได้และยังสามารถ Recycle ได้ แต่ก็มีข้อเสียก็คือ แตกง่าย การซ่อมแซมทำได้ยาก และมีราคาแพง เรื่องจุกจิกเกี่ยวกับหม้อนํ้านั้นก็มีเกิดขึ้นได้มากมายหลายสาเหตุ บางอาการก็ชวนปวดหัว หาสาเหตุรอยรั่วไม่เจอ บางคราวก็ยังทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดจนเครื่องยนต์พังได้
    การรั่วซึมตามจุดต่างๆ เช่น
    1. ท่อยางต่างๆ ตามรอยต่อ ซึ่งรัดเข็มขัดไม่แน่น
    2. ท่อยางแตก
    3. ปะเก็นปั๊มนํ้า
    4. รังผึ้งหม้อนํ้า
    5. น๊อตถ่ายนํ้า
    ตามจุดต่างๆ ที่กล่าวมานี้ สามารถตรวจสอบได้ง่าย โดยใช้ Radiator Tester ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความดันให้กับระบบหล่อเย็น เมื่อระบบหล่อเย็นมีความดันสูงขึ้นนํ้าก็จะพุ่งฉีดออกมาตามรอยต่อรอยรั่ว ให้มองเห็นได้ชัดเจน หรือสังเกตจากคราบนํ้าที่เปื้อนอยู่ตามจุดต่างๆ ด้วยสายตาได้ง่าย
    การรั่วซึมบางจุดยากจะตรวจพบและต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมนาน เช่น
    1. รอยรั่วที่เป็นตามดเล็กๆ บริเวณรังผึ้ง เมื่อเครื่องยนต์ร้อน และหม้อนํ้าร้อนขึ้น โลหะขยายตัว นํ้าจะรั่วออกมา ซึ่งจะมีปริมาณน้อยมาก เมื่อเครื่องเย็นจะไม่รั่วเพราะโลหะเกิดการหดตัวกลับสู่สภาพปกติ ซึ่งข้อบกพร่องนี้จะไม่เป็นปัญหาใหญ่โตถึงขนาดทำให้ เครื่องยนต์ร้อนจัด แต่ผู้ใช้จะต้องเติมนํ้าบ่อยกว่ารถปกติ ซึ่งจะสร้างความรำคราญใจ และการใช้ Radiator Tester ตรวจสอบก็ยากที่จะหาสาเหตุนี้พบ
    2. การรั่วซึมที่รังผึ้งของ Heater ระบบทำความร้อนภายในห้องโดยสาร (Heater) จะใช้นํ้าหล่อเย็นจากเครื่องยนต์เป็นตัวทำความร้อน ภายในห้องผู้โดยสาร ซึ่งถ้า
    ระบบหล่อเย็นเกิดการรั่วซึมขึ้นที่รังผึ้งของ Heater การใช้ Radiator Tester ตรวจสอบก็จะไม่พบสาเหตุนี้ เพราะขณะทำการทดสอบด้วย Radiator Tester เราไม่ได้สตาร์ทเครื่อง และเปิด Heater ดังนั้นวาล์วนํ้าจะเปิดทำให้ Radiator Tester ไม่สามารถสร้างแรงดันเข้ามาถึงระบบของ Heater ที่เกิดการรั่วซึมได้ จึงหาสาเหตุนี้ได้ยาก แต่ก็สามารถสังเกตได้จากกลิ่นของนํ้ยาหล่อเย็น ซึ่งจะส่งกลิ่นของนํ้าหล่อเย็นออกมาในจังหวะที่เปิด Heater แต่รถที่ใช้นํ้าเปล่าๆ หล่อเย็นโดยไปเติมนํ้ายาหล่อเย็นหรือนํ้ายากันสนิทนี้ก็จะไม่ทราบถึงกลิ่น นี้ และหาสาเหตุตรงจุดนี้ไม่พบ
    3. การรั่วซึมที่หม้อนํ้า บริเวณส่วนที่ติดกับห้องนํ้ามันเกียร์ ในรถยนต์รุ่นใหม่ ที่ใช้เกียร์อัตโนมัตินํ้ามันเกียร์อัตโนมัติ จะถูกส่งผ่านท่อมายังหม้อนํ้า ซึ่งจะแบ่งเป็นห้องสำหรับนํ้ามันเกียร์ไว้ส่วนหนึ่ง แล้วใช้นํ้าในหม้อนํ้าไหลผ่านผนังกั้นห้องนํ้ามันเกียร์ (ไปรวมตัวกับนํ้ามันเกียร์) แล้วทำให้นํ้ามันเกียร์เย็นลง เพื่อให้อายุการใช้งานของเกียร์และนํ้ามันเกียร์นานขึ้น ถ้าผนังกั้นห้องนํ้ามันเกียร์เกิดรอยรั่ว นํ้าก็จะเข้ารวมตัวกับนํ้ามันเกียร์ ทำให้นํ้าหล่อเย็นพร่องบ่อย และนํ้ามันเกียร์ก็จะเปลี่ยนจากสีปกติ คือ แดงทับทิมเป็นสีคล้ายชาเย็น เมื่อเกิดการรวมตัวกับนํ้าที่รั่วเข้ามา อันนี้สามารถรู้ได้จากการดูสีของนํ้ามันเกียร์เท่านั้นการใช้ Radiator Tester จะตรวจสอบไม่พบเพราะรอยรั่วอยู่บริเวณภายในหม้อนํ้า ซึ่งไม่สามารถมองเห็นด้วยตา
    4. การรั่วซึมที่ปะเก็นฝาสูบ ไม่สามารถใช้ Radiator Tester ตรวจสอบได้เพราะรอยรั่วไม่ได้อยู่ในบริเวณที่มองเห็นได้ด้วยตา แต่สาเหตุนี้นํ้าจะแห้งอย่างรวดเร็วและเครื่องยนต์จะร้อนจัด ถ้าเครื่องยนต์ร้อนจัดจนเครื่องดับ ให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง ให้ดับเครื่องยนต์เสียก่อน จึงจะเดิมนํ้าเข้าไปได้ การเติมนํ้าขณะที่เครื่องยนต์ร้อนจัดทันที จะทำให้ฝาสูบโก่งได้ ซึ่งจะต้องเสียเวลาปาดฝาสูบใหม่ แทนที่จะแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนปะเก็นฝาสูบเพียงอย่างเดียว
    ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นข้อควรระวังและวิธีการบำรุงรักษาหม้อนํ้า รวมทั้งปัญหาจุกจิกต่างๆ ของหม้อนํ้าซึ่งถ้าเราแก้ไขอย่างถูกต้อง และมีความเข้าใจเพียงพอ การใช้รถก็จะไม่ใช่เรื่องจุกจิกกวนใจแต่อย่างใด โดยเฉพาะเรื่องหม้อนํ้าที่หลายๆ คนวิตกกังวลกันอยู่ขณะนี้
     
  12. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,073
    ค่าพลัง:
    +22,242
    ช่วงนี้เงียบๆกัน เป็นไปตามบรรยากาศของประเทศ รอออกพรรษาน่าจะกลับมาคึกคัก ในพรรษาก็มีแต่ข่าวฆาตกรรม ไม่รู้จะออกข่าวทำไมกันนักหนา....

    เรื่องเล่า ..เบาๆ.. ไปรับการตรวจราชการ มีโอกาสคุยกับพี่ที่มีเงินฝากกว่า 10 ล้านบาท แกทำธุรกิจหมอนขวาน เบาะรอง ขายในประเทศและส่งออก งานหลักเป็น พขร. อัธยาสัยดีมากๆ อิ่มเอิบผ่องใสดูหน้าไม่ขี้โกง ไม่เอาเรื่องกับใครว่างั้น ใจดีใจเย็น
    แต่....เล่น เล่นทุกอย่าง ภายใต้คอนเซปต์เล่นหมดแค่มีวันนั้น วันหน้าว่ากันใหม่ แบบไม่เดือดร้อนครอบครัว เล่นทั้งที่บ้าน(เมียแกทำอาหารเลี้ยงใหญ่เลยนะถ้าไปบ้าน) ส่วนใหญ่เล่นตอนไปงานต่างจังหวัด ได้ทริปละ 2 หมื่น3หมื่น นานๆๆๆๆจะเสียทีหนึ่งปีละครั้ง 2 ครั้ง พีี่ๆน้องๆชอบให้แกเป็นเจ้ามือ แกไม่มีโกง ไม่มีอุปกรณ์ ใครเตรียมมายังไงแกเล่นยังงั้น ลูกของลูกแขงไม่รู้ เขย่าอย่างเดียว แต่...แปลกดี ใครคิดจะโกงแก หรือคิดโกง ส่วนใหญ่จะเสีย เสียแบบหมดตัวซะด้วย เหล้ายาไม่ต้องห่วง ซื้อเลี้ยงสบายๆ แกจ่ายกินได้ทั้งคืน
    ซื้อหวยถูกบ่อย ล็อตเตอรี 2ตัว 3 ตัว ถูกแทบทุกงวดที่ซื้อ

    ถามเคล็ดลับแก แกบอกทำบุญธรรมดา กับวัดวาก็ทำตามประเพณี ไม่ค่อยทำบุญกับพระ แต่ทำบุญกับคน คนทั่วๆไป ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ตาบอดตาดีทำหมด เด็กเล่นดนตรีเปิดหมวก คนแกร้องเพลง เด็กขายพวงมาลัย ขายพวงกุญแจ ขอให้มีอะไรมาแลกบ้าง แกเห็นแกทำเลย 200 300 มากน้อยตามกำลังใจขณะนั้นไม่มีลิมิต ทำจนเป็นนิสัย ...บุญนี้อาจเป็นอานิสงค์ให้แกได้ลาภลอย
    การค้าการขายก็คล่องตัว อยู่ตัวแบบ สายยาวยิ่งสบาย ของใช้มันขายได้ไม่มีตก

    เห็น'จารย์โบ้ ชอบทำบุญกับเด็ก แจกจ่ายค่าเทอม เผื่อจะลองปรับใช้ดู ตามที่ถนัด เผื่อจะคล่องตัวขึ้น.............
     
  13. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    สวัสดี พี่ ๆ ทุกท่านครับ

    เมื่อวัน อา. ที่ผ่านมาเจอเพื่อนที่ชอบด้านพระเครื่อง คุยกันทั่วไปจนมาถึงเรื่องพระ เพื่อนแนะนำว่าให้หาพระ ลป.หมุน มาคล้องคอ เพราะตัวของเพื่อนเองก็คล้องพระ ลป.หมุน เป็นพิมพ์สมเด็จ รุ่นไหนผมไม่รู้ ดูไม่เป็น แต่เห็นว่าชีวิตเปลี่ยนไปมาก ด้านการงานดีขึ้นมาก รวมถึงเรื่องที่เป็นหัวหน้าคน ก็ต้องมีพวกเพื่อนร่วมงานหรือลูกน้องที่ไม่ชอบหน้ากัน เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด แต่ก็กลับกลายเป็นดีคนที่ไม่ชอบก็เข้ามาพูดคุยทำความสนิทสนม

    ผมก็อ่าน ๆ ประวัติของ ลป.หมุน น่าศึกษาดีเหมือนกัน รวมไปถึงวัตถุมงคล มีโฆษณาหลายเวปเหลือเกิน ส่วนมากจะออกไปทางแนว ๆ พุทธธุรกิจ พระเครื่องหลายรุ่นหลายเจ้าภาพ เห็นแล้วสับสน... อย่างนี้จะหาแบบที่วัดจัดสร้าง พิธีดี เจตนาดี คงยาก...
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เจตนากับการสร้างวัตถุมงคลพูดยาก คนเจตนาไม่ดีเขาก็ไม่บอกเราว่าเขาเจตนาไม่ดี เขาก็ว่าเจตนาดี........

    พระที่พี่เด่นมีและนับถือก็บูชาพอแล้ว ผมรู้พี่เด่นไม่เต้นตามหรอก .......

    คนจะเป็นเจ้าคนนายคน บางคนมันก็ไม่ได้แขวนอะไร...........

    คนไม่ชอบหน้ากันต่อให้แขวนพระที่มีเมตตามหานิยมยังไหงมันก็ไม่มีทางชอบหน้ากัน อะไรทำนองนั้น สุดยอดเครื่องรางเมตตามหานิยมที่ในแวดวงการทำงานใช้กันคือวิชาประจบสอพลอ..วิชาประจบสอพลอขลังและเด่นดีกว่านะหน้าทองมากมาย..........
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2014
  15. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    วันนี้... เหมือนผมจะตามหาฝันเจอ

    พี่ที่เคยเล่าให้ฟัง ที่บอกว่าจะเอาตะกรุดหนังเสือของ ลพ.เต๋ มาให้ผม แต่ไม่ได้... เพราะพี่ชายแกหวงมาก พี่แกเลยนำพระสมเด็จของพ่อแกมาให้ผม พ่อแกเสียชีวิตด้วยโรคชราไปนาน 10 กว่าปีแล้ว แกได้พระองค์นี้มาจากพ่อ ผมเห็นเป็นของมีค่าทางจิตใจมาก จึงไม่กล้ารับพระของพี่เขา เกรงใจแกมาก ๆ เล่นเอาของมีค่าทางจิตใจมาให้กันแบบนี้...

    แต่ว่าวันนี้... พี่เขาเดินมาให้ผมถึง 3 รอบ เพิ่งจะยินยอมรับพระแกเมื่อตอนบ่าย 3 กว่า ๆ นี่เอง แกบอกว่าเต็มใจให้จริง ๆ เพราะแกเองนั้นไม่ชอบพระเครื่อง แกชอบสุราและนารี ใช้ชีวิตแบบสนุก ๆ เท่านั้น แกชอบนิสัยผมที่เวลาแกเดือดร้อนแล้วพึ่งได้ เรื่องเดือดร้อนที่ว่านี่ก็เรื่องเดียวน่ะครับ ถ้าไปเมาคนเดียวเมื่อไหร่ ขับรถกลับบ้านไม่ได้ โทร.ตามผม ผมต้องนั่งรถ taxi ไปร้านอาหาร แล้วขับรถพาแกกลับบ้าน ถ้าไปหลายคนกับเพื่อนแกก็ไม่เคยเดือดร้อน นอกจากจะโทร.ตามมากินด้วย ส่วนเรื่องอื่น ๆ คงไม่คิดว่าเดือดร้อนเพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ พี่แกก็ไม่เคยยืม คงจะมีเรื่องเดียวที่ว่ามา

    อีกเรื่องที่แกอยากให้ เพราะแกรับปากว่าจะให้ตะกรุดหนังเสือกับผม แต่ติดตรงที่พี่ชายแกหวง แกเลยกลัวเป็นผู้ใหญ่ผิดคำพูด แกเลยเอาพระองค์ที่ว่านี้มาให้ผม บอกว่าเป็นพระของวัดกลางบางแก้ว แต่ไม่รู้จักชื่อพระสงฆ์คนที่สร้าง พ่อแกเป็นเด็กวัดกินข้าวก้นบาตรและเรียนอยู่วัดนั้น เด็กจนโตแกก็เห็นพ่อแกใส่พระองค์นี้ติดคอมาตลอด

    ผมไม่ฝันไปถึง ลป.บุญ แค่เป็นของ ลป.เพิ่ม ผมก็ดีใจมากแล้ว เดี๋ยวกลับบ้านจะถ่ายรูปถ่ายให้ดูกันว่าใช่สายวัดกลางฯ หรือเปล่า แต่มีที่มาแบบนี้ หรืออาจจะเป็นวัดอื่นใน จ.นครปฐม ก็ได้ครับ รอกลับบ้านก่อน จะได้ถ่ายรูปชัด ๆ มาให้ดู
     
  16. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    รูปครับ ผมขอแค่เป็นของ ลป.เพิ่ม ก็ดีใจมากแล้ว เมื่อวานค่อย ๆ เอาไฟแช็คเผาและแกะออกจากกรอบพลาสติกเก่า ๆ เหลือง ๆ ที่ใกล้จะหมดสภาพ พระแอ่นขึ้นมาช้างหน้าเหมือนสะพานโค้ง แต่ไม่มาก ไม่รู้เนื้อผงยาจินดามณี หรือว่าเนื้อผงอะไร ดม ๆ ดูแล้วกลิ่นไม่ค่อยออก

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2014
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ยินดีด้วยครับ ของให้ด้วยใจ เอามาบูชาได้ ........ผมมีคนให้พระมาก็เอามาบูชาด้วยใจและระลึกถึงคนให้ด้วย มันเก็บเรื่องราวเก่าๆไปพร้อมๆกัน ........
     
  18. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    ว่าจะหาเวลามาโม้เรื่องครูบาฯ อีก ยังนึกไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน มันเยอะมาก เรียบเรียงไม่ถูก และบางเรื่องก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดออกหน้าเวป เช่น ครูบาฯ หนุ่ม ๆ ไฟแรงต่าง ๆ

    จริง ๆ ผมเจอมาหมด สนิทกันตั้งแต่ยังไม่ดัง สนิทที่ว่านี่ ผมเรียกท่าน โดยให้เกียรติว่า "หลวงพี่" แม้จะเคยไปซื้อข้าวหมูแดงบะหมี่เกี๊ยวมาถวายท่านในยามดึกก็ตาม 555++ แต่ด้วยความที่ว่าเราเป็นเพื่อนกันแต่มีฐานะทางสังคมต่างกันเท่านั้น ผมเป็น นศ. แต่หลวงพี่เป็นพระ พอท่านดังหรือมีคนห้อมล้อมท่าน กลับลืมเราซะงั้น...

    มีเรื่องเหนือโลกที่เคยประสบกับตัวเอง ลป.ครูบาอินตา ช่วงสาย ๆ วันนึง ท่านบอกให้พระลูกศิษย์ไปเยี่ยม ลป.ครูบาคำ ท่านกำลังป่วย ผมก็ติดตามไปด้วย พอถึงหน้าวัดศรีดอนตัน เจอ ลป.ครูบาคำ ท่านออกมานั่งรอหน้ากุฏิ พวกผมก็เข้าไปกราบ แล้วบอกว่า ตุ๊เจ้าวังทองให้มาเยี่ยม ว่าท่านไม่สบาย ท่านพูดว่า ใช่ วันนี้ไม่มีใครอยู่ ตุ๊ลุงปวดท้อง รบกวนให้พาไปหาหมอที่ รพ. หน่อย ผมก็ งง... อ้าว ตุ๊ลุงเขาคุยกันอย่างไร ตอนไหน ?!?! ถ้าสมัยนี้ไม่แปลกเพราะโทรศัพท์และค่าโทร.ถูก แต่สมัยนั้นโทรศัพท์กระดูกหมายังเครื่องละ 4 หมื่นกว่า คนมีโทร.ตอนนั้นนับคนได้เลย มันก็เป็นเรื่องที่แปลกดี และเกิดขึ้นกับตัวเอง

    ครูบาคำวัดศรีดอนตัน ท่านก็เป็นศิษย์ของครูบาศรีวิชัย รุ่น ๆ เดียวกับครูบาวังทอง ที่ว่าเป็นศิษย์นี่เป็นของแท้ ๆ และจริง ๆ เพราะท่านบวชเณรกับครูบาศรีวิชัย และอยู่ในเหตุการณ์ร่วมสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ที่รู้มาจากปากท่าน ครูบาวงศ์นี่ยังเคารพท่าน และเคยอยู่จำพรรษาด้วยกัน ท่านมาอยู่ที่วัดศรีดอนตันเพราะว่าเมื่อก่อนท่านเคยอยู่บนดอยขะม้อมานานหลายสิบปี อยู่แบบรูปเดียวจริง ๆ ไม่ลงมาเลย ชาวบ้านเขาสงสารท่านเมื่อยามแก่จะไม่มีใครดูแลท่าน บวกกับแรงศรัทธา จึงร่วมใจทำคานหามเดินขึ้นดอยขะม้อไปนิมนต์ท่านมาอยู่วัด ก็ใกล้ ๆ ทางขึ้นดอยขะม้อนั่นเอง

    ผมเคยอยู่ช่วยดูแลท่านประมาณ 2-3 เดือน ตอนที่ท่านใกล้จะมรณภาพ ท่านเป็นคนดุ พูดน้อย แววตาแข็ง ถ้าถามคุยเรื่องเหนือโลก ภูติผีปีศาจ ท่านจะไม่เล่าให้ฟัง จะเงียบ ไม่ค่อยตอบ แต่เวลาที่เราเช็ดตัว เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ท่าน ท่านจะเล่าให้ฟัง เป็นภาษาคำเมืองพอฟังออกอยู่ เช่นเรื่องท่านอยู่บนดอย มีเปรตมาขอส่วนบุญ หรือไม่ก็เรื่องคนป่า (น่าจะเป็นชาวลับแล) มาใส่บาตรทุกวัน และวันพระก็มานั่งสวดมนต์กับหลวงปู่ฯ ท่านเล่าเยอะ แต่ต้องเป็นเวลาที่ท่านอารมณ์ดี ๆ อยู่คน 3 คน ไม่มีคนอื่นอยู่มาก ไม่เล่าแบบพร่ำเพรื่อ จำได้จำ จำไม่ได้ก็ลืมไป เท่านั้นเอง

    ที่เจอแบบจัง ๆ กับหลวงปู่ฯ คือ ช่วงมืดวันหนึ่ง... ประมาณเกือบ ๆ 1 ทุ่ม อาบน้ำเช็ดตัวให้ท่านเสร็จก็พาท่านนั่งรถเข็นออกมาหน้ากุฏิ เพราะข้างในอากาศมันอับ เหม็นขี้เยี่ยวของท่าน แต่ก็ไม่ได้ออกมาด้านนอกเพราะยุงมันเยอะ ท่านถามว่า กลัวนกแสกไหม ผมกับเพื่อนบอกว่า ไม่กลัว...

    เดี๋ยวมาต่อ... พอดีงานเข้านิดหน่อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2014
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,433
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เล่าตามสบายเลยไม่ขัดผมโม้มาหลายปีแล้ว.............

    ไม่ต้องกลัวมีใครขอพระหนะเล่าไปเลยถ้าจะขอก็มีแค่ผม............
     
  20. denchai_l

    denchai_l เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,093
    ค่าพลัง:
    +1,548
    พี่จัมโบ้ เรื่องแจกพระนี่ไม่หวงน่ะ เพราะไม่มีแจกสิ 555++

    แต่ว่าผมจะไปหาเพื่อน (หลวงพี่) ที่ จ.ลำพูน ช่วงปลายปี ตั้งใจไปเที่ยวรับลมหนาว ถ้ายังได้โม้อยู่ในห้องนี้ จะเอาพระเครื่อง ลป.ครูบาคำ มาแจกแน่นอน หลวงพี่ผมมีเยอะ เขาชอบทางนี้มานานมากแล้ว ส่วนผมก็เบื่อๆอยากๆ ตามฝันไปเรื่อยๆ เหลืออีก2องค์ที่ตามฝันอยู่ หลวงพ่อเงินวัดดอนยายหอมกับหลวงปู่ชอบวัดป่าโคกมน จริงๆแล้วก็ผ่านตาเยอะ แต่ผมมันวิตกจริตมาก ดูพระเก๊แท้ไม่เป็น อยากได้แบบที่มาดีอย่างเดียว

    มาเล่าต่อ..... ลป.ท่านถามว่ากลัวนกแสกไหม ผมก็ว่าไม่กลัว ท่านบอกว่าคนภาคกลางชอบถือว่าเป็นนกอัปมงคล แต่คนอีสานดันจับผัดพริกผัดกระเพรากินแกล้มเหล้าเฉย... เวลามันกรีดเสียงร้องแสกๆๆนี่ถ้าอยู่กลางป่าขนลุกหมดแน่ๆ ท่านก็บอกว่า เดี๋ยวจะเรียกมาให้ดู สงสัยวันนั้นท่านอารมณ์ดี ท่านให้เข็นรถออกไปหน้าประตู แล้วก็กวักมือหมุนๆที่หน้าอก (คงยกสูงไม่ไหวเพราะท่านแก่มากแล้ว) แล้วเป่าปาก 2-3 ที ปรากฎว่า.....มีนกแสก 3 ตัวมาเกาะที่หน้ากุฏิท่าน งง...เลยซิเรา

    จะว่าเป็นนกที่เลี้ยงก็ไม่ใช่ เพราะอยู่มาเป็นเดือนไม่เคยเห็นซักที ยืนยันได้ว่าไม่ใช่นกเลี้ยง และอยู่มานานถมถืดไม่เคยเห็น หรือไม่เคยได้ยินเสียงมันเลย พอเจอเข้า.... ตัวมันใหญ่พอประมาณ หน้าตาน่ากลัวจริง ผมเอากล้องฟิล์มถ่ายไว้ได้ เดี๋ยวหาเจอจะสแกนมาให้ดู ท่านเรียกนกแสกมาให้ผมกับเพื่อนดู โดยที่มันเหมือนนกเลี้ยงเชื่องๆเลย แปลกดีเหมือนกัน

    แถมอีกเรื่องคล้ายๆกัน ท่านบอกว่า... มีงูอยู่ในส้วม ไปไล่งูด้วย อย่าตีหรือฆ่ามันน่ะ ผมน่ะกลัวงูครับ เลยให้เพื่อนไป เพื่อนก็ไปจัดการเอาน้ำราดๆๆๆ จนมันออกไปทางรูน้ำทิ้ง มันแปลกตรงที่ ลป.ท่านนอนอยู่บนเตียงในห้อง ท่านรู่้ได้ไงหว่าว่... ามีงูอยู่ในห้องส้วมหลังกุฏิ มันไม่ได้ใกล้กันเลยน่ะ แถมท่านก็นอนไม่ได้ลุกไปไหนเพราะลุกไม่ไหวแล้ว ถ้างูมันมีเสียงขู่ ผมเเละเพื่อนอยู่ในหองโถงใกล้ห้องน้ำต้องได้ยินเสียงก่อนแน่ๆ

    วันนี้พอก่อน เดี๋ยวนึกได้แล้วมาเล่าใหม่
     

แชร์หน้านี้

Loading...