*เปียโนพระเครื่อง*ปิดกระทู้นี้ชั่วคราว*ลพ.โหน่ง /กรุวัดชนะสงคราม*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย prakrueng, 22 กรกฎาคม 2010.

  1. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    นางกวัก เนื้อผงน้ำมัน พิมพ์ใหญ่ หลังเรียบ ลพ.กวย วัดโฆสิตารามชัยนาท สภาพสวย ราคา 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    นางพญา เนื้อผงน้ำมัน ลพ.กวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท ราคา 650 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเจ้าห้าพระองค์ เนื้อดินผสมผง เก่าๆ ลพ.เงิน วัดบางคลาน สภาพสวย ราคา 1500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    สมเด็จมงคลมหาลาภ พิมพ์กลาง แม่ชีบุญเรือน เนื้อผงว่าน สีออกเหลือง หายากๆ ปี 2499 ครับ สนใจสอบถามมาได้ครับ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด โทร.089-4255525

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CBanana%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:EucrosiaUPC; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:222; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777217 0 0 0 65536 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->พระสมเด็จมงคลมหาลาภ ปี 2499 วัดสัมพันธวงศ์สร้าง ให้วัดสารนาท จ.ระยอง องค์นี้เนื้อผงว่าน ผงโสฬสมหาพรหม สภาพสวย ขนาดองค์พระประมาณ 2 ซ.ม. x 3.5 ซ.ม. พระรุ่นนี้สร้างจากผงโสฬสมหาพรหมเป็นส่วนผสมหลัก (ผงนี้หลวงปู่ทิม อิสริโกได้นำไปผสมในพระเครื่องของท่านด้วย) ปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และ คณาจารย์หลายท่านเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวง พ่อเงินวัดดอนยายหอม เป็นต้น ทั้งนี้ ได้รับการปลุกเสกอีกครั้งที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค. - 2 ก.พ. 2506 โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐานเช่น หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  5. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    สมเด็จมงคลมหา ลาภ พิมพ์ใหญ่ แม่ชีบุญเรือน เนื้อขาว หายากๆ ปี 2499 ครับ สนใจสอบถามมาได้ครับ ราคาไม่แพงอย่างที่คิด โทร.089-4255525

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CBanana%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:EucrosiaUPC; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:222; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777217 0 0 0 65536 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->พระสมเด็จมงคลมหาลาภ ปี 2499 วัดสัมพันธวงศ์สร้าง ให้วัดสารนาท จ.ระยอง องค์นี้เนื้อผงขาว ผงโสฬสมหาพรหม สภาพสวย ขนาดองค์พระประมาณ 2.3 ซ.ม. x 3.7 ซ.ม. พระรุ่นนี้สร้างจากผงโสฬสมหาพรหมเป็นส่วนผสมหลัก (ผงนี้หลวงปู่ทิม อิสริโกได้นำไปผสมในพระเครื่องของท่านด้วย) ปลุกเสกโดยคุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ และ คณาจารย์หลายท่านเช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ หลวง พ่อเงินวัดดอนยายหอม เป็นต้น ทั้งนี้ ได้รับการปลุกเสกอีกครั้งที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค. - 2 ก.พ. 2506 โดยนิมนต์พระสายระยอง และสายกรรมฐานเช่น หลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ หลวงพ่อลี วัดป่าคลองกุ้ง อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2010
  6. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รูปเหมือน เนื้อว่านผสมชานหมากจุ่มรักหลังนางกวัก ลพ.ผาง เก่าๆ ปี 2512 ราคา 500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จรัศมี พิมพ์เล็ก กรุคลองขอม พิมพ์แขนสอบ องค์ที่ 1-4 ครับ องค์ละ 400 บาท
    ชอบองค์ไหนใส่หมายเลขให้ด้วยครับ
    ราคานี้พิเศษจริงๆครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จรัศมี พิมพ์เล็ก กรุคลองขอม พิมพ์แขนกลม องค์ที่ 5-8 ครับ องค์ละ 450 บาท
    ชอบองค์ไหนใส่หมายเลขให้ด้วยครับ
    ราคานี้พิเศษจริงๆครับ

    คุณ viroj จององค์ที่ 5
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2010
  9. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน ลพ.พ่วง วัดกก หลังจารย์ เก่าๆสภาพสวยครับ ราคา 750 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    ใบโพธิ์ใหญ่ เนื้อดินผสมผง ลป.ดู่ วัดสะแก ปี 2520 หายากครับ ราคา 500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  11. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดครับ

    ลป.ทวด เนื้อผง ลป.ดู่ วัดสะแก สภาพพอสวย ราคา 600 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  12. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดรายการให้คุณ คนกรุงศรี ครับ

    ขุนแผนรุ่นแรก หลังจารย์ ลพ.ตัด วัดชายนา องค์ที่ 2 หายาก สภาพสวย เก่าเก็บครับ ราคา 1000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2010
  13. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พุทโธน้อย พิมพ์เล็กฐาน ส รุ่นแรก ลพ.สังวาลย์ วัดทุ่งสามัคคีธรรม หายาก สภาพสวย ราคา 1500 บาท ขนาดองค์พระ 1.2 x 2.3 ซม.ครับ

    ประวัติการสร้างพระพุทโธ รุ่นแรก หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก


    ย้อนหลังไปประมาณปี 2526 ในขณะนั้นพระอุโบสถวัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

    หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก ได้ ปรึกษาหารือกับสหธรรมมิก ของท่านคือหลวงพ่อสุวรรณ ปภัสโร (( สุวรรณ ทองนาค ) วัดอาวุธ

    โดยท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมมาตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะบวชเป็นพระ )

    ถึงการหาจตุปัจจัยที่จะมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ หลวงพ่อสุวรรณ จึงให้ความเห็นว่าควรจะสร้างวัตถุมงคลเป็นพระพุทโธ

    แบบอย่างคุณแม่บุญเรือนเพื่อสมนาคุณแด่ผู้ที่มาร่วมถวายจตุปัจจัย ซึ่งหลวงพ่อสังวาลย์ท่านก็เห็นสมควรด้วย

    หลวงพ่อสุวรรณท่านจึงรับอาสาจัดสร้างพระพิมพ์พุทโธนี้เพื่อถวายแด่หลวงพ่อสังวาลย์โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ

    ท่านหวังเพียงเพื่อร่วมรับอานิสงค์ในการจัดสร้างพระอุโบสถ วัดทุ่งสามัคคีธรรมในครั้งนี้เท่านั้น

    การจัดสร้างนั้นกินเวลาค่อนข้างนานเนื่องจากหลวงพ่อสุวรรณท่านไม่มีความชำนาญในการสร้าง

    ได้ทำการลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนและแก้ไขแม่พิมพ์ทั้งด้านหน้าและหลังหลายครั้ง

    จนส่งผลให้พระชุดนี้มีความหลากหลายทั้งพิมพ์ทรง และเนื้อหา แต่หากสังเกตดีๆแล้ว

    พระทั้งชุดจะมีความเกี่ยวเนื่องกันในแต่ละองค์ ไม่มากก็น้อย และพระที่สร้างเสร็จในแต่ละคราวก็จะทยอยนำมาที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม

    โดยทั้งที่หลวงพ่อสังวาลย์ท่านลงมารับเองและที่หลวงพ่อสุวรรณท่านนำขึ้นไปถวาย

    โดยในช่วงนั้นหลวงพ่อสังวาลย์ท่านขึ้นๆ ลงๆ มาที่วัดอาวุธถึงเดือนละ 4 รอบเลยทีเดียว

    และหลังจากที่ได้พระมาในแต่ละครั้งหลวงพ่อสังวาลย์ท่านจะทำการอธิษฐานจิตด้วยตัวท่านเองเงียบๆ

    โดยไม่มีพิธีรีตองใดๆทั้งสิ้น





    มวลสารการจัดสร้างพระพุทโธ


    - ดินนิมิต จากวัดเขาสารพัดดี หลวงพ่อสังวาลย์ท่านนั่งเห็นดินที่มีคุณวิเศษในตัวอยู่ในสระน้ำของวัดเขาสารพัดดี

    โดยท่านได้นำหลวงพ่อบุญลือและคณะศิษย์ ไปชี้ตำแหน่งและขุดขึ้นมาโดยปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดกำปั้นผู้ใหญ่

    โดยเอาผ้าห่อเอาไว้แล้วขนกลับมาที่วัด เมื่อมาถึงที่วัดแล้วท่านก็นำบาตรของหลวงพ่อป้อง

    ที่ได้ได้รับการถวายมาจากกำนันวงษ์ ( พี่ชายหลวงพ่อสุวรรณ ) มาใส่น้ำแล้วอธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อป้อง

    ให้ท่านช่วยปลุกเสกดินให้เป็นรอบแรก แล้วจึงนำดินที่เป็นปั้นนั้นลงไปละลายในบาตรเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการสร้าง

    หมายเหตุ : หลวงพ่อป้องเป็นพระที่หลวงพ่อสังวาลย์ให้ความเคารพนับถือมากอีกรูปหนึ่ง

    โดยในปัจจุบันกะโหลกส่วนศรีษะท่านที่เผาไม่ไหม้ หลวงพ่อสังวาลย์ท่านได้นำมาใส่ไว้ในโกศ

    แล้วเอาสายสิจญ์พันรอบหลายๆชั้นด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการเปิดออก

    โดยในปัจจุบันโกศนั้นตั้งวางให้บูชาอยู่บนเรือนไทย ที่วัดสังฆทาน กทม

    - พระพุทโธน้อยคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แตกหัก ซึ่งเก็บรักษาอยู่ที่กุฏิ พระเทพเมธากร เจ้าอาวาสวัดอาวุธในสมัยนั้น

    หลวงพ่อสุวรรณท่านได้ถวายปัจจัยทำบุญ 20,000 บาทแล้วนำมาทั้งหมด โดยได้พระพุทโธแตกหัก

    และผงมวลสารเก่าๆสมัยคุณแม่บุญเรือนประมาณ 2 ถังใหญ่ สาเหตุหลักที่หลวงพ่อสุวรรณท่านเจาะจงมวลสารนี้

    เพราะท่านได้รับคำสั่งสอนมาจากคุณแม่บุญเรือนว่า

    “ ฉันอธิษฐานพระให้เพียงหนเดียวเท่านั้น และพระฉันถึงแตกหักอย่างไร เมื่อนำมาบดแล้วสร้างใหม่

    ก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมเช่นที่ฉันอธิษฐานให้ “



    - ศิลาน้ำ คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียด

    - ข้าวตอกพระร่วง คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียด

    ในส่วนผสมนี้หากใช้กล้องส่องจะพบว่าเป็นเม็ดดำๆคล้ายๆนิลอยู่ในเนื้อพระ

    - ปูนแดงเสก คุณแม่บุญเรือน

    - และส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในพระชุดนี้คือ อัฐิธาตุ และ ผงอังคารธาตุ ของคุณแม่บุญเรือน จำนวนมาก

    ที่หลวงพ่อสุวรรณท่านได้เก็บรักษาไว้ โดยหลวงพ่อสุวรรณท่านได้บอกกล่าวขออนุญาตคุณแม่

    แล้วนำมาบดใส่ทั้งหมดที่ท่านมีอยู่ซึ่งท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนใส่บอกว่า ท่านกำอัฐิธาตุ

    และผงอังคารธาตุที่บดแล้วใส่ในการผสมเนื้อในแต่ละครั้งละเป็นกำๆเลยที่เดียว

    และน้ำที่ใช้ประสานเนื้อในพระชุดนี้เป็นน้ำที่ได้มาจากการทำพิธีเสกน้ำ จากศิลาน้ำของคุณแม่บุญเรือนทั้งสิ้น

    และยังมีน้ำเสกที่คุณแม่เคยเสกไว้ให้ รวมทั้งน้ำที่ได้จากการล้างบาตรหลวงพ่อป้อง (ล้างเพื่อเอาดินที่ติดอยู่ออก)

    ในการปั๊มพระแต่ละครั้งแป้งที่ใช้โรยเพื่อไม่ให้พระติดพิมพ์นั้นก็เป็นแป้งอธิษฐานของหลวงปู่บุดดา ทั้งสิ้น

    โดยหลวงพ่อสุวรรณได้ไปเช่าบูชา มาเป็นลังๆ (แป้งสปริงซอง)

    ส่วนแม่พิมพ์นั้น หลวงพ่อสุวรรณท่านและศิษย์ที่เป็นหมอฟัน ได้ช่วยกันแกะและถอดพิมพ์

    โดยใช้ต้นแบบเค้าโครงจากพระพุทโธน้อยของคุณแม่บุญเรือน

    ขอขอบคุณเจ้าของข้อมูล คุณ KAYASIT ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน พิมพ์ใหญ่ รุ่นกรุแตก วัดอาวุธ สภาพสวย ขนาด 1.8 x 3 ซม.ครับ ราคา 850 บาท


    กรุแตก !!!!! วัดอาวุธวิกสิตาราม พระสมเด็จ-พุทโธน้อย จำนวนมาก
    วัดอาวุธวิกสิตาราม ตั้งอยู่เลขที่ 436 ถนนจรัญสนิทวงศ์ ซอย 72 (ซอยวัดอาวุธฯ) แขวงบางพลัด เขตบางพลัด กรุงเทพ มหานคร ได้ทำพิธีเปิดกรุพระเก่าอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีเซียนพระชื่อดังร่วมเป็นสักขีพยานพิสูจน์หลายท่าน อาทิ จ่าทวี วงษ์สิทธิ์เจ้าของนิตยสารมรดกพระเครื่อง วันชัย สุพรรณผู้ดำเนินรายการ คุยเฟื่องเรื่องพระ ทางช่องเอ็มวี สตาร์แชนแนล และ วัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ อุ๊ กรุงสยามนายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพพระเครื่องกลายเป็นข่าวฮือฮาในวง การนักสะสมพระเครื่อง เมื่อพบพระเครื่องยอดนิยมจำนวนมาก ทั้งพระพิมพ์สมเด็จมงคลมหาลาภ สร้างเมื่อปี 2499 พระสมเด็จพิมพ์ประจำวัน เนื้อผงผสมว่าน เนื้อดินเผา และพระพุทโธน้อย
    วัตถุมงคลทั้งหมด สร้างในยุคของ หลวงพ่อสงวน โฆสโก อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม และ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม ซึ่งปัจจุบันวัตถุมงคลของแม่ชีบุญเรือนได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ พระพุทโธน้อยพิมพ์ จัมโบ้เนื้อขาว สร้างปี 2494 สนนราคาเล่นหาหลักแสนขึ้น รวมถึงพิมพ์พระสมเด็จหลังยันต์และหลังเรียบ และพระสมเด็จพิมพ์ประจำวัน สนนราคาเล่นหาสูงมากเช่นกัน
    พระเทพปัญามุนี เจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม กล่าวว่า อาตมาพร้อมคณะสงฆ์ ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เปิดกรุพระเก่าใต้ฐานชุกชี พระพุทธชินราชจำลอง พระประธานในพระอุโบสถอย่างเป็นทางการ ซึ่งพระอุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นเมื่อปี 2507 วางศิลาฤกษ์ โดย สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (จวน อุฏฐายี) สมเด็จพระสังฆราช วัดมกุฏกษัตริยาราม สมัยยังดำรงสมณศักดิ์เป็น สมเด็จพระมหาวีรวงศ์
    ส่วนพระประธานเททองหล่อสร้างขึ้นเมื่อปี 2509หลังจากนั้นได้นำวัตถุมงคลจากโบสถ์เก่าทั้งหมดที่สร้างไว้ในยุคของ พระสิทธิสารโสภณ หรือ พระอาจารย์สงวน โฆสโก อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธวิกสิตาราม และ แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม มาบรรจุไว้จำนวนมาก มีทั้ง พระพุทโธน้อย แกะพิมพ์โดย อาจารย์ชอบ อนุจารี พระพิมพ์สมเด็จมงคลมหาลาภเนื้อผงผสมว่าน และมวลสารอันเป็นมงคลต่างๆ สร้างเมื่อปี 2499โดยพระอาจารย์สงวน สร้างโดยมีหลวงพ่อลี วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เป็นผู้ประสานงาน ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์สายพระกัมมัฏฐาน สายพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร หลวงพ่อตื้อ อัจธรรมโม พระอาจารย์วัน อุตตโม และพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป ได้ทำพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรกที่วัดสัมพันธวงศ์ เมื่อวันที่ 5-10มี.ค.2499จากนั้นได้นำไปเข้าพิธีอีกครั้งหนึ่งที่วัดสารนาถธรรมาราม จ.ระยอง ในวันที่ 23-31มี.ค.2499ถึง 19วัน 19คืน โดยมี แม่ชีบุญเรือน โตงบุญเติม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมทั้งร่วมอธิษฐานธรรมด้วย
    จ่าทวี วงษ์สิทธิ์ เจ้า ของนิตยสารมรดกพระเครื่อง กล่าวว่า จากการได้ดูพระเครื่องทั้งหมด เป็นพระเก่าเก็บที่มีอายุมากพอสมควร โดยเฉพาะพระพิมพ์สมเด็จที่มีอยู่หลายพิมพ์นั้น สร้างประมาณปี 2499 ทุกองค์ทันยุคแม่ชีบุญเรือน ส่วนพระพุทโธน้อยนั้นน่าจะสร้างหลังจากแม่ชีบุญเรือนเสียชีวิตแล้วคือหลัง จากปี 2507 สันนิษฐานว่าสร้างไว้เมื่อปี 2511 โดยหลวงพ่อสงวน โฆสโก อดีตเจ้าอาวาสวัดอาวุธฯ ซึ่งภายหลังท่านมีสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระสิทธิสารโสภณ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2511 เป็นพระราชาคณะองค์แรกของวัดอาวุธฯ ท่านเป็นเจ้าอาวาสปกครอง ตั้งแต่ปี 2483-2517 เป็นเวลารวม 35 ปี ท่านก็มรณภาพ
    การสร้างพระพุทโธน้อยปีนั้น น่าจะจัดสร้างขึ้นเพื่อฉลองสมณศักดิ์ พระสิทธิสารโสภณ ด้วยการ นำมวลสารพระพุทโธน้อยยุคแม่ชีบุญเรือนมาเป็นส่วนผสม และใช้พิมพ์เก่ามาเป็นต้นแบบ ด้านหน้าบางองค์ จะมีอักษรตัว ซึ่งคงหมายถึง วัดอาวุธวิกสิตาราม”
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อผงเคลือบ ลงกรุ ลป.จันทร์ วัดศรีเทพ นครพนม ปี 2500 มาเป็นคู่ครับ สภาพสวยครับ ราคาคู่ละ 850 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อผงเคลือบ ลงกรุ พิมพ์สมเด็จลป.จันทร์ วัดศรีเทพ นครพนม ปี 2500 มาเป็นคู่ครับ สภาพสวยครับ ราคาคู่ละ 850 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ รุ่นแรก พิมพ์เล็ก ลป.จันทร์ วัดศรีเทพ ปี 2500 ขนาด 2.1 x 3.3 ซม.สภาพสวยมากครับ ราคา 850 บาท (พระยังอยู่นะครับ เกินกำหนดจองแล้วไม่โอนเงินครับ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กันยายน 2010
  18. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ ลป.จันทร์ วัดศรีเทพ ปี 2500 ขนาด 2.6 x 3.7 ซม.สภาพสวยมากครับ ราคา 1100 บาท

    <!-- THE POST 73 --> <!--coloro:#006400--><!--/coloro-->หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพประดิษฐาราม<!--colorc-->

    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--><!--sizeo:3--><!--/sizeo-->วัดศรีเทพประดิษฐาราม
    จุดกำเนิดพระธรรมยุตินครพนม
    <!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--fonto:Arial--><!--/fonto-->

    <!--fonto:Arial--><!--/fonto--><!--sizeo:3--><!--/sizeo--> <!--coloro:#006400--><!--/coloro-->โดย.......ศักดิ์อำพล<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc--><!--/fontc-->



    <!--fonto:Arial--><!--/fonto--><!--sizeo:3--><!--/sizeo--> <!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->คง ไม่มีใครขัดข้อง ถ้าจะบอกว่า วัดศรีเทพประดิษฐาราม ซึ่งเป็นวัดธรรมยุติ แห่งแรกในจังหวัดนครพนม เรืองรองขึ้นมาพร้อมๆกับเกียรติคุณของสมภารเจ้าวัด<!--colorc--><!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro-->
    นอกจากจะเป็นเจ้าวัดแล้ว พระเทพสิทธาจารย์ ยังเป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นองค์ปฐมกำเนิดธรรมยุตินิกายในเมืองริมโขงแห่งนี้
    ที่สนิทแนบในศรัทธาของคนทั่วไปสุดขีด ท่านเป็นหลวงปู่จันทร์ เขมิโย ของประชาชนทั้งจังหวัด ซึ่งกราบไหว้ได้อย่างเต็มหัวใจอีกด้วย
    <!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--><!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--fontc-->
    <!--/fontc--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> มีผู้บอกว่าท่านคือ หัวใจแห่งศรัทธานิรันดร ของคนนครพนม ที่ไม่เคยเสื่อมคลาย
    ความจริงข้อนี้ปรากฏอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง ซึ่งสามารถพบเห็นได้เสมอ คอของพวกเขามีพระเครื่องหลวงปู่จันทร์คล้องอยู่ และฝาบ้านของพวกเขามีรูปถ่ายหลวงปู่ใส่กรอบบูชา
    นั่นเป็นเรื่องของพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งเคร่งครัดในพระวินัยมาตลอดชีวิต และเมตตาธรรมที่ไม่จางจากใจชาวพุทธทั้งหลาย

    ท่าน คือรูปแบบของพระสงฆ์แท้ ซึ่งเป็นรูปแบบของพระสงฆ์แท้ ซึ่งเป็นรูปแบบใหม่แห่งพระสงฆ์ทั้งมวลในเมืองนครพนมไว้ยึดถือเป็นแบบอย่าง ได้โดยไม่ข
    ัดเขิน


    มีความจริงอยู่ว่า แต่เดิมวัตรปฏิบัติของพระสงฆ์ในจังหวัดนี้ไม่มีอะไรพิเศษเกินไปกว่าอยู่ไป วันๆ ไร้ระเบียบและหย่อนยานพระวินัย
    ไม่อาจบอกได้ว่า ถ้านับถอยหลังตั้งแต่ราวๆพ.ศ.2445 ลงไปจะเป็นเวลาเนิ่นนานเท่าไรสำหรับความผิดแผกไปจากพระวินัยของพระสงฆ์ที่ นี่ได้ดำเนินอยู่ และเป็นอยู่
    พ.ศ.2445 คือปีที่เกิดชั่วโมงประวัติศาสตร์ของพระธรรมยุติกกายสำหรับนครพนม
    <!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล กับพระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ นั่งสนทนากันถึงเรื่องสำคัญยิ่งประการหนึ่ง
    พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล คือ พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากัมมัฏฐาน แห่งวัดเลียบ จังหวัดอุบลราชธานี ลูกศิษย์องค์สำคัญของท่านที่ชาวพุทธ ในประเทศไทยรู้จักดีก็คือ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต แม่ทัพธรรมท่านนั้นนั่นเอง
    พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ คือข้าหลวงประจำจังหวัดนครพนม ก่อนที่จะย้ายมาครองเมืองนี้ พระยาท่านเคยท่านเป็นศิษย์เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราช และเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ เคยรับการฝึกฝนอบรมพระธรรมวินัยมาพอสมควร รู้จักสิ่งควรและไม่ควร ความถูกและผิดเป็นอย่างไร เมื่อเห็นความเป็นไปของพระสงฆ์ในนครพนม ก็เกิดสังเวชในจิตใจ แต่ไม่อาจจะแก้ไขอะไรได้
    <!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> ครั้นพระอาจารย์เสาร์ออกธุดงค์แสวงวิเวก และบำเพ็ญเพียรผ่านมาถึงที่นี่ พระยาท่านจึงรีบเข้าไปกราบนมัสการเรียนชี้แจงความเป็นมาของตัวท่านเอง และความเป็นอยู่เป็นไปของพระสงฆ์นครพนมถวายท่านพระอาจารย์เสาร์ทราบทั้งหมด
    พระอาจารย์เสาร์เมตตาแนะนำให้พระยาท่านคัดเลือกพระและสามเณรที่สมัครใจจะทำ ทัณหิกรรมญัติติเป็นพระภิกษุ และสามเณรธรรมยุติ ส่งไปศึกษากับท่านที่จังหวัดอุบลฯ โดยท่านรับจะอบรมสั่งสอนให้เต็มกำลังสามารถ
    หลวงปู่จันทร์ คือพระหนุ่ม 1 ใน 4 รูป ที่ถูกคัดเลือก และยังมีสามเณรก้นกุฏิหลวงปู่จันทร์อีกองค์ติดตามไปด้วย สามเณรองค์นี้คือ เจ้าพระคุณพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) ในเวลาต่อมานั่นเอง
    นี่คือ จุดกำเนิดพระธรรมยุติกนิกายในจังหวัดนครพนมอย่างแท้จริง และจะนำไปสู่การเริ่มต้นของวัดศรีเทพประดิษฐาราม ในเวลาต่อมาต่อไป
    อีก 4 ปีต่อมา หลวงปู่จันทร์ หรือ พระจันทร์ ในเวลานั้น ก็เดินทางกลับนครพนม พร้อมกับคำอนุญาตให้ท่านเป็นผู้จัดตั้งวงศ์พระธรรมยุติขึ้นที่นี่ ผู้อนุญาตคือ พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ ข้าหลวงต่างพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
    เนื่องจากว่าการสถาปนาพระธรรมยุตินิกายขึ้นที่ใดก็ตามในหัวเมืองไกลจะต้อง ได้รับอนุญาตจากข้าหลวงต่างพระองค์ในมณฑลนั้นๆเสียก่อน
    ผู้ได้รับรสแห่งความยินดีคนแรกในจังหวัดนครพนมควรจะเป็นตัวท่านพระยาสุนทรเทพกิจจารั
    กษ์ นี่เอง

    และ วัดศรีคุณเมือง (ชื่อเดิมของวัดศรีเทพฯ ในขณะนั้น) ก็ถูกเลือกให้เป็นกองบัญชาการและศูนย์กลางแห่งวงศ์พระธรรมยุติ แห่งแรก

    วัดศรีคุณเมือง หรือวัดศรีเทพประดิษฐาราม ในปัจจุบันแต่เดิมแวดล้อมด้วยป่าทึบ กลางวันมืดครึ้มมองไม่เห็นตะวัน แม่เสือโคร่งก็เคยมาปรากฏตัวให้เห็นถึงในวัด
    เล่าสืบต่อกันมาว่า วัดศรีคุณเมือง สร้างขึ้นโดย เจ้าสามเดือน ราชบุตรของพระบรมราชา (มัง) เจ้าเมืองนครพนมในสมัยนั้น
    เวลาสร้างวัดอยู่ในรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่3
    เจ้าสามเดือน เป็นประธานชักชวนไพร่พลเมืองชาวพุทธในนครพนมจัดสร้างวัดนี้ขึ้น ในชั้นแรกมีอาณาเขตวัดประมาณ 4 ไร่เศษ โดยมีเป้าหมายจะให้เป็นวัดอรัญวาสี
    สำหรับภิกษุสามเณรฝ่ายวิปัสสนาธุระ
    เมื่อสร้างวัดเสร็จแล้ว เจ้าสามเดือนได้ปลดปล่อย ทาสของท่านให้เป็นไท และอนุญาตให้บวชเป็นพระที่วัดศรีคุณเมืองได้
    บางทีอาจจะเป็นเงื่อนไขแลกเปลี่ยนอิสรภาพได้เหมือนกัน
    ประวัติของวัดศรีคุณเมืองขาดความชัดเจนและต่อเนื่องในสมัยอรุณรุ่ง คงมีเพียงเรื่องเล่ากันมาเพียงเท่านี้ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าวัดศรีคุณเมืองเกิดร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยใดไม่มีใคร ทราบและจะรกร้างอยู่นานแค่ไหนก็ไม่อาจทราบเช่นกัน
    แต่วัดร้างแห่งนี้กลับพลิกฟื้นขึ้นมาอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่ในสมัยพระเทพสิทธาจารย์ หรือหลวงปู่จันทร์ เดินทางมาถึง
    ขณะที่หลวงปู่จันทร์เข้ามาที่วัดศรีคุณเมือง สภาพวัดทรุดโทรมเต็มที่ คงมีถาวรสถานและสิ่งก่อสร้างเก่าคร่ำคร่าเหลืออยู่เพียงโรงอุโบสถ ทำด้วยไม้ทั้งหลัง และกุฏิพระสงฆ์ผุพังเต็มกลืน 2 หลังเท่านั้น
    เพราะเหตุที่เป็นวัดป่าเปลี่ยวอย่าแท้จริง พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ จึงสั่งให้ย้ายโรงพักตำรวจมาตั้งอยู่ใกล้ๆบริเวณ เข้าใจว่าจะได้คอยอารักขาและปรนนิบัติวัฏฐากพระสงฆ์ที่นี่ไปด้วย บริเวณที่ตั้งโรงพักเข้าใจว่าจะเป็นบริเวณบ้านของนายสันต์ ประสิทธิสา ในปัจจุบันนี้

    งานหนักของพระสงฆ์ชุดแรกที่วัดศรีคุณเมืองคือการพัฒนาวัดร้างกลับคืนมีชีวิต ชีวาอีกครั้ง บรรดาพ่อค้าผู้มีทุนและแรงทุ่มใส่วัดศรีคุณเมืองอย่างพร้อมเพรียง
    อุโบสถหลังใหม่จึงถูกสร้างขึ้นในเวลาไม่ช้า เป็นอาคารปูนแต่โครงสร้างหลังคาทำด้วยไม่และมุงสังกะสี ทรวดทรงแบบฝรั่งเศสที่ตัวอาคาร และมีความเป็นไทยอีสานที่โครงหลังคา สามารถจะประกอบศาสนกิจได้อย่างสะดวก
    ผู้ร่วมงานก่อสร้างที่สำคัญคือ นายซุง สุภา ผู้พิพากษา, ขุน ทิพย์สมบัติ และ แพ่งอัยการ สินเงินก่อสร้าง 1,500 บาท และได้ขยายพื้นที่วัดจาก 4 ไร่เศษไปเป็น 14 ไร่เศษ จนทุกวันนี้
    การพัฒนาวัดในยุคแรกเป็นไปเพื่ออยู่ได้ ทำงานได้ ยังมิใช่วัดอย่างสภาพที่เห็นในปัจจุบัน หลายสิบปีที่วัดป่า ๆ เคลื่อนไหวตัวเองจนกลายเป็นวัดกลางเมืองเจริญ ด้วยกาลเวลามากมายเหล่านั้น วัดศรีคุณเมืองไม่ได้เติบโตขึ้นมาตามลำพัง ถ้าไม่ใช่เพราะบุญบารมีของสมภารเจ้าวัดและศรัทธาของประชาชน วัดศรีคุณเมืองอาจจบประวัติลงที่ใดที่หนึ่งตั้งนานมาแล้ว
    ราว ๆ ปี 2460 วัดศรีคุณเมืองได้เปลี่ยนชื่อใหม่ พระยาสุนทรเทพกิจจารักษ์ เป็นผู้ขอเปลี่ยนเพื่ออนุสรณ์ของตัวพระยาท่าน โดยคงคำว่า”ศรี” เอาไว้ แล้วต่อด้วยคำว่า ”เทพ” ซึ่งเป็นพยางค์หนึ่งของราชทินนามพระยาท่าน และปิดด้วย ”ประดิษฐาราม” เพื่อเป็นความหมายว่าได้จัดตั้งวัดธรรมยุติขึ้นที่จังหวัดนี้
    ทั้งชื่อ ทั้งวัดก็ดำรงมั่นคงมาจนถึงปัจจุบัน
    <!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> <!--sizeo:3--><!--/sizeo-->สิ่งสำคัญภายในวัด<!--sizec--><!--/sizec-->

    1. พระอุโบสถ สร้างขึ้นแทนพระอุโบสถหลังเก่าที่สร้างขึ้นครั้งแรกที่หลวงปู่จันทร์เดินทาง มาถึง พระอุโบสถหลังปัจจุบันนี้ เริ่มสร้างในปีพ.ศ.2480 แล้วเสร็จในปีพ.ศ.2485 เป็นพระอุโบสถทรงไทยประสมอีสาน กว้าง 10 เมตร ยาว 26 เมตร ฐาน เสา และผนังก่ออิฐถือปูน พื้นยกสูงจากจากพื้นดิน 2 เมตร ลาดปูนซีเมนต์ขัดเงา โครงหลังคาทำด้วยไม้ หลังคามุงกระเบื้องดินเผาธรรมดา สิ้นเงินในการก่อสร้าง 15,000 บาท

    2. พระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 49 นิ้ว เดิมเป็นพระประธานอยู่ในพระอุโบสถวัดร้างแห่งหนึ่ง (ไม่ทราบชื่อ) เนื่องจากว่ามีเจ้านายชั้นผู้ใหญ่พระองค์หนึ่งเดินทางมาตรวจราชการหัวเมือง ได้เห็นวัดร้างแห่งนี้มีความเหมาะสมจะทำเป็นที่ประทับ จึงสั่งให้รื้อพระอุโบสถซึ่งชำรุดทรุดโทรมทิ้ง แล้วอัญเชิญพระประธานมาประดิษฐานไว้ที่พระอุโบสถวัดศรีเทพฯ ชาวบ้านเรียกว่า “พระแสง” ไม่มีใครทราบประวัติการสร้าง และสมัยที่สร้างอย่างแน่นอน
    สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ติสโส อ้วน) เคยเดินทางมาตรวจดูและให้ความเห็นว่า น่าจะสร้างสมัยเดียวกับพระเสริม พระใส พระสุก ซึ่งแต่เดิมประดิษฐานอยู่ในเวียงจันทน์ ประเทศลาว เพราะมีประวัติว่า เจ้าอนุวงศ์ เคยอพยพหนีภัยสมัยสงครามไทย-ลาว โดยนำเอาพระแสงและพระสุกลงเรือหนีไปตามลำน้ำโขง แต่เรือลำที่บรรทุกพระสุกเกิดล่มที่อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ไม่สามารถกู้ขึ้นมาได้ ยังปล่อยให้จมอยู่ก้นน้ำโขงจนทุกวันนี้ บริเวณที่พระสุกจมน้ำยังเรียกว่า “เวินพระสุก” อยู่จนทุกวันนี้<!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> ส่วนพระแสงได้ขนย้ายต่อมาจนถึงนครพนม และพระแสงถูกนำไปซ่อนในถ้ำแห่งหนึ่งประวัติพระแสงก็หายไป
    พระเสริมกับพระใสต่อมาถูกอัญเชิญเข้าสู่กรุงเทพฯ และหนองคาย ปัจจุบันพระเสริมอยู่วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ พระใสอยู่วัดโพธิ์ชัย จังหวัดหนองคาย
    ส่วนพระแสงเข้าใจว่าถูกพบทีหลัง และถูกนำมาไว้ที่วัดร้างแห่งนั้นในสมัยหนึ่ง
    พระแสงมีพระเกศทำด้วยทองคำ สามารถถอดออกได้ พระกรรณทั้ง 2 ข้างทำด้วยทองคำ พระศอด้านหน้าทำด้วยทองคำ ริมพระโอษฐ์ทำด้วยทองนาก
    สมัยอยู่วัดร้าง ถูกลักพระเกศไป และถูกหักพระกรรณไปทั้งสองข้าง และที่เห็นเป็นองค์สมบูรณ์ในปัจจุบันนี้เป็นของทำขึ้นใหม่แทนของเก่า โดยการร่วมใจบริจาคทรัพย์ของชาวเมืองนครพนม แต่กระนั้นแม้มาอยู่ที่วัดศรีเทพฯแล้ว ยังถูกกะเทาะเอาทองคำที่พระศอ และทองนากที่พระโอษฐ์ไปอีก จึงต้องทำขึ้นใหม่เป็นครั้งที่ 2

    3. พระพุทธรูปปางห้ามญาติ เดิมอยู่ที่วัดเกาะอัมพวัน อำเภอธาตุพนม เมื่ออยู่ที่วัดเกาะแก้วอัมพวันได้ 2 ปีเกิดฝนแล้ง พวกชาวนาชาวไร่ เข้าใจว่าเพราะพระพุทธรูปองค์นี้ถูกนำมาไว้ที่นี่ตั้งแต่ปี 2494 พอปี 2496 ก็เป็นเหตุวิปริตากมาย
    ถึงกับเล่าลือว่าเวลากลางคืน พระพุทธรูปองค์นี้เที่ยวเดินตามลานวัด หยอกล้อพระเณรให้ตื่นกลางดึก บางคนก็ว่าถ้าเอาพระองค์นี้ไปไว้ใกล้บ่อน้ำ น้ำก็จะแห้งบ่อ บ้างก็ว่าถ้าฝนตกตั้งเค้าก็โบกพระหัตถ์ไล่ฝนไปเสียอีก และมีการขับไล่ส่งนำพระพระพุทธรูปองค์นี้ไปให้พ้นจากเกาะแก้วอัมพวัน
    เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วอัมพวันไม่ได้เส้นตื้นด้วย เลยพลอยโดนกล่าวหาจนเสียหาย
    ความทราบถึงหลวงปู่จันทร์จึงไปขอพระพุทธรูปนั้นมาไว้วัดศรีเทพฯ เพื่อเห็นแก่บาปที่จะเกิดจากการกล่าวจาบจ้วงพระพุทธรูปโดยรู้เท่ามาถึงการณ์
    พระพุทธรูปปางห้ามญาติองค์นี้มาอยู่ที่วัดศรีเทพฯ ตั้งแต่ ปี 2496 และได้พระนามว่า “พระชัย”

    4. กุฏิของหลวงปู่จันทร์ หรือพระเทพสิทธาจารย์ ซึ่งยังคงสภาพดีอยู่จนทุกวันนี้ กุฏิหลังนี้ลงมือก่อสร้าง ปี 2460 แล้วเสร็จในปี 2494 เป็นกุฏิก่ออิฐถือปูนทรงยุโรป

    5. โรงเรียนพระปริยัติธรรม เริ่มสร้างปี 2493 แล้วเสร็จปี 2496 เป็นโรงเรียนพระปริยัติแห่งแรกในจังหวัดนครพนม หลวงปู่จันทร์เป็นผู้จัดตั้งขึ้นโดยประทานตำราครั้งแรกจากเจ้าประคุณสมเด็จ พระมหสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส และเป็นสถานที่ศึกษาพระธรรมวินัยมาจนทุกวันนี้

    6. รูปหล่อหลวงปู่จันทร์ ขนาดเท่าองค์จริง ประดิษฐานอยู่ในศาลาเทพสิทธาคม สร้างขึ้นเมื่อ 2513 แล้วเสร็จปี 2516 ปีเดียวกับหลวงปู่จันทร์มรณภาพ

    7. กำแพงวัดศรีเทพฯ สร้างอย่างวิจิตรสวยงามเป็นพิเศษ ศิลปะประยุกต์รัตนโกสินทร์ ประสมอีสาน สร้างเสร็จในปีเดียว (2497)
    <!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--sizeo:2--><!--/sizeo--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--fonto:Arial--><!--/fonto--> ประวัติย่อของพระเทพสิทธาจารย์ (จันทร์ เขมิโย)
    นามเดิม จันทร์ สุวรรณมาโจ เกิดวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2424 มีพี่น้อง 6 คน
    บรรพชาเป็นสามเณรในปีพ.ศ. 2434 (อายุ 10 ขวบ) ณ วัดโพนแก้ว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
    อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ปี 2444 (อายุ 20 ปี) ณ วัดโพนแก้ว เปลี่ยนญัตติจากมหานิกายเป็นธรรมยุติ ปี 2466 ที่วัดศรีทอง จ.อุบลฯ
    ศึกษา ธรรมบาลี ในสำนักวัดสุปัฏนาราม อุบลราชธานี ศึกษาควบคู่ไปกับกัมมัฏฐานวิปัสสนา โดยพระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล เป็นผู้สอน และมีพระพี่เลี้ยงคอยแนะนำคือ พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ระหว่างปี 2446-2449
    ศึกษาวิชาธรรมวินัย พุทธประวัติฯ ในสำนักวัดเทพสิรินทราวาส และเป็นเจ้าคณะจังหวัดใต้วัดวัดเทพสิรินทราวาส โดยได้รับเมตตาอบรมสั่งสอนจากพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ ญาณวโร) ระหว่างปี 2453-2458
    เคยพำนักที่วัดโพนแก้ว, วัดพระอินทรแปลง นครพนม , วัดเลียบ อุบลฯ วัดเทพสิรินทราวาส กรุงเทพฯ และวัดศรีเทพประดิษฐาราม
    พ.ศ.2453 เป็นเจ้าอาวาสปกครองคณะสงฆ์ธรรมยุติในนครพนม ครั้งที่ 1
    2459-2516 เป็นเจ้าอาวาสปกครองคณะสงฆ์ธรรมยุติ ครั้งที่ 2
    2459-2473 เป็นเจ้าคณะแขวง ปกครองคณะสงฆ์ เขตอำเภอหนองบึก (อำเภอเมืองในปัจจุบัน)
    2464-2516 เป็นพระอุปัชฌาย์ฝ่ายธรรมยุติ
    2473-2477 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดนครพนม
    2476-2494 เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
    2477-2491 เป็นเจ้าคณะจังหวัดนครพนม
    2491-2507 เป็นเจ้าคณะธรรมยุตินครพนม
    2507-2511 เป็นรองคณะภาค 8, 9, 10, 11 ธรรมยุติ รูปที่ 1
    2511-2516 เป็นกิตติมศักดิ์ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8, 9, 10, 11 ธรรมยุติ

    พระเทพสิทธาจารย์ มรณภาพเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ (ศุกร์) พ.ศ.2516 ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุ 92 ปี เป็นสามเณร 10 พรรษา เป็นพระภิกษุ 72 พรรษา รวม 82 พรรษา
    วัน เสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2522 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จฯพระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานเพลิงศพที่วัดศรีเทพประดิษฐาราม ด้วยพระองค์เอง
    <!--fontc-->
    <!--/fontc--><!--colorc-->
    <!--/colorc--><!--sizec--><!--/sizec--> <!--fonto:Arial--><!--/fonto--><!--coloro:#8b0000--><!--/coloro--><!--sizeo:2--><!--/sizeo--> สาธุชนผู้เดินทางผ่านไปแถวนั้นให้แวะชมวัดสำคัญวัดนี้ และนมัสการพระประธานในพระอุโบสถ และ
    รูปหล่อพระเทพสิทธาจารย์ เอาสิริมงคลแก่ตนเถิด.....
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2010
  19. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน สุพรรณบุรี ขนาด 2 x 2.8 ซม.เก่าๆสภาพสวย ราคา 1500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน พิมพ์เส้นลวด ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน สุพรรณบุรี เก่าหนาสวยครับ ขนาด 1.8 x 2.2 ซม.ครับ ราคา 1800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...