*เปียโนพระเครื่อง*ปิดกระทู้นี้ชั่วคราว*ลพ.โหน่ง /กรุวัดชนะสงคราม*

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย prakrueng, 22 กรกฎาคม 2010.

  1. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รับทราบการจองของคุณ technology ครับ พุทโธน้อย แม่ชีบุญเรือน วัดอาวุธ ฐาน อ รุ่นกรุแตก พิมพ์ใหญ่ เนื้อผสมผงปูนเสก หลังยันต์พุทโธ สภาพสวย ราคา 600 บาท
     
  2. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    เหรียญสี่เหลี่ยมใหญ่ รุ่น 2 ลป.เผือก วัดสาลีโข ปี 2514 สภาพเก่าเก็บ ราคา 1200 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน ลพ.พ่วง วัดกก บางขุนเทียน พิมพ์ซุ้มเรือนแก้ว เนื้อสีดินหม้อใหม่ หายาก สภาพสวย ไม่ผ่านการใช้ครับ ราคา 1500 บาท

    ประวัติหลวงพ่อพ่วง วัดกก หรือ พระอุปัชฌาย์พ่วง วัดกก

    “หลวงพ่อพ่วง” เป็นชาว “บางขุนเทียน” เกิดที่ตำบลแสมดำ ทั้งบิดาและมารดาต่างก็ชื่อ “พุ่ม” เช่นกัน นามสกุล “พุ่มพยุง” และจากที่ “หลวงพ่อ” เป็นพระเถระที่สงบเงียบไม่ค่อยพูดจึงไม่มีใครกล้าคุยกับท่านมากนัก เพราะคิดว่าท่านดุแต่โดยแท้จริงท่านเป็นพระที่มี “เมตตามาก” คนใกล้ชิดทราบดี ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ทราบแต่เพียงว่าท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๐๐ และมีน้องชายชื่อ “หลวงพ่อรอด” เพราะหลังจากอุปสมบทแล้วก็ได้รับแต่งตั้งเป็น “เจ้าอาวาสวัดแสมดำ” ชาวบ้านจึงเรียกท่านว่า “หลวงพ่อรอด” ทางด้าน “หลวงพ่อพ่วง” เมื่ออายุครบบวชก็อุปสมบทที่ วัดกก โดยมี “หลวงพ่อวัดหัวกระบือ” เป็นพระอุปัชฌาย์ “หลวงพ่อคง วัดกก” เป็นคู่สวดได้รับฉายาว่า “ธมฺโชติก” หรือ “ธรรมโชติ” หมายถึงผู้ “มีธรรมอันสว่างไสวเข้าใจธรรมได้กระจ่างแจ้ง” หลังจากอุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาทาง “วิปัสสนา” กับ “หลวงพ่อคง” และพระอุปัชฌาย์ของท่านที่ “วัดหัวกระบือ” อยู่หลายพรรษาจึงออก “ธุดงค์” ไปแสวงหาความสงบวิเวกเป็นการทดสอบ “พลังจิต” และฝึกฝนวิชาการต่าง ๆ ที่ได้ศึกษามา
    “นายเยื้อน บุญฟัก” อายุ ๘๑ ปี เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า “คราวหนึ่งคุณแม่ของแกเองชื่อ “นางแปลก” ป่วยหนักจึงนำตัวไปรักษาที่ “บ้านหมอไหม” ย่านบางมดนานหลายวันอาการกลับ “ทรุดลง” ไม่ดีขึ้นเลยวันหนึ่ง “นายเยื้อน” เดินผ่านกุฏิ “หลวงพ่อพ่วง” ท่านเห็นจึงเรียกให้ขึ้นไปหาแล้วบอกว่า “ต้องเปลี่ยนหมอที่รักษาคุณแม่ใหม่แล้วจะหาย ไม่เช่นนั้นแม่แกตายแน่” เมื่อได้ยินเช่นนั้น “นายเยื้อน” รีบไปรับ “คุณแม่” จากบ้าน “หมอไหม” โดยอุ้มลงเรือพาไปหา “หมออ่ำ ปากคลองบางกระแนะ” ซึ่งพอไปถึง “หมออ่ำ” ก็ทำการรักษาไม่นานอาการก็ “ดีขึ้น” กระทั่งหายเป็นปกติตั้งแต่นั้นมา “นายเยื้อน” จึงเพิ่มความเคารพนับถือ “หลวงพ่อพ่วง” มากขึ้นมักบอกใครต่อใครว่า “หลวงพ่อพ่วงท่านแน่จริงไม่ต้องถามอะไรเลย ท่านก็ล่วงรู้ได้แจ่มแจ้งเหมือนตาเห็นแสดงว่าญาณของท่านสูงยิ่งนัก” ต่อมาทางคณะสงฆ์พิจารณาเห็นว่า “หลวงพ่อพ่วง” เป็นพระเถระที่ชาวบ้านเคารพนับถือและมีศีลาจารวัตรดียิ่ง สามารถปกครองพระให้มีระเบียบเรียบร้อย จึงแต่งตั้งให้เป็น “พระอุปัชฌาย์พ่วง” เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๐ ซึ่ง ขณะนั้นท่านมีพรรษาได้เพียง ๒๐ พรรษาเท่านั้นเพราะสมัยนั้น “พระอุปัชฌาย์” มิใช่จะตั้งกันได้ง่าย ๆ เพราะช่วงนั้น “บางขุนเทียน” มีเพียงรูปเดียวคือ “หลวงปู่เอี่ยม” หรือ “เจ้าคุณเฒ่าวัดหนัง” ต่อมาจึงมี “หลวงพ่อพ่วง” เพิ่มอีกเป็น ๒ รูป ดังนั้นสมัยที่ “หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง” ทำการบวชก็มี “หลวงพ่อ” เป็นพระกรรมวาจาจารย์และหลังบวชแล้ว ก็ได้ศึกษาทางด้านวิปัสสนาและพุทธาคมจาก “หลวงพ่อพ่วง วัดกก”
    อีกเรื่องที่ต้องเล่าให้ฟังคือ “พระอรุณ อรุโณ” สมัยเด็กก็บวชอยู่ที่ “วัดกก” จึงได้เป็น “ลูกศิษย์” ของ “หลวงพ่อพ่วง” เล่าว่า “หลวงพ่อพ่วงเป็น พระที่เคร่งมาก ไม่เคยจับเงินเลย ใครถวายท่านก็ให้ศิษย์เก็บเอาไว้ไม่แตะต้องทั้งสิ้น มีอยู่ครั้งหนึ่งท่านไปสวดมนต์ฉันเพลที่บ้านญาติโยมซึ่งเอาเรือมารับ พอท่านลงจากกุฏิไปแล้วลูกศิษย์ก็ออกจากกุฏิใส่กุญแจ ซึ่งกุญแจนั้นสามารถกดเข้าไปก็ล็อกได้แต่วันนั้นเมื่อล็อกแล้ว ปรากฏว่าลืมลูกกุญแจไว้ในกุฏิ ดังนั้นเมื่อ “หลวงพ่อพ่วง” กลับจากกิจนิมนต์จึงเข้ากุฏิไม่ได้แต่ท่านก็มิได้ว่ากล่าวใด ๆ สั่งให้ลูกศิษย์ไปหิ้วของที่ท่าน้ำครั้นลูกศิษย์กลับมาก็พบว่า “หลวงพ่อ” เข้าไปอยู่ในกุฏิแล้วโดยที่ประตูกุฏิยังคงปิดอยู่เช่นเดิม ซึ่งเรื่องนี้สร้างความสงสัยให้กับ “พระอรุณ อรุโณ” เป็นอย่างยิ่งแต่ก็ไม่กล้าถามเพราะทราบดีอยู่ก่อนแล้วว่า “หลวงพ่อ” มีวิชาอาคมเข้มขลัง อีกเรื่อง “หลวงพ่อน้อม” อดีตเจ้าอาวาสวัดกกเล่าให้ผู้คนฟังขณะ หลวงพ่อพ่วง สร้าง “พระเนื้อดิน” ในปี พ.ศ. ๒๔๗๓ นั้น “นายจง พึ่งพรหม” ซึ่งเป็นช่างแกะแม่พิมพ์เดินผ่านมาหลวงพ่อจึงเรียกแล้วบอกว่า “ให้ไปดู นายตู้ พึ่งพรหม น้องชายที่บ้านซิว่ายังอยู่ดีหรือ” นายจงได้ยินจึงรีบไปดูปรากฏว่า “นายตู้” ผู้น้องชายกำลังเจ็บไข้ไม่สบายจึงกลับมาบอกหลวงพ่อซึ่งท่านก็ไม่ว่ากระไรแต่ พอวันรุ่งขึ้น “นายตู้” ก็เสียชีวิต “หลวงพ่อ” จึงได้แต่บอกว่า “เขาหมดอายุแล้ว” ซึ่งเรื่องนี้ “หลวงพ่อน้อม” เล่าว่าได้ยินมากับหูของท่านเองจึงแสดงว่า “หลวงพ่อพ่วง” มีญาณวิเศษหยั่งรู้กาลชะตาของคนอื่นได้เหมือนตาเห็นนอกจากนี้ “พระอรุณ อรุโณ” ยังพูดถึงมงคลวัตถุของหลวงพ่อพ่วงว่า “พระเนื้อดินเผา” ของ หลวงพ่อพ่วง วัดกก มีพุทธคุณเยี่ยมมีคนได้รับประสบการณ์กันมากมายนับไม่ถ้วน
    “คุณปู่เยื้อน บุญฟัก” เป็นอีกผู้หนึ่งที่รู้เห็นเรื่องอภินิหารของ “หลวงพ่อพ่วง วัดกก” โดยได้เล่าให้ผู้ใกล้ชิดฟังว่า “คราวหนึ่งหลวงพ่อพ่วง” ไปงานสวดสดับปกรณ์ครั้นสวดจบในหลวง “รัชกาลที่ ๕” ทรงถวายเงินที่ห่อด้วยผ้าให้ท่านโดยที่ หลวงพ่อพ่วง ไม่รู้ว่าในห่อผ้านั้นเป็นเงินจึงไปหยิบ แต่เมื่อมารู้ภายหลังท่านรีบยกเงินห่อนั้นให้ “ปู่เยื้อน” ซึ่งขณะนั้นยังเป็นเด็กและคอยติดตามหลวงพ่อไปในทุกงานรับกิจนิมนต์ พร้อมทั้งยกย่องหลวงพ่อว่าเป็นผู้ไม่ติดในโทสะ เพราะท่านไม่เคยโกรธหรือดุด่าว่าใครแต่ท่านมีตบะแรงกล้าคนเห็นจึงเกรงกลัว แม้แต่รสอาหารท่านก็ไม่หลงเพราะตลอดชีวิตสมณะของท่านเอาแต่ “ฉันเจ” กระทั่งมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งคุณงามความดีและพระเครื่องอันเข้มขลังไว้ช่วยเหลือผู้ เลื่อมใสศรัทธาต่อไป จึงนับเป็นโอกาสอันดียิ่งของท่านผู้อ่านที่สนใจมี “ของดี” ขณะที่ยังไม่มีใครสนใจราคาก็ไม่สูง แต่วันข้างหน้าหลังจาก “เหนือลิขิต ประกาศิตฟ้าดิน” ตรงนี้นำเสนอแล้วราคาจะเป็นอย่างไรก็ไม่ทราบได้เช่นกัน.
    'แฉ่ง บางกระเบา' ที่มา...[​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. JUNYAPORN37

    JUNYAPORN37 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +607

    #704 ปิดรายการนี้ค่ะ :cool:
     
  5. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ปิดตา เนื้อดินผสมผง หลังจารย์เปียก ลป.ทอง วัดราชโยธา เก่าๆ ขนาดองค์พระ 1.5 x 2 ซม.ครับ ราคา 1000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รับทราบการจองของคุณ junyaporn37 ครับ รายการที่ #708 นะครับ
    สมเด็จ ยันต์ข้าง เนื้อดินผสมผง หลังจารย์เปียก ลป.ทอง วัดราชโยธา หายาก น่าเก็บสะสมครับ ราคา 850 บาท
     
  7. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รูปเหมือน เนื้อว่าน ลป.พรหมมา เขมจาโร สำนักสวนหินผานางคอย อุบลราชธานี รุ่นไตรมาส 96 ปี 2537 สภาพสวย ราคา 350 บาท

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เป็นคนบ้านกุษกร ต.กุษกร อ.ตระการพืชผล เกิดเมื่อพ.ศ.2440<o></o>
    บวชเป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต<o></o><o></o>
    หลังจากนั้นคณะพระธุดงค์ก็แยกย้ายกันไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนา หาวิเวกกันต่อไป ส่วนหลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย<o></o><o></o>
    เมื่อปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯมานมัสการหลวงปู่พรหมมาถึง 2 ครั้งโดยก่อนจะมรณภาพหลวงปู่ได้ดูแลชาวบ้านดงนาและใกล้เคียงเพื่อพัฒนาในบางส่วน ให้เรียบร้อยสวยงามโดยเน้นการรักษาป่าสงวนฯ<o></o><o></o>
    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำสวนหินแก้ว ( ผานางคอย ) ภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจเมื่อเวลา 22 นาฬิกา 11 นาที 31 วินาที ของวันที่ 23 ส.ค.2545 สิริอายุ105 ปี โดยมรณภาพ ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย[FONT=&quot]<o></o>[/FONT]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2010
  8. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    รูปเหมือน เนื้อว่าน ลป.พรหมมา เขมจาโร สำนักสวนหินผานางคอย อุบลราชธานี รุ่นสร้างโบสถ์ ปี 2538 สภาพสวย กล่องเดิมราคา 350 บาท

    หลวงปู่พรหมมา เขมจาโร เป็นคนบ้านกุษกร ต.กุษกร อ.ตระการพืชผล เกิดเมื่อพ.ศ.2440<o></o>
    บวช เป็นสามเณรเมื่ออายุ12 ปี จากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัยและวิชากับสมเด็จลุน ที่เวินชัยนคร จำปาศักดิ์ นานถึง 6 พรรษา หลังจากที่สมเด็จลุนได้มรณภาพลง หลวงปู่พรหมมาก็ได้ร่วมเดินธุดงค์พร้อมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต<o></o><o></o>
    หลัง จากนั้นคณะพระธุดงค์ก็แยกย้ายกันไปหาสถานที่อันสงบเงียบบำเพ็ญภาวนา หาวิเวกกันต่อไป ส่วนหลวงปู่พรหมมาได้จำพรรษาที่ถ้ำแห่งหนึ่งบนยอดภูเขาควายนานถึง 45 พรรษา ต่อมาได้ธุดงค์ข้ามมายังฝั่งไทย<o></o><o></o>
    เมื่อ ปีพ.ศ.2533 หลวงปู่พรหมมาได้เห็นว่าถ้ำสวนหิน ภูกระเจียว ในวันเดือนหงายจะมีสัตว์ป่านานาชนิดวิ่งกันขวักไขว่ จึงได้พักบำเพ็ญเพียรแต่นั้นมา ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เคยเสด็จฯมานมัสการหลวงปู่พรหมมาถึง 2 ครั้งโดยก่อนจะมรณภาพหลวงปู่ได้ดูแลชาวบ้านดงนาและใกล้เคียงเพื่อพัฒนาในบางส่วน ให้เรียบร้อยสวยงามโดยเน้นการรักษาป่าสงวนฯ<o></o><o></o>
    หลวง ปู่พรหมมา เขมจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำสวนหินแก้ว ( ผานางคอย ) ภูกระเจียว บ้านดงนา อ.ศรีเมืองใหม่ จ.อุบลราชธานี ได้มรณภาพอย่างสงบด้วยโรคหัวใจเมื่อเวลา 22 นาฬิกา 11 นาที 31 วินาที ของวันที่ 23 ส.ค.2545 สิริอายุ105 ปี โดยมรณภาพ ณ วัดธาตุวราราม จ.เลย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2010
  9. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ พิมพ์ใหญ่ กรุวัดชนะสงคราม สุดยอดหายาก สภาพสวย ราคา 4500 บาท

    พระสมเด็จ กรุวัดชนะสงคราม พบเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2515 ที่ใต้ฐานชุกชีพระประธาน พระอัครสาวก พระมหากัจจายน์ และ พระเรียง รวม 19 องค์ ในคราวบูรณะปฏิสังขรณ์พระประธาน อยู่ลึกใต้ฐานพระลงไปประมาณศอกเศษ

    ในคราวนั้นเป็นวันที่ใกล้เทศกาลเทศน์มหาชาติที่ทางวัดดำเนินการจัดการเทศน์ ในทุกๆปี ท่านพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าอาวาสได้กล่าวว่า “พระที่ขุดได้นี้แจกแก่เจ้าของกัณฑ์เทศน์ และผู้มาร่วมฟังเทศน์ทั้งสองวัน ไม่ต้องหาอะไรอีกละ นี่แหละวิเศษนัก” พวกพระต่างก้อไม่ได้ประกาศหรือบอกญาติโยมที่ได้รับแจกว่าเป็นพระอะไร มาจากไหน แม้นจะมีญาติโยมหลายคนถามว่า.. ปีนี้ท่านเจ้าคุณแจกพระอะไรไม่เห็นสวยเลย พระที่แจกอกไปคราวแรกนี้มีประมาณ 1 พันองค์เศษ

    หลังจากงานเทศน์มหาชาติเสร็จสิ้นลง ในคืนวันที่ 2 กันยายน 2515 เวลาประมาณ 21.00 น. ท่านพระครูโฆษิต (แจ่ม) วัดพระเชตุพนฯ พร้อมพระติดตามและลูกศิษย์ได้มาพบท่านเจ้าอาวาส แล้วเรียนว่า “ท่านพระมงคลทิพย์มุนี (หลวงพ่อเมี้ยน) บอกว่ามีคนได้รับแจกพระสมเด็จกรุนี้ไป แล้วนำไปให้ท่านดู หลวงพ่อเมี้ยนจับดูแล้วบอกว่า มีอานุภาพมาก เป็นพระเก่า ท่านเจ้าคุณเทพฯ วัดชนะสงครามไม่น่าจะเอามาแจกฟรีๆ เสียหมด ควรจะนำออกให้ประชาชนบูชาหาทุนมาพัฒนาวัด”

    วันที่ 3 กันยายน 2515 พระเดชพระคุณท่านเจ้าอาวาสถูกรบกวนจนไม่เป็นอันต้องทำอ่างอื่นเลย ตั้งแต่เช้ายังไม่สว่างดี บรรดาพวก ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนต่างมารอขอรับแจกพระชุดนี้ แม้นทางวดจะปิดข่าวอย่างไรก็ปิดไม่ไหว เนื่องจากบรรดาผู้ที่ได้รับแจกในงานเทศน์มหาชาตินั้นได้นำไปอวดกันนั่นเอง พระได้ถูกบูชาเกลี้ยงวัด ในเวลาอันไม่ นานนัก

    พุทธคุณ
    เท่าที่ได้ฟังจากปากคำของผ้ที่ได้บูชาพระชุดนี้ไป มีคุณวิเศษ ทางด้านเมตตามหานิยม และสม ปราถนา ผู้มารับพระบางส่วนวนเวียนมาบูชาไปท่านละหลายๆองค์ บางท่านบูชาไปสิบองค์ก็มี

    จำนวนพระ
    เมื่อคัดเลือกพระองค์ที่สมบรูณ์ ได้พระพิมพ์ใหญ่ 2000 องค์พิมพ์เล็กสามชั้น 1000 องค์ พิมพ์เล็กจิ๋ว 200 องค์เศษๆ นอกนั้นชำรุดแตกหักเสียหาย เพราะติดกันเป็นกลุ่มก้อน

    พระกรุนี้ นักสะสมนักเล่นพระหลายท่าน ให้ข้อสันนิษฐานว่า จากการสังเกตพิมพ์ ดูเนื้อ ดูลักษณะต่างๆ ตลอกจนสิ่งแวดล้อม สถานที่ น่าจะเป็นพระพิมพ์ที่สร้างในยุค สมเด็จสังฆราชไก่เถื่อน หรือก่อนนั้น ส่วนผู้เขียนไม่ทราบจะสันนิษฐานว่าสร้างในสมัยใด ใครสร้าง สุดแล้วแต่ผู้สนใจจะสันนิษฐาน

    อ้างอิงบทความจาก หนังสือประวัติพระวัดชนะสงคราม พระมหาเฉลิมชัย วัดชนะสงคราม พิมพ์เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2515
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ประวัติหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
    (พระสุนทรธรรมากร )
    เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
    [​IMG]
    คัดลอกจาก http://www.geocities.com/thatmahachai/info/abbot.htm
    พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ) อายุ ๘๙ พรรษา ๕๙ (พ.ศ.๒๕๔๖) เจ้าอาวาสวัดธาตุมหาชัย บ้านมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม
    สถานะเดิม
    ชื่อ คำพันธ์ ศรีสุวงค์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๕๘ โยมบิดาชื่อ นายเคน ศรีสุวงค์ โยมมารดาชื่อ นางล้อม ศรีสุวงค์ เป็นบุตรคนโต มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน ๒ คน คือ
    ๑. พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมากร (คำพันธ์ ศรีสุวงค์)
    ๒. นายพวง ศรีสุวงค์ (ถึงแก่กรรม)
    และมีน้องร่วมมารดา แต่ต่างบิดากันอีก ๔ คน คือ
    ๑. นางสด วงษ์ผาบุตร (ถึงแก่กรรม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๗)
    ๒. ด.ช.บด แสนสุภา (ถึงแก่กรรม)
    ๓. ด.ญ.สวย แสนสุภา (ถึงแก่กรรม)
    ๔. นางกดชา เสนาช่วย (ถึงแก่กรรม)
    การบรรพชา-อุปสมบท
    วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ปี) ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากได้บรรพชาแล้วก็ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ ในขณะเดียวกันก็ได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐานควบคู่ไปด้วย หลังจากบรรพชาได้ ๓ พรรษา ได้ออกเดินธุดงค์ทรงกรดไปที่จังหวัดเลย พร้อมกับพระภิกษุ ๒ รูป คือ พระภิกษุบุญ และพระภิกษุวัน ได้พบกับชีปะขาวคนหนึ่งชื่อว่าครุฑ ได้ศึกษาแนวทางการปฎิบัติจากชีปะขาวอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนหน้าที่จะได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานนั้น เคยได้รับความรู้เรื่องกัมมัฏฐานมาจาก พระอาจารย์เสาร์ ซึ่งท่านไปอบรมประชาชนที่วัดโพนเมือง ท่านอาจารย์เสาร์ให้แนวทางในการ ปฏิบัติกรรมฐานไว้ว่า ให้กำหนดลมหายใจออก ท่านอาจารย์เสาร์ได้ให้ข้อคิดต่อ ไปอีกว่า “ร่างกายของคนเรานั้น เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง มันทำงานอยู่ตลอดเวลา ลมหายใจเข้า-ออกนั้น มีความสำคัญมาก ถ้าลมไม่ทำงานคนเราจะตายทันที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดลมหายใจ” นอกจากนั้นท่านอาจารย์เสาร์ยังได้ย้ำอีกว่า “ให้คนเราตีกลองคือขันธ์ ๕ ให้แตก” ซึ่งก็หมาย ความว่า ท่านให้ทำความเข้าใจขันธ์ ๕ ให้จงดีให้เข้าใจตามสภาพที่เป็นจริง........
    หลวงปู่ได้ศึกษาภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติกับหลวงปู่เสาร์ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่คำพันธ์ ก็ได้นำเอาแนวทางการปฎิบัติของอาจารย์ทั้ง 2 มาเป็นแนวทางปฎิบัติกัมมัฎฐาน
    หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่จังหวัดเลยเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นได้เดินธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงรายประมาณ 3-4 เดือน โยมบิดาได้เสียชีวิตลง หลวงปู่จึงได้เดินทางกลับมาทำบุญงานศพบิดา และได้เดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆในเขตจังหวัดนครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองคายและข้ามไปฝั่งลาวประมาณ 3-4 เดือน แต่ไม่ได้จำพรรษา แต่กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านเดิมอยู่ประมาณ 3 ปี และญาติโยชาวบ้านก็นิมนต์ท่านให้เข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเพื่อโปรดญาติ โยมชาวบ้านบ้าง หลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ก็ออกเดินธุดงค์ต่อ จนอายุถึง 40 ปี จึงหยุดเดินธุดงค์ แต่ก็พยายามศึกษาปฎิบัติธรรมกัมมัฎฐานมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
    พ.ศ. ๒๔๗๘ อายุ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และเริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม
    พ.ศ. ๒๔๘๒ อายุ ๒๔ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรม เวลานั้นเหลือน้องผู้หญิง ๒ คน ซึ่งยังเล็กมาก จึงได้ลาสิกขาบทออกไปเลี้ยงดูน้อง
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี ได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกไปจำพรรษาที่วัดป่า เป็นเวลา ๓ พรรษา
    ต่อมาก็ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานพร้อมเป็นครูสอน พระปริยัติธรรมด้วยที่วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้นำญาติโยมประมาณ ๕ ครอบครัว จากบ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก มาสร้างบ้านและวัดใหม่ ที่โนนมหาชัย และให้ชื่อบ้านว่า “บ้านมหาชัย” ในปัจจุบันนี้ ได้สร้างวัดธาตุมหาชัย (เดิมชื่อวัดโฆษการาม) จนเจริญรุ่งเรืองตราบถึงปัจจุบัน
    การศึกษา
    พ.ศ. ๒๔๗๙ อายุ ๒๒ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๙ อายุ ๓๑ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    เมื่อหลวงปู่สอบได้นักธรรมเอกได้แล้ว หลวงปู่ก็ได้พยายามศึกษาพิเศษ เช่น เรียนหนังสืออักษรธรรม อักษรขอมได้เป้นอย่างดี และยังทรงพระปาฎิโมกข์ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
    งานการศึกษาพระปริยัติธรรม
    [​IMG]พ.ศ. ๒๕๓๒ หลวงปู่ได้ตั้งสำนักเรียนวัดพระธาตุมหาชัย ทั้งแผนกธรรม-บาลีขึ้นจนสามารถมีลูกศิษย์สอบนักธรรม ได้เป็นจำนวนมากเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี และมีลูกศิษย์สามารถสอบเปรียญธรรมได้ทุกปี ปีละหลายๆ รูป ทำให้การศึกษาแผนกธรรมบาลีอำเภอปลาปากดีขึ้นตามลำดับ
    พ.ศ. ๒๕๓๔ หลวงปู่ได้จัดตั้งทุนมูลนิธิการศึกษาพระปริยัตธรรม แผนกธรรม-บาลีขึ้นที่วัดธาตุมหาชัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เพื่อส่งเสริมและมอบทุนการศึกษาให้แก่พระภิกษุ สามเณร ที่มีความรู้ความสามารถสอบนักธรรมชั้นตรี โท เอก ได้ และสามารถสอบเปรียญธรรมได้
    หลวงปู่ยังให้ทุนการศึกษาแก่ลูกศิษย์ที่ไปเรียนต่ออีกด้วย งานการศึกษาสงเคราะห์
    พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่ได้จัดตั้งกองทุนมูลนิธิการศึกษาให้แก่นักเรียนที่ยากจน ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ในเขตอำเภอปลาปาก และทุกอำเภอในเขต จังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 10 เดือนมกราคมของทุกๆ ปี หลวงปู่คำพันธ์จะมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนทุกอำเภอๆ ละ 9 ทุน และมอบทุนให้เป็นค่าอาหารกลางวันให้แก่โรงเรียนต่างๆ ด้วย
    พ.ศ. ๒๕๓๕ หลวงปู่คำพันธ์ได้สร้างโรงเรียนมัธยมขึ้นที่บ้านนกเหาะ ตำบลโคกสูง อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนมตั้งชื่อโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ว่า ธรรมโฆษิตวิทยา มีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นทุกๆ ปี และหลวงปู่คำพันธ์ยังได้เป็นผู้ อุปถัมภ์โรงเรียนแห่งนี้มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
    พ.ศ. ๒๕๓๘ หลวงปู่คำพันธ์ได้ขออนุญาตสร้างโรงเรียนสุนทรธรรมากรและในปัจจุบันนี้ทาง ราชการได้เปลี่ยนใหม่ให้ชื่อว่า โรงเรียนมัธยมมหาชัยธรรมากร เพราะตั้งอยู่ ที่บ้านโนนศรีชมภูทางแยกเข้ามาบ้านมหาชัยหลวงปู่ก็ให้การอุปถัมภ์ในทุก วันนี้และได้จัดบรรพชา สาเณรภาคฤดูร้อนเป็นประจำ
    งานการเผยแพร่
    พ.ศ. ๒๕๓๒ หลวงปู่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าหน่วยพระธรรมฑูตฝ่ายกำกับการพระธรรมฑูตอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๓๓ หลวงปู่ได้ร่วมมือกับคณะสงฆ์และทางราชการออกไปอบรมประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ในเขตการปกครอง และร่วมกับหน่วยงานของราชการทุกหน่วยงานออกไปอบรมตามโครงการหมู่บ้านแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองของอำเภอปลาปากและยังได้ติดตาม พระธรรมฑูตจากส่วนกลางออกเยี่ยมเยียนประชาชนในเขต อำเภอปลาปากโดยสม่ำเสมอมาตลอดทุกปี
    ตำแหน่งงานปกครอง
    พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นเจ้าอาวาสวัดโฆษการาม (วัดธาตุมหาชัย ในปัจจุบัน)
    พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นเจ้าคณะตำบลมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๑๘ เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นพระอุปัชฌาย์
    พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา ธรรม-บาลี
    พ.ศ. ๒๕๓๑ เป็นเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๕๔๓ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปลาปาก
    สมณศักดิ์
    พ.ศ. ๒๕๑๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๒๐ พระครูสัญญาบัตรชั้นโท ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๒๘ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ที่ “พระครูสุนทรธรรมโฆษิต”
    พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชาคณะ ชั้นสามัญ ราชทินนาม “พระสุนทรธรรมากร”
    งานสาธารณูปการ
    พ.ศ. ๒๔๙๒ เป็นประธานสร้างอุโบสถ วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    พ.ศ. ๒๔๙๔ เป็นประธานสร้างหอระฆัง วัดพระพุทธบาทจอมทอง
    พ.ศ. ๒๔๙๕ หลวงปู่ได้นำญาติโยมชาวบ้านหนองหอยที่พากันติดตามหลวงปู่มาได้สร้างวัดขึ้นที่หมู่บ้านมหาชัย ใช้ชื่อวัดว่า วัดโฆษการาม บ้านมหาชัย ตำบลมหาชัย อำเภอปลาปาก
    พ.ศ. ๒๔๙๘ เป็นประธานนำชาวบ้านมหาชัยสร้างวัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๐๐ เป็นประธานสร้างพระคู่บ้านมหาชัย “พระพุทธศักดิ์สิทธิ์”
    พ.ศ. ๒๕๑๔ หลวงปู่ได้เป็นประธานนำญาติโยมชาวบ้านมหาชัยสร้างธาตุขึ้นภายในวัดซึ่งมีลักษณะ ทรงแปดเหลี่ยม สูง 15 เมตร ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถเสด็จมาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุด้วยพระองค์เอง
    พ.ศ. ๒๕๒๐ เป็นประธานสร้างอุโบสถ วัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๒๔ เป็นประธานสร้างกำแพงล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นประธานสร้างกุฏิสงฆ์
    พ.ศ. ๒๕๒๗ เป็นประธานสร้างวัดป่ามหาชัย (อรัญญคาม) และในปีเดียวกันนั้นเองหลวงปู่ได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้นำพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานไว้ที่หน้าพระอุโบสถวัดโฆษการาม
    พ.ศ. ๒๕๒๘ เป็นประธานสร้างกุฏิสงฆ์หลังใหม่อีกหลังหนึ่ง และหลวงปู่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนชื่อวัดโฆษการามเป็นวัดธาตุมหาชัย จนถึงปัจจุบัน และในปีเดียวกันนั้นหลวงปู่ได้เป็นประธานสร้างศาลาการเปรียญ-หอสมุดภายในวัด
    พ.ศ. ๒๕๒๙ หลวงปู่ได้สร้างหอพระไตรปิฎก หอระฆัง
    พ.ศ. ๒๕๓๔ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “โรงเรียนธรรมโฆษิตวิทยา”
    พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “ โรงเรียนธรรมากรวิทยา”
    พ.ศ. ๒๕๓๖ เป็นประธานสร้างพระธาตุมหาชัยครอบองค์เดิม
    พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นประธานสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ ณ วัดส้างพระอินทร์ “พระพุทธการุณ”
    พ.ศ. ๒๕๓๗ เป็นประธานสร้างโรงเรียนมัธยม “โรงเรียนมหาชัยวิทยาคม”
    พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นประธานสร้างตึกผู้ป่วย โรงพยาบาลปลาปาก
    ลักษณะนิสัยทั่วไป
    พระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นพระมหาเถระ ที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เยือกเย็น มีความเมตตา กรุณาต่อศิษย์ ตลอดถึงญาติโยมทุกคนที่เข้าหาท่าน ใครก็ตามที่มีปัญหา หรือมีความทุกข์เข้าหาท่าน จะได้รับการต้อนรับจากท่านอย่างดียิ่ง เสมอกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อครูบาอาจารย์ และพระเถระที่อาวุโสกว่า หลวงปู่จะแสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ โดยไม่เคยจะแสดงอาการ แข็งกระด้างใดๆเลย ด้วยเหตุนี้หลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของ ศิษยานุศิษย์และญาติโยมโดย ทั่วไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว หลวงปู่ก็ยังเป็นพระเถระที่มีความตั้งใจมั่นคง หนักแน่นอีกด้วย
    จะเห็นได้จากการที่ท่านตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้ว จะต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ คงเป็นเพราะ ความตั้งใจจริงและความตั้งใจมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลวงปู่ทำสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี และรวดเร็ว เกิน ความคาดหมายทุกประการ ตัวอย่างเช่น พระธาตุมหาชัย, อุโบสถวัดธาตุมหาชัย, กำแพง ล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย และกุฏิสงฆ์หลังใหม่ ๒ หลัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละอย่างล้วน แต่ใช้ค่าก่อ สร้างจำนวนมากทั้งสิ้น เมื่อญาติโยมที่มีความเคารพนับถือในตัวหลวงปู่ทราบ ต่างก็มีจิตศรัทธา ช่วย กันสละกำลังทรัพย์มาช่วยในรูปของกฐินบ้าง ผ้าป่าบ้าง จนงานก่อสร้างดัง กล่าวสำเร็จรวดเร็วเกินคาด อีกประการหนึ่ง โดยอุปนิสัยแล้ว หลวงปู่ท่านถือการ ปฏิบัติกัมมัฏฐานเป็นประจำนับตั้ง แต่อุปสมบทพรรษาแรก จนกระทั่งมรณภาพ
    มรณภาพ
    พระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ) ได้มรณภาพลงดัวยอาการอันสงบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2546 เวลาประมาณ 02.00 น. ที่วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุ 88 ปี 71 พรรษา

    รูปเหมือนและพระพุทธ รุ่นปฐวีธาตุ ลป.คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม ปี 2536 กล่องเดิม ราคาองค์ละ 400 บาท ถ้ารับเป็นคู่ๆละ 700 บาท มีหลายองค์ครับ


    รับทราบการจองของตุณ wn ครับ จำนวน 2 คู่ครับ ขอบคุณครับ





     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 22.jpg
      22.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.8 KB
      เปิดดู:
      31
    • 24.jpg
      24.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137.5 KB
      เปิดดู:
      37
    • 27.jpg
      27.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.3 KB
      เปิดดู:
      43
    • 44.jpg
      44.jpg
      ขนาดไฟล์:
      130.9 KB
      เปิดดู:
      89
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2010
  11. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    แหนบลงยา 9 สมเด็จ พระวันรัต สภาพใช้ ลพ.มุ่ย วัดดอนไร่ปลุกเสกครับ ราคา 900 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ลีลา เนื้อดิน ลพ.โหน่ง วัดคลองมะดัน สภาพสวย ขนาด 1.8 x 4.2 ซม.ครับ ราคา 1500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อผงผสมใบลาน ลงกรุ ลพ.ขำ วัดแก้ว บางพรหม ตลิ่งชัน พระเกจิเก่ายุคอินโดจีน ที่ชาวฝั่งธน รู้จักท่านดี พระท่านมีหมุนเวียนน้อยมาก หายากโดยเฉพาะองค์นี้เนื้อใบลาน พิมพ์สองหน้าครับ ขนาด 1.5 x 2.2 ซม.ครับ ราคา 2000 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    เหรียญหล่อโบราณ พระประจำวัน ปางวันอาทิตย์ ลพ.กึ๋น วัดดอน ยานนาวา ปี 248 กว่าๆ หายาก สภาพสวยครับ ราคา 1500 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จจิ๋ว รุ่นเสาร์ 5 ลพ.โอด วัดจันเสน ปี 2526 จำนวนสร้างเพียง 10000 องค์ ประสพการณ์มากมาย นิยม หายากครับ องค์พระขนาด 2 x 2.7 ซม.เล็กกระทัดรัดดี สภาพสวย สร้างจากผงอิทธิเจ ผงเกสร ลพ.โอด วัดจันเสนครับ ราคา 950 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    ขุนแผน รุ่นแรกหลังฝังเสือ ลพ.สายทอง วัดพรหมนิวาส อยุธยา พระดีสายลป.เทียม วัดกษัตราธิราชและลป.สี วัดสะแกครับ สภาพสวย มี 2 องค์ครับ ราคาองค์ละ 400 บาท

    ปิดองค์แรกครับ เหลืออีกองค์เดียว องค์ที่ 2 ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2010
  17. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    สมเด็จ พิมพ์เจดีย์ สวย กรุวัดดักคะนน ชัยนาท พระดีที่คนลืมครับ ราคา 850 บาท เนื้อหาดูง่ายๆ จุดดำๆทั่วไปคือเมล็ดกล้วยบดคลุกเคล้ากันอยู่ในเนื้อ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ พระชุดนี้ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระเนื้อดิน พิมพ์สมาธินั่งบัว ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา ปี 2485 หายาก สภาพสวยครับ ราคา 1300 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    พระหูยาน ปืนแตก วัดราชบพิธ ปี 2514 พระรุ่นนี้มีประสพการณ์มาแล้วมากมายครับ ขนาดองค์พระ 1.5 x 3.7 ซม.ครับ ราคา 1000 บาท

    พระพิมพ์หูยานลพบุรี โดยสร้างล้อพิมพ์จากพระหูยานศิลปะลพบุรี โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่มีความสวยงามขนาดพอเหมาะคือไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกิน ไป <o></o>
    ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ [FONT=&quot]“จ.ป.ร.[FONT=&quot]”[/FONT] จัดสร้างเป็น ๒ เนื้อ นวโลหะ และ เนื้อทองแดง ออกแบบและแกะแม่พิมพ์โดย นายช่างเกษม มงคลเจริญ<o></o>[/FONT]
    การจัดสร้างวัตถุมงคลฉลอง ๑๐๐ ปีของวัดราชบพิธฯครั้งนั้น มีความพิถีพิถันมากโดยกำชับให้ช่างทำการเจือ [FONT=&quot]“เนื้อโลหะ[FONT=&quot]”[/FONT] ทั้งหมดที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช<o></o>[/FONT]
    ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯเททองวัตถุมงคลเป็นปฐมฤกษ์ ผสมกับแผ่นยันต์ลงอักขระของบรรดา คณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศ ๑๐๘รูป<o></o>
    พร้อมทั้งชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ทุกรุ่นของวัดราชบพิธฯลงในวัตถุมงคลทุกแบบทุกเนื้อและทุกพิมพ์ ให้ทั่วถึงกัน ทางวัดจึงกำหนดประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน<o></o>
    คือระหว่างวันที่ ๒๙-๓๐-๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี <o></o>
    [FONT=&quot]“จุดเทียนชัย[FONT=&quot]”[/FONT] ในวันศุกร์ที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๑๔ พระคณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งล้วนเเต่เป็น [FONT=&quot]“[/FONT]พระคณาจารย์[FONT=&quot]”[/FONT] ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้นทั้งสิ้น<o></o>[/FONT]
    ที่รับนิมนต์มานั่งปรก ปริกรรมเจริญภาวนาจำนวน [FONT=&quot]“๑๐๘ รูป[FONT=&quot]”[/FONT] โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน (อาทิ ลป.โต๊ะ/ลพ.เงิน/ลป.เทศก์/หลวงตามหาบัว/ลพ.เทียม/พระอาจารย์นำ/ลป.หิน/ ลพ.ทูรย์/ลพ.ทองอยู่/ลพ.กี๋/ลพ.ขอม/ลพ.โชติ ระลึกชาติ/ลป.อ่อน/ลพ.เย่อ/ลพ.นอ/ลพ.แต้ม/พระอาจารย์วัน/ลพ.เชื้อ ฯลฯ เป็นต้น) ดังนั้น วัตถุมงคล ชุด [FONT=&quot]“[/FONT]ฉลอง ๑๐๐ ปี วัดราชบพิธฯ[FONT=&quot]”[/FONT] นี้จึงเป็นวัตถุมงคลที่ถึงพร้อมด้วย พระพุทธคุณ, พระธรรม คุณ, พระสังฆคุณ และพระมหากษัตริยาธิคุณ ของ [FONT=&quot]“[/FONT]พระมหากษัตริย์[FONT=&quot]”[/FONT] ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่ประเทศไทยถึง ๒ พระองค์ ด้วยกันคือ [FONT=&quot]“[/FONT]รัชกาลที่ ๕[FONT=&quot]”[/FONT] และ[FONT=&quot]“[/FONT]รัชกาลที่ ๙[FONT=&quot]”[/FONT] <o></o>[/FONT]
    อย่างเปี่ยมล้นยิ่งนัก. อนึ่งสำหรับ พระพิมพ์หูยาน จ.ป.ร. รุ่นฉลอง [FONT=&quot]“๑๐๐ ปีวัดราชบพิธฯ นี้ บรรดาเซียนพระยุค ปี ๒๕๑๔ นิยมเรียกขานว่ารุ่น ปืนแตก โดยจากคำบอกเล่าของท่านเจ้าคุณ [FONT=&quot]“[/FONT]พระธรรมเมธี (อัคค ชิโน)[FONT=&quot]”[/FONT] เช่นกัน เหตุที่บรรดาเซียนพระยุคนั้นเรียกกันก็สืบเนื่องจาก [FONT=&quot]“[/FONT]หลังการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาซึ่งสมัยนั้นราคาถูกมากเพียง องค์ละ ๑๐ บาท เท่านั้นและหลังจากบูชากันไปแล้วทหารหลายรายได้นำไปพิสูจน์ ความเข้มขลัง ด้วยการนำพระหูยาน จ.ป.ร. ที่นำไปเลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ ธงชาติ แล้วชักธงชาติระดับเหนือศีรษะขึ้นจากนั้นทำการทดลองยิง ปรากฏว่า [FONT=&quot]“[/FONT]นัดแรก[FONT=&quot]”[/FONT] กระสุนปืนเกิดด้าน [FONT=&quot]“[/FONT]ยิงไม่ออก[FONT=&quot]”[/FONT] จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วทดลอง ยิงอีกนัด คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียงระเบิด ดังขึ้นและพอสิ้นเสียงระเบิด ทหาร ผู้ทำการทดลองยิงก็ออกอาการ ตกใจ เมื่อเห็น ปากกระบอกปืน ที่ใช้ทดลองยิง แตกเป็นรอยร้าวทั้งลำกล้อง ใช้การไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้นมาบรรดาทหาร ที่อยู่ในเหตุการณ์ทดลองยิงจึงเรียก [FONT=&quot]“[/FONT]พระหูยาน จ.ป.ร. ว่ารุ่น ปืนแตก[FONT=&quot]”[/FONT] เป็นที่เลื่องลือกันมากในยุคนั้น นอกจากนี้บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบใน สมรภูมิเวียดนาม ที่รอดชีวิตกลับมาก็มีการร่ำลือว่า เหตุที่รอดชีวิตเพราะได้พกพาพระหูยานรุ่นปืนแตกนี้ติดตัวไปด้วย[FONT=&quot]”[/FONT] รวมทั้งบรรดาเซียนพระหลายรายรวมทั้งเซียนสายตรง [FONT=&quot]“[/FONT]พระกริ่ง-รูปหล่อ[FONT=&quot]”[/FONT] ที่ชื่อ [FONT=&quot]“[/FONT]เกี๊ยก ทวีทรัพย์[FONT=&quot]”[/FONT] ก็มีการบอกเล่ากันต่อ ๆ มาว่า พระหูยาน จ.ป.ร. มีพุทธคุณเข้มขลังด้านยอดเหนียว เนื่องจากมีเหตุ วัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกัน พร้อมทั้งใช้อาวุธที่มีทั้งมีดดาบและปืนฟันและยิงใส่กันแบบเอาเป็นเอาตาย[FONT=&quot][/FONT] แต่ปรากฏว่าผู้ที่พกพา พระหูยาน จ.ป.ร. ติดตัวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลยทั้งที่บางรายถูกฟันจนเสื้อขาดและบางราย ถูกยิงจนเสื้อเป็นรูทะลุแต่จุดที่ถูกฟันและถูกยิงเป็นเพียงรอยจ้ำ[/FONT] ช้ำแดงเท่านั้น<o></o>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2010
  20. prakrueng

    prakrueng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    14,063
    ค่าพลัง:
    +1,867
    โคนสมอจิ๋ว กรุค้างคาว ชัยนาท สภาพสวย ขนาด 1.8 x 3 ซม.ครับ ราคา 800 บาท
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...