เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

เห็นด้วยกับประโยคข้างบนด้วยคนครับ ของที่ไม่จริงในเน็ตมันมีเยอะครับ โดยส่วนตัวแล้วบทฝึกฝนของอาจารย์โนวา อนาลัยเนี่ยผมถือว่าเป็นเหมือนของขวัญจากพระเจ้าเลยทีเดียวครับ สุดยอดไม่แพ้การทำสมาธิ แต่ถ้าทำสมาธิแล้วฝึกบทฝึกฝนนั้นไปด้วยก็จะทำให้ได้ความรู้มากขึ้นไปอีก

 

........................................................คิด ตึ๋ง ง ง ง..


...........................................................................Photo By.....ลูกเกด

 

ชอบภาพนี้ของพี่นักเขียนจัง ขออนุญาตเซฟเข้าคลัง

จะมาเล่าสั้นๆทั้งที่งานจ่อคอหอยว่า ไปดู Inception มาแล้วเมื่อคืนนี้ รอบดึกเลยค่ะ
เป็นหนังที่นักเรียนห้องวิทย์ไปดูรู้เรื่องทุกคน สารในหนังบอกเล่าแบบเดียวกับหนังสือชุด โนวาอนาลัยบอก

โลกที่เราเห็นมันคือโลกที่เราสร้างขึ้นมา โลกจริงอาจไม่มีอยู่จริง นรกคือโลกที่เราสร้างกักขังตัวเราเองต่างหาก

หนังยังหลอกล่อเป็นปริศนาว่า ตกลงดอมตื่นจากความฝันหรือยัง

โอเค หนังก็ยังคงเป็นฮอลลีวู้ดแบบเต็มร้อยแต่เหนืออื่นใด มันทำให้เราฉุกคิดหรือกระตุ้นเตือนเราถึงภาวะจิตของเรา หากเราไม่เคยอภัยให้ตัวเอง เราจะเห็นแต่ความผิดนั้นตามหลอกหลอนทุกหนทุกแห่ง มันฝังลงในจิตใต้สำนึกหรือที่เรียกว่ากรรมนั้นเอง

หนังเริ่มต้นเล่าแบบจิ๊กซอว์ตัวแรกคือดอม(พระเอก) ไปเกยชายหาด แล้วถูกนำไปพบกับชายแก่คนหนึ่ง ที่ตกอยู่ในนรกของเขามาห้าสิบปี(โลกที่ดอมสร้างขึ้นจากความทรงจำ) จากนั้นก็พูดถึงสาเหตุที่พระเอกต้องมาลิมโบ(นรก)นี้ก็มาจากการพยายาม Inception คนคนหนึ่ง

เขาอธิบายว่าอินเซ็ปชั่นคือปรสิตที่ระบาดไปเร็วและยั่งยืน หนังพยายามพูดถึงการฝังความคิดล้วนมาจากประสบการณ์และความทรงจำของคนคนนั้น นอกจากนั้นตอนที่พระเอกพาสถาปนิกดูโลกแห่งความฝัน

เขาบอกว่าทุกอย่างที่เราเห็นเกิจากความคิดและการจดจำแล้วเราก็สร้างมันขึ้นมา แต่ในความฝันมันราบรื่นมากกว่าแก้ไขได้ง่ายกว่าถ้าเราแก้ไขในจิตใต้สำนึกเรา หนังแสดงให้เห็นว่าจิตใต้สำนึกของพระเอกเคยชินกับโลกแบบเดิมจึงไม่ยอมรับโลกที่สถาปนิกสร้างที่เอาโลกกลับหัวมาชนกันจนคนในจิตใต้สำนึกที่สร้างขึ้นมามองดูสถาปนิกแปลกๆเพราะคนเหล่านั้นมาจากจิตใต้สำนึกดอมที่ไม่ยอมรับการผิดแผกแปลกเปลี่ยนจากที่เขาคิดนั่นเอง

นอกจากนั้นพอเริ่มปฏิบัตืการก็มีอุปสรรคตามมานั่นคือเมียของดอมที่ตายไปแล้ว เขาไม่เคยปล่อยเธอไปเพราะยังรู้สึกผิดที่ทำให้เธอตาย เธอจึงมาปรากฏตัวเป็นตัวทำลายทุกครั้ง มันก็คงเหมือนอุปสรรคในชีวิตเราที่ว่า เรามักจะปล่อยให้ความกลัวมาเป็นอุปสรรคและนึกถึงแต่ข้อผิดพลาดเก่าๆแล้วเราก็นำมันมาในงานใหม่ๆของเราทุกครั้ง หากเราปล่อยวางความรุ้สึกผิด ความล้มเหลวเดิมๆแล้วเดินหน้าต่อ เราก็สามารถทำทุกอย่างได้ประสบความสำเร็จเพราะนั่นคือโลกที่เราสร้าง

ไม่เล่าตอนจบนะคะ แต่อยากให้ไปดูเองค่ะ คุณเวกกี้มาคุยกันนะ อยากคุยๆ

ตอนจบออกมาจากโรง ดิฉันถามตัวเองว่ายังมีอะไรที่เรายังไม่ให้อภัยตัวเองอีกนะ ก็หวังแต่ว่าจะเพาะพันธ์ Inception สิ่งที่เป็นบวก นอกจากนั้นดูหนังเสร็จนึกปร้าดไปถึง อ. โนวา อนาลัยและพี่นักเขียน ขอบคุณจิตวิญญาณอันงดงามของท่านที่ดำรงอยุ่ในใจเรารวมถึงขอบคุณจิตวิญญาณยิ่งใหญ่ทุกดวง จนทำให้เรารู้จักที่จะละวางความคิดด้านลบไปเสียสิ้น

แล้วนึกถึงเพื่อนห้องวิทย์ ขอบคุณทุกคนค่ะที่แบ่งปันความงดงามของชีวิตให้ เพื่อนๆโดยเฉพาะหนุ่มสาวคู่ที่ชวนกันน่ะ คุณเดรคกับคุณ falkman รีบๆไปดูนะคะ หนังจะลาโรงแล้ว

 

หลังจากที่คุณsarissa แนะนำInception เมื่อกระทุ้ข้างบนนี้ผมก็รู้สึกอยากดูขึ้นมาแล้วบังเอิญว่าอะไรๆก็ว่างแล้วก็เตรยีมตัวมาพร้อมทุกอย่างก็จึงได้ไปดู พอไปดูก็เห็นว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยฉายมีแต่วเลาห่างๆกันทั้งนั้นเลยแต่ก็ยังได้ดูเพราะว่าไปซื้อตั๋วปุ้บหนังก็เข้าโรงพอดี ทุกอย่างในการไปดูเรื่องนี้ง่ายเหมือนจับวางเลยทีเดียว ยังไงก็แนะนำให้ไปดูนะครับเพราะว่าเนื้อเรื่องแบบนี้คนที่ฝึกเรื่องความฝันต้องสนุกแน่ๆ รวมทั้งคำสอนก็ให้แง่คิด ส่วนใครที่ไม่ชอบเรื่องปรัชญาหรือเรื่องความฝันก็น่าไปดูเพราะแนวนี้แปลกดี
(โปรดระวังคำแสดงความเห็นข้างล่างอาจทำให้เสียอรรถรสในการชม)

ตอนแรกก็นึกว่าจะเดาตอนจบได้ก็เลยลุ้นไปให้พระเอกปฏิบัติภารกิจสำเร็จ แต่ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องลุ้นเลยเพราะว่าสรุปแล้วหนังเรื่องนี้ก็ทำให้คนดูประหลาดใจว่าฉากเหตุการณ์ไหนกันแน่ที่เป็นอันจริง มีความเป็นไปได้ทั้งหมดเลย ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ หรือการล้มเหลวแล้วหลงอยู่ในความฝัน หรือการไปตามเพื่อนให้รู้สึกตัว หรือทั้งหมดอาจไม่มีอะไรเกิดขึ้นเป็นแค่การทดลองของพระเอกกับภรรยา แต่ก็ให้แง่คิดหลายๆอย่างเหมือนคำสอนของโนวา อนาลัย โดยส่วนตัวผมชอบเรื่องนี้มากกว่าอวตารอีกนะเพราะว่ามันแหวกแนวสุดๆไปเลย

 

ดีใจค่ะที่คุณกุญแจได้ไปดูแล้ว ตอนที่ดูนึกถึงทฤษฎีสัมพันธภาพของไอน์สไตน์ นี่มันตอบคำถามเรื่อง Paradox ที่ว่าในมิติหนึ่งมีร่างหนึ่งแล้วในมิติหนึ่งก็มีร่างเดียวกันซ้อนทับอยู่ แบบ twin Paradox แบบง่ายที่สุด

นอกจากนั้นยังเป็นแนวคิดที่ประทับใจ
ฝันคือโลกของความคิดเรายามหลับ ส่วนความคิดคือฝันยามตื่นนั่นเอง

คุณกุญแจชอบฉากไหน

 

ชอบฉากที่ตัวละครตัวนึงบอกพระเอกว่าให้รู้จักความคิดของตัวเองให้มากกว่าที่รู้จักภรรยาของตัวเอง อิๆ

 

เหมือนกับหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา
ให้เรามองที่ตัวเรา ทำความเข้าใจในตัวเรา เมื่อสิ่งเหล่านี้กระจ่างแจ้ง
เราจะเข้าใจในผู้อื่นด้วยเช่นกัน...;

 

สรรพสิ่งที่เราเห็นนั้น มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรือเราเข้าใจ มุมมองของเราต่างหากไปจัดให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โลกเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับมุมมองของเรา ความจริงจึงเป็นเรื่องสัมพัทธ์ มันไม่ได้จริงในตัวมันเอง มันสัมพันธ์กับมุมมองของผู้มอง
"โลกก็คือโลกแห่งประสบการณ์ของแต่ละคน"
เมื่อใดจิตหยุดปรุงแต่ง เราก็จะเห็นความว่างในจักรวาล

 

สรรพสิ่งที่เราเห็นนั้น มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิดหรือเราเข้าใจ มุมมองของเราต่างหากไปจัดให้มันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ <<< ชอบครับ

 

<embed src="http://www.youtube.com/v/GGtKxbu7vLI?fs=1&hl=en_US&color1=0x006699&color2=0x54abd6&border=1" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" width="660" height="525"><object width="660" height="525">
</object>
มากระตุ้น DNA ให้กระทู้...อิอิ

ไปแระ...

 

ผมชอบความคิดของคุณจังครับ...

 

มากระตุ้น DNA อีกสักเพลง
เพลงนี้ความถี่อาจจะสูงเกิน 528 Hz นะครับ ระวังนิดนึง อิอิ
....

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1127263/[/MUSIC]

 

วันนี้ย่องมาทักทายทุกคนหน่อย พักฟังเพลงเพราะๆข้างบนกันครับ
ช่วงนี้..โลกเรากำลังถูกคลื่นความร้อนถาโถมเข้าใส่หนักมากๆ
สุนัขที่บ้านยังต้องแอบไปนอนหลับในห้องน้ำเลย
ยังไงก็ทำใจให้เย็นๆและไม่หงุดหงิดแล้วกันนะครับ
ร้อนกายแต่ไม่ร้อนใจครับ....

 

แวะมาส่งข่าวครับ พอได้ได้รับอีเมลจากพี่นักเขียน เลยเอาสารอันมีค่ามาแบ่งปัน + ดันกระทู้ ครับ หุหุหุ


"จิตใต้สำนึก บรรจุด้วย ข้อมูลของจิตวิญญาณที่ ปราศจากความบิดเบือน

จิตใต้สำนึกปราศจาก เครื่องพราง

จิตใต้สำนึก ทำหน้าที่ ระหว่างมิติโดยปราศจากการ แบ่งแยกพรมแดนปราศจากการ แบ่งแยกเป็นตัวตนเรา-เขา

จิตใต้สำนึก เชื่อมต่อกับ พื้นฐานของพลังชีวิตของ จักรวาลโดยตรง

การดำเนินชีวิต การทำหน้าที่การงาน การมีสัมพันธภาพทั้งหลายด้วย การใช้จิตใต้สำนึกเป็นที่ตั้ง ย่อมทำให้บรรลุผล สำเร็จอย่างลุ่มลึก-กว้าง ไกล-ไร้พรมแดน ด้วยพลังและ แรงหนุนเนื่อง
- จากทุกบุคคลตัวตน
- จากทุกจิตวิญญาณ
- จากทุกมิติ"


ด้วยรักและปรารถนาดี
พี่นักเขียน

 

เอามาจากอีเมล ครับ



ท่านอาจารย์อนาลัย เป็นจิตวิญญาณในภพภูมิใดกันหากจะเทียบ ใน 31 ภพภมิทางพุทธศาสนา?

พี่นักเขียนยินดี-ให้ข้อมูลในฐานะล่ามและเลขาของท่านอจ.อนาลัย และนักศึกษาทางด้านจิตวิญญาณ ผู้กำลังเรียนรู้ต่อไปตลอดชีวิต-ร่วมกับผู้อ่านทุกท่าน และยินดีรับฟังข้อคิด ข้อโต้แย้ง คำถาม-คำตอบ และข้อเสนอแนะทุกประเด็นจากทุกท่านเสมอค่ะ จึงไม่มีคำถามใดๆที่ไม่สมควรจะถาม ทุกคำถาม-คำตอบจากพวกเราทุกคน ช่วยให้เราได้เรียนรู้ร่วมกันเสมอ

ท่านอจ.อนาลัยได้กล่าวไว้ว่า ธรรมชาติของความเป็นจริงมีปรากฏในทุกศาสนา. และธรรมชาติความเป็นจริงไม่เคยก่อให้เกิดความขัดแย้งใดๆ แต่สิ่งที่เราควรตั้งคำถามต่อไปคือ :
การตีความหมายข้อมูลทางศาสนาบางข้อมูล เป็นการตีความหมายตามความเข้าใจในธรรมชาติของจิตวิญญาณอย่างแท้จริง หรือตามเชื่อจำเพาะ และการถ่ายทอดถูกบิดเบือนด้วยความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนกลุ่ม ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างบุคคลและระหว่างศาสนาหรือไม่?

พี่นักเขียนขอเชิญชวนให้ผู้อ่านทุกท่านใช้"ความเป็นกลาง" พิจารณาข้อมูลของท่านอจ.อนาลัยที่พี่นักเขียนจะถ่ายทอดให้ต่อไปในวันนี้และวันหน้า เพราะไม่ว่าข้อมูลนี้จะเป็นเพียงความเป็นจริงที่แสนจะเรียบง่ายเพียงใดก็ตาม หากขัดกับการตีความหมายที่เกิดจากความเชื่อจำเพาะที่ฝังรากลึก ย่อมก่อให้เกิดความขัดแย้ง และทำให้ข้อมูลอื่นๆกลายเป็นข้อมูลที่เปล่าประโยชน์ไปโดยปริยาย

ท่านอจ. อนาลัยได้กล่าวไว้เสมอๆว่า
จิตวิญญาณอยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ของช่องว่าง-ระยะทางและกาลเวลา จิตวิญญาณจึงดำเนินชีวิตในทุกชาติภพ ในทุกภพภูมิ ทุกกาลเวลา พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน และมีพัฒนาการที่เป็นระบบเครือข่าย ไม่ใช่พัฒนาการเป็นเส้นตรง-ตามเส้นทางแห่งกาลเวลาที่เรารู้จัก การพัฒนาเป็นระบบเครือข่าย เป็นระบบเดียวที่ทำให้การสนับสนุน การถ่ายทอด และการช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน เป็นไปได้อย่างทั่วถึง พร้อมมูลและฉับพลัน

ท่านอจ.อนาลัยได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า
จิต-คือ อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด
วิญญาณ-คือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ

จิตและวิญญาณไม่เคยแยกกันอยู่ เมื่ออยู่รวมกันเป็น-จิตวิญญาณจึงหมายถึง ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด

จิตวิญญาณปราศจากการเป็นเจ้าของเช่นเดียวกับลมหายใจที่ผ่านเข้าออกร่างกายแต่ละร่าง


จิตวิญญาณไม่ได้จากร่างกายเนื้อหนังแต่ละร่างเป็นกลุ่มก้อน เป็นดวงเดียว เพื่อไปสู่ครรภ์มารดาเพื่อถือกำเนิดใหม่ เป็นบุคคลตัวตนใหม่ทั้งดวง. แต่การเป็นบุคคลตัวตนในแต่ละชาติภพ เกิดจากจิตวิญญาณหรือฐานของข้อมูลความรู้สามแหล่งด้วยกันคือ:
1. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมมิติในอดีต-อนาคตชาติ
2. จิตวิญญาณต่างร่างแต่ร่วมวัตถุประสงค์ในปัจจุบันชาติ
3. จิตวิญญาณเสมือนร่วมร่างแต่ต่างมิติในอดีต-ปัจจุบัน-อนาคตชาติ


เราจะเห็นได้ว่า จิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นบุคคลตัวตนในแต่ละร่าง ปราศจากการแบ่งแยกเรา-เขา แต่เป็นทั้งเรา-ทั้งเขารวมกันหมดเป็นหนึ่งเดียว.

เราจะสัมผัสความเป็นจริงนี้ได้เสมอๆหากเราใช้"จิตใต้สำนึก"สัมพันธ์กับผู้อื่น เพราะจะทำให้เราเกิดความรักและความเมตตาโดยปราศจากเงื่อนไขกับทุกคน โดยปราศจากความระแวงหรือเคลือบแคลงใจทั้งปวง เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่รักลูกโดยปราศจากเงื่อนไข ย่อมเจ็บปวดแทนลูก เศร้าสลดแทนลูก เหน็ดเหนื่อแทนลูก หรือสนุกสนานและสุขแทนลูกเสมอ ราวกับว่า "เราเป็นเขา"

ในนัยเดียวกันนี้ จิตวิญญาณที่ไปถือกำเนิดในภพภูมิทั้งหลาย แม้ปราศจากรูปกาย ก็ดำเนินไปตามธรรมชาติ"เป็นหนึ่งเดียว" โดยปราศจากตัวตนเรา-เขาต่อไป ไม่ว่าแต่ละตัวตนจะปรากฎในภพภูมิใดก็ตาม. ก็สัมพันธ์กัน เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และถ่ายทอดข้อมูลความรู้แก่กันและกัน เช่นเดียวกับที่การเป็นเรา-ท่านทั้งหลาย รับและถ่ายทอดจากจิตวิญญาณทั้งสามแหล่ง หรือสามฐานข้อมูลตลอดวันเวลา

ท่านอจ.อนาลัย เป็นจิตวิญญาณ หรืออีกนัยหนึ่งคือ องค์ความรู้. หรือข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่เป็นส่วนหนึ่งของเรา-ท่านทั้งหลาย-เสมอเหมือนกันทุกคน จะต่างกันก็ตรงที่ว่า. เราจะสัมผัสจิตวิญญาณในตัวเราได้มาก-น้อยต่างกันเพียงใด.

ความแตกต่างในการสัมผัสได้นี้. เป็นไปได้ด้วยความรักอันปราศจากเงื่อนไข เช่นเดียวกับการที่พ่อแม่สัมผัสรู้ถึงจิตวิญญาณของลูก หรือสัมผัสรู้ถึง ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของลูก พ่อแม่ที่รักลูกโดยปราศจากเงื่อนไขย่อมรู้ใจลูก มีใจให้ลูก เห็นใจลูก เข้าใจลูก ชอบใจลูก พอใจลูก ขอบใจลูก รักน้ำใจลูก ตามใจลูกด้วยความเชื่อใจลูก และไว้วางใจในตัวลูกเสมอ

ในทิศทางตรงกันข้าม ลูกที่รักคุณพ่อคุณแม่โดยปราศจากเงื่อนไข จะสัมผัสได้ถึงจิตวิญญาณของท่าน ไม่ว่าท่านจะมีชีวิตอยู่ หรือล่วงลับไปแล้ว เราจะตระหนักได้ว่า. ส่วนหนึ่งของท่าน-คือเรา. ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดของท่าน เป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา บ่อยครั้งเราจะตระหนักได้ว่า. เราเหมือนท่าน-เราคือท่าน ในหลายทิศทาง ไม่ว่าเราจะได้ใกล้ชิดท่านหรือไม่ก็ตาม

ต่อคำถามข้างต้น จึงกล่าวได้ว่า. จิตวิญญาณทั้งหลายมีแก่นแท้เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะมีร่างกายตัวตนจำเพาะหรือไม่ก็ตาม
จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไป ในทุกภพภูมิ. ในทุกร่างกาย ทุกตัวตน โดยปราศจากการแบ่งแยก

ท่านอจ.อนาลัยจึงเป็นจิตวิญญาณหรือองค์ความรู้. หรือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพที่ถ่ายทอดด้วยอารมณ์รักอันปราศจากเงื่อนไข ด้วยจินตนาการอันสร้างสรรค์ และด้วยความรู้สึกนึกคิด ที่เต็มไปด้วยเมตตา และเป็นจิตวิญญาณที่ดำเนินชีวิตอยู่ในทุกชาติภพ ในทุกภพภูมิ ทุกกาลเวลา พร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน

ด้วยรักและปรารถนาดี
พี่นักเขียน

 

ช่วงนี้ไม่มีนักเรียน...สงสัยปิดเทอม

ขอส่งความรัก ความปรารถนาดีมาถึงทุกๆท่านด้วยนะครับ

 

ไม่เข้าใจที่ท่านสื่อ ถ้ามีนักเรียนแล้วทำไมเหรอ? นักเรียนจะเข้ามาเรียนงั้นเหรอ? งงง...(เราชอบกระทู้มากๆเพราะคำตอบหลายอย่างอยู่ที่นี่)

 

แวะมาส่งข่าวตามเคยครับ (จากอีเมล)


คำถามจาก Einstein Zipper:
การที่เค้าว่าทำบุญหรือทำกรรมกับสัตว์ใหญ่แล้วมีผลแรงกว่าทำกับสัตว์เล็ก นั่นจะเพราะด้วยว่าสัตว์ใหญ่มีจิตวิญญาณรวมกันมากกว่าสัตว์เล็กด้วยหรือเปล่าครับ อันนี้มองในมุมมองที่ว่าจิตวิญญาณเปรียบเหมือนเซลที่ประกอบร่างกัน สัตว์ใหญ่จึงมีจิตวิญญาณรวมกันมากกว่าสัตว์เล็ก

---
จิตวิญญาณ ปราศจากปริมาตรหรือปริมาณ ปราศจากหน่วยนับ และไม่อาจคำนวณได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์. เพราะจิตวิญญาณคือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด


ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่อาจวัดขนาดและปริมาณได้ แต่ความรู้เปลี่ยนแปลงผู้รู้เสมอ


แม้เราจะใช้คำว่า รู้มาก-รู้น้อย รู้แคบ-รู้กว้าง รู้ตื้น-รู้ลึก คำกล่าวเหล่านี้ แท้จริงแล้วเป็นเพียงการเปรียบเทียบและคาดคะเนจากความเชื่อหรือมุมมองส่วนบุคคล ที่ปราศจากหน่วยนับ และไม่อาจคำนวณได้ เพราะเราไม่อาจวัดความรู้ทั้งหมดในบุคคลตัวตนหนึ่งๆได้อย่างแท้จริง. การสอบหรือวัดผลต่างๆก็เป็นเพียงการวัดด้วยมาตรฐานจำเพาะหนึ่ง ต่อสถานการณ์จำเพาะหนึ่งๆเท่านั้น


ในนัยนี้ จิตวิญญาณ หรือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่ปรากฎในสัตว์ใหญ่เช่นวัว อาจชัดเจนและส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆและสิ่งแวดล้อม มากกว่าจิตวิญญาณที่ปรากฎในสัตว์เล็กเช่นยุงหรือแมลงต่างๆ


หากเรานำเอาหน่วยนับ-ปริมาณหรือปริมาตรมาเกี่ยวข้อง:
ซากวัวหนึ่งตัว ส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆและสิ่งแวดล้อมมากกว่าซากยุงหนึ่งตัวอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้.


ในทางตรงกันข้าม ซากยุงนับล้านตัว อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆ และสิ่งแวดล้อมมากกว่าซากวัวตัวเดียวอย่างมหาศาล


เนื้อวัว-จากวัวหนึ่งตัว สามารถเป็นอาหารที่เลี้ยงชีวิตอื่นๆ-ทุกขนาด-ได้หลายชีวิต แต่เนื้อของสัตว์เล็กเพียงหนึ่งตัว-อาจเลี้ยงได้เพียงชีวิตของสัตว์เล็กๆเท่านั้น


"ขนาด"และ"ปริมาณ"ของสัตว์ จึงเป็นมาตรวัด ที่นำมาใช้ตัดสินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์จำเพาะหนึ่งๆเท่านั้น เราจึงไม่อาจนำเอาจิตวิญญาณไปเปรียบเทียบกับเซลล์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหน่วยนับ มีขนาดและปริมาตรที่คำนวณได้


ขนาดและปริมาณ เป็นเพียงสมมุติฐานที่มนุษย์ตั้งขึ้น แต่มนุษย์ก็ใช้ขนาดและปริมาณ เป็นมาตรวัดและมาตรฐานของทุกสิ่งทุกอย่างจนเคยชิน. จนกระทั่ง-ขนาดและปริมาณ-กลายเป็นสิ่งที่เราเชื่อถือว่า-เป็นความเป็นจริงไปโดยปริยาย


บางลัทธิมีความเชื่อในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยสัตว์ใหญ่น้อยที่เป็นอาหารของมนุษย์ รวมถึงผู้ที่เชื่อในการทำบุญหรือทำกรรมกับสัตว์ใหญ่แล้วมีผลแรงกว่าทำกับสัตว์เล็ก แต่ก็ทำการบูชาในพิธีกรรมเหล่านั้นด้วยหัวหมู. เป็ด-ไก่ และมีความ"สุขใจ"-"อิ่มเอิบ"กับการบูชานั้นๆ

ชาวคริสเตียนเชื่อว่า ปลาเป็นอาหารที่พระเจ้าประทานให้มวลมนุษย์ และปลาก็เป็นสัตว์น้ำที่มีมากที่สุดในโลก


ชาวอิสลามเชื่อว่าหมูเป็นสัตว์ที่สกปรกที่สุดในโลก เพราะหมูบริโภคทุกสิ่งทุกอย่าง


ชาวฮินดูไม่กินเนื้อ เพราะวัวให้น้ำนมที่หล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์แต่แรกเกิดจวบจนสิ้นอายุขัย


ชาวธิเบตมีความเชื่อว่า จิตวิญญาณของบุคคล ที่เขารักและผูกพันธ์ จะไปเกิดในร่างของสิ่งมีชีวิตทุกสัณฐาน ไส้เดือนตัวหนึ่ง-จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณของบิดามารดาของเขา และในขณะเดียวกัน. ตัวลามาหนึ่งตัว ซึ่งใหญ่พอๆกับม้าหรือย่อมพอๆกับลา ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณของบิดามารดาของเขาด้วยเช่นกัน


จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ปราศจากเจ้าของ และผ่านเข้าออกทุกอนูของสรรพสิ่งทั้งหลาย เช่นเดียวกันกับอากาศ จิตวิญญาณเป็นข้อมูลความรู้ที่ถ่ายทอดได้ไม่มีวันสิ้นสุด. มุมมองของชาวพุทธธิเบตที่ดูเสมือนเป็นเพียง-ความเชื่อ. จึงเป็นความเข้าใจในธรรมชาติของจิตวิญญาณอย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทำให้ชาวธิเบตละเว้นการล่วงละเมิดธรรมชาติในทุกรูปแบบ


ท่านอจ.อนาลัยได้ให้คำจำกัดความของ"กรรม" ไว้ว่า กรรมคือ ความรู้สึกผิดในระดับจิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณตระหนักในคุณค่าของธรรมชาติเสมอ


ต่อคำถามข้างต้น :
การกระทำในสิ่งที่ก่อให้เกิด"กรรม"หรือ"ความรู้สึกผิด"ต่อธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อระดับหนึ่ง ความไม่รู้ระดับหนึ่ง และความรู้อีกระดับหนึ่ง และไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดหรือปริมาณของจิตวิญญาณในสัตว์ขนาดต่างๆซึ่งวัดไม่ได้


แต่ไม่ว่าแต่ละบุคคลจะรู้สึกผิดได้มากน้อยเพียงใดด้วยความเชื่อส่วนบุคคลหรือส่วนรวมของลัทธิ ด้วยความไม่รู้หรือด้วยความรู้ ในที่สุดแล้ว จิตใต้สำนึกอันเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณซึ่งเป็นอิสระจากเครื่องพราง และเชื่อมต่อกับพื้นฐานของพลังชีวิตของจักรวาลโดยตรง ปราศจากความบิดเบือนด้วยความเชื่อ จะทำให้บุคคลตระหนักได้ว่า การล่วงละเมิดธรรมชาติจะทำให้ธรรมชาติไม่อาจค้ำจุนบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตนั้นๆต่อไปได้. เช่นเดียวกับการฆ่าสัตว์ที่กินแมลง จนก่อให้เกิดปัญหาแมลงทำลายพืชพันธุ์ การล่าสัตว์บางชนิดจนกระทั่งสูญพันธุ์ รวมถึงการฆ่าโดยไม่เจตนาในวงกว้างเช่นในกรณีเรือน้ำมันล่มในท้องทะเล ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาอย่างแก้ไขไม่ได้


ด้วยรักและปรารถนาดี
พี่นักเขียน

 

แวะมาส่งข่าวตามเคยครับ (จากอีเมล)


คำถามจาก Einstein Zipper:
การที่เค้าว่าทำบุญหรือทำกรรมกับสัตว์ใหญ่แล้วมีผลแรงกว่าทำกับสัตว์เล็ก นั่นจะเพราะด้วยว่าสัตว์ใหญ่มีจิตวิญญาณรวมกันมากกว่าสัตว์เล็กด้วยหรือเปล่าครับ อันนี้มองในมุมมองที่ว่าจิตวิญญาณเปรียบเหมือนเซลที่ประกอบร่างกัน สัตว์ใหญ่จึงมีจิตวิญญาณรวมกันมากกว่าสัตว์เล็ก

---
จิตวิญญาณ ปราศจากปริมาตรหรือปริมาณ ปราศจากหน่วยนับ และไม่อาจคำนวณได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์. เพราะจิตวิญญาณคือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด


ความรู้เป็นสิ่งที่ไม่อาจวัดขนาดและปริมาณได้ แต่ความรู้เปลี่ยนแปลงผู้รู้เสมอ


แม้เราจะใช้คำว่า รู้มาก-รู้น้อย รู้แคบ-รู้กว้าง รู้ตื้น-รู้ลึก คำกล่าวเหล่านี้ แท้จริงแล้วเป็นเพียงการเปรียบเทียบและคาดคะเนจากความเชื่อหรือมุมมองส่วนบุคคล ที่ปราศจากหน่วยนับ และไม่อาจคำนวณได้ เพราะเราไม่อาจวัดความรู้ทั้งหมดในบุคคลตัวตนหนึ่งๆได้อย่างแท้จริง. การสอบหรือวัดผลต่างๆก็เป็นเพียงการวัดด้วยมาตรฐานจำเพาะหนึ่ง ต่อสถานการณ์จำเพาะหนึ่งๆเท่านั้น


ในนัยนี้ จิตวิญญาณ หรือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ที่ถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ที่ปรากฎในสัตว์ใหญ่เช่นวัว อาจชัดเจนและส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆและสิ่งแวดล้อม มากกว่าจิตวิญญาณที่ปรากฎในสัตว์เล็กเช่นยุงหรือแมลงต่างๆ


หากเรานำเอาหน่วยนับ-ปริมาณหรือปริมาตรมาเกี่ยวข้อง:
ซากวัวหนึ่งตัว ส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆและสิ่งแวดล้อมมากกว่าซากยุงหนึ่งตัวอย่างเปรียบเทียบกันไม่ได้.


ในทางตรงกันข้าม ซากยุงนับล้านตัว อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตอื่นๆ และสิ่งแวดล้อมมากกว่าซากวัวตัวเดียวอย่างมหาศาล


เนื้อวัว-จากวัวหนึ่งตัว สามารถเป็นอาหารที่เลี้ยงชีวิตอื่นๆ-ทุกขนาด-ได้หลายชีวิต แต่เนื้อของสัตว์เล็กเพียงหนึ่งตัว-อาจเลี้ยงได้เพียงชีวิตของสัตว์เล็กๆเท่านั้น


"ขนาด"และ"ปริมาณ"ของสัตว์ จึงเป็นมาตรวัด ที่นำมาใช้ตัดสินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ในสถานการณ์จำเพาะหนึ่งๆเท่านั้น เราจึงไม่อาจนำเอาจิตวิญญาณไปเปรียบเทียบกับเซลล์ ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีหน่วยนับ มีขนาดและปริมาตรที่คำนวณได้


ขนาดและปริมาณ เป็นเพียงสมมุติฐานที่มนุษย์ตั้งขึ้น แต่มนุษย์ก็ใช้ขนาดและปริมาณ เป็นมาตรวัดและมาตรฐานของทุกสิ่งทุกอย่างจนเคยชิน. จนกระทั่ง-ขนาดและปริมาณ-กลายเป็นสิ่งที่เราเชื่อถือว่า-เป็นความเป็นจริงไปโดยปริยาย


บางลัทธิมีความเชื่อในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยสัตว์ใหญ่น้อยที่เป็นอาหารของมนุษย์ รวมถึงผู้ที่เชื่อในการทำบุญหรือทำกรรมกับสัตว์ใหญ่แล้วมีผลแรงกว่าทำกับสัตว์เล็ก แต่ก็ทำการบูชาในพิธีกรรมเหล่านั้นด้วยหัวหมู. เป็ด-ไก่ และมีความ"สุขใจ"-"อิ่มเอิบ"กับการบูชานั้นๆ

ชาวคริสเตียนเชื่อว่า ปลาเป็นอาหารที่พระเจ้าประทานให้มวลมนุษย์ และปลาก็เป็นสัตว์น้ำที่มีมากที่สุดในโลก


ชาวอิสลามเชื่อว่าหมูเป็นสัตว์ที่สกปรกที่สุดในโลก เพราะหมูบริโภคทุกสิ่งทุกอย่าง


ชาวฮินดูไม่กินเนื้อ เพราะวัวให้น้ำนมที่หล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์แต่แรกเกิดจวบจนสิ้นอายุขัย


ชาวธิเบตมีความเชื่อว่า จิตวิญญาณของบุคคล ที่เขารักและผูกพันธ์ จะไปเกิดในร่างของสิ่งมีชีวิตทุกสัณฐาน ไส้เดือนตัวหนึ่ง-จึงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณของบิดามารดาของเขา และในขณะเดียวกัน. ตัวลามาหนึ่งตัว ซึ่งใหญ่พอๆกับม้าหรือย่อมพอๆกับลา ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ประกอบด้วยจิตวิญญาณของบิดามารดาของเขาด้วยเช่นกัน


จิตวิญญาณเป็นสิ่งที่ปราศจากเจ้าของ และผ่านเข้าออกทุกอนูของสรรพสิ่งทั้งหลาย เช่นเดียวกันกับอากาศ จิตวิญญาณเป็นข้อมูลความรู้ที่ถ่ายทอดได้ไม่มีวันสิ้นสุด. มุมมองของชาวพุทธธิเบตที่ดูเสมือนเป็นเพียง-ความเชื่อ. จึงเป็นความเข้าใจในธรรมชาติของจิตวิญญาณอย่างลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติที่สุด ซึ่งทำให้ชาวธิเบตละเว้นการล่วงละเมิดธรรมชาติในทุกรูปแบบ


ท่านอจ.อนาลัยได้ให้คำจำกัดความของ"กรรม" ไว้ว่า กรรมคือ ความรู้สึกผิดในระดับจิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณ
จิตวิญญาณตระหนักในคุณค่าของธรรมชาติเสมอ


ต่อคำถามข้างต้น :
การกระทำในสิ่งที่ก่อให้เกิด"กรรม"หรือ"ความรู้สึกผิด"ต่อธรรมชาติ จึงเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับความเชื่อระดับหนึ่ง ความไม่รู้ระดับหนึ่ง และความรู้อีกระดับหนึ่ง และไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดหรือปริมาณของจิตวิญญาณในสัตว์ขนาดต่างๆซึ่งวัดไม่ได้


แต่ไม่ว่าแต่ละบุคคลจะรู้สึกผิดได้มากน้อยเพียงใดด้วยความเชื่อส่วนบุคคลหรือส่วนรวมของลัทธิ ด้วยความไม่รู้หรือด้วยความรู้ ในที่สุดแล้ว จิตใต้สำนึกอันเป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณซึ่งเป็นอิสระจากเครื่องพราง และเชื่อมต่อกับพื้นฐานของพลังชีวิตของจักรวาลโดยตรง ปราศจากความบิดเบือนด้วยความเชื่อ จะทำให้บุคคลตระหนักได้ว่า การล่วงละเมิดธรรมชาติจะทำให้ธรรมชาติไม่อาจค้ำจุนบุคคลหรือสิ่งมีชีวิตนั้นๆต่อไปได้. เช่นเดียวกับการฆ่าสัตว์ที่กินแมลง จนก่อให้เกิดปัญหาแมลงทำลายพืชพันธุ์ การล่าสัตว์บางชนิดจนกระทั่งสูญพันธุ์ รวมถึงการฆ่าโดยไม่เจตนาในวงกว้างเช่นในกรณีเรือน้ำมันล่มในท้องทะเล ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศน์วิทยาอย่างแก้ไขไม่ได้


ด้วยรักและปรารถนาดี
พี่นักเขียน

 

นักเรียนในที่นี้ น่าจะหมายถึงเราทุกคนที่เข้ามาหาความรู้ในกระทู้นี้ไงครับ