เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทหารลิเบียทำร้ายนักข่าว BBC บาดเจ็บ 3 ราย
    มีรายงานเข้ามาว่านักข่าวจากสำนักข่าว BBC ที่พยายามเดินทางเข้าเมือง Zawiya (ซึ่งเป็นเขตปะทะล่าสุด) ถูกทหารฝ่ายรัฐบาลลิเบียรุมทำร้ายโดยการต่อย ใส่เข่า กระแทกด้วยปืนไรเฟิล และถูกจับขังไว้ 21 ชั่วโมง
    ล่าสุดนักข่าวทั้งสามคนออกจากลิเบียแล้ว
    นักข่าวทั้งสามคนพยายามเดินทางไปยังเมือง Zawiya และแสดงตัวว่าเป็นนักข่าว แต่โดนจับโดยมัดมือ และปิดตา ไปยังค่ายทหารแห่งหนึ่งในนครหลวง Tripoli ซึ่งพวกเขาโดนทำร้ายที่นี่ นอกจากนี้พวกเขายังถูกสั่งให้ยืนหันหน้าเข้ากำแพง และโดนทหารลิเบียเอาปืนจ่อขู่ ซึ่งยิงกระสุนจริงให้เฉียดตัวนักข่าวทั้งสามด้วย
    ระหว่างการถูกคุมตัว นักข่าวลิเบียยังเห็นชาวลิเบียคนอื่นๆ จากเมือง Zawiya ที่โดนจับและทรมาน
    ตัวแทนของรัฐบาลลิเบียออกมาขอโทษกับการกระทำครั้งนี้ แต่ทาง BBC ก็ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของฝ่ายรัฐบาลลิเบีย อย่างไรก็ตาม BBC ยังยืนยันว่าจะส่งนักข่าวเข้าไปทำข่าวในลิเบียต่อไป
    สถานการณ์ล่าสุดในลิเบียขณะนี้ ยังมีการปะทะกันที่เมือง Zawiya ทางตะวันตก ซึ่งฝ่ายรัฐบาลอ้างว่ายึดครองได้เบ็ดเสร็จแล้ว ส่วนเมือง Ras Lanuf ทางตะวันออกซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันที่ฝ่ายต่อต้านยึดครองอยู่ ก็โดนถล่มจากทางอากาศอย่างหนัก
    ที่มา BBC
    ทหารลิเบียทำร้ายนักข่าว BBC บาดเจ็บ 3 ราย | Siam Intelligence
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    PROFILE:5 'บิลเลียนแนร์'รวยที่สุดของโลกปีนี้

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 03:01 น.

    เอเจนซี - การโลส สลิม อภิมหาเศรษฐีชาวเม็กซิโก ยังคงสามารถครองตำแหน่งผู้มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดในโลกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ทั้งนี้ตามการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ(9) ต่อไปนี้ เป็นประวัติความเป็นมาย่อๆ ของผู้มีทรัพย์สมบัติมากที่สุดของโลกปีนี้ 5 อันดับแรก

    [​IMG]

    การ์โลส สลิม (เม็กซิโก)


    อันดับ 1 การ์โลส สลิม (เม็กซิโก) ทรัพย์สิน: $74,000ล. ธุรกิจหลัก: โทรคมนาคม
    สลิม ซึ่งปัจจุบันอายุ 71 ปี แสดงให้เห็นถึงความรู้ความสามารถทางธุรกิจของเขาตั้งแต่เมื่ออายุ 10 ขวบ ในการขายเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวให้แก่ครอบครัว ต่อมาหลังจากศึกษาทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์ และทำงานเป็นเทรดเดอร์อยู่ในตลาดหลักทรัพย์เม็กซิกัน เป็นที่ขึ้นชื่อเลื่องลือกันว่า สลิมซึ่งชอบสูบซิการ์เป็นอาจิณ เป็นผู้ที่มีสัญชาตญาณในเรื่องอ่านเกมขาดว่าควรเข้าไปซื้อกิจการอะไรที่กำลังทำท่าย่ำแย่ แล้วก็เปลี่ยนบริษัทเหล่านี้ให้กลายเป็นตัวทำเงินทำทอง

    ทรัพย์สมบัติอันมากมายมหาศาลของเขา ดูขัดแย้งเป็นตรงกันข้ามกับวิถีดำเนินชีวิตของเขาซึ่งนิยมความประหยัดมัธยัสถ์ เวลานี้เขายังคงพำนักอยู่ในบ้านหลังเดียวกับที่เคยอยู่มาถึงราว 40 ปีแล้ว และยังคงขับรถยนต์เมอร์ซิเดส เบนซ์ คันเก่า ถึงแม้มันได้ถูกปรับปรุงติดเกราะกันกระสุน อีกทั้งมีขบวนรถของพวกองครักษ์คอยคุ้มกันอย่างแน่นหนา

    ในระยะหลังๆ เขาให้ความสนใจเข้าเกี่ยวข้องกับเรื่องการต่อสู้กำจัดความยากจน, ความไม่รู้หนังสือ, และการรักษาพยาบาลที่ยังย่ำแย่ในแถบละตินอเมริกา รวมทั้งสนใจส่งเสริมโครงการด้านการกีฬาเพื่อคนยากคนจน ทว่าเขายังไม่เคยเอ่ยปากว่ามีแผนการจะตัดแบ่งทรัพย์สินของเขาออกมาก้อนยักษ์ๆ เพื่อบริจาคให้แก่การกุศล
    [​IMG]


    บิล เกตส์


    อันดับ 2 บิล เกตส์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $56,000ล. กิจการหลัก: ไมโครซอฟท์
    เพราะสัมผัสรับรู้ว่ายุคแห่งการปฏิวัติโดยเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว เกตส์ที่ปัจจุบันอยู่ในวัย 55 ปี จึงได้ตัดสินใจหยุดเรียนและออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตั้งแต่เมื่อปี 1975 เพื่อมาจัดตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ และดำเนินงานด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์กำลังจะปรากฏอยู่บนโต๊ะทำงานทุกๆ โต๊ะ และตามบ้านเรือนทุกๆ หลัง ไมโครซอฟท์จดทะเบียนเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 1986 และพอถึงปีรุ่งขึ้น ราคาหุ้นที่พุ่งลิ่วก็ทำให้เกตส์ที่ตอนนั้นอายุ 31 ปี กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีระดับพันล้านดอลลาร์ผู้มีอายุน้อยที่สุด ในประเภทที่สร้างตัวรวยด้วยตนเอง

    ในปี 2008 เขาก้าวลงมาจากกิจการที่เวลานี้ก็ยังคงมีฐานะเป็นบริษัทซอฟต์แวร์รายยักษ์ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อมาทำงานในมูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ โดยที่ตัวเขาบริจาคทรัพย์สมบัติเป็นมูลค่า 28,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่มูลนิธิแห่งนี้

    นอกจากนั้น เขากับ เมลินดา ผู้ภรรยา และ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เพื่อนอภิมหาเศรษฐีของเขา ยังได้ออกเดินสายเกลี้ยกล่อมจนกระทั่งมีบุคคลผู้ร่ำรวยระดับพันล้านดอลลาร์ในสหรัฐฯจำนวน 57 ราย ยินดีร่วมลงนามใน “คำปฏิญาณ” และประกาศต่อสาธารณชนว่า จะบริจาคทรัพย์สินของพวกเขาอย่างน้อยที่สุด 50% ให้แก่การกุศลในช่วงเวลาที่ยังมีชีวิตอยู่ หรือภายหลังที่พวกเขาถึงแก่กรรมแล้ว

    [​IMG]

    วอร์เรน บัฟเฟตต์


    อันดับ 3 วอร์เรน บัฟเฟตต์ (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $50,000ล. กิจการหลัก: เบิร์กไชร์ แฮธาเวย์
    บัฟเฟตต์ เวลานี้อายุ 80 ปี ได้บริหารเครือข่ายธุรกิจอันมีกิจการหลายหลาก จากฐานของเขาในเมืองโอมาฮา มลรัฐเนแบรสกา ตั้งแต่ปี 1965 เครือข่ายธุรกิจดังกล่าวมีตั้งแต่กิจการรถไฟ การประกันภัย ไปจนถึงไอศกรีม

    ในปี 2006 เขาประกาศให้สัญญาว่า จะบริจาคทรัพย์สมบัติของเขา 99% ให้แก่มูลนิธิ บิลและเมลินดา เกตส์ ตลอดจนองค์กรการกุศลต่างๆ ของครอบครัวของเขา จวบจนถึงเวลานี้เขาได้ให้เงินแก่มูลนิธิเกตส์ไปแล้วรวม 8,000 ล้านดอลลาร์

    [​IMG]

    แบร์กนาร์ อาร์โนลท์


    อันดับ 4 แบร์กนาร์ อาร์โนลท์ (ฝรั่งแศส) ทรัพย์สิน: $41,000ล. กิจการหลัก: แอลวีเอ็มเอช
    อาร์โนลท์ วัย 62 ปี เป็นเพื่อนคนหนึ่งของประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี แห่งฝรั่งเศส เขาสำเร็จการศึกษาจาก เอกอลล์ โปลีเตกนีก สถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติในด้านอบรมบ่มเพาะข้าราชการและนักการเมืองของแดนน้ำหอม แต่ตัวเขาเองนั้นเข้าทำงานในบริษัทก่อสร้างของบิดาเมื่อมีอายุ 25ปี เขาได้ชื่อว่าเป็นจอมเขมือบกิจการผู้ไร้ความปรานี ภายหลังที่ใช้ความพยายามจนสามารถขับไล่ไสส่งพวกผู้ถือหุ้นที่เป็นปรปักษ์ เมื่อตอนที่เขากำลังเริ่มต้นสร้างกลุ่มแอลวีเอ็มเอชขึ้นมาในทศวรรษ 1990 โดยที่กลุ่มนี้มี หลุยส์ วิตตอง, โมเอต์, และ เฮนเนสซี เป็นแบรนด์สินค้าหรูหราดังๆ ตัวหลักๆ

    ปัจจุบันกลุ่มนี้มีฐานะเป็นกลุ่มกิจการสินค้าหรูหรารายใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว แต่ภาพลักษณ์ความเป็นนักล่าเขมือบกิจการยังคงยึดแน่นกับตัวเขาต่อมา เมื่อเขาพยายามเข้าเทคโอเวอร์อาณาจักร กุชชี ในช่วงปี 1999 และ 2000 ทว่าประสบความล้มเหลว อย่างไรก็ดี ในสัปดาห์นี้เอง เขาสามารถเข้าครอบครอง บุลการี กิจการอัญมณีนามกระเดื่องแห่งกรุงโรม ด้วยราคา 5,180 ล้านดอลลาร์

    [​IMG]

    แลร์รี เอลลิสัน


    อันดับ 5 แลร์รี เอลลิสัน (สหรัฐฯ) ทรัพย์สิน: $39,500ล. กิจการหลัก: ออราเคิล คอร์ป
    เอลลิสัน ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทออราเคิล เป็นที่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องการระเบิดอารมณ์เกรี้ยวกราดอย่างเปิดเผยและอย่างไม่มีบันยะบันยัง เข้าใส่เหล่าปรปักษ์ เป็นต้นว่า อดีตซีอีโอของ แซป เอจี บริษัทซอฟต์แวร์ดังสัญชาติเยอรมัน เมื่อปลายปีที่แล้ว เขาได้ออกมาประณามโจมตี ฮิวเล็ตต์ แพคการ์ด และคณะกรรมการบริหารของบริษัทคอมพิวเตอร์พีซียักษ์ใหญ่แห่งนี้ จากการสั่งปลด มาร์ก เฮิร์ด ออกจากตำแหน่งซีอีโออย่างกะทันหัน เอลลิสันซึ่งเป็นเพื่อนกับเฮิร์ดมายาวนานระบุว่า เป็นการกระทำที่ไม่เป็นธรรม และจากนั้นก็ว่าจ้างเฮิร์ดให้มาทำงานกับออราเคิล

    เอลลิสัน ยังมีชื่อในเรื่องกีฬา โดยเป็นผู้ชนะการแข่งขันเรือยอชต์ในรายการชิงถ้วย “อเมริกาส์ คัป” ปีที่แล้ว ปัจจุบันเขาถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้นำ “คนรุ่นเก่า” ของซิลิคอน แวลลีย์

    Around the World - Manager Online - <b><font color=blue>PROFILE:</font></b>5 '
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯปิดลบแรงกังวลศก.ยูโรโซน จีนและสหรัฐฯ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 05:01 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ราคาน้ำมันขยับลงจากระดับสูงสุดรอบ 2 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี(10) เหตุนักลงทุนมีความกังวลต่อปัญหาหนี้ยูโรโซน รวมถึงข้อมูลทางการค้าอันน่าผิดหวังของสหรัฐฯกับจีน ขณะที่ปัจจัยเหล่านี้ประกอบกับความวิตกต่อราคาเชื้อเพลิงที่แพงอาจกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจฉุดให้วอลล์สตรีทปิดลบอย่างแรง

    สัญญาล่วงหน้าน้ำมันไลต์สวีตครูตของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 1.68 ดอลลาร์ ปิดที่ 102.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 115.43 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    นอกเหนือจากปัญหาหนี้ยูโรโซน ตามหลังการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน ประกอบกับข้อมูลทางการค้าอันน่าผิดหวังของสหรัฐฯกับจีนแล้ว ราคาน้ำมันวานนี้(10) ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากอุปสงค์ทางพลังงานอันอ่อนแอที่มีน้ำหนักต่อตลาดมากกว่าเหตุสู้รบในลิเบียที่กระทบต่ออุปทานน้ำมัน

    ปัจจัยข้างต้นและความกังวลต่อราคาน้ำมันที่แพงลิบลิ่วส่งผลให้วานนี้(10) ตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างแรง โดยดัชนีทั้ง 3 ตัวปรับลดมากกว่าร้อยละ 1.8

    ด้วยคาดหมายว่าสหรัฐฯจะขาดดุลการค้ามากกว่าที่คาด ส่วนจีน ก็ออกมายอมรับว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีก่อน ประกอบกับการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในชาติยุโรปและความยุ่งเหยิงทางการเมืองที่ลุกลามสู่ซาอุดีอาระเบียก่อความกังวลว่าอาจทำให้น้ำมันแพงและจะฉุดให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัว ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบทางลบต่อวอลล์สตรีท

    ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 228.48 จุด (1.87 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,984.61 จุด แนสแดค ลดลง 50.70 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,701.02 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 24.89 จุด (1.89 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,295.11 จุด

    Around the World - Manager Online -
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยูเออีอุดหนุนข้าวและขนมปังหลังค่าครองชีพปชช.สูงขึ้น

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 00:30 น.

    เอเจนซี - สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จะเริ่มอุดหนุนข้าวและขนมปังในเดือนหน้า เพื่อต่อสู้กับราคาอาคารที่แพงขึ้นเรื่อยๆ สำนักข่าวแห่งรัฐรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี(10)

    สำนักข่าว WAM รายงานว่ารัฐบาลได้ร่วมมือกับยูเนียน คูเปอร์เรทีฟ โซไซตี ร้านค้าปลีกรายใหญ่ หั่นราคาข้าว 2 ชนิดและขนมปังอาหรับลง พร้อมระบุว่ามาตรการอุดหนุนนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ไปจนถึงสิ้นปี

    ร้านค้าปลีกและกระทรวงเศรษฐกิจ แถลงว่าสินค้าทั้งสองอย่างจะวางจำหน่ายในราคาเดียวกับเมื่อปี 2004 อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้เปิดเผยว่าราคาข้าวและขนมปังอาหรับในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อ 7 ปีก่อนเท่าใด

    ค่าครองชีพที่สูงขึ้นในเหล่าชาติอาหรับคือหนึ่งในแรงผลักดันที่อยู่เบื้องหลังเหตุปฏิวัติโค่นล้มประธานาธิบดีทั้งในอียิปต์และตูนีเซีย และตอนนี้ก็กำลังท้าทายผู้ปกครองเผด็จการในลิเบีย เช่นเดียวกับ บาห์เรน และโอมาน

    อย่างไรก็ตาม ยูเออี ชาติผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก ยังไม่เฉียดใกล้เหตุความไม่สงบเหล่านั้น อันเนื่องจากประเทศที่มีประชากรเล็กน้อยแห่งนี้มีรายได้ต่อคนสูงสุดเป็นอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว

    ก่อนหน้านี้ผู้ค้าปลีกต่างๆในประเทศแห่งนี้ได้ปรับลดราคาอาหารและสินค้าสำคัญอื่นๆกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ไปแล้วหลายรายการเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อขานรับกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นเรื่อยๆ
    Around the World - Manager Online -
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    'ฝรั่งเศส'รับรองรบ.ฝ่ายกบฏลิเบีย เรียกร้อง'ยุโรป'ให้การยอมรับตาม

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2554 23:25 น.

    [​IMG]

    รถถังของฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟี เคลื่อนพลมุ่งหน้าสู่ฐานที่มั่นของฝ่ายกบฏในเมืองราส รานุฟ


    เอเอฟพี/เอเจนซี - กองกำลังของมูอัมมาร์ กัดดาฟีแห่งลิเบียและนักรบฝ่ายกบฏยังคงต่อสู้ห้ำหั่นกันในหลายแนวรบอย่างไม่ลดราวาศอกกันต่อไป ขณะที่อีกด้านหนึ่งต่างก็เดินเกมทางการทูตเพื่อขอเสียงสนับสนุนจากนานาชาติ โดยที่ในแนวรบทางด้านการทูตนี้ ฝ่ายหลังทำคะแนนได้อย่างสำคัญวันพฤหัสบดี(10) เมื่อฝรั่งเศสเป็นชาติแรกที่ออกมาประกาศรับรองรัฐบาลของฝ่ายกบฏให้เป็นตัวแทนของประชาชนลิเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังได้เรียกร้องให้ภาคียุโรปร่วมกันยอมรับด้วย ส่วนข้อบังคับ “โนฟลายโซน” ในน่านลิเบีย ก็ยังเป็นทางเลือกที่นาโตและสหภาพยุโรปใคร่ครวญขบคิดกันอย่างหนักต่อไป

    ในขณะที่การสู้รบระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายกบฏโค่นล้มระบอบยังคงดำเนินอยู่อย่างดุเดือดรอบๆ เมืองราส ลานูฟ อันเป็นสมรภูมิแนวหน้า กับเมืองซอวิยะห์ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลนักจากกรุงตริโปลี ผู้นำกัดดาฟีได้ส่งทูตพิเศษของตนไปยังอียิปต์, กรีซ และโปรตุเกส เพื่อรุดเจรจาและชี้แจงถึงเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้นแก่รัฐบาลทั้งสาม อย่างไรก็ตาม กัดดาฟีมีอันต้องหน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อตัวแทนรัฐบาลฝอยทองโดยรัฐมนตรีต่างประเทศหลุยส์ เอมาโด ฝากสาล์นกลับมากับคณะทูตตอบว่า “ระบอบกัดดาฟีได้อวสานลงแล้ว”

    ด้านฝ่ายกบฏเองก็ได้เดินเกมทางการทูตเช่นกัน โดยสมาชิกคณะกรรมการปฏิวัติแห่งชาติได้ดั้นด้นไปเจรจากับรัฐบาลฝรั่งเศสถึงกรุงปารีส หลังจากที่มีการล็อบบี้ขอเสียงสนับสนุนจากรัฐสภายุโรปก่อนหน้านี้ โดยหลังจากที่ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีกับคณะทูตานุทูตจากดินแดนอีกฟากของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้พบหารือกันเมื่อวันพฤหัสบดี (10) ทำเนียบรัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้ออกคำแถลงตามมา ระบุว่า “คณะกรรมการแห่งชาติลิเบียเป็นตัวแทนของประชาชนลิเบียโดยถูกต้องตามกฎหมาย” ซึ่งคำประกาศดังกล่าวก็ทำให้ฝรั่งเศสกลายเป็นชาติแรกของโลกที่ประกาศยอมรับและให้การรับรองรัฐบาลของฝ่ายค้านลิเบีย

    คำแถลงดังกล่าวยังระบุด้วยว่า ฝรั่งเศสจะส่งทูตของตนไปประจำที่เมืองเบงกาซี ซึ่งเป็นฐานที่มั่นและศูนย์บัญชาการของผู้นำฝ่ายค้านลิเบีย นอกจากนี้รัฐมนตรีการต่างประเทศ อแลง ชูปเป ของแดนน้ำหอมซึ่งเวลานี้อยู่ในกรุงบรัสเซลส์ก็ได้เรียกร้องในที่ประชุมรัฐมนตรียุโรปให้ภาคีสมาชิกอียูร่วมกันรับรองรัฐบาลของฝ่ายค้านลิเบียด้วย ก่อนหน้าการประชุมระดับซัมมิตที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ (11) ซึ่งก็คาดว่าบรรดาผู้นำก็จะร่วมกันถกอภิปรายเกี่ยวกับวิกฤตในลิเบียเป็นวาระสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม ท่าทีของชาติยุโรปดูจะยังไม่เป็นเอกภาพเต็มที่ เมื่อแคทเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงด้านวิเทศสัมพันธ์และความมั่นคงแห่งอียู และสมาชิกรัฐสภายุโรปจำนวนหนึ่งยังมีท่าทีลังเลที่จะให้การรับรองคณะปฏิวัติของลิเบียเป็นรัฐบาลโดยทันที หลังจากที่พวกเขาได้พบทูตของฝ่ายกบฏเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

    นอกเหนือจากการสนับสนุนให้ฝ่ายกบฏเป็นตัวแทนชาวลิเบียโดยชอบธรรมแล้ว ทางด้านองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และสหภาพยุโรป (อียู) ก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามที่จะร่วมกันออกมาตรการบังคับให้น่านฟ้าลิเบียเป็นเขตห้ามบิน (โนฟลายโซน) โดยที่ทั้งสององค์การยังคงใคร่ครวญหาข้อสรุปกันในเรื่องนี้ต่อไป แม้ว่าก่อนหน้านี้สหรัฐฯ จะยืนกรานว่าความพยายามใดๆ ที่จะการผลักดันให้มาตรการลงโทษดังกล่าวมีผลบังคับใช้นั้นควรมาจากกลไกการตัดสินใจขององค์การสหประชาชาติเท่านั้น

    สำหรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างสองฝ่ายเมื่อพฤหัสบดี (10) นักข่าวภาคสนามของสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองกำลังสวามิภักดิ์กัดดาฟีได้รุกคืบเข้าใกล้ตัวเมืองราส ลานูฟมากขึ้นไปอีก โดยได้ยิงกระหน่ำใส่พวกกบฏที่ตั้งมั่นอยู่ในเขตชานเมืองด้วยกระสุนปืนใหญ่และการบอมบ์จากเครื่องบินรบ นอกจากนี้ผืนทะเลทรายสองฟากฝั่งของเส้นทางหลวงขาเข้า-ออกเมืองดังกล่าวก็ถูกถล่มอย่างหนักด้วยปืนครกและจรวดคัตยูซาจนพบเห็นควันดำลอยโขมงหลายจุด ขณะที่นักรบฝ่ายกบฏจำนวนหนึ่งล่าถอยเข้าไปในเมือง แต่ก็มีอีกพวกหนึ่งที่ยังเดินหน้ายันข้าศึกในแนวหน้าไว้

    Around the World - Manager Online - '
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นาโตส่งเครื่องบินสอดแนมเหนือน่านฟ้าลิเบีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2554 22:27 น.

    [​IMG]

    รัฐมนตรีกลาโหมนาโตกำลังหารือกันในกรุงบรัสเซลล์ ขณะที่พวกเขาได้ส่งเครื่องบินสอดแนมลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าลิเบียแล้ว


    เอเอฟพี - เครื่องบินของนาโต เริ่มออกบินลาดตระเวนตรวจการณ์เหนือน่านฟ้าลิเบีย 24 ชั่วโมงแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี(10) เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองกำลังฝ่ายสนับสนันและต่อต้านมูอัมมาร์ กัดดาฟี

    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้นขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมของนาโตเปิดโต๊ะหารือกันเมื่อวันพฤหัสบดี(10) เพื่อชั่งน้ำหนักถึงความเป็นไปได้ในการประกาศเขตห้ามบินของต่อรัฐบาลกัดดาฟี

    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของนาโต ที่ไม่ประสงค์เอ่ยนามกล่าวว่าด้วยเครื่องบินติดอุปกรณ์เรดาร์บินตรวจตราเหนือน่านฟ้าลิเบีย "ทำให้เราสามารถมองภาพต่างๆได้ดีขึ้น อันจะช่วยแจ้งข้อมูลต่างๆสำหรับนำไปประกอบการพิจารณาระหว่างการประชุมที่บรัสเซลส์ในวันนี้" เขากล่าว "แต่มันไม่ใช่ลางบอกเหตุถึงการกำหนดเขตห้ามบิน" อย่างไรก็ตามเขาบอกว่ารายงานข่าวของสื่อมวลชนต่อการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินกองกำลังกัดดาฟี เป็นสิ่งที่ผลักดันให้เกิดมาตรการนี้ขึ้น

    หลังการตัดสินใจของนาโตซึ่งได้มีการแถลงไปก่อนหน้านี้ พวกเขาส่งเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศอย่างน้อย 3 ลำ บินตรวจการณ์ 24 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 6.30 น.ของเช้าวันพฤหัสบดี(10)

    นายแอนเดอร์ส ฟ็อก ราสมุสเซน เลขาธิการองค์การนาโต เปิดเผยว่าได้ส่งเครื่องบินสอดแนมขึ้นบินเหนือลิเบีย เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อหามาตรการรับมือและยุติเหตุสู้รบในลิเบีย อย่างไรก็ตามเขาย้ำว่านาโต้จะยังไม่เข้าแทรกแซงลิเบียในขณะนี้ แต่จะทำหน้าที่ป้องกันและรักษาความมั่นคง พร้อมบอกว่านาโตจะต้องวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ผลออกมาในทางที่ดี

    ส่วนระธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่านาโตกำลังพิจารณามาตรการรับมือหลายทาง รวมทั้งปฎิบัติการทางทหาร ขณะเดียวกันอังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐน ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ กำลังร่างมาตรการห้ามบิน เตรียมพร้อมประกาศใช้ได้ทันที หากมีรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รุนแรงมากขึ้นในลิเบีย อย่างไรก็ตามการประกาศเขตห้ามบินเหนือลิเบีย จะต้องผ่านมาอนุมัติรับรองจากสมาชิก 15 ชาติ ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ที่จะถูกคัดค้านจากจีน และรัสเซีย
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขำๆ กับคอมเม้นท์ บนมาเนเจอร์ออนไลน์

    ความคิดเห็นที่ 2

    เอ้า
    ตอนนี้ บริษัทนำมัน Total ได้ประกาศรับรองฝ่ายต่อต้านรัฐบาลลิเบียแล้ว เป็นเจ้าแรกแล้ว
    รัฐบาล Texaco, Haliburton จะออกเขตห้ามบิน เหนือลิเบีย
    รัฐบาล British Petrolium BP เคยส่งทูตไปเจรจากับฝ่ายต่อต้านรัฐบาลแล้ว แต่โดนไล่กลับมา แต่ยังยืนยันว่าจะส่งทูตไปใหม่
    อีกสักพัก รัฐบาล Shell ก็คงสนับสนุน เร็วๆนี้

    คนไทย นั่งมอง new world order

    Around the World - Manager Online -
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “สหภาพแอฟริกา” ถกประเด็นร้อน-หวั่นสงครามกลางเมือง “โกตดิวัวร์”

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2554 19:32 น.

    เอเอฟพี - ผู้นำชาติแอฟริการะดมสมองหาวิธียับยั้งไม่ให้โกตดิวัวร์ หรือ ไอเวอรีโคสต์ เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองในการประชุมสหภาพแอฟริกาวันนี้ (10) หลังเหตุจลาจลคร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 370 ราย จากความขัดแย้งกรณีผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2010

    การประชุม ณ สำนักงานใหญ่ของสหภาพแอฟริกา (เอยู) ในกรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย วันนี้ มีขึ้นท่ามกลางการปะทะ อันเป็นผลมาจากความขัดแย้งระหว่างผู้นำคนปัจจุบันกับอดีตผู้นำแห่งโกตดิวัวร์ โดยมีประชาชนตกเป็นเหยื่อหลายสิบชีวิต มีผู้อพยพอีกจำนวนมาก และสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดสงครามกลางเมือง

    อลาสซาเน โอตตารา ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีโกตดิวัวร์ จากการจับตามองของนานาชาติ ได้เดินทางออกจากประเทศเป็นครั้งแรก ตั้งแต่เสร็จสิ้นการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อร่วมประชุมในกรุงแอดดิสอาบาบา ทว่า โลรองต์ จีบักโบ บุรุษผู้ห่วงเก้าอี้ผู้นำประเทศ มากกว่าชีวิตประชาชน กลับไม่ยอมร่วมด้วยตัวเอง โดยส่งตัวแทนเข้าประชุมกับ คณะกรรมาธิการสันติภาพและความมั่นคงแห่งสหภาพแอฟริกา (African Union Peace and Security Committee )

    แผนการของเอยูจะได้รับการกลั่นกรองจากคณะกรรมาธิการ 5 ท่าน ซึ่งประกอบด้วยผู้นำจาก มอริเตเนีย แอฟริกาใต้ แทนซาเนีย ชาด และบูร์กินาฟาโซ เพื่อหาทางยุติวิกฤตทางตันในโกตดิวัวร์

    ประธานาธิบดีโอตตารา ปักหลักอยู่ในโรงแรมกอล์ฟโฮเตล เมืองอาบิดจัน ภายใต้การคุ้มครองจากพันธมิตรกองกำลังติดอาวุธ และเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพของยูเอ็น อนึ่ง คาดกันว่า การประชุมเอยูวันนี้ จะมีผู้สนับสนุนเขามากยิ่งขึ้น

    วานนี้ (9) ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงว่า “ถึงเวลาที่อดีตประธานาธิบดีจีบักโบ ต้องฟังเสียงประชาชน และถ่ายโอนอำนาจให้กับประธานาธิบดีโอตตาราอย่างสันติ” ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้ประณามความรุนแรง ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 370 ราย ตั้งแต่ความขัดแย้งกรณีผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีโกตดิวัวร์ เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน

    ข้างฝ่าย จีบักโบ ออกมาอ้างก่อนการประชุมสหภาพแอฟริกาวันนี้ว่า มีชาติแอฟริกา 7 ประเทศยืนอยู่ข้างเขา โดยระบุว่า แอฟริกาใต้ ยักษ์ใหญ่ในแอฟริกาเป็นหนึ่งในนั้น มิหนำซ้ำรัฐบาลของจีบักโบยังได้ประกาศกร้าวผ่านโทรทัศน์ ว่า ห้ามเครื่องบินกองกำลังของฝรั่งเศส และยูเอ็น บินผ่านน่านฟ้า หรือลงจอดในดินแดนของสาธารณรัฐโกตดิวัวร์

    การประกาศดังกล่าวก่อให้เกิดคำถามว่า โอตตาราจะสามารถเดินทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา กลับเข้าไปยังโกตดิวัวร์ได้อีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กองกำลังของยูเอ็นเป็นผู้รับผิดชอบการรับ-ส่ง อลาสซาเน โอตตารา ไปไหนมาไหนด้วยเฮลิคอปเตอร์มาโดยตลอด

    เหตุการณ์ความสูญเสียล่าสุดที่เกิดในเมืองอาบิดจัน มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน จากเหตุจลาจล หลังการเดินขบวนประท้วง โลรองต์ จีบักโบ เมื่อวันอังคาร (8) เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ก่อน มีผู้หญิงถูกยิงเสียชีวิต 7 คน จากเหตุการณ์ทำนองเดียวกันนี้ อนึ่ง สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ รายงานในวันนี้ ว่า ชาวโกตดิวัวร์จำนวน 75,000 คนได้ลี้ภัยเข้าไปยังไลบีเรีย และชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบเมืองอาบิดจันประมาณ 300,000 คน ตัดสินทิ้งบ้านเกิดเมืองบ้าน เพื่อเอาชีวิตรอด

    [​IMG]

    บรรยากาศการประชุมลับของสหภาพแอฟริกา หรือ เอยู ในกรุงแอดดิสอาบาบา เมืองหลวงของเอธิโอเปีย วานนี้ (9) เพื่อหาทางยับยั้งการเกิดสงครามกลางเมืองในโกตดิวัวร์

    [​IMG]

    สตรีชาวโกตดิวัวร์ชุมนุมประณาม โลรองต์ จีบักโบ เมื่อวันอังคาร (8) กรณีการเสียชีวิตของผู้หญิง 7 ราย ระหว่างการประท้วง เพื่อขับไล่อดีตประธานาธิบดีผู้หวงอำนาจรายนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    [​IMG]

    ประธานาธิบดี อลาสซาเน โอตตารา ผู้ชนะการเลือกตั้งเมื่อพฤศจิกายน 2010 ทว่าจนถึงวันนี้ เขายังไม่มีโอกาสบริหารโกตดิวัวร์ เนื่องจาก โลรองต์ จีบักโบ ผู้พ่ายแพ้ไม่ยอมลงจากอำนาจ

    [​IMG]

    โลรองต์ จีบักโบ ต้นตอปัญหาความขัดแย้งในโกตดิวัวร์

    Around the World - Manager Online -
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกเตอร์ บูท วอนรัสเซีย “กดดันทางการเมือง” ให้มะกันปล่อยตัว

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2554 15:39 น.

    [​IMG]

    วิกเตอร์ บูท ขณะถูกคุมขังในไทย (แฟ้มภาพ)


    เอเอฟพี - วิกเตอร์ บูท นักค้าอาวุธชาวรัสเซีย เจ้าของฉายา “พ่อค้าความตาย” ส่งเสียงวิงวอนไปยังรัฐบาลกรุงมอสโก วันนี้ (10) ให้ใช้แรงกดดันทางการเมืองต่อสหรัฐฯ ให้ยอมปล่อยตัวเขา

    การให้สัมภาษณ์ของ วิกเตอร์ บูท จากห้องขังภายในเรือนจำสหรัฐฯ กับหนังสือพิมพ์คอมเมียร์ซันต์ เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการเยือนกรุงมอสโกของ โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และท่ามกลางรายงานว่า อาจมีการแลกตัวเขากับบุรุษผู้ถูกทางการรัสเซียหมายหัวว่าเป็นสายลับอเมริกัน

    วิกเตอร์ บูท ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์สายธุรกิจของรัสเซียฉบับนี้ ว่า “หากมองไปยังความไร้พิธีรีตองของนโยบายต่างประเทศสหรัฐฯ ผมพูดได้เลยว่า คดีของผมคงยืดเยื้อไปอีกนาน”

    “หากคดีนี้ถูกหยิบยกขึ้นอภิปรายในสภาดูมา (สภาล่างรัสเซีย) หรือ สภาความมั่นคง ระหว่างการประชุมของรัฐบาล ผมคงทำได้เพียงน้อมรับด้วยความยินดี”

    ทั้งนี้ ทางการสหรัฐฯ เชื่อว่า วิกเตอร์ บูท เป็นหนึ่งในนักค้าอาวุธรายใหญ่ที่สุดในโลก เขาถูกจับกุมเมื่อเดือนมีนาคม 2008 และมีการส่งตัวจากไทยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้สหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังการต่อสู้ทางกฎหมายอันยาวนาน โดยเวลานี้เขาถูกควบคุมตัวในเรือนจำที่มีมาตรการรักษาความปลอดภัยระดับสูงในนครนิวยอร์ก

    มีการวิเคราะห์กันว่า ทางการรัสเซียกังวลถึงข้อมูลของวิกเตอร์ บูท ซึ่งอาจพัวพันถึงคนในรัฐบาลเครมลินทั้งในอดีตและปัจจุบัน และดูเหมือนว่า ทางกรุงมอสโกยอมจะยอมแลกตัวเขากับสายลับสหรัฐฯ รายหนึ่ง

    วานนี้ พ่อค้าความตายผู้นี้ได้ปฏิเสธรายงานของสื่อต่างชาติ ที่ตั้งสมมติฐานว่า เขาอาจทำงานให้กับผู้มีอำนาจบาตรใหญ่ของรัฐบาลรัสเซียในขณะนี้ โดยสื่อตะวันตกและรัสเซียหลายสำนัก อ้างว่า เมื่อช่วงทศวรรษที่ 1980 บูทเคยทำงานอยู่ใน โมซัมบิก ร่วมกับ อิกอร์ เซชิน รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย อย่างไรก็ตาม บูทพูดถึงรองนายกรัฐมนตรีเซชิน ว่า “โชคร้ายที่ผมไม่รู้จักเขา แต่ผมยินดีทำความรู้จักมักคุ้นกับรองนายกรัฐมนตรีท่านนี้”

    ในวัย 44 ปี วิกเตอร์ บูทถูกทางการสหรัฐฯ กล่าวหาว่า ค้าอาวุธสงครามให้กับกลุ่มหัวรุนแรงมากหน้าหลายตา ตั้งแต่ตอลิบานไปจนถึง ชาร์ลส์ เทย์เลอร์ อดีตประธานาธิบดีไลบีเรีย

    ศาลสหรัฐฯ ตั้งข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการหลายกระทง ซึ่งรวมทั้งการก่อการร้าย และสมรู้ร่วมคิดเพื่อครอบครอง ใช้ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน

    สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ อ้างอิงแหล่งข่าวภายในรายหนึ่งวานนี้ ว่า อาจมีการแลกตัวบูทกับสายลับสหรัฐฯ ชื่อ อังเดร คลีเชฟ ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมหมีขาว และพนักงานเก่าของรอสอะตอม องค์กรพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ศาลกรุงมอสโกเพิ่งพิพากษาลงโทษ อังเดร คลีเชฟ จำคุก 18 ปี ฐานจารกรรมข้อมูลให้กับสหรัฐฯ ทว่า ทนายของบูทออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยรู้เรื่องการแลกตัวนักโทษดังกล่าวแต่อย่างใด

    Around the World - Manager Online -
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    องค์ทะไลลามะ “เตรียมวางมือ” จากตำแหน่งผู้นำทางการเมือง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มีนาคม 2554 13:53 น.

    [​IMG]
    วันนี้ (10) องค์ทะไลลามะทรงประกาศแผนวางมือจากตำแหน่งผู้นำทางการเมือง ในวันครบรอบปีที่ 52 เหตุการณ์ประท้วงรัฐบาลจีนของชาวทิเบต เมื่อปี 1959

    เอเอฟพี - องค์ทะไลลามะ ผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวทิเบต ทรงประกาศวันนี้ (10) ถึงแผนปลดเกษียณตัวเองจากตำแหน่งผู้นำทางการเมืองของรัฐบาลพลัดถิ่น ทั้งนี้ พระองค์ได้ตรัสว่า ถึงเวลาสำหรับ “ผู้นำทางการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งโดยเสรี”

    ทะไลลามะ องค์ที่สิบสี่ ทรงมีบทบาทสำคัญยิ่งในฐานะ ศูนย์รวมจิตใจของชาวทิเบต ได้ตรัสว่า พระองค์กำลังหาวิธีลาถอนตัวจากตำแหน่งทางการเมือง โดยรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบตมีกำหนดประชุมกันในสัปดาห์หน้า

    “ความปราถนาของข้าพเจ้า คือ การมอบหมายหน้าที่ มิใช่การปฏิเสธความรับผิดชอบ” องค์ทะไลลามะทรงปาฐกถา ณ เมืองธรรมศาลา สถานที่ทำการของรัฐบาลพลัดถิ่นทิเบต ทางตอนเหนือของอินเดีย

    องค์ทะไลลามะทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นผู้นำทิเบต ตั้งแต่ปี 1950 หลังจากจีนกรีธาทัพเข้าสู่ทิเบต ต่อมาพระองค์ทรงลี้ภัยไปยังอินเดียเมื่อปี 1959 เมื่อการลุกฮือของชาวทิเบต เพื่อต่อต้านรัฐบาลจีนคว้าน้ำเหลว เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพปี 1989 พระองค์นี้ ทรงปรารภถึงการลงจากตำแหน่งทางการเมืองมาโดยตลอด ทว่าจะทรงรักษาสถานภาพผู้นำทางจิตวิญญาณให้กับกลุ่มเคลื่อนไหวทิเบตต่อไป

    “เมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ข้าพเจ้าเคยเน้นย้ำว่า ชาวทิเบตต้องการผู้นำ ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยเสรี ผู้ที่ข้าพเจ้าสามารถมอบหมายภาระหน้าที่ให้ได้” องค์ทะไลลามะ ตรัสระหว่างปาฐกถา “ขณะนี้ เวลานั้นมาถึงแล้ว”

    ปาฐกถาในพิธีรำลึกถึงการประท้วงปี 1959 ของทิเบตวันนี้ องค์ทะไลลามะทรงยืนกรานหนักแน่นว่า การสละตำแหน่งผู้นำดังกล่าว มิได้หมายถึงการล้มเลิกการต่อสู้ทางการเมือง และจะทรงทุ่มเททำหน้าที่เพื่อทิเบตต่อไป

    ทั้งนี้ ชาวทิเบตยังคงภักดีต่อความเป็นผู้นำของพระองค์อย่างแน่วแน่ พระองค์ทรงเป็นสรณะ ซึ่งสามารถหลอมรวมกลุ่มต่างๆ ในทิเบตให้กลายเป็นหนึ่ง แม้มีบางกลุ่มบางก๊กที่นิยมความรุนแรง ต่างจากวิธีสันติอหิงสาขององค์ทะไลลามะ อย่างไรก็ตาม การปาฐกถาในวันนี้ องค์ทะไลลามะทรงเปิดเผยว่า พระองค์ได้รับคำวิงวอนอย่างเป็นจริงเป็นจังซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งจากภายในและภายนอกทิเบต เรียกร้องให้พระองค์ดำรงฐานะผู้นำทางการเมืองต่อไป

    องค์กรระหว่างประเทศเพื่อทิเบต (International Campaign for Tibet) ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน แถลงว่า การประกาศวางมือจากตำแหน่งทางการเมืองขององค์ทะไลลามะเป็นข้อพิสูจน์อันเด่นชัดถึงความเป็นนักประชาธิปไตยของพระองค์

    “เมื่อเปรียบเทียบกับผู้นำเผด็จการทั่วโลก ซึ่งปรากฏอยู่ในข่าว องค์ทะไลลามะเป็นบุคคลในอุดมคติ ผู้ปรารถนาการแบ่งสรรอำนาจสู่มือประชาชน” แมรี เบธ มาร์คีย์ ประธานองค์กรระหว่างประเทศเพื่อทิเบต ระบุ

    “ความตัดสินใจของพระองค์มีรากฐานมาจากความเจริญงอกงามแห่งประชาธิปไตยพลัดถิ่นของทิเบต ควรค่าอย่างยิ่งแก่การสรรเสริญและการสนับสนุน” เธอ กล่าว
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ชาวทิเบตในนครซิดนีย์ ออสเตรเลีย รวมตัวกันรำลึกถึงวันครบรอบการต่อต้านรัฐบาลจีน เมื่อ 52 ที่ผ่านมา

    Around the World - Manager Online - ͧ
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : ทัศนะวิจารณ์
    วันที่ 11 มีนาคม 2554 01:00 กาแฟดำ
    เข้าสู่ ‘โหมดหาเสียง’...แปลว่า 'อย่าเชื่อในสิ่งที่ท่านได้ยิน'
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    นักข่าวถาม นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่า กรณีคนเสื้อแดง (บางคน) “ตามราวี” นายกฯ ในที่สาธารณะด้วยการตะโกนด่าว่านั้น
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110307/show_ads_impl.js"></SCRIPT> คิดว่าเหมาะกับการเลือกตั้งแล้วหรือยัง?
    นายกฯ ตอบว่า “ที่ผ่านมาสองสามวันนี้ ก็ไม่ได้มีอะไรรุนแรง แต่ไม่ควรจะมี เป็นปัญหาเหมือนกับว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้งหรือเปล่า แต่คิดว่าบ้านเมืองต้องมุ่งหน้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง เพื่อเป็นจุดหนึ่งของการคลี่คลายสถานการณ์การเมือง...”
    ไม่กี่วันต่อมา นายกฯ ก็พูดทำนองว่า หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาแล้ว ก็เตรียมยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่เกือบจะทันที
    แปลว่าอะไรๆ ที่นักการเมือง ไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาลทำอยู่ในขณะนี้ ให้ถือว่าอยู่ใน Mode เลือกตั้ง หมด
    หรือพูดอีกนัยหนึ่ง ก็คือ ฝ่ายค้านฝ่ายรัฐบาลจะทำอะไรก็คือการหาเสียงเพื่อชนะการเลือกตั้งเท่านั้น ประชาชนอย่างพวกเราไม่ต้องถือสาหาความ หรือเอาจริงเอาจังกับถ้อยคำเหล่านั้นมากนัก
    แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไม นายกฯ ต้องถามว่า “อยากให้มีเลือกตั้งหรือเปล่า?” ทั้งๆ ที่เป็นเพียงเรื่องของคนไม่กี่คนที่ไป “ป่วน” ให้ นายกฯ ต้องหงุดหงิดเท่านั้น มิอาจถือว่าเป็นตัวแทนของความรู้สึกของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่ด้วยซ้ำ
    เพราะต้องไม่ลืมว่าคนเสื้อแดงส่วนมากได้เรียกร้องให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินอนาคตทางการเมืองของตนเอง
    คนไทยส่วนอื่นๆ ก็คงจะมีความรู้สึกทำนองเดียวกัน นั่นคือ บ้านเมืองควรจะกลับไปสู่ครรลองปกติของระบอบการปกครองที่เจ้าของประเทศมีสิทธิมีเสียงในการแสดงออกอย่างเปิดเผย
    แน่นอนว่า เงื่อนไขสำคัญสำหรับคนไทยที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง คือ จะต้องเป็นบรรยากาศของการหาเสียงอย่างเปิดเผย โปร่งใส เป็นธรรม และปราศจากการข่มขู่คุกคาม เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถเสนอทางออกให้แก่ประชาชนอย่างเปิดกว้างและมุ่งมองผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่มากกว่าเพียงแค่จะให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเข้ามาเสวยอำนาจเท่านั้น
    ดังนั้น นายกฯ จึงไม่ควรตั้งคำถามว่า “เขาอยากให้มีการเลือกตั้งหรือเปล่า?” แต่ควรจะถามว่า “จะเลือกตั้งอย่างไรให้มีบรรยากาศของประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”
    ประเด็นที่สำคัญที่สุด คือ ประชาชนต้องการได้ยินได้ฟังจากพรรคการเมืองและกลุ่มการเมือง ที่เสนอตัวมาเป็นตัวแทนของประชาชนในการเลือกตั้งว่าจะสร้างความ “ปรองดองแห่งชาติ” ให้กลับมาสู่วิถีชีวิตประจำวันของคนไทย ได้อย่างไร
    และผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งควรจะได้ยินจากปากของนักการเมืองทุกค่าย ที่อาสามาทำงานให้ประชาชน ว่า “ความจริง” ของเศรษฐกิจไทย เป็นเช่นไร
    เพราะเมื่อต่างฝ่ายต่างแย่งกันเล่นเกม “ประชานิยม” ด้วยการ ลด แลก แจก แถม ข้าวของให้แก่ชาวบ้าน ทั้งๆ ที่เป็นภาษีและเม็ดเงินจากกระเป๋าของประชาชนเองนั้น พวกเขาจะบริหารประเทศชาติให้มีประสิทธิภาพสูงสุด อย่างไร
    เอาง่ายๆ ว่า พรรคการเมืองที่เสนอตัวในการเลือกตั้งครั้งนี้ จะทำอย่างไรกับ “กองทุนน้ำมัน” ในภาวะที่ราคาน้ำมันดิบกำลังพุ่งพรวดพราดอีกครั้งหนึ่งอย่างนี้
    ใครจะกล้าพูดความจริงกับประชาชน ว่า “กองทุนน้ำมัน” นั้น ไม่ใช่ยาวิเศษหรือแก้วสารพัดนึกที่จะเอามาแจกจ่ายเพื่ออุ้มราคาน้ำมันให้อยู่ในระดับที่ผิดเพี้ยนจากความเป็นจริงไปได้อีกนานเท่าไร?
    นักการเมืองจะมอมเมาชาวบ้านด้วย “ความจริงเพียงด้านเดียว” ไปอีกนานเท่าไร?
    เลือกตั้งครั้งนี้พิสูจน์อีกรอบหนึ่ง ว่าเราจะกล้าเผชิญกับความจริงกันมากน้อยเพียงใด

     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 มีนาคม 2554 01:00

    <DD class=columnist-name>ประชา บูรพาวิถี <DD class=by-line>แกะรอยการเมือง </DD>กลยุทธ์ 'ล่อ' ทหาร

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    โชคดีของบรรณาธิการข่าวหน้า 1 ที่ชอบเล่นข่าวปิงปอง เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.)
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110307/show_ads_impl.js"></SCRIPT>มีท่วงทำนองแตกต่างจาก ผบ.ทบ.คนอื่นๆ
    คือ ช่างจ้อ ช่างเจรจา ช่างพาที...ถามอะไรก็ตอบหมด ใครว่าอะไร ก็สวนกลับหมด
    เมื่อต่อมความอดทนต่ำ ผบ.ทบ.จึงตกเป็น "เป้าล่อ" ของนักไฮด์ปาร์กอย่าง จตุพร พรหมพันธุ์ ที่เปิดเกมอภิปรายนอกสภาเรื่อง "เผาเซ็นทรัล"
    พลันที่ "ตู่นะจ๊ะ" ต่อปากต่อคำ เท่ากับเปิดหน้าให้ "ตู่แดง" ได้ล่อเป้าเป็นชุด!
    แต่การที่กองทัพถูกหยามหยันจากฝ่ายเสื้อแดง ทำให้อีกฝ่ายหนึ่งออกมา "ชี้เป้า" ว่า รัฐบาลอภิสิทธิ์กำลังหักหลังกองทัพ ด้วยการแอบยัดข้อมูลการสลายเสื้อแดงที่ราชประสงค์ ให้ ส.ส.ฝ่ายค้านไปถลกหนังหัวผู้นำเหล่าทัพในสภา
    ผสมโรงกับเรื่องการปล่อยตัวชั่วคราว "แกนนำ นปช." นอกจาก "7 แกนนำ" ที่ได้ประกันตัวไปชุดแรก ก็มีอีกหลายคนที่หลบหนีไปต่างแดน กำลังทยอยเข้ามอบตัวทีละคนสองคน
    ภาพที่เห็นและเป็นอยู่ ดูราวกับว่าการปล่อยตัวแกนนำ นปช. จะยิ่งเพิ่มอุณหภูมิการเมืองนอกสภาให้ร้อนแรงในทัศนะฝ่ายไม่เอาเสื้อแดง
    ขณะที่แดงบางปีกเชื่อว่า กองทัพจะก่อการรัฐประหารยึดอำนาจอย่างแน่นอน เพราะการเติบโตของคนเสื้อแดง มันท้าทายโครงการสร้างกลุ่มอำนาจเก่า
    จึงมีความคิดที่ว่าต้อง "ล่อ" ทหารออกมายึดอำนาจอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายของระบอบอำมาตยาธิปไตย ด้วยพลังประชาชนเรือนแสนเรือนล้านลุกฮือต่อต้านเหมือนในตูนิเซีย และอียิปต์
    การรัฐประหารครั้งต่อไป คือ ฉากอวสานของระบอบอำมาตยาธิปไตย และเป็นชัยชนะขั้นแรกของ "การปฏิวัติประชาธิปไตย"
    แนวคิดทฤษฎีการเมืองนี้ มีจุดยืน และทัศนะตรงกันข้ามกับฝ่ายที่อยากให้ทหารออกมา "จัดระเบียบประเทศไทย"
    เมื่อเร็วๆ นี้ ไพศาล พืชมงคล ที่ปรึกษาเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ได้เขียนเฟซบุ๊ค เสนอแนะให้ 5 แกนนำพันธมิตร ปรับปรุงแนวทางนโยบาย ยกระดับการต่อสู้ให้สอดคล้องกับความจริง
    นั่นคือ "การปฏิวัติประชาชาติ" โดยมี 1 เป้าหมาย 3 แนวทาง 2 เข็มมุ่ง
    1 เป้าหมาย คือทำการปฏิวัติประชาชาติ ฟื้นฟูประเทศไทยใหม่
    3 แนวทาง คือ สามัคคีประชาชาติไทยทั่วประเทศ สามัคคีทหารทุกเหล่าทัพทั่วประเทศ สามัคคีนานาชาติที่เป็นธรรมทั่วโลก เพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ของประชาชนไทย
    2 เข็มมุ่ง คือ กวาดล้างนักการเมืองโจรห้าร้อยออกจากอำนาจ และจัดตั้งรัฐบาลปฏิวัติประชาชาติของประชาชน โดยวิถีทางราชประชาสมาสัย ที่มีประชาชนและทหารเป็นพลังนำ
    "วิถีทางราชประชาสมาสัย" มีการอธิบายผ่านจอเหลืองมานานแล้ว โดยนักวิชาการอาวุโส ปราโมทย์ นาครทรรพ ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ขอพึ่งพระบารมีล้นฟ้าล้นแผ่นดินแก้ไขวิกฤติบ้านเมือง
    อันที่จริง ชุดความคิดข้างต้นนี้ได้ถูกนำเสนอผ่านแถลงการณ์ "เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ" มาตั้งแต่วันแรกที่มาปักหลักพักค้างหน้าประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล
    พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน ที่ปรึกษาเครือข่าย ผู้มิเคยอำพรางความคิดและกลยุทธ์ ได้ให้สัมภาษณ์หนแล้วหนเล่าว่า ต้องให้ทหารปฏิวัติ กำจัดนักการเมืองชั่ว
    น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ มิเผยตัวในการศึกป้องแผ่นดิน แต่ "บรรณวิทย์" ก็อนุเคราะห์เชียร์แขกไปแล้วหลายรอบว่า "ซีไอเอคาบไปป์" เป็นคนวางแผนเปลี่ยนประเทศไทย ด้วยอำนาจกองทัพ
    สมณะโพธิรักษ์ ย้ำแล้วย้ำอีก ตราบใดที่กองทัพยังไม่ออกมาล้างการเมืองเก่า กองทัพธรรมก็ไม่ยุติการชุมนุม และเป้าหมายสูงสุดของการขับเคลื่อน คือ การถวายคืนพระราชอำนาจ
    ระทึกใจอย่างยิ่งว่า เมื่อฝ่ายไม่เอาอำมาตย์ ต้องการ "ล่อ" กองทัพออกมาติดกับดัก "ปฏิวัติประชาชน"
    ระทึกใจอย่างยิ่งว่า เมื่อฝ่ายเชียร์อำมาตย์ ต้องการ "ล่อ" กองทัพออกมาใช้ "กำปั้นเหล็ก" ทุบขบวนการล้มเจ้า และกวาดล้างนักเลือกตั้ง
    สังคมไทยยังต้องเผชิญเกม "ล่อ" ต่อไปอีกหลายปี และยากที่จะเกิดความปรองดองในอนาคตอันใกล้!

     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 มีนาคม 2554 01:00

    หลวงพ่อฤๅษีลิงดำกับคำทำนายเรื่องปี 2555

    โดย : ดร.ไสว บุญมา

    ในช่วงนี้มีการพูดถึงคำทำนายชุดหนึ่ง ซึ่งบางคนบอกว่าเป็นของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ บางคนบอกว่าไม่ใช่ แต่ท่านไปพบและนำมาเผยแพร่เมื่อปี พ.ศ. 2518
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110307/show_ads_impl.js"></SCRIPT>แล้วถกเถียงกันว่ามันหมายถึงอะไร โดยเฉพาะในตอนสุดท้ายของคำทำนายที่ว่า จะมีสตรีขี่ม้าขาวมากวาดล้างมลทินให้สิ้นซากจากเมืองไทย หลังจากนั้นบ้านเมืองจะกลายเป็นถิ่นอารยะ คำทำนายนั้นไม่มีการระบุเวลาว่าจะเป็นเมื่อไร จึงมีลักษณะคล้ายของชาวฝรั่งเศสชื่อนอสตราดามุสซึ่งมีชีวิตอยู่ระหว่างปี 2046-2109 นั่นคือ เป็นคำทำนายว่าจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่โดยไม่ให้รายละเอียดยังผลให้ตีความหมายได้หลายอย่าง บางคนอ้างถึงเหตุการณ์ต่างๆ แล้วสรุปว่า คำทำนายแสนจะแม่นยำ ซึ่งก็มักจะทำให้ถูกกล่าวหาว่าตีขลุม

    เท่าที่ตามอ่านความเห็นในหนังสือต่างๆ และที่แพร่กระจายอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ต การกวาดล้างมลทินครั้งใหญ่ตามคำทำนายที่ว่าเป็นของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ซึ่งตรงกับความเชื่อของคอลัมนิสต์ชื่อดังคนหนึ่งที่เขียนบ่อยๆ ว่า ปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในทำนองฝนหลายห่าตกลงมาชะล้างนักการเมืองและคนเลวทรามพร้อมกับความชั่วช้าให้หมดไป หลังจากนั้นฟ้าจะสดใสส่งผลให้เมืองไทยพัฒนาไปเป็นอารยประเทศ ผมเคยถามคอลัมนิสต์ผู้นั้นว่าอะไรทำให้เขาเชื่อเช่นนั้น เขาไม่ยอมอธิบาย

    บางคนมองว่าคำทำนายชุดดังกล่าวเกี่ยวโยงกับปี 2555 ซึ่งอ้างกันว่าทั้งชาวมายาและนอสตราดามุสทำนายไว้ตรงกัน นั่นคือ จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ขนาดทำให้โลกเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกับที่ทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ หนังสือพิมพ์นี้ฉบับประจำวันที่ 2 มิถุนายน 2552 พูดถึงพระสงฆ์ไทยอายุกว่า 107 ปีชื่อฐิติลาโภภิกขุ ซึ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดว่าท่านยืนยันเรื่องจะเกิดเหตุการณ์ในแนวนั้นแน่ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านอารยธรรมมายาซึ่งล่มสลายมากว่าพันปีแล้วมักสรุปกันว่าชาวมายาไม่ได้ทำนายเช่นนั้น แต่เนื่องจากปฏิทินของพวกเขาสิ้นสุดแค่ปี 2555 จึงสรุปกันว่าชาวมายารู้ว่าปีนั้นจะเป็นวันสิ้นโลก บางคนมองว่าเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่อง “วันสิ้นโลก 2012” วางอยู่บนฐานของการทำนายของชาวมายาและนอสตราดามุส

    นอกจากคำทำนายซึ่งไม่มีคำอธิบายดังกล่าวแล้ว ปราชญ์ชาวฮังกาเรียนชื่อเออร์วิน ลาสซโล วิเคราะห์ไว้เมื่อหลายปีก่อนในหนังสือชื่อ The Chaos Point ว่าอะไรคือความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในปี 2555 ลาสซโลอ้างว่าโลกกำลังมีปัญหาหนักหนาสาหัสเพราะพฤติกรรมของมนุษย์เรา ปัญหาแสดงอาการออกมาในรูปต่างๆ เช่น ช่องว่างระหว่างผู้มีและไม่มีโภคทรัพย์ที่นับวันจะยิ่งกว้างขึ้น ชาวโลกใช้ความรุนแรงและการก่อการร้ายเพิ่มขึ้น การตอบโต้การก่อการร้ายจากฝ่ายรัฐนำไปสู่สงครามและความขัดแย้งที่รุนแรงยิ่งขึ้น การใช้จ่ายเพื่อการทหารเพิ่มขึ้น ประเทศส่วนใหญ่ผลิตอาหารได้ไม่เพียงพอแก่ความต้องการ ชาวโลกขาดน้ำสะอาดและระบบนิเวศขาดสมดุลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัญหาเหล่านี้มีโอกาสก่อให้เกิดความล่มสลายทั้งในระดับประเทศและระดับโลกโดยเริ่มจากความแตกแยกรุนแรงมากขึ้นทั้งระหว่างบางประเทศและระหว่างกลุ่มชนภายในประเทศเดียวกัน ปี 2555 เป็นช่วงเวลาที่จะชี้ว่าโลกจะเดินเข้าทางแห่งความล่มสลาย หรือจะวิวัฒน์ไปสู่ความยั่งยืน หากชาวโลกไม่ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำให้เกิดแนวโน้มดังที่เห็นอยู่ โลกจะเดินเข้าสู่ทางแห่งความล่มสลายแบบกู่ไม่กลับ

    หากนำการวิเคราะห์ของลาสซโลมาจับเมืองไทย คำทำนายที่ว่าเป็นของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำและความเชื่อของคอลัมนิสต์ชื่อดังคงตีความหมายได้ว่า คนไทยจะเปลี่ยนพฤติกรรมจนทำให้เมืองไทยเดินเข้าสู่ทางแห่งความยั่งยืนโดยเริ่มต้นจากปีนี้และจะมีความมั่นคงชัดเจนในปีหน้า เรื่องพฤติกรรมของคนไทยที่ทำให้เกิดปัญหาหนักหนาสาหัส รวมทั้งความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรม ความยากจนและความแตกแยกร้ายแรง คงไม่จำเป็นต้องพูดถึงเพราะเห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้ว ส่วนผู้นำที่จะทำให้คนไทยเปลี่ยนพฤติกรรมซึ่งจะเป็นสตรีขี่ม้าขาวอาจตีความหมายได้หลายอย่างดังความเห็นที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ และทางระบบอินเทอร์เน็ต แต่ผมมองว่าสตรีขี่ม้าขาวน่าจะเป็นสัญลักษณ์ของกระบวนการที่ผู้ทำนายเสนอให้คนไทยทำให้เกิดขึ้นมากกว่าจะเป็นบุคคลที่เกิดมาเพื่อกวาดล้างความชั่วร้ายให้หมดไปจากเมืองไทยโดยเฉพาะ และช่วงนี้เป็นโอกาสสุดท้าย หากคนไทยไม่ร่วมมือร่วมใจกันทำความล่มสลายก็จะมาเยือน กระบวนการอาจเป็นได้ในสองแบบคือ

    แบบแรก เป็นการวิวัฒน์ต่อไปในแนวปัจจุบันที่จะมีการเลือกตั้งครั้งต่อไปในปีนี้ซึ่งจะมีจุดพลิกผันสำคัญยิ่ง นั่นคือ จะได้นักการเมืองที่ไม่ค่อยมีความฉ้อฉล อย่าเพิ่งหัวเราะเพราะนั่นจะเป็นการดูแคลนพลังของกลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ รวมทั้งของกลุ่มเสื้อแดงและกลุ่มเสื้อเหลือง จะเห็นว่าตอนนี้มีฐานที่กลุ่มเคลื่อนไหวต่างๆ จะทำงานร่วมกันแล้ว นั่นคือ ข้อเสนอให้มีการปฏิรูปที่ดินของคณะกรรมการปฏิรูปประเทศที่มีคุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธาน เป็นไปได้ว่าอีกไม่นานผู้นำความเคลื่อนไหวทั้งหลายจะมองเห็นว่า ถ้ามีการรณรงค์อย่างเข้มข้นให้เลือกเฉพาะคนที่สนับสนุนการปฏิรูปที่ดินเข้ามาในสภาผู้แทนราษฎร แน่นอนว่าเมืองไทยจะได้รัฐบาลที่ไม่ค่อยมีความฉ้อฉลซึ่งจะนำเมืองไทยไปสู่ความยั่งยืน

    แบบที่สอง มาจากข้อเสนอของกลุ่มคนไทยในกรุงวอชิงตันที่ให้มีการยุบสภา บวกการลาออกของนายกรัฐมนตรี เหตุการณ์นี้จะเปิดโอกาสให้มีการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลที่มาจากการร่วมมือกันของภาคส่วนต่างๆ ที่ไม่มีนักการเมืองในปัจจุบันรวมอยู่ด้วย แน่หละ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์แจ่มกระจ่างไปข้างหน้าเป็นเวลานานและมีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยวเป็นพิเศษ

    น่าจะเป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดแล้วว่ากระบวนการแบบแรกจะเป็นสิ่งที่น่าต้องการมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คนไทยที่มีความสามารถและรักชาติโดยปราศจากข้อกังขาจะต้องออกมาช่วยกัน มิฉะนั้น เมืองไทยจะเดินเข้าทางแห่งความล่มสลายภายในปี 2555

     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สรรเสริญความกล้าหาญกษัตริย์โมร๊อกโกยอมรับข้อเรียกร้องประชาชน

    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 9:51:23
    [​IMG]

    สำนักข่าวมุสลิมไทย สรรเสริญความกล้าหาญกษัตริย์โมร๊อกโกยอมรับข้อเรียกร้องประชาชน

    สำนักข่าวตะวันออกกลาง – กษัตริย์มุฮัมมัดที่ 6 แห่งโมร๊อกโก ทรงปราศรัยกับประชาชนออกทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ พร้อมให้สัญญา 7 ขั้นในการปฏิรูปประเทศทุกๆ ด้าน อาทิ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีที่จะมีอำนาจบริหารประเทศอย่างแท้จริง




    การปราศรัยดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกที่มีขึ้น หลังการลุกฮือของกลุ่มหนุ่ม/สาวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีการตั้งชื่อกลุ่มที่ลุกฮือขึ้นว่า “กลุ่ม 20 กุมภา” เนื่องจากความวุ่นวายในวันนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และยังมีการนัดแนะผ่านเฟสบุ๊กให้ร่วมชุมนุมกันอีกในวันที่ 20 มีนาคมนี้

    หลายกลุ่มแสดงความพอใจในสิ่งที่กษัตริย์ทรงให้คำมั่น โดยจะมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนมิถุนายน หลังจากนั้นจะมีการลงประชามติ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันที่แน่นอน

    ฝรั่งเศส และสเปนซึ่งเคยปกครองโมร๊อกโกกล่าวชมเชยว่า เป็นการกระทำที่กล้าหาญ และรับผิดชอบของผู้ปกครองประเทศ

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ประท้วงในโมร๊อกโก และอัลจีเรีย แตกต่างจากกลุ่มที่ลุกฮือขึ้นในประเทศอาหรับอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาต้องการเร่งการปฏิรูปการปกครอง ซึ่งเริ่มดำเนินมาแล้วหลายปีให้รวดเร็ว ลงลึกและเป็นรูปธรรมขึ้น นักศึกษาหลายคนแสดงความพอใจ แต่ยังรั้งรอที่จะเชื่อจนกว่าจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงเริ่มขึ้น

    ในขณะเดียวกัน พรรคฝ่ายค้าน PJD ซึ่งนำโดย อับเดลลิละฮฺ เบนกีเรน กล่าวว่า เขารู้สึกประหลาดใจที่ได้รับฟังการปราศรัยดังกล่าว และคิดไม่ถึงว่ากษัตริย์จะตอบรับความต้องการของพรรคการเมือง และกลุ่มที่ลุกฮืออย่างง่ายดายเช่นนี้ - www.muslimthai.com

     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ซาอุฯเอาด้วย!! ปชช.เจ็บ 3 หลังถูกสลายการชุมนุม-เฟซบุ๊กนัดรวมพลใหม่ วันนี้

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 13:26 น.

    [​IMG]

    มุสลิมชีอะห์ชุมนุมในเมืองอัลกอตีฟ ซาอุดีอาระเบีย วานนี้ (10) ซึ่งเจ้าหน้าที่ตัดสินใจยิงใส่ฝูงชนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย



    เอเอฟพี - ตำรวจซาอุดีอาระเบีย ยิงผู้ประท้วงมุสลิมชีอะห์บาดเจ็บ 3 ราย ในแคว้นอีสเทิร์น วานนี้ (10) ขณะพยายามสลายการชุมนุม ซึ่งเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษ พยานเล่าเหตุการณ์ให้กับเอเอฟพี อนึ่ง เครือข่ายเฟซบุ๊กในซาอุดีอาระเบียได้เรียกรวมพลชุมนุม วันนี้ (11) หลังเสร็จสิ้นการละหมาด

    เหตุยิงประชาชนเกิดขึ้นวานนี้ ขณะผู้ประท้วงชาวชีอะห์ 600-800 คนรวมตัวกัน ซึ่งมีผู้หญิงร่วมด้วย กลุ่มผู้ประท้วงพากันเดินขบวนไปตามถนนในเมืองอัลกอตีฟ (Al-Qateef) เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักโทษชีอะห์ 9 คน ซึ่งถูกจับกุม พยานรายนี้เล่าสถานการณ์ โดยไม่ประสงค์ออกนาม

    “ขณะการเคลื่อนไหวใจกลางเมืองอัลกอตีฟกำลังจะเลิก ทหารเริ่มยิงใส่ผู้ประท้วง มีคนบาดเจ็บ 3 ราย” ผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่า ผู้บาดเจ็บทั้งสามเป็นผู้ชาย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว และอาการไม่ได้หนักหนาสาหัส เขากล่าวต่อว่า การยิงประชาชนกินเวลาประมาณ 10 นาที มีตำรวจราว 200 คนรายล้อมที่เกิดเหตุ

    ขณะเดียวกัน วันนี้ มีการนัดหมายผ่านทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ให้ออกมาชุมนุมในซาอุดีอาระเบีย ด้านสหรัฐฯ ออกมาระบุว่า จะติดตามสถานการณ์ในซาอุดีอาระเบียอย่างใกล้ชิด

    ประชาชนในกรุงริยาด ยังคงอยู่กันตามปกติเมื่อช่วงคืนวานนี้ แต่ที่ไม่ปกติ คือ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเพิ่มกำลังลาดตระเวนทั่วเมืองหลวงซาอุดีอาระเบียมากเป็นพิเศษ โดยเมื่อวันเสาร์ (5) ที่ผ่านมา รัฐมนตรีมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย ได้ประกาศย้ำว่า การชุมนุมประท้วงใดๆ ก็ตามในประเทศยักษ์ใหญ่แห่งโอเปกนี้ ผิดกฎหมายทั้งสิ้น และเตือนนักเคลื่อนไหวว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงมีสิทธิเต็มที่ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันอาทิตย์ (6) ทางการซาอุดีอาระเบีย ได้ปล่อยตัว ชีค ตอว์ฟิก อัล-อาเมอร์ ครูสอนศาสนานิกายชีอะห์ ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดการลุกฮือของมุสลิมชีอะห์

    ทั้งนี้ มุสลิมชีอะห์อาศัยอยู่ในแคว้นอีสเทิร์นจำนวนมาก นับเป็น 10 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ อย่างไรก็ตาม ชาวชีอะห์ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการถูกมองข้าม ภายใต้การปกครองของนิกายวะฮาบีย์ ผู้เคร่งศาสนา

    นักเคลื่อนไหวในโลกไซเบอร์ซาอุดีอาระบเบียใช้เฟซบุ๊กเรียกร้องการชุมนุมใน “วันแห่งความโกรธแค้น” หลังเสร็จสิ้นการละหมาดในวันนี้ และยังมีอีกกลุ่มหนึ่งคิดไกลไปถึงการ “ปฏิวัติซาอุดีอาระเบีย” โดยเรียกรวมตัวกันในวันที่ 20 มีนาคม อย่างไรก็ตาม เครือข่ายเฟซบุ๊กทั้ง 2 กลุ่ม ต่างเรียกร้องการปฏิรูปเศรษฐกิจ การเมือง ปัญหาการว่างงาน เสรีภาพ และสิทธิสตรี

    Around the World - Manager Online -
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Focus: สหรัฐฯยอมรับ กัดดาฟีอาจ “ชนะสงคราม”

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 10:49 น.

    [​IMG]


    เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เสนอรายงานต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา วานนี้ (10) โดยระบุว่า กัดดาฟีจะเป็นฝ่ายชนะ
    เอเอฟพี - ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ เสนอรายงานต่อวุฒิสภา วานนี้ (10) ว่า ท้ายที่สุดกองกำลังของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี จะเป็นฝ่ายกำชัยเหนือกลุ่มกบฏ ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ได้ต่อสายตรงหารือกับแกนนำฝ่ายต่อต้าน เพื่อเสนอความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

    ผู้นำสหรัฐฯ มีกำหนดแถลงข่าววันนี้ ด้วยประเด็นร้อนต่างๆ อาทิ เรื่องราคาน้ำมันที่ทะยานสูงขึ้น ขณะที่ทั่วโลกกำลังรุมกดดัน กัดดาฟี และเรื่องการสู้รบที่เกิดขึ้นในลิเบีย ด้าน ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเดินทางเยือนตะวันออกกลางในสัปดาห์หน้าเพื่อพบปะกับแกนนำฝ่ายกบฏ ระบุว่า จะมีการเสนอแผนประกาศ “เขตห้ามบิน” ในลิเบียต่อนาโตในวันอังคาร (15) หน้า

    นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ประกาศว่า เตรียมส่งทีมช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เข้าไปยังพื้นที่ ซึ่งฝ่ายกบฏยึดครอง ทางตะวันออกของลิเบีย พร้อมทั้งยืนกรานว่า ภารกิจดังกล่าวไม่ใช่การแทรกแซงทางการทหาร

    วานนี้ (10) ฝ่ายกัดดาฟีได้เปิดฉากการโจมตีระลอกใหม่ เพื่อยึดพื้นที่ซึ่งเสียไปตลอดการสู้รบ 3 สัปดาห์ โดยฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของเขา สามารถชิงเมืองทางตะวันออกคืนจากกบฏมาได้แล้ว 2 เมือง

    ยิ่งไปกว่านั้น เจมส์ แคลปเปอร์ ผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ รายงานผลการประเมินสถานการณ์ และยอมรับว่า กองทัพของกัดดาฟีมีแสนยานุภาพสูง

    “หากการสู้รบยืดเยื้อ ผมคิดฝ่ายกัดดาฟีจะชนะ” แคลปเปอร์ รายงานต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาสหรัฐฯ สอดคล้องกับความเห็นของ พล.ท.โรนัลด์ เบอร์เกสส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า โมเมนตัมของการสู้รบเริ่มเปลี่ยนทิศทางแล้ว และความได้เปรียบอาจอยู่ทางฝั่งกัดดาฟี

    ความเห็นของแคลปเปอร์ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ก่อให้เกิดเสียงต่อต้าน จนกระทั่ง ลินซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกรีพับลิกัน ออกมาเรียกร้องให้ปลดเขาออกจากตำแหน่ง

    ทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ระบุว่า ความเห็นของ เจมส์ แคลปเปอร์ เป็นเพียงการประเมินด้านการทหารเพียง “มิติเดียว” ซึ่งกัดดาฟีย่อมถือไพ่เหนือกว่าฝ่ายกบฏ เขาให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า ควรพิจารณาในหลายๆ มิติ อย่างปัจจัยด้านการเมือง อาทิ กัดดาฟีหมดความชอบธรรมตามหลักกฎหมาย การถูกโดดเดี่ยว และกระแสเรียกร้องของประชาชนให้ขับไล่เขาออกจากตำแหน่ง

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เปิดเผยข้อมูลใหม่เกี่ยวกับการติดต่อกับฝ่ายต่อต้าน และสภาแห่งชาติที่ฝ่ายกบฏตั้งขึ้น ในวันเดียวกันนั้น ฝรั่งเศสออกมายอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลกบฏลิเบีย และเรียกร้องให้ชาติตะวันตกยอมรับรัฐบาลดังกล่าว

    “เรากำลังพูดคุยกับฝ่ายกบฏโดยตรงผ่านหลายๆ ช่องทาง อย่างสมาชิกระดับสูงของสภาแห่งชาติ (กบฏลิเบีย) และบุคคลอื่นๆ ในลิเบีย” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกประจำตัวโอบามา แถลง

    Around the World - Manager Online - <b><font color=blue>Focus:</font></b>
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ธ.โลกทนไม่ไหววอน "ฮุนเซน" หยุดไล่ที่ประชาชน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 มีนาคม 2554 18:46 น.

    [​IMG]


    ชาวกัมพูชาจับปลาจากทะเลสาบบึงกากในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2554 และในวันพุธ (9 มี.ค.) ธนาคารโลกเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชายุติการขับไล่ประชาชนอีก 10,000 คนออกจากพื้นที่ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเสนอความช่วยเหลือต่อประชาชนที่ไร้ที่อยู่ . -- REUTERS/Samrang Pring .


    เอเอฟพี - ธนาคารโลกเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดไล่ทีี่ประชาชนในกรุงพนมเปญ ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นการบังคับไล่ที่ในประเทศ

    "เรากังวลใจและผิดหวังอย่างมากที่ประชาชนถูกขับไล่ออกจากบ้านของพวกเขาเอง" นายโรเบิร์ต เซลลิค ประธานธนาคารโลก กล่าว

    นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุว่า บริษัทเอกชนที่นักการเมืองในพรรครัฐบาลเป็นเจ้าของพยายามพัฒนาที่ดินบริเวณทะเลสาบกลางกรุงพนมเปญให้เป็นที่ดินเพื่อการพัฒนาเชิงพาณิชย์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีความขัดแย้งที่จะต้องไล่ผู้อยู่อาศัยบริเวณริมทะเลสาบถึง 4,000 ครอบครัว ทั้งนี้ ผู้อยู่อาศัยบริเวณริมชายฝั่งทะเลสาบบึงกากครึ่งหนึ่งย้ายออกไปแล้ว และได้รับค่าตอบแทนเพียงเล็กน้อยจากบริษัท ขณะที่ผู้อยู่อาศัยที่เหลือได้ชุมนุมประท้วงขึ้นหลายครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกร้องให้บริษัทและรัฐบาลให้ค่าตอบแทนที่เพียงพอ หรืออนุญาตให้พวกเขากลับเข้ามาอยู่ในบ้านเช่นเดิม

    ทั้งนี้นายเซลลิคกล่าวว่า ธนาคารเสนอให้คำแนะนำด้านการเงินและด้านเทคนิคเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาในทางปฏิบัติแก่ฐบาลกัมพูชา และว่าธนาคารโลกได้ย้ำต่อรัฐบาลกัมพูชาให้ยุติการไล่ที่

    กัมพูชาต้องเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกรณีบังคับไล่ที่ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสูรยา สุเบดี ผู้ตรวจการพิเศษสหประชาชาติด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า เขามีความเป็นห่วงอย่างมากเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิด้านที่ดิน ตามรายงานของสหประชาชาติที่เผยแพร่ออกมาเมื่อปี 2553 ระบุว่า เฉพาะในปี 2552 มีการขับไล่ที่อย่างน้อย 26 ครั้ง มีประชาชนได้รับผลกระทบประมาณ 27,000 คนทั่วประเทศ

    ความขัดแย้งเกี่ยวกับที่ดินเป็นปัญหาสำคัญของประเทศนับตั้งแต่มีการยกเลิกการถือครองที่ดินในช่วงการปกครองของเขมรแดงระหว่างปี 2518-2522 ที่เอกสารทางกฎหมายหลายๆ ฉบับสูญหายไปในช่วงเวลานั้น และธนาคารโลกได้เริ่มต้นโครงการด้านสิทธิครอบครองที่ดินในกัมพูชาในปี 2545 เพื่อจัดการปัญหาดังกล่าว แต่รัฐบาลกัมพูชาได้ยกเลิกโครงการนี้ในปี 2552 โดยกล่าวว่าเป็นเรื่องยากเกินไป

    [​IMG]

    ชาวกัมพูชานั่งพักอยู่ในซากอาคารบ้านเรือนรอบทะเลสาบบึงกากเพื่อรอการพัฒนาที่ดินในอนาคต โดยครอบครัวชาวกัมพูชากว่า 4,000 ครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ถูกไล่ที่และได้รับค่าตอบแทนอย่างไม่ยุติธรรม . -- REUTERS/Samrang Pring .



    [​IMG]

    ท่อขนาดใหญ่พ่นทรายจำนวนมากถมลงในทะเลสาบบึงกาก โดยในปี 2550 รัฐบาลได้มอบที่ดินบริเวณนี้ให้กับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชน Shukaku Inc ทำให้ต้องขับไล่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่หลายพันครอบครัว. -- REUTERS/Samrang Pring .


    [​IMG]


    หญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งตะโกนใส่ตำรวจปราบจลาจลระหว่างการประท้วงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ Shukaku Inc เกี่ยวกับเงินชดเชยที่ไม่ยุติธรรม ในกรุงพนมเปญเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 ผู้ประท้วงเรียกร้องค่าชดเชยย้ายออกจากพื้นที่ประมาณ 15,000-20,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่รัฐบาลยินยอมที่จะจ่ายให้เพียง 8,500 ดอลลาร์สหรัฐต่อครอบครัว -- REUTERS/Samrang Pring .


    [​IMG]


    ตำรวจและคนงานชาวกัมพูชายืนดูรถขุดพังบ้านที่ตั้ง อยู่ริมถนนสาย 3 ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ส่วนหนึ่งของปฏิบัติการไล่ที่ครอบครัวหลายพันครอบครัวที่อาศัยอยู่ในบริเวณ ทะเลสาบบึงกากเพื่อพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวในเชิงพาณิชย์.-- REUTERS/Samrang Pring .


    IndoChina - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    CrossTalk: Saudi Arabia Immune?

    <object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/KEBXh3AYjHU?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/KEBXh3AYjHU?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

    จาก: RussiaToday | สร้างเมื่อ: 9 มี.ค. 2011
    On this edition of Peter Lavelle's CrossTalk: Can Saudi Arabia remain immune from the Arab spring? Should the youth of Saudi Arabia have the same rights and aspirations as their Arab brothers and sisters? And does Washington have to cut another dictator loose? CrossTalking with Robert Jordan, Ali Alyami and Abdel Bari Atwan.
    CT on FB: CrossTalk | Facebook
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Demonstrations in Saudi and how Ummah can become truly independent - Osman Bakhach

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=WJPHdqYUoAk&feature=related"]YouTube - Demonstrations in Saudi and how Ummah can become truly independent - Osman Bakhach[/ame]

    จาก: muslimah1210 | สร้างเมื่อ: 6 มี.ค. 2011
    Demonstrations in Riyadh, Saudi Arabia, and continuing fighting in Libya. Osman Backach talks of the ummah's rejection of King Abdallah's attempted bribe and the need for the ummah to unite under Islam, address her own issues and prevent foreign powers from exploiting our lands.
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    March 11th, Saudi Arabia Protest Day of Rage Oil will Soar

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=dgP47WWrJF0&feature=related]YouTube - March 11th, Saudi Arabia Protest Day of Rage Oil will Soar[/ame]

    จาก: shelter101com | สร้างเมื่อ: 5 มี.ค. 2011
    http://shelter101.com/march-11-protest-in-saudi-arabia-will-cause-global-econ... March 11th may go down as the day that changes the future forever. Saudi Arabia day of rage protest is growing and may become a turning point in the history of the world.
     

แชร์หน้านี้

Loading...