เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

Live gunfire and injuries in Suq Al-Juma (warning: disturbing) (Tripoli, Libya - 2011)

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/f8q3yu0I84Q?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/f8q3yu0I84Q?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

libyanevidence | 27 ก.พ. 2011

 

อืม...คงเข้าสู่เดือนแห่งความเงียบมั๊งคะ
ดูเหมือนพี่ๆหลายคนจะทยอยกันเงียบไปตามๆกัน
ยังกะนัดกันไว้แ่นะ
น่าสนุกดี
เดี๋ยวๆๆ...มีนัมจาเงียบตามมั่งละsleeping_rbrabbit_sleepy

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=dOq37wMhEBw&feature=related]YouTube - Armageddon - Never Let Go[/ame]

 

From debt to debt: US post-college survival possible?

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/emQq4P6HSok?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/emQq4P6HSok?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

RussiaToday | 27 ก.พ. 2011 |
More and more American students are facing enormous tuition debt and low job prospects after graduating from college. Some find the solution of finding work abroad, but millions are settling for less. Is the US raising a generation of janitors with PhDs?Modern-day post-college survival is no joke. "I have $76,000 dollars in college debt," said unemployed college graduate Larry Hales, who has been unsuccessfully looking for work for over a year and a half. Haunted by tuition debt, Hales is one of America's college degree owners facing a job market that has long ago thrown out the welcome mat.
RT on Facebook: RT | Facebook
RT on Twitter: RT (RT_com) on Twitter


นักเรียนเพิ่มเติมมากขึ้นและอเมริกันกำลังเผชิญหนี้ค่าเล่าเรียนเป็นจำนวนมากและเป้าหมายการทำงานต่ำหลังจากสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัย บางคนหาทางแก้ปัญหาของการหางานในต่างประเทศ แต่จะตกตะกอนล้านน้อย สหรัฐจะเพิ่มการผลิตของ janitors กับปริญญาเอก? การอยู่รอดโพสต์โมเดิร์นวิทยาลัยวันเป็นเรื่องตลกไม่ ""ฉันได้ $ 76,000 ดอลลาร์ในตราสารหนี้วิทยาลัย,"วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการว่างงาน Larry Hales, ผู้ได้รับการหางานทำไม่สำเร็จไม่สำเร็จสำหรับกล่าวว่ากว่าหนึ่งปีครึ่ง ครอบงำโดยหนี้ค่าเล่าเรียน, Hales เป็นหนึ่งในอเมริกาเจ้าของปริญญาหันหน้าไปทางตลาดแรงงานที่มีนานมาแล้วโยนออกเสื่อต้อนรับ

 

Food crisis benefits Goldman Sachs

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/x3vpDqzz5mo?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/x3vpDqzz5mo?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

RTAmerica | 11 ก.พ. 2011 | ชอบ 118 คน ไม่ชอบ 3 คน
We're in the midst of a global food crisis — the second in three years. It's one factor fueling uprisings and protests in Tunisia, Egypt, and elsewhere. World food prices hit a record in January, driven by huge increases in the prices of wheat, corn, sugar and oils. Contributing Editor for Harper's Magazine Frederick Kaufman warns there's a direct link between the sky rocketing cost of food and Wall Street, particularly Goldman Sachs who own major shares of food commodities.



เราอยู่ในท่ามกลางของวิกฤตการณ์อาหารทั่วโลก -- สองในสามปี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้ uprisings และการประท้วงในตูนีเซีย, อียิปต์, และที่อื่น ๆ ตีราคาอาหารโลกบันทึกในเดือนมกราคมขับเคลื่อนโดยเพิ่มขึ้นมากในราคาของข้าวสาลี, ข้าวโพดน้ำตาลและน้ำมัน เอื้อ Editor for Harper 's Magazine Frederick Kaufman เตือนมีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างท้องฟ้า rocketing ค่าอาหารและ Wall Street, Goldman Sachs โดยเฉพาะที่เป็นเจ้าของหุ้นรายใหญ่ของสินค้าอาหาร

 

How Does Goldman Sachs Make Its Profits? (Part 1)

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/uMc6KyM_CrE?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/uMc6KyM_CrE?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

How Does Goldman Sachs Make Its Profits (Part 2)

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/98NhoCmaMt4?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/98NhoCmaMt4?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

PBSNewsHour | 12 ก.พ. 2010 |
PBS NewsHour Correspondent Paul Solman explores the secretive inner workings of Goldman Sachs. For more, visit Making Sense with Paul Solman | PBS NewsHour | PBS

 

ขอบคุณพี่..สันโดษjaah

 

กัดดาฟีนำขบวน ลูก-ผู้ใกล้ชิด “ลงเหว” ตามมติลงโทษของ UNSC

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 19:51 น.



พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี






ซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี


เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ลงมติวานนี้ (26) ให้อายัดทรัพย์สิน มูอัมมาร์ กัดดาฟี ตลอดจนบุตรชายทั้ง 7 คน บุตรสาวเพียงคนเดียว และเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้กำลังปราบปรามประชาชน และ/หรือ ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ รายชื่อผู้ที่คณะมนตรีความมั่นคงมีมติลงโทษมีดังนี้

มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำ และผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพลิเบีย

มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า กัดดาฟี “เป็นผู้รับผิดชอบสั่งการปราบปรามผู้ประท้วง และการละเมิดสิทธิมนุษยชนประชาชนลิเบีย”

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง

ซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี บุตรชายคนรอง และผู้ช่วยคนสนิทของพันเอกกัดดาฟี

มติของคณะมนตรีความมั่นคงกล่าวหา ซาอิฟ อัล-อิสลาม กัดดาฟี ว่า “โฆษณาปลุกกระแสการใช้ความรุนแรงเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง”

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง



ซาอาดี กัดดาฟี


กามิส กัดดาฟี บุตรชายของผู้นำลิเบีย เขาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการ กองพลน้อยพิเศษ และถูกกล่าวหาว่า “สั่งกำลังทหารปราบปรามผู้ประท้วง”

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง

มูตัสซิม กัดดาฟี บุตรชาย และที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของมูอัมมาร์ กัดดาฟี

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง

อาอิชา กัดดาฟี บุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้นำลิเบีย ทนายความสาวผู้นี้ติดอยู่ในรายชื่อของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลลิเบีย ไอชา กัดดาฟี เคยเป็นหนึ่งในทีมกฎหมายของ ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำเผด็จการของอิรักเมื่อปี 2004

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง



ฮานิบาล กัดดาฟี


ฮานิบาล กัดดาฟี บุตรชายของท่านผู้นำ ถูกลงโทษ เนื่องจากความใกล้ชิดกับระบบการปกครองลิเบีย เขาเป็นเจ้าพ่อธุรกิจการนำเข้า และส่งออกสินค้าทางทะเล

บทลงโทษ: อายัดทรัพย์ ห้ามเดินทาง

ซาอิฟ อัล-อาหรับ กัดดาฟี บุตรชายคนเล็กของ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถูกลงโทษเนื่องจากเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับองค์กรปกครองภายในลิเบีย

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

ซาอาดี กัดดาฟี บุตรชายคนที่ 3 และผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ มติของคณะมนตรีความมั่นคงระบุว่า เขาเป็นผู้สั่งกำลังทหารเข้าสลายการชุมนุม

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

มูฮัมเหม็ด มูอัมมาร์ กัดดาฟี บุตรชายคนโตของกัดดาฟี เขาดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักไปรษณีย์ของประเทศ และประธานบริษัทโทรคมนาคม

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง



อาอิชา กัดดาฟี


ไซยิด กัดฮัฟ อัล-ดัม หนึ่งในสมาชิกเครือญาติของกัดดาฟี ซึ่งถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารผู้ต่อต้านรัฐบาล รวมทั้งการลอบสังหารในยุโรป คาดกันว่า เขายังเป็นผู้จัดหาอาวุธ ข้อมูลจากมติของคณะมนตรีความมั่นคงระบุ

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

อับดุลเลาะห์ เซนุสซี น้องเขยของกัดดาฟี เซนุสซี มียศพันเอก และนั่งเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองทหาร มีรายงานบางฉบับ ยืนยันว่า เขาเป็นผู้ลงมือสังหารผู้ประท้วงในเมืองเบนกาซี

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

อับดุลกอเดร์ อัล บักดาดี ผู้อำนวยการสำนักประสานงานคณะกรรมาธิการปฏิวัติลิเบีย เขาถูกกล่าวหาว่า มีส่วนร่วมวางแผนใช้ความรุนแรงปรามปรามฝูงชน

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

อับดุลกอเดร์ ดีบรี หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงประจำตัวกัดดาฟี เขามีประวัติเป็นผู้สั่งการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ต่อต้านรัฐบาล

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

ไซเอด อูมาร์ ดูร์ดา หัวหน้าองค์กรความมั่นคงภายนอกลิเบีย และกลุ่มผู้จงรักภักดีต่อกัดดาฟี

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

อาบู บัคร์ จาบีร์ พลตรีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม ซึ่งรับผิดชอบความเคลื่อนไหวของกองทัพทั้งหมด

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

มูฮัมเหม็ด มาตุก เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลลิเบีย ผู้เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับการปราบปรามผู้ต่อต้านรัฐบาลด้วยความรุนแรง

บทลงโทษ: ห้ามเดินทาง

Around the World - Manager Online -

 

ระบอบ'กัดดาฟี'ใกล้ถึง'จุดจบ' UNคว่ำบาตร-กบฏยึดเกือบทั้งปท.

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:06 น.






ซูซาน ไรซ์ (ซ้าย) ทูตใหญ่สหรัฐฯ ประจำยูเอ็นหารือกับ บันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ


เอเอฟพี / เอเจนซี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) มีมติคว่ำบาตรผู้นำมูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบียและพวกพ้องด้วยการอายัดทรัพย์สิน รวมทั้งห้ามขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าสู่รัฐอาหรับดังกล่าว นอกจากนี้ยังจะนำกรณีสังหารหมู่พลเรือนจากเหตุลุกฮือคราวนี้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาไต่สวนของศาลอาญาระหว่างประเทศเพื่อเอาผิดกับอาชญากรสงครามทุกคนอีกด้วย ขณะเดียวกันระบอบกฎเหล็กอันยาวนานกว่า 4 ทศวรรษของกัดดาฟีก็ใกล้จะถึงกาลอวสานเข้าไปทุกทีๆ เมื่อทหารและตำรวจในพื้นที่บางส่วนของกรุงตริโปลีได้แปรพักตร์ไปเข้ากับกลุ่มฝ่ายค้าน และกลุ่มกบฎก็ยกกำลังรุดยึดครองเกือบทั้งประเทศลิเบียได้แล้ว

ยูเอ็นเอสซี ซึ่งประกอบด้วยชาติสมาชิกถาวรและหมุนเวียนรวม 15 ประเทศ มีมติเป็นเอกฉันท์เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ (26) ตามเวลาในนิวยอร์ก ให้ลงโทษด้วยการอายัดทรัพย์สินประธานาธิบดีกัดดาฟี พร้อมด้วยครอบครัวอันประกอบด้วยบุตรชายทั้ง 4 และบุตรสาว 1 คน รวมถึงผู้ช่วยคนสนิทของเขา ซึ่งได้แก่ เจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านกลาโหมและการข่าวกรองที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนร่วมในการสังหารหมู่พลเรือนไปมากกว่า 1,000 ราย ตามที่ยูเอ็นระบุ นอกจากนี้คณะมนตรีความมั่นคงยังสั่งห้ามการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์เข้าไปยังลิเบีย ตลอดจนกำหนดให้ประเทศดังกล่าวเป็นเขตห้ามการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นทางยูเอ็นเอสซียังได้นำเหตุการณ์ปราบปรามผู้ประท้วงนองเลือดในลิเบียคราวนี้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศอีกด้วย โดยคณะมนตรีฯ ระบุว่า การสังหารพลเรือนในลิเบียเป็นไปในวงกว้างและเป็นระบบซึ่งถือเป็นอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ

ซูซาน ไรซ์ ทูตใหญ่สหรัฐฯ ประจำยูเอ็น ระบุว่า บุคคลซึ่งถูกสั่งยึดทรัพย์สินทั้งหมดในต่างแดนนั้นมีอยู่ทั้งสิ้น 16 คน ส่วนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่พลเรือนลิเบียทั้งหมดก็จะต้องถูกดำเนินคดีและรับโทษทัณฑ์เป็นรายบุคคล

ก่อนหน้าการลงมติของยูเอ็นเอสซีเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำเนียบขาวได้แถลงว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กดดันให้กัดดาฟี ต้องก้าวลงจากเก้าอี้ตั้งแต่บัดนี้ ซึ่งนับเป็นท่าทีต่อกัดดาฟีที่ชัดเจนและแข็งกร้าวที่สุดของโอบามา

“หากผู้นำประเทศคนหนึ่งเพียงต้องการแค่จะรักษาอำนาจเอาไว้ ถึงกับใช้ความรุนแรงกับประชาชนของตน เช่นนั้นเขาก็ถือว่าขาดความชอบธรรมในการปกครองประเทศแล้ว และเขาก็จำเป็นจะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องเพื่อประเทศของเขาด้วยการลาออกเดี๋ยวนี้” โอบามา กล่าวในสายกับนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี

ด้านสถานการณ์ในลิเบียล่าสุด มุสตาฟา อับเดล จัลอิล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมซึ่งเพิ่งลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงรัฐบาล ก็ได้ประกาศจัดตั้งรัฐบาลชุดเฉพาะกาลขึ้นเพื่อแทนที่ระบอบของกัดดาฟีที่กำลังสูญเสียอำนาจปกครองลงทุกขณะ หลังจากกรุงตริโปลีซึ่งเป็นฐานที่มั่นและบัญชาการของกัดดาฟี ก็มีบางส่วนเริ่มตกอยู่ในความควบคุมของฝ่ายค้านแล้ว โดยมีรายงานว่าทหารและตำรวจได้ทิ้งอาวุธ หรือไม่ก็หันไปเข้าร่วมกับกลุ่มกบฏโค่นล้มระบอบ ในการนี้จัลอิล ระบุด้วยว่า คณะรัฐบาลชั่วคราวนี้จะประกอบด้วยบรรดาผู้บัญชาการทหารซึ่งส่วนใหญ่ได้แปรพักตร์มาอยู่กับกลุ่มฝ่ายค้าน นอกจากนี้เขายังให้คำมั่นด้วยว่าจะปูทางสู่การจัดการเลือกตั้งที่มีเสรีภาพและยุติธรรมภายในสามเดือนข้างหน้านี้

“รัฐบาลแห่งชาติของพวกเรามีทั้งกองกำลังทหารและพลเรือน รัฐบาลชุดนี้จะนำพาประเทศไม่เกิน 3 เดือน และหลังจากนั้นก็จะจัดให้มีการเลือกตั้งที่ยุติธรรมขึ้น และประชาชนก็จะได้เลือกผู้นำของพวกเขา” อับเดล จัลอิล กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองอัล-ไบดา ทางตะวันออกของลิเบีย อันเป็นเมืองฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มฝ่ายค้านล้มล้างระบอบ

ทั้งนี้กลุ่มกบฏติดอาวุธซึ่งประกอบด้วยนักรบยุวชนและทหารแปรพักตร์ได้ยึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศแล้วไล่ตั้งแต่เมืองสำคัญๆ อย่างเบงกาซี, มิสราตา และอัลไบดา เป็นต้น ขณะที่กองกำลังผู้ภักดีต่อกัดดาฟีซึ่งตอนนี้ครอบครองอาณาเขตดินแดนหดแคบลงเรื่อยๆ จนเหลือเพียงแค่พื้นที่บางส่วนด้านตะวันตกรอบๆ เมืองหลวง และเขตป้อมปราการในพื้นที่แห้งแล้งทางภาคใต้ ยังคงดาหน้ายิงใส่ประชาชนไม่เลือกหน้าหลังได้รับคำสั่งให้ยิงใครก็ตามที่พบเห็น โดยที่ชาวบ้านในตริโปลีหลายคนยังบอกกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า มีขบวนรถถังและยานหุ้มเกราะของฝ่ายกัดดาฟีออกลาดตระเวนตามถนนที่อยู่ในสภาพรกร้างหลายเส้นทาง แม้ว่าอีกด้านหนึ่งจะพยายามป่าวประกาศผ่านทางโทรทัศน์ทางการให้ประชาชนยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลในเรื่องการปรับเพิ่มค่าแรงและรับมอบเงินช่วยเหลือค่าอาหารอันเป็นความพยายามหนึ่งที่จะลดความเดือดดาลของชาวบ้านลง

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์จะเป็นใจให้แก่กลุ่มฝ่ายค้าน และกัดดาฟีก็มีแนวโน้มสูงที่จะสูญเสียอำนาจปกครองประเทศทั้งหมดในอีกไม่ช้านี้ ทว่า นานาชาติก็ยังไม่ละทิ้งความพยายามที่จะหารือกันถึงการใช้กำลังทหารเข้ามาช่วยปลดปล่อยประชาชนลิเบีย แต่กระนั้น การสนทนาในหัวข้อนี้ก็ยังคงคลุมเคลือไม่คืบหน้า เนื่องจากพวกเขายังไม่อาจคาดคะเนได้ว่ากองกำลังผู้ภักดีต่อกัดดาฟีราวหลายหมื่นคน ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มชนเผ่าและทหารหลายหน่วยที่บัญชาการโดยบุตรชายของกัดดาฟีนั้น จะต่อสู้ยืดเยื้อไปได้อีกนานเท่าใด

สำหรับท่าทีของนานาชาติ รัสเซีย ซึ่งเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคง เป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาประณามและกดดันกัดดาฟี โดยรัฐมนตรีการต่างประเทศ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ได้บอกกับมูซา คูซา รัฐมนตรีการต่างประเทศลิเบียว่า มอสโกรับไม่ได้ที่ทางการลิเบียใช้กำลังปราบปรามพลเรือนอย่างรุนแรง ขณะที่แคทเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงด้านวิเทศสัมพันธ์และความมั่นคงแห่งสหภาพยุโรป เตือนกัดดาฟี ถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา รวมทั้งเรียกร้องให้ยุติการละเมิดสิทธิมนุษยชนทันที

Around the World - Manager Online -

 

ลิเบียวิกฤต! เครื่องเหมาลำลงตริโปลีรับแรงงานไทยไม่ได้ แนะอพยพไปชายแดนตูนิเซีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 17:07 น.






กลุ่มผู้ประท้วงในประเทศลิเบีย(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)


โฆษกแรงงานเผยสถานการณ์กรุงเมืองตริโปลี ประเทศลิเบีย ระอุหนัก ส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานไทยไม่ได้ ระบุแรงงานยังปลอดภัย ขณะที่เรือโดยสารถึงตริโปลีวันจันทร์นี้ พร้อมแนะแรงงานไทยเร่งอพยพไปรวมตัวชายแดนตูนีเซีย

วันนี้ (27 ก.พ.) นายสุธรรม นทีทอง โฆษกกระทรวงแรงงาน ในฐานหัวหน้าคณะช่วยเหลือแรงงานไทยในประเทศลิเบีย เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ ณ กรุงตริโปลี กำลังวิกฤตอย่างหนัก ส่งผลให้ไม่สามารถนำเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานไทยที่ยังติดค้างอยู่จำนวน 223 คนได้ โดยเปลี่ยนเป็นการเช่ารถเพื่อเดินทางไปยังชายแดนประเทศตูนิเซียแทน ซึ่งในจุดดังกล่าวมีแรงงานไทยเดินทางไปรออยู่ตามชายแดนจำนวนกว่า 2,000 คน ขณะที่แรงงานไทยอีกกว่า 1,300 คน ได้เดินทางถึงประเทศอียิปต์แล้ว และกำลังเดินทางข้ามแดนมาเพิ่มอีก 800 คน ส่วนแรงงานไทยจำนวน 600 คน ที่เมืองเบนกาซี กำลังรอขึ้นเรือแต่ติดปัญหาการข้ามแดน โดยสถานทูตไทยที่ตุรกีกำลังเร่งดำเนินการช่วยเหลือ

นายสุธรรมเปิดเผยด้วยว่า ในวันนี้ตนจะเดินทางไปเมืองซาซีด และเมืองรัชอาเดีย ชายแดนประเทศลิเบีย เพื่อรับแรงงานไทยจำนวน 242 คนที่ยังติดค้างอยู่ ส่วนแรงงานที่ในแคมป์อื่น จากการติดต่อกับผ่านทางโทรศัพท์ล่าสุดได้รับการยืนยันว่าแรงงานไทยทุกคนปลอดภัย ขณะที่ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ เรือโดยสารที่จะไปรับแรงงานไทยจากกรุงตริโปลีลำแรก เพื่อเดินทางไปยังประเทศตูนิเซียจะมาถึง ซึ่งตนและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งประสานกับนายจ้างเพื่อพาแรงงานไทยออกมาขึ้นเรือให้ทันเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กองกำลังทหารขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้มาประจำอยู่ที่ชายแดนประเทศลิเบียฝั่งที่ติดกับประเทศตูนิเซียแล้ว จึงอยากฝากถึงแรงงานไทยที่อยู่กระจัดกระจายตามแคมป์ต่างๆ ให้รีบเดินทางที่ชายแดนดังกล่าว ตนและเจ้าหน้าที่จะช่วยประสานให้เข้าประเทศ เพื่อหาเที่ยวบินให้เดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000025771

 

UNHCRระบุ 7 วันคนอพยพจากลิเบีย 1 แสน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 21:08 น.






อพยพ – เรือเฟอร์รีที่ขนชาวต่างชาติ 1,749 คน มีทั้งชาวฟิลิปปินส์, จีน, โมร็อกโก, บราซิล, อียิปต์, เวียดนาม, และไทย เดินทางไปถึงท่าเรือเมืองลาวาเลตตา ประเทศมอลตา ภายหลังอพยพหลบภัยออกมาจากกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย เมื่อวานนี้(27) สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยยูเอ็นประมาณการว่าใน 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้อพยพออกจากลิเบียแล้วราว 100,000 คน





เอเอฟพี - สำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) รายงานว่า มีผู้อพยพลี้ภัยออกจากลิเบียแล้วถึงเกือบ 100,000 คนในช่วงตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพชาวต่างชาติ ขณะที่องค์การกาชาดสากล ระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีประชาชนมากกว่า 10,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอียิปต์ได้ลี้ภัยเข้ามายังพรมแดนตูนิเซียในวันเสาร์ (26)

ทางด้านรัฐบาลทั่วโลกก็กำลังเร่งประสานงานกับประเทศละแวกใกล้เคียงลิเบียเพื่อขอให้ช่วยอพยพพลเรือนของตนออกจากประเทศดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยที่บางชาติก็ได้ส่งทั้งเครื่องบินและเรือมารับด้วยตนเอง และมีรายงานล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (27) ว่า เรือขนผู้อพยพของกรีซได้นำผู้ลี้ภัยจำนวน 4,600 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ออกมาจากลิเบียได้อย่างปลอดภัย

ส่วนชาวอินเดียกลุ่มแรกที่ลี้ภัยจากลิเบียก็ได้เดินทางถึงมาตุภูมิเมื่อวานนี้ (27) ขณะที่รัฐบาลกรุงนิวเดลีวางแผนจะส่งเที่ยวบินรายวันไปยังลิเบีย เพื่อรับตัวพลเรือนอีกหลายพันคนที่ยังคงติดค้างในประเทศที่กำลังคุกรุ่นด้วยสงครามกลางเมือง

“การที่หลบหนีมาได้นี้ทำให้ผมรู้สึกราวกับได้ขึ้นสวรรค์” มูฮัมเหม็ด ซาลี นักวิศวกรวัย 63 ปี กล่าว

“มีชายคนหนึ่งเข้ามาและเอามีดจี้คอผม เขาเอาทรัพย์สินของผมไปจนเกลี้ยง ทั้งแล็ปท็อป, สายโซ่ แม้แต่รถยนต์”

“ผมได้ยินเสียงปืนทุกวัน... ประชาชนจำเป็นต้องหนีโดยที่ไม่มีอาหารและน้ำถึง 3 หรือ 4 วัน ขณะที่สถานการณ์ที่นั่นเลวร้าย ผู้คนยังเกลื่อนอยู่บนถนน... สถานีตำรวจหลายแห่งถูกเผาวอด ที่นั่นไม่มีความปลอดภัย เพราะไม่มีตำรวจ” เขา เล่า

Around the World - Manager Online - UNHCR

 

“ดีเจ กัดดาฟี” ดาราหน้าใหม่ในโลกอินเทอร์เน็ต
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>28 กุมภาพันธ์ 2554 00:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


ASTVผู้จัดการ/เอเอฟพี - ชาวอาหรับหยิบคลิปแถลงการณ์กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย มาล้อเลียนใส่เพลงแดนซ์แนวคลับบีตส์ประกอบ คนเข้าดูแล้วกว่าครึ่งล้าน

วานนี้ (27 ก.พ.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ขณะที่ในโลกแห่งความเป็นจริง พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย กำลังจะถูกด่าทอประณามจากคนลิเบีย รวมถึงชาวโลกจากเหตุการณ์การไล่ฆ่าผู้ประท้วงที่ต่อต้านตัวเอง ในโลกอินเทอร์เน็ตนั้นผู้นำเผด็จการชาวลิเบียรายนี้กลับได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในฐานะดาราประกอบมิวสิกวิดีโอ

หลังจากวันอังคารที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่ง พ.อ.กัดดาฟีออกมาแถลงอย่างกราดเกรี้ยวเป็นเวลา 75 นาทีผ่านหน้าจอโทรทัศน์ โดยกล่าวขู่ประชาชนว่าจะไม่ยอมหนีออกนอกประเทศ และจะขอให้ชาวลิเบียไล่กวาดล้างทีละบ้านจนกว่าผู้ประท้วงจะยอมจำนน และขอให้ผู้สนับสนุนออกไปชุมนุมแสดงพลังตามท้องถนนเพื่อนำตัวผู้ประท้วงมามอบให้ทางการ ภาพการแถลงการณ์ดังกล่าวก็ถูกบรรดามือดีนำมาตัดต่อใส่เพลงและเผยแพร่เป็นคลิปวิดีโอผ่านเว็บไซต์ยูทิวบ์

คลิปวิดีโอที่มี พ.อ.กัดดาฟี เป็นดาราประกอบมิวสิกวิดีโอนั้น ถูกอัปโหลดขึ้นในเว็บไซต์ยูทิวบ์จำนวนมากและมีผู้ชมรวมมากกว่า 5 แสนครั้งภายในเวลาเพียงแค่ 3 วัน

คลิปวิดีโอเพลงหนึ่งที่มีชื่อว่า “เซงกา เซงกา” ที่มีความยาวประมาณ 2 นาที ตัดต่อภาพการปราศรัยของกัดดาฟีให้เข้ากับเพลงแนวคลับบีตส์ได้อย่างเหมาะเจาะ โดยผู้ทำคลิปวิดีโอดังกล่าวคือ ดีเจ นอย อลูเช (Noy Alooshe) ศิลปินชาวอิสราเอลที่เป็นที่รู้จักในโลกอาหรับ โดยล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ที่ผ่านมามีผู้เข้าชมคลิปวิดีโอดังกล่าวมากกว่า 450,000 ครั้งแล้ว


<CENTER><IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/cBY-0n4esNY" frameBorder=0 width=480 height=390 allowfullscreen></IFRAME></CENTER>

Around the World - Manager Online -

 

หนุ่มกีวีใจประเสริฐ! ขับรถวนช่วยเหยื่อแผ่นดินไหว สุดท้าย “ตัวตาย” เพราะหินทับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 17:35 น.





เอเอฟพี - หนุ่มชาวกีวีน้ำใจประเสริฐ รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวในเมืองไครสต์เชิร์ช ยังมีใจช่วยเพื่อนร่วมชะตากรรม จนสุดท้ายถูกหินหล่นทับเสียชีวิตขณะเดินกลับบ้าน รายงานเผยวันนี้ (27)

โอเวน ไรต์ ช่างไม้วัย 40 ปี รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ซึ่งทำลายร้านของเขาในเมืองไครสต์เชิร์ช เมื่อวันอังคาร (22) ที่ผ่านมา และกำลังจะกลับบ้านไปพบหน้าภรรยา หลังส่งข้อความบอกทางบ้านว่า “ผมปลอดภัยดี” นิวซีแลนด์ เฮรัลด์ รายงาน

แต่แทนที่จะขับรถผ่านชาวเมืองที่เดินเท้าขึ้นเขาด้วยความอกสั่นขวัญแขวน หนุ่มใจบุญรายนี้กลับรับพวกเขาขึ้นรถ และช่วยพาไปส่งจนถึงยอดเขา แล้วยังวนกลับมารับคนอื่นๆ อีกหลายรอบ

ต่อมา ไรต์ จึงมุ่งหน้ากลับบ้านด้วยความเป็นห่วงภรรยาและลูก แต่ก็ต้องทิ้งรถกลางทาง เนื่องจากถนนถูกตัดขาด ขณะนั้นเขายังได้ส่งข้อความหาภรรยาว่า “อีก 10 นาทีถึงบ้าน” ก่อนจะเริ่มเดินเท้าต่อไป

แอนโทนี พี่ชายของ ไรต์ เล่าว่า นั่นเป็นข้อความสุดท้ายที่ทุกคนได้รับจาก ไรต์ หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมา จนทำให้หินก้อนใหญ่หล่นลงมาทับร่างของเขา

แอนโทนี กล่าวว่า น้องชายเสียชีวิตเพราะมีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่น

“เราเข้าใจว่า นั่นคงเป็นการแสดงน้ำใจครั้งสุดท้ายในชีวิตของเขา”

บุตรชายกำพร้าของ ไรต์ มีอายุครบ 4 ขวบ ในวันนี้ (27)

เหตุแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ช ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 147 ราย ซึ่งตำรวจคาดว่า ยอดผู้เสียชีวิตทั้งหมดอาจสูงถึง 200 คน



สะพานไม้แห่งหนึ่งในเมืองไครสต์เชิร์ชบิดเบี้ยวเพราะแรงแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา






ดินถล่มทับบ้านเรือนในเมืองซัมเนอร์ ใกล้เมืองไครสต์เชิร์ช วันนี้(27)

Around the World - Manager Online - ˹

 

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 01:29

<DD class=columnist-name>กาแฟดำ </DD>จำกัดถือครองที่ดินที่ 50 ไร่... หากไม่ผ่าน ความเหลื่อมล้ำไม่ลด

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ถ้าสังคมจะลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเสมอภาค ความไม่เท่าเทียมที่เราเห็นตำตากันมาตลอด ประวัติศาสตร์ของชาติก็ต้องหดหายไป

เพราะถ้ามีได้เปรียบ คนมี คนอยู่ในฐานะสูงกว่าคนอื่นไม่ยอมเสียสละเสียแต่วันนี้ วันข้างหน้าก็จะต้องเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นโดยที่ตนเองไม่ได้คาดหมาย
ข้อเสนอให้จำกัดสิทธิการถือครองที่ดินให้ไม่เกิน 50 ไร่ของคณะกรรมการปฏิรูป (คปร.) ชุดคุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานย่อมสามารถทดสอบได้ว่า สังคมไทยพร้อมที่จะลงมือในสิ่งที่พูดด้วยปากมาตลอดเวลาหรือไม่

ข้อเสนออีกข้อหนึ่งคือการเสนอให้จัดเก็บภาษีที่ดิน “อัตราก้าวหน้า” ซึ่งแปลว่าหากคุณมีที่ดินมาก คุณก็ควรที่พร้อมจะจ่ายภาษีมากขึ้นและไม่ใช่เพียงแค่มากขึ้นตามอัตราปกติเท่านั้น หากแต่จะต้องจ่ายมากแบบก้าวกระโดด
เพราะเมื่อคุณมีมากกว่าคนอื่นเขาหลายสิบเท่า คุณก็ควรจะต้องส่งคืนให้สังคมตามอัตราส่วนที่เหมาะสมเช่นกัน
คงไม่ต้องอธิบายว่าในประวัติศาสตร์นั้น การลุกฮือของประชาชนเพื่อโค่นล้มระบบของผู้มีอำนาจที่เอาเปรียบคนอื่นอย่างเหลือล้นนั้น ก็มีสาเหตุประการหนึ่งมาจากการที่คนกลุ่มเล็กๆ เป็นเจ้าของที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

เมื่อที่ดินส่วนใหญ่ไปตกอยู่ในมือของคนกลุ่มเล็กๆ เพียงกลุ่มเดียว และช่องว่างยิ่งนับวันก็ยิ่งจะกว้างขึ้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างสังคมที่เท่าเทียมขึ้นมา เพราะอำนาจต่อรองของคนกลุ่มเล็กๆ นี้จะกระจายตัวออกไปสู่แวดวงสังคมการเมืองและการปกครอง

แปลว่ากลุ่มเจ้าของที่ดินเหล่านี้เองที่เป็นผู้กำหนดชะตากรรมของประเทศชาติผ่านนักการเมือง นักวิชาการและข้าราชการเพราะกลุ่ม “landlords” เหล่านี้จะกระทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน ไม่ต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลงที่จะกระทบต่อฐานะของตน

เมื่อ คปร. เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่จะแสดงให้ประชาชนได้เห็นชัดเจนว่า มีความพร้อมที่จะเดินหน้าเพื่อเปลี่ยนกฎเกณฑ์กติกาของบ้านเมืองให้เกิดความเป็นธรรมในด้านการถือครองที่ดิน
เพราะหากปล่อยให้ช่องว่างนี้ดำเนินต่อไป ความเหลื่อมล้ำก็ยิ่งจะสูงขึ้นตามลำดับ เพราะนายทุนเจ้าของที่ดินจะกดดันให้คนมีที่ดินน้อยกว่าต้องยอมขายให้ตน และขายในราคาที่ไร้ความเป็นธรรมอย่างยิ่ง จนวันหนึ่งกรรมสิทธิ์ของที่ดินจะตกอยู่ในมือของคนไม่กี่กลุ่ม และประชาชนส่วนใหญ่ที่เหลือจะกลายเป็นเพียง “ผู้อาศัยแผ่นดิน” ของคนกลุ่มอภิสิทธิ์ชนเหล่านี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

พรรคการเมืองทุกพรรคที่เตรียมหาเสียงกับประชาชนในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น จะต้องประกาศนโยบายว่าด้วยการถือครองที่ดินและอัตราภาษีที่ดินให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินว่าจะให้พรรคไหน นโยบายอย่างไร เข้ามาทำหน้าที่รับใช้ประชาชน

เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่จะต้องสอบถาม ไต่สวน และติดตามนโยบายว่าด้วยการแก้ปัญหาเหลื่อมล้ำในสังคมของพรรคการเมืองทั้งหลาย โดยเฉพาะที่เห็นตำตาที่สุดคือประเด็นการถือครองที่ดินนี่แหละ

เพราะนี่คือดัชนีชี้วัดว่าสังคมไหนมีความเสมอภาคกันมากน้อยเพียงใด...และระบอบการเมืองใดเอื้อต่อการลดช่องว่างระหว่างคนมีกับคนไม่มี

ได้เวลาที่คนได้เปรียบในสังคมจะต้องแสดงความพร้อมที่จะ “เปลี่ยน” ก่อนที่ประชาชนคนส่วนใหญ่จะลุกขึ้น “เปลี่ยน” ท่านเสียเอง

 

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 01:36

เราพร้อมรับมือน้ำมันลิตรละ 50 บาทไหม...?

โดย : ทิฆัมพร ศรีจันทร์ bighnun@hotmail.com

ปรากฏการณ์ตูนิเซีย อียิปต์ไปจนถึงวิกฤติลิเบีย ส่งผลกระเทือนไปทั่วโลก ด้วยเหตุว่ากลุ่มประเทศพวกนี้ เป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ป้อนให้กับโลก

แน่นอนปัญหาในตูนิเซีย อียิปต์จบลงในเวลาสั้นๆ แต่วิกฤติลิเบียที่ผู้นำกระหายเลือดอย่าง โมฮัมมาร์ กัดดาฟี ประกาศสู้จนเลือดหยดสุดท้าย มีกองกำลังส่วนตัวพร้อมอาวุธครบมือไม่น้อยกว่า 2 แสนคน ย่อมหนีไม่พ้นสงครามกลางเมือง พื้นที่กรุงตริปูลี และเมืองโดยรอบ คงไม่ต่างไปจากทุ่งสังหาร

การอพยพแรงงานต่างชาติออกจากลิเบีย เป็นสัญญาณว่าผู้นำกระหายเลือด พร้อมเข่นฆ่าเพื่อนร่วมชาติอย่างเต็มรูปแบบ แรงงานที่ออกจากลิเบียส่วนหนึ่งเป็นแรงงานของบริษัทน้ำมันข้ามชาติ การผลิตน้ำมันย่อมหยุดชะงักลงอย่างสิ้นเชิง ลิเบียผลิตน้ำมันป้อนโลก 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน หากลิเบียยืดเยื้อน้ำมันหายไปจากตลาดโลก ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกถีบตัวขึ้นอย่างฉับพลัน และมีการคาดการณ์เบื้องต้นไปที่ 140 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และไม่มีใครรู้ว่าจะหยุดลงตรงไหน

ผลสะเทือนจากลิเบีย ย่อมสร้างความไม่แน่นอนให้กับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกมากขึ้น หลังจากเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นหัวรถจักรใหญ่ ยังอยู่ในอาการ "ลูกผีลูกคน" ขณะที่ยุโรปเองกำลังวุ่นกับการแก้ปัญหาหนี้ ที่ยังไม่มีทีท่าฟื้น ไม่ต้องพูดถึงญี่ปุ่นที่ฟุบเป็นยักษ์หลับมานาน
วิกฤติลิเบียส่งผลให้น้ำมันทะยานขึ้น ซ้ำเติมภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ข้าวของแพงที่เป็นแนวโน้มขาขึ้นทั่วโลกอยู่แล้ว แน่นอนธนาคารกลางของหลายประเทศอาจต้องใช้วิธีขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการแก้ปัญหาหรือซ้ำเติมให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก

หันมาดูสถานการณ์และการแก้ปัญหาของไทย รัฐบาลไทยแล้วน่าเป็นห่วงยิ่งนัก เมื่อเราไม่มีแผนรับมือปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ไว้เลย รัฐบาลโดยหน่วยงานวางแผนเศรษฐกิจทั้งหลาย วิเคราะห์และคำนวณราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภาคเอกชนเองวางแผนรับมือไว้ที่ 90 ดอลลาร์เช่นกัน

แต่สถานการณ์นี้ไม่ปกติ !

ขณะที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศยืนยันตรึงดีเซลไว้ที่ 30 บาทต่อลิตร โดยไม่คำนึงปัจจัยอะไรทั้งสิ้น เพียงเพื่อจะนำตัวเองเข้าสู่สนามเลือกตั้ง โดยไม่ถูกโจมตี จึงเลือกฝืนกลไกตลาด กลไกราคา ผลคือยอดการใช้น้ำมันดีเซล ไม่มีทีท่าจะลดลงหรือคนได้รู้สึกประหยัดตามราคาที่แพงขึ้น
ถ้าน้ำมันดิบพุ่งไปที่ 140-150 ดอลลาร์ เราอาจได้เห็นน้ำมันราคาจริงๆ ที่ 40-50 บาทต่อลิตร ซึ่งไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้

เพราะขณะนี้ รัฐบาลใช้เงินอุ้มอยู่ 4-5 บาทต่อลิตร หมายถึงราคาจริงอยู่ที่ 35 บาทต่อลิตร ไม่อ้างถึงกลุ่มน้ำมันเบนซิน (แก๊สโซฮอล์) ที่เฉียด 40 บาทเต็มที

อภิสิทธิ์จะนำเงินจากไหนมาอุ้มมากมายขนาดนั้น เมื่อใช้ไปแล้วเป็นหมื่นล้าน

พิเคราะห์สถานการณ์ถึงขณะนี้แล้ว น่าวิตกอย่างยิ่ง หากยังไม่ให้ประชาชนรับความจริง หากยังคงฝืนกลไกตลาด หากยังตั้งอยู่ในความประมาท หากยังขาดการวางแผนรองรับ

วันนี้เราต้องไม่ประมาท เหมือนที่รัฐบาลกำลังกระทำ

ต้องวางแผนรับมือราคาน้ำมันลิตรละ 50 บาทกันแล้ว !

 

“กัดดาฟี” จวกยูเอ็น ชี้มาตรการลงโทษถือเป็น “โมฆะ” อ้างประเทศสงบดี

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2554 08:51 น.






ผู้ประท้วงถือป้ายขับไล่มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการของลิเบีย


เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการลิเบียแถลงโจมตีมาตรการลงโทษของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าไม่มีผลบังคับใช้ พร้อมอ้างประเทศกลับสู่ความสงบสุขแล้ว เนื่องจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงจากฝ่ายค้านถูกล้อมไว้หมด

กัดดาฟีแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์พิงค์ เทเลวิชัน ของเซอร์เบีย ซึ่งเป็นการกล่าวผ่านสื่อต่างชาติที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนักว่า คณะมนตรีความมั่นคง หรือยูเอ็นเอสซีได้ลงมติที่ถือเป็นโมฆะ ตามบทบัญญัติในกฎบัตรของสหประชาชาติ

"เป็นไปได้อย่างไรที่คณะมนตรีความมั่นคงจะลงมติด้วยหลักฐานอ้างอิงจากรายงานของสื่อ นั่นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ และขัดกับสามัญสำนึก" เขากล่าวเป็นภาษาอาหรับ โดยมีคำบรรยายเป็นภาษาเซอร์เบีย

ในวันเสาร์ (26) ที่ผ่านมา ยูเอ็นเอสซีมีมติลงโทษกัดดาฟี ครอบครัวของเขา และพวกพ้อง โดยห้ามการเดินทาง และยึดทรัพย์สิน รวมถึงห้ามขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ลิเบีย ซึ่งทางยูเอ็นชี้ว่ามีประชาชนมากกว่า 1,000 รายถูกสังหาร

ในถ้อยแถลงทางโทรศัพท์ดังกล่าว ผู้นำลิเบียยังยืนกรานว่า สถานการณ์ในประเทศกลับสู่ภาวะปกติ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแล้ว ทั้งยังอ้างว่าผู้เสียชีวิตจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีจำนวนมากมายแต่อย่างใด

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังได้ประณามกลุ่มอัลกออิดะห์ว่าเป็นฝ่ายก่อเหตุรุนแรง และสังหารพลเรือนชาวลิเบีย นับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นการตอกย้ำว่าผู้ชุมนุมฝ่ายค้าน ที่ต้องการโค่นล้มอำนาจเขานั้นถูกยุยงส่งเสริม

สำหรับพื้นที่ส่วนที่ถูกกบฏติดอาวุธ ซึ่งประกอบด้วยนักรบยุวชน และทหารแปรพักตร์ยึดครองไปได้แล้ว อย่างเบงกาซี มิสราตา และอัลไบดา นั้น กัดดฟีระบุว่าเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ ซึ่งถูกกองกำลังปิดล้อมไว้แล้ว

Around the World - Manager Online -

 

โสมแดงขู่โจมตีข้ามแดนหลัง “โซล” ร่อนใบปลิวแพร่ข่าวประท้วงในอาหรับ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 13:46 น.






กลุ่มนักเคลื่อนไหวกำลังส่งบอลลูนที่บรรจุใบปลิวต่อต้านรัฐบาลเกาหลีเหนือ ที่สวนสันติภาพอิมจินแก็กในเมืองปาจู เมื่อวันที่ 9 กันยายน ปีที่ 2010 (แฟ้มภาพ)


เอเอฟพี - เกาหลีเหนือขู่จะโจมตีเกาหลีใต้อีกครั้ง หากกรุงโซลยังไม่ยุติการโฆษณาต่อต้านระบอบ คิม บริเวณชายแดน สื่อโสมแดงเผยวันนี้ (27)

สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ (เคซีเอ็นเอ) รายงานว่า กองทัพเกาหลีเหนือจะยิงถล่มจุดที่นักเคลื่อนไหวและกองทัพเกาหลีใต้ส่งบอลลูนขึ้นไปโปรยใบปลิวและดีวีดีต่อต้านรัฐบาล

“หากเกาหลีใต้ยังไม่หยุดการกระทำดังกล่าว ทั้งที่เราก็ได้เตือนหลายครั้งแล้ว ทหารของเราก็จะยิงไปที่ต้นตอของการโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อปกป้องตนเอง” เคซีเอ็นเอ รายงาน

กองทัพเกาหลีเหนือ ยังแถลงด้วยว่า ขอให้เกาหลีใต้ “หยุดทำสงครามจิตวิทยากับเกาหลีเหนือในทันที”

ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเริ่มปะทุขึ้นอีกครั้ง เมื่อเกาหลีใต้จะเปิดการซ้อมรบประจำปีร่วมกับสหรัฐฯตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (28) จนถึงวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งเกาหลีเหนือระบุว่า จะยิ่งกระตุ้นให้เกิดสงครามเร็วขึ้น

ประกาศเตือนจากรัฐบาลโสมแดงมีขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาคนหนึ่ง อ้างว่า กองทัพเกาหลีใต้พยายามเผยแพร่ข่าวการโค่นล้มรัฐบาลในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางเข้าไปยังเกาหลีเหนือ

ซอง ยัง-ซุน นักการเมืองฝ่ายค้านอนุรักษนิยม อ้างรายงานจากกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ว่า มีการส่งบอลลูนขึ้นไปแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเกาหลีเหนือ เช่น ยารักษาโรค และ เสื้อผ้า เป็นต้น

ซอง ระบุว่า บอลลูนเหล่านั้นยังโปรยใบปลิวที่บอกเล่าชะตากรรมของผู้นำเผด็จการในโลกอาหรับ เพื่อให้ชาวเกาหลีเหนือที่ถูกปิดกั้นข่าวสารจากโลกภายนอกได้รับทราบ

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ตระกูล คิม จะยังครองอำนาจในเกาหลีเหนือต่อไปได้ เนื่องจากประชาชนไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และยังขาดสถาบันทางสังคมที่จะก่อตัวเป็นฝ่ายล้มล้างรัฐบาล

สำนักข่าว เคซีเอ็นเอ ยังรายงานวันนี้ (27) ด้วยว่า เกาหลีเหนือจะโจมตีแผนซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯสัปดาห์นี้อย่างเต็มกำลัง

“กรุงเปียงยางจะตอบโต้การซ้อมรบซึ่งจะเริ่มในวันจันทร์ (28) นี้ อย่างไม่ลดละ ซึ่งจะทำให้กรุงโซลของเกาหลีใต้กลายเป็นทะเลเพลิง” เคซีเอ็นเอ ระบุ



Around the World - Manager Online -

 

นายกเวินฯ ให้คำมั่นคุมเงินเฟ้อ เพื่อปลดชนวน “ชุมนุมดอกมะลิ” ในจีน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 19:39 น.






นายกรัฐมนตรีจีน เวิน จยาเป่า กำลังแชตออนไลน์กับชาวเน็ตจีนระหว่างสองสำนักข่าวได้แก่ เว็บไซต์ทางการของรัฐบาลกลาง 中华人民共和国中央人民政府门户网站 และสำนักข่าวซินหวา เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2553 โดยลั่นว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมเงินเฟ้อได้ เพื่อปลดชนวนปัญหาการชุมนุมดอกมะลิที่กำลังเกิดขึ้นในจีน (ภาพเอเยนซี)


เอเอฟพี - เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีของจีนให้คำมั่นในเว็บแชตออนไลน์ เมื่อวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ว่าจะควบคุมระดับอัตราเงินเฟ้อ โดยลั่นว่า “ถึงเวลาที่จะต้องปลดชนวนการชุมนุมประท้วงใน 13 เมืองของจีนแล้ว”

“พวกเรา (รัฐบาลจีน) ควบคุมระดับเงินเฟ้อได้อย่างแน่นอน” เวินกล่าว

ทางการจีนเคยประกาศเมื่อต้นเดือนม.ค. ว่า ระดับเงินเฟ้อยังคงสูงถึง 4.9 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่ารัฐจะรัวชุดมาตรการเพื่อกดราคาสินค้าที่สูงขึ้นหลายชุด หรือกระทั่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น ช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาถึง 3 ครั้งก็ตาม

ราคาอาหาร ราคาบ้านและราคาเครื่องยังชีพอื่น ๆ ที่มีราคาพุ่งสูง ได้กลายมาเป็นปัญหาหลักที่รัฐบาลกังวล และผู้นำจีนกำลังเฝ้าระวังว่า ปัญหาเหล่านี้อาจนำมาซึ่งการก่อตัวของความไม่สงบ ดังเช่นที่เกิดในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ

กระแสปฏิวัติในอาหรับนี้ ได้ปลุกกระแสเรียกร้องออนไลน์ในจีน ให้คนจีนออกมารวมพลเดินประท้วงในช่วงเวลา 14.00 น. ทุกวันอาทิตย์ ใน 13 เมืองที่ถูกกำหนดขึ้นทั่วประเทศจีน

แม้ว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาตำรวจได้ออกมาปฏิบัติหน้าที่ในกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และเมืองอื่น ๆ อย่างคับคั่ง แต่ประชาชนที่ออกมาร่วมประท้วงดูจะเบาบาง

อย่างไรก็ตาม หลังจากการชุมนุมนี้มีกำหนดรวมตัวกันทุกสัปดาห์ ทางการจีนจึงไม่อาจวางใจได้

ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเห็นขบวนรถบรรทุกตำรวจจีนเบนหัวไปทางบริเวณถนนหวังฝูจิ่ง ใจกลางกรุงปักกิ่งซึ่งมีการประท้วงตอนเช้าวันอาทิตย์ (27 ก.พ.) ซึ่งรถบรรทุกชูธงเรียกร้องให้ทุกคนรักษาความสงบเพื่อความมั่นคงของรัฐ ทั้งนี้รถบรรทุกดังกล่าวดูเหมือนจะเป็นของกองกำลังตำรวจติดอาวุธจีน ซึ่งเป็นกลุ่มกำลังที่รัฐบาลจีนออกแบบมาเพื่อจัดการปัญหาความไม่สงบภายในโดยเฉพาะ

ในตอนต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านสีน้ำเงินขนาดใหญ่หน้าร้านแม็คโดนัล บริเวณถนนหวังฝูจิ่ง เพื่อป้องกันการรวมตัวของผู้ประท้วงในบริเวณดังกล่าว

ก่อนหน้านี้รายงานข่าวกล่าวว่า Boxun.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของชาวจีนในต่างแดน ได้เริ่มรณรงค์ให้ชาวจีนใน 13 เมืองใหญ่ มารวมตัวกันทุกๆ วันอาทิตย์ เพื่อกดดันรัฐบาลบริหารงานด้วยความโปร่งใส และเปิดให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

โฆษกรัฐบาลกลาง เจ้า ชี่เจิง เคยแถลงเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ว่า การปฏิวัติ "มะลิ" แบบที่เกิดขึ้นในตูนีเซียและอียิปต์ล่าสุด นั้นไม่สามารถจุดไฟในแผ่นดินจีน โดย เจ้า เชื่อว่า มีคนกลุ่มหนึ่งต้องการที่จะเห็นจีนตกอยู่ในสภาวะสับสนวุ่นวาย และไม่มีเสถียรภาพ นับเป็นการออกความเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงฯ อย่างเป็นทางการครั้งแรก เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตกตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

China - Manager Online -

 

เกมแมวไล่จับหนู ... หนูดื้อกระโดดข้าม “มหากำแพงไฟ"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 16:00 น.








ซีเอ็นเอ็น -ว่ากันว่าการเซ็นเซอร์คือวิถีชีวิตในสังคมจีนมานานกว่า 60 ปีแล้ว
ดังนั้น การพยายามสืบค้นข้อมูลในอินเทอร์เน็ตสำหรับเรื่องราว ที่รัฐบาลปักกิ่งเห็นว่าเป็นภัยแก่ความมั่นคงของชาติ หรือเป็นเรื่องเสื่อมเสียวัฒนธรรม จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์กันหน่อย

วันนี้ผู้ใช้เว็บไมโครบล็อกของจีนจึงมีช่องทางซิกแซก เจาะระบบป้องกันการเข้าถึงข้อมูล หรือไฟร์วอลล์ของจีน (Great Firewall of China) ได้อย่างสบาย ๆ

หากคุณต้องการทราบข้อมูล ซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรงทางการเมือง ที่รัฐบาลจีนไม่ปรารถนาจะให้ประชาชนของตนได้รับรู้อย่างเรื่องการลุกฮือของพลังประชาชนโค่นล้มอำนาจผู้นำอียิปต์ หรือประเด็นเหตุการณ์เรียกร้องประชาธิปไตย ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน แล้วพิมพ์คำว่า “Egypt” , “Tiananmen” หรือ “ June 4th , 1989” เข้าไปในไซต์ไมโครบล็อกของจีนไซต์ใดก็ตาม รับรองว่าแห้ว เพราะผลการค้นหาจะมีข้อความตอบกลับมาว่า

“ไม่แสดงผลการค้นหาภายใต้การบังคับใช้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง”

เกมแมววิ่งไล่จับหนูจึงเกิดขึ้น แต่คราวนี้ หนูตัวเก่งสามารถกระโดนแผล็วข้ามกำแพงไฟมหึมาไปได้

หากผู้ใช้ไมโครบล็อกพิมพ์รหัสว่า “8X8” ซึ่งหมายถึง 64 หรือ 6/4 ซึ่งก็คือ June 4th วันที่ 4 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันที่กองทัพจีนปราบปรามนองเลือดนักศึกษาประชาชน ที่เรียกร้องประชาธิปไตย คุณก็อาจเล็ดลอดเข้าไปแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยได้อย่างไม่น่าเชื่อในเครือข่ายสังคมออนไลน์

การพิมพ์คำว่า “the Pharaoh nation” แทนคำว่า “Egypt” หรือหากสะกดคำว่า “democracy” ผิด เป็น “democrasy” หรือ “democrazy” หรือแม้แต่การสแกนข้อความที่เขียนแสดงความคิดเห็น แล้วโพสต์เป็นไฟล์อิมเมจ เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ผู้ใช้ไมโครบล็อกสามารถหลอกลวงผู้คุมการเซ็นเซอร์ ที่ยึดคีย์เวิร์ดในการตรวจสอบในเว็บไมโครบล็อกหลัก ๆ ของจีน เช่น เหรินเหริน (Renren) หรือ ซีน่า เวยปั๋ว (Sina Weibo)

บางคนก็นำคำแสลงตามท้องถนนมาผสมผสานกัน หรือใช้ภาษาถิ่นในภูมิภาคต่าง ๆ ถึง 45 ภาษา มาปิดบังคำสนทนา

“เราน่าจะทำมันได้ (โค่นล้มรัฐบาล) เมื่อ 22 ปีก่อน แต่สุดท้ายเราก็ล้มเหลว” ผู้ใช้ไมโครบล็อกจากเมืองก่วงโจวรายหนึ่งคร่ำครวญในเว็บไซต์ Sina Weibo โดยเปรียบเทียบการประท้วงในอียิปต์กับเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 2532

“ตอนนี้เราได้แต่มองความสุขของคนอื่นตาปริบ ๆ และฝันถึงความสุขของเราบ้าง” เขาระบายความรู้สึก

ต่อมาไมไครบล็อกเกอร์รายนี้ยังส่งข้อความมาอีกว่า

“แม้ว่าเขา (อดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัก) ถูกบังคับให้ลาออก แต่เขาก็ยังคู่ควรได้รับการเคารพบ้าง ที่นี่ (จีน) ไม่มีอะไรจบลงโดยปราศจากการใช้กำลัง หรือการเข่นฆ่าผู้คน”

การสื่อสารออนไลน์ผ่านเว็บไมโครบล็อกกำลังฮิตกันบนแดนมังกร เพื่อรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชั่น การดำเนินคดีความในศาล ที่มีเงื่อนงำน่าสงสัย การตามหาเด็ก ที่ถูกลักพาตัว และชะตากรรมของนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

ขณะที่เว็บสังคมออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์เป็นสิ่งต้องห้ามในจีน ส่วนเว็บสังคมออนไลน์ของจีน เช่น เหรินเหรินก็ว่าจ้างผู้ควบคุมการเซ็นเซอร์มากถึง 500 คน

อย่างไรก็ตาม นายกัง ลู่ ผู้ประกอบการด้านอินเทอร์เน็ตรายหนึ่งมองว่า หากเทียบกับ 2 ปีก่อน ขณะนี้รัฐบาลจีนผ่อนคลายความเข้มงวดกว่าเดิมมาก ขณะที่การแสดงความคิดเห็นในแง่ลบต่อรัฐบาลตามเว็บไมโครบล็อกก็มีเยอะขึ้น

สัญญาณทีดีอีกประการหนึ่งตามความเห็นของนายกังก็คือเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของจีน ตั้งแต่ตำรวจ ไปจนถึงนายกเทศมนตรีท้องถิ่น แม้กระทั่งประธานาธิบดีหู จิ่นเทาเอง ตอนนี้มีไมโครบล็อกของตัวเองกันทั้งนั้น

“มันอาจเป็นแค่การโชว์ แต่ผมคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดี” นายกังระบุ

“มันแสดงว่า อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็เตรียมตัว ที่จะรับฟัง และกำลังโต้ตอบปรากฎการณ์การสื่อสารผ่านเว็บไมโครบล็อกอยู่ในขณะนี้”

China - Manager Online -

 

จีนยกเลิกโทษประหาร ใน 13 ความผิดเศรษฐกิจ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กุมภาพันธ์ 2554 08:11 น.








เอเยนซี - จีนปรับบทลงโทษกฎหมายอาญา โดยยกเลิกโทษประหารในความผิดทางการเงินและเศรษฐกิจ 13 เรื่อง เพื่อสนองนโยบายสิทธิมนุษยชน และมิติมนุษยธรรมในกระบวนการยุติธรรม ที่ถูกตำหนิวิพากษ์จากนานาชาติเสมอมา

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สภากรรมาธิการจีนได้ประชุมเกี่ยวกับบทลงโทษทางอาญา โดยเฉพาะความผิดอาญาที่ต้องโทษประหารมากกว่า 55 เรื่อง

มติที่ประชุมเห็นชอบให้ยกเลิกโทษประหารกับความผิดทางเศรษฐกิจ และความผิดที่ไม่ร้ายแรงอื่นๆ ทั้งสิ้น 13 เรื่อง อาทิ ความผิดฐานเลี่ยงภาษี โจรกรรมซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล ลักลอบนำโบราณวัตถุ สินแร่มีค่า หรือสัตว์ป่าสงวนออกนอกประเทศ และขโมยศพจากสุสาน

นอกจากนี้ บุคคลที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไป ก็จะได้รับการยกเว้นโทษประหารด้วย ในอดีตนั้นเงื่อนไขลดโทษนี้ จะใช้เฉพาะบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี และสตรีที่มีครรภ์

การยกเลิกโทษประหารนี้ นับเป็นการปรับบทลงโทษครั้งแรกนับแต่ปี พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา หลังจากมีความพยายามเรียกร้องสิทธิของผู้ต้องหาและนำหลักมนุษยธรรมเข้ามาปรับใช้ แต่ขณะเดียวกัน ก็เพิ่มคดีอาญาใหม่ๆ อย่าง เมาแล้วขับ และแข่งรถฯ ซึ่งก็ได้รับความสนับสนุนจากประชาชน เพราะเห็นว่าจะช่วยให้คนขับรถด้วยสำนึกความรับผิดชอบมากขึ้น และการบังคับใช้อย่างจริงจังจะช่วยลดอันตรายบนท้องถนนได้มาก

ซุน กั่วเสียง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยอาชญากรรมเศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยหนานจิง กล่าวว่า ระบบลงโทษของกฎหมายอาญา ก็คือการคุ้มครองสังคม ดังนั้น การเพิ่มบทลงโทษกรณีขับขี่ยานพาหนะอันเป็นอันตรายต่อผู้อื่น นับเป็นมาตรการป้องกันที่เหมาะสม เพราะแต่ก่อนบทลงโทษ "เมาแล้วขับ" มีเพียงแค่กักขังไม่เกิน 15 วัน และตัดคะแนน ซึ่งก็ไม่ช่วยลดปัญหาความรุนแรงแต่อย่างใด

คณะกรรมการที่ประชุมยังได้ขยายขอบเขตฐานความผิดไปยังการสนับสนุนกลุ่มอาชญากรรมทั้งในและต่างประเทศ ในความผิดที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ความผิดเกี่ยวกับอาหารฯ และ นายจ้างที่โกงค่าแรงลูกจ้างด้วย

China - Manager Online -

 

มังกรส่งเครื่องโบอิ้ง 15 เที่ยวต่อวัน อพยพชาวจีนในลิเบีย

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2554 09:21 น.






เครื่องบินของสายการบินแอร์ ไชน่า ที่สนามบินนานาชาติ กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 26 ก.พ. ขณะกำลังเตรียมเดินทางไปอพยพชาวจีนออกจากประเทศลิเบีย (ภาพเอเยนซี)


เอเยนซี - สื่อต่างประเทศรายงาน จีนเตรียมเครื่องบินอพยพประชาชนจีนออกจากลิเบีย 15 เที่ยวต่อวันในช่วง 2 สัปดาห์หน้านี้ ขณะกระทรวงต่างประเทศเผย อพยพคนจีนออกมาแล้วเกือบ 16,000 คน

กระทรวงต่างประเทศ ของจีน รายงานวันที่ 26 ก.พ. ว่า ได้อพยพประชาชนเกือบ 16,000 คนออกจากลิเบียแล้วในช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ 26 ก.พ. ขณะทางการกำหนดเที่ยวบินพิเศษ 15 เที่ยวบินต่อวัน ทะยอยรับคนจีนออกจากลิเบีย ตลอดช่วง 2 สัปดาห์หน้านี้

สำนักข่าวซินหวา รายงานวันที่ 27 ก.พ. ว่า สำนักงานการบินพลเรือนของจีน ตัดสินใจที่จะส่งเครื่องบินเที่ยวบินพิเศษไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่ติดกับลิเบียทุกวันตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.จนถึงวันที่ 10 มี.ค. เพื่อดำเนินการอพยพประชาชนออกจากลิเบียโดยสายการบินที่ปฏิบัติภารกิจนี้ เป็น สายการบินแอร์ ไชน่า กำหนด 5 เที่ยวบินต่อวันไปยังกรีซทุกวัน สายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส ส่งเครื่องบินไปยังมอลต้าวันละ 4 เที่ยวบิน สายการบินไชน่า เซาเทิร์น แอร์ไลน์ส ส่งเครื่องบินไปยังตูนิเซียวันละ 4 เที่ยวบิน และไห่หนาน แอร์ไลน์ส จะส่งเครื่องบิน ไปยังเกาะครีทของประเทศกรีซ วันละ 2 เที่ยวบิน รวมทั้งสิ้น 15 เที่ยวบินต่อวัน

China - Manager Online -