เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พญามังกรเจอทีเด็ดวิกิลีกส์ ความลับทางการทูตถูกเปลือยล่อนจ้อน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 ธันวาคม 2553 07:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    เอเอฟพี - ในการเปิดโปงเอกสารลับ ซึ่งมีความอ่อนไหวของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ครั้งมโหฬารล่าสุดโดยฝีมือเว็บไซต์วิกิลีกส์ ที่กำลังสร้างความฮือไปทั่วโลกเวลานี้ มีตอนหนึ่งระบุ จีน ซึ่งเป็นพี่เบิ้มเกาหลีเหนือ กำลังกริ่งเกรงมากขึ้นทุกทีว่าจะคุมเกาหลีเหนือไม่อยู่ นอกจากนั้น จีนยังขัดขวางการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสุดฤทธิ์

    บันทึกลับฉบับหนึ่ง ซึ่งหนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ นำมาตีพิมพ์เผยแพร่ซ้ำระบุ นาย เฉิง กั๋วผิง เอกอัครราชทูตจีนประจำคาซักสถานได้เอ่ยในงานเลี้ยงอาหารค่ำคราวหนึ่งเมื่อปีที่แล้วว่า รัฐบาลปักกิ่งเห็นว่า โครงการนิวเคลียร์ของโสมแดงเป็นเรื่อง “น่าหนักใจมาก” และหวังว่า ในระยะยาวเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้จะรวมประเทศกันได้อย่างสงบ โดยเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำคาซักสถานเป็นคนบันทึกคำพูดนี้

    ในเอกสารโทรเลขอีกฉบับ ซึ่งหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ นำมาเผยแพร่อีกครั้ง ระบุคำพูดของเจ้าหน้าที่จีนผู้หนึ่ง ซึ่งชื่อแซ่ถูกลบออกไปว่า รัฐบาลจีนเชื่อว่า เกาหลีเหนือ “ไปไกลสุดกู่แล้ว” หลังจากได้ทดลองอาวุธนิวเคลียร์ และทดลองยิงขีปนาวุธเป็นคำรบสอง

    เจ้าหน้าที่ผู้นั้นได้กล่าวกับนักการทูตสหรัฐฯคนหนึ่งว่า เจ้าหน้าที่จีนได้แสดงความไม่สบายใจให้เกาหลีเหนือรับทราบ และกดดันให้กลับสู่โต๊ะเจรจา

    “โชคร้าย” คำพูดของเจ้าหน้าที่จีนถูกบันทึกในเอกสารลับ

    “ การประท้วงเหล่านั้นไร้ผล”

    “ ชาติเดียว ที่อาจผลักดันให้เกิดความคืบหน้าจากเกาหลีเหนือได้ก็คือสหรัฐฯ”

    ข้อมูลลับ ซึ่งรั่วไหลถึงวิกิลีกส์ ที่เกี่ยวกับพญามังกรอีกเรื่องหนึ่งได้แก่ จีนได้แสดงความวิตกกังวลกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับกระแสผลักดันให้มีการปฏิรูปคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แม้ในที่สาธารณะจีนพยายามแสดงความเห็นอย่างระมัดระวังก็ตาม โดยนาย เหอ ย่าเฟย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนพูดกับนาย แดน พิกคูตา อุปทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่งว่า การกำหนดให้มีสมาชิกถาวร 5 ชาติ ได้แก่อังกฤษ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย และสหรัฐฯ ซึ่งมีอำนาจออกเสียงยับยั้งการลงมติดังเช่นในปัจจุบันนั้นไม่ควร “ถูกทำให้เจือจางลง”

    “ยิ่งกว่านั้น การยอมรับญี่ปุ่นในฐานะชาติสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงจะเป็นเรื่องลำบากสำหรับจีน” คำพูดของนายเหอถูกระบุในเอกสารลับ โดยเขายังขอสหรัฐฯ อย่าสนับสนุนแดนซากุระ

    ทั้งนี้ เมื่อปี 2548 จีนเคยประสบความสำเร็จมาแล้วในการทำลายความพยายามร่วมกันของบราซิล เยอรมนี อินเดีย และญี่ปุ่น ที่ต้องการได้ที่นั่งในคณะมนตรีความมั่นคง แต่ในการเยือนกรุงนิวเดลีอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดี บารัก โอบาม่า เมื่อเดือนที่แล้ว ผู้นำสหรัฐฯ แสดงการสนับสนุนอินเดียอย่างเปิดเผยเรื่องการขยายชาติสมาชิก และก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ก็สนับสนุนญี่ปุ่นอย่างออกหน้าออกตาเช่นกัน

    จีนมีประวัติศาสตร์บาดหมางกับญี่ปุ่นมายาวนาน ขณะเดียวกัน ก็มีปัญหาข้อพิพาทพรมแดนอย่างยืดเยื้อกับอินเดียอีกด้วย

    China - Manager Online -
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกิลีคส์เตรียมปล่อยเอกสารแฉแบงก์สหรัฐ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    วันที่ 30 พฤศจิกายน 2553 07:58
    วิกิลีคส์ บอกกับนิตยสารฟอร์บส์ เตรียมปล่อยเอกสารภายในของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐอีกนับหมื่นชุดในปีหน้า
    นายจูเลียน แอสซานจ์ ผู้อำนวยการ ของเว็บจอมแฉชื่อดัง ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฟอร์บส์ ถึงเรื่องดังกล่าว แต่ไม่ได้ระบุชัดว่า เขาคิดจะเผิดเผยข้อมูลภายในของธนาคารรายใด
    นายแอสซานจ์ กล่าวแต่เพียงว่า ธนาคารที่เขาเตรียมจะเปิดโปงนั้น ยังดำเนินธุรกิจอยู่ในขณะนี้ และตัวเอกสารถือว่าเป็นชุดใหญ่พอสมควร แต่ไม่มากเท่ากับเอกสารชุดสงครามอิรักที่เปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้
    ผู้อำนวยการวิกิลีคส์ ยังเผยถึงเป้าหมายในการนำเอกสารลับข้างต้นออกเผยแพร่ว่า ต้องการช่วยให้คนได้เห็นข้อเท็จจริงว่า ผู้บริหารระดับสูงของธนาคารพวกนี้มีพฤติกรรมอย่างไร และอาจนำไปสู่การสืบสวน และปฏิรูปธนาคารก็เป็นได้

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...2/วิกิลีคส์เตรียมปล่อยเอกสารแฉแบงก์สหรัฐ.html

    <H3>วิกิลีกส์เผยสหรัฐสั่งนักการทูตจับตาเลขายูเอ็น

    วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 19:39
    [​IMG]
    เอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ที่ถูกวิกิลีกส์นำมาเผยแพร่ เผยให้เห็นรายละเอียดการใช้กลยุทธิ์ในการกดดันของสหรัฐต่อจุดร้อนของโลก
    <!--<iframe scrolling="no" src="fullURLmain/include/adsense/indetail.php" frameborder="0" height="266" width="250"></iframe>--><SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20101122/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1291178531&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fworld%2F20101129%2F365229%2F%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9C%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99.html&dt=1291178531558&shv=r20101117&jsv=r20101122&saldr=1&correlator=1291178531574&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=2038098380.1238053350&ga_sid=1291176579&ga_hid=709820075&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=12&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1007&bih=603&eid=30143103&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fnews%2Fpolitics%2Fworld%2Fnews-list-1.php&fu=0&ifi=1&dtd=31"></SCRIPT><IFRAME style="VISIBILITY: hidden; POSITION: absolute" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/s/iframes_api_loader.html" width=1 height=1></IFRAME>
    ข้อมูลลับที่รั่วไหลล่าสุดนี้ เป็นการเปิดเผยรายละเอียดใหม่ๆ ของจุดร้อนที่มีปัญหาเรื่องนิวเคลียร์เรื้อรังมายาวนาน เรื่องที่สหรัฐ อิสราเอลและผู้นำโลกอาหรับพากันวิตกเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ความวิตกของสหรัฐเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน และดำริของสหรัฐ เกี่ยวกับการทำให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นปึกแผ่น อันเป็นแก้ปัญหาระยะยาวเรื่องการรุกรานของเกาหลีเหนือ
    นอกจากนี้ ยังมีบันทึกช่วยจำของสหรัฐ ที่สั่งให้นักการทูตสหรัฐประจำสหประชาติ เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเลขาธิการสหประชาชาติ ทีมงานและนักการทูตต่างชาติ ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ไกลเกินกว่าจะพิจารณาว่าเป็นแค่การเก็บข้อมูลทั่วไปในแวดวงการทูต
    จากสำเนาที่สื่อต่าง ๆ นำไปเผยแพร่ ได้ระบุว่า สหรัฐวิตกเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านกับเกาหลีเหนือ และการล่มสลายของเกาหลีเหนือ เจ้าหน้าที่ทางการจอร์แดน และบาห์เรน เรียกร้องให้ยุติโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ขณะที่ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิยิปต์ ได้เรียกอิหร่านว่า ปีศาจและภัยคุกคามที่มีอยู่จริง และยังมีอำนาจพอที่จะดึงประเทศเหล่านี้ เข้าสู่สงครามได้ด้วยเช่นกัน
    เอกสาร ยังระบุด้วยว่า สหรัฐใช้กลยุทธ์ที่แข็งกร้าวในการทำให้ประเทศต่าง ๆ ยอมรับผู้ต้องขังที่ถูกปล่อยตัวจากกวนตานาโม เช่น สโลเวเนีย ได้รับข้อเสนอว่า ต้องรับนักโทษไป ถ้าประธานาธิบดีอยากพบประธานาธิบดีบารัก โอบามา และเกาะคีรีบัท ได้รับการเสนอเงินหลายล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการรับตัวผู้ต้องขัง
    นิวยอร์ค ไทม์ส ได้ยกประเด็นในเอกสารที่ทำให้เกิดคำถามบนความสัมพันธ์ระหว่างนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ของอิตาลี กับนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ที่บางข้อมูล ระบุว่า ผู้นำอิตาลีทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้ปูตินในยุโรปเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนแดร์ สปีเกล ได้ระบุว่า นักการทูตสหรัฐ มองว่า นายกรัฐมนตรีแองเกลา แมร์เคล ของเยอรมนี เป็นคนที่ไม่กล้าเสี่ยง
    http://www.bangkokbiznews.com/home/...ีกส์เผยสหรัฐสั่งนักการทูตจับตาเลขายูเอ็น.html

    สหรัฐตำหนิแผนแฉเอกสารลับวิกิลีกส์

    วันที่ 27 พฤศจิกายน 2553 15:19
    [​IMG]
    รัฐบาลสหรัฐตำหนิ แผนแฉเอกสารลับของวิกิลีกส์ครั้งใหม่ ไร้ความรับผิดชอบ

    นายฟิลิป โครว์ลี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ประณามแผนการของวิกิลีกส์ ที่จะนำเอกสารลับของทางการสหรัฐออกเผยแพร่ครั้งใหม่ทางเว็บไซต์
    นายโครว์ลีกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวถือว่า ไร้ความรับผิดชอบ และทำให้ชีวิตผู้คนและผลประโยชน์ต่างๆ ตกอยู่ในความเสี่ยง พร้อมระบุว่า สหรัฐเตรียมพร้อมต่อสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ที่อาจเกิดขึ้น
    โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ได้ติดต่อกับผู้นำเยอรมนี ซาอุดิอารเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อังกฤษ ฝรั่งเศสและอัฟกานิสถานเกี่ยวกับกรณีการเผยแพร่เอกสารลับดังกล่าวแล้ว
    วิกิลีกส์มีแผนจะนำเอกสารชั้นความลับจำนวนมากออกเผยแพร่ทางออนไลน์ครั้งใหม่ หลังจากเคยเผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับสงครามอิรักและอัฟกานิสถาน
    แผนการนี้ สร้างความวิตกว่า อาจจะทำให้สหรัฐอับอาย และอาจแสดงให้เห็นถึงข้อมูลที่อ่อนไหวเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสหรัฐกับประเทศอื่นๆ
    http://www.bangkokbiznews.com/home/...364961/สหรัฐตำหนิแผนแฉเอกสารลับวิกิลีกส์.html

    <!-- Tags Keyword --></H3><!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  3. พลอยรุ้ง

    พลอยรุ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    467
    ค่าพลัง:
    +2,088
    สถานการณ์เข้มข้นมากๆ ระทึกใจจริงๆ ไม่รู้ในหัวใจชาวเกาหลีทั้งสองฝั่งเขาจะรู้สึกอย่างไร ส่วนตัวแล้ว รู้สึกว่ายังไงเขาก็มีความสัมพันธ์เป็นญาติพี่น้องกัน ลึกซึ้งยิ่งกว่าไทยลาวซะอีก เพราะเป็นชนเผ่าเดียวกัน
    เราอยู่ห่างยังเสียววูบๆ เขาอยู่ตรงนั้น (ที่เกิดเหตุ) ไหนจะห่วงตัวเอง ห่วงญาติพี่น้องที่อยู่อีกฝั่ง น่าเห็นใจมากๆค่ะ ต้องรับกรรมเพราะถูกการเมืองระดับโลกแทรกซึม เหมือนเป็นผู้เคราะห์ร้ายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ประชาชนเขาจะโกรธกันมาแต่ชาติปางไหนคะ อยู่ด้วยกันมาดีๆ มีแต่ตัวผู้นำนั่นแหละที่บ้าคลั่ง บ้าสงคราม เล่นเกมส์อะไรก็ไม่รู้ เอาชีวิตคนในชาติเป็นเครื่องต่อรอง เพื่อแสดงความยิ่งใหญ่ของตัวเอง
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โสมแดงติดขีปนาวุธโต้-สหรัฐโสมขาวซ้อมรบ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    วันที่ 29 พฤศจิกายน 2553 02:00
    [​IMG]
    เกาหลีเหนือติดขีปนาวุธพิสัย8-30กม. กร้าวใส่เกาหลีใต้กับสหรัฐฯเริ่มซ้อมรบ โสมขาวสั่งนักข่าวพ้นเกาะยอนเปียง "ยูเอ็น"ถก คาดคว่ำบาตรโสมแดง
    สำนักข่าวยอนฮับ ของเกาหลีใต้ รายงานวานนี้ (28 พ.ย.) ว่า เกาหลีเหนือได้ติดตั้งขีปนาวุธ เอสเอ - 2 ยิงจากพื้นสู่อากาศ ที่มีวิถีการยิง 8 -30 กิโลเมตร ใกล้พรมแดนที่เป็นข้อขัดแย้งกับเกาหลีใต้ ขณะที่การซ้อมรบทางทะเลภายใต้การนำของสหรัฐในเกาหลีใต้ เริ่มเปิดฉากขึ้นช่วงเช้าวันเดียวกัน
    ยอนฮับ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าววงในของรัฐบาลว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ ตั้งเป้าหมายไปที่เครื่องบินรบของเกาหลีใต้ที่มาใกล้เส้นแบ่งพรมแดนของเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ขณะที่ขีปนาวุธอื่นๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของเกาหลีเหนือ เช่น แซมเล็ท และซิลค์เวิร์ม ซึ่งมีวิถีการยิ่งไกล 95 กิโลเมตรถูกนำมาติดตั้งไว้ที่ฐานยิงเช่นกัน
    อย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมของเกาหลีใต้ ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆต่อความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ หลังจากที่ เกาหลีใต้และสหรัฐได้ร่วมซ้อมรบทางทะเล บริเวณใต้พรมแดนตอนใต้ ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณ ที่ประชาชน 4 คนเสียชีวิตและอีก 18 คนได้รับบาดเจ็บ จากการโจมตีของเกาหลีเหนือย่างไม่คาดหมายมาก่อนเมือวันอังคาร (23 พ.ย.) ที่ผ่านมา
    ขณะที่กระทรวงต่างประเทศเกาหลีใต้แถลงว่า นายไต้ ปิงกัวะ มนตรีแห่งรัฐ และนายอู๋ ต้าเว่ย ผู้แทนพิเศษจีนว่าด้วยเรื่องนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ได้หารือเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดนี้กับนายคิม ซอง ฮวาน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ เพื่อหาแนวทางคลี่คลายความตึงเครียด กรณีเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้
    ด้านเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ รายหนึ่ง เผยว่า การซ้อมรบเป็นเวลา 4 วันระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ เริ่มต้นขึ้นเมื่อเวลา 8.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 6.00 น.ตามเวลาไทย บริเวณทะเลเหลือง โดยสหรัฐ ได้นำเรือบรรทุกเครื่องบินรบขนาดใหญ่ ยู-เอส-เอส จอร์จ วอชิงตัน ที่สามารถบรรทุกเครื่องบินรบได้ 75 ลำบนดาดฟ้าบิน และมีลูกเรือทั้งหมดราว 5,500 คน เรือลาดตระเวน และเรือพิฆาตอาวุธนำวิถี อีก 4 ลำ เข้าร่วมซ้อมรบครั้งนี้
    ส่วนเกาหลีใต้ นำเรือรบ 6 ลำ และเครื่องบินปราบเรือดำน้ำ ร่วมซ้อมรบแสดงแสนยานุภาพ เพื่อข่มขวัญเกาหลีเหนือ ซึ่งการซ้อมรบมีขึ้น 5 วันหลังจากที่เกิดการปะทะกันระหว่าง 2 เกาหลี บริเวณเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้ ใกล้กับเส้นพรมแดนทางทะเลของสองชาติ ทำให้ทหารเกาหลีใต้และพลเรือนเสียชีวิตรวม 4 คน
    ขณะที่ สถานีโทรทัศน์เค-อาร์-ที ของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพนิ่งหลายภาพของนายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุด ที่กำลังเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องแก้ว ในเมืองแตอัน และโรงงานผลิตน้ำแร่ที่เมืองคังโซ พร้อมลูกชายคนเล็ก นายคิม จอง อึน ผู้ที่กำลังจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไป โดยไม่ได้ระบุว่า ภาพนิ่งดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อใด และไม่ชัดเจนว่า รายการข่าวดังกล่าวถูกบันทึกไว้วันนี้ หรือเป็นการออกอากาศซ้ำ
    ภาพนิ่งของนายคิม จอง อิล ออกอากาศในขณะที่คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเกาหลีใต้เริ่มซ้อมรบทางทะเลกับสหรัฐ บริเวณทะเลเหลือง รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยู-เอส-เอส จอร์จ วอชิงตัน ที่กำลังซ้อมรบห่างจากเส้นพรมแดนทางทะเลระหว่าง 2 ชาติราว 120 กิโลเมตรไปทางใต้ โดยเกาหลีเหนือขู่ว่า หากสหรัฐ นำเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวเข้ามาในทะเลเหลือง จะเกิดผลพวงชนิดที่ไม่มีใครคาดเดาได้
    สั่งผู้สื่อข่าวออกจากเกาะยอนเปียง
    กระทรวงกลาโหม
    เกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ว่า ในขณะนี้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเกาหลีเหนือจะตอบโต้การซ้อมรบระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ ในทะเลเหลืองอย่างไร จึงขอร้องให้ผู้สื่อข่าวออกจากเกาะยอนเปียง เพราะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ หลังจากเกาหลีเหนือขู่ตอบโต้การซ้อมรบดังกล่าว อย่างไร้ความปรานี หากมีการรุกล้ำน่านน้ำ
    สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้ คาดว่า มีผู้สื่อข่าวประมาณ 400 คนรายงานข่าวอยู่บนเกาะหลังเกิดการปะทะกันระหว่าง 2 เกาหลีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา โดยกระสุนปืนใหญ่ได้ตกลงบนเกาะยอนเปียง ทำให้ทหารเกาหลีใต้และประชาชนรวม 4 รายเสียชีวิต แต่ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่บนเกาะได้อพยพออกไปเกือบหมดแล้ว
    สื่อเผยภาพนิ่ง"คิม จอง อิล"ทัวร์โรงงาน
    สถานีโทรทัศน์เค-อาร์-ที ของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่ภาพนิ่งหลายภาพของนายคิม จอง อิล ผู้นำสูงสุด ที่กำลังเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องแก้ว ในเมืองแตอัน และโรงงานผลิตน้ำแร่ที่เมืองคังโซ พร้อมลูกชายคนเล็ก นายคิม จอง อึน ผู้ที่กำลังจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนต่อไป โดยไม่ได้ระบุว่า ภาพนิ่งดังกล่าวถ่ายไว้เมื่อใด และไม่ชัดเจนว่า รายการข่าวดังกล่าวถูกบันทึกไว้วันนี้ หรือเป็นการออกอากาศซ้ำ

    ภาพนิ่งของนายคิม จอง อิล ออกอากาศในขณะที่คาบสมุทรเกาหลีร้อนระอุขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเกาหลีใต้เริ่มซ้อมรบทางทะเลกับสหรัฐ ในบริเวณทะเลเหลือง รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ยู-เอส-เอส จอร์จ วอชิงตัน ที่กำลังซ้อมรบห่างจากเส้นพรมแดนทางทะเลระหว่าง 2 ชาติราว 120 กิโลเมตรไปทางใต้ โดยเกาหลีเหนือขู่ว่า หากสหรัฐ นำเรือบรรทุกเครื่องบินดังกล่าวเข้ามาในทะเลเหลืองจะเกิดผลอย่างที่ไม่มีใครคาดเดาได้
    ยูเอ็นเล็งคว่ำบาตรอาวุธโสมแดงเพิ่ม

    คณะกรรมการคว่ำบาตรแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เตรียมหารือร่วมกันในวันนี้ เกี่ยวกับความพยายามเพื่อยุติการค้าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดยิ่งขึ้น บนคาบสมุทรเกาหลี หลังจากเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่โจมตีเกาหลีใต้
    รายงานล่าสุดของยูเอ็น ระบุว่า การคว่ำบาตรทางการเงินและการค้าต่อเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธเมื่อปี 2549 และปี 2552 ไม่ได้ยุติลง ขณะที่คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคว่ำบาตรด้านการค้าอาวุธและนิวเคลียร์ต่อเกาหลีเหนือเพิ่ม ซึ่งการระงับการส่งสินค้าหรูและฟุ่มเฟือยไปยังเกาหลีเหนือ จะเพิ่มแรงกดดันต่อทางการเกาหลีเหนือ ให้เข้าร่วมการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ 6 ฝ่าย
    โสมขาวจี้จีนแสดงท่าทีเป็นธรรม
    นายลี เมียง บัค ประธานาธิบดี
    เกาหลีใต้ เรียกร้องให้จีนช่วยรักษาสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี ด้วยการแสดงท่าทีต่อความตึงเครียดระหว่าง2 เกาหลี ด้วยความเป็นธรรมและความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่
    นายลีบอกด้วยว่า เกาหลีใต้ทนต่อการยั่วยุของเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลี แต่จะตอบโต้อย่างเด็ดขาดหากเกาหลีเหนือแสดงท่าทียั่วยุอีก ด้านจีน ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของเกาหลีเหนือ แสดงความเสียใจต่อการสูญเสียทหารและพลเรือนของเกาหลีใต้ จากเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และสัญญาว่าจะพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความรุนแรงขึ้นอีก
    อย่างไรก็ตาม จีน เลี่ยงที่จะประนามเกาหลีเหนือ ที่ยิงปืนใหญ่จนกระสุนบางส่วนตกลงบนเกาะยอนเปียงของเกาหลีใต้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือเตรียมเดินทางไปเยือนจีนวันอังคารนี้ (30พ.ย.) เป็นเวลา 5 วันตามคำเชิญของจีน

     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เปิดปูมขัดแย้ง"พม่า-กะเหรี่ยง" สงครามครั้งนี้ยังแค่เริ่มต้น!

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    วันที่ 10 พฤศจิกายน 2553 12:30
    [​IMG]
    "ครั้งนี้เป็นงานใหญ่ เพราะไม่เคยมีที่ทหารกะเหรี่ยงรวมตัวกันแล้วไปยึดเมืองเมียวดี ยึดค่ายทหารพม่า"

    เป็นการประเมินสถานการณ์จาก พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ซึ่งรับผิดชอบชายแดนด้านจ.ตาก ที่กำลังมีการรบพุ่งกันระหว่างกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธกับทหารรัฐบาลพม่า
    แม้ล่าสุดเสียงปืนในเมียวดีที่อยู่ตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.ตาก จะยุติลงชั่วคราวแล้วเมื่อวานนี้ (9พ.ย.) แต่จากการคาดการณ์ของฝ่ายความมั่นคงค่อนข้างชัดเจนว่า ศึกครั้งนี้ยังแค่เริ่มต้น!
    เพราะมีโอกาสสูงที่บรรดา "ชนกลุ่มน้อยติดอาวุธ" ในพม่า ไม่เฉพาะกะเหรี่ยง จะฉวยจังหวะช่วงที่พม่าเพิ่งเสร็จสิ้นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบ 20 ปี และเป็นการเลือกตั้งที่ถูกประณามจากทั่วโลก สร้างความชอบธรรมให้ตนเองในการกดดันรัฐบาลทหารพม่า แล้วแยกตัวเป็นอิสระ แทนที่จะตกเป็นเบี้ยล่างของพม่า กลายเป็นกองกำลังรักษาชายแดน หรือ "บอร์เดอร์ การ์ด ฟอร์ซ" เท่านั้น
    ที่สำคัญ "กะเหรี่ยง" กับ "พม่า" มีประวัติศาสตร์บาดหมางกันมาอย่างยาวนาน สันติภาพในดินแดนถูกสาปนี้ จึงน่าจะเป็นเพียงความฝันมากกว่าความจริง
    เปิดปูมขัดแย้ง "พม่า-กะเหรี่ยง"
    "พม่า" เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์มากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก เพราะมีถึง 135 กลุ่มชาติพันธุ์ ชนกลุ่มใหญ่ที่สุดก็คือพม่า หรือ "บะม่าร์" ชนทุกกลุ่มที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้เคยอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษในยุคล่าอาณานิคม
    อังกฤษใช้วิธีแบ่งแยกแล้วปกครอง ปลุกปั่นให้กลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ทะเลาะกันเอง เพื่อให้ง่ายแก่การควบคุม และกลุ่มชาติพันธุ์ที่อังกฤษใช้เป็น"ตัวแทน" ในการเปิดศึกกับพม่าก็คือ"กะเหรี่ยง" กลุ่มชาติพันธุ์ใหญ่อันดับ 2 ด้วยเหตุนี้ "กะเหรี่ยง"กับ"พม่า" จึงกินแหนงแคลงใจกันมาช้านาน แม้ว่าประเทศจะได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้วก็ตาม
    เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง นายพล ออง ซาน และคณะ เดินทางไปลอนดอนเมื่อเดือน ม.ค.2490 เพื่อขอเป็นอิสระจากการเป็นอาณานิคมของอังกฤษ และลงนามในสนธิสัญญาร่วมกัน โดยอังกฤษอนุญาตให้พม่าจัดตั้งรัฐบาลรักษาการณ์ แล้วจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้น
    เดือน ก.พ.2490 นายพล ออง ซาน จัดการประชุมเพื่อแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยทุกกลุ่ม และลงนามในสนธิสัญญาเมืองปางโหลง หรือที่บ้านเรารู้จักกันดีในนาม "สนธิสัญญาปางหลวง" แต่กะเหรี่ยงไม่เข้าร่วมประชุม และไม่ร่วมการเลือกตั้งเพื่อจัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ เพราะหวาดระแวงและเกลียดชังพม่า ซ้ำยังจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับพม่าด้วย โดยวาดหวังจัดตั้งรัฐอิสระที่มีทางออกทะเล อันเป็นดินแดนที่ตนเองครอบครองอยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศไทย
    ช่วงนั้นเกิดสงครามย่อยๆ ขึ้นหลายครั้ง กระทั่งกะเหรี่ยงประกาศจัดตั้งรัฐอิสระกอทูเล (Kawthoolei) ขึ้นเมื่อเดือน มิ.ย.2492 เพื่อเปิดศึกกันอย่างเป็นทางการ
    2 มี.ค.2505 นายพล เนวิน ผู้บัญชาการทหารบกพม่า ปฏิวัติยึดอำนาจการปกครองประเทศ และปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์การปราบปรามกะเหรี่ยง ซึ่งเรียกว่า "กบฏกะเหรี่ยง" โดยใช้นโยบาย “ตัด 4” หรือ Four Cuts คือ ตัดอาหาร เงิน ข่าว และกองกำลังสนับสนุน ซึ่งยุทธศาสตร์นี้ได้ผลชะงัด โดยเฉพาะในห้วงปี 2511-2528 กะเหรี่ยงถูกกดดันอย่างหนัก และชาวกะเหรี่ยงกว่า 50,000 คน ต้องอพยพหนีตายเข้ามาในประเทศไทย
    อย่างไรก็ดี ภายหลังกะเหรี่ยงตั้งตัวได้ และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มนักศึกษา ชนชั้นนำในต่างประเทศ ตลอดจนชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ที่ถูกพม่าติดตามกวาดล้าง ทำให้กะเหรี่ยงสร้าง “เขตปลดปล่อย” เป็นอาณาจักรของตนเองเป็นแนวยาวประมาณ 400 ไมล์ตามแนวชายแดนพม่า-ไทย
    เมื่อกะเหรี่ยง 2 กลุ่มแตกคอ
    เมื่อเจาะลึกกองกำลังกะเหรี่ยง ซึ่งจัดตั้งเป็นกลุ่มกู้ชาติชื่อ "สหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง" หรือ "เคเอ็นยู" (Karen National Union : KNU) จะพบว่ามี นายพลโบเมียะ เป็นผู้นำสูงสุด (ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว) ภายในเคเอ็นยูแยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆได้ 2 กลุ่ม คือกะเหรี่ยงคริสต์ และกะเหรี่ยงพุทธ ซึ่งมีจำนวนน้อยกว่า
    เดิมกะเหรี่ยง 2กลุ่มนี้เป็นพวกเดียวกัน และร่วมรบมาด้วยกัน แต่ต่อมาพม่าใช้วิธียุแหย่และเสี้ยมให้กะเหรี่ยงทั้งสองกลุ่มแตกกัน โดยอ้างว่ากะเหรี่ยงคริสต์ปฏิบัติกับกะเหรี่ยงพุทธเสมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง ทำให้กะเหรี่ยงพุทธแยกตัวออกมาตั้งเป็น "กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ" หรือ "ดีเคบีเอ" (Democratic Karen Buddhist Army : DKBA ) ขึ้นกับกองทัพรัฐบาลพม่า และพม่าก็ใช้กะเหรี่ยงพุทธรบพุ่งกับกะเหรี่ยงคริสต์ในลักษณะ "สงครามตัวแทน"
    เมื่อดีเคบีเอหันมาสวามิภักดิ์กับกองทัพพม่า ฝ่ายพม่าก็ให้การดูแลอย่างดี ให้คุมธุรกิจชายแดน สินค้าหนีภาษี และยาเสพติด ทำให้กองกำลังกะเหรี่ยงพุทธเข้มแข็ง ใช้เวลาเพียง 10 ปี ก็ร่วมกันโจมตีกะเหรี่ยงคริสต์จนเสียฐานที่มั่นสำคัญ 2 แห่งเมื่อต้นปี 2538 คือ "ค่ายมาเนอปลอว์" และ "ค่ายคอมูร่า" ทำเอาเคเอ็นยูถึงกับเสียศูนย์ และแทบจะรวมกันไม่ติดตั้งแต่นั้นมา ถึงขั้นมีความพยายามขอเจรจาสันติภาพ โดยเฉพาะช่วงหลังจากสิ้นนายพลโบเมียะ
    เลือกตั้งเหลวกับสงครามที่เพิ่งเริ่มต้น
    หันมามองทางด้านรัฐบาลทหารพม่า ต้องยอมรับว่าพม่าปกครองโดยระบอบทหารมาตั้งแต่ปี 2505 แม้จะมีการเลือกตั้งเมื่อปี 2533 หรือ 20 ปีก่อน แต่ก็ถูกคว่ำกระดานไป
    พม่าภายใต้การนำของ พลเอกอาวุโสตานฉ่วย และ นายพลหม่องเอ ให้เหตุผลว่าหากไม่ปกครองด้วยระบบนี้ก็จะคุมสถานการณ์ไม่อยู่ เพราะชนกลุ่มน้อยติดอาวุธหลายกลุ่มพร้อมจะแยกตัวเป็นอิสระ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มใหญ่ที่ไม่เอาด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 7 พ.ย. คือ กะเหรี่ยง ว้า คะฉิ่น และไทยใหญ่ (เอสเอสเอ)
    กลุ่มต่างๆ เหล่านี้มีความเข้มแข็งไม่น้อย และมีต่างชาติให้ความช่วยเหลือในทางลับ จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่พม่าจะใช้กำลังเข้าปราบปรามเพื่อรวมชาติ จึงมีความพยายามเปิดเจรจา แต่ก็ไม่สำเร็จ
    ความรุนแรงเที่ยวล่าสุดปะทุขึ้นเมื่อกะเหรี่ยงพุทธ หรือ ดีเคบีเอ แตกคอกับพม่า เพราะพม่าต้องการให้ ดีเคบีเอ แปรสภาพเป็นกองกำลังป้องกันชายแดน แต่กะเหรี่ยงพุทธไม่ยอม ประกอบกับมีความขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์การค้าตามแนวชายแดน ทำให้กะเหรี่ยงพุทธหันไปเคลียร์ใจกับเคเอ็นยู แม้จะยังไม่มีการจับมือกันอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่รบกันเองเหมือนเมื่อก่อน
    จากการตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงไทย พบว่า การเปิดฉากสาดกระสุนเข้าใส่กันครั้งนี้ ฝ่ายดีเคบีเอเตรียมตัวมาพอสมควร เพราะไม่ได้โจมตีแค่เมียวดี แต่ยังมีกำลังมากพอที่จะเปิดศึกด้านพญาตองซู ตรงข้ามกับด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แสดงว่าดีเคบีเอวันนี้มีศักยภาพไม่น้อย
    ที่สำคัญคงคิดสะระตะแล้วว่า หากจะรบกับพม่า รบกันวันอื่นคงไม่มีราคา ต้องรบกันวันเลือกตั้ง!
    หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า ความขัดแย้งครั้งนี้น่าจะยืดเยื้อ เพราะชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่มรอจังหวะอยู่ โดยเฉพาะหาก "ไทยใหญ่" โดดเข้าร่วมวงด้วย สถานการณ์คงตึงเครียดยาวนาน ยิ่งนานาชาติประณามการเลือกตั้งของพม่ามากเท่าไร ก็จะยิ่งกลายเป็นความชอบธรรมที่ชนกลุ่มน้อยติดอาวุธทุกกลุ่มจะเคลื่อนไหวต่อสู้
    สงครามระหว่างพม่ากับกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จึงเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น!

    http://www.bangkokbiznews.com/home/...-กะเหรี่ยง-สงครามครั้งนี้ยังแค่เริ่มต้น!.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    'ออง ซาน ซูจี' เสรีภาพที่ถูกจองจำเป็นเวลานาน15ปี

    โดย : ทีม Researcher&Rewriter
    วันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 13:08
    [​IMG]
    "ออง ซาน ซูจี"เสรีภาพที่ถูกจองจำ "ถ้าประชาชนของฉันไม่เป็นอิสระ จะพูดได้เต็มปากอย่างไรว่าฉันเป็นอิสระ ไม่ว่าจะมีอิสระหรือไม่ก็ตาม"
    ออง ซาน ซูจี ถ้าวันนี้เธอได้รับการปล่อยตัว โลกจะบันทึกว่านี่เป็นอิสรภาพครั้งที่ 3 บนแผ่นดินเกิดของเธอ นับจากวันที่เธอหวนคืนสู่มาตุภูมิและถูกจองจำครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2532 โดยไม่มีข้อกล่าวหาใด ๆ จากรัฐบาลทหารพม่า
    ฉะนั้นแล้ว วันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดที่รัฐบาลมีคำสั่งกักขังเธอภายในบ้านพักเป็นเวลา 18 เดือน โลกภายนอกจึงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวในพม่าอย่างใกล้ชิด และดูเหมือนว่าจะให้ความสำคัญยิ่งเสียกว่าการจัดการเลือกตั้งทั่วไปที่ทางการพม่าจัดขึ้นและเพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา นั่นเพราะประชาคมโลกไม่เคยวางใจในคำมั่นสัญญาใด ๆ ภายใต้อำนาจเผด็จการของรัฐบาลทหารพม่าเลย
    ครั้งนี้ก็เช่นกัน ประชาคมโลก หรือแม้แต่บรรดาสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy: NLD) ที่ ซูจี เป็นผู้นำเองก็ยังวิตกอยู่ว่า รัฐบาลพม่าจะมีสิ่งใดเป็นข้ออ้างเพื่อพันธนาการเธอไว้ในเขตรั้วที่ขีดกั้นเสรีภาพไว้ภายนอกอีกหรือไม่ เพราะ 3 ครั้งที่ ซูจี ถูกกักขัง รัฐบาลพม่าไม่เคยมีเหตุผลใด นอกจากการออกคำสั่งและบีบบังคับ ซึ่งในประเทศเผด็จการไม่มีใครสามารถขัดขืนได้
    เส้นทางที่ไร้อิสรภาพ
    ซูจี ถูกกักขังครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2532 หลังจากที่เธอเดินทางกลับมาบ้านเกิดที่ย่างกุ้ง เมื่อปลายเดือน มีนาคม พ.ศ. 2531 ในวัย 43 ปี เพื่อมาพยาบาล ดอว์ขิ่นจี มารดาที่กำลังป่วยหนัก ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับที่พม่ากำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจ และการเมืองอย่างหนัก เริ่มจากประชาชนไม่พอใจที่รัฐบาลประกาศยกเลิกการใช้ธนบัตรมูลค่า 25 จัต 35 จัต และ 75 จัต โดยไม่ยอมให้มีการแลกคืนทำให้เงินร้อยละ 75 หายไปจากตลาดเงิน นักศึกษามหาวิทยาลัยย่างกุ้งประท้วงด้วยการทำลายร้านค้า ก่อนที่เหตุการณ์จะลุกลามเป็นจลาจล ประชาชนทั่วประเทศออกมาประท้วงกดดันรัฐบาลที่ใช้ความรุนแรงจัดการกับนักศึกษา และประชาชน จนในที่สุดนายพลเนวิน ต้องลาออกจากตำแหน่งประธานพรรคโครงการสังคมนิยมพม่า (The Burma Socialist Programme Party-BSPP) ที่ยึดอำนาจการปกครอง ประเทศพม่ามานานถึง 26 ปี
    หลังการลาออกของนายพลเนวิน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2531 ส่งผลให้เกิดการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยของนักศึกษาและประชาชนตามมาอีกหลายแสนคนในกรุงย่างกุ้ง เมืองหลวงของพม่า ก่อนที่การชุมนุมจะแพร่ลามไปทั่วประเทศ จนผู้นำทหารได้สั่งการให้ใช้อาวุธสลายการชุมนุมเป็นผลให้ประชาชนหลายพันคนเสียชีวิต ทั่วโลกรู้จักเหตุการณ์นี้ในนาม "เหตุการณ์วันที่ 8 เดือน 8 ปี 88 (ค.ศ. 1988)"
    วันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2531 อองซานซูจี เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองเป็นครั้งแรก โดยส่งจดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลเรียกร้องให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่อเตรียมการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อให้มีการจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตย แต่ผู้นำทหารกลับจัดตั้ง "สภาฟื้นฟูกฎระเบียบแห่งรัฐ" หรือ สลอร์ค (the state law and order restoration council : slorc) ขึ้นแทน รวมทั้งได้ทำการปราบปรามสังหารและจับกุมผู้ต่อต้านอีกหลายร้อยคน ขณะที่ ซูจี และกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตย ยังคงเดินหน้าต่อสู้ต่อไป โดยร่วมจัดตั้ง "พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย" หรือเอ็นแอลดี (national league for democracy: nld) ขึ้นมา และเลือก ซูจี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคเมื่อ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2531
    ซูจี และ พรรค เอ็นแอลดี ดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเรื่อยมาจนกระทั่งวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 รัฐบาลทหารพม่าใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกสั่งกักบริเวณ ซูจี ให้อยู่แต่ในบ้านพักเป็นครั้งแรก เป็นเวลา 3 ปี โดยไม่มีข้อหา และได้จับกุมสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีจำนวนมากไปคุมขังไว้ที่เรือนจำอินเส่ง ซูจี อดอาหารเพื่อประท้วงและเรียกร้องให้นำเธอไปขังรวมกับสมาชิกพรรคคนอื่นๆ ต่อมาเธอยุติการอดอาหารประท้วงเมื่อรัฐบาลเผด็จการทหารให้สัญญาว่าจะปฏิบัติต่อสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีซึ่งถูกคุมขังไว้ในเรือนจำเป็นอย่างดี
    แม้ว่า ซูจี ถูกกักบริเวณอยู่ แต่พรรคเอ็นแอลดีของเธอกลับได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้นในการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2533 แต่รัฐบาล สลอร์ค กลับไม่ยอมถ่ายโอนอำนาจให้ ทั้งยังยื่นข้อเสนอให้ ซูจี ยุติบทบาททางการเมืองด้วยการเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปใช้ชีวิตกับครอบครัวที่ประเทศอังกฤษ เธอปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว รัฐบาลทหารจึงมีคำสั่งยืดเวลาการกักบริเวณ อองซานซูจี จาก 3 ปี เป็น 5 ปี และเพิ่มเป็น 6 ปีในเวลาต่อมา
    วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2534 คณะกรรมการรางวัลโนเบลแห่งประเทศนอร์เวย์ประกาศให้ ซูจี เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ แต่เธอไม่มีโอกาสเดินทางไปรับรางวัลด้วยตัวเอง ในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน อเล็กซานเดอร์และคิม บุตรชายเธอ เดินทางไปรับรางวัลแทนที่กรุงออสโล อเล็กซานเดอร์กล่าวกับคณะกรรมการและผู้มาร่วมเป็นเกียรติในพิธี
    "ผมรู้ว่าถ้าแม่มีอิสรภาพและอยู่ที่นี่ในวันนี้ แม่จะขอบคุณพวกคุณพร้อมกับขอร้องให้พวกคุณร่วมกันสวดมนต์ให้ทั้งผู้กดขี่และผู้ถูกกดขี่โยนอาวุธทิ้ง และหันมาร่วมกันสร้างชาติด้วยความเมตตากรุณาและจิตวิญญาณแห่งสันติ"
    ซูจี ได้รับอิสรภาพจากการถูกกักบริเวณครั้งแรก วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 แต่เธอไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้อย่างอิสระ เพราะถูกห้ามไม่ให้ปราศรัยต่อหน้าฝูงชน และยังถูกเจ้าหน้าที่รัฐติดตามไปทุกแห่ง แต่ ซูจี ก็เลือกที่จะต่อสู้ด้วยแนวทางสันติวิธี โดยการเขียนจดหมาย และบันทึกวิดีโอเทป เพื่อส่งผ่านข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลทหารพม่าออกมาสู่ประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง
    ปี พ.ศ. 2541 ซูจี ได้เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ทางการพม่าที่สกัดกั้นการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของเธออีกหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเธอนั่งประท้วงอยู่ในรถยนต์นานถึง 5 วัน หลังจากถูกตำรวจ สกัดไม่ให้รถยนต์ของเธอเดินทางออกจากย่างกุ้งเพื่อไปพบปะกับสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย และอีกครั้งเธอถูกสกัด ไม่ให้เดินทางไปพบปะสมาชิกพรรค เธอใช้ความสงบ เผชิญหน้า กับเจ้าหน้าที่รัฐเป็นเวลาถึง 6 วัน จนเสบียงอาหารที่เตรียมไปหมด และถูกบังคับให้กลับที่พัก
    วันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2543 ซูจี และสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สกัดไม่ให้เดินทางออกจากย่างกุ้งเพื่อดำเนินกิจกรรมทางการเมืองอีกครั้ง และเธอ ได้เผชิญหน้าอย่างสงบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนานถึง 9 วัน และ 2 สัปดาห์ต่อมา ซูจี พร้อมคณะ ผู้นำพรรคฝ่ายค้านเดินทางไปที่สถานีรถไฟ เพื่อซื้อตั๋วโดยสารทางออกจากเมืองร่างกุ้ง แต่รัฐบาลได้ส่งหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษ ไปควบคุมตัวเธอกลับบ้านพัก พร้อมทั้งวางกำลัง เจ้าหน้าที่ควบคุมจุดต่าง ๆ บนถนนหน้าบ้านพักของนางซูจี ไม่ยอมให้ผู้ใดเข้าพบปะ เยี่ยมเยียนเธอ
    ซูจี ถูกกักบริเวณโดยปราศจากข้อกล่าวหาและความผิดอีกเป็น ครั้งที่สอง เป็นเวลา 18 เดือน ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2543 และได้รับอิสรภาพ จากการกักบริเวณครั้งนี้เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2545
    หลังจากนั้นอีกเพียง 1 ปี วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ.2546 เกิดเหตุปะทะกันระหว่างมวลชนจัดตั้งของรัฐบาลกับกลุ่มผู้สนับสนุน ซูจี ระหว่างที่เธอเดินทางไปพบปะกับประชาชนในเมืองเดพายิน ทางตอนเหนือของพม่า ทำให้ ซูจี ถูกสั่งกักบริเวณให้ใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านพักอีกเป็นครั้งที่สาม ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปีเดียวกัน
    พ.ศ. 2550 มีการประท้วงของพระสงฆ์ แม่ชี นักศึกษาและประชาชน ที่ไม่พอใจการประกาศขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเกือบเท่าตัว และขึ้นราคาก๊าซหุงต้มถึง 5 เท่าอย่างฉับพลันโดยมิได้ประกาศแจ้งบอกของรัฐบาลทหารพม่า การประท้วงเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยมาเมื่อรวมผู้ประท้วงแล้วมากกว่า 1 แสนคน การประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผด็จการครั้งนี้จึงนับว่าเป็นการประท้วงต่อต้านครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่การประท้วงเมื่อปี พ.ศ. 2531 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 3,000 คน ในการใช้กำลังทหารเข้าสลายการประท้วง
    วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 นายจอห์น ยัตทอว์ ชาวอเมริกัน ได้ว่ายน้ำข้ามทะเลสาบไปยังบ้านพักที่ ซูจี ถูกกักบริเวณอยู่ เขาอาศัยอยู่กับ ซูจี เป็นเวลาสองคืน ก่อนจะว่ายน้ำกลับมายังอีกฝั่งและถูกทหารพม่าจับกุมตัวในที่สุด ต่อมาวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ซูจี ถูกจับกุมตัวและนำไปคุมขังในเรือนจำอินเส่ง ในข้อหาละเมิดคำสั่งกักบริเวณของรัฐบาลทหารพม่า วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552 ศาลพม่าอ่านคำพิพากษาว่า ซูจี มีความผิดข้อหาละเมิดกฎหมายความมั่นคงภายในประเทศมีโทษจำคุก 3 ปี แต่รัฐบาลทหารพม่าให้ลดโทษลงครึ่งหนึ่งเหลือเพียง 18 เดือน และไม่ต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำอินเส่ง แต่ให้กลับไปถูกควบคุมตัวในบ้านพักเช่นเดิม
    โทษครั้งนี้ทำให้ ซูจี อาจไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งทั่วไปของพม่าเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2553 ขณะที่ จอห์น ยัตทอว์ ถูกศาลสั่งจำคุกและใช้แรงงานเป็นเวลา 7 ปี ตามความผิด 3 ข้อหา ซึ่งประกอบด้วยความผิดข้อหาละเมิดความมั่นคง 3 ปี เข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย 3 ปี และว่ายน้ำอย่างผิดกฎหมายในที่ห้ามว่ายเป็นเวลา 1 ปี
    วันที่ 13 พฤศจิกายน 2553 เป็นวันครบกำหนดการกักบริเวณ ซูจี เป็นเวลา 18 เดือนนับจากที่เธอถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำอินเส่ง ขณะที่สถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ ได้ออกวีซ่าให้บุตรชายคนเล็กของ ซูจี เดินทางไปพม่าแล้ว เพื่อพบกับมารดา ที่ไม่ได้พบหน้ากันมานานนับ 10 ปี ด้านอดีตสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ช่วยทำความสะอาดสำนักงานใหญ่ของพรรค ในนครย่างกุ้ง เพื่อใช้เป็นสถานที่ต้อนรับนางซู จี ตอนที่เธอได้รับการปล่อยตัว ซึ่งคาดว่าจะมีอดีตสมาชิกและผู้สนับสนุนทั่วประเทศเดินทางมารวมตัวกันที่นครย่างกุ้งวันครบรอบ 18 เดือน ของการกักบริเวณในบ้านพัก ท่ามกลางการเสริมกำลังรักษาความปลอดภัยในนครย่างกุ้งของทางการพม่า
    ออง ซาน ซูจี เกิดเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2488 บิดาของเธอคือ นายพล ออง ซาน ผู้นำการเรียกร้องเอกราชของพม่า ซึ่งถูกสังหารเสียชีวิตเมื่อเธอมีอายุเพียง 2 ขวบ ซูจีได้สมรสกับ ศาสตราจารย์ ดร. ไมเคิล อริส อาจารย์สอนวิชาทิเบตศึกษา ที่สถาบันตะวันออก มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด สหราชอาณาจักร มีบุตรชายสองคน คือ อเล็กซานเดอร์ และคิม ปัจจุบัน ศาสตราจารย์ ดร.ไมเคิล อริสได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งในปี พ.ศ. 2542 โดยรัฐธรรมนูญฉบับล่าสุดของพม่า ได้กำหนดไว้ว่าชาวพม่าที่สมรสกับคนต่างชาติ จะไม่มีสิทธิ์ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซูจี จึงหมดสิทธิ์ลงสมัคร
    ซูจี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาเศรษฐศาสตร์ การเมือง และปรัชญาที่เซนต์ฮิวส์คอลเลจ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ระหว่างปี พ.ศ. 2507-2510 และเคยเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยเลขานุการ ให้ คณะกรรมการที่ปรึกษา ด้านการตั้งคำถามเกี่ยวกับงบประมาณ และการจัดการของสำนักงานเลขาธิการ องค์การสหประชาชาติ ขณะนั้น อูถั่น ซึ่งเป็นชาวพม่า ดำรงตำแหน่งเลขาธิการของ องค์การสหประชาชาติ
    คำพูดของเธอทิ้งไว้ให้คิดหลังถูกกักบริเวณนานถึง15ปี จนกว่าได้รับการปล่อยตัวจากรัฐบาลทหารพม่าว่า "ถ้าประชาชนของฉันไม่เป็นอิสระ จะพูดได้เต็มปากอย่างไรว่าฉันเป็นอิสระ ไม่ว่าจะมีอิสระหรือไม่ก็ตาม"
    เป็นเรื่องราวที่"อองซาน ซู จี"ผู้แสวงหาเสรีภาพ ที่ไม่ใช่ตัวนางผู้เดียว แต่นั่นคือประชาชนชาวพม่าที่จะร่วมไปกับนางทั้งประเทศ

    '
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]
    Dec 1 2010, 4:16 AM
    Guest448 (guest): http://www.ritholtz.com/<wbr>blog/<wbr>2010/<wbr>11/<wbr>now-they-tell-us/<wbr>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:17 AM
    Guest448 (guest): http://www.ritholtz.com/<wbr>blog/<wbr>2010/<wbr>11/<wbr>wikileaks-5gb-of-dirt-on-b<wbr>ank-of-america/<wbr>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:17 AM
    Guest448 (guest): http://www.ritholtz.com/<wbr>blog/<wbr>2010/<wbr>11/<wbr>differences-between-resear<wbr>ch-and-insider-trading/<wbr>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:25 AM
    Guest327 (guest): http://www.tmd.go.th/<wbr>programs/<wbr>uploads/<wbr>maps/<wbr>2010-12-01_TopChart_07.jpg<wbr>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:27 AM
    Guest327 (guest): สัญญาณความร้อนที่ปรากฏตอน<wbr>เหนือของจีนใกล้ๆคาบสมุทรเ<wbr>กาหลีน่ากลัวมาก

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:29 AM
    Guest327 (guest): บริเวณนั้นจริงแล้วหิมะน่า<wbr>จะตก แต่จากในแผนภูมิแสดงให้เห็<wbr>น
    หย่อมความกดอากาศต่ำเรียก<wbr>ว่าร้อนพอๆกับภาคเหนือตอนล<wbr>่างของไทยทีเดียว

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:30 AM
    Guest327 (guest): หย่อมความกดอากาศที่น่าสงส<wbr>ัยปรากฏวนเวียนแถวๆชายแดนม<wbr>องโกล
    กับคาบสมุทรเกาหลีและ<wbr>ชายฝั่งด้านตอ.<wbr>ของญี่ปุ่นลักษณะเป็นสามเห<wbr>ลี่ยม

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:31 AM
    Guest327 (guest): ซึ่งบางครั้งก็ขยับมาอยู่ใ<wbr>นแนวละติจูดเดียวกัน แต่ยังคงรูปแบบเป็นสามจุดอ<wbr>ยู่ดี

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:34 AM
    Guest327 (guest): ในอนาคตอันใกล้อาจมีเหตุภั<wbr>ยพิบัติตอนเหนือของจีนใกล้<wbr>พรมแดน
    เกาหลีก็ได้ ตอนที่เสฉวนน้ำท่วมใหญ่ก็ม<wbr>ีhotspotแบบนี้ ส่วนแผ่นดินไหวเสฉวนมีหรือ<wbr>เปล่าจำไม่ได้จริง

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 4:36 AM
    Guest327 (guest): นี่อาจเป็นผลจากhaarpก็ได้<wbr>นะ banksia

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 8:03 AM
    Guest17 (guest): เว็บไซต์วิกี้ลีกส์ เว็บนี้รึเปล่าครับ www.wikileaks.org [​IMG]
    Wikileaks - WikiLeaks



    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 8:03 AM
    Guest17 (guest): โดน ICT แบนซะงั้น!<wbr>!<wbr>

    [​IMG]

    Dec 1 2010, 8:05 AM
    Guest17 (guest): บล็อกนี้เป็นบล็อกเดียวนะเ<wbr>นี้ยที่ผมติดตามตลอด เนื้อหาอัดแน่นและน่าสนใจม<wbr>ากทีเดียวครับ^<wbr>^<wbr>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 8:13 AM
    Guest625 (guest): ้http:<wbr>/<wbr>/<wbr>palungjit.<wbr>com/<wbr>seminar

    [​IMG]
    [​IMG]

    Dec 1 2010, 8:13 AM
    Guest625 (guest): http://palungjit.org/<wbr>seminar
    [​IMG]

    Welcome!!
    ....."The Gold War phase II" by Jimmy Siri
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ธันวาคม 2010
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จีนระบุต้องสกัดไม่ให้คาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้น

    <hr style="width: 100%;">
    วันพุธ ที่ 01 ธ.ค. 2553



    ปักกิ่ง 1 ธ.ค.- สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศจีนเรียกร้องวันนี้ให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ในวิกฤติคาบสมุทรเกาหลีหลีกเลี่ยงการกระทำที่เป็นการยั่วยุให้สถานการณ์ รุนแรงยิ่งขึ้น

    สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างนายหยาง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนที่กล่าวว่า หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรอยู่ในความสงบและอดกลั้นไว้ รวมทั้งนำสถานการณ์กลับมาสู่การสนทนาและเจรจา

    ทั้งนี้ ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มสูงขึ้นหลังเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ไปยัง เกาหลีใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งจีนได้รับแรงกดดันจากนานาชาติให้ควบคุมเกาหลีเหนือจากเหตุโจมตีดังกล่าว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน แต่จีนกลับงดเว้นที่จะร่วมวิพากษ์วิจารณ์เกาหลีเหนือที่เป็นประเทศพันธมิตร เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จีนเสนอให้ผู้แทนพิเศษ 6 ชาติเจรจาเกี่ยวกับการยุติโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือมาหารือฉุกเฉิน กันในวันใดวันหนึ่งในช่วง 10 วันแรกของเดือนธันวาคมนี้ที่กรุงปักกิ่ง. -สำนักข่าวไทย


    จีนระบุต้องสกัดไม่ให้คาบสมุทรเกาหลีตึงเครียดขึ้น
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกิลีคส์เผยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีเหนือแปรพักตร์ไปเกาหลีใต้

    <hr style="width: 100%;">
    วันพุธ ที่ 01 ธ.ค. 2553



    โซล 1 ธ.ค.- ข้อมูลการทูตของสหรัฐที่เผยแพร่ในเว็บไซต์วิกิลีคส์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือในต่างประเทศหลายคนได้แปรพักตร์ไป เกาหลีใต้เพราะเกาหลีเหนือเผชิญกับสถานการณ์ที่โกลาหลหนักขึ้น

    ข้อมูลดังกล่าวที่นางแคทลีน สตีเฟนส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเกาหลีใต้ บันทึกเมื่อเดือนมกราคมปีนี้ได้อ้างคำกล่าวของนายยู มยอง-ฮวาน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ในการพบกับนายโรเบิร์ต คิง ทูตพิเศษสหรัฐด้านสิทธิมนุษยชนเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 11 มกราคมว่า ข่าวเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือในต่างประเทศแปรพักตร์ถูกปิดไม่ให้สาธารณชนรับ ทราบ นายยู ยืนยันว่า การถ่ายโอนอำนาจจากนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ให้แก่นายคิม จอง อุน บุตรชายคนสุดท้อง วัย 27 ปี ไม่ราบรื่น และการปฏิรูปค่าเงินได้สร้างปัญหาใหญ่ให้แก่รัฐบาลเกาหลีเหนือ

    นายยู ได้คาดการณ์ว่านายคิม จอง อิล จะไปเยือนจีนในอีกไม่กี่สัปดาห์ ปรากฏว่าเขาไปเยือนจริงแต่ไปหลังจากนั้นหลายเดือนคือในเดือนพฤษภาคม และสิงหาคม ผู้นำเกาหลีเหนือต้องการความช่วยเหลือทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองจากจีน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้แก่สถานการณ์ภายในประเทศที่อยู่ในภาวะโกลาหล บันทึกของเอกอัครราชทูตสหรัฐระบุด้วยว่า รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้เผยว่าจะช่วยปราบปรามวัณโรคระบาดในเกาหลีเหนือ ด้านกระทรวงต่างประเทศและหน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ไม่ยืนยันว่า ข้อมูลนี้เป็นของจริงหรือไม่.-สำนักข่าวไทย
    วิกิลีคส์เผยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเกาหลีเหนือแปรพักตร์ไปเกาหลีใต้
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เกาหลีใต้ประกาศซ้อมยิงปืนใหญ่ต่อแม้ซ้อมรบกับสหรัฐเสร็จแล้ว

    <hr style="width: 100%;">
    วันพุธ ที่ 01 ธ.ค. 2553



    [​IMG]

    โซล 1 ธ.ค.- เกาหลีใต้ประกาศซ้อมยิงปืนใหญ่ต่อไปแม้ว่าการซ้อมรบกับสหรัฐเสร็จสิ้นแล้วในวันนี้

    สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานว่า เรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอสจอร์จวอชิงตันพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐกำลังมุ่ง หน้าออกจากน่านน้ำเกาหลีใต้ ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ประกาศจะซ้อมยิงปืนใหญ่ต่อไปทางฝั่งตะวันตกของคาบสมุทร เกาหลี ครอบคลุมน่านน้ำใกล้ชายแดนในทะเลเหลือง แต่จะไม่ใกล้เกาะยอนพยองที่ถูกเกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเมื่อสัปดาห์ก่อน ยอนฮัพอ้างเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ว่า การซ้อมยิงปืนใหญ่ต่อไปเป็นการเพิ่มความเตรียมพร้อมรับมือการยั่วยุที่อาจ เกิดขึ้นจากเกาหลีเหนืออีก

    ประธานาธิบดีลี มยอง บัก ของเกาหลีใต้ เตือน 2 ครั้งแล้วว่าจะใช้กำลังหากเกาหลีเหยื่อยั่วยุอีก ขณะที่นายคิม แต ยัง รัฐมนตรีกลาโหม กล่าวกับสมาชิกรัฐสภาว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างมากว่าเกาหลีเหนืออาจจะยั่วยุอีกทันทีที่เกาหลีใต้ เสร็จสิ้นการซ้อมรบกับสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย
    เกาหลีใต้ประกาศซ้อมยิงปืนใหญ่ต่อแม้ซ้อมรบกับสหรัฐเสร็จแล้ว
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกิลีกส์

    <!-- /firstHeading --><!-- bodyContent --><!-- tagline -->จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    <!-- /tagline --><!-- subtitle -->
    <!-- /subtitle --><!-- jumpto -->ไปที่: ป้ายบอกทาง, ค้นหา
    <!-- /jumpto --><!-- bodytext --><TABLE style="TEXT-ALIGN: left; WIDTH: 24em; FONT-SIZE: 90%; align: right" class="infobox borderless" summary="Template:Infobox Website"><TBODY><TR><TH style="TEXT-ALIGN: center; FONT-SIZE: 125%" colSpan=2>Wikileaks</TH></TR><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" colSpan=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TH>เว็บไซต์</TH><TD>http://wikileaks.be/</TD></TR><TR><TH>เชิงพาณิชย์?</TH><TD>ไม่เป็น</TD></TR><TR><TH>ประเภทเว็บไซต์</TH><TD>วิกิ</TD></TR><TR><TH>สมัครสมาชิก?</TH><TD>จำเป็นสำหรับการเพิ่มเนื้อหา</TD></TR><TR style="VERTICAL-ALIGN: top"><TH>ภาษา</TH><TD>มากกว่า 30 ภาษา (ภาษาอังกฤษเป็นหลัก)</TD></TR><TR style="VERTICAL-ALIGN: top"><TH>เจ้าของ</TH><TD>เดอะ ซันไชน์ เพรส
    (The Sunshine Press)</TD></TR><TR><TH>ผู้ก่อตั้ง</TH><TD>จูเลียน แอสเซนจ์
    (Julian Assange)</TD></TR><TR><TH>วันที่เปิดตัว</TH><TD>ธันวาคม พ.ศ. 2549</TD></TR><TR><TH>สถานะปัจจุบัน</TH><TD>ออนไลน์ที่ http://88.80.13.160</TD></TR></TBODY></TABLE>วิกิลีกส์ (อังกฤษ: Wikileaks) เป็นเว็บไซต์ที่นำข้อมูลเอกสารของรัฐบาลและบริษัท ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเผยแพร่ เพื่อการกล่าวหาได้ โดยไม่ถูกผลกระทบทางลบกลับจากองค์กรเหล่านั้น เว็บไซต์วิกิลีกส์อ้างว่าการส่งข้อความต่าง ๆ นั้นจะไม่สามารถถูกติดตามได้ ไม่ว่าจากใครก็ตาม
    เว็บไซต์ทำงานโดยใช้รุ่นดัดแปลงของซอฟต์แวร์มีเดียวิกิ
    [แก้] ประวัติ

    ส่วนหนึ่งของเว็บไซต์พัฒนาโดยผู้คัดค้านรัฐบาลจีน<SUP id=cite_ref-WashingtonPost1_0-0 class=reference>[1]</SUP> จากข้อมูลในเว็บไซต์ Wikileaks เป้าหมายหลักของการเปิดโปงคือ กลุ่มประเทศอดีตสหภาพโซเวียต กลุ่มประเทศซับซาฮารา และประเทศในตะวันออกกลาง แต่พวกเขาก็คาดหวังให้เว็บไซต์ถูกใช้งานสำหรับข้อมูลที่รั่วไหลเกี่ยวกับรัฐบาลและบริษัทในประเทศตะวันตก<SUP id=cite_ref-AsiaMedia1_1-0 class=reference>[2]</SUP>
    ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2553 วิกิลีกส์ได้เผยแพร่ภาพวิดีโอที่ถูกบันทึกเมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 แสดงภาพการโจมตีทางอากาศต่อกรุงแบกแดดโดยกองทัพสหรัฐ ที่ทำให้มีพลเรือนชาวอิรักเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก จากนั้นในเดือนกรกฎาคม ก็ได้เผยแพร่เอกสารลับที่ไม่เคยถูกเผยแพร่จำนวนมากกว่า 76,900 ฉบับ เกี่ยวกับปฏิบัติการของสหรัฐในอัฟกานิสถาน และในเดือนตุลาคม ก็ได้เผยแพร่เอกสารลับกว่า 400,000 ฉบับเกี่ยวกับสงครามอิรัก
    ในเดือนมิถุนายน 2553 รัฐบาลไทยได้ทำการบล็อกการเข้าถึงเว็บไซต์นี้<SUP id=cite_ref-2 class=reference>[3]</SUP>
    อ้างอิง
    1. <SUP>^</SUP><SUP> Elizabeth Williamson </SUP><SUP>"Freedom of Information, the Wiki Way: Site to Allow Anonymous Posts of Government Documents"</SUP><SUP>, </SUP><SUP>วอชิงตันโพสต์</SUP><SUP>, 15 มกราคม พ.ศ. 2550</SUP>
    2. <SUP>^</SUP><SUP> Referenced via </SUP><SUP>UCLA</SUP><SUP>. </SUP><SUP>"CHINA: Cyber-dissidents launch WikiLeaks, a site for whistleblowers"</SUP><SUP>, </SUP><SUP>เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์</SUP><SUP>, 11 มกราคม พ.ศ. 2550</SUP>
    3. <SUP>^</SUP><SUP> </SUP><SUP>ข้อความทวิตเตอร์จาก Wikileaks อย่างเป็นทางการ</SUP>
    <SUP></SUP>

    วิกิลีกส์ - วิกิพีเดีย
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหรัฐฯสืบสวน'วิกิลีกส์'จ้องฟ้องร้องดำเนินคดี
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>30 พฤศจิกายน 2553 02:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    สหรัฐฯระบุวานนี้(29)กำลังดำเนินการสืบสวนทางอาชญากรรมต่อวิกิลีกส์และติดตามผู้ก่อตั้งเว็บไซต์จอมแฉแห่งนี้หากพบว่าเขาละเมิดกฎหมาย หลังตีแผ่เอกสารข้อมูลลับของกระทรวงการต่างประเทศ

    "เรากำลังดำเนินการสืบสวนทางอาชญากรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้" เอริค โฮลเดอร์ อัยการสูงสุดแถลงต่อผู้สื่อข่าวหนึ่งวันหลังจากเว็บไซต์วิกิลีกส์นำบันทึกลับทางการทูตของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาตั้งแต่ปี 2007 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมารวม 251,287 ฉบับมาแฉผ่านทางเว็บไซต์ http://cablegate.wikileaks.org และบางส่วนมอบแก่สื่อชั้นนำของโลก 5 แห่ง

    อย่างไรก็ตาม "เราไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะแถลงผลการสืบสวนนี้" เขากล่าว พร้อมระบุว่าทางกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงกลาโหมกำลังตรวจสอบเว็บไซต์แห่งนี้อยู่

    "นี่ไม่ใช่การสำแดงแสนยานุภาพ" โฮลเดอร์ตอบผู้สื่อข่าว หลังถูกถามว่าสหรัฐฯจะใช้มาตรการใดเล่นงานจูเลียน อาสซานจ์ วัย 39 ปีผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ซึ่งเชื่อว่าน่าจะอาศัยอยู่ในยุโรป "ในการสืบสวนขยายผล หากว่าเราพบว่าใครเกี่ยวกับในเหตุละเมิดกฎหมายของอเมริกา พวกเขาเหล่านั้นจะต้องรับผิดชอบ"
    Manager Online -
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกิลีกส์แฉซาอุฯขอให้สหรัฐโจมตีอิหร่าน
    วันจันทร์ ที่ 29 พฤศจิกายน 2553 เวลา 9:57 น
    วิกิลีกส์ เว็บไซต์จอมแฉเปิดเผยเอกสารลับอีกครั้ง และมีการตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์รายวันทั้งในฝรั่งเศสและหลายประเทศ ตลอดจนหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ระบุว่า กษัตริย์อับดุลลาห์ บิน อับดุลลาห์ อัล-อาซิส แห่งซาอุดิอาระเบีย ทรงเรียกร้องให้สหรัฐโจมตีอิหร่านเพื่อทำลายโครงการนิวเคลียร์ โดยพระองค์ทรงร้องต่อสหรัฐให้โจมตีอิหร่านในระหว่างที่พระองค์พบปะกับนายไรอัน ครอกเกอร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอิรัก และพลเอกเดวิด เพทราอุส ผู้บัญชาการทหารสหรัฐในอัฟกานิสถาน เมื่อเดือนเม.ย.ปี 2551

    นอกจากนี้ กษัตริย์อับดุลลาห์ และรัฐมนตรีต่างประเทศ ตลอดจนเจ้าชายหลายพระองค์ ทรงเห็นพ้องกันว่า ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย จำเป็นต้องร่วมมือกับสหรัฐ เพื่อต่อต้านอิทธิพลของอิหร่านในภูมิภาคตะวันออกกลาง ส่วนที่ปรึกษาของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย บอกว่า เรื่องทั้งหมดเป็นแง่ลบ และไม่ใช่เรื่องดีสำหรับการสร้างความเชื่อมั่น ทั้งนี้ รัฐบาลซาอุดิอาระเบียเคยได้รับคำเตือนจากสหรัฐเกี่ยวกับข้อมูลลับรั่วไหล แต่พวกเขาก็ไม่รู้ล่วงหน้าว่า อะไรจะเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลซาอุดิอารเบียปฏิเสธแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว.
    Daily News Online > หน้าต่างประเทศ > วิกิลีกส์แฉซาอุฯขอให้สหรัฐโจมตีอิหร่าน
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ปรากฏการณ์วิกิลีกส์:จอมแฉแห่งยุคดิจิทัล
    [​IMG]

    คมชัดลึก : ขณะที่ชาวโลกกำลังพุ่งความสนใจไปยังเอกสารแฉด้านดำมืดของสงครามอัฟกานิสถานที่ "วิกิลีกส์" (Wikileaks.org) นำออกเผยแพร่จำนวน 9.2 หมื่นหน้าเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์แห่งนี้ก็มีอันล่มโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนเป็นปมปริศนาปมหนึ่ง
    สาเหตุอาจเป็นเพราะการจราจรคับคั่งเกินไป ด้วยมีผู้คนมหาศาลเกิดสนใจเว็บไซต์ที่แต่ก่อนไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันสักเท่าไหร่พร้อมๆ กัน หรือเพราะถูกโจมตีล้างแค้นจากหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐ หรือจากชาติพันธมิตรที่แสดงความโกรธเกรี้ยวอย่างไม่ปิดบัง ต่อการรั่วไหลของความลับสุดยอดทางทหารอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนบนโลกใบนี้
    แต่ไม่ว่าจะเหตุผลใดก็ตาม เว็บไซต์รวมพลคนต้องการแฉความลับแห่งนี้ โด่งดังเป็นพลุแตก ท่ามกลางเสียงถกเถียงที่อีกนานกว่าจะได้ข้อสรุปว่า การเผยแพร่เอกสารลับทางทหารจนเป็นระเบิดตูมใหญ่ใส่หน่วยสืบราชการลับของชาติมหาอำนาจโลกแบบนี้ ถือเป็นอาชญากรรมรูปแบบหนึ่ง หรือเป็นการรายงานเชิงสืบสวนแห่งอนาคตที่น่าชื่นชม
    วิกิลีกส์ เป็นองค์กรสื่อยุคใหม่ในโลกยุคดิจิทัล เช่นเดียวกับ ยูทูบ เฟซบุ๊ก และสารานุกรมออนไลน์ วิกิพีเดีย น่าสนใจคือองค์กรสื่อแห่งนี้ บอกแบบคลุมเครือว่าร่วมกันตั้งเมื่อปลายปี 2549 โดยผู้มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาลจีน ผู้สื่อข่าว นักคณิตศาสตร์ ผู้รู้ด้านเทคโนโลยีตั้งแต่สหรัฐ ไต้หวัน ยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ ใช้พนักงานหลักๆ แค่ 5 คน แต่มีเครือข่ายอาสาสมัครกว่า 1,000 คน ที่ร่วมด้วยช่วยกันคัดกรอง ตรวจสอบ แก้ไข ก่อนเผยแพร่จนกลายเป็นฐานข้อมูลเอกสารลับใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
    สำหรับงบประมาณอาศัยการบริจาคเป็นหลัก มีงบประมาณ 1.75 แสนปอนด์ต่อปี และได้รับการสนับสนุนด้านกฎหมายจากสำนักข่าวชื่อดังหลายแห่ง
    องค์กรแห่งนี้เรียกตัวเองว่า เป็นระบบปลอดเซ็นเซอร์สำหรับการแพร่งพรายเอกสารลับจำนวนมหาศาลแบบที่ไม่สามารถแกะรอยไปยังที่มาได้ เอกสารถูกเก็บอย่างดีในเซิร์ฟเวอร์หลักที่สวีเดน และอีกหลายประเทศที่มีกฎหมายคุ้มครองความลับสื่อ ข้อมูลถูกเข้ารหัสป้องกันระดับเดียวกับกองทัพ เพื่อปกป้องแหล่งข่าว และต่อต้านความพยายามบุกรุกของหน่วยงานรัฐ ตลอดจนบริษัท และเหล่าแฮ็กเกอร์ที่อยากลองดี
    เป้าหมายของ วิกิลีกส์ คือการสร้างสำนักข่าวกรองของประชาชน ขณะที่สื่อหลายแห่งพยายามให้คำจำกัดความหลากหลายแก่ วิกิลีกส์ เช่น นิตยสารนิวยอร์กเกอร์ ตั้งฉายาว่า การลุกฮือแข็งข้อของสื่อ ยึดมั่นกับสิ่งที่เรียกว่า ความโปร่งใสสุดขั้ว ด้วยความเชื่อว่ายิ่งลับน้อยเท่าไหร่ ยิ่งดีเท่านั้น ส่วนบล็อกแห่งหนึ่งระบุว่า วิกิลีกส์เป็นองค์กรสื่อไร้รัฐแห่งแรกของโลก
    ภายในปีเดียวนับจากเปิดตัวเว็บไซต์ วิกิลีกส์คุยว่าฐานข้อมูลของตนเก็บเอกสารแนวเปิดโปง 1.2 ล้านชิ้น และมีผู้ส่งเอกสารเข้าไปนับหมื่นในแต่ละวัน
    อาจกล่าวได้ว่าหากขาดซึ่งมันสมองและพลังความคิดผิดแผกจากคนทั่วไปของชายชื่อ จูเลียน พอล อาซานจ์ วันนี้แล้ว คงไม่ทำให้วิกิลีกส์มาถึงได้ และอาจกล่าวได้อีกว่าความลับหนึ่งที่วิกิลีกส์ ยังไม่ยอมแพร่งพรายออกมาก็คือปูมหลังอันชัดเจนของชายที่กำลังเป็นจุดสนใจของคนทั่วโลก
    เท่าที่พอจะรวบรวมได้จากคำให้สัมภาษณ์และแหล่งต่างๆ อาซานจ์เกิดเมื่อปี 2514 ที่เมืองทาวน์สวิลล์ รัฐควีนสแลนด์ของออสเตรเลีย เคยพูดถึงตัวเองว่าเป็นกบฏโดยพันธุกรรม พ่อแม่พบกันระหว่างร่วมประท้วงต่อต้านสงครามเวียดนาม บิดาพร่ำสอนให้เขาเป็นลูกผู้ชายที่มีน้ำใจ คุ้มครองผู้ตกเป็นเหยื่อ และไม่เป็นผู้สร้างเหยื่อ ส่วนมารดานั้น สมัยเป็นวัยรุ่น ก็เคยขี่ม้าเข้าไปยังศาลาว่าการเมือง เพื่อประท้วงต่อต้านการปิดถนนสำหรับม้า เธอยังเป็นช่างทาสี นักแสดงและนางแบบให้แก่จิตรกรหาเลี้ยงชีพในซิดนีย์ด้วย
    อาซานจ์เคยแต่งงานกับแฟนสาวตอนอายุเพียง 18 มีบุตรชาย 1 คน แต่แล้วเธอหอบลูกหนีไปขณะที่เขากำลังถูกตำรวจออสเตรเลียสอบสวนในข้อหาแฮ็กเกอร์ อาซานจ์แฮ็กระบบคอมพิวเตอร์ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในออสเตรเลีย บริษัทนอร์เทล ยักษ์ใหญ่สื่อสารโทรคมนาคมของแคนาดา และองค์กรอีกหลายแห่ง เพื่อทดสอบระบบความปลอดภัยโดยไม่ได้ทำอันตรายใดๆ ต่อระบบ อาซานจ์รับสารภาพผิดในข้อหาแฮ็กเกอร์ 24 กระทง แต่ได้รับการปล่อยตัวโดยสัญญาว่าจะประพฤติดี หลังพ้นคดี อาซานจ์ใช้ชีวิตในเมลเบิร์นในฐานะโปรแกรมเมอร์และนักพัฒนาซอฟต์แวร์ให้เปล่า
    ด้านการศึกษา อาซานจ์เรียนด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเมลเบิร์น กระทั่งปี 2549 ซึ่งเป็นปีที่เริ่มสนใจเรื่องการเปิดเว็บ วิกิลีกส์ ว่ากันว่า อาซานจ์เรียนด้วยตัวเองเป็นส่วนใหญ่ อ่านตำราวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์มากมาย ทั้งยังได้ศึกษาปรัชญาและประสาทวิทยาอีกด้วย
    แต่ความคิดที่จะยึดอาชีพอาจารย์ฟิสิกส์ต้องมีอันพับไป เมื่อได้พบว่านักวิชาการหลายต่อหลายคน ขายศักดิ์ศรีตัวเองให้แก่หน่วยข่าวกรองและกองทัพ อาซานจ์เคยประณามเรื่องนี้ในหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง และนั่นจุดประกายของการตั้งเว็บไซต์แบบไม่มีการประนีประนอม ซึ่งส่งผลให้อาซานจ์ได้รับรางวัลจากองค์การนิรโทษกรรมสากล จากการเปิดโปงกระบวนการอุ้มและวิสามัญมาตกรรมในเคนยา เมื่อปีที่แล้ว
    ชายวัย 39 ปีผู้นี้ไม่มีบ้านเป็นหลักแหล่ง ใช้ชีวิตราวคนเผ่าเร่ร่อน หิ้วแล็ปท็อปกับเป้เสื้อผ้าอีกหนึ่งใบ ย้ายไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่าจะต้องไปไหนเพื่ออะไรบางอย่าง ยิ่งเวลานี้ว่ากันว่า อาซานจ์จะไม่อยู่ที่ไหนเกินสองวัน เพราะศัตรูเริ่มยาวเป็นหางว่าวตามการขยายตัวของฐานข้อมูลในวิกิลีกส์
    แม้ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ก็ไม่ได้สร้างความลำบาก เพราะตอนเด็ก ต้องย้ายหลักแหล่งไปเรื่อยๆเพราะมารดาทำธุรกิจใหม่เป็นบริษัทจัดการแสดงเคลื่อนที่ จนทำให้เด็กชายอาซานจ์เข้าออกโรงเรียนถึง 37 แห่ง
    อาซานจ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องจริงที่ว่าทุกวันนี้อาศัยอยู่ที่สนามบิน เขาเคยอยู่เป็นช่วงๆ ที่ออสเตรเลีย เคนยา และแทนซาเนีย และเคยไปเยือนเวียดนาม สวีเดน ไอซ์แลนด์ ไซบีเรีย เบลเยียม และสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุด อาซานจ์เริ่มเช่าบ้านหลังหนึ่งในไอซ์แลนด์เมื่อเดือนมีนาคมปีนี้ และที่บ้านหลังนั้นเอง อาซานจ์กับนักเคลื่อนไหวจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันทำงานจนเป็นที่มาของการเผยแพร่คลิปวิดีโอสงครามอัฟกานิสถาน
    อาซานจ์เป็นหนึ่งในคณะกรรมการที่ปรึกษาที่มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 9 คนของวิกิลีกส์ และทำหน้าที่โฆษกด้วย แม้ว่าสื่อต่างๆ จะระบุตำแหน่งว่าเป็นผู้ก่อตั้ง หรือผู้อำนวยการ แต่เจ้าตัวไม่อยากเรียกตัวเองแบบนั้น แต่ถือว่าเป็นบรรณาธิการบริหาร ของวิกิลีกส์ อาซานจ์เป็นคนตัดสินใจขั้นสุดท้ายในกระบวนการตรวจสอบเอกสารก่อนเผยแพร่ ซึ่งจุดยืนอันน่ากลัวของอาซานจ์คือ การแพร่งพรายที่ดีก็คือการไม่เซ็นเซอร์อะไรเลยที่เป็นเรื่องอ่อนไหวทางทหาร
    อุไรวรรณ นอร์มา
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ออกหมายจับ วิกิลีกส์ เว็บไซต์แฉความลับสหรัฐฯ
    เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ตำรวจสหรัฐฯ ออกหมายจับผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ วิกิลีกส์ ซึ่งเป็นเว็บไซต์แฉข้อมูลลับของสหรัฐฯ หลังจากมีการสืบสวนพบว่าเว็บไซต์วิกิลีกส์ได้เปิดเผยความลับทางการทูต ความหวั่นวิตกในโลกปัจจุบันที่ทางรัฐบาล จนสร้างความเสียหายให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก

    โดยข้อมูลที่เผยแพร่ในเว็บไซต์วิกิลีกส์ เป็นข้อมูลที่สถานทูตสหรัฐฯ กว่า 274 แห่งทั่วโลกส่งให้กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลลับในอดีตด้วย เช่น กรณีกษัตริย์แห่งซาอุดิอาระเบียที่กระตุ้นให้สหรัฐฯ โจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แผนการของสหรัฐที่จะรวมชาติเกาหลีเข้าด้วยกัน กรณีคอรัปชั่นในรัฐบาลอัฟกานิสถาน รวมถึงข้อมูลเปิดโปงพฤติกรรมการคอรัปชั่นของข้าราชการระดับสูงในสหรัฐฯ

    จากข้อมูลลับที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐบาลสหรัฐ และอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศต่าง ๆ ทำให้ทางการสหรัฐสืบสวนเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และออกหมายจับ จูเลียน อาสแซงจ์ วัย 39 ปี ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์แล้ว เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีหลังจากเขาละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง พร้อมทั้งจัดประเภทเว็บไซต์วิกิลีกส์ เป็นกลุ่มก่อการร้ายแห่งชาติ เพราะได้กระทำการที่ส่งผลต่อความมั่นคงของชาติอย่างที่ไม่อาจให้อภัยได้ ส่วนทางด้าน จูเลียน อาสแซงจ์ ก็ได้มีการตอบโต้รัฐบาลสหรัฐฯ ว่า ข้อมูลเหล่านี้ควรจะเป็นข้อมูลที่ประชาชนต้องรับทราบ และตรวจสอบได้ ไม่ควรที่จะเป็นข้อมูลลับ โดยเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องผลกระทบใด ๆ เลย

    อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ขณะนี้ อาสแซงจ์ คงอาศัยอยู่ในประเทศแถบยุโรป และจะตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป อีกทั้งยังตั้งข้อสงสัยถึงผู้ที่ให้ข้อมูลลับกับอาสแซงจ์ว่า ตัวการส่งข้อมูลให้อาสแซงจ์นี้ อาจเป็น แบรดลีย์ แมนนิ่ง พลทหารนักวิเคราะห์ข่าวแห่งกองทัพบกสหรัฐฯ ที่ถูกจับในสหรัฐเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ข้อหาส่งข้อมูลลับชุดก่อนหน้านี้ให้กับเว็บไซต์วิกิลีกส์

    ส่วนทางด้าน นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาตำหนิเว็บไซต์วิกิลีกส์จอมแฉว่า เว็บไซต์นี้กำลังโจมตีรัฐบาลสหรัฐฯ และประชาคมโลก พร้อมทั้งแสดงความเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ที่ข้อมูลลับถูกเผยแพร่ออกไป และจะหาตัวผู้ที่ล้วงข้อมูลลับนี้ไปเผยแพร่มาดำเนินคดีให้ได้
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    'คลินตัน'จวกวิกิลีกส์ถล่มโลก
    1 ธันวาคม 2553
    รัฐบาลสหรัฐประณามวิกิลีกส์แก้เกี้ยว หลังโทรเลขทางการทูตบันทึกข้อความเด็ดที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของวอชิงตันและหลายชาติพันธมิตรหน้าม้านถูกเผยแพร่ฉาวโฉ่ไปทั่วโลก "ฮิลลารี คลินตัน" ตำหนิเว็บจอมแฉกำลัง "โจมตี" ประชาคมโลก ทำเนียบขาวเต้นสั่งเพิ่มมาตรการป้องกันเอกสารลับรั่วไหล กระทรวงยุติธรรมเดินหน้าสอบสวนทางอาญามือปล่อยของ
    โทรเลขทางการทูตที่บันทึกข้อมูลการติดต่อสนทนาของเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลสหรัฐ รวมไปถึงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศต่าง, นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน, ผู้สื่อข่าวและอื่นๆ มากกว่า 250,000 ข้อมูลถูกส่งถึงหนังสือพิมพ์ชั้นนำ 5 ฉบับใน 5 ประเทศล่วงหน้า ก่อนที่สื่อทั่วโลกจะพร้อมใจกันนำมารายงาน พร้อมกับการเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ย่อยของวิกิลีกส์เมื่อวันอาทิตย์
    ในวันจันทร์ ข้อมูลลับยังคงถูกทยอยเผยแพร่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมทั้งข้อมูลบันทึกเมื่อสิงหาคม 2551 ซึ่งเทเลกราฟของอังกฤษนำมาตีพิมพ์ โดยเป็นการอ้างคำพูดของนักธุรกิจใกล้ชิดบุคคลชั้นนำของอิหร่านที่บอกว่าอยาตุลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เป็นมะเร็งและอาจเสียชีวิต "ภายในไม่กี่เดือน"
    อีกชิ้นเป็นบันทึกของทูตสหรัฐในจีนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอ้างคำพูดของชุน ยุงวู รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของเกาหลีใต้ ว่า รัฐบาลจีนที่คอยปกป้องคุ้มครองเกาหลีเหนือตลอดมา พบว่าอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ "ก่อปัญหามาก" และผู้นำรุ่นใหม่ของจีนไม่คิดว่าเกาหลีเหนือเป็นพันธมิตรที่มีประโยชน์หรือไว้วางใจได้ และจีนพร้อมรับการรวมชาติเกาหลี หากเกาหลีเหนือล่มสลายหลังสิ้นคิม จองอิล
    ข้อมูลใหม่อีกชิ้นกล่าวถึงนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐด้วยว่า นางแสดงความกังขาต่อสภาพจิตใจของประธานาธิบดีคริสตินา เฟร์นันเดซ แห่งอาร์เจนตินาด้วย และได้ขอให้นักการทูตสหรัฐสืบดูว่าผู้นำหญิงรายนี้ต้องทานยารักษาอาการใดๆ หรือไม่
    รัฐบาลสหรัฐได้พยายามจำกัดความเสียหายก่อนหน้านี้ด้วยการติดต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหลายชาติ เมื่อรู้ว่าไม่อาจยับยั้งการเผยแพร่ของวิกิลีกส์ได้ โรเบิร์ต กิบส์ โฆษกทำเนียบขาว กล่าวประณามอีกครั้งเมื่อวันจันทร์ว่า วิกิลีกส์และพวกที่ปล่อยความลับรั่วเป็น "อาชญากร" แต่เขายังเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อความสามารถในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของสหรัฐ
    ทำเนียบขาว, กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวกันว่า หน่วยงานของตนกำลังดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหลอีกในอนาคต กระทรวงยุติธรรมแถลงด้วยว่า กระทรวงกำลังสอบสวนทางอาญาว่าใครเป็นผู้ปูดความลับ
    ด้านนางคลินตันกล่าวว่า รัฐบาล "เสียใจอย่างสุดซึ้ง" ที่เอกสารเหล่านี้ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ซึ่งเชื่อว่าทั้งหมดน่าจะมาจากกระทรวงการต่างประเทศเอง และรัฐบาลจะใช้มาตรการดุดันเพื่อหาตัวผู้ที่ "ขโมย" ข้อมูลมาเผยแพร่ "การเปิดโปงครั้งนี้ไม่ใช่แค่การโจมตีผลประโยชน์ด้านนโยบายต่างประเทศของอเมริกาเท่านั้น แต่เป็นการโจมตีประชาคมระหว่างประเทศด้วย" นางกล่าว
    นางยังได้ตอกย้ำคำประณามของทำเนียบขาวก่อนหน้านี้ที่ว่าการเปิดเผยข้อมูลลับทำให้ชีวิตผู้คนหลายคนตกอยู่ในอันตราย และยังคุกคามความมั่นคงของประเทศ ทั้งบั่นทอนการทำงานร่วมกันระหว่างสหรัฐและประเทศต่างๆ
    ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่บันทึกระหว่างปี 2550 ถึงเดือน ก.พ.ปีนี้ โดยมีทั้งบันทึกข้อมูลทางการทูตเกี่ยวข้องกับประเด็นปัญหาหนักๆ ระหว่างประเทศ ไปจนถึงทัศนะที่ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง
    ก่อนหน้านี้วิกิลีกส์เคยเผยแพร่เอกสารลับกว่า 500,000 ชิ้นที่เกี่ยวกับการทำสงครามอัฟกานิสถานและอิรักมาแล้ว ซึ่งจูเลียน อาซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ชี้ว่าเป็นการเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่นั่น ในคำให้สัมภาษณ์กับฟอร์บส์วันจันทร์ เขาบอกด้วยว่า วิกิลีกส์เตรียมจะแฉเอกสารชุดใหญ่ชุดใหม่ที่เล่นงาน "ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐแห่ง" ในต้นปีหน้า แต่เขายังไม่เผยว่าคือธนาคารใด.
    'คลินตัน'จวกวิกิลีกส์ถล่มโลก | ไทยโพสต์
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE class=textnormal border=0 cellPadding=0 width=850><TBODY><TR><TD></TD><TD>วิกิลีกส์แฉข้อมูลลับทางการทูตสหรัฐฯ จากเอกสารกระทรวง ตปท.

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หน้าเว็บไซต์วิกีลีกส์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD height=5 vAlign=top align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเอฟพี - เว็บไซต์จอมแฉ วิกิลีกส์ เผยแพร่เอกสารลับของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ จำนวนมาก ซึ่งมีรายละเอียดที่น่าตกตะลึง ตั้งแต่ประเด็นนิวเคลียร์ปากีสถาน ไปจนถึงบรรดาผู้นำชาติอาหรับที่เร่งเร้าให้สหรัฐฯ โจมตีอิหร่าน

    บันทึกที่รั่วไหลดังกล่าวระบุว่า รัฐบาลจีนพยายามจะแฮคเข้าไปในเว็บไซต์กูเกิล โดยมีแผนรวมคาบสมุทรเกาหลี หากในที่สุดเกาหลีเหนือล่มสลาย และยังอ้างว่ากษัตริย์ซาอุดีอาระเบียแนะให้สหรัฐฯ ระเบิดโจมตีอิหร่าน เพื่อหยุดยั้งโครงการนิวเคลียร์

    เอกสารลับเหล่านั้น ซึ่งลงวันที่ตั้งแต่ปี 2007 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ยังเปิดเผยว่า กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งให้นักการทูตคอยสอดแนมเจ้าหน้าที่ต่างชาติ รวมถึงล้วงข้อมูลบัตรเครดิต และเที่ยวบินที่เดินทางของพวกเขาด้วย

    ยิ่งไปกว่านั้น เอกสารเหล่านี้ระบุถึงการแสดงความเห็นอย่างลับๆ ที่อาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย เช่น การที่ประธานาธิบดีของเยเมนบอกกับนายพลระดับสูงของสหรัฐฯ ว่า “เราจะยืนยันต่อไปว่าระเบิดพวกนั้นเป็นของเรา ไม่ใช่ของพวกคุณ” เมื่อเจรจาเกี่ยวกับการโจมตีอัลกออิดะห์กันอย่างลับๆ

    หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐฯ เดอะการ์เดียนของอังกฤษ เลอ มงด์ของฝรั่งเศส แดร์ สปีเกลของเยอรมนี และเอล ปาอิสของสเปนได้ตีแผ่รายงานเอกสารลับดังกล่าวชุดแรกในวันอาทิตย์ (28) ที่ผ่านมา โดยเสริมว่าข้อมูลเพิ่มเติมจะตามมาอีกในไม่กี่วันนี้

    ด้าน จูเลียน อาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ระบุว่า การเผยแพร่เอกสารลับครั้งนี้เป็นการเปิดเผยประวัติศาสตร์ทางการทูตของสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมประเด็นสำคัญทุกเรื่อง

    แม้ว่าเว็บไซต์หลักของวิกิลีกส์จะถูกโจมตีก่อนหน้าในวันเดียวกัน แต่ก็สามารถแฉเอกสารได้ถึง 251,287 ฉบับ ซึ่งในจำนวนนั้น 15,652 ถูกจัดให้เป็นเอกสารลับ จากสถานทูตสหรัฐฯ 274 แห่งทั่วโลกบนเว็บไซต์ย่อย http://cablegate.wikileaks.org ได้

    ขณะที่ทำเนียบขาวตำหนิการเผยแพร่เอกสารดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ ไม่ยั้งคิด และเป็นอันตรายซึ่งอาจทำให้เป็นภัยต่อชีวิต ส่วนกระทรวงกลาโหม ซึ่งไม่พอใจการแฉข้อมูลสงครามอัฟกานิสถาน และอิรักของวิกิลีกส์มาก่อนหน้านี้แล้วก็ร่วมประณามด้วย พร้อมระบุว่าจะดำเนินการเพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลเพิ่มเติม

    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วิกิลีกส์เผย US และ UK วิตกกังวลเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน

    December 1, 2010

    สำนักข่าวต่างประเทศ (1 ธ.ค.53) ได้อ้างรายงานของวิกิลีกส์กรณีโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถานว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจรกรรมจากผุ้ก่อการร้ายรวมถึงอาจมีความเสี่ยงต่อการนำไปใช้ในกรณีข้อพิพาทระหว่างอินเดียได้
    โดยรายงานของวิกิลีกส์ได้รายงานว่าทั้งทางอังกฤษและสหรัฐมีความกังวลต่อโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถานทั้งในเรื่องความปลอดภัยต่อการเก็บอาวุธนิวเคลียร์และการนำไปใช้กับอินเดียที่อาจกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ครั้งต่อจากเมื่อสงครามโลกครั้งที่2
    ขณะเดียวกันในรายงานยังได้กล่าวถึงเรื่องสหรัฐส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษเข้าไปปฏิบัติการลับกับชนเผ่าในพื้นที่ปากีสถานโดยที่รัฐบาลปากีสถานให้ความเห็นชอบ รวมถึงค่ายผู้ลี้ภัยในปากีสถานโดยเป็นการตอบโต้ระหว่างทูตสหรัฐประจำกรุงอิสลามาบัดของปากีสถานกับทางเพนตากอนว่าอาจเป็นเป้าหมายโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐ รวมไปถึงเรื่องประธานาธิบดีปากีสถาน นายอาซีฟ อาลี ซาดานี อาจถูกลอบสังหารได ซึ่งเป็นสามีของอดีตประธานาธิบดีหญิงของปากีสถานนางเบนาซีบุตโตที่ถูกระเบิดฆ่าตัวตายสังหารรวมถึงความกังวลต่อกองทัพปากีสถาน
    นอกจากนี้ในรายงานยังกล่าวถึงโครงการนิวเคลียร์ของปากีสถานว่าเป็นโครงการอาวุธนิวเคลียรืที่ถูกผลิตได้เร็วที่สุดในโลกโดยมีผู้เกี่ยวข้องราว 120,000 – 130,000 คนที่ไม่อาจรับรองความซื่อสัตย์ต่อรัฐบาลและโครงการนี้ได้ ซึ่งอาจทำให้กลุ่มหัวรุนแรงแทรกตัวเข้ามาเกี่ยวข้องในโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถานทั้งในรูปหน่วยรักาาความปลอดภัย หรือที่เกี่ยวกับโครงการโดยตรง
    ล่าสุดรัฐบาลสหรัฐได้ทำสัญญาขายอาวุธให้กับทางปากีสถานมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อช่วยในการสู้กับกลุ่มอัลเคด้าและกลุ่มตาลีบันตามแนวชายแดนปากีสถาน การขายอาวุธให้แก่ปากีสถานในครั้งนี้เพิ่มขึ้นถึง30% ในมูลค่าขายอาวุธให้ปากีสถาน
    วิกิลีกส์เผย US และ UK วิตกกังวลเรื่องโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน | Siam Intelligence Unit
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาวเน็ตจีนถูกบล็อก เข้า “วิกิลีกส์” ไม่ได้
    .:
    ASTV


    ชาวเน็ตจีนไม่สามารถเข้าใช้ เว็บไซต์จอมแฉ “วิกิลีกส์” (WikiLeaks)หลังจากข้อมูลลับทางการทูตของสหรัฐฯนับแสนถูกตีแผ่ทางเว็บไซต์ ดังกล่าว ซึ่งมีข้อมูลเด็ดๆมากมายเกี่ยวพันกับจีน
    หากใครพยายามเข้า “วิกิลีกส์” ในปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้จะต้องเจอกับคำว่า “หน้าเว็บนี้ไม่สามารถใช้งานได้” แต่ผู้ใช้บางคนก็ยังสามารถใช้ตัวบริการแทน (proxy server)เจาะทะลวงระบบการเซ็นเซอร์ของจีนได้
    ระบบการบล็อกเว็บไซต์และการคัดกรองข้อมูลของรัฐบาลจีนที่ชื่อ Dubbed the Great Firewall จะทำหน้าที่ปิดกั้นข้อมูลต่างๆที่เป็นประเด็นอ่อนไหว อาทิเช่น สิทธิมนุษยชน การปฏิรูปการเมืองของกลุ่มที่มีความเห็นไม่ลงรอยกับรัฐบาล
    เอกสารที่รั่วไหลใน ครั้งนี้ประกอบไปด้วย ข้อกล่าวหาว่า จีนอาจจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้เกาหลีเหนือส่งออกชิ้นส่วนขีปนาวุธ รวมทั้งแฉผู้นำจีนอยู่เบื้องหลังการโจมตีไซเบอร์เว็บเสิร์ชยักษ์ใหญ่ “กูเกิล”
    ด้านโฆษกกระทรวงต่างประเทศ นายหง เล่ย กล่าวเมื่อวันอังคาร (30 พ.ย.) เรียกร้องให้สหรัฐฯ ออกมาจัดการกับเรื่องนี้ แต่ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องข้อมูลที่เว็บไซต์แฉเกี่ยวกับจีน เขาตอบเมื่อถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับข้อมูลที่รั่วไหลว่า “เราหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างเหมาะสม และเราไม่อยากเห็นอุปสรรครบกวนความสัมพันธ์ระหว่างจีน-สหรัฐฯ”
    เอกสารชิ้นหนึ่งแฉว่า “รัฐบาลจีนให้ท้ายระบอบที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของพันธมิตรสนิทเกาหลีเหนือ ซึ่งเหมือนกับการเลี้ยงลูกที่ปล่อยให้ลูกเสียคน พร้อมเปิดโปงว่า จีนอาจยอมรับการรวมชาติเกาหลี”
    นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้กล่าวเมื่อวันจันทร์ (29 พ.ย.) ว่า “วิกิลีกส์ กำลังโจมตีพันธมิตรของอเมริกาให้โกรธแค้น โดยเผยข้อมูลลับของประเทศเหล่านั้น ทำให้ตกอยู่ในภาวะลำบากใจ”
    หลายประเทศก็เห็นตรง กัน อาทิเช่น ญี่ปุ่นก็ออกมาบอกว่าการเปิดเผยข้อมูลเป็น “อาชญากรรม” และกล่าวว่า “รัฐบาลเป็นผู้เดียวที่มีสิทธิ์ตัดสินใจที่จะเปิดเผยข้อมูลที่อ่อนไหวต่อ สังคม หรือไม่”

    เขียนโดย webmaster เมื่อ 1 ธันวาคม, 2010 - 19:58.
    ชาวเน็ตจีนถูกบล็อก เข้า “วิกิลีกส์” ไม่ได้ | นสพ.ประชาชาติอิสลามออนไลน์
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหรัฐขอร้องวิกิลีกส์หยุดแพร่เอกสารลับ
    วันที่ 29/11/2553 09:43
    รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้แจ้งต่อวิกิ ลีกส์ว่า การเผยแพร่เอกสารลับตามแผนของวิกิลีกส์ในเร็ว ๆ นี้ จะทำให้ชีวิตผู้คนจำนวนมากมายตกอยู่ในความเสี่ยง ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก และทำลายความสัมพันธ์ของสหรัฐกับชาติพันธมิตร ก้าวย่างที่ไม่ปกติอย่างมากของสหรัฐครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นความวิตกกังวลอย่างยิ่งของรัฐบาลสหรัฐเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของวิกิลีกส์ กระทรวงต่างประเทศ ได้เปิดเผยเอกสารฉบับหนึ่งจากนายฮาโรลด์ โคห์ ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่ส่งถึงนายจูเลียน อาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ และทนายความของเขาว่า การเผยแพร่เอกสารลับดังกล่าวเป็นสิ่งผิดกฎหมายและเรียกร้องให้หยุดเผยแพร่

    นอกจากนี้ นายโคห์ยังกล่าวว่า ทางการจะไม่ร่วมเจรจากับวิกิ ลีกส์ ตามที่มีแผนจะเผยแพร่เอกสารลับทางราชการ ซึ่งได้มาโดย กระบวนการผิดกฎหมายและขาดความตระหนักถึงผลกระทบที่จะตามมา และตราบใดที่วิกิลีกส์ยังคงครอบครองเอกสารดังกล่าวก็ถือว่า การกระทำผิดกฎหมายยังคงดำเนินต่อไป

    ที่ปรึกษากฎหมายยังได้โจมตีนายอาสซานจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ ซึ่งส่งจดหมายขอทราบรายชื่อบุคลากรที่อาจได้รับอันตรายจากการเผยแพร่เอกสารลับ โดยชี้ว่า การแสดงเจตนาดีดังกล่าวเป็นเพียงเรื่องบังหน้า เพราะหากเผยแพร่เอกสารลับออกไปแล้ว ก็จะก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงและทำให้ชีวิตของผู้บริสุทธิ์นับไม่ถ้วนตกอยู่ในอันตราย นอกจากนี้ยังอาจกระทบต่อภารกิจทางทหารที่กำลังดำเนินอยู่ รวมถึงภารกิจต่อต้านก่อการร้ายและความร่วมมือระหว่างประเทศ.
    <SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "pub-0649897295614309";/* 468x15, created 3/31/09 */google_ad_slot = "0608334890";google_ad_width = 468;google_ad_height = 15;//--></SCRIPT>
    ที่มา: เดลินิวส์
    สหรัฐขอร้องวิกิลีกส์หยุดแพร่เอกสารลับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...