เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กองทัพเรือสหรัฐฯ ยันเตรียม “เสริมกำลัง” ในเอเชีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 20:03 น.


    เอเอฟพี - ผู้บัญชาการระดับสูงกองทัพเรือสหรัฐฯ เผยวันนี้ (21) ว่า กรุงวอชิงตันมีแผนสนับสนุนการประจำการของกองทัพในภูมิภาคเอเชีย ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงผู้นี้ยังได้เตือนทางการจีน ว่า ควรขยายกำลังรบอย่างมีความรับผิดชอบ
    [​IMG]

    เรือบรรทุกเครื่องบิน “วาร์ยัก” ซึ่งมีรายงานว่า กำลังได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในเมืองต้าเหลียนของจีน

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ เคยแสดงความกังวลถึงการเสริมสร้างกองทัพของจีน โดยทางเพนตากอนได้แถลงในเดือนนี้ ว่า จีนกำลังพัฒนาอาวุธ “ตอบโต้ในห้วงอวกาศ” ซึ่งสามารถส่งสัญญาณรบกวนการทำงาน หรือยิงดาวเทียมให้ร่วงได้

    ทั้งนี้ ทางการจีนฮึกเหิมมากขึ้นเรื่อยๆ จากความทะเยอทะยานในการพัฒนาทัพเรือในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีแผนการเปิดตัวเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรก ซึ่งจะกลายเป็นศูนย์บัญชาการรบของกองเรือจีนที่เติบโตขึ้นทุกเมื่อเชื่อวัน ยิ่งไปกว่านั้นน ขณะนี้ เรือบรรทุกเครื่องบิน “วาร์ยัก” ของอดีตสหภาพโซเวียต กำลังได้รับการขัดสีฉวีวันเสียใหม่ในเมืองต้าเหลียน เมืองท่าทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน

    พล.ร.ท.สกอตต์ ฟาน บุสเคิร์ก กล่าวในฮ่องกงวันนี้ (21) ว่า เรือบรรทุกเครื่องบินของจีน “อาจเผยโฉมออกมาอีกไม่นาน ภายในปีนี้” ทว่าเขาไม่ได้ให้รายละเอียด หรือ ระบุว่าเรือรบลำดังกล่าวจะเข้าประจำการ และปฏิบัติภารกิจเต็มตัวหรือไม่

    “เราตั้งความหวังด้วยความจริงใจว่า ขณะที่จีนกำลังพัฒนากองทัพนาวี ซึ่งผมเชื่อเหลือเกินว่า จะมีเรือบรรทุกเครื่องบินรวมอยู่ด้วย จีนจะใช้กองเรือเหล่านั้นในเชิงสร้างสรรค์ และมีความรับผิดชอบ” พลเรือโทผู้บัญชาการกองเรือที่ 7 ของทัพพญาอินทรีผู้นี้กล่าว

    อย่างไรก็ตาม เขาได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่สหรัฐฯ จะถอนกำลังออกจากเอเชีย โดยอ้างว่า เมื่อเฉลี่ยแล้วมีเรือรบ และอากาศยานของกองทัพเรือสหรัฐฯ ประมาณ 70 ลำปฏิบัติภารกิจในภูมิภาคเอเชียแต่ละวัน เพิ่มขึ้นมาจากเมื่อทศวรรษก่อนที่มีประมาณ 50-60 ลำ ต่อวัน

    ผู้บัญชาการกองทัพเรือพญาอินทรีผู้นี้ยังเตือนถึงภัยร้ายจากโจรสลัดที่เกาะกินชายฝั่งแอฟริกาว่า ขณะนี้กำลังแพร่กระจายมาทางตะวันออกมุ่งหน้ายังตอนใต้ของอินเดีย

    “อาจเป็นเพราะ ความมุมานะของกองเรือนานาชาติ ในการปราบปรามโจรสลัดในอ่าวเอเดน เรากำลังจะได้เห็นปัญหาดังกล่าวค่อยๆ คืบคลานมาทางตะวันออก สู่มหาสมุทรอินเดีย” พล.ร.ท. สกอตต์ ฟาน บุสเคิร์ก กล่าว “ไม่มีประเทศไหนสามารถจัดการปัญหาโจรสลัดได้เพียงลำพัง”

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พล.ร.อ.โรเบิร์ต วิลลาร์ด เคยออกมาเตือนประเทศต่างๆ ในเอเชีย ว่า แก๊งโจรสลัดโซมาเลียกำลังขยับขยายพื้นที่หากิน ลึกเข้ามายังน่านน้ำเอเชียมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางความพยายามของนานาชาติในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว

    Around the World - Manager Online -
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้ประท้วงลิเบียบุกปล้นเขตก่อสร้าง “เกาหลีใต้” คนงานเจ็บร่วม 20 คน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 16:31 น.


    เอเอฟพี - เกิดเหตุชาวลิเบียประมาณ 500 คน บุกปล้นทรัพย์สินในโครงการก่อสร้างของเกาหลีใต้ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงตริโปลีวันนี้ (21) ทำให้คนงานชาวเกาหลีใต้และบังกลาเทศบาดเจ็บเกือบ 20 คน กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ เผย

    ผู้ประท้วงชาวลิเบียบุกรุกเขตก่อสร้าง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงตริโปลีไปทางตะวันตกประมาณ 30 กิโลเมตร ทำให้คนงานบังกลาเทศ 15 คน และชาวเกาหลีใต้อีก 3 คนได้รับบาดเจ็บ โดยมี 2 คนที่ถูกแทงอาการสาหัส

    การปะทะกันระหว่างคนงานกับผู้ประท้วงสิ้นสุดลงราว 12.00 น.ตามเวลากรุงโซล เมื่อกลุ่มชาวลิเบียยอมล่าถอยออกจากเขตก่อสร้าง ซึ่งมีคนงานชาวบังกลาเทศอยู่ประมาณ 1,600 คน

    “คอมพิวเตอร์และเครื่องจักรกลหนักบางชิ้นถูกขโมยไป แต่เรายังประเมินมูลค่าความเสียหายไม่ได้ในขณะนี้” แบก จู-ยอน เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้ กล่าว

    การบุกปล้นลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นกับโครงการก่อสร้างของเกาหลีใต้หลายแห่งในลิเบีย ซึ่ง แบก จู-ยอน ระบุว่า “เราไม่ทราบว่าเหตุการณ์นี้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับความไม่สงบภายในลิเบียหรือไม่”

    วันพฤหัสบดี (17) ที่แล้ว ชาวลิเบียราว 200 คน ได้บุกรุกเขตก่อสร้างของเกาหลีใต้ในเมืองดาร์นาห์ บนชายฝั่งตะวันออกของลิเบีย และจุดไฟเผาเรือนนอนของคนงานเกาหลีใต้เมื่อวันศุกร์(18)

    กระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า ตั้งแต่วันเสาร์ (19) ที่ผ่านมา มีสำนักงานของบริษัทเกาหลีใต้ถูกปล้นชิงทรัพย์สินแล้วหลายแห่ง

    บริษัทเกาหลีใต้เข้าไปรับเหมาก่อสร้างอาคารนับร้อยแห่งในลิเบียตั้งแต่ปี 1978 และปัจจุบันมีชาวเกาหลีใต้อาศัยอยู่ในลิเบียประมาณ 1,400 คน

    เมื่อวันที่ 14-15 มกราคม ที่ผ่านมา โครงการก่อสร้าง 4 แห่งของเกาหลีใต้ถูกชาวลิเบียหลายร้อยบุกเข้าทำลายเครื่องจักรกลหนัก ทั้งยังจุดไฟเผายานพาหนะ ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

    กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ขณะนั้นรัฐบาลลิเบียยอมจ่ายค่าชดเชยความเสียหาย ซึ่งเกิดจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งที่กล่าวว่า บ้านที่สร้างโดยบริษัทต่างชาติเป็นทรัพย์สินของชาวลิเบีย ซึ่งชาวลิเบียทุกคนมีสิทธิ์เข้าไปอาศัยอยู่ได้

    Around the World - Manager Online -
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “บัน คี มูน” วอน รบ.ตะวันออกกลาง-แอฟริกาเหนือหยุดใช้กำลังปราบผู้ประท้วง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 14:03 น.



    [​IMG]
    บัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ
    เอเอฟพี - บัน คี มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เรียกร้องให้ประเทศในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง “ยุติการใช้กำลัง และเคารพสิทธิเสรีภาพขึ้นพื้นฐานของประชาชน” ที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาล

    “เลขาธิการสหประชาชาติเรียกร้องอีกครั้ง ให้ทุกประเทศหยุดใช้กำลังกับประชาชน และเคารพเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพวกเขา” โฆษกองค์การสหประชาชาติ แถลงเย็นวานนี้ (20) พร้อมเสริมว่า บันได้หารือสถานการณ์กับผู้นำประเทศในภูมิภาคดังกล่าวแล้ว

    “ท่านขอให้รัฐบาลใช้ความอดกลั้นอย่างถึงที่สุด และยืนยันความเชื่อมั่นว่า นี่คือเวลาแห่งการเจรจาที่เปิดกว้างสำหรับทุกฝ่าย และการปฏิรูปการเมืองและสังคมที่แท้จริง”

    แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังเกิดเสียงปืนดังสนั่นขึ้นกลางกรุงตริโปลีของลิเบีย และพื้นที่ใกล้เคียง เช้าวันนี้ (21) ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการชุมนุมขับไล่ประธานาธิบดี มูอัมมาร์ กัดดาฟี

    ซาอิฟ อัลอิสลาม บุตรชายของ กัดดาฟี กล่าวเตือนวันนี้ (21) ว่า ลิเบียจะต้องเผชิญสงครามกลางเมือง หากกลุ่มผู้ประท้วงปฏิเสธนโยบายปฏิรูปที่รัฐบาลเสนอให้

    ด้านราชวงศ์บาห์เรนซึ่งเป็นมุสลิมซุนนี ก็กำลังถูกกดดันให้เจรจากับฝ่ายค้านชีอะห์ ซึ่งทยอยกันมาตั้งเต็นท์บริเวณจตุรัสเพิร์ลในกรุงมานามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

    โฆษกองค์การสหประชาชาติเปิดเผยว่า บันได้หารือกับกษัตริย์ฮามาด บิน อีซา อัล คอลีฟา แห่งบาห์เรนวานนี้ (20) โดยแสดงความเป็นห่วงและเรียกร้องให้รัฐบาลใช้ความอดทนให้มากที่สุด

    “เลขาธิการสหประชาชาติสนับสนุนการตัดสินใจเริ่มเจรจาของกษัตริย์ฮามาด”

    “ท่านคิดว่าการเจรจาควรมีนัยยะสำคัญและเปิดกว้างกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน, สมาคมพลเรือน หรือกลุ่มสตรีก็ตาม และหากได้รับคำขอ องค์การสหประชาชาติก็ยินดีช่วยสนับสนุนกระบวนการนี้” แถลงการณ์ระบุ

    บันยังมีแผนจะพูดคุยกับผู้นำลิเบีย เกี่ยวกับสิ่งที่โฆษกองค์การสหประชาชาติเรียกว่า “รายงานอันน่าเศร้าสลด” ด้วย

    โฆษกองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า บัน คี มูน สนับสนุนให้ผู้นำแอฟริกาเหนือและตะวันออกลาง “รับฟังความปรารถนาของประชาชน และตอบสนองความต้องการอันชอบธรรมของพวกเขา”

    “ท่านขอให้ทุกฝ่ายมีความอดทนอดกลั้นและงดใช้ความรุนแรง นอกจากนี้ยังขอให้รัฐบาลเคารพเสรีภาพของสื่อมวลชน และไม่ปิดกั้นช่องทางสื่อสารต่างๆ”

    Around the World - Manager Online -
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    4.9 Million Out Of Work And Forgotten ! The Economic Crisis In the U.S. 2011

    <object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/oLHS9Vp87m8?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/oLHS9Vp87m8?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

    uspimpclub | กุมภาพันธ์ 02, 2011 |

    My Face Book : Welcome to Facebook - Log In, Sign Up or Learn More... Yes I have it !

    Other YouTube Channel YouTube - ช่องของ makemesmile200

    When SHDF !Link Below !
    aStore for Amazon Associates...

    My Blog : Hi Everyone thank you for watching my Videos ! This is were I attempt to be creative ,,,,=
    Good luck finding a job
    4.9 Million Out Of Work And Forgotten
    http://www.huffingtonpost.com/2011/02...


    Unemployment Rate Falls To 9% In January, Economy Adds Only 36K Jobs
    http://www.huffingtonpost.com/2011/02...
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    แม้ต่างชาติรุมกดดัน แต่จีนไม่ปฏิรูป “หยวน” เร็ว ๆ นี้แน่นอน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 16:37 น.
    [​IMG]


    โจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีน เยือนพระราชวังเอลิเซ กรุงปารีสในช่วงการเริ่มประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ จี 20 ท่ามกลางบรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติของประเทศต่าง ๆ 18 ก.พ. (ภาพไชน่า เดลี่)


    เอเยนซี - โจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีน เผยในการประชุมทางเศรษฐกิจท่ามกลางบรรดาผู้นำกลุ่มประเทศจี 20 ว่า “แม้จะมีกระแสเรียกร้องให้จีนปฏิรูปเงินหยวนให้เป็นหน่วยเงินตราระดับโลกโดยฉับพลัน แต่จีนยังคงไม่มีนโยบายเช่นนั้น” พร้อมลั่น จีนจะปรับค่าเงินหยวนอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    การสร้าง “หยวน” ให้เป็นหน่วยเงินตราระดับโลกนั้น จะทำให้สกุลเงินของจีนสำแดงบทบาทในธุรกรรมการค้าโลกพร้อมทั้งได้รับการยอมรับในเวทีสากลมากขึ้นด้วย

    โจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน กล่าวว่า “จีนยืนยันว่าจะค่อย ๆ ปรับสกุลเงินหยวนให้เข้าสู่สากล และยังคงยึดนโยบายเดิม ที่ประกาศตั้งแต่ปี 2552 ดังนั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแบบรวดเดียวอย่างแน่นอน”

    โจวให้สัมภาษณ์กับไชน่า เดลี่ ในช่วง 2 วัน การประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ จี 20 ท่ามกลางบรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการแบ้งก์ชาติของหลายประเทศ ณ ประเทศฝรั่งเศส ว่า “การขึ้นค่าเงินหยวนเป็นเรื่องซับซ้อน และพวกเรา (จีน) ยังไม่มีนโยบายใหม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”

    การประชุมกลุ่มจี 20 ครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อหามาตรการแก้ปัญหาความไม่สมดุลทางการค้าและการเงิน โดยแถลงการณ์ของ กลุ่ม จี 20 ระบุการแก้ปัญหาในเรื่องหนี้เอกชนและหนี้สาธารณะ การขาดดุลงบประมาณประจำปี และอัตราการออมส่วนบุคคล ฯ

    คริสติน ลาการ์ด รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของฝรั่งเศส ประธานในการประชุมครั้งนี้ กล่าวว่า ข้อตกลงนี้บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อต้องการให้สามารถแก้ปัญหาและนำไปใช้ได้จริง

    ตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก มหาอำนาจทางเศรษฐกิจทั้งจีนและรัสเซียได้เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ พึ่งพิงเงินดอลลาร์ของสหรัฐฯ ให้น้อยลงทั้งในการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ พร้อมกับเร่งดันสกุลเงินของตัวเองให้เป็นที่ยอมรับสากลมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม ในการประชุม 2 วัน ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องแนวทางการปรับสกุลเงินหยวนสู่สากล แม้ว่าสังคมโลกจะกดดันจีนอย่างหนักก็ตาม

    ลาการ์ด กล่าวว่า การปฏิรูประบบการเงินโลก อยู่ภายใต้อำนาจของเยอรมนี ซึ่งขณะนี้กำลังจัดทีมเพื่อสำรวจพิจารณาประเด็นต่าง ๆ ของจี 20 อยู่

    รายงานจาก เอชเอสบีซี ก็แสดงให้เห็นว่า บรรดาบรรษัทข้ามชาติต่างเต็มใจที่จะใช้เงินหยวนในการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น

    นอกจากต่างชาติกดดันให้จีนขึ้นค่าเงินหยวนแล้ว เศรษฐกิจภายในของจีนเองก็ประสบปัญหาภาวะเงินเฟ้อ หลังจากตัวเลขดัชนีผู้บริโภค ในเดือนม.ค. ปรับขึ้นไปที่ร้อยละ 4.9 จากราคาอาหารที่ปรับตัวสูงขึ้น ล่าสุด ตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ 24 ก.พ.นี้ ธนาคารจีนจะปรับเพิ่มสัดส่วนเงินกองทุนสำรองขึ้นอีกร้อยละ 0.5 เพื่อดูดซับสภาพคล่อง และลดภาวะเงินเฟ้อ นับเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งที่ 2 ของปีนี้ และเป็นครั้งที่ 8 ในรอบหนึ่งปี

    ทั้งนี้ จำนวนสินเชื่อใหม่ของธนาคารจีน ในเดือนมกราคมเพียงเดือนเดียว อยู่ที่ 4.74 ล้านล้านบาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับสูง จึงต้องมีการปรับขึ้นอัตราการกันสำรองอีกร้อยละ 0.5 ซึ่งคาดว่าจะชะลอการปล่อยกู้ได้ และจะมีเงินสำรองไว้ในระบบธนาคารเพิ่มขึ้น โดยทางการกำหนดให้ ธนาคารขนาดใหญ่นั้นต้องกันสำรองไว้ที่ร้อยละ 19.5 และธนาคารขนาดกลางกับขนาดเล็กร้อยละ 16

    China - Manager Online -
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : สถานการณ์โลก

    วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 20:11

    ม็อบเสื้อแดง แมดิสัน...เมื่อประชาชนขอ'กระชับพื้นที่'

    โดย : ปกรณ์ พึ่งเนตร

    [​IMG]

    จะว่าเป็นระลอกคลื่นจากอียิปต์ก็ไม่เชิง การชุมนุมที่แมดิสัน รัฐวิสคอนซินไม่รุนแรงโหดร้าย แต่ก็ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ค สร้างคำขวัญอิงอียิปต์ด้วย

    ขณะที่บ้านเรามีม็อบ“คนเสื้อแดง” นัดชุมนุมปิดถนนกันอยู่เนืองๆ กดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ปล่อยตัวแกนนำกับแนวร่วมคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังในเรือนจำ และรีบยุบสภาจัดการเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว
    ที่สหรัฐอเมริกายามนี้ก็มีการชุมนุมของ“คนเสื้อแดง” เช่นกัน แต่ไม่ใช่แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. ทว่าเป็นม็อบพลเมือง ลูกจ้างของรัฐ ครู อาจารย์ และนักเรียน นิสิต นักศึกษา นับหลายหมื่นคนในเมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน รัฐเล็ก ๆ ในเขตมิดเวสต์ ตอนกลางค่อนไปทางเหนือของสหรัฐอเมริกา
    พวกเขารวมตัวกันประท้วงร่างกฎหมายปฏิรูปงบประมาณที่ผลักดันโดยผู้ว่าการรัฐ คือ นายสก๊อต วอล์คเกอร์ (Scott Walker) ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน วันวาเลนไทน์ ผู้ประท้วงบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ใช้“เสื้อสีแดง” ซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย เป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้!
    จากอียิปต์ ถึง แมดิสัน
    การรวมตัวประท้วงเหมือนโดมิโน จากเหตุจลาจลขับไล่ประธานาธิบดี ฮอสนี บูมารัก แห่งอียิปต์ ทำให้ผู้ชุมนุมบางคนในรัฐวิสคอนซินได้ไอเดียออกแคมเปญ เชิญชวนผู้คนออกมาแสดงพลัง ด้วยข้อความว่า "จากไคโร ถึง แมดิสัน"
    เป้าหมายสำคัญ คือ ต่อต้านกฎหมายปฏิรูปงบประมาณที่มีเนื้อหาตัดสิทธิการร่วมต่อรองของสหภาพแรงงานที่เป็นลูกจ้างของรัฐ ซึ่งจะส่งผลต่อเงินบำนาญและกองทุนประกันสุขภาพในระยะยาว แต่ในทางตรงกันข้ามกลับให้บรรดาลูกจ้างจ่ายเงินสมทบมากขึ้น แม้จะเปิดให้สหภาพยังคงสิทธิการร่วมเจรจาต่อรองได้เฉพาะเรื่องการขึ้นเงินเดือนของลูกจ้างเท่านั้น แต่ก็กำหนดเพดานว่าต้องมีอัตราไม่เกินกว่าดัชนีผู้บริโภคของสหรัฐในแต่ละปี
    ดังนั้น ลูกจ้างของรัฐที่เดือดร้อนจากร่างกฎหมายฉบับนี้ มีทุกสาขาอาชีพ ยกเว้นเพียงพนักงานดับเพลิง ตำรวจ และคนงานในกิจการปิโตรเลียม
    มวลชนครึ่งแสน-ส่อลุกลาม
    การชุมนุมประท้วงเริ่มขยายตัวออกไป มีผู้ชุมนุมมาร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ จากหลักพันเป็นหลักหมื่น และมากถึงกว่า 6 หมื่นคนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยจุดนัดชุมนุมอยู่ที่ศาลาว่าการรัฐ หรือ State Capital ใจกลางเมืองแมดิสัน
    สาเหตุที่ผู้ชุมนุมเพิ่มจำนวนขึ้นไม่หยุด เพราะมีผู้ถูกผลกระทบจำนวนมาก เฉพาะลูกจ้างของรัฐก็นับหมื่นคนแล้ว การตัดสิทธิยังคลุมไปถึงครูโรงเรียนมัธยมของรัฐ อาจารย์ในมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน ซึ่งโด่งดังระดับท็อปเท็นของอเมริกา ที่สำคัญทุกอาชีพล้วนมีสหภาพของตนเอง เช่น ครูก็มี TAA หรือ Teaching Assistants’ Association เป็นศูนย์กลาง เป็นต้น
    คนอเมริกันส่วนใหญ่เห็นว่าอำนาจการร่วมต่อรองของสหภาพคือ “สิทธิขั้นพื้นฐาน” ข้อมูลจากหลายแหล่งระบุตรงกันว่า สิทธิของลูกจ้างของรัฐในเรื่องนี้ได้รับการรับรองมาตั้งแต่ทศวรรษ 1930 แต่ปัจจุบันกำลังจะถูกยกเลิกโดยผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับรีกัน
    ผู้ร่วมชุมนุมหลายคนบอกว่า ไม่ใช่แค่ตัวลูกจ้างของรัฐเท่านั้นที่กระทบ แต่ครอบครัวของคนเหล่านี้อีกจำนวนมากจะต้องพลอยเดือดร้อนไปด้วย บางคนบอกว่านโยบาของ"วอล์คเกอร์"จะกระทบกับการศึกษาของเด็กๆ ในระยะยาว เนื่องจากครูเก่ง ๆ อาจลาออก ไม่เป็นครูของรัฐอีกต่อไป
    แต่ สก๊อต วอล์คเกอร์ ผู้ว่าการรัฐ ยืนกรานจำเป็นต้องจำกัดสิทธินี้ โดยอ้างเหตุผลเพื่อแก้ปัญหางบประมาณขาดแคลนอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในอเมริกา
    ขณะที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า หลายรัฐกำลังจับตามองสถานการณ์ที่วิสคอนซิน เพราะหากสหภาพแรงงานพ่ายแพ้ ก็จะมีการเสนอร่างกฎหมายลักษณะเดียวกันในอีกเกือบสิบรัฐ และปัญหาอาจลุกลามไปทั่วประเทศ
    "โซเชียลเน็ตเวิร์ค" ติดปีกประชาธิปไตย
    การประท้วงอย่างต่อเนื่องที่แมดิสัน ยังความฉงนสนใจแก่ชาวเมืองมากที่สุดตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายคนเล่าให้ฟังว่าเป็นการรวมพลังมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเห็นมา นับตั้งแต่การประท้วงสงครามอ่าวเปอร์เซียเมื่อราว 20 ปีก่อนเลยทีเดียว
    ทุกกิจกรรมในเมืองดูจะหยุดนิ่งเพื่อการนี้ ครูจำนวนมากยื่นใบลาป่วย โรงเรียนหลายสิบแห่งปิดการเรียนการสอน เด็กๆ พากันเดินพาเหรดไปร่วมการชุมนุม และมีจำนวนไม่น้อยประชดด้วยการเปิดห้องเรียนในศาลาว่าการรัฐ
    อย่างไรก็ดี แม้ประเด็นการเรียกร้องจะเป็นเรื่องหนักๆ อย่างการคัดค้านร่างกฎหมาย แต่บรรยากาศการชุมนุมกลับเน้นสีสัน มีการร้องเพลง ตีกลอง มีนักร้องประสานเสียงตามโบสถ์มาเป็นต้นเสียง นักเรียนนักศึกษาที่ไปร่วมม็อบก็พากันร้องเพลงเชียร์ของสถาบัน
    วิธีการของพวกเขาเน้นการแสดงพลัง ประกาศจุดยืนผ่านข้อความประท้วงไม่เห็นด้วยกับร่างกฎหมายและขับไล่ผู้ว่าการรัฐ มีการเล่นคำเท่ ๆ อย่างเช่น “Take a walk Walker” และยึดโยงกระแสจลาจลในอียิปต์นำมาเขียนในป้ายประท้วงด้วย อาทิ Walk Like An Egyptian ส่วนบางป้ายแปลงชื่อ สก๊อต วอล์คเกอร์ เป็น Scott “Hosni” Walker ล้อเลียนว่าเป็นผู้นำเผด็จการไม่ต่างจาก ฮอสนี บูมารัก แห่งอียิปต์เสียเลย
    การชุมนุมเมื่อก่อนเที่ยงวันพุธที่ 16 ก.พ.คึกสุดขีด เมื่อพนักงานดับเพลิงซึ่งไม่ถูกผลกระทบจากกฎหมายฉบับนี้ รวมพลมาเป่าแตรตีกลอง ร่วมประกาศจุดยืนเคียงข้างลูกจ้างของรัฐและสหภาพกลุ่มอื่น ๆ
    วิธีการเผยแพร่ข่าวและนัดชุดนุม ใช้การบอกต่อทางโทรศัพท์ โซเชียลเน็ตเวิร์ค และอินเทอร์เน็ต มีการเปิดเว็บไซต์ www.defendwisconsin.org ที่น่าสนใจคือเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แค่เป็นสื่อกลางนัดชุมนุมหรือด่าทอฝ่ายที่ตนเองประท้วง แต่มีการให้เนื้อหาที่เป็นข้อมูลสาระอย่างเป็นกลาง
    แน่นอนว่าเรื่องใหญ่ในหน้าแรกของเว็บเพจ คือ การแสดงพลังและความเห็นของพลเมืองวิสคอนซิน สหภาพแรงงาน และคนงานที่ได้รับผลกระทบ แต่เมื่อคลิกดูต่อ ๆ ไปก็จะพบบทสัมภาษณ์ของ สก๊อต วอลค์เกอร์ แบบเต็มๆ ด้วยเช่นกัน ซ้ำยังมีหน้าต่างให้คลิกหาข้อมูลกฎหมาย รายละเอียดกฎหมายที่ผู้ว่าการรัฐเสนอ มีบทสังเคราะห์สรุปประเด็นสั้นๆ ให้เข้าใจและเข้าถึงได้ง่ายๆ เอาใจวัยโจ๋และผู้คนในยุคไซเบอร์ที่ชอบอ่านอะไรสำเร็จรูปในระยะเวลาอันสั้น
    เมื่อประชาชนขอ "กระชับพื้นที่"
    การชุมนุมที่แมดิสันแม้จะยืดเยื้อ แต่ไม่รุนแรง ฝ่ายรัฐเองก็ไม่ได้ระดมกำลังตำรวจมา “กระชับพื้นที่” มีแต่คลื่นมหาชนที่ฮือเข้าไปในอาคารศาลาว่าการรัฐ สถานที่ทำงานของ สก๊อต วอล์คเกอร์ ประหนึ่งว่าประชาชนเป็นฝ่าย "กระชับพื้นที่" เสียเอง
    ส่วนตำรวจก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะถือว่าศาลาว่าการรัฐเป็นของประชาชน ในขณะเดียวกันฝูงชนจำนวนมากที่เข้าไปเรียกร้องแสดงจุดยืน ก็ไม่ทำลายข้าวของหรือสร้างความเสียหายใดๆ กับทรัพย์สินสาธารณะ ส่วน "วอล์คเกอร์" และผู้แทนสายรีพับรีกัน ก็หลบลี้หนีหน้าไปตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
    เท่าที่สังเกตดู การชุมนุมตลอดทั้งวันไม่ได้ใช้เครื่องขยายเสียง ยกเว้นโทรโข่งอันย่อมๆ เมื่อลองเลียบเคียงถามคนที่มาชุมนุม ก็ทราบว่าการจะใช้เครื่องขยายเสียงต้องขออนุญาตเจ้าหน้าที่ก่อน การชุมนุมที่นี่จึงไม่มีเวทีเคลื่อนที่ปราศรัยกันหูดับตับไหม้แบบประเทศไทย...
    เป็นการชุมนุมที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายประชาธิปไตย และเคารพสิทธิเสรีภาพซึ่งกันและกัน!

     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเงิน - การลงทุน

    วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 09:09

    เตือน4ปัจจัยเสี่ยงเร่งเงินเฟ้อพุ่งฉุดจีดีพี

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    บัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

    "บัณฑิต นิจถาวร" ยอมรับแรงกดดันเงินเฟ้อถือเป็นโจทย์สำคัญของนโยบายการเงินปีนี้ เตือน 4 ปัจจัยเสี่ยงเร่งเงินเฟ้อปรับขึ้น

    นายบัณฑิต นิจถาวร อดีตรองผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า แรงกดดันด้านเงินเฟ้อถือเป็นโจทย์สำคัญ และเป็นความท้าทายของการดำเนินนโยบายการเงินในปีนี้ เพื่อคุมให้เงินเฟ้ออยู่ในกรอบเป้าหมายที่กำหนดไว้ เพราะหากเงินเฟ้อยังปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ก็อาจส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจไทยได้ ดังนั้น อัตราดอกเบี้ยนโยบายจึงควรต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม เพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ และควรต้องทำล่วงหน้า
    สำหรับการปรับขึ้นของเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมา เป็นผลจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ ปัจจัยที่ 1 การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งทำให้ความต้องการสินค้าบริการมีมากขึ้น ปัจจัยที่ 2 ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้นตามความต้องการจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในส่วนของราคาน้ำมันที่ปัจจุบันปรับขึ้นมาแล้วกว่า 8.5% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา
    ส่วนปัจจัยที่ 3 คือ สภาพคล่องที่มีอยู่มากในระบบเศรษฐกิจโลก ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เร่งตัวขึ้น และปัจจัยที่ 4 คือ ราคาอาหารที่ปรับตัวขึ้นอันเป็นผลจากภัยธรรมชาติ โดยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ดัชนีราคาอาหารในตลาดโลกปรับขึ้นมาแล้วประมาณ 9.5% ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้เงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น
    "ทั้ง 4 เครื่องยนต์ที่ทำงานอยู่ ล้วนแต่สร้างแรงกดดันให้ราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้น และ 3 ใน 4 ของปัจจัยเหล่านี้ เป็นปัจจัยภายนอก ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของเรา ดังนั้น หากไม่มีวิธีลดแรงกดดันในเรื่องเหล่านี้ ปัญหาเงินเฟ้อย่อมตามมา ดังนั้น นโยบายการเงินในปีนี้ จึงต้องให้ความสำคัญกับเงินเฟ้อเป็นพิเศษ" นายบัณฑิตกล่าว
    เขากล่าวด้วยว่า ถ้าดูเงินเฟ้อจากดัชนีราคาผู้บริโภคของเดือน ม.ค. 2554 จะเห็นว่าเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3% เทียบกับเงินเฟ้อในส่วนของดัชนีผู้ผลิต ณ เดือนเดียวกันที่อยู่ประมาณ 6% หรือสูงเกือบ 2 เท่าของดัชนีราคาผู้บริโภค ทำให้ภาครัฐต้องเข้าไปมาดูแลเรื่องราคา แต่การดูแลดังกล่าวคงทำได้เพียงระยะสั้น เพราะต้องอาศัยทรัพยากรทางการเงิน ซึ่งทรัพยากรทางการเงินก็มีข้อจำกัด ดังนั้น หากราคาสินค้าในตลาดโลกยังปรับขึ้นต่อเนื่อง การอุดหนุนก็คงต้องหยุดลง และทำให้ราคาสินค้าเหล่านี้อาจปรับตัวขึ้นแรงได้ ซึ่งก็ส่งผลต่อเงินเฟ้อในท้ายที่สุด
    "อาหารถือเป็น 1 ใน 3 ของการบริโภคของผู้มีรายได้น้อย การที่ราคาเหล่านี้ปรับเพิ่มขึ้นก็อาจกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ ซึ่งปัจจุบันคนมีรายได้น้อยประมาณ 9-10 ล้านคนในประเทศ ถูกกระทบโดยตรงจากราคาอาหารที่สูงขึ้น ดังนั้น การดูแลต้องไม่ใช่การเข้าอุดหนุนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีเป้าหมายชัดเจนในการช่วยเหลือ เช่น การลดค่าครองชีพของคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง" นายบัณฑิตกล่าว
    นายบัณฑิต กล่าวว่า เชื่อว่านโยบายการเงินของ ธปท. จะเน้นในเรื่องของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมโดยเร็ว และเชื่อว่าการขึ้นดอกเบี้ยจะไม่ส่งผลต่อการไหลเข้าของทุนต่างประเทศ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยไม่ใช่ปัจจัยหลักในการดึงดูดเงินทุน
    ส่วนความเสี่ยงจากเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น เขากล่าวว่า ปีนี้ถือเป็นปีที่แตกต่างจากรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดเดาเรื่องการไหลเข้าออกของเงินทุนค่อนข้างยาก เพราะขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอุตสาหกรรมหลัก รวมไปถึงความชัดเจนในด้านนโยบายและสถานการณ์ในประเทศของไทยเอง
    นายบัณฑิต ยังกล่าวด้วยว่า ถ้าดูในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จะเห็นว่าเงินทุนเริ่มไหลออกไปบ้าง ซึ่งก็เป็นผลจากการที่นักลงทุนประเมินว่าเศรษฐกิจเอเชียเติบโตน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ทั้งยังมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาก็เริ่มดูดี ทำให้มีเงินทุนบางส่วนไหลกลับไปบ้าง
    สำหรับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เชื่อว่ายังเป็นไปตามที่ ธปท. ได้ประเมินว่าน่าจะเติบโตได้ในระดับ 3-5% โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายในประเทศ และการส่งออกเป็นสำคัญ
    ส่วนสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันนั้น เริ่มฟื้นตัวขึ้นบ้าง เพียงแต่การฟื้นตัวขณะนี้ไม่มีความสมดุล จึงนำไปสู่ความแตกต่างในทิศทางด้านนโยบายการเงินและอัตราเงินเฟ้อระหว่างประเทศอุตสาหกรรมและตลาดเกิดใหม่ จนนำไปสู่ปัญหาเงินทุนเคลื่อนย้ายที่เกิดขึ้น
    นอกจากนี้ ยังมีช่องว่างระหว่างสิ่งที่ทำในระยะสั้น เพื่อฟื้นเศรษฐกิจ และปัญหาโครงสร้างที่ยังไม่ได้แก้ไข คือ ปัญหาหนี้สาธารณะและระบบสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมหลัก ขณะที่การประสานนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระหว่างประเทศทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้ไม่มีผู้นำตัวจริงในการแก้ไขปัญหา

     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 18:34

    เวียดนามขึ้นค่าไฟรวดเดียว15%

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    เวียดนามขึ้นค่าไฟฟ้า ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าจะส่งผลกระทบรุนแรงต่อภาวะเงินเฟ้อ

    เวียดนามเตรียมปรับขึ้นค่าไฟ 15% เดือนหน้า โดยหนังสือพิมพ์เดอะ เลเบอร์ รายงานอ้างคำกล่าวของนายฮวง คว็อค วง รัฐมนตรีช่วยการค้าและอุตสาหกรรม ว่า นายกรัฐมนตรีเหงียน ตัน ดุ่ง ได้อนุมัติการปรับขึ้นค่าไฟ โดยให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม โดยเพิ่มจาก 1,077 ด่อง ต่อกิโลวัตต์ เป็น 1,242 ด่องต่อกิโลวัตต์
    นักเศรษฐศาสตร์ มองว่า การปรับขึ้นค่าไฟครั้งนี้ ถือว่ามากที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน และจะสร้างความยุ่งยากให้รัฐบาลในการรับมือกับภาวะเงินเฟ้อ ที่ขึ้นไปอยู่ที่ 12% และยังจะซ้ำเติมการลดค่าเงินด่องก่อนหน้านี้

     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 20:19
    ผู้ประท้วงลิเบียบุกสถานีโทรทัศน์-เผาสถานีตร.

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ทริโปลี - ผู้ประท้วงลิเบียบุกสถานีโทรทัศน์ พร้อมเผาสถานีตำรวจ ขณะลูกชายประกาศ "กัดดาฟี" จะสู้จนตาย หวังรักษาอำนาจ

    ไม่ถึง 1 สัปดาห์หลังจากผู้นำอียิปต์ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านลิเบีย ถูกบีบให้ลงจากตำแหน่ง โมอามาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ก็เผชิญกระแสประท้วง ล่าสุดผู้ประท้วงบุกเข้าปล้นสะดมภ์สถานีโทรทัศน์อัล-จามาฮิริยา ทู และสถานีวิทยุอัล-ชาบาเบีย ในกรุงทริโปลี จนต้องระงับการออกอากาศเมื่อเย็นวันอาทิตย์ และเริ่มออกอากาศอีกครั้งวันจันทร์

    นอกจากนั้น ผู้ประท้วงยังจุดไฟเผาอาคารรัฐบาลแห่งอื่นในกรุงทริโปลีเมื่อคืนวันอาทิตย์ รวมถึงสถานีตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการประชาชน และศูนย์ประชุมประชาชน
    นายซาอิฟ อัล-อิสลาม บุตรชายของกัดดาฟี ประนามการประท้วงว่าเป็นแผนการของต่างชาติ พร้อมระบุว่าลิเบียกำลังอยู่ที่ทางแยก หากไม่เห็นพ้องในการปฏิรูปวันนี้ เลือดจะหลั่งไหลเป็นสายน้ำทั่วประเทศ
    "เราจะหยิบอาวุธ เราจะสู้จนกระสุนนัดสุดท้าย เราจะทำลายผู้ปลุกระดม หากทุกคนมีอาวุธ ก็ถือเป็นสงครามกลางเมือง เราจะเข่นฆ่ากัน ลิเบียไม่ใช่อียิปต์ ไม่ใช่ตูนิเซีย" อัล-อิสลามประกาศ
    กลุ่มฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตมีอย่างน้อย 233 ราย นับจากวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
    ชาวต่างชาติพากันหนีเหตุวุ่นวาย โดยสเตทออยล์ ยักษ์ใหญ่พลังงานนอร์เวย์ เริ่มอพยพพนักงานต่างชาติออกนอกประเทศ ส่วนบีพี กลุ่มพลังงานอังกฤษ ก็กำลังเตรียมอพยพพนักงานจากลิเบีย
    ราคาน้ำมันเบรนต์ทะเลเหนือส่งมอบเดือนเม.ย. ในตลาดลอนดอน ทะยานเหนือ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในการซื้อขายช่วงแรกของวันจันทร์ นับเป็นการแตะระดับสูงสุดรอบ 2 ปีครั้งใหม่ ก่อนลดลงมาอยู่ที่ 104.53 ดอลลาร์ ผลจากความรุนแรงในลิเบียทำให้เกิดความวิตกว่าความวุ่นวายจะลุกลามไปยังประเทศอื่นที่ผลิตน้ำมัน

     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “กัดดาฟี” โผล่ออกสื่อ-ปฏิเสธไม่ได้หนีออกนอกประเทศ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 กุมภาพันธ์ 2554 12:08 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=511 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียวัย 68 ปี ปรากฎตัวผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นครั้งแรกวานนี้(21) เพื่อยืนยันว่าตนไม่ได้หลบหนีไปเวเนซุเอลาตามที่มีข่าวลือ (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ปรากฎตัวผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นครั้งแรกในช่วงเย็นวานนี้(21) เพื่อยืนยันว่า ตนไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศตามที่เป็นข่าว

    กัดดาฟี ออกมาให้สัมภาษณ์สั้นๆผ่านสื่อโทรทัศน์เป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดการประท้วงขึ้นเมื่อวันอังคาร(15) เพื่อสยบ “ข่าวลืออันชั่วร้าย” ที่ว่า เขาได้หนีไปเวเนซุเอลาแล้ว

    “ผมจะออกไปพบกับกลุ่มเยาวชนที่จตุรัสกรีน” กัดดาฟี ให้สัมภาษณ์ขณะยืนอยู่หน้าบ้านพัก โดยมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ

    “เพื่อพิสูจน์ให้พวกเขาเห็นว่า ผมยังอยู่ในตริโปลี ไม่ได้หนีไปเวเนซุเอลา และเพื่อแก้ข่าวลือที่สื่อโทรทัศน์เอาไปรายงานกัน เจ้าพวกสุนัขพวกนั้น” กัดดาฟี กล่าวขณะกำลังก้าวขึ้นรถยนต์ โดยมีผู้กางร่มบังสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในกรุงตริโปลี วานนี้(21)

    แม้ กัดดาฟี จะปรากฎตัวผ่านสื่อราว 22 วินาทีเพื่อยืนยันความเข้มแข็งของตน แต่อำนาจของผู้นำลิเบียดูจะอ่อนแอลงทุกขณะ เห็นได้จากอดีตผู้ภักดีบางคนที่ลาออกจากตำแหน่ง และทหารควบคุมเครื่องบินรบซึ่งพากันหลบหนีเมื่อถูกสั่งให้ยิงใส่ประชาชน

    ทหารอากาศยศพันเอก 2 นาย ตัดสินใจนำเครื่องบินรบรุ่น มิราจ เอฟวัน บินหนีไปมอลตา โดยระบุว่า พวกเขาหลบหนีเพราะถูกสั่งให้โจมตีผู้ประท้วงในเมืองเบนกาซี แหล่งข่าวในกองทัพมอลตาเผย

    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม มุสตาฟา อับเดลญาลีล ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เพราะไม่เห็นด้วยกับการใช้ความรุนแรงเกินเหตุปราบปรามผู้ประท้วง

    ที่กรุงไคโร ผู้แทนสันนิบาตอาหรับของลิเบียก็ขอลาออกเพื่อร่วมต่อต้านรัฐบาลกับประชาชน ส่วนทูตลิเบียประจำกรุงนิวเดลีและปักกิ่ง ก็ลาออกจากตำแหน่งแล้วเช่นกัน สำนักข่าว อัลจาซีรา รายงาน

    Around the World - Manager Online -
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ตูนิเซียจี้ซาอุฯ เนรเทศเมีย “เบน อาลี” - จ่อยุบพรรคอดีตผู้นำ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 กุมภาพันธ์ 2554 10:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=575 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพถ่ายในอดีต ขณะที่ประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี และภริยา เป็นประธานในพิธีสวนสนามเนื่องในวันครบรอบ 50 ปีที่ตูนีเซียได้รับเอกราช เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ปี 2006 (แฟ้มภาพ)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเอฟพี - ตูนิเซียส่งสารเรียกร้องอย่างเป็นทางการไปยังซาอุดีอาระเบียวานนี้ (21) เพื่อให้เนรเทศภรรยาของอดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี และดำเนินขั้นตอนเพื่อยุบพรรคของอดีตผู้นำ หลังจากที่ประชาชนยังคงประท้วงขับไล่รัฐบาลชั่วคราว

    สำนักข่าวทีเอพี นิวส์ ของตูนิเซียรายงานว่า “ทางการตูนีเซียได้ร้องขอต่อซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ให้ขับไล่นาง เลย์ลา ทราเบลซี ภรรยาของอดีตประธานาธิบดี”

    ก่อนหน้านี้ตูนีเซียก็ได้เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียเนรเทศ เบน อาลี วัย 74 ปี ออกจากประเทศ เนื่องจาก “มีส่วนพัวพันอับคดีอาชญากรรมร้ายแรง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อกระทำการและยั่วยุให้เกิดการฆาตกรรม และสร้างความแตกแยกในหมู่ชาวตูนิเซีย”

    เบน อาลี และครอบครัวหลบหนีไปยังซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 14 มกราคม หลังจากประชาชนตูนิเซียลุกฮือขึ้นโค่นล้มรัฐบาล รายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า เขากำลังป่วยด้วยโรคหลอดเลือดสมองและอยู่ในขั้น “โคม่า” ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองเจดดาห์

    สหภาพยุโรปได้อายัดทรัพย์สินของสมาชิกพรรค เบน อาลี 46 คน เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

    ทราเบลซี ซึ่งเป็นอดีตช่างทำผม ถูกกล่าวหาว่าโกงบ้านกินเมืองด้วยการคอร์รัปชันอย่างกว้างขวาง, แต่งตั้งสมาชิกในครอบครัวให้คุมตำแหน่งสำคัญในรัฐบาล และเข้าควบคุมธุรกิจสำคัญที่ให้ผลกำไรงาม

    ฟาร์ฮัต ราจฮี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยตูนิเซีย ระบุว่า ตนได้ร้องขอให้มีการยุบพรรค คอนสติทิวชัน เดโมแครติก แรลลี (อาร์ซีดี) ของเบน อาลี หลังจากสั่งระงับกิจกรรมทุกอย่างและปิดที่ทำการพรรคไปแล้ว 2 สัปดาห์

    วานนี้ (21) กลุ่มผู้ประท้วงราว 1,000 คนซึ่งส่วนมากเป็นนักศึกษา ออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลที่กรุงตูนิสต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 และเรียกนักการเมืองในรัฐบาลชั่วคราวว่าเป็นพวก “หน้าไหว้หลังหลอก”

    “เราต้องการล้มรัฐบาลชั่วคราว เพราะ กานนูชี กับพวกไม่ได้ต้องการครองอำนาจในระยะเชื่อมต่อเท่านั้น” อาลี อัมดูนี แกนนำนักศึกษาคนหนึ่ง กล่าว

    กานนูชี เคยเป็นนายกรัฐมนตรีภายใต้ระบอบ เบน อาลี มาตั้งแต่ปี 1999

    Around the World - Manager Online -
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เลขาฯ ยูเอ็นนัดถกคณะมนตรีความมั่นคงหาทางแก้วิกฤตในลิเบีย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 กุมภาพันธ์ 2554 10:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    การชุมนุมประท้วงในลิเบีย ซึ่งเจ้าหน้าที่ใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรง

    เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นจะนัดประชุมกันในวันนี้ (22) เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตความรุนแรงในลิเบีย โดยบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติเผยว่าได้พูดคุยกับประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี และเรียกร้องให้ใช้ความอดทนอดกลั้นแล้ว

    “ผมกระตุ้นเขาว่า สิทธิและเสรีภาพของการชุมนุม และเสรีภาพของการแสดงออกต้องได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่” บันกล่าวผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำซึ่งปกครองลิเบียมานานถึง 41 ปี

    “ผมเร่งเร้าเขาอย่างเฉียบขาดให้หยุดใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมประท้วง และผมก็เน้นย้ำอย่างหนักแน่นอีกครั้งถึงความสำคัญของการเคารพในสิทธิมนุษยชนของเหล่าผู้ชุมนุมด้วย” เขากล่าว

    เลขาธิการยูเอ็นย้ำว่า ความปรารถนา และความกังวลของประชาชนควรได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ควรรับฟังปัญหาเหล่านั้นเช่นกัน

    บันกล่าวกับผู้สื่อข่าวกลุ่มเล็กๆ ในนครลอสแองเจลิส ไม่นานหลังจากออกแถลงแสดงความไม่พอใจอย่างยิ่งที่กองกำลังรักษาความมั่นคงของลิเบียใช้ทั้งเครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์ยิงโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง

    ด้าน มาร์ติน เนซีร์กี โฆษกยูเอ็นกล่าวว่า “การโจมตีพลเรือนเช่นนั้น หากได้รับการยืนยัน จะถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยชนสากลอย่างร้ายแรง และจะถูกเลขาธิการประณามด้วยขอบเขตที่รุนแรงที่สุด”

    บันยังได้เรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงอีกครั้งในแถลงการณ์ดังกล่าว ซึ่งเขาระบุว่ากำลังจับตาดูวิกฤตในลิเบียอยู่อย่างใกล้ชิดด้วย
    Around the World - Manager Online -
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 12:20
    'ประสาร'ห่วงลิเบียเดือด!ดันราคาน้ำมันพุ่ง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

    ผู้ว่าการธปท.ห่วงผลกระทบทางอ้อมเหตุการณ์ชุมนุมประท้วงในลิเบียเดือด! ดันราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งกระฉูด สะเทือนเศรษฐกิจโลก
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1298356442&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Ffinance%2Ffinance%2F20110222%2F378396%2F%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94!%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%87.html&dt=1298356442076&shv=r20101117&jsv=r20110208&saldr=1&correlator=1298356442092&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=2038098380.1238053350&ga_sid=1298355960&ga_hid=1834704834&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=6&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1007&bih=603&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2F&fu=0&ifi=1&dtd=31"></SCRIPT>นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในลิเบีย เชื่อ่าจะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงกับเศรษฐกิจไทย เพราะอยู่ห่างไกลกันมาก ขณะที่การค้าขายระหว่างกันถือว่ามีสัดส่วนน้อยทมาก อย่างไรก็ตาม สิ่งที่กังวลในขณะนี้คือผลกระทบทางอ้อม เพราะลิเบียอยู่ใกล้แหล่งผลิตน้ำมัน หากเกิดความรุนแรงขึ้น เชื่อว่าอาจทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูง และกระทบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
    ส่วนสถานการณ์เงินทุนเคลื่อนย้ายขณะนี้ ถือว่ายังคงเป็นปกติ และที่ผ่านมาธปท.เข้าไปดูแลไม่มากนัก

    '
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทูตลิเบียทั่วโลก “เอือม” กัดดาฟี-แห่ “ลาออก” ร่วมกดดันรัฐบาล

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 กุมภาพันธ์ 2554 15:53 น.

    [​IMG]

    พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ประธานาธิบดีลิเบียผู้ลุแก่อำนาจ

    เอเอฟพี - สถานเอกอัครราชทูตลิเบีย ประจำออสเตรเลีย เตรียมตัดหางปล่อยวัด มูอัมมาร์ กัดดาฟี ตามกระแสสละตำแหน่งของนักการทูตระดับสูงของลิเบียทั่วโลก เพื่อกดดันผู้นำจอมเผด็จการ หลังเหตุสลายการชุมนุมอันนองเลือด สื่อท้องถิ่นรายงานวันนี้ (22) ขณะเดียวกัน โปรตุเกสเริ่มอพยพประชาชนออกจากลิเบียแล้ว

    หนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียน เสนอรายงานข่าวว่า มุสบาห์ อัลลาฟี เอกอัครราชทูตลิเบียประจำกรุงแคนเบอร์รา ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลออสเตรเลีย เมื่อช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม นักข่าวยังไม่สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตลิเบียได้ ทว่า โอมรัน ซเวด กงสุลด้านวัฒนธรรมประจำสถานทูตลิเบีย ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า “เราเป็นตัวแทนประชาชนลิเบีย จะไม่มีระบอบเผด็จการอีกต่อไป”

    นอกจากนี้ เอกอัครราชทูติลิเลียประจำอินเดีย ได้แจ้งกับเอเอฟพีวันนี้ เช่นกัน โดยระบุว่า เขาขอสละตำแหน่ง เนื่องจากรับไม่ได้กับการใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน ขณะที่เจ้าหน้าที่สถานทูตลิเบียในมาเลเซีย ก็ออกมาประณาม “การสังหารหมู่” กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาล

    วานนี้ (21) เหล่านักการทูตลิเบียในสหรัฐฯ ก็ได้วิพากษ์ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ว่าเป็น “ทรราชจอมเผด็จการ” และกล่าวหาประธานาธิบดีผู้ลุแก่อำนาจผู้นี้ ว่า กระทำ “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ส่วนเมื่อวันอาทิตย์ (20) ผู้แทนถาวรของลิเบียประจำสันนิบาตอาหรับ อับเดล โมเนอิม อัล-โฮนี ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน เพื่อ “ร่วมดันกงล้อปฏิวัติ” ซึ่งขจรขจายในประเทศของเขาอยู่ในขณะนี้

    ด้านออสเตรเลียได้ยกระดับการเตือนภัยขึ้นเป็น “ห้ามเดินทาง” ซึ่งเป็นการเตือนขั้นสูงสุด และมีการเตรียมอพยพชาวออสเตรเลียประมาณ 80 คน ในลิเบีย หลังมีรายงานว่า ทางการลิเบียสั่งการเครื่องบินรบกราดยิงเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วง ส่วน นิวซีแลนด์ ซึ่งมีพลเรือนติดค้างอยู่ในลิเบียประมาณ 25 คน ก็ได้ยกระดับการเตือนภัยขึ้นเป็นระดับ “ความเสี่ยงสูงสุด”

    อนึ่ง โปรตุเกสกลายเป็นประเทศแรกๆ ที่เริ่มอพยพพลเรือนออกจากลิเบีย โดยส่งเครื่องบินทหารไปรับผู้คนจำนวน 114 คน จากกรุงตริโปลีไปยังฐานทัพนาโต ในอิตาลี คืนที่ผ่านมา สำนักข่าวลูซารายงานวันนี้

    เครื่องบินลำเลียง ซี-130 ของกองทัพโปรตุเกส เดินทางถึงกรุงตริโปลีวานนี้ (21) และได้อพยพชาวโปรตุเกสจำนวน 80 คน รวมทั้งชาวต่างชาติอีก 34 คนออกจากลิเบีย

    รุย อเลโซ เอกอัครราชทูตโปรตุเกสประจำลิเบีย กล่าวว่า ผู้อพยพทั้งหมดเป็นพนักงานของบริษัทสัญชาติโปรตุเกส และเจ้าหน้าที่ขององค์การสหประชาชาติ สำนักข่าวลูซารายงานเพิ่มเติมว่า เครื่องบินลำเลียงลำนี้จะกลับไปยังลิเบียอีกครั้ง เพื่อรอรับการอพยพเพิ่มเติม

    [​IMG]
    เครื่องบินลำเลียง ซี-130 ของกองทัพโปรตุเกส

    Around the World - Manager Online -
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    'กัดดาฟี'ส่งรถถัง-ฝูงบินบอมบ์ปชช. หลังผู้ประท้วงลุกฮือยึดหลายเมือง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 กุมภาพันธ์ 2554 21:00 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ภาพการปรากฏตัวของมูอัมมาร์ กัดดาฟี วันนี้ (22)

    เอเอฟพี / เอเจนซี - ประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย สั่งการให้รถถัง, เฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินรบออกบดขยี้กลุ่มผู้ประท้วงโค่นล้มระบอบวันนี้ (22) หนึ่งวันหลังจากที่เขาปรากฏตัวผ่านสื่อโทรทัศน์เพื่อบ่งบอกว่าเขายังคงอยู่ในอำนาจ ท่ามกลางเสียงประณามจากนานาชาติจากความทารุณของรัฐบาล ขณะที่รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ผู้ภักดีกัดดาฟีหลายคนได้ลาออกจากตำแหน่งหลังไม่พอใจพฤติการณ์ปราบปรามโหด นับเป็นการสั่นคลอนระบอบปกครองของกัดดาฟีที่หยั่งรากลึกมานานกว่า 4 ทศวรรษครั้งรุนแรงที่สุด ทางด้านสถานการณ์ในบาห์เรน ประมุขของประเทศได้พระราชทานอภัยโทษและรับสั่งให้ปล่อยตัวนักโทษการเมืองนิกายชีอะห์ เพื่อเอาใจกลุ่มฝ่ายค้านหวังให้ยอมนั่งลงเจรจากับรัฐบาล

    โทรทัศน์อัลญะซีเราะห์รายงานวันนี้ (22) ว่า กัดดาฟีได้ส่งเครื่องบินรบหลายลำโฉบทิ้งบอมบ์พื้นที่บางส่วนของกรุงตริโปลี เพื่อปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างหนักหน่วง อีกทั้งยังส่งทหารรับจ้างวิ่งไล่ยิงใส่พลเรือน ขณะที่ชาวบ้านใน 2 ตำบลในกรุงตริโปลี ระบุผ่านทางโทรศัพท์ว่า มีการ “สังหารหมู่” โดยเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งใช้อาวุธปืนยิงอย่างไม่เลือกหน้าในตำบลตอจูรา ส่วนอีกรายหนึ่งที่ตำบลฟาซะห์ลุม เล่าเหตุการณ์ว่า มีเฮลิคอปเตอร์หลายลำบินลงจอด จากนั้นพวกทหารรับจ้างชาวแอฟริกันก็เปิดฉากกราดยิงผู้ใดก็ตามบนท้องถนน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

    ที่เมืองอัลไบดา ชาวบ้านที่ชื่อมาราย อัล มะห์รี บอกกับรอยเตอร์ว่า มีประชาชน 26 คนซึ่งรวมพี่ชายของเขา อาห์เหม็ด ถูกยิงเสียชีวิตโดยฝีมือของสมุนกัดดาฟีในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา นอกจากนี้เขายังระบุด้วยว่า กลุ่มผู้ประท้วงถูกโจมตีโดยขบวนรถถังและฝูงเครื่องบินอีกด้วย

    ด้านนักการทูตลิเบียประจำองค์การสหประชาชาติต่างออกมาประณามและเรียกร้องให้กัดดาฟีก้าวลงจากอำนาจ โดยรองเอกอัครราชทูต อิบรอฮิม ดับบาชี กล่าวว่า กัดดาฟีได้ประกาศสงครามกับประชาชนลิเบีย และกำลัง “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”

    นอกจากนี้นักการทูตลิเบียในหลายประเทศก็ได้ทยอยกันประกาศลาออกเพื่อเป็นการประท้วงรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยคณะทูตานุทูตประจำประเทศจีน, อินเดีย, ออสเตรเลีย และมาเลเซีย เป็นต้น

    “เมื่อวานนี้ พวกเขาเริ่มใช้เครื่องบินทิ้งบอมบ์ใส่พลเรือนที่กำลังประท้วงอย่างสงบ นี่เป็นสิ่งที่รับไม่ได้” อาลี อัล-เอสซาวี นักการทูตลิเบียประจำกรุงนิวเดลี กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี

    อย่างไรก็ตาม หลังข่าวการสังหารหมู่แพร่สะพัดออกมา สถานีโทรทัศน์ทางการ อัล-ญามะฮีริยะห์ ของลิเบียก็ได้ออกมาปฏิเสธโดยระบุว่าเป็นข้อมูลเท็จ

    “พวกเขาบอกว่ามีการสังหารหมู่เกิดขึ้นในหลายนคร เขตเทศบาลเมือง และประเทศเพื่อนบ้านของลิเบีย เราจำเป็นต้องออกมาสยบข่าวลือเหล่านี้ว่าเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ ซึ่งทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของสงครามจิตวิทยา” สื่อทางการระบุ

    ทั้งนี้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากการถูกกองกำลังรักษาความมั่นคงลิเบียสังหารอยู่ที่ระหว่าง 200 ถึง 400 ราย ส่วนสถานการณ์ความโกลาหลโดยภาคประชาชนซึ่งเวลานี้โหมกระพือในหลายเมือง ก็มีรายงานว่า ที่เมืองเบงกาซี เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ เวลานี้ได้อยู่ในการควบคุมของกลุ่มผู้ประท้วงแล้ว

    ทางด้านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เตรียมนำประเด็นความไม่สงบในลิเบียเข้าสู่ที่ประชุมในเช้าวันอังคาร (22) ตามเวลาในนิวยอร์ก ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับที่องค์การสันนิบาตชาติอาหรับก็มีกำหนดการจะเปิดประชุมวิสามัญว่าด้วยวิกฤตการเมืองลิเบียในช่วงเย็นวันอังคาร (22) เวลา 17.00 น. (22.00 น. ตามเวลาเมืองไทย)

    ก่อนหน้านี้กัดดาฟี ได้ออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณชนผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (21) และแสดงความเห็นต่อสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดการลุกฮือขึ้นเมื่อวันอังคาร (15) ที่แล้ว ซึ่งก็เป็นการสยบข่าวลือแพร่สะพัดที่ระบุว่า ผู้นำลิเบียได้บินหลบหนีไปยังประเทศเวเนซุเอลาแล้ว และเป็นการบ่งบอกเป็นนัยว่าเขายังอยู่ในอำนาจ

    “ผมจะเข้าพูดคุยกับเหล่าเยาวชนผู้ประท้วงในจัตุรัสกรีน” กัดดาฟี กล่าวผ่านโทรทัศน์ทางการซึ่งระบุเป็นภาพสัญญาณสดที่ถ่ายทอดมาจากบริเวณนอกที่พำนักของเขา ในย่านดาวน์ทาวน์ กรุงตริโปลี

    “นี่เป็นแค่การจะพิสูจน์ความจริงว่าผมยังอยู่ที่กรุงตริโปลี ไม่ได้อยู่ในเวเนซุเอลา และก็เพื่อปฏิเสธรายงานข่าวต่างๆ ของโทรทัศน์ก่อนหน้านี้” เขากล่าวขณะยืนกางร่มก่อนจะก้าวเข้าไปในรถยนต์ของเขา ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาโปรยปรายในช่วงหัวค่ำวันจันทร์ (21)

    อย่างไรก็ตาม แม้กัดดาฟีจะออกมาปรากฏตัวเพื่อบอกว่าเขายังอยู่ในอำนาจ ทว่าก็ไม่อาจลบเลือนความจริงที่ว่าระบอบของเขากำลังสั่นคลอนลงเรื่อยๆ และสูญเสียอำนาจบังคับบัญชามากขึ้นทุกขณะ เมื่อบรรดาผู้ภักดีต่อกัดดาฟีหลายคนเริ่มทยอยลาออกจากตำแหน่ง โดยหนึ่งในนั้นก็คือ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม มุสตาฟา อับเดลจัลอิล ซึ่งมีรายงานว่าเขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อคัดค้านการที่รัฐบาลส่งกำลังเข้าปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงอย่างรุนแรงเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้แหล่งข่าวกลาโหมของมอลตายังระบุด้วยว่า มีนายทหารนักบินลิเบียชั้นยศนาวาอากาศเอก 2 นาย ได้ขับเครื่องบินขับไล่รุ่นมิราจ เอฟ1 หลบหนีมายังมอลตา หลังจากพวกเขาถูกสั่งให้โจมตีใส่ผู้ประท้วงในเมืองเบงกาซี

    สำหรับสถานการณ์การเมืองในบาห์เรน รัฐบาลมีท่าทีที่ผ่อนปรนลงอีก เมื่อกษัตริย์ฮาหมัด บิน อิสซา อัล-คอลิฟะห์ ได้พระราชทานอภัยโทษแด่นักโทษการเมืองนิกายชีอะห์หลายคน และทรงรับสั่งให้ปล่อยตัวพวกเขาเป็นอิสระในวันจันทร์ (21) หมายจะสร้างบรรยากาศรอมชอมเพื่อกระตุ้นให้กลุ่มฝ่ายค้านยอมเจรจาหารือกับรัฐบาล

    อย่างไรก็ตาม ที่จัตุรัสเพิร์ล ในกรุงมานามา ผู้ประท้วงจำนวนหลายพันคนซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกชีอะห์ยังคงปักหลักเรียกร้องให้ยุติระบอบการปกครองของราชวงศ์คอลิฟะห์ที่เป็นสุหนี่ ซึ่งครองอำนาจบริหารประเทศมายาวนานหลายศตวรรษ แม้ว่าขณะเดียวกันจะมีผู้สนับสนุนรัฐบาลจำนวนหลายพันคนออกมาชุมนุมให้กำลังใจราชวงศ์ ณ บริเวณมัสยิดฟาเตะห์ ในเมืองหลวง โดยที่มีการโบกธงชาติผืนขาว-แดงพลิ้วไสว และร้องตะโกนว่า “อาบู ซัลมาน จงเจริญ” ซึ่งเป็นพระนามของมกุฏราชกุมารในกษัตริย์ฮาหมัด บิน อิสซา อัล-คอลิฟะห์

    Around the World - Manager Online - '
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ไทยเตรียมอพยพแรงงานกว่า 2 หมื่นจาก'ลิเบีย'ทางเรือ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>22 กุมภาพันธ์ 2554 21:11 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    ASTVผู้จัดการรายวัน - กระทรวงแรงงานของไทย เรียกประชุมบริษัทจัดหางาน พร้อมช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบีย เผยยังไม่มีแรงงานบาดเจ็บ-เสียชีวิต ชี้อพยพทางเรือเหมาะที่สุด เหตุช่วยเหลือทางอากาศ เครื่องบินไม่สามารถลงจอดรับแรงงานได้ ด้านกองทุนช่วยเหลือฯ พร้อมจ่ายหากบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    วันนี้ (22 ก.พ.) ที่กระทรวงแรงงาน นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน ได้เชิญบริษัทจัดส่งแรงงานไปต่างประเทศ มาร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สบเรียบร้อยในประเทศลิเบียและประเทศตะวันออกกลางอื่นๆ รวม 30 บริษัท

    นายจีรศักดิ์ กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ขณะนี้แรงงานไทยในลิเบียมีอยู่ประมาณ 23,600 คน ซึ่งจากการประชุมติดตามสถานการณ์ พบว่า คนงานส่วนใหญ่ยังปลอดภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ได้รับรายงานว่ามีแรงงานเวียดนามเสียชีวิต 1 ราย

    อธิบดีกรมการจัดหางานกล่าวว่า บางพื้นที่ในลิเบียยังสามารถปฏิบัติงานได้ เนื่องจากนายจ้างไม่ได้สั่งหยุดงาน แต่ในเมืองเบงกาซี และเมืองตริโปลี ที่เป็นพื้นที่ชุมนุมประท้วงนั้น นายจ้างได้สั่งหยุดงานทั้งหมดและสั่งให้คนงานหลบอยู่ในแคมป์ที่พัก เนื่องจากหากเดินทางหรือออกมานอกที่พัก อาจโดนปล้นสะดมได้

    สำหรับการอพยพออกมานั้น กรมการจัดหางานได้เตรียมแผนเคลื่อนย้ายคนงาน หากเกิดความรุนแรงขึ้น โดยวิธีที่ประหยัดและสามารถขนย้ายแรงงานได้มากที่สุด คือ เส้นทางเรือไปประเทศมอลตา ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี เพราะสามารถบรรทุกคนได้ครั้งละ 1,200 คน ขณะนี้มีบริษัทจัดส่งแรงงานบางแห่ง จัดเตรียมเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับแรงงานไทยที่ลิเบียตั้งแต่เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์แล้ว แต่เนื่องจากติดกลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้ไม่สามารถเอาเครื่องลงจอดรับแรงงานไทยที่มาอยู่รอที่สนามบินจำนวน 50 คนได้

    นายจีรศักดิ์กล่าวว่า สำหรับการช่วยเหลือในส่วนของกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ กรณีที่ประสบอันตรายทุพพลภาพ จะได้รับรายละ 30,000 บาท ส่วนผู้ที่จะเดินทางกลับก่อนหมดสัญญา จะได้รับค่าชดเชยคนละ 15,000 บาท กรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าจัดการศพ รายละ 40,000 บาท ในการขนย้ายและค่าเดินทางต่างๆ บริษัทที่จัดส่งได้ทำสัญญากับนายจ้างต่างประเทศไว้ โดยที่นายจ้างทางต่างประเทศจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด

    ผู้สื่อข่าวถามว่าหากแรงงานเดินทางกลับมาก่อนเวลาจะได้รับค่าชดเชยหรือไม่ เพราะแรงงานที่เดินทางไปส่วนใหญ่ต้องกู้หนี้ยืมสิน นายจีรศักดิ์กล่าวว่า ต้องดูเป็นกรณีๆไปแล้วแต่สัญญาจ้าง แต่คิดว่าบริษัทจัดหางานน่าจะรับผิดชอบเพราะปัญหาไม่ได้เกิดจากคนงาน แต่เป็นผลของสถานการณ์ความไม่สงบ

    Around the World - Manager Online -
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นแถลงประณามลิเบียใช้กำลังปราบผู้ชุมนุม
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>23 กุมภาพันธ์ 2554 08:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    บี ลินน์ ปาสโค รองเลขาธิการด้านกิจการทางการเมืองของยูเอ็นแถลงข่าวหลังการประชุมคณะมนตรีความมั่นคง

    เอเอฟพี - คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงของกองกำลังที่จงรักภักดีต่อประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบีย พร้อมเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงในทันที

    สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น 15 ประเทศลงมติประณามความรุนแรง และการใช้กำลังกับพลเรือน ทั้งยังคัดค้านการปราบปรามกลุ่มผู้ที่ชุมนุมอย่างสันติ และแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อประชาชนหลายร้อยคนที่เสียชีวิต

    อย่างไรก็ตาม ทูตลิเบียประจำยูเอ็นเผยถึงข้อมูลที่เขาได้รับมาว่า นับตั้งแต่กัดดาฟีประกาศเตือนจะเดินหน้าปราบปรามผู้คัดค้านอย่างถึงที่สุดแล้ว การโจมตีเพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ก็เกิดขึ้นในหลายเมืองทางตะวันตก

    ทางการลิเบียยอมรับว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมมีไม่ต่ำกว่า 300 ราย แต่กลุ่มพิทักษ์สิทธิมนุษยชนหลายกลุ่มเกรงว่าตัวเลขนั้นอาจทะลุถึง 400 ราย

    แถลงการณ์ ซึ่งออกมาหลังการปรึกษาหารือ และเจรจากันนาน 3 ชั่วโมงระบุว่า สมาชิกคณะมนตรีฯ เน้นถึงความจำเป็นในการยึดถือหลักความรับผิดชอบต่อการโจมตีพลเรือนเหล่านั้น โดยการใช้กำลังภายใต้การควบคุมของทางการลิเบีย

    "พวกเขาเรียกร้องให้ยุติการใช้ความรุนแรงในทันที และเดินหน้าจัดการปัญหาความกังวลของประชากรอย่างถูกต้องตามทำนองคลองธรรม" แถลงการณ์ระบุ

    แม้กัดดาฟีจะไม่ได้ถูกเอ่ยถึงในแถลงการณ์ดังกล่าว แต่เป็นที่ชัดเจนว่าผู้นำเผด็จการที่ครองอำนาจในลิเบียมานานกว่า 40 ปีเป็นเป้าประสงค์ของคณะมนตรีฯ ซึ่งต้องการให้รัฐบาลคุ้มครองประชาชน และยินยอมให้องค์กรสิทธิมนุษย์ และองค์กรความช่วยเหลือระหว่างประเทศเข้าแทรกแซง

    คณะทูตของลิเบีย ซึ่งแตกหักกับกัดดาฟีแล้ว ได้เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นจัดการประชุม และร้องขอเขตห้ามบินเหนือประเทศ ตลอดจนความช่วยเหลือประชาชน แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ได้ถูกยกขึ้นหารือในการเจรจาดังกล่าว

    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
    <DD class=columnist-name>กาแฟดำ </DD>
    หนุ่มสาวรุ่นที่กำลังเขย่า อำนาจเบ็ดเสร็จของโลก

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    โลกอาหรับหลังการปฏิวัติที่ลามไปทั่ว จะไม่มีวันเหมือนเดิมอีก และวิเคราะห์ได้ชัดเจน เหมือนอย่างที่นักวิพากษ์หลายคน จากตะวันออกกลางบอก

    นั่นคือการลุกฮือของหนุ่มสาวที่หงุดหงิด ตกงาน ทนเห็นการฉ้อฉลของผู้นำที่กุมอำนาจยาวนานไม่ได้...ประกอบกับเทคโนโลยี ที่ทำให้การสื่อสารผ่าน social media ทำให้เกิดพลังแห่งการระดมสรรพกำลังกันอย่างพร้อมเพรียงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
    นิตยสารไทม์ เล่มล่าสุดถึงกับขึ้นปกประกาศว่าคนหนุ่มสาวในโลกอาหรับ ที่กำลังก่อหวอดให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคมขนานใหญ่คราวนี้คือ “Generation that is Changing the World” หรือเป็นคนรุ่นอายุต่ำกว่า 30 ที่กำลังรวมตัวกันเพื่อเปลี่ยนโลกอย่างรวดเร็ว และรุนแรงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน และเป็นการต่อต้านอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดของกลุ่มอำนาจเก่าอย่างสันติ อหิงสา และด้วยเหตุและผลที่ชัดเจน นั่นคือ...ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมของสังคม
    เอาเฉพาะประเด็นของผู้นำที่ครองอำนาจทางการเมืองมายาวนาน จนไม่เกิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรมของประเทศอย่างตูนิเซีย (23 ปี) หรืออียิปต์ (30 ปี) ตามมาด้วยบาห์เรน (40 ปี) หรือลิเบีย (42 ปี)
    อีกทั้งผู้นำหลายคนเหล่านี้ได้วางตัว "ลูก" ของตัวเองเป็นทายาททางการเมืองที่จะสวมอำนาจต่อจากตนเอง ซึ่งแปลว่าอำนาจทางการเมืองของประเทศเหล่านี้อยู่ในมือของคนเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น
    ผู้นำเหล่านี้ไม่เคยเฉลียวใจแม้แต่น้อยว่า วันหนึ่งสิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้ขนาดนั้น นั่นคือการลุกขึ้นของคนหนุ่มคนสาวที่หางานทำยาก ประกอบกับจำนวนคนยากจนในชนชั้นกลางและล่าง ที่ไม่เคยมีโอกาสแสดงความเห็น รวมตัวกันผ่านสื่อสังคมอย่าง Facebook และ Twitter กับ YouTube อันทรงพลัง ทำให้ผู้นำเผด็จการตกเก้าอี้ โดยที่ตัวเองไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับตัวเองในช่วงชีวิตของตน
    จากตูนิเซีย ไปอียิปต์ ไปเยเมน บาห์เรน ลิเบีย โมร็อกโก อิหร่าน.... และแม้ซาอุดีอาระเบียเองก็กำลังหวั่นหวาดว่ากลิ่นอายแห่ง “ปฏิวัติดอกมะลิ” จะลามเข้ามาถึงตน เพราะแม้หลายประเทศในโลกอาหรับ จะมีเศรษฐกิจดีเพราะมีบ่อน้ำมัน แต่เมื่อเสรีภาพทางการเมืองถูกจำกัด และอำนาจการปกครองตกอยู่ในมือของคนเพียงกลุ่มเดียวยาวนานเป็นสิบๆ ปี โดยที่คนรุ่นใหม่มองไม่เห็นบทบาทของตนในโครงสร้างสังคมใหม่เลย คนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า young, angry, and newly empowered population ก็ย่อมจะต้องแสดงความรู้สึกและแสดงพลังออกมากลางถนน
    รถถัง ปืน และกองกำลังทหารไม่อาจจะระงับกระแสแห่งการเรียกร้องความเปลี่ยนแปลงได้
    และการเปลี่ยนแปลงนั้นมีเงื่อนไขสำคัญ ว่าจะต้องไม่ใช่ทำเพื่อให้คนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาสวมอำนาจแทนคนกลุ่มเก่าเท่านั้น
    ดังนั้น สังเกตได้ว่าในหลายประเทศในโลกอาหรับ ที่กำลังเป็นเวทีแห่งการประท้วงเพื่อโค่นล้มอำนาจเก่านั้น คนหนุ่มคนสาวและประชาชนทั่วไป ไม่ยอมตกเป็นเครื่องมือของพรรคการเมือง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านหรือฝ่ายใด เพราะมีความกลัวว่าความเคลื่อนไหวบริสุทธิ์ของตน จะกลายเป็นเครื่องมือของพวกนักการเมือง และ “นักเลือกตั้ง” ที่จะฉวยโอกาส “โหน” กระแสของหนุ่มสาวเพื่อให้ตนได้มีอำนาจทางการเมืองเท่านั้น
    ผมจับตามองทุกมิติของการปฏิวัติครั้งใหม่ ของโลกอาหรับด้วยความสนใจยิ่ง เพราะเราจะได้บทเรียนมากมายหลายด้านสำหรับทั้งโลกและใกล้ๆ ตัวเราเองอย่างน่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

    ˹
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 09:46
    คิวบากล่าวหาสหรัฐเล็งยึดลิเบีย

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ผู้นำคิวบากล่าวสหรัฐเตรียมยึดครองลิเบีย ขณะตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ300 ราย

    นายฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดีของคิวบา วัย 84 ปี ที่ยังคงกุมอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์เขียนบทความในสื่อของรัฐบาลคิวบาว่า สหรัฐวางแผนสั่งการให้องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ(นาโต้) ส่งกองกำลังบุกลิเบีย ภายในอีกไม่กี่ชั่วโมง หรือไม่กี่วันข้างหน้า เพราะหวังจะยึดครองผลประโยชน์จากน้ำมัน พร้อมทั้งแสดงความมั่นใจว่า สหรัฐไม่ได้สนใจเรื่องสันติภาพในลิเบีย

    อดีตผู้นำคิวบา ระบุด้วยว่า จะรอดูว่าเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ ที่อยู่เบื้องหลังรายงานที่ว่ามีการกวาดล้างอย่างนองเลือดต่อผู้ประท้วง ที่ชุมนุมต่อต้านพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี่ กันอยู่ตามถนนสายต่าง ๆ เมื่อไม่กี่วันมานี้
    ขณะที่กลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนและสื่ออาหรับ ระบุตัวเลขผู้เสียชีวิตว่าอยู่ระหว่าง 200 ถึง 400 คน และกล่าวหาทหารลิเบียกับทหารรับจ้างว่า ใช้กระสุนจริงกราดยิงใส่ผู้ประท้วง
    ทั้งนี้ คาสโตร มีความสัมพันธ์ที่ดีกับพันเอกกัดดาฟี่มาหลายสิบปีแล้ว และพันเอกกัดดาฟี่เคยส่งสารไปให้กำลังใจเขา ตอนที่ล้มป่วยเมื่อปี 2549 ก่อนจะส่งมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีราอูล ผู้เป็นน้องชาย ซึ่งในบทความล่าสุด คาสโตร ระบุว่า เขาไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าพันเอกกัดดาฟี่ จะละทิ้งประเทศและความรับผิดชอบไปได้อย่างไร
    เป็นการแสดงความเห็นตอบโต้ รายงานข่าวก่อนหน้านี้ที่ว่า ผู้นำลิเบียได้หนีไปเวเนซุเอล่าแล้ว

    ด้านเปรู ระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับลิเบีย และกลายเป็นชาติแรกที่ดำเนินมาตรการตอบโต้ลิเลีย หลังการใช้กำลังเข้ากวาดล้างผู้ประท้วงที่ลุกฮือขึ้นขับไล่พันเอกกัดดาฟี่ ที่ครองอำนาจมานานถึง 41 ปี
    ประธานาธิบดีอลัส การ์เซีย ของเปรู ได้ออกแถลงการณ์ว่า เปรูระงับความสัมพันธ์ทางการทูตกับลิเบียไปจนกว่าการใช้ความรุนแรงต่อประชาชนจะยุติลง
    อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่มีปฏิกิริยาออกมาจากประธานาธิบดีฮูโก ชาเวซ ของเวเนซุเอล่า
    ที่ได้ชื่อว่าเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับพันเอกกัดดาฟี่เช่นกัน แต่ประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตก้าของนิคารากัว ได้ปกป้องพันเอกกัดดาฟี่ว่า เขาได้คุยกับผู้นำลิเบีย ที่กำลังต่อสู้อย่างยิ่งใหญ่และพยายามที่จะหาทางเจรจา แต่ก็ปกป้องบูรณภาพของชาติ ไม่ให้เกิดความแตกแยก ไม่ให้ตกอยู่ในภาวะอนาธิปไตยด้วยเช่นกัน

    ด้านลิเบีย เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกว่า มีจำนวน 300 คน เป็น
    พลเรือน 189 คน และทหาร 111 นาย โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองเบนกาซีร์ ทาง
    ตะวันออกของประเทศ และได้ชื่อว่ามีการปะทะกันดุเดือดที่สุด ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 104 คน
    และทหารเสียชีวิต 10 นาย

    ก่อนหน้านี้ นายซาอิฟ อัล อิสลาม บุตรชายของพันเอกกัดดาฟี่ ได้เปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตใน
    ระหว่างแถลงข่าวว่า มีจำนวน 300 คน ในจำนวนนี้เป็นทหารเพียง 58 นาย และการที่รัฐบาล
    ปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ทำให้การรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตเต็มไปด้วยความสับสน กลุ่มฮิวแมน
    ไรท์ วอทช์ ระบุว่า มี 233 คน ส่วนอินเตอร์เนชั่นแนล เฟดเดอเรชั่น ฟอร์ ฮิวแมน ไรท์ ระบุว่า
    มีจำนวนระหว่าง 300 - 400 คน

     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กุมภาพันธ์ 23, 2011

    ประเทศไหนที่มี อาวุธนิวเคลียร์บ้าง ?

    Filed under: ภัยพิบัติ, สงคราม, อาวุธ — ป้ายกำกับ:อาวุธนิวเคลียร์ — Mr.Vop @ 02:25
    กำลังรบนิวเคลียร์ของโลก
    ปัจจุบันโลกมีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 31,000 นัด ที่ยังคงบรรจุประจำการอยู่ใน 8 ประเทศ ไม่รวมเกาหลีเหนือ ได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย จีน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส อินเดีย ปากีสถาน และอิสราเอล โดยส่วนหนึ่งถูกเก็บรักษาไว้ในคลังแสง และอีกส่วนหนึ่งได้เคลื่อนย้ายวางกำลังไว้ ณ ที่ตั้งหน่วยทหารที่เป็นหน่วยยิงประมาณ 13,000 นัด ซึ่งในจำนวนนี้อยู่ในสภาพพร้อมรบเต็มที่ High Alert ประมาณ 4,600 นัด พร้อมใช้งานในไม่กี่นาทีตลอดเวลา หัวรบนิวเคลียร์เหล่านี้มีอำนาจการทำลายคิดเป็นน้ำหนักระเบิด TNT (Trinitrotoluene : C6H2(NO2)3CH3) ประมาณ 5,000 Megaton คือประมาณ 20,000 เท่าของระเบิดนิวเคลียร์ที่ใช้ที่ฮิโรชิมา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    หมายเหตุ:- อ้างอิงข้อมูลของ Natural Resources Defense Council ของสหรัฐฯ
    สหราชอาณาจักร
    กำลังรบนิวเคลียร์ของสหราชอาณาจักร หรืออังกฤษ มีแต่เพียงอาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำ Trident II D5 จำนวน 16 ลำ รวม 48 ฐานยิง และถือครองหัวรบนิวเคลียร์อยู่ 185 นัด ๆ ละ 100 Kiloton คิดเป็นน้ำหนักระเบิดรวม 18.5 Megaton
    จีน
    กำลังรบนิวเคลียร์ของจีน ประกอบด้วย ขีปนาวุธที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป (ICBMs) อาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ (SLBMs) และเครื่องบินทิ้งระเบิด (Bombers) รวมทั้งสิ้น 275 ฐานยิง และคาดว่าถือครองหัวรบนิวเคลียร์อยู่ประมาณ 225 นัด
    จีน เป็นประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ ที่มีขีดความสามารถที่จะโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Attack) ได้ครอบคลุมทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชีย อาจเว้นก็แต่ทวีปอเมริกาใต้ เท่านั้น ด้วยขีปนาวุธ CSS-4 ระยะยิงสูงสุด 13,000 กิโลเมตร และขีปนาวุธ DF-31 ระยะยิงสูงสุด 8,000 กิโลเมตร
    ฝรั่งเศส
    กำลังรบนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส ประกอบด้วย อาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ SLBMs และเครื่องบินทิ้งระเบิด Bombers รวมทั้งสิ้น 133 ฐานยิง และถือครองหัวรบนิวเคลียร์ทั้งสิ้น 449 นัด
    สหรัฐฯ
    กำลังรบนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ขีปนาวุธที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป ICBMs , อาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ SLBMs และเครื่องบินทิ้งระเบิด Bombers รวมทั้งสิ้น 1,074 ฐานยิง ถือครองหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 5,170 นัด และรวมอำนาจการทำลายที่คิดเป็นน้ำหนักระเบิด TNT มากกว่า 1,560 Megaton
    สหรัฐฯ เป็นชาติมหาอำนาจที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพสูงที่สุดในโลก มีระบบซัดส่ง เช่น ระบบอาวุธปล่อย ขีปนาวุธ อากาศยานทิ้งระเบิดระยะไกล หรือ ระบบทำการยิงจากใต้น้ำ ซึ่งสามารถนำพาหัวรบนิวเคลียร์ไปสู่เป้าหมายได้ทุกแห่งหนบนโลก ด้วยเทคโนโลยีที่สูงกว่า และไม่มีที่ใดในโลกนี้ที่หัวรบนิวเคลียร์สหรัฐฯ ไปไม่ถึง
    สหรัฐฯ แสดงเจตจำนงมาโดยตลอด ที่จะถือครองอาวุธนิวเคลียร์ไว้ เพื่อเผชิญหน้ากับความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์แห่งชาติในระดับสูงสุด ที่กระทบต่อความอยู่รอดของชาติ (Survival Interest) กับใช้เพื่อการป้องปรามทางยุทธศาสตร์
    รัสเซีย
    กำลังรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย ประกอบด้วย ขีปนาวุธที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป ICBMs , อาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ SLBMs และเครื่องบินทิ้งระเบิด Bombers รวมทั้งสิ้น 1,174 ฐานยิง ถือครองหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 5,972 นัด และรวมอำนาจการทำลายที่คิดเป็นน้ำหนักระเบิด TNT มากกว่า 2,800 Megaton
    รัสเซีย เป็นประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ที่มีศักยภาพเป็นรองก็แต่เพียงสหรัฐฯ มีขีดความสามารถที่จะโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Attack) ได้ครอบคลุมทั่วโลก ด้วยขีปนาวุธที่ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป (ICBMs) อาวุธปล่อยจากเรือดำน้ำนิวเคลียร์ (SLBMs) และเครื่องบินทิ้งระเบิด (Bombers) โดยมีจำนวนฐานยิง และจำนวนหัวรบนิวเคลียร์ มากกว่าสหรัฐฯ ยิ่งไปกว่านั้น ปฏิบัติการนิวเคลียร์ (Nuclear Operations) ต่อสหรัฐฯ จะใช้เส้นทางผ่านขั้วโลกเหนือเป็นหลัก กับการใช้เรือดำน้ำนิวเคลียร์ เล็ดลอดเข้าไปจ่อยิง เพื่อให้มีเวลาการป้องกันเหลือน้อยที่สุด เป็นที่คาดกันว่าหัวรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย จะสามารถฝ่าข่ายการป้องกันของสหรัฐฯ ไปสู่เป้าหมายยุทธศาสตร์ได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ 1/3 ของสหรัฐฯ ถูกทำลายสิ้น ดังนั้น กำลังรบนิวเคลียร์ของรัสเซีย จึงถือเป็นภัยคุกคามอันดับ 1 ต่อสหรัฐฯ
    อิสราเอล
    อิสราเอล มิได้ประกาศตนว่า เป็นชาติที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ หากแต่บางแหล่งข่าวอ้างว่า อิสราเอล อาจถือครองหัวรบนิวเคลียร์ที่มีอำนาจการทำลายต่ำ (ประมาณ 1 กิโลตัน) อยู่ถึง 200 นัด แม้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าสังเกตนิวเคลียร์จะยังไม่เคยตรวจพบการทดลอง หรือการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของอิสราเอลแต่อย่างไรก็ตาม แต่ตามข้อเท็จจริง อิสราเอล สามารถเข้าถึง รายละเอียดข้อมูลนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ และฝรั่งเศส ได้
    นอกจากนั้น อิสราเอล ยังถือครองขีปนาวุธ JERICHO I ระยะยิง 660 กิโลเมตร และ JERICHO II ระยะยิง 1,500 กิโลเมตรที่สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ รวมทั้ง จรวด SHAVIT ที่ใช้ในการปล่อยดาวเทียมของอิสราเอล ก็สามารถดัดแปรเพื่อนำส่งหัวรบนิวเคลียร์ข้ามทวีป ระยะยิง 7,800 กิโลเมตรได้เช่นกัน ทำให้อิสราเอล กลายเป็นชาติที่มีความพร้อมอย่างยิ่งในการถือครองอาวุธนิวเคลียร์
    อินเดีย
    กำลังรบนิวเคลียร์ของอินเดีย ประกอบด้วยขีปนาวุธ ปริวิ (PRITHVI) SS-250 ระยะยิง 200 กม. และขีปนาวุธ อัคนี (AGNI) ระยะยิง 1,500-2,000 กม.ติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ และเครื่องบินขับไล่โจมตี SU-30MK ที่ใช้ในการปฏิบัติการนิวเคลียร์ โดยถือครองหัวรบนิวเคลียร์อยู่ประมาณ 85 นัด ทั้งนี้เชื่อว่าอินเดียอยู่ระหว่างการพัฒนาเรือดำน้ำที่สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนิวเคลียร์ได้อีกด้วย
    อินเดีย เป็นประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ ที่มีขีดความสามารถที่จะโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Attack) ได้ครอบคลุม จีน ปากีสถาน อิหร่าน คาซัคสถาน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บางส่วน ตลอดจน ยังมีการประเมินว่าอินเดีย มีขีดความสามารถที่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง ด้วยขีปนาวุธ AGNI ที่มีระยะยิงสูงสุด 2,000 กิโลเมตร
    ปากีสถาน
    กำลังรบนิวเคลียร์ของปากีสถาน ประกอบไปด้วยขีปนาวุธที่นำเข้าจากจีน ประมาณ 30 นัด รวมทั้งขีปนาวุธ HALF-3 ระยะยิง 600 กม.และขีปนาวุธ GHAURI ระยะยิง 600 กม.ที่พัฒนาผลิตขึ้นใช้เอง จำนวนหนึ่ง โดยคาดว่าถือครองหัวรบนิวเคลียร์อยู่ประมาณ 25 นัด
    ปากีสถาน เป็นประเทศที่ถือครองอาวุธนิวเคลียร์ ที่มีขีดความสามารถที่จะโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ (Nuclear Attack) ได้ครอบคลุม อินเดีย ซาอุดิอาระเบีย เยเมน โอมาน คูเวต คาซัคสถาน และภาคตะวันตกของจีน ตลอดจน มีการประเมินว่าปากีสถาน มีขีดความสามารถที่จะโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับอินเดีย ด้วยขีปนาวุธ CHAHEEN II ที่มีระยะยิงสูงสุด 2,000 กิโลเมตร
    เกาหลีเหนือ
    กำลังรบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ จากข้อมูลข่าวสารการข่าวกรอง ยังไม่อาจยืนยันได้แน่นอนว่ามีศักยภาพในการปฏิบัติการนิวเคลียร์จริงหรือไม่ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าสังเกตนิวเคลียร์ ตรวจพบการทดสอบนิวเคลียร์ เมื่อปี พ.ศ.2549 และเกาหลีเหนือ อ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดสอบ อย่างไรก็ตาม เกาหลีเหนือ มีศักยภาพในระบบซัดส่งที่เป็นขีปนาวุธหลายแบบ เช่น Taepo Dong II ซึ่งมีระยะยิงไกลถึง 6,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ มีผู้เชื่อว่า หากเกาหลีเหนือถือครองหัวรบนิวเคลียร์ไว้จริง ก็ไม่น่าเกิน 10 นัด และอำนาจการทำลายที่คิดเป็นน้ำหนักระเบิด TNT ของแต่ละนัดน่าจะน้อยกว่า 1 กิโลตัน ใกล้เคียงกับหัวรบนิวเคลียร์ที่เคยใช้โจมตีญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    เกาหลีเหนือ เป็นประเทศถือครองระบบซัดส่งที่เป็นขีปนาวุธ และอาจถือครองหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ ๑๐ นัด อำนาจการทำลายนัดละประมาณ ๑ กิโลตัน ขีดความสามารถของระบบซัดส่งที่เป็นขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ สามารถโจมตีเป้าหมายยุทธศาสตร์ครอบคลุม ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอดจนสามารถโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ได้ทุกเป้าหมาย
    อิหร่าน
    อิหร่าน เป็นประเทศที่ถือครองระบบซัดส่งที่เป็นขีปนาวุธ แม้ยังไม่มีหัวรบนิวเคลียร์ แต่ความมุ่งมั่นในโครงการเพิ่มสมรรถนะยูเรเนียม (Uranium Enrichment) อาจทำให้อิหร่าน สามารถเตรียมสารยูเรเนียมเข้มข้น เพียงพอที่จะผลิตหัวรบนิวเคลียร์ได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ขีดความสามารถของระบบซัดส่งที่เป็นขีปนาวุธที่อิหร่านถือครอง เช่น Taepo Dong II ระยะยิง 6,000 กิโลเมตร สามารถโจมตีเป้าหมายยุทธศาสตร์ครอบคลุม ทวีปยุโรป เอเชีย และแอฟริกา รวมทั้ง ผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ทุกเป้าหมายในพื้นที่เหล่านั้น
    ข้อพิจารณาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
    1. จากการที่ประเทศต่าง ๆ อาทิ จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ รวมถึงอิหร่านได้มีการพัฒนาขีปนาวุธของตนอย่างต่อเนื่อง นับเป็นภัยอันตรายต่อสันติสุขของโลกอย่างยิ่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้สหรัฐฯ ต้องเร่งพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธแห่งชาติต่อไป โดยโครงการป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ ได้ใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 92,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการพัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธที่ยังไม่สมบูรณ์ดีนัก แต่หากสหรัฐฯ ชะลอการพัฒนาระบบดังกล่าว ก็อาจเป็นเงื่อนไขให้ประเทศที่มีขีปนาวุธข้ามทวีปอยู่แล้ว หรือกำลังพัฒนาอยู่ในปัจจุบัน สามารถดำเนินการปรับปรุงขีปนาวุธของตน ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นจนสามารถเอาชนะข่ายการป้องกันขีปนาวุธแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้
    2. การแข่งขันการพัฒนาอาวุธฯ ของแต่ละฝ่าย ย่อมจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของภูมิภาคโดยรวม ทั้งอาจเป็นแรงผลักดันให้เกิดการรวมขั้วของจีน รัสเซียและเกาหลีเหนืออย่างแน่นแฟ้น ยิ่งขึ้น สำหรับผลกระทบต่อไทยยังอยู่นอกเหนือวิสัยที่ไทยจะดำเนินการใด ๆ แม้ไทยจะมีความเป็นกลาง และมีความสัมพันธ์อันดีกับทุกฝ่าย แต่การอยู่ในรัศมีทำการของขีปนาวุธข้ามทวีปทั้งจากเกาหลีเหนือ และจีน ย่อมส่งผลกระทบในแง่จิตวิทยา และความไม่ปลอดภัยต่อภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไทยสามารถกระทำได้ คือ การแสดงออก และเรียกร้องให้เกิดการสร้างความไว้วางใจระหว่างกัน เพื่อไม่ให้ปัญหาขัดแย้งขยายตัวเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคมากยิ่งขึ้น

    Credit : กรมข่าวทหารอากาศ

    2011 กุมภาพันธ์
     

แชร์หน้านี้

Loading...