เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

จีนสร้างกองทัพไฮ-เทคด้วยงบประมาณที่น้อยลง
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>18 กุมภาพันธ์ 2554 08:20 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - จีนเดินหน้าปฏิรูปกองทัพให้มีขีดความสามารถในการสู้รบทันสมัยภายในปี 2563 แม้งบประมาณด้านกลาโหมอาจได้ไม่ถึงร้อยละ 10 ต่อปีภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของจีนระยะ 5 ปีฉบับหน้า

เมื่อเดือนที่แล้ว กองทัพจีนได้เผยแพร่ภาพถ่ายเที่ยวบินแรกของเครื่องบิน “J-20” ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่สเตลท์รุ่นที่5 ต้นแบบ ซึ่งจีนพัฒนาขึ้น แม้คาดกันว่าคงอีกนานกว่าที่จีนจะผลิตเครื่องบินรุ่นนี้ แต่การเผยแพร่ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีนตั้งเป้าหมายพัฒนาด้านเทคโนโลยีการทหารไว้สูงเพียงไร

แผนการพัฒนากองทัพจีนให้ทันสมัยภายในปี 2563 กำหนดโดยคณะกรรมการกลางด้านการทหารเมื่อปี 2549 ซึ่งรวมทั้งการเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรมด้านการป้องกันประเทศ ในการผลิตนวัตกรรมด้านอาวุธยุทโธปกรณ์

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จีนระบุว่า การบรรลุตามเป้าหมายนี้ดำเนินการภายใต้งบประมาณกลาโหม ที่ได้รับเพิ่มน้อยลงจากที่เคยได้รับงบประมาณโดยเฉลี่ยเพิ่มเป็นตัวเลข 2 หลัก เกือบร้อยละ 15 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่งบประมาณกลาโหมของจีนเมื่อปีที่แล้วเพิ่มเพียงร้อยละ 7.5

นายซู กวนอี้ว์ นักวิจัยอาวุโสของสมาคมควบคุมและปลดอาวุธแห่งจีน (China Arms Control and Disarmament Association) ในกรุงปักกิ่งคาดว่า การเพิ่มงบประมาณกลาโหมของจีนจะดำเนินไปทำนองเดียวกับการเติบโตของจีดีพีในช่วง 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะไม่เกินกว่าร้อยละ 10

นอกจากนั้น เขาระบุว่า กองกำลังภาคพื้นดิน ซึ่งปัจจุบันมีร้อยละ 60 ของกำลังพลทั้งหมดในกองทัพจะตัดลงเหลือร้อยละ 50 ขณะที่กองกำลังทางอากาศและทางเรือจะเพิ่มเป็นร้อยละ 25

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลหลายชาติเชื่อว่าแท้จริงแล้วจีนจัดสรรงบประมาณสูงกว่าตัวเลข ที่เผยแพร่ออกมา

ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี (2554-2558) ฉบับที่ 12 ของจีนระบุภารกิจหลักสำคัญ 7 ประการแรกในการพัฒนากองทัพแดนมังกรได้แก่

- พัฒนาการวิจัยและพัฒนาด้านอาวุธ
- เสริมสร้างขีดความสามารถของอุตสาหกรรรมด้านการทหาร
- เร่งการพัฒนาคิดค้นนวัตกรรม
- เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอาวุธ
- บูรณาการงานวิจัยและพัฒนาของทหารและพลเรือนเข้าด้วยกัน
- ขยายความร่วมมือในระดับโลก
- เสริมสร้างแหล่งคิดค้นและพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการทหาร

ด้านผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารหลายคนตั้งข้อสังเกตว่า การบูรณาการงานวิจัยและพัฒนาของทหารและพลเรือนเข้าด้วยกันของจีนนั้นจะกระทำมากน้อยแค่ไหน โดยผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่า จีนคงไม่ลอกรูปแบบของชาติตะวันตกมาทั้งหมด

ศาสตราจารย์ เฉิง ไท่หมิง ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพจีนแห่งโรงเรียนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและการศึกษาด้านแปซิฟิกของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานดิเอโก้ มองว่า แนวคิดในการส่งเสริมให้บริษัทพลเรือนมีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ก็เนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยีของพลเรือนมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพด้านต้นทุนมากกว่าอุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ที่มีแต่เดิม โดยเฉพาะในภาคที่มีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เช่นเทคโนโลยีสารสนเทศ, อิเล็กทรอนิกส์ และการคมนาคมสื่อสาร

อย่างไรก็ตาม นายซู แห่งสมาคมควบคุมและปลดอาวุธแห่งจีนชี้ว่า สำหรับจีนแล้ว บริษัทด้านการป้องกันประเทศของพลเรือนจะไม่พัฒนาไปถึงระดับเดียวกับบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน และบริษัทโบอิ้งของสหรัฐฯ โดยบริษัทของรัฐบาลจะยังคงเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศอยู่

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทพลเรือนของจีนมีบทบาทในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กองทัพ โดยในปี2547 ยานยนต์หุ้มเกราะ “นิว สตาร์” ซึ่งคิดค้นและผลิตโดยบริษัทเอกชนเป่าจี, มณฑลส่านซี สามารถเอาชนะบริษัทผู้ผลิตของรัฐบาลคู่แข่ง 4 บริษัท โดยได้รับเลือกจากกองทัพจีนให้นำไปใช้ในปฏิบัติการรักษาสันติภาพของกองทหารจีนภายใต้สหประชาชาติ

ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับหน้า ยังคาดด้วยว่า จีนจะส่งเสริมให้บริษัทด้านการทหารของรัฐขยายส่วนแบ่งในตลาดต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ เฉิงชี้ว่า อุปกรณ์ของจีนยังสู้ของสหรัฐฯ ไม่ได้ ทั้งด้านคุณภาพและความทันสมัยด้านเทคโนโลยี

ทั้งนี้ รายงานล่าสุดของศูนย์เพื่อการวิเคราะห์การค้าอาวุธโลกของรัสเซียระบุว่า สหรัฐฯ ครองอันดับ 1 และรัสเซียครองอันดับ 2 ในการส่งออกอาวุธเมื่อปีที่แล้ว ส่วนจีนติดอันดับ 9 โดยมีมูลค่าส่งออกอาวุธ 1.87 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ


China - Manager Online -

 

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 06:5
สหรัฐเตือนอเมริกันเลี่ยงไปบาห์เรน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


วอชิงตัน - สหรัฐเตือนคนอเมริกันเลี่ยงการเดินทางไปบาห์เรน หลังเกิดการปะทะรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่

สหรัฐเตือนชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังบาห์เรน เพราะกำลังมีการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงกับผู้ประท้วง

เมื่อวานนี้หน่วยรักษาความมั่นคงได้เปิดฉากยิงผู้ประท้วงในกรุงมานามา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 55 คนหลังจากกองทัพประกาศจะใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย หลังจากตำรวจจู่โจมจตุรัสอันเป็นศูนย์กลางการประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย

ส่วนการประท้วงในเมืองทาเอซของเยเมนกลายเป็นเหตุนองเลือดเมื่อรถคันหนึ่งติดป้ายทะเบียนทางการ โยนระเบิดมือเข้าใส่ผู้ประท้วง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ส่วนในเมืองเอเดน ทางใต้ของประเทศ หน่วยแพทย์เผยว่าผู้ประท้วงถูกยิงเสียชีวิต 4 ราย เมื่อตำรวจยิงใส่ผู้ประท้วงในหลายจุดของเมือง ซึ่งเป็นจุดที่เกิดเหตุรุนแรงและทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 10 รายตั้งแต่วันอาทิตย์ก่อน
นักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าผู้สื่อข่าวหลายคนถูกผู้สนับสนุนพรรครัฐบาลทุบตี และผู้สนับสนุนรัฐบาลยังใช้กระบองและขวานไล่ตีผู้ประท้วง
ด้านรัฐบาลลิเบียประกาศจะสกัดความพยายามท้าทายประธานาธิบดีโมอามาร์ กัดดาฟี หลังจากเกิดการนองเลือดและตำรวจ 2 นายถูกผู้ประท้วงจับแขวนคอในเมืองอัล-ไบดา ทางใต้ของประเทศ แหล่งข่าวเผยว่ามีการระดมเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงทั่วเมืองดังกล่าว หลังจากมีข่าวทางอินเทอร์เน็ตว่าผู้ประท้วงควบคุมเมืองนี้ไว้ได้

 

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
<DD class=columnist-name>กาแฟดำ</DD>
เมื่อจีนแซงญี่ปุ่น เป็นเบอร์ 2 ใหญ่จริง...แต่แกร่งกว่าหรือเปล่า?

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เราควรจะตื่นเต้นกับข่าวที่ว่าจีน ได้แซงหน้าญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกหรือไม่?

ผมว่าสมควรจะต้องทำความเข้าใจเศรษฐกิจของยักษ์ใหญ่เศรษฐกิจของสองประเทศเอเชียนี้รอบด้าน และลุ่มลึก เพราะอะไรที่เกิดกับสองชาตินี้ในวันข้างหน้าจะมีผลต่ออนาคตของไทยด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมจึงยอมรับว่าตื่นเต้นกับข้อมูลชุดใหม่ ที่บอกว่าตัวเลขจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมของจีน สำหรับทั้งปีที่ผ่านมากระโดดมาอยู่ที่ $5.88 ล้านล้าน ขณะที่ของญี่ปุ่นคือ $5.47 ล้านล้าน
แปลว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเล็กกว่าของจีนร้อยละ 7 และเป็นครั้งแรกที่จีนก้าวล้ำญี่ปุ่นในประเด็นขนาดของเศรษฐกิจ
แต่ต้องไม่ลืมว่าหากนับจีดีพีต่อหัวแล้ว ญี่ปุ่นยังสูงกว่าจีนถึง 10 เท่า
พูดง่ายๆ ก็คือว่า แม้จีนจะใหญ่กว่าในภาพรวม แต่ญี่ปุ่นยังรวยกว่าถ้าวัดกันตัวต่อตัว
พูดอีกแง่หนึ่งก็คือญี่ปุ่น แข็งแรงกว่าจีน แม้ว่าจีน จะตัวใหญ่กว่าก็ตาม
ตรงนี้น่าสนใจที่จะต้องวิเคราะห์กันให้รอบด้าน เพราะการมีเศรษฐกิจใหญ่กว่าของจีน นั้นอาจจะนำมาซึ่งปัญหาที่น่ากลัวกว่า...เพราะเท่ากับเป็นการตอกย้ำว่าช่องว่างคนมีกับคนไม่มีของจีนนั้นยิ่งวันก็ยิ่งกว้างขึ้น
เพราะความมั่งคั่งของจีน ไปกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่ๆ ไม่กี่เมือง แต่ห่างออกไปในชนบทไกลปืนเที่ยงนั้น คนจีนที่ยากจนหาเช้ากินค่ำยังมีจำนวนมหาศาล
ขณะที่ญี่ปุ่นมีปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำเรื่องรายได้น้อยกว่า และสามารถสร้างความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ที่ให้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองกับประชาชนของตนมากกว่า
นี่คือความแตกต่างด้านสังคมการเมืองระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ที่จะต้องถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการมองอนาคตของสองประเทศนี้
เพราะทางด้านสังคมการเมืองนั้น ญี่ปุ่นก้าวไปไกลหลายขุม ประชาชนมีความรู้สึกถึงความเท่าเทียมกันได้ดีกว่าของจีน ซึ่งยังไม่สามารถเปิดกว้างเรื่องสังคมและการเมืองได้...อีกทั้งยังเสี่ยงอย่างยิ่งว่าหากเปิดแล้ว จะสร้างความปั่นป่วนให้กับสังคมจีนได้อย่างที่คาดไม่ถึงวันนี้
ภาพและข่าวของการประท้วงในตูนิเซีย อียิปต์ อิหร่าน เยเมน จอร์แดน ลิเบีย ในโลกอาหรับนั้น ย่อมทำให้ประชาชนคนจีนจำนวนไม่น้อยเริ่มคิดเรื่องสิทธิการประท้วงอย่างกว้างขวางขึ้น ขณะเดียวกันผู้นำจีนก็จะต้องเฝ้ามองเหตุการณ์ที่ลามไปหลายประเทศเช่นนี้ด้วยความห่วงใย และมีคำถามเหมือนที่หลายๆ คนกำลังคิดว่า
ถ้ามันเกิดกับรัฐบาลรวมศูนย์เข้มข้นยาวนานอย่างอียิปต์ และตูนิเซีย และลิเบียได้ ทำไมจะเกิดกับจีนที่มีพรรคการเมืองพรรคเดียวมากว่า 60 ปีไม่ได้?
ขณะที่ญี่ปุ่นไม่มีแรงกดดันด้านการเมืองเช่นนี้ เพราะได้เปิดกว้างสำหรับการแข่งขันทางการเมืองมาแล้วยาวนาน พอที่จะทำให้เกิดความต่อเนื่องในการสืบอำนาจทางการเมืองภายใต้ความเชื่อของชาวบ้านที่ว่า ถ้าไม่พอใจรัฐบาลนี้ก็สามารถใช้สิทธิทางการเมืองที่จะเปลี่ยนแปลงได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความรุนแรง
ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดที่ทำให้จีนก้าวมาเป็นเบอร์สองของโลก จึงทำให้ใครต่อใครต้องใคร่ครวญประเด็นสำคัญๆ มากมายหลายเรื่อง
วันนี้ สหรัฐยังเป็นเบอร์หนึ่งด้านเศรษฐกิจอยู่ เพราะแม้จะเอาจีดีพีของจีนกับญี่ปุ่นรวมกันแล้ว ก็ยังเล็กกว่าของอเมริกาที่มีตัวเลขผลผลิตมวลรวมสำหรับปีที่ผ่านมาสูงถึง $14.66 ล้านล้าน
แต่การเป็นหมายเลขหนึ่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐ ก็มิได้แปลว่าคนอเมริกันมีความรู้สึกว่า ปากท้องของตนเองมีความมั่นคงยั่งยืนแต่อย่างไร เพราะอาการป่วยเรื้อรังของสหรัฐ ในฐานะที่เป็นพี่เบิ้มใช้เงินมือเติบและไร้วินัยในหลายๆ ด้าน ทำให้อาการป่วยไข้ทางเศรษฐกิจของยักษ์ใหญ่เบอร์หนึ่งสร้างความซวนเซให้อย่างน่ากลัวอยู่ขณะนี้เช่นกัน
ดังนั้น วันนี้เมื่อเราเห็นจีนผงาดขึ้นมาแซงหน้าญี่ปุ่น ความน่าตื่นตาตื่นใจจึงอยู่ที่ว่าคนรูปร่างใหญ่กว่านั้น แข็งแรงกว่าจริงหรือไม่?
คำตอบคือไม่แน่ และอย่าได้นอนใจเป็นอันขาด
เพราะเบอร์หนึ่งมีสิทธิจะล้มก่อนเบอร์สองและเบอร์สามได้... และจะล้มดังสนั่นหวั่นไหวเสียด้วย ขอบอก

 

เผย รบ.สหรัฐฯ เริ่มเจรจาโดยตรงกับสมาชิกอาวุโสตอลิบานในอัฟกานิสถาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2554 13:43 น.

ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ
เอเอฟพี - นิตยสารนิวยอร์กเกอร์เผย รัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามาเริ่มต้นการเจรจาลับๆ โดยตรงกับสมาชิกอาวุโสของกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถานแล้ว

การเจรจาดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการประเมินว่าบุคคลสำคัญในกลุ่มแกนนำของตอลิบานคนใดบ้างที่มีความตั้งใจจะเริ่มการเจรจาสันติภาพอัฟกันอย่างเป็นทางการภายใต้เงื่อนไขต่างๆ

สตีฟ โคล นักข่าวผู้ชนะรางวัลพูลิตเซอร์เขียนรายงานนี้ว่า แหล่งข่าวหลายๆ แหล่ง ซึ่งไม่ได้ถูกระบุชื่อ บอกกับเขาเกี่ยวกับการเจรจาเหล่านั้น

ในวันศุกร์ (18) ที่ผ่านมา ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่ามีเพียงวิธีแก้ปัญหาทางการเมืองเท่านั้นที่จะยุติสงครามในอัฟกานิสถานได้

"เราไม่มีทางที่จะสังหารผู้ก่อการร้ายได้มากพอที่จะยุติสงครามนี้ได้โดยสมบูรณ์" คลินตันกล่าวแถลงในนิวยอร์ก พร้อมแสดงความหวังว่ากลุ่มหัวรุนแรงที่ไม่ใช่ระดับแกนนำของตอลิบาน และอัลกออิดะห์ในอัฟกานิสถานจะแยกออกจากกัน

คลินตันยังเสริมว่า การเพิ่มจำนวนกำลังทหารที่นำโดยสหรัฐฯ ในช่วงปีที่ผ่านมา เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ที่จะแยกกลุ่มตอลิบานออกจากอัลกออิดะห์ เพื่อให้อ่อนกำลังลง และไกล่เกลี่ยกับผู้ที่ปฏิเสธความรุนแรง และยอมรับรัฐธรรมนูญของอัฟกานิสถาน
Around the World - Manager Online -

 

การเมือง : สถานการณ์โลก
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 10:15

ประท้วงอาหรับเขย่านโยบายโลกตะวันตก

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



การประท้วงในโลกอาหรับ ซึ่งเริ่มต้นจากอียิปต์ ก่อนจะลามไปถึงตูนิเซีย บาห์เรน เยเมน และลิเบียกลายเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ รวมถึงโลกตะวันตก
อาลี ฟาโคร นักวิเคราะห์การเมืองในบาห์เรน ระบุว่า ในขณะนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไม่มีผู้นำรายใดในโลกอาหรับ ที่จะรู้สึกสบายใจได้อีกต่อไป โดยวันที่ผู้นำเหล่านี้เคยบริหารประเทศอย่างสุขสบายได้หมดไปแล้ว
ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในดินแดนแห่งนี้ ยังส่งผลกระทบไปถึงการดำเนินนโยบายของชาติตะวันตกด้วย
ถึงจะเป็นประเทศขนาดเล็ก แต่ความสำคัญของบาห์เรนในสายตาของสหรัฐ ก็ยิ่งใหญ่เกินตัว เพราะดินแดนแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นของฝูงเรือหมายเลข 5 แห่งกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งมีความสำคัญในฐานะเครื่องมือถ่วงดุลอำนาจต่อการขยายกำลังทหารของอิหร่านแถบอ่าวเปอร์เซีย


แม้กระทั่งโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นศัตรูตัวฉกาจของแดนอินทรี ก็กำลังเริ่มต้นสานสัมพันธ์กับนานาประเทศ และยังเป็นตัวแปรสำคัญต่อกิจการแถบตะวันออกกลางด้วย
เหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นในประเทศตะวันออกกลางรายนี้ ถือเป็นการสร้างความอับอายให้กับเหล่าพันธมิตรของบาห์เรน อย่างอังกฤษ และสหรัฐ ทั้งยังกดดันให้ประเทศเหล่านี้ต้องมีการปรับการดำเนินนโยบายในภูมิภาคนี้อย่างเร่งด่วน
ฝ่ายอังกฤษนั้น ออกมาประกาศทบทวนใบอนุญาตส่งออกอาวุธให้บาห์เรน ที่อาจจะนำไปสู่การเพิกถอน ถ้าพบว่า มีการละเมิดบรรทัดฐานการนำไปใช้งาน หลังพบว่าประเภทของอาวุธที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อควบคุมฝูงชน มีความคล้ายคลึงกับอาวุธที่ถูกนำไปใช้กวาดล้างผู้ประท้วงอย่างหนักหน่วง และที่สำคัญ คือ ซื้อมาจากบริษัทของอังกฤษ


ข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ และกลุ่มรณรงค์ต่อต้านการค้าอาวุธ แสดงให้เห็นว่า อังกฤษส่งออกอาวุธแบบเดียวกันนี้ไปให้แก่ลิเบีย และกระสุนที่ใช้กับอาวุธชนิดนี้ให้กับบาห์เรน

ส่วนนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ก็ต้องต่อโทรศัพท์สายตรงถึงรัฐมนตรีต่างประเทศของบาห์เรน แสดงความรู้สึกวิตกต่อสถานการณ์ดังกล่าว ซึ่งฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ระบุว่า เป็นการสังหารหมู่ และประกาศจะแก้แค้นให้กับผู้เสียชีวิต และผู้ประท้วงพากันรวมตัวกันใหม่ภายในโรงพยาบาล หลังจากถูกขับไล่ออกจากที่เดิม
เมื่อพิจารณาในหลายๆ ด้านแล้ว เหตุวุ่นวายในบาห์เรน ก็เหมือนกับกระจกสะท้อนการลุกฮือในอียิปต์ ต่างกันตรงที่มีขนาดเล็กกว่าเท่านั้น

บรรดาผู้ประท้วงในบาห์เรน ที่ยึดจัตุรัสใจกลางกรุงมานามา เป็นฐานที่มั่นนั้น เริ่มต้นการชุมนุมด้วยการเรียกร้อง ให้ราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศ ซึ่งเป็นนิกายสุหนี่ ผ่อนคลายอำนาจในการบริหารประเทศ รวมถึงการมอบตำแหน่งระดับสูงในรัฐบาลจำนวนหนึ่ง ให้กับนักการเมืองที่มาจากนิกายชีอะต์ และเปิดโอกาสให้กับชาวชีอะต์ในประเทศมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา การเรียกร้องได้ขยายวงออกไปอย่างชัดเจน โดยผู้ประท้วงจำนวนมากเรียกร้องให้รัฐบาลสร้างงานให้แก่ประชาชนมากขึ้น จัดหาที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าเดิมให้กับประชาชน ปล่อยตัวนักโทษทางการเมืองทั้งหมด และยกเลิกระบบที่เปิดทางให้สัญชาติบาห์เรน แก่ชาวสุหนี่ทั่วตะวันออกกลาง ในความพยายามที่จะลดช่องว่างความแตกต่างกับพลเมืองนิกายชีอะต์ ที่คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 70% ของประชากรทั่วประเทศ

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝ่ายปกครองของบาห์เรน พยายามที่จะถอดชนวนข้อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูป ด้วยการให้คำสัญญาถึงการให้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพครอบครัวละ 2,700 ดอลลาร์ และให้คำมั่นถึงการผ่อนคลายการควบคุมสื่อในประเทศ
ผู้นำในประเทศแถบอ่าวเปอร์เซียรายอื่นๆ ก็นำวิธีที่คล้ายคลึงกันนี้เข้ามาใช้ ในการวางมาตรการป้องกันการประท้วงล่วงหน้า

สุลต่านคาบูส บิน ซาอิด แห่งโอมาน ประกาศเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเพิ่มเพดานอัตราเงินเดือนขั้นต่ำให้กับพนักงานภาคเอกชน จากปัจจุบันที่ราว 365 ดอลลาร์ เป็น 520 ดอลลาร์

ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชี้ว่า เหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้นในอียิปต์ และตูนิเซียช่วงก่อนหน้านี้ แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลชาติตะวันออกกลาง จำเป็นต้องเพิ่มเงินอุดหนุนช่วยเหลือประชาชน แต่ต้องไม่ใช่การอุดหนุนแบบเหวี่ยงแห ซึ่งจะทำให้คนรวยได้รับประโยชน์ไปด้วย
การช่วยเหลือดังกล่าว จะต้องมุ่งเป้าไปยังคนที่มีฐานะยากจนที่สุด ซึ่งเป็นกลุ่มจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งไอเอ็มเอฟ ย้ำว่า การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจจะต้องให้ประโยชน์แก่ทุกคนอย่างทั่วถึง ไม่ใช่เฉพาะคนบางกลุ่มในสังคม

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 19:14
หนี้เสียธ.สเปนสูงสุด15ปี

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



มาดริด - สัดส่วนหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ธนาคารสเปน พุ่งเป็น 5% เดือนธ.ค. หรือสูงสุดในรอบ 15 ปี

ธนาคารกลางสเปนรายงานว่าสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ของธนาคารในสเปน พุ่งเป็น 5.84% หรือ 107,173 ล้านยูโร ในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2538


ธนาคารสเปน โดยเฉพาะธนาคารระดับภูมิภาคที่มีสัดส่วนครึ่งหนึ่งของธนาคารในประเทศ แบกภาระหนี้เสียอย่างหนักตั้งแต่ภาคอสังหาริมทรัพย์ล่มเมื่อปลายปี 2551 การผนวกกิจการในหมู่ธนาคารเมื่อปีที่แล้ว ไม่เพียงพอสร้างความเชื่อมั่นแก่ตลาด และคาดว่ารัฐบาลจะอนุมัติมาตรการเรียกร้องให้ธนาคารต่างๆ หาเงินทุนใหม่ๆ ภายในเดือนก.ย.

˹

 

การเมือง : บทวิเคราะห์
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2554 20:21

'ภูมะเขือ'เสียงปืนรบจะดังอีก-'ฮุน มาเนต'ตัวการ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ทำไมทหารไทยทิ้งฐานภูมะเขือ ปล่อยเขมรยึดไปทั้งๆที่ต้องสร้างกระเช้าส่งทหารมายึด และถ้าถนนจากโกมุยถึงปราสาทเสร็จ ตอนนั้นไทยจะเสียเปรียบยิ่งนัก

ถึงช่วงหน้าแล้งของทุกปี ภูเขาลูกเล็กๆ แห่งนี้จะถูกไฟไหม้เกือบหมด พอเข้าหน้าฝน ดินที่แห้งแล้งได้ความชื้นจากน้ำฝน พืชพรรณต่างๆ ก็โผล่ขึ้นจากพื้นดิน และในจำนวนนี้จะมีต้นมะเขือพันธุ์หนึ่งเกิดขึ้นกระจายเต็มทั้งภูเขามีลักษณะลูกเล็ก ๆ ใหญ่เต็มที่แค่นิ้วหัวแม่มือ บางคนเรียก "มะเขือลาย" ซึ่งเป็นที่มาแห่งชื่อ "ภูมะเขือ"

ในทางยุทธศาสตร์ “เขาพระวิหาร” ชัยภูมิของ"ภูมะเขือ" ทำให้กำลังฝ่ายเขมรได้พอฟัดพอเหวี่ยงกับทหารไทย เนื่องจากเป็นภูสูง เมื่อยึดเป็นที่ตั้งฐานปืนใหญ่ได้ก็รบกับไทยได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

แต่ที่ผ่านมา กว่าที่กัมพูชาจะขึ้นมาบนภูมะเขือได้ จะต้องขึ้นบันไดสูงชันกว่า 936 ขั้น ต่อมา กัมพูชาได้สร้างกระเช้าขึ้น 2 ขนาด ขนาดเล็กบรรทุกได้เที่ยวละ 5 - 10 คน กระเช้าใหญ่บรรทุกได้เที่ยวละ 15 - 20 คน นอกจากนี้ก็บรรทุกลำเลียงเสบียง และอาวุธยุทโธปกรณ์ขึ้นมาด้วย

จุดที่ตั้งของกระเช้า ทหารไทยเรียกว่า “หัวโด่” ส่วนชาวบ้านจะเรียกพลาญหินตรงนั้นว่า “พะลานถ้ำพระ” ซึ่งเป็นลานหินขนาดกว้างใหญ่พอสมควร เมื่อก่อนทหารพรานของไทยเคยตั้งฐานปฏิบัติการ แต่กลับถอนกำลังออกจากบริเวณนั้น อย่างไม่มีเหตุผล

ปัจจุบันทหารช่างกัมพูชากำลังระเบิดหน้าผาเพื่อปรับพื้นที่ตัดถนนจากหมู่บ้านโกมุย ต.กันต๊วจ อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร ขึ้นมาที่ภูมะเขือ ถนนเส้นนี้จะตัดผ่านวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระ มุ่งหน้าไปหาปราสาทพระวิหาร ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อถนนเสร็จแล้ว จะเป็นทั้งถนนเส้นทางเศรษฐกิจที่จะรองรับแผนบริหารจัดการรอบปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ที่กำลังจะได้รับพิจารณาเป็นมรดกโลกในเร็ว ๆนี้ด้วย

ที่สำคัญจะเป็นถนนเส้นยุทธศาสตร์การทหาร ใช้ลำเลียงกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ จากฐานปฏิบัติการที่ใกล้ชายแดนเขาพระวิหาร ซึ่งประกอบด้วย กองพลน้อยสนับสนุนที่ 3 พลโทซะรัย ดึ๊ก เป็น ผบ.พัน กองบัญชาการตั้งอยู่ที่บ้านเปี๊ยะสะแบก ต.กันต๊วด อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร มีกำลังพลประมาณ 3,000 นาย

ถัดไปเป็นกองพลสนับสนุนที่ 7 มีพลตรี วา เซือน เป็น ผบ.พัน กองบัญชาการตั้งอยู่ บ้านกะดล ต.กันต๊วด อ.จอมกระสาน มีกำลังพล 900 นาย และกองพลสนับสนุนที่ 8 มีพลตรี ยึม ปึน เป็นผบ.พัน กองบัญชาการตั้งอยู่ บ้านจารี ต.กันต๊วด มีกำลังพล 1,500 นาย ถัดออกไปอีกจะมี กองพลสนับสนุนที่ 9 มี พล.ต.กล ไว เป็น ผบ.พัน กองบัญชาการตั้งอยู่ ต.ตึ๊กกรอโฮม อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร มีกำลังพลประมาณ 1,000 นาย

"ภูมะเขือ"นอกจากฝ่ายกัมพูชาจะวางกำลังทหารหน่วยหลักประชิดชายแดนไว้แล้ว ยังมีการเสริมกำลังทหารจากหน่วยรบพิเศษ ที่รู้จักกันในนาม "รพศ.911" สวมหมวกเบเรต์ สีเขียว พลโท จ๊าบ เพียะกะเด็ย เป็น ผบ.พัน กำลังพลประมาณ 1,600 นาย ก็ได้รับคำสั่งให้เสริมกำลังเข้ามาสนับสนุนภารกิจชายแดนเขาพระวิหารด้วยเช่นกัน

ที่น่าจับตาต้องเป็น กองพลน้อยรักษาความปลอดภัย 70 (รปภ.70) เดิมมี พลเอกเฮิง บุญเฮง ที่ปรึกษาส่วนตัวสมเด็จฮุน เซน เป็น ผบ.พล ปัจจุบันถูกแทนที่ด้วย พลโทฮุน มาเนต ลูกชายคนโตของสมเด็จฮุน เซน อายุเพียง 33 ปีขึ้นมากุมกำลัง รปภ.70 ที่มีอยู่กำลังพลประมาณา 6,000 นาย เรียกว่าเป็นฐานกำลังองครักษ์ที่เข้มแข็งมาก

ข่าววงในกองทัพกัมพูชาเปิดเผยว่า นี่เป็นชนวนให้นายทหารรุ่นเก่าแก่ ที่เคยรบเคียงบ่าเคียงไหล่สมเด็จฮุน เซน ไม่พอใจ พลโทฮุน มาเนต อย่างมากที่ถูกข้ามหัว ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุให้กองทัพกัมพูชาระส่ำระสายพอสมควร

นักรบสังกัด รปภ.70 ได้รับฉายา “นักรบกำเปรี๊ยะ” ขึ้นตรงกับสมเด็จฮุน เซน เกือบทั้งหมดเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่ตายจากภัยสงคราม สมเด็จฮุน เซน ได้เก็บเด็กเหล่านั้นมาชุบเลี้ยง ส่งเสียให้เรียนวิชาทหารและการรบทุกรูปแบบเพื่อทำหน้าที่อารักขาสมเด็จฮุน เซนกับครอบครัวโดยเฉพาะ ดังนั้น ทหารพวกนี้จึงพร้อมจะถวายชีวิตทุกเมื่อ

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุด้วยว่า ภายหลังการเจรจาหยุดยิงเมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา ระหว่างพลโทธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กับ พลเอกเจีย มอน แม่ทัพภูมิภาคที่ 4 พลโทซะรัย ดึ๋ก ผบ.พล.สสน.ที่ 3 ของกัมพูชา ที่ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ คล้อยหลังการเจรจาหยุดยิงไม่กี่ชั่วโมง เสียงปืนก็ดังขึ้นอีกที่บริเวณภูมะเขือ จากนั้นก็เปิดฉากปะทะด้วยปืนใหญ่อย่างหนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์

คำถาม ทำไมกัมพูชาถึงล้มโต๊ะเจรจา? สรุปก็คือเป็นฝีมือของ “นักรบกำเปรี๊ยะ” บัญชาการโดยลูกชายหัวแก้วหัวแหวนทายาททางทหารและทางการเมือง นี่เอง แต่สำหรับนายทหารรุ่นเก่าแก่ รู้ว่าไม่มีประโยชน์จะรบกับทหารไทย เพราะมีแต่จะสูญเสีย

แต่ พลโทฮุน มาเนต ไม่คิดอย่างนั้น เขากลับเติมเชื้อไปสงครามด้วยการสั่ง“นักรบกำเปรี๊ยะ” ยิงยั่วยุฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อต้องการให้ไทยเปิดฉากยิงโต้ตอบกลับไปให้เกิด “สงครามเต็มรูปแบบ” เหตุผลส่วนตัวคือต้องการโชว์พาว ศักยภาพของตัวเองให้สมเด็จบิดาเชื่อมั่นความสามารถว่า จะควบคุมกองทัพสืบทอดอำนาจจากเขาได้ เหตุผลรองมาคือเมื่อเกิดสงครามขึ้นแล้ว จะเรียกร้องความเห็นใจจากประเทศพี่ใหญ่ ว่าถูกไทยรังแก และเข้ามาสนับสนุนการสู้รบ

ขณะเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน ก็จะได้คะแนนเสียงในการเลือกตั้งสมัยหน้าที่ใกล้จะถึงอย่างท่วมท้น ในฐานะทำสงครามปกป้องการรุกรานจากประเทศไทยที่ใหญ่กว่า

วันนี้ ข้อพิพาทระหว่างไทย - กัมพูชา ไม่ใช่เรื่องทวิภาคีแล้ว ได้ขยับไปถึงเวทีโลกแล้ว ภายใต้ข้อเรียกร้องของสหประชาชาติให้ทั้งสองประเทศหยุดยิง แล้วหันหน้ามาเจรจากันด้วยสันติวิธี แต่ฝ่ายกัมพูชายังไม่บรรลุจุดประสงค์ จึงคงยั่วยุไม่หยุด จากนี้ต้องขึ้นกับฝ่ายไทยว่า จะใช้ความสงบ สยบความเคลื่อนไหว ไปได้นานสักแค่ไหน

'

 

ปีนี้ไทม์ แม็กกาซีน จัดอันดับ 10 สถานที่ชุมนุมประท้วงที่โด่งดังที่สุดในโลก ดังนี้
อันดับ 1. Tahrir Square กรุงไคโร ประเทศอียิปต์


เริ่มเมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาคงไม่มีเหตุการณ์ใดที่คนทั่วโลกให้ความสนใจมากเท่ากับการชุมนุมประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคแห่งอียิปต์ หลังจากที่ครองอำนาจมานานกว่า 30 ปี โดยการชุมนุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมนับแสนคน ซึ่งพวกเขาขอร้องให้นายมูบารัคก้าวลงจากตำแหน่งและเปิดโอกาสให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย

อันดับ 2. Tiananmen Square กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน


ในปี 2532 นักศึกษาชาวจีนร่วมชุมนุมกันที่จัตุรัสแห่งนี้ เพื่อต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์ เรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ มีผู้เข้าร่วมชุมนุมนับแสนคน มีผู้เสียชีวิตประมาณ 2,500 คนบาดเจ็บ 7,000-10,000 คน แต่การประท้วงนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

อันดับ 3. Wenceslas Square กรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก


ในปี 2532 เกิดการปฏิวัติกำมะหยี่ หรือ The Velvet Revolution ซึ่งการปฏิวัติครั้งนี้ไม่มีการเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเป็นการโค่นล้มรัฐบาลคอมมิวนิสต์ ที่ครองอำนาจในเช็กมานานกว่า 40 ปีอีกด้วย

อันดับ 4. Azadi Square กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน


ในปี 2522 เกิดการปฏิวัติอิสลามในประเทศอิหร่านเพื่อโค่นล้มราชวงศ์ชาห์ จากนั้น อะยาโตลอฮ์ รุโฮลาห์ โคไมนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะต์ ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองอิหร่านเป็นสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน โดยใช้หลักการทางศาสนาอิสลามเป็นแนวทางในการปกครองประเทศ

อันดับ 5. Place de la Bastille กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส


การปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 2332 ทำให้คุกบาสตีย์เป็นที่รู้จักของคนทั้งโลก เพราะสถานที่แห่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติโค่นล้มสถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศสและสถาปนาสาธารณรัฐ อีกทั้งยังเป็นจุดหักเหในประวัติศาสตร์การปกครองของยุโรปอีกด้วย

อันดับ 6. Plaza de las Tres Culturas กรุงเม็กซิโก ซิตี้ ประเทศเม็กซิโก



ในปี 2460 เกิดการสังหารหมู่ตลาเตลอลโก โดยตำรวจและทหารได้กราดกระสุนใส่กลุ่มนักศึกษาที่เดินขบวนต่อต้านรัฐบาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และอีกนับพันคนที่ถูกทางการจับตัวไป


อันดับ 7. Decembrists’ Square เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย


ในปี 2460 จัตุรัสแห่งนี้ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองของรัสเซียจาก ระบอบกษัตริย์มาเป็นคอมมิวนิสต์ ภายใต้การนำของเลนิน ผู้นำพรรคบอลเชวิก

อันดับ 8. Trafalgar Square กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ


จัตุรัสแห่งนี้โด่งดังมาจากเหตุการณ์ Bloody Sunday ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2515 โดยเป็นเหตุการณ์ที่ทหารของรัฐบาลอังกฤษสังหารพลเรือนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีการยิงปืนใส่ผู้ชุมนุม 27 คน เป็นเหตุให้ 13 คนเสียชีวิตทันที อีกหนึ่งคนเสียชีวิตในอีกสี่เดือนกว่าถัดมา

อันดับ 9. Independence Square กรุงเคียฟ ประเทศยูเครน


การปฏิวัติสีส้มในปี 2547 ทำให้จัตุรัสแห่งนี้เป็นที่รู้จักของชาวโลก เมื่อชาวยูเครนหลายหมื่นคนรวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ หลังจากนาย วิคเตอร์ ยานูโควิช คู่แข่งสำคัญซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ชนะการเลือกตั้งนาย วิคเตอร์ ยูชเชนโก้ อย่างน่ากังขา ซึ่งการประท้วงผลการเลือกตั้งประสบความสำเร็จ เมื่อศาลสูงยูเครนตัดสินให้มีการเลือกตั้งใหม่และนายยูชเชนโก้ก็ชนะอย่าง เด็ดขาด ด้วยคะแนนเสียงถึงร้อยละ 52

อันดับ 10. Union Square นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ



โดยในปี 2404 ชาวอเมริกันกว่า 100,000 คนมารวมตัวกันในช่วงสงครามกลางเมือง ซึ่งแม้ว่าเวลาจะผ่านมากว่า 150 ปีแล้ว แต่ดูเหมือนว่าการชุมนุมครั้งนั้นจะเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ

ขบวนการเสรีไทยเว็บบอร์ด &bull; View topic - ขอความรู้เรื่องการเมืองอียิปต์หน่อยครับ

 

ฝ่ายค้านบาห์เรนบีบรัฐบาลต้องลาออกก่อนจะยอมเจรจา

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2554 15:56 น.



รถถังของทางกองทัพบาห์เรนประจำการตามท้องถนนในกรุงมานามา

เอเอฟพี - พรรคฝ่ายค้านหลักของบาห์เรนยืนกราน รัฐบาลต้องลาออก ขณะที่กองทัพต้องถอนกำลังออกจากท้องถนนในเมืองหลวง ก่อนที่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงจะยอมรับข้อเสนอการเจรจาจากราชวงศ์

"ถ้าคิดจะเจรจา รัฐบาลต้องลาออกก่อน และกองทัพก็ควรถอนกำลังออกไปจากท้องถนนในกรุงมานามา" อับดุล จาลิล คอลิล อิบรอฮิม ผู้นำสมาคมข้อตกลงแห่งชาติอิสลาม (ไอเอ็นเอเอ) หรืออัลเวฟัก ซึ่งเป็นฝ่ายค้านหลักในรัฐสภากล่าว

"สิ่งที่เรามองเห็นอยู่ในตอนนี้ไม่ใช้ภาษาของการเจรจา แต่เป็นภาษาของการใช้กำลัง" เขากล่าวโดยอ้างถึงการปราบกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงโดยรัฐบาลในวันศุกร์ (18) ซึ่งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 95 คน และในจำนวนนั้น 3 รายมีอาการปางตาย

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงดังกล่าวผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์กับกษัตริย์ฮาหมัด ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญของวอชิงตันในภูมิภาคตะวันออกกลาง

สมาชิกรัฐสภาระดับสูงของไอเอ็นเอเอคนดังกล่าวชี้ว่า ข้อเสนอในการเจรจาของเจ้าผู้ครองนครบาห์เรนนั้นไม่จริงจัง และเร่งเร้าให้ทางการดำเนินมาตรการที่จริงจัง และจริงใจ ซึ่งสนองความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน

"สถานการณ์ขณะนี้ซับซ้อน และผมเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมได้" อิบรอฮิมกล่าวเตือน โดยที่พรรคของเขา ซึ่งครองที่นั่งในสภา 18 ที่นั่งจากทั้งหมด 40 ที่นั่ง เริ่มต้นการประท้วง


ผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนหลังถูกรัฐบาลใช้กำลังเข้าสลายม็อบ



กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลก็ออกมาเดินขบวนชุมนุมกันในวันนี้ (19)

Around the World - Manager Online -

 

Feb 16 2011, 7:25 AM
yim (guest): G20 Pushes Globalist SDR and China’s Role G20 Pushes Globalist SDR and China’s Role

G20 Pushes Globalist SDR and China’s Role

Feb 16 2011, 7:28 AM
yim (guest): 21 Signs That The Once Great U.S. Economy Is Being Gutted, Neutered, Defanged, Declawed And Deindustrialized

21 Signs That The Once Great U.S. Economy Is Being Gutted, Neutered, Defanged, Declawed And Deindustrialized

Feb 16 2011, 9:24 AM
Guest858 (guest): Precious Metals: 10 Things To Know Before Jumping Into Gold And Silver Precious Metals: 10 Things To Know Before Jumping Into Gold And Silver

Precious Metals: 10 Things To Know Before Jumping Into Gold And Silver

Feb 17 2011, 7:00 PM
yim (guest): David Morgan Video about Fake Gold and Silver Bars Sherrie Questioning All: Tungsten UP 70% in value - David Morgan Video about Fake Gold and Silver Bars - How to tell

Sherrie Questioning All: Tungsten UP 70% in value - David Morgan Video about Fake Gold and Silver Bars - How to tell

Feb 17 2011, 7:01 PM
yim (guest): ..Sherrie Questioning All - My Interview with Roger Wiegand regarding RED ALERT Email about Confiscation of Gold Possibility this Year for a New World Currency.. Sherrie Questioning All: My Interview with Roger Wiegand regarding RED ALERT Email about Confiscation of Gold Possibility this Year for a New World Currency

Feb 17 2011, 8:16 PM
yim (guest): Shortages! Is The World Really Running Out Of Food, Water And Oil? Shortages! Is The World Really Running Out Of Food, Water And Oil?

....."The Gold War phase II" by Jimmy Siri

 

การเมือง : สถานการณ์โลก

วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2554 19:37

<!-- End Content Header -->บาห์เรนถอนรถถังจากถนน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
<!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT><!-- Media Picture content --><!-- Begin More Pics-->

มกุฎราชกุมารบาห์เรน มีรับสั่งให้ถอนทหารออกจากท้องถนนทั่วประเทศ เปิดทางเจรจาทุกกลุ่ม

บาห์เรนเริ่มนำรถถังออกจากจตุรัสเพิร์ลในกรุงมานามา หลังจากเชคซัลมาน บิน ฮาหมัด อัล-คาลิฟา มกุฎราชกุมาร ทรงสั่งให้ถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากท้องถนนของบาห์เรนทันที พร้อมรับสั่งว่าตำรวจจะทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยต่อไป
"สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในบาห์เรนเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ เรามาถึงจุดอันตรายที่จำเป็นที่แต่ละคนต้องยอมรับถึงความรับผิดชอบ บาห์เรนทุกวันนี้กำลังแตกแยก" เจ้าชายรับสั่ง
ในแถลงการณ์จากสำนักพระราชวังนั้น กษัตริย์ฮาหมัดทรงมอบหมายให้เจ้าชายซัลมานเริ่มเจรจากับทุกฝ่ายและทุกกลุ่มในประเทศ โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ฝายค้าน ซึ่งเป็นชาวชีอะต์ ปฏิเสธที่จะเจรจากับผู้ปกครองประเทศที่เป็นสุหนี่ จนกว่าจะมีการถอนกำลังรถถังออกจากถนน และกองทัพหยุดยิงผู้ประท้วง
เมื่อวันศุกร์ กองกำลังรักษาความมั่นคงเปิดฉากยิงเข้าใส่ผู้ประท้วงในเมืองหลวง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 55 คน ขณะที่ผู้ประท้วงพยายามเดินไปยังจตุรัสเพิร์ล
ด้านทำเนียบขาวแถลงว่าประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับกษัตริย์ฮาหมัด และประนามการใช้กำลังกับผู้ประท้วงอย่างสงบ พร้อมขอให้รัฐบาลบาห์เรนอดกลั้น รวมถึงนำตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงไปรับโทษ นอกจากนั้น โอบามายังกล่าวว่าเสถียรภาพของบาห์เรนขึ้นอยู่กับการเคารพสิทธิของชาวบาห์เรน และกระบวนการปฏิรูปที่ตอบสนองความต้องการของชาวบาห์เรนทั้งหมด
ทั้งนี้ บาห์เรนมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐ เพราะเป็นที่ตั้งของกองเรือที่ 5 อีกทั้งน้ำมัน 40% ในโลกยังไหลผ่านอ่าวเปอร์เซีย

 

ยอดตาย “ลิเบีย” พุ่งเกิน 80 ศพ รบ.ปิดกั้นทั้ง “อินเทอร์เน็ต-เฟซบุ๊ก”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2554 11:33 น.



มูอัมมาร์ กัดดาฟี ประธานาธิบดีลิเบีย วัย 68 ปี

เอเอฟพี - ทางการลิเบียจับชาวอาหรับต่างชาตินับสิบคนด้วยข้อหาปลุกปั่นให้เกิดการล้มล้างรัฐบาล ท่ามกลางกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงได้สังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 คน





สำนักข่าวญานาของลิเบีย รายงานว่า ชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมในหลายเมืองเป็น “เครือข่ายต่างชาติที่ถูกฝึกมาให้ทำลายความมั่นคงภายในลิเบีย ตลอดจนความสงบสุขและความเป็นเอกภาพในชาติ” พร้อมชี้เป็นนัยว่าผู้บงการอยู่เบื้องหลังก็คือ อิสราเอล

ชาวต่างชาติซึ่งเป็นพลเมืองตูนีเซีย, อียิปต์, ซูดาน, ปาเลนไสต์, ซีเรีย และตุรกี ถูกแจ้งข้อหา “ยั่วยุให้ประชาชนปล้นชิงและทำลายสถานที่ต่างๆ เช่น โรงพยาบาล, ธนาคาร, ศาล, เรือนจำ, สถานีตำรวจ, สำนักงานตำรวจทหาร และทรัพย์สินของเอกชนอื่นๆ ซึ่งเป็นแผนที่มีการวางไว้ล่วงหน้า” สำนักข่าวญานา เผย

สำนักข่าวแห่งชาติของลิเบียยังระบุด้วยว่า “แหล่งข่าวใกล้ชิดกระบวนการสอบสวนยังไม่ตัดความเป็นไปได้ว่า อิสราเอลจะอยู่เบื้องหลังขบวนการนี้”

องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์วอตช์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ความมั่นคงสังหารผู้ประท้วงไปแล้วกว่า 80 รายทางภาคตะวันออกของลิเบีย ซึ่งรัฐบาลอังกฤษประณามว่าเป็นการกระทำที่โหดร้ายน่ากลัวอย่างยิ่ง

หลังจากที่ผู้ประท้วงใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก เพื่อแสวงหาแนวร่วมเช่นเดียวกับในอียิปต์ รัฐบาลลิเบียจึงได้ปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าวแล้ว ส่วนการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็ทำได้ยากลำบากทั้งในเมืองตริโปลีและเบนกาซี

แหล่งข่าวภายในโรงพยาบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้สังหารประชาชนในเมืองเบนกาซีไป 35 คนเมื่อวันศุกร์ (18) โดยเกือบทั้งหมดถูกยิงด้วยกระสุนจริง ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้มากกว่า 80 คนแล้ว ฮิวแมนไรต์วอตช์ เผย

ด้าน อับเดลราห์มาน อัล-อับบาร์ รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมลิเบีย สั่งให้สอบสวนเหตุเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมทางภาคตะวันออกของประเทศแล้ว เจ้าหน้าที่ในเมืองตริโปลีซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุ

หนังสือพิมพ์กูรีนาของลิเบีย รายงานว่า เกิดเหตุนักโทษแหกคุกกว่า 1,000 คนที่เรือนจำเมืองเบนกาซี ซึ่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงระบุว่า มีนักโทษถูกยิงเสียชีวิต 4 คนขณะพยายามหลบหนี

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประณามการใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุมโดยสันติในลิเบีย, บาห์เรน และ เยเมน ขณะที่อังกฤษ, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป ต่างก็เรียกร้องให้รัฐบาลลิเบียยุติความรุนแรงต่อประชาชน


ผู้สนับสนุนการประท้วงในลิเบียมารวมตัวกันที่สวนสาธารณะลาฟาแย็ตต์หน้าทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน วานนี้(19)

ประชาชนในเมืองราบัตของโมร็อกโก ชูป้ายสนับสนุนการประท้วงโค่นล้ม กัดดาฟี ในลิเบีย วานนี้(19)

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000022370

 

สหรัฐฯหารือมกุฎราชกุมาร “บาห์เรน”-แนะปฏิรูปการเมืองยุติม็อบ

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2554 10:19 น.



มกุฎราชกุมาร ซัลมาน บิน ฮามาด อัล คอลีฟา แห่งบาห์เรน

เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯต่อโทรศัพท์สายตรงถึงมกุฎราชกุมารแห่งบาห์เรนวานนี้(19) เพื่อขอให้ทรงเคารพสิทธิมนุษยชน และดำเนินการปฏิรูปการเมืองอย่างมีนัยยะสำคัญเพื่อยุติการประท้วง ทำเนียบขาวเผย

ทอม โดนิลอน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐฯ ได้สนทนากับมกุฎราชกุมาร ซัลมาน บิน ฮามาด อัล-คอลีฟา แห่งบาห์เรนทางโทรศัพท์ หลังจากประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวประณามการปรามปรามผู้ประท้วงในบาห์เรนอย่างรุนแรงเพียง 1 วัน

“โดนิลอน ได้ย้ำคำประณามของประธานาธิบดีเกี่ยวกับการใช้กำลังปราบปรามประชาชนที่ชุมนุมโดยสันติ และแสดงการสนับสนุนนโยบายที่องค์มกุฎราชกุมารทรงมีคำสั่งใช้ เพื่อยับยั้งความรุนแรงและเปิดทางเจรจา” แถลงการณ์ทำเนียบขาว ระบุ

ก่อนหน้านี้ ตำรวจและทหารได้ออกจากที่ชุมนุมบริเวณจตุรัสเพิร์ลในกรุงมานามา เพื่อเป็นการโอนอ่อนแก่ผู้ชุมนุม ภายหลังมกุฎราชกุมารยังทรงสั่งให้เจ้าหน้าความมั่นคงอยู่ห่างจากผู้ประท้วง และขอร้องให้พวกเขาเดินทางกลับบ้าน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนทางการเมืองที่ทุกฝ่ายจะมีส่วนร่วม สำนักข่าว บีเอ็นเอ ของบาห์เรนรายงาน

บาเรนห์ซึ่งเป็นพันธมิตรกับโลกตะวันตก และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในภูมิภาคอ่าวอาหรับ ต้องเผชิญแรงกดดันจากกลุ่มฝ่ายค้านชีอะห์ที่เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก ก่อนที่จะยอมเจรจากับพระราชวงศ์

“ในฐานะประเทศพันธมิตรที่ยาวนานของบาห์เรน สหรัฐฯเชื่อว่าความมั่นคงภายในบาห์เรนจะต้องมาจากการเคารพสิทธิพลเมือง และการปฏิรูปอย่างมีนัยยะสำคัญที่ตอบสนองความคาดหวังของชาวบาห์เรนทุกกลุ่ม” แถลงการณ์ทำเนียบขาว ระบุ

วานนี้(19) แคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป ขอให้บาห์เรนเริ่มการเจรจากับผู้ประท้วงโดยไม่รีรอ และกล่าวว่าเธอรู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อการปราบปรามผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง

ด้าน วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กล่าวถึงเหตุการณ์ในลิเบียว่า การที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุมเป็นสิ่งที่รับไม่ได้และน่าตกใจอย่างยิ่ง พร้อมขอให้ทางการลิเบียงดใช้ความรุนแรงกับประชาชน

Around the World - Manager Online -

 

นที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 12:58
จี20บรรลุข้อตกลงแก้ความไม่สมดุลทางศก.

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ที่ประชุมรมต.คลัง-ผู้ว่าฯแบงก์ชาติจี 20 บรรลุข้อตกลงแก้ไขความไม่สมดุลทางศก.
คริสติน ลาการ์ด รัฐมนตรีคลังของฝรั่งเศส แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมระดับรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มจี 20 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสว่า ที่ประชุมได้ข้อตกลงร่วมกัน เรื่องการกำหนดดัชนีชี้วัดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจประกอบด้วย 1.หนี้สินสาธารณะและการขาดดุลงบประมาณ 2.ระดับเงินออมและหนี้ภาคเอกชน 3.ดุลบัญชีเดินสะพัดหรือดุลการค้า และ 4.สำรองเงินตราต่างประเทศหรืออัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

อย่างไรก็ตาม ใน 2 ปัจจัยหลังมีการถกเถียงกันอย่างหนัก โดยจีน คัดค้านในประเด็นค่าเงินและยอดเกินดุลการค้า เพราะกลัวว่าชาติตะวันตกจะใช้เป็นข้ออ้างในการกดดันให้จีนลดค่าเงินหยวน ที่ชาติเหล่านั้นมองว่า อ่อนค่าเกินจริงทำให้จีนได้เปรียบดุลการค้าจำนวนมหาศาล

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของที่ประชุม ยังระบุในแถลงการณ์ว่า จะพิจารณาดุลการค้าในภาพกว้างประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยน และนโยบายอื่นๆควบคู่กันไป

การกำหนดดัชนีชี้วัดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อหาหนทางแก้ไขความไม่สมดุลของดุลการค้าและค่าเงิน อันเป็นต้นเหตุของวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 และข้อตกลงที่ได้เป็นเพียงการกำหนดแนวทางในการลดสัดส่วนที่ไม่สมดุลของดัชนีชี้วัดเหล่านี้

ฝรั่งเศส ตั้งเป้าว่าจะบรรลุข้อตกลงให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)สามารถแนะนำนโยบายแก่ชาติต่างๆได้ในช่วงครึ่งปีหลัง

 

การเมือง : สถานการณ์โลก
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 14:10
ขรก.รัฐวิสคอนซินประท้วงค้านแผนตัดลดงบ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


ขรก.รัฐวิสคอนซินประท้วงค้านแผนตัดลดบำนาญและจำกัดอำนาจต่อรองของสหภาพขรก.

ผู้ประท้วงราว 65,000 คนเดินขบวนไปยังสภาท้องถิ่นรัฐวิสคอนซินในเมืองเมดิสัน วานนี้ (20ก.พ.)ซึ่งเป็นการชุมนุมวันที่ 5 เพื่อคัดค้านแผนของนายสก็อต วอล์กเกอร์ ผู้ว่าการรัฐจากพรรครีพับลิกัน ที่จะจำกัดอำนาจต่อรองของสหภาพข้าราชการ เพื่อให้สามารถผลักดันมาตรการตัดลดบำนาญและสวัสดิการต่างๆของข้าราชการได้ง่ายขึ้น โดยผู้ว่าการรัฐยืนยันว่า การตัดลดค่าใช้จ่ายดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของการบรรเทาภาระงบประมาณ ที่ประสบปัญหาขาดดุลในขณะนี้ ขณะที่ผู้สนับสนุนของผู้ว่าการรัฐก็ออกมาเดินขบวนด้วยแต่มีจำนวนน้อยกว่า และไม่ได้เกิดการปะทะกัน

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงได้ตั้งแคมป์ปักหลัก บริเวณโดมใจกลางเมืองตั้งแต่วันอังคาร และยืนยันจะไม่ไปไหน บางคนบอกด้วยว่าได้แรงบันดาลใจจากการชุมนุมในอียิปต์

นอกจากนี้ มีรายงานว่า วุฒิสมาชิกของสภารัฐวิสคอนซินจากพรรคเดโมแครต 14 คน หลบหนีออกจากเมืองไปซ่อนตัวตั้งแต่วันพฤหัสบดี (17ก.พ.)เพื่อขัดขวางไม่ให้สภาของรัฐ จัดประชุมพิจารณาร่างกฏหมายตัดลดบำนาญและสิทธิประโยชน์ของข้าราชการ ตลอดจนลดอำนาจต่อรองของสหภาพข้าราชการ

ขณะเดียวกัน มีอีกอย่างน้อย 9 รัฐ รวมถึงโอไฮโอ อินเดียน่า และมิชิแกน ที่กำลังพิจารณาตัดสิทธิในการเจรจาต่อรองของข้าราชการ

 

การเมือง : สถานการณ์โลก
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2554 13:08
ฝ่ายค้านลิเบียเตือนอาจเกิดนองเลือดใหญ่วอนโลกแทรกแซง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ฝ่ายค้านลิเบียเตือนอาจเกิดนองเลือดใหญ่วอนโลกเข้าแทรกแซงหลังม็อบตายเฉียดร้อย
ทางการลิเบียใช้กำลังสลายผู้ประท้วงที่ชุมนุมขับไล่ผู้นำเผด็จการอย่างรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตเกือบร้อยคน และฝ่ายค้านเตือนว่าจะเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่หากนานาชาติไม่เข้าช่วยเหลือ

การชุมนุมประท้วงที่เป็นการท้าทายอำนาจของพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียวัย 68 ปี ที่ปกครองประเทศยาวนานถึง 42 ปีดำเนินเข้าสู่วันที่ 5 วานนี้ (20ก.พ.)โดยจุดที่มีการชุมนุมใหญ่อยู่ในเมืองเบนกาซี เมืองใหญ่อันดับ 2 และเป็นฐานสำคัญของฝ่ายต่อต้านกัดดาฟี ตำรวจได้ยิงใส่ฝูงชนที่ร่วมงานศพของผู้ประท้วงทำให้มีผู้เสียชีวิตอีก 15 คน ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตจากการปราบปรามผู้ประท้วงตลอดหลายวันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 99 คน

กลุ่มฝ่ายค้านพลัดถิ่น เตือนว่า กองกำลังรัฐบาลเตรียมปฏิบัติการกวาดล้างทั้งในเมืองเบนกาซีและอีกหลายเมืองที่มีการชุมนุมในขณะนี้ และคาดว่าจะเกิดการสังหารหมู่ ที่จะทำให้เกิดการนองเลือดในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า จึงส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือถึงประชาคมโลกให้เข้าช่วยยับยั้ง

ผู้ชุมนุมลิเบียเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ระบอบประชาธิปไตย และยกเลิกคำสั่งห้ามจัดตั้งพรรคการเมือง โดยผู้ประท้วงได้แรงบันดาลใจจากความสำเร็จของการประท้วงโค่นล้มผู้นำเผด็จการในตูนิเซียและอียิปต์ แต่การชุมนุมในลิเบียแตกต่างจากสองประเทศที่มีกลุ่มวัยหนุ่มสาวเป็นแกนนำ ขณะที่ผู้ชุมนุมในลิเบีย มีทั้งนักกฎหมาย แพทย์ และผู้พิพากษา

 

ผู้นำสูงสุดอิหร่านขอให้ชาวมุสลิมช่วยกันกำจัดสหรัฐออกจากโลกมุสลิม




​

เตหะราน 21 ก.พ.- อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เรียกร้องชาวมุสลิมให้ช่วยกันกำจัดสหรัฐออกจากโลกมุสลิม

คาเมเนอี กล่าวต่อนักวิชาการชีอะห์ และสุหนี่ ในการประชุมระหว่างประเทศเรื่องอิสลามที่กรุงเตหะรานว่า ปัญหาหลักในโลกมุสลิมคือ การปรากฏอยู่ของสหรัฐ จึงจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการขจัดสหรัฐออกไป ขณะนี้สหรัฐซึ่งเป็นปรปักษ์ตัวฉกาจของอิหร่านเริ่มอ่อนแอลงแล้ว คาเมเนอี เรียกร้องชาวมุสลิมทั่วโลกช่วยกันปกป้องการเคลื่อนไหวของประชาชนชาวอียิปต์เพราะเป็นหน้าที่ของชาวมุสลิม ชาติอาหรับและชุมชนมุสลิมทั้งปวง

ผู้นำสูงสุดอิหร่านย้ำว่า ศัตรูพยายามบอกว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนในโลกอาหรับขณะนี้ไม่ใช่สิ่งที่เป็นอิสลาม แต่แท้จริงแล้วใช่และจะต้องได้รับการส่งเสริมให้แข็งแกร่ง รวมทั้งขอให้ชาวมุสลิมต่อต้านการสุมหัวของกลุ่มปรปักษ์ที่พยายามสร้างความแตกแยกระหว่างมุสลิมชีอะห์และสุหนี่.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐ ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนโค่นล้ม




​

สหรัฐ 20 ก.พ.-ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐ ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนโค่นล้ม ขณะที่ทางการเตรียมหาต้นใหม่มาปลูกทดแทนแล้ว

ต้นคริสต์มาสประจำชาติของสหรัฐความสูงเกือบ 13 เมตร ซึ่งปลูกอยู่ในสวนสาธารณะดิ เอลิปซ์ ทางใต้ของทำเนียบขาว ถูกกระแสลมแรงจัดพัดจนหักโค่นลงมา โฆษกอุทยานแห่งชาติสหรัฐเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางการได้มีการคัดเลือกต้นคริสต์มาสต้นใหม่ที่จะนำมาปลูกแทนต้นเก่าแล้ว แต่ไม่ได้เปิดเผยถึงแหล่งที่มา สำหรับต้นคริสต์มาสที่เพิ่งล้มไปนั้นได้มาจากการบริจาคของสามีภรรยาจากรัฐเพนซิลเวเนีย ถูกนำมาปลูกไว้ที่สวนสาธารณะดิ เอลิปซ์ ตั้งแต่ปี 2521.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

เกิดเหตุวุ่นวายในเมืองหลวงของลิเบีย




​

ตริโปลี 21 ก.พ.-ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ได้ยินเสียงปืนยิงรุนแรงบริเวณใจกลางกรุงตริโปลีของลิเบียและพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อค่ำวันอาทิตย์ ตามเวลาท้องถิ่น

ชาวบ้านคนหนึ่งเผยว่า ได้ยินเสียงผู้ประท้วงขับไล่รัฐบาลและเสียงเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงยิงแก๊สน้ำตาเพื่อสลายฝูงชน ส่วนชาวต่างชาติที่ทำงานในลิเบียเผยว่า ผู้ประท้วงตามท้องถนนพากันขว้างปาก้อนหินใส่ป้ายรูปภาพขนาดใหญ่ของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาไปทั่วทุกแห่งและมีบางส่วนกระเด็นเข้าไปในบ้านเรือนประชาชน ด้านกลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ในสหรัฐประเมินว่า เหตุปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจในลิเบียตลอด 4 วันที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 233 คน แหล่งข่าวในเมืองเบงกาซี เมืองใหญ่อันดับสองของลิเบีย เผยว่ามีผู้ถูกสังหาร 60 คน เมื่อวานนี้

หัวหน้าเผ่าอัลซูเวย์ยา ทางตะวันออกของลิเบีย ขู่ผ่านสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา ว่าจะระงับการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศตะวันตกภายใน 24 ชั่วโมง หากทางการไม่ยุติการปราบปรามผู้ประท้วง อัลจาซีรารายงานด้วยว่า ผู้แทนลิเบียประจำสันนิบาตอาหรับได้ยื่นหนังสือลาออกเพื่อประท้วงการปราบปรามใช้กำลังกับผู้ประท้วง.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

เหตุปะทะรุนแรงในลิเบีย ประชาชนต้องหนีภัยไปอียิปต์




​

ลิเบีย 21 ก.พ.- เหตุประท้วงปะทะรุนแรงในลิเบีย ทำให้ประชาชนต้องอพยพหนีภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หลายคนเผยว่าทหารฆ่าประชาชนจำนวนมาก

ในขณะที่การปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงกับกองกำลังทหารตำรวจยังดำเนินต่อไปอย่างรุนแรง ในพื้นที่ตอนเหนือของลิเบีย ชาวบ้านต่างพากันอพยพหนีตายเข้าไปยังอียิปต์ ประเทศเพื่อนบ้าน ผู้อพยพหลายคนเผยว่า ประชาชนในเมืองเบงกาซีจำนวนมากถูกทหารยิงเข้าที่ศีรษะ หรือหน้าอก อย่างไม่เลือกหน้า ทั่วเมืองเต็มไปด้วยศพ เกลื่อนกลาด ขณะที่บางคนเผยว่ารัฐบาลงดจ่ายน้ำและไม่มีอาหารยังชีพ

ด้านสำนักข่าวอนาโตเลีย รายงานว่า ชาวตุรกีเกือบ 300 คน ซึ่งอยู่ในลิเบีย ต่างพากันอพยพกลับบ้านเกิดด้วยเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยเที่ยวบินแรกถึงนครอิสตันบูล เมื่อวันอาทิตย์.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

ผู้นำลิเบียปรากฏตัวทางทีวี ท่ามกลางสถานการณ์ประท้วง




​

ลิเบีย 21 ก.พ.-ผู้นำลิเบียปรากฏตัวทางโทรทัศน์ ท่ามกลางการชุมนุมของผู้สนับสนุนในหลายจุดทั่วกรุงตริโปลี

สถานีโทรทัศน์ของทางการลิเบีย เผยแพร่ภาพของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย รวมไปถึงภาพกลุ่มผู้สนับสนุนนายกัดดาฟีตามสถานที่ต่าง ๆ การเผยแพร่ภาพดังกล่าวมีขึ้นหลังกองทัพลิเบียใช้ปืนกลสาดกระสุนเข้าใส่ชาวลิเบียที่มาร่วมขบวนพิธีศพผู้ที่เสียชีวิตในการประท้วงต่อต้านกัดดาฟีในเมืองเบงกาซี ทางตะวันออกของประเทศ

ทั้งนี้ การประท้วงต่อต้านผู้นำลิเบียตลอดช่วง 6 วันที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 200 คน ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงของทางการ.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

ชาวบาห์เรนกลับไปชุมนุมใจกลางเมืองหลวง




​

มานามา 20 ก.พ.-ชาวบาห์เรนจำนวนมากกลับไปปักหลักชุมนุมใจกลางกรุงมานามาอีกครั้ง บางคนเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงการเมืองทันที ขณะที่บางคนหวังว่าจะมีการเจรจาแก้ไขวิกฤติในขณะนี้

ชาวบาห์เรนเริ่มเรียกวงเวียนไข่มุกว่า วงเวียนพลีชีพ เพื่อรำลึกถึงผู้ประท้วง 4 คนที่ถูกสังหารเมื่อตำรวจปราบจลาจลบุกสลายผู้ชุมนุมเช้ามืดวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผู้ประท้วงกลับไปปักหลักที่วงเวียนอีกครั้งตั้งแต่ค่ำวานนี้ หลังจากมกุฎราชกุมารเชค ซัลมาน บิน ฮาหมัด อัล คาลิฟา สั่งให้ทหารและยานยนต์หุ้มเกราะถอนกำลังออกมา และจะทรงเป็นผู้นำการเจรจาหลังเกิดเหตุไม่สงบมาหลายวัน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน

แหล่งข่าวฝ่ายค้านเผยว่า ฝ่ายค้านจะยื่นข้อเรียกร้องต่อมกุฎราชกุมารในวันนี้ เรื่องการปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งรัฐบาลโดยตรง การถอนกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคง การปล่อยตัวนักการเมือง และการเจรจาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

กระแสประท้วงไล่รัฐบาลลามไปจิบูตี




​

จิบูตี 21 ก.พ.-กระแสประท้วงขับไล่รัฐบาลยังคงลุกลามทั้งในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ล่าสุดเกิดขึ้นที่ประเทศจิบูตี

ช่างภาพมือสมัครเล่นได้นำวิดีโอการประท้วงต่อต้านรัฐบาลในจิบูตีมาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ยูทูบ โดยผู้ประท้วงหลายร้อยคนได้ออกมารวมตัวกันในกรุงจิบูตี เรียกร้องให้ประธานาธิบดีของประเทศก้าวลงจากตำแหน่ง หลังไม่พอใจที่อัตราการว่างงานของประเทศพุ่งสูงถึงร้อยละ 60 กลุ่มผู้ประท้วงยังปะทะกับตำรวจปราบจลาจลที่ใช้แก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงที่หวังโค่นล้มผู้นำอย่างที่เกิดขึ้นในอียิปต์และตูนิเซีย ขณะที่ผู้นำการเมืองฝ่ายค้านคนสำคัญของจิบูตี 3 คน ถูกตำรวจจับกุมในข้อหายุยงปลุกปั่นให้เกิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาล.-สำนักข่าวไทย

วันจันทร์ ที่ 21 ก.พ. 2554

จีนจับนักเคลื่อนไหวที่พยายามใช้เน็ตปลุกระดมต้านรัฐบาล




​

จีน 21 ก.พ.-จีนจับกุมนักเคลื่อนไหวที่พยายามใช้อินเทอร์เน็ตปลุกระดมให้ผู้คนออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลเหมือนในตะวันออกกลาง

ทางการจีนได้จับกุมกลุ่มนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยตามท้องถนน รวมทั้งตัดสัญญาณการส่งข้อความสั้นผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และตรวจสอบการโพสต์ข้อความทางอินเทอร์เน็ตอย่างเข้มงวด หลังมีการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นเครื่องมือเรียกร้องให้ชาวจีนออกมาชุมนุมปฏิวัติโค่นล้มรัฐบาลเหมือนกับประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลาง ซึ่งข้อความที่โพสต์ลงอินเทอร์เน็ตได้เรียกร้องให้ชาวจีนออกมาชุมนุมประท้วงกันในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองสำคัญอื่น ๆ อีก 11 เมืองในเวลา 13.00 น.ของวานนี้ อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลจีนดังกล่าวไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป.-สำนักข่าวไทย


เครดิตคุณเกษม http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1175

 

ยักษ์นอกศาสนาจะฆ่ากัน
(สงครามศาสนาจะกลับมาอีกครั้ง)​

​

พระฯ ท่านพยากรณ์ว่า:-​

"พวกเปรตอสุรกายที่แฝงกายอยู่ในคราบนักบุญและนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของโลก จะถือเอาเหตุปัจจัยความแตกต่างทางศาสนาและนิกาย มาเป็นเครื่องยุยงให้ชาวโลกแตกออกเป็นสองฝ่าย และก็จะเริ่มค่อยๆ ประหัตประหารไปทีละจุด ๆ ในที่สุด (ความขัดแย้งในเรื่องลัทธิ นิกาย และศาสนาจะบานปลายเป็นสงครามใหญ่ภายหลัง) เพราะกิเลสในใจผู้นำของแต่ละศาสนามีมาก" (อย่ามองข้ามเหตุที่เกิดในประเทศไทย เพราะในเมืองไทยก็เป็นชนวนใหญ่เช่นกัน)​

พระพุทธพจน์ทำนาย (ต้นฉบับดั้งเดิม)​

คณะธรรมทูตผู้ไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและพระศรีมหาโพธิ์ที่ประเทศอินเดียเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ ได้คัดลอกพระพุทธพจน์ทำนายจากศิลาจารึกเขตมหาวิหารในสวนมฤคทายวัน แปลได้ดังนี้ ​

สาธุ อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระเมตตากรุณาแก่สัตว์โลก ซึ่งเกิดมาล้วนแต่ลำบากยิ่งนัก ในคราวที่พระองค์ไกล้ถึงพระชนมายุย่างเข้าพระปรินิพานตามกาลเวลา จึงตรัสแก่พระอานนท์ผู้ศิษย์อันสนิทพากเพียรพยาบาลว่า ​

" ดูกรอานนท์ สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดมาล้วนแต่ลำบากทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติที่หมุนเวียนของโลก โลกหมุนไปใกล้ความแตกทำลายจนถึงสมัยที่อาตมานิพพานไปแล้วได้ ๕,๐๐๐ ปี เมื่อโลกไปใกล้กึ่งจำนวนที่อาตมาทำนายไว้ (๒,๕๐๐ ปี) มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทิศเสียครึ่งหนึ่ง ในระยะ ๓๐ ปี สิ่งที่ศาสนิกชนไม่เคยพบเห็น ยักษ์หินที่ถูกสาปให้หลับก็กลับคื่นขึ้นมาอาละวาดยิ่งหนัก ​

เมื่อใกล้กึ่งศาสนาของอาตมา ก็ทวีภัยใหญ่ขึ้นทุกทิพาราตรี และมนุษย์นอกศาสนาก็จะมารบราฆ่าฟันกัน ถึงเลือดนองแผ่นดินและแผ่นน้ำ แม้ในอากาศก็มี อำนาจภัยจากฟ้าทุกทิศานุทิศ ไฟจะลุกลามเผาผลาญมนุษย์ไม่ขาดระยะ ต่างฝ่ายต่างทำลายกันย่อยยับเหมือนยักษ์กระหายเลือด แผ่นดินแผ่นน้ำจะเดือดเป็นไฟ และตายกันไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรา ต่างฝ่ายต่างหมดกำลังด้วยกันตามวิสัยของยักษ์ร้ายนอกศาสนา ซึ่งกำเนิดมาจากสัตว์ป่าอำมหิต ​

ส่วนศาสนิกชนผู้ขวนขวายในทางบุญตามเดิมวัจนะของอาตมา ก็จะสามารถระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านใดที่เคารพสักการะพระศรีมหาโพธิ์และกาสาวพัสตร์จะได้รับวิบัติเบาบางลง แต่จะหนีธรรมชาติไม่พ้น ​

เริ่มแต่ศาสนาอาตมาล่วงมาได้ ๒๔๘๕ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกมาทางทิศตะวันออกไหม้วัดวาอาราม สมณชีพราหมณ์จะอดอยากยากเข็ญ คนบ้านจะเข้าป่า สัตว์ป่าจะเข้ากรุง เมืองหลวงจะร้อนเป็นไฟ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทรจะชอกช้ำ สงครามจะทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ทหารจะเป็นเจ้า ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก พลูหมากจะหมดเปลือง ปราชญ์เปรื่องจะสิ้นสูญ ราชตระกูลอำมาตย์ ​

ราษฎรทุกคนจะพากันถืออำนาจไม่เป็นธรรม ไม่เคารพหลักธรรม โดยปรวนแปรนิยมเชื่อถือถ้วยคำของคนโกง คนกล่าวคำเท็จ คนประจบสอพลอย่อมได้รับการเชื่อถือในท่ามกลางสังคมสันนิบาต ผู้ดีมีศีลธรรมประพฤติชอบไม่มีเสียง (อธรรมพูดจ้อ แต่ธรรมเป็นใบ้) จะเกิดการจลาจลวุ่นวาย ลูกจะพลัดแม่ แม่จะพลัดจากลูก โคกจะเป็นน้ำ ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมืองจะเข้าไพร เทวดาจะเรียกแมลงบี้เหล็กโกฏิหนึ่งผีเสื้อแสนหนึ่งมาปล่อยแสนหนึ่งมาปล่อยไข้เป็นไฟผลาญ ​

เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง >2555?) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง >2556?) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา >2560?) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ บุคคลเจริญด้วยเมตตา กรุณา ไม่เบียดเบียนข่มเหงอิจฉาพยาบาทและไม่ประทุษร้ายซึ่งกันและกัน ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม และยึดถือคาถาของอาตมาจะพ้นภัยพิบัติ ให้เจริญภาวนาดังนี้​

" หิตะชิราทัน มันกะโลอังคะ ศิลากะละสา สาสะสะติ โหตะถิ โหคะหะคะเน " ​

ให้ท่องบ่นภาวนาเป็นนิจ ให้จดอักษรใส่กระดาษหรือผ้าขาวปิดไว้หน้าบ้าน หัวนอน หรือพันศรีษะไว้ สารพัดภัยพินาศ สันติประสิทธิ์ ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์โลกเป็นล้นพ้นที่มีอายุขัยอยู่ได้ใกล้ยุคกึ่งยุคลลาย ​

เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๑๒ (ปีจอ > 2561?) พระจันทร์จะเริ่มเปล่งแสงฉายโลก ครั้นล่วงได้ ๒๕๑๕ (ปีชวด >2563?) นับพ้นระยะปี ๓๐ ปี พวกอธรรม คือพวกที่ไม่ตั้งอยู่ในศีลในสัตย์ ไร้ซึ่งศีลธรรมนั้นจะหมดสิ้นไปเพราะพวกมิจฉาทิฐิจะดับสูญไปจากโลก อธรรมแพ้ในที่สุด ครุฑจะบินกลับถิ่นสถาพร คนที่จรจะกลับเข้ากรุงบำรุงธรรม ธรรมจะชนะ พระจะอยู่บ้านเมืองต่อไป ​

การงานของมนุษย์จะสำเร็จด้วยอริยศาสตร์ซึ่งไม่ต้องเบียดเบียนแรงผู้ใด ทุกคนจะสมบูรณ์ด้วยศีลธรรมและชีวิตผาสุก มหากษัตริย์ธรรมิกราชผู้เป็นพระโพธิสัตว์ องค์หนึ่งจะเกิดภายในความอุปภัมถ์ของพระมหาเถระโพธิสัตว์ทั้งสององค์นั้น จะจัดการบำรุงศาสนาของอาตมาในระยะนี้เป็น "ยุคศิวิไล" พระมหาเถระโพธิสัตว์ จะเกิดในสมัย ของอาตมาล่วงมาแล้ว ๒๔๕๔ ปี ​

เมื่อล่วงได้ ๒๔๖๗ ถึง ๒๔๘๖ พระมหากษัตริย์ธรรมิกราชจะมาเกิด ทั้งสองพระองค์นั้นสถิตอยู่ ณ เบื้องทิศตะวันออกของมัชฌิมประเทศ ระหว่างปีจอปีกุน เมื่อศักราช ๒๕๑๓ กับ ๒๕๑๔ ผู้มีบุญทั้งสองพระองค์นั้นจะเสด็จเข้าบำรุงศาสนาให้เที่ยงแท้ สมณชีพราหมณ์จะเสด็จมา ๘๔,๐๐๐ รูป ​

ดูกรอานนท์ อาตมาสงสารสัตว์ เวลานั้นพลโลกยังเหลือน้อยเต็มที คำทำนายของอาตมานี้ยังให้สัตว์ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วเชื่อ หรือไม่เชื่อ ไม่บอกเล่าให้ผู้ใดรู้กันต่อๆไป นับว่าเป็นกรรมแห่งสัตว์ต่างสิ้นสุดกันตามกาลเวลา ผู้ใดปรารถนาจะได้เห็นหรือทันมีบุญ ให้รักษาศีลห้าประการหนึ่ง ยำเกรงบิดา มารดา รู้จักบุญคุณท่านผู้มีคุณหนึ่ง ให้เจริญภาวนาในพรหมไตรสภาพหนึ่ง คาถาว่าดังนี้​

" พุทธิทุกขัง อนิจจัง อนัตตา นโมสัพพราชา ขัตติโย อิติปารมิตา ตึสา อิติ สัพพัญญุมาคตา อิติ โพธิ มนุปปัตโต อิติปิโส จ เต นโม "​

รู้แล้วอย่าประมาท ให้ท่องบ่นภาวนารักษาศีล

********************************************************
* หมายเหตุ * คัดจากหนังสือ " พระพุทธพจน์ทำนาย วิบากกรรมของประเทศ และชี้จุดบอดจุดแก้ของสังคม " โดย : สุริยัน โรหติเสถียร รวบรวม หน้า ๖-๑๐ โครงการธรรมไมตรี จัดพิมพ์ : พิมพ์ที่ พี อาร์ ออฟเซ็ทปี ๒๕๓๘​

ที่มา http://www.4floor.com/nextcom/sawasdee3/2000/book1-2.html​

เครดิตคุณเกษม ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่<!-- google_ad_section_end -->​

<!-- google_ad_section_end -->

 

ประมวลความคืบหน้าล่าสุดเหตุประท้วงใน “ตะวันออกกลาง-แอฟริกาเหนือ”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 17:40 น.



ซาอิฟ อัลอิสลาม กัดดาฟี บุตรชายของผู้นำลิเบีย ออกมาเตือนวันนี้(21)ว่า จะเกิดสงครามกลางเมืองอย่างแน่นอน หากผู้ประท้วงยังไม่ยอมรับข้อเสนอปฏิรูปของรัฐบาล

เอเอฟพี - สรุปรายงานความคืบหน้าล่าสุดของเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่แพร่ขยายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในขณะนี้

ลิเบีย – บุตรชายของประธานาธิบดี มูอัมมาร์ กัดดาฟี ออกมาเตือนว่า ลิเบียจะต้องเผชิญสงครามครามกลางเมือง หากผู้ประท้วงยังปฏิเสธไม่รับเงื่อนไขปฏิรูปจากรัฐบาล ขณะที่เกิดเสียงปืนดังสนั่นไปทั่วกรุงตริโปลีในช่วงเช้าวันนี้ (21)

บาห์เรน – ราชวงศ์บาห์เรนซึ่งเป็นมุสลิมซุนนี ต้องเผชิญแรงกดดันให้เปิดเจรจากับกลุ่มฝ่ายค้านชีอะห์ ขณะที่จำนวนผู้ประท้วงซึ่งตั้งเต็นท์ปักหลักบนจตุรัสเพิร์ลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เยเมน – แพทย์และผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ตำรวจเยเมนยิงผู้ประท้วงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน ที่เมืองเอเดนทางตอนใต้ของประเทศ วันนี้ (21)

อิรัก – เกิดเหตุระเบิดรถยนต์กลางเมืองซามาร์ราของอิรัก ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 10 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีก 16 คนในช่วงเช้าวันนี้ (21)

คูเวต – ชาวอาหรับไร้สัญชาตินับร้อยรวมตัวประท้วงเป็นวันที่ 3 เพื่อเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานและความเป็นพลเมืองจากรัฐบาลคูเวต ขณะที่ ฮิวแมนไรต์ วอตช์ ก็ขอให้คูเวตปล่อยตัวผู้ประท้วงนับสิบคนที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันศุกร์ (18)

โมร็อกโก – ประชาชนหลายพันคนออกมาประท้วงตามเมืองต่างๆ วานนี้ (20) เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง และจำกัดอำนาจของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 นับเป็นเหตุประท้วงรัฐบาลล่าสุดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาเหนือ

อิหร่าน – วานนี้ (20) อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เรียกร้องให้ชาวมุสลิมช่วยกันขับไล่สหรัฐฯออกไปจากโลกอาหรับ หลังจากที่ตำรวจในกรุงเตหะรานสามารถควบคุมการประท้วงไม่ให้ลุกลามบานปลาย แม้เว็บไซต์ของกลุ่มฝ่ายค้านจะรายงานเหตุปะทะตามจุดต่างๆประปรายก็ตาม

อียิปต์ - ตำรวจ 3 นายในเมืองอเล็กซานเดรียถูกสอบสวนกรณียิงผู้ประท้วงในช่วงวันแรกๆของการลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ขณะที่ธนาคารในอียิปต์เปิดให้บริการตามปกติแล้วตั้งแต่วานนี้ (20) ส่วนคนงานของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ก็ยุติการนัดหยุดงานแล้วเช่นกัน

ตูนิเซีย – รัฐบาลชั่วคราวของตูนีเซียเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียเนรเทศอดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ขณะที่การประท้วงขับไล่รัฐบาลชั่วคราวในเมืองตูนิสยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 2

จิบูตี - รัฐบาลจิบูตียอมปล่อยตัวชั่วคราวผู้นำฝ่ายค้าน 3 คน ซึ่งถูกจับหลังจากที่ประชาชนลุกฮือขึ้นเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง อัยการเผยวานนี้ (20)

จอร์แดน – กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทรงเสนอให้ปฏิรูปการปกครองอย่างเร่งด่วน ตลอดจนเจรจาทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย และหาวิธีเอาชนะการทุจริตคอร์รัปชั่น ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจรัฐบาล และกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง

ซีเรีย – คามาล ฮุสเซน ชัยโค บล็อกเกอร์และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวซีเรียเชื้อสายเคิร์ดซึ่งถูกจำคุก เริ่มอดอาหารประท้วงรัฐบาลแล้ว ศูนย์สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียเผยวานนี้ (20)

แอลจีเรีย – มูราด เมเดลซี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแอลจีเรีย กล่าวในบทสัมภาษณ์ซึ่งเผยแพร่วานนี้ (20) ว่า การประท้วงขับไล่รัฐบาลซึ่งทำให้ประธานาธิบดีตูนีเซียและอียิปต์ถูกโค่นล้ม จะไม่แพร่เข้าไปยังแอลจีเรียตาม “ทฤษฎีโดมิโน” อย่างแน่นอน
Around the World - Manager Online -

 

ประมวลความคืบหน้าล่าสุดเหตุประท้วงใน “ตะวันออกกลาง-แอฟริกาเหนือ”

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 กุมภาพันธ์ 2554 17:40 น.



ซาอิฟ อัลอิสลาม กัดดาฟี บุตรชายของผู้นำลิเบีย ออกมาเตือนวันนี้(21)ว่า จะเกิดสงครามกลางเมืองอย่างแน่นอน หากผู้ประท้วงยังไม่ยอมรับข้อเสนอปฏิรูปของรัฐบาล

เอเอฟพี - สรุปรายงานความคืบหน้าล่าสุดของเหตุประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่แพร่ขยายไปทั่วภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือในขณะนี้

ลิเบีย – บุตรชายของประธานาธิบดี มูอัมมาร์ กัดดาฟี ออกมาเตือนว่า ลิเบียจะต้องเผชิญสงครามครามกลางเมือง หากผู้ประท้วงยังปฏิเสธไม่รับเงื่อนไขปฏิรูปจากรัฐบาล ขณะที่เกิดเสียงปืนดังสนั่นไปทั่วกรุงตริโปลีในช่วงเช้าวันนี้ (21)

บาห์เรน – ราชวงศ์บาห์เรนซึ่งเป็นมุสลิมซุนนี ต้องเผชิญแรงกดดันให้เปิดเจรจากับกลุ่มฝ่ายค้านชีอะห์ ขณะที่จำนวนผู้ประท้วงซึ่งตั้งเต็นท์ปักหลักบนจตุรัสเพิร์ลเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เยเมน – แพทย์และผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า ตำรวจเยเมนยิงผู้ประท้วงเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน ที่เมืองเอเดนทางตอนใต้ของประเทศ วันนี้ (21)

อิรัก – เกิดเหตุระเบิดรถยนต์กลางเมืองซามาร์ราของอิรัก ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 10 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีก 16 คนในช่วงเช้าวันนี้ (21)

คูเวต – ชาวอาหรับไร้สัญชาตินับร้อยรวมตัวประท้วงเป็นวันที่ 3 เพื่อเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานและความเป็นพลเมืองจากรัฐบาลคูเวต ขณะที่ ฮิวแมนไรต์ วอตช์ ก็ขอให้คูเวตปล่อยตัวผู้ประท้วงนับสิบคนที่ถูกจับกุมตั้งแต่วันศุกร์ (18)

โมร็อกโก – ประชาชนหลายพันคนออกมาประท้วงตามเมืองต่างๆ วานนี้ (20) เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง และจำกัดอำนาจของกษัตริย์โมฮัมเหม็ดที่ 6 นับเป็นเหตุประท้วงรัฐบาลล่าสุดที่เกิดขึ้นในภูมิภาคแอฟริกาเหนือ

อิหร่าน – วานนี้ (20) อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เรียกร้องให้ชาวมุสลิมช่วยกันขับไล่สหรัฐฯออกไปจากโลกอาหรับ หลังจากที่ตำรวจในกรุงเตหะรานสามารถควบคุมการประท้วงไม่ให้ลุกลามบานปลาย แม้เว็บไซต์ของกลุ่มฝ่ายค้านจะรายงานเหตุปะทะตามจุดต่างๆประปรายก็ตาม

อียิปต์ - ตำรวจ 3 นายในเมืองอเล็กซานเดรียถูกสอบสวนกรณียิงผู้ประท้วงในช่วงวันแรกๆของการลุกฮือขับไล่ประธานาธิบดี ฮอสนี มูบารัค ขณะที่ธนาคารในอียิปต์เปิดให้บริการตามปกติแล้วตั้งแต่วานนี้ (20) ส่วนคนงานของโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในอียิปต์ก็ยุติการนัดหยุดงานแล้วเช่นกัน

ตูนิเซีย – รัฐบาลชั่วคราวของตูนีเซียเรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียเนรเทศอดีตประธานาธิบดี ซิเน เอล อาบิดีน เบน อาลี ขณะที่การประท้วงขับไล่รัฐบาลชั่วคราวในเมืองตูนิสยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 2

จิบูตี - รัฐบาลจิบูตียอมปล่อยตัวชั่วคราวผู้นำฝ่ายค้าน 3 คน ซึ่งถูกจับหลังจากที่ประชาชนลุกฮือขึ้นเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง อัยการเผยวานนี้ (20)

จอร์แดน – กษัตริย์อับดุลเลาะห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน ทรงเสนอให้ปฏิรูปการปกครองอย่างเร่งด่วน ตลอดจนเจรจาทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย และหาวิธีเอาชนะการทุจริตคอร์รัปชั่น ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจรัฐบาล และกลุ่มผู้ประท้วงที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง

ซีเรีย – คามาล ฮุสเซน ชัยโค บล็อกเกอร์และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนชาวซีเรียเชื้อสายเคิร์ดซึ่งถูกจำคุก เริ่มอดอาหารประท้วงรัฐบาลแล้ว ศูนย์สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรียเผยวานนี้ (20)

แอลจีเรีย – มูราด เมเดลซี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแอลจีเรีย กล่าวในบทสัมภาษณ์ซึ่งเผยแพร่วานนี้ (20) ว่า การประท้วงขับไล่รัฐบาลซึ่งทำให้ประธานาธิบดีตูนีเซียและอียิปต์ถูกโค่นล้ม จะไม่แพร่เข้าไปยังแอลจีเรียตาม “ทฤษฎีโดมิโน” อย่างแน่นอน
Around the World - Manager Online -