เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 13:08
    ผบ.สส.ย้ำตอบโต้กัมพูชายามจำเป็น เจรจาเป็นหน้าที่ก.ต่างประเทศ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    "พล.อ.กิตติ"ระบุเจรจาทวิภาคีเป็นหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ลั่นกองทัพมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ย้ำตอบโต้กัมพูชายามจำเป็น ใช้อาวุธด้วยความปวดร้าว

    สุโขทัย-พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ยูเอ็นเอสซี มีมติให้ไทย-กัมพูชา เจรจาทวิภาคีเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศเป็นผู้รับผิดชอบ กองทัพมีหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยเพื่อดินแดนอย่างเต็มขีดความสามารถ ส่วนการเจรจาเป็นเรื่องของกระทรวงต่างประเทศที่จะต้องมีการเจรจาตามกลไกของเจบีซี หรือกลไกในระดับทิวภาคี หรือตามสนธิสัญญาต่างๆ กองทัพไทยมีหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ไม่ให้มีอะไรมากระทบกระเทือน เราจะทำหน้าที่ของเราและปฏิบัติหน้าที่ตามกฎการใช้กำลัง หรือตามพันธกิจที่ให้ไว้กับต่างประเทศอย่างชัดเจน
    "เราจะใช้อาวุธเมื่อเกิดความจำเป็น หรือมีเหตุการณ์ว่ามีภัยต่อหน่วยทหาร ต่อประชาชน และทรัพย์สิน ผมขอย้ำว่าสำหรับเพื่อนบ้านเราจำเป็นต้องใช้อาวุธด้วยความปวดร้าว เมื่อถึงเวลาก็ต้องทำ และต้องทำจริงๆ ทั้งนี้ ไม่ต้องการให้ใครมาบอกว่าให้ไทย-กัมพูชาประกาศหยุดยิง ซึ่งขณะนี้สองประเทศก็มีการหยุดยิงของทั้งสองฝ่ายอยู่ แต่ไม่ทราบว่ากัมพูชายังมีการยิงยั่วยุเข้ามาบริเวณฝั่งทหารไทยอยู่ แต่ยืนยันว่าทหารไทยมีการตอบโต้อย่างพอเหมาะ และมีเหตุผล แต่ยืนยันว่าเรามีความปวดร้าว เราจะตอบโต้อย่างพอสมควร และยืนยันว่าการทำนหน้าที่ของทหารเป็นไปตามขั้นตอนอยู่แล้ว ในการรักษาอธิปไตยและมีการวางแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง รวมถึงการควบคุมพื้นที่อย่างเป็นระบบ และขออย่าให้กังวลใจ ทั้งนี้ ยังไม่จำเป็นต้องอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ ซึ่งการที่ ผู้ว่าฯศรีสะเกษไปนอนกับประชาชนในพื้นที่เนื่องจากมีความเป็นห่วง และเป็นสิทธิของผู้ว่าฯที่จะลงไปอยู่กับประชาชน" ผบ.สส. กล่าว
    ถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ รมว.กลาโหม ทั้งสองประเทศจะมีการลงนามเพื่อหยุดยิง พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกองทัพ แต่กองทัพมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตย ดูแลประชาชน ทหารไม่พูดเรื่องการเจรจา ส่วนใครจะไปพูดกับใครไม่ทราบ แต่อย่าสร้างความเสียหายให้กับประชาชน เรารักเพื่อนบ้าน แต่เราก็ต้องตอบโต้บนความปวดร้าวทางจิตใจ แต่เราก็ต้องทำ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาจะต้องพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกัน
    ถามว่า มีความเป็นไปได้ให้ทหารใช้ความสัมพันธ์สองประเทศพูดคุยกัน พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ทหารรู้ควรทำอย่างไร เพราะทหารไทยมีระเบียบวินัย และกฎการใช้กำลังอย่างรอบคอบ ส่วนกรณีที่ยูเอ็นเอสซีมีมติที่จะให้อาเซียนเข้ามาไกล่เกลี่ยปัญหาด้วย จะเป็นการบีบไทยหรือไม่ พล.อ.ทรงกิตติ กล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไร ซึ่งแต่ละประเทศมีการฝึกคอบร้าโกลด์อยู่แล้ว ยืนยันว่าการปฏิบัติหน้าที่ของทหารไม่ลำบากใจในการปฏิบัติงาน เพราะทหารยึดมั่นในวินัยตามพ.ร.บ.การจัดระเบียบของกลาโหม หากไม่มีการสั่งทหารก็ต้องทำ เพราะป็นหน้าที่ของทหารอยู่แล้ว
    <!-- Tags Keyword -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 13:42
    'ชวนนท์'ชี้เหตุปะทะชายแดนไม่ยุติ กระทบเจรจาที่จาการ์ต้า 22ก.พ.

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    "ชวนนท์" ระบุเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชาไม่ยุติ กระทบเจรจาที่จาการ์ต้า วันที่ 22 ก.พ.นี้
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>กระทรวงการต่างประเทศ- นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา อีก 2 ครั้ง ที่ภูมะเขือ บริเวณช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ไปชี้แจงสถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า จากการไปให้ข้อมูลกับยูเอ็นเอสซี มีผล 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ขอให้มีการหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายในพื้นที่ชายแดน และ 2.สนับสนุนกลไกทวิภาคี ซึ่งรัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ถ้ากัมพูชาไม่ยิงมาก่อน เราก็ไม่เปิดฉากยิงตอบโต้ ซึ่งเรามีเป้าหมายทางการทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามแนวชายแดน แต่ตนยอมรับว่าเรื่องนี้อาจมีผลต่อการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชา ถ้ากัมพูชายังไม่หยุดยิงโจมตีไทย อย่างไรก็ตาม
    สำหรับการปะทะที่เกิดขึ้น ต้องมีการบันทึกไว้ เพราะได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าอยากให้มีการหยุดยิง ถ้ายังมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม ก็ต้องมีการบันทึกเพื่อให้ชาติสมาชิกที่สนับสนุนทวิภาคีได้รับทราบว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มกอ่น ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อให้หยุดยิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชา จะทำหน้าที่เจรจา หลังจากที่นายกษิต กลับมาถึงประเทศไทย ก็จะนัดหารือกับพล.อ.ประวิตร เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมมีความสอดคล้องกัน ก่อนที่จะไปเจรจากับ รมว.กลาโหมของกัมพูชา
    นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ต้องรอฝ่ายกัมพูชาว่าจะมีท่าทีตอบสนองอย่างไร แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดกัมพูชาจึงปฏิเสธการเจรจาทวิภาคีกับไทย ซึ่งรายละเอียดเจบีซีฯยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ แม้ผลการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา 3 ฉบับยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาไทย ก็ไม่มีผล เพราะสามารถจัดการประชุมเจบีซีเพื่อหารือในด้านอื่นๆได้ เช่น การทำภาพถ่ายทางอากาศ การสำรวจหลักหมุด เป็นต้น
    เมื่อถามว่าคิดว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงคำพูดที่สนับสนุนการเจรจาทวิภาคีตามกรอบที่เรามีกลไกอยู่ เพียงแต่กัมพูชาต้องเข้าใจว่าเรามีกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างการเมืองภายในและการเมืองระหว่างประเทศ เราจึงอยากให้กัมพูชาแสดงความเข้าใจว่าเรามีความจริงใจในการร่วมกันแก้ปัญหา ส่วนพื้นที่เขาพระวิหารที่มีการตีความผิดออกไปจากคำตัดสินของศาลโลกนั้น ที่จริงคงไม่ใช่ จึงขอย้ำว่าคำตัดสินของศาลโลกไม่เคยพูดถึงความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 และแผนที่จะถูกต้องก็ต่อเมื่อเป็นไปตามแนวสันปันน้ำที่ระบุในอนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1904 และไทยไม่เคยทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงอดีต และดำเนินตามอนุสัญญาที่มีมาตั้งแต่อดีตเช่นกัน ดังนั้น ถ้ากัมพูชามั่นใจ ก็ควรมาพิสูจน์กันตามกระบวนการเจบีซี
    เมื่อถามว่าทำไมนายกษิต และนายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จึงไม่มีการพบปะหารือกันที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี นายชวนนท์ กล่าวว่า นายนัมฮง ไม่ได้ปฏิเสธการพบปะ แต่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังมีการพูดคุยกันอยู่แล้วในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่จาการ์ต้าประเทศอินโดนีเซีย
    เมื่อถามว่าการประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยจะพูดเรื่องใด นายชวนนท์ กล่าวว่า 1.ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้น และเราใช้ความอดทนอดกลั้น การโต้ตอบของเราเป็นการดำเนินการฝ่ายทหารเท่านั้น 2.การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเราต้องยืนยันว่าเป็นชนวนแรกที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จึงควรดูที่ต้นเหตุว่าเราจะสะสางปัญหานั้นได้อย่างไร 3.จะยืนยันว่าไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้กรอบทวิภาคีกับกัมพูชาเสมอ และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ผลการพูดคุยในครั้งนี้จะไม่เป็นการผูกมัดไทยกับกัมพูชา เพราะไม่ใช่ลักษณะที่อาเซียนจะเข้ามาแทรกแซง
    เมื่อถามว่าไทยคิดอย่างไรต่อการที่กัมพูชาระบุว่าการหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่เวทีอาเซียน จะเป็นการเข้าทางฝ่ายกัมพูชา นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะกัมพูชาน่าจะทราบดีว่าที่ได้พูดคุยตกลงกันก่อนไปชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี โดย รมว.ต่างประเทศของอินโดนีเซีย ก็พูดชัดว่ากรอบเจรจาอยู่ตรงไหน อย่างไร
    "ผมไม่คิด ใครอย่าไปพูดว่าเป็นชัยชนะของไทย อย่าไปพูดว่าเป็นความพ่ายแพ้ของกัมพูชา ผมก็ไม่เคยพูดว่าการดำเนินการเรื่องนี้เป็นชัยชนะ โดยเฉพาะเรื่องนี้ไทยไม่ได้หยิบยกเข้าไปที่ยูเอ็นเอสซี แต่กัมพูชาเป็นผู้ส่งเรื่องไป แต่เขาต้องการให้ยูเอ็นเอสซีเข้ามาแทรกแซง แม้แต่กลับไปที่ศาลโลก แต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น และไทยก็พอใจกับผลการตัดสินใจ และสอดคล้องกับแนวทางของไทยที่จะให้มีการเจรจากับทวิภาคี ชัยชนะที่ดีสำหรับ 2 ประเทศคือให้หันมาพูดคุยกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข" นายชวนนท์ กล่าว

    '
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 13:44
    มท.ภ.2ไม่หวั่นถูกวิจารณ์-โวต้องทำตัวให้คนอิจฉา

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    พลโทธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพ

    "พลโทธวัชชัย" ไม่หวั่นไหวต่อคำวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ อ้างต้องทำตัวให้คนอื่นอิจฉา ไม่ควรทำตัวให้ใครสงสาร
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>พลโท ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ขณะนี้กองทัพภาคที่ 2 ได้ส่งกำลังทหารไปประจำการจำนวนหนึ่ง ดูแลรักษาความปลอดภัย และด้ฝึกซ้อมประชาชนในพื้นที่ ตามแนวชายแดน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการหลบภัยตามที่จัดเตรียมไว้ ซึ่งประชาชนมีอาการตื่นตระหนก หวาดกลัว เนื่องจากไม่ประสบเหตุแบนี้นานกว่า 30 ปี
    ที่ผ่านมา ได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชากองกำลังไปไปเจรจากับฝ่ายทหารกัมพูชา แต่ก็สงสัยพูดคุยเจรจาตกลงไปหลายครั้งแล้ว แต่ยังมีการปะทะกันอยู่ แต่เป็นส่วนน้อยที่เกิดขึ้น หรือทางกัมพูชาต้องการให้ประชาชนไทยเกิดความตื่นตระหนกตกใจ ขอยืนยันว่าทหารไทยไม่ได้เริ่มก่อน
    เมื่อถามว่า หากการเจรจายุติปัญหาไม่สำเร็จ ปล่อยให้ยืดเยื้อมีการปะทะกันเรื่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้น แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่าเราต้องรับสถานการณ์ โดยเน้นวิธี ป้องกัน แจ้งเตือน และโต้ตอบตามความเหมาะสม แต่เราก็หวังว่าการเจรจาจะยุติลงโดยเร็ว ส่วนทหารไทยมีความพร้อมทุกด้านโดยเฉพาะขวัญและกำลังใจจากประชาชนชาวไทย
    ส่วนปัญหาการปักปันเขตแดนนั้นก็คงต้องยืดเยื้อไปอีกนาน กว่าจะหาข้อยุติได้ เท่าที่ทราบข้อมูลทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ต้องการให้สถานการณ์มันบานปลายไปมากกว่านี้ โดยตนได้พยายามยื่นข้อเสนอในการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังของทั้งสองฝ่ายที่มีปัญหากันก่อนหน้านี้ ออกจากพื้นที่เพื่อลดความเครียดแค้นบาดหมางกัน โดยการเปลี่ยนกองกำลังใหม่ เชื่อว่าน่าจะสามารถลดความร้อนระอุได้ในระดับหนึ่ง โดยเริ่มนับหนึ่งกันใหม่
    เมื่อถามถึงการวิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 จากหลายฝ่าย พลโทธวัชชัย กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกเคลือบแคลงใจ เพราะตนเข้าโรงเรียนเตรียมทหาปี 2512 พลตรีปิยะ สุวรรณพิมพ์ ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร ให้โอวาทว่า
    "เราต้องทำตัวให้คนอื่นอิจฉา ไม่ควรทำตัวให้ใครสงสาร เพราะไม่มีใครจะไปอิจฉาขอทาน ซึ่งผมฟังข้อความนี้แล้วใช้สติไตร่ตรอง ใครจะมีต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ผมก็ไม่ได้รู้สึกท้อแท้แต่อย่างใด เนื่องผมก็ไม่ได้ปฏิบัติอย่างที่คนอื่นเขาว่าอยู่แล้ว สำหรับเรื่องนี้ผมก็ไม่อยากที่จะเสียเวลาที่จะฟ้องร้องกัน"

     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : นโยบาย

    วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2554 00:10

    เขมร รบ ไทย ขบเหลี่ยมชิงแหล่งพลังงานในทะเล

    โดย : ธนบูลย์ จิรานุวัฒน์ นักวิชาการกฎหมายระหว่างประเทศ

    [​IMG]

    วัฒนธรรมข้ามชาติยังกลืนกลาย ไม่ร้ายเท่าบรรษัทไร้พรมแดนไร้มนุษยธรรม เช่นที่เมาะตะมะ สำหรับประเทศที่ไม่ชัดเจนเขตแดน ย่อมมีผลประโยชน์เหยียบไว้
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>โลกนี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน 2 บริษัท คือ 1. แอตแลนติก ริชฟิลล์ หรือ อาร์โก้ (Atlantic Rich Field Company Limited, ARCO) ในสหรัฐอเมริกาทางภาคเหนือ จดทะเบียนบริษัทลูกชื่อ เอ็กซอน ( EXXON) เพื่อนำเข้าน้ำมัน และอุตสาหกรรมปิโตรเคมี แปรรูปจากน้ำมัน และสารเคมี เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง เม็ดพลาสติก ฯลฯ
    2. บริษัท สแตนดาร์ด ออยล์ (Standard Oil Company Limited) บริษัทลูกขายปลีกน้ำมันชื่อโมบิล (Mobile) และนำเข้าน้ำมัน แปรรูปผลิตภัณฑ์น้ำมันและสารเคมี เช่นเดียวกับ บริษัทแอตแลนติก ริชฟิลล์ ทุกอย่าง
    บริษัททั้งสองทำทีแข่งขันกันเกือบจะกลบเกลื่อนร่องรอยการร่วมกันกำหนดราคาขายปลีกน้ำมันและก๊าซในสหรัฐอเมริกา จากผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ (end-users) ได้สำเร็จ
    แต่แล้วปรากฏกระทาชายชื่อ นายอากูเอล่า โผล่ขึ้นมาฟ้องบริษัททั้งสองในข้อหาผูกขาดตลาดด้วยวิธีร่วมกันกำหนดราคาขายปลีก เพราะกฎหมายสหรัฐอเมริกาเปิดช่องไว้ ห้ามทำการค้าผูกขาด ไม่ว่ากรรมวิธีใด ๆ เช่น ร่วมกันกำหนดราคาขายปลีกของสินค้า เป็นผู้ค้าสินค้าประเภทหนึ่งแล้วเข้าไปซื้อกิจการค้าข้างเคียง หรือต้องพึ่งพาเกี่ยวเนื่องกัน แล้วทำทีกำหนดราคาขายขึ้นเองให้กระทบกระเทือนในกลุ่มผู้ค้า หรือในกลุ่มลูกค้า ซึ่งเป็นวิธีผูกขาดตลาดแบบแยบยล..เหล่านี้เป็นเรื่องห้ามเด็ดขาด
    บทบัญญัติกฎหมาย Anti-Trust Law (กฎหมายห้ามผูกขาดตลาดการค้า หรือกรรมวิธีในทางการค้า) หรือคนอเมริกันเรียกให้เกียรติแก่ 2 คนผู้เสนอบัญญัติว่า Clayton – Sherman Act
    เมื่อบริษัททั้งสองถูกฟ้องและแพ้คดีในบางประเด็นสำคัญ จึงทำให้สาธารณชนในสหรัฐฯ รู้รายละเอียดกลวิธีการผูกขาดการค้าของบริษัททั้งสอง เช่น วิธีหลบเลี่ยงกฎหมาย รายรับรายจ่ายของบริษัท มีกลุ่มหรือบริษัทในเครือแค่ไหน อย่างไร? รวมตลอดถึงได้รู้ถึงเส้นทางการทำการค้าของบริษัททั้งสอง
    ในชั้นศาลอุทธรณ์ บริษัททั้งสองมาทำข้อตกลงกับโจทก์ผู้ฟ้องร้องคดีนอกศาล จึงได้รู้ถึงยอดรายรับของบริษัททั้งสองทำกำไรได้หลายหมื่นแสนล้านดอลลาร์ต่อปี ยอดรายรับนี้ถูกนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีนิติบุคคล ตามกฎหมายสรรพากรของสหรัฐฯ (The Internal Revenue Code)
    และเพื่อป้องกันถูกฟ้องจากลูกค้าอื่นๆ อีก และป้องกันความลับกรรมวิธีทำการค้าขายน้ำมันและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีต่าง ๆ มิให้รั่วไหล ในที่สุด บริษัททั้งสองจึงตกลงแบ่งแดนทำการค้า โดยให้บริษัท Atlantic Rich Field และบริษัทในเครือยังคงทำการค้าขายปลีกน้ำมันในสหรัฐฯ ต่อไป
    ส่วนบริษัท Standard Oil Company Limited กับในเครือไปหาแหล่งพลังงานน้ำมันและก๊าซนอกทวีปอเมริกา และเป็นผู้ขายน้ำมันดิบให้แก่กลุ่มบริษัทค้าปลีกน้ำมันในสหรัฐฯ
    ด้วยเหตุนี้ สแตนดาร์ดฯ บริษัทแม่ จึงไปซื้อบริษัทยูโนแคล (UNOCAL) มาเป็นบริษัทลูก และยูโนแคลก็ไปตั้งบริษัทหลาน คือ เชฟรอน (CHEVRON) เพื่อข้ามทวีปมาอาเซีย
    ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทแม่(สแตนดาร์ดฯ) ได้ซื้อบริษัทโตแตล (TOTAL) ของฝรั่งเศส (เคยร่ำรวยจากขุดเจาะ ค้าน้ำมันในลิเบีย แล้วถูกเจ้าของประเทศคว่ำบาตร) เพื่อเข้ามาในกัมพูชาและไทย
    ที่ต้องทำเช่นนี้เพราะกฎหมายฝรั่งเศสห้ามมิให้นำบริษัทฝรั่งเศสออกไปจากประเทศ ดังนั้น บริษัทยังคงมีสัญชาติฝรั่งเศส มีที่ทำการการค้าเป็นหลักแหล่งในประเทศฝรั่งเศส
    ยูโนแคล แสวงหาน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ (oil and natural gas) ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ พม่า ไทย กัมพูชา และ เวียดนาม
    ตัวอย่างโด่งดังไปทั่วโลก คือ กรณี ยูโนแคลได้สัมปทานขุดเจาะพลังงานพม่าในอ่าวเมาะตะมะ คือ บ่อชเว ขณะนั้น รัฐบาลพม่าหรือ SLORG ได้บังคับเกณฑ์แรงงาน (the concentration camp ) ชนกลุ่มน้อย เช่น กะเหรี่ยง มอญ คะฉิ่น ฯลฯ มาทำงานค่ายแรงงานของยูโนแคล มีทหารพม่ารับจ้างคุมบังคับทำงานวางท่อก๊าซ
    เผอิญในกลุ่มแรงงานนั้นมีหญิงท้องแก่คนหนึ่งกับสามี ต่อมาเธอคลอดลูกและทำงานไม่ได้ ทหารพม่าเกิดบ้าเลือดขึ้นมา จับทารกลูกกะเหรี่ยงโยนเข้ากองไฟตายอนาถ แม่เข้าไปขัดขวางก็ถูกจับโยนใส่กองไฟไปด้วย
    ปรากฏว่า ทารกตาย แม่บาดเจ็บสาหัส กระทั่ง ผัวเมียคู่นี้ทนไม่ไหวหาโอกาสหนีออกมาได้ เข้ามาถึงเชียงใหม่มาพบตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชนชาวอเมริกัน จึงพาทั้งคู่บินไปสหรัฐอเมริกา นำเรื่องขึ้นฟ้องคดีสู่ศาลลอสแองเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยกำกับดูแลของศาลอุทธรณ์เขต 9 สหรัฐอเมริกา
    ในอเมริกาเรียกว่า คดีจอห์นโด ปรปักษ์กับยูโนแคล [บริษัทลูกของสแตนดาร์ดออยล์อีกแห่งที่ไปลงทุนในพม่า (John Doe v. Unocal) ] ตั้งชื่อโจทก์ให้เป็นฝรั่ง แต่ความจริงคือกะเหรี่ยง
    สู้คดีกัน 2 ศาล ศาลชั้นต้น ยูโนแคลแพ้คดี ถูกสั่งจ่ายค่าเสียหายและค่าปรับไหมแก่โจทก์เป็นเงิน 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ คดีไปถึงศาลอุทธรณ์ ๆ พิจารณาจะพิพากษากำหนดให้จ่ายค่าเสียหายและค่าปรับไหมสูงถึง 1 แสนล้านเหรียญ บริษัทยูโนแคลรู้ผลล่วงหน้า ก่อนจะอ่านคำพิพากษาหนึ่งสัปดาห์ จึงชิงไปเจรจากับผู้เสียหาย โดยเสนอจะชดใช้ค่าเสียหายและค่าปรับไหมให้โจทก์ 5 หมื่นล้านเหรียญเพื่อให้เรื่องจบ
    ผลตกลงกันได้ แต่เงิน 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ มูลนิธิสาธารณกุศลที่ช่วยออกค่าทนาย และค่าใช้จ่ายระหว่างดำเนินคดีให้โจทก์ หักค่าใช้จ่ายไป ผัวเมียกะเหรี่ยงคู่นี้ได้ประมาณ 2 หมื่นล้านเหรียญ
    เมื่อแพ้คดีนี้ ยูโนแคลต้องลงจากตำแหน่งและมอบสิทธิตามสัญญาสัมปทานทั้งหมดให้บริษัท เชฟรอน ดำเนินการแทน โดยก่อนหน้านี้ยูโนแคลเคยได้สัมปทานในอ่าวไทยเกือบทั้งหมดรวมทั้งอ่าวตั่งเกี๋ยด้วย
    พลังงานในอ่าว “ฮุน เซน” กับใคร? จ้องเขมือบ
    ประเทศกัมพูชา นายกฯฮุน เซน ได้ทำสัญญายกสัมปทานให้โตตาล(สแตนดาร์ดออยล์) ไปแล้ว ส่วนประเทศไทยให้สัมปทานการแก่ เชฟรอน สรุป ทั้ง เชฟรอน ทั้ง โตแตล ก็คือ สแตนดาร์ด ออยล์ ที่ได้พลังงานทั้งอ่าว 100 เปอร์เซ็นต์
    ถ้าไปดูรายรับ รายจ่าย ย้อนหลังประมาณ 10 ปี ผลกำไร ๆ ต่อปีของบริษัท สแตนดาร์ด ออยล์ หลายแสนล้านเหรียญ หรือทริลเลี่ยนดอลล่าร์ (ศูนย์ 18-19 ตัว) ถ้าแปลงค่าเป็นบาทคูณด้วย 30 จะใช้เป็นเงินงบประมาณบริหารประเทศไทยได้ 30 ถึง 50 ปี
    จากแผนที่อ่าวไทยจะมีเส้นประสีแดง แสดงอาณาเขต ตรงนั้นจะมีสี่เหลี่ยม 2 อันซ้อนกัน คือ ของเขมรกับไทย ต้องไปประกาศเขตแดนทางทะเลที่สหประชาชาติ ประเทศไทยลากไปสุดแค่เส้นรุ้งที่ 109 แต่จริง ๆ อ่าวไทยไปสุดเส้นรุ้ง 112 คือ เว้นไว้ 3 ช่องซึ่งรวมเนื้อที่ประมาณ 3 หมื่นตารางกิโลเมตร
    ส่วนกัมพูชาไม่ประกาศเลย เพราะอะไร? ก็จะรอใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ที่กำลังเจรจาปักปันเขตแดนอยู่ ซึ่งจะล้ำมากินเนื้อที่ใน 3 ช่องนั่นเอง
    อย่างนี้หมายความอย่างไร ไปเรียกตรงนั้นว่า "พื้นที่ทับซ้อน"
    แหล่งพลังงานตรงจุดนั้น นอกจาก น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ ปากหลุมยังมีหินคาร์บอนไฮเดรทที่เผาไหม้แล้วให้ความร้อนถึง 179 องศา บริษัทที่มีเครื่องมือเอาขึ้นมาได้ คือบริษัท บีพี หรือ บริทิช ปิโตรเลียม(อังกฤษ) บริษัทที่มีสิทธิขนไปใช้คือ สหรัฐอเมริกา
    ถามว่า มีคนกลุ่มไหนบ้างไปถือหุ้นในบริษัทพลังงานเหล่านี้ เช่น บริษัท มิตซุย ออยล์ คอมปานี ลิมิเต็ด อยากรู้มากกว่านี้ไปเปิดเว็บไซต์บริษัทโมอีโก้ (ญี่ปุ่น) และในนั้นมี ปตท. ปตท.สผ. รวมทั้งบริษัทไทยชื่อแปลก ๆ ถือหุ้นอีกมาก
    ทำไม ฮุน เซน จึงอยากได้ที่ดินบริเวณเขาพระวิหาร 4.6 ตร.กม. รวมถึงที่ดินบนริมขอบของจังหวัดตราดไปถึงอุบลราชธานี...ลองคิดดู มีการคำนวณไว้ใน ค.ศ.1993 บ่อพลังงานเล็ก ๆ บ่อเดียวในบริเวณอ่าวไทย มีน้ำมันมูลค่า 5 ล้านล้านบาท มาถึง ค.ศ.2011 น้ำมันถึง 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาเรล อีกสามปีข้างหน้าจะขึ้นไปอีกเท่าไหร่
    ในประเทศรอบอ่าวโอมาน, อิหร่าน และซาอุฯ เขาขายน้ำมันได้ ราษฎรก็พลอยรวยไปด้วย เพราะรัฐบาลจ่ายเงินเดือนให้ คิดเป็นหลายแสนบาทต่อครอบครัว รถยนต์ในประเทศใช้น้ำมันฟรีตลอดชีวิต
    ทำไมประชาชนไทยต้องซื้อน้ำมันแพง ลิตรละ 30-40 บาท... ถ้าในทะเลมี 1,000-2,000 บ่อ คิดไหมนักการเมือง นายทุนใหญ่ในประเทศนี้จะมีเอี่ยวไหม?
    นายกฮุน เซน ลงนามให้สัมปทานโตตาลไปแล้วในส่วนของกัมพูชา ส่วนที่เหยียบไว้ในส่วนที่สร้างวาทกรรม "พื้นที่ทับซ้อน" น่าจะเป็นแสนล้านบาท แล้วอย่างนี้ MOU จะแปลได้ไหมว่า คือ มันนี่, ออยล์ และ อันเดอร์ เทเบิล "เงินใต้โต๊ะ"
    ที่เหยียบไว้นี่แหละ จะมีคนพวกหนึ่งรู้เห็นเป็นใจ ให้เอาเงินไปใส่ในกระเป๋าผู้นำเขมร จากนั้นค่อยแอบไปแบ่งกันนอกประเทศ
    ส่วนรัฐไทยถูกล่ามด้วยโซ่ เอ็มโอยู ?
    เรื่องนี้ฝ่ายค้านหรือคนในรัฐบาลกัมพูชาเอง อย่างน้อยก็นายสม รังสี กับเจ้ารณฤทธิ์ ก็รู้ดีและอยากบ่อนเซาะเก้าอี้นายกฯฮุน เซน ถ้าถึงขั้นฟ้องศาลอาญาระหว่างประเทศขึ้นมาเมื่อไหร่ จะได้เห็นการทุจริตมโหฬารในรัฐบาลกัมพูชา
    นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ทำให้ผู้นำกัมพูชา เบี่ยงเบน หาเรื่องรบกับไทย เพื่อจะอยู่ในอำนาจต่อไป การรบกับไทยจึงเป็นปลายเหตุ เป็นความโหดเหี้ยมเอาประชาชนเป็นเหยื่อ
    การยิงปืนใหญ่ ยิงจรวดใส่กัน โดยไม่ให้ทหารราบเคลื่อนเข้ายึดพื้นที่ทางบกที่เราได้เปรียบ(เขมรต้องตกหน้าผาเขาพระวิหาร) ถือว่าผิดตำราพิชัยสงคราม และไม่ใช้กองทัพอากาศหนุนช่วย เปรียบเสมือนนักมวยสากล ถ้าใช้แย็ปอย่างเดียวได้แต้มเดียว ถ้ามีมัดฮุค หมัดครอส ชกเขาร่วงลงไปได้ 3 แต้ม แต่ไม่ทำ
    ที่รบกันชายแดนไทย-เขมร มันก็โอ้ละพ่อ!
    นานาประเทศต้องถือผลประโยชน์ของประเทศมาก่อน เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องรอง ต้องรักษาทรัพยากรของคนทั้งประเทศไว้เพื่อคนรุ่นต่อๆ ไป ทั้งนี้ ประเด็นสำคัญต้องทำเรื่องอาณาเขตให้ชัดเจนเสียก่อน ไม่เช่นนั้น จะแบ่งพื้นที่ทรัพยากรเป็นของประเทศใดยังไม่ได้
    จับพิรุธการตัดสินคดีรวบรัด ทำร้ายคนไทย
    ส่วนคดีศาลพนมเปญตัดสินคนไทย 5 คนนั้น เป็นการพิจารณาคดีอย่างรวบรัดตัดตอน (Summary Execution) ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้าม
    ถ้าพิสูจน์ได้ว่า จับคนไทยในดินแดนไทย ก็คือการลักพาตัว ลากเข้าไปในเขมรยัดข้อหาตัดสินอีก ประเทศไหนจะยอม(มีแต่ไทย) ส่วนจะอ้างว่า คนไทยยอมสารภาพ ก็เขมรนำคนไทยไปขังในสภาพแย่ ๆ ห้ามติดต่อกับทูต กับทนาย และมีท่าทีข่มขู่ คนไทยย่อมเกิดความหวาดกลัว เรียกว่า น็อน คอมโนนิกาโด(non communicado) คือ มิอาจจะติดต่อกับใครได้ นี่เป็นการกดดัน ทรมานอย่างหนึ่ง กติกาสากลห้ามทำเช่นนี้ ผู้นำประเทศใดทำเช่นนี้ ย่อมมีความผิด จะอ้างความเป็นนายกฯ เพื่อได้รับการยกเว้นไม่ต้องขึ้นศาลนั้น ไม่ได้
    พยานของเราไปแสดงหลักฐานในศาลกัมพูชา มีทั้ง น.ส.3 กับ ส.ค. มีตราครุฑของราชอาณาจักรไทย ศาลเขมรก็ไม่ยอมรับ ก็ให้บันทึกไว้จะเป็นพยานหลักฐานไว้ฟ้องคดีในศาลสากล
    ถ้าฟ้องสำเร็จ นายกฯฮุน เซน จะต้องจ่ายชดใช้ความเสียหายและค่าปรับไหม ให้คนไทยทั้งหมด เทียบเคียงคำพิพากษาคดี Filartiga (ฟิลาร์ติก้า ผู้นำประเทศปารากวัย สั่งฆ่าประชาชน แล้วหนีไปสหรัฐฯ ประชาชนยื่นฟ้อง ในที่สุดศาลสหรัฐอเมริกา ตัดสินในค.ศ.1980 ให้จ่าย 10 ล้านดอลลาร์) จะต้องจ่ายให้ผู้เสียหายคนละ 10 ล้านดอลลาร์ หรืออาจสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์
    นี่คือข้อมูลเสนอให้ตรวจสอบ พิสูจน์ เพื่อให้ประชาชนพี่น้องไทยได้เห็นความจริง.
    หมายเหต: ปรับปรุงจากการบรรยายเวทีเครือข่ายประชาชนไทยรักชาติ และกองทัพธรรมมูลนิธิ 8 กุมภาพันธ์ 2554
    อาจค้นข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแหล่ง 1.Lawyer, Lawyers, Attorney, Attorneys, Law, Legal Information - FindLaw 2.三井石油開発株式会社 3.JOINT DEVELOPMENT IN THE GULF OF THAILAND


    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2011
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 11:53
    สมัชชาคนจนชุมนุม

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สมัชชาคนจนกลุ่มปัญหาจ.อุบลฯ ร่วมพันมาปักหลักวันแรกที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เรียกร้องนายกฯสั่งการแก้ปัญหาที่เคยรับปากไว้ และสกัดปัญหาทีเกิดใหม่

     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 14:01
    120ส.ส.ปชป.-พรรคร่วม ยื่นปธ.สภาฯ ค้านขึ้นทะเบียนพระวิหาร

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    120 ส.ส.ปชป.-พรรคร่วม ยื่นหนังสือปธ.สภาฯ ค้านขึ้นทะเบียนพระวิหารเป็นมรดกโลก ด้านเพื่อไทยขอให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>รัฐสภา- นายอรรถพร พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้นำรายชื่อส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และพรรคร่วมรัฐบาลประมาณ 120 รายชื่อยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อขอให้ประธานสภานำความเห็นของส.ส.เสนอต่อผู้อำนวยการใหญ่องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ(ยูเนสโก) เพื่อคัดค้านการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งจะมีการประชุมกันในเดือนมิถุนายน โดยพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ
    นายอรรถพร กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่บริเวณโดยรอบพระวิหารยังเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา นอกจากนี้ยังปรากฏหลักฐานและภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาใช้พระวิหารเป็นฐานปฏิบัติการทางทหารด้วย ซึ่งขัดต่อหลักการและเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
    ดังนั้นหากยูเนสโกจะพิจารณารายงานของประเทศกัมพูชาเพื่อขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร จะยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ของไทยและกัมพูชาเข้าสู่ภาวะวิกฤตและอาจนำไปสู่การเผชิญหน้าและภาวะสงคราม ทั้งนี้การจดเบียนพระวิหารเป็นมรดกโลกจะกระทำได้ต่อเมื่อประเทศไทยและกัมพูชาบรรลุข้อยุติเรื่องเขตแดนที่ทั้งสองชาติยอมรับบนพื้นฐานของสนธิสัญญาที่เป็นสากล และแนวเส้นสันปันน้ำ มากกว่าการยึดหลักฐานซึ่งจัดทำขึ้นฝ่ายเดียวโดยปราศจากความเห็นชอบจากประเทศซึ่งเป็นคู่ขัดแย้ง
    ด้านพ.อ.อภิวันท์ กล่าวว่า ขอให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งการดำเนินการจากนี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ โดยจะต้องใช้วิธีการเจรจา เพราะหากรบกันก็มีแต่จะเสียหายทุกฝ่าย ผู้นำรัฐบาลทั้งสองประเทศจะต้องคุยกัน รมว.กลาโหมและรมว.ต่างประเทศของทั้งสองประเทศก็ต้องพูดคุยควบคู่ไปกับการเจรจาของผู้นำทั้งสองประเทศด้วย

    120
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง

    วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 12:54

    'สุเทพ'เชื่อกัมพูชาถูกประชาคมโลกกดดัน -พธม.ท้านายกฯแจงผ่านสื่อ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    "สุเทพ"เชื่อกัมพูชาถูกประชาคมโลกกดดันกรณีปะทะ ลั่น"ไตรรงค์-อลงกรณ์"แสดงสินค้าที่พนมเปญ17ก.พ.ทำให้บรรยากาศดีขึ้น ด้านพธม.ท้านายกฯแจงผ่านสื่อ
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>ทำเนียบรัฐบาล- นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) มีมติให้ไทยและกัมพูชา หยุดยิง หรือ ปะทะกัน แต่ก็กลับมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกว่า ที่ผ่านมาตนให้สัมภาษณ์ล้ำเส้นกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมมาทุกวันเลย แต่อยากจะยืนยันว่าตนเห็นใจพี่น้องทหารที่รักษาการณ์อยู่ตามแนวชายแดนในสถานการณ์อย่างนี้เป็นอย่างยิ่ง แต่ว่า ตนมั่นใจว่า แม้จะต้องมีการกระทบกระทั่งกันเพราะอีกฝ่ายต้องการทำให้สถานการณ์ไม่จบ แต่ทหารไทยจะไม่ทำให้ประเทศเราเสียเปรียบ
    ผู้สื่อข่าวถามว่า จะกลายเป็นสิ่งที่ดีกับไทยหรือไม่ เพราะยูเอ็นเอสซี มีมติออกมาแล้วแต่กัมพูชายังมีการยิงออกมาอีก รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่าต้องขอชื่นชม ผู้บังคับบัญชาที่อยู่ที่ชายแดน ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ของเราให้อยู่ระเบียบวินัย ไม่ให้มีการโมโหเวลาที่ถูกยั่ว แล้วไล่ติดตามเข้าไปในเขตเขา จนกลายมาเป็นประเด็นปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศต่อไป เราแค่ปกป้องตัวเองรักษาฐานที่มั่น
    ผู้สื่อข่าวถามว่า เรายังจะรักษาภาพลักษณ์บทนางเอก กับบทตัวโกงได้อีกนานแค่ไหน นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปว่าเขาเป็นตัวโกงเลย เป็นเรื่องระหว่างประเทศที่ต้องระมัดระวัง แต่ละคนแต่ละประเทศก็ต้องทำเพื่อประเทศตัวเอง และเชื่อว่าในที่สุดความมีเหตุ มีผล การที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาคมโลก เหมือนที่ผู้ชุมนุมของเราที่ต้องอยู่ภายใต้สายตาของประชาชนทั้งประเทศ ก็ต้องถูกกดดันด้วยประชาคมโลก
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่เหตุการณ์ไม่ยอมยุติเพราะกัมพูชา จงเกลียด จงชังรัฐบาลนี้ด้วย หรือไม่นั้น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า คงมีหลายเรื่อง บางเรื่องก็เป็นเพราะว่าความล่าช้าในกระบวนการขั้นเจรจาต้องมีขั้นตอนการปฏิบัติ ตนก็ต้องเรียนว่าที่พูดต้องพูดด้วยความระมัดระวังจริง ๆ ไม่เช่นนั้นจะลำบาก
    ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่นายไตรรงค์ สุวรรณคิรี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจและนายอลงกรณ์พลบุตร รมช.พาณิชย์ จะเดินทางไปร่วมเปิดนิทรรศการการแสดงสินค้าไทยที่กรุงพนมเปญ ในวันที่ 17 ก.พ.จะทำให้สัมพันธภาพทางการค้าช่วยลดแรงกระทบด้านชายแดนดีขึ้นบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวคิดว่าจะมีส่วนช่วยที่สำคัญ
    "ผมคิดว่าใจลึก ๆ ของสมเด็จฮุนเซน ก็หวังที่จะให้ความสัมพันธ์ของไทยกับกัมพูชาดีขึ้น เพราะการค้าของระหว่างประชาชน 2 ประเทศมีความหมายต่อการดำรงชีวิตของประชาชน"นายสุเทพ กล่าว
    ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ภาพที่เกิดขึ้นเหมือนการเล่นละครลิง เพราะมีการยิงกันจริง คนเจ็บเจ็บจริงแต่ 2 ประเทศยังไม่มีความชัดเจน และการทูตในสมัยนี้ทำไมเป็นเช่นนี้ นายสุเทพ กล่าวว่า เราต้องพยายามเข้าใจ เพื่อนบ้านเราด้วย จะให้คิดแบบเราทุกอย่างคงไม่ได้แต่ว่าเราต้องเข้าใจว่าเขาคิดอะไร และมีอะไรที่เราสามารถร่วมมือได้ ตอบสนองได้ ความต้องการที่จะเข้าไปบริหารพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร บนปราสาทพระวิหารนั้นก็เป็นส่วนหนึ่ง การบริหารจัดการพื้นที่ร่วมกั้นนั้นเราเคยเสนอไปแล้ว ที่ทางฝ่ายกัมพูชายังไม่เอาด้วย
    ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางกัมพูชาไม่คิดจะญาติดีกับไทยแล้วใช่หรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า" ไม่ใช่ครับ" เป็นเฉพาะเรื่อง โกรธกันบ้างเรื่องดีกันบางเรื่อง
    "จำลอง"เผยยังไม่ได้รับหมายเรียก รัฐบาลขู่ทำเป็นเรื่องใหญ่
    ด้านพล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวถึงหมายเรียกแกนนำพันธมิตรฯ 10 คนที่กระทำการขัดพ.ร.บ.มั่นคง ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับหมายเรียกเป็นลายลักษณ์อักษรจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ามาก็พร้อมจะปฏิบัติตามกระบวนการยุติธรรม แต่ไม่เข้าใจรัฐบาลว่าทำไมต้องข่มขู่เป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ได้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บช.น. 40 นายมาตรวจอาวุธในที่ชุมนุม โดยมี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ คอยตามประกบ
    ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพันธมิตรฯ ฝากท้าถึงนายกรัฐมนตรี พร้อมหรือไม่ที่จะชี้่แจงผ่านสื่อ โดยให้แต่ละฝ่ายชี้แจงคนละ 3 ชั่วโมง พูดเรื่องเดียวกัน ประเด็นเดียวกัน แต่คนละวัน

    '
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    " 12 ปัจจัย " ...ข้ออ้างสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ by Adrian Salbuchi


    นายเอเดรียน ซาลบุชี ชาวอาเจนตินา คาดการณ์ถึง 12 ปัจจัยที่พวกอีลิตและกลุ่ม NWO จะใช้เป็นตัวชนวนเพื่อนำไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ คือ

    1.Financial Meltdown การล่มสลายของระบบการเงินโลก
    2.Economic Crisis การล่มสลายของเศรษฐกิจโลก
    3.Social Upheavals การลุกฮือประท้วงของประชาชนในประเทศต่างๆทั่วโลก
    4.Pandamics แพร่กระจายโรคระบาดร้ายแรงที่จะใช้โจมตีไปทั่วโลก
    5.Global Warming อ้างเรื่องโลกร้อน และระบบ "คาร์บอนเครดิต"
    6.False Flage Attack ก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในระดับโลก ( ร้ายแรงกว่า 911 )
    7.War in Middle East ความขัดแย้งและสงครามในตะวันออกกลาง
    8.More Eco-Accidents สร้างเหตุภัยพิบัติในลักษณะเดียวกับที่น้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก

    9.Political Assasination ลอบสังหารบุคคลสำคัญในระดับโลก เพื่อสร้างและขยายความขัดแย้ง
    10.Attack on "Rogue State" ขยายผลความขัดแย้งให้กับ อิหร่าน เกาหลีเหนือ และประเทศเป้าหมายศัตรูอื่นๆ
    11.Staged "Religious Event" จัดฉากเพื่อเตรียมการจัดตั้งศาสนาและความเชื่อใหม่
    12.Staged "Alien Contact" จัดฉากเพื่อเปิดเผยการมาเยือนของมนุษย์ต่างดาว โดย สหประชาชาติและสหรัฐ

    ซึ่งเกือบทั้งหมดก็กำลังเกิดขี้นแล้ว ณ เวลานี้ และคงจะเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ ไปจนถึงปี 2012 และลองดูแนวคิดและทางการต่อต้านของเค้านะครับ

    คนนี้เป็นชาวอาเจนตินา ที่ศึกษาเรื่องราวของกลุ่ม NWO อย่างลึกซึ้ง จนถึงขั้นเขียนหนังสือออกมาเปิดโปงเรื่องราวเหล่านี้<WBR></WBR> และพยายามปลุกกระแสต่อต้านขึ้นในประเทศของเค้าเอง จากเหตุการล่มสลายทางเศรษฐกิจด้วยน้ำมือของกลุ่ม NWO นี้ ที่เข้าไปทำลายประเทศของเค้าอย่างยับเยินในปี 2001-2002



    <IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/xW0FprsphrE?rel=0" frameBorder=0 width=480 height=390 allowfullscreen=""></IFRAME>

    โพสต์ที่ผมเขียนไว้ในเรื่อง<WBR></WBR>การ "ล้ม" ของประเทศอาเจนตินา ด้วยน้ำมือของพวก NWO ที่เกิดขึ้นในปี 2001 ประเทศของเค้าก็โดนไม่ต่างไ<WBR></WBR>ปจากที่ประเทศเราโดน ลองสังเกตุบทบาทของตัวละครห<WBR></WBR>น้าเดิมๆ คือ IMF และมือวางระเบิดทางเศรษฐกิจ<WBR></WBR>อีกหลายๆตัว เรามาลองศึกษาประวัติศาสตร์<WBR></WBR>เพื่อทำนายอนาคตครับ click!!

    ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
    The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=


    โพสต์โดย What's going on in America โพสต์เมื่อ <A class=timestamp-link title="permanent link" href="http://jimmysiri.blogspot.com/2011/02/12-by-adrian-salbuhchi.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2011-02-16T14:04:00+07:00>2:04 หลังเที่ยง</ABBR> 0 comments [​IMG] [​IMG]






    <SCRIPT type=text/javascript>if (window['tickAboveFold']) {window['tickAboveFold'](document.getElementById("latency-3704134199022753675")); } </SCRIPT>The Day After The Dollar Crashes


    "The Day After The Dollar Crashes" อีกหนึ่งวีดีโอคลิปที่จำลองเหตุการณ์ "การล้ม" ของเงินดอลล่า เพื่อแนะนำหนังสือคู่มือการเอาตัวรอดจากการกำเนิดของ NWO หรือ การจัดระเบียบโลกใหม่ ...อย่าพลาดครับ !!

    <IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/hS2HfjR9oPM?rel=0" frameBorder=0 width=480 height=390 allowfullscreen=""></IFRAME>

    ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
    The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=1



    โพสต์โดย What's going on in America โพสต์เมื่อ <A class=timestamp-link title="permanent link" href="http://jimmysiri.blogspot.com/2011/02/day-after-dollar-crashes.html" rel=bookmark><ABBR class=published title=2011-02-16T12:42:00+07:00>12:42 หลังเที่ยง</ABBR> 0 comments [​IMG] [​IMG]






    <SCRIPT type=text/javascript>if (window['tickAboveFold']) {window['tickAboveFold'](document.getElementById("latency-549309877080124131")); } </SCRIPT>ตราสารอนุพันธ์ (DERIVATIVES)


    ตราสารอนุพันธ์ (DERIVATIVES) เป็นตราสารทางการเงินชนิดหนึ่ง ที่มีคุณลักษณะพิเศษคือ เป็นตราสารที่ไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่มีมูลค่าขึ้นอยู่กับ สินค้าอื่นที่ตราสารอนุพันธ์นั้นอ้างอิงอยู่ โดยสินค้าที่ตราสารอนุพันธ์อ้างอิง จะเรียกว่า สินค้าอ้างอิง (Underlying Asset)ลักษณะเด่นของตราสารอนุพันธ์อีก อย่างหนึ่งคือ เป็นตราสารที่มีอายุจำกัด เมื่อหมดอายุมูลค่าของตราสารนั้นๆ ก็จะหมดลงด้วย

    การซื้อขายอนุพันธ์ที่ได้ยินข่าวคราวอยู่เสมอ ก็คือ การซื้อขายสินค้าล่วงหน้า เช่น การซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าในต่างประเทศ เป็นต้น แต่จริงๆ แล้ว คุณลักษณะของอนุพันธ์ มีให้พบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เพื่อให้ถึงความหมายของอนุพันธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น จะยกตัวอย่างเรื่องใบจองซื้อรถมาอธิบายถ้าคนต้องการ รถใหม่เป็นจำนวนมากและมีคนจำนวนหนึ่งที่ซื้อใบจองรถไม่ทันคนเหล่านี้จึงไปขอ ซื้อใบจองรถจากคนที่จองได้ โดยยอมจ่ายค่าใบจองแพงกว่าราคาที่ขายตอนแรก จากราคาไม่กี่พันบาท ใบจองรถบางรุ่นก็ขึ้นไปถึงหลักหมื่นก็มี ทั้งที่ตัวใบจองรถเปล่าๆ ถือว่าไม่มีค่าอะไรเลย แต่ค่าของมันอยู่ที่ “สิทธิ” เพื่อใช้ซื้อรถตามรุ่น ตามยี่ห้อ และราคาตามที่ระบุไว้ ภายในเวลาที่กําหนดไว้ในใบจอง ถ้าครบกําหนดแล้วผู้ถือใบจองไม่นําใบจองไปใช้สิทธิซื้อรถ ใบจองรถใบนั้นก็จะหมดค่าไปทันที ในกรณีนี้เรา เปรียบ “ใบจองรถ” ได้ว่าเป็น “อนุพันธ์” ประเภทหนึ่ง ที่ให้สิทธิในการซื้อรถได้ ส่วน “รถยนต์” ก็เปรียบได้กับ “สิ่งที่มันอ้างอิง” ของอนุพันธ์ฉบับนั้นๆ นั่นเอง

    จะเห็น ได้ว่าราคาของใบจองรถที่ยังไม่หมดอายุจะมากหรือจะน้อยเท่าใดขึ้นกับว่าใบจองนั้นเป็นใบจองสําหรับรถยนต์ยี่ห้ออ<WBR></WBR>ะไร รุ่นอะไร คนนิยมกันมาก แค่ไหน ถ้าเป็นรุ่น ยอดนิยมราคาใบจองก็อาจจะสูงมาก แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่นิยมคนไม่ต้องการ คนที่ซื้อใบจองมาตอนแรกถ้าเปลี่ยนใจไม่อยากซื้อรถแล้ว ต้องการขาย ใบจองก็อาจขายไม่ออก หรือต้องขายในราคาต่ำมากๆ จึงจะมีคนยอมซื้อ ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าของใบจองรถ ที่อุปมาเป็นอนุพันธ์ จะไม่มีมูลค่าในตัวเอง แต่คุณค่าของ อนุพันธ์จะอยู่ที่ “สินทรัพย์อ้างอิง”การซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ ก็เปรียบเสมือนการนำใบจองรถมาซื้อขายเปลี่ยนมือในตลาด ราคาของใบจองจึงเพิ่มลดเปลี่ยนแปลง ตามอุปสงค์และ อุปทานในตลาด ผู้ที่ซื้อใบจองมาก็หวังว่าจะขายได้ในราคาสูงขึ้น ซึ่งการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์จะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนสามารถ "ขายก่อนซื้อ" หรือ "ซื้อก่อนขาย" ก็ได้ จึงทำให้เกิดโอกาสทำกำไรในสองขา เช่นจากตัวอย่างข้างต้น หากผู้ลงทุนคาดว่าราคาใบจองจะสูงขึ้น ก็สามารถเข้ามาซื้อ และรอขายทำกำไรใน อนาคต แต่หาก ผู้ลงทุนคาดว่าราคาใบจองจะต่ำลง ก็สามารถเข้ามา "ขาย" ก่อนได้เลย และรอ "ซื้อ" เพื่อทำกำไรในภายหลัง

    นอกจากนี้ ตราสารอนุพันธ์ยังมีจุดเด่นที่ใช้เงินลงทุนน้อย ผู้ลงทุนมีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง จากตัวอย่างใบจองรถข้างต้นจะเห็นว่าคนที่ซื้อใบจองรถมา ตอนแรก แล้วนำใบจองรถไปขายต่อ ใช้เงินทุนน้อยมาก เมื่อเทียบกับเงินที่ต้องใช้ซื้อรถจริงๆ เพื่อรอนำไปขายต่อทำกำไรอย่างไรก็ตาม แม้ว่าการซื้อขายใบจองรถจะมี ลักษณะคล้ายกับการซื้อขายในตลาดอนุพันธ์ แต่ก็เป็นเพียงการยกตัวอย่างเพื่อให้เกิดความเข้าใจมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากตราสารอนุพันธ์มีหลายประเภท วิธีการซื้อ ขายตลอดจนกำไรและขาดทุนของผู้ซื้อและผู้ขาย จึงขึ้นอยู่กับประเภทของอนุพันธ์นั้นๆ

    ประเภทของสินค้าที่ซื้อขายในตลาดอนุพันธ์
    โดยหลักๆ แล้วตราสารอนุพันธ์ที่ซื้อขายกันในตลาดเงินทั่วโลก สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ ด้วยกัน ได้แก่
    1. ฟิวเจอร์ส (FUTURES)
    สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่ซื้อขายผ่านตลาดอนุพันธ์ที่มีการจัดตั้งอย่าง
    เป็นทางการ เมื่อถึงเวลาที่กำหนดผู้ซื้อและผู้ขายมีพันธะต้องซื้อขายกัน
    ตามที่ตกลงในสัญญา
    2. ออปชั่น (OPTIONS)
    สัญญาสิทธิ ผู้ขายมีภาระต้องปฎิบัติตามพันธะในสัญญา ในขณะที่ผู้
    ซื้อมีสิทธิ จะเลือกใช้สิทธิหรือไม่ก็ได้
    3. ฟอร์เวิร์ด (FORWARD)
    สัญญาซื้อขายล่วงหน้าคล้ายกับฟิวเจอร์ส แต่ผู้ซื้อและผู้ขายตกลงซื้อ
    ขายกันนอกตลาดที่มีการจัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ
    4. สวอป (SWAP)
    ข้อตกลงระหว่างบุคคลตั้งแต่ 2 ฝ่ายขึ้นไป ในการแลกเปลี่ยนกระแสเงิน
    สดในอนาคต

    ทั้งนี้ ในปัจจุบันตราสารอนุพันธ์ที่ซื้อขายใน บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (TFEX) มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ สัญญาฟิวเจอร์ส (FUTURES) และสัญญาออปชั่น (OPTIONS) โดยประกอบด้วย
    SET50 Index Futures เริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 28 เมษายน 2549
    SET50 Index Options เริ่มซื้อขายเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2550

    ที่มา : TFEX

    ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
    The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=1



    โพสต์โดย What's going on in America
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทบ.แฉเขมรถล่มเจาะแนวรั้วค่ายทหารไทยทั้งคืน แต่ถูกตีโต้หนีกระเจิง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 14:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    กองทัพบก แฉ ทหารกัมพูชาเหิม ใช้ทั้งปืนกล ระเบิดมือ ปืนครก และจรวดอาร์พีจี ระดมยิงเข้าที่ตั้งทหารไทยภูมะเขือ ตลอดทั้งคืน หวังเจาะแนวรั้วค่ายทหารไทย แต่ถูกตอบโต้จนกระเจิงกลับไป

    วันนี้ (16 ก.พ.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก (ทบ.) เปิดเผยถึงการปะทะของทหารไทยกับทหารกัมพูชาตลอดคืนวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า การปะทะเกิดขึ้นทั้งหมดที่บริเวณด้านทิศตะวันตกของภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยเริ่มขึ้นการปะทะตั้งแต่เวลา 20.00 น.โดยทหารกัมพูชาได้ขว้างระเบิดมือเข้ามาใส่ที่ตั้งของทหารไทย ต่อมาเวลา 21.00 น.ทหารกัมพูชาได้พยายามเจาะแนวรั้วของทหารไทย เราจึงใช้ระเบิดขว้างตอบโต้จนทำให้ทหารกัมพูชาที่พยายามเจาะรั้วเข้ามาในเขต เราถอยกลับไป และยุติการปฏิบัติการดังกล่าว ต่อมาเวลา 22.00 น.ทหารกัมพูชาได้ปฏิบัติการแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่อีกครั้ง พร้อมขว้างระเบิดมือมายังที่ตั้งของทหารไทย ทางเราได้ขว้างระเบิดมือเพื่อเป็นการตอบโต้ตามความเหมาะสม

    พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในเวลา 02.00 น.ทหารกัมพูชาได้พยายามแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่ของทหารไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ทหารกัมพูชาได้ใช้ปืนกล ปืนครก (เครื่องยิงลูกระเบิดวิถีโค้ง) และยิงจรวดอาร์พีจี ระดมยิงเข้ามาบริเวณที่ตั้งทหารไทยตรงภูมะเขือ ทำให้เราต้องใช้มาตรการตอบโต้ตามความเหมาะสมเพื่อเป็นการป้องกันตัว และผลักดันให้ทหารกัมพูชาล่าถอยออกไป นอกจากนี้ช่วงเวลา 03.50-04.00 น.ทหารกัมพูชาได้พยายามโจมตีที่ตั้งทหารไทยบริเวณภูมะเขืออีกครั้งก่อนถอยกลับ

    “ทหารกัมพูชาพยายามเจาะแนวป้องกันของทหารไทยบริเวณภูมะเขือตลอดทั้งคืน แต่ไม่สำเร็จ ซึ่งการปะทะกันตลอดทั้งคืนใช้เวลาแต่ละครั้งไม่นาน อย่างไรก็ตาม การปะทะของทหารไทย-กัมพูชาได้ยุติเวลา 05.25 น.เช้ามืด (16 ก.พ.) ทั้งนี้ การปะทะตลอดคืนทหารไทยไม่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะทหารทุกคนได้ปฏิบัติตามที่ผู้บังคับบัญชาที่ได้เน้นย้ำในเรื่องการรักษาความปลอดภัย การป้องกันตำแหน่งที่ตั้ง และมาตรการตอบโต้ของทหารไทยอยู่ในระดับที่เหมาะสม ใช้แค่อาวุธเบาเท่านั้น เพราะไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลาย”

    Politics - Manager Online -
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขาใหญ่ ปชป.พล่านพิษน้ำมันปาล์ม "เทือก" จนแต้มโยนพาณิชย์รับบาป
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 15:34 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    พิษน้ำมันปาล์มเล่นงานขาใหญ่ ปชป.พล่าน "เทพเทือก" เตรียมเรียกกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงปัญหาการระบายน้ำมันปาล์ม หลังพบปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด ส.ส.กทม. แนะเพิ่มจุดขายเพิ่ม ส่วนสถานการณ์น้ำมันปาล์มใน ตจว.ปั่นป่วนหนัก ยอดจัดสรรไม่เพียงพอต่อความต้องการ ขณะที่มีการลักลอบนำน้ำมันจุกฟ้าไปใส่ถุงขาย

    นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะประธานคณะกรรมการปาล์มน้ำมันแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มที่ยังขาดแคลนและมีราคาแพง โดยระบุว่า ตนเองจะเรียกกระทรวงพาณิชย์ชี้แจงถึงปัญหาการระบายน้ำมันปาล์ม หลังมีการนำเข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่ยังพบปัญหาน้ำมันปาล์มขาดตลาด และมีการร้องเรียนเข้ามา

    นางอรองค์ คล้ายนก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงปัญหาน้ำมันปาล์มขาดแคลน โดยมองว่า ถ้าราคาน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นเพราะกักตุน เชื่อว่าประชาชนคงยอมรับไม่ได้ และที่รัฐบาลเพิ่มการจำหน่ายน้ำปาล์ม 10 ล้านขวด โดยในพื้นที่ กทม.มีขายที่กระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ ส่วนในต่างจังหวัด มีขายที่ศาลากลางจังหวัด ในราคาขวดละ 47 บาท ซึ่งจำกัดให้สามารถซื้อได้คนละ 2 ขวด แต่เชื่อว่าราคาจะสูงขึ้น

    อย่างไรก็ตาม คิดว่าใน กทม.คงไม่มีใครจะเดินทางเสียเวลา 3 ชั่วโมง เพื่อไปซื้อที่กระทรวงพาณิชย์ ขอให้กระทรวงพาณิชย์ เร่งเพิ่มและเปิดจุดจำหน่ายให้ทั่วถึงด้วย

    ทั้งนี้ ผลการสำรวจสถานการณ์จำหน่ายน้ำมันปาล์ม และน้ำมันพืชชนิดอื่นในตลาด และห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยพบว่า โดยทั่วไปยังเกิดปัญหาขาดแคลน และมีราคาแพงอย่างหนัก รวมถึงมีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้า ซึ่งเป็นโควตานำเข้าพิเศษจากรัฐบาล 30,000 ตัน มาจำหน่ายเกินราคาด้วย

    โดยในห้างค้าปลีก ประชาชนจะต้องไปหาซื้อช่วงเช้าเท่านั้น หากเกินช่วงบ่ายจะไม่มีของจำหน่าย จากการสอบถามพนักงานประจำห้าง ชี้แจงว่า ได้รับโควตามาน้อย ขายหมดแล้วก็หมดเลยไม่มีเติม ส่วนตามตลาดสดหลายแห่งย่านดอนเมือง สะพานใหม่ พบน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้า จำหน่ายในราคาถึงขวดละ 65 บาท สูงกว่าที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด 47 บาท

    นอกจากนี้ ยังได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า ร้านค้าปลีกรายใหญ่บางแห่งที่เปิดบริการ 24 ชั่วโมง ได้แอบขายน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้าให้แม่ค้าซื้อถึงคนละ 4 ขวด ทั้งที่ปกติจำกัดให้ซื้อคนละ 1 ขวด โดยพนักงานแจ้งให้มาต่อคิวซื้อตั้งแต่ตี 4 ซึ่งเป็นช่วงลูกค้าน้อย ส่งผลให้สินค้าหมดตั้งแต่เช้ามืด และประชาชนทั่วไปไม่สามารถหาซื้อน้ำมันปาล์มโควตารัฐได้ เช่นเดียวกับย่านวงเวียนใหญ่ ที่มีร้านค้าส่ง ลักลอบนำน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้าไปเทใส่ถุงขายทำกำไร โดยขายส่งถุงลิตรละ 67 บาท ทำให้ร้านค้าปลีกขายเพิ่มเป็น 73 บาท ทั้งที่ต้นทุนจริงเพียง 47 บาท

    ส่วนน้ำมันพืชชนิดอื่นพบว่ามีราคาแพงขึ้นทั้งหมด ส่วนน้ำมันถั่วเหลืองหาซื้อได้ยากและมีราคาขายเท่าน้ำมันปาล์มขวดละ 65-75 บาท และประชาชนเป็นห่วงว่า หากมีการลักลอบนำน้ำมันปาล์มโควตาพิเศษของรัฐมาจำหน่ายตามตลาดมืด อาจทำให้โควตาน้ำมันปาล์มทั้ง 22 ล้านลิตร จะขายหมดก่อนกำหนด ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสินค้าขาดแคลนหนักขึ้น ในช่วงที่น้ำมันปาล์มรอบใหม่ยังไม่นำเข้ามา

    รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำมันปาล์มยังขาดแคลน ส่วนหนึ่งมาจากผู้ผลิตไม่ยอมผลิตสินค้าออกสู่ตลาด เพราะต้นทุนการผลิตสูงเกินกว่าราคาบรรจุขวดที่กำหนดไว้ 47 บาท โดยขณะนี้ราคาผลปาล์มเฉลี่ย กก.ละ 7-10 บาท ราคาน้ำมันปาล์มควรจะอยู่ที่ 54 บาท แต่เมื่อถูกบังคับให้ขายในราคาควบคุม ก็ไม่มีใครผลิตน้ำมันปาล์มออกมาจำหน่าย เว้นแต่การบรรจุขวดฝาสีฟ้าตามโควตากระทรวงพาณิชย์ ทำให้น้ำมันปาล์มที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาดจะมีแค่ฝาสีฟ้าเท่านั้น

    ขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบพบว่า ขั้นตอนการจำหน่ายผ่านห้างสรรพสินค้า ได้มีการลักลอบขายหลังห้าง ซึ่งวิธีการพนักงานห้างจะทำการสแกนบาร์โค้ดน้ำมันปาล์ม เพื่อหักยอดออกจากระบบ แล้วนำน้ำมันตรงนี้ไปขายต่อให้กับผู้ที่สนใจในราคาที่สูงกว่าราคาควบคุม และยังพบยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ได้ปั่นราคาด้วย โดยที่ผ่านมาผู้ค้ารายย่อยที่ถูกกระทรวงพาณิชย์จับกุมได้ซัดทอดว่ายี่ปั๊ว ซาปั๊ว ได้ปรับขึ้นราคาขายส่ง ทำให้ต้องขายปลีกในราคาที่แพงขึ้น

    ส่วนสถานการณ์ต่างจังหวัด พบว่า ปริมาณน้ำมันปาล์มจุกสีฟ้าที่กระจายออกไปในหลายจังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง พิษณุโลก ตราด ระนอง และสุราษฎร์ธานี ยังจัดสรรไม่เพียงพอกับความต้องการ ประชาชนเข้าคิวยาวเพื่อรอซื้อ แต่สิค้ากลับหมดลงในเวลาที่รวดเร็ว

    ขณะที่ผู้ค้าน้ำมันพืชรายย่อยในตลาดอุทัยธานี กล่าวอ้างว่า หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์จัดส่งน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้าเข้ามาขายในพื้นที่อุทัยธานีโดยผ่านร้านค้าย่อย ร้านโชห่วย จำนวน 120 ลัง หรือ 1,440 ขวด ปรากฏว่า น้ำมันที่ได้รับ ได้ขายออกไปหมดแล้ว

    ซึ่งจากการสังเกต พบว่ามีผู้ค้าบางราย นำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดฝาสีฟ้า ไปเทใส่ถุงแล้วแพ็คปิดปากถุง เป็นน้ำมันปาล์มบรรจุถุง แล้วขายในราคาถุงละ 60 -65 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าลิตรละ 47 บาท ตามที่กรมการค้าภายในกำหนด จึงอยากเรียกร้องให้กรมกรมการค้าภายในออกไปตรวจสต็อกสินค้าน้ำมันปาล์มของยี่ปั้วอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันแก้ปัญหากักตุนสินค้าเก็งกำไร จนทำให้สินค้าขาดตลาดในระยะนี้

    สำหรับจังหวัดอุทัยธานี ได้รับน้ำมันปาล์มฝาสีฟ้า 12,000 ขวด โดยแบ่งสัดส่วนจำหน่ายโดยหน่วยจำหน่ายเคลื่อนที่ ในเขต อ.เมือง 30 % ต่างอำเภอ 70 % ในจำนวนนี้จำหน่ายส่งให้ผู้ค้ารายย่อย หรือโชห่วย ไปขายปลีก 1,440 ขวด ซึ่งสำนักงานการค้าภายในแจ้งว่าจ่ายสินค้าไปถึงมือผู้ค้าหมดแล้ว
    Business - Manager Online -
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “ผู้เฒ่าฮอง” ป่าวประกาศอาเซียนจะเข้าชายแดน เตรียมหยุดยิงถาวร
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 12:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ภาพวันที่ 9 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาเดินท่อมๆ ในบริเวณปราสาทพระวิหาร แม้ว่าการปะทะจะหยุดลงแล้วก็ตาม ภาพของสำนักข่าวต่างประเทศต่างๆ ยังแสดงให้เห็นทหารอีกจำนวนมากอาวุธครบมือยังคงประจำอยู่ในพื้นที่พิพาทรอบๆ แต่หลังการประชุม UNSC รมว.ต่างประเทศกัมพูชาอ้างว่า อาเซียนกำลังจะส่งคณะสังเกตการณ์เข้าไป "ดูสภาพการณ์" นำไปสู่การหยุดยิง กัมพูชากำลังพยายามผลักดันแผนบริหารจัดการปราสาทมรดกโลกซึ่งรวมถึงพื้นที่รอบๆ ปราสาทด้วย การเลือกตั้งระดับท้องถิ่นจะมีขึ้นในปีหน้า.-- REUTERS/Damir Sagolj.

    ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- นายฮอร์นัมฮอง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชากล่าวว่า อาเซียนกำลังจะส่ง “คณะสังเกตการณ์” เข้าไปยังพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหาร เพื่อตรวจสภาพการหยุดยิงอย่างถาวร หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีคำแถลงสนับสนุน การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 22 ก.พ.2554 นี้ ในกรุงจาการ์ตา

    สำนักข่าวเอเคพีของทางการรายงานเรื่องนี้ โดยอ้างการว่า รัฐมนตรีอาวุโสให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ช่องหนึ่งในกรุงพนมเปญจากนครนิวยอร์ก โดยไม่ได้อธิบายว่าเรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร

    นายฮองวัย 73 ปี ยังประกาศอีกว่า กัมพูชาประสบความสำเร็จใน 3 เรื่องจากการประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงฯ (UN Security Council) คือ นำกรณีปราสาทพระวิหารเข้าสู่เวทีระดับโลก คำแถลงของ UNSC ที่เรียกร้องให้สองฝ่ายจัดให้มีการหยุดยิงถาวร และ ทำให้สิ้นสุดการเจรจาทวิภาคีกับไทย

    หลังการประชุมในวันจันทร์ 14 ก.พ.ประธาน UNSC ประจำเดือน ก.พ.ซึ่งเป็นผู้แทนถาวรประเทศบราซิล ได้อ่านคำแถลงความยาว 6 ย่อหน้ารวมไม่ถึง 1 หน้ากระดาษ สนับสนุนการประชุมพิจารณาแก้ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชาของกลุ่มอาเซียนที่กำลังจะมีขึ้น และ “เรียกร้อง” ให้สองฝ่ายสถาปนาการหยุดยิงอย่างถาวร

    การออกคำแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังได้รับฟังการให้ข้อมูลของนายฮอง กับ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทย และ นายมาร์ตี นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานอาเซียนในปีนี้

    ยังไม่มีฝ่ายใดทราบรายละเอียดในขณะนี้ ว่าอาเซียนจะมีวิธีดำเนินการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทอย่างไร และ จะส่ง “คณะสังเกตการณ์” ไปตรวจสอบพื้นที่เพื่อ “ให้มีการหยุดยิง” ตามนายฮองกล่าวอ้างได้อย่างไร

    คำแถลงของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ยังเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาใช้ความอดทนอย่างถึงที่สุด ไม่กระทำการอันใดที่จะทำให้สถานการณ์ลุกลามอีก และแก้ปัญหาอย่างสันติโดยผ่านการสนทนาที่มีประสิทธิผล

    รมว.ต่างประเทศกัมพูชา ได้เรียกร้องในคำแถลงที่นำเสนอต่อ UNSC ให้องค์การทางการเมืองและการทหารของสหประชาชาตินี้ได้ “ติดตาม” ความขัดแย้งระหว่างกัมพูชา-ไทย ต่อไปอีกด้วย แต่ในคำแถลงของ UNSC ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้

    [​IMG]

    ภาพวันที่ 8 ก.พ.2554 ทหารกัมพูชาทั้งท่าให้ถ่ายรูป ขณะปักหลักเพื่อตั้งมั่นอยู่ใกล้กับปราสาทพระวิหาร ในวันที่เสียงปืนสงบแต่ยังคงเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ ภาพของสำนักข่าวต่างประเทศแสดงให้เห็นทหารกัมพูชาจำนวนมาก ประจำอยู่ในพื้นที่พิพาทกับไทบรอบๆ ปราสาท การหยุดยิงจะเกิดขึ้นได้อย่างไรหากยังมีทหารของสองฝ่ายอยู่ในพื้นที่พิพาท? กัมพูชาจะยอมถอนออกไปหรือไม่? ในขณะพยายามผลักดันแผนบริหารจัดการปราสาทมรดกโลกให้สำเร็จ เพื่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นในปีหน้า?.-- REUTERS/Damir Sagolj.

    IndoChina - Manager Online -
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เงินเฟ้อจีนยังพุ่ง เกือบ 5% คาดกระชับมาตรการฯ เข้มอีก
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 11:40 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อจีนย้อนหลัง รอบปี 53/54 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน

    เอเยนซี - สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยวันอังคาร 14 ก.พ. ว่า ดัชนีผู้บริโภคประจำเดือนมกราคม เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 4.9 สูงกว่าเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว ที่ร้อยละ 4.6 แต่ยังต่ำกว่าคาดหมายเล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดว่าเงินเฟ้อจะอยู่ที่ระดับ 5% บรรดานักวิเคราะห์คาดเร็วๆ นี้จะมีการเพิ่มทุนสำรองฯ และขึ้นดอกเบี้ยธนาคารอีก

    จีนรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมกราคม 2554 โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (consumer price index ) ที่เพิ่มขึ้นนี้ เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหารที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.3 ขณะที่หลายพื้นที่ปลูกข้าวสาลีของจีน กำลังขาดน้ำเพราะภัยแล้งอันมาจากฝนทิ้งช่วง น่าวิตกว่าจะซ้ำเติมสถานการณ์ขาดแคลนอาหาร

    ด้านนักเศรษฐศาสตร์บางคนกล่าวว่า ตัวเลขดัชนีนี้อาจจะไม่สามารถวัดได้ตรงแม่นยำนัก เพราะสำนักงานสถิติได้กำหนดดัชนีสำหรับคำนวณใหม่ โดยให้น้ำหนักกับราคาอาหารน้อยลง และเพิ่มการพิจารณาไปที่ค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นมาตรวัดที่ต่างจากเดือนก่อนหน้า นักวิเคราะห์บางคนคาดว่าภาวะเงินเฟ้อกำลังแพร่กระจาย ในขณะที่ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลขยายวงไปยังสินค้าบริการอื่น ๆ ด้วย

    พอล คาวีย์ หัวหน้าหน่วยเศรษฐกิจจีน ที่ Macquarie Securities กล่าวว่าค่าบริการและสินค้าอื่นนอกเหนือจากอาหาร ในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 เทียบกับปีก่อนหน้านี้

    Kowalczyk Dariusz นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสจาก Crédit Agricole ในฮ่องกง กล่าวว่า ตัวเลขในเดือนมกราคมเพิ่มสูงสุดนับตั้งแต่รัฐบาลเริ่มเก็บข้อมูลในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา และความคาดว่าสถานการณ์อัตราเงินเฟ้อยังน่าวิตก

    เถา หวัง นักเศรษฐศาสตร์จาก UBS Securities ในกรุงปักกิ่ง เตือนว่า แนวโน้มเงินเฟ้อยังยากคาดการณ์ โดยเฉพาะในส่วนของราคาสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร ซึ่งสำนักงานสถิติฯ ต้องเก็บข้อมูลตัวเลขอย่างละเอียด ไม่เพียงให้น้ำหนักไปที่ราคาบ้านเท่านั้น

    รายงานข่าวกล่าวว่า จีนได้ออกชุดมาตรการรับมือกับเงินเฟ้อ ด้วยการขึ้นดอกเบี้ยและสั่งการไปยังบรรดาธนาคารพาณิชย์ ให้ควบคุมการปล่อยสินเชื่อ แต่การใช้มาตรการเหล่านั้น ด้านหนึ่งก็มีส่วนกระทบกับการเจริญเติบโตด้วย

    สำนักข่าวซินหวา รายงานว่า ราคาอาหารที่สูงขึ้น 10.3% นั้น เป็นเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลตรุษจีน อาหารหลายอย่างขาดตลาด พอล คาวีย์ บอกว่า เร็วๆ นี้ คงมีมาตรการเข้มคุมราคาบ้านออกมาอีก หลังจากราคาบ้านยังคงสูงขึ้น 6.8% มากสุดในรอบสองปีครึ่ง

    ในส่วนดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer price index) ราคาขายส่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.6 สะท้อนให้เห็นถึงค่าจ้างแรงงานฯ และราคาสินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ ที่สูงขึ้น

    ภาวะวิกฤติการเงินโลกในปี 2551 ส่งผลให้ตลาดแรงงานย้ายถ่ายเทไปในเอเชียมหาศาล โดยเฉพาะจีนซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า มีต้นทุนด้านค่าจ้างแรงงานต่ำมาก ปัจจุบันก็ต้องเผชิญแรงกดดันให้ต้องปรับอัตราค่าจ้างแรงงาน โดยเกือบครึ่งหนึ่งของบรรดานายจ้างในแผ่นดินใหญ่ กล่าวว่า ปีที่แล้วพวกเขาได้ขึ้นเงินเดือนให้พนักงานไปกว่า 6 - 10 % และเกือบ 9 ใน 10 ราย คาดว่า ปีนี้ ก็ต้องเพิ่มขึ้นให้อีก ราว 6%

    สื่อจีนรายงานวันอังคารที่ผ่านมาว่า คณะกรรมาธิการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติ เสนอให้รัฐบาลเตรียมเพิ่มทุนสำรองสำหรับธนาคาร และขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกรอบ โดยกล่าวว่าคราวนี้ จะเพิ่มทุนสำรองสำหรับธนาคารให้อยู่ในสัดส่วน 23% ของหนี้สิน จาก 19.5% ในเวลานี้ อันเป็นการเพิ่มสัดส่วนฯ ครั้งที่ 7 ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา

    China - Manager Online -
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กต.โยน กห.คุยหยุดยิง รอถก 2 ชาติ เวทีอาเซียน ปัดเข้าทางแขมร์
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 16:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เลขาฯ “กษิต” รับเขมรไม่หยุดยิง อาจมีผลเจรจาทวิภาคี พร้อมแฉชาวโลกเพื่อนบ้านเกเรก่อน โยน “ประวิตร” เจรจา “เตีย บัณห์” ยังรอดูท่าทีคุยเจบีซี ยันศาลโลกไม่ได้พิพากษาใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ย้ำยึดสันปันน้ำตามอนุสัญญา 1904 อ้าง “นัมฮอง” รีบกลับบ้านทำนายอดคุย รอถกอีกทีที่จาการ์ตา ย้ำ พระวิหารชนวนขัดแย้ง ปัดคุยในเวทีอาเซียนเข้าทางแขมร์

    วันนี้ (16 ก.พ.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา อีก 2 ครั้ง ที่ภูมะเขือ บริเวณช่องโดนเอาว์ ต.รุง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หลังจากที่ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ไปชี้แจงสถานการณ์ข้อพิพาทไทย-กัมพูชา ต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า จากการไปให้ข้อมูลกับยูเอ็นเอสซี มีผล 2 ประเด็นหลัก คือ 1.ขอให้มีการหยุดยิงระหว่าง 2 ฝ่ายในพื้นที่ชายแดน และ 2.สนับสนุนกลไกทวิภาคี ซึ่งรัฐบาลไทยไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ ถ้ากัมพูชาไม่ยิงมาก่อน เราก็ไม่เปิดฉากยิงตอบโต้ ซึ่งเรามีเป้าหมายทางการทหาร เพื่อปกป้องอธิปไตยและประชาชนตามแนวชายแดน แต่ตนยอมรับว่าเรื่องนี้อาจมีผลต่อการเจรจาทวิภาคีกับกัมพูชา ถ้ากัมพูชายังไม่หยุดยิงโจมตีไทย

    “อย่างไรก็ตาม สำหรับการปะทะที่เกิดขึ้น ต้องมีการบันทึกไว้ เพราะได้มีการพูดคุยกันแล้วว่าอยากให้มีการหยุดยิง ถ้ายังมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม ก็ต้องมีการบันทึกเพื่อให้ชาติสมาชิกที่สนับสนุนทวิภาคีได้รับทราบว่าใคร เป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งนี้ การเจรจาเพื่อให้หยุดยิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.เตีย บัณห์ รมว.กลาโหมของกัมพูชา จะทำหน้าที่เจรจา หลังจากที่ นายกษิต กลับมาถึงประเทศไทย ก็จะนัดหารือกับพล.อ.ประวิตร เพื่อให้การดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมมีความสอดคล้องกัน ก่อนที่จะไปเจรจากับ รมว.กลาโหมของกัมพูชา” นายชวนนท์ กล่าว

    นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม(เจบีซี)ไทย-กัมพูชา ในวันที่ 27 ก.พ.นี้ ต้องรอฝ่ายกัมพูชาว่าจะมีท่าทีตอบสนองอย่างไร แต่ตนก็รู้สึกแปลกใจว่าเพราะเหตุใดกัมพูชาจึงปฏิเสธการเจรจาทวิภาคีกับไทย ซึ่งรายละเอียดเจบีซีฯยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ แม้ผลการประชุมเจบีซีไทย-กัมพูชา 3 ฉบับยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของรัฐสภาไทย ก็ไม่มีผล เพราะสามารถจัดการประชุมเจบีซีเพื่อหารือในด้านอื่นๆได้ เช่น การทำภาพถ่ายทางอากาศ การสำรวจหลักหมุด เป็นต้น

    เมื่อถามว่า คิดว่าเป็นการเล่นเกมทางการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ นายชวนนท์ กล่าวว่า รัฐบาลไทยไม่เคยเปลี่ยนแปลงคำพูดที่สนับสนุนการเจรจาทวิภาคีตามกรอบที่เรามี กลไกอยู่ เพียงแต่กัมพูชาต้องเข้าใจว่าเรามีกระบวนการภายในตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเราก็พยายามรักษาสมดุลระหว่างการเมืองภายในและการเมืองระหว่างประเทศ เราจึงอยากให้กัมพูชาแสดงความเข้าใจว่าเรามีความจริงใจในการร่วมกันแก้ปัญหา ส่วนพื้นที่เขาพระวิหารที่มีการตีความผิดออกไปจากคำตัดสินของศาลโลกนั้น ที่จริงคงไม่ใช่ จึงขอย้ำว่าคำตัดสินของศาลโลกไม่เคยพูดถึงความถูกต้องของแผนที่ 1:200,000 และแผนที่จะถูกต้องก็ต่อเมื่อเป็นไปตามแนวสันปันน้ำที่ระบุในอนุสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1904 และไทยไม่เคยทำอะไรที่เปลี่ยนแปลงอดีต และดำเนินตามอนุสัญญาที่มีมาตั้งแต่อดีตเช่นกัน ดังนั้น ถ้ากัมพูชามั่นใจ ก็ควรมาพิสูจน์กันตามกระบวนการเจบีซี

    เมื่อถามว่า ทำไมนายกษิต และนายฮอ นัมฮง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศของกัมพูชา จึงไม่มีการพบปะหารือกันที่นครนิวยอร์ค ประเทศสหรัฐอเมริกา หลังจากชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี นายชวนนท์ กล่าวว่า นายนัม ฮง ไม่ได้ปฏิเสธการพบปะ แต่มีความจำเป็นที่ต้องเดินทางกลับประเทศกัมพูชาก่อน ทั้งนี้เชื่อว่าจะยังมีการพูดคุยกันอยู่แล้วในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ที่จาการ์ต้า ประเทศอินโดนีเซีย

    เมื่อถามว่า การประชุม รมต.ต่างประเทศอาเซียน ในวันที่ 22 ก.พ.นี้ ซึ่งจะมีการพูดคุยถึงปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชานั้น ฝ่ายไทยจะพูดเรื่องใด นายชวนนท์ กล่าวว่า 1.ปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งไทยไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้น และเราใช้ความอดทนอดกลั้น การโต้ตอบของเราเป็นการดำเนินการฝ่ายทหารเท่านั้น 2.การขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ซึ่งเราต้องยืนยันว่าเป็นชนวนแรกที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จึงควรดูที่ต้นเหตุว่าเราจะสะสางปัญหานั้นได้อย่างไร 3.จะยืนยันว่าไทยยินดีที่จะเจรจาภายใต้กรอบทวิภาคีกับกัมพูชาเสมอ และยินดีแลกเปลี่ยนข้อมูลกับเพื่อนประชาคมอาเซียน ทั้งนี้ ผลการพูดคุยในครั้งนี้จะไม่เป็นการผูกมัดไทยกับกัมพูชา เพราะไม่ใช่ลักษณะที่อาเซียนจะเข้ามาแทรกแซง

    เมื่อถามว่า ไทยคิดอย่างไรต่อการที่กัมพูชาระบุว่าการหยิบยกเรื่องนี้เข้าสู่เวทีอาเซียน จะเป็นการเข้าทางฝ่ายกัมพูชา นายชวนนท์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะกัมพูชาน่าจะทราบดีว่าที่ได้พูดคุยตกลงกันก่อนไปชี้แจงกับยูเอ็นเอสซี โดย รมว.ต่างประเทศของอินโดนีเซีย ก็พูดชัดว่ากรอบเจรจาอยู่ตรงไหน อย่างไร

    "ผมไม่คิด ใครอย่าไปพูดว่าเป็นชัยชนะของไทย อย่าไปพูดว่าเป็นความพ่ายแพ้ของกัมพูชา ผมก็ไม่เคยพูดว่าการดำเนินการเรื่องนี้เป็นชัยชนะ โดยเฉพาะเรื่องนี้ไทยไม่ได้หยิบยกเข้าไปที่ยูเอ็นเอสซี แต่กัมพูชาเป็นผู้ส่งเรื่องไป แต่เขาต้องการให้ยูเอ็นเอสซีเข้ามาแทรกแซง แม้แต่กลับไปที่ศาลโลก แต่ผลที่ออกมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น และไทยก็พอใจกับผลการตัดสินใจ และสอดคล้องกับแนวทางของไทยที่จะให้มีการเจรจากับทวิภาคี ชัยชนะที่ดีสำหรับ 2 ประเทศคือให้หันมาพูดคุยกันและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข" นายชวนนท์ กล่าว
    Politics - Manager Online -
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ส.ว.มะกัน “เอาน้ำเย็นเข้าลูบ” ปากีฯ หลังสัมพันธ์ร้าว-คดีฆ่าชาวบ้าน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 16:25 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    เอเอฟพี - จอห์น เคอร์รี วุฒิสมาชิกจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ได้แสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของชาวปากีสถาน 2 ราย จากน้ำมือของเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ขณะเดินทางเยือนจังหวัดลาฮอร์ เพื่อแก้ปมความขัดแย้งระหว่างประเทศ กรณีชะตากรรมของฆาตกรรายนี้

    [​IMG]

    เรย์มอนด์ เดวิส เจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งไม่มีหน้าที่ชัดเจน ผู้ยิงชาวบ้าน 2 รายเสียชีวิต

    ส.ว.เคอร์รีได้เน้นย้ำถึงจุดยืนของสหรัฐฯ ว่า ฆาตกรรายนี้สมควรได้รับการปล่อยตัวตามเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต และได้กล่าวกับนักข่าวในจังหวัดลาฮอร์วานนี้ (15) ว่า สหรัฐฯ จะดำเนินการสืบสวนคดีดังกล่าวด้วยตนเอง

    “ผมต้องการมาที่นี่ เพื่อแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งสำหรับเหตุโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และนำพาความเสียใจของชาวอเมริกันต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นมาด้วย” เขากล่าว “ผมมาที่นี่เพื่อรับฟัง ผมไม่ได้มาเพื่อสั่งให้ใครทำอะไร ผมไม่ได้มาเพื่อควบคุมคดี”

    ก่อนหน้านี้ เรย์มอนด์ เดวิส เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้ตกอยู่ในสถานะฆาตกร ยืนยันว่า เขายิงชาวบ้านปากีสถานทั้ง 2 คน เพื่อป้องกันตัวในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดลาฮอร์ เมื่อวันที่ 27 มกราคม นอกจากนี้ยังมีชาวปากีสถานรายที่ 3 เสียชีวิต หลังจากถูกรถของสถานทูตสหรัฐฯ ซึ่งส่งมาช่วย เรย์มอนด์ เดวิส พุ่งชน

    ขณะที่ ส.ว.จอห์น เคอร์รี เดินทางมาถึงจังหวัดลาฮอร์ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้กล่าวยืนยันว่า เดวิส สมควรได้รับเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูต ตามอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต “เรากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลปากีสถาน เพื่อให้ปล่อยตัวชายคนนี้” โอบามากล่าว “แน่นอน เรากังวลถึงชีวิตที่สูญเสียไป เราไม่ได้เฉยชาต่อเรื่องนั้น แต่ยังมีหลักการที่ใหญ่กว่าให้พิจารณา”

    ชาวปากีสถานจำนวนมากยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัว เรย์มอนด์ เดวิส ซึ่งถูกตั้งข้อหา ฆาตกรรม เนื่องจาก ขณะถูกจับกุม เขาพกอาวุธปืนบรรจุกระสุนพร้อมยิงหลายกระบอก รวมทั้งอุปกรณ์แกะรอย จีพีเอส

    [​IMG]

    ส.ว.จอห์น เคอร์รี ตัวแทนไกล่เกลี่ยความบาดหมางระหว่างสหรัฐฯ-ปากีสถาน


    อย่างไรก็ตาม ทางการสหรัฐฯ ยังไม่เคยออกมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับหน้าที่ของเดวิสในปากีสถาน ขณะที่ความสัมพันธ์อันเปราะบางแต่สำคัญยิ่งระหว่าง วอชิงตันกับอิสลามาบัด เข้าสู่ภาวะวิกฤต ตั้งแต่ เรย์มอนด์ เดวิส ถูกตำรวจจังหวัดลาฮอร์ควบคุมตัว

    ส.ว.เคอร์รี ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา เคยเป็นผู้ช่วยผลักดันงบประมาณช่วยเหลือปากีสถานมูลค่ากว่า 7,500 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 230,000 ล้านบาท) เขายังเป็นที่นับหน้าถือตาในประเทศแนวรบระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มหัวรุนแรง ประเทศนี้

    ทางการปากีสถานออกมายืนยันเว่า จะดำเนินคดีนี้ด้วยตนเอง โดยคาดกันว่า ศาลจังหวัดลาฮอร์จะเริ่มพิจารณาคดีอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ (17) หลังศาลได้ให้เวลากับกระทรวงต่างประเทศ 15 วันในการนำสืบว่า เรย์มอนด์ เดวิส มีสิทธิคุ้มครองการทางทูตหรือไม่

    รัฐบาลปากีสถาน ซึ่งมีคำครหาเรื่องความอ่อนแอ กำลังถูกกดดันกรณีการดำเนินคดีกับ เรย์มอนด์ เดวิส จากทั้งภายในและภายนอกประเทศหลังเกิดกระแสต่อต้านสหรัฐฯ ส่วนทางกรุงวอชิงตันได้เลื่อนการหารือระดับสูงกับเจ้าหน้าที่ปากีสถานและอัฟกานิสถาน หลังคว้าน้ำเหลวในการได้ตัว เดวิส ยิ่งไปกว่านั้น บรรดา ส.ส.สหรัฐฯ ได้ขู่ว่า จะตัดงบประมาณช่วยเหลือ หากทางกรุงอิสลามาบัดยังไม่ยอมปล่อยตัวฆาตกรรายนี้

    Around the World - Manager Online -
     
  15. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=584><TBODY><TR><TD height=51 vAlign=bottom background=images/goldprice_h.jpg><TABLE border=0 width=547 align=center><TBODY><TR><TD style="FONT-FAMILY: Tahoma; COLOR: #993300; FONT-SIZE: 11px" width=682 colSpan=2>ราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำประจำวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ 2554 </TD><!--<td width="98"> </td>--></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD background=images/goldprice_bg.jpg><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=569 align=right><TBODY><TR><TD><TABLE border=0 width=562><TBODY><TR align=middle><TD class=paddingleft5px bgColor=#ddccb0 width=168>ทองคำ 96.5%</TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#ddccb0 width=138>รับซื้อ</TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#ddccb0 width=138>ขายออก</TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#ddccb0 width=100>ประกาศเวลา</TD></TR><TR align=middle><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1>ทองคำแท่ง</TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1 height=30>19850 </TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1>19950 </TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1 rowSpan=2>14:15:00 </TD></TR><TR align=middle><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1>ทองรูปพรรณ</TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1 height=30>19556.40 </TD><TD class=paddingleft5px bgColor=#e1e1e1>20350 </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ราคาทองคำขยับขึ้นต่อเนื่องทุกวันเลยครับ หลังจากชะลอตัวไปประมาณ3-4สัปดาห์
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พรรคคอมฯ'จีน'แนะรัฐตอบโต้USทะลายแนวปิดล้อมพันธมิตร'เอเชีย'
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 22:31 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเยนซีส์ - พรรคคอมมิวนิสต์จีนแสดงความหวาดวิตกเกี่ยวกับอิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อย่างชัดแจ้งลงในบทความชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่บนโลกไซเบอร์ โดยระบุว่า สหรัฐฯ กำลังดำเนินนโยบายปิดล้อมจีนด้วยยุทธศาสตร์ 6 ด้าน นอกจากนี้ยังบอกด้วยว่า ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างอินเดีย ได้ตกเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์สำหรับสหรัฐฯ ในการใช้สกัดกั้นอิทธิพลของพญามังกร ด้วยเหตุนี้ จีนจึงไม่ควรนิ่งเฉยและควรตอบโต้ด้วยการรื้อกระดานใหม่โดยใช้อิทธิพลทางเศรษฐกิจอันทรงพลังของตนในการผูกพันธมิตรกับเพื่อนบ้าน เพื่อถ่วงดุลอำนาจกับพญาอินทรี

    หนังสือพิมพ์ เดอะ ฮินดู ของอินเดียรายงานในฉบับวันเสาร์ (12) โดยอ้างบทความชิ้นหนึ่งในวารสารทางการจีน “ฉิวซื่อ” อันเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์ในการประชาสัมพันธ์นโยบายสาธารณะแก่สมาชิกพรรคทั่วประเทศ ระบุว่า พรรคคอมมิวนิสต์ได้เรียกร้องให้จีนกลับไปทบทวนนโยบายต่างประเทศตลอดช่วงปีที่ผ่านมาเสียใหม่ พร้อมกับเสนอแนะว่า รัฐบาลควรตอบโต้อิทธิพลของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ได้แล้ว แม้จีนจะยอมรับและตระหนักว่า ในปี 2010 ที่ผ่านมา เป็นปีที่ตนใช้มาตรการตอบโต้ทางการทูตอย่างดุเดือดเผ็ดร้อนที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากกรณีพิพาทกับประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศที่ปะทุตึงเครียด และนี่ก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สหรัฐฯ พยายามกลับเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในภูมิภาคนี้

    บทความชิ้นดังกล่าวซึ่งต่อมามีการแปลและเรียบเรียงเป็นภาษาอังกฤษ ในชื่อ “How China Deals with U.S Strategy to Contain China” หรือแปลเป็นไทยได้ว่า “จีนจะมีมาตรการรับมือกับยุทธศาสตร์ปิดล้อมของสหรัฐฯ อย่างไร” ซึ่งบทความดังกล่าวมีการโพสต์ขึ้นเว็บไซต์ “ไชน่าสโคป” (http://chinascope.org/main/content/view/3291/92/) ด้วยนั้น ระบุไว้ว่า สหรัฐฯ กำลังดำเนินนโยบายปิดล้อมจีนด้วยยุทธศาสตร์รวม 6 ด้าน อันได้แก่ ยุทธศาสตร์สงครามทางการค้า, สงครามอัตราแลกเปลี่ยน, สงครามมติมหาชนโดยการใช้สื่อดิสเครดิตจีน, การรณรงค์ให้แอนตี้จีน, การซ้อมรบทางทหารและการยั่วยุในลักษณะคล้ายคลึง ตลอดจนยุทธศาสตร์ซึ่งบทความชิ้นนี้ไฮไลต์เป็นพิเศษนั่นคือ การสร้างกลุ่มพันธมิตรต่อต้านจีน

    ซีว์ อวิ้นหง เจ้าของบทความชิ้นนี้ ระบุว่า “สหรัฐฯ ได้ยั่วยุให้ประเทศเพื่อนบ้านจีนหันมาต่อต้านปักกิ่งอย่างครึกโครม” เขากล่าวเสริม โดยชี้ไปที่ญี่ปุ่น, อินเดีย, เวียดนาม, ออสเตรเลีย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ ซึ่งต่างก็พาเหรดกันเข้าร่วมกลุ่มแอนตี้จีนนี้อย่างไม่รีรอ สืบเนื่องจากประเทศเหล่านี้เองก็เคยทำสงครามหรือมีความขัดแย้งกับจีนมาเป็นทุนเดิมก่อนแล้ว

    ซีว์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่น่าจับตาที่สุดขณะนี้คือ อินเดีย กองทัพแดนภารตะดูจะใกล้ชิดสนิทสนมกับแดนลุงแซมมากขึ้นไปทุกขณะ และแน่นอนว่าอินเดียเป็นหมายเลข 1 ในยุทธศาสตร์ปิดล้อมปักกิ่งของวอชิงตัน ซึ่งจะเห็นได้จากการที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของอเมริกา พยายามเดินเกมเอาอกเอาใจอินเดียอย่างออกนอกหน้า พร้อมกับสัญญาด้วยว่า จะสนับสนุนให้อินเดียเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC

    อย่างไรก็ตาม บทความดังกล่าวชี้ว่า สถานะของอินเดียในเวลานี้ยังไม่อยู่ในขั้นที่จีนต้องหวั่นเกรงแต่อย่างใด เนื่องจากอำนาจซื้อ รวมทั้งเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของอินเดียยังอยู่ในขอบเขตที่จำกัดจำเขี่ย ดังนั้นนิวเดลีจึงยังไม่ใช่คู่แข่งขันที่ทัดเทียมในด้านของการแผ่อำนาจบารมี แต่กระนั้นก็ระบุว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ของสองประเทศนี้ หากทั้งคู่สามารถผนึกกำลังร่วมกันได้ จะสามารถต่อกรกับสหรัฐฯ ได้อย่างไม่ยากเย็น ทว่าก็ยอมรับว่า ความเป็นไปได้ที่อินเดียจะร่วมมือกับจีนอย่างลึกซึ้งนั้นมีเพียงน้อยนิด

    ทั้งนี้ บทความชิ้นนี้ได้เสนอมาตรการฝ่าแนวปิดล้อมของสหรัฐฯ โดยสรุปไว้ 7 ด้านด้วยกัน อันได้แก่ หนึ่ง-การทำสงครามตอบโต้ด้วยอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของจีนในเวลานี้ นั่นก็คือ เศรษฐกิจ โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ให้คุ้มค่าจากเงินทุนสำรองระหว่างประเทศขนาดมหึมาของตนในการโจมตีกลับค่าเงินดอลลาร์ และสร้างกรอบความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับเพื่อนบ้าน, สอง-สงครามทางการเงิน ด้วยการยกระดับเงินหยวนของตนผงาดขึ้นท้าทายอำนาจครอบงำของดอลลาร์, สาม-ยุทธการซ้อมรบขู่กลับ อันเป็นปฏิกิริยาตอบโต้การซ้อมรบทุกรูปแบบบริเวณหน้าบ้านจีน, สี่-สงครามอวกาศ ด้วยการยกระดับเทคโนโลยีด้านอวกาศเพื่อคานอำนาจกับสหรัฐฯ, ห้า-โจมตีศัตรูในละแวกใกล้เคียงด้วยกำลังหากฝ่ายตนถูกจู่โจมก่อน, หก-ผูกมิตรศัตรูระยะไกล ซึ่งก็แยกย่อยออกเป็น 3 ขั้นตอน อันกอปรด้วย การแทรกกลางระหว่างอเมริกากับชาติพันธมิตร อย่าง สหภาพยุโรป, การกระชับความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐฯ เพื่อสร้างแรงกดดัน และขยับขยายอิทธิพลของตนในแอฟริกาและภูมิภาคอื่นๆ ที่สหรัฐฯ ไม่ค่อยให้ความสนใจ และเจ็ด-การใช้สื่อต่างๆ เป็นเครื่องมือประชาสัมพันธ์เพื่อลดความหวาดระแวงที่มีต่อจีน

    Around the World - Manager Online -
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พาวเวลจี้ CIA-เพนตากอน ขอคำอธิบายข้อมูลเท็จเรื่องอาวุธชีวภาพในอิรัก
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 กุมภาพันธ์ 2554 10:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    โคลิน พาวเวล อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ

    เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์การ์เดียนเผย อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ โคลิน พาวเวลเรียกร้องให้ซีไอเอ และเพนตากอนอธิบายว่าเขาได้รับข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ซึ่งกลายเป็นเหตุผลสำคัญในการยกกองกำลังบุกอิรักนั้นได้อย่างไร

    คำแถลงสำคัญต่อสหประชาชาติของพาวเวลเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ปี 2003 นั้นระบุถึงข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองเกี่ยวกับโครงการอาวุธชีวภาพของซัดดัม ฮุสเซน ซึ่งได้มาจากวิศวกรเคมีชาวอิรัก ผู้แปรพักตร์ ที่มีชื่อรหัสว่าเคิร์ฟบอล

    อย่างไรก็ตาม รอฟิด อาเหม็ด อัลวาน อัล จานาบี ผู้แปรพักตร์คนดังกล่าวก็ได้ยอมรับในระหว่างให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์การ์เดียนแล้วว่า เขากุเรื่องดังกล่าวขึ้นมาเพื่อให้ฝ่ายตะวันตกโค่นซัดดัมลงจากอำนาจ

    พาวเวลกล่าวกับหนังสือพิมพ์ของอังกฤษฉบับเดียวกันนี้ว่า "เป็นที่รู้กันมาหลายปีแล้วว่าแหล่งข่าวที่ชื่อเคิร์ฟบอลนั้นไม่มีความน่าเชื่อถือเลย"

    "คำถามควรตกไปอยู่ที่ซีไอเอ และดีไอเอ (สำนักงานข่าวกรองกลาโหม) ว่าทำไมถึงไม่รู้เรื่องนี้ก่อนที่ข้อมูลผิดๆ จะกลายเป็นรายงานส่งไปให้สภาคองเกรส เป็นคำแถลงนโยบายประจำปีของประธานาธิบดี และเป็นคำแถลงของผมที่รายงานต่อยูเอ็นเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ด้วย" เขากล่าว

    ทั้งนี้ จานาบีบอกกับบีเอ็นดี หน่วยงานข่าวกรองของเยอรมนีเมื่อปี 2000 ว่า อิรักมีรถบรรทุกที่ใช้เป็นยานลำเลียงอาวุธชีวภาพเคลื่อนที่ รวมทั้งยังได้สร้างโรงงานผลิตอาวุธชีวภาพลับๆ ขึ้นหลายแห่ง

    ส่วนคำแถลงของพาวเวลต่อยูเอ็นระบุว่า จานาบี ว่าเป็น "วิศวกรเคมีชาวอิรัก" ซึ่งเป็น "ผู้กำกับตรวจสอบโรงงานเหล่านั้นแห่งหนึ่ง" และ "ในระหว่างที่กำลังมีการผลิตสารทางชีวภาพนั้น เขาอยู่ตรงนั้นด้วยจริงๆ นอกจากนั้นยังอยู่ในโรงงานแห่งที่ได้เคยเกิดอุบัติเหตุขึ้นเมื่อปี 1998"

    จานาบีถูกเปิดโปงว่าเป็นแหล่งข่าวที่เชื่อถือไม่ได้ เมื่อบีเอ็นดีเข้าเยี่ยมบัสซิล ลาติฟ อดีตหัวหน้าของเขา ที่คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรมการทหารในอิรัก ผู้ซึ่งระบุว่าไม่มีรถบรรทุกใช้เป็นยานลำเลียง หรือโรงงานอะไรเหล่านี้เลย

    อย่างไรก็ตาม บีเอ็นดียังคงร่วมมือกับวิศวกรเคมีชาวอิรักผู้นี้ต่อไป และคำให้การเท็จนั้นก็ถูกส่งต่อไปยังสมาชิกสภาอาวุโสของสหรัฐฯ ผ่านหน่วยข่าวกรอง

    ทั้งนี้ ผลจากสงครามอิรักทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปมากกว่า 100,000 คน และทำลายเกียรติภูมิทางการเมืองทั้งของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น โดนัลด์ รัมสเฟลด์ รัฐมนตรีกลาโหมของเขา และพันธมิตรของพวกเขา นายกรัฐมนตรี โทนี แบลร์ ของอังกฤษ

    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ตำรวจบาห์เรนใช้กำลังสลายม็อบ ผู้ชุมนุมดับอย่างน้อย 2 ราย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>17 กุมภาพันธ์ 2554 09:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ผู้ชุมนุมประท้วงยึดจตุรัสเพิร์ล สแควร์ใจกลางกรุงมานามา เมืองหลวงของบาห์เรนเป็นสถานที่ตั้งค่ายพัก

    เอเอฟพี - กองกำลังรักษาความมั่นคงของบาห์เรนบุกสลายม็อบ ซึ่งชุมนุมกันอยู่ที่จตุรัสใจกลางกรุงมานามาตลอดทั้งคืน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกเป็นจำนวนมาก

    ผู้อยู่ในเหตุการณ์รายหนึ่งเล่าว่า เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตาโจมตีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายร้อยคน ที่ตั้งค่ายพักแรมอยู่ในจตุรัสเพิร์ล แสควร์ กลางกรุงมานามา โดยเสียงระเบิด และเสียงหวอรถพยาบาลดังมาก จนสามารถได้ยินไกลออกไป 200-300 เมตร

    เฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งบินอยู่เหนือจตุรัส ขณะที่นักข่าวเห็นกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงวิ่งหลบหนี โดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงไล่ตามจับกุม

    "มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 50 คน โดยอไม่ต่ำกว่า 10 คนที่มีอาการสาหัส" มาทาร์ มาทาร์ โฆษกขบวนการอัลเวฟัก ซึ่งเป็นแกนนำในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลเผย

    ผู้ชุมนุมหลายพันคนได้ยึดจตุรัสดังกล่าวไว้ในวันอังคาร (15) ที่ผ่านมา เพื่อประท้วงกรณีที่ตำรวจสังหารวัยรุ่นชาวชีอะห์ 2 คนในระหว่างการประท้วงต่อต้านรัฐบาล

    ในวันพุธ (16) ชาวบาห์เรนหลายพันคนตะโกนเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และขอรัฐธรรมนูญที่แท้จริง หลังจากฝังศพผู้ชุมนุมทั้งสองแล้ว

    ด้านกระทรวงมหาดไทยแถลงว่า จะยอมให้ผู้ชุมนุมประท้วงอยู่ในเพิร์ล สแควร์ต่อไปได้ ด้วยความเข้าใจความรู้สึกของประชาชน

    Around the World - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชุมนุมต้านปธน.ลิเบียปะทะตำรวจบาดเจ็บอย่างน้อย38คน
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>16 กุมภาพันธ์ 2554 23:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    การชุมนุมทางการเมืองลุกลามสู่ลิเบีย

    เอเอฟพี - มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายสิบคนในเหตุผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงปะทะกันที่เมืองเบนกาซี ทางตะวันออกของลิเบีย โรงพยาบาลเปิดเผยเมื่อวันพุธ(16) ขณะที่ประชาชนรวมตัวกันในวันแห่งความโกรธแค้น ตามหลังจลาจลนำไปสู่การโค่นล้มผู้นำของชาติเพื่อนบ้านอย่างอียิปต์และตูนิเซีย

    หนังสือพิมพ์กูรีนา รายงานว่ากองกำลังด้านความมั่นคงและผู้ชุมนุมปะทะกันในช่วงค่ำวันอังคาร(15) พร้อมชี้ว่าเหตุรุนแรงดังกล่าวเป็นฝีมือของผู้ก่อวินาศกรรมที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล ยาลา บอกกับเอเอฟพีว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 38 คน ในจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ 10 ราย แต่ทั้งหมดมีร่องรอยบาดแผลเพียงเล็กน้อย

    สื่อมวลชนฉบับนี้ระบุต่อว่าเหตุปะทะมีขึ้นตามหลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงเข้าไปแทรกแซงเหตุเผชิญหน้าระหว่างฝ่ายต่อต้านและฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี ซึ่งปกครองลิเบียมานานกว่า 40 ปี

    ชนวนของการประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีกัดตาฟี เกิดจากการจับกุมตัวนายฟาติ เทอร์บิล ซึ่งเป็นตัวแทนของญาติของผู้ต้องขังมากกว่า 1,000 รายที่ถูกสังหารโดยตำรวจในเรือนจำอาบู ซาลิม ในกรุงทริโปลี เมื่อปี 1996 แหล่งข่าวระบุว่า เขาถูกจับกุมตัว หลังแจ้งให้แก่ญาติของนักโทษทราบว่าขณะนี้สถานการณ์ในเรือนจำกำลังลุกเป็นไฟ และเร่งเร้าให้พวกเขาก่อการประท้วง

    จากนั้นฝูงชนที่ผู้เข้าร่วมก็มากขึ้นเรื่อยๆและเริ่มตะโกนต่อต้านรัฐบาล อาทิ "ประชาชนจะเป็นผู้ยุติคอรัปชันเอง" และเลือดของผู้เสียสละจะไม่สูญเปล่า" ก่อนที่ตำรวจที่เคลื่อนเข้าไปสลายการชุมนุมของพวกเขา

    ตำรวจใช้กำลัง แก๊สน้ำตา กระสุนยางและฉีดน้ำเข้าสลายการชุมนุมของฝูงชนที่รวมตัวอยู่รอบนอกสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง ขณะเดียวกันผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าฝ่ายผู้ชุมนุมได้ตอบโต้ด้วยการขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่ ต่อมาสถานการณ์ลุกลาม เมื่อผู้ประท้วงขว้างปาระเบิดเพลิง ณ จตุรัสแห่งหนึ่งย่านกลางกรุง ทุบทำลายรถยนต์ ปิดกั้นถนนและขว้างปาก้อนหินทำลายทรัพย์สิน

    ไม่นานหลังจากนั้น ก็พบเห็นการชุมนุมของฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟี หลายร้อยคนตามท้องถนนของกรุงตริโปลี ในเมืองเบนกาซี เมืองซีร์เต และเมืองเซบฮา จนนำไปสู่การปะทะกันในเมืองเบนกาซีในเวลาต่อมา

    สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐรายงานภาพข่าวผู้ชุมนุมฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลเดินเท้าและรถยนต์โบกธงชาติลิเบียและรูปของกัดดาฟี พร้อมทั้งตะโกนต่อต้านสถานีโทรทัศน์อัลญาซีเราะห์ ซึ่งถูกทางการกล่าวหาว่ายั่วยุความไม่สงบ

    เช่นเดียวกับที่อื่นๆในตะวันออกกลาง ผู้ชุมนุมฝ่ายต่อต้านรัฐบาลต้องหันมาใช้อินเตอร์เน็ตในความพยายามสนับสนุนการเดินขบวนในประเทศที่รัฐควบคุมสื่อมวลชนอย่างเข้มงวด

    ทางด้านสหภาพยุโรปเรียกร้องรัฐบาลลิเบียอนุญาตให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรี และฟังคำเรียกร้องของผู้ประท้วง รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงทุกชนิด

    Around the World - Manager Online -
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2554 13:21
    ลิเบียนัดชุมนุมใหญ่วันนี้ต้านกัดดาฟี

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    ลิเบียนัดชุมนุมใหญ่วันนี้ต่อต้านผู้นำเผด็จการ"โมอัมมาร์ กัดดาฟี"
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> สถานการณ์ประท้วงต่อต้านผู้นำเผด็จการได้ลุกลามไปถึงลิเบีย ที่มีพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี วัย 68 ปีปกครองประเทศยาวนานถึงเกือบ 42 ปีแล้ว และรัฐบาลพยายามลดกระแสความไม่สงบจากการลุกฮือชุมนุมประท้วง โดยเมื่อวันพุธ (16ก.พ.)ได้ปล่อยตัวสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรง 110 คน ที่ถูกจับข้อหาวางแผนโค่นอำนาจเขา และเสนอขึ้นเงินเดือนข้าราชการถึง 100% เต็ม
    ขณะที่ชาวลิเลีย นัดกันผ่านเฟซบุ๊ค ว่าจะจัดชุมนุมภายใต้ชื่อ"วันแห่งความโกรธแค้น" ในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่ามีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจเมื่อวันอังคารทำให้มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 38 คนที่เมืองเบนกาซี ผู้ประท้วงขว้างปาทั้งก้อนหินและระเบิดเพลิงและจุดไฟเผารถยนต์ทำให้ตำรวจต้องยิงกระสุนยางและฉีดน้ำสลายฝูงชน การชุมนุมในเมืองนี้เริ่มจากครอบครัวของนักโทษกว่า 1,000 คน ที่ถูกสังหารหมู่ในเรือนจำในกรุงทริโปลีเมื่อปี 2539 ชุมนุมเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวทนายความที่เป็นตัวแทนสู้คดีให้กับพวกเขาซึ่งล่าสุดได้รับอิสระแล้ว แต่การประท้วงได้เริ่มขยายวงกว้างเป็นการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลและเรียกร้องให้ยุติคอร์รัปชั่น
    ส่วนเยเมน ยังคงมีการชุมนุมเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ในวันเดียวกัน และมีการนัดกันผ่านเฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ว่าจะนัดเดินขบวน 1 ล้านคนในวันศุกร์นี้
    นอกจากนี้ ชาวจอร์แดนได้ชุมนุมประท้วงติดต่อกัน 6 สัปดาห์แล้ว เรียกร้องสิทธิเลือกตั้งนายกรัฐมนตรี
    ส่วนเหตุการณ์ที่ตำรวจบาห์เรน ใช้ทั้งกระบองและแก๊สน้ำตา รวมทั้ง ยิงกระสุนยางสลายกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนที่ตั้งเต้นท์ปักหลักชุมนุมในบริเวณจตุรัสไข่มุก ใจกลางกรุงมานามาช่วงเช้ามืด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คนและผู้บาดเจ็บ 50 คนแล้ว ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากการประท้วงตลอด 4 วันเพิ่มเป็นอย่างน้อย 4 คน

    ผู้ประท้วงเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและการปฏิรูปการเมืองครั้งใหญ่ที่ต้องการให้กษัตริย์ชาวสุหนี่คลายการรวบอำนาจไว้ทั้งหมด เช่น การแต่งตั้งรัฐมนตรีกระทรวงสำคัญ และการให้โอกาสชาวชีอะห์ที่เป็นประชากรส่วนใหญ่ได้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเรื่องอนาคตของประเทศ หรือได้ดำรงตำแหน่งสำคัญในกองทัพ
    นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมต้องการให้มีรัฐสภาที่มาจากตัวแทนหลายฝ่ายมากขึ้น จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ร่างโดยประชาชน จัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ไม่มีนายกรัฐมนตรีชีค คาลิฟา บิน ซัลมาน อัล คาลิฟา ที่อยู่ในตำแหน่งยาวนานถึง 40 ปี และปล่อยนักโทษการเมือง ทั้งยังเริ่มมีเสียงเรียกร้องมากขึ้นถึงขั้นให้ล้มเลิกระบอบกษัตริย์ที่ปกครองประเทศมานานกว่า 200 ปี

     

แชร์หน้านี้

Loading...