เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นายทหารเขมรเมากร่างบุกป่วน “ตาเมือนธม” - ลูกน้องต้องหิ้วปีกกลับ แฉยั่วยุให้เกิดปะทะตลอดเวลา
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 11:50 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    สุรินทร์ - นายทหารเขมรยศ “ร.อ.” ดวด “เหล้าป่า” เมากร่าง ป่วนรอบ “ปราสาทตาเมือนธม” หาเรื่องโวยไม่พอใจทหารพรานห้ามพกอาวุธเข้าเขตแดนไทย ก่อนลูกน้องเข้ามาหิ้วตัวกลับหวิดบานปลาย แฉทหารเขมรใช้วิชามารสารพัดจงใจยั่วยุให้เกิดการปะทะตลอดเวลา หวังยกระดับความรุนแรงให้เป็นปัญหาใหญ่โตเช่น“เขาพระวิหาร” พร้อมเสริมกำลัง อาวุธหนักและนำเครื่องจักรเข้ามาก่อสร้างหลุมหลบภัย-บังเกอร์ตลอดแนวชายแดน ขณะทหารไทยทุกเหล่าเตรียมพร้อมรบเต็มอัตราศึก

    วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าว“เอเอสทีวีผู้จัดการ”ประจำจังหวัดสุรินทร์ รายงานว่า ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสังเกตการณ์สถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชายแดนที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามอ้างสิทธิ์ว่าปราสาทตาเมือธมเป็นของประเทศกัมพูชา และขณะนี้มีกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องว่าทหารกัมพูชาจะนำกำลังทหารเข้ายึดพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ทำให้กองร้อยทหารพรานจู่โจม ที่ 960 ชุดเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ตลอดเวลา และให้ลาดตระเวนควบคุมพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธมอย่างเข้มงวด ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

    ขณะที่ทหารกัมพูชา ประจำการฝั่งตรงข้ามปราสาทตาเมือนธม ได้พยายามเข้ามายั่วยุทหารไทยด้วยวิธีการต่างๆ นานาเพื่อให้เกิดการปะทะกันโดยทหารไทยเป็นฝ่ายเปิดฉากยิงก่อนอยู่ตลอดเวลา พร้อมแสดงท่าทีไม่เกรงกลัวว่าทหารไทยจะเข้าโจมตีแต่อย่างใด

    ในช่วงที่ผู้สื่อข่าว เดินทางเข้าไปยังบริเวณปราสาทตาเมือนธม พบว่า ได้มีนายทหารกัมพูชา ยศ “ร้อยเอก” ซึ่งเป็นหัวหน้าทหารกัมพูชาที่เข้าเวรตรงข้ามปราสาทตาเมือนธม สังกัดทหารชายแดนที่ 402 ภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา ภายใต้การกำกับดูแลของ พ.อ.เนี๊ยะ วงศ์ ประจำพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม ได้ข้ามแดน เข้ามานั่งพูดคุยกับทหารพรานของไทย ที่บริเวณด้านข้างปราสาทตาเมือนธม

    โดยนายทหารกัมพูชาได้นั่งดื่มสุรา หรือที่ชาวกัมพูชา เรียกว่า “เหล้าป่า” ที่นำเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ขณะที่ทหารพรานของไทยทำได้เพียงคอยสังเกตุการณ์และยืนพูดคุยด้วย เนื่องจากบริเวณพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมได้เจรจามีข้อตกลงร่วมกันของทหาร 2 ฝ่าย ว่า ทหารกัมพูชา ประชาชนชาวกัมพูชาสามารถมาเที่ยวชม ปราสาทตาเมือนธม โดยหากเป็นทหารต้องปลดอาวุธ ไม่พกพาอาวุธ เข้ามาในบริเวณปราสาทตาเมือนธมอย่างเด็ดขาด

    แต่อย่างไรก็ตาม นายทหารกัมพูชา คนดังกล่าว ได้นั่งดื่มสุรา หรือ “เหล้าป่า” จนเมามาย แล้วพยายามเจรจากับทหารพราน กองร้อยจู่โจมที่ 960 เพื่อขอพกอาวุธปืนสั้นประจำกาย เข้ามาในพื้นที่บริเวณตัวปราสาทตาเมือนธม แต่ทหารพรานของไทยไม่ยินยอมให้นายทหารคนดังกล่าวที่มีอาการเมาสุราจนประคองสติไม่ได้พกอาวุธ เข้ามายังบริเวณปราสาทตาเมือนธมเขตแดนไทย ทำให้นายทหารคนดังกล่าวแสดงอาการไม่พอใจทหารพรานไทยเป็นอย่างมาก

    กระทั่งลูกน้อง ซึ่งเห็นเหตุการณ์ได้เข้ามาประคองตัวนายทหารกัมพูชาขี้เมา เดินทางกลับ เข้าไปในเขตประเทศกัมพูชาโดยมีทหารกัมพูชาอีกหลายนายเข้ามาเจรจากับนายทหารขี้เมาคนดังกล่าวให้กลับไปยังฐานที่ตั้ง ก่อนที่เหตุการณ์จะบายปลายไปมากกว่านี้

    เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยจู่โจม ที่ 960 ชุดเฉพาะกิจกรมทหารพราน ที่ 26 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า การยั่วยุจากทหารกัมพูชา จะมีมาในลักษณะแตกต่างกันไป เหมือนกับว่าทหารกัมพูชาส่วนหน้าเหล่านี้ได้รับคำสั่งมาให้ยั่วยุทหารไทยให้หมดความอดทน และเปิดฉากยิงปะทะกับทหารกัมพูชาก่อน ซึ่งฝ่ายกัมพูชามีท่าทีต้องการยกระดับความรุนแรงให้กลายเป็นปัญหาใหญ่โตเช่นกรณีเขาพระวิหาร แต่เราชินชากับปัญหาเหล่านี้แล้ว บอกได้เพียงว่า เราพร้อมรบทุกเวลานาที

    ส่วนความเคลื่อนไหวทางการทหารของฝ่ายกัมพูชา นั้น ขณะนี้ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาไล่ตั้งแต่ปราสาทตาควาย บ้านไทยสันติสุข ต.บักได อ.พนมดงรัก เรื่อยมาจนถึงปราสาทตาเมือนธม บ้านหนองคันนา ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ทหารกัมพูชาได้เสริมกำลังทหารและขนอาวุธหนัก เข้าประจำการตลอดแนวชายแดน พร้อมนำเครื่องจักรรถแบ็กโฮเข้ามาก่อสร้าง ขุดหลุมหลบภัย สร้างบังเกอร์ตลอดเวลา ขณะที่ทหารไทยต้องใช้แรงงานตนเองในการขุดหลุมบังเกอร์

    อย่างไรก็ตาม ทางด้านทหารไทย ขณะนี้มีการเสริมกำลังและอาวุธ ทั้งทหารราบ ทหารปืนใหญ่ ทหารม้าหรือ รถถัง ตลอดแนวชายแดนด้านนี้แบบเต็มอัตราศึกพร้อมรบร้อยเปอร์เซ็นต์เช่นกัน ซึ่งจะพบว่าหากประชาชนชาวบ้านตามแนวชายแดนเดินทางไปพื้นที่ใดจะพบกับทหารในทุกพื้นที่แตกต่างจากสถานการณ์เมื่อก่อนหน้านี้

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">นายทหารเขมรยศ “ร.อ.” ดื่มเหล้าเมาแอ๋ เข้ามาป่วนบริเวณรอบปราสาทตาเมือนธม ชายแดน ต.ตาเมือง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ลูกน้องต้องมาพาตัวกลับฝั่งกัมพูชา ก่อนเหตุการณ์บานปลาย วันนี้ ( 11 ก.พ.)</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%"></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%"></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%"></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ลูกน้องเข้ามาประคองตัว นายทหารขี้เมา กลับเข้าไปฝั่งกัมพูชา</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%">ทหารเขมรหลายคนเข้าเจรจาให้นายทหารเมากร่าง กลับฐานที่ตั้ง</TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle width="33%"> </TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle> </TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle width="33%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/a_up.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=bottom align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_L.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=center align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=right width=2 background=/images/a_R.gif>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=2 height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/a_Dn.gif height=2>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=left width=2 height=2>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle width="33%"></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle width="33%"></TD><TD vAlign=center align=middle width=4 background=/images/linedot_vert2.gif>[​IMG]</TD><TD vAlign=baseline align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle width="33%">http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000018614 </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ส.ว.มะกันร่อนจดหมายถึง “ซักเคอร์เบิร์ก” วอนช่วยป้องสิทธิผู้ประท้วงทาง “เฟซบุ๊ก”
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 11:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    เอเอฟพี - เฟซบุ๊กกลายเป็นกลจักรสำคัญสำหรับผู้เรียกร้องประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน และจำเป็นอย่างยิ่งที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวเหล่านี้ต้องได้รับการปกป้อง โดยการอนุญาตให้ใช้นามแฝง วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ผู้หนึ่งระบุในจดหมายถึงมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กวันนี้ (11))

    “เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นในอียิปต์ และตูนิเซีย ได้ตอกย้ำถึงคุณค่าและประโยชน์ของเครือข่ายาสังคมออนไลน์ อย่าง เฟซบุ๊ก ต่อกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน” ส.ว. ดิค เดอร์บิน ระบุในจดหมายถึง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานบริหารของเฟซบุ๊ก

    “ผมขอชื่นชมการสร้างเครื่องมือสำคัญสำหรับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนชิ้นนี้” ส.ว.เดโมแครตจากมลรัฐอิลลินอยส์ผู้นี้ ระบุ
    [​IMG]
    ดิค เดอร์บิน ส.ว. มลรัฐอิลลินอยส์

    “อย่างไรก็ตาม เนื่องจากผู้คนทั่วโลกใช้เฟซบุ๊กเพื่อแสดงเสรีภาพในการแสดงออก ผมกำลังกังวล ว่า ทางบริษัทไม่มีมาตรการป้องกันเพียงพอ ในการปกป้องสิทธิมนุษยชน และหลีกเลี่ยงการใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ชอบของรัฐบาล” ดิค เดอร์บินระบุ

    “เฟซบุ๊กช่วยส่งเสริมความพยายามของกลุ่มนักเคลื่อนไหวในการจัดประท้วง และป่าวประกาศเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน”

    “ในขณะเดียวกัน มีรายงาน ว่า รัฐบาลอียิปต์และตูนิเซียใช้เฟซบุ๊ก เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งทางรัฐบาลได้ประโยชน์จากการที่เฟซบุ๊กไม่อนุญาตให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวใช้นามแฝง” วุฒิสมาชิกท่านนี้ระบุ โดยอ้างถึงอิหร่าน จีน เบลารุส และประเทศอื่นๆ ซึ่งใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพื่อแกะรอยกลุ่มนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

    เดอร์บินยังได้เรียกร้องให้เฟซบุ๊กเข้าร่วมกับองค์กรโกลเบิล เน็ตเวิร์ก อินิเทียทีฟ (จีเอ็นไอ) ซึ่งมีแผนการสร้างรหัส เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนบนโลกอินเตอร์เน็ต โดยขณะนี้ทั้ง กูเกิล ไมโครซอฟต์ และยาฮู ต่างเข้าร่วมโครงการดังกล่าว

    แอนดรูว์ โนเยส โฆษกของเฟซบุ๊กตอบจดหมายของ ส.ว. ดิค เดอร์บิน ใจความว่า “ความไว้ใจที่ผู้คนมอบให้เรา เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่ขับเคลื่อนเฟซบุ๊ก” ส่วนประเด็นการใช้นามแฝง เขาระบุว่า “เฟซบุ๊กมีวัฒนธรรมการใช้ชื่อจริง และโดยพื้นฐานแล้ว เราเชื่อว่าการใช้ชื่อจริงนำมาซึ่งความรับผิดชอบ และความปลอดภัยมากกว่า รวมทั้งสภาพแวดล้อมที่น่าไว้ใจ้สำหรับผู้ใช้บริการ”

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพการแถลงต่อชาวอียิปต์ของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ซึ่งระบุวานนี้ (10) ว่า จะไม่ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีตามคำเรียกร้องของผู้ชุมนุม </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ผู้ประท้วงมีท่าทีผิดหวังกับการแถลงข่าวไม่ยอมลงจากตำแหน่งของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค

    [​IMG]

    กลุ่มผู้ประท้วงพลังไซเบอร์ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อกระจายข่าวสารการชุมนุม

    [​IMG]

    ผู้ประท้วงโบกรองเท้าไปมาเหนือศีรษะ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการแถลงไม่ลาออกของประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค

    Around the World - Manager Online -
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    [​IMG]
    Mthainews : บรรยากาศ หลังเกิดการปะทะ ระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ทำให้หมู่บ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงที่สุดบริเวณริมแนวชายแดน เงียบเหงา คล้ายเมืองร้างไปถนัดตา หลังชาวบ้านปิดล็อคบ้านอย่างแน่นหนา อีกทั้งเกือบทุกตำบลได้ย้ายอพยพ ไปยังศูนย์อพยพ ที่ทางจังหวัดได้จัดเตรียมไว้ฉุกเฉิน ถึง 38 ศูนย์อพยพชั่วคราว
    ขณะที่ด้านความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากศูนย์อพยพในแต่ละที่นั้น จะเนื่องแน่นไปด้วยผู้อพยพที่เป็นเด็ก คนชรา บางครอบครัวสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ทางรัฐบาลก็ยังสามารถให้การดูแลผู้อพยพ จัดสรรความเป็นอยู่แต่ละครอบครัวได้อย่างเป็นระบบ กว่าในหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะด้านการดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่ และชาวบ้านด้วยกันเอง
    แต่กระนั้น สิ่งที่เป็นกังวลที่สุดของชาวบ้านในพื้นที่คือ เมื่อไหร่จะได้กลับเข้าบ้าน รวมไปทั้งการปะทะจะจบลงเมื่อไหร่ พืชไร่ ผืนนา สัตว์เลี้ยงที่ต้องการความดูแลเอาใจใส่ของชาวบ้านนั้น ก็สร้างความวิตกกังวลไม่น้อยให้ผู้อพยพ
    แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทหารก็ยังคงปักหลัก ดูแลอธิปไตยไทยอย่างเข้มแข็งและเด็ดขาด เห็นได้จากคำพูดของชาวบ้านหลายครอบครัว ที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้กำลังใจทหารเพราะเห็นภาพการทำงานของทหารที่ชาวบ้านได้พบเห็นนั้น แต่ละคนมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาบ้านเมือง และโดยเฉพาะการกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ ชาวบ้านจึงอยากขอให้กำลังใจทหารทุกนายผ่านทาง ผู้สื่อข่าว Mthai News ในครั้งนี้ด้วย
    โดย Mthai News
    http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1172
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ฮือฮา!เอฟ16บินขู่เขมรโผล่ภูมิซรอล
    [​IMG]

    <TABLE class=A14 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%" border=0><TBODY><TR><TD class=A14 vAlign=top>คมชัดลึก :ฮือฮา ! เอฟ 16 บินขู่เขมรโผล่บ้านภูมิซรอล ทอ.แจงภารกิจปกติ แค่บินลาดตระเวน-ฝึกคอบบร้าโกลด์ ยันไม่เอี่ยวทำศึกเขมร



    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 10 ก.พ.ได้มีผู้พบเห็นและบันทึกภาพเครื่องบินเอฟ 16 ของกองทัพอากาศจำนวน 2 ลำบินลาดตระเวนอยู่เหนือน่านฟ้า บริเวณบ้านภูมิซรอล อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีการบินลาดตระเวนอยู่ประมาณ 30 นาที ก่อนที่เครื่องบินเอฟ 16 ทั้ง 2 ลำจะหายไป



    พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง เสนาธิการทหารอากาศ กล่าวชี้แจงว่า ขณะนี้กองทัพอากาศมี 2 ภารกิจ คือ ภารกิจที่ 1 คือ การฝึกคอบบร้าโกลด์ ครั้งที่ 30 ซึ่งมีการฝึกตั้งแต่วันที่ 7-18 ก.พ.นี้ โดยมีพื้นที่การฝึกตั้งแต่ทางใต้ ของจ.นครราชสีมา แต่ขณะนี้พยายามขยับการฝึกขึ้นมาในพื้นที่ตอนเหนือ คือ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ภารกิจที่ 2 คือ ภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ตามปกติ โดยจะใช้เครื่องบินเอฟ 5 และเอฟ 16 บินลาดตระเวน ซึ่งปฏิบัติเพื่อฝึกความพร้อมของนักบิน และให้นักบินเกิดความคุ้นเคยในพื้นที่ ส่วนเครื่องบินที่บินเหนือพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชานั้น ไม่ยืนยันว่า เป็นเครื่องบินจากภารกิจไหน แต่ยืนยันว่า เป็นภารกิจตามปกติของกองทัพอากาศ ไม่ได้มีเจตนาบินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด


    พล.อ.ต.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การบินลาดตระเวนของเครื่องเอฟ 16 บริเวณชายแดนนั้น เป็นการบินลาดตระเวนรักษาเขตตามปกติของกองทัพอากาศ ไม่เกี่ยวกับการบินเพื่อโจมตี หรือบินเพื่อแสดงกำลังทางอากาศเพื่อข่มขู่ หรือบินเพื่อยั่วยุแต่อย่างใด เพราะปกติที่ผ่านมาก่อนที่จะมีปัญหาบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางกองทัพอากาศจะบินลาดตระเวนตามแนวชายแดนทุกพื้นที่ ไม่เฉพาะพื้นที่ที่มีปัญหา แต่บริเวณชายแดนทางภาคเหนือ และภาคใต้ เราก็มีการบินลาดตระเวนเช่นเดียวกัน ซึ่งการบินลาดตระเวนดังกล่าว เป็นการฝึกนักบินให้มีความชำนาญในการบินในพื้นที่ โดยการบินจะไม่มีการล่วงล้ำเข้าไปในพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1172
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รัสเซีย-ญี่ปุ่น เตรียมหารือประเด็นร้อน “พื้นที่พิพาท” หมู่เกาะคูริล
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 10:32 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ประธานาธิบดี ดมิทรี เมดเวเดฟ แห่งรัสเซีย

    เอเอฟพี - นักการทูตระดับสูงของทั้งรัสเซียและญี่ปุ่นนัดหมายหารือประเด็นร้อนกันวันนี้ (11) ท่ามกลางสงครามน้ำลาย กรณีหมู่เกาะพิพาท ซึ่งถูกยึดครองโดยกองทัพโซเวียตในช่วงสิ้นสงครามโลกครั้งที่ 2

    การหารือลับระหว่าง เซอิจิ มาเอฮาระ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นกับ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ได้กำหนดขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคม ท่ามกลางความหวังว่าทั้ง 2 ประเทศจะเต็มใจขับเคลื่อนการแก้ปมประเด็นพิพาทเหนือหมู่เกาะคูริล

    ข้อพิพาทยาวนานหลายทศวรรษดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการลงนามสนธิสัญญาสันติภาพอย่างเป็นทางการ และทำให้ชาวญี่ปุ่นเลือกลงทุนในพื้นที่ตะวันออกไกลของรัสเซียน้อยลงทุกที

    ทว่า หมู่เกาะคูริลกลับเข้าสู่สายตาของประชาชนอีกครั้งในเดือนนี้ จากการเดินทางเยือนของรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ตามด้วยการประกาศกร้าวของประธานาธิบดีดมิทรี เมดเวเดฟ ว่าจะแสดงสิทธิเหนือหมู่เกาะคูริลให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

    เมดเวเดฟเปิดประเด็นข้อพิพาทหมู่เกาะคูริลอีกครั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายน เมื่อเขาเดินทางเยือนภูมิภาคดังกล่าว ซึ่งไม่มีประธานาธิบดีรัสเซียคนใดเคยทำมาก่อน โดยหมู่เกาะคูริลมีประชากรอาศัยอยู่เพียง 19,000 คน และไม่มีอุตสาหกรรมสำคัญอย่างอื่น นอกจากการประมง

    ข้อพิพาทนี้กลายเป็นส่วนสำคัญต่อภาพความเข้มแข็งก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของรัสเซียในปี2012 การเยือนของดมิทรี เมดเวเดฟ ก็มาตามด้วยการเดินทางเยือนของผู้บริหารระดับภูมิภาค และฝ่ายเศรษฐกิจ

    [​IMG]

    หมู่เกาะคูริลตอนใต้ทั้ง 4 ซึ่งเป็นพื้นที่พิพาทระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย

    ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจาในประเด็นอันเปราะบางวันนี้ ในกรุงมอสโก โดยต่างยืนหยัดบนจุดยืนของแต่ละฝ่าย และใช้โวหารเสียดสีกันไปมา ทั้งนี้ เมื่อวันพุธ (9) ประธานาธิบดีเมดเวเดฟได้ตอบโต้ท่าทีอันแข็งกร้าวของ นาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น โดยการเรียกหมู่เกาะคูริลว่า “ดินแดนยุทธศาสตร์” ของรัสเซีย พร้อมทั้งระบุว่ากำลังจะมีการประจำการของสรรพวุธสมัยใหม่บนพื้นที่พิพาทดังกล่าว

    รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่นปฏิเสธการแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องดังกล่าว

    รัสเซีย-ญี่ปุ่นเคยใช้การเจรจาครั้งก่อนหน้าปัดสวะประเด็นหมู่เกาะคูริล และมุ่งเน้นไปยังการสัมพันธ์ทางการค้ามากยิ่งขึ้นในภูมิภาคแปซิฟิก

    ญี่ปุ่นสนใจในแหล่งก๊าซธรรมชาติแหล่งใหม่ และเพิ่มบทบาทในโครงการพลังงานบนเกาะซาคาลินของรัสเซียมากยิ่งขึ้น ส่วนประธานาธิบดีเมดเวเดฟได้เสนอให้สร้างหมู่เกาะคูริลเป็นเขตการค้าเสรี ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนจากญี่ปุ่น ทว่า กระทรวงต่างประเทศญี่ปุ่นระบุว่าโครงการดังกล่าวไม่ได้แก้ปัญหาข้อพิพาทเหนือพื้นที่ของหมู่เกาะคูริลแม้แต่น้อย
    Around the World - Manager Online -
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จีนเตรียมทุ่มงบ $ 1 พันล้าน กู้วิกฤติภัยแล้ง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 กุมภาพันธ์ 2554 09:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    ชาวนาจีนกำลังสูบน้ำเข้าสู่ทุ่งข้าวสาลี ในเมืองลั่วหยัง มณฑลเหอหนาน 8 ก.พ. ขณะนี้ชาวจีนทางตอนเหนือกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง และขาดแคลนน้ำดื่มอย่างหนัก ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีเพิ่มสูงขึ้น (ภาพเอเอฟพี)

    เอเอฟพี - รัฐบาลจีนประกาศเตรียมทุ่มงบประมาณเกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อต่อสู้กับภัยแล้งที่เกาะกินพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศ กอปรกับราคาข้าวสาลีที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันสหประชาชาติก็ออกมาแสดงความกังวลเรื่องการเก็บเกี่ยวผลิตผลทางการเกษตรในฤดูหนาวนี้

    ภัยแล้งในหลายพื้นที่ของจีน ปีนี้ถือว่าแย่สุดในรอบ 60 ปี และได้ลามเลียไปยังพื้นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศด้วย โดยเฉพาะเมื่อฝนไม่ตกนานกว่า 3 เดือน เกษตรกรจึงขาดแคลนน้ำสาหัส

    สำนักงานบรรเทาภัยแล้งของจีนเผยว่า รัฐบาลจะใช้งบฯ อย่างน้อย 6 ล้านหยวน (911 ล้านดอลลาร์) เพื่อผันน้ำไปยังพื้นที่ประสบภัย สร้างฝายจำเพาะเพื่อทดน้ำ ตลอดจนพยายามหามาตรการอื่น ๆ เพื่อรับมือ

    สำนักงานที่ดูแลด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของจีน ชี้เมื่อวันพุธ (9 ก.พ.)ว่า “ผลกระทบจากภัยแล้ง ส่งผลให้ราคาข้าวสาลีในเมืองเจิ้งโจว ขยับตัวสูงขึ้น และขยายไปทั่วแผ่นดินจีน”

    รายงานข่าวจากเว็บไซต์ เหอซวิ่น รายงานเมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.)ว่า ราคาข้าวสาลีทุบสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์คือ ตันละ 2,865 หยวน

    อย่างไรก็ตาม การขึ้นราคานี้ไม่ถือเป็นปัญหาใหม่สำหรับรัฐบาล เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลก็กำลังเผชิญปัญหาราคาอาหารเพิ่มสูงขึ้น เงินเฟ้อ การเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ฯ อยู่ด้วยเช่นกัน

    เมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.) ธนาคารกลางของจีนได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 3 ในรอบ 4 เดือน ซึ่งถือเป็นมาตรการระดับมหภาค เพื่อบรรเทาปัญหาเงินเฟ้อ เพราะหากไม่แก้ไขอาจก่อให้เกิดปัญหาความไม่สงบในสังคมจีนได้

    ในวันตรุษจีนประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ได้อุทิศเวลาเดินสายตรวจเยี่ยมภาคเหนือที่มณฑลเหอเป่ย พร้อมกับให้คำมั่นในวันปีใหม่ว่ารัฐบาลจะระดมมาตรการเต็มสูบในการประกันแหล่งเงินทุน เทคโนโลยี อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆเพื่อให้การเพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวเป็นไปด้วยดี

    นอกจากผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรแล้ว ประชาชนอีกเกือบ 3 ล้านคน ก็กำลังลำบากเรื่องน้ำดื่มขาดแคลน

    องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้ออกมาเตือนเมื่อวันอังคาร (8 ก.พ.) ถึงผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีในฤดูหนาว ซึ่งจีนเป็นผู้ผลิตธัญพืชรายใหญ่ของโลก หากจีนมีปัญหา ระบบการบริโภคของโลกก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เนื่องจากพื้นที่ 8 มณฑลหลักของจีนที่ผลิตธัญพืช มีสัดส่วนการผลิตกว่าร้อยละ 80 ของทั้งหมด

    หน่วยบรรเทาความแห้งแล้งจีนเผย บางพื้นที่ไม่มีน้ำฝนในระดับที่พอใช้ถึง 120 วัน สร้างความเสียหายย่อยยับแก่พื้นที่เพาะปลูกมากกว่าห้าล้านเฮกเตอร์ หรือกว่า 30 ล้านไร่ ซึ่งเป็นขนาดใหญ่เทียบได้กับครึ่งหนึ่งของพื้นที่ประเทศเกาหลีใต้

    นอกจากนั้น สื่อทางการจีนรายงานเมื่อวันพุธ (9 ม.ค.) ว่าทางตะวันออกของมณฑลซานตง และเหอหนานมีหิมะปกคลุม และในวันพฤหัส หิมะก็ตกในปักกิ่งแล้ว
    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>10 ก.พ. หิมะตกในพระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง (ภาพเอเอฟพี)</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    China - Manager Online -
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    " United We Fall ".......ว่าด้วย North American Union หรือสหภาพอเมริกาเหนือ


    ยังคงวนเวียนอยู่แถวทวีปอเมริกาเหนือครับ กับความเคลื่อนไหวของ 2 ชาติคือสหรัฐและแคนาดา ในการเซ็นสัญญาความร่วมมือเกี่ยวกับเรื่องพรมแดนของทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งถ้าดูข่าวผ่านๆ แล้วเหมือนว่าจะไม่มีอะไร แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนสหรัฐหน้านั้น สหรัฐเพิ่งจะเซ็นสัญญาในลักษณะเดียวกันนี้กับเม็กซิโก โดยอ้างเรื่องปัญหาการค้ายาเสพติดระหว่างพรมแดนสหรัฐและเม็กซิโก จนทำให้เป็นที่จับตามองในประเด็นการรวม 3 ประเทศให้เป็นหนึ่งเดียวชัดเจนมากขึ้น

    <IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/x8WHQtbsLq4?rel=0" frameBorder=0 width=480 height=390 allowfullscreen=""></IFRAME>

    สารคดีเชิงข่าวสาร " United We Fall " หรือ " รวมกันเราเจ๊ง " (2hrs3mns) เป็นสารคดีเกี่ยวกับเส้นทางการรวม 3 ชาติเข้าด้วยกัน เพื่อให้เป็น North American Union หรือ สหภาพอเมริกาเหนือ โดยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลสำคัญๆ รวมทั้งบทสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ระดับสูง นักการเมืองในระดับรัฐมนตรี แม้แต่อดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่เกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าว ซึ่งสาระสำคัญคือถ้ามีการรวมประเทศกันจริง ผลประโยชน์จะตกอยู่กับบริษัทข้ามชาติขนาดยักษ์ต่างๆ หรือก็คือกลุ่ม NWO ที่อยู่เบื้องหลังรัฐบาลและพยายามผลักดันเรื่องนี้อย่างเต็มที่ แต่ฝ่ายที่จะต้องรับกรรมก็คือประชาชนของประเทศนั้นๆ...อีกแล้ว

    <IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/LfhXkQmtYiI?rel=0" frameBorder=0 width=500 height=311 allowfullscreen=""></IFRAME>​

    ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
    The Gold War Phase II...by Jimmy Siri บน Facebook
    http://www.facebook.com/home.php?sk=group_170408246326805&ap=1


    โพสต์โดย What's going on in America
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 12:41
    อิสราเอลเผยมาตรการศก.หวั่นคนลุกฮือเหมือนอียิปต์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ผู้นำอิสราเอลประกาศมาตรการเศรษฐกิจ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากปัญหาสินค้าแพง หวั่นลุกฮือประท้วง
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ซึ่งกำลังเผชิญ
    กระแสกดดันทางการเมืองภายในเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ได้ประกาศมาตรการเศรษฐกิจ 4 ขั้น เพื่อ
    บรรเทาภาระอันหนักอึ้งของประชาชน อันเนื่องมาจากราคาอาหารและน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น โดย
    รวมถึงการลดราคาค่าโดยสารระบบขนส่งสาธารณะลง 10%, ลดราคาน้ำดื่ม และ
    เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำอีกเดือนละ 122 ดอลล่าร์ หรือราว 3,660 บาท และยกเลิกการเก็บภาษี
    น้ำมันที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้ และทำให้ราคาน้ำมันพุ่งเป็นแกลลอนละ 8.50 ดอลล่าร์
    การประกาศมาตรการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของผู้นำอิสราเอล มีขึ้นหลังจากสาธารณชนไม่พอใจ
    ที่ราคาสินค้าจำเป็นพื้นฐานและน้ำมัน เพิ่มขึ้นอย่างพรวดพราด ขณะที่แม้แต่สมาชิกในพรรค
    ลิคุด ซึ่งเป็นพรรคนายเนทันยาฮูเอง ก็ออกมาตำหนิรัฐบาลว่า เฉื่อยชาต่อความเดือดร้อนของ
    ประชาชน
    ทั้งยังเตือนอย่างเปิดเผยไปยังนายกรัฐมนตรี เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาด้วยว่า ราคาสินค้า
    ที่พุ่งสูงขึ้น กำลังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่มีรายได้น้อยและรายได้ปานกลาง โดยเฉพาะ
    ในพื้นที่ฐานเสียงของพรรคลิคุด และถ้ายังไม่แก้ปัญหาเสียตั้งแต่ตอนนี้ พรรคลิคุดอาจเผชิญ
    กับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งคราวหน้า และที่สำคัญคือ กระแสความไม่พอใจอาจส่งผลให้
    เกิดการลุกฮือขึ้นประท้วงของประชาชนได้
    ด้าน ฮิสตาร์ดรัท ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานขนาดใหญ่ของอิสราเอล ขู่ว่าจะจัดการประท้วงภาย
    ในสองสัปดาห์ ถ้าสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และประกาศจะนัดหยุดงานเป็นครั้งคราวด้วย จากการ
    เปิดเผยของ เนทีฟ คอนซัลแทนต์ บริษัทที่เชี่ยวชาญในด้านการจำหน่ายอาหารของอิสราเอล พบ
    ว่า ราคาอาหารได้เพิ่มขึ้น 5-8% เมื่อปีที่แล้ว ส่วนราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น 13%
    ปัจจุบัน ชาวอิสราเอลต้องซื้อน้ำมันในราคาแกลลอนละ 8.50 ดอลล่าร์ หรือราว 255 บาท
    นอกจากนี้ราคาน้ำดื่มและขนมปังก็แพงขึ้นด้วย ทำให้ประชาชนหลายคนเริ่มไม่พอใจรัฐบาล
    และบอกว่าจะไม่ลงคะแนนให้เขาอีกแล้ว เพราะเขาไม่ได้ช่วยเหลืออะไรประชาชนที่เดือดร้อน
    อิสราเอลเพิ่งจะได้ชื่อว่าประสบความสำเร็จในเรื่องเศรษฐกิจ เพราะสามารถอาตัวรอดจากวิกฤติ
    เศรษฐกิจโลกถดถอย ช่วงระหว่างปี 2551- 2553 มาได้ โดยมีตัวเลขการเติบโตของจีดีพี ถึง 5.7%
    ทำให้อิสราเอลได้รับเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกขององค์การความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
    และการพัฒนา หรือโออีซีดี
    นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู กล่าวว่า ราคาสินค้าที่ถีบตัวสูงขึ้นในอิสราเอล เป็นผลมาจากในโลก
    มีประเทศผู้บริโภคขนาดใหญ่อุบัติใหม่อย่างจีน และอินเดีย ส่วนอิสราเอลไม่มีอิทธิพลเหนือราคา
    น้ำมันในตลาดโลก และตัวเขาก็ต้องรับผิดชอบเรื่องคุมงบประมาณประจำปี เพราะไม่อยากให้
    มีจุดจบเหมือนประเทศยุโรปบางประเทศ เช่น กรีซ

     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE><TBODY><TR><TD class=NewsDetailHeadTopic>วิกฤตอาหารแพงรอบ 2</TD></TR><TR><TD class=NewsDetailHeadDate colSpan=2>08/02/2011</TD></TR></TBODY></TABLE>
    นักวิเคราะห์ด้านอาหารทั่วโลกมองปัญหาราคา อาหารแพงในต้นปี 2011 ตรงกันว่า หากมองจากภายนอกอาจจะวิเคราะห์ได้ว่าต้นเหตุของราคาอาหารแพงมาจากภาวะโลก ร้อนที่ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่มีผลต่อการเพาะปลูกพืชผทางการเกษตรในพื้นที่สำคัญต่างๆทั่วโลก แต่สาเหตุใหญ่ที่ทำให้ราคาอาหารแพงและเกิดภาวะขาดแคลนคือ ความต้องการที่สูงขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาที่มีเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว อย่างจีน อินเดีย รัสเซีย บราซิล และอีกหลายประเทศ

    นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปีที่ผ่านมา ประกอบกับรัฐบาลยึดหลักนโยบายที่ต้องการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตจึงตรึงอัตรา ดอกเบี้ยเงินกู้เอาไว้ในระดับต่ำ ประชากรในประเทศกำลังพัฒนาจึงมีกำลังซื้อและมีกำลังบริโภคสินค้าและอาหาร เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ราคาอาหารโลกแพง เนื่องจากหรือดีมานด์หรือความต้องการจากประเทศกำลังพัฒนาเพิ่มขึ้น แต่ซัพพลายหรือการผลิตอาหารกลับลดลงเพราะความแปรปรวนของอากาศ

    นักวิเคราะห์เชื่อว่าวิกฤตราคาอาหารแพงในปีนี้จะหนักกว่าเมื่อปี 2008 ซึ่งปีนั้นราคาอาหารบางอย่างแพงขึ้น เช่น เนื้อสัตว์บางประเภท รวมถึงข้าว เป็นเพราะปริมาณการบริโภคในจีนสูง แต่ปีนี้นอกจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก สินค้าการเกษตรที่เป็นสินค้าอุปโภค เช่น พืชผักผลไม้ ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด น้ำมันปาล์ม มีราคาแพงแล้ว ยังรวมถึงยางพาราและฝ้ายด้วย

    สินค้าอุปโภคและบริโภคปรับราคาขึ้นพร้อมกันแบบนี้จะส่งผลให้อัตราเงิน เฟ้อทั่วโลกสูง เป็นอันตรายต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวจากวิกฤต การเงิน และจะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ เช่น การประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาราคาอาหารแพงและความเป็นอยู่ของประชากรเหมือนที่เกิดขึ้นในแอฟริกาและตะวันออกกลางหลายประเทศ

    ในเวลานี้หลายประเทศกำลังเผชิญกับปัญหาราคาอาหารแพงอย่างรุนแรง เช่น ที่อินโดนีเซีย สินค้าการเกษตรที่มีราคาสูงมากคือพริก จนรัฐบาลต้องปล่อยให้มีการนำเข้าพริกจากต่างประเทศโดยไม่เรียกเก็บภาษี ศุลกากรเพื่อทำให้ราคาพริกนำเข้าถูกลง และรัฐบาลยังต้องเร่งแก้ไขปัญหาสินค้าการเกษตรประเภทอื่นๆที่มีราคาสูงจนทำ ให้อัตราเงินเฟ้อในอินโดนีเซีย เวลานี้สูงถึง 7% ขณะที่ในประเทศโบลิเวียราคาน้ำตาลเพิ่มขึ้น 64% และนักวิเคราะห์คาดว่าอาหารที่จำเป็นต่อประเทศในโลกตะวันตก อย่างข้าวโพด ข้าวสาลีจะปรับราคาอีก 20%

    ในสหรัฐอเมริกา ชาวอเมริกันต้องซื้ออาหารประจำชาติ เช่น แฮมเบอร์เกอร์ จากร้านฟาสต์ฟู้ดยอดฮิตอย่างแมคโดนัลด์ในราคาสูงขึ้น เพราะเนื้อวัวและแป้งสาลีมีราคาแพง การปรับราคาอาหารของร้านแมคโดนัลด์จะกระทบต่อผู้บริโภคในอเมริกาที่ต้อง ประหยัดเนื่องจากเศรษฐกิจเพิ่งฟื้นตัว และที่ซาอุดีอาระเบีย ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในตะวันออก มีรายงานว่าราคาอาหารที่แพงขึ้นจะทำให้ซาอุดีอาระเบียต้องเจอกับปัญหาเงิน เฟ้อที่คาดว่าจะสูงถึง 9%

    ทางด้านองค์การอาหารแห่งสหประชาชาติ (เอฟเอโอ) ยอมรับว่า ปีนี้อาหารทั่วโลกจะมีราคาแพงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1990 ซึ่งสหประชาชาติกังวลว่าจะทำให้เกิดการประท้วงอย่างรุนแรงในประเทศที่ไม่ สามารถแก้ไขราคาอาหารแพงได้อย่างถูกวิธีเหมือนที่เคยเกิดขึ้นในทวีปแอฟริกา เมื่อปี 2008

    เอฟเอโอออกรายงานว่า ปัญหาราคาอาหารแพงไม่ได้เกิดขึ้นเพราะดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นหรือซัพพลายที่ลด ลง แต่เป็นเพราะประเทศรัสเซีย อาร์เจนตินา และออสเตรเลีย ที่เป็นแหล่งเพาะปลูกสินค้าการเกษตรส่งตลาดโลกเริ่มใช้นโยบายจำกัดการส่งออก เพื่อกักตุนสินค้าการเกษตรเอาไว้บริโภคอย่างเพียงพอและขายในประเทศในราคาถูก ทั้งนี้ การที่ 3 ประเทศต้องทำเช่นนั้นเพราะเกิดปัญหาอากาศแปรปรวนตลอดปีที่แล้ว และผลผลิตการเกษตรลดลงอย่างมาก

    เอฟเอโอเชื่อว่าราคาอาหารจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 ปี จนกว่าการผลิตสินค้าการเกษตรทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้น หรือเพิ่มซัพพลายให้ทันตามความต้องการของตลาดโลก และเอฟเอโอมองว่าบางทีราคาอาหารแพงในประเทศกำลังพัฒนาจำเป็นจะต้องให้ธนาคาร กลางของแต่ละประเทศช่วยกำหนดนโยบายการเงินที่ทำให้คนในประเทศลดการบริโภค หรือการใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย เพื่อทำให้เศรษฐกิจชะลอการเติบโตที่ร้อนแรงให้อยู่ในระดับพอดีๆ

    <TABLE width="70%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: text-top; WIDTH: 8%">ที่มา : </TD><TD>หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ประจำวันที่ 8 ก.พ. 54</TD></TR></TBODY></TABLE>

    https://www.k-weplan.com/Article.aspx?mid=47&articleid=3450
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ‘อิรัก’ขึ้นภาษีสินค้าไม่หวั่นเกิดจลาจล
    09/02/2011

    อิรักขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าหลายอย่างหวังสกัดภาวะเงินเฟ้อ สวนทางกับประเทศอาหรับอื่นๆที่พยายามป้องกันเหตุไม่สงบ ซึ่งมีสาเหตุจากราคาอาหารแพงและการขึ้นราคาสินค้าของรัฐบาล

    รัฐบาลอิรักนำมาตรการขึ้นภาษีเพื่อกีดกันการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศมา ใช้ โดยคาดว่าจะช่วยให้ธุรกิจในประเทศผลิตสินค้าราคาถูกแข่งกับสินค้านำเข้าราคา แพงจากต่างประเทศ ซึ่งรัฐบาลเชื่อว่าหากคนอิรักซื้อสินค้าราคาถูกที่ผลิตในประเทศจะสามารถ แก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อสูงได้ ทั้งนี้ กฎหมายปรับขึ้นภาษีรายการใหม่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคม ระบุรายชื่อสินค้าที่ขึ้นภาษีนำเข้ารวมทั้งหมด 794 หน้า เช่น รถยนต์จะขึ้นเป็น 15% และคาดว่าปลายปีนี้จะขึ้นเป็น 25% น้ำดื่มบรรจุขวดและน้ำอัดลมขึ้นเป็น 80% ส่วนข้าว น้ำตาล และยาปฏิชีวนะจะคงภาษีเท่าเดิมที่ 5%

    หัวหน้าฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์อิรัก เปิดเผยว่า มาตรการใหม่นี้ต้องการปกป้องเศรษฐกิจและตลาดอิรัก ธุรกิจท้องถิ่นจำนวนมากต้องปิดตัวเนื่องจากไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าราคา ถูกด้อยคุณภาพที่ทะลักเข้ามาในประเทศตั้งแต่ปี 2546 ทั้งนี้ รัฐบาลเชื่อว่าการขึ้นภาษีจะทำให้สินค้าจากต่างประเทศราคาแพง แต่จะไม่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของชาวอิรัก และจะทำให้ชาวอิรักสามารถเลือกได้ว่าจะซื้อสินค้าคุณภาพที่ผลิตในประเทศหรือ สินค้าด้อยคุณภาพจากต่างประเทศ

    นายอาลี อัล ซัฟฟาร์ นักวิเคราะห์ชาวอิรักที่อีโคโนมิค อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ในอังกฤษ มองว่า รัฐบาลอิรักต้องการส่งเสริมธุรกิจในประเทศเพื่อสร้างงานและลดการพึ่งพาราย ได้จากน้ำมัน เพราะธุรกิจน้ำมันครองส่วนแบ่งในเศรษฐกิจอิรักถึง 65% แต่จ้างงานชาวอิรักเพียง 1% ขณะที่ภาคการเกษตรครองส่วนแบ่งในเศรษฐกิจเพียง 3% จากที่เคยครอง 8% ในปี 2518 อย่างไรก็ดี การขึ้นภาษีนำเข้าอาจไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุด เพราะเป็นการเปลี่ยนแปลงฉับพลันในช่วงที่ภูมิภาคกำลังเกิดเหตุไม่สงบรุนแรง อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยมีสาเหตุจากราคาสินค้าแพงและอัตราว่างงานสูง คาดว่าอัตราเงินเฟ้อของอิรักจะเพิ่มจาก 3.3% เมื่อปีก่อน เป็น 5.6% ในปีนี้ แม้จะขึ้นภาษีนำเข้าก็ตาม

    ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมาเกิดความวุ่นวายในโลกอาหรับทั้งในแอฟริกาและตะวันออกลาง เช่น ตูนิเซีย และแอลจีเรีย ประชาชนลุกฮือขึ้นมาเพื่อประท้วงรัฐบาลและโค่นล้มอำนาจรัฐบาล เนื่องจากไม่พอใจการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเพราะประชาชนเผชิญหน้าปัญหาอาหารแพง และขาดแคลนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจทั้งไฟฟ้าและน้ำประปา นอกจากนี้หลายประเทศ เช่น จอร์แดน ซีเรีย และลิเบีย พยายามแก้ไขปัญหาราคาอาหารแพงโดยการลดภาษีการนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ และเพิ่มผลผลิตสินค้าการเกษตร เนื่องจากรัฐบาลประเทศเหล่านี้กลัวว่าหากปล่อยให้ราคาอาหารแพงและเกิดอัตรา เงินเฟ้อสูง จะทำให้เกิดการประท้วงจนลุกลามเป็นการก่อจลาจลเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในอียิปต์




    <TABLE width="70%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: text-top; WIDTH: 8%">ที่มา : </TD><TD>หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ประจำวันที่ 9 ก.พ. 54</TD></TR></TBODY></TABLE>
    https://www.k-weplan.com/Article.aspx?mid=47&articleid=3456
     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE class=NewsDetailHead><TBODY><TR><TD><TABLE><TBODY><TR><TD class=NewsDetailHeadTopic>มองรอบด้าน "น้ำมันโลก" ตีแผ่ปัจจัยกำหนดราคา</TD></TR><TR><TD class=NewsDetailHeadDate colSpan=2>09/02/2011</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=NewsDetailHeadRight></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    แม้ความไม่สงบในอียิปต์คือหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ดันราคาน้ำมันดิบพุ่งพรวดถึง 8% ในช่วงกว่า 10 วันที่ผ่านมา จนแตะทะลุ 103 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงสั้นๆ ในตลาดลอนดอน เมื่อวันที่ 3 ก.พ. แต่อียิปต์หรือคลองสุเอซไม่ได้มีบทบาทสำคัญนักต่ออุตสาหกรรมน้ำมันโลกในปัจจุบัน

    โดย อีโคโนมิก ไทมส์ ระบุว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำมันสำรองในโลกมีระดับสูงกว่าระดับเฉลี่ยช่วง 5 ปี และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันหรือโอเปก ยังมีกำลังผลิตเหลือเพียงพอหากเกิดกรณีฉุกเฉินใด ๆ ดังนั้นจึงมีบางฝ่ายมองว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นล่าสุดนี้เป็นปฏิกิริยาตอบสนองแบบฉับพลันเท่านั้น

    ช่วงหนึ่งในอดีต คลองสุเอซเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันสำคัญจากตะวันออกกลางไปยังยุโรปและสหรัฐ จนกระทั่งราวปี 2518 น้ำมันโลกประมาณ 10% ถูกลำเลียงผ่านเส้นทางนี้ แต่การขนส่งน้ำมันโดยใช้เรือน้ำมันขนาดใหญ่ทำให้สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนไปมาก เพราะเรือมีขนาดใหญ่เกินไปที่จะแล่นผ่านคลองสุเอซ ดังนั้นปัจจุบันคลองสุเอซจึงเป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันโลกไม่ถึง 1%

    ขณะเดียวกันรายงานของโอเปกให้ข้อมูลว่า ตลาดโลกยังมีปริมาณน้ำมันสำรองอยู่ในระดับสูง โดยน้ำมันสำรองของสหรัฐมีมากกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปี ราว 75 ล้านบาร์เรล และนับถึงสิ้นปี ที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (โออีซีดี) รายอื่น ๆ เช่น ยุโรป และญี่ปุ่น ต่างมีปริมาณน้ำมันสำรองเพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ในกรณีที่ความต้องการน้ำมันเพิ่มขึ้นมาก หรือซัพพลายเกิดหยุดชะงักแบบฉับพลัน โอเปกก็ยังมีกำลังผลิตเหลืออีกประมาณ 6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งสามารถผลิตน้ำมันและส่งป้อนตลาดได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ปีนี้โลกจะต้องการน้ำมันจากโอเปก 29.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือสูงกว่ากำลังการผลิตปัจจุบันที่ระดับ 29.2 ล้านบาร์เรลต่อวันของโอเปกเล็กน้อย

    และในช่วงครึ่งปีแรกซึ่งโดยทั่ว ไปจะมีความต้องการน้ำมันน้อย และคงจะต่ำกว่ากำลังการผลิตน้ำมันดิบของโอเปกเช่นกัน หรือเท่ากับว่าจะเป็นการสำรองน้ำมันเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนนี้ และไม่มีปัจจัยพื้นฐานใด ๆ ที่หนุนให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น ดังนั้นจึงมีบางฝ่ายเชื่อว่า เหตุผลเบื้องหลังการทะยานขึ้นอาจมาจากการเก็งกำไรในตลาดคอมโมดิตี้

    ซึ่งโอเปกให้ข้อมูลในรายงานว่า เมื่อดูจากปริมาณซื้อสุทธิของผู้จัดการเงิน พบว่าการเก็งกำไรในตลาดน้ำมันดิบล่วงหน้าแตะระดับสูงสุดในรอบสัปดาห์สิ้นสุด วันที่ 28 ธ.ค. 2553 และปริมาณซื้อสุทธิในช่วงต้นเดือนมกราคมปีนี้สูงกว่าระดับเดือนกันยายน 2553 กว่าสองเท่านักลงทุนอาจคาดว่าราคาจะลดลงในอนาคต

    อย่างไรก็ตามหากมองอีกด้านรอยเตอร์สระบุว่า ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดสหรัฐพุ่งขึ้นเกือบถึงระดับ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ด้วยแรงหนุนจากวิกฤตการเมืองในอียิปต์ และอัตราการว่างงานของสหรัฐที่ลดเหลือ 9.0% หรือต่ำสุดในรอบ 21 เดือน อีกทั้งยังได้รับแรงส่งจากการแสดงความคิดเห็นของสมาชิกโอเปกบางประเทศ อาทิ คูเวต ที่มองว่าราคาน้ำมันอาจทะลุ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หากความวุ่นวายในอียิปต์ยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่เวเนซุเอลาระบุว่าราคาอาจพุ่งขึ้น 2 เท่า เป็น 200 ดอลลาร์ หากคลองสุเอซถูกปิด แต่อิหร่านกลับชี้ว่าโอเปกยังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมฉุกเฉิน แม้แต่ในกรณีที่น้ำมันแตะระดับ 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    และแม้อียิปต์ไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก แต่สิ่งที่เทรดเดอร์น้ำมันวิตกจริง ๆ คือความวุ่นวายในตูนิเซียและอียิปต์ อาจจุดชนวนการประท้วงในรูปแบบที่คล้ายคลึงกันในประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อย่างลิเบีย หรือแม้แต่ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งจะสร้างความไม่แน่นอนอย่างมากต่อซัพพลายน้ำมันในโลก

    ทว่านักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่า ราคาน้ำมันไม่น่าจะพุ่งขึ้นจากระดับปัจจุบันมากนัก เพราะราคาตอนนี้ได้สะท้อนภาพอันตรายของการชะงักงัน และราคาน้ำมันจะลดต่ำลงอย่างรวดเร็วหากความกังวลดังกล่าวบรรเทาลง

    ทั้งนี้หากน้ำมันทรงตัวในระดับสูงเช่นนี้เป็นเวลานานจะกลายเป็นความเสี่ยงต่อ เศรษฐกิจ สร้างความวิตกต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิต โดยผลวิจัยของสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า ราคาน้ำมันเฉลี่ยที่เกือบ 80 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรลในปี 2553 ถือเป็น"ภาระน้ำมัน" (oil burden) น้อยมาก หรือเท่ากับ 4.1%

    แต่หากราคาอยู่ที่ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ ภาระน้ำมันจะสูงกว่า 5% ซึ่งในอดีตจะส่งผลต่อปัญหาทางเศรษฐกิจ



    <TABLE width="70%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: text-top; WIDTH: 8%">ที่มา : </TD><TD>หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ประจำวันที่ 9 ก.พ. 54</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    https://www.k-weplan.com/Article.aspx?mid=47&articleid=3447
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    <TABLE class=NewsDetailHead><TBODY><TR><TD><TABLE><TBODY><TR><TD class=NewsDetailHeadTopic>IMF-EU ช่วย ‘โรมาเนีย’ อุ้มศก.หลุดพ้นถดถอย</TD></TR><TR><TD class=NewsDetailHeadDate colSpan=2>08/02/2011</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD class=NewsDetailHeadRight></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    วิกฤตหนี้ยุโรปลามถึงโรมาเนียจนต้องขอรับความช่วยเหลือจากไอเอ็มเอฟและอียู เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังเคยได้รับเงินช่วยเหลืองวดแรกในปี 2009 ช่วงที่เศรษฐกิจโรมาเนียประสบภาวะถดถอย

    ประธานาธิบดีทราเอียน บาเซสคู แห่งโรมาเนีย กล่าวว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) ได้มอบสินเชื่องวดใหม่ให้รัฐบาลโรมาเนียมูลค่า 5,000 ล้านยูโร เพื่อนำไปพัฒนาเศรษฐกิจและชดใช้หนี้สินของรัฐบาล หลังจากข้อตกลงการให้สินเชื่อตั้งแต่ปี 2009 กำลังจะหมดอายุลงในเดือนเมษายนนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลโรมาเนียได้ขอเงินสินเชื่องวดใหม่ต่อไปอีก 2 ปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีขึ้น และได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป

    ประธานาธิบดีโรมาเนียกล่าวว่า เศรษฐกิจโรมาเนียใน 2 ปีที่ผ่านมาอยู่ในภาวะถดถอย แต่ในปีนี้คาดว่าจะเติบโตอย่างช้าๆ 1.5% อย่างไรก็ตาม โรมาเนียยังมีสถานภาพทางการเงินเหมือนกับหลายประเทศในยุโรป เนื่องจากรัฐบาลโรมาเนียมีปัญหาหนี้สาธารณะสูงถึง 7.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อปี 2009 และลดลงเหลือเพียง 6.6% ในปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะลดลงเหลือ 4.5% เกือบถึงเกณฑ์ที่อียูกำหนดคือต้องต่ำกว่า 3.0% ของจีดีพี

    รัฐบาลโรมาเนียเปิดเผยว่า เศรษฐกิจโรมาเนียตกต่ำถึงที่สุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2009 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตหนี้สาธารณะในกรีซและไอร์แลนด์ โรมาเนียได้รับเงินสินเชื่อจากไอเอ็มเอฟ, เวิลด์แบงก์ และอียู เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ 20,000 ล้านยูโร โดยมีเงื่อนไขว่าโรมาเนียต้องปฏิรูประบบเศรษฐกิจ รวมไปถึงการลดการใช้จ่ายของรัฐบาล ซึ่งในปีที่แล้วรัฐบาลโรมาเนียประกาศลดจำนวนข้าราชการลง 100,000 คน แต่ยังเหลืออีก 1.27 ล้านคน และลดเงินเดือน 25% พร้อมทั้งขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 19% มาเป็น 24% เพื่อหารายได้เข้ารัฐบาล

    การให้ความช่วยเหลือโรมาเนียงวดใหม่นั้น ทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศจะต้องนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อรอ อนุมัติภายในวันที่ 23 มีนาคม ก่อนที่จะปล่อยสินเชื่อให้โรมาเนียนำเงินมาใช้ได้ในเดือนเมษายน ทั้งนี้ คณะกรรมการไอเอ็มเอฟต้องการให้โรมาเนียพัฒนาเศรษฐกิจหลายด้าน เช่น พัฒนาด้านการใช้พลังงาน ระบบการขนส่งมวลชนภายในประเทศ รวมไปถึงการพัฒนาการศึกษาและสาธารณสุข ซึ่งคณะกรรมการของไอเอ็มเอฟและเวิลด์แบงก์ได้เข้ามาตรวจสอบการปฏิรูป เศรษฐกิจของโรมาเนีย ก่อนที่จะให้ความช่วยเหลือในรูปของสินเชื่องวดที่ 2



    <TABLE width="70%" border=0><TBODY><TR><TD style="VERTICAL-ALIGN: text-top; WIDTH: 8%">ที่มา : </TD><TD>หนังสือพิมพ์โลกวันนี้ ประจำวันที่ 8 ก.พ. 54</TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    https://www.k-weplan.com/Article.aspx?mid=47&articleid=3449
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อิเหนาครวญพริกสดแพงขึ้น10เท่า

    คมชัดลึก : จาการ์ตา-สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ว่าชาวอินโดนีเซียกำลังเผชิญกับปัญหาราคาอาหารแพง
    <SCRIPT type=text/javascript>google_ad_channel = '9989085094'; //slot numbergoogle_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads//google_image_size = '300X250';//google_skip = '3';var ads_ID = 'adsense_inside'; // set ID for main Element divvar displayBorderTop = false; // default = false;//var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type imagevar position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail</SCRIPT><SCRIPT src="http://www.komchadluek.net/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพริกสดที่นำมาใช้ปรุงเป็นน้ำพริกซึ่งเป็นอาหารโปรดของชาวอินโดนีเซีย จากที่เคยขายในราคา 300-330 บาทต่อกก.แต่ปัจจุบัน พุ่งสูงถึง 600 บาทต่อกก. อินโดนีเซียมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึง 7% ทำให้สินค้าต่างๆ แพงขึ้น ขณะที่ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยเพียง 6,000 บาทต่อเดือน


    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 14:46
    (แก้ไข)เวียดนามลดค่าเงินด่อง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ฮานอย - เวียดนามลดค่าเงินด่องครั้งที่ 3 ในรอบ 15 เดือน หวังคุมขาดดุลการค้าและเงินเฟ้อ
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>ธนาคารกลางเวียดนามประกาศปรับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของเงินด่องประมาณ 9.3% เป็น 20,693 ด่องต่อดอลลาร์ เทียบกับ 18,932 ด่องก่อนหน้านี้ นับเป็นการปรับลดมากที่สุดตั้งแต่ปี 2536 เพื่อควบคุมการขาดดุลการค้า
    นอกจากนั้น ธนาคารกลางยังเข้มงวดช่วงการเคลื่อนไหวรายวันในการซื้อขายเงินดอลลาร์ของธนาคารพาณิชย์ให้อยู่ที่ 1% จาก 3%
    อัตราแลกเปลี่ยนของธนาคารพาณิชย์จะอยู่ที่ 20,486-20,900 ด่องต่อดอลลาร์ เทียบกับ 18,364-19,499 ด่อง ส่วนในตลาดมืดนั้นอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อเช้าอยู่ที่ 21,500-21,700 ด่อง จาก 21,350-21,450 ด่อง
    ครั้งสุดท้ายที่เวียดนามลดค่าเงินด่องคือเดือนส.ค. ปีที่แล้ว โดยลดไป 2.1%
    แถลงการณ์ระบุว่าการตัดสินใจนี้มุ่งให้เกิดสภาพคล่องในตลาด ควบคุมการขาดดุลการค้า และสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่ยืดหยุ่น
    แต่นายเลอ ดัง โดอาห์ นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่าการลดค่าเงินจะทำให้สินค้านำเข้ามีราคาแพงขึ้น และทำให้กระแสสินค้าต่างชาติลดลงชั่วคราว ขณะที่ราคาเชื้อเพลิงซึ่งนำเข้าจากต่างแดน แพงขึ้น ก็จะทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีก จากระดับ 12.71% ในเดือนม.ค. ส่วนการขาดดุลการค้าอยู่ที่ 12,400 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
    เวียดนามต่างจากเพื่อนบ้านที่ค่าเงินแข็งขึ้น โดยเมื่อเร็วๆ นี้บริษัทมูดี้ส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ ลดอันดับความน่าเชื่อถือของเวียดนาม เพราะวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจ ภาคการธนาคาร และปัญหาบริษัทต่อเรือของรัฐที่อยู่ในสภาพใกล้ล้มละลาย

    (
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 13:46
    ราคาพริกชี้ฟ้าอินโดฯพุ่ง10เท่าเหตุฝนแล้ง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    <!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT>
    [​IMG]

    ราคาพริกชี้ฟ้าของอินโดนีเซีย ราคาแพงกว่าเดิมถึง 10 เท่า หลังขาดตลาดเพราะฝนแล้ง
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ ของอังกฤษ รายงานผ่านทางเว็บไซต์ว่า จากการที่ราคาของพริกชี้ฟ้าทั้งเม็ดแดง และเขียว ในอินโดนีเซีย แพงขึ้นสิบเท่า เมื่อช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ทำให้ราคาต่อกิโลกรัมของพริกสดเหล่านี้ แพงกว่าเนื้อวัว
    การที่ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ได้สร้างความเสียหายให้กับสวนพริก และทำให้พริกชี้ฟ้าขาดตลาด ส่งผลให้ราคาพริกชี้ฟ้าในเดือนธันวาคม แพงขึ้นจากกิโลกรัมละ 77 บาท เป็น 380 บาท
    แต่ความตื่นตระหนกในบรรดาผู้ขายอาหารและแม่บ้านทั่วไป ที่กลัวว่าพริกจะขาดตลาด ยิ่งทำให้ราคาแพงขึ้นไปอีก จนถึงกิโลกรัมละ 700 บาท เมื่อเดือนที่แล้ว
    ความตื่นตระหนกในประเทศที่มีประชากร 237 ล้านคนแห่งนี้ ได้ลามไปถึงประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยูโดโยโนด้วย เขาได้เสนอให้บรรดาครัวเรือนต่าง ๆ ทำสวนครัวปลูกพริกชี้ฟ้าเขียว-แดงกันเอง
    ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่น ๆ บอกว่า ควรหันไปใช้ซอสพริกบรรจุขวดแทนไปก่อน แต่สำหรับชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ การขาดเครื่องเคียงอย่าง " แซมบัล " หรือ พริกชี้ฟ้าบด จะทำให้อาหารขาดรสชาติ
    แม่บ้านคนหนึ่งบอกว่า ลูก ๆ ของเธอไม่ยอมรับประทานอาหาร ถ้าไม่มีแซมบัล
    นอกจากพริกชี้ฟ้าแล้ว ราคาสินค้าอย่างอื่นก็ทะยานขึ้นด้วยเช่นกัน ดัชนีราคาผู้บริโภคได้พุ่งขึ้นไป 7% เมื่อเดือนธันวาคม โดยเฉพาะราคาพริกชี้ฟ้านั้น แพงกว่าสินค้าชนิดอื่น
    ปัจจุบัน สวนพริกกลายเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาวสวน ที่จะพกมีดขนาดใหญ่ไว้ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้คนบุกรุกเข้าไปขโมยพริก
    ส่วนการนำเข้าพริกชี้ฟ้าจากไทยและจีนนั้น ช่วยบรรเทาวิกฤติขาดแคลนพริกได้ไม่มากนัก

    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2011
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 13:42
    ไอเอ็มเอฟขานรับเวียดนามลดค่าด่อง

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ไอเอ็มเอฟขานรับเวียดนามลดค่าเงินดองวันนี้
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ขานรับการเปลี่ยนแปลงระบบค่าเงินและการลดค่าเงินดองของเวียดนามในวันนี้ แต่กล่าวว่า ทางการเวียดนามจำเป็นต้องออกนโยบายที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของเศรษฐกิจระดับมหภาค
    "เราขานรับมาตรการในการทำให้การดำเนินงานในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นไปตามปกติ ด้วยการปิดช่องว่างระหว่างอัตราแลกเปลี่ยนของทางการและอัตราแลกเปลี่ยนนอกระบบ เรายังขานรับความตั้งใจที่จะทำให้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น" นายเบเนดิคท์ บิงแฮม เจ้าหน้าที่อาวุโสของไอเอ็มเอฟ ประจำเวียดนาม กล่าว
    "เพื่อให้กลไกใหม่นี้มีเสถียรภาพ ระบบดังกล่าวจะต้องได้รับการสนับสนุนจากนโยบายที่ครอบคลุมมากขึ้นเพื่อฟื้นฟูเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นโยบายการเงินจะต้องพุ่งความสนใจมากขึ้นไปที่การควบคุมเงินเฟ้อและนโยบายการคลังจะต้องอยู่ในแนวทางของการสร้างความเข้มแข็งของสถานะการคลังที่ชัดเจนขึ้นเพื่อควบคุมหนี้สาธารณะ"
    เวียดนามประกาศลดค่าเงินดองลง 8.5% ในวันนี้เพื่อปรับอัตราแลกเปลี่ยนของทางการและอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดมืดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง และการขาดดุลการค้าอย่างต่อเนื่อง
    ทั้งนี้ อัตราอ้างอิงใหม่อยู่ที่ 20,693 ดองต่อดอลลาร์ โดยอ่อนค่าลงจาก 18,932 ดองต่อดอลลาร์ที่ใช้มาตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. 2553
    การปรับลดค่าเงินดองในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ในรอบเกือบ 3 ปี โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา ทางการเวียดนามต้องเผชิญกับปัญหาอัตราเงินเฟ้อที่มีความผันผวนสูง, ยอดขาดดุลการค้าและงบประมาณในระดับสูง, การพุ่งขึ้นของราคาทองในตลาดโลก และความเชื่อมั่นที่ลดลงในสกุลเงินดอง
    นอกจากนี้ ธนาคารกลางเวียดนามยังได้ลดช่วงการซื้อขาย (แบนด์)เงินดอง เมื่อเทียบกับดอลลาร์ลงเหลือ 1% จาก 3% จากค่ากลางซึ่งกำหนดไว้ในแต่ละวัน

     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทหารอียิปต์ประกาศหนุน'มูบารัค' ปชช.ผิดหวังส่อเกิดประท้วงรุนแรง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2554 22:00 น.


    [​IMG]
    ผู้ชุมนุมแสดงความโกรธกริ้วใส่ทหาร หลังกองทัพประกาศหนุนมูบารัค


    เอเอฟพี/เอเจนซี - กองทัพอียิปต์ออกมาแสดงจุดยืนของตนต่อสถานการณ์บ้านเมืองอันร้อนระอุซึ่งดำเนินยึดเยื้อนาน 3 สัปดาห์ เมื่อวันศุกร์ (11) โดยประกาศจะให้การหนุนหลังประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันก็พยายามทำให้กลุ่มผู้ประท้วงอุ่นใจและลดความเดือดดาลลง ด้วยการการันตีว่า มูบารัคจะทำตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่าจะปฏิรูประบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ท่าทีของฝ่ายทหารคราวนี้ได้จุดชนวนความโกรธแค้นให้กับกลุ่มผู้ประท้วงมากขึ้นไปอีก หลังจากก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน มูบารัค เพิ่งออกมาแถลงยืนกรานว่าเขาจะไม่ลงจากเก้าอี้จนกว่าจะอยู่ครบวาระ

    กองบัญชาการทหารสูงสุดของอียิปต์นำโดยรัฐมนตรีกลาโหม ฮุสเซน ตันตาวี ได้ประชุมหารือเพื่อกำหนดจุดยืนของตนเมื่อวันศุกร์ (11) และได้ออกแถลงการณ์สำคัญซึ่งเรียกว่า “แถลงการณ์หมายเลข 2” ผ่านทางสถานีโทรทัศน์ทางการ โดยระบุว่า ทางกองทัพพร้อมให้การรับรองกับประชาชนว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่มีกำหนดจะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้จะเป็นไปอย่างมีเสรีภาพและยุติธรรมภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับซึ่งมีการปรับปรุงแก้ไขใหม่แล้ว พร้อมกันนี้ยังระบุว่า กองทัพจะให้การสนับสนุนแนวทางการปฏิรูปประเทศของมูบารัคอย่างเต็มที่ คำแถลงดังกล่าวนับเป็นการแสดงท่าทีเลือกฝ่ายอย่างชัดเจนครั้งแรกของฝ่ายทหารต่อกรณีการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีมูบารัค หลังจากเหตุการณ์ความไม่สงบดำเนินยืดเยื้อมาเป็นวันที่ 18

    นอกจากนี้ในแถลงการณ์ของกองทัพอียิปต์ฉบับนี้ยังเรียกร้องกลุ่มผู้ประท้วงซึ่งส่วนใหญ่ยังคงปักหลักชุมนุมกัน ณ บริเวณจัตุรัสตอหรีร์และอาคารรัฐสภาในกรุงไคโร ให้รีบกลับบ้านและกลับเข้าทำงานตามปกติ ตลอดจนประกาศด้วยว่า ทางกองทัพได้พิจารณาเห็นชอบที่จะยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉินซึ่งบังคับใช้มายาวนานนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ลอบสังหารประธานาธิบดีคนก่อนหน้ามูบารัคในปี 1981 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการยกเลิกกฎดังกล่าวก็ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังคุกรุ่นอยู่ในขณะนี้ว่าจะจบสิ้นลงแล้วหรือไม่

    กองทัพระบุว่า พวกเขามีหน้าที่ที่จะต้องปกป้องข้อเรียกร้องต่างๆ ของประชาชนอันสอดคล้องตามครรลองของกฎหมาย และจะช่วยให้พวกเขาบรรลุตามวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกิดการถ่ายโอนอำนาจประธานาธิบดีอย่างสันติวิธีและก่อให้เกิดสังคมตามระบอบประชาธิปไตยที่มีเสรีภาพอย่างแท้จริง

    ในแถลงการณ์ฉบับนี้ยังเน้นย้ำด้วยว่า ทหารจะไม่จับกุมผู้ที่ประท้วงเรียกร้องให้มีการปฏิรูป ทว่าก็เตือนด้วยว่าจะใช้กำลังเข้าปราบปรามหากพวกเขากระทำการอัน “เป็นอันตรายต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศชาติ”

    ภายหลังแถลงการณ์ดังกล่าวมีออกมา ปรากฏว่า ได้ก่อให้เกิดกระแสความเดือดดาลในหมู่ผู้ประท้วงยิ่งขึ้นไปอีก จากที่โกรธแค้นอยู่ก่อนแล้วเมื่อมูบารัคได้ออกมาแถลงในวันพฤหัสบดี (10) ยืนกรานว่า ถึงอย่างไรเสีย เขาก็จะไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งกลางคันก่อนจะถึงกำหนดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกันยายนนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้การแสดงท่าทีของทหารดังกล่าวยังสร้างความผิดหวังให้แก่ผู้ประท้วงเหล่านี้อีกด้วย เนื่องจากพวกเขาคาดหวังว่าฝ่ายทหารน่าจะทำอะไรเพื่อการปฏิรูปบ้านเมืองให้มากกว่านี้

    ทั้งนี้มีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงหลายหมื่นคน ได้ออกมาเดินขบวนขับไล่ประธานาธิบดีมูบารัคอย่างกราดเกรี้ยว ตามท้องถนนในกรุงไคโรเมื่อวันศุกร์ (11) และคาดหมายกันว่าจะมีกลุ่มผู้ประท้วงตามมาสมทบเพิ่มขึ้นเป็นหลายแสนคน หรืออาจถึงหลายล้านคนในช่วงเย็น (ตามเวลาท้องถิ่น) หลังจากที่พวกเขาประกอบพิธีละหมาดเสร็จแล้ว ขณะที่ทางด้านทหารก็เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายหนัก

    อนึ่ง เอเอฟพี รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับรัฐบาลระบุว่า ขณะนี้ประธานาธิบดีมูบารัค พร้อมด้วยครอบครัวของเขาได้เดินทางออกจากกรุงไคโรแล้ว ทว่าแหล่งข่าวปฏิเสธไม่เปิดเผยว่า พวกเขาได้เดินทางออกนอกประเทศหรือไม่

    Around the World - Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โลกชื่นชม'มูบารัค'ยอมถอย/ธ.สวิสสั่งอายัดหวั่นยักย้ายทรัพย์สิน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2554 03:29 น.


    [​IMG]





    เอเอฟพี - ผู้ประท้วงชาวอียิปต์ขอปักหลักค้างคืน ณ จตุรัสตอห์รีร์ ก่อนสลายตัวตอนรุ่งเช้า ฉลองการลาออกจากตำแหน่งของประธานาธิบดีมูบารัคเมื่อวันศุกร์(11) ขณะที่นานาชาติออกมาสรรเสริญผู้นำรายนี้ที่ยอมละทิ้งอำนาจ พร้อมเรียกร้องกระบวนการเปลี่ยนถ่ายที่นุ่มนวลและกลับคืนสู่เส้นทางแห่งประชาธิปไตย

    "ในที่สุด เราก็ได้กลับบ้านเสียที" โมฮัมหมัด อิบราฮิม วัย 38 หนึ่งในแกนนำผู้ชุมนุมกล่าวทั้งน้ำตา "เราอยู่ที่นี่เพื่อรอให้เขาลาออกมา 18 วัน และเราทำสำเร็จ"

    ผู้ชุมนุมนับล้านที่มารวมตัวกัน ณ จตุรัสตอห์รีร์ ไม่มีองค์กรจัดตั้งกลางคอยบัญชา แต่หลายคนบอกกับเอเอฟพีว่าพวกเขาจะค้างคืนที่จตุรัสแห่งนี้เพื่อฉลองชัยชนะ ก่อนเก็บข้าวของและมุ่งหน้ากลับบ้านในวันรุ่งขึ้น


    [​IMG]


    เมื่อค่ำวันศุกร์(11) โอมาร์ ซุไลมาน รองประธานาธิบดี แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ว่าประธานาธิบดีมูบารัค ยอมสละเก้าอี้ที่ยึดครองมายาวนานกว่า 3 ทศวรรษและส่งมอบอำนาจแก่คณะผู้บัญชาการทหารระดับสูง คำแถลงที่สร้างความปิติยินดีแก่ผู้ชุมนุมที่รวมตัวกันบนท้องถนนในกรุงไคโรและเมืองต่างๆทั่วประเทศ

    ทั้งนี้การสละอำนาจของ มูบารัค ยังสร้างความปลอดโปร่งโล่งใจแก่นานานาชาติ โดยทาง โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยกย่องว่านี่คือวันประวัติศาสตร์ของประชาชนชาวอียิปต์ และบอกว่า มูบารัค ควรเป็นผู้นำในการเจรจาเบิกทางไปสู่ประชาธิปไตย ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงท่าทีในเวลาต่อมาว่าประชาชนชาวอียิปต์ได้ส่งเสียงของพวกเขาและไม่มีอะไรหยั่งลึกเท่าประชาธิปไตยที่แท้จริง พร้อมเรียกร้องกองทัพสร้างความเชื่อมั่นต่อการเปลี่ยนผ่านประชาธิปไตยที่น่าเชื่อถือ

    ด้าน บันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่าเสียงของประชาชนชาวอียิปต์ได้รับการขานรับแล้ว พร้อมเรียกร้องทางกองทัพจัดการเลือกตั้งที่เป็นอิสระและยุติธรรมเพื่อคืนสู่การปกครองโดยพลเรือน ตามหลังการปลีกตัวของมูบารัค

    ส่วน นิโกลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ยกย่องการตัดสินใจที่กล้าหาญและหลีกเลี่ยงไม่ได้ของมูบารัค และเรียกร้องขอให้มีการเลือกตั้งอย่างเที่ยงตรง เช่นเดียวกับ เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่หวังเห็นอียิปต์มุ่งหน้าสู่การปกครองโดยพลเรือนโดยเร็ว และชี้ว่าการลาออกของ มูบารัค เป็นเพียงย่างก้าวแรกของสังคมอิสระและประชาธิปไตยเท่านั้น

    นางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยกย่องการสละอำนาจของมูบารัคว่า "การเปลี่ยนแแปลงครั้งประวัติศาสตร์" แต่เรียกร้องให้ผู้นำคนใหม่เคารพสนธิสัญญาสันติภาพอิสราเอลปี 1979


    [​IMG]


    รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกี ออกมาแสดงความยินดีกับประชาชนชาวอียิปต์ และหวังเห็นระบบใหม่ปรากฎขึ้นมาตามหลังการปลีกตัวของมูบารัค ขณะที่อิสราเอล หวังว่าการเปลี่ยนถ่ายอำนาจในอียิปต์ จะดำเนินไปอย่างราบรื่นและนุ่มนวล

    มีเพียง รัสเซีย ที่แสดงท่าทีต่อเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง โดย เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ แถลงว่า "เราหวังว่าเหตุการณ์ล่าสุดที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยฟื้นฟูเสถียรภาพและเป็นเครื่องรับประกันว่าโครงสร้างอำนาจต่างๆจะกลับมาทำงานตามปกติ"

    ขณะเดียวกันสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าทางรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ สั่งอายัดทรัพย์สินของประธานาธิบดีมูบารัคและคนใกล้ชิดเมื่อวันศุกร์(11) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากผู้นำรายนี้แถลงลาออกจากตำแหน่ง โดยพวกเขาระบุว่าคำสั่งดังกล่าวมีเป้าหมายป้องกันการยักย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินที่เป็นของรัฐอียิปต์

    Around the World - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “กองพันทหารช่าง” ลุยรื้อซากบ้านเหยื่อปืนใหญ่ “เขมร” - ผู้ว่าฯสั่งระดมรถส่งกลับผู้อพยพ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 กุมภาพันธ์ 2554 20:04 น.





    ศรีสะเกษ - กองพันทหารช่างที่ 6 ทภ.2 ลุยรื้อซากบ้านชาวบ้าน “ภูมิซรอล” ชายแดน“เขาพระวิหาร” เหยื่อกระสุนปืนใหญ่เขมรพังยับทั้งหลัง เพื่อเตรียมสร้างบ้านหลังใหม่เป็นแบบบ้านพระราชทาน สรุปพังสูญยับ 7 หลัง เสียหายบางส่วน 35 หลัง ขณะชาวบ้านดีใจได้รับความช่วยเหลือสร้างบ้านหลังใหม่ ทางด้านผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ เตรียมจัดรถยนต์ทุกหน่วยงานส่งปชช.ผู้อพยพยกลับคืนสู่บ้านเรือน พรุ่งนี้ (12 ก.พ.)

    วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.50 น.ที่บ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) และคณะนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางไปตรวจการรื้อซากบ้านเรือนของชาวบ้านภูมิซรอล ที่ถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายทหารกัมพูชาได้รับความเสียหายไฟไหม้ทั้งหลัง

    โดยกองพันทหารช่างที่ 6 กองทัพภาคที่ 2 ได้ใช้รถแบ็กโฮทำการขุดรื้อซากบ้านหลังเก่าออกไป เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ ซึ่งบ้านที่จะสร้างใหม่นี้เป็นแบบบ้านพระราชทาน ออกแบบโดยสำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดศรีสะเกษ จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 2 ได้ไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนภูมิซรอลวิทยา และฐานปฏิบัติการทหารตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รอบเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

    พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเนื่องจากถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาและไฟไหม้เสียหายทั้งหลังมีจำนวนทั้งสิ้น 7 หลัง และมีบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายบางส่วนจำนวน 35 หลัง ซึ่งรัฐบาลจะให้เงินสนับสนุนในการก่อสร้างบ้านใหม่และซ่อมแซมบ้านเรือนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายเพื่อให้ชาวบ้านสามารถเข้าไปอยู่อาศัยได้ตามปกติโดยด่วน

    ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ตนได้หารือร่วมกับ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เห็นว่า มีความปลอดภัย ดังนั้น จึงจะให้ชาวบ้านอพยพกลับเข้าไปบ้านเรือนของตนเองได้ โดยทหารพร้อมที่จะรักษาความปลอดภัยและรักษาอธิปไตยของชาติไทยอย่างเต็มที่ และในเมื่อเหตุการณ์ปกติแล้วชาวบ้านก็จะต้องกลับเข้าไปอยู่บ้านเรือนของตนเองตามปกติต่อไป

    นายโสรัจ สายบัว โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า บ้านที่จะสร้างให้กับชาวบ้านภูมิซรอลที่ถูกไฟไหม้ทั้งหลังจำนวน 7 หลังนี้ จะเป็นบ้านแบบ 2 ชั้น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ พื้นที่ใช้สอย 60 ตร.ม.ห้องใหญ่จะมีความกว้าง 3.50 X 3 ม.ห้องเล็กกว้าง 3.50 X 2.50 ม.ข้างบน 2 ห้องมีระเบียง ชั้นล่าง มี 1 ห้อง เป็นห้องโถง สามารถต่อเติมได้ โดยวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างส่วนมากแล้วเป็นวัสดุสำเร็จรูป หลังคาโครงเหล็ก งบประมาณค่าวัสดุในการก่อสร้าง จำนวน 200,000 บาท ส่วนแรงงานในการก่อสร้าง ได้รับความร่วมมือจากวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ วิทยาลัยเกษตร และเทคโนโลยีศรีสะเกษและวิทยาลัยการอาชีพกันทรลักษ์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างแล้วเสร็จ 35 วัน ก่อนมอบบ้านให้กับประชาชนต่อไป

    นางวันดี แก้วสง่า อายุ 35 ปี ชาวบ้านภูมิซรอล ที่ถูกกระสุนปืนใหญ่และไฟไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วนมาช่วยในการสร้างบ้านให้ในครั้งนี้ เนื่องจากขณะนี้ตนไม่มีทรัพย์สินของมีค่าติดตัวเหลืออยู่เลย เพราะโดนไฟไหม้ไปกับบ้านเรือนหมดแล้ว แม้บ้านที่ทางราชการสร้างให้ใหม่จะไม่เหมือนบ้านเดิมของตนที่สร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง แต่ยังโชคดีที่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากรัฐบาลและทุกส่วนในครั้งนี้ ซึ่งรู้สึกดีใจมากที่ได้รับความช่วยเหลือและจะไม่ลืมพระคุณของทุกส่วนที่เกี่ยวข้องตลอดไป

    ทางด้าน นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ทุกส่วนราชการระดมรถยนต์ทุกชนิดเพื่อมาให้การช่วยเหลือในการส่งพี่น้องประชาชนจากศูนย์อพยพชั่วคราวทุกแห่งกลับคืนสู่บ้านเรือนของตัวเองทุกหมู่บ้านที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะให้ประชาชนกลับบ้านได้ตั้งแต่วันที่ 12 ก.พ.เป็นต้นไป หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทุกหมู่บ้านได้เฝ้ารักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยให้กับหมู่บ้านของตนเองตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    Local - Manager Online -
    </TR></TBODY>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2011
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2554 01:00กาแฟดำ
    วาดภาพ 'อองซาน ซูจี' ใช้ Twitter,Facebook และเปิดช่องทีวี YouTube
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    รัฐบาลทหารพม่าคงต้องรับรู้และเปิดทางให้เธอสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจากบ้านเธอที่ทะเลสาบ "อินยา" ได้ เพราะบริการไซเบอร์ที่ได้นั้นมาจากบริษัทโทรคมนาคมของรัฐ ที่ชื่อ Yatanaporn Teleport

    โฆษกพรรค NLD ของเธอ คือ คุณเนียนวิน บอกว่าเดิมอองซาน ซูจี ขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตผ่านบริษัทเอกชนที่ย่างกุ้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งก็คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก

    แต่พอเธอขอผ่านบริษัทโทรคมนาคมของรัฐแล้วได้ไฟเขียว (จ่ายค่าบริการ 120,000 จ๊าด หรือประมาณ 3,600 บาท) ก็พอจะสันนิษฐานได้ว่า นายพลตันฉ่วย รับรู้และยอมรับว่าไม่สามารถจะห้ามเธอ ติดต่อกับโลกภายนอกผ่านโลกไซเบอร์อีกต่อไป

    แน่นอนว่า คนใกล้ชิดก็เตือนเธอว่าอย่าได้ไว้วางใจเป็นอันขาด ว่าโลกอินเทอร์เน็ตของเธอจะปลอดจากการตรวจสอบและแทรกแซงของทางการ

    อองซาน ซูจี ตอบผู้หวังดีว่ารับรู้อยู่แล้ว ว่าผู้มีอำนาจจะต้องเกาะติดการใช้อินเทอร์เน็ตของเธอ
    แต่เธอไม่สนใจ ไม่กลัว และไม่ถอย

    อองซาน ซูจี บอกว่าเธอจะไม่ทำอะไรเป็นความลับ เพราะเธอไม่มีอะไรจะปกปิดจากรัฐบาลพม่า

    เป็นแนวทางโปร่งใสจะแจ้งที่ใช้ต่อสู้กับเผด็จการทหารที่ดีที่สุด

    (ผมจำได้ว่าเคยถูกนายทหารปฏิวัติเรียกเข้าพบในฐานะสื่อมวลชน ขอ "ทำความเข้าใจ" เมื่อผมบอกว่าไปพบได้ แต่ผมต้องสามารถออกมาบอกกับสาธารณชน ว่าพูดจาอะไรกันบ้างในค่ายทหารทุกถ้อยประโยค พวกเขาก็เลิกความคิดที่จะขอ "ทำความเข้าใจส่วนตัว" ไปเลย)

    ทนายความส่วนตัวของเธอบอกว่า อองซาน ซูจี เรียนรู้วิธีใช้คอมพิวเตอร์ได้อย่างรวดเร็ว และวันนี้ เธอสามารถใช้มันได้ค่อนข้างคล่องแคล่วแล้ว

    เธอรู้ด้วยว่ารัฐบาลพม่าสั่งบล็อกเว็บไซต์มากมายหลายแห่ง แต่คนใกล้ชิดก็สอนให้เธอข้ามพ้นกำแพงไซเบอร์นั้น ด้วยการใช้เว็บไซต์ทดแทนได้

    หากจำได้ ระหว่างที่เธอถูกจองจำ อองซาน ซูจี เคยบอกคนใกล้ชิดว่าอยากจะใช้ social media เช่น ทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ค เพื่อสื่อสารกับคนพม่ารุ่นใหม่และประชาชนทั่วโลก

    ตั้งแต่ออกจากการถูกกักบริเวณ เธอก็ได้บอกกับพวกพ้องในแวดวงเดียวกันให้ติดต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต

    ข้อจำกัดสำคัญสำหรับเธอ คือ ระบบไฟฟ้าก็ยังมีปัญหา และโครงสร้างพื้นฐานก็อ่อนแอ ดังนั้น สำหรับเธอ อินเทอร์เน็ตอาจจะหยุดๆ ติดๆ ทั้งด้วยเหตุผลทางเทคนิค และเหตุผลทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    แต่ผมไม่แปลกใจที่อองซาน ซูจี เคยบอกกับผู้นำชนกลุ่มน้อยตรงชายแดนว่าควรจะปรึกษาหารือกันผ่านอินเทอร์เน็ต ทั้งๆ ที่หลายจุดบริเวณป่าเขาของนักต่อสู้ของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้ ยังไม่มีโทรศัพท์และไฟฟ้าใช้ด้วยซ้ำไป

    ถ้าทางการพม่าจะกลั่นแกล้งด้วยการใช้กฎหมายว่าด้วยอิเล็กทรอนิกส์จับเธอเข้าคุกอีกครั้งอย่างที่เคยทำกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตยคนอื่น (หนึ่งในนั้น คือ "ซาร์กานาร์" นักแสดงตลก) จะว่าอย่างไร

    คนใกล้ชิดเธอบอกว่าอองซาน ซูจี มีที่ปรึกษาด้านกฎหมายและเทคโนโลยี ที่คอยแนะนำเธอว่าควรจะทำอย่างไรกับการเล่นอินเทอร์เน็ตของเธอ

    ผมมองเห็นโอกาสที่อองซาน ซูจี จะเปิดหน้าตัวเองใน Facebook ซึ่งอาจสามารถสร้างแฟนคลับได้เป็นแสนเป็นล้าน
    ผมเห็นภาพเธอเล่น Twitter เพื่อสื่อสารกับคนทั้งโลกให้ได้รับรู้แนวคิดของเธออย่างนิ่มนวลแต่มั่นคง

    ผมจะเสนอเธอให้เปิด Aung San Suu Kyi’s Channel ใน YouTube ซึ่งเสมือนหนึ่งสามารถเปิดทีวีขึ้นมาหนึ่งช่องที่เป็นของเธอเอง โดยที่ผู้คนทั้งโลกสามารถรับชม และแสดงความเห็นร่วมได้อย่างคึกคัก

    ต่อให้เผด็จการทหารพม่าจะสกัดด้วยปืนผาหน้าไม้หนักหน่วงแค่ไหน ก็ไม่มีทางยับยั้งการสร้างชุมชนเพื่อประชาธิปไตยผ่าน social media ได้เป็นอันขาด

    เชื่อหัวไอ้เรืองเถอะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...