เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
    กาแฟดำ
    โฉมหน้าของ เหยื่อสงคราม

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The Nation เมื่อวาน ทำให้ผมต้องนั่งนิ่งไตร่ตรอง ถึงความเลวร้ายของความขัดแย้งระหว่างประเทศ ที่นำไปสู่การปะทะกัน
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> หน้าของเด็กๆ ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไทยหรือกัมพูชา บอกให้เรารู้ว่านี่คือ ชะตากรรมที่พวกเขาไม่ได้มีส่วนก่อ ไม่สมควรจะต้องรับรู้ และเกิดคำถามว่า “ทำไมต้องเป็นพวกหนู?”
    ตัวเลขไม่เป็นทางการบอกว่า เด็กที่เป็นเหยื่อของการสู้รบที่ชายแดนมีสูงถึง 4,500 คน คิดเป็น 30% หรือหนึ่งในสามของผู้รับผลพวงทางลบของเหตุปะทะครั้งนี้
    ส่วนคนชราที่ถูกผลกระทบทำนองเดียวกันมี 40% ขณะที่หนุ่มสาวตกราว 30%
    ใครที่ติดตามข่าวสารดูภาพจากหนังสือพิมพ์และคลิปวีดิโอจากสื่อทีวีและออนไลน์ จะสังเกตเห็นว่าหมู่บ้านบริเวณชายแดนส่วนใหญ่นั้น มีแต่เด็กและคนแก่ ส่วนคนหนุ่มคนสาว คนวัยทำงานมักจะทิ้งบ้านช่องไปเพื่อทำงานในเมือง
    ยิ่งทำให้เห็นถึงภาวะที่น่าเป็นห่วงของชุมชนคนไทยที่ไกลปืนเที่ยง แต่ทุกครั้งที่เกิดความบาดหมางระหว่างรัฐบาลอันมีสาเหตุจากการเมืองและความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ระหว่างรัฐ เหยื่อหลักๆ จะคือ เด็กและคนชรา ที่ไม่มีทางปกป้องตนเองแต่อย่างใดเลย
    ดังนั้นไม่เพียงแต่ UNESCO เท่านั้นที่จะต้องเข้ามาเพื่อดูแลว่า กัมพูชาไม่ควรจะใช้เขาพระวิหารซึ่งเป็น “มรดกโลก” เป็น “ฐานปฏิบัติการทางทหาร” ซึ่งนำไปสู่การปะทะกันจนเสียหาย แต่องค์การ UNICEF ซึ่งรับผิดชอบเรื่องเด็กและเยาวชนจะต้องเข้ามาปกป้องสิทธิและสวัสดิการของเด็กๆ ตรงชายแดนทั้งสองฝั่งที่ตกอยู่ในสภาพที่น่าสงสาร ไร้ความหวัง และกลายเป็นเหยื่อของสงครามที่ตนไม่ได้ก่อ
    คณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ หรือ UN Security Council (UNSC) จะได้รับความเห็นชอบของคู่กรณีในการไกล่เกลี่ยเรื่องปะทะกันหรือไม่ แต่องค์กรของสหประชาชาติอย่าง UNESCO และ UNICEF ต้องแสดงความห่วงใยและเข้ามาปกป้องสิ่งที่เป็น “สมบัติร่วมของโลก” อย่างฉับพลันทันกาลแล้ว

     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 00:34
    การเมือง : บทวิเคราะห์
    เขมร -ไทย สำนึกบาดหมางซ่อนลึก ต้องแก้ไขปมประวัติศาสตร์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    การรบที่เขาพระวิหาร วิเคราะห์ว่า เกิดจากนายพลโท ลูกชาย"ฮุนเซน"อยากแสดงให้ทหารเขมรยอมรับ อีกแง่หนึ่งที่ฝังลึกคือสำนึกประวัติศาสตร์บาดหมาง
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ วานนี้(8 ก.พ.) เวทีสัมมนาวิชาการอุษาคเนย์ ครั้งที่ 8 ประจำปี 2554 หัวข้อ “สยาม-ขะแมร์ คู่รัก คู่ชัง คู่กรรม คู่เวร” ซึ่งการอภิปรายย่อย หัวข้อ “ชำแหละประวัติศาสตร์ แบบเรียน สื่อ และวาทกรรม สยาม-ขะแมร์ สู่มิตรและศัตรู” มีผู้ร่วมอภิปราย เช่น ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ดร.ศานติ ภักดีคำ นักวิชาการภาษาเขมรและภาษาตะวันออก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ผศ.ดร.ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์ อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรม มหาวิทยาลัยรังสิต
    ศ.ดร.นิธิ เปิดเรื่องประเทศไทยกับความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกับกัมพูชาจะมีความรู้สึกไม่ค่อยดีมากกว่าเพื่อนบ้านอื่น ๆ สาเหตุมาจากสำนึกทางประวัติศาสตร์ ซึ่งประวัติศาสตร์ไทยถูกเขียนอย่างจริงจัง ในต้นรัตนโกสินทร์นี่เอง ขณะที่กัมพูชาเองก็เปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว เดิมนั้นกัมพูชาถือเป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม แม้แต่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างก็ถือว่าอยู่ในอิทธิพลด้วย
    น่าคิดก็คือ ในรัชกาลที่ 4 เคยมีพระราชสาส์นถึงฝรั่งว่า สยามมีอารยะ ส่วนกัมพูชายังเป็นกึ่งอารยะ สยามปกครองกัมพูชาก็เพื่อนำความอารยะไปให้ นี่เป็นวาทกรรมเดียวกับที่ เซอร์จอห์น คลิปลิ่ง?? ของอังกฤษพูดถึงอาณานิคมตัวเองเช่นกัน การสร้างวาทกรรมเพื่ออ้างความชอบธรรมไปปกครอง เช่น แปรพักตร์ หมายถึง หักหลังคบไม่ได้ และมีความรู้สึกต่อกัมพูชาว่า เป็นสะพานเชื่อมอำนาจปรปักษ์มาหาไทย คือต้องคุมกัมพุชาไว้ ขณะที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับมลายู
    หรือรู้สึกอีกลักษณะ ลองอ่าน “ถกเขมร” ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จะมีน้ำเสียงด้านหนึ่งผูกพัน แต่อีกด้านดูตลกขบขัน เช่น ไปแปลงชื่อของเจ้าหญิงกัมพูชาว่า มะเขือเทศ (ที่จริงแปลว่า เพ็ญพักตร์-ผู้เขียน)
    ศ.ดร.นิธิ ได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์กัมพูชาด้วยว่า ไม่ได้รวบรวมเรื่องราวในอดีตจากความทรงจำของประชาชน แต่มาจากพงศาวดารกัมพูชาเดิม และยังอิงประวัติศาสตร์รัตนโกสินทร์ด้วย ที่สำคัญเอาของนักวิชาการฝรั่งเศสที่ศึกไว้จบลงแค่อาณาจักรพระนคร ซึ่งแกนเรื่องก็เหมือนเดิม เคยเป็นอาณาจักรแข็งแกร่ง มีอำนาจยิ่งใหญ่ แต่ถูกสยาม กับญวนรุกราน มีแต่การเมือง กับการสงคราม ไม่พบความสัมพันธ์ด้านการค้า การอพยพ ความเป็นเครือญาติ เลย เปรียบกับประวัติศาสตร์ไทยที่เกี่ยวกับโปรตุเกสจะมีหลายมิติมากกว่า ดังนั้นต้องเปลี่ยนสำนึกทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองประเทศ โดยเปลี่ยนเนื้อหาใหม่ทางประวัติศาสตร์
    "เป็นเพราะพัฒนาความเป็นชาติยังไม่สมบูรณ์ของทั้งสองประเทศ เพราะเป็นสำนึกที่มาจากชนชั้นสูงเหมือนกัน กำหนดสำนึกความเป็นชาติ ความรักชาติ แต่ไม่มาพร้อมกับความเสมอภาค ไม่เกิดสำนึกการเมืองแบบตลาด หมายถึงมีกลุ่มผลประโยชน์ต่อรองกัน"
    อาจารย์นิธิ กล่าวอีกว่า ส่วนสำนึกความเป็นชาติกัมพูชา ดูจะหลากหลายกว่า ไม่จำกัดเพียงชนชั้นสูงเท่านั้น ยังมีพระภิกษุ อีกทั้งฝรั่งเศสพยายามให้การศึกษาหลุดออกมาจากศาสนา โดยตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นมา แต่กัมพูชาก็ไม่สามารถสร้างสำนึกผ่านการศึกษาได้ ต่อมา เกิดการปฏิวัติ แต่ก็กลายเป็นเผด็จการไป ชาตินิยมกัมพูชาจะเป็นแบบสมเด็จเจ้าสีหนุ อีกช่วงก็เป็นแบบเขมรแดง ซึ่งก็เป็นปัญหา
    "รัฐชาติที่ไม่มีประชาชนเป็นศูนย์กลางจึงต้องสังเวยให้กับเผด็จการ เป็นเครื่องมือของคนกลุ่มน้อยปลุกเร้าชาตินิยมความขัดแย้งในประเทศ ซึ่งไทยและเขมรจะมีเรื่องนี้ทุกครั้ง” อาจารย์นิธิ กล่าวในที่สุด
    "ฮุน เซน" หวังดึงมหาอำนาจมาพัฒนาภาคเหนือของเขมร
    ผศ.ธำรงศักดิ์ หยอดวาทะอำ ว่า “เกิดวาทะที่กรุงเทพ กรรมตกที่ชาวบ้านทุกที” ความขัดแย้งเรื่องพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหาร พรรคการเมืองหนึ่งสมัยเป็นฝ่ายค้านก็ยกมาเป็นเครื่องมือถล่มรัฐบาล เมื่อเขาบรรลุผลทางการเมืองก็ทำลืม อีกคนเคยขึ้นเวทีปราศรัยด่านายกกัมพูชาเสียหาย แต่เมื่อตัวเองบรรลุผลทางการเมืองแล้ว ก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ เวลาเข้าไปหาแทบจะ... และภาคประชาสังคมที่ชุมนุมสร้างวาทกรรมอยู่นี่ ถ้าบรรลุวัตถุประสงค์ ก็คงจะลืม
    อาจารย์ธำรงศักดิ์ กล่าวด้วยว่า มีการสร้างวาทกรรมเสียดินแดน มาตั้งแต่สมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม วาทกรรมเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร วาทกรรมเอ็มโอยู 43 ซึ่งไม่รู้แกล้งโง่ หรือโง่จริงๆ เอ็มโอยูหรือบันทึกความเข้าใจที่เคยทำกันมานานแล้วกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งจีน อินเดีย จะทำให้เสียดินแดนได้อย่างไร
    ส่วนวาทกรรมของกัมพูชา จะยกย่องพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ แผ่อิทธิพลครอบครองดินแดนยิ่งใหญ่ไพศาล ก็เพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองเช่นกัน
    เขายังพูดติดตลกด้วยว่า “ผมยังแปลกใจ ช่วงหนึ่งมีชาวกัมพูชาเดินขบวนในพนมเปญเรียกร้องจะเอาจังหวัดสุรินทร์ของผม ทำไมไม่คิดเอาบุรีรัมย์ของ...บ้างล่ะ 3 จังหวัดสุรินทร์ ศีรสะเกษ บุรีรัมย์ มีคนพูดภาษาเขมรร่วม 4 ล้านคนเชียวนะ ถ้าใครขืนทำอะไร เดี๋ยวเรียกร้องแยกดินแดนได้นะ”
    ส่วนวาทกรรมปราสาทพระวิหาร ก็คือ เป็นเทวสถานของบรรพกษัตริย์กัมพูชา เป็นสัญลักษณ์เอกราช แต่ถูกยึดครองจากเพื่อนบ้าน นี่เขายังไม่บรรลุที่จะแสดงความเป็นเจ้าของเอกราช แต่ที่ผ่านมากัมพูชาก็ถนัดจะดึงเอามหาอำนาจเขามาเพื่อบรรลุจุดประสงค์ตัวเอง ยิงกันที่เขาพระวิหารก็จะดึงชาติมหาอำนาจเข้ามาช่วยพัฒนาภาคเหนือของกัมพูชานั่นเอง
    ปมขัดแย้งลึกสุด "สำนึกประวัติศาสตร์บาดหมาง"
    ดร.ศานติ อภิปรายเริ่มจากคำเรียก เสียม เซียม หรือภาษาถิ่นบางที่เรียก ซีม พบชัดเจนที่จารึกนครวัด ซึ่งในอดีตใช้เรียกทั้งคน และประเทศ แต่ปัจจุบันมีนัยทางลบ ส่วนคำว่า ไถ(ไท) ก็เรียกตามที่เปลี่ยนชื่อประเทศ ส่วนเราเรียกเขมรมานานแล้ว ที่พบในงานพระนิพนธ์ของกรมพระยาดำรงเดชานุภาพ ในปี 2472 ก็มี ต่อมา เปลี่ยนสระเอ เป็น สระแอ จึงออกเสียงเป็น ขะแมร์
    นอกจากนี้ ต้องทำความเข้าใจต่อคำว่า ขะแมร์เลอ กับ ขะแมร์กรอม นี่เป็นวาทกรรมของเขมรถิ่นไทย สำหรับชาวกัมพูชา ขะแมร์เลอ จะหมายถึงพวกชาวเขา ขะแมร์กรอม หมายถึงดินแดนที่เคยเป็นของกัมพูชา ปัจจุบันคือโฮจิมินห์(ไพรนคร)
    ที่สำคัญ อาจารย์ศานติ ได้กล่าวถึงแบบเรียนประวัติศาสตร์กัมพูชา แบ่งเป็น ยุคสังคมราชานิยม ยุคสาธารณรัฐ(สมัยลอนนอล) สมัยสังคมนิยม(เขมรแดง) และสมัยราชอาณาจักรที่ 2(ปัจจุบัน) ในสมัยเขมรแดงได้เผาบันทึกเก่าๆ ตำรา จารึกใบลาน เกือบหมด แต่ปัจจุบันก็นำแบบเรียนสมัยสมเด็จเจ้าสีหนุกลับมาอีก เป็นชาตินิยมแบบตอกย้ำเชิงลบกับไทย
    ยกตัวอย่าง “เอกสารมหาบุรุษขแมร์” เรียบเรียงโดย เอง สต เป็นเอกชนที่สังเคราะห์ข้อมูลบางชุดมาเป็นแบบเรียน อีกคนคือ “ตรึง เงีย” ก็เขียนไว้ประมาณ 50 ปีแล้ว กระทรวงศึกษาธิการกัมพูชาก็นำมาพิมพ์ให้เรียนกันอีก ปลูกฝังชาตินิยมแบบเจ้าสีหนุ เช่นกัน กับ “พระราชวงศาวดารกัมพุชา ฉบับ วัง จวน” ที่เจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสร่วมเป็นคณะกรรมการจัดพิมพ์ แต่ก็ได้อิทธิพลจากพงศาวดารของไทย ระบุถึงคนไทยอพยพมาจากเทือกเขาอัลไต มีเรื่องไทยรบกับพม่า เป็นต้น ส่วนตำนานที่ชาวกัมพูชารู้จักกันดี คือ “พระแก้ว-พระโค” ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย ก็ตอกย้ำชาตินิยมแบบเก่า
    "เขมรยังมีอีกวาทกรรมหลายชุดที่สะท้อนว่าเขามองไทยอย่างไร และใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นปัญหาต่อความสัมพันธ์ทั้งสิ้น ปมการเมืองเมื่อจบแล้วก็จบ แต่ปมสำนึกประวัติศาสตร์จะฝังอยู่ลึกมาก" ดร.ศานติ กล่าวในที่สุด

     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : บทวิเคราะห์

    วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2554 18:46

    เปิดใจแม่ทัพภาค2กัมพูชายิงก่อน เหตุสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ทัน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่2

    เปิดใจพล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่2 ทยยึดกติกา4ข้อ แต่ผู้บัญชาการทหารของกัมพูชาสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ทัน
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดใจว่า ถึงภาพรวมสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเหตุการณ์ปะทะกันของกองทัพทหารไทย-กัมพูชาสงบลงว่า สถานการณ์ภาพรวมในตอนนี้อยู่ในเกณฑ์ดีมาก และจากการติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ทุกจนตามแนวชายแดนก็ไม่มีปัญหากำลังทหารสามารถรักษาอธิปไตยไว้ได้หมด
    อีกทั้งเรายังยึดกติกากับพล.ท.เจีย มอญ ผู้บัญชาการทหารภูมิภาคทหารที่ 4 และพล.ท.สรัย ดึก ผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ซึ่งเหตุการณ์การปะทะกันหลังจากที่ได้มีเจรจากันของทั้งสองฝ่ายเกิดจากการสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาไม่ทัน แต่หลังจากมีการพูดจากันแล้วทำให้สถานการณ์ในพื้นที่เรียบร้อยดี ทั้งนี้พยายามกำชับผู้ใต้บังคับบัญชาของกองทัพภาคที่ 2 ให้อยู่ในวินัยมากที่สุด
    "ผมยืนยันว่าการปะทะกันของทหารไทย-กัมพูชา ไมได้เกิดจากทหารไทยยิงก่อนแน่นอน เพราะเราไม่อยากสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นยืดเยื้อยาวนาน เพราะว่าประเทศไทย-กัมพูชา ก็ใกล้กันอยู่แล้ว ส่วนที่กัมพูชาประโคมข่าวอย่างต่อเนื่องว่าไทยเป็นฝ่ายรุกรานยิงทหารกัมพูชาก่อนั้น ผมยืนยันอีกครั้งด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย และผมก็ถามผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่มีการปฏิบัติการภารกิจในพื้นที่ ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่าไม่ได้มีกระสุนจากทหารไทยไปยังทหารกัมพูชาก่อน ทั้งนี้เมื่อทหารกัมพูชาลั่นไกก่อนทหารไทยก็จำเป็นจะต้องป้องกันตัวเองเท่านั้น ผมไม่ทราบว่าทำไมข้อตกลง 4 ข้อที่ได้ทำไว้กับทหารกัมพูชาล้มไป แต่กองทัพพยายามยืนยันมาตลอดว่า จะยังคงรักษากำลังทหารไว้ที่เดิม โดยจะไม่มีการเคลื่อนไหว นอกจากนี้จะต้องมีการประสานงานกันในระดับผู้บังคับหน่วย ซึ่งทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา แต่พอสภาพอากาศมันมืดค่ำไป อาจจะมีความเข้าใจผิดบางส่วน และมีกิจกรรมเข้ามายังทหารไทย จึงเกิดปัญหาขึ้น ขณะนี้ได้มีการประสานงานไปยังทุกระดับ เพื่อให้กำชับกำลังพลที่ชัดเจน"
    พล.ท.ธวัชชัย ไม่รับประกันว่าสถานการณ์ในพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะเกิดอุบัติเหตุยิงปะทะกันอีก เพราะการปะทะไม่ได้เกี่ยวกับทหารไทย ขึ้นอยู่กับฝั่งกัมพูชา ถ้าเริ่มเข้าใจว่าอันไหนอยู่ในเชิงบวกก็น่าจะดีขึ้น ทั้งนี้ยืนยันไม่ได้ว่าจะเกิดสถานการณ์อะไรเกิดขึ้น แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาจะต้องป้องกันตัวเองให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก แสดงความเป็นห่วง และกำชับให้กำลังพลอยู่ในระเบียบวินัย และเป็นไปตามข้อตกลงที่ได้พูดคุยกันไว้ และฝากความเป็นห่วงผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์รุนแรงขึ้นไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร รวมถึงไม่ทราบว่าพล.ท.ฮุน มา เน็ต รองผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บัญชาการรบในพื้นที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน เพียงแต่ได้รับทราบข่าวจากสื่อมวลชน
    พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า กองทัพไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารเข้าไป เพียงแต่จุดไหนคิดว่าอ่อนก็จะมีการปรับกำลังให้เหมาะสมเท่านั้น แต่ปัจจุบันคิดว่ากำลังพอเพียงในการดูแลสถานการณ์ อีกทั้งมั่นใจว่าการปฏิบัติการของกองทัพไม่มีช่องโหว่ แต่บางครั้งจะไปวางกำลังมากเกินไปก็จะเป็นอันตรายได้ ดังนั้นเราจะต้องเพียงจุดสำคัญที่จะต้องรักษาเอาไว้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ในพื้นที่ได้ทำรายงานไปยังผู้บังคับบัญชาหมดแล้ว ส่วนกรณีที่กัมพูชานำเหตุการณ์ปะทะกันของกำลังไทย-กัมพูชา ฟ้องร้องต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)นั้น เป็นเรื่องของรัฐบาล และ กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ดำเนินการ กองทัพเป็นเพียงกลไกในการปฏิบัติงานดูแลรักษาอธิปไตย
    "หลักการการแก้ไขปัญหาจะต้องคุยกันของสองประเทศจะง่ายกว่าที่จะให้มีประเทศที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะอาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นได้ ยืนยันว่าเราได้มีการวางกำลังทหารยังเข้มแข็งทุกจุด และมีกองหนุน โดยการใช้กำลังจะเป็นไปตามกติกา เพียงแต่ว่าเราไม่ได้ไปวางกำลังในเชิงรุก เราจะวางกำลังในเชิงการตั้งรับ เพราะเราไม่มีนโยบายตั้งแต่ระดับรัฐบาล รมว.กลาโหม และผบ.ทบ. ที่ไม่เคยคิดจะรุกรานใครอยู่แล้ว อีกทั้งการใช้อาวุธของกำลังพลก็มีข้อจำกัดที่ชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันตัวเอง"
    พล.ท.ธวัชชัย ยอมรับว่า มีการจำกัดปริมาณน้ำมันในการนำผ่านด่านชายแดนหลายจุด หลังจากที่ได้มีการเปิดด่านชายแดนในวันนี้ เพราะถือเป็นเรื่องปกติ แต่ในส่วนไหนที่มันดูว่าจะเป็นยุทธปัจจัยก็ขอให้ชะลอ แต่ก็ไม่ได้มีการสั่งปิด หรือห้ามแต่อย่างใด แต่เราไม่อยากให้เกิดผลกระทบข้างเคียง ทั้งนี้เราไม่ได้มีการจำกัดปริมาณน้ำมันในการเข้าออก เพียงแต่ให้หน่วยงานในพื้นที่ดูแลเอง โดยเฉพาะในส่วนของช่องอานม้า ก็ชะลอไปก่อน เพราะอาจจะนำมาเสริมในบริเวณดังกล่าวได้ แต่จริงๆเราไม่ได้จำกัด แต่การส่งออกไปอาจจะได้ทั้งสองอย่าง โดยเฉพาะประชาชน เราไม่อยากไปจำกัด เดี๋ยวจะหาว่าไปกลั่นแกล้งเอาได้
    แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า จุดยืนของกองทัพต่อการปฏิบัติหน้าที่ถือเป็นนโยบายหลักของกองทัพคือจะต้องรักษาอธิปไตย ของเราอย่างถึงที่สุด ทำงานในหน้าที่ดังกล่าวมาตั้งแต่ยศร้อยตรี และอยู่กัมพูชามาตั้งแต่ปี 2521 จึงทำให้มีความคุ้นเคยในพื้นที่ และยืนยันว่าไม่ต้องห่วงเรื่องเอกราช เพราะเราไม่สูญเสียอยู่แล้ว ทั้งนี้หากมีการปักปันเขตแดนก็จะต้องดำเนินการไปตลอดแนวไปเลย และเมื่อปักแล้วก็ควรจะทำให้ชัดเจน โดยเฉพาะหลักเขตแดนจะต้องอยู่ในระยะใกล้ๆ กัน ไม่ใช่ห่างถึง 5 กิโลเมตร เพราะมองไม่เห็นอยู่ดี บางทีอยู่ในป่า 50 เมตร ยังไม่เห็นเลย ส่วนเรื่องการปักปันเขตแดนจะต้องทำกันในระดับ เจบีซี และกรมแผ่นที่ทหารจะต้องมาดำเนินการกับกระทรวงการต่างประเทศ
    "ผมว่าการดำเนินการในเรื่องนี้คงเกิดขึ้นอีกนาน เพราะไม่รู้ว่าจะนับหนึ่งกันอย่างไร แผนที่ก็ถือกันคนละฉบับ ทั้งนี้ทางออกในการแก้ไขปัญหาขัดแย้งไทย-กัมพูชา ก็เร่งดำเนินการโดยผ่านทางรูปเจบีซี แต่ไม่รู้ว่าข้อตกลงจะเป็นอย่างไร เพราะรายละเอียดจะมีมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับภาพเหตุการณ์ที่กัมพูชานำมาเผยแพร่ว่าทหารไทยยิงปราสาทเขาพระวิหารจนได้รับความเสียหายนั้น ถ้ากัมพูชามีการยิงมาจากทางปราสาทเขาพระวิหาร เราก็จำเป็นจะต้องยิงสวนไปเพื่อให้เกืดความสงบ ไม่อย่างนั้นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานอยู่ข้างหน้าก็เจ็บ-ตาย เยอะ เราจึงต้องยิงสวนขึ้นไปเพื่อเป็นการเตือน หากไม่หยุดก็จะต้องปฏิบัติการ แต่ถ้าเราไม่ได้ยิงมาจากทางปราสาทเขาพระวิหารเราก็ไม่ได้ยิงเลย เพราะเราเข้าใจว่าปราสาทเขาพระวิหารอยู่เป็นพันปีควรรักษาเอาไว้ ถ้ายิงมาจากทางนั้นเราก็จำเป็นจะต้องรักษาชีวิตลูกน้อง ผู้ใต้บังคับบัญชาของเรา"
    พล.ท.ธวัชชัย กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงพร้อมที่จะปกป้อง และลูกน้องกับตนเป็นเนื้อเดียวกัน อยู่ด้วยกันมานาน จึงรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนพลทหารที่ผลัดลงไปในพื้นที่ขณะนี้ก็ได้กลับสู่มาตุภูมิกันแล้ว ทั้งนี้การส่งทหารคนดังกล่าวคืนให้กับกองทัพ ถือเป็นข้อตกลงร่วมกัน อย่างไรก็ตาม ต้องขอชืนชมทหารกัมพูชาที่ปฏิบัติตามกฎกติกา ที่ไม่ได้ทำอะไรพลทหารคนดังกล่าว ถือเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญกองทัพกัมพูชา ส่วนทหารชุดประสานงาน 5 คน ยังคงปฏิบัติงานร่วมกันกับทหารกัมพูชาตามปกติ โดยทุกนายจะต้องมีการปลดอาวุธ หากเกิดข้อสงสัยอะไรต่างฝ่ายต่างก็สามารถตรวจสอบได้เพื่อความเป็นเสมอภาค
    ทั้งนี้อยากให้ประชาชนทั้งในพื้นที่จ.ศรีสะเกษ และ ประชาชนคนไทย ทั้งประเทศมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าทหารทุกนาย พร้อมที่จะปกป้องประเทศชาติ และจะไม่ยอมให้เสียดินแดนแม้แต่นิดเดียว เรื่องประวัติศาสตร์จะเอามาพูดคุยกันคงไม่จบ ดีไม่ดีจะต้องรบกันทั้งโลก ดังนั้นเราจะต้องมีการพูดคุยกันปัจจุบันและอนาคต ว่าจะอยู่อย่างไรให้ลูกหลานเกิดมาแล้วมีความสุขเสรีภาพ ใจจริงอยากจะให้สถานการณ์จบในวันนี้ แต่เวลานี้อยู่ที่ทางกัมพูชาว่าจะแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างไร


    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>

    ทหารขมรยอมรับตายเยอะกว่าที่รบ.แถลง*
    โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 9 กุมภาพันธ์ 2554 22:22 น.

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานจากปราสาทพระวิหารเมื่อวานนี้(9) โดยอ้างทหารกัมพูชา 3 คนให้สัมภาษณ์ระบุว่า จำนวนผู้เสียชีวิตของฝ่ายกัมพูชาจากการปะทะกับฝ่ายไทยนั้น น่าจะสูงกว่าที่รัฐบาลเขมรระบุเอาไว้มาก ทหารเหล่านี้เปิดเผยโดยขอไม่ให้ระบุชื่อ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ที่จะให้ข่าว

    “จำนวนคนตายและคนเจ็บมีมากกว่านั้นเยอะ ถ้าประชาชนได้รับรู้ก็จะต้องตื่นตระหนกทีเดียว” 1 ในทหารกัมพูชาเหล่านี้กล่าว พร้อมกับบอกต่อไปว่า รองผู้บังคับบัญชาของเขาก็ถูกสังหารในระหว่างเกิดการปะทะกันในวันอาทิตย์(6) เมื่อกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายไทยนัดหนึ่งตกลงมาในบริเวณใกล้ๆ กับหน่วยทหารของเขา

    อย่างไรก็ตาม คำพูดของทหารกัมพูชาเหล่านี้ ยังไม่สามารถหาคำยืนยันรับรองจากรัฐบาลกัมพูชาได้

    Daily News - Manager Online -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2011
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นักวิชาการ ชี้ เขมรกำลังโหยเม็ดเงินต่างชาติ-ใช้การลงทุนสร้างศักยภาพในเวทีโลก
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 08:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    นักวิชาการ ชี้ เขมรกำลังโหยเม็ดเงินต่างชาติ เปิดทางมหาอำนาจเข้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านพลังงาน โทรคมนาคม และท่องเที่ยว ด้านผู้บริหาร "เซ็นทรัล" มองเป็นตลาดขนาดเล็ก ปชช.ไร้กำลังซื้อ-ไม่น่าสนใจ แต่ห่วงสถานการณ์ภายในประเทศมากกว่า

    รศ.พิภพ อุดร นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึงการลงทุนในประเทศกัมพูชาในเวลานี้ โดยมองว่า กัมพูชากำลังมีความต้องการเม็ดเงินเข้ามาพัฒนาประเทศจำนวนมาก ทำให้มีศักยภาพการลงทุนในหลายด้าน หลังเปิดโอกาสให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านพลังงาน โทรคมนาคม และท่องเที่ยว

    ขณะที่ นายสุทธิธรรม จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล ยอมรับว่า ให้ความสนใจกับการลงทุนในประเทศนี้ไม่มากนัก เนื่องจากตลาดมีขนาดเล็ก เมื่อเทียบกับสมาชิกอาเซียนอื่นๆ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ หรือ จีน ที่บริษัทเข้าไปลงทุนแล้ว ขณะเดียวกัน รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์การเมืองในประเทศเวลานี้มากกว่า

    Business - Manager Online -
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้สูงอายุมะกันเริ่มแชร์บ้านให้คนแปลกหน้าเพื่อหารายได้
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 06:46 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจาก directnews.co.uk

    เทรนด์ใหม่ผู้สูงอายุในสหรัฐอเมริกา ต้องแชร์บ้านร่วมกับคนแปลกหน้าเพื่อหารายได้ยังชีพ เหตุค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ขณะที่รายรับยังคงเท่าเดิม

    ต้นเหตุอาจมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ทำให้หลายคนต้องหาทางออกให้กับชีวิตในรูปแบบที่แปลกมากขึ้น หญิงม่ายสูงอายุหลายรายที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังในบ้านส่วนตัว และรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว เริ่มเปิดบ้านแบ่งให้คนแปลกหน้ามาร่วมเช่า ร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายในบ้านกันแล้ว

    ยกตัวอย่างเช่น คุณยายจอยซ์ คาน แม่ม่ายวัย 64 ปี ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่กับผู้หญิงอีกสองคนที่จ่ายค่าเช่าให้เธอ โดยทั้งสองต้องไม่สูบบุหรี่ และไม่รังเกียจแมวของเธอ

    คุณยายท่านนี้เริ่มเปิดบ้านของตนเองในนิวเจอร์ซีย์เพื่อให้เช่าแก่บุคคลภายนอกมาแล้วนับ 10 ปี และดำรงชีพอยู่ด้วยรายได้จากการให้เช่าบ้านดังกล่าว

    เธอเป็นหนึ่งในผู้สูงอายุจำนวนมากของสหรัฐอเมริกาที่อาศัยกับแขกแปลกหน้าภายในบ้านของตัวเอง และพบว่า คนเหล่านั้น ไม่เพียงแต่ช่วยพยุงชีวิตของเธอไว้ แต่ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางอารมณ์ของเธอด้วย

    "ในฐานะที่ต้องอาศัยอยู่ในบ้้านหลังจากหย่าร้าง ฉันก็ต้องการรายได้อื่นเพิ่มเติม" คานกล่าวพร้อมเล่าว่า ผู้ที่เข้ามาเช่าห้อง ไม่เพียงช่วยเพิ่มรายได้ แต่ยังทำให้เธอไม่เหงาอยู่ตามลำพังด้วย

    ในนิวเจอร์ซีย์ มีนายหน้าคอยจัดหาบ้านพักให้กับคนที่ต้องการเช่า อย่าง Homesharing ซึ่งเป็นกลุ่มไม่ประสงค์กำไรที่จะช่วยประสานเจ้าของบ้าน และผู้ที่สนใจจะขอร่วมแชร์บ้านให้มาเจอกัน

    บริการที่จัดขึ้นนี้ ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น แต่เจ้าของบ้าน และคนที่ต้องการหาบ้านเช่า ต่างต้องผ่านการสัมภาษณ์จากทีมงานก่อน

    เรนี่ เดรลล์ ผู้อำนวยการของ Homesharing กล่าวว่า ความต้องการหาบ้านเช่า และความต้องการหาคนมาร่วมแชร์บ้านนั้นเพิ่มขึ้นทุกปีในสหรัฐอเมริกา

    "เทรนด์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 - 3 ปีที่ผ่านมา เจ้าของบ้านต่างต้องการคนมาร่วมแชร์ค่าใช้จ่ายเนื่องจากมันถีบตัวสูงขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่รายได้ของพวกเขายังคงเท่าเดิม ทางด้านผู้ใช้บริการนั้น เหตุที่เพิ่มขึ้นเพราะจำนวนคนตกงานมีมากขึ้นเรื่อย ๆ นั่นเอง"

    เรนี่เล่าว่า ความต้องการเพิ่มขึ้นนั้นวัดได้จากจากจำนวนผู้ขอใช้บริการจาก 1,610 คนในปี 2009 เป็น 1,912 คนในปี 2010 ซึ่งกลุ่มผู้มาหาห้องเช่าส่วนมากมักเป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน

    ยกตัวอย่าง แพตตี้ มิลาโน วัย 54 ปี และแม่ของเธอวัย 80 ปี ปัจจุบันทั้งคู่เข้าไปแชร์บ้านกับหญิงสูงอายุวัย 87 ปีนามเฮเลน

    มิลาโนกับแม่ของเธอย้ายเข้าไปในบ้านของเฮเลนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา เพราะพวกเขาไม่สามารถหาอพาร์ทเมนต์ที่สามารถจ่ายค่าเช่าได้ไหว การมาอยู่ที่นี่ มิลาโนได้ช่วยทำความสะอาดบ้านเท่าที่เธอสามารถทำได้

    พวกเขาจ่ายค่าเช่าบ้านให้กับเฮเลนประมาณ 700 เหรียญสหรัฐต่อเดือนในการเช่าห้องสองห้อง แชร์ห้องน้ำ และได้ใช้ครัว ซึ่งถือว่าไม่แพงนัก ส่วนเงิน 700 เหรียญนั้นมาจากเงินช่วยเหลือของทางการสหรัฐฯ ที่มอบให้กับพวกเธอนั่นเอง

    อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย หากช่องว่างทางสังคมยังคงขยายตัวมากขึ้น ไม่แน่ว่าสังคมผู้สูงอายุที่ประเทศไทยกำลังเผชิญ อาจต้องเดินไปในทิศทางดังกล่าวในไม่ช้า

    เรียบเรียงจากรอยเตอร์นิวส์

    Life & Family - Manager Online -
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : ทัศนะวิจารณ์

    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 01:00

    <DD class=columnist-name>ดวงกมล สจิรวัฒนากุล <DD class=by-line>จับกระแส:ktevo@nationgroup.com </DD>
    'อยากกลับบ้าน' เสียงจากนักเรียนไทยในอียิปต์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    ได้มีโอกาสไปเยี่ยมนักเรียนไทยในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยเกาะขบวนเที่ยวบินของกระทรวงสาธารณสุข ที่เดินทางไปเยี่ยมเยียน
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT> เพื่อดูแลสุขภาพจิตเด็กนักเรียนไทยที่นั่น ซึ่งมีจำนวน 2,600 คน ก่อนหน้าที่อียิปต์จะเกิดเหตุการณ์กลียุคทางการเมืองเพียงแค่วันเดียว
    ในวันนั้น...นักเรียนไทยของเราต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส แววตาเต็มเปี่ยมไปด้วยแรงไฟของความฝัน บินข้ามน้ำข้ามประเทศด้วยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเรียนต่อในมหาวิทยาลัยอัลอัซฮัร (Al Azhar University) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยศาสนาอิสลามที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของโลก เพื่อนำความภาคภูมิใจมาสู่คนในครอบครัวและท้องถิ่นหลังเรียนจบ
    แม้ว่า...จากการพูดคุย ลึกๆ นักเรียนไทยเหล่านี้ ต่างรู้สึกกดดันอยู่บ้าง เพราะด้วยความต่างชาติ ต่างถิ่น ต่างภาษา ต่างวัฒนธรรม และอาหารการกินที่ยังแตกต่างจากบ้านเรา แถมด้วยการเรียนที่หนักหน่วงเทอมละ 19 วิชา จึงต้องเคร่งเครียดกับการเรียน ทำให้บ่อยครั้งเกิดความรู้สึกของความคิดถึงบ้าน คิดถึงครอบครัว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ก็ยังได้ยินเสียงหัวเราะ พูดเล่นชวนหัวกันอย่างสนุกสนานในกลุ่มนักเรียนไทยด้วยกัน
    ในการพบปะนักเรียนไทยในอียิปต์ครั้งนั้น เต็มไปด้วยความอบอุ่นใจ ที่สร้างความมั่นใจในการใช้ชีวิตที่ต่างแดน เพราะมีทั้งผู้ใหญ่ในรัฐบาลและหน่วยงานที่ดูแลด้านการต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในอียิปต์ หากมีปัญหาขึ้นไม่ว่าอย่างไร...รัฐบาลไทยไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน
    หลังจากที่อียิปต์เกิดความวุ่นวาย มีการชุมนุมประท้วงเพื่อขับไล่นายกรัฐมนตรีที่นั่งอยู่ในเก้าอี้มานานถึง 30 ปี จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง ได้มีโอกาสติดต่อนักเรียนไทยกลุ่มดังกล่าวผ่านทางโลกสังคมออนไลน์ ตั้งแต่ช่วงแรกที่เกิดเหตุการณ์
    ราวกับเสียงเพลงประสานที่ร้องร่วมกัน ไม่ว่าพูดคุยกับนักเรียนคนใด ทุกคนล้วนแล้วแต่อยากกลับบ้าน อยากกลับเมืองไทยทั้งนั้น ไม่มีใครอยากอยู่ในอียิปต์ ไม่มีใครอยากอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งที่รุนแรง อีกทั้งการประกาศเคอร์ฟิว ยิ่งทำให้การใช้ชีวิตเป็นอยู่ยากลำบาก เพราะนอกจากไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้ เกรงอันตรายลูกหลงจากความรุนแรง ซ้ำราคาอาหารยังพุ่งสูงเกินเท่าตัว ขณะที่เงินในมือมีอยู่อย่างจำกัด เพราะธนาคารไม่สามารถเปิดทำการได้ ทำให้จำนวนผู้ที่ลงชื่อแสดงความจำนงกลับมีจำนวนมาก
    เสียงที่ได้ยินช่างแตกต่างกับข้อมูลที่ถูกนำเสนอในช่วงแรกๆ ว่า มีผู้แสดงความจำนงกลับเมืองไทยไม่มาก
    ยิ่งในช่วงหลังที่เหตุการณ์เริ่มบานปลายและดูท่ายืดเยื้อ จำนวนผู้ที่ต้องการกลับเมืองไทยก็มีจำนวนเพิ่มขึ้น ขณะที่การเตรียมการเพื่อนำคนไทยกลับประเทศเป็นไปอย่างขรุขระ โดยเฉพาะการติดต่อประสานงานที่นั่น และจากการพูดคุยทราบว่า มีนักเรียนไทยจำนวนหลายร้อยคน ที่ไม่รู้ว่าตนเองจะมีเที่ยวบินกลับเมื่อไร ต่างไปรอออกันที่สนามบินอียิปต์ แถมยังอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ เพราะมานั่งรอกันตั้งแต่เช้า เต็นท์หลบแดนก็ไม่มี รวมถึงน้ำและอาหาร ดูแล้วช่างแตกต่างจากเพื่อนนักเรียนมาเลเซียที่อยู่ข้างๆ ซึ่งได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ที่มีการเตรียมความพร้อมไว้ทุกอย่าง จัดระบบในการอพยพคนกลับประเทศไว้ดีมาก ทั้งๆ มีจำนวนนักเรียนหลายพันคน และสามารถนำกลับประเทศได้รวดเร็ว ไม่ต้องนอนค้างที่สนามบิน ทำให้รู้สึกอับอาย
    น้องนักเรียนไทยในอียิปต์คนหนึ่ง ยังได้ส่งข้อความทิ้งท้ายมาว่า "ผมอยากให้กระทรวงการต่างประเทศของไทย มาเห็นสภาพของนักเรียนไทยที่อียิปต์ช่วงนี้มาก รับรองได้เลยว่า คงอับอายมาเลเซียจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน..."

    '
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเมือง : ทัศนะวิจารณ์

    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
    <DD class=columnist-name>เปลี่ยนอียิปต์ กระแสที่มาถึงและความไวต่อการสนองกระแสนั้น</DD>
    โดย : เรือรบ เมืองมั่น www.ruarob.blogspot.com

    คลื่นการประท้วงในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ที่เริ่มมาจากตูนิเซีย เมื่อ 14 มกราคม ได้สร้างภาวะตกใจให้แก่ประชาคมโลกในเวลาอันสั้น
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้บัลลังก์ผู้นำตูนิเซียที่ครองอำนาจมายาวนานต้องล้มครืนลง แต่ยังเขย่าระบอบที่คล้ายคลึงกันนี้เรื่อยไปอีกหลายประเทศ ที่หนักที่สุด ก็คือ อียิปต์ ซึ่งไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนนับตั้งแต่กลายเป็นสาธารณรัฐเมื่อปี 2496 แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึงเดือนโลกก็พบว่าพลังแห่งประชาธิปไตยยังไม่สามารถปฏิวัติการเมืองภูมิภาคแบบถอนรากแปลงโคนได้ เนื่องจากแรงต้านของระบอบเดิมที่แข็งแกร่งเพราะอยู่มานาน กระนั้นก็ตาม ภูมิภาคนี้กำลังก้าวไปข้างหน้าด้วยธงแห่งคุณค่ายึดถือกึ่งตะวันตกที่ปักแน่นไว้แล้ว และทำให้ทุกสิ่งกำลังเปลี่ยนตาม ไม่เว้นแม้แต่ประเทศมหาอำนาจที่เคยยุดโยงกับผู้ปกครองเดิมและผลประโยชน์เดิม

    ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือมีความสำคัญทางภูมิรัฐศาสตร์สูง เป็นพื้นที่หลังบ้าน (Backyard) ของยุโรปมาก่อน เมื่อสหรัฐมีอิทธิพลขึ้นก็ต้องให้ความสำคัญต่อตรงนี้เหมือนกัน เพราะเป็นทั้งแหล่งผลประโยชน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก คือ น้ำมัน เป็นช่องทางคมนาคมและส่งกำลังบำรุงสำคัญและที่บางคนลืมนึกกันไป คือ เป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิวที่ทรงอิทธิพลในโลกตะวันตก ความขัดแย้งของยิวในแถบนี้เลยหลอมควบเป็นความขัดแย้งของฝรั่งไปด้วย ยิ่งทุกวันนี้ มีเรื่องของการก่อการร้ายอิงศาสนาเข้ามาสมทบ ฝรั่งยิ่งเครียดใหญ่ กับเยเมนหรือแอลจีเรียที่ไกลออกไปหน่อยหากเป็นอะไรไปยังพอว่า แต่กับอียิปต์ที่คุมคลองสุเอซใจกลางโลกติดกับอิสราเอลเป็นอะไรไป รัฐบาลวอชิงตันหรือลอนดอนยอมไม่ได้

    อียิปต์มีวัฒนธรรมอำนาจนิยมมาตั้งแต่แรกเริ่ม ไม่ต้องคิดไปไกลถึงยุคฟาโรห์หรือสมัยอยู่ภายใต้จักรวรรดิที่ใหญ่กว่า ระบอบกษัตริย์ถูกปฏิวัติเมื่อปี 2494 ตั้งเป็นสาธารณรัฐได้แผล็บเดียว Abdul Gamal Nasser ก็ปฏิวัติอีกตั้งตัวเป็นผู้เผด็จการ นับแต่บัดนั้นทหารสืบทอดอำนาจอย่างต่อเนื่องโดย Anwar Sadat มือขวานัสเซอร์ และ Hosni Mubarak มือขวาซาดัต ตามลำดับมาจนทุกวันนี้ การเลือกตั้งนั้นเป็นเพียงรูปแบบที่ทำให้ชาติตะวันตกพอใจว่าก็เป็นประชาธิปไตยอยู่เหมือนกัน ความเข้มแข็งของกองทัพที่หนุนการเมืองปกครองกึ่งเบ็ดเสร็จก่อให้เกิดเสถียรภาพอย่างมหาศาลแก่อียิปต์ ชนิดที่ว่าแพ้สงครามแก่อิสราเอล 3 ครั้งยังไม่สะเทือน เป็นอาหรับที่ไปจับมือกับยิวก็ไม่โดนฝ่ายหัวรุนแรงโค่น อเมริกาและยุโรปยังหวังพึ่งรัฐบาลไคโรในฐานะหนึ่งในตัวแปรหลักเพื่อแก้ปัญหาตะวันออกกลางเหมือนที่เป็นมาตลอด เพียงแต่ว่าบรรยากาศแบบถนอม-ประภาสนั้นก็มีอายุของมัน มูบารักอาจไม่สำเหนียกถึงความเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย เหมือนที่ Augusto Pinochet แห่งชิลีไม่เคยนึกถึง แต่สหรัฐนั้นไวกว่า และด้วยหูตาประมวลข่าวกรองรอบด้านแบบนี้เอง Ferdinand Marcos แห่งฟิลิปปินส์ จึงต้องเก็บกระเป๋าออกจากทำเนียบแทบไม่ทัน แล้วไปตรอมใจตายที่ฮาวายในเวลาไม่ถึง 3 ปี หลังถูกโค่นอำนาจ

    ไม่ว่าใครจะชอบหรือชัง ใครจะอนุรักษนิยมจัดจนพยายามฉุดรั้งการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าทั่วทุกมุมโลกกำลังจะไปทางนั้น ต่อให้ศตวรรษนี้จะเป็นศตวรรษของเอเชียสวนกับชาติตะวันตกที่เสื่อมถอยลงดังที่นักคิดหลายคนว่าไว้ยังไงก็ตาม Emerging Countries ทั้งหลายก็จะกลายเป็นแบบตะวันตกมากขึ้น ในเมื่อความเจริญและคุณค่ายึดถือแบบตะวันตกชนิดที่ดีถูกเลือกสรรปลูกฝังอยู่ในจิตใจความคิดเยาวชนคนรุ่นใหม่ของแต่ละชาติเสียแล้ว ใครหน้าไหนจะบังอาจมายัดเยียดความคิดแก่พวกเขาที่ว่า "ฉันต้องมีสิทธิมีโอกาสเหนือกว่าแก เพราะฉันมีอำนาจมากกว่า" นั้นมีอันต้องถูกต่อต้าน ยิ่งประเทศที่มีเยาวชนคนรุ่นใหม่เยอะมากแบบอียิปต์กระแสต่อต้านยิ่งแรง ยิ่งยัดเยียดความคิดแบบอนุรักษนิยมเข้าใส่พวกเขาก็ยิ่งเหมือนฉีดยาผิดสำแดง ร่างกายก็พร้อมแอนตี้ยาและคนฉีดนั้นหนักขึ้นไปอีก

    ผลที่เกิดขึ้น คือ การประท้วงไปทั่วประเทศนี้ สร้างความหวาดหวั่นใจแก่หลายฝ่าย Domino EFFECT จากดินแดนคาร์เธจ ที่ยังถือว่าสำคัญน้อยนั้นอาจแพร่เขย่าจนหลายชาติกึ่งเผด็จการในตะวันออกกลางล้มไปด้วย นี่ถ้าอิหร่านภายใต้ระบอบ Mullah ล่มสลายรัฐบาลวอชิงตันคงยิ้มแก้มปริ แต่ถ้าอียิปต์หรือนครรัฐอ่าวทั้งหลายเปลี่ยนไป อะไรจะเกิดขึ้นกันล่ะนี่ พวกหัวรุนแรงที่ชาติตะวันตกคอนโทรลไม่ได้จะแรงทั้งบนเวทีการเมืองแบบเลบานอนหรือปาเลสไตน์และแรงทั้งใต้ดิน โดยสอดแทรกมากับความไม่พอใจสังคมของประชาชนผู้ถูกกดขี่/เสียสิทธิ/เสียโอกาส/ยากจนมากขนาดไหน หรือว่ารัฐบาลใหม่ที่อาจเป็นประชาธิปไตยจ๋า จะเลือกดำเนินนโยบายแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ไม่เอาแล้วกับการฟังเสียงคนนอก ทำเพื่อประโยชน์ประเทศตนเองอย่างเดียว แล้วปัญหาที่ยังยุ่งเหยิงอยู่เช่นสันติภาพยิว-อาหรับล่ะจะทำยังไง เรื่องพวกนี้คิดได้แต่รอเวลาโดยไม่ลงทำมือกับขั้นเป็นตอนไม่ได้ เพราะล่าช้าไปบางอย่างจะกลับไปแก้ไขอีกไม่ได้ ชาติตะวันตกที่จะได้รับผลกระทบมากกว่าใครและมีความรอบรู้ด้านข่าวกรองกว่าใครจึงสรุปออกมาได้ว่าต้องประณามการดื้อของมูบารัก และขอให้มูบารักและแก๊งลงจากอำนาจอย่างไม่ช้ามากนักและเป็นขั้นเป็นตอนด้วย สังเกตไหมว่าการเลือกที่จะใช้การกดดันเช่นนี้ต่อมิตรเก่าแก่นั้นต่างกับที่กดดันไทยหรือจอร์เจีย

    ส่วนชาติอื่นในภูมิภาคเองก็ต้องปรับตัวหนีคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลงที่หากชักช้ามัว Surf แบบเก่าๆ ก็จะถูกคลื่นซัดตกน้ำ ชาติที่ยังควบคุมสถานการณ์ได้ก็เริ่มทยอยปรับแก้กฎระเบียบเอื้อสิทธิให้คนในชาติมีส่วนร่วมทางการเมือง และมีโอกาสดีทางสังคมเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเยเมน จอร์แดน หรือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูๆ ไปชาติเหล่านี้จะก้าวไปสู่ทิศทางเดียวกับตุรกีเข้าไปทุกที คือ ไม่ว่าพื้นฐานเดิมของรัฐบาลจะมาจากกลุ่มเคร่งศาสนาหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่เมื่ออยู่ในวงจรการเมืองแล้ว ประชาธิปไตยเท่านั้นที่พวกเขาต้องเดินและเดินให้สอดคล้องต่อความต้องการของปวงชนที่เป็นสมัยใหม่ในความนึกคิดไปแล้ว ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือถึงเวลาเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคปฏิรูปหลังจากที่อื่นของโลกเขาผ่านกันมาเกือบหมดแล้วหลังสิ้นสุดสงครามเย็น เชื่อเถอะว่าถึงจะขลุกขลักไม่เป็นไปตามปรารถนาบ้าง แต่การปฏิบัติตาม Trend แบบควบคุมวิถีนั้นจะทำให้เกิดความราบรื่นและอำนาจประโยชน์แก้ตัวแปรต่างๆ เหมือนที่ต้องการและเคยได้นั่นล่ะ

     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 13:33

    สถาบันเรตติ้งเตือนญี่ปุ่นเจอเงินทุนไหลออก

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    สถาบันเรทติ้งเตือนเงินทุนอาจไหลออกญี่ปุ่น ขณะการคลังเลวร้ายกว่ากรีซ
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> นายมาโกโตะ อุสึมิ ประธานเจแปน เครดิต เรทติ้ง เอเจนซี่ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น กล่าวว่า นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะเริ่มถอนเงินลงทุนออกจากสินทรัพย์ญี่ปุ่น ถ้าหากรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถปฏิรูปฐานะการคลังได้อย่างรวดเร็ว
    นายอุสึมิกล่าวว่า "สถานการณ์ทางการคลังของญี่ปุ่นในขณะนี้เลวร้ายยิ่งกว่าของกรีซ, สเปน และไอร์แลนด์เป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากไม่มีการดำเนินการแก้ไข ญี่ปุ่นก็อาจตกเป็นเป้าการโจมตีจากนักลงทุนที่ต้องการหลีกเลี่ยงความ
    เสี่ยง และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่สามารถล่าช้าในการดำเนินขั้นตอนปฏิรูปการคลัง
    สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นลงเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปีในเดือนม.ค. โดยปรับลดลงสู่ AA- และระบุว่า ญี่ปุ่นขาดแผนการที่สอดคล้องกันในการแก้ไขหนี้ภาครัฐที่ระดับสูง
    ขณะนี้ หนี้ภาครัฐของญี่ปุ่นมีขนาดสูงเป็นสองเท่าของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ
    เจแปน เครดิต เรทติ้ง จัดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ญี่ปุ่นไว้ที่ AAA ซึ่งเป็นอันดับสูงสุด เนื่องจากทางสถาบันมีความเชื่อมั่นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะไม่ผิดนัดชำระหนี้
    อย่างไรก็ดี นายอุสึมิกล่าวเสริมว่า "เรากำลังคิดว่าจะแก้ไขอย่างไรถ้าหากภาวะทางตันทางการเมืองในปัจจุบันยืดเยื้อต่อไป เพราะภาวะดังกล่าวจะทำให้เราคาดการณ์ได้ยากว่าปัญหาทางการคลังจะได้รับการคลี่คลายเมื่อใด"
    นายอุสึมิเคยดำรงตำแหน่งรมช.คลังฝ่ายกิจการระหว่างประเทศในปี 2532-34
    <!-- Tags Keyword -->ʶҺѹ
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 17:49
    มาเลย์ต้านเทศกาลวาเลนไทน์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    หลายรัฐในมาเลเซีย เตรียมแผนต่อต้านเทศกาลวันวาเลนไทน์
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> หลายรัฐในมาเลเซีย กำลังวางแผนกวาดล้าง " การกระทำที่ผิดหลักคำสอนทางศาสนา "
    ในระหว่างเทศกาลวันวาเลนไทน์ อันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่กระตุ้นจิตวิญญาณที่ดี
    ของชาวมาเลเซีย
    นายนัสรูดิน ฮาซาน ตันตาวี หัวหน้าปีกยุวชนของพรรคปาส พันธมิตรฝ่ายค้านมุสลิมที่ใหญ่
    ที่สุดของมาเลเซีย ที่ได้รับชัยชนะใน 4 รัฐ จากการเลือกตั้งเมื่อปี 2551 บอกว่า เจ้าหน้าที่ของ
    รัฐเคดาห์ ปีนัง กลันตัน และรัฐสะลังงอร์ จะออกตรวจการกระทำที่ผิดหลักคำสอนในวันที่
    14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันวาเลนไทน์

    สาเหตุที่มีการเพ่งเล็งไปที่รัฐเหล่านี้ ก็เพราะว่า มีแนวโน้มที่คู่รักหลายคู่จะกระทำในสิ่งที่
    ขัดต่อหลักของศาสนาอิสลาม ซึ่งจะมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลด้านศาสนาในท้องถิ่น
    และเจ้าหน้าที่ของพรรคฯ เข้าไปสอดส่องดูแลด้วย
    นายตันตาวี กล่าวว่า ทางการต้องดำเนินการภายใต้กฎหมายอิสลาม ซึ่งใช้คู่ขนานกับ
    ระบบยุติธรรมที่บังใช้กันในประเทศ ที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมแห่งนี้ เนื่องจาก
    มีการส่งเสริมต่าง ๆ รวมทั้งการที่โรงแรมบางแห่งที่เสนอห้องให้ฟรี ๆ สำหรับคู่รักที่ยัง
    ไม่แต่งงาน
    นายตันตาวี กล่าวด้วยว่า ปีกยุวชนพรรคปาส ยังมีการรณรงค์สำหรับการใช้ชีวิตด้วย
    จิตวิญญาณที่บริสุทธิ์แบบอื่นอีก กลุ่มของเขาไม่ได้ห้ามเรื่องความรัก แต่แค่ต้องการ
    ให้ชาวมุสลิมในมาเลเซีย ยืนอยู่บนหลักการแห่งศีลธรรม และบนความภาคภูมิในตนเอง
    พรรคปาส ขึ้นชื่อในเรื่องสุดยืนอันสุดโต่งในด้านยึดหลักคำสอนทางศาสนา และในรัฐ
    กลันตัน ซึ่งทางพรรคมีอิทธิพลอย่างเต็มที่ ได้กำหนดกฎข้อบังคับขึ้นมาเอง ตั้งแต่ห้าม
    การเล่นการพนัน จำกัดการจำหน่ายแอลกอฮอล์ และแยกเพศชายกับหญิง ในการ
    ต่อคิวในการซื้อของในร้านสะดวกซื้อ

     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 13:27
    มุสลิมกว่า1พันคนบุกเผาโบสถ์คริส2แห่งในอินโดฯ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    เกิดเหตุชาวมุสลิมกว่า 1 พันคน บุกทำลายศาลและเผาโบสถ์คริสต์ 2 แห่งในอินโดนีเซีย
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> เว็บไซท์บีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุประท้วงมุสลิมมากกว่า 1 พันคน บุกเข้าไปยังอาคารที่ทำการ
    ศาล และเผาทำลายโบสถ์คริสต์ 2 แห่งในชวากลาง ของอินโดนีเซีย รายงานระบุว่า เหตุการณ์
    นี้ เกิดขึ้นที่เมืองเทแมงกัง และมีขึ้นหลังจากชายชาวคริสต์คนหนึ่ง ถูกตัดสินจำคุก 5 ปี ในความ
    ผิดฐานแจกใบปลิวลบหลู่ศาสนาอิสลาม
    ตำรวจ เปิดเผยว่า ฝูงชนที่โกรธแค้นต่างเห็นว่า เป็นคำตัดสินที่ปรานีเกินไป และต้องการให้ลง
    โทษประหารชีวิตจึงจะสาสมแก่ความผิด พวกเขาได้เริ่มอาละวาดทำลายข้าวของในศาล ก่อน
    จะขยายความรุนแรงไปยังพื้นที่ใกล้เคียง ด้วยการจุดไฟเผาโบสถ์ 2 แห่ง ส่วนแห่งที่ 3 ไม่ได้
    ถูกเผา แต่ก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตำรวจได้ยิงปืนขึ้นฟ้าเป็นการเตือนและสลายฝูงชน
    ขณะเดียวกัน ได้มีการเผยแพร่ภาพการโจมตีอย่างโหดเหี้ยมต่อชาวมุสลิมนิกายอาห์มาดิยาห์
    ที่แสดงให้เห็นชาย 3 คน ถูกรุมตีจนเสียชีวิต ซึ่งนิกายอาห์มาดิยาห์นั้น ถูกรัฐบาลระบุว่า เป็น
    นิกายที่แปลกแยกแต่ก็ไม่ได้ห้ามประชาชนนับถือ
    นายลีโอนาร์ด ลีโอ ประธานคณะกรรมการว่าด้วยสิทธิเสรีภาพในการนับถือศาสนาของสหรัฐ
    ได้เรียกร้องไปยังอินโดนีเซีย ให้ดำเนินการกับกลุ่มสุดโต่งที่เอาเรื่องศาสนามาสร้างความรุนแรง
    และเผยแพร่ความเกลียดชังออกไป ด้านกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนนานาชาติ ต่างระบุว่า
    พวกมุสลิมสุดโต่ง ได้ก่อกวนและทำร้ายคนที่นับถือศาสนาหรือนิกายอื่น ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
    และประธานาธิบดีซูซิโบ บัมบัง ยูโดโยโน่ ได้ถูกตำหนิว่า ไม่ได้ดำเนินการอย่างเพียงพอในการ
    ปกป้องสิทธิพลเมืองทุกคนอย่างทั่วถึง

     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2554 12:18

    คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นเล็งถกปัญหาไทย-เขมร14ก.พ.นี้

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    คณะมนตรีความมั่นคง เตรียมหารือวิกฤติไทย-กัมพูชา ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ขณะรมต.ต่างประเทศอินโดนีเซียตัวเก็งเลขาฯยูเอ็น
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> อินเนอร์ ซิตี้ เพรสส์ ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงกำไร มีสำนักงานอยู่ที่เซาธ์ บลองซ์ นครนิวยอร์ค
    ของสหรัฐ รายงานว่า เพียงหนึ่งวัน หลังจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ยัง
    ไม่ได้จัดการประชุมเร่งด่วน ตามข้อเรียกร้องของกัมพูชานั้น ได้มีผลสรุปออกมาแล้ว่า จะมี
    การจัดประชุมตามข้อเรียกร้องในวันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนว่า
    สหประชาชาติ กำลังดำเนินการให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสมาคมอาเซียน จึงได้
    ให้นายมาร์ตี้ นาตาเลกาวา รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย ที่กำลังเป็นเจ้าภาพหมุนเวียน
    ของอาเซียน และทำหน้าที่เป็นคนกลางไกล่เกลี่ยข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชา เข้าร่วม
    การประชุมด้วย
    นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ ได้กล่าวในระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันอังคารว่า เขา
    ได้หารือกับนายกรัฐมนตรีของไทยและกัมพูชาแล้ว แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายคน ตั้งข้อสงสัย
    ว่า เหตุใดนายบันจึงไม่รับหน้าที่เป็นผู้ไกล่เกลี่ยเสียเอง หรือไม่ก็เสนอตัวเป็นผู้ไกล่เกลี่ยตาม
    มาตรา 99 ของกฎบัตรสหประชาชาติ ตามมาตรา 99
    แต่ก็มีบางคนให้ความเห็นว่า การที่นายนาตาเลกาวา เคยทำหน้าที่เป็นผู้แทนถาวรอินโดนีเซีย
    ประจำสหประชาชาติ ทำให้เขารู้ระบบของสหประชาชาติเป็นอย่างดี เขาได้รับการคาดหมาย
    ก่อนหน้านี้ว่า จะไม่ยกประเด็นพิพาทไทย-กัมพูชา เข้าสู่วาระการประชุมอย่างเป็นทางการของ
    คณะมนตรีความมั่นคง ด้วยการถอนข้อเรียกร้องของกัมพูชาออก แบบเดียวกับที่เคยปรากฎ
    เมื่อปี 2551 ตอนที่เวียดนามเป็นประธานหมุนเวียนคณะมนตรีความมั่นคงฯ
    อินเนอร์ ซิตี้ เพรสส์ ระบุว่า ภายในสหประชาชาติเองก็มีปัญหาคุกรุ่น จากการที่หลายประเทศ
    แสดงความไม่พอใจการทำงานของนายบันอย่างเปิดเผย รวมทั้งสมาชิกที่มีอำนาจในการวีโต้
    อย่างรัสเซีย ถ้านายบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งต่อเป็นสมัยที่ 2 วาระที่เหลือของยังคงเป็นชาติ
    สมาชิกในเอเชีย และผู้ที่ได้รับการจับตามองอยู่ในขณะนี้ว่า มีประสิทธิภาพและมีคุณสมบัติ
    ที่เหมาะสม ก็คือ นายนาตาเลกาวา

     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    โอบามาต่อสายตรงหากษัตริย์ซาอุฯ หารือแก้ไขสถานการณ์ในอียิปต์
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 11:53 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    รูปภาพขนาดใหญ่ของกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย

    เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ เผย ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้โทรศัพท์ถึงกษัตริย์อับดุลเลาะห์แห่งซาอุดีอาระเบีย เพื่อปรึกษาหาทางแก้ไขปัญหาในอียิปต์ โดยย้ำถึงความจำเป็นในการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมือง ที่มีความหมาย และยั่งยืน

    ทำเนียบขาวแถลงว่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับกษัตริย์ซาอุฯ ในวันพุธ (9) เกี่ยวกับสถานการณ์ในอียิปต์

    "ประธานาธิบดีเน้นย้ำถึงความสำคัญในการเดินหน้าการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างเป็นระเบียบในทันที ซึ่งนั่นต้องมีนัยสำคัญ ยั่งยืน ชอบด้วยกฎหมาย และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนชาวอียิปต์" ถ้อยแถลงดังกล่าวระบุ

    นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังเสริมว่า โอบามาได้ยืนยันความรับผิดชอบต่อสันติภาพ และความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางในระยะยาวของสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่งด้วย

    ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัคของอียิปต์ ซึ่งกำลังถูกพลังประชาชนจำนวนมาก ที่ออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ให้ลงจากตำแหน่งนั้น เป็นสหายคนสนิทของกษัตริย์อับดุลเลาะห์ ที่ประณามความพยายามใดๆ ของผู้บุกรุกในการแทรกแซงความมั่นคงของอียิปต์

    ทั้งอียิปต์ และซาอุดีอาระเบียต่างก็เป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง และเป็นแกนหลักของยุทธศาสตร์ในภูมิภาคนี้ของอเมริกาเป็นเวลาหลายสิบปีแล้ว

    รายงานของสหรัฐฯ ชี้ว่า ประเทศพันธมิตรในภูมิภาคต่างแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อสหรัฐฯ เกี่ยวกับผลกระทบจากการชุมนุมประท้วง ซึ่งลุกลามไปทั่วโลกอาหรับ ต่อความมั่นคงในภูมิภาคอันเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ

    Around the World - Manager Online -
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ส.ส.รีพับลิกันลาออกหลังส่ง “รูปเปลือยท่อนบน” ให้หญิงที่ไม่ใช่ภรรยา
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 09:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    คริสโตเฟอร์ ลี ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกัน

    เอเอฟพี - ส.ส.รีพับลิกันรายหนึ่งตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งวานนี้(9) หลังมีข่าวแพร่สะพัดว่า เขาส่งรูปตนเองขณะไม่สวมเสื้อพร้อมข้อความเกี้ยวพาราสีถึงหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของตน ผ่านระบบโฆษณาบุคคลในเวบไซต์ เครกสลิสต์ (Craigslist)

    คริสโตเฟอร์ ลี ส.ส.สังกัดพรรครีพับลิกัน ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งทันที หลังจากที่เวบข่าวซุบซิบ กอว์เกอร์ (Gawker) ได้เผยแพร่รูปของเขาที่ถ่ายขณะส่องกระจกและกำลังอวดกล้ามเนื้อกำยำ โดยระบุว่า ลี ได้ส่งรูปนี้ถึงหญิงนิรนามวัย 34 ปีคนหนึ่ง

    ลี ส่งรูปดังกล่าวให้กับผู้หญิงที่ติดต่อเขาผ่านหน้า วีเมน ฟอร์ เมน ในเวบไซต์ เครกสลิสต์ ซึ่งเธอคนนั้นเชื้อเชิญให้ชายที่ “อารมณ์ดีและมีฐานะ” เข้ามาพิสูจน์ให้เธอเห็นว่า “ผู้ชายไม่ได้เหมือนคางคกไปเสียทุกคน”

    “ผมเสียใจที่ได้ทำร้ายครอบครัว, เพื่อนร่วมงาน และ ประชาชนที่เลือกผมเข้ามา ผมขออภัยต่อทุกท่านอย่างสุดซึ้ง ครั้งนี้ผมทำผิดใหญ่หลวง แต่ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อขอรับการอภัยจากท่าน” ลี กล่าวในแถลงการณ์ หลังข่าวฉาวเผยแพร่ออกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง

    “อุปสรรคที่เราต้องเผชิญในฝั่งตะวันตกของนิวยอร์กและทั่วประเทศมีมาก จนผมไม่อาจปล่อยให้เรื่องเสื่อมเสียนี้มาทำลายชื่อเสียงพรรคต่อไปได้ ผมจึงขอประกาศลาออกจากความเป็น ส.ส. ตั้งแต่บัดนี้” ลี กล่าว

    กอว์เกอร์ ยังได้เผยแพร่อีเมลที่ ลี เขียนอธิบายตนเอง ว่า เป็นนักวิ่งเต้นตัวยง, “ชอบสนุกสนานและมีระดับ”, อายุ 39, หย่าร้าง, และคำสัญญาที่ว่า “จะไม่ทำให้ผิดหวัง” ซึ่งตรงข้ามกับข้อมูลของ เครกสลิสต์ ที่ระบุว่า ลี อายุ 46 ปี, แต่งงานแล้ว และมีบุตรชาย 1 คน


    Around the World - Manager Online -
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Feb 8 2011, 11:53 PM
    yim (guest): .<WBR>.<WBR>เอากลับมาดูกันอีกครั้งหนึ<WBR>่ง เวลามันอาจจะใกล้เข้ามากว่<WBR>าเดิมแล้วก็ได้ครับ.<WBR>.<WBR> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=2N8gJSMoOJc&feature=related"]http://www.youtube.com/<WBR>watch?v=2N8gJSMoOJc&featur<WBR>e=related[/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=2N8gJSMoOJc"][/ame]


    [​IMG]
    [​IMG]
    Feb 9 2011, 3:38 AM
    yim (guest): Gold This Decade [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CvSEWLEqmY4"]http://www.youtube.com/<WBR>watch?v=CvSEWLEqmY4[/ame] คุณ Badd Watcharawish โพสท์ที่ Facebook ครับ [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CvSEWLEqmY4"][/ame]

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 9 2011, 5:16 AM
    yim (guest): The President who told the Truth about illuminati [ame="http://www.youtube.com/watch?v=20KDBELD20I"]http://www.youtube.com/<WBR>watch?v=20KDBELD20I[/ame] [ame="http://www.youtube.com/watch?v=20KDBELD20I"][/ame]


    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 9 2011, 5:40 AM
    yim (guest): TERRORIST?<WBR> (<WBR>OFFICIAL MUSIC VIDEO)<WBR> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kmBnvajSfWU&feature=related"]http://www.youtube.com/<WBR>watch?v=kmBnvajSfWU&featur<WBR>e=related[/ame] (<WBR>Who is TERRORIST?<WBR>)<WBR> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kmBnvajSfWU"][/ame]
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=kmBnvajSfWU"][​IMG] [/ame]


    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 12:54 AM
    yim (guest): ช่วงท้ายของ MV เศร้ามาก สภาพศพผู้เคราะห์ร้ายแย่มา<WBR>ก.<WBR>.<WBR>.<WBR>ใครกันแน่คือ ผู้ก่อการร้าย ?<WBR>?<WBR>?<WBR>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:07 AM
    yim (guest): สงครามระหว่างนักการเมืองก<WBR>ับประชาชน อ้างอิง http://www.chaloke.com ระบอบประชาธิปไตย เป็นข้ออ้างให้คนกลุ่มหนึ่<WBR>งใช้เป็นเครื่องมือในการทุ<WBR>จริตคดโกงชาติ นักการเมืองหน้าด้านขี้โกง<WBR>ทุจริตซื้อเสียงเข้ามาครอง<WBR>อำนาจ แล้วใช้อำนาจนั้นทุจริตคดโ<WBR>กงบ้านเมือง ทำให้ประชาชนเดือดร้อนไปทั<WBR>่ว
    www.chaloke.com


    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:08 AM
    yim (guest): ในที่สุดประชาชนก็ลุกขึ้นม<WBR>าชุมนุมประท้วงความเลวของน<WBR>ักการเมือง ในปัจจุบันเราได้เห็นการปร<WBR>ะท้วงใน Algeria ใน Tunisia และในประเทศ Egypt โดยทั้งสิ้นเริ่มมาจากสาเห<WBR>ตุการเพิ่มขึ้นของราคาค่าค<WBR>รองชีพ และปัญหาการว่างงาน อันเป็นผลมาจากความล้มเหลว<WBR>ของระบอบเศรษฐกิจทุนนิยมสา<WBR>มานย์

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:08 AM
    yim (guest): ที่หลอกลวงประชาชนด้วยโยบา<WBR>ยประชานิยม ใช้เงินภาษีอากรของประชาชน<WBR>ไปซื้อเสียงประชาชน นโยบายอันชั่วร้ายนี้ได้ผล<WBR>ดีในระยะสั้น ทำให้นักการเมืองได้เข้ามา<WBR>ครองอำนาจเพื่อที่จะได้โอก<WBR>าสทุจริตขายชาติขายแผ่นดิน

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:08 AM
    yim (guest): นโยบายนี้เป็นเหมือนโรคร้า<WBR>ยต่างๆที่ทำลายชีวิตคนไปเป<WBR>็นจำนวนมาก ในอดีตเราได้เห็นปัญหา Sub-<WBR>prime ที่สร้างความย่อยยับให้แก่<WBR>สถาบันการเงินของโลก (<WBR>ที่ลุงโฉลกบอกล่วงหน้าหลาย<WBR>เดือน)<WBR>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:09 AM
    yim (guest): เราได้เห็นการล่มสลายของสถ<WBR>าบันการเงินหลายแห่งในอเมร<WBR>ิกา (<WBR>ที่ลุงโฉลกบอกล่วงหน้าหลาย<WBR>เดือน)<WBR> เราได้เห็นปัญหาหนี้สินภาค<WBR>รัฐ Sovereign debt crisis ที่เริ่มต้นที่ประเทศ Greece ที่รัฐบาลต่างๆแถลงว่าควบค<WBR>ุมได้และจะไม่เป็นปัญหาไปถ<WBR>ึงประเทศอื่น (<WBR>ที่ลุงโฉลกบอกว่าจะเป็นปัญ<WBR>หาลามไปยังประเทศใน Europe)<WBR>

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:09 AM
    yim (guest): และในที่สุดก็ลุกลามไปยัง Portugal,<WBR> Italy,<WBR> Spain และ Ireland วันนี้ลุงโฉลกกำลังบอกพวกเ<WBR>ราว่า ปัญหาการประท้วงของประชาชน<WBR>ทั้งโลกต่อนักการเมืองชั่ว<WBR>ช้าสามานย์ ที่กำลังรุนแรงอยู่ใน Egypt ในวันนี้ จะลุกลามต่อไปทั่วโลก และเมืองไทยของเราก็ไม่ใช่<WBR>ข้อยกเว้น

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:10 AM
    yim (guest): พอกันทีสำหรับการที่ต้องยอ<WBR>มรับให้คนเลวเข้ามาครองแผ่<WBR>นดิน พอกันทีสำหรับการที่ต้องมา<WBR>ทนดูนักการเมืองชั่วช้าสาม<WBR>านย์ทั้งหลาย ผลัดเวียนกันเข้ามาทำลายปร<WBR>ะเทศชาติ และทำลายสถาบันอันเป็นที่ร<WBR>ักของพวกเรา

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:10 AM
    yim (guest): นอกจากปัญหาที่เกิดจากการท<WBR>ำลายล้างของนักการเมือง เรายังเผชิญกับปัญหาจากธรร<WBR>มชาติอีกด้วย สมจริงตามพุทธทำนายที่ว่าส<WBR>องพันห้าร้อยปีล่วงไป คนชั่วจะครองแผ่นดิน ดินฟ้าอากาศแปรปรวน ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ลมพายุจะพัดแรงขึ้น คลื่นลมในทะเลจะรุนแรง และจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรง<WBR>มากขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:11 AM
    yim (guest): ในเวลาเพียง 9 เดือน ข้าวเปลือก ขึ้น 53.<WBR>77%<WBR> จาก 10.<WBR>35 เมื่อเดือนมิถุนายน มาปืดที่ 15.<WBR>915 แต่ ผลงานของรัฐบาลไทย ข้าวหอมมะลิของเรา ลดลง 20.<WBR>14%<WBR> นักการเมืองรวย ชาวนายากจน

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:12 AM
    yim (guest): ความเดือดร้อนกำลังจะเกิดข<WBR>ึ้นกับประชาชนส่วนใหญ่ของโ<WBR>ลก เกิดเพราะความเห็นแก่ตัวขอ<WBR>งนักการเมือง ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ของโ<WBR>ลกที่ไม่มีทางแก้ไข โลกนี้วุ่นวายแน่นอน นักการเมืองจะยังคงซื้อเสี<WBR>ยงเข้ามาเป็นใหญ่ต่อไปแน่น<WBR>อน เราจะได้คนเลวเข้ามาบริหาร<WBR>บ้านเมืองต่อไปอีกแน่นอน

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:12 AM
    yim (guest): แต่โชคดีที่เราไม่ต้องแก้ไ<WBR>ขปัญหาเหล่านี้ แต่เราต้องมีความรู้และอยู<WBR>่กับปัญหาเหล่านี้อย่างมีค<WBR>วามสุขตามสมควร ปัญหาที่จะเกิดขึ้นในปีนี้<WBR>คือปัญหาหนี้สินของรัฐบาลต<WBR>่างๆในโลกประชาธิปไตยทั่วโ<WBR>ลก รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยจ<WBR>อมปลอม ที่มีแต่นักการเมืองที่ชั่<WBR>วช้าสามานย์ซื้อเสียงเข้าม<WBR>าเป็นใหญ่

    [​IMG]
    [​IMG]

    Feb 10 2011, 1:12 AM
    yim (guest): จะทำลายล้างประเทศของตัวเอ<WBR>งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในที่สุดประเทศต่างๆก็จะต้<WBR>องเพิ่มอัตราดอกเบี้ย ประสบปัญหาเศรษฐกิจ อาหาร พลังงาน และทองคำจะเพิ่มค่าขึ้น

    [​IMG]
    [​IMG]

    Welcome!!
    ....."The Gold War phase II" by Jimmy Siri
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2011
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันพฤหัสบดีที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    EAS : Emergency Alert System


    ประเด็นนี้คงเป็นอีกประเด็นสำหรับท่านที่อาศัยอยู่ในสหรัฐจะต้องเฝ้าสังเกตุซักหน่อยครับ คือเรื่องการเปลี่ยนแปลงวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับสื่อในสหรัฐ โดยประกาศประธานาธิบดีที่ 10995 หรือที่เรียกว่า Executive Order no. 10995

    ช่วงนี้มีความเคลื่อนไหวแบบเงียบๆ เรื่องนี้ออกมาเพื่อ "เข้าเทคโอเวอร์สื่อ" โดยเฉพาะคลื่นวิทยุทั้งหมดทั่วประเทศ ผ่านทางการใช้ระบบ EAS หรือ Emergency Alert System ในลักษณะเดียวกับการประกาศของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ในช่วงที่มีการปฏิวัติรัฐประหารนั่นแหละครับ

    แต่ของสหรัฐครั้งนี้จะเข้าควบคุมทั้งหมดทั้งโทรทัศน์ วิทยุ อินเตอร์เน็ต หรือแม้แต่โทรศัพท์มือถือและการสื่อสารไร้สายต่างๆ
    คือจะเป็นในลักษณะของการส่งข้อความโดยตรงจากประธานาธิบดี เข้าไปยังสื่อดังกล่าวโดยผ่านระบบ EAS ใน "สภาวะฉุกเฉิน" เช่น การถูกโจมตีด้วยนิวเคลียร์ วิกฤติการณ์หรือสถานการณ์ฉุกเฉินใดๆ เป็นต้น

    ถ้าใครที่ยังพอจำที่ผมเเคยเขียนไว้ในบล๊อกเกี่ยวกับประเด็นนี้เมื่อนานมาแล้ว (นานจนกลับไปหาไม่เจอ) ว่าวันนึง NWO โดยรัฐบาลสหรัฐจะทำเรื่องนี้คือการเข้าคุมสื่อสารมวลชน โดยเฉพาะการจัดรายการวิทยุ จะเป็นเรื่องสุดท้ายที่เค้าจะทำ ก่อนที่จะ End Game หรือปิดเกมส์เพื่อเริ่มปฏิบัติการเพื่อนำไปสู่การจัดระเบียบโลกใหม่ หรือ New World Order ในอาจจะเริ่มในปีนี้และต่อเนื่องไปในปี 2012

    เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาทำเนียบขาวได้ออกคำสั่ง ปธน. ที่ 10995 เพื่อการนี้ ( ข้อมูลเพิ่มเติม Google : "Executive Order 10995" ) เนื้อแท้โดยจุดประสงค์ตรงนี้ก็เพื่อตัดระบบการสื่อสารเพื่อไม่ให้มีการต่อต้านรัฐบาลหรือในสถานการณ์ฉุกเฉินใดๆ ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งก็คงยากต่อการคาดเดาว่าคืออะไร แต่สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายกำลังเฝ้าดูก็คือการ "Crack" หรือการล่มของระบบเศรษฐกิจและภาคการเงินครั้งใหญ่อันเนื่องจากปัญหาหนี้สินทั้งระดับรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น(มลรัฐ)และเอกชน ปัญหาการว่างงาน การเสื่อมค่าของเงินดอลล่า ตัวอย่างหนึ่งก็คือสิ่งที่รัฐบาลอิยิปต์กำลังใช้วิธีนี้อยู่เช่นเดียวกัน

    ถ้าท่านได้อ่านสิ่งที่ผมเขียนมาโดยลำดับ จะสังเกตุได้ว่าหลายๆอย่างได้มีการวางแผนและถูกทำให้เป็นจริงอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ท่ามกลางความเสื่อมถอยและวิกฤติการณ์ทางเศรษฐกิจและการเงินครั้งร้ายแรงที่สหรัฐกำลังประสบอยู่ แต่จะเห็นได้ว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นไปตามระบบของกฏหมาย (แต่ขัดเจตนารมย์ของรัฐธรรมนูญ หรือ Amendment ต่างๆอย่างเห็นได้ชัด) โดยการเขียนและแก้กฏหมายต่างๆขึ้นมาใหม่ทั้งสิ้น จนถึงวันนี้ หลายๆอย่างก็ยิ่งชัดเจนขึ้นและเป็นไปตามที่ผมได้เคยนำเสนอไปแล้วนั่นเองครับ



    นอกจากสิ่งเหล่านี้ คือ 1)ภัยพิบัติร้ายแรงต่างๆในหลายๆมุมของโลก 2)เงินเฟ้อที่กำลังระบาดและกลายเป็นปัญหาของรัฐบาลทั่วโลก เนื่องจากนโยบาย QE ของสหรัฐ 3)ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนของเงินสกุลต่างๆ จากการเร่งพิมพ์เงินออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ จนรุกรามไปเป็นสงครามค่าเงินในที่สุด โดยเฉพาะคู่สำคัญคือจีนและสหรัฐ 4) ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะในหมวดอาหารที่กำลังสร้างปัญหาให้หลายๆประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนาและประเทศยากจนต่างๆ จนลุกลามไปเป็นการประท้วงขับไล่ผู้นำประเทศของตน 5)วิกฤติการณ์ในตะวันออกกลางที่กำลังรุกลามไปสู่ปัญหาราคาน้ำมัน และอาจจะขยายผลไปสู่ความขัดแย้งครั้งใหญ่ในตะวันออกกลาง ในประเด็นอิสราเอล 6)และหากวิกฤติการณ์นี้บานปลายจนส่งผลต่อราคาน้ำมันโลกก็จะยิ่งเป็นตัวเร่งให้ปัญหาทั้ง 5 ข้อข้างต้นหนักหน่วงและรุนแรงขึ้น 7)วิกฤติการณ์หนี้และการเงินของยุโรป ซึ่งมีข่าวใหญ่ที่ยังไม่แดงออกมาคือธนาคาร Amagerbanken ที่ใหญ่ติดอันดับระดับท๊อปเท็นของของฮอลแลนด์ โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 440 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นธนาคารที่เพิ่งผ่าน Stress Test ของกลุ่ม EU มาสดๆร้อนๆ จากการทดสอบไปเมื่อปลายปี ดังนั้นปัญหาของยุโรปตามมาคือภาคการเงินการธนาคารหรือ "แบ๊งค์ล้ม" ที่จะเริ่มมีปัญหาหนักในปีนี้ 8)สงครามย่อยใหญ่และสงครามย่อยๆ และปัญหาเชื้อชาติต่างๆที่สหรัฐจุดรอไว้แล้ว


    ส่วนที่เหลือก็คงต้องรอดูว่าปฏิบัติการ End Game หรือการปิดเกมส์ เพื่อจะนำไปสู่การทำ New World Order ในแขนงต่างๆ จะเริ่มจากตรงไหน เพราะตัวชนวนที่เค้าจะจุดแล้วให้ลุกลามเป็นไฟเผาผลาญเศรษฐกิจและโลกใบนี้ได้ มีอยู่เต็มไปหมด ณ เวลานี้ครับ


    <IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/I4ZdbiSLnv4?rel=0" frameBorder=0 width=500 height=311 allowfullscreen=""></IFRAME>

    ลิ๊งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
    1) FCC: Presidential emergency alerts to be tested
    2)EAS Pilot Digital Tests Prove Successful And Forecast A Greatly Enhanced Alert And Warning System For America

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=YRpfki7fJgQ"]3)ตัวอย่างของ EAS หรือ Emergency Alert System ในสหรัฐ [/ame]

    ลิ๊งค์สำหรับเฟสบุ๊ค :
    The Gold War Phase II.<WBR></WBR>.<WBR></WBR>.<WBR></WBR>by Jimmy Siri บน Facebook
    http://www.facebook.com/<WBR></WBR>home.php?sk=group_17040824<WBR></WBR>6326805&ap=1
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left></TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left>
    </TD><TD class=date vAlign=center align=left></TD></TR></TBODY></TABLE>

    โพสต์โดย What's going on in America
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 13:00
    ฝรั่งเศสเข้มรัฐมนตรีเที่ยวนอก

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ฝรั่งเศสกวดขันรมต.เที่ยวต่างประเทศ หลังมีข่าวนายกฯเที่ยวอียิปต์โดยมูบารักออกค่าใช้จ่าย
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>ประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซี่ของฝรั่งเศส แจ้งต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานแนะนำ
    ให้สมาชิกในคณะรัฐมนตรีเลือกไปเที่ยวพักผ่อนในประเทศ แทนการเที่ยวต่างประเทศ และ
    หากได้รับคำเชิญจากรัฐบาลต่างประเทศ ต้องยื่นเรื่องขออนุญาตจากนายกรัฐมนตรี และ
    หน่วยงานการทูตของประธานาธิบดีก่อน เพื่อพิจารณาว่าการเดินทางนั้นๆจะสอดคล้องกับ
    นโยบายต่างประเทศของฝรั่งเศสหรือไม่
    คำแถลงของผู้นำฝรั่งเศสมีขึ้นหลังสื่อรายงานพาดหัวข่าวเรื่องที่นายกรัฐมนตรีฟรังซัวส์ ฟิลยง
    พาครอบครัวไปพักผ่อนรีสอร์ท ริมแม่น้ำไนล์ในเมืองอัสวานของอียิปต์ช่วง 26 ธันวาคม 2553
    -2 มกราคม 2554 โดยประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และนางมีแชล
    แอลเยียต มารี รัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปเที่ยวพักผ่อนที่ตูนิเซียโดยโดยสารเครื่องบินเจ็ต
    ของนักธุรกิจตูนิเซียช่วงคริสต์มาสปีที่แล้ว และเชื่อกันว่านักธุรกิจคนนี้มีสายสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ
    ผู้นำเผด็จการตูนิเซียที่ถูกขับออกจากตำแหน่งเมื่อเร็วๆนี้
    ในขณะที่ปัจจุบันทั้งในอียิปต์และตูนิเซียกำลังมีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล และพรรคฝ่าย
    ค้านเรียกร้องให้ทั้งนายฟิลยง และนางแอลเยียต-มารี ลาออก
    นายซาร์โกซี บอกว่า สิ่งที่เคยเป็นเรื่องธรรมดาเมื่อหลายปีก่อนหากรัฐมนตรีเดินทางไปเที่ยวต่าง
    ประเทศซึ่งหลายครั้งใช้เงินภาษีของประชาชน แต่ปัจจุบันกลายเป็นเรื่องน่าตกใจ จึงต้องมี
    การควบคุมกวดขัดเข้มงวดขึ้น เพราะความคาดหวังของประชาชนมีมากขึ้น
    ก่อนหน้านี้ นายซาร์โกซีก็เคยถูกวิจารณ์อย่างหนักตอนที่เขาพาคาร์ล่า บรูนี่ ไปเที่ยวที่อิยิปต์ช่วง
    คริสต์มาสในปี 2550 ก่อนทั้งคู่จะเข้าพิธีแต่งงานกัน
    ด้านนายกรัฐมนตรีฟิลยง กล่าวหลังรับทราบระเบียบปฏิบัติใหม่ว่า ยินดีปฏิบัติตามพร้อมกับ
    บอกว่าจะมีการผลักดันกฎหมายใหม่ว่าด้วยเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในอีกหลายสัปดาห์หน้า

     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 12:36
    "ฮุนเซน" กร้าววางแผนระยะยาวต่อกรไทยกรณีพระวิหาร

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    ฮุน เซน บอกจะวางแผนระยะยาวเพื่อต่อกรกับไทยเรื่องปัญหาขัดแย้งปราสาทพระวิห
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT> เวบไซต์หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ของกัมพูชา รายงานว่า นายกรัฐมนตรีฮุน เซนได้กล่าว
    เมื่อวานถึงกรณีการยิงปะทะที่บริเวณชายแดนกัมพูชาและไทยว่า "นี่เป็นสงครามที่แท้จริง
    ไม่ใช่เหตุทหารปะทะกัน" และสงครามครั้งนี้ฝ่ายไทยเป็นผู้ก่อขึ้น ดังนั้นนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์
    เวชชาชีวะ จะต้องรับผิดชอบต่อการก่ออาชญากรรมสงครามครั้งนี้ นอกจากนี้ผู้นำกัมพูชา
    ยังระบุด้วยว่าการยิงปืนใหญ่ใส่ปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคิรีสวาระ ถือเป็น
    อาชญากรรมสงคราม
    ฮุน เซน ยังบอกด้วยว่า รัฐบาลจะต้องดำเนินการระยะยาว ไม่ใช่แค่ 1 วันหรือ 2 วันเพื่อยุติ
    ความขัดแย้งกรณีปราสาทพระวิหาร และจะวางแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวเพื่อต่อกรกับไทย
    ซึ่งการต่อกรไม่ใช่แค่หนึ่งวัน หนึ่งปี แต่ใช้เวลาหลายปี
    นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีฮุน เซน ยังย้ำข้อกล่าวหาที่ว่าทางการไทยใช้ระเบิดพวงในการ
    ปะทะกับทหารกัมพูชา พร้อมกับชี้ให้เห็นว่าเป็นสงครามที่แท้จริงเพราะมีการใช้อาวุธหนัก
    แต่กองทัพบกของไทยปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ และยืนยันว่าทหารไทยใช้เพียงอาวุธตามแบบ
    เท่านั้น ไม่ได้ใช้อาวุธที่ขัดกฎหมายหรือมาตรฐานระหว่างประเทศ
    ในวันเดียวกันนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ยังบอกด้วยว่า เขาได้พยายามผลักดันให้นายบัน คี-มุน
    เลขาธิการสหประชาติเพิ่มบทบาทของยูเอ็นในกรณีปะทะชายแดนกัมพูชาและไทยครั้งนี้
    โดยบอกว่าความขัดแย้งได้ผ่านพ้นจุดที่จะแก้ไขปัญหาระดับทวิภาคีไปแล้วและต้องการ
    ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดประชุมฉุกเฉิน ส่งทหารรักษาสันติภาพหรือ
    ผู้สังเกตการณ์เข้าไปยังกัมพูชา และกัมพูชายินดีถอยออกไปหากทหารยูเอ็นเข้ามาคุ้มครอง
    บริเวณปราสาทพระวิหาร
    นอกจากนี้ผู้นำกัมพูชา บอกด้ยว่า หากคณะมนตรีความมั่นคงเผชิญความลำบากใจในการ
    ประณามการกระทำของไทย ก็ควรมอบบทบาทการเจรจาไกล่เกลี่ยให้กับอาเซียนแทน

    "
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2554 10:52

    ซีเอฟอาร์วิเคราะห์การสู้รบไทย-กัมพูชา

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของสหรัฐ วิเคราะห์สถานการณ์สู้รบไทย-กัมพูชา
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT>สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (The Council on Foreign Relations ) หรือซีเอฟอาร์ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร ที่ได้ชื่อว่าเป็นคลังสมองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในด้านโยบายต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในวารสารที่ตีพิมพ์ราย 2 เดือนว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชา อันเนื่องมาจากข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ทำให้เกิดนองเลือดที่สุดในรอบทศวรรษ มีผู้เสียชีวิตไป 7 คน ในช่วงเวลาไม่กี่วัน ขณะที่ทหารของสองฝ่ายหลายสิบ
    นายได้รับบาดเจ็บ จากการยิงตอบโต้กันด้วยปืนไรเฟิลและกระสุนปืนใหญ่ของทหารทั้งสองฝ่าย
    ซีเอฟอาร์ มองว่า ประชาชนต้องมาสังเวยชีวิตไปกับข้อพิพาทเรื่องดินแดนแค่หยิบมือ และปราสาทที่สวยงาม สำหรับนักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่ พวกเขามองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่ความขัดแย้งนี้อาจกลายเป็นประเด็นสำคัญให้เกิดปัญหาใหญ่หลวงได้ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของไทย ถูกมองอำนาจในการควบคุมกองทัพที่เกื้อหนุนตำแหน่งของเขากำลังลดลงเรื่อย ๆ ในฝั่งของไทยนั้น ความขัดแย้งนี้ ถูกผลักดันพวกชาตินิยมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย หรือ พวกเสื้อเหลือง แต่การปฏิบัติหน้าที่ของทหารบริเวณแนวชายแดน มักจะดำเนินการโดยไม่ได้แจ้งตรงต่อนายกรัฐมนตรี หรือไม่ก็แจ้งหลังจากดำเนินการไปแล้ว
    ซีเอฟอาร์ มองว่า นี่คือส่วนหนึ่งของความวุ่นวายที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เป็นที่ทราบกันดีในประเทศไทยว่า กองทัพมีบทบาทในการทำให้รัฐบาลผสมเป็นรูปเป็นร่าง โดยให้นายอภิสิทธิ์ก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี แทนที่รัฐบาลสองชุดที่สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร หลังจากเขาหนีออกนอกประเทศ แต่ตอนนี้กำลังเกิดคำถามว่า นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์สามารถควบคุมกองทัพได้แค่ไหน ซึ่งมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ เมื่อเดือนเมษายน และพฤษภาคม
    ซีเอฟอาร์ ระบุด้วยว่า ยากจะจินตนาการได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่เมื่อไม่นานมานี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ออกมาปฏิเสธว่า กองทัพไม่มีแผนจะทำรัฐประหาร หลังจากเกิดข่าวลือแพร่สะพัดก่อนหน้านี้ แต่ซีเอฟอาร์ ได้สรุปส่งท้ายว่า ในช่วงไม่กี่วันก่อนจะเกิดรัฐประหารเมื่อปี 2549 กองทัพก็ปฏิเสธว่าไม่คิดจะทำรัฐประหารเช่นกัน

     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “มาร์ค” ปัดให้ฝรั่งเศสจุ้น ชี้ปลดชนวนพระวิหารมรดกโลกก็จบ ส่ง “สุวิทย์-อัษฎา” คุย UNESCO
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 15:07 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    “มาร์ค” ชี้ ไม่จำเป็นฝรั่งเศสขอจุ้น ชู ยูเอ็นอยากให้ 2 ชาติถกกัน ย้ำ ทบทวนขึ้นทะเบียนพระวิหาร หากปลดชนวนได้ก็จบ ส่ง “สุวิทย์-อัษฎา” แจงยูเนสโก ชี้ “กษิต” แฉตามรายงาน เชื่อ เขมรยกระดับ เพราะโดนกดดันจัดการพื้นที่ ยันแฉภาพพระวิหารเป็นประโยชน์ ถ้ายูเนสโกไม่ฟังค่อยว่ากัน

    วันนี้ (10 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ไม่เจรจากับไทย ว่า ตอนนี้เราได้แสดงท่าทีชัดเจน และข้อเท็จจริงกับผู้ที่เกี่ยวข้อง และตนมั่นใจว่า ทุกองค์กรที่มาติดตาม ก็สนับสนุนให้มีการเจรจากัน ส่วนกรณีที่ประเทศฝรั่งเศสจะมาเป็นตัวกลางในการเจรจานั้น คงยังไม่จำเป็น เพราะทางอาเซียนได้ทำหน้าที่ในการสนับสนุนให้มีการเจรจา และจากที่ได้ฟัง นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ตนเองมั่นใจว่า สหประชาชาติ ก็ต้องการให้มีการเจรจากัน

    เมื่อถามว่า การเสนอตัวของฝรั่งเศสในครั้งนี้ เป็นการสะท้อนหรือไม่ว่า ประเทศมหาอำนาจต้องการมีบทบาทในการบริหารจัดการพื้นที่บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร เพื่อประโยชน์ของตัวเอง จนมีปัญหา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าการเสนอตัวเข้ามาของฝรั่งเศสต้องการลักษณะอย่างไร แต่ถ้าต้องการแสดงความปรารถนาดี และให้มีการพูดคุยกันก็ไม่เป็นไร เมื่อถามว่า สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพราะต่างชาติต้องการเข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ จึงทำให้เรื่องบานปลาย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ที่ได้บอกกับทางสหประชาชาติให้ทบทวนดูปัญหาที่เกิดขึ้น และเชื่อว่า เหตุการณ์ และข้อเท็จจริงที่เสนอไปน่าจะทำให้ทุกฝ่ายมีความเข้าใจดีขึ้น

    เมื่อถามว่า นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตั้งข้อสังเกต การใช้อาวุธของทางกัมพูชา น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับหลายประเทศ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยมีรูปถ่าย และจะมีการติดตามในเรื่องนี้ต่อ ซึ่งในตนสัปดาห์นี้ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และ นายอัษฎา ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ก็จะเดินทางไปยังที่กรุงปารีส เพื่อที่จะไปชี้แจงคณะกรรมการยูเนสโก

    เมื่อถามว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ที่ นายกษิต ระบุว่า มีประเทศมหาอำนาจเข้ามาหนุนหลัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐมนตรีต่างประเทศ ถูกสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของประเทศต่างๆ ที่อยู่ในคณะมนตรีความมั่นคง โดยได้บอกว่า จากรายงานและที่วิเคราะห์จากที่ผ่านมาเป็นอย่างไร แต่ไทยก็เดินหน้าทำความเข้าใจกับทุกประเทศ

    เมื่อถามว่า สมเด็จฯ ฮุนเซน ออกมาระบุว่า ไม่ได้เป็นการปะทะ แต่เป็นการทำสงคราม และจะไม่คุยกับประเทศไทยอีกแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตรงกับสิ่งที่ตนเองได้พูดกับเลขาฯ สหประชาชาติ ว่า กัมพูชาต้องการยกระดับเรื่องดังกล่าว ทั้งที่จริงแล้วไม่ควรเกิดขึ้น และก็เกิดขึ้น เพราะมีแรงกดดันจากการเข้ามาจัดการพื้นที่ ซึ่งตนเองได้ชี้แจงในสภาไปแล้ว เมื่อถามว่า กัมพูชาระบุว่าต้องมีการให้ประเทศที่ 3 เข้า มาเจรจากับไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นความพยายามของทางกัมพูชา แต่เชื่อว่า หากประเทศต่างๆ เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว ก็จะบอกให้กลับมาคุยกันระหว่าง 2 ประเทศ เหมือนเดิม

    เมื่อถามว่า สิ่งที่จะผูกมัดให้กัมพูชาเข้าสู่ระบบทวิภาคี อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนคิดว่าสิ่งที่จะทำได้ คือ เมื่อประชาคมโลกได้เห็นข้อเท็จจริงทั้งหมด และเห็นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมีประเทศที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นเรื่องที่ปัญหาจะจบได้ในระดับทวิภาคี และตนคิดว่าถ้าช่องทางที่กัมพูชาพยายามที่จะฟ้องต่างประเทศ ทั้งที่ความเป็นจริงไทยไม่ได้เป็นฝ่ายดำเนินการก่อน เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏประเทศที่กัมพูชาไปฟ้องก็จะบอกเอง ว่า เรื่องดังกล่าวต้องจัดการกันเอง และอยู่ในอาเซียนด้วยกัน เพราะฉะนั้นอย่างน้อยที่สุดอาเซียนก็จะมีบทบาทในการสนับสนุนให้มีการเจรจา อย่างที่อาเซียนได้แถลงไปแล้ว

    เมื่อถามว่า จะมีการชี้แจงกับประเทศฝรั่งเศสที่เสนอตัวเข้ามาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้ทำความเข้าใจกับทุกประเทศอยู่แล้ว และตนเห็นว่า การชี้แจงในการประชุมสภาก็เป็นการยืนยันชัดเจนว่าไม่เฉพาะฝ่ายบริหารของไทย แต่ฝ่ายนิติบัญญัติของไทยก็สนับสนุนให้แก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และเห็นได้ชัดว่าไทยไม่มีความคิดหรือเจตนาที่จะไปรุกรานใคร แต่มีความจำเป็นในการปกป้องอธิปไตยของไทย ซึ่งการดำเนินงานในระดับทวิภาตี ที่ต้องทำงานร่วมกันทั้งฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ทุกฝ่ายก็จะเดินหน้าในการแก้ไขปัญหา

    เมื่อถามว่า มองดูแล้วว่าจะเป็นปัญหายืดเยื้อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่ประชาคมโลกที่จะให้เห็นข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วปลดชนวนที่เป็นแรงกดดัน ซึ่งชนวนสำคัญคือเรื่องมรดกโลก

    “ถ้ายูเนสโกปลดชนวนตรงนี้ ผมเชื่อว่า 2 ฝ่ายจะคุยกันได้ และไม่มีแรงกดดันเพราะอย่างไรผลประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศ ในการให้ประชาชนแนวชายแดนอยู่อย่างสงบสุข ผมมั่นใจว่าทั้ง 2 ฝ่ายก็ต้องการแบบนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิ.ย. แต่ควรจะได้มีการกระหนักถึงปัญหาที่ถูกสร้างขึ้นมา และมีบทบาทแก้ปัญหานั้น ตนเข้าใจว่าเลขาธิการสหประชาชาติได้พูดกับทางยูเนสโกบางแล้ว” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

    เมื่อถามว่า จะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะใช้วิธีไหนก็ได้ในการปลดล็อกแรงกดดันเกี่ยวกับการเสนอแผนการบริหารจัดการในเดือน มิ.ย.ต่อข้อถามว่า การส่งภาพถ่ายที่ทางกัมพูชายึดปราสาทพระวิหารเป็นฐานโจมตีทางทหาร จะเป็นประโยชน์ต่อไปมากน้อยแค่ไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นประโยชน์ เพราะคิดว่าการที่มีกองกำลังในปราสาทพระวิหารเป็นการยืนยันชัดแจ้งว่าไม่ได้ เป็นการดำเนินการตามเจตนารมณ์ความเป็นมรดกโลกแน่นอน

    เมื่อถามว่า ทางประเทศฝรั่งเศสต้องการเป็นตัวกลางในการเจรจาโดยจะนำแผนที่ฉบับที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้จัดทำมาใช้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มันไม่เกี่ยว แผนที่ไม่ได้มีประเด็นเลย ฝรั่งเศสจะมาบอกให้เราทำอะไรได้อย่างไร มันเป็นเรื่องของเราที่ต้องแก้ไขปัญหา ความจริงฝรั่งเศส ถ้าอยากจะช่วยก็ขอให้ไปบอกให้ยูเนสโก เพราะยูเนสโก มีสำนักงานอยู่ที่ปารีส เมื่อถามว่า จะทำอย่างไรให้เป็นแค่ปัญหาของระหว่าง 2 ประเทศ ไม่ให้ประเทศอื่นๆเข้ามาหาผลประโยชน์ตรงส่วนนี้จะทำให้ลุกลามมากขึ้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยังมั่นใจว่า อาเซียนกับสหประชาชาติ ได้แสดงท่าทีให้มีการเจรจา เดินหน้าสนับสนุนเจรจาต่อไป เมื่อถามว่า ถ้ายูเนสโกไม่ฟังเท่ากับเป็นเครื่องมือการล่าผลประโยชน์ของประเทศอื่นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ต้องมีการดำเนินการต่อไป

    Politics - Manager Online -
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “สุวิทย์” ลั่น กก.มรดกโลกไปปราสาทพระวิหาร ต้องได้รับการยินยอมจากไทย
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>10 กุมภาพันธ์ 2554 11:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    “สุวิทย์” เผย เตรียมข้อมูลชี้แจงผลกระทบหลังประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารต่อคณะกรรมการมรดกโลก เนื่องจากเขตแดนไม่ชัดเจน ทำ 2 ประเทศขัดแย้ง ชี้หากคณะกรรมการมรดกโลกจะลงพื้นที่ตรวจสอบปราสาทพระวิหาร ต้องได้รับความยินยอมจากไทยด้วยเพื่อความเป็นธรรม

    นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลและนัดหมายไปชี้แจงทำความเข้าใจกับคณะกรรมการมรดกโลกประเด็นข้อพิพาทกรณีปราสาทเขาพระวิหาร ซึ่งเบื้องต้นกระทรวงการต่างประเทศได้ทำหนังสือชี้แจงไปแล้ว โดยยอมรับว่า ผลกระทบตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เกิดจากการที่คณะกรรมการมรดกโลกประกาศขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก โดยไม่เป็นไปตามสัญญาและเงื่อนไข เนื่องจากเขตแดนไม่มีความชัดเจน และไม่มีแผนบริหารจัดการรอบพื้นที่ ซึ่งปราสาทพระวิหารอยู่บนชายแดนจะต้องได้รับความเห็นชอบกับประเทศที่มีชายแดนติดกันก่อน

    ส่วนกรณีที่คณะกรรมการมรดกโลกจะไปตรวจสอบความเสียหายของปราสาทพระวิหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นั้น นายสุวิทย์ เห็นว่า ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการก็ได้เคยลงพื้นที่ตรวจสอบและสื่อต่างชาติก็มีการนำเสนอออกไปแล้ว แต่หากจะมีการลงพื้นที่อีกครั้ง ก็จะต้องได้รับความยินยอมจากประเทศไทยด้วย เพื่อป้องกันข้อครหาว่ามีการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรม ขณะที่การประชุมคณะกรรมการมรดกโลกในเดือนมิถุนายน ก็ยังจะมีการประชุมตามปกติ ไม่ได้ถูกเลื่อนตามที่มีกระแสข่าว

    http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9540000018014
     

แชร์หน้านี้

Loading...