เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหรัฐฯส่งความเสียใจ-เสนอมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยใต้

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 05:29 น.

    [​IMG]

    ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แสดงถึงความแรงของกระแสน้ำที่ไหลบ่าท่วมหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง


    เอเอฟพี - นางฮิลลารี คลินตัน เป็นตัวแทนประธานาธิบดีบารัค โอบามาและประชาชนสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(7) แสดงความเสียใจต่อเหตุอุทกภัยร้ายแรงทางภาคใต้ของไทยที่คร่าชีวิตชาวบ้านไปหลายสิบคน พร้อมระบุสถานทูตอเมริกาประจำกรุงเทพฯ เสนอมอบความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย

    "ในนามของประธานาธิบดี(บารัค)โอบามาและประชาชนแห่งสหรัฐฯ ดิฉันขอแสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนคนไทย ที่ต้องสูญเสียชีวิตและได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้" คลินตัน กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

    น้ำสูงกว่า 1 เมตรไหลบ่าเข้าท่วมหลายพื้นที่ทางภาคใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ระหว่างที่อุทกภัยซึ่งเกิดจากฝนหลงฤดูได้ท่วมบ้านเรือนราษฎรและย่านธุรกิจสำคัญ ในช่วงเวลาที่ควรเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี

    ประชาชนชาว 9,000 คน ต้องอพยพออกจากหลายพื้นที่ซึ่งเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ตามเกาะต่างๆในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ซึ่งทางกองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือนำตัวขึ้นฝั่งแล้วเมื่อวันพุธ(6)และวันพฤหัสบดี(7)

    ทั้งนี้นางคลินตัน กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและกองทัพเรือไทย "สำหรับความช่วยเหลือต่อพลเมืองสหรัฐฯในพื้นที่ระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมขอร่วมเป็นกำลังใจและสวดมนต์ภาวนาแก่ประเทศไทยอันเป็นเพื่อนและพันธมิตรที่ยาวนานและทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้"

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000044056
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหรัฐฯส่งความเสียใจ-เสนอมอบความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยใต้

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 05:29 น.

    [​IMG]

    ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา แสดงถึงความแรงของกระแสน้ำที่ไหลบ่าท่วมหมู่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดตรัง


    เอเอฟพี - นางฮิลลารี คลินตัน เป็นตัวแทนประธานาธิบดีบารัค โอบามาและประชาชนสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี(7) แสดงความเสียใจต่อเหตุอุทกภัยร้ายแรงทางภาคใต้ของไทยที่คร่าชีวิตชาวบ้านไปหลายสิบคน พร้อมระบุสถานทูตอเมริกาประจำกรุงเทพฯ เสนอมอบความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัย

    "ในนามของประธานาธิบดี(บารัค)โอบามาและประชาชนแห่งสหรัฐฯ ดิฉันขอแสดงความเสียใจและเห็นใจอย่างสุดซึ้งต่อประชาชนคนไทย ที่ต้องสูญเสียชีวิตและได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในภาคใต้" คลินตัน กล่าวในถ้อยแถลงที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

    น้ำสูงกว่า 1 เมตรไหลบ่าเข้าท่วมหลายพื้นที่ทางภาคใต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ราย ระหว่างที่อุทกภัยซึ่งเกิดจากฝนหลงฤดูได้ท่วมบ้านเรือนราษฎรและย่านธุรกิจสำคัญ ในช่วงเวลาที่ควรเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดของปี

    ประชาชนชาว 9,000 คน ต้องอพยพออกจากหลายพื้นที่ซึ่งเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงนักท่องเที่ยวที่ติดอยู่ตามเกาะต่างๆในอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ซึ่งทางกองทัพเรือได้ให้ความช่วยเหลือนำตัวขึ้นฝั่งแล้วเมื่อวันพุธ(6)และวันพฤหัสบดี(7)

    ทั้งนี้นางคลินตัน กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยและกองทัพเรือไทย "สำหรับความช่วยเหลือต่อพลเมืองสหรัฐฯในพื้นที่ระหว่างช่วงเวลาที่ยากลำบาก พร้อมขอร่วมเป็นกำลังใจและสวดมนต์ภาวนาแก่ประเทศไทยอันเป็นเพื่อนและพันธมิตรที่ยาวนานและทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อันเลวร้ายนี้"

    Around the World - Manager Online -
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “ม.ชั้นนำเกาหลีใต้” เลิกวิธีคิดค่าเทอมตามเกรดเฉลี่ย หลัง นศ.ฆ่าตัวตาย 4 ราย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 13:51 น.

    [​IMG]




    ซูห์ นัม เปียว อธิการบดีสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงเกาหลี แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และประกาศยกเลิกนโยบายดังกล่าว





    เอเอฟพี - มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำของเกาหลีใต้เตรียมยกเลิกนโยบายจัดเก็บค่าธรรมเนียมตามผลการเรียน หลังนักศึกษแบกรับความเคร่งเครียดไม่ไหว ตัดสินใจฆ่าตัวตายไปแล้ว 4 รายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

    เหตุการณ์ที่นักศึกษา 4 คนฆ่าตัวตายตั้งแต่เดือนมกราคม โดยมี 2 รายเพิ่งเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความโกรธแค้นต่อสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงเกาหลี (เคเอไอเอสที)

    ผู้เสียชีวิตรายล่าสุดเป็นนักศึกษาวัย 19 ปี เขากระโดดลงมาจากอพาร์ตเมนต์ในเมืองอินชอน วานนี้ (8) หนึ่งวันหลังจากส่งจดหมายลาให้กับทางคณะที่กำลังศึกษาอยู่

    ทั้งนี้ สถาบันเคเอไอเอสทีก่อตั้งขึ้นเพื่อผลิตนักวิทยาศาตร์ และผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีระดับโลกให้กับเกาหลีใต้มานานกว่า 40 ปี โดยซูห์ นัม เปียว อธิการบดีสถาบันแห่งนี้ตัดสินใจประกาศใช้นโนบายคิดค่าเทอมให้สอดคล้องกับผลการเรียน เพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาทำงานหนักขึ้น เมื่อปี 2007

    นักศึกษาที่ได้ผลการเรียนโดยเฉลี่ยเกิน 3.0 จะได้รับสิทธิชำระค่าเทอมเพียงบางส่วน ขณะที่นักศึกษาเกรดเฉลี่ยต่ำว่า 2.0 จะต้องเสียค่าเทอมเต็มจำนวน เป็นเงิน 7.5 ล้านวอน (ประมาณ 200,000 บาท) ต่อหนึ่งเทอม ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาเรียน 6 เดือน

    ระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการศึกษาดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไม่ยุติธรรมต่อนักเรียนที่มาจากโรงเรียนอาชีวศึกษา หรือโรงเรียนที่ไม่มีชื่เสียงมากนัก เนื่องจากเด็กนักเรียนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเตรียมตัวรับมือกับวิชายากๆ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษในการสอน

    เรื่องดังกล่าวแดงขึ้นมาเมื่อเดือนมกราคม โดยนักศึกษาวัย 19 ปีคนหนึ่ง ซึ่งได้รับฉายาว่า “อัจฉริยะหุ่นยนต์” จากพรสวรรค์ในการประกอบหุ่นยนต์ ตัดสินใจฆ่าตัวตาย โดยกล่าวตัดพ้อถึงความเครียดหนักหนาสาหัสจากการเรียน

    ผู้เสียชีวิตรายนี้เข้าเรียนที่โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่ง ก่อนได้รับคัดเลือกเข้าสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงเกาหลีแห่งนี้ หลังจากชนะเลิศการแข่งขันประกอบหุ่นยนต์หลายรายการ อย่างไรก็ตาม เขาประสบความยากลำบากในการเรียน และต้องจ่ายค่าเทอมเต็มอัตรา เนื่องจากได้เกรดเฉลี่ยต่ำกว่าเกณฑ์

    กระแสต่อต้านนโยบายดังกล่าวของสถาบันเคเอไอเอสทีเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้อธิการบดีของมหาวิทยาลัยออกมาแถลงแสดงความเสียใจวานนี้ (8) และให้คำมั่นว่าจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการศึกษาเสียใหม่ โดยระบุว่า จะยกเลิกระบบการจัดเก็บค่าเล่าเรียนตามเกรดเฉลี่ยตั้งแต่เทอมหน้าไปต้นไป

    Around the World - Manager Online -
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พลเรือน-นักรบกบฏหนีกระเจิง ทหารกัดดาฟีรุกคืบจ่อคอหอย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 00:28 น.

    [​IMG]

    นักรบฝ่ายกบฏและพลเรือนหลายพันคนหลบหนีออกจากอัจดาบิยาะห์


    เอเอฟพี - นักรบฝ่ายกบฏและพลเรือนหลายพันคนหลบหนีออกจากอัจดาบิยะห์เมื่อวันพฤหัสบดี(7) ท่ามกลางข่าวลือว่ากองกำลังของกัดดาฟีกำลังโจมตีรุกคืบมายังเมืองสำคัญทางตะวันออกของประเทศแห่งนี้

    ประชาชนหลายครอบครัวแออัดอยู่บนรถยนต์และรถบรรทุก พากันอพยพอย่างตื่นตระหนกไปพร้อมกับยานยนต์ทางทหารซึ่งบรรทุกเครื่องยิงจรวดและปืนกล มุ่งหน้าไปยังตะวันออกเฉียงเหนือ สู่เมืองเบงกาซี ป้อมปราการของฝ่ายกบฏ ที่อยู่ห่างออกไปราว 160 กิโลเมตร

    กองกำลังของฝ่ายกบฏยึดเมืองอัจดาบิยะห์ เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา หนึ่งสัปดาห์หลังชาติตะวันตกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศและยิงขีปนาวุธร่อนถล่มทหารฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟี จนล่าถอยออกไปจากประตูเมืองเบนกาซี ตามอาณัติของสหประชาชาติเพื่อปกป้องพลเมืองในลิเบีย

    ทว่าหลังจากรุกคืบขยับเข้ามาจ่อซีราเต เมืองบ้านเกิดของ กัดดาฟี ในรัศมีเพียง 60 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นับตั้งแต่นั้นนักรบกบฏกลับถูกตอบโต้อย่างหนัก จนต้องล่าถอยไปกว่า 400 กิโลเมตร แม้ได้แรงสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรตะวันตกก็ตาม

    เหตุปะทะติดหล่มอยู่รอบบรีกา เมืองแหล่งน้ำมันสำคัญนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ ทว่าจนกระทั่งเมื่อวันพุธ(6) ทหารฝ่ายภักดีต่อกัดดาฟี ก็รุกไล่จนฝ่ายกบฏต้องล่าถอยไปปักหลักก่อนถึงเมืองอัจดาบิยะห์ราว 40 กิโลเมตรเท่านั้น

    การรุกคืบของฝ่ายกัดดาฟีมีขึ้นขณะที่นาโต ต้องเผชิญกับแรงกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางข้อครหาดำเนินการล่าช้าและปล่อยให้กองกำลังของรัฐบาลลิเบียสังหารประชาชน โดยเมื่อวันพุธ(6) นายพล อับดุล ฟัตตาห์ ยูนิส ผู้บัญชาการฝ่ายต่อต้านลิเบีย ตำหนินาโตว่าล้มเหลวสำหรับการปกป้องพลเมืองในมิสราตา

    ขณะเดียวกันเมื่อวันพฤหัสบดี(7) อังกฤษ หนึ่งในกองกำลังของนาโต ถูกรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของลิเบียฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟี กล่าวหาว่าทิ้งระเบิดโจมตีแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองอัลซารีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันพุธ (7) ที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตามทางนาโต ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ โดยระบุว่าต้นตอของเหตุระเบิดของแหล่งน้ำมันแห่งนี้ น่าจะมาจากเหตุปะทะประปรายระหว่างฝ่ายกบฏกับทหารของกัดดาฟีมากกว่า

    Around the World - Manager Online -
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    'จีบักโบ'สู้ไม่ยอมแพ้ที่โกตดิวัวร์ ฝรั่งเศสส่งฮ.ไปช่วยชีวิตทูตญี่ปุ่น

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2554 23:32 น.

    [​IMG]

    กองกำลังภักดีต่อ อลาสซาเน ออตตารา ผู้เรียกร้องเก้าอี้ประธานาธิบดีโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) ตามสิทธิอันชอบธรรม วางกำลังปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีและที่พำนักของโลรองต์ จีบักโบ วันพฤหัสบดี (7) หลังความพยายามในการบีบบังคับให้เขาออกจากบังเกอร์ยังไม่เป็นผล


    เอเจนซี/เอเอฟพี - กองกำลังภักดีต่อ อลาสซาเน ออตตารา ผู้เรียกร้องเก้าอี้ประธานาธิบดีโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) ตามสิทธิอันชอบธรรม วางกำลังปิดล้อมทำเนียบประธานาธิบดีและที่พำนักของโลรองต์ จีบักโบ วันพฤหัสบดี (7) หลังความพยายามในการบีบบังคับให้เขาออกจากบังเกอร์ยังไม่เป็นผล เนื่องจากถูกตอบโต้กลับอย่างหนักหน่วง ขณะเดียวกัน กองทหารฝรั่งเศสและยูเอ็นประสบความสำเร็จในการใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าช่วยเหลือเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ออกมาบ้านพักที่อยู่ในบริเวณนั้น ซึ่งถูกกองกำลังฝ่ายจีบักโบยึดเอาไว้

    การสู้รบในเมืองอาบีจาน เมืองหลวงเก่าและเมืองใหญ่ที่สุดของโกตดิวัวร์ยังคงดำเนินต่อไป ขณะกองกำลังฝ่ายออตตาราพยายามลิดรอนอำนาจจากจีบักโบ ผู้ปฏิเสธการถ่ายโอนตำแหน่งประธานาธิบดี หลังพ่ายแพ้การเลือกตั้งแก่ออตตารา ซึ่งองค์การสหประชาชาติให้การรับรอง

    กำลังพลของจีบักโบยังคงลาดตระเวนไปตามถนนเส้นต่างๆ ในบริเวณแถบนั้น และได้บุกรุกเข้าไปถึงที่พำนักของโยชิฟูมิ โอกามูระ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำโกตดิวัวร์ เมื่อช่วงคืนวันพุธ (6) บีบบังคับให้เขาและเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่นอีก 7 คนต้องหลบซ่อนตัวในห้องนิรภัย ก่อนที่กองกำลังของฝรั่งเศสและกองกำลังสหประชาชาติในโกตดิวัวร์ (ยูเอ็นโอซีไอ) สามารถช่วยชีวิตทั้งหมดออกมาได้โดยเฮลิคอปเตอร์ สื่อญี่ปุ่นรายงาน

    ทั้งนี้ นักรบผู้สวามิภักดิ์ต่อออตตารา พยายามบุกทะลวงฐานที่มั่นของจีบักโบในโกโกดี ย่านบ้านพักของผู้มีอันจะกินในเมืองอาบีจาน ตั้งแต่ช่วงเช้าวันพุธ (6) หลังการเจรจาที่มีฝรั่งเศสและยูเอ็นเป็นหัวเรือใหญ่คว้าน้ำเหลวในการเสนอความคุ้มครองการสละตำแหน่งต่อจีบักโบ แต่ปรากฏว่ากองกำลังฝ่ายออตตาราได้ถูกฝ่ายจีบักโบใช้อาวุธหนักโจมตีกลับ จนต้องถอยร่นออกมา นักการทูตชาติตะวันตกซึ่งอาศัยในบริเวณข้างเคียง เปิดเผย

    ฝรั่งเศสในฐานะอดีตเจ้าอาณานิคมของโกตดิวัวร์รับบทบาทสำคัญในการเจรจา เพื่อโน้มน้าวให้จีบักโบยอมถ่ายโอนอำนาจให้กับออตตารา และยุติความขัดแย้งจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2010 อย่างไรก็ตาม โฆษกของยูเอ็นในนครนิวยอร์กผู้หนึ่งย้ำว่า การเจรจากับฝ่ายจีบักโบยังคงเดินหน้าต่อไป แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะลงเอยอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจีบักโบได้ประกาศผ่านสถานีวิทยุของฝรั่งเศสด้วยตัวเองว่า ไม่มีความประสงค์จะสละอำนาจ

    วันพฤหัสบดี (7) รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส เกราร์ด ลองเกต์ เปิดเผยถึงจำนวนกองกำลังที่หลงเหลืออยู่ในเมืองอาบีจานของ จีบักโบ ว่า มีไม่เกิน 1,000 คน ในจำนวนนี้มีประมาณ 200 คนประจำการอยู่ภายในที่พำนักของเขา โดยระหว่างแถลงต่อสมาชิกรัฐสภาฝรั่สเศส ลองเกต์ระบุว่า “ในเมืองอาบีจาน มีกองกำลังยูเอ็นโอซีไอประมาณ 2,250 คน จากทั้งหมด 10,000 คนทั่วไอเวอรีโคสต์ ฝรั่งเศสก็ได้เพิ่มกำลังของหน่วยลิกอร์น (Licorne) เป็น 1,700 คน ส่วนกำลังพลต่างๆ ของออตตารามีประมาณ 2,000 คน”

    ชาวเมืองอาบีจานซึ่งอยู่ในย่านโกโกดีต้องเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้านพักโดยไม่มีไฟฟ้าและน้ำประปามาเป็นเวลาหลายวัน ขณะการสู้รบเพื่อโค่นจีบักโบ ปะทุขึ้นโดยรอบ มีเพียงผู้กล้าบ้าบิ่นเท่านั้นจึงสามารถออกจากบ้าน ท่ามกลางห่ากระสุนและระเบิด เพื่อหาข้าวของจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ผู้คนจำนวนมากกำลังประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร และยังไม่มั่นใจถึงสถานการณ์รอบตัว เนื่องจากเครือข่ายของวิทยุและโทรทัศน์ไม่สามารถใช้การได้

    ก่อนหน้านี้ เฮลิคอปเตอร์ภายใต้ฐานบัญชาการของกองกำลังสหประชาชาติในโกตดิวัวร์ (ยูเอ็นโอซีไอ) ได้ทิ้งระเบิดถล่มคลังแสงอาวุธหนักของจีบักโบเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งคลังอาวุธใกล้กับที่พำนักของเขา อย่างไรก็ตามการโจมตีระลอกนั้นยุติลงเมื่อวันอังคาร (5)

    นักวิเคราะห์มองว่า กองกำลังของออตตารา ซึ่งได้ยึดครองเมืองต่างๆ ทางใต้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนยกพลเข้าเมืองอาบีจาน จะสามารถปราบปรามกองกำลังและการ์ดพิทักษ์ประธานาธิบดีของจีบักโบได้สำเร็จในที่สุด

    โลรองต์ จีบักโบปกครองโกตดิวัวร์มาตั้งแต่ปี 2002 เขาเคยประณามฝรั่งเศสว่า ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏทางตอนเหนือของประเทศระหว่างสงครามกลางเมืองเมื่อ 2002-03 อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มกบฏจากสงครามคราวนั้นได้กลายเป็นกำลังสำคัญให้กับออตตาราในคราวนี้
    Around the World - Manager Online - '
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาวประมงไต้หวันจับได้ “ปลาแผ่นดินไหว” ...!

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 11:39 น.

    [​IMG]
    ภาพคนงานในตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ โชว์ ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือที่ตามความเชื่อโบราณเรียก “ปลาแผ่นดินไหว” ลำตัวยาว 3.5 เมตร (ภาพ “จงซินหวั่ง”)


    สื่อจีน สำนักข่าวกลางแห่งจีน หรือ จงซินหวั่ง รายงาน ชาวประมงแซ่เซี่ยจับปลาหวงไต้อี๋ว์ได้ที่บริเวณชายฝั่งจู๋หนัน ไต้หวัน ปลาหวงไต้อี๋ว์หรือชื่อสากล คือ “ราชาแห่งปลาเฮอริง (皇带鱼/King of herrings)” ยังมีชื่อตามความเชื่อโบราณว่าเป็น “ปลาแผ่นดินไหว”

    นายเซี่ย จับปลาหวงไต้อี๋ว์ตัวนี้ได้เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ความยาวตัวปลา 3.5 เมตร น้ำหนักราว 15 กิโลกรัม เมื่อจับปลาฯได้ นายเซี่ยก็นำปลาไปประมูลขายที่ตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ ตำบลจู๋หนัน

    เจ้าของภัตตาคารแห่งหนึ่ง นาย เซี่ย เซิงเฟิง เล่าตำนานว่า ปลาหวงไต้อี๋ว ซึ่งโดยธรรมชาติเป็นปลาอาศัยในน้ำลึกใต้ท้องมหาสมุทร เมื่อเกิดแผ่นดินไหวหรือเกิดความเคลื่อนไหวผิดปกติทางธรณี มันจะตกใจและว่ายลี้ภัยมายังบริเวณน้ำตื้น ดังนั้น ชาวท้องถิ่นจึงเรียกปลาหวงไต้อี๋ว์ว่า “ปลาแผ่นดินไหว”

    การจับได้ปลาหวงไต้อี๋ว์บริเวณชายฝั่งที่น้ำตื้นเช่นนี้ จึงทำให้ชาวบ้านโจษจันกันไปต่างนานาว่า ปลาหวงไต้อี๋ว์ตกใจแผ่นดินไหวญี่ปุ่น หรือจะเป็นการลางร้ายแผ่นดินไหว กันแน่?

    อย่างไรก็ตาม นาย เซี่ยเซิงเฟิง บอกว่า “เจ้าปลาตัวนี้ เอามาแล่แจกเนื้อกินกันได้อย่างน้อย 100 คน”

    คลิกอ่าน พญานาคา (King of herrings)
    พญานาคา

    [​IMG]


    ภาพคนงานในตลาดท่าเรือหลงเฟิ่งอี๋ว์ โชว์ ปลาหวงไต้อี๋ว์ หรือที่ตามความเชื่อโบราณเรียก “ปลาแผ่นดินไหว” ลำตัวยาว 3.5 เมตร (ภาพ “จงซินหวั่ง”)
    [​IMG]

    "ปลาแผ่นดินไหว" บนเขียงยักษ์ (ภาพ “จงซินหวั่ง”)

    China - Manager Online -
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “ซินหวา” เผยโฉมเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน ลั่น "ฝัน 70 ปี ใกล้เป็นจริง"

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 8 เมษายน 2554 07:04 น.

    “ความฝัน 70 ปี สู่เรือบรรทุกเครื่องบินจีน ใกล้เป็นจริงแล้ว” บรรยายภาพซินหวาระบุ ใต้ภาพเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน ชื่อ Varyag เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kuznetsov ออกแบบโดยรัสเซีย (ภาพเอเจนซี)



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน “Varyag” อยู่ระหว่างการซ่อมสร้างที่ท่าเรือต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่ง “ซินหวา” ระบุว่าใกล้แล้วเสร็จและจะทดสอบในทะเลภายในปีนี้ (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน “Varyag” อยู่ระหว่างการซ่อมสร้างที่ท่าเรือต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่ง “ซินหวา” ระบุว่าใกล้แล้วเสร็จและจะทดสอบในทะเลภายในปีนี้ (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน “Varyag” อยู่ระหว่างการซ่อมสร้างที่ท่าเรือต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่ง “ซินหวา” ระบุว่าใกล้แล้วเสร็จและจะทดสอบในทะเลภายในปีนี้ (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน “Varyag” อยู่ระหว่างการซ่อมสร้างที่ท่าเรือต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่ง “ซินหวา” ระบุว่าใกล้แล้วเสร็จและจะทดสอบในทะเลภายในปีนี้ (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพเปรียบเทียบเรือบรรทุกเครื่องบิน Varyag ลำแรกของจีน (ภาพบน) กับ Nimitz Class Aircraft Carrier เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา (ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ภาพเปรียบเทียบเรือบรรทุกเครื่องบิน Varyag ลำแรกของจีน (ภาพบน) กับ Nimitz Class Aircraft Carrier เรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐอเมริกา(ภาพเอเจนซี)</TD></TR></TBODY></TABLE>


    เอเอสทีวีผู้จัดการออน์ไลน์/เอเจนซี-เรื่องเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนออกทดสอบในทะเล ได้เป็นข่าวฮือฮามาแล้วในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยเว็บไซต์ThaiArmedForced.com ได้นำภาพเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน พร้อมกับคลิปวีดิโอ ของ Youtube ที่ดึงมาจากคลิป “โยวคู่” (Youku) ของจีน มาแสดง พร้อมกับตั้งคำถาม ว่าจะเป็นภาพลวงหรือไม่?

    ล่าสุด สำนักข่าวซินหวา กระบอกเสียงเอกของรัฐบาลจีนรายงานข่าวในวันพุธ(6 เม.ย.) โดยพาดหัว “ความฝัน 70 ปี สู่เรือบรรทุกเครื่องบินจีน ใกล้เป็นจริงแล้ว” พร้อมเผยภาพเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรก ชื่อ Varyag จอดอยู่ที่ท่าเรือต้าเหลียน มณฑลเหลียวหนิง ซึ่งล้วนเป็นภาพความละเอียดสูงจำนวน 20 ภาพ มาให้ผู้อ่านทั่วโลกชมเป็นขวัญตา โดยบรรยายภาพว่า เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรก ที่กำลังซ่อม ใกล้แล้วเสร็จ และคาดว่าจะทดสอบในทะเลภายในปีนี้

    สื่อฮ่องกง เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ระบุว่า Varyag ลำนี้ เป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ชั้น Kuznetsov ออกแบบโดยรัสเซีย จีนได้ซื้อเรือฯลำนี้จากยูเครนในปี 2541

    “ความฝัน 70 ปี ในการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินจากฝีมือจีน จะเป็นจริงในเร็วๆนี้” บรรยายใต้ภาพชิ้นหนึ่งระบุ โดยอ้างถึงข้อเสนอเรือบรรทุกเครื่องบินของนาวีกั๋วหมินตั๋ง (หรือก๊กหมินตั๋ง) ในช่วงปี 2480

    ในบรรยายภาพอีกชิ้น ได้อ้างแหล่งข่าว Kanwa Asian Defence Monthly ในแคนาดา ยืนยันเรือบรรทุกเครื่องบินจะออกทดสอบในทะเลภายในปีนี้ เมื่อติดตั้งระบบเรดาร์เรียบร้อยแล้ว

    สำหรับเรือบรรทุกเครื่องบิน Varyag ต่อขึ้นในยุคสหภาพโซเวียต แต่สร้างได้ 60 เปอร์เซนต์ การก่อสร้างก็หยุดชะงักกลางคัน เนื่องจากสหภาพโซเวียดล่มสลายเมื่อปี 2534 และกรรมสิทธิสิทธิ์ได้ตกเป็นของยูเครนโดยปริยาย (เนื่องจากอู่ต่อเรืออยู่ในยูเครน) ต่อมา จีนได้ซื้อ Varyag และลากมาที่อู่ที่ต้าเหลียน เพื่อปรับปรุงใหม่ โดยมีวัตถุประสงค์ใช้ในการฝึกและเป็นต้นแบบในการต่อเรือในประเทศ

    Andrei Chang หัวหน้ากองบรรณาธิการ Kanwa ผู้ติดตามโครงการเรือบรรทุกเครื่องบินจีน มา 20 ปี กล่าวว่า ภาพของซินหวา แสดงอย่างชัดเจนถึงความคืบหน้าการซ่อมเรือบรรทุกเครื่องบิน ภาพเหล่านี้น่าจะมาจากเว็บไซต์อื่นๆของหน่วยการทหารแผ่นดินใหญ่ ที่รวบรวมภาพมาจากบรรดาพวกที่เรียกตัวเองว่า กูรูการทหารแผ่นดินใหญ่

    นับเป็นครั้งที้สองเป็นอย่างน้อย ที่สื่อรัฐบาลจีนได้อ้างแหล่งข่าวกูรูการทหารที่โพสต์บนอินเทอร์เน็ต และสื่อต่างแดนเพื่อยืนยันแผนการอาวุธใหม่ๆของจีน

    Chang ยังประมาณว่าเรือบรรทุกเครื่องบินยังต้องใช้เวลา 2 ปี ในการปฏิบัติการทดสอบในทะเล รวมทั้งทดลองระบบพลังงาน การเทียบท่า เป็นต้น และหลังจากเสร็จสิ้นการทดสอบในทะเลแล้ว ยังต้องใช้เวลาอีก 8 ปี ในการทดสอบระบบเรดาร์ และระบบอาวุธต่างๆ อาทิ เครื่องบินขับไล่ J-15 เครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า และระบบทำงานอื่นๆ แต่จีนจะมีฝูงบินประจำเรือฝูงแรกอย่างเป็นทางการใน 10 ปี เมื่อการทดสอบและทดลองทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว

    ในเดือนมี.ค. 2552 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมจีนได้บอกว่ารัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมแห่งญี่ปุ่น ว่าจีนจะไม่เป็นชาติอำนาจเพียงรายเดียวที่ไร้เรือบรรทุกเครื่องบินไปตลอด.

    China - Manager Online -
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2011
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 8 เมษายน 2554 01:00
    10 ข้อที่คนไทยควรเรียนรู้จากคน ญี่ปุ่นในการเผชิญวิกฤติแห่งชาติ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    มีคนส่งข้อความ “10 อย่างที่เราควรจะเรียนรู้จากญี่ปุ่น” จากวิกฤติที่เกิดขึ้นกับประเทศนั้นขณะนี้... ซึ่งหลายข้อตรงกับที่ผมได้สังเกตเอาไว้
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110330/r20110406/show_ads_impl.js"></SCRIPT> ตั้งแต่เกาะติดข่าวคราวแผ่นดินไหว สึนามิ และอุบัติเหตุที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ตามมา
    เป็นบทเรียนและตัวอย่างแห่ง “บุคลิกของผู้คน” ประจำชาติที่จะสะท้อนออกมาอย่างเห็นได้ชัดแจ้ง ก็ในยามที่ประเทศชาติเผชิญกับความร้ายแรง และประชาชนในชาติจะแสดงออกในลักษณะคล้ายกัน เพื่อร่วมกันฟันฝ่าให้พ้นความหายนะร่วมกันเช่นนั้น
    ไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนในชาติจะร่วมกันแสดงออกซึ่งความอดทน เสียสละ กล้าหาญ และความห่วงหาอาทรต่อกันในยามที่สัญชาตญาณมนุษย์บอกให้ทุกคน “เอาตัวรอดก่อน” เป็นปฐม
    แต่มีคนรวบรวม “สิบลักษณะ” ที่น่าชื่นชมของคนญี่ปุ่นที่ปรากฏให้เห็นกันอย่างเด่นชัดในครั้งนี้ ที่คนไทยควรจะศึกษาเรียนรู้และนำมาปฏิบัติในฐานะ “เพื่อนร่วมชาติ ร่วมทุกข์ ร่วมสุข” อย่างที่ญี่ปุ่นได้แสดงให้เห็น
    สิบคุณลักษณะพิเศษที่ว่านี้คือ
    1. ความสงบนิ่ง ไม่แสดงออกถึงความเศร้าโศกโศกาในที่สาธารณะเกินเหตุ ความทุกข์ระทมได้รับการยกระดับให้เป็นคนนิ่งเฉยและความอึดแทน
    2. ความสง่างาม...ผู้คนเข้าคิวรอน้ำและอาหารอย่างเป็นระเบียบ ไม่มีการพูดจาก้าวร้าวใส่กัน ไม่มีท่าทีแห่งความหยาบคายให้แก่กัน ทั้งๆ ที่ต่างคนต่างก็เครียดทั้งนั้น
    3.ความสามารถ...สถาปัตยกรรมที่พิสูจน์ว่าสามารถรับแผ่นดินไหวรุนแรงได้...แม้ตึกจะโอนเอียง แต่ไม่ถล่มยับเยินในหลายๆ จุด
    4. ความเอื้ออาทรต่อกัน...ทุกคนซื้อสินค้าเฉพาะที่จำเป็นสำหรับตนในขณะนั้น...เพื่อว่าจะได้แบ่งปันให้ทุกคนทุกครอบครัวสามารถซื้อหาด้วยกันได้
    5. ระเบียบวินัยสุดยอด...ไม่มีการปล้นสะดมร้านค้า ไม่มีการบีบแตรใส่กันกลางถนน...มีแต่ความเข้าใจซึ่งกันและกันว่าทุกคนล้วนมีความทุกข์โศกเหมือนกัน
    6. ความเสียสละ...คนงาน 50 คนของโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ประกาศทำงานต่อไปแม้จะเสี่ยงภัยยิ่ง เพื่อจะได้ปั๊มน้ำจากทะเลใส่เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์...คนญี่ปุ่นทั่วประเทศจะตอบแทนพวกเขาได้อย่างไร?

    7. ความโอบอ้อมอารีต่อกัน...ร้านอาหารต่างก็ลดราคาให้ลูกค้าในยามวิกฤติ ตู้เอทีเอ็มไม่ต้องมียามพิเศษมาเฝ้า คนแข็งแรงกว่าดูแลคนอ่อนแอ
    8. การฝึกฝนคนในสังคมอย่างพร้อมเพรียง...ไม่ว่าจะเป็นคนชราหรือเด็ก...ทุกคนต่างรู้ว่าในยามเกิดภัยธรรมชาตินั้น แต่ละคนจะต้องทำอะไรบ้าง...และทุกคนก็ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างถูกต้อง แม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่ง
    9. สื่อสารมวลชน...ได้แสดงถึงความรับผิดชอบและการรายงานข่าวอย่างสร้างสรรค์ เพื่อช่วยเหลือทุกคนในสังคมให้ข้ามพ้นวิกฤตินี้ ไม่มีการแสวงหาข่าวหวือหวาเกินเหตุ ไม่มีภาพศพคนตาย ไม่มีการออกข่าวลือที่สร้างความตื่นตระหนก...ในยามบ้านเมืองวิกฤติ คนข่าวของเขาทำหน้าที่อย่างรอบด้าน รับผิดชอบและอุดมไปด้วยความเมตตาและกรุณา
    10. ความสำนึกร่วมกันของคนในสังคม...เมื่อไฟดับในร้านขายของร้านหนึ่ง ลูกค้าทั้งหลายต่างพากันเอาของใส่กลับไปที่ชั้นวางของ และออกจากร้านอย่างเรียบร้อย
    เราน่าจะถามตัวเองว่าคุณสมบัติสิบข้อนี้ คนไทยเราหากเผชิญวิกฤติรุนแรงจริงๆ จะสามารถแสดงออกได้กี่ข้อ?
    บอกตรงๆ ผมไม่กล้าทำนาย
    10
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 8 เมษายน 2554 01:00
    แม้ชาวอามิชก็ต้องคิดหนัก

    โดย : ดร.ไสว บุญมา

    [​IMG]

    สื่อที่เสนอการถล่มของเขาพนมในจังหวัดกระบี่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสรุปกันว่า การทำลายป่าเพื่อทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันบนพื้นที่ลาดชัน
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110330/r20110406/show_ads_impl.js"></SCRIPT>เป็นปัจจัยที่ทำให้มันเกิดขึ้น ยังผลให้นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ของภาคใต้โต้แย้งทันทีว่า สวนยางพาราและปาล์มน้ำมันจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาถ้าฝนไม่ตกลงมาเป็นเวลาหลายวัน การโต้แย้งเช่นนั้นเข้าใจได้ไม่ยาก เนื่องจากนักการเมืองผู้นั้นอยู่ในกระบวนการทำลายป่า เพื่อทำสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันมานมนานแล้ว อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่จะเสนอในวันนี้ไม่ได้อยู่ที่ใครผิดใครถูก หรือใครเลวใครดี หากอยู่ที่ความจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ซึ่งนำไปสู่ปรากฏการณ์ที่เห็นกันอยู่

    การปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่วางอยู่บนฐานของการคิดว่าเศรษฐกิจจะต้องขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานสังคมต่างๆ พากันผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัวต่อไปเพราะปัจจัยสองอย่าง คือ จำนวนคนที่เพิ่มขึ้นและทุกคนต้องการบริโภคเพิ่มขึ้น (การบริโภคในที่นี้มีความหมายครอบคลุมไปถึงการใช้ทรัพยากรทุกอย่าง ไม่เฉพาะการส่งสิ่งต่างๆ เข้าปากเท่านั้น) ยางพาราและปาล์มน้ำมันต้องการที่ดินซึ่งส่วนหนึ่งได้มาจากการถางป่า ซึ่งไม่น่าจะทำเพราะปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งความเสี่ยงต่อการถล่มของดินเมื่อฝนตกหนัก

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คอลัมน์นี้อ้างถึงการศึกษาเรื่องการทำลายป่าซึ่งนำไปสู่ความล่มสลายของอาณาจักรโบราณ วันนี้ขอชี้ว่ากระบวนการเดียวกันยังกำลังเกิดขึ้น ผู้ที่ได้อ่านหนังสือ หรือดูภาพยนตร์ของอดีตประธานาธิบดีอเมริกัน อัล กอร์ เรื่อง "An Inconvenient Truth" อาจจำภาพเกาะฮิสปันโยลาที่แนบมานี้ได้ ส่วนตะวันตกของเกาะเป็นประเทศเฮติและส่วนตะวันออกเป็นสาธารณะโดมินิกัน เขาต้องการแสดงให้เห็นว่า เฮติทำลายป่าจนเตียนหมดจึงล่มสลาย ส่วนโดมิกันรักษาป่าไว้จึงอยู่ได้อย่างมั่นคง

    อันที่จริง อัล กอร์ ไม่ใช่คนแรกที่นำภาพนั้นมาแสดง เพื่อชี้ให้เห็นประเด็นการล่มสลายของเฮติ ศาสตราจารย์จาเรด ไดอะมอนด์ ทำมาก่อนแล้วในหนังสือชื่อ "Collapse" หรือ "ล่มสลาย" ซึ่งคอลัมน์นี้อ้างถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากจะศึกษาเรื่องการทำลายป่าซึ่งนำไปสู่ความล่มสลายแล้ว ศาสตราจารย์ไดอะมอนด์ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าการรักษาป่า ทำให้สังคมก้าวหน้าอย่างไรซึ่งคอลัมน์นี้ได้เคยอ้างถึงแล้วเช่นกัน นั่นคือ ญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกในเอเชียที่พัฒนาได้ก้าวหน้าทัดเทียมกับฝรั่ง เพราะการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ได้วางอยู่บนฐานของการทำลายป่า เพื่อนำที่ดินมาปลูกพืชกันขนานใหญ่ ในขณะนี้ ราว 74% ของพื้นที่ของญี่ปุ่นจึงยังเป็นป่า

    อนึ่ง อาจเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่าในอเมริกาอันเป็นศูนย์กลางของการผลักดันให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้นแบบสุดโต่งนั้น มีชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งซึ่งดำเนินชีวิตแบบทวนกระแสมานานชื่อ "อามิช" ชาวอามิชยังผลิตและบริโภคในแนวที่พวกเขาทำกันมาตั้งแต่ครั้งโลกยังไม่มีเครื่องจักรกล ฉะนั้น พวกเขาไม่ใช่เครื่องยนต์ หากยังใช้ม้าลากไถและไปไหนมาไหนด้วยรถม้า ไม่ใช่ไฟฟ้าและโทรศัพท์ในบ้าน บริโภคบนฐานของความจำเป็นเบื้องต้น พึ่งตนเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่มุ่งแสวงหาความร่ำรวยและช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในชุมชน ในขณะนี้ มีผู้สนใจศึกษาแนวคิดและการดำเนินชีวิตของชาวอามิชเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมองว่ามันน่าจะป้องกันมิให้โลกล่มสลายได้เป็นอย่างดี

    ในฐานะที่ได้ศึกษาวิถีชีวิตของชาวอามิชมาเป็นเวลานาน ขอยืนยันว่าชาวอามิชดำรงชีวิตได้ไม่ด้อยกว่าชาวอเมริกันโดยทั่วไปแม้จะไม่ใช้เทคโนโลยีร่วมสมัยและไม่ร่ำรวยระดับเศรษฐี แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งซึ่งชาวอามิชก็จะต้องคิดอย่างหนัก คือ การมีลูกมากเนื่องจากไม่มีการควบคุมการเกิดของประชากร ด้วยเหตุนี้ ชาวอามิชจึงต้องขยายชุมชนไปตั้งตามถิ่นต่างๆ อย่างต่อเนื่องและทำลายป่า เพื่อนำที่ดินมาทำเกษตรกรรมเพิ่มขึ้น นอกจากการทำลายป่าแล้ว ชาวอามิชยังมักทำลายสิ่งแวดล้อมสำคัญอีกด้านหนึ่งด้วย ทั้งนี้ เพราะมูลสัตว์ที่พวกเขาเลี้ยงจำนวนมากมักไหลลงไปในแหล่งน้ำ จนทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรง

    ฉะนั้น วิถีชีวิตของชาวอามิชที่น่าจะนำมาคิดเลียนแบบควรจะอยู่ที่การจำกัดการบริโภคของแต่ละคนให้อยู่บนฐานของความจำเป็น พึ่งตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ไม่มุ่งแสวงหาความร่ำรวยและช่วยเหลือซึ่งกันและกันภายในชุมชน แต่ไม่เลียนแบบการมีลูกหลายคนจนนำไปสู่การทำลายป่าและสิ่งแวดล้อม

     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 7 เมษายน 2554 08:15
    ฮันนีมูนระทึกขวัญ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สามีภรรยาชาวสวีเดนเจอภัยพิบัติใหญ่ 6 ครั้ง ระหว่างควงคู่ฮันนีมูนนาน 4 เดือน
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110330/r20110406/show_ads_impl.js"></SCRIPT>สเตฟาน และเอริกา สวานสตรอม สามีภรรยาชาวสวีเดน ออกเดินทางดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์พร้อมลูกสาววัยแบเบาะ เมื่อวันที่ 6 ธ.ค.ปีที่แล้ว แต่กลับต้องติดแหงกอยู่ที่มิวนิค เยอรมนี เนื่องจากเกิดพายุหิมะครั้งรุนแรงที่สุดในยุโรป
    หลังจากนั้น เมื่อทั้งสามเดินทางถึงออสเตรเลีย ก็ต้องผจญกับพายุไซโคลนที่เมืองแคนส์ น้ำท่วมใหญ่ที่บริสเบน และไฟป่าที่เพิร์ธ
    ก่อนที่ครอบครัวสวานสตรอมจะเดินทางถึงนิวซีแลนด์ ก็เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ไครสเชิร์ช
    เมื่อถึงญี่ปุ่น ครอบครัวนี้ก็ยังเจอแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงอีก โดย สเตฟาน ผู้เป็นสามี เคยผ่านสึนามิในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี 2547 มาแล้วด้วย
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791


    หวังว่าเค้าจะไม่อยากมาฮันนิมูนเมืองไทยนะ :boo:
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 6 เมษายน 2554 13:23
    โจลีในตูนิเซีย

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    แองเจลีนา โจลี ดาราืชื่อดังและทูตสันถวไมตรียูเอ็น เดินทางไปเยี่ยมค่ายผู้อพยพชายแดนลิเบีย-ตูนิเซีย

     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาติตะวันตกร่วมสันนิบาติอาหรับประชุมจัดการอนาคตลิเบียสัปดาห์หน้า

    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 10:07:13


    สำนักข่าวมุสลิมไทย ชาติตะวันตกร่วมสันนิบาติอาหรับประชุมจัดการอนาคตลิเบียสัปดาห์หน้า

    ข่าวเอเจนซี่ – มีการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ต่างประเทศอังกฤษเมื่อวันพฤหัส (07/04) ว่า จะมีการจัดประชุมขึ้นครั้งแรกระหว่างอังกฤษ สหรัฐ และประเทศพันธมิตรจากตะวันออกกลาง ในวันพุธสัปดาห์หน้าที่ประเทศกาต้าร์ เพื่อกำหนดบทบาทขั้นตอนของนานาชาติในการเข้าแทรกแซงลิเบีย
    [​IMG]

    เจ้าหน้าที่ด้านต่างประเทศของอังกฤษยังไม่ได้ระบุว่า ใครจะได้รับเชิญเป็นตัวแทนของประเทศในกลุ่มนี้บ้าง แต่ได้ยืนยันว่าสหรัฐจะส่งตัวแทนมาร่วมการประชุม รวมทั้งตัวแทนจากสันนิบาตอาหรับด้วย

    กลุ่มดังกล่าวก่อตั้งขึ้นในระหว่างการประชุมสุดยอดในกรุงลอนดอนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อทำหน้าที่กำหนดวิถีของปฏิบัติการทางทหารของนาโต้ และการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ลิเบีย

    วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษแถลงในรัฐสภาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า การประชุมครั้งนี้จะช่วยผดุงเอกภาพของนานาชาติ นำไปสู่หนทางอย่างกว้างขวางเพื่อช่วยสนับสนุนอนาคตที่ดีขึ้นของประเทศลิเบียต่อไป

    ขณะนี้มีความเห็นว่า การเจรจาตามแผนสันติภาพกับกัดดาฟีไม่อยู่ในความสนใจของนานาชาติอีกต่อไปแล้ว ฝรั่งเศสกล่าวว่า ปัญหาที่นานาชาติสนใจคือ กัดดาฟีจะลงจากอำนาจได้อย่างไรมากกว่า - www.muslimthai.com

     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาวบ้านเลบานอนขว้างก้อนอิฐใส่ขบวนรถผู้แทนสหรัฐ

    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 10:03:22


    สำนักข่าวมุสลิมไทย ชาวบ้านเลบานอนขว้างก้อนอิฐใส่ขบวนรถผู้แทนสหรัฐ

    สำนักข่าวตะวันออกกลาง – เมื่อวันพฤหัส (07/04) ชาวบ้านในเลบานอนตอนใต้ชุมนุมกันตะโกนขับไล่เจ้าหน้าที่จากสถานทูตอเมริกาที่มาเป็นแขกของรัฐบาล นับเป็นครั้งที่ 2 ในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ที่เกิดเรื่องทำนองเดียวกันนี้ขึ้น

    [​IMG]


    เหตุเกิดขึ้นที่เมืองท่าไซดอน โดยมีผู้สนับสนุนฝ่ายซ้ายประมาณ 60 คนได้รวมตัวกันนอกที่ทำการรัฐบาลแสดงความไม่พอใจต่อคณะเจ้าหน้าที่สหรัฐ โดยกล่าวหาว่าสมคบคิดกับประเทศอิสราเอล รวมทั้งมีการขว้างขบวนรถเจ้าหน้าที่สหรัฐที่แล่นผ่าน

    เจ้าหน้าที่สหรัฐยืนยันว่ามีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นจริง โดยคณะดังกล่าวเป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่เดินทางมาสำรวจพื้นที่ ก่อนที่จะกำหนดการพบปะระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐ กับกองกำลังรักษาความมั่นคงในไซดอน อย่างไรก็ตาม ไม่มีการกล่าวถึงรายละเอียดในเรื่องนี้ แต่ได้ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ มีการขว้างก้อนหินและขวดแก้วใส่ขบวนรถเจ้าหน้าที่สหรัฐเป็นครั้งแรก โดยทหารจับกุมผู้ก่อเหตุได้จำนวน 3 คน

    เมื่อวันจันทร์ ทางการสหรัฐออกคำเตือนประชาชนในการไปท่องเที่ยวประเทศเลบานอน เนื่องจากสถานการณ์ไม่มีความปลอดภัยเพียงพอ เลบานอนใต้เป็นพื้นที่ที่มีกลุ่มชีอะฮฺฮิสบุลเลาะฮฺชุมนุมอยู่จำนวนมาก - www.muslimthai.com

     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นำเชชเนียส่งเสริมปกครองด้วยชาริอะฮฺ

    มุสลิมไทยดอทคอม : 7 เมย. 54 10:19:36


    สำนักข่าวมุสลิมไทย ผู้นำเชชเนียส่งเสริมปกครองด้วยชาริอะฮฺ

    ข่าวเอเจนซี่ – รัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำเชเชน ในเชชเนีย ซึ่งอยู่ในภูมิภาคคอเคซัสของรัสเซีย ได้ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำในพิธีฉลองที่จัดขึ้นอย่างใหญ่โต และการสรรเสริญที่เทียบเท่าระดับกษัตริย์

    [​IMG]


    พิธีดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองโกรซนี่ อันเป็นเมืองเอกของเขต และมีการถ่ายทอดออกอากาศสดทางโทรทัศน์เป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง

    ประธานาธิบดีดมิทรี่ เมดวีเดฟ ได้แต่งตั้งคาดีรอฟขึ้นรับตำแหน่งอีกครั้งหนึ่งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เขาได้กล่าวให้คำมั่นแก่ประชาชนว่า จะพยายามพัฒนาภูมิภาคนี้ให้เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่เจริญที่สุดของรัสเซีย และจบการปราศรัยด้วยคำว่า “อัลลอฮุอักบัร!” โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นในห้องประชุมใหญ่ที่มีทั้งผู้นำศาสนา และผู้นำในรัฐสภาจากมอสโคว์มาร่วมเป็นพยาน และประธานาธิบดีเมดวีเดฟ และนายกปูตินได้ส่งโทรเลขแสดงความยินดีมาก่อนหน้านี้ รวมทั้งประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก้ แห่งเบลารุส

    คาดีรอฟ วัย 34 ปี ขึ้นปกครองเชชเนียในปี พ.ศ. 2547 แทนบิดา อัคฮฺมัด คาดีรอฟ ซึ่งถูกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนสังหาร รัมซานถูกกลุ่มสิทธิ์กล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรม และการหายตัวของนักข่าว และสมาชิกกลุ่มเฝ้าระวังด้านสิทธิหลายคน

    นับตั้งแต่สหภาพรัสเซียล่มสลายในปี พ.ศ. 2534 รัฐบาลกลางได้ทำการต่อสู้ปราบปรามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในเชชเนียระหว่างปี 2537 – 2539 แต่หลังจากสงครามจบสิ้นลงในปี พ.ศ. 2543 กลุ่มกบฏกลับกระจายไปปฏิบัติการณ์ยังเขตอื่นๆ อาทิ ดาเกสถาน อินกูเชเตีย และคาบาร์ดิโน-บัลแกเรีย

    คาดีรอฟสนับสนุนการใช้กฎหมายชาริอะฮฺ แต่ก็กล่าวว่าเคารพกฎหมายหลักของรัสเซีย ปีที่ผ่านมามีกรณีที่ผู้หญิงเชเชนที่ไม่ได้คลุมศีรษะถูกจู่โจมขณะเดินอยู่บนถนน ทำให้ผู้หญิงหลายกลุ่มออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การบังคับให้ผู้หญิงคลุมศีรษะเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชน - www.muslimthai.com

     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กองทัพยันอียิปต์ไม่ปกครองแบบรัฐอิสลาม

    มุสลิมไทยดอทคอม : 7 เมย. 54 10:16:15


    สำนักข่าวมุสลิมไทย กองทัพยันอียิปต์ไม่ปกครองแบบรัฐอิสลาม

    ข่าวเอเจนซี่ – สำนักข่าวทางการ MENA ของอียิปต์ รายงานอ้างรองรัฐมนตรีป้องกันประเทศ มุฮัมมัด มุคต้าร์ อัล-เมลลา แห่งสภากองทัพสูงสุด ซึ่งกล่าวว่า รัฐบาลจะไม่ปล่อยให้กลุ่มหัวรุนแรงขึ้นมาปกครองอียิปต์ และอียิปต์จะไม่มีทางเปลี่ยนไปปกครองแบบอิหร่าน

    ในช่วงที่ผ่านมาหลังจากที่มุบารักลงจากอำนาจ กลุ่มภราดรภาพมุสลิมซึ่งเคยถูกมุบารักกดไว้ได้ออกมาเคลื่อนไหวมากขึ้น ทำให้เกิดความห่วงใยโดยหลายฝ่าย โดยเฉพาะประเทศตะวันตกซึ่งเกรงว่าจะมีการสถาปนาระบอบการปกครองแบบอิสลามขึ้นในอียิปต์

    แต่กลุ่มภราดรภาพเองได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะแสวงหาอำนาจเช่นนั้น - www.muslimthai.com

     
  17. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    เศรษฐกิจโปรตุเกสวิกฤติ รัฐบาลก้นร้อนขอกู้เงินยูโรโซน


    เมษายน 07, 2011


    [​IMG]


    โปรตุเกสกำลังเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจอย่างหนัก จนรัฐบาลต้องออกมาประกาศขอกู้เงินจากกลุ่มประเทศยูโรโซน
    เพื่อพยุงสถานะ ทางการเงินของประเทศให้อยู่รอด…
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ว่า นายโชเซ โซคราเตส นายกรัฐมนตรีโปรตุเกส
    ออกมาประกาศให้ประชาชนทราบว่า ขณะนี้ประเทศกำลังเผชิญพิษเศรษฐกิจอย่างหนัก
    รัฐบาลจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศยูโรโซน เป็นจำนวนเงินทั้ง สิ้น 8 หมื่นล้านยูโร
    เพื่อประคองสถานะการเงินของประเทศให้อยู่รอดการตัดสินใจขอรับความช่วยเหลือทางการเงิน
    ของรัฐบาลโปรตุเกสในครั้งนี้ ทำให้โปรตุเกสกลายเป็นชาติที่ 3 ต่อจากกรีซและสาธารณรัฐไอร์แลนด์
    ที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากกลุ่มยูโรโซน หลังหลายประเทศในภูมิภาคประสบภาวะหนี้สินล้นพ้นตัว
    และเกิดวิกฤติขาดดุลด้านงบประมาณอย่างหนัก

    นักวิเคราะห์ระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่สเปน และอิตาลี ซึ่งกำลังประสบปัญหาที่คล้ายคลึงกัน
    อาจต้องขอรับความช่วยเหลือจากยูโรโซนในอนาคตอันใกล้นี้เช่นกัน.

    เศรษฐกิจโปรตุเกสวิกฤติ รัฐบาลก้นร้อนขอกู้เงินยูโรโซน | ชาติตระการ Chattrakan
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ผู้แทน AU เผย “กัดดาฟี” รับแผนสันติภาพแก้วิกฤตลิเบีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2554 09:09 น.
    [​IMG]

    คณะผู้แทนสหภาพแอฟริกายืนสนทนากับ กัดดาฟี บริเวณหน้าเต็นท์เบดูอินของเขาใน บับ อัล-อาซีซียา วานนี้(10)


    เอเอฟพี - รัฐบาลพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ยอมรับแผนฟื้นฟูสันติภาพ ซึ่งสหภาพแอฟริกา(เอยู)นำเสนอเพื่อยุติความขัดแย้งทางในลิเบีย ประธานาธิบดี เจค็อป ซูมา แห่งแอฟริกาใต้เผยวานนี้(10)

    “คณะผู้แทนของ กัดดาฟี ยอมรับแผนการที่เรานำเสนอ” ซูมา แถลงต่อผู้สื่อข่าวสั้นๆ ที่ บับ อัล-อาซีซียา บ้านพักของ กัดดาฟี

    ซูมา กล่าวว่า จะออกแถลงการณ์เผยรายละเอียดของแผนสันติภาพให้สาธารณชนทราบภายหลัง โดยไม่ระบุว่าเมื่อใด

    “แถลงการณ์ของเราจะเรียกร้องให้ นาโต หยุดทิ้งระเบิดในลิเบีย เพื่อเปิดโอกาสให้มีการหยุดยิง”

    แม้ ซูมา จะติดภารกิจอื่นๆจนต้องเดินทางออกจากลิเบียเย็นวานนี้(10) แต่ผู้แทนสหภาพแอฟริกาคนอื่นๆยังคงพำนักอยู่ในกรุงตริโปลีตลอดทั้งคืน ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเมืองเบงกาซี เพื่อเสนอแผนสันติภาพแก่ผู้นำกลุ่มกบฎ

    อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ฝ่ายกบฎยังคงปฏิเสธแผนหยุดยิงทุกประเภท ที่ยังปล่อยให้ กัดดาฟี และบุตรชายครองอำนาจอยู่ได้

    นอกจาก ซูมา แล้ว คณะผู้แทนสหภาพแอฟริกายังประกอบด้วย อามาดู ทูมานี ตูเร ประธานาธิบดีมาลี, โมฮาเหม็ด อูลด์ อับเดล อาซิส ประธานาธิบดีมอริเตเนีย, เดนิส แซสซู นเกวสโซ ประธานาธิบดีคองโก และ เฮนรี ออร์เย็ม โอเค็ลโล รัฐมนตรีต่างประเทศยูกันดา ซึ่งเป็นผู้แทนของประธานาธิบดี โยเวรี มูเซเวนี

    เช้าวานนี้(10) คณะผู้เจรจาจากสหภาพแอฟริกาได้ถ่ายภาพร่วมกับ กัดดาฟี บริเวณนอกเต็นท์เบดูอินของเขา ซึ่งอยู่ใน บับ อัล-อาซีซียา

    ในการประชุมที่กรุงนูแอกชอตของมอริเตเนียเมื่อวันเสาร์(9) คณะผู้เจรจาได้ย้ำจุดประสงค์ของภารกิจครั้งนี้ ซึ่งต้องการ “ยุติความรุนแรงทุกชนิด”, นำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังลิเบีย และเปิดโอกาสให้รัฐบาลกับกลุ่มกบฎได้หันหน้าเจรจากัน

    [​IMG]

    ประธานาธิบดี เจค็อป ซูมา แห่งแอฟริกาใต้แถลงต่อผู้สื่อข่าว หลังการพบปะกับพันเอก มูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่บ้านพักของเขาในกรุงตริโปลี วานนี้(10)


    [​IMG]



    มูอัมมาร์ กัดดาฟี ทักทายประชาชนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม หลังหารือกับคณะผู้แทนสหภาพแอฟริกา วานนี้(10)

    Around the World - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    จีนตอกมะกัน “อย่ายุ่งเรื่องสิทธิมนุษยชนในจีน”

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2554 17:13 น.


    [​IMG]



    นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศมะกัน (ซ้าย) และนายหง เล่ย โฆษกต่างประเทศจีน (ขวา) (ภาพเอเยนซี)


    เอเอฟพี - จีนบอกมะกันว่า “อย่ามาแทรกแซงกิจการภายในของจีน” หลังจากที่นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศมะกันออกมาเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวนักเคลื่อนไหว ที่จีนเพิ่งจับตัวไปหลายสิบคน

    จีนไม่ยอมรับรายงานสำรวจด้านสิทธิมนุษยชนประจำปีของสหรัฐฯ ที่ระบุว่า “จีนเพิ่มการควบคุมนักเคลื่อนไหวขึ้นอีก พร้อมทั้งจำกัดเสรีภาพสื่อและสิทธิการเข้าถึงทางอินเทอร์เน็ต กอปรกับการปราบปรามกับทิเบตและซินเจียงอย่างหนัก”

    นายหง เล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันเสาร์ (9 เม.ย.) ว่า “สหรัฐฯ ควรหยุดพฤติกรรมก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่น ด้วยการใช้รายงานด้านสิทธิมนุษยชนมาเป็นเครื่องมือ”

    นางคลินตัน กล่าวเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ว่า “สิทธิมนุษยชนในจีนกำลังเลวร้ายลงเรื่อย ๆ เรา (สหรัฐฯและพันธมิตร) ยังคงกังวลเกี่ยวกับผลสำรวจในรายงานสิทธิมนุษยชนฯ ในจีน เนื่องจากตั้งแต่เดือนก.พ. ประชาชนหลายสิบคนรวมทั้งนักกฎหมายของประชาชน นักเขียน ศิลปิน ปัญญาชนและนักเคลื่อนไหวถูกกักตัวและคุมขัง”

    ฮิลลารี คลินตัน ยกกรณีของไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินปากกล้า ผู้มีส่วนช่วยออกแบบสนามกีฬาแห่งชาติเพื่อแข่งโอลิมปิกส์จีน 2008 หรือที่เรียกว่า “รังนก” ว่า เขาถูกกักตัวไปตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. แถมยังถูกตั้งข้อหา อาชญากรรมทางเศรษฐกิจด้วย

    นอกจากนั้น การประชุมเสวนาด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) ได้มีการแสดงความกังวลเกี่ยวกับการที่จีนปฏิบัติต่อนักเคลื่อนไหวและนักกฎหมาย พร้อมกับระบุว่า การใช้กำลังทำให้ผู้อื่นหายสาบสูญไปนั้น จัดเป็นอาชญากรรมตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ แสดงว่าจีนกำลังกระทำอาชญากรรมอยู่

    ทั้งนี้ จีนได้เตือนชาติทั้งหลายว่า อย่ามาแทรกแซงคดีของไอ้ เว่ยเว่ย จีนมักจะโกรธและรำคาญผลรายงานของกระทรวงการต่างประเทศมะกัน “สหรัฐฯ ก็มักจะแสดงความกังวลอยู่เสมอ ในเรื่องที่ต้องการจะประกาศให้โลกรู้”

    หง กล่าวว่า สหรัฐฯ ควรจะดูตัวเองเสียก่อน ก่อนที่จะมาทำตัวเป็น “นักเทศนา” สอนสั่งชาวบ้านเรื่องสิทธิมนุษยชน

    อย่างไรก็ตาม จอน ฮันท์สแมน ทูตมะกัน ก็เผยว่า “สหรัฐฯจะไม่หยุดสนับสนุนสิทธิมนุษยชน เพราะพวกเราเชื่อว่าเป็นพื้นฐานของเกียรติภูมิและความเป็นธรรมของมนุษยชาติ ดังนั้นทุกที่ควรมีสิทธิมนุษยชน”

    “ที่สหรัฐฯทำเช่นนี้ ไม่ใช่เพราะต่อต้านจีน ตรงกันข้ามเพราะเราเห็นคุณค่าในสัมพันธภาพของกันและกัน (จีน-มะกัน) ต่างหาก” ฮันท์สแมนทิ้งท้าย

    ภาพรณรงค์เรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัว ไอ้ เว่ยเว่ย ที่ลอนดอน

    [​IMG]

    ผู้ประท้วงคนหนึ่งสวมชุดกระต่ายเป็นสัญลักษณ์ปีกระต่ายจีน เข้าร่วมประท้วงเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัว ไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินวิจารณ์สังคมจีน ณ Tate Modern ในกลางกรุงลอนดอน 9 เม.ย. (ภาพเ อเอฟพี)



    [​IMG]


    ผู้ประท้วงแปะโปสเตอร์ไว้บนพื้น เพื่อประท้วงเรียกร้องให้ทางการจีนปล่อยตัว ไอ้ เว่ยเว่ย ศิลปินวิจารณ์สังคมจีน ณ Tate Modern ในกลางกรุงลอนดอน 9 เม.ย. (ภาพเ อเอฟพี)

    ความคิดเห็นที่ 4

    อิมามียะฮ์ เจอร์นัล : ดร.อาเฟีย ซิดดีกี เป็นชาวปากีสถาน เป็นนักประสาทวิทยาศาสตร์ ที่จบจากสถาบันเทคโนโลยีเมซซาชูเซส ถูกลับพาตัวจากการาจีเมื่อปี 2546 โดยเจ้าหน้าที่พิเศษของอเมริกาและแบล้ก วอเตอร์ พร้อมกับลูกสองคน วัย 7 ขวบ และ 19 เดือน

    เธอถูกคุมขังและ ทารุณกรรมอย่างโหดเHี้ยมเป็นเวลา 7 ปี ก่อนจะถูกตัดสินจำคุก 86 ปี ในข้อหาแย่งปืนจากผู้คุมคนหนึ่งแล้วยิงเจ้าหน้าที่ FBI

    การลักพาตัว ดร.ซิดดีกี และการปฏิบัติอย่างทารุณกับเธอ และการกักขังหน่วงเหนี่ยวเธอ มีพื้นฐานมาจากหลักฐานที่ได้มาโดยการทรมานเชคคอลิด มุฮัมมัด หนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 11 กันยาฯ ปี 2544 ผู้เชี่ยวชาญคนแล้วคนเล่า รวมทั้งอดีตเจ้าหน้าที่จาก FBI และ CIA ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คำสารภาพที่ได้จากการทรมานนั้นเป็นสิ่งที่ "ไม่สามารถยอมรับได้" เพราะบุคคลที่ถูกทรมานบ่อยครั้งจะพูดในสิ่งที่เขาหรือเธอคิดว่าจะหยุดการ ทรมานนั้นได้

    ผู้หญิงคนหนึ่งอาจ ถูกทรมานเป็นเวลาเจ็ดปี แล้วถูกตัดสินจำคุก 86 ปี เพราะเธอพยายามป้องกันตัวเองจากคนแปลกหน้าที่ลักพาตัวเธอ ซึ่งอาจทำให้อาชญากรที่ใจแข็งที่สุดต้องร้องไห้ได้ ไม่มีใครรู้ว่าลูกสองคนของ ดร.ซิดดีกี ที่ถูกลักพาตัวไปพร้อมกับเธออยู่ที่ไหน

    ถ้าจะเปรียบเทียบ การปฏิบัติต่อ ดร.ซิดดีกี กับทหารอเมริกาที่ข่มขื่นแล้วฆ่าผู้หญิงและเด็กๆ ชาวอิรักที่คุกอะบู กราอิบ ที่อื้อฉาวแล้วละก็ ความหลอกลวงของอเมริกากล่าวอ้างว่า พวกเขาเป็นแชมป์ในเรื่อง "สิทธิมนุษยชน" ก็คงจะเป็นหลักฐานที่ประจักษ์ชัดแจ้งแล้ว

    เซย์มัวร์ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งเปิดเผยว่า แหล่งข่าวในวุฒิสภาของสหรัฐฯ พูดถึงเรื่องวีดีโอเทป "น่าขยะแขยง" ที่แสดงภาพเด็กๆ อายุเพียง 13 ปี หวีดร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อทหารข่มขืนพวกเขา พวกทหารยังได้บันทึกเทปวีดิโอผู้หญิงที่ถูกข่มขืนเป็นกลุ่มอีกด้วย รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ทำลายวีดีโอเทปเหล่านั้นเพราะรู้ดียิ่งว่า ถ้าวีดิโอเหล่านี้ถูกเผยแพร่ออกไปชื่อเสียงของอเมริกาที่ยังเหลือลอยอยู่ เพียงน้อยนิดจะต้องจบเห่ การทำลายวีดิโอเทปและปกปิดอาชญากรรมเหล่านี้ พร้อมกับการตัดสินลงโทษพวกปีศาจที่ก่อคดีเหล่านั้นเพียงสถานเบา เป็นข้อพิสูจน์มากพอแล้วสำหรับความสองมาตรฐานของสหรัฐฯ

    บรรดาทหารที่ข่ม ขืน ทรมาน และฆ่าชาวอิรัก (รวมทั้งเด็กๆ อายุน้อย) ถูกตัดสินจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 10 ปี ในขณะที่ ดร.ซิดดีกีถูกทรมานอยู่เป็นเวลาถึง 7 ปี กลับถูกตัดสินจำคุก 86 ปี อาจจะมีการขังเดี่ยวสำหรับข้อหาพยายามยิงเจ้าหน้าที่ FBI ด้วย องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลกถือว่าการขังเดี่ยวเป็นการทรมานขั้นสูงสุด

    อีกครั้งหนึ่ง ชาวมุสลิมถูกทำให้สงสัยว่า "กระบวนการยุติธรรมของอเมริกา ถือว่า ความพยายามในการฆ่าเจ้าหน้าที่ FBI นั้น เป็นความผิดร้ายแรงกว่าการข่มขืนและฆ่าชนกลุ่มน้อยของอิรักหรือ?

    ได้ปรากฏแก่สายตา แล้วว่า กฎหมายของสหรัฐฯ นั้น ชีวิตของชาวอิรักคนหนึ่งไม่มีค่าเท่ากับชีวิตของชาวอเมริกา คนผู้หนึ่ง สามารถข่มขืนและฆ่าเด็กๆ ชาวอิรัก และได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระอยู่ถึง 10 ปี แต่ถ้าใครคนหนึ่งแม้แต่พยายามที่จะฆ่าชาวอเมริกันสักคนหนึ่ง เขาจะต้องไปใช้ชีวิตอยู่ในคอกขังเดี่ยว มันช่างชวนให้รำลึกไปถึงอาณาจักรโรมันและการปฏิบัติของ "ชาวบาบาเรียน" ก่อนที่มันจะค่อยๆ เสื่อมโทรมและในที่สุดก็ล่มสลายลง

    แล้วชาวอเมริกันยังจะสงสัยอีกหรือว่าทำไมคนทั้งโลกจึงเกลียดพวกเขา?
    IHU

    China - Manager Online -
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 11 เมษายน 2554 01:00
    กาแฟดำ
    อย่าถามว่าผมอยู่กับสีอะไร กรุณาถามว่าผมคิดอย่างไร

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    มูลนิธิเอเชียบอกว่าได้สำรวจความเห็นคนไทย 1,500 คนใน 27 จังหวัดเมื่อเดือนกันยายนและตุลาคมปีที่แล้ว และพบว่าร้อยละ 76%
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110330/r20110406/show_ads_impl.js"></SCRIPT> ไม่ใช่คนที่เรียกตัวเองว่า “เสื้อเหลือง” หรือ “เสื้อแดง”
    หรือพูดง่ายๆ ว่าผลสำรวจนี้บอกว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่ต้องการจะอยู่ในความขัดแย้ง ระหว่างคนใส่เสื้อคนละสี และคิดว่าตัวเองมีความเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน

    และผลสำรวจเดียวกันนี้บอกว่า สำหรับคนที่เชื่อว่าตัวเองยืนอยู่ข้างใดข้างหนึ่งนั้น 13.6% อ้างว่าสนับสนุน “เสื้อแดง” และ 10.3% อ้างว่าอยู่ฝ่าย “เสื้อเหลือง”

    การสอบถามความเห็นคนไทยของ Asia Foundation ครั้งนี้ (เขาบอกว่าครั้งนี้เป็นการสำรวจลักษณะนี้ครั้งที่สอง) สะท้อนความจริงมากน้อยแค่ไหน คุณในฐานะคนไทยย่อมจะบอกตัวเองได้

    เพราะถ้าท่านลองถามตัวเองว่ามี “สังกัด” สีไหนหรือเปล่า ก็น่าจะรู้คำตอบว่าวันนี้คนไทย “ส่วนใหญ่” เขาต้องการจะเรียกตัวเองว่าเป็นคนใส่เสื้อสีอะไรทางการเมืองหรือไม่?

    ผมถามหลายคนแล้วก็ได้รับคำตอบว่า ผลการสำรวจของมูลนิธิเอเชียเช่นว่าน่าจะจริง หรือไม่ก็จริงมากขึ้นทุกวัน เพราะคนไทยจำนวนไม่น้อยที่วันนี้เบื่อหน่ายความแตกแยก และการยัดเยียดให้คนนั้นคนนี้เป็นคนสีนั้นสีนี้

    เพราะเอาเข้าจริง ๆ แล้ว ถ้าจะให้ถามว่าคำว่า “สีเหลือง” กับ “สีแดง” ทางการเมืองมีความแตกต่างกันประเด็นอะไรบ้าง ก็คงจะได้รับคำตอบที่แตกต่างไปจากที่เคยรู้เคยเข้าใจกันเมื่อสองสามปีก่อน

    วันนี้ พอเอ่ยคำว่าใครอยู่สีอะไร คำถามที่ตามมาว่าจะไม่ใช่ “เขาหรือเธอมีความเชื่อทางการเมืองไม่เหมือนกันอย่างไร?”

    แต่คำถามจะเป็นว่า “เขาหรือเธอเชียร์ใคร?”

    ที่เคยเชื่อว่าเราอยู่สีนั้นสีนี้เพราะเรามีอุดมการณ์ทางการเมืองที่แตกต่างกัน ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคนละด้านกัน หรือจะผลักดันนโยบายที่ไม่เหมือนกัน เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติทั้งคู่...มาวันนี้ ก็มิได้เป็นเช่นนั้น

    เพราะพอเอ่ยว่าใครอยู่สีอะไร สิ่งที่ทำให้ผู้คนเห็นว่าความแตกต่างมีอยู่ก็เพียงว่าคนสีนี้ต้องการให้นายคนนี้เป็นนายกฯ ขณะที่อีกสีหนึ่งไม่ต้องการให้คนนี้กลับมาเป็นนายกฯ

    ไม่เกี่ยวกับการถกเถียงกันเพราะมีความเห็นในหลักการการเมืองที่แตกต่างกันแต่อย่างไร

    หรือถ้าหากมีความแตกต่างจริงในเนื้อหา ผมก็เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็ชักจะงงๆ ว่าตกลงสีไหนคือ “อนุรักษนิยม” และสีไหนคือ “เสรีนิยม” หรือสีไหนคือสีที่เรียกร้องให้มีความเปลี่ยนแปลง และสีไหนที่ไม่ต้องการให้มีความเปลี่ยนแปลง?

    หรือถ้าหากจะเชื่อว่าคนทั้งสองสีต้องการจะให้มีความเปลี่ยนแปลง คนไทยไม่น้อยก็ยังไม่เข้าใจว่าความเปลี่ยนแปลงของสองสีนี้แตกต่างกันตรงไหน?

    เพราะพอเอ่ยชื่อสีนี้ ก็จะเห็นหน้าของคนหนึ่งลอยขึ้นมา
    พอเอ่ยอีกสีหนึ่ง ก็จะเห็นหน้าของคนอีกคนหนึ่งลอยขึ้นมา

    มิใช่ปรัชญาการเมือง มิใช่หลักการปกครองประเทศ มิใช่ความแปลกแตกต่างทางหลักการของประชาธิปไตยที่แยกให้เห็นว่าคนสองสีนี้มีความแปลกแยกกัน

    หากแต่ยิ่งนานวันภาพที่ออกมาก็ยิ่งเป็นเรื่องว่า “ใครสู้กับใคร?” แทนที่จะเป็น “หลักการอะไรถกกับหลักการอะไร?”
    จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณจะเชื่อผลสำรวจชิ้นนี้ว่าคนไทยร้อยละ 76% ไม่เอาสีไหน แต่ต้องการจะถกแถลงประเด็นที่เป็นเนื้อหาแห่งการสร้างประเทศชาติให้มีสาระและทิศทางที่ชัดเจน และด้วยการเคารพในความเห็นที่แตกต่างของกันและกันมากกว่าการเผชิญหน้ากัน
    พูดอีกอย่างก็คือคนไทยกำลังเบื่อกับเรื่องแบ่งสีแบ่งค่าย... ต้องการจะนั่งลงพูดคุยกันเรื่อง ที่เป็นเนื้อหาของการแก้ปัญหาประเทศชาติมากกว่า
    อย่าถามว่าผมสีอะไร ให้ถามว่าผมคิดอย่างไร

     

แชร์หน้านี้

Loading...