เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ออสเตรเลียชวนทั่วโลกตั้งคณะรับมือภัยพิบัตินานาชาติ


    [​IMG]

    ซิดนีย์ 6 เม.ย.- นายเควิน รัดด์ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเรียกร้องรัฐบาลทั่วโลกตั้งคณะรับมือภัยพิบัติระหว่างประเทศหลังโลกเกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วมและไซโคลนต่อเนื่องหลายครั้ง

    นายรัดด์ กล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยนานาชาติระดมกำลังกันได้ช้าหลังเกิดแผ่นดินไหวไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์เดือนกุมภาพันธ์และแผ่นดินไหวญี่ปุ่นเดือนก่อน จำเป็นต้องปรับปรุงให้คล่องตัวมากกว่านี้ เพราะหากเกิดภัยพิบัติขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่หรือทั่วโลก เกิดความสูญเสียชีวิตจำนวนมาก โลกจะต้องการคณะทำงานชุดใหญ่และฉับไวซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าระบบความร่วมมือนานาชาติในปัจจุบันจะสามารถรับมือได้หรือไม่ โอกาสการรอดชีวิตจะลดลงอย่างมากเมื่อผ่าน 24 ชั่วโมงแรกหลังการเกิดภัยพิบัติ ดังนั้น จะต้องมีระบบที่สามารถระดมเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยจากประเทศอาสาสมัครได้ทันทีที่เกิดเหตุ

    รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเผยว่า เคยเสนอแนวคิดนี้ต่อสหประชาชาติ สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) และที่ประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกแล้ว เขากล่าวเรื่องนี้ระหว่างนำคณะนักการทูตนานาชาติตระเวนเยี่ยมพื้นที่ประสบไซโคลนในรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งมีบ้านเรือนหลายพันหลังถูกน้ำท่วม มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คนเมื่อต้นปี.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554


    สหรัฐเผชิญสภาพอากาศเลวร้าย มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 คน


    [​IMG]

    สหรัฐ 6 เม.ย.-พื้นที่ฝั่งตะวันตกของสหรัฐกำลังเผชิญกับสภาพอากาศเลวร้ายทั้งพายุ ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง

    พายุหลายลูก พัดถล่มพื้นที่ฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ทำให้เกิดฝนตกและลมพายุแรง รัฐที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคือรัฐเทนเนสซี ฟลอริดา และจอร์เจีย จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพราะอากาศเลวร้ายในพื้นที่ดังกล่าวแล้วอย่างน้อย 9 คน ในจำนวนนี้มีหลายรายที่เสียชีวิตเพราะถูกต้นไม้และเสาไฟฟ้าโค่นทับ ทั้งนี้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐยืนยันว่าตรวจพบสัญญาณการก่อตัวของพายุทอร์นาโดอย่างน้อย 8 ลูกที่เกิดขึ้นในรัฐหลายแห่ง.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554


    เกาหลีใต้เสนอจัดประชุมว่าด้วยภูเขาไฟครั้งใหม่กับเกาหลีเหนือ


    [​IMG]

    โซล 6 เม.ย.- เกาหลีใต้เสนอจัดการประชุมครั้งใหม่กับเกาหลีเหนือในวันนี้ เกี่ยวกับภัยคุกคามจากภูเขาไฟ นับเป็นความร่วมมือที่ไม่ค่อยเกิดขึ้น หลังเกิดการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองฝ่ายเป็นเวลาหลายเดือน

    นางลี จองจู โฆษกหญิงประจำกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้ยื่นข้อเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีเหนือว่า ควรจะพบปะหารือกันที่เมืองแคซองของเกาหลีเหนือในวันอังคารหน้า การยื่นข้อเสนอดังกล่าวมีขึ้น 1 สัปดาห์ หลังจากผู้เชี่ยวชาญจากเกาหลีทั้งสองฝ่ายเปิดประชุมครั้งแรกเกี่ยวกับความผิดปกติของภูเขาแพกดูในเมืองมุนซัน ซึ่งตั้งอยู่พรมแดนเกาหลีใต้ ภายหลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกันถึงความจำเป็นในงานวิจัยร่วม เพื่อศึกษาแนวโน้มที่เป็นอันตรายจากภูเขาดังกล่าว

    ทั้งนี้ การเปิดประชุมที่เมืองมุนซัน สะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิถล่มชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น และทำให้เกิดวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามมา.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554


    จังหวัดอิบะระกิงดทำประมงหลังจากตรวจพบปลาปนเปื้อนรังสี


    [​IMG]

    โตเกียว 6 เม.ย.-บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเครายงานว่า สหกรณ์ประมงส่วนใหญ่ในจังหวัดอิบะระกิของญี่ปุ่น งดกิจกรรมประมงทุกประเภท หลังจากตรวจพบว่าปลาขนาดเล็กที่จับได้นอกชายฝั่งจังหวัดแห่งนี้ ปนเปื้อนกัมมันตรังสีซีเซียมเกินกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด

    ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ มีรายงานว่าปลาไหลทรายจำนวน 1 กิโลกรัมซึ่งชาวประมงจับได้นอกชายฝั่งทางเหนือของจังหวัดอิบะระกิ ตรวจพบกัมมันตรังสีซีเซียมในปริมาณ 526 เบคเคอเรลส์ เกินกว่าค่าที่กฎหมายกำหนดให้มีไม่เกิน 500 เบคเคอเรลส์ ผลการตรวจดังกล่าวทำให้สมาพันธ์สหกรณ์ประมงจังหวัดอิบะระกิ ตัดสินใจสั่งงดการจับปลาดังกล่าว และให้สหกรณ์แต่ละแห่งเลือกตัดสินใจเองว่าจะงดการจับปลาชนิดอื่นด้วยหรือไม่

    เอ็นเอชเคได้ไปสำรวจสหกรณ์ประมงในจังหวัดแห่งนี้ พบว่า ส่วนใหญ่ตัดสินใจงดการจับปลาทุกชนิด เนื่องจากพ่อค้าปลาทั้งปลีกและส่ง ไม่ยอมรับซื้อปลา อีกทั้งราคาก็ถูกกดให้ตกต่ำไม่คุ้มกับต้นทุนค่าน้ำมันเรือประมง

    ประธานสมาพันธ์สหกรณ์ประมงจังหวัดอิบะระกิกล่าวว่า ชาวประมงไม่สามารถจับปลาในทะเลที่ปนเปื้อนรังสีได้ เขาเรียกร้องไปยังรัฐบาลและบริษัทเทปโกให้หยุดการรั่วไหลของน้ำที่ปนเปื้อนรังสีโดยเร็ว

    จังหวัดอิบะระกิตั้งอยู่ทางใต้ของจังหวัดฟูกุชิมะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ทำให้เกิดรังสีรั่วไหล.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554


    ญี่ปุ่นเตรียมอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ป้องกันการระเบิด


    [​IMG]

    โตเกียว 6 เม.ย.- บริษัทเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ กล่าวว่าจะอัดฉีดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในถังบรรจุเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ เพื่อป้องกันการระเบิดที่อาจจะเกิดขึ้น เนื่องจากการก่อตัวของก๊าซไฮโดรเจน

    เจ้าหน้าที่กำลังวิตกว่าก๊าซไฮโดรเจนที่ก่อตัวขึ้นในถังบรรจุเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์หมายเลข 1 จะเพิ่มขึ้นถึงระดับที่ทำปฏิกิริยารุนแรงกับก๊าซออกซิเจนกลายเป็นการระเบิด ดังนั้น จึงพิจารณาว่าจะอัดก๊าซไนโตรเจน ซึ่งเป็นก๊าซเฉื่อยเข้าไปในถังบรรจุเตาปฏิกรณ์แห่งนี้เพื่อให้แทนที่ก๊าซออกซิเจน จะได้ไม่ทำปฏิกิริยารุนแรงกับไฮโดรเจน

    สถานีโทรทัศน์ในญี่ปุ่นรายงานว่า การอัดก๊าซไนโตรเจนเข้าไปในถังบรรจุเตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 จะมีขึ้นในวันนี้.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554


    สหรัฐถอนเรือรบ 10 ลำออกจากภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในญี่ปุ่นแล้ว


    [​IMG]

    โตเกียว 6 เม.ย.- บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่นหรือเอ็นเอชเค รายงานว่ากองทัพสหรัฐได้ถอนกำลังเรือรบ 10 ลำออกจากภารกิจช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ผู้ประสบภัยพิบัติในญี่ปุ่นแล้ว

    ทั้งนี้ เรือบรรทุกเครื่องบินโรนัลด์ เรแกน และเรืออื่นๆ อีก 9 ลำได้ถอนตัวออกไปหลังจากที่ญี่ปุ่นสามารถฟื้นฟูถนนจำนวนมากกลับมาใช้งานได้ จึงไม่จำเป็นต้องใช้เรือรบเป็นฐานสำหรับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงสิ่งของไปยังพื้นที่ที่ถูกตัดขาดอีกต่อไป อย่างไรก็ดี ยังมีเรือรบสหรัฐอีก 4 ลำที่ประจำการอยู่ที่น่านน้ำใกล้เขตภัยพิบัติ ในจำนวนนี้ประกอบด้วยเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก 1 ลำ

    ในระหว่างที่วิกฤติเกิดขึ้นสูงสุด สหรัฐเคยส่งเรือรบมากที่สุดถึง 22 ลำ ทหารเกือบ 20,000 นายร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อีกทั้งส่งหน่วยทหารพิเศษประมาณ 150 นายไปยังโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ ที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวและสึนามิอีกด้วย กองทัพสหรัฐกล่าวว่า จะยังคงร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นในการให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อไป.-สำนักข่าวไทย

    วันพุธ ที่ 6 เม.ย. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net<!-- google_ad_section_end -->

    เครดิต คุณ เกษม http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1208
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พบแผ่นดินไหวญี่ปุ่นทำก้นทะเลเคลื่อน24เมตร

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2554 01:59 น.



    [​IMG]


    ภาพคลื่นแห่งน้ำวนระหว่างสึนามิซัดถล่มญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม


    เอเอฟพี - แรงเขย่าของแผ่นดินไหวรุนแรงที่สั่นสะเทือนญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว ทำก้นทะเลเคลื่อนตัวถึง 24 เมตร เจ้าหน้าที่ชายฝั่งแดนปลาดิบเปิดเผยเมื่อวันพุธ(6)

    จากการตรวจสอบด้วยระบบเซ็นเซอร์พบว่าส่วนหนึ่งของก้นทะเลได้แผ่ขยายจากจุดเดิมก่อนหน้าแผ่นดินไหวใต้ทะเลระดับ 9.0 ไปในทิศทางกึ่งกลางระหว่างทิศตะวันออกกับทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 24 เมตร

    ความเคลื่อนไหวใต้ทะเลครั้งนี้รุนแรงกว่าการเคลื่อนตัวบนพื้นดินใดๆนับ 4 เท่า โดยจุดที่พบมีการเคลื่อนตัวบนพื้นมากที่สุดคือพื้นที่บางส่วนบริเวณคาบสมุทรโอชิกะ ในอำเภอมิยางิ ซึ่งมีการเคลื่อนตัวของพื้นดิน 5.3 เมตร

    ก่อนหน้านี้สำนักธรณีวิทยาสหรัฐฯระบุเมื่อเดือนมีนาคมว่าแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวทำให้เกาะฮอนชู เคลื่อนตัวออกไปจากแนวเดิมราว 2.4 เมตร

    แผ่นดินไหวระดับ 9.0 อันนำมาซึ่งสึนามิยักษ์ล้างผลาญพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น นอกจากคร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมากแล้ว ยังก่อวิกฤตนิวเคลียร์ ณ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ

    ทั้งนี้ล่าสุดรายงานช่าวระบุว่าเท็ปโก บริษัทผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ดังกล่าว เตรียมมอบเงินชดเชยเบื้องต้นแก่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่พักอาศัยอยู่ใกล้โรงไฟฟ้า ครอบครัวละ 1 ล้านเยน(ประมาณ 3.5 แสนบาท)

    ธรณีพิโรธและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ก่อความเสียหายแก่ระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ณ โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ นำมาซึ่งเหตุระเบิดและไฟลุกไหม้ ปล่อยกลุ่มควันปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีลอยสู่อากาศ ขณะที่เดียวกันก็พบกัมมันตภาพรังสีปนเปื้อนในน้ำด้วย

    ประชาชนหลายพันคนในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าถูกอพยพออกมาสืบเนื่องจากความกังวลต่อกัมมตภาพรังสี ขณะที่คนอื่นๆที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียงได้รับคำแนะนำให้อยู่แต่ในบ้านและถ้าเป็นไปได้ก็ควรย้ายออกมา

    Around the World - Manager Online -
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    360 องศา:'สึนามิ'กระหน่ำซัด'ความหวัง'ของหนุ่มสาวญี่ปุ่น

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2554 04:00 น.


    [​IMG]



    ภัยพิบัติส่งผลต่อความหวังและแผนการในอนาคตของคนมากมายในญี่ปุ่น


    เอเอฟพี - สึนามิกวาดล้างไม่เพียงอาคารสถานที่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความฝันและแผนการสำหรับอนาคตของชาวแดนอาทิตย์อุทัย

    โฮนามิ ซูซูกิ เรียนจบไฮสกูลไม่นานก่อนคลื่นยักษ์ถาโถมใส่บ้าน

    ด้วยวัยเพียง 18 ปี หลายสิ่งในชีวิตยังรออยู่เบื้องหน้า และเด็กสาวเคยวางแผนว่าจะเข้าเรียนวิทยาลัยอาชีวศึกษาด้านศิลปะการทำอาหาร

    “ตอนนี้ฉันไม่คิดว่าจะทำแบบนั้นได้แล้ว ครอบครัวไม่มีกำลังจ่ายค่าเทอมให้ ฉันคงต้องหางานทำแทน แต่ยังหวังว่าน่าจะมีอะไรทำได้บ้างเกี่ยวกับอาหาร ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่นี่ไม่เหลืออะไรมากนัก”

    เพื่อนของเธอ ชิโรริ โฮโซยะ ต้องล้มเลิกแผนการเรียนต่อและเริ่มต้นหางานทำเช่นเดียวกัน แต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะได้งานเมื่อไหร่

    เพราะงานค่อนข้างหายาก หน่วยงานด้านแรงงานในสามจังหวัดที่ประสบภัยพิบัติหนักที่สุด ได้แก่ มิยางิ ฟูกูชิมะ และอิวะเตะ ได้รับคำร้องถึง 150 กรณีจากบริษัทและผู้จบการศึกษาเกี่ยวกับการยกเลิกการรับสมัครงานหรือเลื่อนการจ้างงาน

    “ในอดีต บริษัทต่างๆ มักลังเลที่จะว่าจ้างพนักงานใหม่เนื่องจากเศรษฐกิจถดถอย แต่ตอนนี้บางบริษัทถูกทำลายราบคาบ เป็นช่วงเวลายากลำบากอย่างมากสำหรับผู้จบการศึกษาใหม่” ยาสุโอะ ชิกูโกะ เจ้าหน้าที่จากแผนกแรงงานของจังหวัดอิวาเตะ กล่าว

    ซูซูกิและเพื่อนพยายามทำให้ตัวเองไม่ว่างนับจากบ้านถูกทำลายจากสึนามิ ทั้งคู่ไปช่วยงานที่ศูนย์อพยพที่ตั้งขึ้นในโรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น

    สิ่งที่คนมากมายอาจสูญเสียไปคือ ทางเลือกของชีวิตที่วันหนึ่งจะจบการศึกษาสูงๆ และนำไปสู่งานและรายได้ที่มั่นคง แต่สำหรับซูซูกิ เธอบอกว่า “เมื่อก่อนคุณคงไม่คิดแบบนี้หรอก แต่มาถึงเวลานี้สิ่งที่ฉันคิดก็คือ ฉันยังมีชีวิต ยังมีเพื่อนอยู่ นี่คือสิ่งสำคัญ”

    ในฮิกาชิมัตสึชิมะ อีกหนึ่งเมืองที่เสียหายรุนแรง เด็กที่จบจากโรงเรียนมัธยมปลายยาโมโตะ ไดนิ 146 คน ให้สัญญาว่าจะทำดีที่สุดเพื่อเริ่มต้นบทใหม่ของชีวิตที่ไร้ความแน่นอน

    “ภัยพิบัติครั้งนี้เปลี่ยนแปลงชีวิตเรา เราสูญเสียสิ่งต่างๆ มากมาย แต่เราก็ได้หลายอย่าง เราคิดว่าเราสามารถฝ่าฟันปัญหาในอนาคตจากสิ่งที่เราได้เรียนรู้มา” โคดาอิ คูโบตะ กล่าวในพิธีฉลองการสำเร็จการศึกษาที่แรกเริ่มกำหนดไว้วันที่ 12 มีนาคม หรือหนึ่งวันหลังสึนามิทำลายล้างชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น คร่าชีวิตผู้คนกว่า 12,000 คน และทำให้มีผู้สูญหายอีกกว่า 15,000 คน

    โรงเรียนแห่งนี้เป็นหนึ่งในโรงเรียนแถบชายฝั่งที่โชคดีมาก เพราะไม่มีรายงานว่ามีเด็กนักเรียนเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว

    หัวหน้าฝ่ายการศึกษาเผยว่า กำลังเตรียมการพิเศษสำหรับปีการศึกษาใหม่ ซึ่งรวมถึงการสร้างหอพักภายในโรงเรียนสำหรับเด็กที่อาจเป็นกำพร้าจากภัยพิบัติ โดยที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่าจะมีจำนวนเท่าใด

    อาคารของโรงเรียนยาโมโตะ ไดนิ ที่ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ถูกแปลงเป็นศูนย์อพยพชั่วคราวสำหรับคนนับร้อยที่กลายเป็นคนไร้บ้าน

    “ไม่มีอะไรหนักหนาเท่าภัยพิบัติครั้งนี้อีกแล้ว ฉันจะไม่มีวันลืมสิ่งที่เกิดขึ้นและจะใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาเอาชนะอุปสรรคข้างหน้า” ชิซูกะ อาเบะ นักเรียนที่จบการศึกษาอีกคนบอก

    เคนโตะ ทาเคฮาชิ เพื่อนร่วมชั้นของชิซูกะ บอกว่าเขาอยากเป็นครูเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวภัยพิบัติให้คนรุ่นใหม่ได้รับรู้และรำลึกถึงเหยื่อ

    ในถ้อยแถลงอำลาแด่ผู้จบการศึกษา ครูใหญ่ของโรงเรียน เออิชิ คันโนะ บอกให้นักเรียนจดจำสุภาษิตของญี่ปุ่นที่ว่า ‘การเอาชนะอุปสรรคสำคัญทำให้คนเราแข็งแกร่งขึ้น”

    Around the World - Manager Online - <b><font color=blue>360 ͧ
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “ฟ้าหญิง” ทรงงานหนักเสด็จฯเยี่ยมชาวสตูล

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2554 19:59 น.





    สตูล - สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ซึ่งอยู่ระหว่างทรงงานหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ภาคใต้ ได้เสด็จฯมาทรงเยี่ยมราษฎรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอควนกาหลง จ.สตูล เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยในครั้งนี้

    วันนี้ (6 เม.ย.) เมื่อเวลา 13.25 น.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จฯด้วยเฮลิคคอปเตอร์ชั่วคราว ถึงวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี อ.ควนกาหลง จ.สตูล ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล จังหวัดสตูล ผู้บัญชามณฑลทหารบกที่ 42 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และผู้เกี่ยวข้อง เฝ้ารับเสด็จฯ

    สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานเพื่อทรงออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ภาคใต้ พร้อมให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ ทั้งนี้ ด้วยทรงห่วงใยในชีวิตและความเป็นอยู่ของราษฎรที่ประสบกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ

    โดยทางจังหวัดสตูล ได้บูรณาการความช่วยเหลือร่วมกับทหาร ตำรวจ กาชาดจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มูลนิธิ ภาคเอกชน และอาสาสมัคร ในการนำเรือออกไปช่วยเหลือ อพยพผู้ประสบภัย พร้อมลำเลียงถุงยังชีพที่ประกอบด้วยเครื่องอุปโภค บริโภค อาทิ ไฟฉาย ยารักษาโรค ข้าวสาร อาหารแห้ง นมผงสำเร็จรูป ไปมอบให้กับประชาชน เพื่อเป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งขณะนี้สถานการณ์น้ำได้เริ่มลดปริมาณลงแล้ว ทางราชการและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งทำการซ่อมแซม ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

    ประธานกรรมการ พอ.สว.ประจำจังหวัดสตูล กราบทูลรายงาน เบิกทูลเกล้าฯ ถวายเงิน เข้ารับพระทานของที่ระลึกเป็นรายบุคคล เบิกผู้แทนกรรมการ และอนุกรรมการ เข้ารับพระราชทานเข็มเครื่องหมายกรรมการ อนุกรรมการ และเบิกอาสาสมัครเข้ารับพระราชทาน ผู้ใหญ่บ้านกราบทูลรายงานสถานภาพหมู่บ้าน พระราชทานเครื่องแบบนักเรียนแก่ผู้แทนนักเรียน ชาย 6 คน หญิง 6 คน พระราชทานของเด็กเล่น และเสื้อผ้าแก่ผู้แทนนักเรียนอนุบาล ชาย 1 คน หญิง 6 คน พระราชทานหนังสือธรรมะ และของที่ระลึกแก่ผู้ใหญ่บ้าน และครู พระราชทานเครื่องนุ่งห่มและยาตำราหลวงแก่คนชรา ชาย 10 คน หญิง 10 คน

    และเสด็จฯเยี่ยมราษฎรที่มาเฝ้ารับเสด็จฯ เสด็จฯเยี่ยมหน่วยแพทย์ พอ.สว.และหน่วยแพทย์พระราชทาน สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ที่มาตรวจรักษา ก่อนร่วมฉายพระรูปร่วมกับอาสาสมัคร และในเวลา 15.30 น.ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งจากสนามเฮลิปคอรเตอร์ชั่วคราว ที่วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล ไปยังโครงการพระราชดำริคลองหอยโข่ง อำเภอคลองหอยโข่ง จ.สงขลา

    Local - Manager Online -
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นักวิชาการเตือน “นบพิตำ” สุดอันตรายเสี่ยงดินถล่มซ้ำ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2554 19:49 น.





    นครศรีธรรมราช - ภาครัฐยังคงเร่งเปิดเส้นทางสัญจรที่ยังถูกตัดขาด ขณะที่ยังมีอีกหลายหมู่บ้านใน อ.สิชล ที่ยังส่งความช่วยเหลือไม่ถึง จนต้องว่าจ้างเครื่องจักรกลเข้ามาเคลียร์เส้นทาง เพื่อให้ออกสู่โลกภายนอก และรับความช่วยเหลืออื่นๆ ได้สะดวก ด้านนักวิชการเตือนชาวบ้านต้องเรียนรู้และพึ่งพาตัวเองต่อธรรมชาติที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะที่สิชล และนบพิตำ ซึ่งสัณฐานของเปลือกโลกเปลี่ยนไป ดินบนภูเขาไม่มีความแข็งแรง พร้อมจะถล่มลงมาได้อีกแม้ว่าฝนจะตกไม่หนักก็ตาม

    วันนี้ (6 เม.ย.) ความคืบหน้าในการฟื้นฟูเส้นทางสัญจร และการกู้ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช กรมการทหารช่างกองทัพบก และกองพันทหารช่างจากกองทัพภาคที่ 1 ถึง 4 ได้ระดมกำลังคนเครื่องกลหนักเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

    โดยได้เร่งเชื่อมเส้นทางที่ถูกตัดขาดนับสิบจุดบนถนนสายหลักจากบ้านนาเหรง ต.กะหรอ ไปยังพื้นที่ป่าเขา ผ่าน ต.นบพิตำ ต.กรุงชิง ไปได้แล้วกว่า 21 กม.ซึ่งยังเหลือระยะทางอีกราว 16 กม.ทำให้การสัญจรของชาวบ้าน และการให้การช่วยเหลือหมู่บ้านในชั้นในเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น หลังจากนั้นจะเร่งแก้ไขในทางย่อยเข้าหมู่บ้านต่างๆ ทำให้เฮลิคอปเตอร์บินเข้าไปน้อยเที่ยวลง

    ซึ่งล่าสุดนั้น ยังพบชาวบ้านที่อยู่ด้วยความยากลำบากอีก 4 หมู่บ้านต้องใช้การเดินเท้าผ่านทะเลโคลนออกมาเพื่อขอความช่วยเหลือ คือ หมู่ที่ 3, 6, 7, 8 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ ทหารช่างต้องเร่งเข้าเปิดทางสัญจรอย่างเร่งด่วนเพื่อเร่งเข้าให้การช่วยเหลือประชาชนหลายสิบครัวเรือนที่ยังได้รับความช่วยเหลือไม่ทั่วถึง

    นายเดชา กังสะนันท์ ปลัดจังหวัดนครศรีธรรมราช ในฐานะผอ.กองอำนวยการร่วม และศูนย์อพยพ อ.นบพิตำ เปิดเผยว่า ในหมู่บ้านดังกล่าวนั้นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์เข้าไปหย่อนเสบียง และอพยพคนออกมาด้วยการโรยตัวลงไปรับขึ้นมาบนเฮลิคอปเตอร์ แต่ยังมีชาวบ้านอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นห่วงทรัพย์สินไม่ยอมออกมา การช่วยเหลือในขณะนี้พยายามกำหนดเฉพาะจุดแล้วกระจายออกไปให้มากที่สุด และยังยาวไปถึงบ้านสำนักเนียนในเขตพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ด้วย

    “ส่วนการพยายามเปิดเส้นทางทั้งหมดในขณะนี้ เราเดินทางพื้นราบไปได้แล้ว 2 ช่วงจาก 4 ช่วง ถึงบ้านปากลง ยังเหลือเส้นทางที่ต้องฟื้นฟูอีกราว 16.7 กม.แต่ยังเดินทางด้วยความยากลำบากต้องใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และยังเป็นห่วงต้องแก้ไขกันอีก คือ เรื่องสะพานแบริ่งที่รับน้ำหนักได้เพียง 18 ตัน แต่เครื่องจักรกลต้องเข้าไปนั้นมีน้ำหนักมากกว่า ต้องหาวิธีการกันต่อไปจะลุยข้ามคลองก็ไม่ได้เนื่องจากน้ำยังลึกและเชี่ยว หลังจากนั้นระบบไฟฟ้าจะตามเข้าไป จุดที่เป็นสะพานได้เร่งประสานระดมสะพานแบริ่งเข้าทำการติดตั้ง การช่วยเหลือในทุกระบบจะได้ง่ายกว่านี้”

    ชาวสิชลลงขันจ้างเครื่องจักรกรุยช่วยเหลือหมู่บ้านโลกลืม

    ส่วนที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ชาวบ้านใน ต.เทพราช รายหนึ่ง เปิดเผยว่า ในพื้นที่นั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก ดูเหมือนว่าการช่วยเหลือทุกอย่างจะเข้าไปที่นบพิตำทั้งหมด ทั้งๆที่ใน สิชล มีสภาพหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน ดินถล่มใส่หมู่บ้านจำนวนมากบ้านพัง เรือกสวนราบเป็นหน้ากลอง ถนนหนทางถูกตัดขาดยังไม่มีหน่วยงานใดที่เร่งจะเปิดเส้นทางให้กับประชาชนได้สัญจรกันเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าก่อน ชาวบ้านต้องลงขันด้วยความยากลำบากว่าจ้างเครื่องจักรกลเข้ามากรุยทางเพื่อให้เปิดการสัญจรไปมาหาสู่ผ่อนคลายความทุกข์กันไปได้บ้าง

    ขณะที่ นายวิลาศ สุวรรณ กำนันตำบลฉลอง อ.สิชล เปิดเผยว่า ชาวบ้านได้ลงขันว่าจ้างเครื่องจักรมาเปิดทางชั่วคราวพอให้ได้สัญจรกันตามอัตภาพ เป็นการบรรเทาทุกข์แก้ปัญหากันในเบื้องต้นก่อน สิ่งที่ห่วงมากในขณะนี้ คือ การแก้ปัญหาระยะยางชาวบ้านที่ประกอบอาชีพทำสวนมาเมื่อนับสิบปีที่แล้ว มาจนถึงวันนี้เขาต้องการพักผ่อนในช่วงบั้นปลายชีวิต เหมือนกับการนับหนึ่งมาจนถึง 9 แล้วต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ บางคนท้อแท้สิ้นหวังมีปัญหาความเครียดอย่างหนัก

    “พื้นที่การเกษตรยางพารา สวนผลไม้ที่ให้ผลมาเป็นเวลากว่า10 ปีแล้วสูญหายไปกับทะเลโคลนนับกว่า 600 ไร่ ที่เหลืออยู่ คือ โคลน อีก 3 ปียังไม่สามารถปลูกอะไรต่อไปได้ โดยเฉพาะพื้นที่ริมคลองท่าทนพังยับเยินยังไม่รู้อนาคตชีวิตอีกจำนวนมากเพราะสิ้นเนื้อประดาตัว” กำนันตำบลฉลอง กล่าว

    นางอวยพร บุญพรหมชาว ม.15 ต.เทพราช อ.สิชล เปิดเผยว่า ในพื้นที่ ม.15 มีบ้านเรือนอยู่กว่า 40 หลังพังอย่างสิ้นเชิงถึง 31 หลัง รถยนต์ รถจักรยานยนต์ติดอยู่ในหมู่บ้านกว่า 100 คัน พื้นที่ ม.15 อยู่ตอนในสุดของตำบลในพื้นที่ป่าเขาขอความช่วยหลือในเรื่องของการเปิดเส้นทาง และอยากอพยพออกจากพื้นที่ เพราะเต็มไปด้วยหินไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีกแล้ว อาหารเพียงพอแล้วและที่สำคัญช่วยเปิดทางเพื่อที่จะได้นำรถออกมาสัญจรหาความช่วยเหลือแก้ไขปัญหาต่างๆในพื้นที่ได้ ตอนนี้ลำบากอย่างมาก

    ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านสิชลเตรียมขึ้นป้าย “รับสมัครนายอำเภอ”

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.สิชล นั้น แท้จริงแล้วขณะนี้ไม่มีนายอำเภออยู่ หลังว่างมานานกว่า 6 เดือน เนื่องจากหลังจากมีการเกษียณอายุราชการไปเมื่อเดือนตุลาคม 2553 ที่ผ่านมา โดยมี นายพงษ์ศักดิ์ ตรึกตรอง ปลัดอำเภอ ปฏิบัติราชการแทนนายอำเภอ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 53 จนมาถึงปัจจุบัน โดยยังไม่มีการแต่งตั้งนายอำเภอมาทำหน้าที่ ซึ่งส่งผลให้การปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเหตุการณ์ภัยพิบัติในเขต อ.สิชล เป็นไปได้อย่างไม่สะดวก เนื่องจากการทำหน้าที่ของนายพงษ์ศักดิ์อยู่ในฐานะปฏิบัติราชการแทนเท่านั้น จึงติดขัดในบางเรื่องส่งผลให้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ ไม่ดีเท่าที่ควร

    ในเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน นำโดย นายสมหมาย เชิงศิลป์ ในฐานะประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล ได้หารือกับสมาชิกและเห็นพ้องกันว่า ควรจัดทำป้ายรับสมัครนายอำเภอ และนำไปติดไว้เพื่อต้อนรับนายสุเทพเทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่จะเดินทางลงพื้นที่ ต.เขาน้อย อ.สิชล ในวันพรุ่งนี้ (7 เม.ย.) โดยมีข้อความว่า “ประกาศรับสมัครนายอำเภอสิชล เนื่องจากตำแหน่งว่างมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว กรมการปกครองยังไม่แต่งตั้งผู้ใดมาดำรงตำแหน่ง ทำให้การตัดสินใจในสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นไปอย่างลำบาก ประชาชนเดือดร้อน จึงขอประกาศรับสมัครนายอำเภอสิชลอย่างเร่งด่วน ใครสนใจสามารถสมัครได้ ณ.ที่ทำการชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอสิชล” ข้อความระบุ

    สำหรับเหตุผลในการขึ้นป้ายดังกล่าวนั้น นายสมหมาย ระบุว่า เพื่อแสดงให้รองนายกรัฐมนตรีเห็นว่า อำเภอนี้ว่างเว้นนายอำเภอในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ เผื่อมีใครสนใจมาสมัครจะได้ช่วยกันแก้ปัยหาชาวบ้านนั่นเอง

    นักวิชาการเตือนต่อไปนบพิตำ-สิชล เป็นพื้นที่สุดอันตราย

    พล.ต.ดร.นพรัตน์ เศรษฐกุล อาจารย์ประจำสำนักวิศวกรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญปฐพีธรณีวิทยา มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ได้เข้าไปสำรวจในพื้นที่พร้อมกับชาวบ้าน พื้นที่แนวเทือกเขาหลวงที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นในย่านนี้ เป็นพื้นที่มีผิวหน้าผุกร่อนมาก มีแนวลาดชันมาก 50-60 องศา เมื่อมีน้ำฝนเข้ามามากจึงไถลลงมาพร้อมกับน้ำ ประกอบกับป่าธรรมชาติที่น้อยลง การปลูกพืชเชิงเดียวมากขึ้นเป็นสาเหตุหลักในความเสียหาย

    “ทุกคนต้องตระหนักแล้วว่าการเปลี่ยนแปลงผันผวนของภูมิอากาศโลกเป็นสัญญาณเตือนที่จะต้องปรับตัวพร้อมรับกับสถานการณ์ กรณีที่เกิดขึ้นในนครศรีธรรมราชเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในขณะนี้ ได้เข้าไปหาชุมชนพบว่ายังไม่มีความรู้พื้นฐานลักษณะทางธรณีที่ชุมชนอาศัยอยู่เลย ยังยึดอยู่กับปริมาณน้ำฝนเป็นหลัก เพียงแค่รู้ว่าเมื่อฝนตกมากต้องอพยพ ชุมชนควรรู้ในเรื่องธรณีวิทยาของพื้นที่ด้วย”

    พล.ต.ดร.นพรัตน์ กล่าวต่อว่า ในพื้นที่นบพิตำเป็นพื้นที่เสี่ยงมากที่สุด ฝนตกไม่มากยังสามารถเกิดเหตุได้ อย่างไปพึ่งพาส่วนกลางมาก เช่น ศูนย์เตือนภัยชาวบ้านบอกว่าเขาพยายามโทรแต่ไม่ติด เพราะฉะนั้นควรที่จะรู้เรื่องเหล่านี้ให้มากขึ้น เท่าที่ดูนั้นยังมีหลายจุดที่ไถลลงมาแต่ยังไม่สุดพร้อมที่จะเลื่อนไถลลงมาได้อีก พื้นที่หลายจุดลาดเอียงมากกว่า 60 องศามีฝนมาเสริมแม้ปริมาณไม่มากก็เกิดเหตุการณ์ได้ ไม่จำเป็นต้อง 100 มม.อีกแล้ว เนื่องจากการยึดเหนี่ยวของดินหลวมมาก ปัญหาหลังจากนี้มีอีกมากเพราะทุกอย่างเปลี่ยนไปหมดธารน้ำเปลี่ยนแปลง ธารเกิดใหม่ ระบบเกษตรกรรมในพื้นที่ถูกทำลาย ความหวาดผวาบาดแผลที่อยู่ในจิตใจของชาวบ้านและของชุมชน

    ลุ่มน้ำปากพนังยังระบายน้ำได้ช้า-ท่วมขังเน่า

    ส่วนในพื้นที่ 5 อำเภอของลุ่มน้ำปากพนัง ซึ่งเป็นพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ การระบายน้ำเป็นได้อย่างล่าช้า เนื่องจากน้ำท่วมขังในที่ลุ่มมากจากปริมาณน้ำมหาศาลถ่ายเทออกมาจากตัวจังหวัดชั้นในมากองอยู่ในพื้นที่ก่อนที่จะระบายลงสู่อ่าวไทย ทำการเน่าเสียของน้ำที่ท่วมขังเป็นเวลานานจากพืชทั้งหลายขยายวงกว้างมากขึ้น เจ้าหน้าที่ต้องเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำหลายจุดในการระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยและเร่งฟื้นฟูพื้นที่ท่ามกลางความยากลำบากของประชาชนโดยเฉพาะความเสียหายของพืชผลและสัตว์เลี้ยง

    ท่าอากาศยาน-รถไฟท้องถิ่นให้บริการแล้ว

    และเมื่อเวลา 08.30 น.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช ได้เปิดอย่างเป็นทางการหลังจากต้องปิดทำการติดต่อกันเป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์ โดยเที่ยวบินแรกของนายการบินนกแอร์ในวันนี้ได้ร่อนลงจอดเมื่อเวลา 08.30 น.ก่อนที่จะรับผู้โดยบินกลับ กทม.

    นายนิสิต สมบัติ ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากการตรวจสอบทุกระบบเมื่อวานนี้ (5 เม.ย.) ระบบพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ จึงแจ้งไปยังกรมการบินพาณิชย์ กรมการขนส่งทางอากาศ ถึงความพร้อมจึงอนุญาตให้มีการเดินอากาศได้ตามปกติ โดยมีมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งความเสียหายจากระบบและรายได้กว่า 40-50 ล้านบาท

    ส่วนการเดินรถไฟนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงได้ออกตรวจซ่อมบำรุงทางทุกช่วงที่ได้รับความเสียหาย และระบบนิรภัยสัญญาณกั้นทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถเปิดเดินรถขบวนรถทิ้องถิ่นแล้วแล้วตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นขบวนสายนครศรีธรรมราช-พัทลุง-ยะลา นครศรีธรรมราช-สุไหงโก-ลก ได้เท่านั้นส่วนขบวนนครศรีธรรมราช-กทม.ยังต้องรอการซ่อมบำรุงทางใน จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเสร็จจึงจะเปิดเดินรถได้

    มูลนิธิราชประชานุเคราะห์เดินสายมอบของปลอบขวัญชาวบ้าน

    นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและคณะได้เดินทางไปมอบถุงปลอบขวัญพระราชทาน แก่ผู้ประสบภัยพิบัติน้ำท่วม ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอสิชล ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

    สำหรับพื้นที่อำเภอสิชล ประกอบด้วย 9 ตำบล 110 หมู่บ้าน ที่ผ่านมาได้ถูกน้ำท่วมอย่างหนัก บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 112 หลัง เสียหายบางส่วน 300 หลัง สูญหายทั้งบ้านและที่ดิน 13 หลัง พื้นที่ทำการเกษตรเสียหายนับหมื่นไร่ ประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 60,000 คน เสาไฟฟ้าเสียหายกว่า 300 ต้น จนถึงบัดนี้หลายพื้นที่ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

    ในการนี้ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์ได้พบปะพูดคุย โดยบอกกล่าวถึงความห่วงใยที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อผู้ประสบภัยน้ำท่วม และมอบถุงปลอบขวัญพระราชทาน ซึ่งประกอบด้วย ข้าวสาร อาหารกระป๋อง น้ำมันพืช ขนม และพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้แก่ผู้ประสบภัยจำนวน 1,300 ชุด ประชาชนผู้เข้ารับความช่วยเหลือต่างรู้สึกปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นยิ่งนัก

    ผวจ.นครศรีฯ ซึ้งธารน้ำใจคนไทยไหลลงพื้นที่ต่อเนื่อง

    นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า จากเหตุการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับการช่วยเหลือจากประชาชนทั่วประเทศ และเมื่อเช้าวันนี้ชมรมชาวนครศรีธรรมราชในอำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้นำเงินสดจำนวน 171,600 บาทมามอบให้จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และจากน้ำใจที่ส่งมาให้อย่างหลากหลายทำให้ผู้ประสบภัยมีกำลังใจที่ดีขึ้น ต้องขอกราบขอบคุณประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ทันทีที่สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติจะเร่งฟื้นฟู เพื่อให้จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นหนึ่งในพื้นที่เพื่อร่วมพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศต่อไป

    ชาวบ้านสุดสลดพบขาคนติดอยู่ในโคลน

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ชาวบ้านได้พบชิ้นส่วนขามนุษย์อยู่ใน ม.3ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ อยู่ในสภาพเริ่มเน่าเปื่อย จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบ พบว่าเป็นขาซ้าย เจ้าของขาดังกล่าวคือ นางสมใจ วโรรส อายุ 32 ปี ที่เสียชีวิตเมื่อช่วงเหตุการณ์ดินถล่มที่เกิดขึ้น โดยพบศพในสภาพที่ขาซ้ายขาดหายไปเข้าใจว่าเกิดจากแรงบดอัดของหินขนาดใหญ่จนขาขาด

    หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่จึงกู้ซากชิ้นส่วนดังกล่าวไปส่งมอบให้ญาติของนางสมใจ ที่กำลังบำเพ็ญกุศลศพของนางสมใจ พร้อมด้วยบุตรสาว คือ ด.ญ.เสาวลักษณ์ อายุ 12 ปี ที่พบศพในภายหลัง บำเพ็ญกุศลพร้อมกันอยู่ที่วัดใหม่ไทยเจริญ ต.นบพิตำ อ.นบพิตำ ด้วยการเปิดหีบศพและนำขาใส่กลับไปให้ท่ามกลางเสียงร่ำไห้ด้วยความเศร้าสลดของญาติและเจ้าหน้าที่

    Local - Manager Online -
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กัดดาฟีส่งหนังสือถึงโอบามา หลังสหรัฐฯถอนเครื่องบินรบจากลิเบีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2554 00:23 น.

    [​IMG]

    โอบมา ถอนเครื่องบินรบจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อลิเบีย


    เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่อวันพุธ(6) ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ หลังอเมริกาถอนเครื่องบินรบออกจากลิเบีย สำนักข่าวแห่งรัฐรายงาน อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาของหนังสือดังกล่าว

    "เมื่อวันพุธ ผู้นำแห่งการปฏิบัติ(กัดดาฟี) ส่งหนังสือถึงประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา หลังสหรัฐฯตัวจากการรุกรานและร่วมทำสงครามครูเสดต่อลิเบีย" สำนักข่าวจานาของทางการลิเบียรายงาน โดยไม่ได้ระบุถึงเนื้อหาของหนังสือนั้น

    กองทัพสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์(4) ถอนเครื่องบินรบจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในลิเบียแล้ว แม้ว่านาโตได้ร้องขอให้วอชิงตันทิ้งระเบิดถล่มลิเบียต่อไปอีกอย่างน้อย 48 ชั่วโมง

    ทั้งนี้ทางสหรัฐฯระบุยังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะรับรองสภาแห่งชาติเพื่อการเปลี่ยนถ่ายอำนาจของฝ่ายกบฏในฐานะรัฐบาลลิเบียอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ทาง ฝรั่งเศส กาตาร์และอิตาลี ได้ทำการรับรองไปแล้ว

    ขณะเดียวกันมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ทูตระดับอาวุโสรายหนึ่งของสหรัฐฯ ได้เดินทางถึงเมืองทางตะวันออกของลิเบียซึ่งอยู่ในความครอบครองของฝ่ายกบฏเมื่อวันอังคาร(5) เพื่อหารือกับแกนนำฝ่ายต่อต้ายกัดดาฟี เกี่ยวกับเป้าหมายทางการเมืองของพวกเขาและเตรียมมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

    Around the World - Manager Online -
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยกกำลังถล่มทำเนียบที่พัก'จีบักโบ'หลังไม่คืนเก้าอี้ปธน.ไอเวอรีโคสต์

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2554 23:33 น.



    [​IMG]


    กองกำลังอาวุธที่ภักดีต่อ อลาสซาเน ออตตารา ผู้ซึ่งนานาชาติรับรองเป็นประธานาธิบดีของโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) ระหว่างเตรียมการบุกเข้าโจมตีทำเนียบที่พักของ โลรองต์ จีบักโบ ประธานาธิบดีคนเดิมผู้ไม่ยอมสละอำนาจแม้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง


    เอเอฟพี/เอเจนซี- กองกำลังอาวุธที่ภักดีต่อ อลาสซาเน ออตตารา ผู้ซึ่งนานาชาติรับรองเป็นประธานาธิบดีของโกตดิวัวร์ (ไอเวอรีโคสต์) เมื่อวันพุธ(6) ได้บุกเข้าโจมตีทำเนียบที่พักของ โลรองต์ จีบักโบ ประธานาธิบดีคนเดิมผู้ไม่ยอมสละอำนาจแม้พ่ายแพ้การเลือกตั้ง ภายหลังจากที่การเจรจาต่อรองเพื่อให้จีบักโบยอมจำนนโดยดี ไม่มีทีท่าว่าจะประสบความสำเร็จ ทางด้านฝรั่งเศสแถลงว่ากองทหารแดนน้ำหอมไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีคราวนี้

    พยานผู้เห็นเหตุการณ์สมรภูมิกลางเมืองอาบีจานคราวนี้หลายคนระบุว่า เสียงปืนดังขึ้นทั้งจากบริเวณใกล้ๆ กับทำเนียบประธานาธิบดี และที่พักของจีบักโบ ท่ามกลางความพยายามอันชัดแจ้งในการบีบบังคับให้ระบอบการปกครองของเขาสละอำนาจลงโดยพลัน

    “เรากำลังลากตัวโลรองต์ จีบักโบออกมาจากรู แล้วจะส่งตัวเขาให้กับท่านประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐโกตดิวัวร์” ซิดีกี โกเนต โฆษกของกองกำลังผู้ซื่อสัตย์ต่อออตตารา กล่าว “เรากำลังมุ่งหน้าสู่ที่พักของเขา เพื่อนำตัวออกมาและยุติเรื่องชวนหัวนี้เสียที ... พฤติกรรมอันไร้เหตุผลดังกล่าวต้องจบลง เพราะประเทศของเรากำลงล่มสลาย”

    ทั้งนี้ จีบักโบ กบดานอยู่ภายในบ้านพักย่านโกโกดี ทางเหนือของเมืองอาบีจาน เขายังปฏิเสธการยอมศิโรราบ หรือยอมรับว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2010

    ขณะเดียวกัน ฝรั่งเศส อดีตเจ้าอาณานิคมของโกตดิวัวร์ ระบุว่า การสู้รบรอบบ้านพักของจีบักโบยังคงดำเนินต่อไป แต่ทหารแดนน้ำหอมที่ประจำการอยู่ในเมืองอาบีจานไม่ได้เข้าร่วมด้วย แหล่งข่าวภายในรัฐบาลกรุงปารีสเผยว่า การสู้รบปะทุขึ้นหลังจากจีบักโบประกาศกร้าวว่าไม่ปรารถนาจะเจรจากับคนกลาง ซึ่งพยายามชี้แนะให้จีบักโบยอมลงจากอำนาจ การเจรจาวันพุธ (6) คว้าน้ำเหลว เนื่องจากเขาต่อต้านแรงกดดันจากองค์การสหประชาชาติ และฝรั่งเศสให้ลงนามในเอกสารสละอำนาจ

    “จีบักโบยังคงปฏิเสธการลงนามในเอกสารรับรองชัยชนะ (การเลือกตั้ง) ของออตตารา ... ด้านออตตาราจึงสรุปว่า จีบักโบไม่มีความจริงใจ” แหล่งข่าวรัฐบาลฝรั่งเศสกล่าว “ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจใช้การแทรกแซงทางทหาร เพื่อพยายามแก้ปัญหา และเพื่อจับเป็นจีบักโบ”

    ทางฝ่ายผู้สนับสนุนจีบักโบได้ประณามการใช้กำลังทหารบุกโจมตีบังเกอร์ภายในบ้านพักของจีบักโบว่า เป็น “ความพยายามลอบสังหาร” และกล่าวหากำลังทหารฝรั่งเศสในโกติดวัวร์ว่า ให้การสนับสนุนทั้งทางบกและทางอากาศแก่ฝ่ายออตตารา

    ก่อนหน้านั้น ในช่วงดึกของคืนวันอังคาร (5) จีบักโบได้เรียกร้องการหยุดยิงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ แอลเซอี ของฝรั่เศส หลังเฮลิคอปเตอร์ของยูเอ็นและฝรั่งเศสได้ทำลายอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองกำลังจีบักโบไปเมื่อวันจันทร์ (4) ต่อมาเขาได้เสนอขอเจรจาโดยตรงกับ ออตตารา ซึ่งถูกปฏิเสธ ขณะนี้เขายังคงกบดานอยู่ในบังเกอร์ภายในบ้านพัก โดยมีคนติดสอยห้อยตามอยู่จำนวนเพียงหยิบมือ ซึ่งรวบทั้ง ซิโมเน ภรรยาของเขาด้วย

    “ผมไม่ยอมรับชัยขนะ (การเลือกตั้ง) ของออตตารา ... ทำไมพวกคุณถึงต้องการให้ผมเซ็นเอกสารพวกนี้?” จีบักโบให้สัมภาษณ์กับสถานีข่าวแอลเซอีของฝรั่งเศส เอกสารที่เขาอ้างถึง คือ เอกสารของฝรั่งเศสและองค์การสหประชาชาติที่เรียกร้องให้เราลงจากเก้าอี้

    ฝรั่งเศสได้ส่งเฮลิคอปเตอร์เขาร่วมกับกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในการโจมตีฐานที่มั่นของฝ่ายจีบักโบหลายแห่งเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

    “เราได้ขอให้องค์การสหประชาชาติให้การรับรองความปลอดภัยของเขาและครอบครัว ... และเพื่อจัดการเงื่อนไขในการสละตำแหน่งของเขา นี่เป็นเงื่อนไขสุดท้ายที่ยังเหลือให้เจรจากันได้” รัฐมนตรีต่างประเทศเมืองน้ำหอม อแลง ชูปเป กล่าวผ่านสถานีวิทยุอินโฟในฝรั่งเศส

    ข้อมูลของยูเอ็นระบุว่า มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนจากความรุนแรงอันเป็นผลมาจากความขัดแย้งหลังจากเลือกตั้ง และมีพลเรือนมากถึง 1 ล้านคนได้อพยพลี้ภัยออกจากโกตดิวัวร์แล้ว ขณะเดียวกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานการสังหารหมู่ปรากฏออกมาหลายฉบับ เมื่อกองกำลังฝ่ายออตตาราปฏิบัติโจมตีสายฟ้าฟาดเข้ายึดเมืองต่างๆ ทั่วประเทศที่เป็นเส้นทางไปสู่เมืองอาบีจาน เมืองหลวงเก่าซึ่งเป็นนครใหญ่ที่สุดของประเทศนี้

    Around the World - Manager Online - ¡
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ลิเบียกล่าวหาอังกฤษทิ้งบอมบ์ถล่มแหล่งน้ำมันใหญ่สุดของประเทศ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 เมษายน 2554 09:04 น.


    [​IMG]



    กองกำลังฝ่ายกบฏของลิเบีย


    เอเอฟพี - คอเลด คออิม รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของลิเบียกล่าวหาอังกฤษว่าทิ้งระเบิดโจมตีแหล่งน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด ในเมืองอัลซารีร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศในวันพุธ (7) ที่ผ่านมา

    คออิมกล่าวในการแถลงข่าวว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดของอังกฤษหลายลำโจมตีบ่อน้ำมันอัลซารีร์ ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 3 นายในที่เกิดเหตุเสียชีวิต และอีก 1 นายได้รับบาดเจ็บ

    เขาเสริมว่า การโจมตีทางอากาศดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับท่อส่งน้ำมันที่เชื่อมระหว่างเมืองอัลซารีร์ และเมืองท่าตอบรุก ซึ่งตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มบกฏ

    ด้าน มุสซา อิบรอฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบียระบุว่า บ่อน้ำมันดังกล่าวอยู่ในความควบคุมดูแลของกองกำลังผู้ภักดีต่อมูอัมมาร์ กัดดาฟี

    ในวันอังคาร (5) ที่ผ่านมา กลุ่มกบฏได้กล่าวหากองกำลัง ที่สวามิภักดิ์ต่อกัดดาฟีว่าเป็นผู้ทิ้งระเบิดถล่มแหล่งน้ำมันแห่งนี้

    เรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งแล่นออกจากเมืองท่าตอบรุกในวันพุธ พร้อมน้ำมันที่ส่งออกไปขายเป็นล็อตแรก นับตั้งแต่ฝ่ายกบฏได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ

    Around the World - Manager Online -
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เอดีบีชี้ศก.เอเชียมีแรงโตอีกเยอะ ต้องระวังเงินเฟ้ออักเสบจ่อเล่นงาน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2554 22:16 น.


    เอเจนซี - ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในเอเชียบางเจ้า มีวี่แววว่าจะเครื่องร้อนเกินควร และส่อเค้าว่าทางการของประเทศเหล่านี้จะต้องเดินนโยบายการเงินซึ่งเข้มงวดมากขึ้น พร้อมกับจะต้องใช้มาตรการด้านค่าเงินตราที่ยืดหยุ่นมากขึ้น เพื่อจัดการกับปัญหาด้านเงินเฟ้อที่ทวีความรุนแรง นี้เป็นเสียงเตือนจากธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือเอดีบี ซึ่งนำเสนอไว้ในรายงานฉบับล่าสุดและนำออกเผยแพร่เมื่อวันพุธ (6)

    ในรายงานว่าด้วยแนวโน้มการพัฒนาของเอเชีย (Asian Development Outlook) ฉบับล่าสุดของตน เอดีบีทำนายว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของเอเชียโดยรวมยังเป็นไปในทิศทางที่สามารถเติบโตต่อเนื่องภายในปี 2011-2012 โดยที่มีภัยคุกคามจากปัญหาเงินเฟ้อจ่ออยู่ใกล้ๆ

    ในการนี้ เอดีบีให้ประมาณการว่า พวกเศรษฐกิจกำลังพัฒนาของเอเชีย อันครอบคลุมประเทศต่างๆ หลายหลากตั้งแต่ไทย จีน อินเดีย ไปจนถึงอาเซอร์ไบจาน จะเติบโตขยายตัวขึ้นในอัตรา 7.8% ในปี 2011 และ 7.7% ในปี 2012 ตัวเลขนี้ดูเสมือนว่าร้อนแรง แต่เอาเข้าจริงกลับแผ่วลงกว่าที่เคยทำสถิติไว้ ณ อัตรา 9% ในปี 2010

    แต่ในเวลาเดียวกัน การวิเคราะห์ของเอดีบีให้ตัวเลขทำนายไว้ว่า เงินเฟ้อจะขยายตัวเร็ว โดยอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 5.3% ในปีนี้ ร้อนแรงกว่าอัตราเฉลี่ยที่ 4.4% ในปี 2010 แต่จะแผ่วลงสู่ระดับ 4.6% ในปี 2012 อย่างไรก็ตาม ในกรณีของเวียดนามกับปากีสถาน อัตราเงินเฟ้ออาจดุเดือดขึ้นไปถึงระดับเลขสองหลักทีเดียว โดยในรายของเวียดนามนั้น น่าจะได้เห็นเงินเฟ้อเคลื่อนไหวที่ระดับ 13.3% ในปีนี้

    “มีสัญญาณบ่งชี้ถึงปัญหาเศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเกินไป ซึ่งบางประเทศจะต้องเดินนโยบายเข้มงวดมากขึ้นในอนาคต” ชางยง รี ประธานคณะนักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีระบุ ขณะแถลงนำเสนอรายงานฉบับนี้ต่อสื่อมวลชนที่ฮ่องกง โดยมุ่งฉายภาพเงินเฟ้อของย่านเอเชียโดยรวม

    ในการนี้ รีชี้ว่าลำพังแค่มาตรการดอกเบี้ยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะลดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ โดยที่ว่าทางการของประเทศย่านเอเชียจะต้องใช้มาตรการอื่นๆ อีกมาก อาทิ การเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่มาตรการควบคุมค่าเงิน

    สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่เอเชียเผชิญอยู่นั้น นอกจากเรื่องของระดับราคาอาหารและพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นแล้ว ก็ยังมีเรื่องของตลาดแรงงาน, ปัญหาว่าด้วยตลาดบ้านที่อยู่อาศัยในสหรัฐอเมริกา ปัญหาหนี้ของประเทศย่านยูโรโซน ตลอดจนปัญหาว่าด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุแผ่นดินไหวในญี่ปุ่น และวิกฤตนิวเคลียร์ที่ติดตามมา

    **ชี้ชาติเอเชียเจอหางเลขภัยพิบัติญี่ปุ่นไม่มาก**
    เนื่องจากการวิเคราะห์ของเอดีบีหยุดที่วันที่ 16 มีนาคม รายงานของสถาบันแห่งนี้ชี้ว่าผลกระทบจากมหาวิบัติในญี่ปุ่นยังเป็นอะไรที่ยากจะวัดขนาดได้ แต่เชื่อว่าจะพ่นพิษยาวต่อเนื่องราว 2 ไตรมาส โดยที่ชาติอื่นๆ ในเอเชียจะโดนหางเลขด้วยไม่มาก

    “ผลกระทบจากกรณีของญี่ปุ่นในระยะสั้นนั้นจะมหาศาล แต่ผมคิดว่าในระยะยาวแล้วจะไม่มาก ขณะที่ผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นๆ ก็จะอยู่ในระดับจำกัด ผมไม่คิดว่าจะมีภัยคุกคามสำคัญมากมายอะไรต่อภูมิภาคอื่นในช่วงนี้” ชางยง รีให้ทัศนะไว้เช่นนี้

    Around the World - Manager Online -
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    องค์กร “ซีเอ็มซี” ประณามไทยใช้ “ระเบิดดาวกระจาย” โจมตีเขมรระหว่างปะทะที่ชายแดน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 เมษายน 2554 18:20 น.



    [​IMG]


    เครือข่ายความร่วมมือต่อต้านการใช้ระเบิดดาวกระจาย(ซีเอ็มซี)กล่าวประณามไทยที่ใช้ระเบิดชนิดนี้ระหว่างการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์


    เอเอฟพี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - องค์กรความร่วมมือด้านอาวุธ กล่าวประณามไทย หลังมีรายงานว่า ทหารไทยใช้ระเบิดดาวกระจาย ระหว่างการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

    เครือข่ายความร่วมมือต่อต้านระเบิดดาวกระจาย (ซีเอ็มซี) ได้เข้าไปตรวจสอบ และสามารถยืนยันคำกล่าวอ้างของรัฐบาลกัมพูชา ได้ว่า อาวุธร้ายแรงชนิดนี้ข้ามไปตกในฝั่งกัมพูชาในช่วง 4 วันของการปะทะ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

    ซีเอ็มซี ระบุว่า สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ยอมรับในที่ประชุมเมื่อวันอังคาร (5) ว่า เจ้าหน้าที่ไทยใช้ระเบิดดาวกระจายจริง

    “ทูตของไทย กล่าวว่า ทหารไทยใช้ระเบิดดาวกระจายเพื่อป้องกันตนเอง โดยยึดหลักความจำเป็น, ความพอเหมาะ และจริยธรรมของกองทัพ” แถลงการณ์จากซีเอ็มซี ระบุ

    “ช่างน่าตกใจที่บางประเทศยังใช้ระเบิดดาวกระจายอยู่ ทั้งที่นานาชาติต่อต้านอาวุธชนิดนี้” ลอรา ชีสแมน ผู้อำนวยการซีเอ็มซี กล่าว ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยออกมายืนยันหรือปฏิเสธคำพูดของผู้แทนไทย

    อนุสัญญาต่อต้านระเบิดดาวกระจาย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โดยกำหนดให้ประเทศผู้ลงนามยุติการใช้อาวุธชนิดนี้ แต่ไทยและกัมพูชาไม่ได้ร่วมลงนามในอนุสัญญาดังกล่าว

    ซีเอ็มซี ระบุว่า เหตุปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เป็นครั้งแรก ที่ปรากฏการใช้ระเบิดดาวกระจาย หลังจากที่อนุสัญญามีผลบังคับใช้ ซึ่งระเบิดได้คร่าชีวิตตำรวจกัมพูชาไป 2 นาย พร้อมเตือนว่า ประชาชนอีกหลายพันคนตามแนวตะเข็บชายแดนตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากระเบิดดาวกระจายซึ่งยิงจากพื้นดิน หรือปล่อยลงจากที่สูงจะแตกออกเป็นลูกเล็กๆ จำนวนมาก ซึ่งระเบิดที่ไม่ทำงานอาจฝังซ่อนอยู่ตามพื้นดิน และมีอายุยาวนานหลายสิบปี

    Around the World - Manager Online - ͧ
     
  11. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791


    แล้วองค์กรนี้เค้าจะมาถล่มเราไหมเนี่ยะ
     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ดูเหมือนเขาจะ มาถล่มเราแล้วล่ะ (ฝรั่งเศษระดับสูงเพิ่งจะมาเที่ยวเขมร ก็เป็นเรื่องแระ)
    เจาะนู่น เจาะนี่ ถ้าพวกเราคนไทยก็แบ่งแยกกันเองยังไม่ยอมสามัคคีกัน
    คงจะเป็นปุ๋ยให้ฝรั่งมาติดตาตอนกิ่งสายพันธ์เขมร มาเจริญเติบโต ในถิ่นไทยงาม ได้ง่ายๆ
    แบ่งแยกแล้วค่อยปกครอง ให้พวกเราคนไทยตีกันเองจนตายกันเยอะๆ จะได้อ่อนแรง
    เขาจะได้แทรกซึมและปกครองได้ง่ายๆ เหมือนว่า ฝรั่งคุยกับเขมรอะไรก็รู้เรื่อง
    เข้าใจง่ายไปหมด แบ่งทรัพย์กันง่ายๆ เด็กๆลูกหลานเขมรไม่มีหือยอมเขาหมด
    แล้วฝรั่งเขาจะเลือกเข้าข้าง คราย...ล่ะ คิดง่ายๆ จะให้พันธ์ไหนโต
    จะฉีดยาให้พันธ์ไหนเหี่ยวแห้งตายไป

    คิดถึงเรื่อง ลิเบีย ขึ้นมาในทันใด ถ้าไม่นึกถึงชาติเป็นสำคัญ ก็ยอมก้มหัวให้
    คนอื่นที่ยื่นมือมาช่วยเหลือให้ฝ่ายตนชนะ ส่วนประชาชน ก็เป็นแค่ข้ออ้าง
    ให้พวกผู้นำเอาไปต่อรองผลประโยชน์เรียกร้องความชอบธรรม ว่าทำเพื่อ
    ชาติและประชาชน แต่ไม่ถามประชาชนซักคำ ว่าต้องการอะไร
    (อ่าว...ชักรั่ว อีกละ แหะ แหะ)

    เนี่ย อย่างทหารไทยพูดแบบนี้ ทำไม พวกซีเอ็มซีมันไม่ฟัง หรือฟังแล้วแต่ไม่ได้ยิน
    พอ เจ้าหน้าที่ไทยอีกคนหนึ่งพูดเบาๆดันเข้าใจแล้วเก็ตในทันใด ดู ดิคะ
    คนเราเนี่ย มันชอบได้ยินแต่สิ่งที่ตนเองอยากจะฟัง หรือใช้ประโยชน์ได้
    แล้ว ชาตินี้จะคุยกันรู้เรื่องไหมนี่ สงสัยจะคุยกันคนละภาษาเลยไม่เก็ต

    แต่ถ้ามีหลักฐานเป็นประจักษ์พยาน พิสูจน์ได้ มันก็อีกเรื่อง นะ
    แบบว่า ยอมจำนนด้วยหลักฐาน แต่ถ้าเป็นคำพูด นี่มันก็แย้งกันได้ตลอด
    ไม่จบไม่สิ้น

    ทหารยันไม่ได้ใช้ระเบิดพวงตอบโต้กัมพูชา

    แหล่งข่าวทางทหาร เปิดเผยถึงกรณีเครือข่ายความร่วมมือต่อต้านระเบิดดาวกระจาย (ซีเอ็มซี) ระบุว่า ทหารไทยได้ใช้ระเบิดดาวกระจายตอบโต้ทหารกัมพูชาว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนิตยสารของสหรัฐอเมริกา ลงข้อมูลเนื้อหาการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา โดยเฉพาะการตอบโต้ของทหารไทยด้วยการใช้ระเบิดพวง แต่เรื่องนี้ก็ไม่อยากพูดถึง เพราะบางอย่างพูดไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์ แต่ยืนยันว่าทหารไทยไม่ได้ใช้ระเบิดพวงในการตอบโต้กับทางกัมพูชา ส่วนที่มีข่าวว่าทางเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศสหรัฐอเมริกายังยอมรับกับนิตยสารดังกล่าวนั้น ไม่รู้ว่าเป็นข้อเท็จจริงเพียงใด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทหารไทยปฏิบัติหน้าที่อย่างสมศักดิ์ศรีในการปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย ดังนั้นการที่มีประเทศหนึ่งประเทศใดใช้กำลังในการตอบโต้ หรือ บุกรุกเข้ามายังประเทศไทย ทหารไทยในฐานะที่ดูแลปกป้องผืนแผ่นดินไทยก็จะต้องรักษาและปกป้องให้ถึงที่สุด

    “ไม่ว่าทหารไทยจะใช้อาวุธอะไรตอบโต้กับผู้ที่รุกรานประเทศไทยไม่ใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญอยู่ที่ทหารไทยจะไม่ยอมให้ใครมาบุกรุกแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ทหารไทยไม่ยอมอยู่แล้ว ดังนั้นอย่าเอาเรื่องนี้ขึ้นมาจุดประเด็นเลย เพราะมันไม่เกิดประโยชน์ และอีกอย่างเรื่องนี้มันก็จบไปแล้วเช่นกัน และกองทัพก็ชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้ไปหมดแล้ว และยืนยันมาตลอดว่าไม่ได้มีการใช้ระเบิดพวงในการตอบโต้กับเหตุการณ์ที่ผ่านมา ส่วนเรื่องการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ จีบีซี นั้น ทาง ผบ.เหล่าทัพ ยืนยันแล้วว่า จะไม่มีการจัดการประชุมในประเทศที่ 3 อย่างแน่นอน การประชุม จีบีซี จะเกิดขึ้นได้จะต้องประชุมเพียงแค่ประเทศไทยและ กัมพูชาเท่านั้น” แหล่งข่าวระบุ

    http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9540000043468
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2011
  13. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176


    ขอบคุณคุณ k.kwan ค่ะ ที่ช่วยตอบ อ่านแล้วก็เห็นจริงตามนั้น

    เรื่องของเรื่องคือ "ใจ" เป็นประธานจริงๆ
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    องค์กรต่อต้านการใช้ระเบิดดาวกระจาย ประณามประเทศไทยว่าใช้ระเบิดดาวกระจายในกัมพูชา พร้อมเรียกร้องให้ไทยและกัมพูชาเข้าร่วมลงนามในสนธิสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย


    [​IMG]
    ระเบิดดาวกระจาย, ภาพจาก New Mandala

    เมื่อวันที่ 6 เม.ย. ที่กรุงเจนีวา องค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายเผยว่า จากการลงสำรวจพื้นที่สรุปได้ว่าประเทศไทยเคยใช้ระเบิดดาวกระจายตามแนวตะเข็บชายแดนกัมพูชาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ความขัดแย้งเรื่องเส้นเขตแดน ทั้งระบุด้วยว่า เจ้าหน้าที่ทางการไทยที่เข้าร่วมการประชุมกับองค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายก็ยืนยันว่ามีการใช้ระเบิดดากระจายจริง

    องค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายระบุว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการใช้ระเบิดดาวกระจายหลังจากที่มีสนธิสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย พ.ศ. 2551 เป็นต้นมา

    องค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายได้กล่าวประณามไทยที่ใช้ระเบิดดาวกระจายและเรียกร้องร้องให้ไทยและกัมพูชาให้คำมั่นว่าจะไม่มีการใช่ระเบิดชนิดนี้อีกในอนาคต และเข้าร่วมลงนามในสนธิสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย”
    “เป็นเรื่องน่าตกใจที่มีประเทศหนึ่งประเทศใดใช้ระเบิดดาวกระจายภายหลังจากที่มีสนธิสัญญาห้ามการใช้อาวุธชนิดนี้แล้ว” ลอร่า ชิสแมน ผู้อำนวยการองค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายกล่าว และว่า “ประเทศไทยเคยเป็นผู้นำในการต่อต้านการใช้ระเบิดสังหารบุคคล จึงเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผลที่ประเทศไทยจะใช้อาวุธที่สังหารและก่อความบาดเจ็บแก่บุคคลอย่างไม่เลือกหน้าเช่นนี้”

    ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ที่ผ่านมานั้นทูตไทยประจำองค์การสหประชาชาติยืนยันว่ามีการใช้ระเบิดดาวกระจายแบบทวิประสงค์ ขนาด 155 มิลลิเมตร โดยให้เหตุผลว่าไทยใช้ระเบิดชนิดดังกล่าวในการ “ป้องกันตนเอง” โดยยึดหลัก “ความจำเป็น, ความได้สัดส่วน และเป็นไปตามมาตรฐานทางจริยธรรมทางการทหาร” และกล่าวหาว่าฝ่ายกัมพูชาใช้จรวดจำนวนมากโดยมุ่งประสงค์ต่อพลเรือนในพื้นที่ประเทศไทย


    [​IMG]
    การสำรวจพื้นที่ขององค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจาย


    ในเดือนกุมภาพันธ์และเดือนเมษายนปีนี้ สมาชิกขององค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายได้ลงสำรวจพื้นที่ซึ่งอาจมีการใช้ระเบิดดาวกระจายในกัมพูชาโดยรอบเขาพระวิหาร และพบระเบิดดาวกระจายทั้งที่ยังไม่มีการระเบิด และชิ้นส่วนที่เกิดจากการระเบิดของระเบิดชนิดนี้ องค์กร Norwegian People’s Aid ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในไทยยืนยันว่าพบระเบิดดาวกระจายชนิด M42, M46 และ M85
    อัทเล คาร์เซ็น จากองค์กร Norwegian People’s Aid กล่าวว่า มีประชากรราว 5,000 คนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเสนเจย ในเขตกัมพูชาซึ่งต้องเสี่ยงต่อระเบิดเหล่านี้ และย้ำว่าไทยต้องให้ข้อมูลเพื่อช่วยในการเคลียร์พื้นที่เหล่านี้ให้ปลอดภัยสำหรับพลเรือนเพื่อให้พวกเขาได้กลับบ้าน

    ซิสเตอร์เดนิส ค็อกแลน ผู้นำขององค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายซึ่งได้เข้ามาร่วมสำรวจพื้นที่กล่าวว่า “ระเบิดดาวกระจายได้คร่าชีวิตชาย 2 คน อีก 2 คนสูญเสียแขน และยังมีพลเรือนอีก 5 คนที่ได้รับบาดเจ็บ บริเวณนี้ต้องถูกเคลียร์พื้นที่อย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันการสูญเสียที่จะมีมากขึ้น กัมพูชาจะต้องให้ความสนับสนุนเพื่อทำให้แน่ใจว่าพื้นที่นี้ปลอดภัยต่อพลเรือน”

    องค์กรต่อต้านระเบิดดาวกระจายยังเรียกร้องให้ประเทศไทยให้ข้อมูลรายละเอียดซึ่งรวมถึงพื้นที่ทั้งหมดที่มีการใช้ระเบิดชนิดดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลเตือนภัยในระดับที่เพียงพอและเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการดำเนินการเก็บกู้ระเบิด

    ทั้งนี้ ประเทศกัมพูชาและประเทศไทยไม่ได้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านการใช้ระเบิดดาวกระจายซึ่งมีสมาชิกร่วมลงนามแล้ว 108 ประเทศ แต่ทั้งสองประเทศได้ร่วมในกระบวนการเจรจาที่กรุงออสโล และยังได้เข้าร่วมในการประชุมประเทศภาคีครั้งแรกซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศลาวเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553

    ที่มา.ประชาไท
    Thai Index-News: ประณามประเทศไทยใช้ระเบิดดาวกระจายในกัมพูชา
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ส่วนระเบิดดาวกระจายนั้น เข้าใจว่าเป็น Cluster Bomb หรือระเบิดลูกปราย ซึ่งถูกยิงให้ควงสว่านลงมาเหมือนกระสุนปืน เมื่อได้ระดับที่พอเหมาะ เปลือกของระเบิดจะแยกตัวออก ลูกปราย(Bomblet) 202 ลูกภายในจะถูกเหวี่ยงออกมาด้วยแรงหนีศูนย์ สามารถทำลายเป้าหมายในวงกว้างได้
    ลูกปรายแต่ละลูกมีขนาดเท่าลูกเทนนิส ปกติจะบรรจุสามชนิดคือ..ระเบิดสังหาร ระเบิดเจาะเกราะ และระเบิดเพลิง ..ในสัดส่วนที่เท่าๆกัน แต่สามารถเปลี่ยนสัดส่วนได้ตามภารกิจ


     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ฮิวแมน ไรท์วอทช์เผยสหรัฐ รัสเซียและจีน ยังคงคัดค้านอนุสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจาย

    <TABLE class=contentpaneopen><TBODY><TR><TD class=createdate vAlign=top>วันพฤหัสบดีที่ 25 พฤศจิกายน 2010 เวลา 21:42 น. </TD></TR><TR><TD vAlign=top>ฮิวแมน ไรท์วอทช์ องค์กรพิทักษ์สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เปิดเผยรายงานความยาว224 หน้ากระดาษ ที่เสนอต่อสำนักงานใหญ่สหประชาชาติในยุโรประบุว่าแม้อนุสัญญาห้ามใช้ระเบิดดาวกระจายซึ่งมีประเทศต่างๆ ร่วมให้สัตยาบันกว่า 108 ประเทศจะผ่านการลงนามมานานกว่า 2 ปี แต่ 3 ชาติมหาอำนาจประกอบด้วยสหรัฐ รัสเซียและจีน ยังคงคัดค้านอนุสัญญาดังกล่าว นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 ประเทศ คือ อินเดียปากีสถาน อิสราเอล และเกาหลีใต้ พยายามทำให้น้ำหนักของอนุสัญญานี้ดูอ่อนลงแม้มีผลบังคับใช้แล้ว

    http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=48433:2010-11-25-04-45-15

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2011
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สงครามที่ไม่มีพลเรือน : Human Rights Watch เช็คบิลอิสราเอล

    Mon, 2006-08-07 01:50

    [​IMG]

    หลังคารถพยาบาลที่ถูกอิสราเอลโจมตี "รายวัน"





    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    เหยื่อชาวเลบานอนที่ถูกเผาในแบบต่างๆ

    (ทั้งจากฟอสฟอรัสและอาวุธอื่นๆ)

    [​IMG] [​IMG]



    [​IMG] [​IMG]

    เด็กอิรัก : เหยื่อของอาวุธกากยูเรเนียมที่อเมริกาใช้ตั้งแต่ใน "สงครามอ่าว" - เด็กเลบานอนรุ่นต่อไปกำลังรับ "มรดกสงคราม" เช่นเดียวกันบ้าง

    ffice:smarttags" /><?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</ST1:pLACE>Middle East Uncensored<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    โดย อุทัยวรรณ เจริญวัย<O:p></O:p>

    3 สิงหาคมที่ผ่านมา แอคทิวิสต์ด้านสิทธิมนุษยชน ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ (Human Rights Watch) ได้ออกรายงานใหม่มาฉบับหนึ่ง ความยาว 50 หน้า เกี่ยวกับสถานการณ์สู้รบในเลบานอน ชื่อ "Fatal Strikes: Israel's Indiscriminate Attacks Against Civilians in Lebanon."

    จากการสืบสวนรวบรวมข้อมูลกว่า 20 กรณีตัวอย่าง ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ สรุปว่าอิสราเอลได้ก่อ "อาชญากรรมสงคราม" ขึ้นในเลบานอน อันเนื่องมาจาก "ความล้มเหลวอย่างเป็นระบบ ในการที่จะแยกแยะเป้าหมายที่เป็นพลเรือนกับผู้ที่ทำการสู้รบออกจากกัน" สำหรับแคมเปญทางทหารที่อิสราเอลกระทำต่อเฮซบอลเลาะห์ตั้งแต่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา

    เคนเนธ รอธ (Kenneth Roth) ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์กรนี้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า "รูปแบบของการโจมตี มันแสดงให้เห็นถึงความไม่สนใจใยดีอย่างมาก (disturbing disregard) ที่กองทัพอิสราเอลมีต่อชีวิตของพลเรือนเลบานอน"

    ที่ผ่านมา อิสราเอลได้กล่าวหามาตลอดว่าเฮซบอลเลาะห์ใช้พลเรือนเป็นโล่ เฮซบอลเลาะห์ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางพลเรือน เฮซบอลเลาะห์ยิงจรวดออกมาจากจุดนั้น แต่จากหลักฐานในรายงานของฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ฉบับนี้ ได้ช่วยตอกย้ำอีกครั้งว่า สิ่งที่อิสราเอลพูดออกมา มีค่าแค่...ข้อแก้ตัวอันตื้นเขินของอาชญากรที่ไม่มีความจริงใดๆ รองรับทั้งสิ้น


    อิสราเอลไม่เพียงจงใจโจมตีพลเรือนเลบานอนทั้งที่บ้านและที่ถนนเท่านั้น อิสราเอลยังโจมตีรถพยาบาลแทบจะเรียกได้ว่า "รายวัน" และบางวัน อิสราเอลระดมโจมตีสถานีสังเกตการณ์ของยูเอ็นตามที่ต่างๆ รวมแล้วถึง "30 ครั้ง"

    ที่เลวร้ายกว่านั้น และเป็นข่าวมาตลอดก็คือ การใช้อาวุธที่มีอานุภาพในการทำลายล้างแบบไม่แยกแยะ และผิดกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็น คลัสเตอร์บอมบ์ ระเบิดฟอสฟอรัส และ อาวุธกากยูเรเนียม ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ได้ออกมายืนยันพร้อมหลักฐานว่า อิสราเอลใช้อาวุธนี้กับพลเรือนเลบานอนจริง


    หลังรายงานฉบับนี้ออกมาสดๆ ร้อนๆ สื่ออินดี้ Democracy Now! ในนิวยอร์ค โดยพิธีกรชื่อดัง เอมี กูดแมน (Amy Goodman) ได้โทรศัพท์สัมภาษณ์สดข้ามทวีป ปีเตอร์ บูเกิร์ต (Peter Bouckaert ) ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ - ผู้ร่วมเขียนรายงานฉบับนี้ซึ่งประจำอยู่ที่เบรุต ในวันเดียวกันคือ 3 สิงหาคม (แต่เป็นเวลาของอเมริกา)

    ต่อไปนี้เป็นงานแปลบทสัมภาษณ์ชิ้นนั้น แต่เนื่องจากช่วงสัมภาษณ์ มีประเด็นร้อนๆ เกี่ยวกับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ คานา เข้ามาพอดี ก็เลยมีคำอธิบายเพิ่มเติมในประเด็นนี้มาฝากกันด้วย

    2 สิงหาคม หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ที่คานา 3 วัน ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ออกมาให้ข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบของทางองค์กรเองว่า มีผู้เสียชีวิตที่พบศพแล้ว 28 คน และมีผู้สูญหายไม่รู้ชะตากรรมอีก 13 คน ซึ่งขัดแย้งกับตัวเลขของทางการเลบานอนก่อนหน้านี้ที่ได้เคยออกมาแจ้งว่ามีกว่า 50 ศพ (ในช่วงแรกๆ หลังเกิดเหตุ แม้แต่ตัวเลขที่สื่อแต่ละแห่งอ้างถึง ก็มีความคลาดเคลื่อนสูงมาก ตั้งแต่ 40 ไปจนถึง 60)


    อย่างไรก็ตาม 3 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลเมืองทายร์ ได้ออกมายืนยันข้อมูลของฮิวแมน ไรทส์ วอชท์แล้ว โดยกล่าวว่ามีศพผู้เสียชีวิตที่กู้ได้ 28 ศพ เป็นเด็ก 16 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 9 คน

    เบื้องหลังความคลาดเคลื่อนดังกล่าว ปีเตอร์ บูเกิร์ตมีคำอธิบาย พร้อมกับกล่าวเตือนว่า อย่าให้ความคลาดเคลื่อนทางตัวเลขเล็กๆ น้อยๆ นี้มาหันเหความสนใจของเราไปจากภาพใหญ่...ซึ่งหมายถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดและสถานการณ์วิกฤติด้านมนุษยธรรมในเลบานอนวันนี้

    ณ วันที่ให้สัมภาษณ์ สงครามย่างเข้าวันที่ 23 ยอดผู้เสียชีวิตชาวเลบานอนที่นับได้มีมากกว่า 800 ศพ (ที่นับไม่ได้อีกจำนวนมาก) วิกฤติที่กำลังเกิดขึ้นในเลบานอนเลวร้ายรุนแรงขนาดไหน? อาชญากรรมสงครามที่กองทัพอิสราเอลทำกับพลเรือนเลบานอนมีหน้าตาอย่างไร? นักสิทธิมนุษยชนเจ้าของรายงานคนนี้ พอจะมีคำตอบดีๆ พร้อม "ใบเสร็จ" มาฝากคุณ o

    0 0 0


    สิ่งที่เกิดขึ้นในเลบานอนตอนนี้


    มันเป็นคนละเรื่องไปเลย...กับสิ่งที่ผมเคยเจอมา

    กูดแมน : ช่วยเล่าให้เราฟังหน่อยสิคะว่าคุณพบอะไรบ้าง?

    บูเกิร์ต : ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์มีการปฏิบัติงานทั้งในพื้นที่เลบานอนและอิสราเอล จากการสืบสวนตรวจสอบเกี่ยวกับการโจมตีที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์พบว่า อิสราเอลปฏิบัติการโจมตีในเลบานอนแบบไม่มีการแยกแยะเป้าหมาย (indiscriminate attacks) ส่งผลให้พลเรือนจำนวนมากต้องเสียชีวิต เรามีข้อมูลรายละเอียดอ้างอิง มีการระบุตัวผู้รอดชีวิต ผู้เห็นเหตุการณ์ หรือประจักษ์พยานจำนวนมาก และเรากล้าประกาศชัดๆ ได้เลยว่า ข้ออ้างของอิสราเอลที่ว่า...ความตายของพลเรือนเหล่านั้นเกี่ยวพันและเป็นความรับผิดชอบของเฮซบอลเลาะห์...เป็นเรื่องที่ไม่มีความจริงใดๆ รองรับ ในที่เกิดเหตุ หลายต่อหลายพื้นที่ที่พลเรือนต้องถูกฆ่าตาย - เช่นเดียวกับกรณีที่น่าเศร้าสลดในคานาไม่กี่วันมานี้ - ไม่มีเฮซบอลเลาะห์ปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่นั้นๆ และไม่มีการโจมตีด้วยจรวดใดๆ เกิดขึ้นตามข้ออ้างทั้งสิ้น เมื่ออิสราเอลโจมตีบ้านและโจมตีรถของพลเรือน

    กูดแมน : คุณพอจะเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับกรณีที่คานาหน่อยได้มั้ยคะ? คุณได้ปรับตัวเลขผู้เสียชีวิตลดลงจากเดิมใช่หรือเปล่า?







    บูเกิร์ต : ใช่ครับ คือตอนแรกเลยเนี่ย มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50 คนที่คานา อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลของเราในชั้นต้น ด้วยการสัมภาษณ์ผู้รอดตาย หมอ และหน่วยกู้ภัย เราพบว่า ขณะนี้มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 28 คนที่คานา เป็นตัวเลขจากจำนวนศพที่มีการค้นพบแล้ว เป็นไปได้ว่า จำนวนคนตายอาจจะเพิ่มขึ้นไปกว่านี้อีกเล็กน้อย แต่เราไม่คิดว่ามันจะเพิ่มขึ้นเป็น 54 คนเท่าที่รายงานกันตอนแรก







    แต่เรื่องนี้...ก็ไม่ได้เป็นเพราะว่าเจ้าหน้าที่ของเลบานอนมีเจตนาจะเพิ่มตัวเลขให้ดูสูงๆ เข้าไว้นะครับ คือเรื่องมันเกิดขึ้นง่ายๆ ท่ามกลางความชุลมุนวุ่นวายที่ทุกฝ่ายต่างก็พยายามจะช่วยกันกู้ภัยจากซากตึกถล่ม เจ้าหน้าที่มีรายชื่อของผู้ที่เชื่อกันว่าอาศัยอยู่ในอาคารหลังนั้น 63 คน และเขาสามารถค้นพบหรือชี้ตัวผู้รอดชีวิตได้เพียง 9 คน ก็เลยมีการประเมินเป็นตัวเลขนี้ออกมาในตอนแรก อย่างไรก็ตาม มันเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาเพิ่งจะเข้าถึงหมู่บ้านและทำการกู้ภัยไปไม่กี่ชั่วโมง จริงๆ แล้ว มีคนรอดตายที่พบแล้วตอนนี้อย่างน้อย 22 คน และนี่ก็คือคำอธิบายว่าทำไมตัวเลขมันถึงคลาดเคลื่อน สิ่งต่างๆ มันเกิดขึ้นอย่างรีบร้อนฉุกละหุก ท่ามกลางความพยายามที่จะหาทางรื้อซากช่วยชีวิตคนที่ดำเนินไปอย่างยากลำบาก







    กูดแมน : เป็นไปได้มั้ย...ว่าจะมีศพหลงเหลืออยู่ในซากนั้นอีก?







    บูเกิร์ต : ตามที่เราไปคุยกับสมาชิกครอบครัวที่รอดมา ยังมีอย่างน้อย 13 คนในบ้านหลังนั้น...ที่หายไป หาตัวไม่เจอ ไม่แน่ใจว่าจะกลายเป็นศพอยู่ใต้ซาก หรือว่าหนีภัยไปตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุระเบิดแล้วแต่ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน ตอนนี้ทีมกู้ภัยที่คานาหยุดทำงานไปแล้ว เพราะไม่คาดว่าจะพบศพอีก ทางเราเองก็พยายามจะติดตามดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนที่หายไปอีก 13 คน







    ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญนะ...ที่เราไม่ควรจะปล่อยให้ความขัดแย้งเล็กๆ น้อยๆ ในเรื่องตัวเลขนี้ มาเบี่ยงเบนความสนใจไปจากข้อเท็จจริงที่ว่า มีการโจมตีที่โหดเหี้ยมและรุนแรงอย่างมากเกิดขึ้นที่คานา เป็นการโจมตีที่ไม่มีข้อแก้ตัวใดๆ ที่จะทำให้มันถูกต้องชอบธรรมขึ้นมาได้ทั้งสิ้น และอิสราเอลก็ถูกบังคับให้ต้องถอยหลังจากข้ออ้างเดิมๆ แล้ว ตอนแรกอิสราเอลบอกว่า พวกเขาโจมตีคานาก็เพราะเฮซบอลเลาะห์อยู่ที่นั่นและยิงจรวดมาใส่อิสราเอลช่วงเวลานั้น แต่ตอนนี้ ภายใต้การตรวจสอบอย่างเข้มข้น อิสราเอลถูกบังคับให้ต้องยอมรับออกมาแล้วว่า พวกเขาไม่มีข้อมูลใดๆ บ่งชี้ว่าเฮซบอลเลาะห์อยู่ที่นั่น หรือยิงจรวดมาจากที่นั่น คานาถูกเลือกเป็นเป้าโจมตีเพียงเพราะว่าหลายวันที่แล้ว มีการยิงจรวดออกมาจากพื้นที่ใกล้เคียงกับคานา...ก็แค่นั้น และนี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างเดียวที่แสดงให้เราเห็นว่า การโจมตีแบบไม่แยกแยะของอิสราเอล ในกรณีอื่นๆ อีกมากมาย เกิดขึ้นได้อย่างไร







    อิสราเอลไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่ว่าด้วยการทำสงคราม มันไม่แยกแยะระหว่างส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทหาร และส่วนของพลเรือน ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภค ด้วยเหตุนี้ พลเรือนจำนวนมากจึงต้องเสียชีวิตไปในเลบานอน







    กูดแมน : มีความเคลื่อนไหวจากรัฐบาลเลบานอนและหน่วยงานกาชาดเลบานอนต่อรายงานของฮิวแมนไรทส์ วอทช์ ที่เพิ่งออกมานี้ ว่าทางเลบานอนยังคงยืนยันที่ตัวเลข 57 ศพ (ล่าสุดมีความเปลี่ยนแปลงแล้ว)







    บูเกิร์ต : คือ...เราไปที่โรงพยาบาลในเมืองทายร์มา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลของรัฐบาลและศพทุกศพก็ถูกนำส่งที่นั่น เราได้ข้อสรุปแน่นอนว่า มีศพ 28 ศพที่โรงพยาบาลนั้น ตามข้อมูลที่เราได้รับจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ไม่มีการส่งศพไปที่โรงพยาบาลอื่น แต่ทางเราก็ยินดีที่จะปรับตัวเลขใหม่ถ้ามีหลักฐานเพิ่มเติมเข้ามาจากเจ้าหน้าที่เลบานอน อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผมได้พูดคุยกับสื่อมวลชนจำนวนมากที่ประจำอยู่ทั้งวันในที่เกิดเหตุ พวกเขาบอกผมว่า ไม่ได้เห็นมากกว่า 27 หรือ 28 ศพ







    ก็อย่างที่ผมบอกไปแล้วว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ อย่าปล่อยให้ข้อถกเถียงเรื่องตัวเลขพวกนี้...มาหันเหความสนใจของเราไปจากภาพใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้น ฮิวแมน ไรทส์ วอชท์เพิ่งจะออกรายงานมาฉบับหนึ่ง ชื่อ Fatal Strikes: Israel's Indiscriminate Attacks Against Civilians in Lebanon ซึ่งผู้สนใจสามารถหาอ่านได้ในเว็บไซต์ของเรา รายงานนี้จะเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นชัดว่า หลายต่อหลายครั้ง อิสราเอลได้โจมตีบ้านเรือนและยวดยานพาหนะของพลเรือน สังหารครอบครัวชาวเลบานอน โดยที่ไม่มี objects ทางทหารใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องในพื้นที่นั้นเลย







    และตอนนี้ก็กำลังมีวิฤติขั้นรุนแรงมากเลบานอนตอนใต้ มีประชาชนหลายหมื่นคนที่ติดอยู่ในบ้าน ในจุดที่มีการสู้รบดุเดือด คนเหล่านี้ไม่สามารถจะอพยพออกไปไหนได้ เพราะพื้นที่รอบๆ กลายเป็นสมรภูมิที่เลวร้ายไปแล้ว รถของพวกเขาถูกโจมตี ค่าโดยสารแท็กซี่ก็อยู่ในระดับสุดโหด เกินกว่าใครที่ไหนจะหาเงินมาจ่ายได้ พร้อมกันนั้น อิสราเอลยังประกาศอีกว่า ใครก็ตามที่ยังอยู่ในเลบานอนตอนใต้ หลังจากที่เขาประกาศเตือนแล้ว จะถือว่าเป็นผู้สนับสนุนเฮซบอลเลาะห์ และกลายเป็นเป้าโจมตีที่ชอบธรรมของอิสราเอลไปด้วย







    มันเป็นสถานการณ์ที่เสื่อมทรามถึงขีดสุดจริงๆ สิ่งของที่เป็นความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมกำลังจะหมดแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาพยาบาลไม่สามาถเข้าถึงคนบาดเจ็บได้เลย ศพถูกทิ้งให้เน่าอยู่กลางถนน หน่วยบรรเทาทุกข์กู้ภัยไม่มีใครเข้าถึง และทังหมดนี้ต่างหากคือสิ่งที่เราควรจะให้ความสนใจ จำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาคมโลกจะต้องกดดันอิสราเอลและเฮซบอลเลาะห์อย่างจริงจัง เพื่อสถานการณ์เลวร้ายด้านมนุษยธรรมขณะนี้ จะได้รับการเยียวยาแก้ไขให้ดีขึ้น และเพื่อให้การสู้รบครั้งนี้อยู่ในกรอบของกฎหมายด้วย







    กูดแมน : กฎหมายที่ว่านี้คือกฎหมายอะไร? และตามที่ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ กล่าวหาอิสราเอลว่าก่ออาชญากรรมสงคราม จริงๆ แล้วอาชญากรรมสงครามที่ว่า คืออะไรกันแน่?







    บูเกิร์ต : อาชญากรรมสงครามหมายถึงการกระทำที่ละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวกับสงคราม ซึ่งกฎหมายนี้กล่าวไว้อย่างชัดเจน ผู้ที่สู้รบกัน ไม่ว่าอิสราเอลหรือเฮซบอลเลาะห์ จำเป็นจะต้องแยกให้ออกระหว่างเป้าหมายทางทหารซึ่งอนุญาตให้โจมตีได้ กับพลเรือน วัตถุสิ่งของ หรืออาคารสถานที่ ที่ห้ามโจมตี แต่บางครั้ง แม้ในการโจมตีเป้าหมายทางทหารที่มีความชอบธรรม พลเรือนก็อาจถูกฆ่าตายได้เป็นครั้งคราว ผมเคยทำงานที่โคโซโว อัฟกานิสถาน และอิรักมาแล้ว เรามีข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับการโจมตีที่ผิดพลาดเช่นนี้ และในหลายๆ กรณี ก็มีความตายของพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย







    แต่สิ่งที่เราเจอที่เลบานอนครั้งนี้มันแตกต่างจากที่อื่นมาก และเช่นกันในอิสราเอลด้วย ในอิสราเอล เฮซบอลเลาะห์ยิงจรวดเข้าไปโจมตีโดยพุ่งเป้าไปที่พลเรือนโดยตรง และที่มันเป็นอาชญากรรมสงครามก็เพราะมันกระทำต่อพลเรือน ในเลบานอน อิสราเอลไม่ได้สนใจแม้แต่กฎหมายที่พื้นฐานที่สุด พูดง่ายๆ ก็คือ ก่อนที่จะเหนี่ยวไก พวกเขาต้องชัวร์ก่อนว่า กำลังเล็งไปที่เป้าหมายทางทหาร แต่นี่ไม่ใช่ มันเกิดขึ้นเป็นประจำเลย พลเรือนในเลบานอนถูกฆ่าโดยไม่มีวัตถุหรือเป้าหมายทางทหารใดๆ แสดงตัวอยู่ที่นั่น หรือเข้ามาเกี่ยวข้องในเหตุการณ์นั้นๆ







    กูดแมน : ผู้บัญชาการทหารของอิสราเอล พลโทแดน ฮาลูทซ์ (Lieutenant-General Dan Halutz) กล่าว่า "เฮซบอลเลาะห์ใช้พลเรือนเป็นโล่ปกป้องตัวเอง แต่กองทัพอิสราเอลใช้ตัวเองเป็นโล่ปกป้องพลเรือนจากเฮซบอลเลาะห์ และนั่นคือความแตกต่างระหว่างเรา" เฮซบอลเลาะห์ใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์จริงรึเปล่า? คุณคิดว่ายังไง?







    บูเกิร์ต : ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ ไม่มีปัญหา ในการที่จะประณามการละเมิดกฎหมายหรืออาชญารรมสงครามอย่างที่เฮซบอลเลาะห์กระทำต่ออิสราเอล เราพูดมาตั้งแต่แรกแล้วว่า เฮซบอลเลาะห์ควรจะหยุดการโจมตีแบบไม่แยกแยะเช่นกัน แต่ขณะเดียวกัน มันก็เป็นข้อแก้ตัวที่ดูจะสะดวกง่ายดายสำหรับอิสราเอลมาก เมื่อพวกเขาบอกว่า พลเรือนเลบานอนถูกฆ่าก็เพราะเฮซบอลเลาะห์ใช้เป็นโล่กำบัง หรือเฮซบอลเลาะห์เอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลัง แต่ก็อย่างที่เราบอกไปแล้ว ข้อแก้ตัวของอิสราเอลที่ว่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และไม่สอดคล้องกับหลักฐานมากมายที่เรามี







    ตามหลักฐานของเรา พลเรือนที่ถูกฆ่าตายมากมาย ในละแวกบ้านของเขาไม่ใช่พื้นที่ของเฮซบอลเลาะห์ ในบ้านของเขาก็ไม่มีทั้งเฮซบอลเลาะห์ และอาวุธของเฮซบอลเลาะห์ พลเรือนธรรมดาๆ ถูกโจมตีเป็นว่าเล่น ทั้งๆ ที่พวกเขาเดินทางอยู่บนท้องถนน หรือแม้แต่ในกรณีที่รถพวกเขามีธงขาว







    นอกจากนั้น อิสราเอลยังโจมตีรถพยาบาล และรถขนส่งสิ่งของความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกด้วย ชนิดที่เรียกได้ว่า โจมตีรายวันหรือโจมตีทุกวัน - - ขณะที่ฐานที่มั่นหรือสถานีของยูเอ็นยิ่งถูกโจมตีบ่อยกว่า คือวันละหลายๆ ครั้ง บางวันสถานีสังเกตการณ์ของยูเอ็นตามพื้นที่ต่างๆ ถูกโจมตีรวมแล้วถึง 30 ครั้งภายในวันเดียวกัน







    เพราะฉะนั้น ปัญหาจึงอยู่ที่อิสราเอลไม่เคยมีความระมัดระวังอย่างที่จำเป็นต้องมีเลย ใช่ เฮซบอลเลาะห์อาจจะเป็นศัตรูที่ต่อสู้ด้วยยาก เพราะพวกเขาทำการรบแบบที่เรียกว่าสงครามกองโจร ไม่ได้มีรถถังหรือรถหุ้มเกราะที่จะโจมตีได้ง่ายๆ แต่อิสราเอลมีพันธะที่จะต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ผมผ่านมาแล้วทั้งในอิรัก อัฟกานิสถาน โคโซโว เชชเนีย และอีกหลายสนามรบ ผมเห็นว่ากองทัพที่นั่นมีการโจมตีแบบแยกแยะความแตกต่างของเป้าหมาย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในเลบานอนตอนนี้ มันเป็นคนละเรื่องไปเลย...กับสิ่งที่ผมเคยเจอมา

    กูดแมน : ตามรายงานฉบับนี้ ฮิวแมน ไรทส์ วอทช์ ได้พูดถึงการใช้ระเบิดดาวกระจายหรือ คลัสเตอร์บอมบ์ (Cluster Bomb) ของกองทัพอิสราเอลไว้ด้วย อยากให้คุณเล่ารายละเอียดให้ฟังสักนิดนึง

    บูเกิร์ต : ทีมวิจัยของผมที่อยู่ทางตอนเหนือของอิสราเอล สามารถถ่ายรูปคลัสเตอร์บอมบ์ที่อยู่ในความครอบครองของหน่วยปืนใหญ่ของอิสราเอลไว้ได้ และเรายังสามารถเก็บหลักฐานของคลัสเตอร์บอมบ์ที่ถูกยิงเข้าไปในฝั่งเลบานอนไว้ได้ด้วยเช่นกัน


    คลัสเตอร์บอมบ์เป็นอาวุธที่อันตรายมาก (มีหลายรูปแบบ) ตามปกติ ในส่วนที่ใช้กับปืนใหญ่ เมื่อกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกไป พอถึงเป้าหมาย มันจะเปิดออก และปล่อยระเบิดย่อยๆ หรือ ลูกปราย (bomblet) กระจายออกมาเป็นบริเวณกว้าง ก่อนที่จะระเบิดตามมา มันเป็นอาวุธที่ใช้เพื่อการทำลายแบบไม่แยกแยะ มันจะอันตรายถึงที่สุดเมื่อใช้ในพื้นที่ที่มีประชากรอยู่หนาแน่น ที่หมู่บ้าน บลิดา (Blida) ในเลบานอน เรามีหลักฐานยืนยันว่ามีการโจมตีด้วยคลัสเตอร์บอมบ์ที่นั่น ผลลัพธ์ของมันไม่เพียงแต่ฆ่าหญิงชราไป 1 คน ยังทำให้ครอบครัวหนึ่งซึ่งมีสมาชิกถึง 12 คนต้องได้รับบาดเจ็บ และในจำนวนนั้นเป็นเด็กถึง 7 คน ขณะที่คนที่เป็นสามีต้องเสียขาทั้งสองข้าง

    แต่ปัญหาของคลัสเตอร์บอมบ์ไม่ใช่แค่การระเบิดวงกว้างทำลายไม่เลือกเท่านั้น ปัญหาที่ตามมาอีกอย่างก็คือ ลูกปรายส่วนที่ไม่ได้ระเบิดตั้งแต่แรก คิดเป็นอัตราส่วนประมาณ 14% จะตกค้างอยู่เพื่อรอวันระเบิดในอนาคต กลายเป็นมรดกเพื่อการล้างผลาญ-สร้างความพิการต่อไปหลังจากสงครามสิ้นสุดไปแล้ว และมันไม่ใช่มรดกที่เราคิดเอาเองทางทฤษฎีเท่านั้น ทั้งในโคโซโวและอิรัก เราต่างก็พบเห็นความสูญเสียที่ว่านี้มาแล้ว มีเด็กที่ไปหยิบระเบิดพวกนี้ขึ้นมาเล่นด้วยความอยากรู้อยากเห็น หรือชาวนาชาวไร่ที่ไปเหยียบมันเข้าตอนที่ออกไปทำงานในทุ่ง


    อิสราเอลไม่ควรใช้อาวุธคลัสเตอร์บอมบ์ในความขัดแย้งครั้งนี้ แม้แต่ในมุมมองทางทหาร มันก็ไม่ใช่อาวุธที่เหมาะสมในการต่อสู้กับสงครามกองโจรด้วยเช่นกัน เพราะอาวุธนี้มันออกแบบมาสำหรับพื้นที่ที่ทหารชุมนุมกันอยู่อย่างหนาแน่นและเป็นจำนวนมากเท่านั้น คุณโยนมันลงมาเพื่อที่จะสังหาร เพราะมันคือระเบิดสังหาร มันไม่ควรจะนำมาใช้กับศัตรูที่กระจัดกระจาย ไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มก้อนแบบเฮซบอลเลาะห์

    กูดแมน : หลังจากรายงานฉบับนี้ออกมา อิสราเอลยอมรับว่าพวกเขาใช้คลัสเตอร์บอมบ์จริง แต่บอกว่าพวกเขาใช้มันอย่างถูกกฎหมาย เรื่องนี้หมายความว่ายังไง?

    บูเกิร์ต : พวกเขาได้ออกแถลงการณ์ที่แปลกประหลาดที่สุดฉบับหนึ่ง...เท่าที่ผมเคยได้ยินมา เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า พวกเขาไม่ได้ใช้คลัสเตอร์บอมบ์ในเขตที่มีประชากรอยู่อาศัย และก็ไม่ได้ใช้มันกับเฮซบอลเลาะห์ด้วย ตกลงผมก็ไม่เลยไม่แน่ใจว่าพวกเขาใช้มันกับใครกันแน่ เราไม่คิดว่าคลัสเตอร์บอมบ์เป็นอาวุธที่สามารถใช้ได้อย่างถูกกฎหมายในเขตพื้นที่ที่อยู่อาศัย มันเป็นอาวุธที่อันตรายเกินไป ไม่แยกแยะเกินไป ทุกประเทศในโลกควรจะเลิกใช้คลัสเตอร์บอมบ์ในเขตที่อยู่อาศัยได้แล้ว เราพูดจากประสบการณ์ที่เราเคยเจอมาทั้งในอิรัก โคโซโว และอัฟกานิสถาน เรามีข้อมูลบันทึกไว้เกี่ยวกับผู้บาดเจ็บล้มตายที่อยู่ในขั้นเลวร้ายมาก อันเนื่องมาจาการใช้คลัสเตอร์บอมบ์ในเขตเมือง โดยเฉพาะกรณีของรัฐบาลอเมริกาและอังกฤษ ที่ใช้ระเบิดนี้อย่างกว้างขวางในอิรัก


    กูดแมน : มีรายงานการใช้ ฟอสฟอรัส (phosphorus) (1) เป็นอาวุธบ้างมั้ย?

    บูเกิร์ต : มีรายงานการใช้ฟอสฟอรัสเข้ามามากเลย และเราก็รู้ด้วยว่าอิสราเอลมีฟอสฟอรัสไว้ใช้ในกองทัพ ในส่วนของทหารปืนใหญ่ เพียงแต่ประเด็นฟอสฟอรัสนี้ มันมีความแตกต่างอยู่ตรงที่กฎหมายเปิดช่องให้ใช้เป็นเครื่องมือให้แสงสว่างได้ในสนามรบ ขณะที่ปัญหาที่เกิดขึ้นจะมาจากการใช้ฟอสฟอรัสเป็นอาวุธ เพราะเมื่อฟอสฟอรัสถูกใช้เป็นอาวุธ มันจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บจากการเผาไหม้ที่น่าสยดสยองมาก อาจจะทำให้ร่างกายพิการ เสียโฉม หรือผิดรูปไปเลย มีรายงานว่าอิสราเอลยิงอาวุธฟอสฟอรัสเข้าใส่พลเรือนทั้งที่อยู่บนรถและอยู่ในบ้าน เรากำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่และให้ความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากกรณีเช่นนี้เคยเกิดขึ้นที่อิรัก เมือง ฟัลลูจาห์ มาแล้ว โดยนาวิกโยธินของอเมริกาได้ใช้ฟอสฟอรัสเป็นอาวุธจริง หลังจากที่ออกมาปฏิเสธในตอนแรก ถือเป็นการละเมิดกฎมายอย่างร้ายแรง


    กูดแมน : ปีเตอร์ บูเกิร์ต ยังมีอาวุธอีกชนิดหนึ่งที่ดิฉันอยากจะถามคุณ มีรายงานว่า มีการส่ง ระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ (Bunker Buster) จากอเมริกาให้อิสราเอล ซึ่งได้แก่ ระเบิดนำวิถี GBU-28 เป็นอาวุธที่ทำขึ้นจาก กากยูเรเนียม (Depleted Uranium) (2) คุณพอจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างมั้ย?


    บูเกิร์ต : ครับ ผมเห็นรายงานชิ้นนี้แล้ว อาวุธที่ขนส่งมาถึงอิสราเอลแล้ว เรื่องนี้เพิ่งจะเป็นประเด็นขัดแย้งกันไประหว่างอเมริกากับอังกฤษ เพราะอเมริกาใช้ฐานทัพอังกฤษในการขนถ่ายอาวุธไปให้อิสราเอล โดยไม่มีการแจ้งขออนุญาตเจ้าหน้าที่ของอังกฤษก่อน เราคิดว่า มันเป็นเรื่องที่ชวนให้หนักใจมากๆ อเมริกายังคงส่งอาวุธมาให้อิสราเอล ทั้งๆ ที่มีหลักฐานมากมายว่าอิสราเอลใช้อาวุธแบบละเมิดกฎหมายในช่วงที่ผ่านมา

    ก็อาจจะใช่ ที่ว่ามันเป็น smart munition เป็นอาวุธฉลาด-มีความแม่นยำสูง ในโลกของอุดมคติ มันก็คงจะดีถ้าคุณจะใช้อาวุธที่มีความแม่นยำพวกนี้ แล้วจบลงด้วยการโจมตีโดนเป้าหมายที่ต้องการจะโดน แต่หลักฐานในโลกของความจริง ในพื้นที่จริง มันยืนยันกับเราว่า อิสราเอลใช้อาวุธเหล่านี้อย่างไม่ถูกต้องเหมาะสม พวกเขาโจมตีแบบไม่มีความคุ้มครองให้พลเรือน เพราะฉะนั้น มันจึงสำคัญมาก ที่ประเทศเจ้าของอาวุธทั้งหลายจะต้องวางข้อจำกัดกันบ้างว่า อาวุธของพวกเขาจะให้ใครใช้ได้อย่างไร และควรจะหยุดส่งอาวุธให้...เมื่อประเทศไหนก็ตามกระทำสิ่งที่ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา o
    ........................................................................

    อธิบายท้าย


    (1) - ไวท์ฟอสฟอรัส (WP - White Phosphorus ชื่อเล่น Willy Pete) เป็นสารเคมีที่มีการนำมาใช้หลากหลายรูปแบบและวัตถุประสงค์ในทางการทหาร ด้วยคุณลักษณะของการเผาไหม้ที่ก่อให้เกิดเปลวไฟและกลุ่มควันขาวคลุ้งหนาแน่นขนาดใหญ่ มันจึงถูกใช้เพื่อการพรางตัวเคลื่อนที่ในสนามรบ การจุดให้แสงสว่าง การส่งสัญญาณบอกทาง หรือตำแหน่งเป้าหมาย


    ในกรณีที่ไวท์ฟอสฟอรัสถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ มันจะกลายเป็นระเบิดเพลิงที่มีลักษณะของ "อาวุธเคมี" ร่วมด้วย นอกจากเนื้อเยื่อบริเวณที่ถูกเผาไหม้จะถูกทำลายอย่างลึกซึ้งและสร้างความเจ็บปวดอย่างมากแล้ว อนุภาคของมันยังสามารถถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบของร่างกาย ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต และหัวใจตามมาได้ ด้วยเหตุนี้ ผู้ที่ร่างกายถูกเผาไหม้ด้วยฟอสฟอรัสจึงมีความเสี่ยงในการเสียชีวิตมากกว่าถูกเผาด้วยวิธีอื่น การเผาไหม้ของฟอสฟอรัสเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยับยั้งได้ง่ายๆ มันจะเผาไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหมดออกซิเจน และถ้าได้รับสารนี้ในปริมาณมาก มันจะเผาจนเหลือแต่กระดูกสีขาว


    (2) - อาวุธกากยูเรเนียม กากยูเรเนียม (Depleted Uranium) หมายถึง ยูเรเนียมรูปแบบหนึ่ง-ประมาณ 99.8% ของกากยูเรเนียมได้แก่ U-238 กากยูเรเนียมเป็นสิ่งที่เหลืออยู่หลังจากยูเรเนียมในรูปแบบที่มีกัมมันตภาพรังสีสูงมากถูกแยกออกไปทำเชื้อเพลิงหรืออาวุธนิวเคลียร์แล้ว แต่ถึงกระนั้น ยูเรเนียมที่เหลือ (ซึ่งเรียกให้เข้าใจผิดเล่นว่า "กาก") ก็ยังอันตรายเพราะมันมีกัมมันตภาพรังสีอยู่สูง กากยูเรเนียมเป็นโลหะหนักที่มีคุณสมบัติของสารพิษ ด้วยความแข็งแกร่งพิเศษเฉพาะตัว มันจึงถูกนำไปใช้ผลิตอาวุธรูปแบบต่าง ๆ อาทิ ลูกกระสุน กระสุนปืนใหญ่ ทุ่นระเบิด ระเบิด อาวุธนำวิถี ฯลฯ

    เมื่ออาวุธเหล่านี้ถูกยิงออกไป มันจะระเบิดเป็นเปลวไฟ และปล่อยอนุภาคกัมมันตภาพรังสีที่มองไม่เห็นออกมา ฝุ่นละอองของ ยูเรเนียมออกไซด์ ที่ฟุ้งปลิวออกไป ประกอบด้วยอนุภาคโลหะขนาดจิ๋ว เล็กยิ่งกว่าไวรัสหรือแบคทีเรีย เมื่อยูเรเนียมออกไซด์เข้าสู่ระบบร่างกาย มันจะไม่ละลายและไม่สามารถขับถ่ายออกมาได้ง่ายๆ เหมือนยูเรเนียมตามธรรมชาติ อาวุธกากยูเรเนียมสามารถสร้างความเจ็บป่วยอย่างกว้างขวางครอบคลุมแทบจะทุกโรคก็ว่าได้ ตั้งแต่ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อ กระดูกผุ มะเร็ง เนื้องอก ไปจนถึงลักษณะพันธุกรรมผิดปกติ นำมาซึ่งความสูญเสียและความพิการของเด็กแรกเกิด ฯลฯ


    ปัจจุบัน อาวุธกากยูเรเนียมไม่ได้มีแต่ U-238 เท่านั้น มันได้พัฒนาการไปสู่ส่วนผสมใหม่ๆ ที่ร้ายแรงกว่าเดิมอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น พลูโตเนียม (plutonium) เนปทูเนียม (neptunium) และ ยูเรเนียมอีกรูปแบบหนึ่ง U-236 (อันตรายกว่า U-238 ถึง 100,000 เท่า)
    ที่ผ่านมา อเมริกาได้ใช้อาวุธกากยูเรเนียมอย่างหนักในการโจมตีอิรักและอัฟกานิสถาน และในสงครามครั้งนี้ มีหลักฐานว่า อิสราเอลก็ได้ใช้อาวุธนี้โจมตีชาวเลบานอนเช่นกัน (กระสุนเจาะเกราะ) ล่าสุด อเมริกาได้ส่งอาวุธกากยูเรเนียมมาเพิ่มเติมให้อิสราเอลแล้ว นั่นก็คือระเบิดบังเกอร์บัสเตอร์ GBU-28 อานุภาพทำลายล้างมโหฬาร จำนวนไม่ต่ำกว่า 100 ยูนิต


    สงครามที่ไม่มีพลเรือน : Human Rights Watch เช็คบิลอิสราเอล | ประชาไท หนังสือพิมพ์ออนไลน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2011
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยิ่งหาข้อมูลเรื่องระเบิดดาวกระจายนะ ยิ่งรู้สึกว่า เหมือนไทยเราเป็นลูกแกะ อะ
    หาสิ่งที่ไทยเราผิดไม่ได้ ก็เอาเรื่องโน้น เรื่องนี้มาเป็นประเด็น ทั้งๆที่ประเด็นจริงๆที่เป็น
    ชนวนของความขัดแย้ง ที่สมควรจะทำให้มันกระจ่างและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
    หรือเป็นหนทางที่นำไปสู่ความมีสันติภาพและภราดรภาพ ในภูมิภาคนี้ ก็ไม่เห็นจะมี
    องค์กรกลางที่ทรงความเที่ยงธรรมที่ไหนจะช่วยให้เรื่องมันจบแบบสันติ แบบถูกต้องตามที่
    มันเป็นจริงอย่างที่มันควรจะเป็น ให้ถูกใจประชาชนคนที่เป็นเจ้าของพื้นที่ตัวจริง

    ปัญหาเขาพระวิหาร ถ้าเที่ยบกับภูมิภาคอื่นๆ แล้ว ถือว่าแทบไม่มีความสำคัญเรยนะ
    ที่อื่นเขาเล่นกันแรง ตายกันโครมๆ เป็นตัวอย่างเห็นๆ ไม่เห็นมีใครจะไปทำอะไรพวกนั้นได้เรย
    ใครจะประณามอะไรก็ทำได้ แต่ควรจะให้เป็นความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่งั้นมันก็ไม่มีน้ำหนัก
    แถมยังจะลดความน่าเชื่อถือขององค์นั้นๆ ไปอีก ว่าเป็นองค์กรที่เป็นเครื่องมือของประเทศใด
    ประเทศหนึ่งหรือเปล่า

    ดังนั้น สรุปว่า ก็ฟังข่าว แบบฟังหูไว้หู ถ้าเราทำถูกต้องตามกฏบัตรมาตรฐานสากล ของการปกป้อง
    ตนเอง เราก็มีสิทธิตามอธิปไตยนั้น ใครทำไม่ถูกไม่เป็นกลาง ก็ล้มละลายความน่าชื่อถือไปเอง
    รวมกันเราอยู่ แตกแยกกันเอง เราก็ตาย เราก็อย่าซ้ำเติมพวกเรากันเอง ก็แล้วกันเนาะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2011
  19. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    676
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    เงินเฟ้อมาแล้ว


    06 เม.ย. 2554, 12:21 น.
    หมวดหมู่ : รอบโลก


    <!-- end actor -->เงินเฟ้อมาแล้ว
    กลายเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจเอเชียมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วต่อเนื่องมาในปีนี้
    ที่ทั่วภูมิภาคเอเชียแม้ว่าเศรษฐกิจจะคึกคักขึ้น แต่ภาวะเงินเฟ้อก็กำลังสร้าง
    ความลำบากใจให้กับทุกประเทศกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออก
    อย่างจีนที่ดูว่าจะหนักหนาสาหัสกว่าใครเพื่อนเอเชียเจอแล้ว จีนยิ่งเจอหนัก
    รายต่อไปอาจจะต้องจับตาไปที่สหรัฐครับ ปัญหาเงินเฟ้อกำลังทำให้ธนาคาร
    กลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มหันมาให้ความสนใจแบบตาไม่กะพริบ

    อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐในขณะนี้อยู่ที่ 2.1% ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐย้ำมาตลอด
    ว่าเงินเฟ้อไม่ใช่ปัญหา อยู่ในระดับที่คุมได้ แต่มาถึง ณ วันนี้ เริ่มจะไม่เป็น
    เช่นนั้นอีกแล้วปัจจัยเสี่ยงอย่างแรกที่โผล่มาให้โลกเสียวกันเล่น ก็คือ
    ราคาน้ำมัน ที่เจอแรงดันแบบสุดโต่งจากสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออก
    กลาง ราคาป้วนเปี้ยนไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ เรียงๆ ครับ จนขณะนี้ใกล้แตะ 110 เหรียญสหรัฐเต็มที่
    ปัจจัยต่อมา ก็คือเงินทุนจากโลกตะวันตก โดยเฉพาะ
    จากสหรัฐที่เริ่มทยอยพาเหรดออกจากตลาดเอเชีย และกลับไปที่ตลาดสหรัฐ
    กันมากขึ้นอันเป็นผลมาจากที่ตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มฟื้นตัวเรื่อยๆ กระแสทุนยิ่งไหลกลับ
    สู่แผ่นดินลุงแซม ยิ่งสร้างความเสี่ยงต่อภาวะเงินเฟ้อมากขึ้นไปอีก

    เท่านั้นยังไม่พอ อย่าลืมว่าธนาคารกลางสหรัฐออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ
    แบบหลายขนานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมาตรการผ่อนปรนเชิงนโยบาย
    หรือคิวอี2 มูลค่ากว่า 6 แสนล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเสี่ยง
    ทำให้เม็ดเงินในสหรัฐเฟ้อตัวหนักประกอบกับอย่าลืมว่า เฟด ยังคง
    รั้งอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0% มานานจะ 3 ปีแล้ว

    ตรงนี้แหละครับที่จะทำให้สหรัฐเข้าสู่ภาวะอันตรายมากขึ้น
    ส่วนญี่ปุ่น แม้ว่าในขณะนี้จะฟุบตัวลงไปหลังจากประสบกับแผ่นดินไหว
    และสึนามิ แต่หลังจากนี้ญี่ปุ่นจะเร่งทุ่มแบบเต็มที่เพื่อฟื้นฟูประเทศ และ
    เศรษฐกิจครั้งใหญ่น่าจะทำให้ราคาสินค้าหลายประเภท
    โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับภาคการก่อสร้าง ตลอดจนเชื้อเพลิงและน้ำมัน
    จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น และราคาจะยิ่งโดดไปมากขึ้นครับ

    และเมื่อสหรัฐและญี่ปุ่นที่ปกติจะเจอกับภาวะเงินฝืด กลับมาประสบกับวิกฤตเงิน
    เฟ้อรุมเร้าขึ้นบ้าง ก็น่าจะกล่าวได้อย่างเต็มปากว่า

    เศรษฐกิจโลกกำลังเดินเข้าสู่ห้วงภาวะข้าวยากหมากแพงอย่างเต็มตัว
    อาหารก็แพง น้ำมันก็แพง ราคาสินค้าก็แพง !กลายเป็นปัญหาท้าทายครั้งใหม่
    อันเป็นผลกระทบจากการเร่งกระตุ้นกันแบบไม่สนหน้าอินทร์หน้าขวาน
    เมื่อช่วงเศรษฐกิจฟุบลงไปก่อนหน้านี้ครับ


    latest breaking news headline
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ขออนุญาติ ประชาสัมพันธ์ค่ะ

    Quote:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ในวันที่น้ำท่วมฟ้าและแผ่นดินท่าศาลา </TD></TR></TBODY></TABLE>
    Quote:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">
    โดยผู้ประสานงาน วลัยลักษณ์เพื่อปวงชนเมื่อ 28 มีนาคม 2011 เวลา 12:30 น.



    โลกกำลังปรับตัวเพื่อจะได้อยู่ร่วมกับมนุษย์และสรรพสิ่งได้ในอนาคตอันใกล้
    แผ่นดินไหวบ้าง น้ำท่วมบ้าง สินามิบ้าง ฯ นั่นก็เป็นรูปแบบการปรับตัวที่เรารู้สึกและสัมผัสได้

    ในช่วงร้อยปีที่ผ่านมามนุษย์เปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตเยอะมาก
    แม้แต่มนุษย์ตัวเล็ก ๆอย่างเรา ๆเองก็ตกหล่นและตามไม่ทันกับบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไป

    เรามักให้โอกาสและเวลากับตัวเองเสมอ เพื่อปรับตัวกับสิ่งใหม่ ๆ
    จะแปลกอะไรนัก ถ้าเราจะให้โอกาสและเวลากับโลกใบนี้บ้าง

    วันนี้ตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความรู้สึกดี อย่างน้อย ๆก็ได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
    มองออกไปนอกหน้าต่าง น้ำยังมีมาก ทั้งในสวน ถนน และคลองข้างบ้าน
    แต่ก็น้อยกว่าเมื่อวานนัก

    ฝนตกลงมาอีกแล้ว ถามตัวเองเหมือนกันว่า จะเป็นเหมือนเมื่อวาน เมื่อวานซืนอีกมั้ย
    แต่นั่นก็เป็นเรื่องที่เราจะรู้เมื่อมันมาถึงและผ่านไป
    และนี่อาจเป็นอีกวิธีที่ท้องฟ้าอยากจะสื่อสารถึงเรา

    อีกเจ็ดนาที จะเที่ยงตรง ฟ้ายังมืดคลึ้ม ฝนยังตกเหมือนที่เคยเป็น
    มองออกไปที่ระเบียงจึงเห็นว่า เมื่อวาน เรายังรู้สึกหนักเหนื่อยกว่านี้นัก

    คิด ทบทวนและเฝ้ามองโลกใบนี้อย่างช้า ๆ
    พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผ่านมา สิ่งที่เกิดขึ้นและกำลังจะเกิดตามมา

    เราเองคงตัองปรับตัวมากขึ้นเพื่อที่จะอยู่กับโลกใบนี้ได้ดีขึ้น
    และอาจช่วยให้โลกปรับตัวเองน้อยลง


    ******************

    ศูนย์กระจายความช่วยเหลือฯท่าศาลา-นบพิตำ-สิชล(หน่วยเฉพาะกิจสระบัว)


    โดยผู้ประสานงาน วลัยลักษณ์เพื่อปวงชนเมื่อ 1 เมษายน 2011 เวลา 8:33 น.


    ศูนย์กระจายความช่วยเหลือ ท่าศาลา-สิชล
    ประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจสระบัว และหน่วยเฉพาะกิจสาขา



    ที่ตั้ง อาคารร้านค้าชุมชนบ้านสระบัว ม.๖ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ๘๐๑๖๐


    ติดต่อ ผ่าน Facebook ทรงวุฒิ พัฒแก้ว และ ผู้ประสานงาน วลัยลักษณ์เพื่อปวงชน
    ผู้ประสานงาน คุณจินดา จิตตะนัง (เจี๊ยบ) โทร.๐๘ ๖๙๕๒ ๕๒๕๘

    วิทยุสื่อสาร เครื่องแดง ช่อง ๗


    อาสาสมัครได้มาจากหลายภาคส่วน ซึ่งมาจากแกนนำและแนวร่วมในการคัดค้านและไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินและนิวเคลียร์ ,เขื่อน,เชพรอน,นิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและแผนพัฒนาภาคใต้ จากหลายเครือข่ายเช่น ประมงพื้นบ้านอ่าวท่าศาลา,เครือข่ายรักษ์บ้านเกิดท่าศาลา,เครือข่ายวลัยลักษณ์เพื่อปวงชน,ชมรมอาสาพัฒนาและบำเพ็ญประโยชน์,องค์กรพัฒนาเอกชน(NGOs),แนวร่วม


    ภารกิจ(เฉพาะพื้นที่ที่เราสมัครใจ ไม่ผูกมัดและไม่ให้ใครผูกมัดความรับผิดชอบ จะไม่เป็นเครื่องมือให้ใคร กลุ่มใดเด็ดขาด)


    ๑. กระจายอาหาร ถุงยังชีพ ยา ฯลฯให้ไปถึงพี่น้องที่ได้รับผลกระทบรุนแรงในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยากและไม่มีใครอยากเข้าไป

    ๒. สำรวจและจัดทำฐานข้อมูลสภาพปัญหาและผลกระทบ

    กติกาและสิ่งที่อาสาสมัครที่ต้องทราบ
    ๑. ไม่มีค่าตอบแทนใด ๆทั้งสิ้น
    ๒. สามารถดูแลตัวเองได้
    ๓. สุขภาพใจ กาย พร้อมที่จะเสียสละ
    ๔. ไม่จู้จี้ จุกจิก ขี้บ่น มีเหตุผลใช้เหตุผล
    ๕. ทำงานเป็นทีม
    ฯลฯ

    กติกาการรับสนับสนุน
    ๑. ไม่รับเงินบริจาค นอกจากเป็นเงินของหน่วยงานเอกชนหรือบุคคลที่รู้จักคุ้นเคย เพื่อนฝูงที่สนิมและชอบพอเท่านั้น
    ๒. กรณีสนับสนุนเครื่องยังชีพ ยา กรุณาระบุพื้นที่(ให้ชัดเจน)พื้นที่ที่ต้องการให้เราเข้าไปช่วย
    พื้นที่ไหนอยู่นอกเขตสมัครใจของเรา เราจะช่วยประสานหน่วยงานอื่น ๆให้เท่าที่สามารถทำได้
    ๓. อาหารควรจะเป็นอาหารที่พี่น้องมุสลิมทานได้
    ๔. ยินดีรับการสนับสนุนเครื่องมือ เช่น เรือ รถ ฯลฯ กรณีเกิดความเสียหาย เราไม่มีงบประมาณซ่อมแซมบำรุง
    ฯลฯ

    หมายเหตุ เราเป็นทีมอาสาสมัครจะทำเท่าที่ทำได้ กรุณาอย่ากดดัน คาดหวัง


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG] http://palungjit.org/threads/เดินเท้า-เอาข้าวไปแจก-แบกถุงยังชีพข้ามเขา.286317/
     

แชร์หน้านี้

Loading...