เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    360 องศา: มะกันงัดวิธีใหม่ยุติปัญหาคนจรจัด ให้ที่พักถาวรคนไร้บ้านทั่วประเทศ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2554 09:27 น.

    [​IMG]

    อเมริกาพยายามยุติปัญหาคนไร้บ้านให้ได้ภายในหนึ่งทศวรรษ ด้วยโครงการหาที่พักถาวรให้คนจรจัด ‘เฮาส์ซิง เฟิร์สต์’


    เอเอฟพี – ในฤดูหนาวอันร้ายกาจของปีที่แล้ว หลังจากตระเวนหาที่ซุกหัวนอนข้างถนนและตามที่พักพิงคนจรจัดในกรุงวอชิงตันมา 13 ปี ในที่สุด มอรีน บรอสนาแฮน ก็มีอพาร์ตเมนท์กะทัดรัดเป็นของตัวเองโดยที่ไม่ต้องมีข้อผูกพันใดๆ

    มอรีนจึงไม่ต้องทนหนาวเหน็บในกล่องกระดาษหรือในเศษพลาสติกที่นำมาห่อตัวให้ความอบอุ่น เกาะกลุ่มกับคนจรจัดอื่นๆ เพื่อป้องกันขโมยหรือพวกโรคจิตที่เห็นคนไร้บ้านเป็นเหยื่ออีกต่อไป
    “คุณคงคิดเสมอว่าอะไรๆ จะต้องดีขึ้น สำหรับฉันมันเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ฉันไม่ต้องไปขออาบน้ำที่โบสถ์อีกแล้ว” มอรีนเล่าจากตึกที่มีหอพัก 16 ห้องที่บริหารโดยโอเพน อาร์มส์ เฮาส์ซิง องค์กรท้องถิ่นที่หาที่พักให้แก่หญิงจรจัดโดยไม่แสวงผลกำไร

    สาวใหญ่วัย 53 ปีผู้นี้เป็นหนึ่งในคนนับพันทั่วสหรัฐฯ ที่ได้ย้ายเข้าอยู่ในบ้านถาวรในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางใหม่ที่ผู้สนับสนุนเชื่อว่าจะทำให้ปัญหาคนไร้บ้านถึงกาลอวสานภายในหนึ่งทศวรรษ

    กลยุทธ์ ‘เฮาส์ซิง เฟิร์สต์’ เรียกร้องให้ระบุตัวผู้ที่มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเสียชีวิตข้างถนน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกติดยา ผู้ป่วยทางจิต และคนที่มีปัญหาสุขภาพเรื้อรัง และหาที่พักถาวรให้คนเหล่านั้น

    โครงการที่จริงจังที่สุดอาจเป็นแคมเปญที่จัดหาบ้าน 100,000 หลังทั่วอเมริกาที่เปิดตัวครั้งแรกในนิวยอร์ก และกำหนดจุดสิ้นสุดไว้ในปี 2013

    นับจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีการจัดหาบ้านให้คนจรจัดแล้วกว่า 7,200 ราย รวมถึงกว่า 1,000 รายในกรุงวอชิงตัน โดยมีอัตราการคงอยู่ 90%

    ภายใต้โครงการที่พักอาศัยดั้งเดิมของรัฐบาล ผู้สมัครรับความช่วยเหลือต้องรอเป็นปีๆ และมีที่อยู่สำหรับการติดต่อ รวมถึงไม่อนุญาตสำหรับคนติดยาหรือผู้กระทำผิดอื่นๆ ซึ่งถือเป็นกระบวนการที่ทำให้กลุ่มที่เสี่ยงเสียชีวิตข้างถนนมากที่สุดแทบสิ้นหวัง

    ตรงข้ามกับเฮาส์ซิง เฟิร์สต์ ที่มองว่าการมีที่อยู่ถาวรและการสนับสนุนเป็นเงื่อนไขเบื้องต้นในการเยียวยาความป่วยไข้อื่นๆ ที่เกาะกินคนจรจัด

    “ถ้าคุณนอนข้างถนน เครียด กลางคืนคุณอาจหาเหล้ากินเพื่อเมื่อไม่ให้หลับ เพราะอาจถูกหนูกัดหรือถูกพวกโรคจิตรุมซ้อม และเพื่อแก้หนาว

    “แต่ถ้าได้อยู่ในอพาร์ตเมนท์ คุณอาจจิบเบียร์เบาๆ และนอนหลับสบายอยู่หน้าทีวี” ลินดา คอฟแมน ผู้ประสานงานโครงการเฮาส์ซิง เฟิร์สต์ในแถบอีสต์โคสต์ บอก

    รัฐบาลสหรัฐฯ ขานรับแนวทางนี้โดยการรวมเฮาส์ซิง เฟิร์สต์ในแผนการมูลค่า 1,400 ล้านดอลลาร์ เพื่อยุติปัญหาคนจรจัดเรื้อรังภายในปี 2015 และครอบครัวไร้บ้านในปี 2020
    เจ้าหน้าที่และผู้สนับสนุนระบุว่า การหาบ้านให้คนจรจัดไม่ได้เป็นเพียงทางออกที่เอื้ออารีที่สุดเท่านั้น แต่ยังถูกที่สุดเพราะช่วยลดต้นทุนค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินและการบังคับใช้กฎหมาย

    อย่างไรก็ตาม ยังมีความกังวลกันว่ารัฐบาลในทุกระดับอาจถูกบังคับให้หั่นงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อรับมือวิกฤตเศรษฐกิจที่ยังตกค้างอยู่ ส่งผลให้มีเงินไม่พอตอบสนองเป้าหมายของเฮาส์ซิง เฟิร์สต์

    บ้างกลัวว่าเจ้าหน้าที่ที่กระตือรือร้นเกินไปอาจมองเฮาส์ซิง เฟิร์สต์เป็นทางเลือกสำหรับที่พักพิงฉุกเฉิน ในจังหวะที่วิกฤตเศรษฐกิจทำให้มีคนไร้บ้านมากขึ้น ซึ่งรวมถึงครอบครัว

    เหมือนเช่นตอนที่เอเดรียน เฟนตี้ เริ่มรับแนวทางเฮาส์ซิง เฟิร์สต์เข้าสู่แผนการของวอชิงตันในปี 2008 ขณะดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรี และสั่งปิดที่พักพิงขนาดใหญ่ในเมืองที่มีเตียง 400 เตียง ส่งผลให้คนไร้บ้านมากมายต้องย้ายไปซุกหัวนอนในสวนสาธารณะใกล้เคียง

    จากข้อมูลของเนชันแนล อัลลิแอนซ์ ทู เอนด์ โฮลเลสเนสส์ ในบรรดาคนจรจัด 650,000 คน เกือบ 40% อยู่ข้างถนนโดย ‘ไร้ที่กำบัง’

    ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่อยู่ห่างจากทำเนียบขาวไม่กี่ช่วงตึก แบลร์หอบหิ้วถุงพลาสติกและกระเป๋าเสื้อผ้าที่เป็นที่เก็บสมบัติทั้งหมดหลังจากต้องระเห็จออกจากอพาร์ตเมนท์เมื่อปีที่แล้วหลังแม่ตาย

    สาวใหญ่วัย 42 ปีกับแคทลีน เพื่อนร่วมชะตากรรมวัย 68 ปี ต้องหาที่นอนในสวนสาธารณะอยู่หลายคืน ก่อนหอบหิ้วกันไปศูนย์พักพิงผู้มีภาวะอุณหภูมิร่างกายลดต่ำผิดปกติในโบสถ์แห่งหนึ่งที่จะเปิดให้บริการเมื่ออุณหภูมิภายนอกลดลงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

    “คนมองคุณเหมือนเป็นตัวเชื้อโรค” แบลร์บอก

    ทั้งคู่นอนโดยมีสมบัติทั้งหมดอยู่ใกล้ตัวที่สุด เพราะการถูกขโมยเป็นความกลัวฝังลึกในที่พักพิง และต้องออกจากศูนย์ตั้งแต่ 7 โมงเช้า

    ทั้งสองคนไม่เคยได้ยินโครงการเฮาส์ซิง เฟิร์สต์ และบอกว่าที่พักพิงหลายแห่งแน่นขนัดตามปกติ

    “มีคนมากมายที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน มีหน้าใหม่มาให้เห็นทุกคืนเสมอ” แคทลีนทิ้งท้ายก่อนเดินหายไปในค่ำคืนหนาวเหน็บ

    Around the World - Manager Online - <b><font color=blue>360 ͧ
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เผย 2 ลูกชายกัดดาฟีแอบทำข้อเสนอเปลี่ยนถ่ายอำนาจดึงพ่อลงจากผู้นำ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2554 13:48 น.


    [​IMG]



    เซอิฟ อัลอิสลาม เอลกัดดาฟี ลูกชายคนหนึ่งของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย


    เอเอฟพี - หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เผย ลูกชายของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ไม่ต่ำกว่า 2 คนเสนอการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศไปเป็นระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ซึ่งจะรวมถึงการยินยอมให้พ่อของพวกเขาลงจากอำนาจในฐานะผู้นำลิเบียด้วย

    นิวยอร์กไทมส์รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่การทูตรายหนึ่ง และเจ้าหน้าที่ลิเบียอีกรายหนึ่ง ซึ่งสรุปแผนดังกล่าวให้ฟังว่า เซอิฟ อัลอิสลาม เอลกัดดาฟี ลูกชายคนหนึ่งของผู้นำลิเบียจะเป็นหัวหอกในแผนการถ่ายโอนอำนาจดังกล่าว

    ทั้งนี้ยังไม่ชัดเจนว่า นายพลกัดดาฟี วัย 68 ปีได้ลงนามในข้อเสนอดังกล่าว ที่ได้รับการสนับสนุนโดยลูกๆ ของเขา ทั้งเซอิฟ และซาอาดี เอลกัดดาฟีแล้วหรือไม่

    อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ดังกล่าวระบุว่า ผู้ใกล้ชิดลูกชายของกัดดาฟีรายหนึ่งได้เปิดเผยว่าผู้นำลิเบียมีท่าทีที่จะยอมรับข้อเสนอดังกล่าว

    นิวยอร์กไทมส์อ้างคำกล่าวของผู้ใกล้ชิดกับเซอิฟ และซาอาดีที่ว่า ลูกชายทั้งสองคนของกัดดาฟีต้องการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศโดยปราศจากพ่อของพวกเขา

    หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังเสริมว่า ความคิดนี้อาจสะท้อนความเห็นแตกต่างในหมู่ลูกชายของกัดดาฟีด้วย เนื่องจากเซอิฟ และซาอาดีโอนเอียงที่จะเปิดรับเศรษฐกิจ และการเมืองแบบตะวันตก แต่คามิส และมูตูอัสซิม ลูกชายอีก 2 คนนั้นยึดมั่นในแนวทางของตัวเองมากกว่า

    สำหรับคามิสนั้นทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทหารฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ส่วนมูตูอัสซิม ซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ถูกมองว่าไม่ลงรอยกับเซอิฟ เนื่องจากการแย่งชิงสืบทอดอำนาจต่อจากพ่อของพวกเขา

    Around the World - Manager Online -
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “โสมแดง” ส่งเจ้าหน้าที่ดูงานบริษัททุนนิยมในสหรัฐฯ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2554 12:39 น.





    เอเอฟพี - เกาหลีเหนือส่งเจ้าหน้าที่ไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อศึกษาการทำงานของบริษัทยักษ์ใหญ่ต่างๆ เช่น กูเกิล และ ควอลคอมม์ เป็นเวลาทั้งสิ้น 16 วัน รายงานเผยวันนี้(4)

    ผู้แทนด้านเศรษฐกิจ 12 คนของรัฐบาลเปียงยางได้เดินทางจากเมืองซานฟรานซิสโกของสหรัฐฯถึงกรุงปักกิ่งวานนี้(3) หลังเสร็จสิ้นการทัศนศึกษาที่บริษัทใหญ่ๆหลายแห่ง และร่วมสัมมนากับนักวิชาการของสหรัฐฯ หนังสือพิมพ์ จุงอัง อิลโบ รายงาน

    เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือและองค์กรสหรัฐฯซึ่งเป็นเจ้าบ้านต่างพยายามปิดข่าวการเดินทางครั้งนี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯก็ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นใดๆ

    อย่างไรก็ตาม จุงอัง อิลโบ ได้รับสำเนาตารางเดินทาง ซึ่งระบุว่าเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้ไปเยือนหลายบริษัท เช่น กูเกิล, โฮม เดโป, ควอลคอมม์, ซิตีกรุป, สำนักข่าวบลูมเบิร์ก, ห้ามสรรพสินค้าบลูมมิงเดลส์ และ เซ็มปรา เอนเนอจี ซึ่งเป็นผู้บริหารโรงไฟฟ้าในสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ ผู้แทนจากเกาหลีเหนือยังไปเยี่ยมชม ยูนิเวอร์เซิล สตูดิโอ ในนครลอสแองเจลิสอีกด้วย

    เจ้าหน้าที่เปียงยางให้ความสนใจอุตสาหกรรมอาหารเป็นพิเศษ โดยได้ไปศึกษาการดำเนินงานของฟาร์มข้าวและเห็ดในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงบริษัทผลิตอาหาร แคลร์มิล แมนูแฟ็กเจอริง

    จุงอัง รายงานว่า โครงการดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่ระดับผู้อำนวยการเดินทางไปด้วยถึง 6 ราย ซึ่งรวมถึง ยอน อิล หัวหน้าคณะผู้แทนจากกระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรกรรม, กระทรวงการคลัง และ กระทรวงอุตสาหกรรม

    การเยือนสหรัฐฯครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากสถาบันความขัดแย้งและความร่วมมือระหว่างประเทศ(ไอจีซีซี)แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เมืองซานดิเอโก

    ผู้แทนจากเกาหลีเหนือยังได้ร่วมสัมมนาเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ความร่วมมือ, การปกป้องผู้บริโภค, นโยบายการเงิน และความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ โดย วิลเลียม เพอร์รี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และ ซิกฟรีด เฮ็กเกอร์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ซึ่งเคยไปเยือนโรงเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของเกาหลีเหนือเมื่อปีที่แล้ว ก็ร่วมสัมมนาในครั้งนี้ด้วย จุงอัง เผย

    จีนซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญเคยแนะนำให้กรุงเปียงยางเร่งปฏิรูปตลาดเสรี เพื่อฟื้นฟูสถานะทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอ แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่าผู้นำเกาหลีเหนือคงไม่ยินดีผ่อนคลายอำนาจ แม้ประเทศจะประสบภาวะอดอยากแสนสาหัสก็ตาม

    เกาหลีเหนือต้องคอยปราบปรามตลาดเอกชนที่ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด หลังเกิดภัยแล้งในทศวรรษที่ 1990 ซึ่งทำให้ระบบแจกจ่ายอาหารของรัฐบาลล้มเหลว

    Around the World - Manager Online -
     
  4. pumm...

    pumm... สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +9

    เรื่องโลกร้อนโดยก๊าซเรือนกระจกเป็นเรื่องหลอกเด็กครับ แล้วเรื่องชั้นบรรยากาศของดาวอังคารและดาวดวงอื่นๆในระบบสุริยะของเราร้อนขึ้นจะอธิบายยังไง? ที่นั่นไม่มีคนอยู่??! Carbon Dioxide มีประโยชญ์มหาศาลโดยเฉพาะกับต้นไม้

    ที่เขานำเรื่องพวกนี้มาเป็นประเด็นเพราะพวกมันจะได้ดำเนินการเรื่อง "Carbon Taxes: A carbon tax is a tax on energy sources which emit carbon dioxide" ได้สะดวก...ว่าง่ายๆ..ตอนคุณหายใจออกมันก็เสีย tax ด้วยเหมือนกัน!!
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” ทรงเผย “ในหลวงทุกข์เหลือเกิน” เหตุเผาบ้านเผาเมือง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2554 17:42 น.

    คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
    “ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” ประทานสัมภาษณ์เหตุเผาบ้านเมืองนำความทุกข์เหลือเกินสู่พระราชินี-ในหลวง กระทั่งอาการพระประชวรที่เริ่มดีกลับทรุดลง ทรงเล่าทั้ง 2 พระองค์ทรงงานหนักมาโดยตลอดโดยเฉพาะในยามประเทศเกิดวิกฤต จนบางครั้งแทบไม่มีเวลาบรรทม ตรัสอยากได้เวลาทีวีวันละ 10 นาทีหวังคนเข้าใจในหลวงทำอะไรอยู่ แต่ยังไม่กล้าขอ


    เป็นการออกอากาศที่มีประชาชนคนไทยจำนวนมากให้ความสนใจติดตามชมสำหรับรายการ “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” เทปคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 เม.ย.) ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี หลังทรงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ประทานสัมภาษณ์เรื่องราวส่วนพระองค์ โดยมี “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” เป็นพิธีกรผู้ดำเนินรายการ

    ผู้ดำเนินรายการ : ขอพระราชทานกราบทูลเกล้าฝ่าพระบาท ข้าพเจ้านายวู้ดดี้ ผู้ดำเนินรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ขอพระราชทานบันทึกเทปและพระราชทานสัมภาษณ์ใต้ฝ่าพระบาท ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

    ผู้ดำเนินรายการ : ต้องเรียนทูลกระหม่อมว่า วันนี้ข้าพเจ้ารู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดในชีวิตตั้งแต่ทำรายการมา และต้องขอกราบอภัยถ้าข้าพเจ้าได้ทูลผิดในหลายๆ ครั้ง

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมทอดพระเนตรรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยบ่อยไหม พระพุทธเจ้าข้า?
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็ดูบ้างแต่ไม่ได้ดูทุกครั้งค่ะ

    ผู้ดำเนินรายการ : ถ้ามีโอกาสได้ทอดพระเนตรโทรทัศน์หรือว่าทีวี ทรงโปรดละครหรือว่าข่าวประเภทไหนพระพุทธเจ้าข้า?
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ดูหลายอย่างดูพวกสารคดีทางธรรมชาติ ละครก็ดูเป็นบ้างเรื่อง ละครไทยดูเป็นบางเรื่อง บางเรื่องก็ทำได้ดี แต่บ้างเรื่องก็ดูไปดูมาแล้วก็หลับ (ทรงพระสรวล)

    ผู้ดำเนินรายการ : แสดงว่าดูไปดูมาละครเรื่องนั้นอาจจะเบื่อ
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : อาจจะเบื่อ (ทรงพระสรวล)

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมทรงมีพระวินิจฉัยอย่างไรจึงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าพเจ้าและทีมงานสัมภาษณ์พระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็อยากจะให้คนที่ดูรายการนี้รู้จักตัวฉันอย่างแท้จริง ดีกว่าฟังข่าวลืออย่างโน่นอย่างนี้ บางทีข่าวก็บิดเบือน อันนี้มาจากต้นตอเลย ก็การันตีแล้วว่าเป็นข่าวจริง

    ผู้ดำเนินรายการ : เรื่องอะไรที่ทูลกระหม่อมกังวลใจอยู่ตอนนี้อยู่พระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็มีอะไรแปลกๆ เยอะ บางคนก็ลือไสยศาสตร์ บางทีก็บอกฉันว่า ที่ล้มเพราะถูกคนกระทำ ก็บอกว่าใครจะมากระทำเพราะไม่เคยไปทำร้ายใครใครจะมากระทำ

    ผู้ดำเนินรายการ : และฝ่าพระบาทเองมีการรับมือกับปัญหาในชีวิตยังไงพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก่อนอื่นต้องบอกว่าเป็นเด็กวัด คืออยู่วัดป่าบ้านตาดมา 15 ปีกับหลวงตามหาบัว ยังไงคนเราต้องมีแน่สิ่งกระทบ ขอเรียกว่าสิ่งกระทบทางสังคม อย่างพวกแสงสีเสียง เสียงอะไรที่เราได้ยินมาเรารับมาล้วนทั้งดีและไม่ดี

    พอพระท่านบอกว่า สรรเสริญควบคู่กับนินทา อยู่ในโลกนี้มันเลี่ยงไม่ได้ แต่ว่าถูกเขานินทาว่าร้ายถ้ายังกระทบใจเรา สิ่งที่เราต้องกระทำก็คือ พิจารณาตัวเองก่อน พระท่านสั่งให้พิจารณาตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปพิจารณาคนอื่น เราต้องดูตัวเราเองก่อนต้องพิจารณาตัวเราเองก่อน

    ว่าสิ่งที่เขาว่าที่มากระทบเรานี้มันเป็นจริง เราเป็นจริงอย่างที่เขาว่าไหม ถ้าเราเป็นจริงต้องแก้ไขด้วยตัวเอง แก้ไขเสร็จแล้วก็วาง แต่พิจารณาแล้วไม่เป็นจริงก็วางเลย ต้องขอพูดเล่นๆ ว่า ถ้ามีของเราแบกไว้เราหนักไหม มันหนัก การปล่อยวางวางนี้มันเบาโอ้ยมันสบาย เพราะฉะนั้นต้องปล่อยวางให้อภัยได้

    ผู้ดำเนินรายการ : แต่บางครั้งดูเหมือนจะยากพระพุทธเจ้าข้า อย่างข้าพพระพุทธเจ้ายังรู้สึกโรคจิตคือแบกอยู่ได้ บางครั้งยังต้องปล่อย แต่ก็คิดว่าพนักงานจะอยู่ยังไง มันไม่สามารถกลับบ้านไปปิดประตูได้เลย ทำไม่ได้
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ต้องทำให้ได้ค่อยๆ ทำการปล่อยวาง นี้เป็นสิ่งที่ทำยาก ตัวเราเองนี้ก็ทำยากแต่ต้องปล่อย อย่างแต่ก่อนเป็นคนนอนไม่หลับ สมัยสาวๆ เป็นคนนอนไม่หลับ แต่พอมาตอนหลังๆ อยู่กับหลวงตามหาบัว ก็ต้องบอกตัวเองว่า ต้องนอนแล้วนะ มันก็ต้องหลับ ทุกอย่างวางไว้ก่อน พรุ่งนี้ค่อยคิดต่อ ตอนแรกทำยากค่ะ แต่สิ่งที่จะช่วยได้ในการทำคือการนั่งสมาธิ พอจิตนิ่งพอสงบมันจะกลายเป็นความสุข

    ผู้ดำเนินรายการ : ทุกวันนี้ทูลกระหม่อมมีความสุขทุกวันเวลาที่ตื่นขึ้นมาไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็ไม่ทุกวันหรอกค่ะ ชีวิตคนเราก็ต้องมีสิ่งที่เราถูกใจไม่ถูกใจ มีทั้งนั้นที่จะมากระทบ แต่ฉันวาง ต้องหัดวางให้เร็ว

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมบอกว่า ทรงเป็นเด็กวัดตอนนี้ทรงเสด็จฯ ไปที่วัดของหลวงตามหาบัวได้ข่าวว่าทรงอยู่ในกุฏิเล็กๆ เองพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : กุฏินี้ห้องห้องเดียวและก็นอนกับพื้น และก็มีห้องน้ำก็ห้องเล็กๆ เกือบเท่าห้องน้ำในเครื่องบิน อยู่ได้ ก็อยู่มาหลายปีแล้ว

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมอยู่มาอย่างสบายๆ แต่ว่าตอนนี้ทูลกระหม่อมตัดทุกอย่างทิ้งมันทำใจยังไง
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : หลวงตามีวิธีสอนให้ทำใจ คือตอนที่เป็นลูกศิษย์หลวงตาใหม่ๆ ท่านยังไม่ให้ไปอยู่ในวัด ท่านบอกขอเตรียมความพร้อมก่อน ท่านให้ไปอยู่โรงแรม ตี 4 กว่าท่านให้เริ่มจากการใส่บาตรตอนเช้า พอใส่บาตรเสร็จจะเดินตามท่านเข้าไปทานอาหารเช้าพร้อมกับพระ จากนั้นท่านก็จะเทศน์ พอเทศน์เสร็จท่านก็จะให้พรเป็นอันจบกิจวัตรตอนเช้า พอตอนบ่ายท่านก็จะให้เข้าไปที่กุฏิหลวงตาและท่านก็จะสอนตัวต่อตัวและก็ติวเข้มเลย ว่ากิจวัตรประจำวันควรจะเป็นยังไงทำตัวยังไง

    ผู้ดำเนินรายการ : หลวงตาสอนอะไรบ้างพุทธเจ้าข้า ที่ทรงจำได้
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : สอนมากมาย แต่ว่าหลักใหญ่สำคัญที่ใจ คนเรามีใจเป็นประธาน ถ้าใจดีแล้วทุกอย่างก็จะดีตามด้วย และท่านก็สอนอย่างพอมีความทุกข์ก็ไปหาท่าน ท่านก็สอนว่า อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้วเราไม่สามารถดึงมาแก้ไขได้ เพราะฉะนั้น เรื่องในอดีตให้ปล่อยวางไปเลยอย่าคิด

    ผู้ดำเนินรายการ : หลวงตาท่านดุไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ไม่ดุค่ะ และท่านก็สอนต่ออีกว่าอนาคตเป็นสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ไม่ควรที่จะไปคาดเดาจินตนาการ เพราะฉะนั้นจะทำให้ฟุ้งซ่านขอให้อยู่ในปัจจุบัน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดแล้วอนาคตก็จะดีเอง

    ผู้ดำเนินรายการ : เรียกหลวงตาท่านว่าอย่างไรพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ท่านพ่อค่ะ

    ผู้ดำเนินรายการ : หลวงตาเรียกใต้ฝ่าพระบาทว่าอย่างไรพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : หลวงตาท่านเรียกทูลกระหม่อมลูก

    ผู้ดำเนินรายการ : หลังจากหลวงตามหาบัวจากโลกของเราไปแล้ว ทรงรู้สึกอย่างไรบ้างพระพุทธเจ้าข้าวินาทีนี้
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ต้องใช้คำว่าว้าเหว่เหมือนกัน แต่ว่าหลวงตาท่านบอกว่า ให้เก็บพ่อไว้ในใจ แล้วพ่อจะอยู่ในทูลกระหม่อมลูกตลอดไป

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมอยากฝึกธรรมะเอง อยากฝึกไปถึงขั้นไหนพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ไม่ คิดแค่ว่าอยากจะเป็นข้างต้นบรรลุพระโสดาบันตามความเชื่อของพระพุทธศาสนา ถ้าบรรลุพระโสดาบันแล้วจิตจะไมมีวันตกไปอยู่ในความชั่ว มันจะดีแล้วมันก็จะดีไปตลอด แม้ว่าต้องมาเกิดในโลกมนุษย์นี้บ้างก็อีก 7 ชาติ บ้างก็อีก 3 ชาติ บ้างก็ชาติเดียว อันนี้ท่านเขียนไว้ในพระไตรปิฎก และก็ที่พูดถึงว่ามีชาติกี่ชาติ ไม่รู้ว่าใครสัมภาษณ์ใคร ต้องถามคุณวู้ดดี้ว่าอยากเกิดอีกไหมคะ

    ผู้ดำเนินรายการ : ข้าพพระพุทธเจ้ายอมรับว่า อยากพระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าอยากที่จะอยู่บนโลกนี้ ข้าพระพุทธเจ้ามีความสุขที่ได้อยู่บนโลกนี้ไม่อยากตาย แต่ทุกคนบอกว่าจะต้องตาย ไปจากโลกนี้หรือนิพพานอะไรซักอย่าง ถึงจะได้พบกับความสุขที่แท้จริง แต่ว่าพระพุทธเจ้ายังยึดติดอยู่ ไม่อยากตายพระพุทธเจ้าข้า

    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : คนเราเกิดมาต้องตายหมดทุกคนเพราะฉะนั้นการเกิดก็มีทุกข์แล้ว ลองสังเกตดูนะคุณวู้ดดี้ มีเด็กคนไหนไหมเกิดมาแล้วหัวเราะ เกิดมามีแต่ร้องไห้เลย (พระพุทธเจ้าข้า) เพราะฉะนั้นแสดงว่ามีทุกข์ เพราะฉะนั้นการแก่บางคนก็ไม่อยากแก่ และการเจ็บนี้ไม่มีใครอยากเจ็บ และไม่มีใครอยากตาย เพราะฉะนั้นคุณวู้ดดี้ต้องซ้ำๆ เกิด-แก่-เจ็บ-ตาย ถ้าจะแจงให้ละเอียด ความทุกข์บนโลกมนุษย์มีอีกเยอะเลย สู้เราตายไปให้พ้นเลยไม่ดีกว่าเหรอ

    ผู้ดำเนินรายการ : อยากตายแล้วพระพุทธเจ้าข้า

    ผู้ดำเนินรายการ : อย่างผู้หญิงบางคนจะยึดติดกับแบรนด์เนม ทูลกระหม่อมเองรู้สึกอย่างไร หลังจากศึกษาธรรมะแล้วทิ้งได้ไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็ยังชอบนะแต่ว่าไม่ถึงกับติด เพราะว่าหลวงตาท่านสอนไม่ให้ยึดติดกับอะไรทั้งสิ้น แต่จริงๆ แล้วในตัวฉันยังเป็นคนชอบแต่งตัว ฉันยังเหมือนผู้หญิงธรรมดาแต่ว่าบาปในส่วนอื่นๆ มาอยู่กับหลวงตาก็ลดลงไปเยอะ คือไม่ทำบาปอะไรอย่างอื่น การฆ่าสัตว์ แม้แต่มด แม้แต่ยุงเคยตบ เดี๋ยวนี้ก็ไม่ตบแล้ว (แต่ก่อนตบใช่ไหมพระพุทธเจ้าค่ะ) เคย สมัยก่อนเคยแต่ตอนนี้ไม่แล้ว

    ผู้ดำเนินรายการ : จะทำยังไงพระพุทธเจ้าข้า เวลานั่งสมาธิมันมาไต่ กัดอยู่
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : บางทีก็เอาปากเป่าถ้าตัวมันเบาๆ แต่ถ้ามันตัวโตหน่อยก็ค่อยคีบไปปล่อยข้างนอก

    ผู้ดำเนินรายการ : แล้วเจ้ามดตัวน้อยๆ ไม่กัดเหรอพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ไม่กัดค่ะ สงสัยมันเรียนธรรมะด้วย

    ผู้ดำเนินรายการ : ทรงหวังที่จะนิพพานเลยหรือไม่ พระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็อยากนะแต่ชาตินี้คงทำไม่ได้เพราะว่ายังถูกผูกมัดด้วยหน้าที่ คือเกิดมาเป็นลูกพระเจ้าอยู่หัว มีหน้าที่มากมาย คือเป็นอะไรที่ยังต้องทำอะไรเกี่ยวกับทางโลกมาก เคยคิดว่าอยากจะไปอยู่วัดเลย แต่ไม่เป็นที่ยอมรับของญาติมิตร เลยเสาร์-อาทิตย์ไปๆ มาๆ

    ผู้ดำเนินรายการ : ไม่เป็นที่ยอมรับของญาติมิตรหมายความว่ายังไงพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : คือเขาไม่อยากให้ไปเพราะเขากลัวว่าจะหลุดไปเลย คือกลัวจะไปทางสายนั้นเลย คือเขาห่วงว่าจะติดต่อไม่ได้ กลัวจะไปเป็นอุบาสิกาอยู่ที่วัดเลย

    ผู้ดำเนินรายการ : นอกจากปฏิบัติธรรมแล้วใต้ฝ่าพระบาทยังทรงเป็นกำลังสำคัญ ดำเนินการจัดทำผ้าป่าสำคัญช่วยชาติของหลวงตาและปัจจุบันนี้ยังคงดำเนินไปถึงขั้นใดแล้วพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ตอนนี้ทองที่ได้หลังจากที่หลวงตาจะละสังขารนี่อยู่ที่ 12 ตันในคลังหลวง แต่ช่วงที่หลวงตาละสังขารไปแล้วรอพระราชทานเพลิงอยู่ 1 เดือนนี้ก็มีคนมาบริจาคทั้งเงินทั้งทอง เข้าใจว่าคงจะถึง 13 ตันแล้ว เพราะว่าคนมาบริจาคเยอะ แล้วพูดก็ไม่น่าเชื่อ เงินเพียงแค่ 30 วันได้มา 600 ล้าน แต่ใน 600 ล้านหลวงตาเขียนไว้ในพินัยกรรมอย่างชัดเจนว่า ให้ไปซื้อทองเข้าคลังหลวง ท่านระบุไว้อย่างชัดเจนเลย แต่จริงๆ แล้วก็อยากจะดำเนินเจตนารมณ์ต่อจากหลวงตาเหมือนกัน แต่ก็เกรงพระบารมีของตัวฉันเองนี้จะไม่เท่าหลวงตาก็อาจจะทำได้ แต่ช้าหน่อย

    ผู้ดำเนินรายการ : ทรงพระกรรแสงเยอะไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ไม่ค่ะ เพราะว่าหลวงตาสั่งไว้ไม่ให้ร้องไห้ แต่มันก็จุกๆ ขึ้นมาเกือบๆ เหมือนกัน

    ผู้ดำเนินรายการ : มันต้องคิดบ้างสิใช่ไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ใช่ แต่ตอนที่รู้สึกอีกตอนนึงก็คือตอนพระราชทานเพลิง แล้วพอไปเห็นอัฐิท่านนี้ใจนี้กึกแล้ว เอ๊ะ ใจเราจะทนได้ไหม เพราะว่าเคยเห็นท่านเป็นองค์ๆ เคยคุยกับท่าน เห็นอีกทีท่านเป็นกระดูกไปแล้ว คือว่าหลวงตาท่านอยากให้เป็นอย่างนั้น อยากจะให้ดูและจะได้พิจารณา จะได้ไม่ยึดติด

    ผู้ดำเนินรายการ : เขาบอกว่าการที่เราเป็นเจ้าสบายเหลือเกิน มีทุกอย่างเพรียบพร้อม ทูลกระหม่อมรู้สึกอย่างไรกับประโยคนี้พระเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ถือว่าตลกดี ชีวิตฉันนี้ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กว่า เกิดเป็นเจ้าต้องรับใช้ประชาชน แล้วท่านก็ใช้มาตั้งแต่เด็กแล้ว ที่เริ่มออกเยี่ยมราษฎรไปอยู่หน่วยแพทย์ (พอ.สว.) ของท่าน ดูแลประชาชน ท่านเริ่มใช้ตั้งแต่อายุ 14 ปี แล้วการเรียนก็จำเป็นต้องเรียนพิเศษกลางคืน

    ต้องทำงานถวายก่อนแล้วเรียนพิเศษตอนกลางคืน ทำอย่างนี้มาจนจบปริญญาเอก ซึ่งมันยากเพราะเวลามีเรียนมันน้อย เวลาพักผ่อนก็น้อย มันก็ง่วง เพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว แล้วยังต้องเรียนอีก แต่ก็เข้าใจทูลกระหม่อมเสด็จพ่อเสด็จแม่ว่า ท่านให้ทำเพื่ออะไร ทำไมต้องทำงานเพราะมีหน้าที่ เข้าใจ และยิ่งตอนนี้อายุมากขึ้นด้วยยิ่งเข้าใจเสด็จพ่อมากขึ้นเลย

    ผู้ดำเนินรายการ : เข้าใจว่าอย่างไรบ้างพระเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : เข้าใจว่าเป็นเจ้าเราต้องบำเพ็ญบารมี คือให้ทานและบารมี ให้ทานให้ความสุขแก่ราษฎร ให้ความสุขยังไง เช่น เขาป่วยเราก็รักษา เขาไม่มีอาชีพทำก็นำมาอบรมให้มีอาชีพทำ เขามีปัญหาทางเกษตรกรรม เช่นน้ำไม่พอ พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงสร้างเขื่อนให้เขา บุกไปดูพื้นที่ว่าต้องทำเขื่อนตรงโน้นตรงนี้เพื่อให้ราษฎรมีน้ำใช้ นี้คือพ่ออยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ทรงทำอย่างนี้มา 60 ปี

    ผู้ดำเนินรายการ : ทุกวันนี้ทูลกระหม่อมทรงเสด็จไปเยี่ยมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่โรงพยาบาลศิริราช พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้างไหม พระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : คือตอนนี้ฉันทำ (พอ. สว.) หรือหน่วยแพทย์อาสามา 2 ปี ส่วนมากสมเด็จพ่อก็จะทรงถามว่า ไป พอ.สว.ครั้งนี้เป็นยังไงบ้าง ท่านจะถามตลอด เป็นยังไงบ้างราษฎร เจ็บป่วยมากไหม ชาว พอ.สว.ยังอินคูสสปิริตหรือเปล่า มีปัญหาหรือเปล่า ไปที่ไหนมาบ้างท่านจะถามตลอด ท่านจะ 83 แล้วแต่สมองยังแอ็กทีฟมาก

    อินคูสสปิริต หมายถึงยังสามัคคีกัน ทำงานกันด้วยใจเบิกบาน ฉันสอนชาว พอ.สว.เสมอว่า ทำงานแบบไม่ทุกข์ ไม่ใช่ว่าเจอคนไข้ที่ต่อล้อต่อเถียงแล้วเกิดหงุดหงิดขึ้นมา ก็บอกว่าไม่ได้ ทำอย่างนั้นไม่ได้ เราเป็นหมอเราต้องรู้จักว่าจรรยาบรรณแพทย์คืออะไร คือคนไข้เขาเจ็บป่วยมาเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาจะอารมณ์ไม่ดี เราต้องรับตรงนั้นให้ได้ ถ้าเราจะทำอาชีพคุณหมอ เราก็บอกเขาว่า รับมาแล้วเราก็ไม่ต้องแบกมันไว้นะ วางมันไปเลยจบ

    ผู้ดำเนินรายการ : วัยรุ่นส่วนใหญ่จะได้รับรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางเพลงสรรเสริญพระบารมีตอนก่อนที่เขาจะดูหนังกัน เห็นโครงการมากมาย แต่เชื่อว่าน้อยคนจะได้มีโอกาสตามเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว วู้ดดี้รู้ว่าพระองค์ท่านทรงงานหนักขนาดหนักเลย เพราะได้ข่าวว่าทรงงานตั้งแต่ตี 4 ตี 5 เลยจริงไหมพระเจ้าข้า

    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : จริง ท่านทรงงานท่านตรากตรำมากนะ เมื่อท่านเสด็จเยี่ยมบ้านชาวเขาแถวเชียงใหม่ บางครั้งไม่มีทางก็ต้องเดินทางข้ามเขา บางทีข้ามเขา 7-8 ลูก บางครั้งฉันเคยตามเสด็จแล้วเราคือต้องอยู่หน่วยแพทย์ ก็ต้องแบกเป้ยา เพราะว่าอยู่หน่วยแพทย์ก็ต้องใช้ยาได้ ก็ตอนนั้นยังอายุน้อย คือตอนนั้นยังสาวอยู่รู้สึกว่ามันลำเค็ญ เจอหมู่บ้านก็อยากให้มีคนป่วยเยอะๆ จะได้ระบายยาออกจากเป้เพราะมันหนักมาก มันหนัก 14 กิโล

    ผู้ดำเนินรายการ : ในขณะเดียวกันเวลาได้ยินเพลงสรรเสริญฯ ในโรงหนัง เวลาท่านทอดพระเนตรท่านรู้สึกอย่างไรพระเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ก็รู้สึกว่าจะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างละนิดอย่างละหน่อย ฉันว่าน้อยเกินไป ถึงจะน้อยก็ยังภูมิใจอยู่ว่า เด็กรุ่นใหม่อายุ 20 นี้ก็ค่อยรู้ว่าพระเจ้าอยู่หัวทำอะไร คือไม่ได้พูดว่าจะโปรโมตว่าตัวเองเป็นเจ้า แต่อยากให้ทูลกระหม่อมพ่อได้รับความเป็นยุติธรรมที่ท่านควรจะได้รับ รวมทั้งสมเด็จแม่ด้วย ท่านทรงตรากตรำเหลือเกิน

    จริงๆ อยาก แต่ยังไม่กล้าขอ อยากขอเวลาทีวี วันละ 10 นาที หลังข่าว อยากจะฉายหนังสั้นพระราชกรณียกิจว่า พระองค์นี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีทรงทำอะไรบ้าง สงสารท่านเถอะ ตอนท่านทรงงานทุ่มพระทัยเต็มที่สำหรับประชาชนคนไทย ทั้งสองพระองค์ท่านเอาใจใส่มาก พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงตามงานชลประทาน ท่านให้คนมาเข้าเฝ้าฯ ที่โรงพยาบาลทุกวันที่โรงพยาบาล

    ผู้ดำเนินรายการ : ตอนนี้เหรอพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ใช่

    ผู้ดำเนินรายการ : แล้วจะมีเวลาบรรทมเหรอพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ท่านบรรทมดึกมาก บางครั้งท่านก็บรรทมไม่หลับ บางครั้งก็บรรทมน้อย บางครั้งมีการส่งรูปปัญหาต่างๆ เข้า ท่านก็คอยตาม อย่างน้ำท่วมคนลำบากไหม ท่านก็ทรงให้ส่งถุงยังชีพไปให้ แต่พอท่านทอดพระเนตรทางโทรทัศน์ว่าทางนั้นก็น้ำท่วม ทางนี้ร้อน ทางโน้นก็บาดเจ็บ ท่านนี้ตามช่วยเหลือโดยที่ไม่บอกใครด้วย คือท่านปิดทองหลังพระจริงๆ คือถ้าไม่ได้เป็นลูกท่านคงไม่รู้จริงๆ

    ผู้ดำเนินรายการ : เท่าที่คนรุ่นใหม่เขาดูสื่อ ว่าสำนักพระราชวังจัดการทุกอย่าง พระองค์ท่านก็....
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ท่านสั่งเอง

    ผู้ดำเนินรายการ : ทุกครั้งที่ถุงยังชีวิตออกไปพระเจ้าอยู่หัวก็...
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ใช่ท่านสั่งเอง

    ผู้ดำเนินรายการ : สำนักพระราชวังจะไม่สามารถส่งไปได้ถ้าพระเจ้าอยู่หัวไม่ทรงรับสั่ง มีประเด็นไหนไหมที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงมากที่สุดอันดับต้นๆ เลย คืออะไรพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : พูดตรงๆ ทั้งสองพระองค์เป็นห่วงความสามัคคีกลมเกลียวกันในชาติไทย เพราะว่าถ้าแตกแยกกัน ศัตรูนี้จะทำร้ายเราง่ายมาก คนไทยเราต้องเข้มแข็ง มีมิตรจิตมิตรใจต่อกัน สามัคคีกัน ชาติจึงจะเจริญได้ เพราะว่าจะเล่าไปข้าพเจ้าเป็นคนไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง ไม่อยากพูดถึงใครว่าใครดีใครเลวไม่รู้ เพราะไม่เคยคบนักการเมือง

    แต่ว่า...รู้แต่ว่า เหตุการณ์ปีที่แล้ว ที่มีการเผาบ้านเผาเมืองกัน อันนั้นนำความทุกข์มาสู่พระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จฯ เหลือเกิน พระเจ้าอยู่หัวจากที่ทรงหัดเดินได้ ตอนนั้นทรงทรุดเลย เป็นไข้ต้องให้น้ำเกลือนอนแบ่บเลย สมเด็จฯ ก็เสียพระทัยมากเลย ท่านรับสั่งว่า คราวที่เราถูกเผาเมืองนั้น คือสมัยเสียกรุงต่อพม่า กรุงศรีอยุธยา แต่คราวนี้สะเทือนใจยิ่งกว่า เพราะเป็นการที่คนไทยเผาเมืองไทยเอง

    ผู้ดำเนินรายการ : ทูลกระหม่อมคิดว่า ประเทศชาติของเราจะสามารถเดินหน้าเป็นปึกแผ่นด้วยวิธีใดหลังจากนี้ ด้วยวิธีใดบ้างพระพุทธเจ้าข้า เพราะว่าใครที่ชมอยู่ทางบ้านอาจจะสับสน ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไงดี
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : จริงๆ แล้วการแบ่งก๊กแบ่งเหล่านี่ มันเป็นของไม่ดีสำหรับบ้านเมือง คือมีอะไรก็น่าจะค่อยพูดค่อยจาอย่าทำอะไรรุนแรง การแบ่งก๊กแบ่งเหล่าปิดถนนมันทำให้จราจรติดขัดบ้าง คนก็อารมณ์ไม่ดี แล้วข้าพเจ้าไม่เข้าข้างใครไม่ว่าสีอะไรต่อสีอะไร

    ต้องยกคำพูดของท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย ตอนนี้เป็นอาจารย์ที่ดูแลทางธรรมะของข้าพเจ้าต่อจากหลวงตามหาบัว อาจารย์อินทร์ถวายนี่เป็นลูกศิษย์ที่สนิทที่สุดคนหนึ่งของหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า เคยมีคนมาถามท่านว่า เชียร์สีแดงหรือสีเหลือง ท่านบอกว่าสีกรัก สีกรักนั่นคือสีที่ย้อมเป็นจีวรพระ ท่านบอกท่านเชียร์สีกรักเช่นเดียวกันตัวฉันเองก็คงเชียร์สีกรักเหมือนกัน

    ผู้ดำเนินรายการ : พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระพุทธเจ้าจะได้เริ่มเชียร์สีกรักด้วยบ้าง ทูลกระหม่อมเองก็ประชวร แต่ก็ยังเสด็จไปหลายพื้นที่มากโดยวีลแชร์ อึดอัดไหมพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ไม่ค่ะ เพราะว่าทำนี่มันทำด้วยใจ คือที่ออก พว.สว.ก็ได้ถามแพทย์เขาแล้วว่าไม่อันตรายใช่ไหม ตอนที่ช่วงหลวงตาป่วยนี่ จริงๆ แล้วอันตรายสำหรับฉันที่จะเดินทาง แต่ข้าพเจ้าบอกว่า หลวงตาไม่สบายยังไงก็ต้องไป หมอก็บอกว่า งั้นต้องเอ็กเซอร์ไซส์ตลอด คือเอ็กเซอร์ไซส์ท่าต่างๆ มีหลายท่า ซึ่งเหนื่อยมากเลย กว่าจะถึงอุดรธานีเอ็กเซอร์ไซส์ไป 3 ท่า ท่าละ 160 ครั้ง

    ผู้ดำเนินรายการ : บนเครื่องบินหรือพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ใช่

    ผู้ดำเนินรายการ : แล้วตอนนี้อาการของพระอุรุ หรือต้นขานี่เป็นอย่างไรแล้วพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : อย่าใช้ราชาศัพท์มากนะ เพราะว่าฉันเองไม่ค่อยรู้ราชาศัพท์จะไปกันใหญ่

    ผู้ดำเนินรายการ : ข้าพระพุทธเจ้าก็ท่องมา
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : แปลว่าอะไรนะ

    ผู้ดำเนินรายการ : เขาบอกว่าต้นขาพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าก็ท่องมาทั้งคืน (เสียงทีมงานแทรกพระอุรุแปลว่า กระดูกต้นขา)
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : กระดูกต้นขา ตอนนี้เพิ่งจะทราบ

    ผู้ดำเนินรายการ : ตอนนี้กระดูกต้นขาเป็นอย่างไรบ้างพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : ตอนนี้กระดูกติดดีแล้ว แต่ว่าเดินยังเดินลำบาก เพราะความที่มันไม่ได้เดินมา 3 เดือนมันแข็งไปหมดเลย

    ผู้ดำเนินรายการ : เวลาใต้ฝ่าพระบาทประชวร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงให้กำลังพระทัยอย่างไรบ้างพระพุทธเจ้าข้า
    ฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ : การให้กำลังใจของท่านคือ อย่างสมเด็จฯ นี่พระสุขภาพพลานามัยดีมาก ท่านก็จะมาเยี่ยมบ่อย ตอนที่ผ่าไทรอยด์ จำได้ว่าท่านมาเยี่ยมบ่อยมาก ตอนที่กระดูกหักนี่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่เคยนึกเลยว่าท่านจะมา

    ทั้งๆ ที่ท่านต้องนั่งรถเข็นแต่ท่านก็เสด็จฯ มา พอเห็นเขาก็น้ำตาคลอแล้วว่า เออพ่อแม่ห่วงถึงขนาดนี้ เพราะฉะนั้นเราต้องตั้งใจที่หาย ตั้งใจพยายามทำอย่างดีที่สุดที่จะทำให้หาย ก็บอกกับพระเจ้าอยู่หัวกับสมเด็จฯ เหมือนกันว่า มีกำลังใจและตั้งใจที่จะหายเพื่อที่จะมาถวายงานต่อไป

    ทั้งนี้ ในตอนท้ายรายการ ผู้ดำเนินรายการได้ถามถึงพระพลานามัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเทปดังกล่าวนั้นจะออกอากาศอีกครั้งในคืนวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้


    <object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/GTwg_jf0EjQ?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/GTwg_jf0EjQ?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>



    http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9540000042301
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2011
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    กองกำลังยูเอ็น-ฝรั่งเศสยิงถล่มรัง “จีบักโบ” ในโกตดิวัวร์

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2554 10:29 น.

    [​IMG]
    ประธานาธิบดี โลรองต์ จีบักโบ แห่งโกตดิวัวร์


    เอเอฟพี - เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพฝรั่งเศสและองค์การสหประชาชาติเปิดฉากยิงถล่มทำเนียบประธานาธิบดีโกตดิวัวร์ ซึ่งเป็นที่พักของประธานาธิบดี โลรองต์ จีบักโบ วานนี้ (4) ขณะที่ อลาสซาเน ออตตารา ซึ่งได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ก็เร่งกดดันทุกวิถีทางเพื่อให้ จีบักโบ ยอมสละอำนาจ

    กองกำลังสหประชาชาติและฝรั่งเศสพุ่งเป้าโจมตีไปที่ทำเนียบประธานาธิบดี, บ้านพักของ จีบักโบ และฐานทัพในเมืองอาบิดจัน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ ออตตารา ตัดสินใจใช้มาตรการขั้นรุนแรง เพื่อยุติข้อพิพาทเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ยืดเยื้อมาหลายเดือน

    “การโจมตีครั้งสุดท้ายเพื่อยึดทำเนียบและบ้านพักประธานาธิบดี จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า และคาดว่าจะสำเร็จภายในคืนนี้” ซิดิกี โคนาเต โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรี กีย์โยม โซโร ในรัฐบาลของ ออตตารา ระบุ

    ปฏิบัติการร่วมระหว่างยูเอ็นโอซีไอ และกองกำลังลิกอร์น (Licorne) ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของโกตดิวัวร์ มีเป้าหมายเพื่อโจมตีฐานที่มั่นทุกจุดของจีบักโบ โดยเป็นไปตามมติขององค์การสหประชาชาติปี 1975 ที่นำมาบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา

    มติดังกล่าวกำหนดให้คว่ำบาตรจีบักโบ และให้กองกำลังยูเอ็นเข้ามาปกป้องพลเรือน รวมถึงห้ามรัฐบาลใช้อาวุธหนักทำร้ายประชาชน

    “ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปเพื่อปกป้องประชาชน โดยนำอาวุธหนักที่หน่วยรบพิเศษของ จีบักโบ ใช้ทำร้ายประชาชนและกองกำลังรักษาสันติภาพออกไปให้พ้น” ฮามาดูน ตูเร โฆษก ยูเอ็นโอซีไอ กล่าว

    บัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ ระบุว่า ทหารของจีบักโบโจมตีประชาชนอย่างหนักหน่วงยิ่งขึ้นด้วยปืนครก, ปืนกล รวมถึงระเบิดซึ่งขับเคลื่อนด้วยจรวด ทั้งยังโจมตีศูนย์บัญชาการยูเอ็นโอซีไอ ในเมืองอาบิดจันด้วยหน่วยแม่นปืน, ปืนครก และระเบิด จนมีทหารกองกำลังรักษาสันติภาพเสียชีวิต 4 นาย

    อย่างไรก็ตาม บันย้ำว่ากองกำลังรักษาสันติภาพทั้ง 11,000 นายไม่ได้รับคำสั่งให้ช่วยโค่นล้ม จีบักโบ แต่อย่างใด

    ตูสแซง อแลง ที่ปรึกษาของจีบักโบในกรุงปารีส กล่าวว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย และอาจเข้าข่าย “พยายามลอบสังหาร” จีบักโบ

    ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า จีบักโบควรเคารพการตัดสินใจของประชาชน และหยุดยื้อตำแหน่งประธานาธิบดีเสียที

    ชาวต่างชาติประมาณ 1,900 คนในเมืองอาบิดจันยังอยู่ในความคุ้มครองของทหารฝรั่งเศส ส่วนอีก 447 คนเดินทางออกจากโกตดิวัวร์แล้ว

    Around the World - Manager Online -
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ลิเบียพร้อมเจรจาปฏิรูปประเทศ แต่ปัดหารือให้ “กัดดาฟี” ลาออก

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2554 08:26 น.

    [​IMG]
    กลุ่มกบฏลิเบียเดินหน้าต่อสู้ยึดเมืองสำคัญจากกองทัพกัดดาฟี


    เอเอฟพี - รัฐบาลลิเบียเผยวันนี้ (5) พร้อมเจรจาเกี่ยวกับการปฏิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง หรือการลงประชามติ แต่ปฏิเสธที่จะพูดคุยถึงเรื่องการลาออกของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำประเทศ ขณะที่ความเคลื่อนไหวทางการทูตเพื่อยุติความขัดแย้งนั้นมีท่าทีว่าจะคืบหน้า

    มุสซา อิบรอฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ลิเบียปกครองประเทศอย่างไรนั้นเป็นเรื่องที่แตกต่าง ระบบการเมืองแบบใดที่จะเป็นประโยชน์ต่อประเทศนี้ นี่เป็นเรื่องที่เจรจากันได้ เราสามารถหารือกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ เราสามารถคุยเรื่องอะไรก็ตาม เลือกตั้ง การลงประชามติได้”

    อิบรอฮิมระบุว่า กัดดาฟีเป็นวาลว์นิรภัยสำหรับความเป็นหนึ่งของชนเผ่าต่างๆ และประชาชนของประเทศ เขาจึงเป็นบุคคลสำคัญมากที่จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบอบประชาธิปไตย และยังเป็นต้นแบบของความโปร่งใสด้วย

    ขณะที่กัดดาฟีปรากฏตัวต่อสาธารณะ โดยทักทายผู้สนับสนุนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา ที่บ้านพักบับ เอลอาซิซิยา ในกรุงตริโปลี ซึ่งถูกกองกำลังพันธมิตรโจมตีเมื่อ 2 วันก่อน

    ด้าน ซาอิฟ อัลอิสลาม ลูกชายของกัดดาฟีซึ่งถูกมองว่าจะเป็นผู้สืบทอดอำนาจต่อจากเขาก่อนเกิดคลื่นการประท้วงสั่นคลอนประเทศ ก็ออกมาปรากฏตัว ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองหลวง เพื่อให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบีบีซี หลังจากหายหน้าไปตั้งแต่กองกำลังตะวันตกเริ่มถล่มลิเบียเมื่อ 19 มีนาคม

    ส่วน ฟรังโก แฟรตตินี รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ในฐานะชาติอดีตเจ้าอาณานิคมของลิเบีย วานนี้ (4) ชี้ว่า กัดดาฟี และครอบครัวของเขาต้องสละตำแหน่ง โดยระบุว่าประชาคมโลกควรรวมเป็นหนึ่ง และป้องกันไม่ให้ทูตของรัฐบาลกัดดาฟีมาทำลายความสามัคคีนี้

    แฟรตตินีกล่าวในขณะที่อับเดลาตี ลาอาบิดี รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของลิเบียจัดการเจรจาในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี หลังการประชุมหารือกันในกรุงเอเธนส์เมื่อวันอาทิตย์ (3) ที่ผ่านมา

    Around the World - Manager Online -
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สหรัฐฯ ประณามเผา “อัลกุรอาน” ไม่ใช่อเมริกันชน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2554 03:21 น.

    [​IMG]

    ศพของเจ้าหน้าที่ยูเอ็นซึ่งเสียชีวิตจากเหตุผู้ชุมนุมที่โกรธกริ้วต่อการเผาคัมภีร์อัลกุรอานของบาทหลวงสหรัฐฯ บุกเข้าไปทำร้าย ณ สำนักงานยูเอ็นในเมืองมาซาร์-อี-ชารีฟ ของอัฟกานิสถาน


    เอเอฟพี - ทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (4) ประณามการเผาคัมภีร์อัลกุรอาน “ไม่เป็นอเมริกัน” แต่บอกว่าเหตุเผาทำลายคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิมก็มิใช่ข้ออ้างสำหรับลงมือฆ่าบุคลากรของสหประชาชาติในอัฟกานิสถาน

    “เราขอประณามการเผาคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ เราคิดว่ามันไม่ใช่อเมริกันชน และเป็นกระทำที่ไม่สมควร” เจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าว อย่างไรก็ตาม จากความรุนแรงปะทุในเมืองมาซาร์-อี-ชารีฟ ทางภาคเหนือของอัฟกานิสถานเมื่อวันศุกร์ (1) และนำไปสู่การเสียชีวิตของประชาชน 22 ศพ ในจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ต่างชาติของสหประชาชาติ 7 คน “แน่นอนว่ามันไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับการโจมตีแบบนี้เช่นกัน” เขากล่าว

    ความคิดเห็นของทำเนียบขาวเมื่อวันจันทร์ (4) เป็นการขยายความถ้อยแถลงลายลักษณ์อักษรของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในวันเสาร์ (2) ที่ประณามการกระทำของบาทหลวงเทอร์รี โจนส์ ที่ลงมือเผาคัมภีร์อัลกุรอาน ณ โบสถ์แห่งหนึ่งในฟลอริดา เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ซึ่งไม่ได้ช่วยหยุดยั้งความรุนแรงในอัฟกานิสถาน

    “การดูหมิ่นพระคัมภีร์ใดๆ ดังเช่นพระคัมภีร์อัลกุรอาน คือพฤติกรรมที่ใจแคบและดื้อรั้นอย่างแรง” โอบามากล่าว อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีสหรัฐฯ รายนี้ก็บอกด้วยว่าไม่มีข้ออ้างทางศาสนาใดๆสำหรับการลงมือฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์

    ก่อนหน้านี้ เดวิด เพเทรอัส ผู้บัญชาการกองกำลังนานาชาติในอัฟกานิสถาน ให้สัมภาษณ์กับวอลล์สตรีท เจอร์นัล ว่าการเผาทำลายพระคัมภีร์อัลกุรอานโดยโบสถ์เล็กๆ แห่งหนึ่งในมลรัฐฟลอริดาซึ่งก่อเหตุจลาจลนองเลือด 4 วันแล้วในอัฟกานิสถาน จะก่ออันตรายใหญ่หลวงแก่ทหารสหรัฐฯที่กำลังต่อสู้กับกลุ่มตอลิบานในประเทศแห่งนี้

    เพเทรอัส ตำหนิการกระทำของศาสนาจารย์ โจนส์ ว่า “เกิดจากความเกลียดชัง, ขาดความเคารพ และใจแคบที่สุด” แต่ทางบาทหลวงรายนี้ยังมีท่าทีไม่รู้สึกรู้สาอะไรโดยบอกกับเอเอฟพีว่าโบสถ์ของเขาไม่รู้สึกว่าต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุโจมตีสำนักงานยูเอ็นในมาซาร์-อี-ชารีฟ “เครือข่ายหัวรุนแรงของอิสลามเป็นคนลงมือ(เผา) เพื่อเป็นข้ออ้างส่งเสริมกิจกรรมความรุนแรงของพวกเขา”

    Around the World - Manager Online -
     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ทหารเยเมนยิงผู้ชุมนุมต้านรบ.ดับอีก17ศพยอดตายรวมพุ่งเกินร้อย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2554 02:25 น.
    [​IMG]

    สภาพท้องถนนในเมืองทาเอซ ตามหลังเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ชุมนุม


    เอเอฟพี - กองกำลังด้านความมั่นคงเยเมนยิงผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเสียชีวิต 17 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมากเมื่อวันจันทร์(4) ในเหตุปะทะนองเลือดวันที่สองที่เมืองทาเอซ ทางภาคใต้ของเมืองหลวง

    "ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 17 คนและมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายสิบ" ซาเดก อัล-ชูจา หัวหน้าโรงพยาบาลสนาม ณ จตุรัสแห่งหนึ่งใจกลางเมืองทาเอซ กล่าวพร้อมแก้ไขยอดผู้เสียชีวิตล่าสุด

    เหตุนองเลือดมีขึ้นขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการในเมืองดังกล่าวที่อยู่ห่างจากกรุงซานา ราว 200 กิโลเมตร เพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ ลาออกจากตำแหน่ง

    ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่าผู้ชุมนุมบุกเข้าไปยังลานสำนักงานผู้ว่าราชการ แต่ระหว่างนั้นมีกลุ่มมือปืนตำรวจนอกเครื่องแบบซุ่มยิงลงมาจากหลังคาในความพยายามผลักดันให้พวกเขาถอยกลับ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บข้างต้น

    ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวันในเมืองแห่งนี้ก็มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 1 ราย ทำให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตในปฏิบัติการปราบปรามผู้ประท้วงภายในเยเมน พุ่งขึ้นมากกว่า 100 ศพแล้ว นับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม

    ที่เมืองฮุไดดะห์ ทางตะวันตกของประเทศ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าประชาชนหลายสิบคนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืนของตำรวจและก้อนหินในเหตุปะทะกันเมื่อวันจันทร์(4) ขณะที่อีกหลายร้อยคนต้องรักษาอาการต่างๆอันสืบเนื่องจากสูดดมแก๊สน้ำตาเข้าไป

    เหตุการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังเหตุปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงหลายพันคนที่เมืองแห่งนี้ในช่วงค่ำวันอาทิตย์(3) ระหว่างที่ผู้ชุมนุมกำลังเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังสำนักงานผู้ว่าราชการ จนมีได้รับบบาดเจ็บจำนวนมากด้วยอาการต่างๆนาๆ ทั้งถูกยิงด้วยกระสุนจริง 13 คน ถูกทุบตีด้วยตะบองและขว้างปาด้วยก้อนหิน 30 คน ขณะที่อีก 400 คนได้รับพิษจากแก๊สน้ำตาของตำรวจ

    อีกด้านหนึ่งในรัฐสภา พรรคฝ่ายค้านเมื่อวันเสาร์(2) เรียกร้อง ซาเลห์ มอบอำนาจแก่รองประธานาธิบดี อุบดราบูห์ มันเซอร์ ฮาดี ในข้อเสนอใหม่สำหรับการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติ ทว่าผู้นำรายนี้ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯในการต่อสู้กับอัลกออิดะห์บอกว่าฝ่ายต่อต้านต้องยุติการชุมนุมและคืนเส้นทางการจราจรตามท้องถนนสายต่างๆเสียก่อน พร้อมกับเสนอการถ่ายโอนอำนาจอย่างสันติผ่านแนวทางของรัฐธรรมนูญ

    อย่างไรก็ตามกลุ่มเยาวชนที่จัดการชุมนุมอยู่ในขณะนี้ ยืนกรานไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆนอกจากการลาออกของ ซาเลห์ เช่นเดียวกับบุคคลสำคัญภายในรัฐบาลของเขา

    แรงกดดันถาโถมเข้าใส่ ซาเลห์ ในวันที่ 18 มีนาคม เมื่อฝ่ายภักดีต่อรัฐบาลซุ่มยิงผู้ชุมนุมเสียชีวิต 52 รายในกรุงซานา จุดชนวนเสียงประณามอย่างรุนแรงจากนานาชาติและการแปรพักต์ในหมู่สมาชิกภายในพรรคของเขา อย่างไรก็ตามดูเหมือนประธานาธิบดีรายนี้ไม่ยี่หระต่อแรงกดดันเหล่านั้น

    Around the World - Manager Online -
     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 5 เมษายน 2554 01:00
    กาแฟดำ
    เมื่อรังสีอันตราย เข้าสู่ร่างกายมนุษย์... เกิดอะไรขึ้น?

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    อาการปริวิตกรังสีจากญี่ปุ่น วันนี้ที่เรียกว่า Radiation Phobia Syndrome
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110324/r20110321-2/show_ads_impl.js"></SCRIPT> สถานการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่น ยิ่งนับวันยิ่งจะมีแต่ข่าวร้าย... ขณะที่เขียนอยู่นี้ข่าวล่าสุดบอกเจอศพคนงาน ของโรงไฟฟ้าแห่งนี้อย่างน้อย 2 ราย... โดยที่ไม่เคยเป็นข่าวคราวมาก่อน ตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือน หลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิในเขตเซนได ของญี่ปุ่น
    ยิ่งมีผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่า หายนะที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิจิ ของญี่ปุ่น ซึ่งยังไม่คลี่คลายลงเลย อาจจะ ”ร้ายแรงกว่า” เหตุการณ์ “เชอร์โนบิล” ของอดีตสหภาพโซเวียตรัสเซีย (ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตประเทศยูเครน) เมื่อ 26 เมษายน ปี 2529 หรือเมื่อ 25 ปีก่อน ก็ยิ่งทำให้ “หนาว” กันไปทั่ว
    เพราะก่อนหน้านี้อุบัติเหตุที่ เชอร์โนบิล ได้รับการจัดลำดับโดยองค์การปรมาณูสากล หรือ IAEA ว่าเป็น “เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์” แล้ว
    นี่ยังจะมีอะไรแย่กว่านั้นอีกหรือ?
    อีกเหตุการณ์หนึ่งที่ฝังใจคนทั้งโลก คือ กรณีอุบัติเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Three Miles Island ของ รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เมื่อ 28 มีนาคม 2532
    และกรณีที่สามเกิดที่ญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ คือ ที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ “มิฮามา” เมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2534
    กรณี “เชอร์โนบิล” นั้น ท้ายที่สุดยืนยันว่าประชาชน 32,000 คน (เป็นเด็ก 12,300 คน) ได้รับกัมมันตภาพรังสี แม้ว่าจะไม่มีผลต่อสุขภาพกายร้ายแรง แต่นายแพทย์พบว่ามีผลต่อการเปลี่ยนแปลง ทางด้านสุขภาพจิตของประชากรมากกว่าผลของกัมมันตภาพรังสี
    ผู้เชี่ยวชาญเรียก “โรคเครียด” ที่เกิดจากกรณีนี้ว่าเป็น “Radiation Phobia Syndrome” ซึ่งว่ากันว่าร้ายแรงกว่าผลจากกัมมันตภาพรังสีต่อร่างกายจริงๆ ด้วยซ้ำไป
    ผมจำได้ว่ารายงานต่อมาบอกว่ามีคนตายทันที 30 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากรังสีกว่าหนึ่งร้อยคน
    ยังจำภาพของการอพยพคนกว่า 116,000 คน จากบริเวณรอบโรงไฟฟ้า และต่อมาก็อพยพเพิ่มอีก 220,000 คน จากบริเวณที่มีการปนเปื้อนของฝุ่นกัมมันตภาพรังสีในประเทศข้างเคียง เช่น รัสเซีย เบลารุส และ ยูเครน
    ต่อมามีรายงานว่ามีเด็กเป็นโรคมะเร็งในต่อมธัยรอยด์ 1,800 คน และนักวิทยาศาสตร์บอกว่าจำนวนนี้จะเพิ่มขึ้นอีกในสิบปีจากวันเกิดเหตุ
    สาเหตุของอุบัติเหตุ “เชอร์โนบิล” ครั้งนั้นมาจากความบกพร่องของคน...เพราะเจ้าหน้าที่เดินเครื่องไม่ทำตามกฎระเบียบการเดินเครื่อง และได้ปลดกลไกหยุดปฏิกรณ์อัตโนมัติ ซึ่งเขาถือกันว่าเป็นระบบความปลอดภัยที่สำคัญอย่างยิ่ง
    การที่พนักงานตัดระบบหยุดการทำงานของเครื่องปฏิกรณ์แบบอัตโนมัติออก ระหว่างการทดลองระดับพลังงานเกิดสูงขึ้นแบบฉับพลัน ทำให้แท่งเชื้อเพลิงร้อนจัด และ “ระบบระบายความร้อนเกิดภาวะความดันสูงเกินพิกัด”
    และนั่นคือสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟ ทำให้แกนเครื่องปฏิกรณ์ลุกไหม้ ทำให้นิวไคล์กัมมันตภาพรังสีจากการแบ่งแยกตัวของยูเรเนียม เชื้อเพลิง และแกรไฟต์ที่กำลังลุกไหม้แพร่กระจายออกไปสู่บรรยากาศ
    ฝุ่นกัมมันตภาพรังสีที่ว่านี้ส่วนใหญ่หล่นอยู่ในพื้นที่บริเวณไฟฟ้า และบางส่วนที่เบาก็แพร่กระจายไปตามลม สุดแต่ว่ามันจะพัดพาไปได้ไกลแค่ไหน อย่างไร
    พอมีข่าวว่าระดับการปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีในน้ำ ภายในอาคารเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ที่โรงปฏิกรณ์ฟูกูชิมา ไดอิจิ ของบริษัท TEPCO (Tokyo Electric Power Co) สูงกว่าระดับปกติไม่น้อยกว่า 1 แสนเท่า และระดับการฟุ้งกระจายของกัมมันตภาพรังสี นอกชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นอยู่ในระดับ สูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ถึง 4,385 เท่า จะไม่ให้ผู้คนแตกตื่นได้อย่างไร?
    กรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิมา ไดอิจิ ล่าสุดจึงสร้างความวิตกกังวลในระดับกว้าง เพราะมันมาหลังจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ซึ่งเป็นสิ่งที่ป้องกันหรือคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้...ขณะที่มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ ว่า ผู้บริหารของ TEPCO เคยได้รับคำเตือนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควร
    วิกฤติภัยธรรมชาติผสมกับปัจจัยความบกพร่องของมนุษย์ในเรื่องที่ “ทำเล่นไม่ได้” กับชีวิตของคนอย่างนี้ จะนำไปสู่ “อาการความหวั่นหวาดรังสี” หรือ “Radiation Phobia Syndrome” หนักหน่วงแค่ไหน ก็ดูจากปฏิกิริยาของคนทั้งโลกขณะนี้...ก็แล้วกัน


     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ
    วันที่ 5 เมษายน 2554 09:06ผอ.ไอเอ็มเอฟชี้ข้อจำกัดตลาดเสรี
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    [​IMG]

    วอชิงตัน - ผอ.ไอเอ็มเอฟชี้ต้องยกเครื่องทฤษฎีเสรีนิยมที่เป็นแนวทางเศรษฐกิจโลก 30 ปีที่ผ่านมา
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110324/r20110321-2/show_ads_impl.js"></SCRIPT>นายโดมินิก สเตราส์-คาห์น กรรมการผู้จัดการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า "ฉันทามติวอชิงตัน" หรือทฤษฎีเสรีนิยมที่ย้ำถึงประสิทธิภาพของตลาดเสรี เป็นของเก่าล้าสมัยไปแล้ว
    "ฉันทามิตวอชิงตันอยู่ข้างหลังเราแล้ว ในการออกแบบกรอบเศรษฐกิจมหภาคสำหรับโลกใหม่นั้น ลุกตุ้มจะแกว่งจากตลาดไปสู่รัฐ อย่างน้อยก็นิดหนึ่ง" สเตราส์-คาห์นกล่าวกับนักศึกษา อันเป็นการสะท้อนถึงบทเรียนที่ได้รับจากวิกฤตการเงินเมื่อปี 2551-52
    ที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟชูนโยบายตลาดเสรี พร้อมเรียกร้องให้ชาติสมาชิกแปรรูปอุตสาหกรรมของรัฐและผ่อนคลายกฎสำหรับภาคธุรกิจ
    "อย่าเข้าใจผมผิดไป โลกาภิวัฒน์รูปแบบเก่าสร้างประโยชน์มากในแง่ที่ดึงคนหลายล้านขึ้นจากความยากจน แต่โลกาภิวัฒน์ดังกล่าวมีด้านมืด เพราะมีช่องว่างกว้างมากระหว่างคนรวยกับคนจน ขณะที่โลกาภิวัฒน์เชิงการค้ามาพร้อมความไม่เท่าเทียมที่น้อยลง และการเงินที่เป็นโลกาภิวัฒน์"
    นายสเตราส์-คาห์นกล่าวว่าในระยะยาว การเติบโตอย่างยั่งยืนต้องมาพร้อมการกระจายรายได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และต้องให้ความสนใจกับการอยู่ร่วมกันทางสังคมด้วย

     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ลิเบีย พร้อม “ปฏิรูป” แต่กัดดาฟี..ต้องอยู่ต่อ!?
    “ลิเบีย พร้อมที่จะเจรจาปฏิรูปทางการเมือง อาทิ การเลือกตั้ง หรือ การลงประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การลาออกของผู้นำลิเบีย มูอัมมาร์ กัดดาฟี จะไม่นำเข้าสู่โต๊ะเจรจา” โฆษกรัฐบาลกล่าวในวันอังคาร
    “ลิเบีย พร้อมที่จะจัดให้มีการเลือกตั้งและปฏิรูประบบการเมือง แต่ประชาชนชาวลิเบียเท่านั้นที่จะสามารถตัดสินใจได้ว่า ผู้นำมูอัมมาร์ กัดดาฟี จะสามารถดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศได้อยู่หรือไม่” โฆษกรัฐบาลกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
    “เราสามารถเปลี่ยนระบบการเมืองให้เป็นแบบใดก็ได้ สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้ง หรือสิ่งอื่นใดก็ตามที่ต้องการ แต่ ผู้นำเท่านั้นที่จะสามารถทำให้มันก้าวหน้าไปได้” Mussa Ibrahim กล่าวขึ้นเมื่อถูกถามเกี่ยวกับเนื้อหาในการเจรจากับชาติตะวันตก
    <EMBED style="POSITION: relative" src=http://www.youtube.com/v/V7H3S5DpPH0?version=3 width=640 height=385 type=application/x-shockwave-flash allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></EMBED style="POSITION: relative">
    “คุณคือใคร ที่จะมาตัดสินใจว่า ชาวลิเบียควรจะทำอะไร? ” “ทำไมพวกเขา (ชาติมหาอำนาจตะวันตก) ไม่พูดว่า เราต้องการให้ชาวลิเบียตัดสินใจว่าผู้นำของลิเบียควรจะดำรงตำแหน่งอยู่ หรือควรจะหมดอำนาจลง เพื่อที่จะตัดสินใจว่าควรจะมีระบบการเมืองที่แตกต่างออกไปหรือไม่
    “ไม่มีใครที่จะสามารถมาถึงลิเบียและพูดได้ว่า คุณต้องกำจัดผู้นำออกไป ต้องทำให้ระบบหรือระบอบทางการเมืองนี้สูญสิ้นไป ใคร..คือผู้ที่อยู่ที่นั่น (กันแน่)?? (-ชาติตะวันตกไม่ควรตัดสินใจแทนชาวลิเบียว่า ควรจะมีระบบ ระบอบทางการเมืองแบบใด หรือมีผู้นำเป็นใคร-)
    เขากล่าวว่า การกำหนดสภาพของลิเบียจากต่างประเทศ แม้ว่า ประเทศจะเตรียมพร้อมที่จะหารือถึงเป้าหมายที่ให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย ความโปร่งใส เสรีภาพของสื่อ และกฎหมายต่อต้านการคอร์รัปชั่นนั้น
    “ไม่ควรมีการตัดสินใจอนาคตของประเทศตนเองจากต่างประเทศ ให้พวกเราเปลี่ยนด้วยตัวเอง” เขากล่าว
    [​IMG]
    “ผู้นำไม่ได้มีจุดยืนอย่างเป็นทางการว่าจะลงจากอำนาจ เขามีความเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของประชาชนชาวลิเบีย และสิ่งที่แตกต่างก็คือว่า เขาปกครองลิเบียอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นระบบการเมืองแบบใดที่จะทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกต่าง คำถามก็คือว่า เราสามารถคุยกันได้? ”
    เขากล่าวโทษผู้นำชาติตะวันตกที่พยายามจะโค่นล้มกัดดาฟีว่าเป็นผลประโยชน์ส่วนตน หรือเป็นการต่อรองทางเศรษฐกิจ
    “เรารู้ว่ามีนักการเมืองบางรายที่อยู่ในอำนาจแห่งชาติตะวันตก ผู้ที่มีปัญหาส่วนตัวกับผู้นำของเรา” “ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจคือสิ่งที่พวกเขาคิดว่าอาจจะได้รับมากขึ้น หากรัฐบาลนี้ล่มสลายซะ!”
    เขาปฏิเสธข้อกล่าวหา ในกรณีกองทัพของรัฐบาลเข้าไปเกี่ยวพันในการโจมตีใส่พลเรือน และแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่อิตาลีตัดสินใจให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านลิเบีย
    “เราไม่ได้กำลังโจมตีพลเรือน ผมอยากให้คุณมั่นใจว่า เราไม่เคยโจมตีพลเรือนคนใดเลยในวิกฤตลิเบียครั้งนี้ ผมจะไม่ยืนยันและกล่าวว่า รัฐบาลฆ่าประชาชน ใครคิดว่าเราเป็นอย่างนั้น พวกปีศาจเหรอ?”

    France24
     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    Data.gov โดนสภาสหรัฐตัดงบ อาจต้องปิดตัวในเร็วๆ นี้

    เว็บไซต์รุ่นใหม่ของรัฐบาลสหรัฐในยุคของบารัค โอบามา เช่น Data.gov (เผยแพร่ข้อมูลภาครัฐ) USASpending.gov (เผยแพร่รายละเอียดงบประมาณ) ซึ่งเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นแนวคิดใหม่ของรัฐบาลแห่งอนาคต (Government 2.0) อาจจะต้องปิดตัวในเร็วๆ นี้ เนื่องจากโดนรัฐสภาสหรัฐหั่นงบประมาณที่ใช้ดำเนินการเว็บไซต์ลง
    [​IMG]
    ตามข่าวระบุว่าเว็บไซต์ของรัฐบาลบางแห่ง เช่น Data.gov (เผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศที่สร้างโดยหน่วยงานของรัฐ) IT Dashboard (งบประมาณด้านไอทีของรัฐ) paymentaccuracy.gov (ตรวจสอบความถูกต้องในการเบิกจ่ายเงิน) จะมีงบประมาณให้ใช้ถึงวันที่ 20 เมษายนนี้เท่านั้น ส่วนเว็บไซต์ชุดที่สองคือ USASpending.gov (งบประมาณรัฐบาล) และ Apps.gov/now (แอพพลิเคชันของรัฐบาล) มีงบประมาณเหลือถึงวันที่ 30 กรกฎาคม
    นอกจากนี้ สำนักงบประมาณของสหรัฐ (Office of Management and Budget) ยังจะพิจารณาตัดงบของเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Performance.gov, FedSpace อีกด้วย งบประมาณโดยรวมของการให้บริการด้านไอทีผ่านเว็บไซต์เดิมอยู่ที่ 34 ล้านดอลลาร์ ตอนนี้เหลือเพียง 2 ล้านดอลลาร์
    ข่าวการตัดงบเว็บไซต์เหล่านี้ก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ว่ารัฐบาลสหรัฐเลือกตัดโครงการที่สร้างความโปร่งใสให้แก่หน่วยงานภาครัฐเอง ตัวแทนของ Sunlight Foundation ซึ่งเป็นองค์กรอิสระที่เฝ้าระวังเรื่องความโปร่งใสของรัฐบาล ได้เรียกร้องไปยังภาคการเมืองของสหรัฐให้ล้มเลิกแผนการตัดงบครั้งนี้
    แนวความคิดการสร้างเว็บไซต์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลภาครัฐบาล เพื่อสร้างความโปร่งใสและเปิดโอกาสให้นำข้อมูลที่ผลิตจากงบประมาณแผ่นดินไปใช้ประโยชน์ต่อ ถือเป็นนโยบายสำคัญอันหนึ่งของรัฐบาลบารัค โอบามา ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เขารับตำแหน่งประธานาธิบดี จนเป็นต้นแบบให้หลายๆ ประเทศในโลกนำไปเป็นตัวอย่าง (ของประเทศไทยเองมีเว็บไซต์ “ช่วยชาติ.com” สำหรับแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งแรกของรัฐบาลอภิสิทธิ์ และที่เหลืออยู่ในปัจจุบันคือ เว็บไซต์ไทยเข้มแข็ง หรือแผนกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่สอง ซึ่งดำเนินการโดยคณะของนายกรณ์ จาติกวณิช รมว. คลัง)
    อย่างไรก็ตาม ข่าวการตัดงบครั้งนี้ถือเป็นอุปสรรคครั้งสำคัญของแนวคิดจากฝั่งโลกไซเบอร์ ที่ต้องเผชิญกับ “ความเป็นจริง” ในโลกแห่งงบประมาณและการเมืองระบบรัฐสภา
    ข้อมูลจาก Sunlight Foundation, The Hill
     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สำนักข่าวมุสลิมไทย ลอบสังหารนักรณรงค์เพื่อเสรีภาพชาวยิว-ปาเลสไตน์
    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 14:00:16
    ข่าวเอเอฟพี, อัล-อาราบิญา – นักแสดงและผู้อำนวยการสร้าง ชาวปาเลสไตน์-ยิว จูลิอาโน่ เมอร์-ฆอมิส วัย 52 ปี ซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงภาพยนตร์ฟรีด้อม เธียเตอร์ ในเมืองเจนิน ถูกมือปืนกราดยิงใส่ขณะเขาอยู่ในรถ ซึ่งขับอยู่ในศูนย์ผู้อพยพในเมือง แพทย์กล่าวว่าเขาถูกยิง 5 นัด
    [​IMG]

    คาดูร่า มูซา ผู้ว่าการเมืองเจนิน ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาเมอร์-ฆอมิส เป็นผู้ทำคุณประโยชน์อย่างมากต่อชาวปาเลสไตน์ และกล่าวว่า กำลังตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นมาสอบสวนในเรื่องนี้

    เมอร์ –ฆอมิส เป็นลูกครึ่งยิว-ปาเลสไตน์ มารดาเป็นชาวยิวชื่อ อาร์นา เมอร์ ส่วนบิดาเป็นชาวปาเลสไตน์คริสเตียน ชื่อ ซาลิบา ฆอมิส

    นอกจากมีชื่อเสียงด้านการแสดงแล้ว เมอร์-ฆอมิส ยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านการเมือง เขาอาศัยอยู่ในค่ายอพยพในเจนินมาแล้ว 7 ปี และเคยให้สัมภาษณ์ปฏิเสธว่าเขาไม่ได้เป็นชาวอาหรับ-อิสราเอล แต่มีเชื้อสายปาเลสไตน์-ยิว อย่างละครึ่ง

    โรงหนังฟรีด้อม เธียเตอร์ ก่อตั้งขึ้นครั้งแรกโดยมารดาของเขาในปี พ.ศ. 2530 หลังจากเกิดเหตุลุกฮือของชาวปาเลสไตน์ครั้งแรก อาร์นาเป็นนักรณรงค์เพื่อสันติภาพ และได้สร้างโรงภาพยนตร์ขึ้นมาเพื่อให้เด็กๆ ในค่ายอพยพเจนินใช้เป็นสถานที่หลีกหนีจากความรุนแรง

    15 ปีต่อมาโรงหนังดังกล่าวถูกทำลายจากการต่อสู้ระหว่างอิสราเอล และปาเลสไตน์ เมื่อเกิดการลุกฮือของปาเลสไตน์ขึ้นเป็นครั้งที่ 2 และจูลิอาโน่เพิ่งฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2547 โดยร่วมกับ ซาการียา ซูบัยดี ผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่มีฐานอยู่ในเมืองดังกล่าว

    จูลิอาโน่เคยทำหนังเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสันติภาพของมารดาเมื่อปี 2547 ในชื่อ ‘Arna’s Children’ ซึ่งได้รับรางวัลที่ 1 ในการประกวดหนังสารคดีนานาชาติที่แคนาดาในปีเดียวกัน

    ปัจจุบัน ฟรีด้อม เธียเตอร์ ทำหน้าที่เป็นทั้งโรงหนัง และศูนย์วัฒนธรรมในค่ายผู้อพยพปาเลสไตน์ในเมืองเจนิน ซึ่งมีชาวปาเลสไตน์อพยพอาศัยอยู่ประมาณ 16,000 คน โดยกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นเยาวชน - www.muslimthai.com

     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เอมิเรต ไม่สนต่างชาติวิจารณ์ใช้กฎหมายชาริอะฮฺ

    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 14:03:53


    สำนักข่าวมุสลิมไทย เอมิเรต ไม่สนต่างชาติวิจารณ์ใช้กฎหมายชาริอะฮฺ

    สำนักข่าวตะวันออกกลาง – หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่นแนล รายงานเมื่อวันจันทร์ (04/04) ว่า ผู้พิพากษาอาวุโสในเอมิเรตสวนกลับคำวิพากษ์วิจารณ์ของกลุ่มนิรโทษกรรมสากล เกี่ยวกับโทษประหารชีวิตตามกฎหมายอิสลาม ว่า มีการระบุโทษประหารสำหรับฆาตกรที่คร่าชีวิตผู้อื่น และผู้พิพากษาไม่สามารถละเลยชาริอะฮฺที่กำหนดไว้ได้

    ผู้พิพากษาที่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยนามกล่าวว่า คดีที่เกี่ยวกับการสังหารชีวิตมีประเด็นที่เกี่ยวพันกับญาติของผู้ตาย และผู้พิพากษาไม่สามารถพิจารณาคดีโดยลำพังได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับญาติว่าจะยอมรับการชดเชยเป็นเงิน หรือยกโทษให้กับอาชญากร ผู้พิพากษากล่าวว่า หากไม่พิพากษาโทษประหารชีวิต ครอบครัวอาจจะมีความแค้นเคือง และพยายามจะแก้แค้น ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในสังคม

    ผู้พิพากษาได้กล่าวถึงรายงานประจำปี 2010 ของกลุ่มนิรโทษกรรมสากลซึ่งออกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วิจารณ์ถึงการลงโทษทัณฑ์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก และว่าเอมิเรตส์ใช้กฎหมายชาริอะฮฺ ซึ่งระบุลงโทษกับการละเมิดทางประเวณี ยาเสพติด ลักขโมย และความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับแอลกอฮอล์

    ในส่วนที่รายงานกล่าวถึงการลงโทษประหารผู้เยาว์ ผู้พิพากษากล่าวว่า การพิจารณาว่าจำเลยเป็นผู้เยาว์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับมาตรฐานที่กำหนดไว้ในชาริอะฮฺ ถึงแม้อายุจะยังไม่มาก แต่ถ้าสภาพร่างกายและจิตใจเข้าหลักเกณฑ์ผู้ใหญ่ตามที่ชาริอะฮฺกำหนด ก็ต้องพิจารณาไปตามนั้น

    รายงานดังกล่าวระบุว่าในปีที่ผ่านมาศาลเอมิเรตส์สั่งประหารชีวิตผู้ทำผิด 28 ราย รวมทั้งผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวนหนึ่ง และกล่าวหาว่าประเทศเอมิเรตส์ อิหร่าน ปากีสถาน ซาอุดี้อาระเบีย และซูดาน ละเลยที่จะปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎหมายสากล ในส่วนของเอมิเรตส์ ผู้รับโทษประหารส่วนมากกระทำผิดเกี่ยวกับการลักลอบขนยาเสพติด ฆาตกรรม และข่มขืน - www.muslimthai.com

     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    สำนักข่าวมุสลิมไทย อัล-วาลีดยังครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอาหรับปีนี้
    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 13:57:05

    สำนักข่าวมุสลิมไทย อัล-วาลีดยังครองตำแหน่งมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกอาหรับปีนี้
    สำนักข่าวอัล-อาราบิญา – เจ้าชายอัล-วาลีด บิน ทาลาล ยังคงรักษาตำแหน่งอภิมหาเศรษฐีชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่สุดในโลกไว้ได้ ถึงแม้จะปรากฏว่าความรวยได้เพิ่มขึ้นไม่มากจากปีที่ผ่านมา
    [​IMG]

    นิตยสาร Forbes Middle East จัดอันดับราชอาณาจักรซาอุดี้ไว้ในอันดับ 1 แม้ธุรกิจของอัล-วาลีดจะทำเงินเพิ่มขึ้นได้ไม่มากนัก จากการที่เศรษฐกิจของโลกถูกถล่มด้วยวิกฤติต่างๆ โดยทรัพย์สินของเขาปัจจุบันมีอยู่19.6 พันล้าน เพิ่มจากในปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 19.4 เพียงเล็กน้อย และเขายังถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่ 26 ในจำนวนผู้ที่ร่ำรวยที่สุดทั่วโลกอีกด้วย

    อันดับของชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่สุดยังคงถูกยึดครองโดยนักธุรกิจจาก ซาอุดี้อาระเบีย อียิปต์ เลบานอน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และ คูเวต โดยนักธุรกิจซาอุดี้ และอียิปต์ ครองตำแหน่งมากที่สุดถึง 8 คน

    ชื่อของเศรษฐีชาวอียิปต์หน้าใหม่ปรากฏขึ้นในอันดับของปีนี้ อาทิ พี่-น้องตระกูลมันซูรฺ อันได้แก่ ยัสซิน มุฮัมมัด และยูซุฟ โดยเฉพาะมุฮัมมัด มันซูรฺ คนเดียวมีทรัพย์สินประมาณ 2 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งทำให้เขาติดอันดับที่ 17 ของชาวอาหรับที่ร่ำรวยที่สุด และอันดับที่ 595 ของโลก

    นาซิฟ ซาวีรีส ติดอันดับ 1 ของชาวอียิปต์ที่ร่ำรวยที่สุด โดยมีทรัพย์สินอยู่ที่ 5.6 พันล้านดอลล่าร์ อยู่อันดับ 7 ของโลกอาหรับ และอันดับที่ 182 ของโลก มุฮัมมัด อัล-ฟาเยด และครอบครัว ติดโผปีนี้เป็นครั้งแรก โดยรวยอยู่ในอันดับที่ 32 ของโลกอาหรับ และอันดับที่ 993 ของโลก

    สำหรับผู้ที่อยู่ในอันดับ 2 รองจากอัล-วาลีด คือ กิจการของตระกูลอัล-มิกาตี รวมกับตระกูลฮารีรี่ ในเลบานอน อันดับ 3 จากเอมิเรตส์ คือ กิจการของ Abdul Aziz al-Ghurair และครอบครัว ตามมาต้ายคูเวต ซึ่งมีเศรษฐีระดับพันล้านขึ้นอยู่ 3 ราย

    Kholoud al-Emian บรรณาธิการหนังสือ ฟอร์บ มิดเดิ้ล อีสต์ กล่าวว่า รายชื่อที่จัดอันดับนี้ ไม่ได้นับรวมถึงเศรษฐีอาหรับที่อยู่นอกประเทศ หรือผู้ที่ถือ 2 สัญชาติ เช่น โจเซฟ ซาฟรา ชาวเลบานอน-บราซิล ซึ่งมีทรัพย์สิน 12.3 พันล้าน ซาอิด อัล-มานาซีรฺ ชาวจอร์แดน-รัสเซีย (2.1 พันล้าน) และนัสมิ โอจีฟ ชาวอิรัก-อังกฤษ (1.8 พันล้าน) - www.muslimthai.com
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เดินเท้า เอาข้าวไปแจก แบกถุงยังชีพข้ามเขา
    ทีมช่วยเหลือผู้ประสบภัย
    ศูนย์มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช

    [​IMG]เดิน

    เดินเท้าเอาข้าวไปแจก


    [​IMG]
    เคยเป็นแต่อาจารย์ แช่น้ำนาน กลายเป็นตะคริว

    [​IMG]

    ข้ามอีก 1 ลูกเขา

    [​IMG]

    เศษซากบ้านเรือน[​IMG]

    เมื่อแผ่นดินกรุงชิงร้องไห้
    ภาพจาก นายแพทย์รังสิต ทองสมัคร และ ทรงวุฒิ พัฒแก้ว
    WU. Dialogue.

    ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
    รับบริจาคสิ่งของ ที่ส่วนประชาสัมพันธ์
    โทร 075- 673-723 โทร 083-172-2590 /083-172-2452
    คุณสุภาณี เพชรานันท์ และคุณธัญชนก อินทร์แก้ว เจ้าหน้าที่ ส่วนประชาสัมพันธ์ รับแจ้งเหตุตลอด 24 ชั่วโมง

    สำหรับผู้มีจิตศรัทธา ร่วมบริจาคได้ที่ บช. ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา เทสโก้ โลตัสท่าศาลา 997-207- 660- 2



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]
    http://palungjit.org/threads/เดินเท้า-เอาข้าวไปแจก-แบกถุงยังชีพข้ามเขา.286317/
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ตรวจพบไอโอดีนกัมมันตรังสีสูงกว่ากฎหมายกำหนด 7.5 ล้านเท่าในน้ำทะเล


    [​IMG]

    โตเกียว 5 เม.ย.- บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า บริษัทเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ แถลงว่า ตรวจพบกัมมันตรังสีไอโอดีน 131 สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดถึง 7.5 ล้านเท่า จากตัวอย่างน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้าแห่งนี้

    เทปโกพบน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีรั่วไหลออกมาจากอุโมงค์คอนกรีตที่เกิดการแตกร้าวใกล้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ซึ่งจากหลักฐานที่พบล่าสุดบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า สารกัมมันตรังสีจากเตาปฏิกรณ์กำลังรั่วไหลลงสู่ทะเล ซึ่งจะต้องอุดการรั่วไหลให้ได้เร็วที่สุด

    เทปโก กล่าวว่า ตัวอย่างน้ำที่นำมาจากบริเวณใกล้ปากท่อระบายน้ำของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 เมื่อเวลา 11.50 น.ของวันเสาร์ที่ผ่านมา มีค่าสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 7.5 ล้านเท่า แต่ลดลงมาเหลือ 5 ล้านเท่า ในเวลา 09.00 น. เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบสารกัมมันตรังสีซีเซียม 137 สูงกว่าค่าที่กฎหมายกำหนด 1.1 ล้านเท่า ซึ่งสารกัมมันตรังสีชนิดนี้จะใช้เวลา 30 ปี ในการสลายตัวเหลือครึ่งชีวิต

    ด้านสำนักงานความปลอดภัยนิวเคลียร์และอุตสาหกรรม เชื่อว่า สารกัมมันตรังสีมาจากเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ที่รั่วไหลออกจากเตาปฏิกรณ์ลงสู่น้ำและฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศ.- สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 5 เม.ย. 2554


    สารกัมมันตรังสีนอกรัศมี 30 กม.พุ่งเกินระดับที่ให้อยู่ภายในบ้านแล้ว


    [​IMG]

    ญี่ปุ่น 5 เม.ย. - ระดับสารกัมมันตรังสีในพื้นที่เขตรอบนอกรัศมี 30 กิโลเมตร จากโรงงานนิวเคลียร์ พุ่งเกินระดับที่รัฐบาลแนะนำให้อยู่แต่ภายในบ้านแล้ว

    ผลการตรวจวัดสารกัมมันตรังสีในอากาศของกระทรวงวิทยาศาสตร์ ในพื้นที่เมืองนามิเอะ ซึ่งอยู่ห่างจากโรงงานนิวเคลียร์ฟุกุชิมะ 30 กิโลเมตร และไม่ได้เป็นเขตที่ทางการแนะนำให้เก็บตัวอยู่ในบ้าน หรืออพยพออกนอกพื้นที่ พบว่า ในอากาศมีสารกัมมันตรังสีปนเปื้อนอยู่ในระดับสูงกว่า 10 มิลลิซีเวิร์ท ซึ่งเป็นระดับที่รัฐบาลต้องสั่งให้ผู้คนเก็บตัวอยู่ในบ้าน

    อย่างไรก็ตาม สำนักงานความปลอดภัยด้านอุตสาหกรรมและนิวเคลียร์ ระบุว่า ระดับสารกัมมันตรังสีที่ตรวจจับได้อยู่ในพื้นที่ที่จำกัดเท่านั้น ยังไม่จำเป็นต้องขยายเขตพื้นที่แนะนำห้ามออกนอกบ้าน.-สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 5 เม.ย. 2554


    ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นเริ่มทบทวนมาตรการอพยพหนีสึนามิ


    [​IMG]

    โตเกียว 5 เม.ย. – บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนฉุกเฉิน เริ่มศึกษาวิธีรับมือเหตุภัยพิบัติของประชาชนในพื้นที่ชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น เมื่อเกิดแผ่นดินไหว และสึนามิ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา

    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิวาเตะเดินทางเยือนเขตซูโมฮามะ เมืองมิยาโกะ บริเวณชายฝั่งจังหวัดอิวาเตะเมื่อวานนี้ โดยเขตดังกล่าวนับเป็นหนึ่งในพื้นที่ซึ่งมีการเตรียมตัวรับมือเหตุสึนามิน้อยที่สุด แต่ประชาชน 109 จากทั้งหมด 110 คน สามารถหลบหนีขึ้นสู่ที่สูงอย่างปลอดภัยก่อนคลื่นยักษ์สึนามิถล่มชายฝั่งบริเวณดังกล่าว คณะนักวิจัยพบว่า เขตซูโมฮามะ ถูกคลื่นสึนามิที่มีความสูงกว่า 8 เมตร ซัดกระหน่ำลึกเข้าไปถึง 300 เมตร ทำลายบ้านเรือนไปหลายร้อยหลัง แต่ประชาชนเหล่านั้นเปิดเผยว่า ทุกคนเริ่มอพยพฉุกเฉินทันทีหลังเกิดแผ่นดินไหว และขึ้นไปถึงเนินเขาที่ใกล้ที่สุดภายในเวลา 10 นาที

    ศาสตราจารย์ชิเงะกิ ซากาอิ หัวหน้าทีมวิจัยเปิดเผยว่า ผลลัพธ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ความพยายามป้องกันเหตุภัยพิบัติของเขตดังกล่าวยังไม่ประสบความสำเร็จ และว่า ทีมวิจัยของเขาจะพัฒนามาตรการรับมือสึนามิ โดยศึกษาในพื้นที่ที่ประสบภัยสึนามิอื่น ๆ ด้วย -สำนักข่าวไทย

    วันอังคาร ที่ 5 เม.ย. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net<!-- google_ad_section_end -->
    http://palungjit.org/threads/ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่.3906/page-1207
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ญี่ปุ่นหยุดน้ำปนเปื้อนรังสีรั่วไหลลงสู่ทะเลได้แล้ว

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>6 เมษายน 2554 06:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ผสมขี้เลื่อยและหนังสือพิมพ์เข้ากับสารโพลิเมอร์และปูนซีเมนต์ เพื่อพยายามที่จะอุดรอยร้าวที่พบอยู่ในบ่อคอนกรีตของเตาปฏิกรณ์หน่วยที่ 2 ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ แต่ล่าสุดแผนใช้เติมโซเดียมซิลิเกตหรือ สารเคมีที่เรียกว่าแก้วที่อยู่ในรูปของเหลวลงไปในรอยแตกบรรลุเป้าหมายแล้ว

    เอเอฟพี - น้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีหยุดรั่วไหลจากโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่น ลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกแล้วในวันพุธ(6) หลังเจ้าหน้าที่ฉีดสารเคมีเข้าไปอุดรอยรั่วเมื่อวานที่ผ่านมา

    เมื่อวันอังคาร(5) บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก เพาเวอร์ (เท็ปโก) ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้เติมโซเดียมซิลิเกตหรือสารเคมีที่เรียกว่าแก้วที่อยู่ในรูปของเหลวลงไปในรอยแตกบริเวณที่น้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีระดับเข้มข้นรั่วออกมาและไหลลงสู่ทะเล

    น้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกจากเตาปฏิกรณ์วัดได้สูงกว่า 1,000 มิลลิซีเวิร์ตและเชื่อว่ามันคือต้นตอของการพบกัมมันตรังสีไอโอดีน131 สูงกว่ากฎหมายกำหนดกว่า 4,000 เท่าในตัวอย่างน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งนี้

    ตำแหน่งของรอยรั่วร้าวซึ่งมีความยาวประมาณ 20 เซนติเมตร อยู่ใต้แนวคันคูซึ่งตรงมายังบ่อของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 หนึ่งในเตาปฏิกรณ์ซึ่งระบบหล่อเย็นล้มเหลวจากแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อว้นที่ 11 มีนาคม จุดชนวนวิกฤตนิวเคลียร์ในเวลาต่อมา

    ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการหลากหลายรูปแบบในความพยายามหยุดยั้งการรั่วไหลของน้ำปนเปื้อนกัมมันตภาพรังสี ทั้งการนำเอาขี้เลื่อย หนังสือพิมพ์ โพลิเมอร์ และคอนกรีตผสมกัน แล้วเทลงไปทางด้านข้างของบ่อดังกล่าว ทว่าก็ไม่ได้ผล

    Around the World - Manager Online -
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาวนบพิตำปลื้มปีติ “ฟ้าหญิง” เสด็จฯ เยี่ยม-พระราชทานหน่วยแพทย์ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>5 เมษายน 2554 18:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

    [​IMG]

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    นครศรีธรรมราช - “เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณ์” เสด็จเยี่ยมราษฎรนบพิตำ พร้อมพระราชทานหน่วยแพทย์เข้าช่วยเหลือ ทรงมีพระปฏิสัณฐานว่า “ในหลวง-พระราชินี” เป็นห่วงประชาชนมาก สร้างความปลาบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ขณะเดียวกัน รมต.หลายคนที่จงใจเดินทางมาเยี่ยมชาวบ้านในวันนี้มีมากเป็นพิเศษ ทำให้ จนท.ไม่สามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ เพราะต้องคอยต้อนรับ ส่วน อบจ.เริ่มมีการตรวจสอบ โดยจะยื่นญัตติขอเปิดสมัยประชุมสภาฯ เร่งด่วน เพราะความช่วยเหลือที่ไม่ทั่วถึง และต้องรอให้ รมต.ลงมาร่วมจึงจะแจกของช่วยชาวบ้าน

    วันนี้ (5 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระดำเนินด้วยเฮลิคอปเตอร์ ลงยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราวโรงเรียนนบพิตำ โดยเสด็จเข้าเยี่ยมเยียนประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.นบพิตำ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่รอเฝ้าฯ รับเสด็จ พร้อมกันนี้ได้พระราชทานหน่วยแพทย์ พอ.สว.เข้ารักษาอาการเจ็บป่วยของประชาชน และพระราชทานถุงยังชีพแก่ประชาชนจำนวน 500 ชุด และพระราชทานของเด็กเล่นแก่เด็กที่ศูนย์อพยพโรงเรียนนบพิตำ ก่อนที่จะทรงมีพระปฏิสัณฐานถึงความเป็นอยู่ ความเดือดร้อนต่อประชาชนในศูนย์อพยพอย่างไม่ถือพระองค์ สร้างความปลื้มปีติแก่ประชาชนผู้ประสบภัย

    นายธีระ มินทราศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ทรงห่วงใยพสกนิกรอย่างมาก และทรงมีพระปฏิสัณฐานว่า เมื่อปี 2531 นครศรีธรรมราชเกิดภัยแบบนี้มาแล้ว ครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินมาเยี่มประชาชน มาวันนี้พระองค์ท่านทรงเป็นห่วงประชาชนผู้เดือดร้อนจากอุทกภัยอย่างมาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินี ทรงให้มาดูแลเยี่ยมให้กำลังใจ ขอให้ทุกคนมีกำลังกายที่เข้มแข็ง มีกำลังใจที่แข็งแกร่งให้มาก ท่ามกลางความปีติของบรรดาข้าราชบริพารและประชาชนที่เฝ้าฯ รับเสด็จ

    นอกจากนั้น สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ยังได้พระราชทานหน่วยแพทย์ พอ.สว.เข้าดูแลรักษาอาการเจ็บป่วยของประชาชน ซึ่งได้คัดกรองตามอาการเจ็บป่วย พิการ มอบให้ สสจ.รับไปดูแลตามขั้นตอน และถ้าเกินกำลังจะส่งต่อไปยังมอ.

    พบหมู่บ้านกลางหุบพังราบ ต้องเดินเท้าออกมารับถุงยังชีพ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พบกับหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างคือบ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 3 ต.กรุงชิง อ.นบพิตำ นครศรีธรรมราช เนื่องจากถูกน้ำป่าที่เชี่ยวกราก และดินพังถล่มลงมาจากภูเขาถ้ำหงส์พัดพาดินโคลน และต้นไม้ขนาดใหญ่มาทับบ้านของชาวบ้านจำนวน 8 หลัง พร้อมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ หายไปหมดสิ้น ถนนและสะพานทางเข้าหมู่บ้านเสียหายทั้งหมด ชาวบ้านต้องใช้วิธีเดินเท้าเท่านั้น เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ไม่สามารถบินเข้าไปได้

    สำหรับพื้นที่ดังกล่าวล้อมรอบด้วยภูเขาทุกด้าน มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 30 ครัวเรือน หลังจากที่เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากและดินถล่มเมื่อหลายวันก่อน ทำให้สภาพภายในหมู่บ้านพังเสียหายยับเยิน โชคดีที่ไม่มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านทราบว่าพื้นที่ตั้งหมู่บ้านพื้นที่ที่เสี่ยงเพราะตั้งอยู่ภายในหุบเขา เมื่อฝนตกหนักติดต่อกันหลายจึงอพยพมาอยู่บ้านญาติซึ่งเป็นที่ปลอดภัยทำให้รอดชีวิตมาได้ และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายได้เข้าไปจึงพบว่าบ้านเรือพังเสียหายยับเยิน

    แดดแรงฟ้าเปิด เร่งลุ่มน้ำปากพนังเน่า

    สำหรับวันนี้ฝนตกปริมาณน้อยลงท้องป้าเปิด แดดจัด ระดับน้ำในพื้นที่เกษตรบ้านเรือนราษฎรลดลงเกือบเข้าสู่ภาวะปกติในหลายพื้นที่ ยังคงมีน้ำท่วมในพื้นที่ใกล้ทางน้ำ และทางน้ำที่เกิดจากดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มต่ำและพื้นที่รับน้ำ พื้นที่อำเภอในลุ่มน้ำปากพนัง ที่ยังมีน้ำท่วมระดับน้ำทรงตัวและลดลง คือ อำเภอหัวไทร เฉลิมพระเกียรติ ปากพนัง เชียรใหญ่ จุฬาภรณ์ ทุ่งใหญ่ ทุ่งสง และอำเภอบางขัน พื้นที่อำเภอที่ระดับน้ำลดลงคง เหลือน้ำในพื้นที่ลุ่มบางหมู่บ้านและในพื้นที่ใกล้ลำน้ำธรรมชาติ คือ อำเภอลานสกา, พิปูน, พระพรหม, เมืองนครศรีธรรมราช, นบพิตำ, พรหมคีรี, ท่าศาลา, สิชล, ขนอม, ช้างกลาง, นาบอน, ร่อนพิบูลย์, ฉวาง, ชะอวด และถ้ำพรรณรา

    อย่างไรก็ตาม เฉพาะในพื้นที่ลุ่มปากพนังได้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังที่ยังไม่ลดลง ส่งผลให้พืชต่างๆ เน่าส่งกลิ่นและมีแมลงรำคาญจำนวนมากออกอาละวาด รวมทั้งการท่วมขังดังกล่าวทำให้วัวและควายไม่มีอาหารกิน อาหารสำรองจากการช่วยเหลือไม่สามารถเข้าไปถึงได้ทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามาอย่างต่อเนื่อง

    ขณะเดียวกัน ในความเสียหายของจังหวัดนครศรีธรรมราชในภาพรวมทั้ง 23 อำเภอ 165 ตำบล 1,551 หมู่บ้าน 312,500 ครัวเรือน 909,251 คน อพยพ 22,261 คน บ้านเรือนเสียหายทั้งหลัง 22 บางส่วน 2,446 หลัง อาคารพาณิชย์ 8 ห้อง พื้นที่การเกษตรคาดว่าเสียหาย 580,816 ไร่ ถนนเสียหาย 2,279 สาย ปศุสัตว์ 1,439,148 ตัว สัตว์ปีก 166,198 ตัว บ่อปลาบ่อกุ้ง 7,961 บ่อ สะพาน/คอ 222 แห่ง ฝาย/ทำนบ/ผนังกั้นน้ำ 35 แห่ง วัด 99 แห่ง โรงเรียน 66 แห่ง สถานที่ราชการ 83 แห่ง บ่อน้ำ/อ่างเก็บน้ำ 13 แห่ง ท่อระบายน้ำ 249 แห่ง

    ถนนสายทางหลวง (แขวง ฯ ที่ 2 ทุ่งสง) มีความเสียหายจำนวน 18 สายทาง 42 แห่ง ในพื้นที่ 8 อำเภอ มูลค่า 70,301,697 บาท (แขวง ฯ ที่ 1 นครศรีฯ ) มีความเสียหาย 21 สายทาง 57 แห่ง มูลค่า 161,200,000 บาท เส้นทางของทางหลวงชนบท เสียหาย 135 สาย มูลค่า 851,820,000 บาท และอื่นๆ อยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติม มูลค่าความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 2,300,000,000 บาท

    รัฐมนตรีแห่ลงพื้นที่ เจ้าหน้าที่ต้องรอรับไม่เป็นอันทำงาน

    สำหรับการติดตามการช่วยเหลือในพื้นที่ วันที่มีรัฐมนตรีเดินทางมายังพื้นที่ประสบภัยมากที่สุด เช่น นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นรายแรก นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง และ อ.สิชล และมีรายงานว่านายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ อ.นบพิตำ ตามมาด้วย และคณะสุดท้ายคือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ อ.สิชล และอ.นบพิตำ ท่ามกลางข้าราชการระดับสูงที่ต้องมารอคอยต้อนรับ

    สนามบินเช็กความพร้อมความปลอดภัยเต็มพิกัดก่อนเปิดบริการ

    นายนิสิต สมบัติ ผอ.ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในการเตรียมพร้อมวันนี้ กรมการขนส่งทางอากาศได้จัดเครื่องบินติดตั้งเครื่องมือทดสอบระบบต่างๆ ที่ถูกซ่อมแซมปรับปรุงในท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช บินตรงมาจาก กทม.และได้ทำสอบระบบนำร่อน ระบบไฟนำทางรันเวย์ ไฟพื้นผิวจราจรและระบบไฟฟ้าต่างๆ ทุกระบบให้มีความพร้อมสูงสุดซึ่งมีการตรวจสอบแล้วหลายเที่ยวยังไม่พบปัญหา

    หลังจากนี้จะมีการแจ้งไปยังกรมการขนส่งทางอากาศ และการท่าอากาศยาน เพื่อแจ้งถึงความพร้อม หลังจากนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ในราววันที่ 6 เม.ย.นี้ หากไม่มีความผิดพลาดหรือความบกพร่องใดๆ เกิดขึ้น ทุกอย่างเราต้องตรวจสอบให้แน่ชัดเพื่อความปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ในทุกส่วน

    รมต.เกษตรฯ รุดเยี่ยม ระบุการช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ลงทะเบียนเกษตรกร

    ที่ศาลาประชาคมอำเภอเชียรใหญ่ นครศรี นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายธวัชชัย สำโรงวัฒนา อธิบดีกรมที่ดินเดินทางมาตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยและมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยที่ศาลาประชาคมอำเภอเชียรใหญ่ โดย รมต.เกษตรได้ระบุว่า สถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ได้ส่งผลกระทบด้านการเกษตรในวงกว้าง ด้านพืชมีเกษตรกรประสบภัย 10 จังหวัด เกษตรกร 181,511 ราย พื้นที่ประสบภัย 1,090,609 ไร่ แบ่งเป็นข้าว 319,878 ไร่, พืชไร่ 56,110 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 714,621 ไร่ ด้านปศุสัตว์สัตว์ที่ได้รับผลกระทบ 4,374,418 ตัว แบ่งเป็นโค-กระบือ 182,307 ตัว สุกร-แพะ,แกะ 666,790 ตัว สัตว์ปีก 3,525,321 ตัว แปลงหญ้า 5,304 ไร่ ด้านประมงพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์ประสบภัย 25,333 บ่อ ปลาในกระชัง 3,343 กระชัง

    นายธีระกล่าวอีกว่า การช่วยเหลือเกษตรกรจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ในเรื่องของเงินจะมีการช่วยเหลือเป็นเงินร้อยละ 55 ของต้นทุนเกษตรกร ส่วนเกษตรกรที่เป็นหนี้ธนาคารของรัฐจะมีการพักหนี้ให้ 3 ปี ปลอดดอกเบี้ย และจะสามารถกู้ลงทุนได้เพิ่มเติมรายละไม่เกินแสนบาท ส่วนปัญหาเฉพาะเร่งด่วนตอนนี้ก็ได้มีการจัดส่งเสียบงอาหารสัตว์ลงมาให้ ซึ่งทั้งประเทศมี 5,000 ตัน ภาคใต้มี 1,200 ตัน หากไม่พอก็จะขอสนับสนุนมาเพิ่มเติมได้ พื้นที่ใดมีน้ำท่วมขังก็จะระดมเครื่องสูบน้ำสูบออก จุดไหนมีน้ำเสียมีกลิ่นก็จะมีการใส่สารขจัดเรื่องกลิ่นซึ่งจะมีมาตรการรองรับไว้แล้ว

    ส่วนขั้นตอนการช่วยเหลือเกษตรกรนั้น ครั้งนี้จะช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรที่ลงทะเบียนเกษตรกรเท่านั้น ส่วนเกษตรกรรายใดไม่ได้ลงทะเบียนเกษตรกรไว้ก็จะไม่ให้การช่วยเหลือและผ่อนผันให้ เพื่อให้เกษตรกรได้มีวินัยในตัวเอง ซึ่งเป็นมติ ครม.เรียบร้อยแล้ว เพราะจะต้องมีการจัดระบบและวินัยที่ถูกต้อง ซึ่งช่วงน้ำท่วมรอบก่อนเราช่วยหมดทั้งเกษตรกรที่ลงทะเบียนและไม่ลงทะเบียน แต่รอบนี้จะให้การช่วยเหลือเฉพาะที่ลงทะเบียนเกษตรกรเท่านั้น เพื่อความเป็นระบบ โดยงบประมาณที่ขออนุมัติ ครม.เป็นเงิน 33,260 ล้านบาท โดยนำงบที่เหลือจากครั้งก่อนมาใช้ 1,600 ล้านบาท

    ส.อบจ. เข้าชื่อฟันนายก อบจ.เหนียวแจกจ่ายถุงยังชีพ

    ส่วนที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ส.อบจ.นครศรีธรรมราช รวม 16 คน นำโดยนายชนะ วงศ์มุสิก สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ยื่นหนังสือขอเปิดสมัยประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช สมัยวิสามัญ ต่อว่าที่ร้อยตรี พีรพันธุ์ สุวรรณโอภาส ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นการเร่งด่วนเพื่อเปิดอภิปรายถึงการช่วยเหลือประชาชนในกรณีภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

    นายชนะ วงศ์มุสิก ส.อบจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า การที่สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราชทั้ง 16 คน มายื่นหนังสือในวันนี้ เพื่อที่จะยื่นญัตติเรื่องการบริหารของนายก พิชัย บุณยเกียรติ ว่าไม่มีความเป็นธรรม และมองข้ามการปฏิบัติหน้าที่ของ ส.อบจ การดำเนินการใช้งบประมาณในการพัฒนาท้องถิ่นของ อบจ. ในปีงบประมาณ 2553 และ 2554 ซึ่งได้ล่วงเลยมาเป็นเวลานานพอสมควรแล้ว แต่ยังไม่เห็นความก้าวหน้าในการบริหารพัฒนา และในบางเขตบางท้องถิ่น งบประมาณยังไม่ได้ลงมาดำเนินการในพื้นที่

    ตลอดถึงการแก้ปัญหาของอุทกภัย นายกพิชัย บุณญเกียรติ ได้ประสานงานข้ามสมาชิกในพื้นที่แต่ประสานไปยัง อบต.ให้แจ้งจำนวนผู้ได้รับความเสียหาย เพื่อส่งถุงยังชีพ ทำไมไม่ประสานให้สมาชิกเป็นผู้ส่งเอกสารร้องขอมาโดยตรง ตลอดถึงการจัดซื้อของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมไม่โปร่งใส และการวางแผนการดำเนินงานรับสถาณการณ์อุทกภัยของ นายก อบจ.ไม่มีมาตรฐาน ซึ่งกรมอุตุฯ ได้แจ้งล่วงหน้าแล้ว

    นายชนะ วงศ์มุสิก ส.อบจ.นครศรีธรรมราช กล่าวต่ออีกว่า นายกพิชัย บุณยเกียรติ ทำงาน สองมาตรฐาน เช่น ปัญหาน้ำท่วม การแจกถุงยังชีพนั้นนายกยังคงใช้อำนาจหน้าที่เป็นใหญ่ ถ้าไม่ใช่ฝ่ายตัวเองแล้วจะไม่ให้ และถ้านายก อบจ.จะแจกถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยแล้ว ต้องรอให้ชิณวรณ์ บุณยเกียรติ รมว.ว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาร่วมแจกด้วยจึงจะได้แจกจ่าย ดังนั้น ส.อบจ.ทั้ง 16 คน จึงมีความประสงค์ที่จะยื่นญัตติขอเปิดสมัยประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช สมัยวิสามัญอย่างเร่งด่วน เพื่ออภิปรายในกรณีนี้
    Local - Manager Online -
     

แชร์หน้านี้

Loading...