เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k.kwan, 11 พฤศจิกายน 2010.

  1. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รัฐบาลซีเรียลาออกแล้ว คาดประธานาธิบดี Bashar แถลงวันนี้
    จากเหตุประท้วงในประเทศซีเรียจนมีผู้เสียชีวิต 12 ราย ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวานนี้ (29 มี.ค.) คณะรัฐมนตรีของซีเรียได้ประกาศลาออกยกคณะแล้ว และคาดว่าประธานาธิบดี Bashar al-Assad ที่อยู่ในตำแหน่งมา 11 ปี (ตั้งแต่ปี 2000) จะมีแถลงการณ์ทางโทรทัศน์ในวันนี้

    [​IMG]

    อย่างไรก็ตามมีเสียงวิจารณ์ว่าคณะรัฐมนตรีของซีเรียไม่มีอำนาจในการตัดสินใจและบริหารประเทศมากนัก อำนาจที่แท้จริงอยู่กับประธานาธิบดีและคนใกล้ชิดไม่กี่คนเท่านั้น
    การลาออกของคณะรัฐมนตรีและการปราศัยของประธานาธิบดี เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่จะลดแรงตึงเครียดจากการประท้วงของประชาชน ซีเรียสประกาศสภาวะฉุกเฉินมาตั้งแต่ปี 1963 และคาดว่าประธานาธิบดี Bashar จะประกาศยกเลิกในวันนี้
    New York Times

    รัฐบาลซีเรียลาออกแล้ว คาดประธานาธิบดี Bashar แถลงวันนี้ | Siam Intelligence
     
  2. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รายงานเปิดเผยความจริง คนอาหรับเลือกงานมากกว่าไม่มีงานทำ
    มุสลิมไทยดอทคอม : 19 มีค. 54 16:05:18
    สำนักข่าวมุสลิมไทย รายงานเปิดเผยความจริง คนอาหรับเลือกงานมากกว่าไม่มีงานทำ
    สำนักข่าวอัลอาราบิญา – รายงานจาก Emirates Business 24/7 เปิดเผยว่า กลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ (GCC) มีตำแหน่งงานว่างมากถึง 2 เท่าของจำนวนประชากรวัย 15 – 64 ปี ในประเทศกลุ่มสมาชิกรวมกัน

    [​IMG]

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=contentall vAlign=top>ฟารุค ซูสซา หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจของ Citi ระบุในรายงานว่า สถิติทางการแสดงว่า ในแต่ละประเทศในกลุ่มสมาชิก มีตำแหน่งงานว่างมากกว่าจำนวนประชากรท้องถิ่นวัยทำงานของประเทศนั้นๆ เสียอีก ยกตัวอย่างประเทศโอมาน ซึ่งมีตำแหน่งงานว่างเหลือเฟือสำหรับประชากรวัยทำงาน แต่ในกาต้าร์ มีตำแหน่งงานว่าง 10 ตำแหน่ง ต่อ 1 คน ซึ่งหมายถึงชาวกาต้าร์ 1 คนมีโอกาสเลือกทำงานถึง 10 แห่ง

    ที่น่าสังเกตคือ มีชาวบาห์เรน ซาอุดี้ และโอมานในวัยทำงาน เป็นข้าราชการ หรือถูกจ้างโดยรัฐไม่ถึง 50 % ส่วนในอีก 3 ประเทศสมาชิกตัวเลขของคนวัยทำงานที่ไม่ได้เป็นพนักงานของรัฐเกิน 60% เล็กน้อย

    ฟารุคสรุปว่า ดังนั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การว่างงาน แต่อยู่ที่การไม่สามารถกระจายงานให้เหมาะสมตามสัดส่วนต่างหาก และอีกปัญหาหนึ่งคือ การขาดคนทำงานที่มีทักษะในงานด้านแรงงานที่จำเป็น ซึ่งประชาชนท้องถิ่นที่ทำงานในด้านนี้แทบจะไม่มี

    รายงานดังกล่าวนำเสนอถึงความจำเป็นที่จะต้องยกระดับนโยบายด้านแรงงานให้ครอบคลุม รวมถึงมาตรฐานในด้านค่าแรง และเงื่อนไขการทำงาน นอกจากนั้น ยังต้องสร้างการแข่งขัน และความยืดหยุ่นให้กับตลาดแรงงานด้านเอกชน รวมทั้งลดปัจจัยที่จะทำให้นายจ้างมุ่งจ้างแต่แรงงานต่างชาติ อาทิ เพิ่มมาตรฐานค่าแรงคนงานต่างชาติ รวมทั้งปรับให้ค่าแรง และสวัสดิการของพนักงานรัฐ เท่าเทียมกับหน่วยงานเอกชน เพื่อมิให้คนมุ่งแต่จะรอตำแหน่งงานว่างในหน่วยงานรัฐ - www.muslimthai.com
    </TD></TR><TR><TD vAlign=top>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เท็ปโกเผย “รังสี” ในทะเลเกินปกติ 4,385 เท่า-รัฐบาลญี่ปุ่นยัง “ไม่ขยาย” โซนอพยพ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 11:02 น.

    [​IMG]

    สภาพความเสียหายของโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดเท็ปโกประกาศว่าค่ากัมมันรังสีไอโอดีนในน้ำทะเลใกล้โรงไฟฟ้าสูงกว่าระดับปลอดภัยถึง 4,385 เท่า วันนี้(31)


    เอเอฟพี - เท็ปโกเผยระดับกัมมันตรังสีไอโอดีน -131 ที่พบในทะเลใกล้โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ เพิ่มสูงเกินเกณฑ์ปกติถึง 4,385 เท่าแล้ววันนี้ (31) ขณะที่รัฐบาลญี่ปุ่นยังไม่มีแผนขยายเขตอพยพเพิ่มเติม แม้จะได้รับคำเตือนจากทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ(ไอเออีเอ)ก็ตาม

    ค่ากัมมันตรังสีในน้ำทะเลนอกชายฝั่งติดกับโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันศุกร์ (25) ที่แล้ววัดได้ 1,250 เท่าของระดับปลอดภัย ต่อมาวันเสาร์ (26) วัดได้ 1,850 เท่า และเพิ่มเป็น 3,355 เท่า เมื่อวันอังคาร (29) ที่ผ่านมา

    ทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ระบุว่า พบค่ารังสีสูงเกินระดับปลอดภัยที่หมู่บ้านอีตาเตะ ห่างจากโรงไฟฟ้าฟูกูชิมะไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ขณะที่รัฐบาลประกาศเขตอพยพในรัศมี 20 กิโลเมตรรอบโรงไฟฟ้าเท่านั้น

    ยูกิโอะ เอดาโนะ หัวหน้าโฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ยืนยันว่า “เราได้รับแจ้งจากไอเออีเอว่า ค่ากัมมันตรังสีในดินเกินกว่ามาตรฐานที่ไอเออีเอกำหนดไว้ ทั้งยังเตือนให้ประเมินสถานการณ์ด้วยความรอบคอบ”

    ส่วนกรณีที่ว่าญี่ปุ่นจะต้องขยายเขตอพยพหรือไม่นั้น เอดาโนะ ให้คำตอบว่า “ผมไม่คิดว่าสถานการณ์ขณะนี้มีความจำเป็นต้องทำเช่นนั้นทันที”

    “อย่างไรก็ตาม การที่กัมมันตภาพรังสีในดินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็ชี้ให้เห็นว่าหากมีรังสีสะสมในระยะยาวก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ได้”

    “ดังนั้นเราจะตรวจสอบปริมาณรังสีอย่างรอบคอบรัดกุมยิ่งขึ้น และพร้อมจะดำเนินการใดๆทันทีหากมีความจำเป็น”

    โรงไฟฟ้าฟูกูชิมะ ไดอิจิ ได้รับความเสียหายอย่างหนักหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 และสึนามิถล่มเกาะญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งยังเผชิญอาฟเตอร์ช็อกต่อมาอีกหลายครั้ง ทำให้ต้องระดมเจ้าหน้าที่เพื่อยับยั้งการหลอมละลายของแท่งเชื้อเพลิง ขณะที่กัมมันตภาพรังสีเริ่มแพร่กระจายออกสู่บรรยากาศและรั่วไหลลงสู่มหาสมุทรแล้ว

    เอเลนา บูโกลวา หัวหน้าศูนย์สถานการณ์และเหตุฉุกเฉินของไอเออีเอ ระบุว่า ค่ากัมมันตรังสีที่หมู่บ้านอีตาเตะสูงถึง 2 เมกะเบกเคอเรลต่อตารางเมตร “ซึ่งเกินกว่าระดับที่ไอเออีเอเตือนให้มีการอพยพคนถึง 2 เท่า”

    [​IMG]

    สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต และจักรพรรดินีมิจิโกะ เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมผู้ประสบภัยในศูนย์ผู้อพยพ โตเกียว บูโด-คัง วานนี้(30)

    [​IMG]

    สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตและจักรพรรดินีมิจิโกะ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้ประสบภัยที่ศูนย์ผู้อพยพ โตเกียว บูโด-คัง วานนี้(30)

    [​IMG]

    กลุ่มพลเรือนญี่ปุ่นรวมตัวประท้วงการทำงานของ เท็ปโก ที่ทำให้เกิดการรั่วไหลของสารกัมมันตรังสีหลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ผ่านมา

    Around the World - Manager Online -
     
  4. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นาโตรับไม้ต่อถล่มลิเบีย-ตะวันตกโจมตีทหารกัดดาฟีต่อเนื่องวันที่12

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 03:29 น.

    [​IMG]

    ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อลิเบียเข้าสู่บัญชาการของนาโตแล้ว


    เอเอฟพี - นาโตเริ่มรับช่วงบัญชาการปฏิบัติการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบียจากชาติพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯแล้วเมื่อวันพุธ(30) ขณะที่พันธมิตรตะวันตกเปิดฉากโจมตีทางอากาศใส่กองกำลังของมูอัมมาร์ กัดดาฟี ใกล้อัจดาบิยะห์ในช่วงค่ำ ด้านรัฐบาลลิเบียขู่มาตรการสนับสนุนด้านอาวุธแก่นักรบฝ่ายกบฏของมหาอำนาจอาจกลับกลายเป็นการให้ความสนับสนุนแก่กลุ่มก่อการร้าย

    "วันนี้เครื่องบินของชาติพันธมิตรนาโตที่บินเหนือน่านฟ้าลิเบีย จะอยู่ภายใต้บัญชาการของนาโต" โออานา ลุนเกสคู โฆษกหญิงของนาโตบอกกับเอเอฟพี "นี่คือขั้นตอนหนึ่งในกระบวนการต่างๆ ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ทันทีที่พันธมิตรทุกชาติได้ถ่ายโอนอำนาจบัญชาการแก่นาโต"

    พันธมิตรนาโตซึ่งมีสมาชิก 28 ประเทศ จะค่อยๆเข้าทำหน้าที่แทน สหรัฐฯ สำหรับบัญชาการปฏิบัติการทางอากาศซึ่งเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ฝรั่งเศส อังกฤษและชาติพันธมิตรอื่นๆ ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม เพื่อปกป้องพลเรือนจากกองกำลังภาคพื้นดินของกัดดาฟี

    เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเปิดเผยว่ากองบัญชาการย่อยสำหรับปฏิบัติการเขตห้ามบินของนาโต ที่เมืองปอจโจ เรนาติโก ทางเหนือของอิตาลี ได้ส่งแผนการบินไปยังหน่วยต่างๆที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศแล้ว ขณะที่ผู้แทนทูตนาโตรายหนึ่งก็ระบุว่านาโตจะเข้าบัญชาการปฏิบัติการต่างๆโดยสมบูรณ์ในวันพฤหัสบดี(31)

    คำยืนยันดังกล่าวมีขึ้นขณะที่ปฏิบัติการกำหนดเขตห้ามบินของพันธมิตรเข้าสู่วันที่ 12 โดยเมื่อช่วงค่ำวันพุธ(30) เครื่องบินรบของชาติตะวันตกโจมตีใส่ทหารของกัดดาฟีใกล้อัจดาบิยะห์ เมืองที่ฝ่ายกบฏใช้เป็นแหล่งพักพิงหลังกลับจากแถวหน้า

    การโจมตีมีขึ้นห่างจากเมืองอัจดาบิยะห์ ไปทางตะวันตกราว 10 กิโลเมตร ส่งกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและเรียกเสียงไชโยโห่ร้องจากนักรบฝ่ายกบฏที่ก่อนหน้านี้ร้องขอการสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบของชาติพันธมิตร หลังถูกทหารของกัดดาฟีรุกคืบเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

    ทั้งนี้ปฏิบัติการดังกล่าวนับเป็นการโจมตีทางอากาศครั้งแรกในรอบ 3 วันทางภาคตะวันออกของลิเบีย ซึ่งทางฝ่ายกบฏต้องถอยร่นเป็นระยะทางกว่า 200 กิโลเมตรในวันพุธ(30) เมื่อฝ่ายกองกำลังของกัดดาฟีใช้ปืนใหญ่ จรวด และรถถัง รุกไล่อย่างหนัก

    ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากนานาชาติเห็นพ้องในที่ประชุมกรุงลอนดอนเมื่อวันอังคาร (29) ว่ากัดดาฟี จะต้องก้าวลงจากอำนาจผู้นำลิเบีย พร้อมกับสนับสนุนให้องค์การนาโต้เป็นหัวเรือในการบังคับมติของสหประชาชาติต่อไป พร้อมมีรายงานว่าชาติมหาอำนาจหลายประเทศกำลังคิดใคร่ครวญที่จะให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ฝ่ายกบฏในลิเบียเพื่อต้านทานการโจมตีของทหารกัดดาฟีด้วย

    ในเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศของลิเบียออกถ้อยแถลงเมื่อวันพุธ(30) ว่าข้อบ่งชี้ของฝรั่งเศสที่แย้มว่าชาติมหาอำนาจอาจให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่ฝ่ายกบฏในลิเบียเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเท่ากับเป็นการมอบความช่วยเหลือแก่กลุ่มก่อการร้าย

    "การมอบความช่วยเหลือทางทหารแก่แก๊งติดอาวุธขัดแย้งกับมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและเป็นการสนับสนุนก่อการร้าย เนื่องจากมีข้อพิสูจน์แล้วว่าแก๊งติดอาวุธในเบนกาซีเป็นส่วนหนึ่งของอัลกออิดะห์และกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ" กระทรวงการต่างประเทศลิเบียแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ

    อย่างไรก็ตามไม่นาน โฆษกของฝ่ายกบฏก็ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวโดยยืนยันว่าไม่มีอัลกออิดะห์อยู่ในกลุ่มนักรบของพวกเขา "ในลิเบีย ไม่มีองค์กรนี้ เพราะวัตนธรรมของพวกเขาต่างจากเรา"

    ขณะเดียวกันสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างแหล่งข่าวระบุว่า บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อนุมัติแผนการลับที่จะให้การสนับสนุนฝ่ายต่อต้านในลิเบีย โดยได้เซ็นคำสั่งอนุมัติเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ให้หน่วยข่าวกรองกลาง หรือซีไอเอเข้าปฏิบัติการสนับสนุนฝ่ายต่อต้านรัฐบาลของกัดดาฟี

    Around the World - Manager Online -
     
  5. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รัฐมนตรีต่างประเทศลิเบียแปรพักต์ หนีลี้ภัยในอังกฤษ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 05:14 น.

    [​IMG]

    มุสซา คุสซา รัฐมนตรีต่างประเทศลิเบียแปรพักต์จากประธานาธิบดีกัดดาฟี


    เอเอฟพี - มุสซา คุสซา รัฐมนตรีต่างประเทศลิเบียเดินทางถึงอังกฤษเมื่อวันพุธ(23) และบอกกับรัฐบาลของเดวิด คาเมรอน ว่าเขาลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงเหตุโจมตีพลเรือนของกองกำลังมูอัมมาร์ กัดดาฟี

    ถ้อยแถลงของสำนักงานเครือจักรภพและกิจการต่างประเทศของอังกฤษระบุ "เรายืนยันว่า มุสซา คุสซา เดินทางจากตูนิเซีย มาถึงสนามบินฟาร์นโบโร เมื่อวันที่ 30 มีนาคม เขาเดินทางมาด้วยเจตจำนงเสรีของตนเอง และเขาบอกกับเราว่าได้ลาออกจากตำแหน่งแล้ว"

    ก่อนหน้านี้สำนักข่าวแห่งรัฐของตูนิเซียรายงานว่า คุสเซา ข้ามพรมแดนจากลิเบียมายังตูนิเซียเมื่อวันจันทร์(28) แต่ในเวลาต่อมาทางโฆษกของรัฐบาลลิเบียในกรุงตริโปลี ออกมาปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการแปรพักต์ของรัฐมนตรีต่างประเทศรายนี้ และอ้างว่า มุสซา คุสซา เดินทางไปปฏิบัติภารกิจทางการทูตเท่านั้น ทว่าการปรากฏตัวในลอนดอน ก็ยืนยันถึงเจตจำนงของเขาได้เป็นอย่างดี

    "มุสซา คุสซา คือหนึ่งในบุคคลสำคัญในรัฐบาลของกัดดาฟี และบทบาทของเขาคือเป็นตัวแทนของรัฐบาลในระดับสากล บางอย่างที่เขาไม่มีความตั้งใจจะทำอีกต่อไป"ถ้อยแถลงของสำนักงานเครือจักรภพและกิจการต่างประเทศของอังกฤษระบุ

    ถ้อยแถลงระบุต่อว่า "เราสนับสนุนกลุ่มคนที่อยู่รอบๆตัวกัดดาฟี ให้ละทิ้งเขาและอ้าแขนยอมรับอนาคตที่ดีกว่าสำหรับชาวลิเบีย ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนถ่ายทางการเมืองและปฏิรูปที่แท้จริงอันตรงตามความปราถนาของประชาชนชาวลิเบีย"

    ด้านเพื่อนคนหนึ่งของ มุสซา คุสซา ก็ยืนยันข่าวการเดินทางมาขอลี้ภัยในอังกฤษของรัฐมนตรีต่างประเทศรายนี้ หลังตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเพื่อประท้วงการโจมตีอันโหดเหี้ยมต่อประชาชนของกองกำลังกัดดาฟี

    "เขาแปรพักต์จากรัฐบาล" โนมัน เบนอตมัน เพื่อนและนักวิเคราะห์จากสถาบันควินเลียมของอังกฤษกล่าว "เขาไม่มีความสุขเลย เขาไม่สนับสนุนรัฐบาลที่โจมตีพลเรือน เขากำลังขอลี้ภัยในอังกฤษและหวังว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี"

    Around the World - Manager Online -
     
  6. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    อังกฤษขับทูตลิเบียฝ่ายหนุนกัดดาฟี อ้างเป็นภัยความมั่นคง

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 00:25 น.

    [​IMG]

    รัฐบาลอังกฤษของเดวิด คาเมรอน มีคำสั่งเนรเทศทูตลิเบีย 5 ราย


    เอเจนซี - อังกฤษขับเจ้าหน้าที่ทูต 5 คนของลิเบียเพื่อประท้วงพฤติกรรมของรัฐบาลโมอัมมาร์ กัดดาฟีและอ้างว่าเพราะพวกเขาเหล่านั้นอาจเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ

    วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษบอกกับรัฐสภาเมื่อวันพุธ(30) ว่า "เพื่อย้ำให้เห็นถึงความกังวลใหญ่หลวงของเราต่อพฤติกรรมของรัฐบาลลิเบีย วันนี้เราได้ขับทูต ณ สถานทูตลิเบียประจำกรุงลอนดอน 5 รายออกนอกประเทศ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร"

    "รัฐบาลพิจารณาแล้วว่าหากบุคคลเหล่านี้ยังคงอยู่ในอังกฤษ พวกเขาอาจเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของเรา" เฮกกล่าว ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลเปิดเผยว่าผู้แทนทูตเหล่านั้นซึ่งเชื่อว่าเป็นฝ่ายสนับสนุนกัดดาฟั มีเวลา 7 วันในการเดินทางออกจากอังกฤษ

    อังกฤษเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมผู้แทนระดับสูงของ 40 ประเทศและองค์การระหว่างประเทศเมื่อวันอังคาร(29)เพื่อกดดันให้ กัดดาฟี ลาออกและรับประกันว่าปฏิบัติการทางทหารต่อกองกำลังของผู้นำรายนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าเขาจะยอมทำตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อปกป้องพลเรือน

    นับตั้งแต่การประท้วงต่อต้านระบอบการปกครองของกัดดาฟีเริ่มต้นขึ้น อังกฤษและฝรั่งเศสเป็นหัวหอกของนานาชาติในปฏิบัติการกำหนดเขตห้ามบินในลิเบีย และ ณ ที่ประชุมในกรุงลอนดอนวันอังคาร(29) มหาอำนาจบางประเทศเริ่มตรึกตรองถึงมาตรการสนับสนุนด้านอาวุธแก่นักรบฝ่ายกบฏ แม้ว่า อังกฤษและสหรัฐฯ บอกว่ายังไม่ตัดสินใจในเรื่องนี้

    ในวันพุธ(30) ดาวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษก็ย้ำถึงแนวทางนี้ พร้อมระบุว่ามติที่ 1973 ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งยูเอ็น อนุญาตให้ใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องพลเรือน

    อังกฤษ สหรัฐฯและกาตาร์ ยังเสนอแนะในที่ประชุมด้วยว่า นานาชาติควรเปิดทางให้กัดดาฟี พร้อมด้วยครอบครัวของเขา สามารถลี้ภัยยังต่างประเทศได้ หากพวกเขายอมรับคำขาดจากประชาคมโลกให้รีบยุติเหตุนองเลือดในประเทศที่ดำเนินมานาน 6 สัปดาห์นี้

    เฮก แถลงต่อว่าคณะทูตของอังกฤษ ซึ่งนำโดยทูตระดับอาวุโส คริสโตเฟอร์ เพรนทริซ ได้เดินทางไปเยือนเมืองเบนซากี ป้อมปราการสำคัญของฝ่ายกบฏในวันจันทร์(28)และวันอังคาร(29)พร้อมกับได้พบปะกับแกนนำกลุ่มฝ่านต่อต้านรัฐบาลหลายคน ในจำนวนนั้นรวมไปถึงมุสตาฟา อัลเดล จาลิล ประธานสภาแห่งชาติลิเบียของฝ่ายกบฏ

    แต่เขาบอกว่าการมอบอาวุธใหม่เข้าสู่ความขัดแย้งนี้อาจก่อผลสะท้อนที่มิอาจคาดการณ์ได้ล่วงหน้าและไม่ทราบถึงผลลัพธ์ที่จะตามมา พร้อมระบุว่าการตัดสินใจต่างๆควรเป็นไปอย่างรอบคอบที่สุดก่อนที่รัฐบาลจะเปลี่ยนแปลงนโยบายในเรื่องนี้

    Around the World - Manager Online -
     
  7. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    รัสเซียเห็นต่างสุดขั้ว! “ตะวันตก” ไม่มีสิทธิ “ติดอาวุธ” ให้กบฏลิเบีย

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มีนาคม 2554 18:09 น.


    [​IMG]

    เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย


    เอเอฟพี - เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยถึงทรรศนะของรัฐบาลหมีขาว วันนี้ (30) ว่า มหาอำนาจชาติตะวันตกไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทธภัณฑ์แก่กองกำลังกบฏลิเบีย ภายใต้มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1973

    “เมื่อเร็วๆ นี้ ท่านรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส เคยพูดไว้ ว่า ฝรั่งเศสพร้อมหารือกับพันธมิตรสงครามให้สนับสนุนการติดอาวุธกองกำลังฝ่ายต่อต้าน” รัฐมนตรีลาฟรอฟ ให้สัมภาษณ์กับนักข่าว โดยอ้างถึงเนื้อหาในการประชุมของนานาชาติเกี่ยวกับวิกฤตความขัดแย้งภายในลิเบีย ณ กรุงลอนดอน วานนี้ (29)

    “หลังจากนั้นไม่นาน แอนเดอร์ ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต ก็ประกาศออกมา ว่า ปฏิบัติการทางทหารในลิเบียมีวัตถุประสงค์ในการปกป้องชีวิต ไม่ใช่การติดอาวุธให้พลเรือน ในส่วนนี้ เราเห็นด้วยกับทัศนคติของเลขาธิการนาโตโดยไม่มีข้อกังขา”

    ทั้งนี้ อแลง ชูปเป รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ได้กล่าวระหว่างการประชุมเมื่อวันอังคาร ว่า ประเทศของเขา พร้อมเจรจากับชาติพันธมิตรให้ช่วยเหลือกองกำลังกบฏด้านการทหาร เพื่อสู้รบกับกองทัพของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี

    ด้าน ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ประเด็นการติดอาวุธให้กลุ่มกบฏไม่ได้ถูกยกขึ้นอภิปรายบนโต๊ะประชุมรอบกรุงลอนดอน วานนี้ แต่รัฐมนตรีท่านนี้ก็เน้นย้ำถึงการตีความมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1973 ของสหรัฐฯ ว่า “ไม่ได้ปิดกั้นการติดอาวุธให้ใครก็ตามในลิเบียโดยสิ้นเชิง”

    รัสเซียเป็นหนึ่งในประเทศที่งดออกเสียงในการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงมาตรการกำหนดเขตห้ามบิน และการปกป้องชีวิตพลเรือน โดยโต้แย้งนานาชาติ ว่า การโจมตีลิเบียของกองกำลังพันธมิตรชาติตะวันตก เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ มิหนำซ้ำการมติดังกล่าวรังแต่จะทำให้พลเรือนบาดเจ็บล้มตายมากยิ่งขึ้น

    อย่างไรก็ตาม วันนี้ เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ ก็ได้ตอกย้ำอีกครั้งถึงความเห็นของรัฐบาลรัสเซีย ว่า ถึงเวลาแล้วที่ มูอัมมาร์ กัดดาฟี สมควรสละอำนาจ และยินยอมให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นปกครองประเทศ

    นักการทูตหมายเลขหนึ่งแห่งรัสเซียท่านนี้ ระบุว่า “เวลาแห่งการปฏิวัติลิเบียมาถึงแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย”

    “แน่นอน ลิเบียจะมีระบอบการปกครองใหม่ แน่นอน ระบอบนั้นควรเป็นประชาธิปไตย แต่นั่นเป็นสิ่งที่ประชาชนลิเบียต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยไม่มีการแทรกแซงจากตะวันตก”

    รัฐมนตรี เซียร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวทิ้งท้าย ว่า ข้อเสนอหยุดยิง และการเริ่มใช้การเจรจาแก้ปัญหาทางการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องทำเป็นอันดับแรก

    Around the World - Manager Online -
     
  8. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 31 มีนาคม 2554 01:00
    <DD class=columnist-name>กาแฟดำ </DD>คนไทยต้องปรับวิถีชีวิต รับภัยธรรมชาติทุกรูปแบบ

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    ใครบางคนเขียนลงในทวิตเตอร์วันก่อนว่า “กรุงเทพฯ ครึ้มอย่างนี้ เคยเห็น แต่ครึ้มและหนาวอย่างนี้ ไม่เคยเห็น...”
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110324/r20110321-2/show_ads_impl.js"></SCRIPT>
    อีกคนเขียนเสริมว่า “...และเป็นปลายมีนาฯ แบบนี้ ไม่เคยเห็นแน่ๆ...”
    อีกคนหนึ่งเขียนทวีตว่า “หน้าร้อนนี้หนาวทั้งวี่ทั้งวัน...”
    ทวีตอีกข้อความหนึ่งอ่านได้ความว่า “ถ้าสงกรานต์อากาศเย็นแบบนี้ คนไทยเตรียมทำพินัยกรรมได้เลย...”
    ต่อท้ายด้วยความเห็นของเพื่อนอีกคนว่า “ถ้ามันหนาว ยังจะเล่นสงกรานต์กันอีกหรือ?”
    ก่อนนี้ คนไทยสักกี่คนจะเชื่อว่าอากาศจะ “หนาว” ในวันสงกรานต์?
    ไม่ต้องสงสัยว่าข้อความในทวิตเตอร์จากคนใต้ในช่วงวันสองวันที่ผ่านมา บอกกล่าวความน่ากลัวของธรรมชาติที่แปรปรวนปรากฏการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมและพายุแรงอาจไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่
    แต่ที่ทั้งสามอย่างนี้รวมตัวกันแสดงอิทธิฤทธิ์ไปทั่วทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้นั้นไม่เคยมีให้เห็นเช่นกัน
    นักข่าวถามไถ่ชาวบ้านที่โดนน้ำท่วมหนักหน่วงไม่ว่าจะเป็นที่นครศรีธรรมราช หรือสุราษฎร์ธานี ก็ได้รับคำตอบละม้ายกันว่า “อย่างนี้ไม่ค่อยได้เคยเห็นเหมือนกัน...”
    ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลของ “ภาวะโลกร้อน” (global warming) หรือไม่ แต่สิ่งที่เราประสบพบเห็นในระยะหลัง ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้ง ภัยหนาว แผ่นดินไหว และสึนามิ ที่ตามมาด้วยอุบัติภัยโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ญี่ปุ่นย่อมจะเป็นการยืนยันสำหรับคนไทยแล้วว่า...
    ต่อแต่นี้ไปคนไทยจะไม่มองเรื่องลมฟ้าอากาศและภัยธรรมชาติเป็นเรื่อง “ไกลตัว” อีกต่อไป
    และจะเป็นครั้งแรกที่คนไทยจะไม่เห็นเรื่องคำเตือนภัย อันเกิดจากความวิปริตของสภาพอากาศ และความแปรปรวนของเรื่องที่ “ไม่เกี่ยวกับฉัน” อีกต่อไปเช่นกัน
    เพราะจากนี้ไปจะไม่มีใครปลอดจากอันตรายที่มากับความผิดเพี้ยนของธรรมชาติอีก
    แผ่นดินไหวในพม่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตามมาด้วยการสั่นไหวของแผ่นดินในไทยด้วย มิใช่เป็นแค่ after shocks จากพม่า...ยิ่งทำให้คนไทยได้สำเหนียกว่าเรามิได้เป็น “ข้อยกเว้น” ของอันตรายอันเกิดจากความผันผวนของปรากฏการณ์ธรรมชาติอีกต่อไป
    กรณีญี่ปุ่นสอนให้เรารู้ว่า แม้ประเทศที่ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์ของการตั้งรับกับแผ่นดินไหว และภัยพิบัติธรรมชาติมาหลายร้อยปี ก็ยังต้องช็อกกับความรุนแรงของธรรมชาติที่เริ่มด้วยแผ่นดินไหวระดับ 9 ริกเตอร์ ซึ่งหนักหน่วงที่สุดในหลายสิบปี ตามมาด้วยสึนามิที่ยืนยันภายหลังว่าทำให้เกิดคลื่นสูงถึง 13 เมตร และซ้ำร้ายยังกระเทือนถึงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์จนกลายเป็นวิกฤติไปทั้งสังคมโลก
    ใครจะเชื่อว่าญี่ปุ่นที่สร้างความร่ำรวย จากความพินาศของสงครามโลกครั้งที่สอง จนกลายเป็นเศรษฐกิจอันดับสองของโลก (เพิ่งถูกจีนแซงหน้าไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน) วันนี้จะต้องขอความช่วยเหลือจากประเทศที่ด้อยพัฒนากว่า ที่เคยรับเงินทองและความช่วยเหลือจากเขามาก่อน?
    ใครจะเชื่อว่าวันนี้มีคำถามว่า “ญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นจากความร้ายแรงครั้งนี้กลับมาสู่ภาวะปกติได้อีกหรือไม่? และถ้าได้ จะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี?”
    คนไทยไม่เคยรู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจกับความแปรปรวนของธรรมชาติ เพราะไม่เคยมีผลทางด้านลบมากมายนัก...หากจะเกิดก็เป็นเรื่องนานๆ ครั้ง และแต่ละครั้งก็ไม่หนักหนาสาหัสเท่ากับประเทศอื่นที่สภาพภูมิศาสตร์ทำให้ต้องรับผลด้านนี้มากกว่าไทย
    วันนี้ ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในสภาพจะอ้าง “สิทธิพิเศษ” จากธรรมชาติได้อีกต่อไปแล้ว
    ถึงขั้นที่เรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นเรือรบใหญ่ที่สุดของประเทศต้องออกมาทำหน้าที่ช่วยกู้ภัยเช่นนี้ย่อมผิดจากการคาดการณ์ใดๆ ที่เคยเชื่อกันมาก่อน
    ทั้งหมดนี้ย่อมแปลว่านโยบายทั้งระดับชาติจนถึงเด็กระดับประถมจะต้องปรับตัวให้เป็นสมาชิกของสังคมที่ต้องตื่นตัวกับภัยพิบัติทุกรูปแบบ จะต้องมีคณะกรรมการป้องกันและรับมือภัยพิบัติระดับชาติที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันสร้างกลไกให้พร้อมเพรียง
    ความตื่นตัวของประชาชนทุกบ้านช่องเกี่ยวกับอันตรายที่เกิดจากภัยธรรมชาติจะต้องเป็นนโยบายระดับต้นๆ ของทุกรัฐบาล และทุกคำเตือนจะต้องได้รับความสนใจทุกบ้านช่อง
    ต่อไปนี้ เราจะต้องไม่เห็นภาพผู้คนยังเล่นน้ำทะเล ขณะที่มีธงแดงเตือนภัยปักอยู่ต่อหน้าต่อตา
    วลี “ไม่เป็นไร ฉันไม่เกี่ยว” จะต้องถูกปลดทิ้งไปจากวิถีชีวิตของคนไทยตลอดไป

     
  9. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    วันที่ 31 มีนาคม 2554 13:22
    เทปโก้อาจต้องจ่ายค่าเสียหาย130,000 ล้านดอลล่าร์

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    เทปโก้อาจต้องจ่ายค่าเสียหาย130,000 ล้านดอลล่าร์
    <SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20110324/r20110321-2/show_ads_impl.js"></SCRIPT> นักวิเคราะห์ของ แบงค์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริลล์ ลินช์ ในสิงคโปร์ ได้เขียนรายงานประเมินว่า บริษัทโตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ หรือ เทปโก้ อาจต้องจ่ายค่าเสียหายสูงถึง 130,000 ล้านดอลล่าร์ หรือราว 3 ล้าน 9 แสนล้านบาท ถ้าวิกฤตินิวเคลียร์ที่เลวร้ายที่สุดที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ ต้องยืดเยื้อออกไปถึง 2 ปี ท่ามกลางกระแสการคาดการณ์ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะใช้มาตรการขั้นต่อไปในการรักษาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแห่งนี้เอาไว้
    ความวิตกของนักลงทุนต่ออนาคตของเทปโก้ ได้เพิ่มขึ้นเมื่อวันพุธ หลังจากนายมาซาทากะ ชิมิสุ ประธานบริษัทฯ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และเทปโก้ ระบุว่า เงินกู้ฉุกเฉินจำนวน 2 ล้านล้านเยนหรือราว 720,000 ล้านบาท จากธนาคารรายใหญ่ของญี่ปุ่น ไม่ได้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด ซึ่งมีแนวโน้มว่า อาจจะต้องพึ่งความช่วยเหลือจากเงินภาษีของประชาชน
    นักวิเคราะห์ ระบุด้วยว่า มีเพียงการแก้วิกฤติที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ฟูกูชิม่า หมายเลข 1ด้วยความรวดเร็วเท่านั้น ถึงจะช่วยลดตัวเลขค่าใช้จ่ายลงมาได้ โดยเฉพาะถ้าแก้ไขได้ภายในอีก 2 เดือนข้างหน้า ค่าใช้จ่ายก็จะไม่ถึง 1 ล้านล้านเยน แต่ถ้ายืดออกไปเป็น 6 เดือน ก็จะเพิ่มไปเป็น 3 ล้านล้านเยน
    สำหรับค่าเสียหายที่จะต้องจ่ายนั้น คาดว่า เกิดจากการที่ต้องอพยพประชาชน 7 หมื่นคน และการที่รัฐบาล สั่งห้ามจำหน่ายผักและนมจากพื้นที่โดยรอบที่ตั้งโรงไฟฟ้า ด้านสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ได้เสนอให้ญี่ปุ่นพิจารณาขยายพื้นที่อพยพรอบโรงไฟฟ้าออกไปอีก ที่จะทำให้ธุรกิจและครอบครัวอีกเป็นจำนวนมากต้องอพยพเพิ่ม หลังจากออกคำสั่งอพยพประชาชนในรัศมี 20 กิโลเมตรไปแล้ว และยังเรียกร้องให้คนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 20-30 กิโลเมตร อพยพตามไปด้วย
    นักวิเคราะห์ ระบุว่า แม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่เทปโก้คงจะไม่ยอมยื่นขอล้มละลายทางกฎหมายเนื่องจากเป็นบริษัทที่ได้ชื่อว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญในโครงสร้างพื้นฐานของชาติ ซึ่งผู้บริหารของเทปโก้ ได้ระบุเมื่อวันพุธว่า ทางบริษัทจะหารือกับรัฐบาลถึงแนวทางในการหาเงินทุนมาจ่ายค่าเสียหาย อันเป็นผลมาจากการฟุ้งกระจายของสารกัมมันตรังสี การดับไฟในหลายพื้นที่และการอพยพประชาชน

     
  10. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เฟสบุ๊กหงอ ยิวเรียกร้องให้ลบหน้าเว็ปของปาเลสไตน์

    มุสลิมไทยดอทคอม : 30 มีค. 54 14:31:56


    สำนักข่าวมุสลิมไทย เฟสบุ๊กหงอ ยิวเรียกร้องให้ลบหน้าเว็ปของปาเลสไตน์

    สำนักข่าวเอพี – เมื่อวันอังคาร (29/03) เว็ปไซต์เฟสบุ๊กลบหน้าซึ่งมีผู้เปิดขึ้นเพื่อเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์ลุกฮือกันและจับอาวุธต่อต้าน (Intifada) ครั้งที่ 3 หลังจากรัฐมนตรีอิสราเอล ยูลิ อีเดลสไตน์ ทำหนังสือประท้วงไปยัง มาร์ก ซัคเกอร์เบอร์ก ผู้ก่อตั้งเฟสบุ๊ก

    [​IMG]


    หน้าเฟสบุ๊กดังกล่าวเปิดขึ้นในชื่อ ‘Third Palestinian Intifada’ ซึ่งมีผู้คลิ๊กเข้าไปเห็นด้วยถึง 350,000 ครั้งก่อนจะถูกลบออกไป เว็ปดังกล่าวเรียกร้องให้ชาวปาเลสไตน์พร้อมใจกันออกมาประท้วงบนท้องถนนในวันที่ 15 พฤษภาคม ศกนี้ โดยใช้ถ้อยคำต่างๆ อาทิ “วันแห่งการตัดสินจะถูกนำมาสู่มุสลิมก็ต่อเมื่อชาวยิวได้ถูกสังหารจนหมดสิ้น”

    แอนดรู โนเยส ผู้จัดการด้านนโยบายสาธารณะของเฟสบุ๊กกล่าวว่า ในตอนแรกหน้าดังกล่าวเรียกร้องให้มีการประท้วงอย่างสงบถึงแม้จะใช้ชื่อ “อินติฟาดะอฺ” ก็ตาม แต่ต่อมามีการโพสต์เข้ามาแสดงความเห็นที่รุนแรงขึ้น และเฟสบุ๊กเห็นว่า เมื่อมีเสียงวิพากษ์ว่าจะนำไปสู่ความรุนแรงก็จำต้องถอดออก

    รัฐมนตรีอีเยลสไตน์ แสดงความยินดีที่เฟสบุ๊กยินยอมกระทำตามที่เรียกร้อง และว่ากรณีนี้จะเป็นตัวอย่างสำหรับกรณีอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

    หลังจากมีการลบหน้านี้ออก ได้มีการเปิดหน้าขึ้นมาใหม่หลายหน้าด้วยชื่อที่คล้ายๆ กัน แต่มีผู้คลิ๊กเข้ามาเห็นด้วยเพียงไม่กี่ร้อยราย

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มชาวยิว Anti-Defamation League ซึ่งมีฐานอยู่ในอเมริกา ได้เปิดหน้าเฟสบุ๊กขึ้นมาต่อต้านด้วยเช่นกัน และเรียกร้องให้มีการรายงานเข้ามาหากมีการเปิดหน้าที่มีเนื้อหาเรียกร้องให้ก่อความรุนแรง สนับสนุนการก่อการร้ายต่อชาวยิว และอิสราเอล ขึ้นมาอีก เพื่อให้เฟสบุ๊กลบออก ซึ่งในตอนแรกเฟสบุ๊กยังรั้งรอที่จะดำเนินการตาม ด้วยเกรงว่าจะเป็นการผิดกฎหมายเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น - www.muslimthai.com

     
  11. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ยอมหรือไม่ นานาชาติเสนอเปิดทางกัดดาฟีให้ลี้ภัยต่างแดน

    มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 12:18:41


    หาทางลงให้ “กัดดาฟี” นานาชาติเตรียมเห็นด้วยตั้งกลุ่มติดต่อกำหนดชะตากรรมผู้นำลิเบียให้ที่ลี้ภัยเป็นทางออก หลังโดน “พันธมิตร” ส่งฝูงบินรบถล่มอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 11 ด้าน ผู้นำสหรัฐมั่นใจคู่ปรับ แพ้ภัยชัวร์ ยอมสละอำนาจในที่สุด เร่งหารือติดอาวุธให้ฝ่ายกบฏ

    ความคืบหน้าสถานการณ์การสู้รบในประเทศลิเบีย สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงตริโปลี ประเทศลิเบีย เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ว่า เสียงระเบิดและการโจมตีอย่างหนักยังคงดังอย่างต่อเนื่องในเมืองหลวงของลิเบียเป็นคืนที่ 11 ติดต่อกัน เป้าหมายอยู่ใกล้ฐานที่ตั้งของที่มีการคุ้มกันอย่างเข้มงวดของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย และ เป้าหมายทางทหารในเขตทาจูรา ชานเมืองของกรุงตริโปลีก็ถูกกองทัพพันธมิตรโจมตีทางอากาศเช่นกัน

    ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กองกำลังฝ่ายกบฏที่ต่อต้านรัฐบาลลิเบีย ต้องล่าถอยเพราะถูกโจมตีอย่างหนักจากกองทัพลิเบีย ซึ่งใช้รถถังและปืนใหญ่ระดมยิงมาจากทางฝั่งของเมืองราส ลานุฟ ทางตะวันออกของประเทศ หลังจากกองกำลังของ พ.อ.กัดดาฟีสามารถเข้ายึดคืนเมืองสำคัญ ซึ่งเป็นแหล่งยุทธศาสตร์ด้านน้ำมันของลิเบียด้วย เพราะกองทัพพันธมิตรไม่ได้โจมตีทางอากาศถล่มที่ตั้งทางทหารของฝ่ายกองทัพลิเบีย

    นายอแลง จุปเป้ รมว.ต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวในที่ประชุมที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ว่าด้วยอนาคตของ พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียว่า ฝรั่งเศสเตรียมที่จะหารือเรื่องการติดอาวุธให้กับกองกำลังฝ่ายกบฏในลิเบียเพื่อใช้ต่อสู้กับทหารกองทัพลิเบียของ พ.อ.กัดดาฟี ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ที่เมืองเบงกาซีทางตะวันออกของลิเบีย และโฆษกฝ่ายกบฏออกมาแถลงด้วยว่า นักการทูตของสหรัฐกับฝรั่งเศสอยู่ระหว่างเดินทางมาที่เมืองเบงกาซีด้วย

    ส่วนประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เอ็นบีซีว่า ยังไม่ได้ตัดประเด็นเรื่องการติดอาวุธให้กับฝ่ายกบฏลิเบียในการต่อสู้เพื่อชิงพื้นที่ แต่ต้องประเมินกำลังก่อนว่า ฝ่ายกองทัพลิเบียของ พ.อ.กัดดาฟีกำลังเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด ตอนนี้ทุกอย่างกำลังผูกมัด พ.อ.กัดดาฟี อย่างหนาแน่นแต่ดูเหมือนว่า พ.อ.กัดดาฟี ก็ไม่ต้องการเจรจาหาทางออก แม้จะถูกโจมตีอย่างหนัก แต่ตนก็เชื่อมั่นว่าในที่สุด พ.อ.กัดดาฟี ก็จะยอมลงจากอำนาจแต่โดยดี

    ขณะที่ พล.ร.อ.เจมส์ สตาฟริดิส ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของนาโต (องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ) กล่าวว่า ยังไม่มีตัวแทนของกองทัพพันธมิตรเข้าไปในดินแดนของลิเบียเพื่อทำงานประสานกับฝ่ายกบฏ และยังไม่มีคำสั่งจากตนให้ติดอาวุธให้กับกองกำลังฝ่ายกบฏ ขณะนี้ที่กองทัพพันธมิตรทำได้ก็คือ ความชัดเจนของกองกำลังฝ่ายกบฏ ต่อต้านรัฐบาลลิเบียของ พ.อ.กัดดาฟี ท่ามกลางกระแสข่าวจากหน่วยข่าวกรองว่า อาจมีกองกำลังของกลุ่มก่อการร้าย อัล-กออิดะห์ โผล่เข้ามาร่วมด้วย

    ด้านนายวิลเลียม เฮก รมว.ต่างประเทศอังกฤษ แถลงผลการประชุมที่กรุงลอนดอนว่า ผู้แทนจาก 40 ประเทศและองค์กรต่างเห็นพ้องกันว่า พ.อ.กัดดาฟี และรัฐบาลของเขาหมดความชอบธรรมในการบริหารประเทศอีกต่อไป และที่ประชุมเห็นด้วยให้ตั้งกลุ่มติดต่อขึ้นมาเพื่อกำหนดแผนการอนาคตสำหรับลิเบีย ซึ่งรวมถึงแผนการให้ที่ลี้ภัยกับ พ.อ.กัดดาฟี รวมทั้งมีกำหนดประชุมกันอีกครั้งโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่ประเทศกาตาร์ เป็นสถานที่จัดประชุมครั้งต่อไป.

     
  12. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ศูนย์ลิงเกาะสมุย สื่ออังกฤษ แฉลิงโชว์เกาะสมุย ถูกทรมาน

    มุสลิมไทยดอทคอม : 30 มีค. 54 16:03:51


    สื่ออังกฤษ แฉลิงโชว์เกาะสมุย ถูกทรมาน

    [​IMG]

    เว็บสื่อดังเมืองผู้ดี แฉไทยทารุณลิงแสดงโชว์ที่เกาะสมุย ใช้หินเขวี้ยง-ให้อดอาหาร สภาพกรงเล็กสกปรก นักท่องเที่ยวชี้สุดเวทนา

    เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2554 เว็บไซต์เดลี่เมล์ ประเทศอังกฤษ ได้นำเสนอข่าวการจัดแสดงลิงกังของศูนย์ลิงเกาะสมุย (Samui Monkey Theater) ใน จ.สุราษฎร์ธานี โดยระบุว่า การฝึกลิงของคณะดังกล่าว เป็นการทารุณสัตว์ ลิงจะถูกผูกเชือกที่คอไว้ตลอดเวลา และหากตัวไหนไม่เชื่อฟังหรือไม่ยอมเล่นกับนักท่องเที่ยวก็จะถูกปาก้อนหินใส่เป็นการลงโทษ ซึ่งข่าวดังกล่าว มีนักท่องเที่ยวหลายรายเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทิศทางเดียวกันหลายคน

    [​IMG]


    โดยนักท่องเที่ยว ที่ใช้ชื่อว่า Phat Butcher เขียนว่า...ไปชมการแสดงนี้โดยไม่คิดมาก่อนว่าจะมาพบเรื่องแบบนี้ สภาพของลิงที่อยู่ต่อหน้านักท่องเที่ยวกับเบื้องหลังแตกต่างกันมาก ลิงถูกจับอยู่ในกรงผนังคอนกรีตเล็ก ๆ ราวกับไม่ได้ทำความสะอาดมานาน ลิงตัวที่แก่กว่าอยู่ในกรงที่ไม่ต่างอะไรกับคุก

    ขณะที่ Shiner Cork เขียนว่า... ฉันแทบจะร้องไห้ เมื่อพบว่าลิงถูกกักไว้ในกรง และถ้าใครเข้าไปใกล้ มันก็จะร้องขอของกินอย่างทุรนทุราย และคว้ากล้วยกับถั่วราวกับไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เหมือนว่าต้องรออาหารจากนักท่องเที่ยวเท่านั้นนอกจากนี้ยังมีตัวที่ดูเหมือนป่วยมาก ตัวผอมแห้ง ซึ่งพอถามว่ามันเป็นอะไร ก็ได้คำตอบกลับมาว่า "มันแก่แล้ว"

    เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว นายประวัติ รักด้วง ศูนย์ลิงเกาะสมุย ยืนยันว่า ไม่มีการทารุณลิงแน่นอน หากจะมีก็ไม่ใช่ที่นี่ เนื่องจากทางศูนย์มีคำสั่งเด็ดขาดว่าห้ามทำร้ายลิง แม้แต่ตีก็ยังไม่เคย ที่ผ่านมาลูกน้องคนไหนตีลิงก็ไล่ออกหมด ดังนั้น การปาก้อนหินใส่ จึงเป็นไปไม่ได้เลย ส่วนเชือกที่ผูกคอลิงนั้น ไม่ได้ผูกตลอดเวลา แต่จะผูกเฉพาะลูกลิงที่จะฝึก และลิงที่กำลังแสดง เพื่อให้นักท่องเที่ยวมาเล่นด้วยและถ่ายรูป เมื่อจบการแสดงแล้วก็จะปล่อยให้อยู่ในกรง โดยไม่มีการผูกมัดแต่อย่างใด

    นายประวัติ กล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ทางคณะฯ มีลิงอยู่ 40 ตัว ทุกเช้าจะให้ลูกน้องหุงข้าวผสมกับนมข้นหวานแล้วปั้นเป็นก้อนให้กิน นอกจากนี้ ก็จะมีกล้วย ถั่ว แครอท และผลไม้อื่น ๆ ที่นักเที่ยวเอามาป้อน ส่วนที่นักท่องเที่ยว ระบุว่า กรงค่อนข้างสกปรกนั้น เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเอาอาหารมาให้ลิงในกรงตลอดทั้งวัน จึงอาจเห็นเปลือกกล้วย เปลือกถั่ว หรือผลไม้อื่น ๆ เลอะเทอะบ้าง แต่โดยปกติแล้วทางคณะฯ จะมีแม่บ้านทำความสะอาดกรงลิงทุกเช้าวันละ 1 ครั้ง

    ส่วนลิงป่วยนั้น ทางคณะฯ ยอมรับว่า มีอยู่จริง ซึ่งนอกจากลิงที่ฝึกแล้ว ก็ยังมีลิงที่เจ้าของเดิมเลี้ยงไม่ไหวแล้วนำมาฝากเลี้ยง หรือลิงดุร้าย ที่นำมาฝากให้ช่วยดูแล จึงต้องรับดูแลต่อ เพราะถ้าจะให้ปล่อยเข้าป่า ลิงพวกนี้ก็หากินเองไม่เป็นแล้ว ส่วนลิงป่วย จะมีสัตวแพทย์ของเทศบาลเมืองเกาะสมุยเข้ามาดูแลตลอด

    นายประวัติ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้การแสดงของทางคณะฯ ไม่ได้สร้างกำไรทั้งยังขาดทุน แต่ก็ทำมาตลอดเพราะรัก และเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว แม้จะมีคนเสนอให้ไปแสดงต่างประเทศได้เงินหลายแสนบาท แต่ตนก็ไม่คิดจะไป และลิงในคณะฯ ก็เคยแสดงต่อหน้าบุคคลสำคัญหลายคน เคยไปออกรายการโทรทัศน์หลายรายการ มีงานภาพยนตร์ และโฆษณาด้วย ซึ่งหากทางคณะฯ ทรมานสัตว์จริงก็คงไม่มีใครเชิญให้ไปแสดงมากขนาดนี้

    ที่มา นสพ.ข่าวสด

     
  13. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ข่าวลิเบียล่าสุด ปฏิบัติการ ถล่มลิเบีย หลุมพรางกลางทะเลทราย!

    มุสลิมไทยดอทคอม : 30 มีค. 54 16:25:10


    ปฏิบัติการถล่ม 'ลิเบีย'

    [​IMG]
    หลุมพรางกลางทะเลทราย!?


    ดูเหมือนเป็นการผจญภัยที่ยาวนานกลางหลุมพรางทะเลทราย เมื่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติให้กองกำลังนานาชาติเข้าโจมตีลิเบีย ในกระแสเซ็งแซ่ของชาวโลกเกี่ยวกับผลประโยชน์บ่อน้ำมัน และการตัดสินใจอันรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ทำเอา พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี โจทก์สำคัญแสดงท่าทีแข็งกร้าวหลังจากระเบิดลูกแรกมาเยือนฐานทัพของตน เช่นเดียวกับอนาคตอันกำกวมของชายผู้กุมอำนาจลิเบียว่าจะจบแบบไหน?

    มีหลายคนคาดการณ์ว่าเขาอาจจบเหมือน “ซัดดัม 2” ในกงเล็บของพญาอินทรี หรือทางกลับกันอาจต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ เหมือน “บิน ลาเดน 2” แต่ที่แน่ ๆ “กัดดาฟี” ไม่เคยเป็นสองรองใครในแนวทางอนุรักษนิยมของชนชาติอาหรับ และถือเป็นจุดอ่อนอันนำไปสู่การโค่นบัลลังก์กลางทะเลทรายให้สั่นคลอน

    “กัดดาฟี เป็นคนที่พยายามรณรงค์ให้กลุ่มประเทศอาหรับพูดภาษาท้องถิ่นของตน และยึดขนบธรรมเนียมในแบบโลกมุสลิมเคร่งครัด เขาแสดงออกอย่างชัดเจนในการไม่ชอบชาติตะวันตก เห็นได้จากนักเรียนที่ส่งไปเรียนต่างประเทศไม่มีใครถูกส่งไปเรียนในอเมริกา นั้นกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ไม่รู้เขารู้เรา”

    ดร.วิศรุต เลาะวิถี หัวหน้าภาควิชาอิสลามศึกษา ม.รังสิต วิเคราะห์ถึงผู้นำซึ่งกำลังถูกรุกไล่

    เป็นที่แน่นอนว่า การโจมตีลิเบียครั้งนี้จะกินเวลาในการรบอย่างยืดเยื้อ เห็นได้จากสัญญาณประชาชนในประเทศ ที่กลุ่มต่อต้านบางส่วนเริ่มหันมาสนับสนุน “กัดดาฟี” ในการป้องกันประเทศ หากมองภาพรวมของกลุ่มประเทศอาหรับที่มีการประท้วงอย่างแพร่หลาย แต่ลิเบียต่างออกไปจากการประท้วงใน ตูนิเซีย, อียิปต์ เนื่องจากมองในภาพรวมประชาชนลิเบียมีรายได้ที่สูงกว่าหลายชาติ ขณะที่ “กัดดาฟี” ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ส่วนผู้ต่อต้านก็เป็นเรื่องที่ผู้นำซึ่งอยู่มานานต้องยอมรับ และมีการตั้งข้อสังเกตถึงการประท้วงในหลายพื้นที่อาจมีกลุ่มคนต่างชาติเข้ามาสนับสนุน อย่างลับ ๆ

    หากวิเคราะห์ถึงภูมิประเทศในการรบกองกำลังนานาชาติอาจนำเรือรบเข้ามาโจมตีบริเวณชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียนและยึดครองพื้นที่ในลิเบียริมชายฝั่งได้ แต่สำหรับพื้นที่ในทะเลทรายที่มีอยู่กว้างขวางการรบภาคพื้นของทหารฝ่ายนานาชาติจะได้รับความเสียหายอย่างหนัก เพราะไม่ว่าอย่างไร “กัดดาฟี” จะไม่มีวันหนีออกนอกประเทศ เนื่องจากโดยนิสัยส่วนตัวเป็นคนมุ่งมั่นและไม่ยอมสยบกับอะไรง่าย ๆ

    ถ้ามองถึงการยุติสงครามครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องง่ายเนื่องจากทหารนานาชาติได้ทำการโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ยังพอมีทางที่สันนิบาตชาติอาหรับจะเข้ามาเป็นตัวแทนในการเจรจาของทั้งสองฝ่ายเพื่อยุติศึกครั้งนี้ แต่สิ่งที่อาจเป็นอีกตัวแปรสำคัญคือท่าทีของรัสเซียและจีน ที่ทำให้ชาติอาหรับหลายประเทศที่ไม่เห็นด้วยต่อการโจมตีครั้งนี้เตรียมจะแสดงทีท่าไม่เห็นด้วยออกมาอย่างชัดเจน

    “ถ้ามองการลงมติในการโจมตีครั้งนี้เป็นการตัดสินใจที่รวดเร็ว และที่ผ่านมามีบทเรียนอย่างอิรักที่คนทั้งโลกยังจดจำถึงมติของนาโตในการโจมตีเนื่องจากอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์สะสมไว้ แต่หลังจากสงครามในอิรักจบลงทหารที่เข้าไปสำรวจก็ไม่พบอาวุธร้ายแรงอย่างที่อ้าง นั้นแสดงถึงการตัดสินใจผิดพลาดและทำให้ประเทศในโลกอาหรับเห็นถึงพฤติกรรมอย่างชัดเจน”

    สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในสงครามครั้งนี้จะเห็นว่าการจะโจมตีประเทศใดมหาอำนาจต้องมองถึงการคุ้มทุนเพราะอาวุธที่ใช้ในการสู้รบต้องใช้เงินในการซื้อทั้งนั้น ดังนั้น การลงมติอย่างรวดเร็วอาจเป็นผลจากการมองว่าในลิเบียมีทรัพยากรที่สามารถครอบครองได้จะได้ทุนคืน และที่สำคัญมีบ่อน้ำมันขนาดใหญ่เทียบเท่าซาอุดีอาระเบีย และเป็นที่น่าสังเกตว่า ประเทศในแอฟริกาหรือตะวันออกกลางที่ไม่มีบ่อน้ำมันจะเป็นประเทศที่ยากจนและไม่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจ

    สำหรับภาพ “กัดดาฟี” ที่ออกมาส่วนใหญ่จากสื่อตะวันตกจะเป็นคนก้าวร้าวหัวรุนแรง ซึ่งนั้นถือเป็นจุดอ่อนของสื่อไทยที่ยังไม่ค่อยให้พื้นที่กับสื่อที่อยู่ในโลกอาหรับ เห็นได้จากที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงโลกอิสลามสื่อไทยมักพูดถึงในมุมแคบ ๆ ดังนั้นสื่อเองควรมีมุมมองในการวิเคราะห์ทั้งสองด้านจากตะวันตกและโลกอาหรับ เช่นเดียวกันประชาชนที่ติดตามสื่อเองก็ควรวิเคราะห์จากการเสพสื่อให้หลากหลายและพยายามขมวดปมความคิดอย่างวิเคราะห์โดยไม่เชื่อการชักนำของสื่อ

    “บทสรุปสุดท้ายสงครามในลิเบีย กัดดาฟี อาจถูกยิงเสียชีวิต แต่สำหรับเขาไม่มีวันหนีจะสู้ยิบตาเนื่องจากถ้ายอมแพ้ก็ต้องได้รับโทษไม่ต่างกัน แต่ที่แน่ ๆ ถ้าชาติตะวันตกเข้ามาครอบครองลิเบียได้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในแอฟริกาเพราะอย่างน้อยได้จัดการกับหนามยอกอกที่ต่อต้านมาตลอดด้วยแนวคิดอนุรักษนิยม เมื่อนั้นชาติตะวันตกจะมีแผนครอบงำผู้นำประเทศอื่น ๆ อย่างไรต้องคอยดู”

    เป็นเรื่องที่ต้องวิเคราะห์หลังสงครามครั้งนี้จบว่าประเทศมหาอำนาจเมื่อได้เข้าไปครอบครองจะมีการจัดสรรผลประโยชน์ในบ่อน้ำมันกันอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าประเทศที่มีน้ำมันไม่มีผลทำให้ราคาในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นมากนัก แต่ประเทศที่เป็นผู้กำหนดราคาในตะวันตกมีโอกาสปั่นราคาน้ำมันให้สูงมากกว่า ซึ่งเมื่อมีบ่อน้ำมันและกำหนดราคาได้เองทุกอย่างก็อยู่ในมือ ไม่แน่อนาคตอันใกล้คนไทยอาจได้ใช้น้ำมันที่มีราคาแพงมากขึ้นอีกก็ได้

    ขณะเดียวกัน การที่รัฐบาลไทยมีมติสนับสนุนมหาอำนาจในการโจมตีลิเบียอาจส่งผลถึงแรงงานไทยที่ไปทำงานในหลายประเทศของโลกอาหรับ ดังนั้นควรมีการชะลอและที่สำคัญควรมีการปรึกษากับหลายชาติในอาเซียนถึงการแสดงท่าที เนื่องจากที่ผ่านมาการตัดสินใจของนาโตก็มีความผิดพลาด แต่ที่ผ่านมารัฐบาลไทยตัดสินใจโดยไม่ดูถึงท่าทีชาติอื่นในอาเซียน ซึ่งอย่างน้อยการรวมกลุ่มกันย่อมมีพลังป้องกันการคุกคามที่จะตามมาของประเทศที่ไม่พอใจได้ ขณะเดียวกันหากไทยสนับสนุนปัญหาในภาคใต้อาจมีทีท่าว่าจะรุนแรงมากขึ้น

    หากมองในภาพรวมการปฏิวัติในโลกอาหรับส่วนใหญ่เกิดในประเทศที่มีประธานาธิบดีปกครอง แต่สำหรับประเทศที่มีพระมหากษัตริย์มักไม่มีการประท้วง เนื่องจากระบบประธานาธิบดีที่ผ่านมามีการจัดสรรผลประโยชน์ให้กับครอบครัวของตน

    สิ่งที่น่าจะเป็นการป้องกันการเกิดสงครามได้ในอนาคตประเทศมหาอำนาจเองควรมีระบบการลงโทษผู้นำที่ตัดสินใจดำเนินสงครามที่ผิดพลาด โดยไม่มีเหตุผลด้านจริยธรรมในการเข้าไปช่วยเหลือมากพอ ซึ่งการแทรกแซงอำนาจการปกครองในลิเบียครั้งนี้ย่อมมีผลต่อประเทศผู้สนับสนุนไม่มากก็น้อย

    สำหรับพญาอินทรีซึ่งบินอยู่บนผืนฟ้า ด้วยท่าทีน่าเกรงขามและไม่ใช้กรงเล็บตะปบเหยื่ออย่างพร่ำเพรื่อ จึงทำให้พวกมันจัดอยู่ในยอดของห่วงโซ่อาหาร เช่นเดียวกันต้องติดตามมวลหมู่พญาอินทรีในสงครามลิเบียหลังเหตุการณ์สงบว่าพวกเขาจะมาด้วยเกียรติหรือความหิวโซอย่างฝูงแร้ง!!?.

    @@@@@

    ปมในใจ 'กัดดาฟี'

    พ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี เมื่ออายุได้ 14 ปี ในปี ค.ศ. 1956 เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในโลกอาหรับ ได้ก่อให้เกิดความสำนึกทางการเมืองแก่กัดดาฟี เนื่องจากปีนั้น นัสเซอร์ ผู้นำแห่งอียิปต์ได้โอนคลองสุเอชเป็นของรัฐ ยังผลให้อังกฤษ ฝรั่งเศส และอิสราเอล ยกทัพบุกอียิปต์ กัดดาฟีได้จัดตั้งกลุ่มนักเรียนขึ้นเพื่อสนับสนุนนัสเซอร์ ผู้เป็นวีรบุรุษของเขา

    กัดดาฟี เคลื่อนไหวทางการเมือง จนถูกไล่ออกจากโรงเรียนต้องจ้างครูมาสอนที่บ้านจึงเรียนจบ เมื่ออายุได้ 19 ปี เข้าเรียนในโรงเรียนนายร้อยที่แบงกาซี ตามแบบนัสเซอร์ เมื่อเป็นนักเรียนนายร้อยกัดดาฟี ค่อย ๆ ปลูกฝังความคิดในเรื่องชาตินิยมอาหรับแก่เพื่อนชั้นเดียวกัน จัดตั้งขบวนการนายทหารเสรีในวัยหนุ่ม เพื่อปฏิวัติโค่นราชบัลลังก์ฟารุค

    เมื่อจบจากโรงเรียนนายร้อยแล้ว กัดดาฟีได้เป็นนายทหารในกองทัพบก และทำงานใต้ดินติดต่อกับเพื่อน ๆ นายทหารของตน บรรดานายทหารที่ร่วมวางแผนปฏิวัติ

    กัดดาฟี อายุได้ 24 ปี ถูกส่งไปศึกษาต่อวิชาสื่อสารที่ประเทศอังกฤษ 6 เดือน ต่อมาใน ปี ค.ศ. 1969 ก็ได้เป็นร้อยเอก ทำหน้าที่รักษาการในตำแหน่งนายทหารคนสนิทผู้บัญชาการกองพลน้อยทหารสื่อสาร และในปีเดียวกันนั้นเอง กัดดาฟีกับคณะนายทหารของเขา จึงได้ตกลงใจกันที่จะยึดอำนาจโค่นล้มรัฐบาลระบบกษัตริย์ของลิเบีย ซึ่งลิเบียในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นแหล่งดึงดูดมหาอำนาจตะวันตก เพราะได้มีการค้นพบบ่อน้ำมัน ในปี ค.ศ. 1959 ชนชั้นปกครองร่ำรวยมหาศาล บริษัทต่างประเทศเข้ามาขอสัมปทานน้ำมัน

     
  14. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    เรือหลวงจักรีนฤเบศรรับนักท่องเที่ยวไทย-เทศ กลับถึงท่าเรือสัตหีบ 700 คน

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 14:17 น.

    ศูนย์ข่าวศรีราชา - นักท่องเที่ยวเฮ กองทัพเรือประสานหน่วยงานภาครัฐ เอกชน ระดมสรรพกำลังอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ท่าเทียบเรือจักรีนฤเบศร เตรียมรถบัส รถตู้ รถพยาบาล หลายสิบคัน ลำเลียงนักท่องเที่ยวส่ง พัทยา สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร และศูนย์กลางการท่องเที่ยว
    [​IMG]

    [​IMG]

    วันนื้ (31 มี.ค.) เรือหลวงจักรีนฤเบศร ได้นำนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ ประมาณ 700 คน เดินทางออกมาจากเกาะเต่า มาถึงท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ โดยมี พล.ร.ท.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 พร้อมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ กองทัพเรือ ให้การต้อนรับ ณ เรือจักรีนฤเบศร พร้อมอำนวยความสะดวก จัดนักท่องเที่ยวที่มีความต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ลงมาจากเรือ โดยมีนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ให้ผู้แทนมาอำนวยความสะดวก พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ การท่าเรือสัตหีบ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาช่วยกันจัดนักท่องเที่ยวขึ้นรถบัส รถตู้ที่ได้เตรียมรองรับไว้จำนวนมาก
    [​IMG]

    [​IMG]

    พล.ร.ท.ฆนัท ทองพูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 กล่าวว่า ในเวลาบ่ายเรือหลวงเจ้าพระยา จะพานักท่องเที่ยวประมาณ 500 คน เข้ามาส่งที่ท่าเรือสัตหีบ และยังมีเรือ กำลังพลของทัพเรือภาคที่ 2 ทัพเรือภาคที่ 3 ดำเนินการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง ส่วนภารกิจของเรือหลวงจักรีนฤเบศร ขณะนี้ได้ดำเนินการจัดเตรียมเสบียงอาหารไว้ เพื่อเตรียมตัวที่จะออกเดินทางไปรับนักท่องเที่ยวที่ยังติดเกาะ แต่ถ้าสถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น ก็คงไม่มีปัญหาเรือเล็ก เรือรับนักท่องเที่ยว เรือเฟอร์รี เดินทางได้ก็ให้ดำเนินการไป แต่ยังมีเรือรบขนาดเล็กดำเนินการในทุกพื้นที่ในขณะนี้

    ส่วนเสบียงในเรือหลวงจักรีนฤเบศรจะต้องมีการจัดการให้มีจำนวนมาก เพราะต้องจัดอาหารเลี้ยงนักท่องเที่ยวที่หิวโหย อีกทั้งการบริการด้านการแพทย์ ความสะดวกอื่นๆ แต่ก็สามารถดำเนินการได้อย่างเรียบร้อย นักท่องเที่ยวทุกคนพึงพอใจอย่างมาก

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกาะเต่ายังมีนักท่องเที่ยวติดอยู่อีกประมาณ 700-800 คน สถานการณ์เริ่มตรึงเครียดเพราะเสบียงอาหาร น้ำดื่ม และน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้ในการปั่นไฟ เริ่มหมด ไฟดับ สัญญาณโทรศัพท์เริ่มมีปัญหา การต่อต่อสื่อสารไม่สะดวก ส่วนการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความยากลำบาก ฝนตกและคลื่นลมแรงอยู่ตลอดเวลา จำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังให้มาก โดยเฉพาะการนำนักท่องเที่ยวมาที่เรือ และการใช้เฮลิคอปเตอร์รับนักท่องเที่ยวที่เป็นคนแก่ ผู้หญิง เด็กๆ และคนพิการ

    [​IMG]

    [​IMG]
    <CENTER> </CENTER>
     
  15. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    น้ำท่วมใต้อ่วม! กระทบ รพ.77 แห่ง รพ.สต.3 แห่งจมมิดหลังคา!

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 12:43 น.

    [​IMG]
    ภาพจากทีมข่าวภูมิภาค ASTV


    สธ.เผยสถานการณ์น้ำท่วมใต้ มี รพ.ได้รับผลกระทบ 77 แห่ง รพ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช น้ำท่วมซ้ำ เข้าระบบปั่นไฟฟ้า และตึกผู้ป่วยนอก และมี รพ.สต.3 แห่งน้ำท่วมสูง 2 เมตร มิดหลังคา พร้อมส่งทีมแพทย์จาก รพ.วชิระภูเก็ต 8 คน เข้าช่วย รพ.เขาพนม ที่รับผู้บาดเจ็บจากเหตุดินถล่ม 44 คน พร้อมปล่อยขบวนคาราวานยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ว่าจากการติดตามของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอุทกภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข พบปัญหาน้ำท่วมใน 8 จังหวัด ได้แก่ นครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี ตรัง ชุมพร สงขลา พังงา และกระบี่ โดยพบมีโรงพยาบาลประสบปัญหาน้ำท่วมขัง 77 แห่ง 1 แห่งเป็นโรงพยาบาลชุมชน ได้แก่ โรงพยาบาลท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยขณะนี้ล่าสุดระดับน้ำกลับมาเพิ่มสูงขึ้นหลังจากลดลงเมื่อวานนี้ (30 มี.ค.) แต่เนื่องจากฝนที่ตกหนักเมื่อคืน ทำให้ระดับน้ำกลับมาท่วมตึกผู้ป่วยนอก และท่วมระบบปั่นไฟฟ้าของโรงพยาบาล ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งกู้ ส่วนที่เหลือเป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยมี 3 แห่งที่ ท่วมมิดหลังระดับน้ำสูง 2 เมตร รพ.สต.พ้อแดง จ.ชุมพร และ รพ.สต. ไทรทอง รพ.สต.สองแพรก จ.สุราษฎร์ธานี

    ส่วนยอดผู้เสียชีวิตรวม 20 คน ส่วนใหญ่มาจากจมน้ำมากที่สุด โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช 11 คน สุราษฎร์ธานี และกระบี่ จังหวัดละ 4 คน พัทลุง 1 คน ส่วนยอดประชาชนที่มารับบริการตรวจสุขภาพ กับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของกระทรวงสาธารณสุขมีรวม 7,237 คน ส่วนใหญ่ มีอาการเป็นไข้หวัด ปวดตามเนื้อตัว เนื่องจากแบกย้ายสิ่งของ ส่วนในพื้นที่ดินถล่มในจังหวัดกระบี่ ที่โรงพยาบาลเขาพนม นั้น ได้รับผู้บาดเจ็บอยู่ในการดูแลรวม 44 คน ส่วนใหญ่มีบาดแผลตามร่างกาย จากกิ่งไม้ และมีกระดูกหัก ส่วนผู้เสียชีวิตมี 4 คน ทั้งนี้ ได้ส่งทีมแพทย์จำนวน 8 คน จากโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ให้การช่วยเหลือ แล้วเมื่อเช้าวันนี้ และเตรียมส่งทีมจิตแพทย์ ออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ร่วมตรวจสุขภาพจิตใจประชาชนด้วย

    นอกจากนี้ ที่กระทรวงสาธารณสุขยังได้มีการปล่อยขบวนคาราวานยาไปช่วยเหลือประชาชนใน พื้นที่ภาคใต้แล้ว โดยเป็นเวชภัณฑ์ยารักษาปัญหาจากน้ำท่วมจำนวน 30,000 ชุด แบ่งเป็น จ.นครศรีธรรมราช 10,000 ชุด กระบี่ 20,000 ชุด และเตรียมสำรองเวชภัณฑ์ไว้อีก 150,000 ชุด

    Quality of Life - Manager Online -
     
  16. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    "ในหลวง-ราชินี" ทรงห่วงน้ำท่วมภาคใต้-พระราชทานถุงยังชีพช่วยราษฎรตกทุกข์

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 09:09 น.

    [​IMG]
    ภาพบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม (ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต)

    "ในหลวง-ราชินี" ทรงห่วงราษฎรผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมถุงยังชีพช่วยเบื้องต้น ด้าน ผบ.ทบ.ยันทหารพร้อมลงพื้นที่อพยพ ปชช.พื้นที่เสี่ยง วอนทุกฝ่ายร่วมมือรับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง

    วันนี้ (31 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับประชาชน

    สำหรับสถานการณ์หลังจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู ซึ่งทหารพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการเตรียมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ที่ขวางทางน้ำ ซึ่งรัฐบาลอาจจะต้องดูแลข้อกฎหมายและพื้นที่รองรับ

    ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้อยู่ในระดับที่รุนแรง จึงอยากให้ทุกฝ่ายประสานกันให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ส่วนการเกณฑ์ทหารประจำปีนี้ ยังคงดำเนินการไปตามปกติ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ ก็ให้มาแจ้งเพื่อดำเนินการผ่อนผันออกไปก่อนได้

    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9540000040541
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    "ในหลวง-ราชินี" ทรงห่วงน้ำท่วมภาคใต้-พระราชทานถุงยังชีพช่วยราษฎรตกทุกข์

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 09:09 น.

    [​IMG]
    ภาพบ้านเรือนได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม (ภาพประกอบอินเทอร์เน็ต)

    "ในหลวง-ราชินี" ทรงห่วงราษฎรผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้ โดยพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมถุงยังชีพช่วยเบื้องต้น ด้าน ผบ.ทบ.ยันทหารพร้อมลงพื้นที่อพยพ ปชช.พื้นที่เสี่ยง วอนทุกฝ่ายร่วมมือรับสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรง

    วันนี้ (31 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเป็นห่วงประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ และได้พระราชทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ พร้อมถุงยังชีพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับประชาชน

    สำหรับสถานการณ์หลังจากนี้จะเข้าสู่การฟื้นฟู ซึ่งทหารพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องการเตรียมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง และการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ที่ขวางทางน้ำ ซึ่งรัฐบาลอาจจะต้องดูแลข้อกฎหมายและพื้นที่รองรับ

    ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้อยู่ในระดับที่รุนแรง จึงอยากให้ทุกฝ่ายประสานกันให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ส่วนการเกณฑ์ทหารประจำปีนี้ ยังคงดำเนินการไปตามปกติ แต่สำหรับบางคนที่มีปัญหาเนื่องจากได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่ ก็ให้มาแจ้งเพื่อดำเนินการผ่อนผันออกไปก่อนได้

    Manager Online -
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    นางสงกรานต์ 54 “กิริณีเทวี” ถือปืน-นั่ังช้าง พยากรณ์ปีนี้ดุ!

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 15:05 น.
    [​IMG]

    "กิริณีเทวี"

    กระทรวงวัฒนธรรม เผยปฏิทินหลวงนางสงกรานต์ปี 54 ชื่อ กิริณีเทวี นั่งหลังช้าง หัตถ์ขวาจับตะขอ หัตถ์ซ้ายถือปืน พยากรณ์ปีนี้ดุ เกิดเหตุเภทภัยทั่วประเทศ ประชาชนเจ็บไข้ วัวควายล้มตาย ทหารมีชัย อาหารบริบูรณ์ นาคให้น้ำ 5 ตัว ฝนตกโลกมนุษย์ 60 ห่าตลอดปี

    น.ส.ทัศชล เทพกำปนาท นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยว่า ปฏิทินหลวงวันสงกรานต์ ปีพุทธศักราช 2554 สงกรานต์ปีใหม่ไทยนี้ตรงกับปีเถาะ นางสงกรานต์ มีนามว่า กิริณีเทวี ทรงพาหุรัดทัดดอกมณฑา อาภรณ์แก้วมรกต ภักษาหารถั่ว งา พระหัตถ์ขวาทรงขอ พระหัตถ์ซ้ายทรงปืน เสด็จนั่งมาเหนือหลังกุญชร (ช้าง) เป็นพาหนะ วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 5 เวลา 13 นาฬิกา 25 นาที 25 วินาที วันที่ 16 เมษายน เวลา 17 นาฬิกา 31 นาที 12 วินาที เปลี่ยนจุลศักราชใหม่ เป็น 1373 วันศุกร์เป็นธงชัยและอธิบดี วันพฤหัสบดี เป็นอุบาทว์ วันอาทิตย์เป็นโลกาวินาศ น้ำฝนปีนี้ วันพุธ เป็นอธิบดีฝน บันดาลให้ฝนตก 600 ห่า ตกในโลกมนุษย์ 60 ห่า ตกในมหาสมุทร 120 ห่า ตกในป่าหิมพานต์ 180 ห่า ตกในเขาจักรวาล 240 ห่า นาคให้น้ำ 5 ตัว เกณฑ์ธัญญาหาร ได้เศษ 6 ชื่อ ลาภะ ข้าวกล้าในภูมินาจะได้ผล 9 ส่วน เสีย 1 ส่วน ธัญญาหาร ผลาหาร มัจฉมังษาหาร จะบริบูรณ์ เกณฑ์ธาราธิคุณ ตกราศีปถวี (ดิน) น้ำงามพอดี

    นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ สวธ.กล่าวอีกว่า จากคำประกาศสงกรานต์ดังกล่าวจะตรงกับคำทำนาย และความเชื่อคนโบราณซึ่งจากหนังสือตรุษสงกรานต์ของนายสมบัติ พลายน้อย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ.2553 ได้กล่าวถึงความเชื่อเกี่ยวเนื่องนางสงกรานต์เสด็จนั่งมาบนหลังช้าง วันมหาสงกรานต์ตรงกับวันพฤหัสบดี วันเนาตรงกับวันศุกร์ และวันเถลิงศกตรงกับวันเสาร์ รวมคำทำนายว่าจะเกิดความเจ็บไข้ ผู้คนล้มตาย และเกิดเหตุเภทภัยต่างๆ นอกจากนี้ ผู้น้อยจะแพ้ผู้เป็นใหญ่และเจ้านาย แร้งกาจะเป็นโรคสัตว์ป่าจะเป็นอันตราย แต่แม่หม้ายจะมีลาภ และบรรดาทหารทั้งปวงจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ส่วนคำทำนายของล้านนา บอกว่า ปีนี้ฝนจะตกเสมอต้นเสมอปลายชอบตามฤดูกาล ผู้เป็นเจ้าเป็นใหญ่จักมีอันตราย ช้างม้าวัวควายจักตายมากนัก ไพร่ราษฎรจักอยู่ดีมีสุข ขุนใหญ่ ปุโรหิต พระสงฆ์จักเป็นทุกข์ คนเกิดวันศุกร์มีเคราะห์ คนเกิดวันอาทิตย์มีโชค

    “จากคำทำนายค่อนข้างออกไปร้ายมากกว่าดี แต่นางสงกรานต์กิริณีเทวีนั่งมาบนหลังช้าง ซึ่งถือเป็นสัตว์ใหญ่ที่เป็นมงคลจะช่วยขับไล่สิ่งร้ายๆ ให้ออกไป และยังทัดดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์อยู่บนสวรรค์ คนไทยโบราณเชื่อว่าจะช่วยพ้นวิกฤตจากหนักเป็นเบา เมื่อรวมกับภักษาหารที่เป็นถั่วงา ทางพืชผลข้าวปลาอาหารยังมีความสมบูรณ์อยู่ ส่วนคำทำนายที่ว่าทหารจะมีชัยชนะแก่ข้าศึกศัตรู ก็น่าจะแสดงถึงความสงบสุขของบ้านเมืองในปีนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม คำทำนายดังกล่าวมาจากตำราตรุษสงกรานต์ ” น.ส.ทัศชล กล่าว

    Quality of Life - Manager Online -
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    ชาวบ้านผวา! แผ่นดินแยกที่สกลฯ ขยายแนวเพิ่ม ภาครัฐเมินตรวจสอบ

    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 มีนาคม 2554 13:46 น.

    [​IMG]

    [​IMG]

    ศูนย์ข่าวขอนแก่น - แผ่นดินแยกที่สกลนคร ขยายเป็นบริเวณกว้างเพิ่มขึ้นอีก ชาวบ้านต้องตั้งเวรยามเฝ้าระวังกันเอง หลังหน่วยงานทางราชการเพิกเฉยยังไม่เข้าตรวจสอบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ได้เกิดแผ่นดินแยกในบริเวณท้ายหมู่บ้านโนนทรายคำ ต.บัวสว่าง อ.พรรณนานิคม จ.สกลนคร เมื่อราวอาทิตย์ก่อน โดยพื้นดินได้แยกตัวเป็นบริเวณกว้าง ช่วงละ4-5 เมตรโดยดินได้แยกตัวห่างกันประมาณ 3-4 เซนติเมตร ไม่ทราบความลึก ลักษณะเป็นวงกลม ซึ่งก่อนเกิดเหตุชาวบ้านได้ยินเสียงดังสนั่น 3 ครั้ง

    ล่าสุด วันนี้ (31 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ออกไปตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุที่บ้านโนนทรายคำ ต.บัวสว่าง อ.พรรณนานิคม ซึ่งพบว่าแผ่นดินได้ขยายแยกตัวออกไปอีกกว่า 8-10 เซนติเมตรซึ่งส่งผลให้ชาวบ้านเพิ่มความตื่นกลัวมากขึ้น หวั่นว่าจะเกิดการยุบตัวเพิ่มขึ้นอีก โดยได้มีการจัดเวรยามในหมู่บ้านคอยเฝ้าระวังตรวจสอบการแยกตัวของดินเพิ่มขึ้นถึงจุดอันตราย และทำการแจ้งเตือนคนในหมู่บ้านให้ทราบเป็นระยะ

    อย่างไรก็ตาม วันนี้พบว่าได้ยินเสียงเหมือนน้ำไหลอยู่ข้างล่างที่ลึกลงไป โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนตกจะได้ยินเสียงน้ำตลอดเวลา และชาวบ้านหลายคนได้เรียกร้องให้ทางราชการเร่งตรวจสอบด่วน ทั้งนี้ เนื่องจากเกรงแผ่นดินจะยุบตัวลงไปจะสร้างความเสียหายให้แก่หมู่บ้านไปมากกว่านี้ และที่สำคัญที่สุดเกรงว่าจะเกิดการทรุดตัวครั้งใหญ่เหมือนที่เกิดขึ้นกับทางภาคเหนือ เพราะบริเวณใกล้เคียงหมู่บ้านที่เกิดเหตุมีวัดของหมู่บ้าน เกรงว่าโบราณสถานจะได้รับความเสียหาย

    http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000040695
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,900
    ค่าพลัง:
    +7,310
    พอดีมีข่าวที่เกิดเหตุการณ์บังเอิญเกิดตรงกัน เลยเอามาลงไว้เพื่อประกอบการพิจารณา
    ไม่ได้จะทำให้ตกใจนะ แต่รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม เปิดหูเปิดตา ดูโลกให้กว้างๆ
    วันอังคาร ที่ 27 กรกฎาคม 2553
    ตำแหน่งใหม่ของประเทศไทย...
    Posted by oldman2010

    ตำแหน่งใหม่ของประเทศไทย...<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    อ้างอิง: http://2012poleshift.wetpaint.com<O:p></O:p>
    โดย เชส เค. ฮันเตอร์<O:p></O:p>
    ...เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุด ที่ อยู่ดีๆ เรื่อง ดวงอาทิตย์ ดวงที่สอง ก็หายไปจาก กระแส ของ เวป ในขณะที่ ยังคงมี การโพสต์ รูปของ ดวงอาทิตย์ ดวงที่ สอง ที่ถ่ายได้ จาก ทุกแห่งหน ในโลก นี้ เพิ่มมากขึ้น พร้อมๆกับกระแสข่าว ในการสร้าง ฐานทัพทางทหารใต้ดินในระดับลึก กันหลายแห่งในโลก...<O:p></O:p>
    ..มีการลบข้อความและ ภาพถ่าย เกี่ยวกับ นิบิรู และ ข้อมูลของนาซ่า ออกจากสาระบบเวป ในช่วง สองสามปี มานี้ หาก ทั้งหมด เป็นเรื่องไม่จริง ทำไม ไม่ปล่อยให้ ความจริงมันเปิดเผยตัวเอง......ทั้งๆที่เหลือ ระยะเวลา อีกไม่มาก ก็ จะ ถึง ปี ๒๐๑๒...<O:p></O:p>
    ...ตัวอย่างเช่น... ในวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๐๐๘ มี การเปิดเผย วิดิโอ ที่กล่าวว่า นาซ่า ถ่ายทำภาพยนต เกี่ยวกับ นิบิรูไว้ แต่ ปัจจุบัน คลิป ภาพยนตร์ ดังกล่าว ถูกลบออกไปแล้ว แต่ ผมยังคงพบว่า คลิปดังกล่าว ยังคงมีให้ เห็นได้ โดย ผู้ซึ่ง บันทึกเก็บไว้ และ นำมาแสดงซ้ำใหม่ ในเวป<O:p></O:p>
    ..เฉพาะ ที่นอร์เวย์ ได้ มีการพูดถึง สิ่งที่กำลัง จะ มาเยือน ซึ่ง ไม่ใช่ สิ่งที่ดี ห้องเก็บเมล็ดพันธ์พืช ใต้ภูเขา ที่ชวาลบาร์ด...<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>..มีผู้คนบางส่วน ที่ ได้ ทำการอพยพตนเอง และ ครอบครัวไปอยู่ในที่ที่คิดว่า ปลอดภัย ห่างจาก ฝั่งทะเล อย่างน้อย ๔๐๐ ถึง ๗๐๐ กิโลเมตร ซึ่งถ้าจะให้ ปลอดภัย จริง ก็ ควรห่างจาก ริมฝั่งทะเล อย่างน้อย ๑,๒๐๐ กม เรื่องนี้ เพิ่งเกิดขึ้น เมื่อ ฤดูร้อน ในปี ๒๐๑๐ นี่เอง... <O:p></O:p>
    ...หนึ่งในงานค้นคว้าวิจัย ที่ดี ที่สุด เกี่ยวกับ พลาเนต เอีกซ์ ได้แก่งานศึกษารวบรวมข้อมูล ของ มาแชล มาสเตอร์ ผู้ซึ่งมีความระมัดระวังในการคัดสรรหลักฐานข้อมูล ของ พลาเนต เอ๊กซ์ มาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งผม(เชส ฮันเตอร์) ขอ แนะ นำให้ คุณทั้งหลายได้ หาเวลาอ่าน และ ศึกษาผลงานของเขา<O:p></O:p>
    ...จากบทวิจารณ์ ของ มาแชล มาสเตอร์ส์....เราพอจะ คาดการณ์ได้ว่า พื้นที่ที่ปลอดภัย ควร เป็น อุโมงค์ ที่แข็งแรง บน ภูเขาสูง ซึ่งมี อุปกรณ์ยังชีพ อย่างน้อย สามารถ อยู่ได้ ๓ – ๕ ปี โดย ไม่ต้องติดต่อกับบุคคลภายนอก กระนั้นก็ดี ไม่ได้รับประกันว่า ทำลงไปแล้วจะต้องรอดปลอดภัย บางที เราอาจจะถูกกับดัดของตนเอง กักตัวไปไว้ตลอดไป เนื่องจาก เศษขยะ มากมาย ที่ ถูกพัดพามาจาก ทะเล อาจท่วมทับ อุโมงค์หลบภัย จนอาจไม่มี ปัญญา ขุดหาทางออก สู่โลก ภายนอก ก็ ได้...อนาคต ของเราจึงอยู่ในมือชอง พระผู้เป็นเจ้า...<O:p></O:p>
    ...การกลับขั้วของแม่เหล็กโลก จะ เกิดขึ้นระหว่าง ปี ๒๐๑๒ ถึง ๒๐๑๗...อ่านบทความต่อไปนี้ ให้ดี...<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ...สัญญาณเตือน เกี่ยวกับเรื่องนี้ คือ รอยแตกของเปลือกโลก หรือกล่าวง่ายๆว่า แผ่นดินไหว จะบ่อยครั้ง และ รุนแรงขึ้น... <O:p></O:p>
    ...มีวิดีโอคลิป ที่กล่าวถึง ขั้วเหนือของ แม่เหล็ก โลก กำลัง เคลื่อนที่ ไปยังรัสเซีย (แทนที่จะ เป็น บริเวณแคนาดา) ในอัตรา ๖๖ กิโลเมตร ต่อปี หมายความว่า บางอย่างกำลังเคลื่อนที่ขึ้นหรือ อาจจะลง หรือ อยู่ในสภาวะ ที่ส่าย ไปมา..ก็ได้... หมายถึง ความเข้ม และ ทิศทางของ สนามแม่เหล็กโลก ช่วงนี้ แปรปรวน....ออกอาการไม่ปกติ <O:p></O:p>
    ...การเปลี่ยนแปลงนี้...แน่นอนว่า...เกิดจาก การเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กโลก ภายใน แกนกลางโลก มีการ เกิดการกระเพื่อมของสนามแม่เหล็ก ขึ้น ภายในแกนโลก รายงานนี้ กล่าวโดย นักธรณีฟิสิกส์ ที่ชื่อ อาร์นัด ชูเลียต แห่ง Institute de Physique du Globe Paris ใน ฝรั่งเศส<O:p></O:p>
    ....ข้อมูลการศึกษาของ นักวิทยาศาสตร์เยอรมัน สรุปได้ว่า...ความแปรปรวนของ สนามแม่เหล็กโลก มีผล โดยตรงกับ การก่อตัวของ กลุ่มเมฆ ที่เป็นริ้วๆ เรียงกันคล้ายๆ บาร์โค๊ด.... ซึ่ง พบเห็นได้บ่อยครั้งขึ้น ในปัจจุบัน และ ไม่นานนัก มัก จะ เกิด แผ่นดินไหว ตามมา...<O:p></O:p>
    ...โดยปกติ ทิศเหนือ แม่เหล็กโลก จะแตกต่างไปจาก ตำแหน่งทิศเหนือ ภูมิศาสตร์ ไปบ้าง แต่ ในปัจจุบัน พบว่า...ทิศเหนือ แม่เหล็กโลก ได้ เลื่อนจากตำแหน่งเดิม เรียกว่า ตำแหน่งแลนด์มาร์ค ไปยัง เกาะ เอลเลสเมียร์ ของแคนาดา แน่นอนว่า การเดินเรือแบบเก่าๆ โดยอาศัยเข็มทิศ ย่อมผิดไปจากเดิม ซึ่ง ก็ อาจส่งผลให้ เกิดการเกยตื้น ของบรรดาปลาวาฬ และ โลมาทั้งหลาย เพราะเดินทางผิดไปจากตำแหน่งเดิม...<O:p></O:p>
    ...อย่างไร ก็ดี การเดินทางโดยพิกัด จีพีเอส(ดาวเทียม) ยังคงใช้งานได้ดี....<O:p></O:p>
    นักวิทยาศาสตร์ พบว่า ในแต่ละ คาบระยะเวลาประมาณ ๑๐๐ ปี ขั้วเหนือ แม่เหล็กโลก มีการเคลื่อนที่ออกห่างจาก ตำแหน่งเดิม เพียงเล็กน้อย ใน ปี ๑๘๓๑ แต่ ในปี ๑๙๐๔ มีการเคลื่อนที่จาก ตำแหน่งเดิม ในอัตรา ปีละ ๑๕ กิโลเมตร และ ปัจจุบัน ๒๐๑๐ อัตราเคลื่อนตัว นี้ เป็น ปีละ ๖๖ กิโลเมตร จาก เดิม ไปยัง ไซบีเรีย ของรัสเซีย การเปลี่ยนแปลงนี้ ไม่ใช่ สมการเส้นตรง แต่ เป็นสมการยกกำลัง...หากยังคงเป็นไปเช่นนี้ คาดได้เลยว่า แกนโลก จะ เปลี่ยน ภายใน ไม่กี่สิบปี นับจาก ๒๐๑๐ ...บางที..อาจจะเกิดขึ้น ได้ เร็วกว่านี้มากๆ...<O:p></O:p>
    ...ไม่นานมานี้(ปี ๒๐๑๐)....เกิด แผ่นดินไหว ขนาดใหญ่ ขนาด ๘.๘ ริคเตอร์ ที่ เมืองเมาลี ประเทศ ชิลี มีผลให้ กรุง บัวโนสไอเรส และ ซานติเอโก้ เคลื่อน ไป ทางทิศตะวันตก ๑๐ ฟุต( ๓ เมตร)....วัดได้โดยระบบจีพีเอส<O:p></O:p>
    ..ลำดับแผ่นดินไหว ทีรุนแรงที่สุด เท่าที่มี การบันทึกไว้ เป็น ดังนี้....<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ลำดับที่ ๑. ขนาด ๙.๕ ริคเตอร์ ปี ๑๙๖๐ ที่ ชิลี ไกล้ๆ กับ เมือง เมาลี<O:p></O:p>
    ลำดับที่ ๒. ขนาด ๙.๒ ริคเตอร์ ปี ๑๙๖๔ ที่ อลาสก้า สหรัฐอเมริกา<O:p></O:p>
    ลำดับที่ ๓. ขนาด ๙.๑ ริคเตอร์ ปี ๒๐๐๔ ที่ เกาะสุมาตรา คลื่ยยักษ์ ทำให้ ผู้คน ตาย และ สูญหาย ประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ คน<O:p></O:p>
    ลำดับที่ ๔. ขนาด ๙ ริคเตอร์ ปี ไม่ระบุ ที่ คาบสมุทรกัมชาทก้า ของ รัสเซีย และ <O:p></O:p>
    ลำดับที่ ๕ ขนาด ๘.๘ ริคเตอร์ ปี ๒๐๑๐ ที่เมืองเมาลี ของ ชิลี ตามที่เป็นข่าว...<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ..ในทุกกรณี...ทำให้ เปลือก โลก เคลื่อนตัวได้อย่างมีนัยสำคัญ ทุกครั้ง<O:p></O:p>
    <O:p> </O:p>
    ...สัญญาณเตือน ก่อนเกิดเหตุการณ์ แกนโลก พลิก...<O:p></O:p>
    ๑. เกิด คลื่นทะเล ที่รุนแรง กัดเซาะชายฝั่ง ในสถานที่ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน<O:p></O:p>
    ๒. เกิดพายุ เฮอริเคนอย่างกระทันหัน ใน พื้นที่ ที่ ไม่เคย เกิดขึ้น มาก่อน<O:p></O:p>
    ๓. เกิด พายุ ทอนาโด อย่างกระทันหัน นอก ฤดู กาล<O:p></O:p>
    ๔. เกิด ภาวะแล้งจัด, ฝนตกหนัก หิมะตกนอกฤดูกาล, พายุฝนขนาดใหญ่ ทำให้ น้ำท่วม เป็นบริเวณกว้าง... <O:p></O:p>
    ๕. เกิดปรากฎการณ์การขยายตัวอย่างผิดปกติ ของ สาหร่าย, มี ก๊าซมีเธนลอย ขึ้นสู่ พื้นผิวโลก หรือ มี เสียงดังแปลกๆ ใต้พื้นพิภพ<O:p></O:p>
    ๖. สัญญาณโทรศัพท์ และ วิทยุ โทรทัศน์ ถูกรบกวน และขาดหายเป็นช่วงๆหรือ เป็น ระยะเวลาที่ ยาวนานมากขึ้น<O:p></O:p>
    ๗. พฤติกรรมของสัตว์ ผิดปกติ หรือ มีการอพยพ ผิดฤดูกาล<O:p></O:p>
    ๘. พฤติกรรมของมนุษย์ จะ ก้าวร้าว มากยิ่งขึ้น นิยมความรุนแรง ชอบดูหนัง ซาดิสม์ อะไรทำนองนี้...<O:p></O:p>
    ๙. แผ่นดินไหวในแต่ครั้งจะ ทวีความ รุนแรงขึ้น<O:p></O:p>
    ๑๐. ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น กว่าปกติ<O:p></O:p>
    ๑๑. เกิดพายุฝน กระทันหัน แม้ ไม่ใช่ ฤดูเกาล และ หาก เป็น เมืองชายฝั่งทะเล จะ เกิด สตอร์ม เสิร์ซ(น้ำทะเลทะลักเข้าท่วมชายฝั่ง) ที่รุนแรง<O:p></O:p>
    ....หาก ทุกอย่างเป็นจริง...ตำแหน่งใหม่ของ ประเทศไทย.. จะ อยู่บริเวณ ที่เป็น ประเทศ อัฟริกาใต้ในปัจจุบัน...ประเทศเจ้าภาพฟุตบอลโลก ๒๐๑๐ ที่ ฮืออา ไปทั่วโลก.. ที่นั่น.. หนาวจัด จน หิมะตก แน่นอน...จึงเหมาะสำหรับท่านที่ชมชอบบรรยากาศแบบยุโรป...

     

แชร์หน้านี้

Loading...